SlideShare a Scribd company logo
1 of 27
Download to read offline
เครองใชไ้ ฟฟา
   ื่       ้


                รายวิชาวิทยาศาสตร์
ผู้จัดทํา
นางสาว พธิตา
          ุ      ขันธะกิจ        เลขที่ 31
นางสาว ภัทราภรณ์ จํารัส         เลขท32
                                     ี่
นางสาว รุ่งนภา    ต่อมดวงแก้ว   เลขท34  ี่
นางสาว ลักษมี พันธ์ ปัญญา       เลขท35     ี่

 ชนมัธยมศกษาปีท่ ี3 ห้อง2
  ั้     ึ
เครื่องใช้ ไฟฟา ช่วยใหความเป็นอยของคนในบาน ในชุมชน ในสงคม มี
                        ้         ้       ู่       ้                ั
ความสุข และสะดวกสบาย แต่ถาใชกนอยางไม่ถูกตอง หรื อไม่เหมาะสม ก็จะส่งผล
                                ้ ้ั ่         ้
กรทบต่อสภาพแวดล้อม เช่น การสร้างเขื่อนเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าทาใหเ้ น้ือที่ป่าถูก
                                                            ํ
   ทาลายท้ งสตวต่างๆที่ดารงชิวตอยในบริเวณน้ นหรือการผลิตกระแสไฟฟ้าจาก
    ํ       ั ั ์         ํ      ิ ู่        ั
       เช้ือเพลิงก็ส่งผลกระทบ โดยเกิดมลภาวะทางอากาศ และ ทางนาได้
                                                              ํ

          เครื่องใช้ ไฟฟา หมายถึง เครื่องมือที่เปลี่ยนพลงงานไฟฟ้าเป็นพลงงาน
                        ้                               ั              ั
  รูปต่างๆที่ตองการ เช่น พลงงานความร้อน พลงงานเสียง พลงงานกล พลงงานเคมี
              ้            ั                 ั             ั         ั
ข้อควรระวงในการใช้เครื่องใช้ไฟฟา- ใชเ้ ครื่องใชไฟฟ้า และอุปกรณ์ไฟฟ้าอยาง
         ั                     ้               ้                      ่
                   ั่                                         ้ ู่
 ระมัดระวัง- หมนตรวจดูแลสายไฟ และอุปกรณ์ไฟฟ้าใหอยในสภาพที่ใชไดดีและ           ้ ้
  ปลอดภย- ถ้าไม่มีความรู ้จริ ง อย่าแก้หรื อซ่อมแซมเครื่ องใช้ไฟฟ้ าเองเป็ นอันขาด
            ั
ผลเสี ยที่จะเกิดขึ้น เมื่อใช้เครื่ องใช้ไฟฟ้ าอย่างไม่ระมัดระวัง- ถูกไฟฟ้าช็อต เนื่องจาก
 ไฟฟ้าลดวงจร หรือไฟฟ้าร่ัว- เกิดเพลิงไหม ้ เนื่องจากไฟฟ้าลดวงจร หรือไฟฟ้าร่ัว
          ั                                                        ั
เครื่องใช้ ไฟฟาทีให้ แสงสว่ าง
                                         ้ ่
อุปกรณ์ที่เปลี่ยนพลงงานไฟฟ้าเป็นพลงงานแสง ไดแก่ หลอดไฟฟ้า หลอดฟลูออเรส
                    ั                  ั           ้
เซนต์ และหลอดไฟโฆษณา โธมส แอลวา เอดิสน (Thomas AlvaEdison) นักฟิ สิ กส์
                                ั                ั
           ั ้
ชาวอเมริกน ไดประดิษฐหลอดไฟฟ้า ข้ ึนเป็นคร้ ังแรกเมื่อ พ.ศ.2422 โดยใช้คาร์บอน
                       ์
                  ้           ่
   เสนเลกๆเป็นไสหลอดและตอมาไดมีการพฒนาข้ ึน จนเป็นหลอดไฟฟ้าที่ใชใน
     ้ ็                             ้         ั                        ้
                                     ปัจจุบน ั
หลอดไฟฟา เป็นเครื่องใชไฟฟ้าที่มีใชในทุกบานที่มีการใชพลงงานไฟฟ้าเป็น
         ้              ้           ้     ้           ้ ั
เครื่องใชที่เปลี่ยนพลงงานไฟฟ้า ไปเป็นพลงงานแสง หลอดไฟฟ้าที่ใชทวไปมี 3 ชนิด
         ้           ั                   ั                   ้ ั่
คือ1. หลอดไฟฟ้าแบบธรรมดา หลอดไฟฟ้าแบบธรรมดา มีการเปลี่ยนรูปพลงงานจาก
                                                                  ั
  พลงงานไฟฟ้าเป็นพลงงานความร้อน แลวจึงเปลี่ยนเป็นพลงงานแสง หลอดไฟฟ้า
      ั                ั               ้             ั
        แบบธรรมดามี 2แบบ คือแบบเกลียวและแบบเขี้ยว มีส่วนประกอบดังนี้
ไสหลอด ทาดวยโลหะที่มีจุดหลอดเหลวสูง ทนความร้อนไดมาก มีความทานสูง เช่น
       ้         ้                                             ้
 ทงสเตน 1.2 หลอดแกวทาจากแกวที่ทนความร้อนไดดี ไม่แตกง่าย สูบอากาศออกจน
    ั                  ้         ้                  ้
หมดภายในบรรจุก๊าซไนโตรเจนและอาร์กอนเลกนอย ก๊าซชนิดน้ ีทาปฏิกิริยายาก ช่วย
                                              ็ ้
ป้ องกันไม่ให้ไส้หลอดระเหิ ดไปจับที่หลอดแก้ว และช่วยไม่ให้ไส้หลอดไม่ขาดง่าย ถ้า
      บรรจุก๊าซออกซิเจนจะทาปฏิกิริยากบไสหลอด ซ่ ึงทาใหไสหลอดขาดง่าย 1.3 ขั้ว
                                     ั ้                   ้ ้
      หลอดไฟ เป็นจุดต่อวงจรไฟฟ้า มี 2 แบบ คือ แบบเขี้ยวและแบบเกลียว เนื่องจาก
                           ้    ่ ้ ้
หลอดไฟฟ้าประเภทน้ ีใหแสงสวางไดดวยการเปลี่ยนพลงงานไฟฟ้าเป็นพลงงานความ
                                                       ั             ั
   ร้อนก่อนที่จะใหแสงสวางออกมา จึงทาใหสิ้นเปลือง พลงงานไฟฟ้ามากกวาหลอด
                   ้         ่            ้              ั              ่
   ชนิดอื่น ในขนาดกาลงไฟฟ้า ของหลอดไฟซ่ ึงจะกาหนดไวที่หลอดไฟทุกดวง เช่น
                         ั                                   ้
                           หลอดไฟฟ้าขนาด 100 วัตต์ เป็ นต้น
หลกการทางานของหลอดไฟฟาธรรมดา การที่หลอด ไฟฟ้ าให้แสงสว่างได้
    ั                        ้
                 ั     ั                        ่
  เป็นไปตามหลกการดงน้ ี เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผานไส้หลอด ซ่ ึ งมีความ
ต้านทานสูง พลงงานไฟฟ้าจะเปลี่ยนเป็นพลงงานความร้อน ทาใหไส้หลอด
               ั                          ั                 ้
      ร้อนจดจนเปล่งแสง ออกมาได้ ซ่ ึ งมีการเปลี่ยนรูปพลงงานดงน้ ี
            ั                                           ั     ั
         พลังงานไฟฟ้ า ----> พลงงานความร้อน ----> พลงงานแสง
                               ั                      ั
หลอดเรืองแสงหรือหลอดฟลูออเรสเซนต์(Fluorescent Lamp) หลอดเรื องแสงหรื อ
  หลอดฟลูออเรสเซนต์ (Fluorescent Lamp) ทาด้วยหลอดแก้วที่สูบอากาศออกจน
หมดแล้วบรรจุไอปรอทไว้เล็กน้อย มีไส้ที่ปลายหลอดทั้งสองข้าง หลอดเรื องแสงอาจ
 ทาเป็นหลอดตรง หรือคร่ ึ งวงกลมก็ได้ ส่วนประกอบและการทางานของหลอดเรือง
                                  แสง มีดงน้ ี
                                         ั
ตวหลอด ภายในสูบอากาศออกจนหมดแล้วบรรจุไอปรอทและก๊าซอาร์กอน เล็กน้อย
    ั
ผิวด้านในของหลอดเรื องแสงฉาบด้วยสารเรื องแสงชนิดต่างๆ แล้วแต่ความต้องการให้
เรื องแสงเป็ นสี ใด เช่น ถ้าต้องการให้เรื องแสงสี เขียว ต้องฉาบด้วยสารซิงคซิลิเคต แสง
                                                                          ์
 สีขาวแกมฟ้าฉาบดวยมักเนเซียมทังสเตน แสงสี ชมพูฉาบด้วยแคดเนียมบอเรตเป็นตน
                      ้                                                                ้
                    ้ ั             ุ          ู่
2.2 ไสหลอด ทาดวยทงสเตนหรือวลแฟรมอยที่ปลายท้ งสองขาง เมื่อกระแสไฟฟ้าผาน
        ้                                                 ั    ้                     ่
 ไสหลอดจะทาใหไสหลอดร้อนข้ ึน ความร้อนที่เกิดข้ ึนจะทาใหไอปรอทที่บรรจุไวใน
      ้              ้ ้                                         ้                 ้
 หลอดกลายเป็นไอมากข้ ึน แต่ขณะน้ นกระแสไฟฟ้ายงผานไอปรอทไม่สะดวกเพราะ
                                       ั                 ั ่
                  ปรอทยังเป็ นไอน้อยทาให้ความต้านทานของหลอดสูง
3
  สตาร์ตเตอร์ ทาหนาที่เป็นสวตซ์ไฟฟ้าอตโนมติของวงจรโดยต่อขนานกบหลอด ทา
                     ํ ้               ิ             ั    ั                            ั
ด้วยหลอดแก้วภายในบรรจุก๊าซนีออนและแผ่นโลหะคูที่งอตัวได้ เมื่อได้รับความร้อน
   เมื่อกระแสไฟฟ้าผานก๊าซนีออน ก๊าซนีออนจะติดไฟเกิดความร้อนข้ ึน ทาใหแผน
                           ่                                                                           ้ ่
โลหะคู่งอจนแตะติดกนทาใหกลายเป็นวงจรปิดทาใหกระแสไฟฟ้าผานแผน โลหะได้
                                  ั  ้                            ้              ่       ่
ครบวงจร ก๊าซนีออนที่ติดไฟอยจะดบและเยนลงแผนโลหะคูจะแยกออกจากกนทาให้
                                         ู่ ั          ็        ่          ่                         ั
 เกิดความตานทานสูงข้ ึนอยางทนทีซ่ ึงขณะ เดียวกนกระแสไฟฟ้าจะผานไสหลอดได้
              ้                     ่ ั                       ั                    ่         ้
มากข้ ึนทาใหไสหลอดร้อนข้ ึนมาก ปรอทก็จะเป็นไอมากข้ ึนจนพอที่นากระแสไฟฟ้า
                  ้ ้
ได้ 2.4 แบลลสต์ เป็นขดลวดที่พนอยบนแกนเหลก ขณะกระแสไฟฟ้าไหลผานจะเกิด
                   ั                        ั ู่            ็                                    ่
การเหนี่ยวนาแม่เหลกไฟฟ้าทาใหเ้ กิดแรงเคลื่อน ไฟฟ้าเหนี่ยวนาข้ ึน เมื่อแผนโลหะคู่
                                ็                                                              ่
ในสตาร์ตเตอร์แยกตวออกจากกนน้ นจะเกิดวงจรเปิดชวขณะ แรงเคลื่อนไฟฟ้าเหนี่ยว
                              ั            ั ั                      ั่
นาที่เกิดข้ ึนในแบลลสตจึงทาใหเ้ กิดความต่าง ศกยระหวางไสหลอดท้ งสองขางสูงข้ ึน
                             ั ์                         ั ์           ่ ้           ั             ้
                                                 ่
   เพียงพอที่จะทาใหกระแสไฟฟ้าไหลผาน ไอปรอทจากไสหลอดขางหน่ ึงไปยงไส้
                         ้                                               ้     ้                        ั
  หลอดอีกขางหน่ ึงได้ แรงเคลื่อนไฟฟ้าเหนี่ยวนาที่เกิดจากแบลลสตน้ นจะทาใหเ้ กิด
                ้                                                            ั ์ ั
                                                   ั
  กระแสไฟฟ้า เหนี่ยวนาไหลสวนทางกบกระแสไฟฟ้าจากวงจรไฟฟ้าในบานทาให้                          ้
                     กระแส ไฟฟ้าที่จะเขาสู่วงจรของหลอดเรืองแสงลดลง
                                               ้
หลกการทางานของหลอดฟลูออเรสเซนต์ เมื่อกระแสไฟฟ้าผานไอปรอท จะคาย
       ั                                                           ่
พลงงานไฟฟ้าใหแก่ไอปรอท ซ่ ึงจะทาใหอะตอม ของไอปรอทอยในสภาวะถูกกระตน
    ั              ้                          ้                      ู่                    ุ้
  (exited state) เป็นผลใหอะตอมปรอทคายพลงงานออกมาเพื่อ ลดระดบพลงงานใน
                            ้                      ั                       ั ั
 ตวเองในรูปของรังสีอลตราไวโอเลต ซ่ ึงมองไม่เห็น เมื่อรังสีชนิดน้ ีไปกระทบกบสาร
  ั                    ั                                                               ั
  วาวแสงที่ฉาบไว้ที่ผิวด้านในของหลอดฟลูออเรส เซนต์ สารเหล่าน้ ีจะเปลงแสงได้    ่
โดยใหแสงสีต่างๆตามชนิดของสารวาวแสงที่ฉาบไวภายในหลอดน้ น เช่น ซิงคซิลิเคท
         ้                                               ้              ั          ์
(Zinc silicate)ให้แสงสี เขียว ซิงคเ์ บริ ลเลียมซิลิเคท (Zinc Beryllium silicate) ใหแสงสี
                                                                                     ้
 เหลืองนวล นอกจากน้ ียงอาจผสมสารวาวแสงเหล่าน้ ี เพื่อใหไดแสงสีผสมที่แตกตาง
                          ั                                     ้ ้                      ่
                                  กันออกไปได้อีกด้วย
.หลอดไฟโฆษณาหรือหลอดนีออน หลอดไฟโฆษณาหรือหลอดนออน เป็ นหลอดแก้ว ี
  ที่ถูกลนไฟแล้วดัดให้เป็ นรู ปหรื อตัวอักษร ไม่มีไส้หลอดแต่ที่ปลายทั้งสองข้างจะมี
 ข้ วไฟฟ้าทาดวยโลหะ ต่อกบแหลงกาเนิดไฟฟ้า ที่มีความต่างศกยสูงประมาณ 10,000
    ั         ้            ั       ่                         ั ์
โวลต์ ภายในหลอดสูบอากาศออกจนหมดแลวใส่ก๊าซบางชนิดที่ใหแสงสีต่างๆออกมา
                                               ้                  ้
 เมื่อมีกระแสไฟฟ้ าผ่านเช่นก๊าซนีออนให้แสงสี แดงหรื อส้ม ก๊าซฮีเลียมให้แสงสี ชมพู
  ความต่างศกยที่สูงมากๆจะทาใหก๊าซที่บรรจุไวในหลอดเกิดการแตกตวเป็นนีออน
             ั ์                     ้            ้                    ั
   และนาไฟฟ้าได้ เมื่อกระแสไฟฟ้าผานก๊าซเหล่าน้ ีจะทาใหก๊าซร้อนติดไฟใหแสงสี
                                       ่                  ้                 ้
                                         ต่างๆได้
เครื่องใช้ไฟฟาทให้พลงงานความร้อน เป็ นเครื่ องใช้ที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้ าเป็ น
             ้ ี่   ั
 พลงงานความร้อน โดยใชหลกการคือ เมื่อปล่อยกระแสไฟฟ้าผานขดลวดตวนาที่มี
    ั                             ้ ั                           ่        ั
ความตานทานสูงๆ ลวดตวนาน้ นจะร้อนจนสามารถนาความร้อนออกไปใชประโยชน์
          ้                    ั       ั                              ้
  ได้ เนื่องจากเป็นเครื่องใชไฟฟ้าที่ใหพลงงานความร้อนมาก จึงสินเปลี่ยนพลงงาน
                                   ้         ้ ั                           ั
ไฟฟ้ามากเมื่อเปรียบ ◌้กบการใชเ้ ครื่องใชไฟฟ้าประเภทอื่นๆ เมื่อใชในเวลาที่เท่ากน
                           ั                     ้                  ้         ั
  ฉะน้ นขณะใชเ้ ครื่องใชไฟฟ้าใหพลงงานความร้อนจึงควรใชดวยความระมดระวง
        ั                    ้           ้ ั                ้ ้         ั ั
 ตวอยางเครื่องใชไฟฟ้าที่ใหพลงงานความร้อน เช่น เตารีด หมอหุงขาว กระทะไฟฟ้า
  ั ่             ้                  ้ ั                  ้       ้
                         กาตมนา เครื่องตมกาแฟเตาไฟฟ้า ฯลฯ
                                 ้ ้           ้
ส่วนประกอบในเครื่องใช้ไฟฟาทให้พลงงานความร้อน มดงนี้ 1. ขดลวดความร้อน
                                       ้ ี่    ั            ี ั
         ่                                        ่       ั
หรือแผนความร้อน มกทาจากโลหะผสมระหวางนิเกิลกบโครเมียม เรียกวา นิโครม ซ่ ึง
                           ั                                                   ่
มีสมบัติคือมีจุดหลอมเหลวสูงมากจึงทนความร้อนได้สูงเมื่อมีความร้อนเกิดขึ้นมากๆ
จึงไม่ขาด และมีความตานทานสูงมาก 2. เทอโมสตาร์ท หรื อสวิตซ์ความร้อนอัตโนมัติ
                               ้
  ทาหน้าที่ควบคุมอุณหภูมิไม่ให้ร้อนเกินไป มีส่วนประกอบเป็ นโลหะต่างชนิดกัน 2
      แผนมาประกบกน เมื่อไดรับความร้อนจะขยายตวไดไม่เท่ากน เช่น เหลกกบ
             ่               ั       ้                  ั ้              ั       ็ ั
                                                                ่ ้
    ทองเหลือง โดยให้แผ่นโลหะที่ขยายตัวได้นอย(เหล็ก)อยูดานบน ส่วนโลหะที่จะ
                                                    ้
 ขยายตัวได้มาก(ทองเหลือง)อยดานล่าง เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผานแผนโลหะท้ งสอง
                                        ู่ ้                         ่       ่     ั
    มากข้ ึน จะทาใหมีอุณหภูมิสูงจนแผนโลหะท้ งสองซ่ ึงขยายตวไดต่างกนโลหะที่
                         ้                   ่        ั             ั ้ ั
 ขยายตวได้ มากจะขยายตวโคงงอ เป็นเหตุใหจุดสมผสแยกออกจากกน เกิดเป็นวงจร
           ั                     ั ้             ้ ั ั                     ั
  เปิ ด กระแสไฟฟ้ าจึงไหลผ่านไม่ได้ และเมื่อแผ่นโลหะทั้งสองเย็นลงก็จะสัมผัสกัน
               เหมือนเดิม เกิดเป็นวงจรปิด กระแสไฟฟ้าจึงไหลผานไดอีกคร้ ังหน่ ึง
                                                              ่        ้
ข้อควรระวงในการใช้เครื่องใช้ไฟฟาที่ใหพลงงานความร้อน เนื่องจาก
                 ั                    ้        ้ ั
เครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่ให้พลังงานความร้อนจะมีกระแสไฟฟ้ าปริ มาณมากไหลผ่าน
  มากกว่าเครื่องใชประเภทอื่นๆ จึงควรใชดวยความระมดระวงดงน้ ี - หมัน
                      ้                  ้ ้         ั ั ั             ่
                                             ่
ตรวจสอบดูแลสายไฟ เต้ารับ เต้าเสี ยบ ให้อยูในสภาพเรี ยบร้อยไม่ชารุ ด - เมื่อ
       เลิกใชงานตองถอดเตาเสียบออกจากเตารับทุกคร้ ังไม่ควรเสียบทิ้งไว ้
             ้ ้             ้            ้
หลกการทางานของเครื่องใช้ไฟฟาทให้ความร้อน เครื่องใชไฟฟ้าที่ใหความร้อน
  ั                        ้ ี่                   ้         ้
       ั                              ่
 มีหลกการคือเมื่อมีกระแสไฟฟ้าไหลผานความตานทานไฟฟ้าสูง พลงงานไฟฟ้าจะ
                                            ้               ั
             ั              ั ั         ้           ่
เปลี่ยนเป็นพลงงานความร้อน ดงน้ น จึงใหกระแสไฟฟ้าไหลผานขดลวดนิโครมหรือ
  ่
แผนความร้อนซ่ ึงมีความตานทานไฟฟ้า สูงพลงงานไฟฟ้าจะเปลี่ยนเป็นพลงงานความ
                       ้                  ั                    ั
               ร้อนมากแลวถ่ายเทพลงงานความร้อนไป ยงภาชนะ
                         ้          ั             ั
เครื่องใช้ไฟฟาทให้พลงงานความร้อน ใชพลงงานไฟฟ้ามากกวาเครื่องใชไฟฟ้า
             ้ ี่   ั              ้ ั             ่         ้
 อื่นหลายเท่า กระแสไฟฟ้าที่ผานเครื่องใชไฟฟ้าเหล่าน้ ีมีปริมาณมากจึงตองใชดวย
                            ่          ้                            ้ ้ ้
ความระมดระวง เช่น คอยตรวจสอบสภาพของสายไฟ และเตาเสียบให้อยูในสภาพดี
          ั ั                                              ้
อยูเ่ สมอ ◌่เพื่อป้องกนอนตรายจากกระแสไฟฟ้ารั่ว ขณะใชเ้ ครื่องใชไฟฟ้าควรดูแล
                      ั ั                                       ้
       ้           ่ ้ ้ั
 ใกลชิด และอยาใชใกลกบสารไวไฟ เมื่อเลิกใชแลวตองถอดเตาเสียบออกทุกคร้ ัง
                                            ้ ้ ้            ้
เครื่องใช้ไฟฟาทให้พลงงานกล มีการเปลี่ยนรูปพลงงานไฟฟ้าเป็นพลงงานกล โดย
               ้ ี่      ั                            ั              ั
   อาศยหลกการเหนี่ยวนาแม่เหลกไฟฟ้า ดวยอุปกรณ์ ที่เรียกวามอเตอร์ และ เครื่อง
        ั ั                     ็           ้                ่
   ควบคุมความเร็ว ซ่ ึงเป็นอุปกรณ์หลกในเครื่องใชไฟฟ้าที่ใหพลงงานกล ตวอยาง
                                        ั           ้          ้ ั       ั ่
เครื่องใชไฟฟ้าที่ใหพลงงานกล เช่น เครื่องปรับอากาศ ตเู ้ ยน พดลม เครื่องซกผา เครื่อง
          ้         ้ ั                                  ็ ั            ั ้
                                  ปั่ นน้าผลไม้ ฯลฯ
ส่ วนประกอบของเครื่องใช้ ไฟฟาทีให้ พลังงานกล
                                       ้ ่
   มอเตอร์ มอเตอร์ เป็นเครื่องใชไฟฟ้าที่เปลี่ยนพลงงานไฟฟ้าเป็นพลงงานกล
                                  ้               ั             ั
                                                ่
 ประกอบด้วยขดลวดที่พนรอบแกนโลหะที่วางอยูระหว่างขั้วแม่เหล็กโดยเมื่อผาน
                         ั                                            ่
                                ่
กระแสไฟฟ้าเขาไปยงขดลวดที่อยูระหว่างขั้วแม่เหล็ก จะทาให้ขดลวดหมุนไปรอบ
             ้ ั
    แกนและเมื่อสลับข้ วไฟฟ้า การหมุนของขดลวดจะหมนกลบทิศทางเดิม
                       ั                              ุ ั
ประเภทของมอเตอร์ มี 2 ประเภท คือ มอเตอร์กระแสตรง และมอเตอร์
กระแสสลับ - มอเตอร์กระแสตรง เป็ นมอเตอร์ที่ตองใช้ไฟฟ้ ากระแสตรงผ่านเข้าไปใน
                                                 ้
        ขดลวดอาร์เมเจอร์เพื่อทาให้ เกิดการดูดและผลกกนของแมเ่ หลกถาวรกบ
                                                      ั ั            ็      ั
แม่เหลกไฟฟ้าที่เกิดจากขดลวด มอเตอร์จึงหมนได้ - มอเตอร์กระแสสลับ เป็ นมอเตอร์
         ็                                   ุ
  ที่ตองใชกบไฟฟ้ากระแสสลบโดยใชหลกการดูดและผลกกนของแม่เหลกถาวรกบ
       ้ ้ั                      ั      ้ ั               ั ั             ็      ั
  แม่เหลกไฟฟ้าจากขดลวดมาทาให้ เกิดการหมุนของมอเตอร์ ขอควรระวงในการใช้
           ็                                                    ้       ั
เครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่มีมอเตอรเป็ นส่วนประกอบ คือห้ามใช้เครื่ องใช้ประเภทนี้ในช่วงที่ไฟ
   ตก หรือแรงดนไฟฟ้าไม่ถึง 220 โวลต์เนื่องจากมอเตอร์จะไม่หมุนและทาให้เกิด
                    ั
             กระแสไฟฟ้าดนกลบ จะทาใหขดลวดร้อนจดจนเกิดไหมเ้ สียหายได้
                          ั ั            ้          ั
หลกการทางานของเครื่องใช้ ไฟฟ้ า
       ั
            ที่ใหพลงงานกล พลงงานกล ประกอบดวยขดลวดที่พนรอบแกน
                  ้ ั            ั            ้          ั
โลหะที่วางอยระหว่างข้ วแม่เหลก โดยเมื่อผานกระแสไฟฟ้าเขาไปยงขดลวดที่
               ู่       ั      ็        ่             ้ ั
อยูระหว่างข้ วแม่เหลก จะทาใหขดลวดหมุนไปรอบแกน และเมื่อสลบ
     ่       ั        ็      ้                             ั
ข้ วไฟฟ้า การหมุนของขดลวดจะหมุนกลบทิศทางเดิม
   ั                                  ั
เครื่องใช้ ไฟฟาทีเ่ ปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานเสี ยง ได้แก่ เครื่ องรับวิทยุ
              ้        ่           ้
เครื่ องขยายเสี ยง เครื่ องบันทึกเสี ยง ฯลฯ 1.เครื่ องรับวิทยุ เป็ นอุปกรณ์ที่เปลี่ยนพลังงาน
 ไฟฟ้าเป็นพลงงานเสียง โดยรับคลื่นวทยุ จากสถานีส่งแลวใชอุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์
                 ั                        ิ                      ้ ้             ็
                             ่
ขยายสัญญาณเสี ยงที่มีอยูในรู ปของ สัญญาณไฟฟ้ าให้แรงขึ้นเมื่อผ่านสัญญาณไฟฟ้ านี้
ไปยงลาโพงจะทาใหลาโพงสนสะเทือนเปลี่ยนเป็นเสียงที่สามารถรับฟังได้ ดงแผนผง
       ั                  ้      ั่                                                  ั     ั
          แผนผงการเปลี่ยนพลงงานไฟฟ้าเป็นพลงงานเสียงของเครื่องรับวทยุ
                   ั                ั                  ั                           ิ
เครื่องขยายเสี ยง(Amplifier) คือ เครื่องใชไฟฟ้าที่เปลี่ยนพลงงานไฟฟ้าเป็น
                                            ้                ั
  พลงงานเสียงโดยรับสญญาณไฟฟ้าจากไมโครโฟน หวเทปหรือจาก เครื่องกาเนิด
     ั                ั                            ั
สญญาณไฟฟ้าจากเสียงต่างๆ มาขยายสญญาณไฟฟ้าจนมีกาลงมากพอจึงส่งออกสู่ลา
  ั                                 ั                    ั
 โพงเสี ยง ส่วนประกอบของเครื่ องขยายเสี ยง 1. ไมโครโฟน เปลี่ยนพลงงานเสียงให้
                                                                ั
เป็นสญญาณไฟฟ้า 2. เครื่องขยายสญญาณไฟฟ้า ขยายสญญาณไฟฟ้าใหแรงข้ ึน 3. ลา
       ั                        ั                    ั            ้
                 โพง เปลี่ยนสญญาณไฟฟ้าใหเ้ ป็นพลงงานเสียง
                              ั                        ั
เครื่องบันทึกเสี ยง (Tape recorder) ขณะบันทึกด้วยการพูดผ่านไมโครโฟน ซึ่ ง
จะเปลี่ยนพลงงานเสียงเป็นสัญญาณไฟฟ้า แลวบนทึกลงในแถบบนทึกเสียงซ่ ึ ง
             ั                              ้ ั               ั
ฉาบดวยสารแม่เหลกในรูปของสัญญาณแม่เหลก ดงแผนผง แผนผงการเปลี่ยน
       ้             ็                        ็ ั       ั       ั
                   พลังงานของเครืองบันทึกเสี ยงขณะบันทึก
เมื่อนาแถบบนทึกเสียงที่บนทึกไดมาเล่น สญญาณแม่เหลกจะถูกเปลี่ยนกลบเป็น
            ั             ั          ้        ั       ็            ั
สญญาณไฟฟ้า และสญญาณน้ ีจะถูกขยายใหแรงข้ ึนดวยอุปกรณ์ไฟฟ้าจนทาใหลาโพง
     ั            ั                         ้       ้                  ้
สนสะเทือนเป็นเสียงข้ ึนอีกคร้ ังหน่ ึง ดงแผนผง สญญาณแม่เหลกจาก แผนผงการ
  ั่                                    ั       ั ั       ็          ั
เปลี่ยนพลงงานของเครืองบนทึกเสียงขณะเล่น
          ั                 ั




          ในการใชเ้ ครื่องใชไฟฟ้าที่ใหพลงงานเสียง พวก วทยุ หรือเครื่องเสียงประเภท
                              ้       ้ ั                ิ
   ตางๆ ส่วนใหญ่สิ้นเปลืองพลงงานไฟฟ้าไม่มาก แต่ท้ งน้ ีข้ ึนอยกบ กาลงไฟฟ้าของ
     ่                             ั                   ั        ู่ ั   ั
                                 ่
   เครื่ องเสี ยงนั้นๆ และขึ้นอยูกบความดังของเสี ยงในการเปิ ดฟังด้วย
ขอบคุณค่ะ
ทีตดตามชมผลงานของพวกเรา
  ่ ิ

More Related Content

What's hot

เรื่องประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า
เรื่องประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าเรื่องประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า
เรื่องประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าธนวัฒน์ ตุ้ยคำ
 
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า1560100453451
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าUp To You's Toey
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าSarun Boonwong
 
งานวิทยาศาสตร์เครื่องใช้ไฟฟ้า
งานวิทยาศาสตร์เครื่องใช้ไฟฟ้างานวิทยาศาสตร์เครื่องใช้ไฟฟ้า
งานวิทยาศาสตร์เครื่องใช้ไฟฟ้าJirachaya_chumwong
 
สำเร็จ
สำเร็จสำเร็จ
สำเร็จPanatsaya
 
งานวิทย์ 1
งานวิทย์ 1งานวิทย์ 1
งานวิทย์ 1thanawan302
 
เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน.Pdf
เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน.Pdfเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน.Pdf
เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน.Pdf0841766393
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าPanupong Rongpan
 
งานนำเสนอ123
งานนำเสนอ123งานนำเสนอ123
งานนำเสนอ123Chanukid Chaisri
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า3
เครื่องใช้ไฟฟ้า3เครื่องใช้ไฟฟ้า3
เครื่องใช้ไฟฟ้า3SUPAPIT3033
 
งานเครื่องไฟฟ้า ม.302 กลุ่ม 8
งานเครื่องไฟฟ้า ม.302 กลุ่ม 8งานเครื่องไฟฟ้า ม.302 กลุ่ม 8
งานเครื่องไฟฟ้า ม.302 กลุ่ม 8lacknaja1
 
เครื่องใชเไฟฟ้า302
เครื่องใชเไฟฟ้า302เครื่องใชเไฟฟ้า302
เครื่องใชเไฟฟ้า302chindekthai01
 

What's hot (17)

เรื่องประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า
เรื่องประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าเรื่องประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า
เรื่องประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า
 
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
ไฟฟ้า
ไฟฟ้าไฟฟ้า
ไฟฟ้า
 
งานวิทยาศาสตร์เครื่องใช้ไฟฟ้า
งานวิทยาศาสตร์เครื่องใช้ไฟฟ้างานวิทยาศาสตร์เครื่องใช้ไฟฟ้า
งานวิทยาศาสตร์เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
สำเร็จ
สำเร็จสำเร็จ
สำเร็จ
 
งานวิทย์ 1
งานวิทย์ 1งานวิทย์ 1
งานวิทย์ 1
 
เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน.Pdf
เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน.Pdfเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน.Pdf
เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน.Pdf
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
งานนำเสนอ123
งานนำเสนอ123งานนำเสนอ123
งานนำเสนอ123
 
ไฟฟ้า
ไฟฟ้าไฟฟ้า
ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า3
เครื่องใช้ไฟฟ้า3เครื่องใช้ไฟฟ้า3
เครื่องใช้ไฟฟ้า3
 
งานเครื่องไฟฟ้า ม.302 กลุ่ม 8
งานเครื่องไฟฟ้า ม.302 กลุ่ม 8งานเครื่องไฟฟ้า ม.302 กลุ่ม 8
งานเครื่องไฟฟ้า ม.302 กลุ่ม 8
 
เครื่องใชเไฟฟ้า302
เครื่องใชเไฟฟ้า302เครื่องใชเไฟฟ้า302
เครื่องใชเไฟฟ้า302
 

Similar to งานเครื่องใช้ไฟฟ้า

งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1boom500937
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1boom500937
 
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า1560100453451
 
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า1560100453451
 
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า1560100453451
 
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า1560100453451
 
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าPanatsaya Jakkheaw
 
กลุ่ม 7 ม.303
กลุ่ม 7 ม.303กลุ่ม 7 ม.303
กลุ่ม 7 ม.303Atjimayall
 
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า1560100453451
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..Powergift_vip
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..Powergift_vip
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..Powergift_vip
 
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วเรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วjaturong2012
 
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วเรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วjaturong20155
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าwattanakub00
 
งานนำเสนอ1 ไฟฟ้า
งานนำเสนอ1 ไฟฟ้างานนำเสนอ1 ไฟฟ้า
งานนำเสนอ1 ไฟฟ้าPhachakorn Khrueapuk
 
งานว ทย 2
งานว ทย 2งานว ทย 2
งานว ทย 2thanawan302
 
งานว ทย 2
งานว ทย 2งานว ทย 2
งานว ทย 2thanawan302
 
ไฟฟ้า
ไฟฟ้าไฟฟ้า
ไฟฟ้าpatarapan
 

Similar to งานเครื่องใช้ไฟฟ้า (20)

งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
 
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
 
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
 
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
 
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
 
กลุ่ม 7 ม.303
กลุ่ม 7 ม.303กลุ่ม 7 ม.303
กลุ่ม 7 ม.303
 
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..
 
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วเรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
 
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วเรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
 
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วเรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
งานนำเสนอ1 ไฟฟ้า
งานนำเสนอ1 ไฟฟ้างานนำเสนอ1 ไฟฟ้า
งานนำเสนอ1 ไฟฟ้า
 
งานว ทย 2
งานว ทย 2งานว ทย 2
งานว ทย 2
 
งานว ทย 2
งานว ทย 2งานว ทย 2
งานว ทย 2
 
ไฟฟ้า
ไฟฟ้าไฟฟ้า
ไฟฟ้า
 

งานเครื่องใช้ไฟฟ้า

  • 1. เครองใชไ้ ฟฟา ื่ ้ รายวิชาวิทยาศาสตร์
  • 2. ผู้จัดทํา นางสาว พธิตา ุ ขันธะกิจ เลขที่ 31 นางสาว ภัทราภรณ์ จํารัส เลขท32 ี่ นางสาว รุ่งนภา ต่อมดวงแก้ว เลขท34 ี่ นางสาว ลักษมี พันธ์ ปัญญา เลขท35 ี่ ชนมัธยมศกษาปีท่ ี3 ห้อง2 ั้ ึ
  • 3. เครื่องใช้ ไฟฟา ช่วยใหความเป็นอยของคนในบาน ในชุมชน ในสงคม มี ้ ้ ู่ ้ ั ความสุข และสะดวกสบาย แต่ถาใชกนอยางไม่ถูกตอง หรื อไม่เหมาะสม ก็จะส่งผล ้ ้ั ่ ้ กรทบต่อสภาพแวดล้อม เช่น การสร้างเขื่อนเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าทาใหเ้ น้ือที่ป่าถูก ํ ทาลายท้ งสตวต่างๆที่ดารงชิวตอยในบริเวณน้ นหรือการผลิตกระแสไฟฟ้าจาก ํ ั ั ์ ํ ิ ู่ ั เช้ือเพลิงก็ส่งผลกระทบ โดยเกิดมลภาวะทางอากาศ และ ทางนาได้ ํ เครื่องใช้ ไฟฟา หมายถึง เครื่องมือที่เปลี่ยนพลงงานไฟฟ้าเป็นพลงงาน ้ ั ั รูปต่างๆที่ตองการ เช่น พลงงานความร้อน พลงงานเสียง พลงงานกล พลงงานเคมี ้ ั ั ั ั
  • 4. ข้อควรระวงในการใช้เครื่องใช้ไฟฟา- ใชเ้ ครื่องใชไฟฟ้า และอุปกรณ์ไฟฟ้าอยาง ั ้ ้ ่ ั่ ้ ู่ ระมัดระวัง- หมนตรวจดูแลสายไฟ และอุปกรณ์ไฟฟ้าใหอยในสภาพที่ใชไดดีและ ้ ้ ปลอดภย- ถ้าไม่มีความรู ้จริ ง อย่าแก้หรื อซ่อมแซมเครื่ องใช้ไฟฟ้ าเองเป็ นอันขาด ั ผลเสี ยที่จะเกิดขึ้น เมื่อใช้เครื่ องใช้ไฟฟ้ าอย่างไม่ระมัดระวัง- ถูกไฟฟ้าช็อต เนื่องจาก ไฟฟ้าลดวงจร หรือไฟฟ้าร่ัว- เกิดเพลิงไหม ้ เนื่องจากไฟฟ้าลดวงจร หรือไฟฟ้าร่ัว ั ั
  • 5. เครื่องใช้ ไฟฟาทีให้ แสงสว่ าง ้ ่ อุปกรณ์ที่เปลี่ยนพลงงานไฟฟ้าเป็นพลงงานแสง ไดแก่ หลอดไฟฟ้า หลอดฟลูออเรส ั ั ้ เซนต์ และหลอดไฟโฆษณา โธมส แอลวา เอดิสน (Thomas AlvaEdison) นักฟิ สิ กส์ ั ั ั ้ ชาวอเมริกน ไดประดิษฐหลอดไฟฟ้า ข้ ึนเป็นคร้ ังแรกเมื่อ พ.ศ.2422 โดยใช้คาร์บอน ์ ้ ่ เสนเลกๆเป็นไสหลอดและตอมาไดมีการพฒนาข้ ึน จนเป็นหลอดไฟฟ้าที่ใชใน ้ ็ ้ ั ้ ปัจจุบน ั
  • 6. หลอดไฟฟา เป็นเครื่องใชไฟฟ้าที่มีใชในทุกบานที่มีการใชพลงงานไฟฟ้าเป็น ้ ้ ้ ้ ้ ั เครื่องใชที่เปลี่ยนพลงงานไฟฟ้า ไปเป็นพลงงานแสง หลอดไฟฟ้าที่ใชทวไปมี 3 ชนิด ้ ั ั ้ ั่ คือ1. หลอดไฟฟ้าแบบธรรมดา หลอดไฟฟ้าแบบธรรมดา มีการเปลี่ยนรูปพลงงานจาก ั พลงงานไฟฟ้าเป็นพลงงานความร้อน แลวจึงเปลี่ยนเป็นพลงงานแสง หลอดไฟฟ้า ั ั ้ ั แบบธรรมดามี 2แบบ คือแบบเกลียวและแบบเขี้ยว มีส่วนประกอบดังนี้
  • 7. ไสหลอด ทาดวยโลหะที่มีจุดหลอดเหลวสูง ทนความร้อนไดมาก มีความทานสูง เช่น ้ ้ ้ ทงสเตน 1.2 หลอดแกวทาจากแกวที่ทนความร้อนไดดี ไม่แตกง่าย สูบอากาศออกจน ั ้ ้ ้ หมดภายในบรรจุก๊าซไนโตรเจนและอาร์กอนเลกนอย ก๊าซชนิดน้ ีทาปฏิกิริยายาก ช่วย ็ ้ ป้ องกันไม่ให้ไส้หลอดระเหิ ดไปจับที่หลอดแก้ว และช่วยไม่ให้ไส้หลอดไม่ขาดง่าย ถ้า บรรจุก๊าซออกซิเจนจะทาปฏิกิริยากบไสหลอด ซ่ ึงทาใหไสหลอดขาดง่าย 1.3 ขั้ว ั ้ ้ ้ หลอดไฟ เป็นจุดต่อวงจรไฟฟ้า มี 2 แบบ คือ แบบเขี้ยวและแบบเกลียว เนื่องจาก ้ ่ ้ ้ หลอดไฟฟ้าประเภทน้ ีใหแสงสวางไดดวยการเปลี่ยนพลงงานไฟฟ้าเป็นพลงงานความ ั ั ร้อนก่อนที่จะใหแสงสวางออกมา จึงทาใหสิ้นเปลือง พลงงานไฟฟ้ามากกวาหลอด ้ ่ ้ ั ่ ชนิดอื่น ในขนาดกาลงไฟฟ้า ของหลอดไฟซ่ ึงจะกาหนดไวที่หลอดไฟทุกดวง เช่น ั ้ หลอดไฟฟ้าขนาด 100 วัตต์ เป็ นต้น
  • 8. หลกการทางานของหลอดไฟฟาธรรมดา การที่หลอด ไฟฟ้ าให้แสงสว่างได้ ั ้ ั ั ่ เป็นไปตามหลกการดงน้ ี เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผานไส้หลอด ซ่ ึ งมีความ ต้านทานสูง พลงงานไฟฟ้าจะเปลี่ยนเป็นพลงงานความร้อน ทาใหไส้หลอด ั ั ้ ร้อนจดจนเปล่งแสง ออกมาได้ ซ่ ึ งมีการเปลี่ยนรูปพลงงานดงน้ ี ั ั ั พลังงานไฟฟ้ า ----> พลงงานความร้อน ----> พลงงานแสง ั ั
  • 9. หลอดเรืองแสงหรือหลอดฟลูออเรสเซนต์(Fluorescent Lamp) หลอดเรื องแสงหรื อ หลอดฟลูออเรสเซนต์ (Fluorescent Lamp) ทาด้วยหลอดแก้วที่สูบอากาศออกจน หมดแล้วบรรจุไอปรอทไว้เล็กน้อย มีไส้ที่ปลายหลอดทั้งสองข้าง หลอดเรื องแสงอาจ ทาเป็นหลอดตรง หรือคร่ ึ งวงกลมก็ได้ ส่วนประกอบและการทางานของหลอดเรือง แสง มีดงน้ ี ั
  • 10. ตวหลอด ภายในสูบอากาศออกจนหมดแล้วบรรจุไอปรอทและก๊าซอาร์กอน เล็กน้อย ั ผิวด้านในของหลอดเรื องแสงฉาบด้วยสารเรื องแสงชนิดต่างๆ แล้วแต่ความต้องการให้ เรื องแสงเป็ นสี ใด เช่น ถ้าต้องการให้เรื องแสงสี เขียว ต้องฉาบด้วยสารซิงคซิลิเคต แสง ์ สีขาวแกมฟ้าฉาบดวยมักเนเซียมทังสเตน แสงสี ชมพูฉาบด้วยแคดเนียมบอเรตเป็นตน ้ ้ ้ ั ุ ู่ 2.2 ไสหลอด ทาดวยทงสเตนหรือวลแฟรมอยที่ปลายท้ งสองขาง เมื่อกระแสไฟฟ้าผาน ้ ั ้ ่ ไสหลอดจะทาใหไสหลอดร้อนข้ ึน ความร้อนที่เกิดข้ ึนจะทาใหไอปรอทที่บรรจุไวใน ้ ้ ้ ้ ้ หลอดกลายเป็นไอมากข้ ึน แต่ขณะน้ นกระแสไฟฟ้ายงผานไอปรอทไม่สะดวกเพราะ ั ั ่ ปรอทยังเป็ นไอน้อยทาให้ความต้านทานของหลอดสูง
  • 11. 3 สตาร์ตเตอร์ ทาหนาที่เป็นสวตซ์ไฟฟ้าอตโนมติของวงจรโดยต่อขนานกบหลอด ทา ํ ้ ิ ั ั ั ด้วยหลอดแก้วภายในบรรจุก๊าซนีออนและแผ่นโลหะคูที่งอตัวได้ เมื่อได้รับความร้อน เมื่อกระแสไฟฟ้าผานก๊าซนีออน ก๊าซนีออนจะติดไฟเกิดความร้อนข้ ึน ทาใหแผน ่ ้ ่ โลหะคู่งอจนแตะติดกนทาใหกลายเป็นวงจรปิดทาใหกระแสไฟฟ้าผานแผน โลหะได้ ั ้ ้ ่ ่ ครบวงจร ก๊าซนีออนที่ติดไฟอยจะดบและเยนลงแผนโลหะคูจะแยกออกจากกนทาให้ ู่ ั ็ ่ ่ ั เกิดความตานทานสูงข้ ึนอยางทนทีซ่ ึงขณะ เดียวกนกระแสไฟฟ้าจะผานไสหลอดได้ ้ ่ ั ั ่ ้ มากข้ ึนทาใหไสหลอดร้อนข้ ึนมาก ปรอทก็จะเป็นไอมากข้ ึนจนพอที่นากระแสไฟฟ้า ้ ้ ได้ 2.4 แบลลสต์ เป็นขดลวดที่พนอยบนแกนเหลก ขณะกระแสไฟฟ้าไหลผานจะเกิด ั ั ู่ ็ ่ การเหนี่ยวนาแม่เหลกไฟฟ้าทาใหเ้ กิดแรงเคลื่อน ไฟฟ้าเหนี่ยวนาข้ ึน เมื่อแผนโลหะคู่ ็ ่ ในสตาร์ตเตอร์แยกตวออกจากกนน้ นจะเกิดวงจรเปิดชวขณะ แรงเคลื่อนไฟฟ้าเหนี่ยว ั ั ั ั่ นาที่เกิดข้ ึนในแบลลสตจึงทาใหเ้ กิดความต่าง ศกยระหวางไสหลอดท้ งสองขางสูงข้ ึน ั ์ ั ์ ่ ้ ั ้ ่ เพียงพอที่จะทาใหกระแสไฟฟ้าไหลผาน ไอปรอทจากไสหลอดขางหน่ ึงไปยงไส้ ้ ้ ้ ั หลอดอีกขางหน่ ึงได้ แรงเคลื่อนไฟฟ้าเหนี่ยวนาที่เกิดจากแบลลสตน้ นจะทาใหเ้ กิด ้ ั ์ ั ั กระแสไฟฟ้า เหนี่ยวนาไหลสวนทางกบกระแสไฟฟ้าจากวงจรไฟฟ้าในบานทาให้ ้ กระแส ไฟฟ้าที่จะเขาสู่วงจรของหลอดเรืองแสงลดลง ้
  • 12. หลกการทางานของหลอดฟลูออเรสเซนต์ เมื่อกระแสไฟฟ้าผานไอปรอท จะคาย ั ่ พลงงานไฟฟ้าใหแก่ไอปรอท ซ่ ึงจะทาใหอะตอม ของไอปรอทอยในสภาวะถูกกระตน ั ้ ้ ู่ ุ้ (exited state) เป็นผลใหอะตอมปรอทคายพลงงานออกมาเพื่อ ลดระดบพลงงานใน ้ ั ั ั ตวเองในรูปของรังสีอลตราไวโอเลต ซ่ ึงมองไม่เห็น เมื่อรังสีชนิดน้ ีไปกระทบกบสาร ั ั ั วาวแสงที่ฉาบไว้ที่ผิวด้านในของหลอดฟลูออเรส เซนต์ สารเหล่าน้ ีจะเปลงแสงได้ ่ โดยใหแสงสีต่างๆตามชนิดของสารวาวแสงที่ฉาบไวภายในหลอดน้ น เช่น ซิงคซิลิเคท ้ ้ ั ์ (Zinc silicate)ให้แสงสี เขียว ซิงคเ์ บริ ลเลียมซิลิเคท (Zinc Beryllium silicate) ใหแสงสี ้ เหลืองนวล นอกจากน้ ียงอาจผสมสารวาวแสงเหล่าน้ ี เพื่อใหไดแสงสีผสมที่แตกตาง ั ้ ้ ่ กันออกไปได้อีกด้วย
  • 13. .หลอดไฟโฆษณาหรือหลอดนีออน หลอดไฟโฆษณาหรือหลอดนออน เป็ นหลอดแก้ว ี ที่ถูกลนไฟแล้วดัดให้เป็ นรู ปหรื อตัวอักษร ไม่มีไส้หลอดแต่ที่ปลายทั้งสองข้างจะมี ข้ วไฟฟ้าทาดวยโลหะ ต่อกบแหลงกาเนิดไฟฟ้า ที่มีความต่างศกยสูงประมาณ 10,000 ั ้ ั ่ ั ์ โวลต์ ภายในหลอดสูบอากาศออกจนหมดแลวใส่ก๊าซบางชนิดที่ใหแสงสีต่างๆออกมา ้ ้ เมื่อมีกระแสไฟฟ้ าผ่านเช่นก๊าซนีออนให้แสงสี แดงหรื อส้ม ก๊าซฮีเลียมให้แสงสี ชมพู ความต่างศกยที่สูงมากๆจะทาใหก๊าซที่บรรจุไวในหลอดเกิดการแตกตวเป็นนีออน ั ์ ้ ้ ั และนาไฟฟ้าได้ เมื่อกระแสไฟฟ้าผานก๊าซเหล่าน้ ีจะทาใหก๊าซร้อนติดไฟใหแสงสี ่ ้ ้ ต่างๆได้
  • 14. เครื่องใช้ไฟฟาทให้พลงงานความร้อน เป็ นเครื่ องใช้ที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้ าเป็ น ้ ี่ ั พลงงานความร้อน โดยใชหลกการคือ เมื่อปล่อยกระแสไฟฟ้าผานขดลวดตวนาที่มี ั ้ ั ่ ั ความตานทานสูงๆ ลวดตวนาน้ นจะร้อนจนสามารถนาความร้อนออกไปใชประโยชน์ ้ ั ั ้ ได้ เนื่องจากเป็นเครื่องใชไฟฟ้าที่ใหพลงงานความร้อนมาก จึงสินเปลี่ยนพลงงาน ้ ้ ั ั ไฟฟ้ามากเมื่อเปรียบ ◌้กบการใชเ้ ครื่องใชไฟฟ้าประเภทอื่นๆ เมื่อใชในเวลาที่เท่ากน ั ้ ้ ั ฉะน้ นขณะใชเ้ ครื่องใชไฟฟ้าใหพลงงานความร้อนจึงควรใชดวยความระมดระวง ั ้ ้ ั ้ ้ ั ั ตวอยางเครื่องใชไฟฟ้าที่ใหพลงงานความร้อน เช่น เตารีด หมอหุงขาว กระทะไฟฟ้า ั ่ ้ ้ ั ้ ้ กาตมนา เครื่องตมกาแฟเตาไฟฟ้า ฯลฯ ้ ้ ้
  • 15. ส่วนประกอบในเครื่องใช้ไฟฟาทให้พลงงานความร้อน มดงนี้ 1. ขดลวดความร้อน ้ ี่ ั ี ั ่ ่ ั หรือแผนความร้อน มกทาจากโลหะผสมระหวางนิเกิลกบโครเมียม เรียกวา นิโครม ซ่ ึง ั ่ มีสมบัติคือมีจุดหลอมเหลวสูงมากจึงทนความร้อนได้สูงเมื่อมีความร้อนเกิดขึ้นมากๆ จึงไม่ขาด และมีความตานทานสูงมาก 2. เทอโมสตาร์ท หรื อสวิตซ์ความร้อนอัตโนมัติ ้ ทาหน้าที่ควบคุมอุณหภูมิไม่ให้ร้อนเกินไป มีส่วนประกอบเป็ นโลหะต่างชนิดกัน 2 แผนมาประกบกน เมื่อไดรับความร้อนจะขยายตวไดไม่เท่ากน เช่น เหลกกบ ่ ั ้ ั ้ ั ็ ั ่ ้ ทองเหลือง โดยให้แผ่นโลหะที่ขยายตัวได้นอย(เหล็ก)อยูดานบน ส่วนโลหะที่จะ ้ ขยายตัวได้มาก(ทองเหลือง)อยดานล่าง เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผานแผนโลหะท้ งสอง ู่ ้ ่ ่ ั มากข้ ึน จะทาใหมีอุณหภูมิสูงจนแผนโลหะท้ งสองซ่ ึงขยายตวไดต่างกนโลหะที่ ้ ่ ั ั ้ ั ขยายตวได้ มากจะขยายตวโคงงอ เป็นเหตุใหจุดสมผสแยกออกจากกน เกิดเป็นวงจร ั ั ้ ้ ั ั ั เปิ ด กระแสไฟฟ้ าจึงไหลผ่านไม่ได้ และเมื่อแผ่นโลหะทั้งสองเย็นลงก็จะสัมผัสกัน เหมือนเดิม เกิดเป็นวงจรปิด กระแสไฟฟ้าจึงไหลผานไดอีกคร้ ังหน่ ึง ่ ้
  • 16. ข้อควรระวงในการใช้เครื่องใช้ไฟฟาที่ใหพลงงานความร้อน เนื่องจาก ั ้ ้ ั เครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่ให้พลังงานความร้อนจะมีกระแสไฟฟ้ าปริ มาณมากไหลผ่าน มากกว่าเครื่องใชประเภทอื่นๆ จึงควรใชดวยความระมดระวงดงน้ ี - หมัน ้ ้ ้ ั ั ั ่ ่ ตรวจสอบดูแลสายไฟ เต้ารับ เต้าเสี ยบ ให้อยูในสภาพเรี ยบร้อยไม่ชารุ ด - เมื่อ เลิกใชงานตองถอดเตาเสียบออกจากเตารับทุกคร้ ังไม่ควรเสียบทิ้งไว ้ ้ ้ ้ ้
  • 17. หลกการทางานของเครื่องใช้ไฟฟาทให้ความร้อน เครื่องใชไฟฟ้าที่ใหความร้อน ั ้ ี่ ้ ้ ั ่ มีหลกการคือเมื่อมีกระแสไฟฟ้าไหลผานความตานทานไฟฟ้าสูง พลงงานไฟฟ้าจะ ้ ั ั ั ั ้ ่ เปลี่ยนเป็นพลงงานความร้อน ดงน้ น จึงใหกระแสไฟฟ้าไหลผานขดลวดนิโครมหรือ ่ แผนความร้อนซ่ ึงมีความตานทานไฟฟ้า สูงพลงงานไฟฟ้าจะเปลี่ยนเป็นพลงงานความ ้ ั ั ร้อนมากแลวถ่ายเทพลงงานความร้อนไป ยงภาชนะ ้ ั ั
  • 18. เครื่องใช้ไฟฟาทให้พลงงานความร้อน ใชพลงงานไฟฟ้ามากกวาเครื่องใชไฟฟ้า ้ ี่ ั ้ ั ่ ้ อื่นหลายเท่า กระแสไฟฟ้าที่ผานเครื่องใชไฟฟ้าเหล่าน้ ีมีปริมาณมากจึงตองใชดวย ่ ้ ้ ้ ้ ความระมดระวง เช่น คอยตรวจสอบสภาพของสายไฟ และเตาเสียบให้อยูในสภาพดี ั ั ้ อยูเ่ สมอ ◌่เพื่อป้องกนอนตรายจากกระแสไฟฟ้ารั่ว ขณะใชเ้ ครื่องใชไฟฟ้าควรดูแล ั ั ้ ้ ่ ้ ้ั ใกลชิด และอยาใชใกลกบสารไวไฟ เมื่อเลิกใชแลวตองถอดเตาเสียบออกทุกคร้ ัง ้ ้ ้ ้
  • 19. เครื่องใช้ไฟฟาทให้พลงงานกล มีการเปลี่ยนรูปพลงงานไฟฟ้าเป็นพลงงานกล โดย ้ ี่ ั ั ั อาศยหลกการเหนี่ยวนาแม่เหลกไฟฟ้า ดวยอุปกรณ์ ที่เรียกวามอเตอร์ และ เครื่อง ั ั ็ ้ ่ ควบคุมความเร็ว ซ่ ึงเป็นอุปกรณ์หลกในเครื่องใชไฟฟ้าที่ใหพลงงานกล ตวอยาง ั ้ ้ ั ั ่ เครื่องใชไฟฟ้าที่ใหพลงงานกล เช่น เครื่องปรับอากาศ ตเู ้ ยน พดลม เครื่องซกผา เครื่อง ้ ้ ั ็ ั ั ้ ปั่ นน้าผลไม้ ฯลฯ
  • 20. ส่ วนประกอบของเครื่องใช้ ไฟฟาทีให้ พลังงานกล ้ ่ มอเตอร์ มอเตอร์ เป็นเครื่องใชไฟฟ้าที่เปลี่ยนพลงงานไฟฟ้าเป็นพลงงานกล ้ ั ั ่ ประกอบด้วยขดลวดที่พนรอบแกนโลหะที่วางอยูระหว่างขั้วแม่เหล็กโดยเมื่อผาน ั ่ ่ กระแสไฟฟ้าเขาไปยงขดลวดที่อยูระหว่างขั้วแม่เหล็ก จะทาให้ขดลวดหมุนไปรอบ ้ ั แกนและเมื่อสลับข้ วไฟฟ้า การหมุนของขดลวดจะหมนกลบทิศทางเดิม ั ุ ั
  • 21. ประเภทของมอเตอร์ มี 2 ประเภท คือ มอเตอร์กระแสตรง และมอเตอร์ กระแสสลับ - มอเตอร์กระแสตรง เป็ นมอเตอร์ที่ตองใช้ไฟฟ้ ากระแสตรงผ่านเข้าไปใน ้ ขดลวดอาร์เมเจอร์เพื่อทาให้ เกิดการดูดและผลกกนของแมเ่ หลกถาวรกบ ั ั ็ ั แม่เหลกไฟฟ้าที่เกิดจากขดลวด มอเตอร์จึงหมนได้ - มอเตอร์กระแสสลับ เป็ นมอเตอร์ ็ ุ ที่ตองใชกบไฟฟ้ากระแสสลบโดยใชหลกการดูดและผลกกนของแม่เหลกถาวรกบ ้ ้ั ั ้ ั ั ั ็ ั แม่เหลกไฟฟ้าจากขดลวดมาทาให้ เกิดการหมุนของมอเตอร์ ขอควรระวงในการใช้ ็ ้ ั เครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่มีมอเตอรเป็ นส่วนประกอบ คือห้ามใช้เครื่ องใช้ประเภทนี้ในช่วงที่ไฟ ตก หรือแรงดนไฟฟ้าไม่ถึง 220 โวลต์เนื่องจากมอเตอร์จะไม่หมุนและทาให้เกิด ั กระแสไฟฟ้าดนกลบ จะทาใหขดลวดร้อนจดจนเกิดไหมเ้ สียหายได้ ั ั ้ ั
  • 22. หลกการทางานของเครื่องใช้ ไฟฟ้ า ั ที่ใหพลงงานกล พลงงานกล ประกอบดวยขดลวดที่พนรอบแกน ้ ั ั ้ ั โลหะที่วางอยระหว่างข้ วแม่เหลก โดยเมื่อผานกระแสไฟฟ้าเขาไปยงขดลวดที่ ู่ ั ็ ่ ้ ั อยูระหว่างข้ วแม่เหลก จะทาใหขดลวดหมุนไปรอบแกน และเมื่อสลบ ่ ั ็ ้ ั ข้ วไฟฟ้า การหมุนของขดลวดจะหมุนกลบทิศทางเดิม ั ั
  • 23. เครื่องใช้ ไฟฟาทีเ่ ปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานเสี ยง ได้แก่ เครื่ องรับวิทยุ ้ ่ ้ เครื่ องขยายเสี ยง เครื่ องบันทึกเสี ยง ฯลฯ 1.เครื่ องรับวิทยุ เป็ นอุปกรณ์ที่เปลี่ยนพลังงาน ไฟฟ้าเป็นพลงงานเสียง โดยรับคลื่นวทยุ จากสถานีส่งแลวใชอุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์ ั ิ ้ ้ ็ ่ ขยายสัญญาณเสี ยงที่มีอยูในรู ปของ สัญญาณไฟฟ้ าให้แรงขึ้นเมื่อผ่านสัญญาณไฟฟ้ านี้ ไปยงลาโพงจะทาใหลาโพงสนสะเทือนเปลี่ยนเป็นเสียงที่สามารถรับฟังได้ ดงแผนผง ั ้ ั่ ั ั แผนผงการเปลี่ยนพลงงานไฟฟ้าเป็นพลงงานเสียงของเครื่องรับวทยุ ั ั ั ิ
  • 24. เครื่องขยายเสี ยง(Amplifier) คือ เครื่องใชไฟฟ้าที่เปลี่ยนพลงงานไฟฟ้าเป็น ้ ั พลงงานเสียงโดยรับสญญาณไฟฟ้าจากไมโครโฟน หวเทปหรือจาก เครื่องกาเนิด ั ั ั สญญาณไฟฟ้าจากเสียงต่างๆ มาขยายสญญาณไฟฟ้าจนมีกาลงมากพอจึงส่งออกสู่ลา ั ั ั โพงเสี ยง ส่วนประกอบของเครื่ องขยายเสี ยง 1. ไมโครโฟน เปลี่ยนพลงงานเสียงให้ ั เป็นสญญาณไฟฟ้า 2. เครื่องขยายสญญาณไฟฟ้า ขยายสญญาณไฟฟ้าใหแรงข้ ึน 3. ลา ั ั ั ้ โพง เปลี่ยนสญญาณไฟฟ้าใหเ้ ป็นพลงงานเสียง ั ั
  • 25. เครื่องบันทึกเสี ยง (Tape recorder) ขณะบันทึกด้วยการพูดผ่านไมโครโฟน ซึ่ ง จะเปลี่ยนพลงงานเสียงเป็นสัญญาณไฟฟ้า แลวบนทึกลงในแถบบนทึกเสียงซ่ ึ ง ั ้ ั ั ฉาบดวยสารแม่เหลกในรูปของสัญญาณแม่เหลก ดงแผนผง แผนผงการเปลี่ยน ้ ็ ็ ั ั ั พลังงานของเครืองบันทึกเสี ยงขณะบันทึก
  • 26. เมื่อนาแถบบนทึกเสียงที่บนทึกไดมาเล่น สญญาณแม่เหลกจะถูกเปลี่ยนกลบเป็น ั ั ้ ั ็ ั สญญาณไฟฟ้า และสญญาณน้ ีจะถูกขยายใหแรงข้ ึนดวยอุปกรณ์ไฟฟ้าจนทาใหลาโพง ั ั ้ ้ ้ สนสะเทือนเป็นเสียงข้ ึนอีกคร้ ังหน่ ึง ดงแผนผง สญญาณแม่เหลกจาก แผนผงการ ั่ ั ั ั ็ ั เปลี่ยนพลงงานของเครืองบนทึกเสียงขณะเล่น ั ั ในการใชเ้ ครื่องใชไฟฟ้าที่ใหพลงงานเสียง พวก วทยุ หรือเครื่องเสียงประเภท ้ ้ ั ิ ตางๆ ส่วนใหญ่สิ้นเปลืองพลงงานไฟฟ้าไม่มาก แต่ท้ งน้ ีข้ ึนอยกบ กาลงไฟฟ้าของ ่ ั ั ู่ ั ั ่ เครื่ องเสี ยงนั้นๆ และขึ้นอยูกบความดังของเสี ยงในการเปิ ดฟังด้วย