SlideShare a Scribd company logo
1 of 14
Download to read offline
เครืองใช้ไฟฟา
       ่       ้

             กลุ่มที่ 7
 ด.ญ.รุ่ งทิพย์ งานดี เลขที่ 28
ด.ญ.ปวีณา กัลยา เลขที่ 26
ด.ญ.รัชนีกร เอื่ยมฉิ ม เลขที่ 27
ด.ญ.ลลิตา ใหม่นา เลขที่ 29
ด.ญ.อันดามัน ไชยลังกา เลขที่ 31
   ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 3/5
เครื่องใช้ไฟฟา
             ้

 เครื่องใช้ไฟฟา คือ อุ ปกรณ์ทเี่ ปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานรูปอืน เพือนาไปใช้ใน
                     ้               ่           ้                 ่ ่
  ชีวตประจาวัน ได้แก่
     ิ
 1. เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้แสงสว่าง
          ่            ้
 2. เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้ความร้อน
            ่            ้
 3. เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้พลังงานกล
              ่            ้
 4. เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้พลังงานเสียง
                ่            ้
 นอกจากนียงมีเครืองใช้ไฟฟาทีสามารถเปลียนเป็ นพลังงานรูปอืนหลายรูปในเวลาเดียวกัน
                  ้ ั ่        ้ ่       ่                 ่
 1 เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้แสงสว่าง
           ่      ้
 หลอดไฟ เป็ นอุ ปกรณ์ทใี่ ช้เปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นแสงสว่างให้เราสามารถมองเห็นสิง
                                 ่              ้                                  ่
  ต่างๆ ได้ ซึง โธมัส เอดิสน เป็ นผู ประดิษฐ์หลอดไฟเป็ นครังแรก โดยใช้คาร์บอนเส้นเล็กๆ
              ่            ั         ้                     ้
  เป็ นไส้หลอดและได้มการพัฒนาเรือยมาเป็ นลาดับ
                     ี             ่
 รูป หลอดไฟของเอดิสน    ั
1. หลอดไฟฟาธรรมดา มีไส้หลอดทีทาด้วยลวดโลหะทีมจุดหลอมเหลวสูง เช่น ทังสเตนเส้นเล็กๆ ขดเอาไว้เหมือนขดลวด
            ้                 ่              ่ี
สปริงภายในหลอดแก้วสูบอากาศออกหมดแล้วบรรจุก๊าซเฉือย เช่น อาร์กอน (AR) ไว้ ก๊าซนีช่วยป้ องกันไม่ให้หลอดไฟฟา
                                                ่                               ้                       ้
ดา ลักษณะของหลอดไฟเป็ นดังรูป
หลักการทางานของหลอดไฟฟาธรรมดา
                       ้


 กระแสไฟฟาไหลผ่านไส้หลอดซึงมีความต้านทานสูง พลังงานไฟฟาจะเปลียนเป็ นพลังงาน
          ้                  ่                            ้     ่
  ความร้อน ทาให้ไส้หลอดร้อนจัดจนเปล่งแสงออกมาได้ การเปลียนพลังงานเป็ นดังนี้
                                                        ่
 พลังงานไฟฟา >>>พลังงานความร้อน >>>พลังงานแสง
            ้
 2. หลอดเรืองแสง หรือ หลอดฟลูออเรสเซนต์ (fluorescent) เป็ นอุ ปกรณ์ท ี่
               ่
  เปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานแสงสว่าง ซึงมีการประดิษฐ์ในปี ค.ศ. 1938 โดย
       ่             ้                     ่
  มีรูปร่างหลายแบบ อาจทาเป็ นหลอดตรง สัน ยาว ขดเป็ นวงกลมหรือครึงวงกลม เป็ น
                                         ้                        ่
  ต้น
 ส่วนประกอบของหลอดเรืองแสง

 ตัวหลอดมีไส้โลหะทังสเตนติดอยู่ทปลายทัง 2 ข้าง ของหลอดแก้ว ซึงผิวภายในของ
                                 ี่    ้                       ่
  หลอดฉาบด้วยสารเรืองแสง อากาศในหลอดแก้วถูกสูบออกจนหมดแล้วใส่ไอปรอทไว้
                       ่
  เล็กน้อย ดังรูป
1. สตาร์ตเตอร์ (STARTER) ทาหน้าทีเ่ ป็ นสวิตซ์อตโนมัตใิ นขณะหลอดเรืองแสง ยังไม่ตดและหยุด
                                                 ั                              ิ
ทางานเมือหลอดติดแล้ว
          ่
2. แบลลัสต์ (BALLAST) ทาหน้าทีเ่ พิมความต่างศักย์ เพือให้หลอดไฟเรืองแสงติดในตอนแรกและ
                                       ่                ่
ทาหน้าที่ ควบคุมกระแสไฟฟาทีผานหลอด ให้ลดลงเมือหลอดติดแล้ว
                        ้ ่ ่                ่
รูป สตาร์ตเตอร์และแบลลัสต์
การใช้หลอดเรืองแสงต้องต่อวงจรเข้ากับสตาร์ตเตอร์และแบลลัสต์ แล้วจึงต่อเข้ากับสายไฟฟาในบ้าน
                                                                                  ้
หลักการทางานของหลอดเรืองแสง

                                        หลักการทางานของหลอดเรืองแสง

   เมือกระแสไฟฟาผ่านไส้หลอดจะทาให้ไส้หลอดร้อนขึน ความร้อนทีเ่ กิดทาให้ปรอททีบรรจุไว้
       ่              ้                             ้                          ่
    ในหลอดกลายเป็ นไอมากขึน เมือกระแสไฟฟาผ่านไอปรอทได้จะคายพลังงานไฟฟาให้ไอ
                               ้ ่           ้                               ้
    ปรอท ทาให้อะตอมของไอปรอทอยู่ในภาวะถูกกระตุ้น และอะตอมปรอทจะคายพลังงาน
    ออกมาเพือลดระดับพลังงานของตนในรูปของรังสีอลตราไวโอเลต เมือรังสีดงกล่าว
                  ่                                   ั             ่      ั
    กระทบสารเรืองแสงทีฉาบไว้ทผวในของหลอดเรืองแสงนันก็จะเปล่งแสงได้ โดยให้แสงสี
                           ่     ี่ ิ                    ้
    ต่างๆ ตามชนิดของสารเรืองแสงทีฉาบไว้ภายในหลอดนัน เช่น แคดเมียมบอเรทจะให้แสงสี
                                      ่                    ้
    ชมพู ซิงค์ซลเิ คทให้แสงสีเขียว แมกนีเซียมทังสเตนให้แสงสีขาวอมฟา และยังอาจผสมสาร
                    ิ                                             ้
    เหล่านีเ้ พือให้ได้สผสมทีแตกต่างออกไปอีกด้วย
                ่       ี ่
ข้อดีของหลอดเรืองแสง



 1. มีประสิทธิภาพสูงกว่าหลอดไฟฟาธรรมดา เสียค่าไฟฟาเท่ากัน แต่ได้ไฟทีสว่างกว่า
                                    ้                    ้            ่
 2. ให้แสงทีเ่ ย็นตา กระจายไปทัวหลอด ไม่รวมเป็ นจุดเหมือนหลอดไฟฟาธรรมดา
                                ่                                ้
 3. อาจจัดสีของแสงแปรเปลียนได้ โดยการเปลียนชนิดสารเรืองแสง
                              ่               ่
 4. อุ ณหภูมของหลอดเรืองแสงไม่สูงเท่ากับหลอดไฟธรรมดาขณะทางาน
                ิ

    3. หลอดนีออน หรือหลอดไฟโฆษณา เป็ นอุ ปกรณ์ไฟฟาทีเ่ ปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นแสงสว่าง
                                                        ้     ่            ้
    มีลกษณะเป็ นหลอดแก้วทีถูกลนไฟ ดัดเป็ นรูปหรืออักษรต่างๆ สูบอากาศออกเป็ นสูญญากาศ
        ั                      ่
    แล้วใส่ก๊าซบางชนิดทีใ่ ห้แสงสีต่างๆ ออกมาได้ เมือมี
                                                    ่
กระแสไฟฟ้ าผ่านหลอดชนิดนี้ไม่มีไส้หลอดไฟ แต่ใช้ข้วไฟฟ้ าทาด้วยโลหะติดอยูท่ีปลายทั้ง 2 ข้าง แล้ว
                                                     ั                      ่
ต่อกับแหล่งกาเนิดไฟฟ้ าที่มีความต่างศักย์สูงประมาณ 10,000 โวลต์ ซึ่ งมีความต่างศักย์ที่สูงมาก จะ
ทาให้ก๊าซที่บรรจุไว้ในหลอดเกิดการแตกตัวเป็ นนีออนและนาไฟฟ้ าได้ เมื่อกระแสไฟฟ้ าผ่านก๊าซเหล่านี้
จะทาให้ก๊าซร้อนติดไฟให้แสงสี ต่างๆ ได้
ตัวอย่างก๊าซชนิดต่างๆ ที่บรรจุในหลอดโฆษณา
ก๊าซนีออน ให้แสงสี แดง
ก๊าซฮีเลียม ให้แสงสี ชมพู
ก๊าซอาร์กอน ให้แสงสี ขาวอมน้ าเงิน และถ้าใช้ก๊าซต่างๆ ผสมกันก็จะได้สีต่างๆ ออกไป
ข้อแนะนาการใช้หลอดไฟอย่างประหยัด


1. ใช้หลอดเรื องแสงจะให้แสงสว่างมากกว่าหลอดธรรมดาประมาณ 4 เท่า
เมื่อใช้พลังงานไฟฟ้ าเท่ากัน และอายุการใช้งานจะทนกว่าประมาณ 8 เท่า
2. ใช้แสงสว่างให้เหมาะกับการใช้งาน ที่ใดต้องการแสงสว่างไม่มากนักควรติด
ไฟน้อยดวง
3. ทาความสะอาดโป๊ ะไฟ จะให้แสงสว่างเต็มที่
4. ปิ ดไฟทุกครั้งที่ไม่จาเป็ นต้องใช้

More Related Content

What's hot

ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..Powergift_vip
 
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าI'am Jeed
 
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วเรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วjaturong2012
 
ไฟฟ้า
ไฟฟ้าไฟฟ้า
ไฟฟ้าpatarapan
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าWatcharagon Kong
 
พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)Nontawat Rupsung
 

What's hot (7)

ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..
 
Presentation1
Presentation1Presentation1
Presentation1
 
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วเรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
 
ไฟฟ้า
ไฟฟ้าไฟฟ้า
ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)พลังงานไฟฟ้า (1)
พลังงานไฟฟ้า (1)
 

Similar to เครื่องใช้ไฟฟ้า

เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าSiwush Pormchai
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1boom500937
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1boom500937
 
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305คณากรณ์ อุปปิง
 
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วเรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วjaturong20155
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..Powergift_vip
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..Powergift_vip
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าchindekthai01
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า33
เครื่องใช้ไฟฟ้า33เครื่องใช้ไฟฟ้า33
เครื่องใช้ไฟฟ้า33cororosang2010
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1Karnchana Duangta
 
งานเครื่องใช้ไฟฟ้า
งานเครื่องใช้ไฟฟ้างานเครื่องใช้ไฟฟ้า
งานเครื่องใช้ไฟฟ้าSarun Boonwong
 
ไฟฟ้า
ไฟฟ้าไฟฟ้า
ไฟฟ้าpatarapan
 
งานวิทย์ 1
งานวิทย์ 1งานวิทย์ 1
งานวิทย์ 1thanawan302
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าpeerada55
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าSarun Boonwong
 

Similar to เครื่องใช้ไฟฟ้า (20)

เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
 
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วเรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
 
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วเรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..
 
ไฟฟ้า 303
ไฟฟ้า 303ไฟฟ้า 303
ไฟฟ้า 303
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า33
เครื่องใช้ไฟฟ้า33เครื่องใช้ไฟฟ้า33
เครื่องใช้ไฟฟ้า33
 
กลุ่มที่ 1
กลุ่มที่ 1กลุ่มที่ 1
กลุ่มที่ 1
 
วิทย์1
วิทย์1วิทย์1
วิทย์1
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
งานเครื่องใช้ไฟฟ้า
งานเครื่องใช้ไฟฟ้างานเครื่องใช้ไฟฟ้า
งานเครื่องใช้ไฟฟ้า
 
ไฟฟ้า
ไฟฟ้าไฟฟ้า
ไฟฟ้า
 
งานวิทย์ 1
งานวิทย์ 1งานวิทย์ 1
งานวิทย์ 1
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
ประเภทพลังงานไฟฟ้า
ประเภทพลังงานไฟฟ้าประเภทพลังงานไฟฟ้า
ประเภทพลังงานไฟฟ้า
 

เครื่องใช้ไฟฟ้า

  • 1. เครืองใช้ไฟฟา ่ ้ กลุ่มที่ 7 ด.ญ.รุ่ งทิพย์ งานดี เลขที่ 28 ด.ญ.ปวีณา กัลยา เลขที่ 26 ด.ญ.รัชนีกร เอื่ยมฉิ ม เลขที่ 27 ด.ญ.ลลิตา ใหม่นา เลขที่ 29 ด.ญ.อันดามัน ไชยลังกา เลขที่ 31 ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 3/5
  • 2. เครื่องใช้ไฟฟา ้  เครื่องใช้ไฟฟา คือ อุ ปกรณ์ทเี่ ปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานรูปอืน เพือนาไปใช้ใน ้ ่ ้ ่ ่ ชีวตประจาวัน ได้แก่ ิ  1. เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้แสงสว่าง ่ ้  2. เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้ความร้อน ่ ้  3. เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้พลังงานกล ่ ้  4. เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้พลังงานเสียง ่ ้  นอกจากนียงมีเครืองใช้ไฟฟาทีสามารถเปลียนเป็ นพลังงานรูปอืนหลายรูปในเวลาเดียวกัน ้ ั ่ ้ ่ ่ ่
  • 3.  1 เครืองใช้ไฟฟาทีใ่ ห้แสงสว่าง ่ ้  หลอดไฟ เป็ นอุ ปกรณ์ทใี่ ช้เปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นแสงสว่างให้เราสามารถมองเห็นสิง ่ ้ ่ ต่างๆ ได้ ซึง โธมัส เอดิสน เป็ นผู ประดิษฐ์หลอดไฟเป็ นครังแรก โดยใช้คาร์บอนเส้นเล็กๆ ่ ั ้ ้ เป็ นไส้หลอดและได้มการพัฒนาเรือยมาเป็ นลาดับ ี ่  รูป หลอดไฟของเอดิสน ั
  • 4.
  • 5. 1. หลอดไฟฟาธรรมดา มีไส้หลอดทีทาด้วยลวดโลหะทีมจุดหลอมเหลวสูง เช่น ทังสเตนเส้นเล็กๆ ขดเอาไว้เหมือนขดลวด ้ ่ ่ี สปริงภายในหลอดแก้วสูบอากาศออกหมดแล้วบรรจุก๊าซเฉือย เช่น อาร์กอน (AR) ไว้ ก๊าซนีช่วยป้ องกันไม่ให้หลอดไฟฟา ่ ้ ้ ดา ลักษณะของหลอดไฟเป็ นดังรูป
  • 6. หลักการทางานของหลอดไฟฟาธรรมดา ้  กระแสไฟฟาไหลผ่านไส้หลอดซึงมีความต้านทานสูง พลังงานไฟฟาจะเปลียนเป็ นพลังงาน ้ ่ ้ ่ ความร้อน ทาให้ไส้หลอดร้อนจัดจนเปล่งแสงออกมาได้ การเปลียนพลังงานเป็ นดังนี้ ่  พลังงานไฟฟา >>>พลังงานความร้อน >>>พลังงานแสง ้
  • 7.  2. หลอดเรืองแสง หรือ หลอดฟลูออเรสเซนต์ (fluorescent) เป็ นอุ ปกรณ์ท ี่ ่ เปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานแสงสว่าง ซึงมีการประดิษฐ์ในปี ค.ศ. 1938 โดย ่ ้ ่ มีรูปร่างหลายแบบ อาจทาเป็ นหลอดตรง สัน ยาว ขดเป็ นวงกลมหรือครึงวงกลม เป็ น ้ ่ ต้น  ส่วนประกอบของหลอดเรืองแสง  ตัวหลอดมีไส้โลหะทังสเตนติดอยู่ทปลายทัง 2 ข้าง ของหลอดแก้ว ซึงผิวภายในของ ี่ ้ ่ หลอดฉาบด้วยสารเรืองแสง อากาศในหลอดแก้วถูกสูบออกจนหมดแล้วใส่ไอปรอทไว้ ่ เล็กน้อย ดังรูป
  • 8.
  • 9. 1. สตาร์ตเตอร์ (STARTER) ทาหน้าทีเ่ ป็ นสวิตซ์อตโนมัตใิ นขณะหลอดเรืองแสง ยังไม่ตดและหยุด ั ิ ทางานเมือหลอดติดแล้ว ่ 2. แบลลัสต์ (BALLAST) ทาหน้าทีเ่ พิมความต่างศักย์ เพือให้หลอดไฟเรืองแสงติดในตอนแรกและ ่ ่ ทาหน้าที่ ควบคุมกระแสไฟฟาทีผานหลอด ให้ลดลงเมือหลอดติดแล้ว ้ ่ ่ ่
  • 11. หลักการทางานของหลอดเรืองแสง  หลักการทางานของหลอดเรืองแสง  เมือกระแสไฟฟาผ่านไส้หลอดจะทาให้ไส้หลอดร้อนขึน ความร้อนทีเ่ กิดทาให้ปรอททีบรรจุไว้ ่ ้ ้ ่ ในหลอดกลายเป็ นไอมากขึน เมือกระแสไฟฟาผ่านไอปรอทได้จะคายพลังงานไฟฟาให้ไอ ้ ่ ้ ้ ปรอท ทาให้อะตอมของไอปรอทอยู่ในภาวะถูกกระตุ้น และอะตอมปรอทจะคายพลังงาน ออกมาเพือลดระดับพลังงานของตนในรูปของรังสีอลตราไวโอเลต เมือรังสีดงกล่าว ่ ั ่ ั กระทบสารเรืองแสงทีฉาบไว้ทผวในของหลอดเรืองแสงนันก็จะเปล่งแสงได้ โดยให้แสงสี ่ ี่ ิ ้ ต่างๆ ตามชนิดของสารเรืองแสงทีฉาบไว้ภายในหลอดนัน เช่น แคดเมียมบอเรทจะให้แสงสี ่ ้ ชมพู ซิงค์ซลเิ คทให้แสงสีเขียว แมกนีเซียมทังสเตนให้แสงสีขาวอมฟา และยังอาจผสมสาร ิ ้ เหล่านีเ้ พือให้ได้สผสมทีแตกต่างออกไปอีกด้วย ่ ี ่
  • 12. ข้อดีของหลอดเรืองแสง  1. มีประสิทธิภาพสูงกว่าหลอดไฟฟาธรรมดา เสียค่าไฟฟาเท่ากัน แต่ได้ไฟทีสว่างกว่า ้ ้ ่  2. ให้แสงทีเ่ ย็นตา กระจายไปทัวหลอด ไม่รวมเป็ นจุดเหมือนหลอดไฟฟาธรรมดา ่ ้  3. อาจจัดสีของแสงแปรเปลียนได้ โดยการเปลียนชนิดสารเรืองแสง ่ ่  4. อุ ณหภูมของหลอดเรืองแสงไม่สูงเท่ากับหลอดไฟธรรมดาขณะทางาน ิ  3. หลอดนีออน หรือหลอดไฟโฆษณา เป็ นอุ ปกรณ์ไฟฟาทีเ่ ปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นแสงสว่าง ้ ่ ้ มีลกษณะเป็ นหลอดแก้วทีถูกลนไฟ ดัดเป็ นรูปหรืออักษรต่างๆ สูบอากาศออกเป็ นสูญญากาศ ั ่ แล้วใส่ก๊าซบางชนิดทีใ่ ห้แสงสีต่างๆ ออกมาได้ เมือมี ่
  • 13. กระแสไฟฟ้ าผ่านหลอดชนิดนี้ไม่มีไส้หลอดไฟ แต่ใช้ข้วไฟฟ้ าทาด้วยโลหะติดอยูท่ีปลายทั้ง 2 ข้าง แล้ว ั ่ ต่อกับแหล่งกาเนิดไฟฟ้ าที่มีความต่างศักย์สูงประมาณ 10,000 โวลต์ ซึ่ งมีความต่างศักย์ที่สูงมาก จะ ทาให้ก๊าซที่บรรจุไว้ในหลอดเกิดการแตกตัวเป็ นนีออนและนาไฟฟ้ าได้ เมื่อกระแสไฟฟ้ าผ่านก๊าซเหล่านี้ จะทาให้ก๊าซร้อนติดไฟให้แสงสี ต่างๆ ได้ ตัวอย่างก๊าซชนิดต่างๆ ที่บรรจุในหลอดโฆษณา ก๊าซนีออน ให้แสงสี แดง ก๊าซฮีเลียม ให้แสงสี ชมพู ก๊าซอาร์กอน ให้แสงสี ขาวอมน้ าเงิน และถ้าใช้ก๊าซต่างๆ ผสมกันก็จะได้สีต่างๆ ออกไป
  • 14. ข้อแนะนาการใช้หลอดไฟอย่างประหยัด 1. ใช้หลอดเรื องแสงจะให้แสงสว่างมากกว่าหลอดธรรมดาประมาณ 4 เท่า เมื่อใช้พลังงานไฟฟ้ าเท่ากัน และอายุการใช้งานจะทนกว่าประมาณ 8 เท่า 2. ใช้แสงสว่างให้เหมาะกับการใช้งาน ที่ใดต้องการแสงสว่างไม่มากนักควรติด ไฟน้อยดวง 3. ทาความสะอาดโป๊ ะไฟ จะให้แสงสว่างเต็มที่ 4. ปิ ดไฟทุกครั้งที่ไม่จาเป็ นต้องใช้