SlideShare a Scribd company logo
1 of 67
Download to read offline
2
รายงานถอดความ (Transcript)
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์
ระหว่างไทยและจีน
ผู้นำเสนอหลัก
ศาสตราจารย์พิเศษ ดร. สุรเกียรติ์ เสถียรไทย
ดร. สวี ปู้
ศาสตราจารย์ ดร. จูเฟิง
คุณกวี จงกิจถาวร
ท่านหนิง ฟู่ขุย
ท่านวิบูลย์ คูสกุล
ศาสตราจารย์ ดร. ซ่ง เต๋อซิง
พลเอกสุรสิทธิ์ ถนัดทาง
รำยงำนฉบับนี้ถอดควำมจำกเวทีวิชำกำร เรื่อง "ยุทธศำสตร์กำรต่ำงประเทศยุคใหม่ และควำมสัมพันธ์ระหว่ำง
ไทยและจีน" จัดโดย สถำบันคลังปัญญำด้ำนยุทธศำสตร์ชำติ, ศูนย์วิจัยยุทธศำสตร์ไทย-จีน สำนักงำนกำรวิจัย
แห่งชำติ, มหำวิทยำลัยเทคโนโลยีป้องกันประเทศ สำธำรณรัฐประชำชนจีน และมหำวิทยำลัยหนำนจิง เมื่อ
วันที่ 12 พฤศจิกำยน พ.ศ. 2565 (กำรประชุมออนไลน์)
บรรณาธิการ: ยุวดี คำดกำรณ์ไกล
ผู้ช่วยบรรณาธิการ: ณัฐธิดำ เย็นบำรุง
อานวยการผลิตโดย: สถำบันคลังปัญญำด้ำนยุทธศำสตร์ชำติ
ปีที่เผยแพร่: มกรำคม พ.ศ. 2566
www.klangpanya.in.th
ที่อยู่
สถาบันคลังปัญญาด้านยุทธศาสตร์ชาติ
อำคำร The Line Phahon-Pradipat ถนนประดิพัทธิ์ แขวงสำมเสนใน เขตพญำไท กทม. 10400
3
คานา
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกำยน พ.ศ. 2565 เวลำ 09.30-15.30 น. สถำบันคลังปัญญำด้ำนยุทธศำสตร์ชำติ
และศูนย์วิจัยยุทธศำสตร์ไทย-จีน สำนักงำนกำรวิจัยแห่งชำติ ร่วมกับ มหำวิทยำลัยเทคโนโลยีป้องกันประเทศ
แห่งสำธำรณรัฐประชำชนจีน และมหำวิทยำลัยหนำนจิง จัดเวทีวิชำกำรไทย-จีน เรื่อง "ยุทธศาสตร์การ
ต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน" ณ ห้องประชุม ศูนย์ศึกษำยุทธศำสตร์ สถำบัน
วิชำกำรป้องกันประเทศ โดยกล่ำวปำฐกถำเป็นภำษำไทย และจะมีล่ำมแปลจำกภำษำไทยเป็นภำษำจีน กำร
จัดประชุมใช้รูปแบบเวทีวิชำกำรออนไลน์ผ่ำนแอปพลิเคชัน ZOOM ระหว่ำงห้องประชุมฝ่ำยไทยกับห้อง
ประชุมฝ่ำยจีน โดยมีนักคิด นักยุทธศำสตร์ นักวิชำกำร อดีตเอกอัครรำชทูต เข้ำร่วมบรรยำย
สถำนกำรณ์โลกในปัจจุบันมีควำมผันผวนเป็นอย่ำงมำกและมีควำมเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว โดยเฉพำะ
ควำมเปลี่ยนแปลงในทำงเศรษฐกิจ และควำมขัดแย้งของประเทศมหำอำนำจที่มีจีนและสหรัฐฯ เป็นตัวแสดง
สำคัญในทำงกำรเมือง ในขณะที่สหรัฐฯ เริ่มอ่อนแอลงและอยู่ในสภำวะตกต่ำ จีนก็ผงำดขึ้นมำจนมีเศรษฐกิจที่
ทัดเทียมกันกับสหรัฐฯ สภำพกำรณ์เช่นนี้ได้ก่อให้เกิดควำมเปลี่ยนแปลงต่อดุลแห่งอำนำจระหว่ำงจีนและ
สหรัฐฯ ในอำณำบริเวณต่ำงๆ ของโลก อีกทั้ง จีนก็กำลังจะมีกำรจัดตั้งคณะผู้บริหำรประเทศชุดใหม่ในเดือน
ตุลำคมนี้ ย่อมส่งผลต่อกำรกำหนดนโยบำยต่ำงประเทศของไทยอย่ำงหลีกเลี่ยงไม่ได้ คำถำมที่เกิดขึ้นก็คือ กำร
ต่ำงประเทศจำเป็นต้องได้รับกำรทบทวนใหม่หรือไม่ อะไรคือปัจจัยสำคัญของกำรดำเนินกำรต่ำงประเทศยุค
ใหม่ แล้วนโยบำยกำรต่ำงประเทศของไทยนั้นควรจะดำเนินไปอย่ำงไร เพื่อให้เกิดควำมกระจ่ำงต่อประเด็น
คำถำมดังกล่ำว ทีมงำนจำกหน่วยงำนทั้งสำมสถำบันทั้งของไทยและจีน จึงได้กำหนดจัดเวทีวิชำกำร เรื่อง
ยุทธศำสตร์กำรต่ำงประเทศยุคใหม่ และควำมสัมพันธ์ระหว่ำงไทย-จีนขึ้น
ในกำรนี้ สถำบันคลังปัญญำด้ำนยุทธศำสตร์ชำติ ได้จัดทำรำยงำนสรุปและถอดควำมเนื้อหำเวที
วิชำกำรครั้งนี้ขึ้นเพื่อเผยแพร่ควำมรู้สู่ผู้กำหนดและตัดสินใจเชิงนโยบำย ภำคส่วนต่ำง ๆ นิสิตนักศึกษำ และ
ประชำชนทั่วไปที่สนใจกำรกำหนดยุทธศำสตร์กำรต่ำงประเทศยุคใหม่ และควำมสัมพันธ์ระหว่ำงไทย-จีน ในยุค
ที่อำนำจโลก มีควำมซับซ้อน และกำลังเปลี่ยนแปลงนี้
สถาบันคลังปัญญาด้านยุทธศาสตร์ชาติ
4
สารบัญ
หน้า
คานา 3
เกริ่นนา
ศำตรำจำรย์ ดร.หวัง โป 7
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่
ศำสตรำจำรย์พิเศษ ดร. สุรเกียรติ์ เสถียรไทย 9
ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจีน
Paradigm การสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของเอเชีย
ดร. สวี ปู้ 27
การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ด้วยวิถีของเอเชีย (Asia Way)
ศำสตรำจำรย์ ดร. จูเฟิง 30
ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีนแบบห้าเหลี่ยม
คุณกวี จงกิจถำวร 34
การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างจีนและไทย
ให้ก้าวสู่ระดับที่สูงขึ้น
ท่ำนหนิง ฟู่ขุย 42
5
สถานภาพของจีนวันนี้ : การยอมรับและความคาดหวัง
ท่ำนวิบูลย์ คูสกุล 48
การพัฒนาคุณภาพของจีน
กับการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างจีนกับอาเซียน
ศำสตรำจำรย์ ดร. ซ่ง เต๋อซิง 54
การทูตเชิงป้องกัน (Defense Diplomacy)
แบบไม่ใช้กาลังป้องกัน
พลเอกสุรสิทธิ์ ถนัดทำง 57
กล่าวปิด
ดร.หู ซิง 62
ดร.วิภำรัตน์ ดีอ๋อง 63
6
7
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่
และความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีน
กล่าวเปิด
ศาตราจารย์ ดร.หวัง โป
รองอธิกำรวิทยำลัยควำมสัมพันธ์ระหว่ำงประเทศ
มหำวิทยำลัยเทคโนโลยีป้องกันประเทศ สำธำรณรัฐประชำชนจีน
เรียนท่ำนศำสตรำจำรย์พิเศษ ดร. สุรเกียรติ เสถียรไทย อดีตรองนำยกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีกำร
ต่ำงประเทศที่เคำรพ ดร. สี ปู้ เลขำธิกำรศูนย์ศึกษำควำมคิด Xi Jinping ด้ำนกำรทูต ท่ำนวิทยำกรและ
ผู้เข้ำร่วมสัมมนำทุกท่ำน ก่อนอื่น วิทยำลัยควำมสัมพันธ์ระหว่ำงประเทศ มหำวิทยำลัยเทคโนโลยีป้องกัน
ประเทศ สำธำรณรัฐประชำชนจีน ขอยินดีต้อนรับทุกท่ำนเข้ำสู่งำนสัมมนำครั้งนี้ ภำยใต้หัวข้อ “ยุทธศำสตร์
กำรต่ำงประเทศยุคใหม่ และควำมสัมพันธ์ระหว่ำงไทยและจีน”
ทั้งไทยและจีนเป็นประเทศเพื่อนบ้ำนที่ดี มีมิตรสัมพันธ์นับเป็นพันปี เมืองหนำนจิงซึ่งเป็นเมืองเก่ำแก่
ได้ประจักษ์เป็นสักขีพยำนของกำรพัฒนำควำมสัมพันธ์ระหว่ำงไทย-จีน จูหยวนจำง จักรพรรดิองค์แรกของ
รำชวงศ์หมิงถือว่ำสยำมซึ่งคือประเทศไทยในปัจจุบันนี้เป็นหนึ่งในประเทศที่ไม่ส่งทหำรไปรบ และสำมำรถตั้ง
โรงเรียนเพื่อผลิตบุคลำกรด้ำนกำรแปลภำษำต่ำงประเทศ ซึ่งภำษำไทยถือว่ำเป็นภำษำที่เก่ำแก่ที่สุดที่จีนได้เปิด
สอนในฐำนะที่เป็นภำษำต่ำงประเทศ เจ้อเหอ นักเดินเรือทำงทะเล ออกเดินทำงจำกหนำนจิง นำกองทัพเรือ
พำณิชย์ เพื่อที่จะเจริญควำมสัมพันธ์กับประเทศต่ำงๆ ในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งประเทศไทยก็มีสถำนที่
หรือโบรำณสถำนที่สะท้อนให้เห็นถึงควำมสัมพันธ์ไทย-จีน โดยทั้งไทยและจีนมีกำรสถำปนำควำมสมัพันธ์
8
ทำงกำรฑูตเมื่อ ค.ศ. 1975 ทำให้ทั้งสองประเทศมีควำมสัมพันธ์ที่ดีต่อมำ สำมำรถทำให้จีน-ไทย ไม่ใช่คนอื่น
ไกลและเป็นพี่น้องกันมำ หยั่งรำกลึกในใจประชำชนทั้งสองประเทศ
ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงไทย-จีนเป็นต้นแบบของควำมสัมพันธ์ที่มีระบบสังคมแตกต่ำงกัน ตั้งแต่เดือน
เมษำยน ค.ศ. 2012 ทั้งจีนและไทยพัฒนำควำมสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนควำมร่วมมืออย่ำงรอบด้ำนซึ่งปีนี้ครบรอบ
10 ปี โดย 10 ปีที่ผ่ำนมำ ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงไทย-จีนมีกำรพัฒนำอย่ำงต่อเนื่อง มีควำมเชื่อใจไว้วำงใจทำง
กำรเมือง เศรษฐกิจกำรค้ำมีกำรยกระดับสูงขึ้น ไม่นำนมำนี้กำรประชุมสมัชชำพรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20
ได้เปิดกำรประชุมอย่ำงประสบควำมสำเร็จ ในที่ประชุมได้ชี้แจงให้เห็นว่ำใน 10 ปีที่ผ่ำนมำ ประเทศจีนได้
ดำเนินนโยบำยต่ำงประเทศในฐำนะที่เป็นประเทศใหญ่และสร้ำงประชำคมที่มีอนำคตร่วมกันของมนุษยชำติ
ส่งเสริมและพิทักษ์ ควำมเสมอภำค ควำมยุติธรรมเพื่อที่จะสร้ำงควำมสัมพันธ์ระหว่ำงประเทศในยุคสมัยใหม่
สำมำรถที่จะครอบคลุมเครือข่ำยระหว่ำงประเทศต่ำงๆ ในขณะเดียวกัน สำมำรถที่จะผลักดัน
ธรรมำภิบำลโลก ส่งเสริมควำมร่วมมือในกำรป้องกันและต่อต้ำนโรคระบำดโควิด 19 ซึ่งได้รับกำรชื่นชมจำก
นำนำประเทศ ผลสำเร็จทำงกำรฑูตที่ได้รับนี้ ย่อมที่จะแยกไม่ออกระหว่ำงประเทศไทยและประเทศอื่นๆ กำร
ชิงไหวชิงพริบ แก่งแย่งชิงดีชิงเด่น ซึ่งสถำนกำรณ์ก็มีกำรเปลี่ยนแปลงอย่ำงผันผวนและประสบควำมท้ำทำย
หลำกหลำย ประเทศไทยในฐำนะที่เป็นประเทศริเริ่มก่อตั้งอำเซียน มีขนำดเศรษฐกิจเป็นอันดับสองในอำเซียน
เป็นหุ้นส่วนสำคัญของประเทศจีน ประเทศไทยได้แสดงบทบำทสำคัญในเวทีโลก ในอำทิตย์หน้ำประเทศไทยก็
ได้เป็นเจ้ำภำพกำรจัดประชุมเอเปคด้วย
เมื่อเผชิญกับสิ่งที่ไม่แน่นอนหรือปัจจัยที่เป็นควำมเสี่ยงหรือสถำนกำรณ์ที่ผันผวน ทั้งไทยและจีนควร
จะจับมือกันอย่ำงไรเพื่อที่จะเอำชนะปัญหำอุปสรรค ซึ่งเป็นประเด็นที่สำคัญที่เรำต้องคิดหำวิธีแก้ไขปัญหำ
เพื่อที่จะพัฒนำควำมสัมพันธ์ไทยและจีนเข้ำสู่อีกระดับหนึ่ง ซึ่งวันนี้วิทยำกรทั้งไทยและจีนได้มีกำรจัดสัมมนำ
เพื่อที่จะหำรือยุทธศำสตร์กำรต่ำงประเทศยุคใหม่และควำมสัมพันธ์ระหว่ำงประเทศ กำรประชุมในวันนี้จะเป็น
เวทีที่ดีในกำรส่งเสริมวิชำกำรทั้งสองประเทศ สร้ำงควำมเข้ำใจกันและกัน และสนับสนุนส่งเสริมกิจกรรม
ระหว่ำงประเทศ เพื่อที่จะพัฒนำควำมสัมพันธ์ระหว่ำงไทยจีนเข้ำสู่อีกระดับหนึ่ง
หวังเป็นอย่ำงยิ่งว่ำกำรแพร่ระบำดของโควิด 19 จะผ่ำนพ้นไปอย่ำงรวดเร็ว เพื่อให้สำมำรถประชุม
แบบ Face to Face ในสุดท้ำยขอให้กำรประชุมวันนี้ประสบควำมสำเร็จทุกประกำร ขอให้มิตรภำพไทยจีน
ยั่งยืนสถิตสถำพรต่อไป ขอขอบพระคุณครับ
9
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่
ปาฐกถา โดย
ศาสตราจารย์พิเศษ ดร. สุรเกียรติ์ เสถียรไทย
อดีตรองนำยกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงกำรต่ำงประเทศ
เรียนท่ำนศำสตรำจำรย์ ดร. หวังโป รองอธิกำรวิทยำลัยควำมสัมพันธ์ระหว่ำงประเทศ มหำวิทยำลัย
เทคโนโลยีป้องกันประเทศ ของสำธำรณรัฐประชำชนจีน เรียนคุณยุวดี คำดกำรณ์ไกล, ดร. หยูฉวิน, ดร. สี ปู้
ประธำนศูนย์ศึกษำควำมคิด ของท่ำนประธำนำธิบดี Xi Jinping ด้ำนกำรต่ำงประเทศ ท่ำนวิทยำกร
ผู้ทรงคุณวุฒิทุกท่ำน ท่ำนศำสตรำจำรย์ ดร. จูเฟิง, คุณกวี จงกิจถำวร, ท่ำนเอกอัครรำชฑูต หนิงฟูขุย, ท่ำนเอก
อัครรำชฑูต วิบูลย์ คูสกูล, ศำสตรำจำรย์ ดร. ซ่งเต๋งซิง และท่ำนพลเอกสุรสิทธิ์ ถนัดทำง ผมมีควำมยินดีเป็น
อย่ำงยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในกำรแลกเปลี่ยนควำมคิดเห็นกับท่ำนผู้มีเกียรติในวันนี้
ในหัวข้อที่ได้รับมอบหมำยมำเป็นหัวข้อ ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ ในกำรสัมมนำ
ยุทธศำสตร์กำรต่ำงประเทศยุคใหม่และควำมสัมพันธ์ไทย-จีน ในส่วนของผมคงจะเน้นไปที่ยุทธศำสตร์กำร
ต่ำงประเทศยุคใหม่เป็นหลัก ว่ำควรเป็นอย่ำงไร
ปัจจัยที่กาหนดยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ : การต่างประเทศที่อยู่ภายใต้ Global
Mega Trend
แนวโน้มใหญ่ของโลกประการที่ 1 คือ สังคมสูงอายุ (Aging Society)
ถ้ำเรำพูดกันในประเทศเอเชียก็จะเห็นได้ว่ำมีประเทศจีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และไทย เป็นประเทศที่ถือว่ำ
เข้ำสู่สังคมผู้สูงอำยุ สำหรับประเทศไทยนั้นไม่ใช่เป็น Aging Society แต่เป็น Age Society แล้ว ซึ่งมีผลกระทบ
10
ต่อนโยบำยเศรษฐกิจในประเทศ ประเทศจีนเองก็มี Silver-Haired Economy ญี่ปุ่นก็มีวิธีที่จะเพิ่มภำษีและ
เอำเงินของภำษีที่เพิ่มขึ้นมำดูแลผู้สูงอำยุ สิงคโปร์ก็มีวิธีกำรที่ผู้สูงอำยุที่ยังเข้มแข็ง มีสติปัญญำดีให้เข้ำมำใน
ตลำดแรงงำน สังคมสูงอำยุก็จะมีผลกระทบต่อนโยบำยเศรษฐกิจระหว่ำงประเทศพอสมควร เพรำะนักลงทุน
ระหว่ำงประเทศเมื่อมองเข้ำมำแทนที่จะเห็นประเทศไทยเป็นประเทศที่มีประชำกร 70 ล้ำนคน Economy of
Scale ก็จะลดลง ก็ถือกันว่ำผู้สูงอำยุมักไม่ค่อยใช้เงิน มักไม่เป็น Spender จะลงทุนอะไรที่มีควำมมั่นคง ลงทุนใน
Fix Income มำกกว่ำที่จะลงทุนในอะไรที่มีกำรเก็งกำไรและก็เป็นคนที่ไม่ค่อยจับจ่ำยใช้สอย (อันนี้ไม่จริง
สำหรับทุกคน แต่ส่วนใหญ่เป็นแบบนั้นตำมกำรศึกษำที่มีมำ) เพรำะฉะนั้น ต้องไปดูว่ำแต่ละประเทศเป็นแบบ
นั้นหรือไม่ หรือมีผลกระทบต่อนโยบำยเศรษฐกิจของประเทศนั้นหรือไม่ จะมีผลกระทบต่อ Productivity ผลิต
ภำพ ในกำรผลิตต่ำงๆ หรือมีผลกระทบต่อกำรส่งออกหรือไม่ อย่ำงไร
แนวโน้มใหญ่ของโลกประการที่ 2 สังคมที่มีชนชั้นกลางมากยิ่งขึ้น (Middle-class)
เห็นได้ชัดจำกประเทศในเอเชียไม่ว่ำจะเป็นประเทศไทย เวียดนำม ลำว กัมพูชำ อินโดนีเซีย จีน
ฟิลิปปินส์ อินเดีย ก็มี Middle-Class มีชนชั้นกลำงเพิ่มมำกขึ้น พฤติกรรมในกำรอุปโภค บริโภคของชนชั้น
กลำง กำรจับจ่ำยใช้สอย กำรดำรงชีวิตต่ำงๆ ก็เปลี่ยนแปลงไป
แนวโน้มใหญ่ของโลกประการที่ 3 สังคมการเป็นเมือง (Urbanization)
ในประเทศจีน ไทย เวียดนำม อินโดนิเซีย อินเดีย ก็จะเห็นเมืองใหญ่ๆ เต็มไปหมด จะเห็นกำรทำธุรกิจ
ต่ำงๆ เปลี่ยนไป ร้ำนค้ำสะดวกก็มีมำกขึ้นเป็นดอกเห็ด ร้ำนชำ ร้ำนขำยของโชห่วย ที่ขำยตำมชนบทก็ได้เปลี่ยน
สภำพไปเป็นร้ำนค้ำสะดวก กำรทำธุรกิจต่ำงๆ ก็เปลี่ยนแปลงไปเป็น Consumer Society เป็นสังคมแห่งกำร
บริโภคมำกขึ้น
แนวโน้มใหญ่ของโลกประการที่ 4 สังคมที่เน้นความมั่นคงทางพลังงาน ความมั่นคงทางอาหาร
และสุขภาพ (Energy, Food and Health Security)
Global Mega Trend ในสองสำมปีที่ผ่ำนมำ เรำได้พูดกันว่ำ Energy Security อำจจะมีควำมสำคัญ
น้อยลง ในแง่ Fossil Fuel เรำก็หันไปเน้นในเรื่องพลังงำนสะอำด แต่ว่ำพอช่วง Pandemic ของช่วงโควิดนั้น ก็
จะเห็นได้ว่ำเรื่อง Health Security คือควำมมั่นคงทำงสำธำรณสุข ควำมมั่นคงทำงสุขภำพมีควำมสำคัญขึ้น
ในช่วงโควิด 19 เรำจะเห็นว่ำควำมสำคัญของควำมร่วมมือระหว่ำงประเทศเปลี่ยนแปลงไปอย่ำงมำก ถ้ำจะ
เทียบกับสมัยช่วงไข้หวัดซำร์ส ช่วงนั้นผมเป็นรัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงกำรต่ำงประเทศ เรำจะเห็นเลยว่ำหำก
เรำจะร่วมกันแก้ไขปัญหำไข้หวัดซำร์สได้ เรำต้องมีควำมร่วมมือระหว่ำงประเทศ เรำได้จัดกำรประชุมผู้นำ
ประเทศอำเซียน 10 ประเทศ โดยมีเวลำล่วงหน้ำแค่ 7 วัน และทุกท่ำนที่เป็นหัวหน้ำรัฐบำลมำเองทั้งหมด ไม่มี
ส่งผู้แทนเลย ประเทศจีนประสบปัญหำในเรื่องไข้หวัดซำร์ส เรำก็ได้ใช้กรอบอำเซียนบวกหนึ่ง ท่ำน
นำยกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่ำ ซึ่งเพิ่งเป็นนำยกรัฐมนตรีได้ไม่นำน ประมำณ 48 วัน ก็มำร่วมประชุม และตกลงกัน
ว่ำเรำจะมีมำตรกำรอย่ำงไร มีกำรคัดกรองอย่ำงไร ที่ชำยแดน ไม่ว่ำจะเป็นรถไฟ ทำงเรือ ทำงเครื่องบิน หรือ
11
ทำงรถยนต์ โดยจะมีมำตรกำรคัดกรองภำยในประเทศอย่ำงไร ร่วมมือกันอย่ำงไร และเรำก็สำมำรถจบเรื่องของ
ไข้หวัดซำร์สได้ภำยในเวลำ 60 วัน
แน่นอนว่ำโควิด 19 เป็นเรื่องที่ใหญ่กว่ำมำก แต่สิ่งที่อยำกจะชี้ให้เห็นก็คือว่ำ กำรต่ำงประเทศในช่วง
นั้นกับกำรต่ำงประเทศในช่วงโควิด เมื่อช่วงต้นของโควิดแตกต่ำงกันมำก ช่วงต้นของโควิดนั้นแทนที่จะมีควำม
ร่วมมือระหว่ำงประเทศ แต่ต่ำงฝ่ำยต่ำงใช้นโยบำยดูแลตนเอง บำงประเทศก็ปิดพรมแดน บำงประเทศก็กึ่งปิด
กึ่งไม่ปิด บำงประเทศก็ไม่ให้ส่งออก PPE บำงประเทศก็ไม่ให้ส่งออกหน้ำกำกอนำมัย หำหน้ำกำกอนำมัยกันวุ่นใน
ทั่วภูมิภำค บำงประเทศก็ไม่ให้ส่งเครื่องช่วยหำยใจ มีกำรแย่งเครื่องช่วยหำยใจ แย่ง PPE ที่ขนไปแล้ว
เครื่องบินไปหยุดในสนำมบินต่ำงๆ นอกภูมิภำคนี้ก็เกิดขึ้นมำแล้ว ใช้ระยะเวลำนำนพอสมควร องค์กำรอนำมัย
โลก WHO เอง ด้วยควำมเคำรพครับ ก็ไม่สำมำรถออกมำตรกำรอะไรที่เป็นที่เชื่อถือได้มำกเท่ำที่ควร ผมยังจำ
ได้ในช่วงแรกที่ถกเถียงกันว่ำคนที่เป็นโควิดต้องใส่หน้ำกำกและคนที่ไม่เป็นต้องใส่หรือไม่ องค์กำรอนำมัยโลกก็
ยังบอกว่ำใส่เฉพำะคนที่เป็น
ฉะนั้น ในประเทศไทยตอนต้น ตอนแรกๆ ใครที่ใส่หน้ำกำก คนก็คิดว่ำเป็น แต่ในที่สุดสองเดือนผ่ำน
ไปองค์กำรอนำมัยโลกก็ให้ใส่ทั้งคนที่เป็นและคนที่ไม่เป็น เพรำะฉะนั้น ควำมห่วงใยในเรื่องของ Health
Security จึงเป็นเรื่องสำคัญมำกว่ำทำอย่ำงไรที่จะให้มีวัคซีนที่เพียงพอ ทำอย่ำงไรที่จะให้ประเทศที่มีรำยได้
น้อย ประเทศกำลังพัฒนำ ประเทศด้อยพัฒนำมี Access ที่สำมำรถเข้ำถึงวัคซีนได้เท่ำเทียมกับประเทศที่มั่นคง
ทำอย่ำงไรที่ PPE จะเพียงพอ ทำอย่ำงไรที่ Surgical Mark จะมีเพียงพอ เพรำะฉะนั้น Debate ในเวทีระหว่ำง
ประเทศก็จะเน้นในเรื่องของ Global Health Governance เรื่องธรรมำภิบำลในเรื่องของสำธำรณสุขโลก ไปดู
ว่ำระบบพหุภำคีนิยมที่มีสหประชำชำติเป็นศูนย์กลำงจะสำมำรถเข้ำมำดูแลเรื่องนี้ได้หรือไม่ ในช่วงต้นๆ หลำย
ท่ำนคงจำได้คณะมนตรีควำมมั่นคงแห่งสหประชำชำติ ก็มีกำรอภิปรำยและ Debate กันพอสมควร สำมำรถที่
จะหยิบยกเรื่อง Pandemic เรื่องโรคระบำดเข้ำมำพิจำรณำได้ มีหรือไม่ ก็มีกำรตีควำมกัน มีกำรเถียงกันว่ำ
เรื่องโรคระบำด Pandemic เป็น Peace Security หรือเปล่ำ เป็นเรื่องสันติภำพและเรื่องของควำมมั่นคงหรือ
เปล่ำ เป็น Threat เป็นกำรคุกคำมสันติภำพและควำมมั่นคงหรือเปล่ำ ซึ่งคนทั่วไปก็บอกว่ำมันเป็นสิ่งที่กระทบ
ควำมมั่นคงกับสันติภำพอย่ำงมำก ในขณะเดียวกันก็มีกำร Debate กันอยู่มำก ก่อนที่ UN จะสำมำรถหำ
มำตรกำรมำช่วยโลกได้ในช่วงนั้น
ตัวผมเองต้องชื่นชมประธำนำธิบดี สี จิ้ง ผิง ที่ท่ำนไม่รออะไรทั้งสิ้น ท่ำน Reach Out ท่ำนยื่นมือไป
ประชุมออนไลน์กับประธำนสหภำพยุโรป ทั้งประธำนคณะมนตรีและประธำนสหภำพยุโรปคุยกับผู้นำของ
แอฟริกำ ท่ำนนำยกบ้ำง ท่ำนหวังอี้บ้ำง คุยกับผู้นำอำเซียน กับผู้นำ GCC คุยกับผู้นำ SAARC คุยกับผู้นำลำติน
อเมริกำ แลกเปลี่ยนข้อมูลกันเพื่อดูว่ำเรำจะช่วยกันในเรื่องของวัคซีน ในเรื่องของสุขอนำมัยอย่ำงไร รวมทั้งเรำ
จะช่วยกันแลกเปลี่ยนข้อมูลในเรื่องของกำรวิจัย ในเรื่องของวัคซีน และในเรื่องกำรป้องกันโรคอย่ำงไร พอช่วง
โควิดผ่ำนไปสักระยะหนึ่ง โลกก็เริ่มให้ควำมสำคัญกับผลิตภัณฑ์ยำหรือกึ่งยำกึ่งอำหำร สมุนไพรที่สำมำรถ
ต่อต้ำนไวรัสได้ สมุนไพรที่สำมำรถพลิกฟื้นสุขภำพร่ำงกำยได้ เพรำะเป็นอุตสำหกรรมในประเทศและระหว่ำง
ประเทศที่มีควำมสำคัญ ผมอยำกจะเน้นให้เห็นว่ำสังคมที่เน้นพลังงำน อำหำร สุขภำพ และคร่อมระหว่ำง
12
Food and Health Security อย่ำงที่ผมได้เรียนไปเมื่อสักครู่นี้ จึงกลำยเป็นแนวโน้มใหญ่แม้กระทั่งโควิดได้
ผ่ำนพ้นไปแล้ว
ทำไมเรื่องอำหำรจึงมีควำมสำคัญขึ้นมำ เพรำะช่วงโควิด 19 นั้น บำงประเทศตัดสินใจปิดพรมแดน
บำงประเทศไม่ได้มีอำหำรอย่ำงเพียงพอมำกมำยอย่ำงประเทศไทยหรือประเทศจีน เขำเดือดร้อนมำก ผมยังจำ
ได้องค์กรกำรค้ำโลก WTO และก็ FAO (Food and Agriculture Organization) ได้ออกมำเรียกร้อง
แถลงกำรณ์เลยว่ำกำรปิดพรมแดนเป็นเดือน ประเทศที่เขำไม่มีอำหำร ไม่มี Food Security เขำเดือดร้อน
ค่อนข้ำงมำก
Energy เรำนึกว่ำโลกเดินไปสู่ Green Energy ได้อย่ำงมำกมำยพอสมควร ในช่วงหลังกำรประชุม COP
26 แต่ช่วงหลังสงครำมรัสเซีย ยูเครน เกิดกำร Sanction คว่ำบำตรทำงเศรษฐกิจขึ้นมำ ทำให้ยุโรปเกิดกำรขำด
พลังงำน เพรำะฉะนั้น จะต้องไปหำพลังงำนทำงเลือกว่ำจะต้องทำอย่ำงไรจะไม่ซื้อจำกรัสเซีย ไปหำแก๊ส
ธรรมชำติ ไปหำแม้กระทั่งถ่ำนหิน ไปหำ Fossil Fuel มำกขึ้น เพรำะฉะนั้น แนวโน้มที่จะเดินเข้ำสู่เศรษฐกิจสี
เขียว เลยทำให้สงสัยว่ำถ้ำจะเดินสู่เศรษฐกิจสีเขียว หรือในช่วงปีข้ำงหน้ำนี้ จะต้องเดินเข้ำสู่เศรษฐกิจที่สีไม่ค่อย
เขียวด้วย
แนวโน้มใหญ่ของโลกประการที่ 5 คือ สังคมนวัตกรรม (The Age of Innovation)
ท่ำนผู้มีเกียรติที่เคำรพ ท่ำนทรำบดีอยู่แล้วว่ำ The Age of Innovation Technology Disruption
ภำยใต้ The Fourth Industry Revolution คือกำรปฏิบัติอุตสำหกรรมครั้งที่ 4 หรือยุคดิจิทัลที่เรำเรียกกัน
มันมีควำมสำคัญและทำให้ประเทศ เศรษฐกิจ สังคมทั้งหลำย เชื่อมโยงกันอย่ำงแยกไม่ออก ซึ่งก็ต้องยอมรับว่ำ
กำรต่ำงประเทศนั้น ต้องอยู่ภำยใต้ยุคของ The Age of Innovation Technology ซึ่ง Innovation ไม่ว่ำจะ
เป็นเรื่องของทำงลบ Cyber Security หรือว่ำทำงบวก ว่ำทำอย่ำงไรที่ประเทศต่ำงๆ จะร่วมมือกันทำงด้ำน
เทคโนโลยี เพื่อมำช่วย SME วิสำหกิจขนำดกลำงขนำดย่อมในประเทศ เพื่อเอำมำช่วยคนในประเทศที่อำจจะ
ก้ำวไม่ทันรถไฟของเทคโนโลยี ทำอย่ำงไรที่จะให้เกิดกระบวนกำรที่เรียกว่ำ Lifelong Learning กำรศึกษำ
ตลอดชีวิต ซึ่งเป็นบุคลิกกำรศึกษำในยุค 4.0 ในยุคดิจิทัลเทคโนโลยี ทำอย่ำงไรที่จะมีผู้รู้จำกในประเทศไม่พอ
อำจจะต้องมำจำกต่ำงประเทศที่จะมำช่วย Re skills, Up skill, New skill ฝึกทักษะใหม่ๆ ให้กับบุคลำกรใน
ประเทศ เพรำะว่ำยุค 4.0 นั้น คนที่จบปริญญำตรีมำ 5-6 ปีที่แล้ว ก็อำจจะตกขบวนรถไฟทำงเทคโนโลยีได้
เพรำะว่ำเมื่อ 5-6 ปี ยังไม่มีกำรเรียนกำรสอนเรื่อง Internet of Thing อินเตอร์เน็ตทุกสรรพสิ่ง ไม่มีในเรื่อง
ของ AI (Artificial intelligence) หรือปัญญำประดิษฐ์ ไม่มีอีกหลำยๆ เรื่อง
เพรำะฉะนั้น คนหนุ่มสำวก็อำจจะก้ำวไม่ทันเทคโนโลยีเหล่ำนั้นก็ได้ ก็ต้องมีกระบวนกำรในกำรปรับ
ซึ่งหลำยประเทศอำจจะทำด้วยกระบวนกำรของตัวเองไม่เพียงพอ ประเทศไทยอำจจะทำด้วยตัวเองไม่เพียงพอ
อำจจะต้องพึ่งประเทศจีน สิงคโปร์ อำจจะต้องพึ่งในอีกหลำยๆ ประเทศในภูมิภำคและนอกภูมิภำคที่จะส่ง
ผู้เชี่ยวชำญ ซึ่งตอนนี้ก็โชคดีที่สะดวกขึ้นในกำรทำ Re skills, Up skill สำมำรถทำออนไลน์ได้ ก็อำจจะต้อง
เชื่อมโยงกัน เพรำะฉะนั้น เรื่องพวกนี้กลำยเป็นเรื่องของกำรต่ำงประเทศว่ำเรำจะ Reach Out เข้ำถึงประเทศ
ต่ำงๆ ที่เก่งทำงด้ำน Internet of Thing จีนเก่งทำงด้ำน Artificial Intelligence เรำจะ Reach ไปที่
13
มหำวิทยำลัยชิงหัวในด้ำนไหน เรำจะ Reach ไปที่มหำวิทยำลัยนั้นนี้อย่ำงไร แล้วเอำเข้ำมำอย่ำงไร
กระทรวงศึกษำธิกำรในต่ำงประเทศก็เข้มแข็งกันอยู่ก็พยำยำมปรับตัวกัน แต่กระทรวงกำรต่ำงประเทศก็ต้อง
น้อมเอำเรื่องกำรศึกษำมำเป็นส่วนหนึ่งของกำรต่ำงประเทศที่จะดูว่ำเรำจะร่วมมืออย่ำงไร ไปเชื่อมโยงอย่ำงไร
ช่วยหำองค์ควำมรู้อย่ำงไรเพื่อดึงประเทศเหล่ำนั้นเข้ำมำ รวมทั้งประเทศในตะวันตกไม่ว่ำจะเป็นอเมริกำหรือ
ยุโรปด้วย
แนวโน้มใหญ่ของโลกประการที่ 6 สังคมที่ห่วงใยสิ่งแวดล้อม (Climate Change)
ปัญหำ Climate Change เป็นวิกฤตทำงด้ำนภูมิอำกำศ ให้ควำมห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อมมำกขึ้น ให้ควำม
ห่วงใยต่อ Sustainable Development Goals 17 ข้อ เป้ำหมำยกำรพัฒนำที่ยั่งยืนของสหประชำชำติมำก
ยิ่งขึ้น และก็มีควำมร่วมมือที่จะเดินเข้ำไปสู่ Green Economy หรือเศรษฐกิจสีเขียว ให้ควำมสำคัญกับเรื่อง
Net-Zero ให้ควำมสำคัญกับเรื่อง Carbon Neutrality แล้วก็ดูว่ำเมื่อให้ควำมสำคัญ Commit กันแล้ว ไม่ว่ำ
จะเป็น ค.ศ. 2030, 2050, 2065 แล้วแต่ว่ำประเทศไหนจะ Commit ไว้เท่ำไร ก็ต้องนับหนึ่งว่ำถ้ำจะไปให้ถึง
วันนั้น วันนี้จะต้องทำอะไรบ้ำง บำงอันเรำอำจจะไม่มีองค์ควำมรู้ ไม่มีเทคโนโลยีที่เพียงพอก็ต้องพึ่งพำประเทศ
อื่นมำช่วยเรำ เพื่อให้เรำเดินเข้ำสู่คำร์บอนเครดิตได้ เพื่อให้เรำเดินเข้ำสู่ Carbon Neutrality ได้ เพื่อให้เรำเดิน
เข้ำสู่ Net-Zero ได้ ช่วยทั้งภำครัฐ ช่วยทั้งภำคเอกชน เรียนรู้ซึ่งกันและกันว่ำมำตรกำรทำงด้ำนภำษี กำรให้
มูลเหตุจูงใจทำงด้ำนภำษี Tax Disincentive เพียงพอหรือไม่ กำรรณรงค์เพียงพอหรือไม่ ประเทศต่ำงๆ ทำ
อะไรกัน เรียนรู้ซึ่งกันและกัน กำรต่ำงประเทศจึงต้องเป็นกำรต่ำงประเทศที่มีควำมรู้ควำมเข้ำใจ มียุทธศำสตร์
ในด้ำนควำมร่วมมือของกำรเปลี่ยนแปลงในภูมิอำกำศ หรือควำมร่วมมือเพื่อกำรพัฒนำประเทศไปสู่เศรษฐกิจสี
เขียว
แนวโน้มใหญ่ของโลกประการที่ 7 สังคมที่ห่วงใยโรคระบาด (Pandemic)
กำรต่ำงประเทศที่อยู่ภำยใต้แนวโน้มของโลกอีกประกำร คือ สังคมที่ห่วงใยโรคระบำด (Pandemic)
แน่นอนว่ำมีเดลต้ำ โอไมครอน และกำลังจะมีไวรัสต่ำงๆ เข้ำมำเกี่ยวข้องขึ้นไปเรื่อยๆ โลกจึงมีควำมห่วงใยเรื่อง
โรคระบำด ประเทศจีนก็ยังมีควำมห่วงใยเรื่องโควิด 19 ถึงแม้ว่ำเมื่อสองวันนี้จะมีกำรผ่อนคลำยมำตรกำร
Guarantine กำรกักตัว แต่นโยบำย Zero COVID ก็ยังเป็นนโยบำยที่มีควำมสำคัญ ซึ่งก็กระทบกับกำร
ท่องเที่ยวในประเทศไทย กระทบกับกำรท่องเที่ยวในภูมิภำคที่ประชำชนคนจีนยังมำไม่ได้ และก็กระทบกับกำร
ท่องเที่ยวในประเทศจีนเอง เพรำะว่ำคนที่อยำกไปเที่ยวในประเทศจีนที่มีสิ่งสวยงำมก็ยังไปไม่ได้ เพรำะต้องถูก
กักตัวเป็นเวลำนำน ถึงแม้ตอนนี้จะลดลงมำเหลือ 5 วัน แล้วก็ตำม เพรำะฉะนั้น เรื่อง Pandemic เรื่อง
สำธำรณสุขจึงกลำยมำเป็นส่วนสำคัญของนโยบำยกำรต่ำงประเทศ ในช่วงโควิด 19 นโยบำยกำรต่ำงประเทศที่
สำคัญมำกๆ ที่อยู่แนวหน้ำ คือ นโยบำยเรื่องสำธำรณสุข จะได้วัคซีนจำกที่ไหน เร็วหรือช้ำ จะได้วัคซีนจำกยุโรป
หรือของอเมริกำ หรือของจีนหรือของประเทศไหน มีกำรผลิตวัคซีนที่ไหน ลงทุนที่ไหน จะได้หน้ำกำกอนำมัย
PPE ที่ไหน จะร่วมมือกับประเทศอะไรในกำรวิจัยเพิ่มเติม จะพัฒนำสมุนไพรให้ดูแลเรื่องโรคระบำดได้อย่ำงไร
14
เพรำะฉะนั้น เรื่องกำรสำธำรณสุขเลยกลำยเป็นปัจจัยสำคัญของกำรต่ำงประเทศ และผมก็ยังเชื่อว่ำ
กำรสำธำรณสุข ควำมห่วงใยเรื่อง Pandemic ควำมห่วงใยเรื่องสิ่งแวดล้อมและกำรที่จะต้องเดินให้ทันต่อ
นวัตกรรมที่กำลังมำใหม่ 3-4 เรื่องนี้ กลำยเป็น Part and Parcel เป็นส่วนประกอบที่สำคัญ เป็นส่วนหนึ่งซึ่ง
กันและกันของนโยบำยกำรต่ำงประเทศของทุกประเทศ ที่อำจจะไม่เคยมีมิติเหล่ำนี้มำก่อนในอดีตเมื่อ 10 ปีที่
แล้ว
ปัจจัยที่กาหนดยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ : การต่างประเทศที่เกี่ยวโยงกับค่านิยม
ระหว่างประเทศ
ปัจจัยที่สองที่กำหนดนโยบำยกำรต่ำงประเทศยุคใหม่ คือ กำรต่ำงประเทศที่เกี่ยวโยงกับค่ำนิยม
ระหว่ำงประเทศ ค่ำนิยมเหล่ำนี้เป็นค่ำนิยมที่มีอยู่แล้ว แต่ในช่วงที่ผ่ำนมำก็มีหลำยมิติ มีควำมสำคัญเพิ่มมำกขึ้น
ประการที่ 1 ค่านิยมในเรื่องประชาธิปไตย
ถึงแม้ว่ำหลำยประเทศจะมีกำร Debate ว่ำ ประชำธิปไตยหมำยถึงอะไรบ้ำง บำงประเทศก็บอกเป็น
ประชำธิปไตยเต็มใบ บำงประเทศก็บอกเป็นประชำธิปไตยครึ่งใบ ยังไม่สมบูรณ์ บำงประเทศอำจจะถูกประเทศ
ตะวันตกบอกว่ำยังไม่ใช่ประชำธิปไตย แต่เขำบอกเขำคือประชำธิปไตยแบบของเขำ เรำจะมีประชำธิปไตยกี่
แบบ ที่น่ำห่วงใย คือ ประชำธิปไตยเป็นควำมสำคัญก็จริงแต่หลำยประเทศก็ใช้ค่ำนิยมที่เกี่ยวกับประชำธิปไตย
นั้นเป็นเหตุผลในกำรเข้ำมำแทรกแซงในกิจกำรภำยในของประเทศ เหตุผลที่จะเข้ำมำแบ่งแยกโลกกับค่ำย
ประชำธิปไตยกับค่ำยที่ไม่ใช่ประชำธิปไตย ซึ่งควำมคิดเห็นส่วนตัว คิดว่ำเป็นสิ่งที่อันตรำยเป็นอย่ำงยิ่ง แทนที่
เรำจะร่วมมือกันส่งเสริมให้ทุกประเทศให้ควำมสำคัญกับประชำธิปไตยในแง่ที่ว่ำให้แต่ละประเทศดูแล
ประชำชน ให้ประชำชนมีสิทธิมีเสียง ในกำรแสดงควำมคิดเห็น มีส่วนร่วมในกำรแสดงควำมคิดเห็นในนโยบำย
ของรัฐมำกกว่ำที่จะมำดูรูปแบบว่ำท่ำนเป็นประชำธิปไตยอย่ำงไร แน่นอนว่ำท่ำนผู้ทรงคุณวุฒิคงจะนำประเด็น
นี้มำถกเถียงกันต่อไป แต่ว่ำเรำก็คงหลีกเลี่ยงที่จะไม่ยอมรับประชำธิปไตย Democracy ไม่ได้ โดยเฉพำะ
ประธำนำธิบดีโจ ไบเดน พรรคเดโมแครต เข้ำมำเป็นรัฐบำลของสหรัฐอเมริกำ ก็ยอมให้ควำมสำคัญกับ
ประชำธิปไตยมำกขึ้นเป็นพิเศษ ซึ่งนั้น ก็ไม่ใช่สิ่งที่เสียหำย แต่สิ่งที่ต้องห่วงใยก็คือว่ำจะนำค่ำนิยมในเรื่องของ
ประชำธิปไตยมำใช้ในหรือซ่อนอยู่ในนโยบำยกำรต่ำงประเทศอย่ำงไร และเรำควรจะ Handle เรื่องนี้อย่ำงไร
ประการที่ 2 หลักธรรมาธิบาล
ในเรื่องของ Global Governance หรือ Good Governance เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมำก เรื่อง
Anti-Corruption หลักนิติธรรม Rule of Law เรื่องกำรบริหำรประเทศชำติอย่ำงโปร่งใส ซึ่งแต่ละประเทศก็มี
มำตรกำรต่ำงๆ เหล่ำนี้ แล้วแต่ละประเทศภำครัฐ ภำคเอกชนระหว่ำงประเทศก็ให้ควำมสำคัญมำกขึ้นเป็น
ลำดับ ประเทศที่เขำจะไปลงทุน ประเทศที่เขำจะไปค้ำขำยด้วยมีควำมโปร่งใส มี Transparency แค่ไหน มี
หลักนิติธรรมแค่ไหน มีกระบวนกำรยุติธรรมเป็นที่เชื่อถือได้หรือไม่ มี Corruption แต่รัฐบำลให้ควำมสำคัญกับ
กำรขจัด Corruption กำรฉ้อรำษฎร์บังหลวงหรือไม่
15
ประการที่ 3 สิทธิมนุษยชน
สิทธิมนุษยชนกลำยเป็นค่ำนิยมระหว่ำงประเทศที่ทวีควำมสำคัญขึ้น ที่มีผลเป็นปัจจัยเข้ำมำมีบทบำท
ในกำรต่ำงประเทศ เพรำะฉะนั้น สิทธิมนุษยชนเป็นเรื่องสำคัญและก็เป็นเรื่องของทุกประเทศที่จะต้องให้
ควำมสำคัญ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีควำมลำบำกขึ้นในกำรต่ำงประเทศ เพรำะส่วนหนึ่งหลำยประเทศก็ใช้เวทีพหุ
ภำคี ไม่ว่ำจะเป็นคณะมนตรีแห่งสิทธิมนุษยชนสหประชำชำติก็ดี ไม่ว่ำจะเป็นเวทีของนำนำชำติ เวทีของ NGO
หรือจะเป็นกำรประชุมระหว่ำงประเทศ ไม่ว่ำจะกลุ่มอะไรก็ตำมก็จะมีกำรหยิบยกเรื่องสิทธิมนุษยชนขึ้นมำว่ำ
ประเทศนั้นมีระดับสิทธิมนุษยชนขนำดไหน บำงประเทศถึงขนำดที่ว่ำจะไม่ไปลงทุนหรือค้ำขำยกับประเทศที่ไม่
ดำเนินกำรที่จะดูแลสิทธิมนุษยชน แต่ขณะเดียวกันเรำก็ต้องยอมรับว่ำบำงประเทศที่มีกำรละเมิดสิทธิมนุษยชน
อย่ำงมำก ที่เรียกว่ำเป็น Gross and Systematic Violation of Human Rights
ผมคงจะพูดตรงนี้ได้ อย่ำงประเทศเพื่อนบ้ำนไทยเอง เช่น ประเทศเมียนมำ กำรที่เกิดขึ้นมำในช่วงปี
ครึ่งที่ผ่ำนมำก็เป็นสิ่งที่เรำไม่เข้ำไปแทรกแซง หลักของอำเซียน หลักของกฎหมำยระหว่ำงประเทศก็มีอยู่ชัดเจน
ว่ำ ถ้ำกำรละเมิดสิทธิมนุษยชนมันเกิดขึ้นอย่ำงร้ำยแรง และเกิดขึ้นอย่ำง Systematic และมีกำรใช้อำวุธ
สงครำมทำร้ำยพลเมือง ทำร้ำยประชำชน ประเด็นนั้นมันยุติกำรเป็นเรื่องภำยในประเทศ มันพ้นเรื่องของกำร
ถูกแทรกแซงภำยในประเทศ อำเซียนตั้งแต่ก่อตั้งถ้ำเรำไปดูถ้อยแถลงของประธำนอำเซียนวันนั้นที่เป็นประเทศ
บูรไน ตั้งแต่วันที่มีรัฐประหำรในเมียนมำ เรำบอกไม่แทรกแซงก็จริง แต่ในถ้อยแถลงของประธำนก็ได้บอกไว้เลย
ว่ำขอให้เคำรพควำมเป็นอิสระในกำรเคลื่อนไหวของคน ขอให้เคำรพประชำธิปไตย ขอให้เคำรพสิทธิมนุษยชน
และทุกวันนี้เรำก็ยังเรียกร้องในเรื่องนี้
เพรำะฉะนั้น เรื่องสิทธิมนุษยชนก็ยังเป็นเรื่องค่ำนิยมที่มีควำมสำคัญขึ้น บำงประเทศก็เอำเรื่องสิทธิ
มนุษยชนเข้ำมำแทรกแซงในกิจกำรภำยในจริงๆ เข้ำมำเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องมือในกำรเจรจำระหว่ำงประเทศ
ก็เป็นส่วนหนึ่งของนโยบำยต่ำงประเทศในบำงประเทศ แต่ในขณะเดียวกันมันก็มีควำมจำเป็นที่เรำต้องร่วมมือ
กันเพื่อให้บำงประเทศสำมำรถรักษำระดับสิทธิมนุษยชนให้อยู่ในระดับที่ดีได้
ประเทศจีนเองก็ให้ควำมสำคัญกับสิทธิมนุษยชนอย่ำงมำก เรำมักจะเห็นว่ำประเทศตะวันตกบำง
ประเทศบอกว่ำประเทศจีนจะต้องเพิ่มระดับในกำรดูแลสิทธิมนุษยชน ทั้งที่จริงผมเห็นว่ำจีนก็มีพัฒนำกำรใน
ทำงบวกมำโดยตลอด สมัยที่ผมเป็นรัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงกำรต่ำงประเทศ เรำเป็นสมำชิกของกรรมำธิกำร
สิทธิมนุษยชน (Human Rights Commission) มีบอกว่ำควรลงมติต่อต้ำนในเรื่องนั้นนี้ แต่พอมำดูเข้ำจริงๆ
แล้วจีนเป็นสมำชิกของอนุสัญญำที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนมำกกว่ำประเทศในตะวันตกหลำยประเทศ ณ วัน
นั้นมำกกว่ำสหรัฐอเมริกำด้วยซ้ำ ผมก็ดีใจเมื่อได้เห็นว่ำวันที่ 9 กันยำยน 2021 จีนได้ประกำศแผนสิทธิ
มนุษยชนแห่งชำติ ปี 2021-2025 มีกำรพูดถึงสิทธิมนุษยชนทั้ง 8 ส่วน ไม่ว่ำจะเป็นสิทธิทำงเศรษฐกิจ สิทธิทำง
สังคมและวัฒนธรรม สิทธิพลเมืองและสิทธิทำงกำรเมือง สิทธิด้ำนสิ่งแวดล้อม กำรคุ้มครองสิทธิและ
ผลประโยชน์เฉพำะกลุ่ม กำรศึกษำและวิจัยสิทธิมนุษยชน กำรเข้ำมีส่วนร่วมในธรรมำภิบำล สิทธิมนุษยชนทั่วโลก
และจีนก็บอกว่ำจะเข้ำร่วมกระบวนกำรสิทธิมนุษยชนอย่ำงสร้ำงสรรค์
ประกำรที่หนึ่ง จีนจะปฏิบัติตำมพันธกรณีด้ำนสิทธิมนุษยชนระหว่ำงประเทศอย่ำงจริงจัง
ประกำรที่สอง จีนจะเข้ำร่วมในกำรทำงำนขององค์กรสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชำชำติอย่ำงลึกซึ้ง
16
ประกำรที่สำม จีนจะดำเนินกำรเจรจำและควำมร่วมมือทำงสิทธิมนุษยชนเชิงสร้ำงสรรค์
ประกำรที่สี่ จีนจะมีส่วนร่วมอย่ำงลึกซึ้งในธรรมำภิบำลสิทธิมนุษยชนระหว่ำงประเทศ
ซึ่งแสดงให้เห็นว่ำแม้กระทั่งประเทศจีนก็ได้ให้ควำมสำคัญกับค่ำนิยมระหว่ำงประเทศในเรื่องสิทธิ
มนุษยชนและแสดงให้โลกได้เห็นว่ำจีนได้ให้ควำมสำคัญกับเรื่องนี้อย่ำงไร
ประการที่ 4 ค่านิยมการพัฒนาที่ยั่งยืนและการดูแลสิ่งแวดล้อม
ในเรื่องของกำรดูแลสิ่งแวดล้อม ESG เป็นเรื่องที่สำคัญมำก E คือ Environment, S คือ Social, G คือ
Governance คือต้องดูแลสิ่งแวดล้อม ต้องดูแลสังคม และต้องดูแลธรรมำภิบำล ภำคเอกชนเองใช้ ESG เป็น
ตัววัดว่ำบริษัทนั้นน่ำลงทุนหรือไม่ ตลำดหลักทรัพย์ประเทศไทยก็มีเกณฑ์ บริษัทนี้ได้ ESG B+ พอขึ้นมำเป็น A-
A A+ หุ้นเขำก็ขึ้นทันที ธนำคำรใหญ่ๆ ทั้งในประเทศและระหว่ำงประเทศก็ต้องมีมำตรฐำนว่ำ คนหรือบริษัท
ที่มำกู้เงิน กิจกำรของเขำมี ESG หรือไม่ เพรำะถ้ำธนำคำรให้กู้กับบริษัทที่ทำลำยสิ่งแวดล้อม ผู้ถือหุ้นธนำคำรก็
จะมำจี้ธนำคำรว่ำทำอย่ำงนั้นได้อย่ำงไร และก็จะไม่ลงทุนให้ธนำคำรนั้น กองทุนใหญ่ทั่วโลกของปู่ Warren
Buffett ก็ดี ดูว่ำจะลงทุนอย่ำงไรในตลำดหลักทรัพย์ บริษัทนั้นๆ มีระดับ ESG อย่ำงไร เพรำะฉะนั้น ในเรื่อง
ของกำรพัฒนำที่ยั่งยืน ดูแลสิ่งแวดล้อม ถึงแม้ยังไม่มีกฎหมำยโดยเฉพำะ ESG มำบังคับ แต่ผลบังคับมันเกิดขึ้น
จำกระบบเศรษฐกิจระหว่ำงประเทศด้วยตัวเอง
เพรำะฉะนั้น ปัจจัยที่กล่ำวมำข้ำงต้นทั้ง 4 ข้อ จึงเป็นเรื่องที่เป็นปัจจัยในกำรต่ำงประเทศยุคใหม่ ใน
กำรต่ำงประเทศยุคปัจจุบันนี้เป็นอย่ำงมำก และทั้ง 4 ข้อนี้ไม่ได้แยกออกจำกกันโดดๆ ทั้งประชำธิปไตย
หลักธรรมำภิบำล สิทธิมนุษยชน และกำรพัฒนำที่ยั่งยืน มีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกันอยู่ตลอดเวลำ ต้องอำศัย
ควำมว่องไว ควำมทันโลก ควำมชำญฉลำดที่สำมำรถ Integrate บูรณำกำรนโยบำยกำรต่ำงประเทศเรื่องต่ำงๆ
เหล่ำนี้เข้ำไปได้เพื่อให้เป็นกำรต่ำงประเทศที่เกิดผลประโยชน์กับประเทศของตนเอง เกิดผลประโยชน์และควำม
สงบสุข สันติภำพกับภูมิภำค
ปัจจัยที่กาหนดยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ : การต่างประเทศที่อยู่ภายใต้การ
เปลี่ยนแปลงของระเบียบโลกทางเศรษฐกิจ
ปัจจัยที่กำหนดยุทธศำสตร์กำรต่ำงประเทศ เรื่องที่ 3 ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ คือ กำรต่ำงประเทศที่ขึ้นอยู่กับ
ภำยนอก ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจ เนื่องจำก International Economic Order เริ่มเปลี่ยนมำนำนแล้ว เปลี่ยนมำก
ขึ้นเรื่อยๆ และเรำปฏิเสธไม่ได้เลยว่ำระเบียบโลกทำงเศรษฐกิจนั้น เป็นเรื่องของนโยบำยต่ำงประเทศที่จะต้อง
เข้ำมำดูแล ไม่ใช่เรื่องของกระทรวงพำณิชย์ ไม่ใช่เรื่องของกระทรวงอุตสำหกรรม แต่เป็นเรื่องของทุกกระทรวง
ที่ต้องเอำมำหล่อหลอมเอำมำรวมกัน เพรำะฉะนั้น กำรต่ำงประเทศในควำมหมำยของผมไม่ใช่เรื่องของ
กระทรวงกำรต่ำงประเทศเท่ำนั้น แต่เป็นกำรที่ต้องบูรณำกำรทุกองคำพยพภำยในประเทศขึ้นมำกำหนดจุดยืน
ของกำรต่ำงประเทศให้ได้ไม่ว่ำจะเป็นบำงช่วงเป็นเรื่องของกำรสำธำรณสุขสำคัญ บำงช่วงเป็นเรื่องของ
17
สิ่งแวดล้อม บำงช่วงเป็นเรื่องของกำรพัฒนำเทคโนโลยี บำงช่วงเป็นเรื่องของกำรพัฒนำสังคม บำงช่วงเป็นเรื่อง
ของสันติภำพ ในที่สุดโลกปัจจุบันทุกเรื่องที่กล่ำวกันมำมันเกี่ยวโยงกัน มันมี Interaction มีปฏิสัมพันธ์กันหมด
เศรษฐกิจจากพหุภาคีนิยมสู่ภูมิภาคนิยม
อันแรกที่คิดว่ำระบบโลกเปลี่ยนมำสักพักคือ มีกำรเคลื่อนจำก “เศรษฐกิจจำกพหุภำคีนิยมสู่ภูมิภำค
นิยม” กำรให้ควำมสำคัญต่อองค์กำรกำรค้ำโลก (WTO) ที่มีกำรเจรจำกำรค้ำ กำรลงทุนทรัพย์สินทำงปัญญำ
และอื่นๆ 100 กว่ำประเทศนั้นคลำยควำมสำคัญลงไป แต่เดินเข้ำสู่ภูมิภำคนิยม ที่เรียกกันว่ำ Regionalism
ที่เรำเห็นก็คือ อำเซียน มีเป้ำหมำยของประชำคมอำเซียน ใน ค.ศ. 2015 มีกำรเปิดเสรีให้แก่กัน 5
ประเภท ไม่ว่ำจะเป็นกำรค้ำ ธุรกิจกำรบริกำร ในเรื่องของ Flow of Capital ซึ่งเปิดเสรีขึ้นบ้ำง และแรงงำนที่มี
ทักษะ
นอกจำกอำเซียนแล้ว กลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขงเอง ก็มีควำมร่วมมือค่อนข้ำงมำก พูดถึงเมียนมำ ไทย
ลำว กัมพูชำ และจีน เรำมีกรอบความร่วมมือ ACMECs มีควำมร่วมมือกัน 6 ด้ำน ระหว่ำงประเทศ เมียนมำ
ลำว กัมพูชำ และไทย ริเริ่มในสมัยค.ศ. 2002-2003 ตอนนั้นผมยังเป็นรัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงกำร
ต่ำงประเทศอยู่และเดินมำจนถึงปัจจุบันนี้
นอกจำกนั้นแล้ว เรำยังมีควำมร่วมมือทำงเศรษฐกิจในอนุลุ่มแม่น้ำโขง GMS ก็มีจีน และ ADB ธนำคำร
พัฒนำแห่งเอเชียเป็นโต้โผในเรื่องของกำรให้ Funding
เรำมีกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้างที่จีนให้ควำมร่วมมือเพิ่มขึ้น กัมพูชำ ลำว เวียดนำม ไทย ก็
เข้ำไปมีส่วนร่วม จำได้ว่ำท่ำนนำยกหลี่ เค่อเฉียง ได้เชิญทุกท่ำนไปประชุม Boao Forum for Asia อยู่ปีหนึ่งที่
บนเกำะไหหลำ
เรำมีความร่วมมือ Japan-Mekong River Cooperation ญี่ปุ่นก็มำร่วมมือ ก็มีทุกประเทศหมดไม่
มีจีนและเรำก็มีกรอบความร่วมมือ Mekong-US Partnership ที่สหรัฐมำให้ควำมร่วมมือกับประเทศลุ่ม
แม่น้ำโขงแต่ไม่มีจีน และเมื่อตอนที่ประเทศไทยเป็นประธำนอำเซียน เกำหลีใต้ ก็มำขอมีกรอบความร่วมมือ
กับประเทศลุ่มแม่น้าโขง Mekong - ROK Cooperation แต่ไม่มีจีน (ภำพที่ 1)
เพรำะฉะนั้น ตรงนี้เรำก็จะเห็นว่ำถึงแม้เป็นควำมร่วมมือภูมิภำคนิยม ซึ่งเคลื่อนออกมำจำกพหุภำคี
นิยมแต่ก็มีกลิ่นอำยของเศรษฐกิจกำรเมืองอยู่ตรงนั้น มีกลิ่นอำยที่จะพยำยำมไม่ให้จีนเข้ำมำมีส่วนร่วมในทุกเวที
มีกลิ่นอำยของกำรแข่งขันกันของมหำอำนำจ มี Super Power, Major Power หรือ Competition แฝงอยู่
18
ภำพที่ 1 กรอบควำมร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ที่มำ สุรเกียรติ เสถียรไทย, 2565
ภูมิภาคนิยมที่ใหญ่ขึ้นมำอีกอัน เป็นพหุภำคีแบบร้อยกว่ำประเทศ ก็คือ RCEP (Regional
Comprehensive Economic Partnership) ที่มีอยู่ 16 ประเทศ อำเซียน 10 ประเทศ อินเดีย จีน เกำหลี
ใต้ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ เวลำนี้ 15 ประเทศก็ On Board เขตเศรษฐกิจเสรีที่ใหญ่ที่สุดในขณะนี้ก็หวัง
ว่ำอินเดียจะเข้ำมำร่วมด้วย
CPTTP (Comprehensive and Progressive Agreement for Trans-Pacific Partnership)
ซึ่งเกิดจำก PTPP สมัยท่ำนประธำนำธิบดีบำรัค โอบำมำ แต่ต่อมำท่ำนประธำนำธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ก็ไม่เอำ
ประเทศที่เหลือเลยไปทำให้ควำมร่วมมือนี้ Comprehensive มำกยิ่งขึ้น Progressive ขึ้น ครอบคลุมขึ้น
ก้ำวหน้ำขึ้น เขำเรียกว่ำ CPTTP จีนเองก็สมัครที่จะเป็น Member ของ CPTTP ประเทศไทยก็ยัง Debate กัน
อยู่ว่ำจะเข้ำหรือไม่เข้ำ
ในขณะเดียวกันก็มี FTAAP (Free-trade Agreement of the Asia Pacific) ท่ำนประธำนำธิบดี
สีจิ้งผิง พูดเอำไว้ในสมัยประธำนำธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรำก็ดูกันว่ำ RCEP มีจีนไม่มีอเมริกำ TPP (Trans-Pacific
Strategic Economic. Partnership Agreement) มีอเมริกำไม่มีจีน ท่ำนประธำนำธิบดีสีจิ้นผิง บอกว่ำทำไม
เรำไม่เอำมำรวมกันเลยตั้งแต่ประเทศเอเซียแปซิฟิก เม็กซิโก แคนำดำ เอำมำรวมกันเลย เป็น Free-trade
Agreement of the Asia Pacific ใน ค.ศ. 2022 ขณะนี้ประเทศไทยเป็นประธำนกำรประชุมเอเปคก็ได้มีเรื่อง
นี้เป็นสำระ เป็นผลลัพธ์อันหนึ่ง ก็คืออยำกให้มีกำรริเริ่มในกำรเจรจำ มี Fresh Conversation ริเริ่มกรอบใน
กำรเจรจำ Free-trade Area ในเอเชีย
นอกจำกนั้น เรำก็มีเวทีสำคัญคือ ACD (Asia Cooperation Dialogue) ริเริ่ม ค.ศ. 2002 ต้อง
ขอบคุณจีนย้อนหลัง เพรำะจีนก็ให้กำรสนับสนุน ACD มำตั้งแต่ต้น เป็นควำมร่วมมือ Pan Asia มำตั้งแต่ต้น
ประเทศอื่น ภูมิภำคอื่น ลำตินอเมริกำก็มี OAS (Organization of American States) แอฟริกำก็มี African
Union ประเทศในหมู่เกำะแฟซิฟิกก็มี Pacific Island Forum ประเทศในหมู่เกำะแคริเบียนก็คือ CARICOM
(Caribbean Community) แต่ว่ำเอเชียมีสองอย่ำง มีอนุภูมิภำคของเอเชีย มี SAARC มี GCC มี ASEAN+3
19
แล้วก็มี intra ASEAN คือเอเปคอำเซียนแปซิฟิก เอเชียแปซิฟิก และก็มีเอเชียกับยุโรปเรียกว่ำ ASEM แต่ Pan
Asia นี่ไม่มี เพรำะฉะนั้น เรำก็คิดกันว่ำเรำควรมีควำมร่วมมือทำงเศรษฐกิจ Pan Asia โดยใช้ควำมสมัครใจใน
Comfort Level ใช้หลักสร้ำง Strength Out of Diversity
Asia ไม่เหมือนกัน แตกต่ำงทั้งกำรเมือง กำรปกครองศำสนำ วัฒนธรรม เชื้อชำติ แต่ทำอย่ำงไรที่เรำ
จะเอำควำมหลำกหลำยเหล่ำนั้นมำสร้ำงให้เป็นพลัง จนถึงทุกวันนี้เริ่มต้นมี 18 ประเทศ ในปัจจุบันมี 30 กว่ำ
ประเทศ เรำมำร่วมมือใน ACD มีควำมร่วมมืออยู่ 20 โครงกำร และแต่ละประเทศก็เป็น Prime Movers
ในแต่ละเรื่อง ตอนนี้เรำ Group เข้ำมำเป็น 6 Pillars ทำงด้ำนกำยภำพ วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี กำรศึกษำ
Food Energy and Water Security มีเรื่องของ tourism และเรื่องของ Sustainable Development ก็ถือ
ว่ำทันมัยพอสมควร
กล่ำวโดยสั้นๆ คือว่ำเศรษฐกิจพหุภำคีนิยมในหลำยๆ เรื่อง เริ่มเดินเข้ำสู่ภูมิภำคนิยม น้อยประเทศบ้ำง
มำกประเทศบ้ำง แต่ไม่ใช่ 100 กว่ำประเทศ
การเงินเพื่อการพัฒนา : จากธนาคารโลกและสาขา สู่องค์กรใหม่
กำรเปลี่ยนแปลงของโลกทำงเศรษฐกิจอีกเรื่อง คือ “กำรเงินเพื่อกำรพัฒนำ : จำกธนำคำรโลกและ
สำขำสู่องค์กรใหม่” เมื่อ ค.ศ. 2014 ประเทศ BRICS มีรัสเซีย อินเดีย จีน แอฟริกำใต้ บรำซิล ก็ตั้ง New
Development Bank (ธนำคำรเพื่อกำรพัฒนำแห่งใหม่) ขึ้นมำ เพรำะบอกธนำคำรโลกไม่เพียงพอที่จะช่วย
ปรับปรุงโครงสร้ำงพื้นฐำนประเทศในเอเชีย และต่อมำจีนก็ได้ริเริ่ม AIIB ธนำคำรเพื่อกำรลงทุนโครงสร้ำง
พื้นฐำนเอเชีย (Asia Infrastructure and Investment Bank) ซึ่งในวันที่จีนมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของ
โลก ณ วันนั้นที่เสนอสิ่งเหล่ำนี้ขึ้นมำ ถ้ำเป็น 20 ปีที่แล้ว ผมเชื่อว่ำสถำบัน World Bank Asian
Development Bank คงไม่พอใจ แต่สถำนกำรณ์โลกเปลี่ยนไปมำก เมื่อมีกำรเสนอ BRICS และ AIIB
ธนำคำรโลกมองว่ำยิ่งมีมำกก็ดี เพรำะเอเชียยังขำดเงินทุนในเรื่องของกำรลงทุนเพื่อพัฒนำโครงสร้ำงพื้นฐำน
เพรำะฉะนั้น กำรเงินเพื่อกำรพัฒนำ ก็เคลื่อนจำกองค์กรโลกมำสู่องค์กรใหม่มำนำนแล้ว
ในเรื่องเสถียรภำพทำงกำรเงิน : จำกกองทุนกำรเงินระหว่ำงประเทศสู่องค์กรใหม่ หลังวิกฤตต้มยำกุ้ง
พ.ศ. 2540 จีน เกำหลีใต้ และญี่ปุ่นก็เข้ำมำประชุมกันที่จังหวัดเชียงใหม่ เรียกกันว่ำ CMIM (Chiang Mai
Initiative Multilateralisation) ควำมคิดริเริ่มเชียงใหม่ เรำมำเป็นแบงค์ชำติให้กัน เวลำถูกเก็งกำไรค่ำเงิน
ประเทศไทยช่วงนั้นแย่ไปเลย เรำมำเป็น Bilateral Swap Arrangement เป็นกำรร่วมมือทวิภำคี พอให้กันไป
แบบทวิภำคีก็เกิดเป็นใยแมงมุม ก็เกิดเป็นพหุภำคีระหว่ำง 13 ประเทศ เรียกว่ำ Chang Mai Initiative
Multilateralization มีกองทุน Reserve Pool 240 Billion US dollar ซึ่งทำให้คนที่มำเก็งกำไรค่ำเงินของ
13 ประเทศนี้ต้องคิดหนัก เวลำนี้สำนักงำนตั้งที่ประเทศมำเลเซีย เพรำะมีประเทศจีนที่มีเงินสำรองสูงที่สุด
ตั้งอยู่ด้วย มีประเทศญี่ปุ่น เกำหลีใต้ สิงคโปร์รวมอยู่ด้วย
กล่ำวสั้นๆ คือเสรีภำพทำงกำรเงินเคลื่อนเข้ำสู่องค์กรใหม่ ยุโรปเองถึงแม้ไม่ได้เรียก IMF ของยุโรป
เพรำะสมัยที่นำยกรัฐมนตรีชำวญี่ปุ่น ซำกะระ จะตั้งขึ้นมำก็ถูกโจมตีให้ออกจำกตำแหน่ง เพรำะฉะนั้น เรำก็ตั้ง
ให้มันเรียกยำกๆ สำหรับผมคิดว่ำมันคล้ำยๆ Asian Monetary Fund
20
ยุโรปเขำก็ตั้งขึ้นมำชื่อ EFSF (European Financial Stability Facility) เป็นองค์กรที่ดูแลเสถียรภำพ
ทำงกำรเงินของยุโรป ศำสตรำจำรย์โจเซฟ นักเศรษฐศำสตร์ รำงวัลโนเบล ได้บอกว่ำ CMIM เป็นสถำปัตยกรรม
กำรทำงกำรเงินใหม่ของเอเชีย
บทบำทของเงินหยวนก็มีควำมเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้ำงมำก เงินหยวนได้รับควำมเห็นชอบจำก IMF ให้
เป็นเงินสำรองระหว่ำงประเทศ ให้เข้ำไปอยู่ใน Special Drawing Rights เดิมอยู่ประมำณ 10 เปอร์เซ็นต์ 1
สิงหำคม ค.ศ. 2022 ขยำยขึ้นไป 12.28 เปอร์เซ็นต์ USD มำกที่สุด EUR รองลงมำ แต่เงิน RMB ก็ได้สัดส่วนที่
สูงกว่ำ JPY และสูงกว่ำ GBP เงินหยวนยังเป็นเงินสกุลที่ใช้กำรค้ำระหว่ำงประเทศ ถึงแม้ว่ำจีนจะยังไม่อยำกให้
คนถือเงินหยวนนอกประเทศมำกนัก แต่ก็ค่อยๆ ขยับขึ้นไปที่ใช้เงินหยวนในกำรค้ำขำยขยับขึ้นไป 3.2 % เป็นที่
สี่ของโลก
ควำมเปลี่ยนแปลงและระเบียบโลกที่เริ่มขยับอีก ก็คือ “กำรพยำยำมสร้ำงสกุลเงินสำรองระหว่ำง
ประเทศใหม่” ถึงแม้ RMB จะเข้ำไปอยู่ Special Drawing Rights ซึ่งเป็นตะกร้ำสำหรับประเทศ IMF แต่จำก
สงครำมยูเครนกับรัสเซีย ประเทศ BRICS เริ่มประชุมกัน ผู้นำคุยว่ำลองไปศึกษำดูว่ำเรำจะมีตะกร้ำเงินของ
BRICS บรำซิล รัสเซีย อินเดีย จีน แอฟริกำใต้แทน Special Drawing Rights หรือไม่ แม้ไม่ง่ำย แต่เริ่มคิด
เริ่มทำแล้ว เพื่อป้องกันกำรถูกคว่ำบำตรทำงเศรษฐกิจ
ระบบกำรชำระเงินระหว่ำงประเทศ กำลังจะเริ่มจำก Swift ไปสู่ Non-Dollar Settlement พอรัสเซีย
ถูกคว่ำบำตรในเรื่อง Swift ก็มีหลำยประเทศเริ่มมองแล้วว่ำ ถ้ำเกิดมีควำมสัมพันธ์ที่ไม่เป็นมิตรกับสหรัฐและถูก
ยึดเงินสำรองถูกห้ำมค้ำขำยผ่ำนระบบ Swift จะทำอย่ำงไร เมื่อ ค.ศ. 2015 จีนได้เคยพัฒนำ Cross-Border
Interbank Payment System (CIPs) เพื่อให้เป็นทำงเลือกจำก Swift มำถึงเวลำนี้ ค.ศ. 2022 โลกให้ควำม
สนใจว่ำทำอย่ำงไรที่จะพัฒนำ CIPs ให้เจริญก้ำวหน้ำขึ้นไปเรื่อยๆ ในกรณีที่ถูกคว่ำบำตรโดย Swift
เพรำะฉะนั้น ระบบกำรเงินระหว่ำงประเทศกำลังเคลื่อนไปสู่เวทีใหม่ ยังไม่รู้ว่ำจะไปได้แค่ไหน ยังไม่รู้ว่ำ CIPs
จะเดินไปได้ไกลแค่ไหน แต่ได้เดินมำแล้ว โดนถูกผลักดันด้วยประเทศต่ำงๆ มำกเกินไป ไม่ได้ถูกโปรโมทโดยจีนเอง
โปรโมทโดยคนอื่น
กำรให้บริกำรทำงกำรเงิน จำกเดิมเป็น Digital Finance มี Finance Company ให้บริกำรทำงกำรเงิน
โดยใช้เทคโนโลยี เรียกว่ำ Fin Tech Financial Technology ในขณะเดียวกันก็มี Tech Fin ด้วย คือบริษัท
Technology ไม่ได้ตั้งใจจะทำเรื่องกำรบริกำรทำงกำรเงิน แต่ว่ำมีข้อมูลเยอะมำก ไม่ว่ำจะเป็น Wechat,
Taobao มีข้อมูลมำกขนำดนี้เป็น Big Data เป็น Big Data Analytic ด้วย ก็เลยเอำกำรบริกำรทำงกำรเงิน
เสริมเข้ำไป ไม่ว่ำจะเป็นกำรประกันภัย กำรออมเงิน กำรชำระเงิน เพรำะฉะนั้น ระเบียบโลกมันเลยเปลี่ยนไปมี
ทั้ง Fin Tech และ Tech Fin แต่ Fin Tech และ Tech Fin ยังผ่ำนตัวกลำง ยังผ่ำนธนำคำร ธนำคำรชำติ
ธนำคำรแต่ละประเทศอยู่ก็เลยมีคนรุ่นใหม่มำคิดระบบ Block chain ขึ้นมำ Bitcoin Crypto Currency
แต่ทำงรัฐศำสตร์ผมเรียกว่ำเป็น Decentralization คือเป็นกำรกระจำยอำนำจไม่ต้องผ่ำนตัวกลำง
ค้ำขำยกันได้เลยไม่ว่ำจะเป็น Forex Exchange Rate fund หรือเป็น Asset ซึ่งเวลำนี้ก็กำลังมีปัญหำอยู่ หลำย
วันมำนี้เพิ่งมีปัญหำกับ Platform อันหนึ่ง ก็ดูต่อไปว่ำจะเป็นอย่ำงไร แต่ว่ำไม่ผ่ำนธนำคำรกลำง ไม่ผ่ำน
Central bank แต่แบงค์ชำติสวีเดนกับแบงค์ชำติจีน ต้องชื่นชมว่ำเก่งมำก แทนที่จะไปห้ำมในเรื่อง Block
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน
ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน

More Related Content

Similar to ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน

การคาดการณ์ประชากรไทยในอนาคต : ผลต่อเศรษฐกิจ สังคม สุขภาพ และการศึกษา
การคาดการณ์ประชากรไทยในอนาคต : ผลต่อเศรษฐกิจ สังคม สุขภาพ และการศึกษาการคาดการณ์ประชากรไทยในอนาคต : ผลต่อเศรษฐกิจ สังคม สุขภาพ และการศึกษา
การคาดการณ์ประชากรไทยในอนาคต : ผลต่อเศรษฐกิจ สังคม สุขภาพ และการศึกษาKlangpanya
 
World Think Thank Monitors กรกฎาคม พ.ศ.2558
World Think Thank Monitors กรกฎาคม พ.ศ.2558World Think Thank Monitors กรกฎาคม พ.ศ.2558
World Think Thank Monitors กรกฎาคม พ.ศ.2558Klangpanya
 
ข้อเสนอนโยบาย One belt one road ของจีน
ข้อเสนอนโยบาย One belt one road ของจีนข้อเสนอนโยบาย One belt one road ของจีน
ข้อเสนอนโยบาย One belt one road ของจีนKlangpanya
 
ประชาคมอาเซียน2013ศ.ดร.เกรียงศักดิ์
ประชาคมอาเซียน2013ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ประชาคมอาเซียน2013ศ.ดร.เกรียงศักดิ์
ประชาคมอาเซียน2013ศ.ดร.เกรียงศักดิ์Kruthai Kidsdee
 
ความท้าทายของไทยในทศวรรษ 2020 ด้านการต่างประเทศและยุทธศาสตร์ความมั่นคง
ความท้าทายของไทยในทศวรรษ 2020 ด้านการต่างประเทศและยุทธศาสตร์ความมั่นคงความท้าทายของไทยในทศวรรษ 2020 ด้านการต่างประเทศและยุทธศาสตร์ความมั่นคง
ความท้าทายของไทยในทศวรรษ 2020 ด้านการต่างประเทศและยุทธศาสตร์ความมั่นคงKlangpanya
 
รายงานเวทีวิชาการ เรื่อง ประสบการณ์ประชาธิปไตยจีน
รายงานเวทีวิชาการ เรื่อง ประสบการณ์ประชาธิปไตยจีน รายงานเวทีวิชาการ เรื่อง ประสบการณ์ประชาธิปไตยจีน
รายงานเวทีวิชาการ เรื่อง ประสบการณ์ประชาธิปไตยจีน Klangpanya
 
World thank think monitor ครั้งที่ 4 เดือนกันยายน 2558
World thank think monitor ครั้งที่ 4 เดือนกันยายน 2558World thank think monitor ครั้งที่ 4 เดือนกันยายน 2558
World thank think monitor ครั้งที่ 4 เดือนกันยายน 2558Klangpanya
 
20100618 research-strengthen-thailand-fullscreen
20100618 research-strengthen-thailand-fullscreen20100618 research-strengthen-thailand-fullscreen
20100618 research-strengthen-thailand-fullscreenNSTDA THAILAND
 

Similar to ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน (9)

การคาดการณ์ประชากรไทยในอนาคต : ผลต่อเศรษฐกิจ สังคม สุขภาพ และการศึกษา
การคาดการณ์ประชากรไทยในอนาคต : ผลต่อเศรษฐกิจ สังคม สุขภาพ และการศึกษาการคาดการณ์ประชากรไทยในอนาคต : ผลต่อเศรษฐกิจ สังคม สุขภาพ และการศึกษา
การคาดการณ์ประชากรไทยในอนาคต : ผลต่อเศรษฐกิจ สังคม สุขภาพ และการศึกษา
 
World Think Thank Monitors กรกฎาคม พ.ศ.2558
World Think Thank Monitors กรกฎาคม พ.ศ.2558World Think Thank Monitors กรกฎาคม พ.ศ.2558
World Think Thank Monitors กรกฎาคม พ.ศ.2558
 
ข้อเสนอนโยบาย One belt one road ของจีน
ข้อเสนอนโยบาย One belt one road ของจีนข้อเสนอนโยบาย One belt one road ของจีน
ข้อเสนอนโยบาย One belt one road ของจีน
 
ประชาคมอาเซียน2013ศ.ดร.เกรียงศักดิ์
ประชาคมอาเซียน2013ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ประชาคมอาเซียน2013ศ.ดร.เกรียงศักดิ์
ประชาคมอาเซียน2013ศ.ดร.เกรียงศักดิ์
 
ความท้าทายของไทยในทศวรรษ 2020 ด้านการต่างประเทศและยุทธศาสตร์ความมั่นคง
ความท้าทายของไทยในทศวรรษ 2020 ด้านการต่างประเทศและยุทธศาสตร์ความมั่นคงความท้าทายของไทยในทศวรรษ 2020 ด้านการต่างประเทศและยุทธศาสตร์ความมั่นคง
ความท้าทายของไทยในทศวรรษ 2020 ด้านการต่างประเทศและยุทธศาสตร์ความมั่นคง
 
รายงานเวทีวิชาการ เรื่อง ประสบการณ์ประชาธิปไตยจีน
รายงานเวทีวิชาการ เรื่อง ประสบการณ์ประชาธิปไตยจีน รายงานเวทีวิชาการ เรื่อง ประสบการณ์ประชาธิปไตยจีน
รายงานเวทีวิชาการ เรื่อง ประสบการณ์ประชาธิปไตยจีน
 
รวมเล่ม (1)
รวมเล่ม (1)รวมเล่ม (1)
รวมเล่ม (1)
 
World thank think monitor ครั้งที่ 4 เดือนกันยายน 2558
World thank think monitor ครั้งที่ 4 เดือนกันยายน 2558World thank think monitor ครั้งที่ 4 เดือนกันยายน 2558
World thank think monitor ครั้งที่ 4 เดือนกันยายน 2558
 
20100618 research-strengthen-thailand-fullscreen
20100618 research-strengthen-thailand-fullscreen20100618 research-strengthen-thailand-fullscreen
20100618 research-strengthen-thailand-fullscreen
 

More from Klangpanya

การปฏิวัติทุเรียนไทยในจีน การเกษตร การตลาดและการบริโภค
การปฏิวัติทุเรียนไทยในจีน การเกษตร การตลาดและการบริโภคการปฏิวัติทุเรียนไทยในจีน การเกษตร การตลาดและการบริโภค
การปฏิวัติทุเรียนไทยในจีน การเกษตร การตลาดและการบริโภคKlangpanya
 
กระบวนทัศน์การพัฒนาใหม่ บูรณาการเมืองกับชนบท
กระบวนทัศน์การพัฒนาใหม่ บูรณาการเมืองกับชนบท กระบวนทัศน์การพัฒนาใหม่ บูรณาการเมืองกับชนบท
กระบวนทัศน์การพัฒนาใหม่ บูรณาการเมืองกับชนบท Klangpanya
 
‘Belt and Road Initiative: BRI’: A strengthening path for Thailand and China ...
‘Belt and Road Initiative: BRI’: A strengthening path for Thailand and China...‘Belt and Road Initiative: BRI’: A strengthening path for Thailand and China...
‘Belt and Road Initiative: BRI’: A strengthening path for Thailand and China ...Klangpanya
 
World-changing and the Thai-Chinese Relations
World-changing and the Thai-Chinese RelationsWorld-changing and the Thai-Chinese Relations
World-changing and the Thai-Chinese RelationsKlangpanya
 
Perspectives on China’s Digital Silk Road Framework and the case study of adv...
Perspectives on China’s Digital Silk Road Framework and the case study of adv...Perspectives on China’s Digital Silk Road Framework and the case study of adv...
Perspectives on China’s Digital Silk Road Framework and the case study of adv...Klangpanya
 
The People-to-people Exchange between Thailand and China under the Belt and R...
The People-to-people Exchange between Thailand and China under the Belt and R...The People-to-people Exchange between Thailand and China under the Belt and R...
The People-to-people Exchange between Thailand and China under the Belt and R...Klangpanya
 
พัฒนาการเศรษฐกิจไทย – ลาว บนการเปลี่ยนแปลงภูมิรัฐศาสตร์และภูมิเศรษฐศาสตร์ของภ...
พัฒนาการเศรษฐกิจไทย – ลาว บนการเปลี่ยนแปลงภูมิรัฐศาสตร์และภูมิเศรษฐศาสตร์ของภ...พัฒนาการเศรษฐกิจไทย – ลาว บนการเปลี่ยนแปลงภูมิรัฐศาสตร์และภูมิเศรษฐศาสตร์ของภ...
พัฒนาการเศรษฐกิจไทย – ลาว บนการเปลี่ยนแปลงภูมิรัฐศาสตร์และภูมิเศรษฐศาสตร์ของภ...Klangpanya
 
ความร่วมมือด้านทรัพยากรน้ำ: โอกาสและความท้าทายในภูมิภาคอินโดจีน
ความร่วมมือด้านทรัพยากรน้ำ: โอกาสและความท้าทายในภูมิภาคอินโดจีนความร่วมมือด้านทรัพยากรน้ำ: โอกาสและความท้าทายในภูมิภาคอินโดจีน
ความร่วมมือด้านทรัพยากรน้ำ: โอกาสและความท้าทายในภูมิภาคอินโดจีนKlangpanya
 
การเปลี่ยนแปลงผู้นำจีนที่สำคัญที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ในการประชุมสมัชชาใหญ่ของพรร...
การเปลี่ยนแปลงผู้นำจีนที่สำคัญที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ในการประชุมสมัชชาใหญ่ของพรร...การเปลี่ยนแปลงผู้นำจีนที่สำคัญที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ในการประชุมสมัชชาใหญ่ของพรร...
การเปลี่ยนแปลงผู้นำจีนที่สำคัญที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ในการประชุมสมัชชาใหญ่ของพรร...Klangpanya
 
Trends in Social and Environmental Responsibility Presentation
Trends in Social and Environmental Responsibility PresentationTrends in Social and Environmental Responsibility Presentation
Trends in Social and Environmental Responsibility PresentationKlangpanya
 
Trends in Social and Environmental Responsibility - The Challenges of Transbo...
Trends in Social and Environmental Responsibility - The Challenges of Transbo...Trends in Social and Environmental Responsibility - The Challenges of Transbo...
Trends in Social and Environmental Responsibility - The Challenges of Transbo...Klangpanya
 
“澜湄水资源合作” 中泰智库合作倡议 "Lancang-Mekong Water Resources Cooperation" Sino-Thai Thi...
“澜湄水资源合作” 中泰智库合作倡议 "Lancang-Mekong Water Resources Cooperation" Sino-Thai Thi...“澜湄水资源合作” 中泰智库合作倡议 "Lancang-Mekong Water Resources Cooperation" Sino-Thai Thi...
“澜湄水资源合作” 中泰智库合作倡议 "Lancang-Mekong Water Resources Cooperation" Sino-Thai Thi...Klangpanya
 
Pelosi: ผู้เติมเชื้อไฟแห่งความเดือดดาล ในความสัมพันธ์สหรัฐฯ และจีน
Pelosi: ผู้เติมเชื้อไฟแห่งความเดือดดาล ในความสัมพันธ์สหรัฐฯ และจีนPelosi: ผู้เติมเชื้อไฟแห่งความเดือดดาล ในความสัมพันธ์สหรัฐฯ และจีน
Pelosi: ผู้เติมเชื้อไฟแห่งความเดือดดาล ในความสัมพันธ์สหรัฐฯ และจีนKlangpanya
 
ปัญญาในการสร้างสมดุลระหว่างโลกทัศน์กับชีวทัศน์ของนักวิชาการ รองศาสตราจารย์ ดร...
ปัญญาในการสร้างสมดุลระหว่างโลกทัศน์กับชีวทัศน์ของนักวิชาการ รองศาสตราจารย์ ดร...ปัญญาในการสร้างสมดุลระหว่างโลกทัศน์กับชีวทัศน์ของนักวิชาการ รองศาสตราจารย์ ดร...
ปัญญาในการสร้างสมดุลระหว่างโลกทัศน์กับชีวทัศน์ของนักวิชาการ รองศาสตราจารย์ ดร...Klangpanya
 
การเรียนรู้ของนักวิชาการในการสร้างปัญญา เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในอนาคต อ...
การเรียนรู้ของนักวิชาการในการสร้างปัญญา เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในอนาคต อ...การเรียนรู้ของนักวิชาการในการสร้างปัญญา เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในอนาคต อ...
การเรียนรู้ของนักวิชาการในการสร้างปัญญา เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในอนาคต อ...Klangpanya
 
ppt อ.ชัยวัฒน์.pdf
ppt อ.ชัยวัฒน์.pdfppt อ.ชัยวัฒน์.pdf
ppt อ.ชัยวัฒน์.pdfKlangpanya
 
650324_ประสบการณ์กับการศึกษาที่นำสู่การสร้างปัญญา.pdf
650324_ประสบการณ์กับการศึกษาที่นำสู่การสร้างปัญญา.pdf650324_ประสบการณ์กับการศึกษาที่นำสู่การสร้างปัญญา.pdf
650324_ประสบการณ์กับการศึกษาที่นำสู่การสร้างปัญญา.pdfKlangpanya
 
Korakot Design for International 02 อว.pdf
Korakot Design for International 02 อว.pdfKorakot Design for International 02 อว.pdf
Korakot Design for International 02 อว.pdfKlangpanya
 
การบรรยายเรื่อง ความรู้ ภูมิปัญญา ปราชญ์ .pdf
การบรรยายเรื่อง ความรู้ ภูมิปัญญา ปราชญ์ .pdfการบรรยายเรื่อง ความรู้ ภูมิปัญญา ปราชญ์ .pdf
การบรรยายเรื่อง ความรู้ ภูมิปัญญา ปราชญ์ .pdfKlangpanya
 
รร.ดรุณสิกขาลัย.pdf
รร.ดรุณสิกขาลัย.pdfรร.ดรุณสิกขาลัย.pdf
รร.ดรุณสิกขาลัย.pdfKlangpanya
 

More from Klangpanya (20)

การปฏิวัติทุเรียนไทยในจีน การเกษตร การตลาดและการบริโภค
การปฏิวัติทุเรียนไทยในจีน การเกษตร การตลาดและการบริโภคการปฏิวัติทุเรียนไทยในจีน การเกษตร การตลาดและการบริโภค
การปฏิวัติทุเรียนไทยในจีน การเกษตร การตลาดและการบริโภค
 
กระบวนทัศน์การพัฒนาใหม่ บูรณาการเมืองกับชนบท
กระบวนทัศน์การพัฒนาใหม่ บูรณาการเมืองกับชนบท กระบวนทัศน์การพัฒนาใหม่ บูรณาการเมืองกับชนบท
กระบวนทัศน์การพัฒนาใหม่ บูรณาการเมืองกับชนบท
 
‘Belt and Road Initiative: BRI’: A strengthening path for Thailand and China ...
‘Belt and Road Initiative: BRI’: A strengthening path for Thailand and China...‘Belt and Road Initiative: BRI’: A strengthening path for Thailand and China...
‘Belt and Road Initiative: BRI’: A strengthening path for Thailand and China ...
 
World-changing and the Thai-Chinese Relations
World-changing and the Thai-Chinese RelationsWorld-changing and the Thai-Chinese Relations
World-changing and the Thai-Chinese Relations
 
Perspectives on China’s Digital Silk Road Framework and the case study of adv...
Perspectives on China’s Digital Silk Road Framework and the case study of adv...Perspectives on China’s Digital Silk Road Framework and the case study of adv...
Perspectives on China’s Digital Silk Road Framework and the case study of adv...
 
The People-to-people Exchange between Thailand and China under the Belt and R...
The People-to-people Exchange between Thailand and China under the Belt and R...The People-to-people Exchange between Thailand and China under the Belt and R...
The People-to-people Exchange between Thailand and China under the Belt and R...
 
พัฒนาการเศรษฐกิจไทย – ลาว บนการเปลี่ยนแปลงภูมิรัฐศาสตร์และภูมิเศรษฐศาสตร์ของภ...
พัฒนาการเศรษฐกิจไทย – ลาว บนการเปลี่ยนแปลงภูมิรัฐศาสตร์และภูมิเศรษฐศาสตร์ของภ...พัฒนาการเศรษฐกิจไทย – ลาว บนการเปลี่ยนแปลงภูมิรัฐศาสตร์และภูมิเศรษฐศาสตร์ของภ...
พัฒนาการเศรษฐกิจไทย – ลาว บนการเปลี่ยนแปลงภูมิรัฐศาสตร์และภูมิเศรษฐศาสตร์ของภ...
 
ความร่วมมือด้านทรัพยากรน้ำ: โอกาสและความท้าทายในภูมิภาคอินโดจีน
ความร่วมมือด้านทรัพยากรน้ำ: โอกาสและความท้าทายในภูมิภาคอินโดจีนความร่วมมือด้านทรัพยากรน้ำ: โอกาสและความท้าทายในภูมิภาคอินโดจีน
ความร่วมมือด้านทรัพยากรน้ำ: โอกาสและความท้าทายในภูมิภาคอินโดจีน
 
การเปลี่ยนแปลงผู้นำจีนที่สำคัญที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ในการประชุมสมัชชาใหญ่ของพรร...
การเปลี่ยนแปลงผู้นำจีนที่สำคัญที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ในการประชุมสมัชชาใหญ่ของพรร...การเปลี่ยนแปลงผู้นำจีนที่สำคัญที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ในการประชุมสมัชชาใหญ่ของพรร...
การเปลี่ยนแปลงผู้นำจีนที่สำคัญที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ในการประชุมสมัชชาใหญ่ของพรร...
 
Trends in Social and Environmental Responsibility Presentation
Trends in Social and Environmental Responsibility PresentationTrends in Social and Environmental Responsibility Presentation
Trends in Social and Environmental Responsibility Presentation
 
Trends in Social and Environmental Responsibility - The Challenges of Transbo...
Trends in Social and Environmental Responsibility - The Challenges of Transbo...Trends in Social and Environmental Responsibility - The Challenges of Transbo...
Trends in Social and Environmental Responsibility - The Challenges of Transbo...
 
“澜湄水资源合作” 中泰智库合作倡议 "Lancang-Mekong Water Resources Cooperation" Sino-Thai Thi...
“澜湄水资源合作” 中泰智库合作倡议 "Lancang-Mekong Water Resources Cooperation" Sino-Thai Thi...“澜湄水资源合作” 中泰智库合作倡议 "Lancang-Mekong Water Resources Cooperation" Sino-Thai Thi...
“澜湄水资源合作” 中泰智库合作倡议 "Lancang-Mekong Water Resources Cooperation" Sino-Thai Thi...
 
Pelosi: ผู้เติมเชื้อไฟแห่งความเดือดดาล ในความสัมพันธ์สหรัฐฯ และจีน
Pelosi: ผู้เติมเชื้อไฟแห่งความเดือดดาล ในความสัมพันธ์สหรัฐฯ และจีนPelosi: ผู้เติมเชื้อไฟแห่งความเดือดดาล ในความสัมพันธ์สหรัฐฯ และจีน
Pelosi: ผู้เติมเชื้อไฟแห่งความเดือดดาล ในความสัมพันธ์สหรัฐฯ และจีน
 
ปัญญาในการสร้างสมดุลระหว่างโลกทัศน์กับชีวทัศน์ของนักวิชาการ รองศาสตราจารย์ ดร...
ปัญญาในการสร้างสมดุลระหว่างโลกทัศน์กับชีวทัศน์ของนักวิชาการ รองศาสตราจารย์ ดร...ปัญญาในการสร้างสมดุลระหว่างโลกทัศน์กับชีวทัศน์ของนักวิชาการ รองศาสตราจารย์ ดร...
ปัญญาในการสร้างสมดุลระหว่างโลกทัศน์กับชีวทัศน์ของนักวิชาการ รองศาสตราจารย์ ดร...
 
การเรียนรู้ของนักวิชาการในการสร้างปัญญา เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในอนาคต อ...
การเรียนรู้ของนักวิชาการในการสร้างปัญญา เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในอนาคต อ...การเรียนรู้ของนักวิชาการในการสร้างปัญญา เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในอนาคต อ...
การเรียนรู้ของนักวิชาการในการสร้างปัญญา เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในอนาคต อ...
 
ppt อ.ชัยวัฒน์.pdf
ppt อ.ชัยวัฒน์.pdfppt อ.ชัยวัฒน์.pdf
ppt อ.ชัยวัฒน์.pdf
 
650324_ประสบการณ์กับการศึกษาที่นำสู่การสร้างปัญญา.pdf
650324_ประสบการณ์กับการศึกษาที่นำสู่การสร้างปัญญา.pdf650324_ประสบการณ์กับการศึกษาที่นำสู่การสร้างปัญญา.pdf
650324_ประสบการณ์กับการศึกษาที่นำสู่การสร้างปัญญา.pdf
 
Korakot Design for International 02 อว.pdf
Korakot Design for International 02 อว.pdfKorakot Design for International 02 อว.pdf
Korakot Design for International 02 อว.pdf
 
การบรรยายเรื่อง ความรู้ ภูมิปัญญา ปราชญ์ .pdf
การบรรยายเรื่อง ความรู้ ภูมิปัญญา ปราชญ์ .pdfการบรรยายเรื่อง ความรู้ ภูมิปัญญา ปราชญ์ .pdf
การบรรยายเรื่อง ความรู้ ภูมิปัญญา ปราชญ์ .pdf
 
รร.ดรุณสิกขาลัย.pdf
รร.ดรุณสิกขาลัย.pdfรร.ดรุณสิกขาลัย.pdf
รร.ดรุณสิกขาลัย.pdf
 

ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน

  • 1.
  • 2. 2 รายงานถอดความ (Transcript) ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ ระหว่างไทยและจีน ผู้นำเสนอหลัก ศาสตราจารย์พิเศษ ดร. สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ดร. สวี ปู้ ศาสตราจารย์ ดร. จูเฟิง คุณกวี จงกิจถาวร ท่านหนิง ฟู่ขุย ท่านวิบูลย์ คูสกุล ศาสตราจารย์ ดร. ซ่ง เต๋อซิง พลเอกสุรสิทธิ์ ถนัดทาง รำยงำนฉบับนี้ถอดควำมจำกเวทีวิชำกำร เรื่อง "ยุทธศำสตร์กำรต่ำงประเทศยุคใหม่ และควำมสัมพันธ์ระหว่ำง ไทยและจีน" จัดโดย สถำบันคลังปัญญำด้ำนยุทธศำสตร์ชำติ, ศูนย์วิจัยยุทธศำสตร์ไทย-จีน สำนักงำนกำรวิจัย แห่งชำติ, มหำวิทยำลัยเทคโนโลยีป้องกันประเทศ สำธำรณรัฐประชำชนจีน และมหำวิทยำลัยหนำนจิง เมื่อ วันที่ 12 พฤศจิกำยน พ.ศ. 2565 (กำรประชุมออนไลน์) บรรณาธิการ: ยุวดี คำดกำรณ์ไกล ผู้ช่วยบรรณาธิการ: ณัฐธิดำ เย็นบำรุง อานวยการผลิตโดย: สถำบันคลังปัญญำด้ำนยุทธศำสตร์ชำติ ปีที่เผยแพร่: มกรำคม พ.ศ. 2566 www.klangpanya.in.th ที่อยู่ สถาบันคลังปัญญาด้านยุทธศาสตร์ชาติ อำคำร The Line Phahon-Pradipat ถนนประดิพัทธิ์ แขวงสำมเสนใน เขตพญำไท กทม. 10400
  • 3. 3 คานา เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกำยน พ.ศ. 2565 เวลำ 09.30-15.30 น. สถำบันคลังปัญญำด้ำนยุทธศำสตร์ชำติ และศูนย์วิจัยยุทธศำสตร์ไทย-จีน สำนักงำนกำรวิจัยแห่งชำติ ร่วมกับ มหำวิทยำลัยเทคโนโลยีป้องกันประเทศ แห่งสำธำรณรัฐประชำชนจีน และมหำวิทยำลัยหนำนจิง จัดเวทีวิชำกำรไทย-จีน เรื่อง "ยุทธศาสตร์การ ต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน" ณ ห้องประชุม ศูนย์ศึกษำยุทธศำสตร์ สถำบัน วิชำกำรป้องกันประเทศ โดยกล่ำวปำฐกถำเป็นภำษำไทย และจะมีล่ำมแปลจำกภำษำไทยเป็นภำษำจีน กำร จัดประชุมใช้รูปแบบเวทีวิชำกำรออนไลน์ผ่ำนแอปพลิเคชัน ZOOM ระหว่ำงห้องประชุมฝ่ำยไทยกับห้อง ประชุมฝ่ำยจีน โดยมีนักคิด นักยุทธศำสตร์ นักวิชำกำร อดีตเอกอัครรำชทูต เข้ำร่วมบรรยำย สถำนกำรณ์โลกในปัจจุบันมีควำมผันผวนเป็นอย่ำงมำกและมีควำมเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว โดยเฉพำะ ควำมเปลี่ยนแปลงในทำงเศรษฐกิจ และควำมขัดแย้งของประเทศมหำอำนำจที่มีจีนและสหรัฐฯ เป็นตัวแสดง สำคัญในทำงกำรเมือง ในขณะที่สหรัฐฯ เริ่มอ่อนแอลงและอยู่ในสภำวะตกต่ำ จีนก็ผงำดขึ้นมำจนมีเศรษฐกิจที่ ทัดเทียมกันกับสหรัฐฯ สภำพกำรณ์เช่นนี้ได้ก่อให้เกิดควำมเปลี่ยนแปลงต่อดุลแห่งอำนำจระหว่ำงจีนและ สหรัฐฯ ในอำณำบริเวณต่ำงๆ ของโลก อีกทั้ง จีนก็กำลังจะมีกำรจัดตั้งคณะผู้บริหำรประเทศชุดใหม่ในเดือน ตุลำคมนี้ ย่อมส่งผลต่อกำรกำหนดนโยบำยต่ำงประเทศของไทยอย่ำงหลีกเลี่ยงไม่ได้ คำถำมที่เกิดขึ้นก็คือ กำร ต่ำงประเทศจำเป็นต้องได้รับกำรทบทวนใหม่หรือไม่ อะไรคือปัจจัยสำคัญของกำรดำเนินกำรต่ำงประเทศยุค ใหม่ แล้วนโยบำยกำรต่ำงประเทศของไทยนั้นควรจะดำเนินไปอย่ำงไร เพื่อให้เกิดควำมกระจ่ำงต่อประเด็น คำถำมดังกล่ำว ทีมงำนจำกหน่วยงำนทั้งสำมสถำบันทั้งของไทยและจีน จึงได้กำหนดจัดเวทีวิชำกำร เรื่อง ยุทธศำสตร์กำรต่ำงประเทศยุคใหม่ และควำมสัมพันธ์ระหว่ำงไทย-จีนขึ้น ในกำรนี้ สถำบันคลังปัญญำด้ำนยุทธศำสตร์ชำติ ได้จัดทำรำยงำนสรุปและถอดควำมเนื้อหำเวที วิชำกำรครั้งนี้ขึ้นเพื่อเผยแพร่ควำมรู้สู่ผู้กำหนดและตัดสินใจเชิงนโยบำย ภำคส่วนต่ำง ๆ นิสิตนักศึกษำ และ ประชำชนทั่วไปที่สนใจกำรกำหนดยุทธศำสตร์กำรต่ำงประเทศยุคใหม่ และควำมสัมพันธ์ระหว่ำงไทย-จีน ในยุค ที่อำนำจโลก มีควำมซับซ้อน และกำลังเปลี่ยนแปลงนี้ สถาบันคลังปัญญาด้านยุทธศาสตร์ชาติ
  • 4. 4 สารบัญ หน้า คานา 3 เกริ่นนา ศำตรำจำรย์ ดร.หวัง โป 7 ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ ศำสตรำจำรย์พิเศษ ดร. สุรเกียรติ์ เสถียรไทย 9 ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจีน Paradigm การสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของเอเชีย ดร. สวี ปู้ 27 การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ด้วยวิถีของเอเชีย (Asia Way) ศำสตรำจำรย์ ดร. จูเฟิง 30 ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีนแบบห้าเหลี่ยม คุณกวี จงกิจถำวร 34 การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างจีนและไทย ให้ก้าวสู่ระดับที่สูงขึ้น ท่ำนหนิง ฟู่ขุย 42
  • 5. 5 สถานภาพของจีนวันนี้ : การยอมรับและความคาดหวัง ท่ำนวิบูลย์ คูสกุล 48 การพัฒนาคุณภาพของจีน กับการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างจีนกับอาเซียน ศำสตรำจำรย์ ดร. ซ่ง เต๋อซิง 54 การทูตเชิงป้องกัน (Defense Diplomacy) แบบไม่ใช้กาลังป้องกัน พลเอกสุรสิทธิ์ ถนัดทำง 57 กล่าวปิด ดร.หู ซิง 62 ดร.วิภำรัตน์ ดีอ๋อง 63
  • 6. 6
  • 7. 7 ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีน กล่าวเปิด ศาตราจารย์ ดร.หวัง โป รองอธิกำรวิทยำลัยควำมสัมพันธ์ระหว่ำงประเทศ มหำวิทยำลัยเทคโนโลยีป้องกันประเทศ สำธำรณรัฐประชำชนจีน เรียนท่ำนศำสตรำจำรย์พิเศษ ดร. สุรเกียรติ เสถียรไทย อดีตรองนำยกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีกำร ต่ำงประเทศที่เคำรพ ดร. สี ปู้ เลขำธิกำรศูนย์ศึกษำควำมคิด Xi Jinping ด้ำนกำรทูต ท่ำนวิทยำกรและ ผู้เข้ำร่วมสัมมนำทุกท่ำน ก่อนอื่น วิทยำลัยควำมสัมพันธ์ระหว่ำงประเทศ มหำวิทยำลัยเทคโนโลยีป้องกัน ประเทศ สำธำรณรัฐประชำชนจีน ขอยินดีต้อนรับทุกท่ำนเข้ำสู่งำนสัมมนำครั้งนี้ ภำยใต้หัวข้อ “ยุทธศำสตร์ กำรต่ำงประเทศยุคใหม่ และควำมสัมพันธ์ระหว่ำงไทยและจีน” ทั้งไทยและจีนเป็นประเทศเพื่อนบ้ำนที่ดี มีมิตรสัมพันธ์นับเป็นพันปี เมืองหนำนจิงซึ่งเป็นเมืองเก่ำแก่ ได้ประจักษ์เป็นสักขีพยำนของกำรพัฒนำควำมสัมพันธ์ระหว่ำงไทย-จีน จูหยวนจำง จักรพรรดิองค์แรกของ รำชวงศ์หมิงถือว่ำสยำมซึ่งคือประเทศไทยในปัจจุบันนี้เป็นหนึ่งในประเทศที่ไม่ส่งทหำรไปรบ และสำมำรถตั้ง โรงเรียนเพื่อผลิตบุคลำกรด้ำนกำรแปลภำษำต่ำงประเทศ ซึ่งภำษำไทยถือว่ำเป็นภำษำที่เก่ำแก่ที่สุดที่จีนได้เปิด สอนในฐำนะที่เป็นภำษำต่ำงประเทศ เจ้อเหอ นักเดินเรือทำงทะเล ออกเดินทำงจำกหนำนจิง นำกองทัพเรือ พำณิชย์ เพื่อที่จะเจริญควำมสัมพันธ์กับประเทศต่ำงๆ ในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งประเทศไทยก็มีสถำนที่ หรือโบรำณสถำนที่สะท้อนให้เห็นถึงควำมสัมพันธ์ไทย-จีน โดยทั้งไทยและจีนมีกำรสถำปนำควำมสมัพันธ์
  • 8. 8 ทำงกำรฑูตเมื่อ ค.ศ. 1975 ทำให้ทั้งสองประเทศมีควำมสัมพันธ์ที่ดีต่อมำ สำมำรถทำให้จีน-ไทย ไม่ใช่คนอื่น ไกลและเป็นพี่น้องกันมำ หยั่งรำกลึกในใจประชำชนทั้งสองประเทศ ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงไทย-จีนเป็นต้นแบบของควำมสัมพันธ์ที่มีระบบสังคมแตกต่ำงกัน ตั้งแต่เดือน เมษำยน ค.ศ. 2012 ทั้งจีนและไทยพัฒนำควำมสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนควำมร่วมมืออย่ำงรอบด้ำนซึ่งปีนี้ครบรอบ 10 ปี โดย 10 ปีที่ผ่ำนมำ ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงไทย-จีนมีกำรพัฒนำอย่ำงต่อเนื่อง มีควำมเชื่อใจไว้วำงใจทำง กำรเมือง เศรษฐกิจกำรค้ำมีกำรยกระดับสูงขึ้น ไม่นำนมำนี้กำรประชุมสมัชชำพรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20 ได้เปิดกำรประชุมอย่ำงประสบควำมสำเร็จ ในที่ประชุมได้ชี้แจงให้เห็นว่ำใน 10 ปีที่ผ่ำนมำ ประเทศจีนได้ ดำเนินนโยบำยต่ำงประเทศในฐำนะที่เป็นประเทศใหญ่และสร้ำงประชำคมที่มีอนำคตร่วมกันของมนุษยชำติ ส่งเสริมและพิทักษ์ ควำมเสมอภำค ควำมยุติธรรมเพื่อที่จะสร้ำงควำมสัมพันธ์ระหว่ำงประเทศในยุคสมัยใหม่ สำมำรถที่จะครอบคลุมเครือข่ำยระหว่ำงประเทศต่ำงๆ ในขณะเดียวกัน สำมำรถที่จะผลักดัน ธรรมำภิบำลโลก ส่งเสริมควำมร่วมมือในกำรป้องกันและต่อต้ำนโรคระบำดโควิด 19 ซึ่งได้รับกำรชื่นชมจำก นำนำประเทศ ผลสำเร็จทำงกำรฑูตที่ได้รับนี้ ย่อมที่จะแยกไม่ออกระหว่ำงประเทศไทยและประเทศอื่นๆ กำร ชิงไหวชิงพริบ แก่งแย่งชิงดีชิงเด่น ซึ่งสถำนกำรณ์ก็มีกำรเปลี่ยนแปลงอย่ำงผันผวนและประสบควำมท้ำทำย หลำกหลำย ประเทศไทยในฐำนะที่เป็นประเทศริเริ่มก่อตั้งอำเซียน มีขนำดเศรษฐกิจเป็นอันดับสองในอำเซียน เป็นหุ้นส่วนสำคัญของประเทศจีน ประเทศไทยได้แสดงบทบำทสำคัญในเวทีโลก ในอำทิตย์หน้ำประเทศไทยก็ ได้เป็นเจ้ำภำพกำรจัดประชุมเอเปคด้วย เมื่อเผชิญกับสิ่งที่ไม่แน่นอนหรือปัจจัยที่เป็นควำมเสี่ยงหรือสถำนกำรณ์ที่ผันผวน ทั้งไทยและจีนควร จะจับมือกันอย่ำงไรเพื่อที่จะเอำชนะปัญหำอุปสรรค ซึ่งเป็นประเด็นที่สำคัญที่เรำต้องคิดหำวิธีแก้ไขปัญหำ เพื่อที่จะพัฒนำควำมสัมพันธ์ไทยและจีนเข้ำสู่อีกระดับหนึ่ง ซึ่งวันนี้วิทยำกรทั้งไทยและจีนได้มีกำรจัดสัมมนำ เพื่อที่จะหำรือยุทธศำสตร์กำรต่ำงประเทศยุคใหม่และควำมสัมพันธ์ระหว่ำงประเทศ กำรประชุมในวันนี้จะเป็น เวทีที่ดีในกำรส่งเสริมวิชำกำรทั้งสองประเทศ สร้ำงควำมเข้ำใจกันและกัน และสนับสนุนส่งเสริมกิจกรรม ระหว่ำงประเทศ เพื่อที่จะพัฒนำควำมสัมพันธ์ระหว่ำงไทยจีนเข้ำสู่อีกระดับหนึ่ง หวังเป็นอย่ำงยิ่งว่ำกำรแพร่ระบำดของโควิด 19 จะผ่ำนพ้นไปอย่ำงรวดเร็ว เพื่อให้สำมำรถประชุม แบบ Face to Face ในสุดท้ำยขอให้กำรประชุมวันนี้ประสบควำมสำเร็จทุกประกำร ขอให้มิตรภำพไทยจีน ยั่งยืนสถิตสถำพรต่อไป ขอขอบพระคุณครับ
  • 9. 9 ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ ปาฐกถา โดย ศาสตราจารย์พิเศษ ดร. สุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรองนำยกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงกำรต่ำงประเทศ เรียนท่ำนศำสตรำจำรย์ ดร. หวังโป รองอธิกำรวิทยำลัยควำมสัมพันธ์ระหว่ำงประเทศ มหำวิทยำลัย เทคโนโลยีป้องกันประเทศ ของสำธำรณรัฐประชำชนจีน เรียนคุณยุวดี คำดกำรณ์ไกล, ดร. หยูฉวิน, ดร. สี ปู้ ประธำนศูนย์ศึกษำควำมคิด ของท่ำนประธำนำธิบดี Xi Jinping ด้ำนกำรต่ำงประเทศ ท่ำนวิทยำกร ผู้ทรงคุณวุฒิทุกท่ำน ท่ำนศำสตรำจำรย์ ดร. จูเฟิง, คุณกวี จงกิจถำวร, ท่ำนเอกอัครรำชฑูต หนิงฟูขุย, ท่ำนเอก อัครรำชฑูต วิบูลย์ คูสกูล, ศำสตรำจำรย์ ดร. ซ่งเต๋งซิง และท่ำนพลเอกสุรสิทธิ์ ถนัดทำง ผมมีควำมยินดีเป็น อย่ำงยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในกำรแลกเปลี่ยนควำมคิดเห็นกับท่ำนผู้มีเกียรติในวันนี้ ในหัวข้อที่ได้รับมอบหมำยมำเป็นหัวข้อ ยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ ในกำรสัมมนำ ยุทธศำสตร์กำรต่ำงประเทศยุคใหม่และควำมสัมพันธ์ไทย-จีน ในส่วนของผมคงจะเน้นไปที่ยุทธศำสตร์กำร ต่ำงประเทศยุคใหม่เป็นหลัก ว่ำควรเป็นอย่ำงไร ปัจจัยที่กาหนดยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ : การต่างประเทศที่อยู่ภายใต้ Global Mega Trend แนวโน้มใหญ่ของโลกประการที่ 1 คือ สังคมสูงอายุ (Aging Society) ถ้ำเรำพูดกันในประเทศเอเชียก็จะเห็นได้ว่ำมีประเทศจีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และไทย เป็นประเทศที่ถือว่ำ เข้ำสู่สังคมผู้สูงอำยุ สำหรับประเทศไทยนั้นไม่ใช่เป็น Aging Society แต่เป็น Age Society แล้ว ซึ่งมีผลกระทบ
  • 10. 10 ต่อนโยบำยเศรษฐกิจในประเทศ ประเทศจีนเองก็มี Silver-Haired Economy ญี่ปุ่นก็มีวิธีที่จะเพิ่มภำษีและ เอำเงินของภำษีที่เพิ่มขึ้นมำดูแลผู้สูงอำยุ สิงคโปร์ก็มีวิธีกำรที่ผู้สูงอำยุที่ยังเข้มแข็ง มีสติปัญญำดีให้เข้ำมำใน ตลำดแรงงำน สังคมสูงอำยุก็จะมีผลกระทบต่อนโยบำยเศรษฐกิจระหว่ำงประเทศพอสมควร เพรำะนักลงทุน ระหว่ำงประเทศเมื่อมองเข้ำมำแทนที่จะเห็นประเทศไทยเป็นประเทศที่มีประชำกร 70 ล้ำนคน Economy of Scale ก็จะลดลง ก็ถือกันว่ำผู้สูงอำยุมักไม่ค่อยใช้เงิน มักไม่เป็น Spender จะลงทุนอะไรที่มีควำมมั่นคง ลงทุนใน Fix Income มำกกว่ำที่จะลงทุนในอะไรที่มีกำรเก็งกำไรและก็เป็นคนที่ไม่ค่อยจับจ่ำยใช้สอย (อันนี้ไม่จริง สำหรับทุกคน แต่ส่วนใหญ่เป็นแบบนั้นตำมกำรศึกษำที่มีมำ) เพรำะฉะนั้น ต้องไปดูว่ำแต่ละประเทศเป็นแบบ นั้นหรือไม่ หรือมีผลกระทบต่อนโยบำยเศรษฐกิจของประเทศนั้นหรือไม่ จะมีผลกระทบต่อ Productivity ผลิต ภำพ ในกำรผลิตต่ำงๆ หรือมีผลกระทบต่อกำรส่งออกหรือไม่ อย่ำงไร แนวโน้มใหญ่ของโลกประการที่ 2 สังคมที่มีชนชั้นกลางมากยิ่งขึ้น (Middle-class) เห็นได้ชัดจำกประเทศในเอเชียไม่ว่ำจะเป็นประเทศไทย เวียดนำม ลำว กัมพูชำ อินโดนีเซีย จีน ฟิลิปปินส์ อินเดีย ก็มี Middle-Class มีชนชั้นกลำงเพิ่มมำกขึ้น พฤติกรรมในกำรอุปโภค บริโภคของชนชั้น กลำง กำรจับจ่ำยใช้สอย กำรดำรงชีวิตต่ำงๆ ก็เปลี่ยนแปลงไป แนวโน้มใหญ่ของโลกประการที่ 3 สังคมการเป็นเมือง (Urbanization) ในประเทศจีน ไทย เวียดนำม อินโดนิเซีย อินเดีย ก็จะเห็นเมืองใหญ่ๆ เต็มไปหมด จะเห็นกำรทำธุรกิจ ต่ำงๆ เปลี่ยนไป ร้ำนค้ำสะดวกก็มีมำกขึ้นเป็นดอกเห็ด ร้ำนชำ ร้ำนขำยของโชห่วย ที่ขำยตำมชนบทก็ได้เปลี่ยน สภำพไปเป็นร้ำนค้ำสะดวก กำรทำธุรกิจต่ำงๆ ก็เปลี่ยนแปลงไปเป็น Consumer Society เป็นสังคมแห่งกำร บริโภคมำกขึ้น แนวโน้มใหญ่ของโลกประการที่ 4 สังคมที่เน้นความมั่นคงทางพลังงาน ความมั่นคงทางอาหาร และสุขภาพ (Energy, Food and Health Security) Global Mega Trend ในสองสำมปีที่ผ่ำนมำ เรำได้พูดกันว่ำ Energy Security อำจจะมีควำมสำคัญ น้อยลง ในแง่ Fossil Fuel เรำก็หันไปเน้นในเรื่องพลังงำนสะอำด แต่ว่ำพอช่วง Pandemic ของช่วงโควิดนั้น ก็ จะเห็นได้ว่ำเรื่อง Health Security คือควำมมั่นคงทำงสำธำรณสุข ควำมมั่นคงทำงสุขภำพมีควำมสำคัญขึ้น ในช่วงโควิด 19 เรำจะเห็นว่ำควำมสำคัญของควำมร่วมมือระหว่ำงประเทศเปลี่ยนแปลงไปอย่ำงมำก ถ้ำจะ เทียบกับสมัยช่วงไข้หวัดซำร์ส ช่วงนั้นผมเป็นรัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงกำรต่ำงประเทศ เรำจะเห็นเลยว่ำหำก เรำจะร่วมกันแก้ไขปัญหำไข้หวัดซำร์สได้ เรำต้องมีควำมร่วมมือระหว่ำงประเทศ เรำได้จัดกำรประชุมผู้นำ ประเทศอำเซียน 10 ประเทศ โดยมีเวลำล่วงหน้ำแค่ 7 วัน และทุกท่ำนที่เป็นหัวหน้ำรัฐบำลมำเองทั้งหมด ไม่มี ส่งผู้แทนเลย ประเทศจีนประสบปัญหำในเรื่องไข้หวัดซำร์ส เรำก็ได้ใช้กรอบอำเซียนบวกหนึ่ง ท่ำน นำยกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่ำ ซึ่งเพิ่งเป็นนำยกรัฐมนตรีได้ไม่นำน ประมำณ 48 วัน ก็มำร่วมประชุม และตกลงกัน ว่ำเรำจะมีมำตรกำรอย่ำงไร มีกำรคัดกรองอย่ำงไร ที่ชำยแดน ไม่ว่ำจะเป็นรถไฟ ทำงเรือ ทำงเครื่องบิน หรือ
  • 11. 11 ทำงรถยนต์ โดยจะมีมำตรกำรคัดกรองภำยในประเทศอย่ำงไร ร่วมมือกันอย่ำงไร และเรำก็สำมำรถจบเรื่องของ ไข้หวัดซำร์สได้ภำยในเวลำ 60 วัน แน่นอนว่ำโควิด 19 เป็นเรื่องที่ใหญ่กว่ำมำก แต่สิ่งที่อยำกจะชี้ให้เห็นก็คือว่ำ กำรต่ำงประเทศในช่วง นั้นกับกำรต่ำงประเทศในช่วงโควิด เมื่อช่วงต้นของโควิดแตกต่ำงกันมำก ช่วงต้นของโควิดนั้นแทนที่จะมีควำม ร่วมมือระหว่ำงประเทศ แต่ต่ำงฝ่ำยต่ำงใช้นโยบำยดูแลตนเอง บำงประเทศก็ปิดพรมแดน บำงประเทศก็กึ่งปิด กึ่งไม่ปิด บำงประเทศก็ไม่ให้ส่งออก PPE บำงประเทศก็ไม่ให้ส่งออกหน้ำกำกอนำมัย หำหน้ำกำกอนำมัยกันวุ่นใน ทั่วภูมิภำค บำงประเทศก็ไม่ให้ส่งเครื่องช่วยหำยใจ มีกำรแย่งเครื่องช่วยหำยใจ แย่ง PPE ที่ขนไปแล้ว เครื่องบินไปหยุดในสนำมบินต่ำงๆ นอกภูมิภำคนี้ก็เกิดขึ้นมำแล้ว ใช้ระยะเวลำนำนพอสมควร องค์กำรอนำมัย โลก WHO เอง ด้วยควำมเคำรพครับ ก็ไม่สำมำรถออกมำตรกำรอะไรที่เป็นที่เชื่อถือได้มำกเท่ำที่ควร ผมยังจำ ได้ในช่วงแรกที่ถกเถียงกันว่ำคนที่เป็นโควิดต้องใส่หน้ำกำกและคนที่ไม่เป็นต้องใส่หรือไม่ องค์กำรอนำมัยโลกก็ ยังบอกว่ำใส่เฉพำะคนที่เป็น ฉะนั้น ในประเทศไทยตอนต้น ตอนแรกๆ ใครที่ใส่หน้ำกำก คนก็คิดว่ำเป็น แต่ในที่สุดสองเดือนผ่ำน ไปองค์กำรอนำมัยโลกก็ให้ใส่ทั้งคนที่เป็นและคนที่ไม่เป็น เพรำะฉะนั้น ควำมห่วงใยในเรื่องของ Health Security จึงเป็นเรื่องสำคัญมำกว่ำทำอย่ำงไรที่จะให้มีวัคซีนที่เพียงพอ ทำอย่ำงไรที่จะให้ประเทศที่มีรำยได้ น้อย ประเทศกำลังพัฒนำ ประเทศด้อยพัฒนำมี Access ที่สำมำรถเข้ำถึงวัคซีนได้เท่ำเทียมกับประเทศที่มั่นคง ทำอย่ำงไรที่ PPE จะเพียงพอ ทำอย่ำงไรที่ Surgical Mark จะมีเพียงพอ เพรำะฉะนั้น Debate ในเวทีระหว่ำง ประเทศก็จะเน้นในเรื่องของ Global Health Governance เรื่องธรรมำภิบำลในเรื่องของสำธำรณสุขโลก ไปดู ว่ำระบบพหุภำคีนิยมที่มีสหประชำชำติเป็นศูนย์กลำงจะสำมำรถเข้ำมำดูแลเรื่องนี้ได้หรือไม่ ในช่วงต้นๆ หลำย ท่ำนคงจำได้คณะมนตรีควำมมั่นคงแห่งสหประชำชำติ ก็มีกำรอภิปรำยและ Debate กันพอสมควร สำมำรถที่ จะหยิบยกเรื่อง Pandemic เรื่องโรคระบำดเข้ำมำพิจำรณำได้ มีหรือไม่ ก็มีกำรตีควำมกัน มีกำรเถียงกันว่ำ เรื่องโรคระบำด Pandemic เป็น Peace Security หรือเปล่ำ เป็นเรื่องสันติภำพและเรื่องของควำมมั่นคงหรือ เปล่ำ เป็น Threat เป็นกำรคุกคำมสันติภำพและควำมมั่นคงหรือเปล่ำ ซึ่งคนทั่วไปก็บอกว่ำมันเป็นสิ่งที่กระทบ ควำมมั่นคงกับสันติภำพอย่ำงมำก ในขณะเดียวกันก็มีกำร Debate กันอยู่มำก ก่อนที่ UN จะสำมำรถหำ มำตรกำรมำช่วยโลกได้ในช่วงนั้น ตัวผมเองต้องชื่นชมประธำนำธิบดี สี จิ้ง ผิง ที่ท่ำนไม่รออะไรทั้งสิ้น ท่ำน Reach Out ท่ำนยื่นมือไป ประชุมออนไลน์กับประธำนสหภำพยุโรป ทั้งประธำนคณะมนตรีและประธำนสหภำพยุโรปคุยกับผู้นำของ แอฟริกำ ท่ำนนำยกบ้ำง ท่ำนหวังอี้บ้ำง คุยกับผู้นำอำเซียน กับผู้นำ GCC คุยกับผู้นำ SAARC คุยกับผู้นำลำติน อเมริกำ แลกเปลี่ยนข้อมูลกันเพื่อดูว่ำเรำจะช่วยกันในเรื่องของวัคซีน ในเรื่องของสุขอนำมัยอย่ำงไร รวมทั้งเรำ จะช่วยกันแลกเปลี่ยนข้อมูลในเรื่องของกำรวิจัย ในเรื่องของวัคซีน และในเรื่องกำรป้องกันโรคอย่ำงไร พอช่วง โควิดผ่ำนไปสักระยะหนึ่ง โลกก็เริ่มให้ควำมสำคัญกับผลิตภัณฑ์ยำหรือกึ่งยำกึ่งอำหำร สมุนไพรที่สำมำรถ ต่อต้ำนไวรัสได้ สมุนไพรที่สำมำรถพลิกฟื้นสุขภำพร่ำงกำยได้ เพรำะเป็นอุตสำหกรรมในประเทศและระหว่ำง ประเทศที่มีควำมสำคัญ ผมอยำกจะเน้นให้เห็นว่ำสังคมที่เน้นพลังงำน อำหำร สุขภำพ และคร่อมระหว่ำง
  • 12. 12 Food and Health Security อย่ำงที่ผมได้เรียนไปเมื่อสักครู่นี้ จึงกลำยเป็นแนวโน้มใหญ่แม้กระทั่งโควิดได้ ผ่ำนพ้นไปแล้ว ทำไมเรื่องอำหำรจึงมีควำมสำคัญขึ้นมำ เพรำะช่วงโควิด 19 นั้น บำงประเทศตัดสินใจปิดพรมแดน บำงประเทศไม่ได้มีอำหำรอย่ำงเพียงพอมำกมำยอย่ำงประเทศไทยหรือประเทศจีน เขำเดือดร้อนมำก ผมยังจำ ได้องค์กรกำรค้ำโลก WTO และก็ FAO (Food and Agriculture Organization) ได้ออกมำเรียกร้อง แถลงกำรณ์เลยว่ำกำรปิดพรมแดนเป็นเดือน ประเทศที่เขำไม่มีอำหำร ไม่มี Food Security เขำเดือดร้อน ค่อนข้ำงมำก Energy เรำนึกว่ำโลกเดินไปสู่ Green Energy ได้อย่ำงมำกมำยพอสมควร ในช่วงหลังกำรประชุม COP 26 แต่ช่วงหลังสงครำมรัสเซีย ยูเครน เกิดกำร Sanction คว่ำบำตรทำงเศรษฐกิจขึ้นมำ ทำให้ยุโรปเกิดกำรขำด พลังงำน เพรำะฉะนั้น จะต้องไปหำพลังงำนทำงเลือกว่ำจะต้องทำอย่ำงไรจะไม่ซื้อจำกรัสเซีย ไปหำแก๊ส ธรรมชำติ ไปหำแม้กระทั่งถ่ำนหิน ไปหำ Fossil Fuel มำกขึ้น เพรำะฉะนั้น แนวโน้มที่จะเดินเข้ำสู่เศรษฐกิจสี เขียว เลยทำให้สงสัยว่ำถ้ำจะเดินสู่เศรษฐกิจสีเขียว หรือในช่วงปีข้ำงหน้ำนี้ จะต้องเดินเข้ำสู่เศรษฐกิจที่สีไม่ค่อย เขียวด้วย แนวโน้มใหญ่ของโลกประการที่ 5 คือ สังคมนวัตกรรม (The Age of Innovation) ท่ำนผู้มีเกียรติที่เคำรพ ท่ำนทรำบดีอยู่แล้วว่ำ The Age of Innovation Technology Disruption ภำยใต้ The Fourth Industry Revolution คือกำรปฏิบัติอุตสำหกรรมครั้งที่ 4 หรือยุคดิจิทัลที่เรำเรียกกัน มันมีควำมสำคัญและทำให้ประเทศ เศรษฐกิจ สังคมทั้งหลำย เชื่อมโยงกันอย่ำงแยกไม่ออก ซึ่งก็ต้องยอมรับว่ำ กำรต่ำงประเทศนั้น ต้องอยู่ภำยใต้ยุคของ The Age of Innovation Technology ซึ่ง Innovation ไม่ว่ำจะ เป็นเรื่องของทำงลบ Cyber Security หรือว่ำทำงบวก ว่ำทำอย่ำงไรที่ประเทศต่ำงๆ จะร่วมมือกันทำงด้ำน เทคโนโลยี เพื่อมำช่วย SME วิสำหกิจขนำดกลำงขนำดย่อมในประเทศ เพื่อเอำมำช่วยคนในประเทศที่อำจจะ ก้ำวไม่ทันรถไฟของเทคโนโลยี ทำอย่ำงไรที่จะให้เกิดกระบวนกำรที่เรียกว่ำ Lifelong Learning กำรศึกษำ ตลอดชีวิต ซึ่งเป็นบุคลิกกำรศึกษำในยุค 4.0 ในยุคดิจิทัลเทคโนโลยี ทำอย่ำงไรที่จะมีผู้รู้จำกในประเทศไม่พอ อำจจะต้องมำจำกต่ำงประเทศที่จะมำช่วย Re skills, Up skill, New skill ฝึกทักษะใหม่ๆ ให้กับบุคลำกรใน ประเทศ เพรำะว่ำยุค 4.0 นั้น คนที่จบปริญญำตรีมำ 5-6 ปีที่แล้ว ก็อำจจะตกขบวนรถไฟทำงเทคโนโลยีได้ เพรำะว่ำเมื่อ 5-6 ปี ยังไม่มีกำรเรียนกำรสอนเรื่อง Internet of Thing อินเตอร์เน็ตทุกสรรพสิ่ง ไม่มีในเรื่อง ของ AI (Artificial intelligence) หรือปัญญำประดิษฐ์ ไม่มีอีกหลำยๆ เรื่อง เพรำะฉะนั้น คนหนุ่มสำวก็อำจจะก้ำวไม่ทันเทคโนโลยีเหล่ำนั้นก็ได้ ก็ต้องมีกระบวนกำรในกำรปรับ ซึ่งหลำยประเทศอำจจะทำด้วยกระบวนกำรของตัวเองไม่เพียงพอ ประเทศไทยอำจจะทำด้วยตัวเองไม่เพียงพอ อำจจะต้องพึ่งประเทศจีน สิงคโปร์ อำจจะต้องพึ่งในอีกหลำยๆ ประเทศในภูมิภำคและนอกภูมิภำคที่จะส่ง ผู้เชี่ยวชำญ ซึ่งตอนนี้ก็โชคดีที่สะดวกขึ้นในกำรทำ Re skills, Up skill สำมำรถทำออนไลน์ได้ ก็อำจจะต้อง เชื่อมโยงกัน เพรำะฉะนั้น เรื่องพวกนี้กลำยเป็นเรื่องของกำรต่ำงประเทศว่ำเรำจะ Reach Out เข้ำถึงประเทศ ต่ำงๆ ที่เก่งทำงด้ำน Internet of Thing จีนเก่งทำงด้ำน Artificial Intelligence เรำจะ Reach ไปที่
  • 13. 13 มหำวิทยำลัยชิงหัวในด้ำนไหน เรำจะ Reach ไปที่มหำวิทยำลัยนั้นนี้อย่ำงไร แล้วเอำเข้ำมำอย่ำงไร กระทรวงศึกษำธิกำรในต่ำงประเทศก็เข้มแข็งกันอยู่ก็พยำยำมปรับตัวกัน แต่กระทรวงกำรต่ำงประเทศก็ต้อง น้อมเอำเรื่องกำรศึกษำมำเป็นส่วนหนึ่งของกำรต่ำงประเทศที่จะดูว่ำเรำจะร่วมมืออย่ำงไร ไปเชื่อมโยงอย่ำงไร ช่วยหำองค์ควำมรู้อย่ำงไรเพื่อดึงประเทศเหล่ำนั้นเข้ำมำ รวมทั้งประเทศในตะวันตกไม่ว่ำจะเป็นอเมริกำหรือ ยุโรปด้วย แนวโน้มใหญ่ของโลกประการที่ 6 สังคมที่ห่วงใยสิ่งแวดล้อม (Climate Change) ปัญหำ Climate Change เป็นวิกฤตทำงด้ำนภูมิอำกำศ ให้ควำมห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อมมำกขึ้น ให้ควำม ห่วงใยต่อ Sustainable Development Goals 17 ข้อ เป้ำหมำยกำรพัฒนำที่ยั่งยืนของสหประชำชำติมำก ยิ่งขึ้น และก็มีควำมร่วมมือที่จะเดินเข้ำไปสู่ Green Economy หรือเศรษฐกิจสีเขียว ให้ควำมสำคัญกับเรื่อง Net-Zero ให้ควำมสำคัญกับเรื่อง Carbon Neutrality แล้วก็ดูว่ำเมื่อให้ควำมสำคัญ Commit กันแล้ว ไม่ว่ำ จะเป็น ค.ศ. 2030, 2050, 2065 แล้วแต่ว่ำประเทศไหนจะ Commit ไว้เท่ำไร ก็ต้องนับหนึ่งว่ำถ้ำจะไปให้ถึง วันนั้น วันนี้จะต้องทำอะไรบ้ำง บำงอันเรำอำจจะไม่มีองค์ควำมรู้ ไม่มีเทคโนโลยีที่เพียงพอก็ต้องพึ่งพำประเทศ อื่นมำช่วยเรำ เพื่อให้เรำเดินเข้ำสู่คำร์บอนเครดิตได้ เพื่อให้เรำเดินเข้ำสู่ Carbon Neutrality ได้ เพื่อให้เรำเดิน เข้ำสู่ Net-Zero ได้ ช่วยทั้งภำครัฐ ช่วยทั้งภำคเอกชน เรียนรู้ซึ่งกันและกันว่ำมำตรกำรทำงด้ำนภำษี กำรให้ มูลเหตุจูงใจทำงด้ำนภำษี Tax Disincentive เพียงพอหรือไม่ กำรรณรงค์เพียงพอหรือไม่ ประเทศต่ำงๆ ทำ อะไรกัน เรียนรู้ซึ่งกันและกัน กำรต่ำงประเทศจึงต้องเป็นกำรต่ำงประเทศที่มีควำมรู้ควำมเข้ำใจ มียุทธศำสตร์ ในด้ำนควำมร่วมมือของกำรเปลี่ยนแปลงในภูมิอำกำศ หรือควำมร่วมมือเพื่อกำรพัฒนำประเทศไปสู่เศรษฐกิจสี เขียว แนวโน้มใหญ่ของโลกประการที่ 7 สังคมที่ห่วงใยโรคระบาด (Pandemic) กำรต่ำงประเทศที่อยู่ภำยใต้แนวโน้มของโลกอีกประกำร คือ สังคมที่ห่วงใยโรคระบำด (Pandemic) แน่นอนว่ำมีเดลต้ำ โอไมครอน และกำลังจะมีไวรัสต่ำงๆ เข้ำมำเกี่ยวข้องขึ้นไปเรื่อยๆ โลกจึงมีควำมห่วงใยเรื่อง โรคระบำด ประเทศจีนก็ยังมีควำมห่วงใยเรื่องโควิด 19 ถึงแม้ว่ำเมื่อสองวันนี้จะมีกำรผ่อนคลำยมำตรกำร Guarantine กำรกักตัว แต่นโยบำย Zero COVID ก็ยังเป็นนโยบำยที่มีควำมสำคัญ ซึ่งก็กระทบกับกำร ท่องเที่ยวในประเทศไทย กระทบกับกำรท่องเที่ยวในภูมิภำคที่ประชำชนคนจีนยังมำไม่ได้ และก็กระทบกับกำร ท่องเที่ยวในประเทศจีนเอง เพรำะว่ำคนที่อยำกไปเที่ยวในประเทศจีนที่มีสิ่งสวยงำมก็ยังไปไม่ได้ เพรำะต้องถูก กักตัวเป็นเวลำนำน ถึงแม้ตอนนี้จะลดลงมำเหลือ 5 วัน แล้วก็ตำม เพรำะฉะนั้น เรื่อง Pandemic เรื่อง สำธำรณสุขจึงกลำยมำเป็นส่วนสำคัญของนโยบำยกำรต่ำงประเทศ ในช่วงโควิด 19 นโยบำยกำรต่ำงประเทศที่ สำคัญมำกๆ ที่อยู่แนวหน้ำ คือ นโยบำยเรื่องสำธำรณสุข จะได้วัคซีนจำกที่ไหน เร็วหรือช้ำ จะได้วัคซีนจำกยุโรป หรือของอเมริกำ หรือของจีนหรือของประเทศไหน มีกำรผลิตวัคซีนที่ไหน ลงทุนที่ไหน จะได้หน้ำกำกอนำมัย PPE ที่ไหน จะร่วมมือกับประเทศอะไรในกำรวิจัยเพิ่มเติม จะพัฒนำสมุนไพรให้ดูแลเรื่องโรคระบำดได้อย่ำงไร
  • 14. 14 เพรำะฉะนั้น เรื่องกำรสำธำรณสุขเลยกลำยเป็นปัจจัยสำคัญของกำรต่ำงประเทศ และผมก็ยังเชื่อว่ำ กำรสำธำรณสุข ควำมห่วงใยเรื่อง Pandemic ควำมห่วงใยเรื่องสิ่งแวดล้อมและกำรที่จะต้องเดินให้ทันต่อ นวัตกรรมที่กำลังมำใหม่ 3-4 เรื่องนี้ กลำยเป็น Part and Parcel เป็นส่วนประกอบที่สำคัญ เป็นส่วนหนึ่งซึ่ง กันและกันของนโยบำยกำรต่ำงประเทศของทุกประเทศ ที่อำจจะไม่เคยมีมิติเหล่ำนี้มำก่อนในอดีตเมื่อ 10 ปีที่ แล้ว ปัจจัยที่กาหนดยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ : การต่างประเทศที่เกี่ยวโยงกับค่านิยม ระหว่างประเทศ ปัจจัยที่สองที่กำหนดนโยบำยกำรต่ำงประเทศยุคใหม่ คือ กำรต่ำงประเทศที่เกี่ยวโยงกับค่ำนิยม ระหว่ำงประเทศ ค่ำนิยมเหล่ำนี้เป็นค่ำนิยมที่มีอยู่แล้ว แต่ในช่วงที่ผ่ำนมำก็มีหลำยมิติ มีควำมสำคัญเพิ่มมำกขึ้น ประการที่ 1 ค่านิยมในเรื่องประชาธิปไตย ถึงแม้ว่ำหลำยประเทศจะมีกำร Debate ว่ำ ประชำธิปไตยหมำยถึงอะไรบ้ำง บำงประเทศก็บอกเป็น ประชำธิปไตยเต็มใบ บำงประเทศก็บอกเป็นประชำธิปไตยครึ่งใบ ยังไม่สมบูรณ์ บำงประเทศอำจจะถูกประเทศ ตะวันตกบอกว่ำยังไม่ใช่ประชำธิปไตย แต่เขำบอกเขำคือประชำธิปไตยแบบของเขำ เรำจะมีประชำธิปไตยกี่ แบบ ที่น่ำห่วงใย คือ ประชำธิปไตยเป็นควำมสำคัญก็จริงแต่หลำยประเทศก็ใช้ค่ำนิยมที่เกี่ยวกับประชำธิปไตย นั้นเป็นเหตุผลในกำรเข้ำมำแทรกแซงในกิจกำรภำยในของประเทศ เหตุผลที่จะเข้ำมำแบ่งแยกโลกกับค่ำย ประชำธิปไตยกับค่ำยที่ไม่ใช่ประชำธิปไตย ซึ่งควำมคิดเห็นส่วนตัว คิดว่ำเป็นสิ่งที่อันตรำยเป็นอย่ำงยิ่ง แทนที่ เรำจะร่วมมือกันส่งเสริมให้ทุกประเทศให้ควำมสำคัญกับประชำธิปไตยในแง่ที่ว่ำให้แต่ละประเทศดูแล ประชำชน ให้ประชำชนมีสิทธิมีเสียง ในกำรแสดงควำมคิดเห็น มีส่วนร่วมในกำรแสดงควำมคิดเห็นในนโยบำย ของรัฐมำกกว่ำที่จะมำดูรูปแบบว่ำท่ำนเป็นประชำธิปไตยอย่ำงไร แน่นอนว่ำท่ำนผู้ทรงคุณวุฒิคงจะนำประเด็น นี้มำถกเถียงกันต่อไป แต่ว่ำเรำก็คงหลีกเลี่ยงที่จะไม่ยอมรับประชำธิปไตย Democracy ไม่ได้ โดยเฉพำะ ประธำนำธิบดีโจ ไบเดน พรรคเดโมแครต เข้ำมำเป็นรัฐบำลของสหรัฐอเมริกำ ก็ยอมให้ควำมสำคัญกับ ประชำธิปไตยมำกขึ้นเป็นพิเศษ ซึ่งนั้น ก็ไม่ใช่สิ่งที่เสียหำย แต่สิ่งที่ต้องห่วงใยก็คือว่ำจะนำค่ำนิยมในเรื่องของ ประชำธิปไตยมำใช้ในหรือซ่อนอยู่ในนโยบำยกำรต่ำงประเทศอย่ำงไร และเรำควรจะ Handle เรื่องนี้อย่ำงไร ประการที่ 2 หลักธรรมาธิบาล ในเรื่องของ Global Governance หรือ Good Governance เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมำก เรื่อง Anti-Corruption หลักนิติธรรม Rule of Law เรื่องกำรบริหำรประเทศชำติอย่ำงโปร่งใส ซึ่งแต่ละประเทศก็มี มำตรกำรต่ำงๆ เหล่ำนี้ แล้วแต่ละประเทศภำครัฐ ภำคเอกชนระหว่ำงประเทศก็ให้ควำมสำคัญมำกขึ้นเป็น ลำดับ ประเทศที่เขำจะไปลงทุน ประเทศที่เขำจะไปค้ำขำยด้วยมีควำมโปร่งใส มี Transparency แค่ไหน มี หลักนิติธรรมแค่ไหน มีกระบวนกำรยุติธรรมเป็นที่เชื่อถือได้หรือไม่ มี Corruption แต่รัฐบำลให้ควำมสำคัญกับ กำรขจัด Corruption กำรฉ้อรำษฎร์บังหลวงหรือไม่
  • 15. 15 ประการที่ 3 สิทธิมนุษยชน สิทธิมนุษยชนกลำยเป็นค่ำนิยมระหว่ำงประเทศที่ทวีควำมสำคัญขึ้น ที่มีผลเป็นปัจจัยเข้ำมำมีบทบำท ในกำรต่ำงประเทศ เพรำะฉะนั้น สิทธิมนุษยชนเป็นเรื่องสำคัญและก็เป็นเรื่องของทุกประเทศที่จะต้องให้ ควำมสำคัญ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีควำมลำบำกขึ้นในกำรต่ำงประเทศ เพรำะส่วนหนึ่งหลำยประเทศก็ใช้เวทีพหุ ภำคี ไม่ว่ำจะเป็นคณะมนตรีแห่งสิทธิมนุษยชนสหประชำชำติก็ดี ไม่ว่ำจะเป็นเวทีของนำนำชำติ เวทีของ NGO หรือจะเป็นกำรประชุมระหว่ำงประเทศ ไม่ว่ำจะกลุ่มอะไรก็ตำมก็จะมีกำรหยิบยกเรื่องสิทธิมนุษยชนขึ้นมำว่ำ ประเทศนั้นมีระดับสิทธิมนุษยชนขนำดไหน บำงประเทศถึงขนำดที่ว่ำจะไม่ไปลงทุนหรือค้ำขำยกับประเทศที่ไม่ ดำเนินกำรที่จะดูแลสิทธิมนุษยชน แต่ขณะเดียวกันเรำก็ต้องยอมรับว่ำบำงประเทศที่มีกำรละเมิดสิทธิมนุษยชน อย่ำงมำก ที่เรียกว่ำเป็น Gross and Systematic Violation of Human Rights ผมคงจะพูดตรงนี้ได้ อย่ำงประเทศเพื่อนบ้ำนไทยเอง เช่น ประเทศเมียนมำ กำรที่เกิดขึ้นมำในช่วงปี ครึ่งที่ผ่ำนมำก็เป็นสิ่งที่เรำไม่เข้ำไปแทรกแซง หลักของอำเซียน หลักของกฎหมำยระหว่ำงประเทศก็มีอยู่ชัดเจน ว่ำ ถ้ำกำรละเมิดสิทธิมนุษยชนมันเกิดขึ้นอย่ำงร้ำยแรง และเกิดขึ้นอย่ำง Systematic และมีกำรใช้อำวุธ สงครำมทำร้ำยพลเมือง ทำร้ำยประชำชน ประเด็นนั้นมันยุติกำรเป็นเรื่องภำยในประเทศ มันพ้นเรื่องของกำร ถูกแทรกแซงภำยในประเทศ อำเซียนตั้งแต่ก่อตั้งถ้ำเรำไปดูถ้อยแถลงของประธำนอำเซียนวันนั้นที่เป็นประเทศ บูรไน ตั้งแต่วันที่มีรัฐประหำรในเมียนมำ เรำบอกไม่แทรกแซงก็จริง แต่ในถ้อยแถลงของประธำนก็ได้บอกไว้เลย ว่ำขอให้เคำรพควำมเป็นอิสระในกำรเคลื่อนไหวของคน ขอให้เคำรพประชำธิปไตย ขอให้เคำรพสิทธิมนุษยชน และทุกวันนี้เรำก็ยังเรียกร้องในเรื่องนี้ เพรำะฉะนั้น เรื่องสิทธิมนุษยชนก็ยังเป็นเรื่องค่ำนิยมที่มีควำมสำคัญขึ้น บำงประเทศก็เอำเรื่องสิทธิ มนุษยชนเข้ำมำแทรกแซงในกิจกำรภำยในจริงๆ เข้ำมำเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องมือในกำรเจรจำระหว่ำงประเทศ ก็เป็นส่วนหนึ่งของนโยบำยต่ำงประเทศในบำงประเทศ แต่ในขณะเดียวกันมันก็มีควำมจำเป็นที่เรำต้องร่วมมือ กันเพื่อให้บำงประเทศสำมำรถรักษำระดับสิทธิมนุษยชนให้อยู่ในระดับที่ดีได้ ประเทศจีนเองก็ให้ควำมสำคัญกับสิทธิมนุษยชนอย่ำงมำก เรำมักจะเห็นว่ำประเทศตะวันตกบำง ประเทศบอกว่ำประเทศจีนจะต้องเพิ่มระดับในกำรดูแลสิทธิมนุษยชน ทั้งที่จริงผมเห็นว่ำจีนก็มีพัฒนำกำรใน ทำงบวกมำโดยตลอด สมัยที่ผมเป็นรัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงกำรต่ำงประเทศ เรำเป็นสมำชิกของกรรมำธิกำร สิทธิมนุษยชน (Human Rights Commission) มีบอกว่ำควรลงมติต่อต้ำนในเรื่องนั้นนี้ แต่พอมำดูเข้ำจริงๆ แล้วจีนเป็นสมำชิกของอนุสัญญำที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนมำกกว่ำประเทศในตะวันตกหลำยประเทศ ณ วัน นั้นมำกกว่ำสหรัฐอเมริกำด้วยซ้ำ ผมก็ดีใจเมื่อได้เห็นว่ำวันที่ 9 กันยำยน 2021 จีนได้ประกำศแผนสิทธิ มนุษยชนแห่งชำติ ปี 2021-2025 มีกำรพูดถึงสิทธิมนุษยชนทั้ง 8 ส่วน ไม่ว่ำจะเป็นสิทธิทำงเศรษฐกิจ สิทธิทำง สังคมและวัฒนธรรม สิทธิพลเมืองและสิทธิทำงกำรเมือง สิทธิด้ำนสิ่งแวดล้อม กำรคุ้มครองสิทธิและ ผลประโยชน์เฉพำะกลุ่ม กำรศึกษำและวิจัยสิทธิมนุษยชน กำรเข้ำมีส่วนร่วมในธรรมำภิบำล สิทธิมนุษยชนทั่วโลก และจีนก็บอกว่ำจะเข้ำร่วมกระบวนกำรสิทธิมนุษยชนอย่ำงสร้ำงสรรค์ ประกำรที่หนึ่ง จีนจะปฏิบัติตำมพันธกรณีด้ำนสิทธิมนุษยชนระหว่ำงประเทศอย่ำงจริงจัง ประกำรที่สอง จีนจะเข้ำร่วมในกำรทำงำนขององค์กรสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชำชำติอย่ำงลึกซึ้ง
  • 16. 16 ประกำรที่สำม จีนจะดำเนินกำรเจรจำและควำมร่วมมือทำงสิทธิมนุษยชนเชิงสร้ำงสรรค์ ประกำรที่สี่ จีนจะมีส่วนร่วมอย่ำงลึกซึ้งในธรรมำภิบำลสิทธิมนุษยชนระหว่ำงประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ำแม้กระทั่งประเทศจีนก็ได้ให้ควำมสำคัญกับค่ำนิยมระหว่ำงประเทศในเรื่องสิทธิ มนุษยชนและแสดงให้โลกได้เห็นว่ำจีนได้ให้ควำมสำคัญกับเรื่องนี้อย่ำงไร ประการที่ 4 ค่านิยมการพัฒนาที่ยั่งยืนและการดูแลสิ่งแวดล้อม ในเรื่องของกำรดูแลสิ่งแวดล้อม ESG เป็นเรื่องที่สำคัญมำก E คือ Environment, S คือ Social, G คือ Governance คือต้องดูแลสิ่งแวดล้อม ต้องดูแลสังคม และต้องดูแลธรรมำภิบำล ภำคเอกชนเองใช้ ESG เป็น ตัววัดว่ำบริษัทนั้นน่ำลงทุนหรือไม่ ตลำดหลักทรัพย์ประเทศไทยก็มีเกณฑ์ บริษัทนี้ได้ ESG B+ พอขึ้นมำเป็น A- A A+ หุ้นเขำก็ขึ้นทันที ธนำคำรใหญ่ๆ ทั้งในประเทศและระหว่ำงประเทศก็ต้องมีมำตรฐำนว่ำ คนหรือบริษัท ที่มำกู้เงิน กิจกำรของเขำมี ESG หรือไม่ เพรำะถ้ำธนำคำรให้กู้กับบริษัทที่ทำลำยสิ่งแวดล้อม ผู้ถือหุ้นธนำคำรก็ จะมำจี้ธนำคำรว่ำทำอย่ำงนั้นได้อย่ำงไร และก็จะไม่ลงทุนให้ธนำคำรนั้น กองทุนใหญ่ทั่วโลกของปู่ Warren Buffett ก็ดี ดูว่ำจะลงทุนอย่ำงไรในตลำดหลักทรัพย์ บริษัทนั้นๆ มีระดับ ESG อย่ำงไร เพรำะฉะนั้น ในเรื่อง ของกำรพัฒนำที่ยั่งยืน ดูแลสิ่งแวดล้อม ถึงแม้ยังไม่มีกฎหมำยโดยเฉพำะ ESG มำบังคับ แต่ผลบังคับมันเกิดขึ้น จำกระบบเศรษฐกิจระหว่ำงประเทศด้วยตัวเอง เพรำะฉะนั้น ปัจจัยที่กล่ำวมำข้ำงต้นทั้ง 4 ข้อ จึงเป็นเรื่องที่เป็นปัจจัยในกำรต่ำงประเทศยุคใหม่ ใน กำรต่ำงประเทศยุคปัจจุบันนี้เป็นอย่ำงมำก และทั้ง 4 ข้อนี้ไม่ได้แยกออกจำกกันโดดๆ ทั้งประชำธิปไตย หลักธรรมำภิบำล สิทธิมนุษยชน และกำรพัฒนำที่ยั่งยืน มีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกันอยู่ตลอดเวลำ ต้องอำศัย ควำมว่องไว ควำมทันโลก ควำมชำญฉลำดที่สำมำรถ Integrate บูรณำกำรนโยบำยกำรต่ำงประเทศเรื่องต่ำงๆ เหล่ำนี้เข้ำไปได้เพื่อให้เป็นกำรต่ำงประเทศที่เกิดผลประโยชน์กับประเทศของตนเอง เกิดผลประโยชน์และควำม สงบสุข สันติภำพกับภูมิภำค ปัจจัยที่กาหนดยุทธศาสตร์การต่างประเทศยุคใหม่ : การต่างประเทศที่อยู่ภายใต้การ เปลี่ยนแปลงของระเบียบโลกทางเศรษฐกิจ ปัจจัยที่กำหนดยุทธศำสตร์กำรต่ำงประเทศ เรื่องที่ 3 ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ คือ กำรต่ำงประเทศที่ขึ้นอยู่กับ ภำยนอก ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจ เนื่องจำก International Economic Order เริ่มเปลี่ยนมำนำนแล้ว เปลี่ยนมำก ขึ้นเรื่อยๆ และเรำปฏิเสธไม่ได้เลยว่ำระเบียบโลกทำงเศรษฐกิจนั้น เป็นเรื่องของนโยบำยต่ำงประเทศที่จะต้อง เข้ำมำดูแล ไม่ใช่เรื่องของกระทรวงพำณิชย์ ไม่ใช่เรื่องของกระทรวงอุตสำหกรรม แต่เป็นเรื่องของทุกกระทรวง ที่ต้องเอำมำหล่อหลอมเอำมำรวมกัน เพรำะฉะนั้น กำรต่ำงประเทศในควำมหมำยของผมไม่ใช่เรื่องของ กระทรวงกำรต่ำงประเทศเท่ำนั้น แต่เป็นกำรที่ต้องบูรณำกำรทุกองคำพยพภำยในประเทศขึ้นมำกำหนดจุดยืน ของกำรต่ำงประเทศให้ได้ไม่ว่ำจะเป็นบำงช่วงเป็นเรื่องของกำรสำธำรณสุขสำคัญ บำงช่วงเป็นเรื่องของ
  • 17. 17 สิ่งแวดล้อม บำงช่วงเป็นเรื่องของกำรพัฒนำเทคโนโลยี บำงช่วงเป็นเรื่องของกำรพัฒนำสังคม บำงช่วงเป็นเรื่อง ของสันติภำพ ในที่สุดโลกปัจจุบันทุกเรื่องที่กล่ำวกันมำมันเกี่ยวโยงกัน มันมี Interaction มีปฏิสัมพันธ์กันหมด เศรษฐกิจจากพหุภาคีนิยมสู่ภูมิภาคนิยม อันแรกที่คิดว่ำระบบโลกเปลี่ยนมำสักพักคือ มีกำรเคลื่อนจำก “เศรษฐกิจจำกพหุภำคีนิยมสู่ภูมิภำค นิยม” กำรให้ควำมสำคัญต่อองค์กำรกำรค้ำโลก (WTO) ที่มีกำรเจรจำกำรค้ำ กำรลงทุนทรัพย์สินทำงปัญญำ และอื่นๆ 100 กว่ำประเทศนั้นคลำยควำมสำคัญลงไป แต่เดินเข้ำสู่ภูมิภำคนิยม ที่เรียกกันว่ำ Regionalism ที่เรำเห็นก็คือ อำเซียน มีเป้ำหมำยของประชำคมอำเซียน ใน ค.ศ. 2015 มีกำรเปิดเสรีให้แก่กัน 5 ประเภท ไม่ว่ำจะเป็นกำรค้ำ ธุรกิจกำรบริกำร ในเรื่องของ Flow of Capital ซึ่งเปิดเสรีขึ้นบ้ำง และแรงงำนที่มี ทักษะ นอกจำกอำเซียนแล้ว กลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขงเอง ก็มีควำมร่วมมือค่อนข้ำงมำก พูดถึงเมียนมำ ไทย ลำว กัมพูชำ และจีน เรำมีกรอบความร่วมมือ ACMECs มีควำมร่วมมือกัน 6 ด้ำน ระหว่ำงประเทศ เมียนมำ ลำว กัมพูชำ และไทย ริเริ่มในสมัยค.ศ. 2002-2003 ตอนนั้นผมยังเป็นรัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงกำร ต่ำงประเทศอยู่และเดินมำจนถึงปัจจุบันนี้ นอกจำกนั้นแล้ว เรำยังมีควำมร่วมมือทำงเศรษฐกิจในอนุลุ่มแม่น้ำโขง GMS ก็มีจีน และ ADB ธนำคำร พัฒนำแห่งเอเชียเป็นโต้โผในเรื่องของกำรให้ Funding เรำมีกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้างที่จีนให้ควำมร่วมมือเพิ่มขึ้น กัมพูชำ ลำว เวียดนำม ไทย ก็ เข้ำไปมีส่วนร่วม จำได้ว่ำท่ำนนำยกหลี่ เค่อเฉียง ได้เชิญทุกท่ำนไปประชุม Boao Forum for Asia อยู่ปีหนึ่งที่ บนเกำะไหหลำ เรำมีความร่วมมือ Japan-Mekong River Cooperation ญี่ปุ่นก็มำร่วมมือ ก็มีทุกประเทศหมดไม่ มีจีนและเรำก็มีกรอบความร่วมมือ Mekong-US Partnership ที่สหรัฐมำให้ควำมร่วมมือกับประเทศลุ่ม แม่น้ำโขงแต่ไม่มีจีน และเมื่อตอนที่ประเทศไทยเป็นประธำนอำเซียน เกำหลีใต้ ก็มำขอมีกรอบความร่วมมือ กับประเทศลุ่มแม่น้าโขง Mekong - ROK Cooperation แต่ไม่มีจีน (ภำพที่ 1) เพรำะฉะนั้น ตรงนี้เรำก็จะเห็นว่ำถึงแม้เป็นควำมร่วมมือภูมิภำคนิยม ซึ่งเคลื่อนออกมำจำกพหุภำคี นิยมแต่ก็มีกลิ่นอำยของเศรษฐกิจกำรเมืองอยู่ตรงนั้น มีกลิ่นอำยที่จะพยำยำมไม่ให้จีนเข้ำมำมีส่วนร่วมในทุกเวที มีกลิ่นอำยของกำรแข่งขันกันของมหำอำนำจ มี Super Power, Major Power หรือ Competition แฝงอยู่
  • 18. 18 ภำพที่ 1 กรอบควำมร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มำ สุรเกียรติ เสถียรไทย, 2565 ภูมิภาคนิยมที่ใหญ่ขึ้นมำอีกอัน เป็นพหุภำคีแบบร้อยกว่ำประเทศ ก็คือ RCEP (Regional Comprehensive Economic Partnership) ที่มีอยู่ 16 ประเทศ อำเซียน 10 ประเทศ อินเดีย จีน เกำหลี ใต้ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ เวลำนี้ 15 ประเทศก็ On Board เขตเศรษฐกิจเสรีที่ใหญ่ที่สุดในขณะนี้ก็หวัง ว่ำอินเดียจะเข้ำมำร่วมด้วย CPTTP (Comprehensive and Progressive Agreement for Trans-Pacific Partnership) ซึ่งเกิดจำก PTPP สมัยท่ำนประธำนำธิบดีบำรัค โอบำมำ แต่ต่อมำท่ำนประธำนำธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ก็ไม่เอำ ประเทศที่เหลือเลยไปทำให้ควำมร่วมมือนี้ Comprehensive มำกยิ่งขึ้น Progressive ขึ้น ครอบคลุมขึ้น ก้ำวหน้ำขึ้น เขำเรียกว่ำ CPTTP จีนเองก็สมัครที่จะเป็น Member ของ CPTTP ประเทศไทยก็ยัง Debate กัน อยู่ว่ำจะเข้ำหรือไม่เข้ำ ในขณะเดียวกันก็มี FTAAP (Free-trade Agreement of the Asia Pacific) ท่ำนประธำนำธิบดี สีจิ้งผิง พูดเอำไว้ในสมัยประธำนำธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรำก็ดูกันว่ำ RCEP มีจีนไม่มีอเมริกำ TPP (Trans-Pacific Strategic Economic. Partnership Agreement) มีอเมริกำไม่มีจีน ท่ำนประธำนำธิบดีสีจิ้นผิง บอกว่ำทำไม เรำไม่เอำมำรวมกันเลยตั้งแต่ประเทศเอเซียแปซิฟิก เม็กซิโก แคนำดำ เอำมำรวมกันเลย เป็น Free-trade Agreement of the Asia Pacific ใน ค.ศ. 2022 ขณะนี้ประเทศไทยเป็นประธำนกำรประชุมเอเปคก็ได้มีเรื่อง นี้เป็นสำระ เป็นผลลัพธ์อันหนึ่ง ก็คืออยำกให้มีกำรริเริ่มในกำรเจรจำ มี Fresh Conversation ริเริ่มกรอบใน กำรเจรจำ Free-trade Area ในเอเชีย นอกจำกนั้น เรำก็มีเวทีสำคัญคือ ACD (Asia Cooperation Dialogue) ริเริ่ม ค.ศ. 2002 ต้อง ขอบคุณจีนย้อนหลัง เพรำะจีนก็ให้กำรสนับสนุน ACD มำตั้งแต่ต้น เป็นควำมร่วมมือ Pan Asia มำตั้งแต่ต้น ประเทศอื่น ภูมิภำคอื่น ลำตินอเมริกำก็มี OAS (Organization of American States) แอฟริกำก็มี African Union ประเทศในหมู่เกำะแฟซิฟิกก็มี Pacific Island Forum ประเทศในหมู่เกำะแคริเบียนก็คือ CARICOM (Caribbean Community) แต่ว่ำเอเชียมีสองอย่ำง มีอนุภูมิภำคของเอเชีย มี SAARC มี GCC มี ASEAN+3
  • 19. 19 แล้วก็มี intra ASEAN คือเอเปคอำเซียนแปซิฟิก เอเชียแปซิฟิก และก็มีเอเชียกับยุโรปเรียกว่ำ ASEM แต่ Pan Asia นี่ไม่มี เพรำะฉะนั้น เรำก็คิดกันว่ำเรำควรมีควำมร่วมมือทำงเศรษฐกิจ Pan Asia โดยใช้ควำมสมัครใจใน Comfort Level ใช้หลักสร้ำง Strength Out of Diversity Asia ไม่เหมือนกัน แตกต่ำงทั้งกำรเมือง กำรปกครองศำสนำ วัฒนธรรม เชื้อชำติ แต่ทำอย่ำงไรที่เรำ จะเอำควำมหลำกหลำยเหล่ำนั้นมำสร้ำงให้เป็นพลัง จนถึงทุกวันนี้เริ่มต้นมี 18 ประเทศ ในปัจจุบันมี 30 กว่ำ ประเทศ เรำมำร่วมมือใน ACD มีควำมร่วมมืออยู่ 20 โครงกำร และแต่ละประเทศก็เป็น Prime Movers ในแต่ละเรื่อง ตอนนี้เรำ Group เข้ำมำเป็น 6 Pillars ทำงด้ำนกำยภำพ วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี กำรศึกษำ Food Energy and Water Security มีเรื่องของ tourism และเรื่องของ Sustainable Development ก็ถือ ว่ำทันมัยพอสมควร กล่ำวโดยสั้นๆ คือว่ำเศรษฐกิจพหุภำคีนิยมในหลำยๆ เรื่อง เริ่มเดินเข้ำสู่ภูมิภำคนิยม น้อยประเทศบ้ำง มำกประเทศบ้ำง แต่ไม่ใช่ 100 กว่ำประเทศ การเงินเพื่อการพัฒนา : จากธนาคารโลกและสาขา สู่องค์กรใหม่ กำรเปลี่ยนแปลงของโลกทำงเศรษฐกิจอีกเรื่อง คือ “กำรเงินเพื่อกำรพัฒนำ : จำกธนำคำรโลกและ สำขำสู่องค์กรใหม่” เมื่อ ค.ศ. 2014 ประเทศ BRICS มีรัสเซีย อินเดีย จีน แอฟริกำใต้ บรำซิล ก็ตั้ง New Development Bank (ธนำคำรเพื่อกำรพัฒนำแห่งใหม่) ขึ้นมำ เพรำะบอกธนำคำรโลกไม่เพียงพอที่จะช่วย ปรับปรุงโครงสร้ำงพื้นฐำนประเทศในเอเชีย และต่อมำจีนก็ได้ริเริ่ม AIIB ธนำคำรเพื่อกำรลงทุนโครงสร้ำง พื้นฐำนเอเชีย (Asia Infrastructure and Investment Bank) ซึ่งในวันที่จีนมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของ โลก ณ วันนั้นที่เสนอสิ่งเหล่ำนี้ขึ้นมำ ถ้ำเป็น 20 ปีที่แล้ว ผมเชื่อว่ำสถำบัน World Bank Asian Development Bank คงไม่พอใจ แต่สถำนกำรณ์โลกเปลี่ยนไปมำก เมื่อมีกำรเสนอ BRICS และ AIIB ธนำคำรโลกมองว่ำยิ่งมีมำกก็ดี เพรำะเอเชียยังขำดเงินทุนในเรื่องของกำรลงทุนเพื่อพัฒนำโครงสร้ำงพื้นฐำน เพรำะฉะนั้น กำรเงินเพื่อกำรพัฒนำ ก็เคลื่อนจำกองค์กรโลกมำสู่องค์กรใหม่มำนำนแล้ว ในเรื่องเสถียรภำพทำงกำรเงิน : จำกกองทุนกำรเงินระหว่ำงประเทศสู่องค์กรใหม่ หลังวิกฤตต้มยำกุ้ง พ.ศ. 2540 จีน เกำหลีใต้ และญี่ปุ่นก็เข้ำมำประชุมกันที่จังหวัดเชียงใหม่ เรียกกันว่ำ CMIM (Chiang Mai Initiative Multilateralisation) ควำมคิดริเริ่มเชียงใหม่ เรำมำเป็นแบงค์ชำติให้กัน เวลำถูกเก็งกำไรค่ำเงิน ประเทศไทยช่วงนั้นแย่ไปเลย เรำมำเป็น Bilateral Swap Arrangement เป็นกำรร่วมมือทวิภำคี พอให้กันไป แบบทวิภำคีก็เกิดเป็นใยแมงมุม ก็เกิดเป็นพหุภำคีระหว่ำง 13 ประเทศ เรียกว่ำ Chang Mai Initiative Multilateralization มีกองทุน Reserve Pool 240 Billion US dollar ซึ่งทำให้คนที่มำเก็งกำไรค่ำเงินของ 13 ประเทศนี้ต้องคิดหนัก เวลำนี้สำนักงำนตั้งที่ประเทศมำเลเซีย เพรำะมีประเทศจีนที่มีเงินสำรองสูงที่สุด ตั้งอยู่ด้วย มีประเทศญี่ปุ่น เกำหลีใต้ สิงคโปร์รวมอยู่ด้วย กล่ำวสั้นๆ คือเสรีภำพทำงกำรเงินเคลื่อนเข้ำสู่องค์กรใหม่ ยุโรปเองถึงแม้ไม่ได้เรียก IMF ของยุโรป เพรำะสมัยที่นำยกรัฐมนตรีชำวญี่ปุ่น ซำกะระ จะตั้งขึ้นมำก็ถูกโจมตีให้ออกจำกตำแหน่ง เพรำะฉะนั้น เรำก็ตั้ง ให้มันเรียกยำกๆ สำหรับผมคิดว่ำมันคล้ำยๆ Asian Monetary Fund
  • 20. 20 ยุโรปเขำก็ตั้งขึ้นมำชื่อ EFSF (European Financial Stability Facility) เป็นองค์กรที่ดูแลเสถียรภำพ ทำงกำรเงินของยุโรป ศำสตรำจำรย์โจเซฟ นักเศรษฐศำสตร์ รำงวัลโนเบล ได้บอกว่ำ CMIM เป็นสถำปัตยกรรม กำรทำงกำรเงินใหม่ของเอเชีย บทบำทของเงินหยวนก็มีควำมเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้ำงมำก เงินหยวนได้รับควำมเห็นชอบจำก IMF ให้ เป็นเงินสำรองระหว่ำงประเทศ ให้เข้ำไปอยู่ใน Special Drawing Rights เดิมอยู่ประมำณ 10 เปอร์เซ็นต์ 1 สิงหำคม ค.ศ. 2022 ขยำยขึ้นไป 12.28 เปอร์เซ็นต์ USD มำกที่สุด EUR รองลงมำ แต่เงิน RMB ก็ได้สัดส่วนที่ สูงกว่ำ JPY และสูงกว่ำ GBP เงินหยวนยังเป็นเงินสกุลที่ใช้กำรค้ำระหว่ำงประเทศ ถึงแม้ว่ำจีนจะยังไม่อยำกให้ คนถือเงินหยวนนอกประเทศมำกนัก แต่ก็ค่อยๆ ขยับขึ้นไปที่ใช้เงินหยวนในกำรค้ำขำยขยับขึ้นไป 3.2 % เป็นที่ สี่ของโลก ควำมเปลี่ยนแปลงและระเบียบโลกที่เริ่มขยับอีก ก็คือ “กำรพยำยำมสร้ำงสกุลเงินสำรองระหว่ำง ประเทศใหม่” ถึงแม้ RMB จะเข้ำไปอยู่ Special Drawing Rights ซึ่งเป็นตะกร้ำสำหรับประเทศ IMF แต่จำก สงครำมยูเครนกับรัสเซีย ประเทศ BRICS เริ่มประชุมกัน ผู้นำคุยว่ำลองไปศึกษำดูว่ำเรำจะมีตะกร้ำเงินของ BRICS บรำซิล รัสเซีย อินเดีย จีน แอฟริกำใต้แทน Special Drawing Rights หรือไม่ แม้ไม่ง่ำย แต่เริ่มคิด เริ่มทำแล้ว เพื่อป้องกันกำรถูกคว่ำบำตรทำงเศรษฐกิจ ระบบกำรชำระเงินระหว่ำงประเทศ กำลังจะเริ่มจำก Swift ไปสู่ Non-Dollar Settlement พอรัสเซีย ถูกคว่ำบำตรในเรื่อง Swift ก็มีหลำยประเทศเริ่มมองแล้วว่ำ ถ้ำเกิดมีควำมสัมพันธ์ที่ไม่เป็นมิตรกับสหรัฐและถูก ยึดเงินสำรองถูกห้ำมค้ำขำยผ่ำนระบบ Swift จะทำอย่ำงไร เมื่อ ค.ศ. 2015 จีนได้เคยพัฒนำ Cross-Border Interbank Payment System (CIPs) เพื่อให้เป็นทำงเลือกจำก Swift มำถึงเวลำนี้ ค.ศ. 2022 โลกให้ควำม สนใจว่ำทำอย่ำงไรที่จะพัฒนำ CIPs ให้เจริญก้ำวหน้ำขึ้นไปเรื่อยๆ ในกรณีที่ถูกคว่ำบำตรโดย Swift เพรำะฉะนั้น ระบบกำรเงินระหว่ำงประเทศกำลังเคลื่อนไปสู่เวทีใหม่ ยังไม่รู้ว่ำจะไปได้แค่ไหน ยังไม่รู้ว่ำ CIPs จะเดินไปได้ไกลแค่ไหน แต่ได้เดินมำแล้ว โดนถูกผลักดันด้วยประเทศต่ำงๆ มำกเกินไป ไม่ได้ถูกโปรโมทโดยจีนเอง โปรโมทโดยคนอื่น กำรให้บริกำรทำงกำรเงิน จำกเดิมเป็น Digital Finance มี Finance Company ให้บริกำรทำงกำรเงิน โดยใช้เทคโนโลยี เรียกว่ำ Fin Tech Financial Technology ในขณะเดียวกันก็มี Tech Fin ด้วย คือบริษัท Technology ไม่ได้ตั้งใจจะทำเรื่องกำรบริกำรทำงกำรเงิน แต่ว่ำมีข้อมูลเยอะมำก ไม่ว่ำจะเป็น Wechat, Taobao มีข้อมูลมำกขนำดนี้เป็น Big Data เป็น Big Data Analytic ด้วย ก็เลยเอำกำรบริกำรทำงกำรเงิน เสริมเข้ำไป ไม่ว่ำจะเป็นกำรประกันภัย กำรออมเงิน กำรชำระเงิน เพรำะฉะนั้น ระเบียบโลกมันเลยเปลี่ยนไปมี ทั้ง Fin Tech และ Tech Fin แต่ Fin Tech และ Tech Fin ยังผ่ำนตัวกลำง ยังผ่ำนธนำคำร ธนำคำรชำติ ธนำคำรแต่ละประเทศอยู่ก็เลยมีคนรุ่นใหม่มำคิดระบบ Block chain ขึ้นมำ Bitcoin Crypto Currency แต่ทำงรัฐศำสตร์ผมเรียกว่ำเป็น Decentralization คือเป็นกำรกระจำยอำนำจไม่ต้องผ่ำนตัวกลำง ค้ำขำยกันได้เลยไม่ว่ำจะเป็น Forex Exchange Rate fund หรือเป็น Asset ซึ่งเวลำนี้ก็กำลังมีปัญหำอยู่ หลำย วันมำนี้เพิ่งมีปัญหำกับ Platform อันหนึ่ง ก็ดูต่อไปว่ำจะเป็นอย่ำงไร แต่ว่ำไม่ผ่ำนธนำคำรกลำง ไม่ผ่ำน Central bank แต่แบงค์ชำติสวีเดนกับแบงค์ชำติจีน ต้องชื่นชมว่ำเก่งมำก แทนที่จะไปห้ำมในเรื่อง Block