com

1. ขั#นตอนการทําโครงงาน
คอมพิวเตอร์ ม.6/4
น.ส.พิมพ์ชนก ศรีพงษ์พิจิตร 35
น.ส.บัณฑิตา กันธา 42

2. 1. คัดเลือกหัวข้อ
โครงงานที4สนใจ
ในการตัดสินใจเลือกหัวข้อที6จะนํามาพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์
ควรพิจารณาองค์ประกอบสําคัญ ดังนีE
F. ต้องมีความรู้และทักษะพืEนฐานอย่างเพียงพอในหัวข้อ
เรื6องที6จะศึกษา
P. สามารถจัดหาเครื6องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุ
อุปกรณ์ที6เกี6ยวข้องได้
V. มีแหล่งความรู้เพียงพอที6จะค้นคว้าหรือขอคําปรึกษา
W. มีเวลาเพียงพอ
X. มีงบประมาณเพียงพอ
Y. มีความปลอดภัย

3. 2. ศึกษาค้นคว้าจาก
เอกสารและ
แหล่งข้อมูล
การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล ซึ:งรวมถึงการขอ
คําปรึกษาจากผู้ทรงคุณวุฒิ จะช่วยให้นักเรียนได้แนวคิดที:ใช้ในการกําหนด
ขอบเขตของเรื:องที:จะศึกษาได้เฉพาะเจาะจงมากยิ:งขึPน รวมทัPงได้ความรู้
เพิ:มเติมในเรื:องที:จะศึกษาจนสามารถใช้ออกแบบและวางแผนดําเนินการ
ทําโครงงานนัPนได้อย่างเหมาะสม ในการศึกษาจะต้องได้คําตอบว่า
R. จะทํา อะไร
T. ทําไมต้องทํา
U. ต้องการให้เกิดอะไร
V. ทําอย่างไร
W. ใช้ทรัพยากรอะไร
X. ทํากับใคร
Y. เสนอผลอย่างไร

4. 3. องค์ประกอบของเค้า
โครงของโครงงาน
รายงาน รายละเอียดที-ต้องระบุ
ชื#อโครงงาน ทําอะไร กับใคร เพื#ออะไร
ประเภทโครงงาน วิเคราะห์จากลักษณะของประโยชน์หรือผลงานที#ได้
ชื#อผู้จัดทําโครงงาน ผู้รับผิดชอบโครงงาน อาจเป็นรายบุคคล หรือรายกลุ่มก็ได้
ครูที#ปรึกษาโครงงาน
ครู-อาจารย์ผู้ทําหน้าที#เป็นที#ปรึกษา และควบคุมการทําโครงงาน
ของนักเรียน
ครูที#ปรึกษาร่วม
ครู-อาจารย์ผู้ทําหน้าที#เป็นที#ปรึกษาร่วม ให้คําแนะนําในการทํา
โครงงานของนัีกเรียน
ระยะเวลาดําเนินงาน
ระยะเวลาการดําเนินงานโครงงาน ตัOงแต่เริ#มต้นจนสิOนสุด กําหนด
เป็นวัน หรือ เดือนก็ได้
แนวคิด ที#มา และ
ความสําคัญ
สภาพปัจจุบันที#เป็นความต้องการและความคาดหวังที#จะเกิดผล
วัตถุประสงค์
สิ#งที#ต้องการให้เกิดขึOนเมื#อสิOนสุดโครงงานทัOงในเชิงกระบวนการ
และผลผลิต
หลักการและทฤษฎี หลักการและทฤษฎีที#นํามาใช้ในการพัฒนาโครงงาน
วิธีดําเนินงาน
กิจกรรมหรือขัOนตอนการดําเนินงาน เครื#องมือ วัสดุอุปกรณ์
งบประมาณ และผู้ัรับผิดชอบ
ขัOนตอนการปฏิบัติ วัน เวลา และกิจกรรมดําเนินการต่างๆ ตัOงแต่เริ#มต้นจนสิOนสุด
ผลที#คาดว่าจะได้รับ
สภาพของผลที#ต้องการให้เกิด ทัOงที#เป็นผลผลิต กระบวนการ และ
ผลกระทบ
เอกสารอ้างอิง สื#อเอกสาร ข้อมูลที#ได้จากแหล่งต่างๆ ที#นํามาใช้ในการดําเนินงาน

5. 4. การลงมือทําโครงงาน
เมื$อเค้าโครงของโครงงานได้รับความเห็นชอบจากอาจารย์ที$ปรึกษา
แล้ว ก็เสมือนว่าการจัดทําโครงงานได้ผ่านพ้นไปแล้วมากกว่าครึ$ง
ขัGนตอนต่อไปจะเป็นการลงมือพัฒนาตามขัGนตอนที$วางแผนไว้ ดังนีG
!.# การเตรียมการ
การเตรียมการ ต้องเตรียมเครื$องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และ
วัสดุอื$นๆ ที$จะใช้ในการพัฒนาให้พร้อมด้วย และควรเตรียมสมุดบันทึก
หรือบันทึกเป็นแฟ้มข้อความไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ สําหรับบันทึกการ
ทํากิจกรรมต่างๆ ระหว่างทําโครงงาน ได้แก่ ได้ปฏิบัติอย่างไร ได้ผล
อย่างไร มีปัญหาและแก้ไขได้หรือไม่อย่างไร รวมทัGงข้อสังเกตต่างๆ ที$
พบ

6. !.# การลงมือพัฒนา
!. ปฏิบัติตามแผนงานที1วางไว้ในเค้าโครง แต่อาจ
เปลี1ยนแปลงหรือเพิ1มเติมได้ถ้าพบว่าจะช่วยทําให้ผลงานดีขึJน
K. จัดระบบการทํางานโดยทําส่วนที1เป็นหลักสําคัญๆ ให้แล้ว
เสร็จก่อน จึงค่อยทํา ส่วนที1เป็นส่วนประกอบหรือส่วนเสริมเพื1อให้
โครงงานมีความสมบูรณ์มากขึJน และถ้ามีการแบ่งงานกันทํา ให้ตก
ลงรายละเอียดในการต่อเชื1อมชิJนงานที1ชัดเจนด้วย
T. พัฒนาระบบงานด้วยความละเอียดรอบคอบ และบันทึก
ข้อมูลไว้อย่างเป็นระบบและครบถ้วน
!.1 การทดสอบผลงานและแก้ไข
การตรวจสอบความถูกต้องของผลงาน เป็นความจําเป็น
เพื1อให้แน่ใจว่าผลงานที1พัฒนาขึJนทํางานได้ถูกต้องตรงกับความ
ต้องการ ที1ระบุไว้ในเป้าหมายและทําด้วยประสิทธิภาพสูงด้วย

7. !.! การอภิปรายและข้อเสนอแนะ
เมื$อพัฒนาผลงานเรียบร้อยแล้ว ให้จัดทําสรุปด้วยข้อความที$สัAน
กะทัดรัดอย่างครอบคลุม เพื$อช่วยให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงสิ$งที$ค้นพบจาก
การทําโครงงาน และทําการอภิปรายผลด้วย เพื$อพิจารณาข้อมูลและผล
ที$ได้ พร้อมกับนํา ไปหาความสัมพันธ์กับหลักการ ทฤษฎี หรือผลงานที$
ผู้อื$นได้ศึกษาไว้แล้ว ทัAงนีAยังรวมถึงการนําหลักการ ทฤษฎี หรือผลงาน
ของผู้อื$นมาใช้ประกอบการอภิปรายผลที$ได้ด้วย
!.4 แนวทางการพัฒนาโครงงานในอนาคตและข้อเสนอแนะ
เมื$อทําโครงงานเสร็จสิAนลงแล้ว นักเรียนอาจพบข้อสังเกต
ประเด็นที$สําคัญ หรือปัญหา ซึ$งสามารถเขียนเป็นข้อเสนอแนะและสิ$งที$
ควรจะศึกษาและหรือใช้ประโยชน์ต่อไปได้

8. 5. การเขียนรายงาน
การเขียนรายงานเป็นวิธีการสื1อความหมายเพื1อให้ผู้อื1นได้เข้าใจ
แนวคิด วิธีดําเนินการศึกษาค้นคว้า ข้อมูลที1ได้ ตลอดจนข้อสรุปและ
ข้อเสนอแนะต่างๆ เกี1ยวกับโครงงานนัNน ในการเขียนรายงานนักเรียน
ควรใช้ภาษาที1อ่านง่าย ชัดเจน กระชับ และตรงไปตรงมา ให้ครอบคลุม
หัวข้อต่างๆเหล่านีN
!.# ส่วนนํา
ส่วนนํา เป็นการให้ข้อมูลเกี1ยวกับโครงงานนัNนซึ1งประกอบด้วย
R. ชื1อโครงงาน
T. ชื1อผู้ทําโครงงาน
U. ชื1ออาจารย์ที1ปรึกษา
W. คําขอบคุณ เป็นคํากล่าวขอบคุณบุคคลหรือหน่วยงาน ที1มี
ส่วนช่วยทําให้โครงงานสําเร็จ
Y. บทคัดย่อ อธิบายถึงที1มา ความสําคัญ วัตถุประสงค์
วิธีดําเนินการ และผลที1ได้โดยย่อ

9. !.# บทนํา
บทนําเป็นส่วนรายละเอียดของเนื6อหาของโครงงานซึ<ง
ประกอบด้วย
?. ที<มาและความสําคัญของโครงงาน
E. เป้าหมายของการศึกษาค้นคว้า
H. ขอบเขตของโครงงาน
!.* หลักการและทฤษฎี
หลักการและทฤษฎี เป็นส่วนสรุปข้อมูลที<ได้จากการศึกษาหาข้อมูล
หรือหลักการ ทฤษฎี หรือวิธีการที<จะนํามาใช้ในการพัฒนาโครงงาน ซึ<ง
รวมถึงการระบุผลงานของผู้อื<นที<นักเรียนนํามาเปรียบเทียบหรือพัฒนา
เพิ<มเติมด้วย
!.6 วิธีดําเนินการ
วิธีดําเนินการ อธิบายขั6นตอนการดําเนินงานโดยละเอียด พร้อมทั6ง
ระบุปัญหาหรืออุปสรรคที<พบพร้อมทั6งวิธีการที<ใช้แก้ไข พร้อมทั6งระบุวัสดุ
อุปกรณ์ที<ต้องใช้ในการทํางาน

10. !.! ผลการศึกษา
ผลการศึกษา นําเสนอข้อมูลหรือระบบที9พัฒนาได้ โดยอาจ
แสดงเป็นตาราง หรือ กราฟ หรือข้อความ ทัJงนีJให้คํานึงถึงความเข้าใจ
ของผู้อ่านเป็นหลัก
!., สรุปผลและข้อเสนอแนะ
สรุปผลและข้อเสนอแนะ อธิบายผลสรุปที9ได้จากการทํา งาน
ถ้ามีการตัJงสมมติฐานควรระบุด้วยว่าข้อมูลที9ได้สนับสนุนหรือคัดค้าน
สมมติฐานที9ตัJงไว้หรือยังสรุปไม่ได้ นอกจากนัJนยังควรกล่าวถึงการนํา
ผลการทดลองหรือพัฒนาไปใช้ประโยชน์ อุปสรรคของการทําโครงงาน
หรือข้อสังเกตที9สําคัญ หรือข้อผิดพลาดบางประการที9เกิดขึJนจากการ
ทํา โครงงานนีJรวมทัJงข้อเสนอแนะเพื9อการปรับปรุงแก้ไขหากจะมีผู้
ศึกษาค้นคว้าในเรื9องทํานองนีJต่อไปในอนาคตด้วย
!.7 ประโยชน์
ประโยชน์ที9ได้รับจากโครงงาน ระบุประโยชน์ที9นักเรียนได้รับ
จากการพัฒนาโครงงานนัJน และประโยชน์ที9ผู้ใช้จะได้รับจากการนํา
ผลงานของโครงงานไปใช้ด้วย

11. !.# บรรณานุกรม
บรรณานุกรม รวบรวมรายชื.อหนังสือ วารสาร เอกสาร หรือเว็บไซด์
ต่างๆ ที.ผู้ทํา โครงงานใช้ค้นคว้า หรืออ่านเพื.อศึกษาข้อมูลและรายละเอียด
ต่างๆ ที.นํามาใช้ประโยชน์ในการทําโครงงานนีOการเขียนเอกสารบรรณานุกรม
ต้องให้ถูกต้องตามหลักการเขียนด้วย
!.- การจัดทําคู่มือการใช้งาน
หาโครงงานที.นักเรียนจัดทํา เป็นการพัฒนาระบบใหม่ขึOนมา ให้
นักเรียนจัดทําคู่มืออธิบายวิธีการใช้ผลงานนัOนโดยละเอียด ซึ.งประกอบด้วย
U. ชื.อผลงาน
W. ความต้องการของระบบคอมพิวเตอร์ ระบุรายละเอียดของ
คอมพิวเตอร์ที.ต้องมีเพื.อจะใช้ผลงานนัOนได้
X. ความต้องการของซอฟต์แวร์ ระบุรายชื.อซอฟต์แวร์ที.ต้องมีอยู่ใน
เครื.องคอมพิวเตอร์ เพื.อจะให้ผลงานนัOนทํางานได้อย่างสมบูรณ์
Z. คุณลักษณะของผลงาน อธิบายว่าผลงานนัOนทํา หน้าที.อะไรบ้าง
รับอะไรเป็นข้อมูลขาเข้าและส่วนอะไรออกมาเป็นข้อมูลขาออก
[. วิธีการใช้งานของแต่ละฟังก์ชัน อธิบายว่าจะต้องกดคําสั.งใด หรือ
กดปุ่มใด เพื.อให้ผลงานทํางานในฟังก์ชันหนึ.งๆ

12. 6. การนําเสนอและ
แสดงโครงงาน
การนําเสนอและการแสดงผลงานเป็นขั3นตอนที7สําคัญอีกขั3นตอน
หนึ7งของการทําโครงงาน เพื7อแสดงออกถึงผลิตผลความคิด ความ
พยายามในการทํางานที7ผู้ทําโครงงานได้ทุ่มเท และเป็นวิธีทําให้ผู้อื7น
ได้รับรู้และเข้าใจถึงผลงานนั3น การเสนอผลงานอาจทําได้ในหลาย
รูปแบบต่างๆ กัน เช่น การแสดงผลงานโดยไม่มีการอธิบายประกอบการ
รายงานด้วยคําพูดในที7ประชุม การจัดนิทรรศการโดยโปสเตอร์และ
อธิบายด้วยคําพูด เป็นต้น โดยผลงานที7นํามาเสนอหรือจัดแสดงควร
ประกอบด้วยสิ7งต่อไปนี3
R. ชื7อโครงงาน
T. ชื7อผู้จัดทําโครงงาน
U. ชื7ออาจารย์ที7ปรึกษา
W. คําอธิบายถึงที7มาและความสําคัญของโครงงาน
X. วิธีการดําเนินการที7สําคัญ
Y. การสาธิตผลงาน
Z. ผลการสังเกตและข้อสรุปสําคัญที7ได้จากการทําโครงงาน