เฉลยแนวข้อสอบ GAT Eng 2565 (อังกฤษ)

FOR EDUCATIONAL USE ONLY
เฉลย / ANSWER KEY
รหัสวิชา 85 ความถนัดทั/วไป (GAT ตอนที/ 2)
สอบวันเสาร์ที- 5 กุมภาพันธ์ 2565
เวลา 10.00 - 11.30 น.
FOR EDUCATIONAL USE ONLY
ไม่อนุญาตให้บุคคลอื1นใดนําเอกสารนี9ไปใช้ในเชิงพาณิชย์ทั9งโดยทางตรงและทางอ้อม
(ไม่อนุญาตให้นําเนื0อหาไปพิมพ์ใหม่ ไม่อนุญาตให้นําไปประกอบคลิปหรือเนื0อหาในลักษณะใด ๆ ในทุกช่องทาง และไม่อนุญาตให้นําไปใช้สอนพิเศษในลักษณะเรียกเก็บค่าใช้จ่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต)
แบบทดสอบฉบับนี+เป็นแบบทดสอบจําลอง(Simulation Test) โดยยึดรูปแบบการออกข้อสอบจากข้อสอบจริงในรอบล่าสุด
วันสอบทีAระบุไว้บนหน้าปกเป็นเพียงการจําลองขึ+นเพืAอให้เสมือนข้อสอบจริงมากทีAสุด ไม่ใช่ข้อสอบจริงแต่อย่างใด
สร้างขึ+นเพืAอช่วยในการเตรียมตัวสอบแก่นักเรียนและบุคคลทัAวไป และสามารถใช้เทียบเคียงคะแนนเพืAอเตรียมสอบได้
แบบทดสอบฉบับนี9สร้างขึ9นเพื1อแจกฟรีโดยเพจ และให้ใช้เป็นวิทยาทานแก่ผู้เตรียมสอบเท่านั9น ห้ามนําไปใช้ในเชิงพาณิชย์
WWW.FACEBOOK.COM/GATENGTHAILAND โดยพี่นนท์ ภคณนท์: ครุศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ 1) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
By Non Phakanon: B.Ed. in English major and Thai major (1st Class Honors), Chulalongkorn University
www.facebook.com/GATENGTHAILAND

คำชี้แจง
แบบทดสอบนี)มีวัตถุประสงค์เพื9อวัดศักยภาพในการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยให้ประสบ
ความสําเร็จ โดยทดสอบความสามารถในการสื9อสารภาษาอังกฤษ โดยจะนําผลที9ได้ไปใช้
ประกอบการพิจารณาคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาในระบบ TCAS
รายละเอียดแบบทดสอบ แบบทดสอบฉบับนี)มี 25 หน้า จํานวน 60 ข้อ
วิธีการตอบ ให้ใช้ดินสอดํา 2B ระบายวงกลมที9เป็นคําตอบในกระดาษคําตอบ
เกณฑ์การให้คะแนน ข้อละ 2.5 คะแนน (คะแนนเต็ม 150 คะแนน)
ข้อปฏิบัติในการสอบ
1. เขียนชื9อ – นามสกุล เลขที9นั9งสอบ สถานที9สอบ และห้องสอบบนหน้าปกแบบทดสอบ
2. อ่านคําแนะนําวิธีการตอบข้อสอบให้เข้าใจ แล้วตอบข้อสอบด้วยตนเองและไม่เอื)อให้ผู้อื9น
คัดลอกคําตอบได้
ให้ทําแบบทดสอบฉบับนี0เสมือนการทดสอบจริง
ห้ามใช้พจนานุกรมคําศัพท์หรือเครื?องมืออิเล็กทรอนิกส์ใด ๆ เป็นตัวช่วยในการทําแบบทดสอบทั0งสิ0น
ทั0งนี0เพื?อประโยชน์ในการเตรียมสอบของตัวผู้สอบเอง

หน้า 2
www.facebook.com/GATEngThailand
พี่นนท์ ภคณนท์ : ครุศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ 1) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
รหัสวิชา85 ความถนัดทั*วไป(GAT ตอนที9 2)
ที? 2)
วันเสาร์ที9 5 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 10.00 – 11.30 น.
_____________________________________________________________________________________
กระดาษคําตอบ

หน้า 3
ที? 2)
_____________________________________________________________________________________
ส่วนที่ 1: การสนทนา (ข้อที่ 1-15)
เลือกคำตอบที่ดีที่สุด
การบ้านคณิตศาสตร์ (1-3)
มาร์ค: สวัสดีแซม นี่เรามาร์คเองนะ นายทำการบ้านคณิตศาสตร์เสร็จแล้วหรือยัง
แซม: ยังไม่เสร็จเลย ฉันกำลังทำอยู่เนี่ย
มาร์ค: มันยากจริง ๆ นะ นาย _____1_____?
แซม: ใช่ ฉันติดอยู่ที่โจทย์ข้อนึงมาเป็นชั่วโมงแล้ว
มาร์ค: ใช่ข้อ 3 หรือเปล่า
แซม: ใช่ _____2_____! หรือว่านายคิดออก/แก้โจทย์ได้แล้ว
มาร์ค: ยังเลย นั่นแหละคือเหตุผลว่าทำไมฉันถึงโทรมาหานาย
แซม: เราโทรไปหาคาเรนกันเถอะ _____3_____ เธอต้องมีคำตอบแน่นอน
1. 1. เป็นผู้เชี่ยวชาญคณิตศาสตร์หรือเปล่า
2. พร้อมที่จะส่งมันแล้วหรือยัง
3. กำลังมองหานาฬิกาอยู่ไหม
4. มีปัญหากับการทำมันไหม (มีช่วงเวลาที่ยากลำบากกับการทำการบ้านนี้)
5. กำลังมองหาภาษาใหม่เพื่อเรียนรู้หรือเปล่า
2. 1. ช่างเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีอะไรเช่นนี้ 2. ฉันคิด(แก้โจทย์)ไม่ออกเลย
3. ด้วยความยินดี 4. ของของเธอนี่มันน่าเบื่อจริง ๆ
5. เราหยุดแล้วไปกินมื้อเที่ยงกันเถอะ
3. 1. เธอน่าผิดหวังจริง ๆ 2. เธอไม่ได้ศึกษาเกี่ยวกับมัน
3. เธอเก่งคณิตศาสตร์มาก 4. เธอไม่ได้อยู่กับนายอีกต่อไปแล้ว
5. เธอรู้สึกรำคาญเมื่อถูกถามเรื่องการบ้าน
*เกร็ดความรู้เรื่อง good in และ good at
good in สามารถพบเจอการใช้ได้เมื่อผู้พูดต้องการพูดถึงความเก่งหรือความถนัดในด้านวิชาเรียนหรือเนื้อหาบทเรียน แต่คำที่สามารถ
ใช้ได้เช่นกันกับความเก่งในด้านวิชาเรียนคือคำว่า good at และจะพบการใช้ที่แพร่หลายมากกว่า สามารถอ่านเพิ่มเติมเรื่องวิธีการใช้
good at / good in / good with ได้ที่ https://www.dailywritingtips.com/good-at-good-in-and-good-with/

หน้า 4
ที? 2)
_____________________________________________________________________________________
คู่รัก (4-6)
สามี: เฮ้ _____4_____?
ภรรยา: ฉันนอนไม่หลับค่ะเลยตัดสินใจอ่านหนังสือสักหน่อย
สามี: ทุกอย่างเรียบร้อยดีหรือเปล่า _____5_____?
ภรรยา: น้องสาวฉันโทรมาหาฉันแล้วบอกว่าคุณป้าของเรากำลังจะต้องผ่าตัดในวันพรุ่งนี้ ฉันเลยรู้สึก
กังวลเรื่องคุณป้าค่ะ
สามี: _____6_____?
ภรรยา: ฉันไม่แน่ใจนะคะ แต่เธอบอกว่าไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไร
สามี: ผมมั่นใจว่าเธอจะต้องปลอดภัยแน่นอน เข้านอนกันเถอะแล้วพรุ่งนี้เราค่อยโทรไปหาเธอว่า
เป็นอย่างไรบ้าง
4. 1. คุณทำงานอะไร 2. คุณตื่นนอนตอนกี่โมง
3. ทำไมคุณยังไม่เข้านอน 4. คุณจะรังเกียจไหมถ้าผมจะนอนที่นี้
5. ไปทานมื้อเย็นกับคุณป้าของคุณไหม
5. 1. หนังสือเล่มโปรดของคุณคือเล่มไหน 2. คุณอยากเจอใคร
3. คุณใช้จ่ายไปกับการผ่าตัดเป็นจำนวนเท่าไหร่ 4. อยากอ่านมันกับน้องสาวคุณไหม
5. คุณกังวลอะไรหรือเปล่า
6. 1. คุณกำลังล้อเล่นหรือเปล่า 2. เกิดอะไรขึ้น
3. เราจะไป/ไม่อยู่กันนานแค่ไหน 4. เธอได้เบอร์โทรศัพท์ผมมาจากไหน
5. คุณยังอยู่กับป้าของคุณเหรอ
ตกหลุมรัก (7-8)
โจ: ฉันคิดว่าฉันกำลังตกหลุมรักอยู่นะ
ไมค์: _____7_____?
โจ: ผู้หญิงคนหนึ่งในที่ทำงานของฉัน ฉันอยากบอกเธอจังว่าฉันรู้สึกอย่างไรแต่ว่าฉันรู้สึกขี้ขลาด/
ปอดแหกประจำเลยตอนที่ฉันคุยกับเธอ
ไมค์: _____8_____?
โจ: เธอเป็นผู้หญิงที่เยี่ยมยอดมากจริง ๆ เธอทั้งฉลาด สวย แล้วก็นิสัยดีด้วย
ไมค์: นายควรชวนเธอไปออกเดทนะ

หน้า 5
ที? 2)
_____________________________________________________________________________________
7. 1. รู้มั้ย/เดาซิ 2. แล้วนายล่ะ 3. อยากกินไก่ไหม
4. กับใคร 5. เราจำเป็นต้องคุยกันในที่ทำงานนายไหม
8. 1. เธอชอบอะไร 2. เธอเป็นคนยังไง/แบบไหน
3. เธอกำลังทำอะไรอยู่ 4. ทำไมเธอถึงทำสิ่งนั้น
5. เธอรู้สึกอย่างไร
ตรวจสอบอีเมล (9-10)
จิน: ดูนี่สิ ______9______
นนท์: มันบอกว่ากล่องข้อความของคุณเต็ม ดังนั้นมันจะทำให้คุณไม่ได้รับอีเมลใหม่เลย
จิน: ถ้าอย่างนั้นฉันต้องลบบางข้อความออกเพื่อ ______10______
นนท์: ใช่แล้ว ทำไมคุณไม่ลบทุกอย่างที่อยู่ในกล่องข้อความขยะออกก่อนล่ะ
9. 1. ฉันสามารถส่งข้อความหาคุณได้ 2. ฉันขอใช้อีเมลคุณได้ไหม
3. คุณได้รับอีเมลของฉันไหม 4. นี่หมายความอะไร
5. คุณจำเป็นต้องสมัครบัญชีอีเมลใหม่นะ
10. 1. เดินทางไปไหนมาไหน/แพร่สะพัด(ข่าว) 2. ทำพื้นที่ให้ว่าง
3. ช่วยเหลือคุณ 4. ปฏิเสธระบบ
5. อ่านข้อความขยะ
เลือกซื้อของสำหรับการปิกนิก (11-12)
A: เราต้องซื้ออะไรบ้างนะ
B: แค่ของไม่กี่อย่างสำหรับการปิกนิกในวันพรุ่งนี้ เช่น จานกระดาษ ขนมปัง เนื้อตัดเย็น แล้วก็
มันฝรั่งทอด
A: ______11______?
B: นั่นก็ด้วย ฉันกำลังพยายามนึกว่าพวกเขาต้องการประเภท/ยี่ห้อ/แบบไหน
A: เราซื้อ Coke กับ Pepsi แล้วก็ Sprite กันเถอะ ทุกคนชอบดื่มน้ำพวกนี้
B: ฟังดูเข้าท่า ______12______ เพื่อที่เราจะได้ซื้อทุกอย่างได้เร็วขึ้น
A: ฉันจะไปซื้อขนมปังกับโซดา เธอไปซื้อของอย่างอื่นนะ
B: ได้เลย แล้วเราไปเจอกันตรงที่จ่ายเงินหมายเลข 3 นะ

หน้า 6
ที? 2)
_____________________________________________________________________________________
11. 1. แล้วโซดาล่ะ
(Soda ในความหมายของเจ้าของภาษาหมายถึงน้ำอัดลม เช่น Coke Pepsi Sprite)
(Soda = any type of sweet fizzy drink (= with bubbles) that is not alcoholic)
2. ฉันควรเอาอะไรบ้าง
3. เธอรู้หรือเปล่าว่าพวกนั้นคืออะไร
4. พวกเขาต้องการกินเนื้อประเภทไหน
5. เราจะไปปิกนิกกันที่ไหน
12. 1. ไปดื่มพวกนั้นกัน 2. เราจำเป็นต้องซื้อของพวกนี้ผ่านช่องทางออนไลน์
3. เอาเงินเธอมาให้ฉัน 4. ฉันถังแตก (ไม่มีเงิน)
5. เราแยกกันไปซื้อเถอะ
ขอวันหยุดพักผ่อน (13-15)
อเล็กซ์: ผมต้องการวันหยุดพักผ่อน งานนี้มันเครียดมากจริง ๆ นะจูเลีย
จูเลีย: ฉันคิดว่าคุณควร ______13______
อเล็กซ์: ตอนนี้ไม่ได้น่ะสิ ผมมีงานนำเสนอใหญ่ในวันศุกร์นี้
จูเลีย: หยุดพักอาทิตย์หน้าหลังจากงานนำเสนอนี้สิ
อเล็กซ์: ผมมีงานอีกโครงการหลังจากโครงนี้นะ
จูเลีย: คุณต้องเปลี่ยนแปลงได้แล้ว ไม่อย่างนั้นคุณจะป่วยเอานะ
อเล็กซ์: ผมรู้ แต่ผมมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบเยอะมาก
จูเลีย: ฉันรู้ แต่คุณก็ต้องดูแลตัวเองด้วยเหมือนกันนะ
อเล็กซ์: ______14______ ผมต้องไปคุยกับเจ้านายแล้วบอกเขาว่าผมต้องการวันหยุดพักผ่อน คุณ
คิดว่าเขาจะเข้าใจไหม
จูเลีย: ฉันคิดว่าอย่างนั้นนะ เขาประสบกับอาการหัวใจวายเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ______15______
อเล็กซ์: โอเค ผมจะไปคุยกับเขาวันนี้ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะ
13. 1. เตรียมตัวสำหรับการนำเสนอที่สำคัญ
2. ได้รับการเลื่อนขั้นในฐานะผู้จัดการ
3. ไปหาหมอเพื่อรักษาอาการป่วยของคุณ
4. ขอเจ้านายเรื่องลาหยุดทำงาน
(time off = a period of time when you do not work because of illness or holidays, or because your employer has
given you permission to do something else)
5. ปรึกษาฉันก่อนทำอะไรก็ตาม

หน้า 7
ที? 2)
_____________________________________________________________________________________
14. 1. นั่นไม่จำเป็น 2. มันไม่ใช่เรื่องของคุณ
3. ผมควรทำงานล่วงเวลาสักหน่อย 4. คุณพูดถูก
5. คุณกำลังกล่าวเกินจริง
15. 1. เขาน่าจะเข้าใจว่าสุขภาพเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
2. ฉันไม่คิดว่าเขาจะตอบรับคำร้องขอของคุณ
3. ลูกจ้างไม่ชอบวิธีที่เขาปฏิบัติกับพวกเขา
4. เรามีข้อสงสัยบางอย่างเกี่ยวกับสุขภาพของเขา
5. เขาไม่เข้าใจว่าทำไมผู้คนถึงเห็นว่าเขาน่ากลัว
ส่วนที่สอง: คำศัพท์ (ข้อที่ 16-30)
16. เนื่องจากเขาดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปเป็นระยะเวลาหลายปี ตับของเขาจึงเริ่ม ______ เมื่อเขาอายุ
ได้สี่สิบปี
1. รวม/บูรณาการ 2. เสื่อมสภาพ 3. เข้าใจผิด
4. แสดงให้เห็น/เขียนภาพประกอบ 5. รำลึกความหลัง
17. แผนการเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ของพวกเรานั้น ______ นั่นหมายความว่าแผนเหล่านี้เป็นสิ่งที่
เปลี่ยนแปลงได้โดยขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ
1. ไม่ยืดหยุ่น 2. ซื่อสัตย์/ไม่เปลี่ยนไปจากของเดิม 3. อยากรู้อยากเห็น
4. กล้าหาญ 5. ยังไม่แน่นอน/ไม่ตายตัว
18. บริษัทแห่งนี้กำลังใกล้เข้าสู่ ______ สาเหตุอันเนื่องมาจากการลงทุนต่ำกว่าที่ควรจะเป็นและยอดขาย
ที่ไม่ดี
1. ภาวะล่มสลาย 2. แนวโน้ม 3. การขยายตัว
4. ความชื่นชอบ/ความสำคัญ 5. แนวหน้า
19. ในฐานะครู คุณต้องสามารถที่จะ ______ วิธีการสอนของคุณเพื่อตอบสนองความต้องการให้กับ
นักเรียนที่อายุและความสามารถแตกต่างกัน
*cater for sb/sth = to provide what is wanted or needed by someone or something (ตอบสนองความต้องการให้กับคนกลุ่มหนึ่งหรือสิ่งหนึ่ง)
1. ทารุณ/ล่วงเกิน/ละเมิด 2. ป้องกันไม่ให้เกิด 3. กล่าวหา
4. ปรับ (ให้เหมาะสม) 5. ยกเลิก

หน้า 8
ที? 2)
_____________________________________________________________________________________
20. เจ้าหน้าที่พยายามที่จะสัมภาษณ์คนหลายคนในที่เกิดเหตุ แต่พวกเขาทั้งหมดต่างก็ ______ และ
ปฏิเสธที่จะพูด
1. ที่ไม่อาจทำลายได้ 2. ไม่ให้ความร่วมมือ 3. ไร้ที่ติ/สมบูรณ์แบบ
4. ล่องหน/ไม่สามารถเห็นได้ 5. ไม่มีพรสวรรค์
21. หลังจากประสบกับอาการบาดเจ็บทางสมอง จอห์นก็มีความทรงจำที่เลือนราง/ไม่ชัดเจนเกี่ยวกับ
ครอบครัวของเขา
1. ที่ติดอยู่ในความทรงจำ 2. ที่หลงใหล 3. ที่ไม่ชัดเจน
4. ที่ขมขื่น 5. ที่ไม่อาจลืมได้
22. เป็นที่รู้จักกันในฐานะ “ราชาเพลง Pop” ไมเคิล แจ็กสันเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงของวงการเพลงผู้ซึ่งจะ
ไม่ถูกลืมเลือนไป
1. ที่มา/ต้นกำเนิด 2. ตำนาน 3. ผู้ผลิต/ผู้อำนวยการสร้าง
4. บุคคลที่มีชื่อเสียง 5. ปก/ที่กำบัง
*ข้อสอบลักษณะนี้ต้องพิจารณาบริบทและต้องรู้ความหมายของคำให้มากเนื่องจากมีหลายคำที่มีมากกว่าหนึ่งความหมาย คำว่า
legend นั้นมักจะแปลกันในความหมายว่า ตำนาน (myth) ซึ่งคำว่า myth ในภาษาอังกฤษนั้นจะมีความหมายในเชิงเรื่องราวความเชื่อ
จากโบราณโดยเฉพาะที่เกี่ยวกับเรื่องราวก่อนประวัติศาสตร์ของกลุ่มคนหรือเหตุการณ์ทางธรรมชาติ หรืออาจหมายถึงความเชื่อ
โดยทั่วไปที่มักเป็นความเชื่อที่ผิด (an ancient story or set of stories, especially explaining the early history of a group of
people or about natural events and facts / a commonly believed but false idea) จึงไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสมกับบริบท
ในประโยคนี้ที่กล่าวถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการเพลง กล่าวคือคำว่า legend นั้นอาจมีความหมายว่า ตำนาน หรือ บุคคลที่มีชื่อเสียง
(someone very famous and admired, usually because of their ability in a particular area) ก็ได้ ขึ้นอยู่กับบริบทใน
ประโยคนั้น ๆ ซึ่งในที่นี่ก็มีความหมายเหมือนกับคำว่า icon ที่มีความหมายว่าบุคคลที่มีชื่อเสียง (famous person) เช่นเดียวกัน
23. เนื่องจากแพทย์ได้ค้นพบมะเร็งในช่วงระยะการเริ่มต้น ดังนั้นคนไข้จะฟื้นตัว/หายได้อย่างเต็มที่
1. การปรับปรุง 2. เริ่มต้น 3. การบำรุงรักษา
4. การสรุป 5. ภายนอก
24. The World Travel Awards ถูกจัดขึ้นทุกปี/ปีละครั้งเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
1. อย่างสมบูรณ์แบบ 2. อย่างสมบูรณ์/ครบถ้วน 3. อย่างใจเย็น
4. บ่อย 5. ทุกปี/ปีละครั้ง
25. ในความพยายามที่จะเรียกร้องอิสรภาพให้แก่เพื่อนร่วมชาติของเขาจากนโยบายการแบ่งแยกสีผิว
เนลสัน แมนเดลาต้องประสบกับความยากลำบากมากมายและต้องทุกข์เป็นอย่างมาก
1. ความเข้าใจผิด 2. ผลประโยชน์ 3. ความพยายาม
4. การยอมรับ 5. ความเคารพ

หน้า 9
ที? 2)
_____________________________________________________________________________________
26. บริษัทแห่งนี้เป็นที่รู้จักในเรื่องของ ______ บริการให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพในที่ต่าง ๆ ทั่วโลก ใน
ประเทศไทย บริษัทแห่งนี้ให้บริการในพื้นที่/เมือง ______ เช่น กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ สงขลา
ภูเก็ต และชลบุรี
1. การห้าม, ที่มีชื่อเสียง 2. การให้, หลัก/ใหญ่/สำคัญ
3. การห้าม, ที่หลากหลาย 4. การริเริ่ม, ที่เป็นรอง
5. การให้, ที่มีชื่อเสียงในทางที่ไม่ดี
27. การนำเสนอนี้จะนำเสนอผู้ชมด้วย ______ จำนวนมากซึ่งจะช่วยทำลายความเงียบในห้องเรียนและ
ทำให้นักเรียน ______ ในการสื่อสารที่มีความหมาย
1. กลยุทธ์, มีส่วนร่วม 2. ความพิการ, มีส่วนร่วม
3. การร้องทุกข์, เฝ้าสังเกต 4. เทคนิค/กลวิธี, ยุติ/สิ้นสุด
5. ภาระงาน, ทำโทษ
28. รถบรรทุกของเหลวกำลังขนน้ำเพื่อ ______ แหล่งน้ำดื่มทางธรรมชาติอันเป็นส่วนหนึ่งของความ
พยายามจากเจ้าหน้าที่เพื่อที่จะ ______ ความทุกข์ของสัตว์ป่าและสัตว์เลี้ยง เช่น วัว ควาย
1. ก่อตั้ง/ชี้ให้เห็น, ทำให้เป็นอันตราย 2. ทำลาย, ทำให้ลดน้อยลง
3. ปรับปรุง, ขยาย/ทวีความรุนแรง 4. จำ, ทำให้แย่ลง
5. เติมเต็ม, บรรเทา
29. พ่อแม่ของคน Gen Z กังวลเกี่ยวกับ ______ ของลูก ๆ เนื่องจากเป็นเรื่องง่ายที่พวกเขาจะเข้าถึง
ข้อมูล ______
1. การรวบรวม, ที่ไม่เหมาะสม 2. ความเข้าใจ, ที่มีประโยชน์
3. การเพิกเฉย, ที่อ่อนไหว/ไวต่อสิ่งกระตุ้น 4. การประดิษฐ์, ที่เพิ่มเติมขึ้นมา
5. การใช้(อินเทอร์เน็ต)มากจนเกินไป, ที่ไม่เหมาะสม
30. หลังจากเข้าใกล้ ______ ในช่วงทศวรรษที่ 1950 วาฬสีเทาก็ได้ฟื้นตัวขึ้นอย่างน่าทึ่ง โดยดีดตัวขึ้นสู่
ระดับที่ทำให้ได้รับ ______ จากรายชื่อสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ในปี 1994
1. ความเป็นผู้ใหญ่, ความอดทนอดกลั้น
2. การอพยพย้ายถิ่นฐาน, ความอยู่รอด
3. การสูญพันธุ์, การถอด/การนำออก
4. แหล่งที่อยู่อาศัย, การนำมาใช้/การรับมาเลี้ยงเป็นลูก/การรับมา
5. การกำจัด/การถอนรากถอนโคน, การดำรงอยู่

หน้า 10
ที? 2)
_____________________________________________________________________________________
ส่วนที่สาม: การอ่าน (ข้อที่ 31-45)
บทความที่ 1 (ข้อที่ 31-35) (สรุปสาระสำคัญ)
ในขณะที่ศตวรรษที่ 18 ใกล้ปิดฉากลง แพทย์ชาวอังกฤษนามว่าเอ็ดเวิร์ด เจนเนอร์ได้เริ่มค้นหาว่ามี
ความจริงใด ๆ กับเรื่องราวที่ถูกเล่าต่อกันมาในยุคของเขาหรือไม่ ในเรื่องที่ว่าหญิงรีดนมที่ติดเชื้อฝีดาษวัว (โรค
ที่ก่อให้เกิดแผลพุพองบริเวณเต้านมวัวและสามารถแพร่ไปสู่มนุษย์ได้ในตำแหน่งที่มีการเกาหรือรอยถลอก) ไม่
ติดเชื้อไข้ทรพิษ/ฝีดาษ นี่เป็นเรื่องสำคัญเพราะฝีดาษวัวนั้นโดยทั่วไปแล้วจะก่อให้เกิดแผลพุพองขนาดเล็กซึ่ง
มักจะอยู่บนมือและไม่เคยคร่าชีวิตใคร ในขณะที่ไข้ทรพิษนั้นมักจะทำให้เกิดตุ่มหรือแผลที่ทำให้เสียโฉมได้ และ
ที่แย่ที่สุดคือมันสามารถคร่าชีวิตคนได้
ด้วยกระบวนการที่อาจจะไม่ได้รับการอนุมัติจาก FDA ในปัจจุบันนี้ เจนเนอร์ได้นำสิ่งที่ได้มาจาก
แผลฝีดาษวัวของหญิงรีดนมเข้าไปในร่างกายของเด็กชายวัยแปดขวบ (เจมส์ ฟิปส์) หลังจากที่เด็กชายได้สัมผัส
กับเชื้อและหายจากอาการของฝีดาษวัว เจนเนอร์ได้นำเชื้อไข้ทรพิษเข้าสู่ร่างกายของเด็กชาย ผลปรากฏว่า
เด็กชายมีภูมิคุ้มกันและไม่ติดไข้ทรพิษ เจนเนอร์จึงได้กระทำกระบวนการดังกล่าวซ้ำกับคนอีก 22 คน
คำว่าวัคซีนหรือการฉีดวัคซีนนั้นมาจากคำว่า Variolae vaccinae (ฝีดาษของวัว) คำดังกล่าวถูก
ประดิษฐ์ขึ้นโดยเขาเองผู้ที่พัฒนาแนวคิดของวัคซีนและสร้างวัคซีนตัวแรกขึ้นมา เขาใช้คำดังกล่าวในปี 1798
ในงานตีพิมพ์ของเขาที่มีชื่อว่า Inquiry into the Variolae vaccinae Known as the Cow Pox ซึ่งได้
บรรยายผลของฝีดาษวัวที่มีต่อการป้องกันไข้ทรพิษ ในปี 1881 เพื่อเป็นเกียรติแก่เจนเนอร์ หลุยส์ ปาสเตอร์ได้
เสนอว่าคำดังกล่าวควรจะได้รับการขยายความให้ครอบคลุมการฉีดเพื่อป้องกันโรคอื่น ๆ ที่ได้รับการพัฒนาขึ้น
ในช่วงเวลานั้น
*FDA: ตัวย่อของ Food and Drug Administration: องค์กรของรัฐบาลในสหรัฐอเมริกาซึ่งทำหน้าที่สร้างกฎเกี่ยวกับความปลอดภัยของอาหาร
ยารักษาโรค และเครื่องมือทางการแพทย์
31. จากข้อมูลในย่อหน้าแรก ไข้ทรพิษ ____________
1. ไม่ใช่โรคที่ทำให้ถึงตาย (กล่าวผิดจากบทความ)
2. ถูกค้นพบครั้งแรกโดยหญิงรีดนม (บทความไม่ได้กล่าว)
3. อันตรายกว่าฝีดาษวัว (สังเกตจากประโยคสุดท้ายของย่อหน้าแรก)
4. สามารถป้องกันคนบางคนจากการเสียชีวิตได้ (กล่าวผิดจากบทความ)
5. ไม่สามารถแพร่ไปสู่ผู้คนทั่วไปได้ (กล่าวผิดจากบทความ)
32. คำว่า ‘determine’ ในบทความมีความหมายว่าอะไร
1. ฟื้นตัว 2. ประกาศ 3. กำจัด
4. ค้นหา 5. ปรับปรุงให้ดีขึ้น

หน้า 11
ที? 2)
_____________________________________________________________________________________
33. สามารถอนุมานได้จากวลี "In a process that likely would not get FDA approval today"
ว่า ____________
1. วัคซีนของเจนเนอร์ได้รับการตรวจสอบในด้านความปลอดภัยอย่างถี่ถ้วนจากแพทย์ท่านอื่น ๆ
2. การทดลองของเจนเนอร์จะไม่สอดคล้องกับมาตรฐานทางจริยธรรมและกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์ในปัจจุบัน (ถูกต้องตามบริบทและข้อมูลในบทความที่สุด เนื่องจากการทดลอง
ดังกล่าวนั้นอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ที่ได้รับการทดลองได้ กล่าวคือนำมาทดลองในมนุษย์ทันที
โดยไม่มีขั้นตอนที่สอดคล้องกับ FDA หรือมาตรฐานทางจริยธรรมและกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์ สำหรับข้อนี้อาจต้องใช้การคิดวิเคราะห์และความรู้ในการหาคำตอบ)
3. เพื่อที่จะได้รับการอนุมัติจาก FDA เจนเนอร์ต้องทำซ้ำกระบวนการดังกล่าวกับผู้คนให้มากกว่านี้
4. การฉีดบางสิ่งบางอย่างให้กับผู้คนโดยปราศจากความยินยอมเป็นการทำโดยพลการและควรจะถูก
รายงานไปยัง FDA (บทความไม่ได้บอกว่าผู้ที่ได้รับการฉีดยินยอมหรือไม่)
5. ขั้นตอนที่กระทำโดยเจนเนอร์เพื่อสร้างวัคซีนป้องกันไข้ทรพิษได้รับการพิจารณาจาก FDA ว่า
เหมาะสมแล้วในปัจจุบัน
34. หลังจากได้รับเชื้อไข้ทรพิษ เด็กชาย ____________
1. ติดโรคฝีดาษวัว 2. เสียชีวิตอย่างสงบหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน
3. ปฏิเสธที่จะกระทำกระบวนการของเจนเนอร์ซ้ำ 4. รายงานผลไปยังหญิงรีดนม
5. ไม่แสดงอาการของการติดโรคดังกล่าว
35. วัตถุประสงค์ของย่อหน้าสุดท้ายคือเพื่อที่จะ ____________
1. ให้ข้อมูล 2. ให้ความบันเทิง 3. โน้มน้าว
4. เตือน 5. ทำให้ประหลาดใจ
บทความที่ 2 (ข้อที่ 36-40)
สเปนดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศเป็นล้าน ๆ คนเนื่องมาจากสภาพอากาศที่อบอุ่น บรรยากาศอัน
แสนผ่อนคลาย อีกทั้งอาหารและไวน์อันยอดเยี่ยม นอกจากนี้แน่นอนว่ายังมีสถานที่พักตากอากาศริมชายหาด
ที่ดีที่สุดของยุโรป ภูเขา และเมืองทางวัฒนธรรม เช่น Madrid Seville และ Barcelona
นี่คือสิ่งที่คุณจำเป็นต้องทราบหากคุณต้องการเดินทางไปเยือนสเปนในช่วงโรคระบาดโควิด-19
นักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนครบแล้วจากทุกที่ทั่วโลกสามารถเดินทางเข้าสเปนเพื่อพักผ่อนได้โดยไม่ต้อง
มีหลักฐานการตรวจโควิดที่มีผลเป็นลบ รวมถึงนักท่องเที่ยวจากประเทศที่สเปนกำหนดให้เป็นประเทศเสี่ยง
แต่ไม่รวมนักท่องเที่ยวจากประเทศที่สเปนกำหนดให้เป็นประเทศเสี่ยงสูง

หน้า 12
ที? 2)
_____________________________________________________________________________________
ประเทศที่ไม่ใช่ EU และ Schengen ได้รับการกำหนดให้เป็นประเทศเสี่ยง นอกเหนือจากรายชื่อที่
ได้รับการยกเว้นในขณะนี้คือ Argentina Australia Bahrain Canada Chile Colombia Indonesia Kuwait
New Zealand Peru Qatar Rwanda Saudi Arabia South Korea UAE Uruguay Hong Kong และ
Taiwan นักท่องเที่ยวจากประเทศเหล่านี้สามารถเดินทางเข้าสเปนได้โดยไม่ต้องมีหลักฐานการฉีดวัคซีนหรือ
ผลตรวจโควิดที่มีผลเป็นลบ
สเปนได้จัดให้ Botswana Eswatini Lesotho Malawi Mozambique Namibia South Africa
Zambia Zimbabwe เป็นประเทศเสี่ยงสูง สเปนได้ระงับเที่ยวบินระหว่างประเทศเหล่านี้จนถึงวันที่ 31
มกราคม และการเดินทางจากประเทศเหล่านี้นั้นได้รับการอนุญาตเฉพาะกรณีพิเศษบางกรณีเท่านั้น
บุคคลที่ได้รับการอนุญาตเป็นกรณีพิเศษให้เดินทางได้จากประเทศที่สเปนกำหนดให้เป็นประเทศเสี่ยง
สูงจะต้องแสดงทั้งหลักฐานการได้รับวัคซีนหรือหลักฐานการหายจากโรคและผลตรวจโควิดที่มีผลเป็นลบ พวก
เขายังต้องกักตัวเป็นระยะเวลา 10 วันนับตั้งแต่วันเดินทางเข้ามายังสเปน นักท่องเที่ยวสามารถทำการทดสอบ
เพื่อตรวจหาเชื้อได้ในวันที่ 7 ของการกักตัว หากสิ่งนี้(การทดสอบ)มีผลเป็นลบ นักท่องเที่ยวสามารถลด
ระยะเวลาการกักตัวของพวกเขาให้สั้นลงได้
36. จากข้อมูลในบทความ ทุกตัวเลือกดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามายังสเปน ยกเว้น ____________
1. เมือง
2. อากาศ
3. อาหาร
4. ข้อบังคับ
5. สถานที่ทางธรรมชาติ
37. บุคคลจากประเทศที่สเปนกำหนดให้เป็นประเทศเสี่ยงต้องทำอะไรหากพวกเขาต้องการเดินทางเข้า
สเปนเพื่อพักผ่อน
1. แสดงหลักฐานการตรวจโควิดที่มีผลเป็นลบ
2. รับวัคซีนให้ครบ (เป็นสิ่งเดียวที่มีข้อมูลกล่าวไว้ในบทความ ในขณะที่ตัวเลือกอื่นนั้นบทความไม่ได้
กล่าวถึงหรือไม่สามารถตีความได้ชัดเจนจากข้อมูลที่มีอยู่ในบทความนี้)
3. กักตัวเป็นเวลา 7 วัน
4. ไปเยี่ยมชมเมืองทางวัฒนธรรมในสเปน
5. ร้องขอการอนุญาตเป็นกรณีพิเศษสำหรับการเดินทาง

หน้า 13
ที? 2)
_____________________________________________________________________________________
38. ใครสามารถเดินทางเข้าสเปนได้โดยไม่ต้องมีหลักฐานการตรวจโควิดที่มีผลเป็นลบ
1. นักท่องเที่ยวจาก South Korea (เกาหลีใต้จัดอยู่ในประเทศที่ได้รับการยกเว้น สามารถเดิน
ทางเข้าสเปนได้โดยไม่ต้องมีหลักฐานการฉีดวัคซีนหรือผลตรวจโควิดที่มีผลเป็นลบ)
2. นักท่องเที่ยวจาก Eswatini (จัดอยู่ในประเทศเสี่ยงสูง)
3. นักท่องเที่ยวจาก Malawi (จัดอยู่ในประเทศเสี่ยงสูง)
4. นักท่องเที่ยวจาก South Africa (จัดอยู่ในประเทศเสี่ยงสูง)
5. นักท่องเที่ยวจากประเทศที่ถูกกำหนดให้เป็นประเทศเสี่ยงสูง
39. ถ้าบุคคลจาก Namibia ต้องการเดินทางเข้าสเปน พวกเขาจะต้องปฏิบัติตามข้อบังคับดังต่อไปนี้
ทั้งหมด ยกเว้น ____________
1. ได้รับการอนุญาตเป็นกรณีพิเศษสำหรับการเดินทาง
2. แสดงหลักฐานการได้รับวัคซีนหรือหลักฐานการหายจากโรค
3. แสดงผลตรวจโควิดที่มีผลเป็นลบ
4. กักตัวเป็นระยะเวลา 10 วันนับตั้งแต่วันเดินทางเข้ามายังสเปน
5. ลดการกักตัวของพวกเขาเองให้สั้นลงโดยไม่ต้องทำการทดสอบเพื่อตรวจหาเชื้อในวันที่ 7
40. คำสรรพนาม ‘this’ ในย่อหน้าสุดท้ายอ้างถึงคำว่า ____________
1. การอนุญาตเป็นกรณีพิเศษ 2. หลักฐานการได้รับวัคซีน
3. การกักตัว 4. การทดสอบ
5. การมาถึง
บทความที่ 3 (ข้อที่ 41-45)
Cryptocurrency ได้กลายเป็นหนึ่งในการลงทุนที่มีมูลค่ามากที่สุดสำหรับผู้คนที่จะลงทุน คำว่า
‘cryptocurrency’ ถูกบัญญัติขึ้นในปี 1998 แต่ได้รับการพัฒนาให้เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์วิกฤตการณ์ทาง
การเงินของโลกในปี 2008
แล้วทำไม cryptocurrency ถึงถูกสร้างขึ้น คำตอบคือเพื่อสร้างวิธีการใหม่ในการชำระค่าใช้จ่ายที่
สามารถใช้ได้อย่างเป็นสากล ได้รับการกระจายอำนาจโดยไม่มีสถาบันทางการเงินใดอยู่เบื้องหลัง Satoshi
Nakamoto คือผู้ที่คาดกันว่าเป็นผู้สร้างสกุลเงิน cryptocurrency สกุลแรกขึ้นมา นั่นคือ Bitcoin แม้ว่าตัวตน
ของเขาจะไม่เคยได้รับการยืนยันเลยก็ตาม ในปี 2009 Bitcoin ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น สิ่งที่ผลักดันให้เขาสร้างสกุล
เงิน cryptocurrency ของตนเองนั่นคือเหตุการณ์วิกฤตการณ์ทางการเงินของโลกในปี 2008

หน้า 14
ที? 2)
_____________________________________________________________________________________
สกุลเงิน cryptocurrency ถูกมองว่าค่อนข้างปลอดภัยเนื่องจากพวกมันไม่ได้อยู่ในรูปของเหรียญที่
จับต้องได้หรือเงินจากโลกจริงซึ่งคุณอาจเสียไปได้ง่าย ๆ อย่างไรก็ตาม cryptocurrency ก็ยังมีความเสี่ยงใน
ประเด็นที่ว่าค่าของมันอาจลดลงอย่างรวดเร็วได้ทุกเมื่อ เป็นสาเหตุให้คุณเสียเงินของคุณไป ข้อดีและข้อเสีย
เหล่านี้จะต้องได้รับการคิดพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนที่จะตัดสินใจว่าควรจะลงทุนหรือไม่
การใช้และการลงทุนใน cryptocurrency กำลังเพิ่มขึ้น ในระยะแรกนั้นสังคมไม่เชื่อมั่นในรูปแบบ
ใหม่ของการชำระเงินนี้มากนัก อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไป ____________ บริษัทหลายบริษัทได้ใช้มันเป็น
ที่เรียบร้อยแล้ว พวกเขาอนุญาตให้ใช้สกุลเงินเสมือนเพื่อเป็นวิธีหนึ่งในการชำระค่าใช้จ่ายได้และแม้แต่พวกเขา
เองก็ได้สร้างสกุลเงินเสมือนของตนเองขึ้นมา
สกุลเงิน cryptocurrency จำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ได้รับการสร้างขึ้นในทุกเดือน การศึกษามากมาย
แสดงให้เห็นว่า เรากำลังอยู่ในช่วงแรกของ cryptocurrency เท่านั้น และพวกมันก็ยังมีอายุอีกยาวไกล เราจะ
ไม่ได้มีแค่เงินที่จับต้องได้จากรัฐบาลให้เราได้ใช้ ในแง่ที่ว่า cryptocurrency คืออนาคตที่เราจะจัดการกับเงิน
หรือไม่ เวลาเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์
41. Bitcoin ได้รับการสร้างขึ้นโดย Satoshi Nakamoto เพื่อตอบสนองต่อ ____________
1. เหตุการณ์วิกฤตการณ์ทางการเงินของโลกในปี 2008
2. คำร้องขอจากสถาบันทางการเงินแห่งหนึ่ง
3. การกำจัด cryptocurrency
4. คนที่กำลังฝึกลงทุน
5. การลงทุนเหรียญที่จับต้องได้หรือเงินจากโลกจริงที่ประสบผลสำเร็จ
42. จากข้อมูลในบทความ ข้อใดต่อไปนี้เป็นความจริง
1. ตัวตนที่แท้จริงของ Satoshi Nakamoto เป็นที่รู้กันดีของผู้คนทั่วโลก
2. Bitcoin ได้รับการสร้างขึ้นในปี 1998 โดย Satoshi Nakamoto ในฐานะสกุลเงิน
cryptocurrency ลำดับที่สอง
3. สกุลเงิน cryptocurrency มีความปลอดภัยมากเพราะค่าของพวกมันได้รับการกำหนดไว้โดย
สถาบันทางการเงินแห่งหนึ่ง
4. สามารถพูดได้ว่าเรากำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของสกุลเงิน cryptocurrency แต่พวกมันกลับมีเวลา
เหลืออยู่อีกไม่มาก
5. บริษัทหลายบริษัทได้ยอมรับ cryptocurrency เป็นหนึ่งในวิธีการชำระเงินแล้ว

หน้า 15
ที? 2)
_____________________________________________________________________________________
43. ตัวเลือกใดต่อไปนี้นำไปเติมในช่องว่างของย่อหน้าที่ 4 ได้สมบูรณ์ (ตามใจความ) ที่สุด
1. มันสูญเสียความนิยมไป 2. แนวคิดนั้นก็ได้เปลี่ยนไป
3. ความเชื่อมั่นก็ถูกทำลาย 4. สังคมปฏิเสธที่จะใช้ cryptocurrency
5. รูปแบบใหม่ของการชำระเงินนี้จำเป็นต้องถูกกำจัด
44. จากข้อมูลในบทความ เมื่อตัดสินใจว่าควรจะลงทุนใน cryptocurrency หรือไม่ ____________
1. คุณไม่ควรใช้เวลามากเกินไปในการพิจารณาข้อดีและข้อเสียของพวกมัน
2. คุณจำเป็นต้องพิจารณาข้อดีและข้อเสียอย่างรอบคอบ
(สังเกตได้จากประโยคสุดท้ายในย่อหน้าที่ 2 ของบทความที่กล่าวว่า These pros and cons
must be weighed up when deciding whether to invest. โดย weigh sth up นั้นมี
ความหมายว่า คิดพิจารณาอย่างถี่ถ้วนถึงข้อดีและข้อเสียของสิ่งต่าง ๆ หรือสถานการณ์ต่าง ๆ
ก่อนที่จะทำการตัดสินใจ (to think carefully about the advantages or disadvantages of
a situation before making a decision))
3. คุณไม่สามารถมีระดับความเสี่ยงที่ทนได้ในการซื้อหรือลงทุนในสกุลเงิน cryptocurrency
4. มีจำนวนเงินขั้นต่ำที่คุณจำเป็นจะต้องเริ่มการลงทุน
5. ใช้เวลาศึกษาเกี่ยวกับเหรียญที่จับต้องได้หรือเงินจากโลกจริงอื่น ๆ นอกเหนือไปจากการศึกษาเรื่อง
เทคโนโลยี Blockchain
45. วลี 'at our disposal' มีความหมายว่า ____________
1. ดึงดูดต่อครอบครัวของเรา 2. ไม่สามารถถูกทำลายโดยเราได้
3. จำเป็นสำหรับเราที่จะปกป้องไว้ 4. มีให้เราได้ใช้
5. ไม่สามารถถูกกำจัดโดยพวกเราได้
ส่วนที่สี่: โครงสร้างและการเขียน (ข้อที่ 46-60)
ข้อที่ 46-50
เลือกส่วนที่ขีดเส้นใต้ไว้ซึ่งมีความผิดพลาดทางไวยากรณ์
46. เฉลย 3 แก้ tends to เป็น tend to
คำอธิบาย ข้อนี้วัดเรื่องความสอดคล้องของประธานและกริยา (Subject-Verb Agreement) เมื่อ
พิจารณาประโยคแล้วพบว่าประธานที่แท้จริงของประโยคนี้คือ Those (เหล่าคน) ซึ่งเป็นคำที่มี
ความหมายเป็นพหูพจน์ ดังนั้นกริยาแท้ของประโยคนี้ซึ่งคือ tends (to) (มีแนวโน้มที่จะ) จะต้องผัน
ตามประธานพหูพจน์ นั่นคือไม่เติม s ที่กริยา จึงควรแก้เป็น tend (to) เพื่อให้สอดคล้องกันตามหลัก

หน้า 16
ที? 2)
_____________________________________________________________________________________
ความสอดคล้องของประธานและกริยา กริยา tend (to) ในประโยคนี้อยู่ในรูปของ Present simple
tense เนื่องจากประโยคต้องการสื่อถึงความเป็นจริงจึงสามารถใช้ Present simple ได้ เมื่อประโยค
ขีดเส้นใต้กริยามาให้ นอกจากเรื่องของความสอดคล้องของประธาน-กริยา และเรื่องของ Tense แล้ว
สิ่งที่ควรตรวจสอบอีก 2 ประเด็นคือความหมายควรเป็น Active (กระทำเอง) หรือ Passive (ถูก
กระทำ) (v.to be + v.3) ซึ่งจากความหมายก็พบว่าใช้ในรูป Active ได้ถูกต้องแล้วเพราะประธาน
เป็นผู้มีแนวโน้มด้วยตนเอง ประเด็นสุดท้ายคืออยู่ในตำแหน่งที่ต้องใช้กริยาแท้หรือกริยาไม่แท้ ซึ่งจาก
โครงสร้างประโยคก็พบว่าอยู่ในรูปกริยาแท้และสามารถใช้กริยาแท้ได้เนื่องจากส่วนอื่น ๆ ของ
ประโยคนั้นยังไม่มีกริยาแท้ของประโยค ดังนั้นตัวเลือกนี้จึงผิดเพียงประเด็นเดียวคือในเรื่องของความ
สอดคล้องของประธาน-กริยา
ข้อ 1 suffering อยู่ในรูปกริยาไม่แท้แบบ Present participle (v.ing โดด ๆ) ให้ความหมายว่า
ประธานเป็นผู้กระทำหรือประสบกับกริยานั้นเองซึ่งจากความหมายของประโยคก็ถูกต้องแล้วเพราะ
ประธานเป็นผู้ suffer (ทุกข์จาก/เผชิญกับ) การอดนอนหรือนอนน้อยด้วยตนเอง ส่วนสาเหตุที่ต้องใช้
กริยาไม่แท้เนื่องจากประโยคนี้มีกริยาแท้คือ tend to อยู่แล้ว หากไม่มีคำเชื่อมจะไม่สามารถมีกริยา
แท้ได้อีก ส่วนของ suffering นี้ลดรูปมาจาก who suffer ซึ่งเป็น Relative clause
ข้อ 2 a lack of ใช้ได้ถูกต้องแล้วโดยใช้ร่วมกับคำนาม sleep สามารถอ่านวิธีการใช้ lack โดย
ละเอียดได้ที่โพสต์นี้ของเพจ https://www.facebook.com/GATEngThailand/photos/2581600428652047
ข้อ 4 frequent เป็นคำประเภท Adjective ใช้ขยายคำนาม headaches ที่ตามมาจึงถูกต้องตาม
หลัก Adjective + Noun
ข้อ 5 concentrating อยู่ในรูปของ verb -ing ซึ่งในประโยคนี้ใช้ได้ถูกต้องตามหลัก have trouble
+ verb -ing แล้ว
47. เฉลย 1 แก้ Situating เป็น Situated
คำอธิบาย การใช้กริยา Situate และ Locate นั้น เมื่อมีการใช้เพื่อสื่อความหมายว่า “(สถานที่)
ตั้งอยู่” จะต้องใช้ในโครงสร้าง Passive voice หรือ Past participle (v.3) เสมอ ไม่ใช่ในรูป Active
หรือ Present participle (v.ing) โดยในประโยคนี้ Situated เป็นกริยาไม่แท้ใช้เพื่อนำไปขยาย
ประธาน Krabi ที่ตามมาด้านหลัง ลดรูปมาจากกริยาแท้คือ Krabi is situated along.... แต่เรา
สามารถลดรูป be (ในที่นี้คือ is) situated ที่อยู่ในรูป Passive voice ซึ่งเป็นกริยาแท้ให้อยู่ในรูป
Past Participle ที่เป็นกริยาไม่แท้แต่มีความหมายในเชิง Passive เหมือนกันได้ เนื่องจากกริยา is
ด้านหลัง (is one of southern Thailand's...) และ is situated นั้นมีประธานตัวเดียวกันคือ Krabi
ดังนั้นเราจึงสามารถย้าย situated มาอยู่ด้านหน้าประธานโดยใช้คอมม่าคั่นไว้เพื่อไปขยายประธาน
ด้านหลังได้ กล่าวง่าย ๆ คือกริยาทั้งสองตัวมีประธานตัวเดียวกัน จึงสามารถตัดประธานในส่วนที่อยู่

หน้า 17
ที? 2)
_____________________________________________________________________________________
หน้าคอมม่าออกได้ แล้วใช้ประธานที่อยู่หลังคอมม่าร่วมกับกริยาแท้ (สำหรับน้องที่มีหนังสือ GAT
English Complete ของเพจสามารถเปิดไปทบทวนโครงสร้างที่ 5 ในส่วนของโครงสร้างประโยคที่
พบบ่อย ๆ ในข้อสอบได้) น้องที่มีพื้นฐานน้อยให้ลองสังเกตการอธิบายโดยใช้ประโยคต่อไปนี้ที่อาจจะ
ช่วยให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น
Krabi is situated along the Andaman coast of southern Thailand และ
Krabi is one of southern Thailand’s...
จะเห็นได้ว่าทั้งสองประโยคมีประธานเป็นสิ่งเดียวกันคือ Krabi แต่ตามกฎไวยากรณ์แล้วเราไม่
สามารถใช้เพียงแค่คอมม่าเชื่อมสองประโยคที่มีกริยาแท้เข้าด้วยกันได้ (กริยาแท้ของแต่ละประโยคคือ
is) หากต้องการเชื่อมประโยคดังกล่าวทั้งสองเข้าด้วยกัน จะต้องมีคำเชื่อมมาเชื่อมหรือใช้
Relative/Adjective clause หรือทำให้กริยาตัวหนึ่งตัวใดอยู่ในรูปกริยาไม่แท้เท่านั้น ในที่นี้หากเรา
ต้องการแก้ให้กริยาตัวหนึ่งตัวใดกลายเป็นกริยาไม่แท้ ซึ่งในที่นี้สามารถทำได้เพราะเมื่อทั้งสองประโยค
มีประธานเป็นสิ่งเดียวกัน เราสามารถเชื่อมสองประโยคนี้ได้โดยการตัดประธานของประโยคแรกออก
แล้วคงเหลือแค่เพียง situated ที่เป็นกริยาไม่แท้แบบ Past participle (v.3) (มีความหมายในเชิง
Passive เหมือนกัน) จากนั้นใช้คอมม่าคั่นระหว่างสอง Clause คือ Situated along the Andaman
coast of southern Thailand, แล้วตามด้วยประโยคที่มีกริยาแท้คือ Krabi is one of southern
Thailand’s... จะเห็นได้ว่า Situated ในที่นี้ทำหน้าที่เป็นกริยาไม่แท้ไปขยายประธาน Krabi ที่
ตามมาด้านหลัง จึงจะถูกต้องตามโครงสร้างไวยากรณ์
ข้อ 2 โดยปกติแล้วในการเปรียบเทียบ adj. แบบขั้นสุด (superlative degree) เราจะใช้ the most
นำหน้า Adjective ที่มี 2-3 พยางค์ขึ้นไป (ในที่นี้คือ picturesque) แต่จะไม่ใช้ the เมื่อการ
เปรียบเทียบนั้นอยู่หลังการแสดงความเป็นเจ้าของ เช่น my, his หรือคำนามที่ตามด้วย ’s ซึ่งใช้ใน
การแสดงความเป็นเจ้าของ ดังเช่นในโจทย์คือ southern Thailand’s
ข้อ 3 provinces อยู่ในรูปคำนามพหูพจน์ซึ่งใช้ได้ถูกต้องตามหลัก one of + คำนามพหูพจน์
ข้อ 4 with ในที่นี้ใช้ได้ถูกต้องตามความหมายแล้ว
ข้อ 5 stunning scenery ใช้ได้ถูกต้องตามหลัก Adjective + noun โดย stunning นั้นทำหน้าที่
เป็นคำ Adjective มีความหมายว่า สวยงามมาก ส่วน scenery นั้นมีความหมายว่า ทิวทัศน์ ทำ
หน้าที่เป็นคำนามนับไม่ได้ จึงไม่ต้องเติม s หรือ article a/an
48. เฉลย 5 แก้ healthy (Adjective) เป็น health (Noun)
คำอธิบาย ข้อนี้วัดเรื่องการเลือกใช้ประเภทของคำให้ถูกต้องตามตำแหน่งของประโยค เมื่อพิจารณา
จากประโยคแล้วพบว่าส่วนนี้ต้องการคำนามเนื่องจากอยู่หลังคำบุพบท to จึงต้องการกรรมของ
บุพบทซึ่งต้องอยู่ในรูปของคำนามเท่านั้น ดังนั้นจึงต้องแก้ healthy ที่เป็นคำประเภท Adjective ให้

หน้า 18
ที? 2)
_____________________________________________________________________________________
เป็น Health (สุขภาพ) ที่เป็นคำนามเท่านั้น โดยใช้คู่กับคำว่า human ซึ่งในที่นี้ทำหน้าที่เป็นคำ
ประเภท Adjective เพื่อขยายคำนาม health ที่ตามมา
ข้อ 1 contaminated เป็นคำประเภท Adjective ใช้ขยายคำนาม water ที่ตามมาถูกต้องตามหลัก
Adjective ขยายคำนาม และใช้ได้ถูกต้องตามความหมายที่ต้องการสื่อว่า น้ำที่ปนเปื้อน
ข้อ 2 reached เป็นกริยารูปอดีต (กริยาช่องที่ 2) (Past simple tense) แปลว่า ไปถึง ใช้สื่อถึง
เรื่องราวในอดีตที่เกิดขึ้นในปี 2014 กริยานี้เป็นกริยาแท้ของประโยคที่อยู่หน้าคำเชื่อม but ส่วน that
escaped นั้นเป็น Relative clause ที่ใช้ขยายคำนาม water ที่อยู่ด้านหน้าเท่านั้น escaped จึง
ไม่ใช่กริยาแท้ของประโยค และในที่นี้กริยา reached สามารถใช้ในรูป Active ได้เนื่องจาก
Radiation (รังสี) เป็นสิ่งที่กระทำกริยา reach เอง ดังนั้นตัวเลือกนี้จึงถูกต้องแล้วในทุกประเด็น
ข้อ 3 but เป็นคำเชื่อมที่ใช้เชื่อมสองประโยคเข้าด้วยกัน มีความหมายว่า แต่ ใช้ได้ถูกต้องตาม
ความหมายที่ประโยคต้องการสื่อแล้วคือ “รังสีจากน้ำปนเปื้อนที่ออกมาจาก Fukushima ได้ไปถึง
ชายฝั่งตะวันตกของอเมริกาเหนือในปี 2014 แต่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าการปนเปื้อนนั้นต่ำเกินไปที่จะ
ก่อให้เกิดภัยต่อสุขภาพมนุษย์”
ข้อ 4 too low ใช้ได้ถูกต้องตามโครงสร้าง too + adjective (ในที่นี้คือ low) + to + verb
infinitive (ในที่นี้คือ pose) ให้ความหมายว่า ..…เกินไปที่จะ…..
49. เฉลย 1 แก้ was founded เป็น was found
คำอธิบาย ข้อนี้ต้องการวัดเรื่องการเลือกใช้คำที่ผู้เรียนภาษาอังกฤษมักสับสน เมื่อพิจารณา
ความหมายแล้วประโยคต้องการสื่อความหมายว่า “เคสแรกของผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
ถูกพบในแอฟริกาใต้” (เราสามารถรู้ได้ว่า Omicron ในที่นี้หมายถึงสายพันธุ์ของโรคโควิด-19 จาก
การสังเกตบริบทอื่นในประโยคคือ case, spreading, variant, Delta, ill, treatment, hospital)
ดังนั้นส่วนนี้จึงต้องอยู่ในรูปกริยาแท้แบบ Passive voice (v.to be + v.3) เนื่องจากประโยคแรกยัง
ไม่มีกริยาแท้และต้องการสื่อความหมายว่าประธานถูกกระทำ ซึ่งเมื่อพิจารณาก็พบว่าอยู่ในรูปกริยา
แท้แบบ Passive voice อยู่แล้ว ส่วนกริยา was นั้นเป็นกริยา be รูปอดีตที่ใช้กับประธานเอกพจน์
เท่านั้นซึ่งในที่นี้ใช้ผันตามประธาน case ที่เป็นประธานเอกพจน์จึงถูกต้องแล้วเช่นกัน ส่วนสาเหตุที่ใช้
รูปอดีตเพราะกำลังกล่าวถึงเหตุการณ์ในอดีตคือในเดือนพฤศจิกายน ปี 2021 อย่างไรก็ตามสิ่งที่ผิดใน
ที่นี้คือคำว่า founded นั้นเป็นกริยาช่องที่ 3 ของกริยา found ซึ่งมีความหมายว่า ก่อตั้ง (เช่น บริษัท
องค์กร เมือง) แต่ในประโยคนี้ตามบริบทแล้วต้องการคำว่า ค้นพบ จึงไม่สามารถใช้ founded ได้
ต้องแก้ให้เป็น found ที่เป็นกริยาช่องที่ 3 ของ find จึงจะถูกต้องตามความหมายที่ต้องการจะสื่อ
ข้อ 2 Despite ให้ความหมายว่า แม้ว่า ซึ่งใช้ได้ถูกต้องตามความหมายของประโยคแล้วคือ “แม้ว่าจะ
แพร่ระบาดได้รวดเร็วกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้า (เดลต้า) แต่โอมิครอนก็มีความรุนแรงน้อยกว่า” คำว่า

หน้า 19
ที? 2)
_____________________________________________________________________________________
Despite นั้นทำหน้าที่เป็นคำบุพบทจึงไม่สามารถใช้ตามด้วยประโยคได้ (ยกเว้นมีคำว่า the fact
that ตามมา) ซึ่งในโจทย์ข้อนี้สิ่งที่ตามมา (ส่วนที่อยู่หน้าเครื่องหมายคอมม่า) ก็ไม่ใช่ประโยคที่มีกริยา
แท้ ประเด็นนี้จึงใช้ได้ถูกต้องแล้วเช่นเดียวกัน
ข้อ 3 much faster อยู่ในรูปโครงสร้างการเปรียบเทียบ Adjective ขั้นกว่า สังเกตได้จากคำว่า than
(กว่า) ที่ตามมา ซึ่งคำว่า fast นั้นจะใช้เปรียบเทียบได้โดยการเติม er เข้าข้างท้ายจึงถูกต้องแล้ว ส่วน
much นั้นสามารถใช้ขยายหน้าคำที่ใช้เปรียบเทียบขั้นกว่าได้ (We can use much before
comparative adjectives and adverbs to make a stronger comparison.)
ข้อ 4 previous เป็นคำประเภท Adjective แปลว่า ก่อนหน้านี้ ใช้ขยายคำนาม variant ที่ตามมาจึง
ถูกต้องแล้ว โดย variant ในโจทย์ข้อนี้ทำหน้าที่เป็นคำนามให้ความหมายถึงสายพันธุ์
ข้อ 5 ill เป็นคำประเภท Adjective ในที่นี้ใช้ในโครงสร้าง make somebody/something + adj.
ให้ความหมายว่า เป็นสาเหตุให้บางคนหรือบางสิ่งเป็นหรือกลายเป็นบางสิ่ง (to cause someone or
something to be or become something) จึงใช้ได้ถูกต้องแล้ว
50. เฉลย 3 แก้ their เป็น its
คำอธิบาย ข้อนี้ต้องการวัดเรื่องการใช้คำแสดงความเป็นเจ้าของให้สอดคล้องกับคำนามที่ต้องการใช้
แทนที่ โดยเมื่อแปลความหมายแล้วพบว่าคำว่า their ที่ใช้แสดงความเป็นเจ้าของคำนี้ต้องการใช้
แทนที่คำนาม Hinoki wood ซึ่งอยู่ในรูปคำนามเอกพจน์ (อาจสังเกตได้จากการใช้กริยา has ที่ใช้กับ
ประธานเอกพจน์เท่านั้น) จึงไม่ถูกต้องเนื่องจาก their ต้องใช้กล่าวอ้างถึงคำนามพหูพจน์เท่านั้น
ดังนั้นต้องแก้ให้เป็น its ที่ใช้อ้างถึงคำนามเอกพจน์จึงจะถูกต้อง โจทย์กล่าวว่า “ไม้ฮิโนกิถูกใช้เป็น
อุปกรณ์ก่อสร้างมาตั้งแต่สมัยโบราณในญี่ปุ่นเพื่อสร้างวัดและศาลเจ้าเนื่องมาจากความทนทานต่อ
ความชื้นและการผุพังของมัน”
ข้อ 1 been used ใช้ในรูปโครงสร้าง Present perfect tense (อาจสังเกตจากคำว่า since) แบบ
Passive voice โดยให้ความหมายว่าถูกใช้มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จึงถูกต้องแล้ว
ข้อ 2 time ที่เป็นคำนามนับได้และสามารถเติม s ได้จะมีความหมายว่า ครั้ง หรือ สมัย/ยุค ซึ่งในที่นี้
หมายถึง สมัย (โบราณ) จึงทำหน้าที่เป็นคำนามนับได้ สามารถเติม s ได้ ส่วน time ที่เป็นคำนามนับ
ไม่ได้ห้ามเติม s จะหมายถึง เวลา
ข้อ 4 resistance ทำหน้าที่เป็นคำนามใช้ได้ถูกต้องตามตำแหน่งของประโยคแล้ว โดยใช้คู่กับคำ
บุพบท to จึงถูกต้องตามหลักคำปรากฏร่วม (Collocation) แล้วเช่นกัน
ข้อ 5 rot ในที่นี้ทำหน้าที่เป็นคำนาม หมายถึงการผุพัง เป็นคำนามนับไม่ได้จึงไม่ต้องเติม s ในที่นี้ใช้คู่
กับคำนาม humidity ที่เป็นคำนามนับไม่ได้เช่นเดียวกันและใช้ and เชื่อมคำเข้าไว้ด้วยกัน

หน้า 20
ที? 2)
_____________________________________________________________________________________
ข้อที่ 51-55
51. เฉลย 1 where people spend
คำอธิบาย ข้อนี้วัดเรื่องการใช้ Adverb clause ซึ่งทำหน้าที่เหมือนกับ Adverb โดยต้องการ
Adverb clause (ในที่นี้คือ Adverb clause of place) มาใช้ขยายว่าการกราดยิงนั้นเกิดขึ้น
(occur) ที่ไหน โครงสร้างของ Adverb clause คือ Conjunction + subject + verb ดังนั้น
ตัวเลือกที่มีโครงสร้างเหมือนโครงสร้างดังกล่าวจึงมีตัวเลือกที่ 1 เพียงตัวเลือกเดียวเท่านั้น
52. เฉลย 4 taking
คำอธิบาย ข้อนี้ต้องการวัดเรื่องการใช้กริยาไม่แท้ให้เหมาะสมกับความหมาย เนื่องจากประโยคนี้มี
กริยาแท้คือ occur อยู่แล้ว อีกทั้งยังไม่มีคำเชื่อมอื่น กริยาตัวอื่นจึงต้องอยู่ในรูปกริยาไม่แท้หรือในรูป
relative clause เท่านั้น ตัวเลือกที่เป็นกริยาไม่แท้มีเพียงตัวเลือกที่ 4 taking (Present participle)
และ 5 taken (Past participle) จึงต้องมาพิจารณาความหมายของประโยคและคำศัพท์ รูปกริยาวลี
take place มีความหมายว่า เกิดขึ้น เป็นคำที่มีความหมายในเชิงไม่ต้องการกรรม (intransitive) จึง
ไม่สามารถใช้ในเชิงความหมายถูกกระทำนั่นคือรูปกริยาแท้แบบ Passive voice (v.to be + v.3)
หรือรูปกริยาไม่แท้แบบ Past Participle (v.3 ที่อยู่โดด ๆ) แต่ต้องใช้ในรูปกริยาแท้แบบ Active
voice หรือรูปกริยาไม่แท้แบบ Present Participle (v.ing) เท่านั้น ดังนั้นคำตอบจึงเป็นตัวเลือกที่ 4
taking ที่อยู่ในรูป Present participle
53. เฉลย 2 such as
คำอธิบาย ข้อนี้ต้องการวัดเรื่องการเลือกใช้คำศัพท์หรือคำเชื่อมให้เหมาะสมกับความหมายที่ประโยค
ต้องการจะสื่อ โดยประโยคกล่าวถึงสถานที่ที่มักเกิดการกราดยิงว่า "….และ 12% ในพื้นที่อื่น ๆ ____
ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์..." จะเห็นว่าส่วนที่หายไปต้องการคำว่า เช่น เพื่อใช้ยกตัวอย่างสถานที่
ต่าง ๆ ที่ตามมาซึ่งจะทำให้ความหมายของประโยคสมบูรณ์ที่สุด ตัวเลือกที่ถูกต้องจึงมีเพียง such as
ที่แปลว่า เช่น เท่านั้น ส่วนตัวเลือกอื่น ๆ มีความหมายไม่เหมาะสมกับบริบทและผิดไวยากรณ์ คือ
because มีความหมายว่า เพราะว่า ใช้ตามด้วยประโยค instead มีความหมายว่า แทนที่จะ ใช้ตาม
ด้วยประโยค โดยอาจวางไว้ต้นหรือท้ายประโยคก็ได้เช่นกัน although แปลว่า แม้ว่า ใช้ตามด้วย
ประโยค และ that is แปลว่า นั่นคือ แต่เราไม่สามารถใช้ that หลังเครื่องหมายคอมม่าในประโยค
Relative Clause แบบ Non-defining (Non-restrictive) ได้

เฉลยแนวข้อสอบ GAT Eng 2565 (อังกฤษ)

เฉลยแนวข้อสอบ GAT Eng 2565 (อังกฤษ)

Recommended

Recommended

More Related Content

What's hot

What's hot (20)

เฉลยแนวข้อสอบ GAT Eng 2565 (อังกฤษ)