SlideShare a Scribd company logo
1 of 4
Download to read offline
สาระน่ารู้
อังคัก หัวเชื้อสมุนไพรให้สีแดง
อังคัก เป็นเครื่องปรุงในครัวจีน ที่ใช๎กันมานานนับพันปี ชาวจีนแต๎จิ๋วเรียกอังคัก (ang kag) จีน
กลางออกเสียงวํา หงชวี (hong qu) เป็นหัวเชื้อสมุนไพรที่ให๎สีแดงทํามาจากข๎าวเจ๎าหมักกับสําเห็ดหรือ
เชื้อจุลินทรีย๑ชนิดหนึ่งที่ชาวจีนเรียกวํา หงชวีเหมยจวิน (hong qu mei jun) เขาจะใช๎ข๎าวเจ๎าแชํไว๎ในน้ํา
3-4 ชั่วโมง แล๎วนําไปนึ่งจนสุกตั้งทิ้งไว๎ให๎อุณหภูมิข๎าวลดลงแล๎วจึงนําสําเห็ดมาผสม หลังจากนั้นต๎อง
คอยเกลี่ยข๎าว เอาไปล๎างน้ําประมาณ 5-6 รอบ แล๎วนําไปผึ่งแดดจนแห๎ง ถือเป็นอันใช๎ได๎
อังคักที่ดีต๎องมีสีแดงทั้งข๎างนอกและข๎างใน รสจืดอมเปรี้ยวเล็กน๎อย ใช๎เป็นสํวนผสมในการทํา
เต๎าหู๎ยี้ ยาดอง นําไปหมักหมู ชํวยให๎มีเนื้อที่นุํมและมีสีแดงสวยอังคักยังถือเป็นเครื่องยาจีนอีกด๎วย มี
สรรพคุณละลายเสมหะ บํารุงเลือด ชํวยยํอยอาหาร แก๎อาการท๎องอืดท๎องเฟ้อ ชํวยรักษาอาการฟกช้ําดํา
เขียว
แหล่งข้อมูล update Food Fueus นิตยสารครัว ฉบับที่ 163 เดือนมกราคม 2551 หน๎า 12
แผนการสอนรายคาบ
คาบที่ 14 เรื่องที่สอน ขนมถ้วยฟู โดยครูอรอนงค์ ลําดวล
เป็นขนมไทยโบราณที่ในปัจจุบันยังมีผู๎นิยมรับประทาน เนื่องจากเป็นขนมที่มีรสชาติไมํหวานมาก มี
กลิ่นหอมละมุนละไม และมีความนุํมเหนียวของแป้ง สีอํอน ๆ นํารับประทาน นอกจากนี้ยังถือเป็นขนม
ที่มีชื่อและลักษณะเป็นมงคล ให๎ความหมายถึงความเจริญเฟื่องฟูทางชีวิต นิยมใช๎เป็นขนมในงานมงคล
ตํางๆ
1. จุดประสงค์การสอน
1. บอกสํวนผสมและวิธีทําขนมถ๎วยฟูได๎
2. ทําขนมถ๎วยฟูได๎
3. นําไปใช๎ในชีวิตประจําวันหรือนําไปประกอบอาชีพได๎
2. รายการสอน
1. การเตรียมสํวนผสมและขั้นตอนการทําขนมถ๎วยฟู
2. การผสม
3. การนึ่ง
3. วัสดุอุปกรณ์ หนังสือ และสิ่งที่ต้องเตรียม
อุปกรณ์
ถ๎วยตวง ช๎อนตวง อํางผสม ถ๎วยตะไล ลังถึง ช๎อนตักหยอด หรือถ๎วยปากแหลมสําหรับหยอด
ข้อแนะนําในการเตรียมส่วนผสม
แป้งข้าวเจ้า ใช๎แป้งข๎าวเจ๎าชนิดแห๎งอยํางดี ใหมํสด เนื้อแป้งขาวละเอียด ไมํมีกลิ่นอับ
ยีสต์ ใช๎ชนิดแห๎งแบบผง เชํนเดียวกับที่ใช๎ทําขนมปัง
น้ําลอยดอกมะลิ ใช๎น้ําลอยดอกมะลิสด จะทําให๎ขนมมีกลิ่นหอมชื่นใจ
ไข่ขาว เป็นตัวทําให๎ขนมถ๎วยฟู นุํม เหนียว เนื้อขนมมีความชื้น ไมํแห๎ง ถ๎าใสํมากขนมจะเหนียวมาก
เกินไป ใช๎ไขํขาวของไขํไกํหรือไขํเป็ดก็ได๎ ถ๎าใช๎ไขํไกํจะไมํมีกลิ่นคาว
ผงฟู ใช๎ผงฟูแบบกําลัง 2 เมื่อใสํผงฟูลงในแป้งที่ผสมไว๎แล๎ว ควรคนให๎ละลายเข๎ากันให๎ดี
น้ําข้าวหมาก ได๎จากการนําข๎าวหมากใสํผ๎าขาวบาง บีบน้ําออกให๎หมดจนข๎าวแห๎ง เมื่อตวงแล๎วถ๎าไมํพอ
เติมน้ําสะอาดได๎เล็กน๎อย ข๎าวหมากทําให๎ขนมนุํม มีกลิ่นหอม
สีผสมอาหาร ใช๎สีสังเคราะห๑ชนิดน้ํา หยดเพียงเล็กน๎อย 1-2 หยด
ส่วนผสม (ตํารับที่ 1)
1. แป้งข๎าวเจ๎า 1 ½ ถ๎วย 2. ยีสต๑ ¼ ช๎อนชา
3. น้ําลอยดอกมะลิ ¾ ถ๎วย 4. น้ําตาลทราย ½ ถ๎วย
5. ไขํขาว 1 ช๎อนชา 7. ผงฟู
8. สีผสมอาหาร
ส่วนผสม (ตํารับที่ 2)
1. แป้งข๎าวเจ๎า 1 ½ ถ๎วย 2. น้ําข๎าวหมาก ¾ - 1 ถ๎วย
3. น้ําตาลทราย 80 กรัม 4. ผงฟู
5. สีผสมอาหาร
4. ลําดับขั้นตอนการทํา หรือลําดับขั้นตอนการทํางาน
วิธีทํา
1. ผสมแป้งข๎าวเจ๎า ยีสต๑ น้ําตาลทราย เคล๎าให๎เข๎ากัน
2. ผสมไขํขาว กับน้ําลอยดอกมะลิ เทใสํในอํางแป้ง คนให๎น้ําตาลละลาย พักไว๎ 30 นาที
3. ใสํน้ํา 3/4 ของลังถึง นําไปตั้งไฟแรงจนน้ําเดือด เรียงถ๎วยตะไลในชั้นลังถึงให๎หํางกันพอควร
เผื่อให๎มีรูให๎ไอน้ําขึ้น นึ่งถ๎วยตะไลพอร๎อน
4. ตักแป้งที่ผสมไว๎ 1 ถ๎วย ใสํผงฟู 1 ¼ - 1 ½ ช๎อนชา คนให๎เข๎ากัน หยดสีใสํให๎เป็นสีอํอนๆ
คนอีกครั้งให๎เข๎ากัน ตักหยอดใสํถ๎วยตะไลที่นึ่งเตรียมไว๎ประมาณ ¾ ของถ๎วยตะไล นึ่งไฟแรงปานกลาง
น้ําเดือดพลําน นานประมาณ 10-12 นาที หรือจนสุก ยกลง
5. รอให๎ขนมเย็นสนิทจึงแซะออกจากถ๎วยตะไล อบดอกมะลิ จัดใสํจานเสิร๑ฟ
หมายเหตุ
ขนมถ้วยฟูตํารับที่ 2 วิธีทําเช่นเดียวกับตํารับที่ 1 แต่ไม่ใส่ยีสต์และไข่ขาว
ข้อแนะนํา
1. การผสมแป้ง ไมํต๎องนวด ถ๎านวดจะทําให๎แป้งเหนียวเกินไป
2. ถ๎าไมํใช๎น้ําลอยดอกมะลิสด ใช๎น้ําสะอาดใสํกลิ่นมะลิ 1-2 หยด
3. ควรใสํสีชมพู สีเขียว ให๎มีสีอํอนๆ ขนมจะนํารับประทาน
4. เมื่อนําแป้งมาผสมผงฟูแล๎ว ไมํควรผสมทิ้งไว๎นานไป ต๎องรีบหยอดและนึ่งทันที หน๎าขนมจะแตก
สวย
5. ถ๎าหยอดขนมเต็มถ๎วย ขนมจะแตกย๎อยไมํสวย ถ๎าหยอดน๎อยไป(ครึ่งถ๎วย) ขนมจะแตกน๎อย ควร
หยอด ¾ ถ๎วย
6. การนึ่งใช๎น้ํามาก ให๎มีไอน้ําเดือด ขนมจะแตกสวย
7. ควรเช็ดฝาลังถึง อยําให๎ไอน้ําหยดใสํขนม
8. การนึ่งถ๎วยตะไล ไมํต๎องปิดฝารังถึงก็ได๎ ถ๎าปิดฝาหรือนึ่งถ๎วยนานไป จะมีไอน้ําหยดอยูํที่ก๎นถ๎วย นึ่ง
ถ๎วยตะไลให๎ร๎อนกํอน แป้งจะไมํแข็งนอนก๎น ถ๎านึ่งถ๎วยตะไลนานไปหรือนึ่งจนร๎อนจัด ขนมจะแข็ง
แห๎ง
9. ถ๎านึ่งไฟแรงมากไป ผิวหน๎าขนมจะแห๎งแข็ง ไมํนุํมนวล
10. ถ๎าใช๎น้ําข๎าวหมาก ขนมที่ได๎จะมีกลิ่นแป้งหอมเหมือนหมักแป้ง สมัยกํอนใช๎ลูกแป้งข๎าวหมากหมัก
เชื้อ
5. เกณฑ์ในการประเมินผล
ขนมฟูแตก แป้งนิ่มเหนียว เนื้อละเอียด หอมกลิ่นดอกมะลิ หรือหอมกลิ่นข๎าวหมาก มีสีอํอนๆ
นํารับประทาน
สาระน่ารู้
ยีสต์ ยีสต๑เป็นพืชเซลล๑เดียวชนิดหนึ่ง ขยายพันธ๑โดยการแตกหนํอ ยีสต๑แตํละเซลล๑มีขนาดเล็กมาก มอง
ด๎วยตาเปลําไมํเห็น มีอยูํตามธรรมชาติ เป็นตัวสําคัญที่ทําให๎เกิดการหมัก ยีสต๑ที่ใช๎ในปัจจุบันมีอยูํ 2
ชนิด คือ
1. ยีสต์ธรรมชาติ เชํน ยีสต๑ที่อยูํในเนื้อลูกตาล เมื่อนําเนื้อลูกตาลมาผสมกับแป้งและน้ําตาล (ซึ่งใช๎เป็น
อาหารของยีสต๑) หมักไว๎ในอุณหภูมิที่เหมาะสม จะทําให๎ขนมตาลขึ้นฟู มีกลิ่นรสเฉพาะ
2. ยีสต์ที่เพาะเลี้ยงขึ้น มีทั้งยีสต๑สด และยีสต๑แห๎ง
ยีสต์สด ผลิตขึ้นโดยการเลี้ยงและนํามาอัดเป็นก๎อน นิยมใช๎ในประเทศที่ผลิตยีสต๑สดได๎เอง
เมืองไทยไมํนิยมใช๎ เนื่องจากไมํสะดวกตํอการใช๎และการเก็บรักษา
ยีสต์แห้ง มีทั้งชนิดเม็ดและชนิดผง ชนิดเม็ดต๎องนํามาละลายน้ํากํอนใช๎ ชนิดผงมีลักษณะเป็นเส๎น
สั้นๆ เล็กๆ เกือบเป็นผง บรรจุแบบสูญญากาศ ในหํอกระดาษอลูมิเนียม จับดูภายนอกจะแข็ง แตํเมื่อ
นํามาเปิดหํอแล๎วจะรํวน เทออกได๎ไมํเป็นก๎อน ยีสต๑ผง (Instant Yeast) นิยมใช๎กันมาก เพราะสะดวก
ใช๎งําย ควรเก็บยีสต๑ไว๎ในที่แห๎งและเย็น หรือเก็บในขวดที่มีฝาปิดสนิท ใสํไว๎ในตู๎เย็น การทดสอบวํา
ยีสต๑ที่เก็บไว๎มีคุณภาพใช๎ได๎หรือไมํ ทําได๎โดย เทน้ําอุํนที่ 38 องศาเซนเซียส ใสํภาชนะ เติมน้ําตาล 1
ช๎อนโต๏ะ คนให๎ละลาย ใสํยีสต๑ 1 ช๎อนโต๏ะ ลงคนทิ้งไว๎ประมาณ 5-10 นาที ถ๎ายีสต๑ปุดขึ้นมาบนผิวน้ํา
แสดงวํายีสต๑ยังไมํเสื่อมคุณภาพ แตํถ๎ายีสต๑จมลงอยูํก๎นภาชนะ ไมํผุดขึ้นมา แสดงวํายีสต๑เสื่อมคุณภาพ
ไมํควรใช๎
แหล่งข้อมูล จากหนังสือ เบเกอรี่และอาหารนานาชาติ โดย องุํน ตราวิโรจน๑ หน๎า 30-31
แผนการสอนรายคาบ
คาบที่ 15 เรื่องที่สอน สังขยาชานม โดยครู อรอนงค์ ลําดวล
สังขยา เป็นชื่อเรียกขนม มี 2 ลักษณะคือสังขยาที่ทําจากไขํ น้ําตาล มะพร๎าว กะทิ อาจเพิ่มฟักทอง
เผือก มะพร๎าวอํอน ฯลฯ นําไปนึ่ง รับประทานเป็นขนมหวาน หรือรับประทานคูํกับข๎าวเหนียวมูนก็ได๎
สังขยาชานม เป็นสังขยาอีกลักษณะหนึ่ง มีสํวนผสมของไขํ น้ําตาลทราย นมหรือกะทิ แป้ง นําไปตุ๐น
หรือกวนให๎ข๎น ใช๎จิ้มหรือทาบนขนมปัง บางทํานเรียกสังขยาลักษณะนี้วําสังขยาสิงคโปร๑ มีหลาย
รสชาติ แตํที่นิยมคือ สังขยาสีเขียวกลิ่นใบเตย และสังขยาสีส๎มกลิ่นวานิลลา สังขยาชานมใช๎ชาผง
โบราณชงเป็นน้ําชานําไปเป็นสํวนผสม เพื่อให๎ได๎รสชาติแปลกใหมํ หอมกลิ่นชา สําหรับคนที่รักและ
ชื่นชอบชาโบราณ สังขยาชานม จะเป็นขนมอีกชนิดหนึ่งที่คุณต๎องลอง
1. จุดประสงค์การสอน
1. บอกสํวนผสมและวิธีทําสังขยาชานมได๎
2. ทําสังขยาชานมได๎
3. ใช๎ในชีวิตประจําวันหรือนําไปประกอบอาชีพได๎
2. รายการสอน
1. การเตรียมสํวนผสมและขั้นตอนในการทําสังขยาชานม
2. การตุ๐น
3. การจัดเสิร๑ฟ

More Related Content

Similar to 185+01010346 a+ขนมถ้วยฟู+1301+ครัวการอาชีพชาววัง

B slim+แก้ล่าสุด
B slim+แก้ล่าสุดB slim+แก้ล่าสุด
B slim+แก้ล่าสุดDaraAlice Edu
 
การบริโภคอาหาร
การบริโภคอาหารการบริโภคอาหาร
การบริโภคอาหารWilailak Luck
 
สูตรข้าวคลุกกะปิ
สูตรข้าวคลุกกะปิสูตรข้าวคลุกกะปิ
สูตรข้าวคลุกกะปิSEoZa
 
โครงงาน น้ำตะไคร้
โครงงาน น้ำตะไคร้โครงงาน น้ำตะไคร้
โครงงาน น้ำตะไคร้krunoony
 
aibkhwaamruuthii_4.pdf
aibkhwaamruuthii_4.pdfaibkhwaamruuthii_4.pdf
aibkhwaamruuthii_4.pdfssuserd5e952
 
อาหารหลัก 5 หมู่
อาหารหลัก 5 หมู่อาหารหลัก 5 หมู่
อาหารหลัก 5 หมู่Janjira Majai
 
ประวัติของการถนอมอาหาร
ประวัติของการถนอมอาหารประวัติของการถนอมอาหาร
ประวัติของการถนอมอาหารNongploy Siriporn
 
สูตรยำผักบุ้งกรอบ
สูตรยำผักบุ้งกรอบสูตรยำผักบุ้งกรอบ
สูตรยำผักบุ้งกรอบSEoZa
 
อาหาร หลัก 5 หมู่
อาหาร หลัก 5 หมู่อาหาร หลัก 5 หมู่
อาหาร หลัก 5 หมู่an1030
 
Module 5 ntr dm htn ckd final
Module 5 ntr dm  htn ckd  finalModule 5 ntr dm  htn ckd  final
Module 5 ntr dm htn ckd finalCAPD AngThong
 

Similar to 185+01010346 a+ขนมถ้วยฟู+1301+ครัวการอาชีพชาววัง (14)

B slim+แก้ล่าสุด
B slim+แก้ล่าสุดB slim+แก้ล่าสุด
B slim+แก้ล่าสุด
 
การบริโภคอาหาร
การบริโภคอาหารการบริโภคอาหาร
การบริโภคอาหาร
 
สูตรข้าวคลุกกะปิ
สูตรข้าวคลุกกะปิสูตรข้าวคลุกกะปิ
สูตรข้าวคลุกกะปิ
 
โครงงาน น้ำตะไคร้
โครงงาน น้ำตะไคร้โครงงาน น้ำตะไคร้
โครงงาน น้ำตะไคร้
 
42101
4210142101
42101
 
aibkhwaamruuthii_4.pdf
aibkhwaamruuthii_4.pdfaibkhwaamruuthii_4.pdf
aibkhwaamruuthii_4.pdf
 
Pompea3
Pompea3Pompea3
Pompea3
 
อาหารหลัก 5 หมู่
อาหารหลัก 5 หมู่อาหารหลัก 5 หมู่
อาหารหลัก 5 หมู่
 
ประวัติของการถนอมอาหาร
ประวัติของการถนอมอาหารประวัติของการถนอมอาหาร
ประวัติของการถนอมอาหาร
 
สูตรยำผักบุ้งกรอบ
สูตรยำผักบุ้งกรอบสูตรยำผักบุ้งกรอบ
สูตรยำผักบุ้งกรอบ
 
อาหาร หลัก 5 หมู่
อาหาร หลัก 5 หมู่อาหาร หลัก 5 หมู่
อาหาร หลัก 5 หมู่
 
Module 5 ntr dm htn ckd final
Module 5 ntr dm  htn ckd  finalModule 5 ntr dm  htn ckd  final
Module 5 ntr dm htn ckd final
 
Project
ProjectProject
Project
 
โครงงาน54แหนม
โครงงาน54แหนมโครงงาน54แหนม
โครงงาน54แหนม
 

More from Prachoom Rangkasikorn

129+hisp2+dltv54+550224+b+สไลด์ พระมหากษัตริย์ไทยป.2 (4 หน้า)
129+hisp2+dltv54+550224+b+สไลด์ พระมหากษัตริย์ไทยป.2 (4 หน้า)129+hisp2+dltv54+550224+b+สไลด์ พระมหากษัตริย์ไทยป.2 (4 หน้า)
129+hisp2+dltv54+550224+b+สไลด์ พระมหากษัตริย์ไทยป.2 (4 หน้า)Prachoom Rangkasikorn
 
120+hisp2+dltv54+550210+a+สไลด์ ความภูมิใจในท้องถิ่นป.2 (1 หน้า)
120+hisp2+dltv54+550210+a+สไลด์ ความภูมิใจในท้องถิ่นป.2 (1 หน้า)120+hisp2+dltv54+550210+a+สไลด์ ความภูมิใจในท้องถิ่นป.2 (1 หน้า)
120+hisp2+dltv54+550210+a+สไลด์ ความภูมิใจในท้องถิ่นป.2 (1 หน้า)Prachoom Rangkasikorn
 
116+hisp2+dltv54+550203+a+สไลด์ โบราณวัตถุป.2 (1 หน้า)
116+hisp2+dltv54+550203+a+สไลด์ โบราณวัตถุป.2 (1 หน้า)116+hisp2+dltv54+550203+a+สไลด์ โบราณวัตถุป.2 (1 หน้า)
116+hisp2+dltv54+550203+a+สไลด์ โบราณวัตถุป.2 (1 หน้า)Prachoom Rangkasikorn
 
114+hisp2+dltv54+550127+a+สไลด์ โบราณสถาน ป.2 (1 หน้า)
114+hisp2+dltv54+550127+a+สไลด์ โบราณสถาน ป.2 (1 หน้า)114+hisp2+dltv54+550127+a+สไลด์ โบราณสถาน ป.2 (1 หน้า)
114+hisp2+dltv54+550127+a+สไลด์ โบราณสถาน ป.2 (1 หน้า)Prachoom Rangkasikorn
 
106+hisp2+dltv54+550106+a+สไลด์ ภูมิปัญญาด้านอาหารป.2 (1 หน้า)
106+hisp2+dltv54+550106+a+สไลด์ ภูมิปัญญาด้านอาหารป.2 (1 หน้า)106+hisp2+dltv54+550106+a+สไลด์ ภูมิปัญญาด้านอาหารป.2 (1 หน้า)
106+hisp2+dltv54+550106+a+สไลด์ ภูมิปัญญาด้านอาหารป.2 (1 หน้า)Prachoom Rangkasikorn
 
091+hisp2+dltv54+541209+a+สไลด์ วัฒนธรรมในท้องถิ่นป.2 (1 หน้า)
091+hisp2+dltv54+541209+a+สไลด์ วัฒนธรรมในท้องถิ่นป.2 (1 หน้า)091+hisp2+dltv54+541209+a+สไลด์ วัฒนธรรมในท้องถิ่นป.2 (1 หน้า)
091+hisp2+dltv54+541209+a+สไลด์ วัฒนธรรมในท้องถิ่นป.2 (1 หน้า)Prachoom Rangkasikorn
 
066+hisp2+dltv54+540923+a+ใบความรู้ วัฒนธรรมกับการดำเนินชีวิตป.2 (1หน้า)
066+hisp2+dltv54+540923+a+ใบความรู้ วัฒนธรรมกับการดำเนินชีวิตป.2 (1หน้า)066+hisp2+dltv54+540923+a+ใบความรู้ วัฒนธรรมกับการดำเนินชีวิตป.2 (1หน้า)
066+hisp2+dltv54+540923+a+ใบความรู้ วัฒนธรรมกับการดำเนินชีวิตป.2 (1หน้า)Prachoom Rangkasikorn
 
062+hisp2+dltv54+540916+a+ใบความรู้ เหตุการณ์สำคัญกับการเปลี่ยนแปลงป.2 (1หน้า)
062+hisp2+dltv54+540916+a+ใบความรู้ เหตุการณ์สำคัญกับการเปลี่ยนแปลงป.2 (1หน้า)062+hisp2+dltv54+540916+a+ใบความรู้ เหตุการณ์สำคัญกับการเปลี่ยนแปลงป.2 (1หน้า)
062+hisp2+dltv54+540916+a+ใบความรู้ เหตุการณ์สำคัญกับการเปลี่ยนแปลงป.2 (1หน้า)Prachoom Rangkasikorn
 
058+hisp2+dltv54+540909+a+ใบความรู้ การสื่อสารจากอดีตถึงปัจจุบันป.2 (1หน้า)
058+hisp2+dltv54+540909+a+ใบความรู้ การสื่อสารจากอดีตถึงปัจจุบันป.2 (1หน้า)058+hisp2+dltv54+540909+a+ใบความรู้ การสื่อสารจากอดีตถึงปัจจุบันป.2 (1หน้า)
058+hisp2+dltv54+540909+a+ใบความรู้ การสื่อสารจากอดีตถึงปัจจุบันป.2 (1หน้า)Prachoom Rangkasikorn
 
054+hisp2+dltv54+540902+a+ใบความรู้ การดำรงชีวิตของคนในปัจจุบันป.2 (1หน้า)
054+hisp2+dltv54+540902+a+ใบความรู้ การดำรงชีวิตของคนในปัจจุบันป.2 (1หน้า)054+hisp2+dltv54+540902+a+ใบความรู้ การดำรงชีวิตของคนในปัจจุบันป.2 (1หน้า)
054+hisp2+dltv54+540902+a+ใบความรู้ การดำรงชีวิตของคนในปัจจุบันป.2 (1หน้า)Prachoom Rangkasikorn
 
050+hisp2+dltv54+540826+a+ใบความรู้ การดำเนินชีวิตของคนในอดีตป.2 (1หน้า)
050+hisp2+dltv54+540826+a+ใบความรู้ การดำเนินชีวิตของคนในอดีตป.2 (1หน้า)050+hisp2+dltv54+540826+a+ใบความรู้ การดำเนินชีวิตของคนในอดีตป.2 (1หน้า)
050+hisp2+dltv54+540826+a+ใบความรู้ การดำเนินชีวิตของคนในอดีตป.2 (1หน้า)Prachoom Rangkasikorn
 
042+hisp2+dltv54+540805+a+ใบความรู้ การแสวงหาความรู้เกี่ยวกับโรงเรียนป.2 (1หน้า)
042+hisp2+dltv54+540805+a+ใบความรู้ การแสวงหาความรู้เกี่ยวกับโรงเรียนป.2 (1หน้า)042+hisp2+dltv54+540805+a+ใบความรู้ การแสวงหาความรู้เกี่ยวกับโรงเรียนป.2 (1หน้า)
042+hisp2+dltv54+540805+a+ใบความรู้ การแสวงหาความรู้เกี่ยวกับโรงเรียนป.2 (1หน้า)Prachoom Rangkasikorn
 
039+hisp2+dltv54+540729+a+ใบความรู้ ความสัมพันธ์ของเวลากับตนเอง และโรงเรียนป....
039+hisp2+dltv54+540729+a+ใบความรู้ ความสัมพันธ์ของเวลากับตนเอง และโรงเรียนป....039+hisp2+dltv54+540729+a+ใบความรู้ ความสัมพันธ์ของเวลากับตนเอง และโรงเรียนป....
039+hisp2+dltv54+540729+a+ใบความรู้ ความสัมพันธ์ของเวลากับตนเอง และโรงเรียนป....Prachoom Rangkasikorn
 
028+hisp2+dltv54+540701+a+ใบความรู้ การศึกษาวันสำคัญในปฏิทินป.2 (1หน้า)
028+hisp2+dltv54+540701+a+ใบความรู้ การศึกษาวันสำคัญในปฏิทินป.2 (1หน้า)028+hisp2+dltv54+540701+a+ใบความรู้ การศึกษาวันสำคัญในปฏิทินป.2 (1หน้า)
028+hisp2+dltv54+540701+a+ใบความรู้ การศึกษาวันสำคัญในปฏิทินป.2 (1หน้า)Prachoom Rangkasikorn
 
016+hisp2+dltv54+540610+a+ใบความรู้ ความสำคัญของเวลาป.2 (1หน้า)
016+hisp2+dltv54+540610+a+ใบความรู้ ความสำคัญของเวลาป.2 (1หน้า)016+hisp2+dltv54+540610+a+ใบความรู้ ความสำคัญของเวลาป.2 (1หน้า)
016+hisp2+dltv54+540610+a+ใบความรู้ ความสำคัญของเวลาป.2 (1หน้า)Prachoom Rangkasikorn
 
013+hisp2+dltv54+540603+b+ใบความรู้ ฉันเป็นใครป.2 (4หน้า)
013+hisp2+dltv54+540603+b+ใบความรู้ ฉันเป็นใครป.2 (4หน้า)013+hisp2+dltv54+540603+b+ใบความรู้ ฉันเป็นใครป.2 (4หน้า)
013+hisp2+dltv54+540603+b+ใบความรู้ ฉันเป็นใครป.2 (4หน้า)Prachoom Rangkasikorn
 
012+hisp2+dltv54+540603+a+ใบความรู้ ฉันเป็นใครป.2 (1หน้า)
012+hisp2+dltv54+540603+a+ใบความรู้ ฉันเป็นใครป.2 (1หน้า)012+hisp2+dltv54+540603+a+ใบความรู้ ฉันเป็นใครป.2 (1หน้า)
012+hisp2+dltv54+540603+a+ใบความรู้ ฉันเป็นใครป.2 (1หน้า)Prachoom Rangkasikorn
 
001+hisp2+dltv54+540520+a+ใบความรู้ ทดสอบก่อนเรียน+เนื้อหา (1หน้า)
001+hisp2+dltv54+540520+a+ใบความรู้ ทดสอบก่อนเรียน+เนื้อหา (1หน้า)001+hisp2+dltv54+540520+a+ใบความรู้ ทดสอบก่อนเรียน+เนื้อหา (1หน้า)
001+hisp2+dltv54+540520+a+ใบความรู้ ทดสอบก่อนเรียน+เนื้อหา (1หน้า)Prachoom Rangkasikorn
 
03+hisp2+dltv54+แผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง เหตุการณ์และเวลา
03+hisp2+dltv54+แผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง เหตุการณ์และเวลา03+hisp2+dltv54+แผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง เหตุการณ์และเวลา
03+hisp2+dltv54+แผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง เหตุการณ์และเวลาPrachoom Rangkasikorn
 
02+hisp2+dltv54+แผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง ปฏิทินกับวันสำคัญ
02+hisp2+dltv54+แผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง ปฏิทินกับวันสำคัญ02+hisp2+dltv54+แผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง ปฏิทินกับวันสำคัญ
02+hisp2+dltv54+แผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง ปฏิทินกับวันสำคัญPrachoom Rangkasikorn
 

More from Prachoom Rangkasikorn (20)

129+hisp2+dltv54+550224+b+สไลด์ พระมหากษัตริย์ไทยป.2 (4 หน้า)
129+hisp2+dltv54+550224+b+สไลด์ พระมหากษัตริย์ไทยป.2 (4 หน้า)129+hisp2+dltv54+550224+b+สไลด์ พระมหากษัตริย์ไทยป.2 (4 หน้า)
129+hisp2+dltv54+550224+b+สไลด์ พระมหากษัตริย์ไทยป.2 (4 หน้า)
 
120+hisp2+dltv54+550210+a+สไลด์ ความภูมิใจในท้องถิ่นป.2 (1 หน้า)
120+hisp2+dltv54+550210+a+สไลด์ ความภูมิใจในท้องถิ่นป.2 (1 หน้า)120+hisp2+dltv54+550210+a+สไลด์ ความภูมิใจในท้องถิ่นป.2 (1 หน้า)
120+hisp2+dltv54+550210+a+สไลด์ ความภูมิใจในท้องถิ่นป.2 (1 หน้า)
 
116+hisp2+dltv54+550203+a+สไลด์ โบราณวัตถุป.2 (1 หน้า)
116+hisp2+dltv54+550203+a+สไลด์ โบราณวัตถุป.2 (1 หน้า)116+hisp2+dltv54+550203+a+สไลด์ โบราณวัตถุป.2 (1 หน้า)
116+hisp2+dltv54+550203+a+สไลด์ โบราณวัตถุป.2 (1 หน้า)
 
114+hisp2+dltv54+550127+a+สไลด์ โบราณสถาน ป.2 (1 หน้า)
114+hisp2+dltv54+550127+a+สไลด์ โบราณสถาน ป.2 (1 หน้า)114+hisp2+dltv54+550127+a+สไลด์ โบราณสถาน ป.2 (1 หน้า)
114+hisp2+dltv54+550127+a+สไลด์ โบราณสถาน ป.2 (1 หน้า)
 
106+hisp2+dltv54+550106+a+สไลด์ ภูมิปัญญาด้านอาหารป.2 (1 หน้า)
106+hisp2+dltv54+550106+a+สไลด์ ภูมิปัญญาด้านอาหารป.2 (1 หน้า)106+hisp2+dltv54+550106+a+สไลด์ ภูมิปัญญาด้านอาหารป.2 (1 หน้า)
106+hisp2+dltv54+550106+a+สไลด์ ภูมิปัญญาด้านอาหารป.2 (1 หน้า)
 
091+hisp2+dltv54+541209+a+สไลด์ วัฒนธรรมในท้องถิ่นป.2 (1 หน้า)
091+hisp2+dltv54+541209+a+สไลด์ วัฒนธรรมในท้องถิ่นป.2 (1 หน้า)091+hisp2+dltv54+541209+a+สไลด์ วัฒนธรรมในท้องถิ่นป.2 (1 หน้า)
091+hisp2+dltv54+541209+a+สไลด์ วัฒนธรรมในท้องถิ่นป.2 (1 หน้า)
 
066+hisp2+dltv54+540923+a+ใบความรู้ วัฒนธรรมกับการดำเนินชีวิตป.2 (1หน้า)
066+hisp2+dltv54+540923+a+ใบความรู้ วัฒนธรรมกับการดำเนินชีวิตป.2 (1หน้า)066+hisp2+dltv54+540923+a+ใบความรู้ วัฒนธรรมกับการดำเนินชีวิตป.2 (1หน้า)
066+hisp2+dltv54+540923+a+ใบความรู้ วัฒนธรรมกับการดำเนินชีวิตป.2 (1หน้า)
 
062+hisp2+dltv54+540916+a+ใบความรู้ เหตุการณ์สำคัญกับการเปลี่ยนแปลงป.2 (1หน้า)
062+hisp2+dltv54+540916+a+ใบความรู้ เหตุการณ์สำคัญกับการเปลี่ยนแปลงป.2 (1หน้า)062+hisp2+dltv54+540916+a+ใบความรู้ เหตุการณ์สำคัญกับการเปลี่ยนแปลงป.2 (1หน้า)
062+hisp2+dltv54+540916+a+ใบความรู้ เหตุการณ์สำคัญกับการเปลี่ยนแปลงป.2 (1หน้า)
 
058+hisp2+dltv54+540909+a+ใบความรู้ การสื่อสารจากอดีตถึงปัจจุบันป.2 (1หน้า)
058+hisp2+dltv54+540909+a+ใบความรู้ การสื่อสารจากอดีตถึงปัจจุบันป.2 (1หน้า)058+hisp2+dltv54+540909+a+ใบความรู้ การสื่อสารจากอดีตถึงปัจจุบันป.2 (1หน้า)
058+hisp2+dltv54+540909+a+ใบความรู้ การสื่อสารจากอดีตถึงปัจจุบันป.2 (1หน้า)
 
054+hisp2+dltv54+540902+a+ใบความรู้ การดำรงชีวิตของคนในปัจจุบันป.2 (1หน้า)
054+hisp2+dltv54+540902+a+ใบความรู้ การดำรงชีวิตของคนในปัจจุบันป.2 (1หน้า)054+hisp2+dltv54+540902+a+ใบความรู้ การดำรงชีวิตของคนในปัจจุบันป.2 (1หน้า)
054+hisp2+dltv54+540902+a+ใบความรู้ การดำรงชีวิตของคนในปัจจุบันป.2 (1หน้า)
 
050+hisp2+dltv54+540826+a+ใบความรู้ การดำเนินชีวิตของคนในอดีตป.2 (1หน้า)
050+hisp2+dltv54+540826+a+ใบความรู้ การดำเนินชีวิตของคนในอดีตป.2 (1หน้า)050+hisp2+dltv54+540826+a+ใบความรู้ การดำเนินชีวิตของคนในอดีตป.2 (1หน้า)
050+hisp2+dltv54+540826+a+ใบความรู้ การดำเนินชีวิตของคนในอดีตป.2 (1หน้า)
 
042+hisp2+dltv54+540805+a+ใบความรู้ การแสวงหาความรู้เกี่ยวกับโรงเรียนป.2 (1หน้า)
042+hisp2+dltv54+540805+a+ใบความรู้ การแสวงหาความรู้เกี่ยวกับโรงเรียนป.2 (1หน้า)042+hisp2+dltv54+540805+a+ใบความรู้ การแสวงหาความรู้เกี่ยวกับโรงเรียนป.2 (1หน้า)
042+hisp2+dltv54+540805+a+ใบความรู้ การแสวงหาความรู้เกี่ยวกับโรงเรียนป.2 (1หน้า)
 
039+hisp2+dltv54+540729+a+ใบความรู้ ความสัมพันธ์ของเวลากับตนเอง และโรงเรียนป....
039+hisp2+dltv54+540729+a+ใบความรู้ ความสัมพันธ์ของเวลากับตนเอง และโรงเรียนป....039+hisp2+dltv54+540729+a+ใบความรู้ ความสัมพันธ์ของเวลากับตนเอง และโรงเรียนป....
039+hisp2+dltv54+540729+a+ใบความรู้ ความสัมพันธ์ของเวลากับตนเอง และโรงเรียนป....
 
028+hisp2+dltv54+540701+a+ใบความรู้ การศึกษาวันสำคัญในปฏิทินป.2 (1หน้า)
028+hisp2+dltv54+540701+a+ใบความรู้ การศึกษาวันสำคัญในปฏิทินป.2 (1หน้า)028+hisp2+dltv54+540701+a+ใบความรู้ การศึกษาวันสำคัญในปฏิทินป.2 (1หน้า)
028+hisp2+dltv54+540701+a+ใบความรู้ การศึกษาวันสำคัญในปฏิทินป.2 (1หน้า)
 
016+hisp2+dltv54+540610+a+ใบความรู้ ความสำคัญของเวลาป.2 (1หน้า)
016+hisp2+dltv54+540610+a+ใบความรู้ ความสำคัญของเวลาป.2 (1หน้า)016+hisp2+dltv54+540610+a+ใบความรู้ ความสำคัญของเวลาป.2 (1หน้า)
016+hisp2+dltv54+540610+a+ใบความรู้ ความสำคัญของเวลาป.2 (1หน้า)
 
013+hisp2+dltv54+540603+b+ใบความรู้ ฉันเป็นใครป.2 (4หน้า)
013+hisp2+dltv54+540603+b+ใบความรู้ ฉันเป็นใครป.2 (4หน้า)013+hisp2+dltv54+540603+b+ใบความรู้ ฉันเป็นใครป.2 (4หน้า)
013+hisp2+dltv54+540603+b+ใบความรู้ ฉันเป็นใครป.2 (4หน้า)
 
012+hisp2+dltv54+540603+a+ใบความรู้ ฉันเป็นใครป.2 (1หน้า)
012+hisp2+dltv54+540603+a+ใบความรู้ ฉันเป็นใครป.2 (1หน้า)012+hisp2+dltv54+540603+a+ใบความรู้ ฉันเป็นใครป.2 (1หน้า)
012+hisp2+dltv54+540603+a+ใบความรู้ ฉันเป็นใครป.2 (1หน้า)
 
001+hisp2+dltv54+540520+a+ใบความรู้ ทดสอบก่อนเรียน+เนื้อหา (1หน้า)
001+hisp2+dltv54+540520+a+ใบความรู้ ทดสอบก่อนเรียน+เนื้อหา (1หน้า)001+hisp2+dltv54+540520+a+ใบความรู้ ทดสอบก่อนเรียน+เนื้อหา (1หน้า)
001+hisp2+dltv54+540520+a+ใบความรู้ ทดสอบก่อนเรียน+เนื้อหา (1หน้า)
 
03+hisp2+dltv54+แผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง เหตุการณ์และเวลา
03+hisp2+dltv54+แผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง เหตุการณ์และเวลา03+hisp2+dltv54+แผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง เหตุการณ์และเวลา
03+hisp2+dltv54+แผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง เหตุการณ์และเวลา
 
02+hisp2+dltv54+แผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง ปฏิทินกับวันสำคัญ
02+hisp2+dltv54+แผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง ปฏิทินกับวันสำคัญ02+hisp2+dltv54+แผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง ปฏิทินกับวันสำคัญ
02+hisp2+dltv54+แผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง ปฏิทินกับวันสำคัญ
 

185+01010346 a+ขนมถ้วยฟู+1301+ครัวการอาชีพชาววัง

  • 1. สาระน่ารู้ อังคัก หัวเชื้อสมุนไพรให้สีแดง อังคัก เป็นเครื่องปรุงในครัวจีน ที่ใช๎กันมานานนับพันปี ชาวจีนแต๎จิ๋วเรียกอังคัก (ang kag) จีน กลางออกเสียงวํา หงชวี (hong qu) เป็นหัวเชื้อสมุนไพรที่ให๎สีแดงทํามาจากข๎าวเจ๎าหมักกับสําเห็ดหรือ เชื้อจุลินทรีย๑ชนิดหนึ่งที่ชาวจีนเรียกวํา หงชวีเหมยจวิน (hong qu mei jun) เขาจะใช๎ข๎าวเจ๎าแชํไว๎ในน้ํา 3-4 ชั่วโมง แล๎วนําไปนึ่งจนสุกตั้งทิ้งไว๎ให๎อุณหภูมิข๎าวลดลงแล๎วจึงนําสําเห็ดมาผสม หลังจากนั้นต๎อง คอยเกลี่ยข๎าว เอาไปล๎างน้ําประมาณ 5-6 รอบ แล๎วนําไปผึ่งแดดจนแห๎ง ถือเป็นอันใช๎ได๎ อังคักที่ดีต๎องมีสีแดงทั้งข๎างนอกและข๎างใน รสจืดอมเปรี้ยวเล็กน๎อย ใช๎เป็นสํวนผสมในการทํา เต๎าหู๎ยี้ ยาดอง นําไปหมักหมู ชํวยให๎มีเนื้อที่นุํมและมีสีแดงสวยอังคักยังถือเป็นเครื่องยาจีนอีกด๎วย มี สรรพคุณละลายเสมหะ บํารุงเลือด ชํวยยํอยอาหาร แก๎อาการท๎องอืดท๎องเฟ้อ ชํวยรักษาอาการฟกช้ําดํา เขียว แหล่งข้อมูล update Food Fueus นิตยสารครัว ฉบับที่ 163 เดือนมกราคม 2551 หน๎า 12 แผนการสอนรายคาบ คาบที่ 14 เรื่องที่สอน ขนมถ้วยฟู โดยครูอรอนงค์ ลําดวล เป็นขนมไทยโบราณที่ในปัจจุบันยังมีผู๎นิยมรับประทาน เนื่องจากเป็นขนมที่มีรสชาติไมํหวานมาก มี กลิ่นหอมละมุนละไม และมีความนุํมเหนียวของแป้ง สีอํอน ๆ นํารับประทาน นอกจากนี้ยังถือเป็นขนม ที่มีชื่อและลักษณะเป็นมงคล ให๎ความหมายถึงความเจริญเฟื่องฟูทางชีวิต นิยมใช๎เป็นขนมในงานมงคล ตํางๆ 1. จุดประสงค์การสอน 1. บอกสํวนผสมและวิธีทําขนมถ๎วยฟูได๎ 2. ทําขนมถ๎วยฟูได๎ 3. นําไปใช๎ในชีวิตประจําวันหรือนําไปประกอบอาชีพได๎ 2. รายการสอน 1. การเตรียมสํวนผสมและขั้นตอนการทําขนมถ๎วยฟู 2. การผสม 3. การนึ่ง 3. วัสดุอุปกรณ์ หนังสือ และสิ่งที่ต้องเตรียม
  • 2. อุปกรณ์ ถ๎วยตวง ช๎อนตวง อํางผสม ถ๎วยตะไล ลังถึง ช๎อนตักหยอด หรือถ๎วยปากแหลมสําหรับหยอด ข้อแนะนําในการเตรียมส่วนผสม แป้งข้าวเจ้า ใช๎แป้งข๎าวเจ๎าชนิดแห๎งอยํางดี ใหมํสด เนื้อแป้งขาวละเอียด ไมํมีกลิ่นอับ ยีสต์ ใช๎ชนิดแห๎งแบบผง เชํนเดียวกับที่ใช๎ทําขนมปัง น้ําลอยดอกมะลิ ใช๎น้ําลอยดอกมะลิสด จะทําให๎ขนมมีกลิ่นหอมชื่นใจ ไข่ขาว เป็นตัวทําให๎ขนมถ๎วยฟู นุํม เหนียว เนื้อขนมมีความชื้น ไมํแห๎ง ถ๎าใสํมากขนมจะเหนียวมาก เกินไป ใช๎ไขํขาวของไขํไกํหรือไขํเป็ดก็ได๎ ถ๎าใช๎ไขํไกํจะไมํมีกลิ่นคาว ผงฟู ใช๎ผงฟูแบบกําลัง 2 เมื่อใสํผงฟูลงในแป้งที่ผสมไว๎แล๎ว ควรคนให๎ละลายเข๎ากันให๎ดี น้ําข้าวหมาก ได๎จากการนําข๎าวหมากใสํผ๎าขาวบาง บีบน้ําออกให๎หมดจนข๎าวแห๎ง เมื่อตวงแล๎วถ๎าไมํพอ เติมน้ําสะอาดได๎เล็กน๎อย ข๎าวหมากทําให๎ขนมนุํม มีกลิ่นหอม สีผสมอาหาร ใช๎สีสังเคราะห๑ชนิดน้ํา หยดเพียงเล็กน๎อย 1-2 หยด ส่วนผสม (ตํารับที่ 1) 1. แป้งข๎าวเจ๎า 1 ½ ถ๎วย 2. ยีสต๑ ¼ ช๎อนชา 3. น้ําลอยดอกมะลิ ¾ ถ๎วย 4. น้ําตาลทราย ½ ถ๎วย 5. ไขํขาว 1 ช๎อนชา 7. ผงฟู 8. สีผสมอาหาร ส่วนผสม (ตํารับที่ 2) 1. แป้งข๎าวเจ๎า 1 ½ ถ๎วย 2. น้ําข๎าวหมาก ¾ - 1 ถ๎วย 3. น้ําตาลทราย 80 กรัม 4. ผงฟู 5. สีผสมอาหาร 4. ลําดับขั้นตอนการทํา หรือลําดับขั้นตอนการทํางาน วิธีทํา 1. ผสมแป้งข๎าวเจ๎า ยีสต๑ น้ําตาลทราย เคล๎าให๎เข๎ากัน 2. ผสมไขํขาว กับน้ําลอยดอกมะลิ เทใสํในอํางแป้ง คนให๎น้ําตาลละลาย พักไว๎ 30 นาที 3. ใสํน้ํา 3/4 ของลังถึง นําไปตั้งไฟแรงจนน้ําเดือด เรียงถ๎วยตะไลในชั้นลังถึงให๎หํางกันพอควร เผื่อให๎มีรูให๎ไอน้ําขึ้น นึ่งถ๎วยตะไลพอร๎อน 4. ตักแป้งที่ผสมไว๎ 1 ถ๎วย ใสํผงฟู 1 ¼ - 1 ½ ช๎อนชา คนให๎เข๎ากัน หยดสีใสํให๎เป็นสีอํอนๆ คนอีกครั้งให๎เข๎ากัน ตักหยอดใสํถ๎วยตะไลที่นึ่งเตรียมไว๎ประมาณ ¾ ของถ๎วยตะไล นึ่งไฟแรงปานกลาง น้ําเดือดพลําน นานประมาณ 10-12 นาที หรือจนสุก ยกลง
  • 3. 5. รอให๎ขนมเย็นสนิทจึงแซะออกจากถ๎วยตะไล อบดอกมะลิ จัดใสํจานเสิร๑ฟ หมายเหตุ ขนมถ้วยฟูตํารับที่ 2 วิธีทําเช่นเดียวกับตํารับที่ 1 แต่ไม่ใส่ยีสต์และไข่ขาว ข้อแนะนํา 1. การผสมแป้ง ไมํต๎องนวด ถ๎านวดจะทําให๎แป้งเหนียวเกินไป 2. ถ๎าไมํใช๎น้ําลอยดอกมะลิสด ใช๎น้ําสะอาดใสํกลิ่นมะลิ 1-2 หยด 3. ควรใสํสีชมพู สีเขียว ให๎มีสีอํอนๆ ขนมจะนํารับประทาน 4. เมื่อนําแป้งมาผสมผงฟูแล๎ว ไมํควรผสมทิ้งไว๎นานไป ต๎องรีบหยอดและนึ่งทันที หน๎าขนมจะแตก สวย 5. ถ๎าหยอดขนมเต็มถ๎วย ขนมจะแตกย๎อยไมํสวย ถ๎าหยอดน๎อยไป(ครึ่งถ๎วย) ขนมจะแตกน๎อย ควร หยอด ¾ ถ๎วย 6. การนึ่งใช๎น้ํามาก ให๎มีไอน้ําเดือด ขนมจะแตกสวย 7. ควรเช็ดฝาลังถึง อยําให๎ไอน้ําหยดใสํขนม 8. การนึ่งถ๎วยตะไล ไมํต๎องปิดฝารังถึงก็ได๎ ถ๎าปิดฝาหรือนึ่งถ๎วยนานไป จะมีไอน้ําหยดอยูํที่ก๎นถ๎วย นึ่ง ถ๎วยตะไลให๎ร๎อนกํอน แป้งจะไมํแข็งนอนก๎น ถ๎านึ่งถ๎วยตะไลนานไปหรือนึ่งจนร๎อนจัด ขนมจะแข็ง แห๎ง 9. ถ๎านึ่งไฟแรงมากไป ผิวหน๎าขนมจะแห๎งแข็ง ไมํนุํมนวล 10. ถ๎าใช๎น้ําข๎าวหมาก ขนมที่ได๎จะมีกลิ่นแป้งหอมเหมือนหมักแป้ง สมัยกํอนใช๎ลูกแป้งข๎าวหมากหมัก เชื้อ 5. เกณฑ์ในการประเมินผล ขนมฟูแตก แป้งนิ่มเหนียว เนื้อละเอียด หอมกลิ่นดอกมะลิ หรือหอมกลิ่นข๎าวหมาก มีสีอํอนๆ นํารับประทาน สาระน่ารู้ ยีสต์ ยีสต๑เป็นพืชเซลล๑เดียวชนิดหนึ่ง ขยายพันธ๑โดยการแตกหนํอ ยีสต๑แตํละเซลล๑มีขนาดเล็กมาก มอง ด๎วยตาเปลําไมํเห็น มีอยูํตามธรรมชาติ เป็นตัวสําคัญที่ทําให๎เกิดการหมัก ยีสต๑ที่ใช๎ในปัจจุบันมีอยูํ 2 ชนิด คือ 1. ยีสต์ธรรมชาติ เชํน ยีสต๑ที่อยูํในเนื้อลูกตาล เมื่อนําเนื้อลูกตาลมาผสมกับแป้งและน้ําตาล (ซึ่งใช๎เป็น อาหารของยีสต๑) หมักไว๎ในอุณหภูมิที่เหมาะสม จะทําให๎ขนมตาลขึ้นฟู มีกลิ่นรสเฉพาะ 2. ยีสต์ที่เพาะเลี้ยงขึ้น มีทั้งยีสต๑สด และยีสต๑แห๎ง ยีสต์สด ผลิตขึ้นโดยการเลี้ยงและนํามาอัดเป็นก๎อน นิยมใช๎ในประเทศที่ผลิตยีสต๑สดได๎เอง เมืองไทยไมํนิยมใช๎ เนื่องจากไมํสะดวกตํอการใช๎และการเก็บรักษา
  • 4. ยีสต์แห้ง มีทั้งชนิดเม็ดและชนิดผง ชนิดเม็ดต๎องนํามาละลายน้ํากํอนใช๎ ชนิดผงมีลักษณะเป็นเส๎น สั้นๆ เล็กๆ เกือบเป็นผง บรรจุแบบสูญญากาศ ในหํอกระดาษอลูมิเนียม จับดูภายนอกจะแข็ง แตํเมื่อ นํามาเปิดหํอแล๎วจะรํวน เทออกได๎ไมํเป็นก๎อน ยีสต๑ผง (Instant Yeast) นิยมใช๎กันมาก เพราะสะดวก ใช๎งําย ควรเก็บยีสต๑ไว๎ในที่แห๎งและเย็น หรือเก็บในขวดที่มีฝาปิดสนิท ใสํไว๎ในตู๎เย็น การทดสอบวํา ยีสต๑ที่เก็บไว๎มีคุณภาพใช๎ได๎หรือไมํ ทําได๎โดย เทน้ําอุํนที่ 38 องศาเซนเซียส ใสํภาชนะ เติมน้ําตาล 1 ช๎อนโต๏ะ คนให๎ละลาย ใสํยีสต๑ 1 ช๎อนโต๏ะ ลงคนทิ้งไว๎ประมาณ 5-10 นาที ถ๎ายีสต๑ปุดขึ้นมาบนผิวน้ํา แสดงวํายีสต๑ยังไมํเสื่อมคุณภาพ แตํถ๎ายีสต๑จมลงอยูํก๎นภาชนะ ไมํผุดขึ้นมา แสดงวํายีสต๑เสื่อมคุณภาพ ไมํควรใช๎ แหล่งข้อมูล จากหนังสือ เบเกอรี่และอาหารนานาชาติ โดย องุํน ตราวิโรจน๑ หน๎า 30-31 แผนการสอนรายคาบ คาบที่ 15 เรื่องที่สอน สังขยาชานม โดยครู อรอนงค์ ลําดวล สังขยา เป็นชื่อเรียกขนม มี 2 ลักษณะคือสังขยาที่ทําจากไขํ น้ําตาล มะพร๎าว กะทิ อาจเพิ่มฟักทอง เผือก มะพร๎าวอํอน ฯลฯ นําไปนึ่ง รับประทานเป็นขนมหวาน หรือรับประทานคูํกับข๎าวเหนียวมูนก็ได๎ สังขยาชานม เป็นสังขยาอีกลักษณะหนึ่ง มีสํวนผสมของไขํ น้ําตาลทราย นมหรือกะทิ แป้ง นําไปตุ๐น หรือกวนให๎ข๎น ใช๎จิ้มหรือทาบนขนมปัง บางทํานเรียกสังขยาลักษณะนี้วําสังขยาสิงคโปร๑ มีหลาย รสชาติ แตํที่นิยมคือ สังขยาสีเขียวกลิ่นใบเตย และสังขยาสีส๎มกลิ่นวานิลลา สังขยาชานมใช๎ชาผง โบราณชงเป็นน้ําชานําไปเป็นสํวนผสม เพื่อให๎ได๎รสชาติแปลกใหมํ หอมกลิ่นชา สําหรับคนที่รักและ ชื่นชอบชาโบราณ สังขยาชานม จะเป็นขนมอีกชนิดหนึ่งที่คุณต๎องลอง 1. จุดประสงค์การสอน 1. บอกสํวนผสมและวิธีทําสังขยาชานมได๎ 2. ทําสังขยาชานมได๎ 3. ใช๎ในชีวิตประจําวันหรือนําไปประกอบอาชีพได๎ 2. รายการสอน 1. การเตรียมสํวนผสมและขั้นตอนในการทําสังขยาชานม 2. การตุ๐น 3. การจัดเสิร๑ฟ