More Related Content
Similar to งานเครื่องใช้ไฟฟ้า
Similar to งานเครื่องใช้ไฟฟ้า (20)
งานเครื่องใช้ไฟฟ้า
- 2. ผู้จัดทํา
นางสาว พธิตา
ุ ขันธะกิจ เลขที่ 31
นางสาว ภัทราภรณ์ จํารัส เลขท32
ี่
นางสาว รุ่งนภา ต่อมดวงแก้ว เลขท34 ี่
นางสาว ลักษมี พันธ์ ปัญญา เลขท35 ี่
ชนมัธยมศกษาปีท่ ี3 ห้อง2
ั้ ึ
- 3. เครื่องใช้ ไฟฟา ช่วยใหความเป็นอยของคนในบาน ในชุมชน ในสงคม มี
้ ้ ู่ ้ ั
ความสุข และสะดวกสบาย แต่ถาใชกนอยางไม่ถูกตอง หรื อไม่เหมาะสม ก็จะส่งผล
้ ้ั ่ ้
กรทบต่อสภาพแวดล้อม เช่น การสร้างเขื่อนเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าทาใหเ้ น้ือที่ป่าถูก
ํ
ทาลายท้ งสตวต่างๆที่ดารงชิวตอยในบริเวณน้ นหรือการผลิตกระแสไฟฟ้าจาก
ํ ั ั ์ ํ ิ ู่ ั
เช้ือเพลิงก็ส่งผลกระทบ โดยเกิดมลภาวะทางอากาศ และ ทางนาได้
ํ
เครื่องใช้ ไฟฟา หมายถึง เครื่องมือที่เปลี่ยนพลงงานไฟฟ้าเป็นพลงงาน
้ ั ั
รูปต่างๆที่ตองการ เช่น พลงงานความร้อน พลงงานเสียง พลงงานกล พลงงานเคมี
้ ั ั ั ั
- 4. ข้อควรระวงในการใช้เครื่องใช้ไฟฟา- ใชเ้ ครื่องใชไฟฟ้า และอุปกรณ์ไฟฟ้าอยาง
ั ้ ้ ่
ั่ ้ ู่
ระมัดระวัง- หมนตรวจดูแลสายไฟ และอุปกรณ์ไฟฟ้าใหอยในสภาพที่ใชไดดีและ ้ ้
ปลอดภย- ถ้าไม่มีความรู ้จริ ง อย่าแก้หรื อซ่อมแซมเครื่ องใช้ไฟฟ้ าเองเป็ นอันขาด
ั
ผลเสี ยที่จะเกิดขึ้น เมื่อใช้เครื่ องใช้ไฟฟ้ าอย่างไม่ระมัดระวัง- ถูกไฟฟ้าช็อต เนื่องจาก
ไฟฟ้าลดวงจร หรือไฟฟ้าร่ัว- เกิดเพลิงไหม ้ เนื่องจากไฟฟ้าลดวงจร หรือไฟฟ้าร่ัว
ั ั
- 5. เครื่องใช้ ไฟฟาทีให้ แสงสว่ าง
้ ่
อุปกรณ์ที่เปลี่ยนพลงงานไฟฟ้าเป็นพลงงานแสง ไดแก่ หลอดไฟฟ้า หลอดฟลูออเรส
ั ั ้
เซนต์ และหลอดไฟโฆษณา โธมส แอลวา เอดิสน (Thomas AlvaEdison) นักฟิ สิ กส์
ั ั
ั ้
ชาวอเมริกน ไดประดิษฐหลอดไฟฟ้า ข้ ึนเป็นคร้ ังแรกเมื่อ พ.ศ.2422 โดยใช้คาร์บอน
์
้ ่
เสนเลกๆเป็นไสหลอดและตอมาไดมีการพฒนาข้ ึน จนเป็นหลอดไฟฟ้าที่ใชใน
้ ็ ้ ั ้
ปัจจุบน ั
- 6. หลอดไฟฟา เป็นเครื่องใชไฟฟ้าที่มีใชในทุกบานที่มีการใชพลงงานไฟฟ้าเป็น
้ ้ ้ ้ ้ ั
เครื่องใชที่เปลี่ยนพลงงานไฟฟ้า ไปเป็นพลงงานแสง หลอดไฟฟ้าที่ใชทวไปมี 3 ชนิด
้ ั ั ้ ั่
คือ1. หลอดไฟฟ้าแบบธรรมดา หลอดไฟฟ้าแบบธรรมดา มีการเปลี่ยนรูปพลงงานจาก
ั
พลงงานไฟฟ้าเป็นพลงงานความร้อน แลวจึงเปลี่ยนเป็นพลงงานแสง หลอดไฟฟ้า
ั ั ้ ั
แบบธรรมดามี 2แบบ คือแบบเกลียวและแบบเขี้ยว มีส่วนประกอบดังนี้
- 7. ไสหลอด ทาดวยโลหะที่มีจุดหลอดเหลวสูง ทนความร้อนไดมาก มีความทานสูง เช่น
้ ้ ้
ทงสเตน 1.2 หลอดแกวทาจากแกวที่ทนความร้อนไดดี ไม่แตกง่าย สูบอากาศออกจน
ั ้ ้ ้
หมดภายในบรรจุก๊าซไนโตรเจนและอาร์กอนเลกนอย ก๊าซชนิดน้ ีทาปฏิกิริยายาก ช่วย
็ ้
ป้ องกันไม่ให้ไส้หลอดระเหิ ดไปจับที่หลอดแก้ว และช่วยไม่ให้ไส้หลอดไม่ขาดง่าย ถ้า
บรรจุก๊าซออกซิเจนจะทาปฏิกิริยากบไสหลอด ซ่ ึงทาใหไสหลอดขาดง่าย 1.3 ขั้ว
ั ้ ้ ้
หลอดไฟ เป็นจุดต่อวงจรไฟฟ้า มี 2 แบบ คือ แบบเขี้ยวและแบบเกลียว เนื่องจาก
้ ่ ้ ้
หลอดไฟฟ้าประเภทน้ ีใหแสงสวางไดดวยการเปลี่ยนพลงงานไฟฟ้าเป็นพลงงานความ
ั ั
ร้อนก่อนที่จะใหแสงสวางออกมา จึงทาใหสิ้นเปลือง พลงงานไฟฟ้ามากกวาหลอด
้ ่ ้ ั ่
ชนิดอื่น ในขนาดกาลงไฟฟ้า ของหลอดไฟซ่ ึงจะกาหนดไวที่หลอดไฟทุกดวง เช่น
ั ้
หลอดไฟฟ้าขนาด 100 วัตต์ เป็ นต้น
- 8. หลกการทางานของหลอดไฟฟาธรรมดา การที่หลอด ไฟฟ้ าให้แสงสว่างได้
ั ้
ั ั ่
เป็นไปตามหลกการดงน้ ี เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผานไส้หลอด ซ่ ึ งมีความ
ต้านทานสูง พลงงานไฟฟ้าจะเปลี่ยนเป็นพลงงานความร้อน ทาใหไส้หลอด
ั ั ้
ร้อนจดจนเปล่งแสง ออกมาได้ ซ่ ึ งมีการเปลี่ยนรูปพลงงานดงน้ ี
ั ั ั
พลังงานไฟฟ้ า ----> พลงงานความร้อน ----> พลงงานแสง
ั ั
- 9. หลอดเรืองแสงหรือหลอดฟลูออเรสเซนต์(Fluorescent Lamp) หลอดเรื องแสงหรื อ
หลอดฟลูออเรสเซนต์ (Fluorescent Lamp) ทาด้วยหลอดแก้วที่สูบอากาศออกจน
หมดแล้วบรรจุไอปรอทไว้เล็กน้อย มีไส้ที่ปลายหลอดทั้งสองข้าง หลอดเรื องแสงอาจ
ทาเป็นหลอดตรง หรือคร่ ึ งวงกลมก็ได้ ส่วนประกอบและการทางานของหลอดเรือง
แสง มีดงน้ ี
ั
- 10. ตวหลอด ภายในสูบอากาศออกจนหมดแล้วบรรจุไอปรอทและก๊าซอาร์กอน เล็กน้อย
ั
ผิวด้านในของหลอดเรื องแสงฉาบด้วยสารเรื องแสงชนิดต่างๆ แล้วแต่ความต้องการให้
เรื องแสงเป็ นสี ใด เช่น ถ้าต้องการให้เรื องแสงสี เขียว ต้องฉาบด้วยสารซิงคซิลิเคต แสง
์
สีขาวแกมฟ้าฉาบดวยมักเนเซียมทังสเตน แสงสี ชมพูฉาบด้วยแคดเนียมบอเรตเป็นตน
้ ้
้ ั ุ ู่
2.2 ไสหลอด ทาดวยทงสเตนหรือวลแฟรมอยที่ปลายท้ งสองขาง เมื่อกระแสไฟฟ้าผาน
้ ั ้ ่
ไสหลอดจะทาใหไสหลอดร้อนข้ ึน ความร้อนที่เกิดข้ ึนจะทาใหไอปรอทที่บรรจุไวใน
้ ้ ้ ้ ้
หลอดกลายเป็นไอมากข้ ึน แต่ขณะน้ นกระแสไฟฟ้ายงผานไอปรอทไม่สะดวกเพราะ
ั ั ่
ปรอทยังเป็ นไอน้อยทาให้ความต้านทานของหลอดสูง
- 11. 3
สตาร์ตเตอร์ ทาหนาที่เป็นสวตซ์ไฟฟ้าอตโนมติของวงจรโดยต่อขนานกบหลอด ทา
ํ ้ ิ ั ั ั
ด้วยหลอดแก้วภายในบรรจุก๊าซนีออนและแผ่นโลหะคูที่งอตัวได้ เมื่อได้รับความร้อน
เมื่อกระแสไฟฟ้าผานก๊าซนีออน ก๊าซนีออนจะติดไฟเกิดความร้อนข้ ึน ทาใหแผน
่ ้ ่
โลหะคู่งอจนแตะติดกนทาใหกลายเป็นวงจรปิดทาใหกระแสไฟฟ้าผานแผน โลหะได้
ั ้ ้ ่ ่
ครบวงจร ก๊าซนีออนที่ติดไฟอยจะดบและเยนลงแผนโลหะคูจะแยกออกจากกนทาให้
ู่ ั ็ ่ ่ ั
เกิดความตานทานสูงข้ ึนอยางทนทีซ่ ึงขณะ เดียวกนกระแสไฟฟ้าจะผานไสหลอดได้
้ ่ ั ั ่ ้
มากข้ ึนทาใหไสหลอดร้อนข้ ึนมาก ปรอทก็จะเป็นไอมากข้ ึนจนพอที่นากระแสไฟฟ้า
้ ้
ได้ 2.4 แบลลสต์ เป็นขดลวดที่พนอยบนแกนเหลก ขณะกระแสไฟฟ้าไหลผานจะเกิด
ั ั ู่ ็ ่
การเหนี่ยวนาแม่เหลกไฟฟ้าทาใหเ้ กิดแรงเคลื่อน ไฟฟ้าเหนี่ยวนาข้ ึน เมื่อแผนโลหะคู่
็ ่
ในสตาร์ตเตอร์แยกตวออกจากกนน้ นจะเกิดวงจรเปิดชวขณะ แรงเคลื่อนไฟฟ้าเหนี่ยว
ั ั ั ั่
นาที่เกิดข้ ึนในแบลลสตจึงทาใหเ้ กิดความต่าง ศกยระหวางไสหลอดท้ งสองขางสูงข้ ึน
ั ์ ั ์ ่ ้ ั ้
่
เพียงพอที่จะทาใหกระแสไฟฟ้าไหลผาน ไอปรอทจากไสหลอดขางหน่ ึงไปยงไส้
้ ้ ้ ั
หลอดอีกขางหน่ ึงได้ แรงเคลื่อนไฟฟ้าเหนี่ยวนาที่เกิดจากแบลลสตน้ นจะทาใหเ้ กิด
้ ั ์ ั
ั
กระแสไฟฟ้า เหนี่ยวนาไหลสวนทางกบกระแสไฟฟ้าจากวงจรไฟฟ้าในบานทาให้ ้
กระแส ไฟฟ้าที่จะเขาสู่วงจรของหลอดเรืองแสงลดลง
้
- 12. หลกการทางานของหลอดฟลูออเรสเซนต์ เมื่อกระแสไฟฟ้าผานไอปรอท จะคาย
ั ่
พลงงานไฟฟ้าใหแก่ไอปรอท ซ่ ึงจะทาใหอะตอม ของไอปรอทอยในสภาวะถูกกระตน
ั ้ ้ ู่ ุ้
(exited state) เป็นผลใหอะตอมปรอทคายพลงงานออกมาเพื่อ ลดระดบพลงงานใน
้ ั ั ั
ตวเองในรูปของรังสีอลตราไวโอเลต ซ่ ึงมองไม่เห็น เมื่อรังสีชนิดน้ ีไปกระทบกบสาร
ั ั ั
วาวแสงที่ฉาบไว้ที่ผิวด้านในของหลอดฟลูออเรส เซนต์ สารเหล่าน้ ีจะเปลงแสงได้ ่
โดยใหแสงสีต่างๆตามชนิดของสารวาวแสงที่ฉาบไวภายในหลอดน้ น เช่น ซิงคซิลิเคท
้ ้ ั ์
(Zinc silicate)ให้แสงสี เขียว ซิงคเ์ บริ ลเลียมซิลิเคท (Zinc Beryllium silicate) ใหแสงสี
้
เหลืองนวล นอกจากน้ ียงอาจผสมสารวาวแสงเหล่าน้ ี เพื่อใหไดแสงสีผสมที่แตกตาง
ั ้ ้ ่
กันออกไปได้อีกด้วย
- 13. .หลอดไฟโฆษณาหรือหลอดนีออน หลอดไฟโฆษณาหรือหลอดนออน เป็ นหลอดแก้ว ี
ที่ถูกลนไฟแล้วดัดให้เป็ นรู ปหรื อตัวอักษร ไม่มีไส้หลอดแต่ที่ปลายทั้งสองข้างจะมี
ข้ วไฟฟ้าทาดวยโลหะ ต่อกบแหลงกาเนิดไฟฟ้า ที่มีความต่างศกยสูงประมาณ 10,000
ั ้ ั ่ ั ์
โวลต์ ภายในหลอดสูบอากาศออกจนหมดแลวใส่ก๊าซบางชนิดที่ใหแสงสีต่างๆออกมา
้ ้
เมื่อมีกระแสไฟฟ้ าผ่านเช่นก๊าซนีออนให้แสงสี แดงหรื อส้ม ก๊าซฮีเลียมให้แสงสี ชมพู
ความต่างศกยที่สูงมากๆจะทาใหก๊าซที่บรรจุไวในหลอดเกิดการแตกตวเป็นนีออน
ั ์ ้ ้ ั
และนาไฟฟ้าได้ เมื่อกระแสไฟฟ้าผานก๊าซเหล่าน้ ีจะทาใหก๊าซร้อนติดไฟใหแสงสี
่ ้ ้
ต่างๆได้
- 14. เครื่องใช้ไฟฟาทให้พลงงานความร้อน เป็ นเครื่ องใช้ที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้ าเป็ น
้ ี่ ั
พลงงานความร้อน โดยใชหลกการคือ เมื่อปล่อยกระแสไฟฟ้าผานขดลวดตวนาที่มี
ั ้ ั ่ ั
ความตานทานสูงๆ ลวดตวนาน้ นจะร้อนจนสามารถนาความร้อนออกไปใชประโยชน์
้ ั ั ้
ได้ เนื่องจากเป็นเครื่องใชไฟฟ้าที่ใหพลงงานความร้อนมาก จึงสินเปลี่ยนพลงงาน
้ ้ ั ั
ไฟฟ้ามากเมื่อเปรียบ ◌้กบการใชเ้ ครื่องใชไฟฟ้าประเภทอื่นๆ เมื่อใชในเวลาที่เท่ากน
ั ้ ้ ั
ฉะน้ นขณะใชเ้ ครื่องใชไฟฟ้าใหพลงงานความร้อนจึงควรใชดวยความระมดระวง
ั ้ ้ ั ้ ้ ั ั
ตวอยางเครื่องใชไฟฟ้าที่ใหพลงงานความร้อน เช่น เตารีด หมอหุงขาว กระทะไฟฟ้า
ั ่ ้ ้ ั ้ ้
กาตมนา เครื่องตมกาแฟเตาไฟฟ้า ฯลฯ
้ ้ ้
- 15. ส่วนประกอบในเครื่องใช้ไฟฟาทให้พลงงานความร้อน มดงนี้ 1. ขดลวดความร้อน
้ ี่ ั ี ั
่ ่ ั
หรือแผนความร้อน มกทาจากโลหะผสมระหวางนิเกิลกบโครเมียม เรียกวา นิโครม ซ่ ึง
ั ่
มีสมบัติคือมีจุดหลอมเหลวสูงมากจึงทนความร้อนได้สูงเมื่อมีความร้อนเกิดขึ้นมากๆ
จึงไม่ขาด และมีความตานทานสูงมาก 2. เทอโมสตาร์ท หรื อสวิตซ์ความร้อนอัตโนมัติ
้
ทาหน้าที่ควบคุมอุณหภูมิไม่ให้ร้อนเกินไป มีส่วนประกอบเป็ นโลหะต่างชนิดกัน 2
แผนมาประกบกน เมื่อไดรับความร้อนจะขยายตวไดไม่เท่ากน เช่น เหลกกบ
่ ั ้ ั ้ ั ็ ั
่ ้
ทองเหลือง โดยให้แผ่นโลหะที่ขยายตัวได้นอย(เหล็ก)อยูดานบน ส่วนโลหะที่จะ
้
ขยายตัวได้มาก(ทองเหลือง)อยดานล่าง เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผานแผนโลหะท้ งสอง
ู่ ้ ่ ่ ั
มากข้ ึน จะทาใหมีอุณหภูมิสูงจนแผนโลหะท้ งสองซ่ ึงขยายตวไดต่างกนโลหะที่
้ ่ ั ั ้ ั
ขยายตวได้ มากจะขยายตวโคงงอ เป็นเหตุใหจุดสมผสแยกออกจากกน เกิดเป็นวงจร
ั ั ้ ้ ั ั ั
เปิ ด กระแสไฟฟ้ าจึงไหลผ่านไม่ได้ และเมื่อแผ่นโลหะทั้งสองเย็นลงก็จะสัมผัสกัน
เหมือนเดิม เกิดเป็นวงจรปิด กระแสไฟฟ้าจึงไหลผานไดอีกคร้ ังหน่ ึง
่ ้
- 16. ข้อควรระวงในการใช้เครื่องใช้ไฟฟาที่ใหพลงงานความร้อน เนื่องจาก
ั ้ ้ ั
เครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่ให้พลังงานความร้อนจะมีกระแสไฟฟ้ าปริ มาณมากไหลผ่าน
มากกว่าเครื่องใชประเภทอื่นๆ จึงควรใชดวยความระมดระวงดงน้ ี - หมัน
้ ้ ้ ั ั ั ่
่
ตรวจสอบดูแลสายไฟ เต้ารับ เต้าเสี ยบ ให้อยูในสภาพเรี ยบร้อยไม่ชารุ ด - เมื่อ
เลิกใชงานตองถอดเตาเสียบออกจากเตารับทุกคร้ ังไม่ควรเสียบทิ้งไว ้
้ ้ ้ ้
- 17. หลกการทางานของเครื่องใช้ไฟฟาทให้ความร้อน เครื่องใชไฟฟ้าที่ใหความร้อน
ั ้ ี่ ้ ้
ั ่
มีหลกการคือเมื่อมีกระแสไฟฟ้าไหลผานความตานทานไฟฟ้าสูง พลงงานไฟฟ้าจะ
้ ั
ั ั ั ้ ่
เปลี่ยนเป็นพลงงานความร้อน ดงน้ น จึงใหกระแสไฟฟ้าไหลผานขดลวดนิโครมหรือ
่
แผนความร้อนซ่ ึงมีความตานทานไฟฟ้า สูงพลงงานไฟฟ้าจะเปลี่ยนเป็นพลงงานความ
้ ั ั
ร้อนมากแลวถ่ายเทพลงงานความร้อนไป ยงภาชนะ
้ ั ั
- 18. เครื่องใช้ไฟฟาทให้พลงงานความร้อน ใชพลงงานไฟฟ้ามากกวาเครื่องใชไฟฟ้า
้ ี่ ั ้ ั ่ ้
อื่นหลายเท่า กระแสไฟฟ้าที่ผานเครื่องใชไฟฟ้าเหล่าน้ ีมีปริมาณมากจึงตองใชดวย
่ ้ ้ ้ ้
ความระมดระวง เช่น คอยตรวจสอบสภาพของสายไฟ และเตาเสียบให้อยูในสภาพดี
ั ั ้
อยูเ่ สมอ ◌่เพื่อป้องกนอนตรายจากกระแสไฟฟ้ารั่ว ขณะใชเ้ ครื่องใชไฟฟ้าควรดูแล
ั ั ้
้ ่ ้ ้ั
ใกลชิด และอยาใชใกลกบสารไวไฟ เมื่อเลิกใชแลวตองถอดเตาเสียบออกทุกคร้ ัง
้ ้ ้ ้
- 19. เครื่องใช้ไฟฟาทให้พลงงานกล มีการเปลี่ยนรูปพลงงานไฟฟ้าเป็นพลงงานกล โดย
้ ี่ ั ั ั
อาศยหลกการเหนี่ยวนาแม่เหลกไฟฟ้า ดวยอุปกรณ์ ที่เรียกวามอเตอร์ และ เครื่อง
ั ั ็ ้ ่
ควบคุมความเร็ว ซ่ ึงเป็นอุปกรณ์หลกในเครื่องใชไฟฟ้าที่ใหพลงงานกล ตวอยาง
ั ้ ้ ั ั ่
เครื่องใชไฟฟ้าที่ใหพลงงานกล เช่น เครื่องปรับอากาศ ตเู ้ ยน พดลม เครื่องซกผา เครื่อง
้ ้ ั ็ ั ั ้
ปั่ นน้าผลไม้ ฯลฯ
- 20. ส่ วนประกอบของเครื่องใช้ ไฟฟาทีให้ พลังงานกล
้ ่
มอเตอร์ มอเตอร์ เป็นเครื่องใชไฟฟ้าที่เปลี่ยนพลงงานไฟฟ้าเป็นพลงงานกล
้ ั ั
่
ประกอบด้วยขดลวดที่พนรอบแกนโลหะที่วางอยูระหว่างขั้วแม่เหล็กโดยเมื่อผาน
ั ่
่
กระแสไฟฟ้าเขาไปยงขดลวดที่อยูระหว่างขั้วแม่เหล็ก จะทาให้ขดลวดหมุนไปรอบ
้ ั
แกนและเมื่อสลับข้ วไฟฟ้า การหมุนของขดลวดจะหมนกลบทิศทางเดิม
ั ุ ั
- 21. ประเภทของมอเตอร์ มี 2 ประเภท คือ มอเตอร์กระแสตรง และมอเตอร์
กระแสสลับ - มอเตอร์กระแสตรง เป็ นมอเตอร์ที่ตองใช้ไฟฟ้ ากระแสตรงผ่านเข้าไปใน
้
ขดลวดอาร์เมเจอร์เพื่อทาให้ เกิดการดูดและผลกกนของแมเ่ หลกถาวรกบ
ั ั ็ ั
แม่เหลกไฟฟ้าที่เกิดจากขดลวด มอเตอร์จึงหมนได้ - มอเตอร์กระแสสลับ เป็ นมอเตอร์
็ ุ
ที่ตองใชกบไฟฟ้ากระแสสลบโดยใชหลกการดูดและผลกกนของแม่เหลกถาวรกบ
้ ้ั ั ้ ั ั ั ็ ั
แม่เหลกไฟฟ้าจากขดลวดมาทาให้ เกิดการหมุนของมอเตอร์ ขอควรระวงในการใช้
็ ้ ั
เครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่มีมอเตอรเป็ นส่วนประกอบ คือห้ามใช้เครื่ องใช้ประเภทนี้ในช่วงที่ไฟ
ตก หรือแรงดนไฟฟ้าไม่ถึง 220 โวลต์เนื่องจากมอเตอร์จะไม่หมุนและทาให้เกิด
ั
กระแสไฟฟ้าดนกลบ จะทาใหขดลวดร้อนจดจนเกิดไหมเ้ สียหายได้
ั ั ้ ั
- 22. หลกการทางานของเครื่องใช้ ไฟฟ้ า
ั
ที่ใหพลงงานกล พลงงานกล ประกอบดวยขดลวดที่พนรอบแกน
้ ั ั ้ ั
โลหะที่วางอยระหว่างข้ วแม่เหลก โดยเมื่อผานกระแสไฟฟ้าเขาไปยงขดลวดที่
ู่ ั ็ ่ ้ ั
อยูระหว่างข้ วแม่เหลก จะทาใหขดลวดหมุนไปรอบแกน และเมื่อสลบ
่ ั ็ ้ ั
ข้ วไฟฟ้า การหมุนของขดลวดจะหมุนกลบทิศทางเดิม
ั ั
- 23. เครื่องใช้ ไฟฟาทีเ่ ปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานเสี ยง ได้แก่ เครื่ องรับวิทยุ
้ ่ ้
เครื่ องขยายเสี ยง เครื่ องบันทึกเสี ยง ฯลฯ 1.เครื่ องรับวิทยุ เป็ นอุปกรณ์ที่เปลี่ยนพลังงาน
ไฟฟ้าเป็นพลงงานเสียง โดยรับคลื่นวทยุ จากสถานีส่งแลวใชอุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์
ั ิ ้ ้ ็
่
ขยายสัญญาณเสี ยงที่มีอยูในรู ปของ สัญญาณไฟฟ้ าให้แรงขึ้นเมื่อผ่านสัญญาณไฟฟ้ านี้
ไปยงลาโพงจะทาใหลาโพงสนสะเทือนเปลี่ยนเป็นเสียงที่สามารถรับฟังได้ ดงแผนผง
ั ้ ั่ ั ั
แผนผงการเปลี่ยนพลงงานไฟฟ้าเป็นพลงงานเสียงของเครื่องรับวทยุ
ั ั ั ิ
- 24. เครื่องขยายเสี ยง(Amplifier) คือ เครื่องใชไฟฟ้าที่เปลี่ยนพลงงานไฟฟ้าเป็น
้ ั
พลงงานเสียงโดยรับสญญาณไฟฟ้าจากไมโครโฟน หวเทปหรือจาก เครื่องกาเนิด
ั ั ั
สญญาณไฟฟ้าจากเสียงต่างๆ มาขยายสญญาณไฟฟ้าจนมีกาลงมากพอจึงส่งออกสู่ลา
ั ั ั
โพงเสี ยง ส่วนประกอบของเครื่ องขยายเสี ยง 1. ไมโครโฟน เปลี่ยนพลงงานเสียงให้
ั
เป็นสญญาณไฟฟ้า 2. เครื่องขยายสญญาณไฟฟ้า ขยายสญญาณไฟฟ้าใหแรงข้ ึน 3. ลา
ั ั ั ้
โพง เปลี่ยนสญญาณไฟฟ้าใหเ้ ป็นพลงงานเสียง
ั ั
- 25. เครื่องบันทึกเสี ยง (Tape recorder) ขณะบันทึกด้วยการพูดผ่านไมโครโฟน ซึ่ ง
จะเปลี่ยนพลงงานเสียงเป็นสัญญาณไฟฟ้า แลวบนทึกลงในแถบบนทึกเสียงซ่ ึ ง
ั ้ ั ั
ฉาบดวยสารแม่เหลกในรูปของสัญญาณแม่เหลก ดงแผนผง แผนผงการเปลี่ยน
้ ็ ็ ั ั ั
พลังงานของเครืองบันทึกเสี ยงขณะบันทึก
- 26. เมื่อนาแถบบนทึกเสียงที่บนทึกไดมาเล่น สญญาณแม่เหลกจะถูกเปลี่ยนกลบเป็น
ั ั ้ ั ็ ั
สญญาณไฟฟ้า และสญญาณน้ ีจะถูกขยายใหแรงข้ ึนดวยอุปกรณ์ไฟฟ้าจนทาใหลาโพง
ั ั ้ ้ ้
สนสะเทือนเป็นเสียงข้ ึนอีกคร้ ังหน่ ึง ดงแผนผง สญญาณแม่เหลกจาก แผนผงการ
ั่ ั ั ั ็ ั
เปลี่ยนพลงงานของเครืองบนทึกเสียงขณะเล่น
ั ั
ในการใชเ้ ครื่องใชไฟฟ้าที่ใหพลงงานเสียง พวก วทยุ หรือเครื่องเสียงประเภท
้ ้ ั ิ
ตางๆ ส่วนใหญ่สิ้นเปลืองพลงงานไฟฟ้าไม่มาก แต่ท้ งน้ ีข้ ึนอยกบ กาลงไฟฟ้าของ
่ ั ั ู่ ั ั
่
เครื่ องเสี ยงนั้นๆ และขึ้นอยูกบความดังของเสี ยงในการเปิ ดฟังด้วย