Recommended
More Related Content
What's hot
What's hot (20)
Similar to อารยธรรมอินเดียสมัยประวัติศาตร์
Similar to อารยธรรมอินเดียสมัยประวัติศาตร์ (20)
อารยธรรมอินเดียสมัยประวัติศาตร์
- 2. อารยธรรมอินเดียสมัยประวัติศาตร์(ตั้งแต่ศตวรรษที่ ๘-๗ ก่อนคริสต์ศักราชถึงปัจจุบัน) หลักฐานในสมัยนี้ แม้ส่วน ใหญ่มักเน้นศาสนา แต่ก็มีเรื่องราวด้านอื่นด้วย มีความเจริญทางด้านภูมิปัญญา โดยมีศาสนาที่ สาคัญ คือ ศาสนพราหมณ์-ฮินดู และศาสนาพุทธ
- 3. ศาสนาฮินดู ถือกาเนิดมาตั้งแต่ยุค พระเวท แต่เสื่อมความนิยมในสมัยพระเจ้าอโศก มหาราชที่ทรงเผยแผ่พระพุทธศาสนา เมื่อ ราชวงศ์คุปตะขึ้นปกครองจึงได้ฟื้นฟูใหม่ เชื่อว่า พระวิษณุและพระศิวะเป็นผู้มาโปรด ให้ความ ช่วยเหลือปกป้องจากความยากลาบาก และช่วย ให้มีชีวิตที่ดีกว่าในชาติหน้าตามหลักเวียนว่าย ตายเกิด ศาสนาฮินดูยอมรับว่าทางไปสู่สัจธรรม มีหลายทางเท่ากับเป็นการส่งเสริมขันติทาง ศาสนา เพราะมีเสรีภาพที่จะทาตามความเชื่อ ของตน ศาสนาฮินดูมีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมอย่าง มากทั้งการปกครอง วิชาการ และศิลปะ ศิวนาฏราช
- 4. พระพุทธศาสนา ถือกาเนิดมาเพื่อให้ เป็นทางหลุดพ้นจากความทุกข์ หลักคาสอนมี บทบาทต่อการดาเนินชีวิต เช่น ทาดีได้ดี ทาชั่วได้ ชั่ว การนับถือและปฏิบัติทาให้หลุดพ้นจากความ เชื่อเรื่องไสยศาสตร์ ในด้านศิลปะ มีการสร้าง สถูป เจดีย์ พระพุทธรูป เจดีย์พุทธคยา
- 5. คาสอนถือเป็นหัวใจสาคัญ คือ การทาความดี ละเว้นความชั่ว ทาจิตใจให้บริสุทธิ์ ปฏิบัติทางสายกลาง อริยสัจ๔ ซึ่งทาให้พ้นความทกข์ ภายหลังพระพุทธเจ้าปรินิพพาน พระสงฆ์สาวก แบ่งเป็น ๒ นิกายใหญ่ คือ หีนยานหรือเถรวาท และมหายาน รุ่งเรื่อนใน อินเดียเป็นเวลา ๑,๐๐๐ ปี ก่อนจะเสื่อมความนิยมลง นิกายมหายานเผยแพร่ไปยังประเทศ ต่างๆ เช่น จีน เกาหลี ญี่ปุ่น เวียดนาม นิกายเถรวาทรุ่งเรืองใน ศรีลังกา พม่า ไทย ลาว พระไตรปิฎก
- 6. ในด้านการปกครอง หลังจากการรุกราน ของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ พระเจ้าจันทรคุปต์ได้ รวบรวมอินเดียเป็นปึกแผ่น พระเจ้าอโศกมหาราช เป็นกษัตริย์ในเวลาต่อมา ทรงทานุบารุงและ เผยแพร่ไปอย่างกว้างขวาง เมื่อราชวงศ์เมารยะหมด อานาจ อินเดียแตกแยกและอ่อนแอ กระทั่งค.ศ. ๓๒๐ พระเจ้าจันทรคุปต์ที่ ๑ แห่งราชวงศ์คุปตะเริ่ม รวมประเทศ ศาสนาพราหมณ์ได้พัฒนาเป็นฮินดู แต่ พระพุทธศาสนายังคงรุ่งเรือง เป็นสมัยรุ่งเรืองวิทย ศาสตร์และคณิตศาสตร์โดยเป็นผู้เริ่มใช้เลขอารบิก และเลข ๐ (เลขศูนย์) ก่อนดินแดนอื่น
- 7. ภาพวาดชาห์จะฮาน ค.ศ.๑๓ – ๑๖ อินเดียถูกปกครองโดยสุลต่าน แห่งเดลี ศาสนาอิสลามได้เผยผ่ไปทั่วอินเดีย ราชวงศื สุดท้ายที่ปกครองอินเดีย คือ ราชวงศ์โมกุลหรือมุคัล ใน ค.ศ. ๑๖-๑๙ ผู้ตั้งจักรวรรดิโมกุล คือ อักบาร์มหาราช ทรงส่งเสริมให้มีขันติธรรมทางศาสนา ต้องการให้ผู้นับ ถือศาสนาอิสลามและฮินดูอยู่ร่วมกันได้ และสุลต่านที่ สาคัญอีกคน คือ ชาห์จะฮาน ผู้สร้างทัชมาฮาล อนุสรณ์ แห่งความรักที่สวยงาม จักรวรรดิโมกุลหมดอานาจลงใน ค.ศ.๑๘๕๙ โดยอังกฤษยึดครอง
- 8. สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย ปลายค.ศ. ๑๕ ชาวโปรตุเกส ฮอลันดา อังกฤษ และฝรั่งเศส เดินทางเข้ามายังอินเดียจนได้ปกครองดินแดน ส่วนใหญ่ ต่อมารัฐบาลอังกฤษได้เข้าปกครองอินเดีย โดยตรงในค.ศ. ๑๘๕๘ โดยตั้งข้าหลวงใหญ่หรืออุปราชเป็น ผู้ปกครอง ปกครองโดยวิธีแบ่งแยกการปกครองและปฏิบัติ กับผู้นับถือศาสนาฮินดูและอิสลามอย่างเท่าเทียม พยายาม ยกเลิกประเพณีดั้งเดิม เช่น พิธีสตี คือ การที่ภรรยาต้องถูก เผาทั้งเป็นพร้อมกับสามี สร้างทางรถไฟ ถนน สะพาน โรงพยาบาล และจัดการศึกษา
- 9. ในต้นค.ศ. ๒๐ ชาวอินเดียนได้เรียกร้องการ ปกครองตนเองและนาไปสู่การเรียกร้องเอกราช โดยมี ผู้นาสาคัญ คือ มหาตมา คานธี และยวาห์รลาล เนห์รู ในวันที่ ๑๕ สิงหาคม ค.ศ.๑๙๔๗ อินเดียได้รับเอกราช แต่มีความขัดแย้งระหว่างชาวมุสลิมและชาวฮินดู ทาให้ ต้องแยกเป็น ๒ ส่วน คือประเทศอินเดีย ส่วนใหญ่เป็น ชาวฮินดู และประเทศปากีสถาน ส่วนใหญ่เป็นมุสลิม