SlideShare a Scribd company logo
1 of 19
Download to read offline
บทที่ 2


                                        เอกสารที่เกี่ยวข้อง


        ในการจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpress
เรื่องภาษาคอมพิวเตอร์ นี้ ผู้จัดทาโครงงานได้ศึกษาเอกสารและจากเว็บไซต์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
ดังต่อไปนี้

        2.1 ความสาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและอินเทอร์เน็ต
        2.2 ข้อมูลเกี่ยวกับสื่อสังคม Social Media
        2.3 เว็บบล็อก (WebBlog)

2.1 ความสาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและอินเทอร์เน็ต

        ความสาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ
เทคโนโลยีสารสนเทศมีความสาคัญต่อการพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ เป็นอย่างมาก ตัวอย่างเช่น
1. การศึกษา เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยในด้านการค้นคว้าศึกษาแหล่งข้อมูล ทาให้การศึกษาง่ายขึ้น
และ ไร้ขีดจากัด ผู้เรียนมีความสะดวกในการค้นคว้าวิจัย
2. การดารงชีวิตประจาวัน ทาให้มีความสะดวกคล่องตัวและรวดเร็วในการทากิจกรรมต่าง ๆ ที่
เกิดขึ้นใน ชีวิตประจาวัน สามารถทางานได้หลายอย่างในเวลาเดียวกันได้ หรือทางานใช้เวลาน้อยลง
3. การดาเนินธุรกิจ ทาให้มีการแข่งขันระหว่างธุรกิจมากขึ้น ทาให้ต้องมีการพัฒนาองค์กรเพื่อให้
ทันกับข้อมูล ข่าวสารอยู่ตลอดเวลา อันส่งผลต่อการพัฒนาประเทศอย่างต่อเนื่อง
4. อัตราการขยายตัวทุก ๆ ด้านที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะมีการติดต่อสื่ อสารที่เจริญก้าวหน้า
ทันสมัย รวดเร็ว ถูกต้องและทาให้เป็นโลกที่ไร้พรมแดน
5. ระบบการทางานมีคอมพิวเตอร์มาใช้ซื่อสามารถทางานได้มากขึ้น งานบางอย่างมนุษย์ทาไม่ได้ก็
ใช้ คอมพิวเตอร์ช่วยทางานแทนซึ่งได้ผลถูกต้องรวดเร็ว
ความสาคัญของอินเทอร์เน็ต

ในปัจจุบันอินเทอร์เน็ ตมีบทบาทและมีความสาคัญต่อชีวิตประจาวันของคนเราเป็นอย่างมาก เพราะ

ทาให้วิถีชีวิตเราทันสมัยและทันเหตุการณ์อยู่เสมอ เนื่องจากอินเทอร์เน็ตจะมีการเสนอข้อมูลข่าว

ปัจจุบัน และสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นให้ผู้ใช้ทราบเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน สารสนเทศที่เสนอใน

อินเทอร์เน็ตจะมีมากมายหลายรูปแบบเพื่อสนองความสนใจและความต้องการของผู้ใช้ทุกกลุ่ม

อินเทอร์เน็ตจึงเป็นแหล่งสารสนเทศสาคัญสาหรับทุกคนเพราะสามารถค้นหาสิ่งที่ตนสนใจได้

ในทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปค้นคว้าในห้องสมุด หรือแม้แต่การรับรู้ข่าวสารทั่วโลกก็

สามารถอ่านได้ในอินเทอร์เน็ ตจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ของหนังสือพิมพ์

ดังนั้นอินเทอร์เน็ตจึงมีความสาคัญกับวิถีชีวิตของคนเราในปัจจุบันเป็นอย่างมากในทุก ๆ ด้าน ไม่

ว่าจะเป็นบุคคลที่อยู่ในวงการธุรกิจ การศึกษา ต่างก็ได้รับประโยชน์จากอินเทอร์เน็ตด้วยกันทั้งนั้น

1.      ด้านการศึกษา อินเทอร์เน็ตมีความสาคั ญ ดังนี้


สามารถใช้เป็นแหล่งค้นคว้าหาข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลด้านการบันเทิง ด้าน

การแพทย์ และอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

2. ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต จะทาหน้าที่เปรียบเสมือนเป็นห้องสมุดขนาดใหญ่

3. นักเรียนนักศึกษาสามารถใช้อินเทอร์เน็ตติดต่อกับมหาวิท ยาลัยหรือโรงเรียนอื่น ๆ เพื่อค้นหา

ข้อมูลที่กาลังศึกษาอยู่ได้ ทั้งที่ข้อมูลที่เป็นข้อความเสียง ภาพเคลื่อนไหวต่าง ๆ
2. ด้านธุรกิจและการพาณิชย์ อินเทอร์เน็ตมีความสาคัญดังนี้

2.1 ค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจ

2.2 สามารถซื้อขายสินค้า ทาธุรกรรมผ่านระบบเครือข่าย

2.3 เป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์ โฆษณาสินค้า ติดต่อสื่อสารทางธุรกิจ

2.4 ผู้ใช้ที่เป็นบริษัท หรือองค์กรต่าง ๆ ก็สามารถเปิดให้บริการ และสนับสนุนลูกค้าของตนผ่าน

ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ เช่น การให้คาแนะนา สอบถามปัญหาต่าง ๆ ให้แก่ลูกค้า แจกจ่ายตัว

โปรแกรมทดลองใช้ (Shareware) โปรแกรมแจกฟรี (Freeware)


3. ด้านการบันเทิง อินเทอร์เน็ตมีความสาคัญดังนี้

3.1 การพักผ่อนหย่อนใจ สันทนาการ เช่น การค้นหาวารสารต่าง ๆ ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

ที่เรียกว่า Magazine Online รวมทั้งหนังสือพิมพ์และข่าวสารอื่น ๆ โดยมีภาพประกอบที่

จอคอมพิวเตอร์เหมือนกับวารสารตามร้านหนังสือทั่ว ๆ ไป

3.2 สามารถฟังวิทยุหรือดูรายการโทรทัศน์ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้

3.3 สามารถดึงข้อมูล (Download) ภาพยนตร์มาดูได้
2.2 ข้อมูลเกี่ยวกับสื่อสังคม Social Media
       2.2.1 ความหมายของ Social Media
Social Media คืออะไร

สาหรับในยุคนี้ เราคงจะหลีกเลี่ยงหรือหนีคาว่า Social Media ไปไม่ได้ เพราะไม่ว่าจะไปที่ไหน ก็
จะพบเห็นมันอยู่ตลอดเวลา ซึ่งหลายๆ คนก็อาจจะยังสงสัยว่า “Social Media” มันคืออะไรกันแน่
วันนี้เราจะมารู้จักความหมายของมันกันครั บ

คาว่า “Social” หมายถึง สังคม ซึ่งในที่นี้จะหมายถึงสังคมออนไลน์ ซึ่งมีขนาดใหม่มากในปัจจุบัน

คาว่า “Media” หมายถึง สื่อ ซึ่งก็คือ เนื้อหา เรื่องราว บทความ วีดีโอ เพลง รูปภาพ เป็นต้น

ดังนั้นคาว่า Social Media จึงหมายถึง สื่อสังคมออนไลน์ที่มีการตอบสนองทางสังคมได้หลาย
ทิศทาง โดยผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต พูดง่ายๆ ก็คือเว็บไซต์ที่บุคคลบนโลกนี้สามารถมีปฏิสัมพันธ์
โต้ตอบกันได้นั่นเอง

พื้นฐานการเกิด Social Media ก็มาจากความต้องการของมนุษย์หรือคนเราที่ต้องการติดต่อสื่อสาร
หรือมีปฏิสัมพันธ์กัน จากเดิมเรามีเว็บในยุค 1.0 ซึ่งก็คือเว็บที่แสดงเนื้อหาอย่างเดียว บุคคลแต่ละ
คนไม่สามารถติดต่อหรือโต้ตอบกันได้ แต่เมื่อเทคโนโลยีเว็บพัฒนาเข้าสู่ยุค 2.0 ก็มีการพัฒนา
เว็บไซต์ที่เรียกว่า web application ซึ่งก็คือเว็บไซต์มีแอพลิเคชันหรือโปรแกรมต่างๆ ที่มีการโต้ตอบ
กับผู้ใช้งานมากขึ้น ผู้ใช้งานแต่ละคนสามารถโต้ตอบกันได้ผ่านหน้าเว็บ
2.2.2 ประวัติความเป็นมาและพัฒนาการของ Social Media

พัฒนาการของ Social Media

         พูดถึงกันมากเหลือเกินสาหรับ สื่อสังคมออนไลน์        (Social Media) ซึ่งเรียกได้ว่าเป็น

ตัวกลาง เป็นเครื่องมือ สาหรับการสื่อสารระหว่างกัน โดยปัจจุบันได้ขยายผลกว้างครอบคลุมไปถึง

การทางานร่วมกัน ทั้งภายใน และ ภายนอกองค์กร โดยอาศัยเว็บ และ โมบายเทคโนโลยี เป็นตัว

ช่วย ถ้าจะเปรียบเทียบก็น่าจะเป็นคู่แฝดแห่งยุคดิจิตอล อย่างเมื่อกว่า 200 ปีก่อน มีแฝดอิ นจัน ที่ไป

สร้างชื่อเสียงในต่างประเทศ จนมีการตั้งชื่อแฝดลักษณะที่มีลาตัวติดกันเช่นนี้ว่า แฝดสยาม

ถ้าว่าไปแล้ว แฝดสยามในยุคดิจิตอล ก็คงหนีไม่พ้น สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) กับ สมาร์ท
โฟน (Smartphone) ที่มักจะไปเป็นคู่ยากที่จะแยกออกจากกันได้ เมื่อศึกษาถึงคาจากัดความของ
สังคมออนไลน์ (Social Media) จะพบว่าคือกลุ่มของแอพพลิเคชั่น บนอินเทอร์เน็ต ที่สร้างขึ้นมา
บนพื้นฐานแนวคิด และเทคโนโลยี Web 2.0 ซึ่งรองรับให้มีการสร้าง และ แลกเปลี่ยน คอนเทนต์ที่
ผู้ใช้เป็นผู้สร้างเอง (User-generated content) เมื่อพิจารณาโดยรวมแล้ว สามารถเรียกได้ว่า สื่อสังคม
ออนไลน์ (Social Media) เป็นการผสมผสานกันระหว่าง เทคโนโลยี กับ การสื่อสารระหว่างกันใน
สังคม เพื่อสร้างเสริมมูลค่าให้เพิ่มขึ้น
         เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป โดยเฉพาะยุคดิจิตอลอย่างทุกวันนี้ การแสดงความคิดเห็นดูจะเป็น

เรื่องง่าย บนสื่อสั งคมออนไลน์ เป็นหนึ่งตัวอย่างที่ทาให้พนักงานรายหนึ่งในอเมริกา ถูกไล่ออก

หลังจากที่เธอได้วิจารณ์เจ้านายของเธอบน เฟชบุ๊ก (Facebook) เรื่องเกิดขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา พนักงาน

หญิงรายนี้ได้เขียนข้อคิดเห็นของเธอ บนหน้าเฟชบุ๊ก ด้วยคาพูดที่หยาบคาย คดีนี้ถูกจับตามองทั่ว

จากทุกวงการ ด้วยความกังขาว่า นายจ้างมีสิทธิที่จะลงโทษพนักงานที่เขียนข้อคิดเห็นบน สังคม

ออนไลน์ หรือไม่ เท่าที่ทราบในเมืองไทยเรายังไม่เคยได้ยิน เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้น
เกมในเฟซบุ๊ก น่าจะเป็นตัวสร้างความสัมพันธ์ได้อย่างดี ด้วยกลยุทธ์ว่าใครมีเพื่อนเยอะก็จะ          ได้

อะไรเพิ่มขึ้นในเกม นอกจากนั้น ยังมีการหลอกล่อให้ต้องมีเพื่อนมาร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในเกม

ปลูกผักเลี้ยงปลากันใหญ่ วันก่อนมีโอกาสไปบรรยายเรื่องสังคมออนไลน์ให้กับกรมส่งเสริม

การเกษตร ก็เล่าไปว่าบ้านเราน่าจะทาเกมลักษณะนี้ในรูปแบบไทยๆ บ้านเรามีเกษตรกร กว่าครึ่ ง

ค่อนประเทศ นี่ยังไม่นับรวมท่านที่ชอบทาการเกษตรบนโลกออนไลน์

ในทางกลับกัน บางประเทศกลับห้ามใช้งานเว็บนี้ บางบริษัทก็ห้ามใช้เนื่องจากเสียเวลาการทางาน

ของพนักงาน เฟซบุ๊คได้รับการจัดอันดับเป็นเว็บสังคมออนไลน์ที่มีผู้ใช้มากที่สุดในปี ค .ศ. 2009

จานวนผู้ใช้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว และที่น่าสนใจก็คือจานวนผู้เล่นอินเทอร์เน็ตในสหรัฐฯ เข้าใช้งาน

มากกว่ากูเกิลเป็นครั้งแรกช่วงต้นปี 2010 อีกด้วย

ล่าสุดมีข่าวการใช้เฟซบุ๊ก เพื่อช่วยเหลือชีวิต ปกติเรามักจะได้ยินการใช้สังคมออนไลน์ เป็นสื่อ เป็น

เครื่องมือทางการตลาด แต่ล่าสุดมีข่า วจากสานักข่าวต่างประเทศได้รายงานเกี่ยวกับการประกาศรับ

บริจาคไตในเฟซบุ๊ก เรื่องเกิดที่สหรัฐฯ มีผู้ป่วยที่ต้องการปลูกถ่ายไต ต้องเปลี่ยนไตใหม่ภายในเวลา

จากัด เมื่อปรึกษากับแพทย์ที่ดูแลอยู่ จึงได้ตัดสินใจลองประกาศลงในเฟซบุ๊ก แล้วก็มีผู้ที่ประสงค์

จะบริจาคไตให้ โด ยไม่ได้มีความสนิทสนมกันเป็นพิเศษแต่อย่างใด เป็นเพียงเพื่อนในเฟซบุ๊ก ผู้รับ

บริจาคเมื่อได้รับข้อความแสดงความจานงจะบริจาคไตให้ ในตอนแรกยังคิดว่าเป็นเรื่องล้อเล่นกัน

แต่เมื่อต้นเดือนเมษายน 2010 แพทย์ก็ได้เปลี่ยนไตที่บริจาคให้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

การศึกษาล่าสุดพบว่าหญิงสาววัยรุ่น ที่นั่งจ้องเฟชบุ๊คทั้งวัน อาจเป็นสาเหตุให้เกิดอาการผิดปกติใน

เรื่องการทานอาหาร จากการศึกษาพบว่าสองสาเหตุหลักที่ทาให้เกิด อาการการทานอาหารผิดปกติ

คือ การใช้เวลามากเกินไปกับ พฤติกรรมการบริโภคสื่อ และ การเป็นตัวของตัวเองมากเกินไป
ผลจากการสารวจเด็กวัยรุ่นช่วงอายุ 12 ถึง 19 ปี พบว่าพฤติกรรมการบริโภคสื่อ อินเทอร์เน็ต และ

โทรทัศน์ มีผลกระทบต่อพฤติกรรมของแต่ละคนโดยตรง

จากผลการสารวจพบว่า ยิ่งใช้เวลากับเฟ ชบุ๊ก มากเท่าไหร่ ก็จะมีโอกาสจะพบอาการอยากอาหาร

มากผิดปกติ ภาวะเบื่ออาหาร ไม่พึงพอใจในสรีระข องตัวเอง และ ความต้องการอยากลดน้าหนัก

มากขึ้น

เมื่อมีจานวนผู้ใช้ สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) มากขึ้นเท่าใร ย่อมเป็นโอกาสในการทาธุรกิจ

จึงเกิดคาว่า Social Commerce ขึ้น และได้รับความสนใจมากในช่วงนี้ หรือถ้าลองค้นหา คาว่า “e-

mail vs. Social Media” ในกูเกิล จะพบผลลัพธ์มากเป็นหลายหมื่น จึงเป็นสิ่งที่ชัดเจนว่าเป็นหัวข้อ

ร้อน จนบางที คนนิยามว่าเป็นการทาสงครามบนโลกดิจิตอล บ้างก็กล่าวว่าคงเป็นจุดจบของ อีเมล์

และคลื่นลูกใหม่ที่มาก็คือ สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media)

อีกแง่มุมหนึ่งที่ดูเข้าท่าก็คือ ทั้งอีเมล์ และ สื่อสังคมออนไลน์ จะเป็นตัวเสริมกันและกัน เพื่อการ
ตัดสินใจทางธุรกิจ เราควรที่จะโฟกัสสองเรื่องใหญ่ๆ คือ กลุ่มเป้าหมาย และ เจตนา มาเริ่มด้วย
กลุ่มเป้าหมาย
* ถ้ากลุ่มเป้าหมายอายุต่ากว่า 20 ปี น่าจะค่อนข้างชัดเจนว่า การใช้สื่อสังคมออนไลน์ จะเป็น

ทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด

*ถ้ากลุ่มธุรกิจเป็นกลุ่มเป้าหมายของเรา การใช้อีเมล์ ถูกมองว่าเราจะได้ผลเร็วกว่า ในทางกลับกัน

ถ้าลูกค้าทั่วไปเป็นกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจ การใช้ สื่อสังคมออนไลน์ น่าจะได้ผลที่ดีกว่า เนื่องจาก

ลูกค้าจะเชื่อ และฟัง ความเห็นของคนอื่นๆ ที่ให้ไว้บนสื่อสัง คมออนไลน์
*สาหรับกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ที่ทางาน อีเมล์เป็นคาตอบของเรา แต่ถ้าต้องการมุ่งไปที่อยู่ที่บ้าน สื่อ

สังคมออนไลน์ น่าจะให้ผลตอบรับที่ดีกว่า

จะเห็นได้ว่าการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายทั้งทาง ประชากรศาสตร์ (Demographic) และเชิงจิตวิทยา

เป็นสิ่งที่สาคัญทั้งคู่ ในการเลือกว่า อีเมล์ หรือ สื่อสังคมออนไลน์ จะเหมาะสมกับธุรกิจ อย่างไรก็

ตามในหลายกรณี เราควรใช้ทั้งสองช่องทาง ในการติดต่อสื่อสาร

ส่วนเจตนา หรือ รูปแบบของธุรกิจ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ควรนามาพิจารณา

* ถ้าต้องการทาธุรกิจแบบ ขายตรง สื่อสังคมออนไลน์ อาจจะไม่ค่อยเหมาะสมนัก อีเมล์ น่าจะให้

ผลลัพธ์ที่ดีกว่า

* เมื่อมีความต้องการที่จะสร้างความสัมพันธ์ ในระยะยาว การเริ่มต้นด้วย สื่อสังคมออนไลน์

ในช่วงแรก แล้วปรับมาใช้อีเมล์ น่าจะเป็นแนวทางที่ดี

* หากธุรกิจของเราต้องการ การตอบรับที่รวดเร็ว สาหรับกลุ่มวัยรุ่นแล้ว สื่อสังคมออนไลน์ เป็น

ทางเลือกที่เหมาะสม ส่วนกลุ่มวัยทางานที่ทางานมาพอสมควร การตอบรับอีเมล์ ของคนกลุ่มนี้ ก็

จะค่อยข้างเร็ว

* เมื่อเราต้องการที่จะทาธุรกิจ ผ่านการสื่อสาร อีเมล์ ยังคงเป็นสิ่งที่เราต้องใ ช้ เราต้องจัดการกับ

อีเมล์ที่เข้ามาอย่างมีประสิทธิภาพ และรวดเร็ว ถ้าไม่สามารถโต้ตอบด้วยความรวดเร็วแล้ว ธุรกิจ

ของเราอาจจะมีปัญหาได้ ต่างกับถ้าเราไม่ ทวิต ทุกวัน คงจะไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจมากเท่าไหร่นัก
เราจึงยังเห็นว่า นักธุรกิจส่วนใหญ่ ยังคงให้ความสาคัญกับ อีเมล์ ดังนั้นถ้าต้องการทาธุรกิจกับใครก็
ตาม เราควรเริ่มด้วย สื่อสังคมออนไลน์ เป็นตัวนา ให้เราสามารถเจาะเข้าถึง อีเมล์ ของ
กลุ่มเป้าหมายให้ได้ อย่างไรก็ตามเมื่อยุค สมัย เปลี่ยนไป การใช้อีเมล์ สาหรับคนรุ่นใหม่ อาจจะไม่
สาคัญเท่ากับ การมีตัวตนบน สื่อสังคมออนไลน์ จนกลายเป็นวิวัฒนาการ บนโลกออนไลน์ ไม่ใช่
เป็นสงครามบนโลกออนไลน์ก็ว่าได้
2.2.3 ประเภทเว็บไซต์ที่ให้บริการ Social Media
              Google Group – เว็บไซต์ในรูปแบบ Social Networking




-

Wikipedia – เว็บไซต์ในรูปแบบข้อมูลอ้างอิง
-

MySpace – เว็บไซต์ในรูปแบบ Social Networking




-

Facebook -เว็บไซต์ในรูปแบบ Social Networking




-
MouthShut – เว็บไซต์ในรูปแบบ Product Reviews




-

Yelp – เว็บไซต์ในรูปแบบ Product Reviews




-
Youmeo – เว็บที่รวม Social Network




-

Last.fm – เว็บเพลงส่วนตัว Personal Music




-
YouTube – เว็บไซต์ Social Networking และ แชร์วิดีโอ




-

Avatars United – เว็บไซต์ในรูปแบบ Social Networking




-
Second Life – เว็บไซต์ในรูปแบบโลกเสมือนจริง Virtual Reality




-

Flickr – เว็บแชร์รูปภาพ
2.3 เว็บบล็อก (WebBlog)
        2.3.1 ความหมายของเว็บบล็อก (WebBlog)
                   บล็อก (blog) เป็นคารวมมาจากคาว่า เว็บล็อก (weblog) เป็นรูปแบบเว็บไซต์ประเภทหนึ่ง ซึ่ง
ถูกเขียนขึ้นในลาดับที่เรียงตามเวลาในการเขียน ซึ่งจะแสดงข้อมูลที่เขียนล่าสุดไว้แรกสุด บล็อกโดยปกติจะ
ประกอบด้วย ข้อความ ภาพ ลิงก์ ซึ่งบางครั้งจะรวมสื่อต่างๆ ไม่ว่า เพลง หรือวิดีโอในหลายรูปแบบได้ จุดที่
แตกต่างของบล็อกกับเว็บไซต์โดยปกติคือ บล็อกจะเปิดให้ผู้เข้ามาอ่านข้อมูล สามารถแสดงความคิดเห็นต่อท้าย
ข้อความที่เจ้าของบล็อกเป็นคนเขียน ซึ่งทาให้ผู้เขียนสามารถได้ผลตอบกลับโดยทันที คาว่า "บล็อก"ยังใช้เป็น
คากริยาได้ซึ่งหมายถึง การเขียนบล็อก และนอกจากนี้ผู้ที่เขียนบล็อกเป็นอาชีพก็จะถูกเรียกว่า "บล็อกเกอร์"

บล็อกเป็นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาหลากหลายขึ้นอยู่กับเจ้าของบล็อก โดยสามารถใช้เป็นเครื่องมือสื่อสาร การประกาศ
ข่าวสาร การแสดงความคิดเห็น การเผยแพร่ผลงาน ในหลายด้านไม่ว่า อาหาร การเมือง เทคโนโลยี หรือข่าว
ปัจจุบัน นอกจากนี้บล็อกที่ถูกเขียนเฉพาะเรื่องส่วนตัวหรือจะเรียกว่าไดอารีออนไลน์ซึ่งไดอารีออนไลน์นี่เองเป็น
จุดเริ่มต้นของการใช้บล็อกในปัจจุบัน นอกจากนี้ตามบริษัทเอกชนหลายแห่งได้มีการจัดทาบล็อกของทางบริษัท
ขึ้น เพื่อเสนอแนวความเห็นใหม่ใหักับลูกค้า โดยมีการเขียนบล็อกออกมาในลักษณะเดียวกับข่าวสั้น และได้รับ
การตอบรับจากทางลูกค้าที่แสดงความเห็นตอบกลับเข้าไป เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์
2.3.2 ประเภทของเว็บบล็อก
                   บล็อกที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบันนี้ ใช่มีเพียงแค่บล็อกที่เป็นตัวหนังสือและรูปภาพเท่านั้น หรือ มี
แค่ออนไลน์ไดอารี่ เราแบ่งบล็อกออกได้ ดังต่อไปนี้
1. แบ่งตามลักษณะของมีเดียที่มีในบล็อกได้แก่1.1. Linklog บล็อกแบบนี้น่าจะเป็นบล็อกรุ่นแรก ๆ เป็นบล็อกที่
รวมลิ๊งก์ที่เจ้าของบล็อกสนใจเอาไว้ ถ้าคณยังจาผู้ให้กาเนิดคาว่า “บล็อก” ที่ชื่อ จอห์น บาจเจอร์ได้ นั่นแหล่ะครับ
robotwisdom.com ของเขาคือตัวอย่างของ linklog นั่นเอง แม้ว่าจะบล็อกแบบนี้จะเป็นการรวมลิ๊งก์เท่านั้น แต่ก็ไม่
เรียงเหมือนว็บไดเร็กทอรี่ เพราะเจ้าของบล็อกจะโพสต์ลิ๊งก์ของเขา 1 – 2 ลิ๊งก์ต่อโพสต์เท่านั้นครับ ใครที่อยากมี
บล็อกเป็นของตนเองแต่ยังนึกไม่ออกว่าจะทาบล็อกแบบไหน linklog น่าจะเป็นการเริ่มต้นการทาบล็อกได้เป็น
อย่างดี1.2 Photoblog ชื่อก็บอกอยู่แล้วครับว่า Photo บล็อกประเภทนี้เน้นในโพสต์ภาพถ่ายที่เจ้าของบล็อกอยาก
นาเสนอ และมักจะไม่เน้นที่จะเขียนข้อความมากนัก บางบล็อกเรียกได้ว่าภาพโดยเจ้าของบล็อกล้วน ๆ เลยครับ
1.3. Vlog ย่อมาจาก Videoblog เป็นบล็อกที่รวมวิดีโอคลิปไว้ในบล็อก Vlog เป็นบล็อกที่เรียกได้วาเป็นบล็อกที่
                                                                                           ่
นิยมทากันมากในอนาคต เพราะการเจริญเติบโตของไฮสปีด อินเตอร์เน็ต หรือ อินเตอร์เน็ตบอร์ดแบนด์ ที่ทาให้
การถ่ายทอดเสียง ภาพเคลื่อนไหว movie […]
2. แบ่งตามประเภทเนื้อหา ได้แก่2.1 บล็อกส่วนตัว(Personal Blog) นาแสนอความคิดเห็น กิจวัตรประจาวันของ
เจ้าของบล็อกเป็นหลัก2.2 บล็อกข่าว(News Blog) บล็อกที่นาเสนอข่าวเป็นหลัก2.3 บล็อกกลุ่ม(Collaborative
Blog) เป็นบล็อกที่เขียนกันเป็นกลุ่ม เช่น blognone.com2.4 บล็อกการเมือง(Politic Blog) ว่าด้วยเรื่องการเมือง
ล้วน ๆ2.5 บล็อกเพื่อสิ่งแวดล้อม(Environment Blog) พูดถึงเรื่องราวของธรรมชาติและการรักษาสิ่งแวดล้อม2.6
มีเดียบล็อก(Media Blog) เป็นบล็อกที่วิเคราะห์สื่อต่างๆ สารคดีและสิ่งที่เกี่ยวกับสื่อ เช่น oknation.net/blog/black
ของสุทธิชัย หยุ่น2.7 บล็อกบันเทิง(Entertainment Blog) บล็อกที่นาเสนอเรื่องราวบันเทิงทั้งทางจอแก้ว และจอ
เงิน เรื่องซุบซุดารา กองถ่าย ฯลฯ2.8 บล็อกเพื่อการศึกษา(Educational Blog) ในโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัยใน
ต่างประเทศมักจะใช้บล็อกเป็นสื่อในการสอนหรือ แลกเปลี่ยนความคิดกัน2.9 ติวเตอร์บล็อก(Tutorial Blog) เป็น
บล็อกที่นาเสนอวิธีการต่าง
2.3.3 เว็บไซต์ที่ให้บริการเว็บบล็อก

www.blogger.com              www.exteen.com
www.mapandy.com              www.buddythai.com
www.imigg.com                www.5iam.com
www.blogprathai.com          www.ndesignsblog.com
www.idatablog.com            www.inewblog.com
www.onblogme.com             www.freeseoblogs.com
www.sumhua.com               www.diaryi.net
www.istoreblog.com           www.skypream.com
www.thailandspace.com        www.sungson.com
www.gujaba.com               www.sabuyblog.com
www.ugetblog.com             www.jaideespace.com
www.maxsiteth.com            www.my2blog.com
www.wordpress.com
2.3.4 ประวัติของเว็บไซต์ Wordpress
         WordPress คือ โปรแกรมสาเร็จรูปตัวหนึ่ง ที่เอาไว้สาหรับสร้าง บล็อก หรือ เว็บไซต์
สามารถใช้งานได้ฟรี ถูกจัดอยู่ในประเภท CMS (Contents Management System) ซึ่งหมายถึง
โปรแกรมสาเร็จรูปที่มีไว้สาหรับสร้างและบริหารจัดการเนื้อหาและข้อมูลบนเว็บไซต์
WordPress ได้รับการพัฒนาและเขียนชุดคาสั่งมาจากภาษา PHP (เป็นภาษาโปรแกรมมิ่งตัวหนึ่ง)
ทางานบนฐานข้อมูล MySQL ซึ่งเป็นโปรแกรมสาหรับจัดการฐานข้อมูล มีหน้าที่เก็บ เรียกดู แก้ไข
เพิ่มและลบข้อมูล การใช้งาน WordPress ร่วมกับ MySQL อยู่ภายใต้สัญญาอนุญาตใช้งานแบบ
GNU General Public License
WordPress ปรากฏโฉมครั้งแรกในโลกเมื่อปี พ.ศ. 2546 (2003) เป็นความร่วมมือกันระหว่าง Matt
Mullenweg และ Mike Littlej มีเว็บไซต์หลักอยู่ที่ http://wordpress.org และยังมีบริการ Free
Hosting (พื้นที่สาหรับเก็บทุกอย่างของเว็บ/บล็อก) โดยขอใช้บริการได้ที่ http://wordpress.com
ปัจจุบันนี้ WordPress ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนมีผู้ใช้งานมากกว่า 200 ล้านเว็บ
บล็อกไปแล้ว แซงหน้า CMS ตัวอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น Drupal , Mambo และ Joomla สาเหตุเป็นเพราะ
ใช้งานง่าย ไม่จาเป็นต้องมีความรู้ในเรื่อง Programing มีรูปแบบที่สวยงาม อีกทั้งยังมีผู้พัฒนา
Theme (รูปแบบการแสดงผล) และ Plugins (โปรแกรมเสริม) ให้เลือกใช้ฟรีอย่างมากมาย
นอกจากนี้ สาหรับนักพัฒนา WordPress ยังมี Codex เอาไว้ให้เราได้เป็นไกด์ไลน์ เพื่อศึกษา
องค์ประกอบส่วนต่าง ๆ ที่อยู่ภายใน สาหรับพัฒนาต่อยอด หรือ นาไปสร้าง Theme และ Plugins
ขึ้นมาเองได้อีกด้วย หนาซ้า ยังมีรุ่นพิเศษ คือ WordPress MU สาหรับไว้ให้ผู้นาไปใช้ สามารถเปิด
ให้บริการพื้นที่ทาเว็บบล็อกเป็นของตนเอง เพื่อให้ผู้อื่นมาสมัครขอร่วมใช้บริการในการสร้างเว็บ
บล็อก ภายใต้ชื่อโดเมนของเขา หรือที่เรียกว่า Sub-Domain

More Related Content

What's hot

02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องMiw Inthuorn
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมร
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมรแบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมร
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมรM'suKanya MinHyuk
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องWilaiporn Seehawong
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2teeraratWI
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องNinna Natsu
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องM'suKanya MinHyuk
 
โครงงาน แอนดรอยด์
โครงงาน แอนดรอยด์โครงงาน แอนดรอยด์
โครงงาน แอนดรอยด์teerarat55
 

What's hot (16)

02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมร
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมรแบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมร
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมร
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
บทที่2
บทที่2บทที่2
บทที่2
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
บทที่222222+++
บทที่222222+++บทที่222222+++
บทที่222222+++
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
บทที่2
บทที่2บทที่2
บทที่2
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
โครงงาน แอนดรอยด์
โครงงาน แอนดรอยด์โครงงาน แอนดรอยด์
โครงงาน แอนดรอยด์
 
155555555555555555555555555555555+
155555555555555555555555555555555+155555555555555555555555555555555+
155555555555555555555555555555555+
 
155555555555555555555555555555555+
155555555555555555555555555555555+155555555555555555555555555555555+
155555555555555555555555555555555+
 

Viewers also liked

02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องPongtep Treeone
 
บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
บทที่  2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องบทที่  2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องmoohhack
 
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องKittichai Pinlert
 
รูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บท
รูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บทรูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บท
รูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บทAekapoj Poosathan
 
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องRung Sensabe
 
ส่วนนำรายงาน
ส่วนนำรายงานส่วนนำรายงาน
ส่วนนำรายงานRung Sensabe
 
โครงงานคอมยางพารา
โครงงานคอมยางพาราโครงงานคอมยางพารา
โครงงานคอมยางพาราKruPor Sirirat Namthai
 
หน้าปกโครงงาน
หน้าปกโครงงานหน้าปกโครงงาน
หน้าปกโครงงานKanistha Chudchum
 
ตัวอย่างโครงงานคอม
ตัวอย่างโครงงานคอมตัวอย่างโครงงานคอม
ตัวอย่างโครงงานคอมปยล วชย.
 

Viewers also liked (10)

02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
บทที่  2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องบทที่  2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
 
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
รูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บท
รูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บทรูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บท
รูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บท
 
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
ส่วนนำรายงาน
ส่วนนำรายงานส่วนนำรายงาน
ส่วนนำรายงาน
 
โครงงานคอมยางพารา
โครงงานคอมยางพาราโครงงานคอมยางพารา
โครงงานคอมยางพารา
 
หน้าปก
หน้าปกหน้าปก
หน้าปก
 
หน้าปกโครงงาน
หน้าปกโครงงานหน้าปกโครงงาน
หน้าปกโครงงาน
 
ตัวอย่างโครงงานคอม
ตัวอย่างโครงงานคอมตัวอย่างโครงงานคอม
ตัวอย่างโครงงานคอม
 

Similar to บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง

02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องKittipong Suwannachai
 
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องNew Tomza
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องWilaiporn Seehawong
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2She's Ning
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1commyzaza
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1commyzaza
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1commyzaza
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1commyzaza
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2teerarat55
 
บทที่ 2เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2เอกสารที่เกี่ยวข้องBeeiiz Gubee
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องChalita Vitamilkz
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องKot สุรศักดิ์
 

Similar to บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง (18)

02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
1บท1
1บท11บท1
1บท1
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
บทที่ 2เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
1บทนำคอม11
1บทนำคอม111บทนำคอม11
1บทนำคอม11
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 

More from Rung Sensabe

ส่วนนำรายงาน
ส่วนนำรายงานส่วนนำรายงาน
ส่วนนำรายงานRung Sensabe
 
บทที่ 1 บทนำ
บทที่ 1 บทนำบทที่ 1 บทนำ
บทที่ 1 บทนำRung Sensabe
 
ส่วนนำรายงาน
ส่วนนำรายงานส่วนนำรายงาน
ส่วนนำรายงานRung Sensabe
 
ภาคผนวก
ภาคผนวกภาคผนวก
ภาคผนวกRung Sensabe
 
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องRung Sensabe
 
ภาคผนวก
ภาคผนวกภาคผนวก
ภาคผนวกRung Sensabe
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์Rung Sensabe
 
บทที่ 1 บทนำ
บทที่ 1 บทนำบทที่ 1 บทนำ
บทที่ 1 บทนำRung Sensabe
 
ส่วนนำรายงาน
ส่วนนำรายงานส่วนนำรายงาน
ส่วนนำรายงานRung Sensabe
 

More from Rung Sensabe (9)

ส่วนนำรายงาน
ส่วนนำรายงานส่วนนำรายงาน
ส่วนนำรายงาน
 
บทที่ 1 บทนำ
บทที่ 1 บทนำบทที่ 1 บทนำ
บทที่ 1 บทนำ
 
ส่วนนำรายงาน
ส่วนนำรายงานส่วนนำรายงาน
ส่วนนำรายงาน
 
ภาคผนวก
ภาคผนวกภาคผนวก
ภาคผนวก
 
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
ภาคผนวก
ภาคผนวกภาคผนวก
ภาคผนวก
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
บทที่ 1 บทนำ
บทที่ 1 บทนำบทที่ 1 บทนำ
บทที่ 1 บทนำ
 
ส่วนนำรายงาน
ส่วนนำรายงานส่วนนำรายงาน
ส่วนนำรายงาน
 

บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง

  • 1. บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง ในการจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpress เรื่องภาษาคอมพิวเตอร์ นี้ ผู้จัดทาโครงงานได้ศึกษาเอกสารและจากเว็บไซต์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ดังต่อไปนี้ 2.1 ความสาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและอินเทอร์เน็ต 2.2 ข้อมูลเกี่ยวกับสื่อสังคม Social Media 2.3 เว็บบล็อก (WebBlog) 2.1 ความสาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและอินเทอร์เน็ต ความสาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีสารสนเทศมีความสาคัญต่อการพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ เป็นอย่างมาก ตัวอย่างเช่น 1. การศึกษา เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยในด้านการค้นคว้าศึกษาแหล่งข้อมูล ทาให้การศึกษาง่ายขึ้น และ ไร้ขีดจากัด ผู้เรียนมีความสะดวกในการค้นคว้าวิจัย 2. การดารงชีวิตประจาวัน ทาให้มีความสะดวกคล่องตัวและรวดเร็วในการทากิจกรรมต่าง ๆ ที่ เกิดขึ้นใน ชีวิตประจาวัน สามารถทางานได้หลายอย่างในเวลาเดียวกันได้ หรือทางานใช้เวลาน้อยลง 3. การดาเนินธุรกิจ ทาให้มีการแข่งขันระหว่างธุรกิจมากขึ้น ทาให้ต้องมีการพัฒนาองค์กรเพื่อให้ ทันกับข้อมูล ข่าวสารอยู่ตลอดเวลา อันส่งผลต่อการพัฒนาประเทศอย่างต่อเนื่อง 4. อัตราการขยายตัวทุก ๆ ด้านที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะมีการติดต่อสื่ อสารที่เจริญก้าวหน้า ทันสมัย รวดเร็ว ถูกต้องและทาให้เป็นโลกที่ไร้พรมแดน 5. ระบบการทางานมีคอมพิวเตอร์มาใช้ซื่อสามารถทางานได้มากขึ้น งานบางอย่างมนุษย์ทาไม่ได้ก็ ใช้ คอมพิวเตอร์ช่วยทางานแทนซึ่งได้ผลถูกต้องรวดเร็ว
  • 2. ความสาคัญของอินเทอร์เน็ต ในปัจจุบันอินเทอร์เน็ ตมีบทบาทและมีความสาคัญต่อชีวิตประจาวันของคนเราเป็นอย่างมาก เพราะ ทาให้วิถีชีวิตเราทันสมัยและทันเหตุการณ์อยู่เสมอ เนื่องจากอินเทอร์เน็ตจะมีการเสนอข้อมูลข่าว ปัจจุบัน และสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นให้ผู้ใช้ทราบเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน สารสนเทศที่เสนอใน อินเทอร์เน็ตจะมีมากมายหลายรูปแบบเพื่อสนองความสนใจและความต้องการของผู้ใช้ทุกกลุ่ม อินเทอร์เน็ตจึงเป็นแหล่งสารสนเทศสาคัญสาหรับทุกคนเพราะสามารถค้นหาสิ่งที่ตนสนใจได้ ในทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปค้นคว้าในห้องสมุด หรือแม้แต่การรับรู้ข่าวสารทั่วโลกก็ สามารถอ่านได้ในอินเทอร์เน็ ตจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ของหนังสือพิมพ์ ดังนั้นอินเทอร์เน็ตจึงมีความสาคัญกับวิถีชีวิตของคนเราในปัจจุบันเป็นอย่างมากในทุก ๆ ด้าน ไม่ ว่าจะเป็นบุคคลที่อยู่ในวงการธุรกิจ การศึกษา ต่างก็ได้รับประโยชน์จากอินเทอร์เน็ตด้วยกันทั้งนั้น 1. ด้านการศึกษา อินเทอร์เน็ตมีความสาคั ญ ดังนี้ สามารถใช้เป็นแหล่งค้นคว้าหาข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลด้านการบันเทิง ด้าน การแพทย์ และอื่น ๆ ที่น่าสนใจ 2. ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต จะทาหน้าที่เปรียบเสมือนเป็นห้องสมุดขนาดใหญ่ 3. นักเรียนนักศึกษาสามารถใช้อินเทอร์เน็ตติดต่อกับมหาวิท ยาลัยหรือโรงเรียนอื่น ๆ เพื่อค้นหา ข้อมูลที่กาลังศึกษาอยู่ได้ ทั้งที่ข้อมูลที่เป็นข้อความเสียง ภาพเคลื่อนไหวต่าง ๆ
  • 3. 2. ด้านธุรกิจและการพาณิชย์ อินเทอร์เน็ตมีความสาคัญดังนี้ 2.1 ค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจ 2.2 สามารถซื้อขายสินค้า ทาธุรกรรมผ่านระบบเครือข่าย 2.3 เป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์ โฆษณาสินค้า ติดต่อสื่อสารทางธุรกิจ 2.4 ผู้ใช้ที่เป็นบริษัท หรือองค์กรต่าง ๆ ก็สามารถเปิดให้บริการ และสนับสนุนลูกค้าของตนผ่าน ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ เช่น การให้คาแนะนา สอบถามปัญหาต่าง ๆ ให้แก่ลูกค้า แจกจ่ายตัว โปรแกรมทดลองใช้ (Shareware) โปรแกรมแจกฟรี (Freeware) 3. ด้านการบันเทิง อินเทอร์เน็ตมีความสาคัญดังนี้ 3.1 การพักผ่อนหย่อนใจ สันทนาการ เช่น การค้นหาวารสารต่าง ๆ ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่เรียกว่า Magazine Online รวมทั้งหนังสือพิมพ์และข่าวสารอื่น ๆ โดยมีภาพประกอบที่ จอคอมพิวเตอร์เหมือนกับวารสารตามร้านหนังสือทั่ว ๆ ไป 3.2 สามารถฟังวิทยุหรือดูรายการโทรทัศน์ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ 3.3 สามารถดึงข้อมูล (Download) ภาพยนตร์มาดูได้
  • 4. 2.2 ข้อมูลเกี่ยวกับสื่อสังคม Social Media 2.2.1 ความหมายของ Social Media Social Media คืออะไร สาหรับในยุคนี้ เราคงจะหลีกเลี่ยงหรือหนีคาว่า Social Media ไปไม่ได้ เพราะไม่ว่าจะไปที่ไหน ก็ จะพบเห็นมันอยู่ตลอดเวลา ซึ่งหลายๆ คนก็อาจจะยังสงสัยว่า “Social Media” มันคืออะไรกันแน่ วันนี้เราจะมารู้จักความหมายของมันกันครั บ คาว่า “Social” หมายถึง สังคม ซึ่งในที่นี้จะหมายถึงสังคมออนไลน์ ซึ่งมีขนาดใหม่มากในปัจจุบัน คาว่า “Media” หมายถึง สื่อ ซึ่งก็คือ เนื้อหา เรื่องราว บทความ วีดีโอ เพลง รูปภาพ เป็นต้น ดังนั้นคาว่า Social Media จึงหมายถึง สื่อสังคมออนไลน์ที่มีการตอบสนองทางสังคมได้หลาย ทิศทาง โดยผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต พูดง่ายๆ ก็คือเว็บไซต์ที่บุคคลบนโลกนี้สามารถมีปฏิสัมพันธ์ โต้ตอบกันได้นั่นเอง พื้นฐานการเกิด Social Media ก็มาจากความต้องการของมนุษย์หรือคนเราที่ต้องการติดต่อสื่อสาร หรือมีปฏิสัมพันธ์กัน จากเดิมเรามีเว็บในยุค 1.0 ซึ่งก็คือเว็บที่แสดงเนื้อหาอย่างเดียว บุคคลแต่ละ คนไม่สามารถติดต่อหรือโต้ตอบกันได้ แต่เมื่อเทคโนโลยีเว็บพัฒนาเข้าสู่ยุค 2.0 ก็มีการพัฒนา เว็บไซต์ที่เรียกว่า web application ซึ่งก็คือเว็บไซต์มีแอพลิเคชันหรือโปรแกรมต่างๆ ที่มีการโต้ตอบ กับผู้ใช้งานมากขึ้น ผู้ใช้งานแต่ละคนสามารถโต้ตอบกันได้ผ่านหน้าเว็บ
  • 5. 2.2.2 ประวัติความเป็นมาและพัฒนาการของ Social Media พัฒนาการของ Social Media พูดถึงกันมากเหลือเกินสาหรับ สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) ซึ่งเรียกได้ว่าเป็น ตัวกลาง เป็นเครื่องมือ สาหรับการสื่อสารระหว่างกัน โดยปัจจุบันได้ขยายผลกว้างครอบคลุมไปถึง การทางานร่วมกัน ทั้งภายใน และ ภายนอกองค์กร โดยอาศัยเว็บ และ โมบายเทคโนโลยี เป็นตัว ช่วย ถ้าจะเปรียบเทียบก็น่าจะเป็นคู่แฝดแห่งยุคดิจิตอล อย่างเมื่อกว่า 200 ปีก่อน มีแฝดอิ นจัน ที่ไป สร้างชื่อเสียงในต่างประเทศ จนมีการตั้งชื่อแฝดลักษณะที่มีลาตัวติดกันเช่นนี้ว่า แฝดสยาม ถ้าว่าไปแล้ว แฝดสยามในยุคดิจิตอล ก็คงหนีไม่พ้น สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) กับ สมาร์ท โฟน (Smartphone) ที่มักจะไปเป็นคู่ยากที่จะแยกออกจากกันได้ เมื่อศึกษาถึงคาจากัดความของ สังคมออนไลน์ (Social Media) จะพบว่าคือกลุ่มของแอพพลิเคชั่น บนอินเทอร์เน็ต ที่สร้างขึ้นมา บนพื้นฐานแนวคิด และเทคโนโลยี Web 2.0 ซึ่งรองรับให้มีการสร้าง และ แลกเปลี่ยน คอนเทนต์ที่ ผู้ใช้เป็นผู้สร้างเอง (User-generated content) เมื่อพิจารณาโดยรวมแล้ว สามารถเรียกได้ว่า สื่อสังคม ออนไลน์ (Social Media) เป็นการผสมผสานกันระหว่าง เทคโนโลยี กับ การสื่อสารระหว่างกันใน สังคม เพื่อสร้างเสริมมูลค่าให้เพิ่มขึ้น เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป โดยเฉพาะยุคดิจิตอลอย่างทุกวันนี้ การแสดงความคิดเห็นดูจะเป็น เรื่องง่าย บนสื่อสั งคมออนไลน์ เป็นหนึ่งตัวอย่างที่ทาให้พนักงานรายหนึ่งในอเมริกา ถูกไล่ออก หลังจากที่เธอได้วิจารณ์เจ้านายของเธอบน เฟชบุ๊ก (Facebook) เรื่องเกิดขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา พนักงาน หญิงรายนี้ได้เขียนข้อคิดเห็นของเธอ บนหน้าเฟชบุ๊ก ด้วยคาพูดที่หยาบคาย คดีนี้ถูกจับตามองทั่ว จากทุกวงการ ด้วยความกังขาว่า นายจ้างมีสิทธิที่จะลงโทษพนักงานที่เขียนข้อคิดเห็นบน สังคม ออนไลน์ หรือไม่ เท่าที่ทราบในเมืองไทยเรายังไม่เคยได้ยิน เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้น
  • 6. เกมในเฟซบุ๊ก น่าจะเป็นตัวสร้างความสัมพันธ์ได้อย่างดี ด้วยกลยุทธ์ว่าใครมีเพื่อนเยอะก็จะ ได้ อะไรเพิ่มขึ้นในเกม นอกจากนั้น ยังมีการหลอกล่อให้ต้องมีเพื่อนมาร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในเกม ปลูกผักเลี้ยงปลากันใหญ่ วันก่อนมีโอกาสไปบรรยายเรื่องสังคมออนไลน์ให้กับกรมส่งเสริม การเกษตร ก็เล่าไปว่าบ้านเราน่าจะทาเกมลักษณะนี้ในรูปแบบไทยๆ บ้านเรามีเกษตรกร กว่าครึ่ ง ค่อนประเทศ นี่ยังไม่นับรวมท่านที่ชอบทาการเกษตรบนโลกออนไลน์ ในทางกลับกัน บางประเทศกลับห้ามใช้งานเว็บนี้ บางบริษัทก็ห้ามใช้เนื่องจากเสียเวลาการทางาน ของพนักงาน เฟซบุ๊คได้รับการจัดอันดับเป็นเว็บสังคมออนไลน์ที่มีผู้ใช้มากที่สุดในปี ค .ศ. 2009 จานวนผู้ใช้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว และที่น่าสนใจก็คือจานวนผู้เล่นอินเทอร์เน็ตในสหรัฐฯ เข้าใช้งาน มากกว่ากูเกิลเป็นครั้งแรกช่วงต้นปี 2010 อีกด้วย ล่าสุดมีข่าวการใช้เฟซบุ๊ก เพื่อช่วยเหลือชีวิต ปกติเรามักจะได้ยินการใช้สังคมออนไลน์ เป็นสื่อ เป็น เครื่องมือทางการตลาด แต่ล่าสุดมีข่า วจากสานักข่าวต่างประเทศได้รายงานเกี่ยวกับการประกาศรับ บริจาคไตในเฟซบุ๊ก เรื่องเกิดที่สหรัฐฯ มีผู้ป่วยที่ต้องการปลูกถ่ายไต ต้องเปลี่ยนไตใหม่ภายในเวลา จากัด เมื่อปรึกษากับแพทย์ที่ดูแลอยู่ จึงได้ตัดสินใจลองประกาศลงในเฟซบุ๊ก แล้วก็มีผู้ที่ประสงค์ จะบริจาคไตให้ โด ยไม่ได้มีความสนิทสนมกันเป็นพิเศษแต่อย่างใด เป็นเพียงเพื่อนในเฟซบุ๊ก ผู้รับ บริจาคเมื่อได้รับข้อความแสดงความจานงจะบริจาคไตให้ ในตอนแรกยังคิดว่าเป็นเรื่องล้อเล่นกัน แต่เมื่อต้นเดือนเมษายน 2010 แพทย์ก็ได้เปลี่ยนไตที่บริจาคให้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว การศึกษาล่าสุดพบว่าหญิงสาววัยรุ่น ที่นั่งจ้องเฟชบุ๊คทั้งวัน อาจเป็นสาเหตุให้เกิดอาการผิดปกติใน เรื่องการทานอาหาร จากการศึกษาพบว่าสองสาเหตุหลักที่ทาให้เกิด อาการการทานอาหารผิดปกติ คือ การใช้เวลามากเกินไปกับ พฤติกรรมการบริโภคสื่อ และ การเป็นตัวของตัวเองมากเกินไป
  • 7. ผลจากการสารวจเด็กวัยรุ่นช่วงอายุ 12 ถึง 19 ปี พบว่าพฤติกรรมการบริโภคสื่อ อินเทอร์เน็ต และ โทรทัศน์ มีผลกระทบต่อพฤติกรรมของแต่ละคนโดยตรง จากผลการสารวจพบว่า ยิ่งใช้เวลากับเฟ ชบุ๊ก มากเท่าไหร่ ก็จะมีโอกาสจะพบอาการอยากอาหาร มากผิดปกติ ภาวะเบื่ออาหาร ไม่พึงพอใจในสรีระข องตัวเอง และ ความต้องการอยากลดน้าหนัก มากขึ้น เมื่อมีจานวนผู้ใช้ สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) มากขึ้นเท่าใร ย่อมเป็นโอกาสในการทาธุรกิจ จึงเกิดคาว่า Social Commerce ขึ้น และได้รับความสนใจมากในช่วงนี้ หรือถ้าลองค้นหา คาว่า “e- mail vs. Social Media” ในกูเกิล จะพบผลลัพธ์มากเป็นหลายหมื่น จึงเป็นสิ่งที่ชัดเจนว่าเป็นหัวข้อ ร้อน จนบางที คนนิยามว่าเป็นการทาสงครามบนโลกดิจิตอล บ้างก็กล่าวว่าคงเป็นจุดจบของ อีเมล์ และคลื่นลูกใหม่ที่มาก็คือ สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) อีกแง่มุมหนึ่งที่ดูเข้าท่าก็คือ ทั้งอีเมล์ และ สื่อสังคมออนไลน์ จะเป็นตัวเสริมกันและกัน เพื่อการ ตัดสินใจทางธุรกิจ เราควรที่จะโฟกัสสองเรื่องใหญ่ๆ คือ กลุ่มเป้าหมาย และ เจตนา มาเริ่มด้วย กลุ่มเป้าหมาย * ถ้ากลุ่มเป้าหมายอายุต่ากว่า 20 ปี น่าจะค่อนข้างชัดเจนว่า การใช้สื่อสังคมออนไลน์ จะเป็น ทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด *ถ้ากลุ่มธุรกิจเป็นกลุ่มเป้าหมายของเรา การใช้อีเมล์ ถูกมองว่าเราจะได้ผลเร็วกว่า ในทางกลับกัน ถ้าลูกค้าทั่วไปเป็นกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจ การใช้ สื่อสังคมออนไลน์ น่าจะได้ผลที่ดีกว่า เนื่องจาก ลูกค้าจะเชื่อ และฟัง ความเห็นของคนอื่นๆ ที่ให้ไว้บนสื่อสัง คมออนไลน์
  • 8. *สาหรับกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ที่ทางาน อีเมล์เป็นคาตอบของเรา แต่ถ้าต้องการมุ่งไปที่อยู่ที่บ้าน สื่อ สังคมออนไลน์ น่าจะให้ผลตอบรับที่ดีกว่า จะเห็นได้ว่าการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายทั้งทาง ประชากรศาสตร์ (Demographic) และเชิงจิตวิทยา เป็นสิ่งที่สาคัญทั้งคู่ ในการเลือกว่า อีเมล์ หรือ สื่อสังคมออนไลน์ จะเหมาะสมกับธุรกิจ อย่างไรก็ ตามในหลายกรณี เราควรใช้ทั้งสองช่องทาง ในการติดต่อสื่อสาร ส่วนเจตนา หรือ รูปแบบของธุรกิจ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ควรนามาพิจารณา * ถ้าต้องการทาธุรกิจแบบ ขายตรง สื่อสังคมออนไลน์ อาจจะไม่ค่อยเหมาะสมนัก อีเมล์ น่าจะให้ ผลลัพธ์ที่ดีกว่า * เมื่อมีความต้องการที่จะสร้างความสัมพันธ์ ในระยะยาว การเริ่มต้นด้วย สื่อสังคมออนไลน์ ในช่วงแรก แล้วปรับมาใช้อีเมล์ น่าจะเป็นแนวทางที่ดี * หากธุรกิจของเราต้องการ การตอบรับที่รวดเร็ว สาหรับกลุ่มวัยรุ่นแล้ว สื่อสังคมออนไลน์ เป็น ทางเลือกที่เหมาะสม ส่วนกลุ่มวัยทางานที่ทางานมาพอสมควร การตอบรับอีเมล์ ของคนกลุ่มนี้ ก็ จะค่อยข้างเร็ว * เมื่อเราต้องการที่จะทาธุรกิจ ผ่านการสื่อสาร อีเมล์ ยังคงเป็นสิ่งที่เราต้องใ ช้ เราต้องจัดการกับ อีเมล์ที่เข้ามาอย่างมีประสิทธิภาพ และรวดเร็ว ถ้าไม่สามารถโต้ตอบด้วยความรวดเร็วแล้ว ธุรกิจ ของเราอาจจะมีปัญหาได้ ต่างกับถ้าเราไม่ ทวิต ทุกวัน คงจะไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจมากเท่าไหร่นัก
  • 9. เราจึงยังเห็นว่า นักธุรกิจส่วนใหญ่ ยังคงให้ความสาคัญกับ อีเมล์ ดังนั้นถ้าต้องการทาธุรกิจกับใครก็ ตาม เราควรเริ่มด้วย สื่อสังคมออนไลน์ เป็นตัวนา ให้เราสามารถเจาะเข้าถึง อีเมล์ ของ กลุ่มเป้าหมายให้ได้ อย่างไรก็ตามเมื่อยุค สมัย เปลี่ยนไป การใช้อีเมล์ สาหรับคนรุ่นใหม่ อาจจะไม่ สาคัญเท่ากับ การมีตัวตนบน สื่อสังคมออนไลน์ จนกลายเป็นวิวัฒนาการ บนโลกออนไลน์ ไม่ใช่ เป็นสงครามบนโลกออนไลน์ก็ว่าได้
  • 10. 2.2.3 ประเภทเว็บไซต์ที่ให้บริการ Social Media Google Group – เว็บไซต์ในรูปแบบ Social Networking - Wikipedia – เว็บไซต์ในรูปแบบข้อมูลอ้างอิง
  • 11. - MySpace – เว็บไซต์ในรูปแบบ Social Networking - Facebook -เว็บไซต์ในรูปแบบ Social Networking -
  • 12. MouthShut – เว็บไซต์ในรูปแบบ Product Reviews - Yelp – เว็บไซต์ในรูปแบบ Product Reviews -
  • 13. Youmeo – เว็บที่รวม Social Network - Last.fm – เว็บเพลงส่วนตัว Personal Music -
  • 14. YouTube – เว็บไซต์ Social Networking และ แชร์วิดีโอ - Avatars United – เว็บไซต์ในรูปแบบ Social Networking -
  • 15. Second Life – เว็บไซต์ในรูปแบบโลกเสมือนจริง Virtual Reality - Flickr – เว็บแชร์รูปภาพ
  • 16. 2.3 เว็บบล็อก (WebBlog) 2.3.1 ความหมายของเว็บบล็อก (WebBlog) บล็อก (blog) เป็นคารวมมาจากคาว่า เว็บล็อก (weblog) เป็นรูปแบบเว็บไซต์ประเภทหนึ่ง ซึ่ง ถูกเขียนขึ้นในลาดับที่เรียงตามเวลาในการเขียน ซึ่งจะแสดงข้อมูลที่เขียนล่าสุดไว้แรกสุด บล็อกโดยปกติจะ ประกอบด้วย ข้อความ ภาพ ลิงก์ ซึ่งบางครั้งจะรวมสื่อต่างๆ ไม่ว่า เพลง หรือวิดีโอในหลายรูปแบบได้ จุดที่ แตกต่างของบล็อกกับเว็บไซต์โดยปกติคือ บล็อกจะเปิดให้ผู้เข้ามาอ่านข้อมูล สามารถแสดงความคิดเห็นต่อท้าย ข้อความที่เจ้าของบล็อกเป็นคนเขียน ซึ่งทาให้ผู้เขียนสามารถได้ผลตอบกลับโดยทันที คาว่า "บล็อก"ยังใช้เป็น คากริยาได้ซึ่งหมายถึง การเขียนบล็อก และนอกจากนี้ผู้ที่เขียนบล็อกเป็นอาชีพก็จะถูกเรียกว่า "บล็อกเกอร์" บล็อกเป็นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาหลากหลายขึ้นอยู่กับเจ้าของบล็อก โดยสามารถใช้เป็นเครื่องมือสื่อสาร การประกาศ ข่าวสาร การแสดงความคิดเห็น การเผยแพร่ผลงาน ในหลายด้านไม่ว่า อาหาร การเมือง เทคโนโลยี หรือข่าว ปัจจุบัน นอกจากนี้บล็อกที่ถูกเขียนเฉพาะเรื่องส่วนตัวหรือจะเรียกว่าไดอารีออนไลน์ซึ่งไดอารีออนไลน์นี่เองเป็น จุดเริ่มต้นของการใช้บล็อกในปัจจุบัน นอกจากนี้ตามบริษัทเอกชนหลายแห่งได้มีการจัดทาบล็อกของทางบริษัท ขึ้น เพื่อเสนอแนวความเห็นใหม่ใหักับลูกค้า โดยมีการเขียนบล็อกออกมาในลักษณะเดียวกับข่าวสั้น และได้รับ การตอบรับจากทางลูกค้าที่แสดงความเห็นตอบกลับเข้าไป เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์
  • 17. 2.3.2 ประเภทของเว็บบล็อก บล็อกที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบันนี้ ใช่มีเพียงแค่บล็อกที่เป็นตัวหนังสือและรูปภาพเท่านั้น หรือ มี แค่ออนไลน์ไดอารี่ เราแบ่งบล็อกออกได้ ดังต่อไปนี้ 1. แบ่งตามลักษณะของมีเดียที่มีในบล็อกได้แก่1.1. Linklog บล็อกแบบนี้น่าจะเป็นบล็อกรุ่นแรก ๆ เป็นบล็อกที่ รวมลิ๊งก์ที่เจ้าของบล็อกสนใจเอาไว้ ถ้าคณยังจาผู้ให้กาเนิดคาว่า “บล็อก” ที่ชื่อ จอห์น บาจเจอร์ได้ นั่นแหล่ะครับ robotwisdom.com ของเขาคือตัวอย่างของ linklog นั่นเอง แม้ว่าจะบล็อกแบบนี้จะเป็นการรวมลิ๊งก์เท่านั้น แต่ก็ไม่ เรียงเหมือนว็บไดเร็กทอรี่ เพราะเจ้าของบล็อกจะโพสต์ลิ๊งก์ของเขา 1 – 2 ลิ๊งก์ต่อโพสต์เท่านั้นครับ ใครที่อยากมี บล็อกเป็นของตนเองแต่ยังนึกไม่ออกว่าจะทาบล็อกแบบไหน linklog น่าจะเป็นการเริ่มต้นการทาบล็อกได้เป็น อย่างดี1.2 Photoblog ชื่อก็บอกอยู่แล้วครับว่า Photo บล็อกประเภทนี้เน้นในโพสต์ภาพถ่ายที่เจ้าของบล็อกอยาก นาเสนอ และมักจะไม่เน้นที่จะเขียนข้อความมากนัก บางบล็อกเรียกได้ว่าภาพโดยเจ้าของบล็อกล้วน ๆ เลยครับ 1.3. Vlog ย่อมาจาก Videoblog เป็นบล็อกที่รวมวิดีโอคลิปไว้ในบล็อก Vlog เป็นบล็อกที่เรียกได้วาเป็นบล็อกที่ ่ นิยมทากันมากในอนาคต เพราะการเจริญเติบโตของไฮสปีด อินเตอร์เน็ต หรือ อินเตอร์เน็ตบอร์ดแบนด์ ที่ทาให้ การถ่ายทอดเสียง ภาพเคลื่อนไหว movie […] 2. แบ่งตามประเภทเนื้อหา ได้แก่2.1 บล็อกส่วนตัว(Personal Blog) นาแสนอความคิดเห็น กิจวัตรประจาวันของ เจ้าของบล็อกเป็นหลัก2.2 บล็อกข่าว(News Blog) บล็อกที่นาเสนอข่าวเป็นหลัก2.3 บล็อกกลุ่ม(Collaborative Blog) เป็นบล็อกที่เขียนกันเป็นกลุ่ม เช่น blognone.com2.4 บล็อกการเมือง(Politic Blog) ว่าด้วยเรื่องการเมือง ล้วน ๆ2.5 บล็อกเพื่อสิ่งแวดล้อม(Environment Blog) พูดถึงเรื่องราวของธรรมชาติและการรักษาสิ่งแวดล้อม2.6 มีเดียบล็อก(Media Blog) เป็นบล็อกที่วิเคราะห์สื่อต่างๆ สารคดีและสิ่งที่เกี่ยวกับสื่อ เช่น oknation.net/blog/black ของสุทธิชัย หยุ่น2.7 บล็อกบันเทิง(Entertainment Blog) บล็อกที่นาเสนอเรื่องราวบันเทิงทั้งทางจอแก้ว และจอ เงิน เรื่องซุบซุดารา กองถ่าย ฯลฯ2.8 บล็อกเพื่อการศึกษา(Educational Blog) ในโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัยใน ต่างประเทศมักจะใช้บล็อกเป็นสื่อในการสอนหรือ แลกเปลี่ยนความคิดกัน2.9 ติวเตอร์บล็อก(Tutorial Blog) เป็น บล็อกที่นาเสนอวิธีการต่าง
  • 18. 2.3.3 เว็บไซต์ที่ให้บริการเว็บบล็อก www.blogger.com www.exteen.com www.mapandy.com www.buddythai.com www.imigg.com www.5iam.com www.blogprathai.com www.ndesignsblog.com www.idatablog.com www.inewblog.com www.onblogme.com www.freeseoblogs.com www.sumhua.com www.diaryi.net www.istoreblog.com www.skypream.com www.thailandspace.com www.sungson.com www.gujaba.com www.sabuyblog.com www.ugetblog.com www.jaideespace.com www.maxsiteth.com www.my2blog.com www.wordpress.com
  • 19. 2.3.4 ประวัติของเว็บไซต์ Wordpress WordPress คือ โปรแกรมสาเร็จรูปตัวหนึ่ง ที่เอาไว้สาหรับสร้าง บล็อก หรือ เว็บไซต์ สามารถใช้งานได้ฟรี ถูกจัดอยู่ในประเภท CMS (Contents Management System) ซึ่งหมายถึง โปรแกรมสาเร็จรูปที่มีไว้สาหรับสร้างและบริหารจัดการเนื้อหาและข้อมูลบนเว็บไซต์ WordPress ได้รับการพัฒนาและเขียนชุดคาสั่งมาจากภาษา PHP (เป็นภาษาโปรแกรมมิ่งตัวหนึ่ง) ทางานบนฐานข้อมูล MySQL ซึ่งเป็นโปรแกรมสาหรับจัดการฐานข้อมูล มีหน้าที่เก็บ เรียกดู แก้ไข เพิ่มและลบข้อมูล การใช้งาน WordPress ร่วมกับ MySQL อยู่ภายใต้สัญญาอนุญาตใช้งานแบบ GNU General Public License WordPress ปรากฏโฉมครั้งแรกในโลกเมื่อปี พ.ศ. 2546 (2003) เป็นความร่วมมือกันระหว่าง Matt Mullenweg และ Mike Littlej มีเว็บไซต์หลักอยู่ที่ http://wordpress.org และยังมีบริการ Free Hosting (พื้นที่สาหรับเก็บทุกอย่างของเว็บ/บล็อก) โดยขอใช้บริการได้ที่ http://wordpress.com ปัจจุบันนี้ WordPress ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนมีผู้ใช้งานมากกว่า 200 ล้านเว็บ บล็อกไปแล้ว แซงหน้า CMS ตัวอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น Drupal , Mambo และ Joomla สาเหตุเป็นเพราะ ใช้งานง่าย ไม่จาเป็นต้องมีความรู้ในเรื่อง Programing มีรูปแบบที่สวยงาม อีกทั้งยังมีผู้พัฒนา Theme (รูปแบบการแสดงผล) และ Plugins (โปรแกรมเสริม) ให้เลือกใช้ฟรีอย่างมากมาย นอกจากนี้ สาหรับนักพัฒนา WordPress ยังมี Codex เอาไว้ให้เราได้เป็นไกด์ไลน์ เพื่อศึกษา องค์ประกอบส่วนต่าง ๆ ที่อยู่ภายใน สาหรับพัฒนาต่อยอด หรือ นาไปสร้าง Theme และ Plugins ขึ้นมาเองได้อีกด้วย หนาซ้า ยังมีรุ่นพิเศษ คือ WordPress MU สาหรับไว้ให้ผู้นาไปใช้ สามารถเปิด ให้บริการพื้นที่ทาเว็บบล็อกเป็นของตนเอง เพื่อให้ผู้อื่นมาสมัครขอร่วมใช้บริการในการสร้างเว็บ บล็อก ภายใต้ชื่อโดเมนของเขา หรือที่เรียกว่า Sub-Domain