More Related Content
More from Pannaray Kaewmarueang
More from Pannaray Kaewmarueang (13)
การประสานประโยชน์ระหว่างประเทศ
- 3. การประสานประโยชน์ หมายถึง การ
ร่วมมือกันเพื่อรักษาและปกปองผลประโยชน์ของ
้
ตนและเป็ นการระงับกรณีความขัดแย้ งที่มาจาก
การแข่งขันทางการเมืองและเศรษฐกิจระหว่าง
ประเทศ การประสานประโยชน์ มีความสาคัญทัง้
ทางด้ านการเมือง การทหาร การค้ า และการทูต
อย่างไรก็ตามแม้ จะมีการสานประโยชน์กน แต่ก็ยง
ั
ั
มีการแข่งขัน ความขัดแย้ ง และสงครามอยู่ ดังนัน
้
สังคมโลกจึงมีความจาเป็ นที่จะต้ องให้ การ
สนับสนุน และปรับปรุงวิธีการประสานประโยชน์
ระหว่างประเทศให้ มากยิ่งขึ ้น ทังในปั จจุบนและ
้
ั
อนาคต
- 4. องค์ การระหว่ างประเทศ หมายถึง องค์การที่รัฐ
ตังแต่สองรัฐขึ ้นไปร่วมกันก่อตัง้ มีการประชุมร่วมกันเป็ น
้
ประจา มีวตถุประสงค์ในการธารงรักษาสันติภาพและ
ั
แก้ ไขความขัดแย้ งระหว่างประเทศ เช่น องค์การ
สหประชาชาติ ซึงมีแนวทางในการแก้ ไขความขัดแย้ ง
่
ต่างๆ องค์การสนธิสญญาแอตแลนติกเหนือหรื อนาโต ซึ่ง
ั
รักษาผลประโยชน์ของกลุมประเทศ
่
- 6. องค์ การสันนิบาตชาติ (League of Nations)
สันนิบาตชาติ เป็ นองค์การระหว่าง
ประเทศ ตังขึ ้นในปี พ.ศ. 2462
้
จากการประชุมสันติภาพที่ปารี ส
ของประเทศผู้ชนะสงครามโลก
ครังที่หนึง เปาหมายของ
้
่ ้
สันนิบาตชาติคือการควบคุม
กองกาลัง ปองกันสงคราม
้
ไกล่เกลียข้ อพิพาทระหว่างประเทศด้ วยการเจรจาและการทูต และ
่
พัฒนาความเป็ นอยูของโลก สันนิบาตชาติไม่มีกองกาลังของตัวเอง จึง
่
ต้ องพึงพาชาติมหาอานาจในการดาเนินการตามคาสัง สันนิบาตชาติ
่
่
ล้ มเหลวในการปองกันสงครามโลกครังที่สอง และแทนที่โดย
้
้
สหประชาชาติหลังจบสงคราม
- 7. องค์ การสันนิบาตชาติ (League of Nations)
เมื่อเดือนมกราคม ค.ศ. 1919 ประธานาธิบดีวดโรว์ วิลสัน
ู
(Woodrow Wilson) แห่งสหรัฐอเมริ กา ได้ เสนอหลักการ 14 ข้ อ
(Wilson’s Fourteen Points) เพื่อใช้ เป็ นหลักในการเจรจาทา
สนธิสญญาสันติภาพต่อผู้นาของประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส และ
ั
อิตาลี ซึงเป็ นแนวความคิดที่จะปองกันมิให้ เกิดสงครามร้ ายแรงทีจะ
่
้
่
ทาลายล้ างประชาชาติขึ ้นอีก โดยให้ สถาปนาองค์การสันนิบาตชาติ
ขึ ้นเพื่อเป็ นองค์กรกลางทีจะใช้ แก้ ปัญหากรณีพิพาทระหว่างประเทศ
่
โดยสันติวิธีเพื่อดารงรักษาสันติภาพอันถาวรไว้ องค์การสันนิบาต
ชาติประชุมครังแรก ณ กรุงเจนีวาประเทศ สวิตเซอร์ แลนด์
้
- 9. องค์ การสันนิบาตชาติ (League of Nations)
การ์ ดที่ระลึกในโอกาสก่ อตังสันนิบาต คนในรู ปคือ
้
ประธานาธิบดี วูดโรว์ วิลสัน ผู้เสนอให้ ก่อตังองค์ การนีขึน
้
้ ้
- 10. องค์ การสันนิบาตชาติ (League of Nations)
แนวความคิดของประชาคมนานาชาติที่
อยูร่วมกันอย่างสันติมมานานแล้ ว ในปี ค.ศ.
่
ี
1795 อิมมานูเอล คานต์ เสนอให้ มีการก่อตัง้
องค์การที่จะไกล่เกลียของพิพาทและรักษา
่
สันติภาพระหว่างประเทศในงานเขียนของ
เขา Perpetual Peace: A Philosophical
Sketch โดยเขาย ้าว่าแนวทางนี ้ไม่ใช่การให้ มี
รัฐบาลปกครองโลก แต่ให้ รัฐบาลของแต่ละ
ประเทศเคารพพลเมืองของตน และต้ อนรับ
ชาวต่างประเทศในลักษณะที่เป็ นมนุษย์
ด้ วยกัน สันติภาพระหว่างประเทศก็จะเกิดขึ ้น
- 11. องค์ การสันนิบาตชาติ (League of Nations)
ต่อมาเมื่อเกิดสงครามนโปเลียนในศตวรรษที่ 19 ก็มความ
ี
พยายามร่วมมือกันเพื่อให้ ยโรปมีความมันคงยิงขึ ้น รวมทังได้ เกิด
ุ
่
่
้
อนุสญญาเจนีวาขึ ้นเพื่อมนุษยธรรมระหว่างสงคราม และ
ั
อนุสญญาเฮกซึงกาหนดกฎเกณฑ์ของสงครามและการไกล่เกลีย
ั
่
่
ข้ อพิพาทระหว่างประเทศ และในปี ค.ศ. 1889 นักรณรงค์สนติภาพ
ั
ได้ ก่อตังสมัชชาสหภาพรัฐสภา (Inter-Parliamentary Union: IPU)
้
ขึ ้นเพื่อสนับสนุนการเจรจาและการทูตในการแก้ ไขข้ อพิพาท
- 12. องค์ การสันนิบาตชาติ (League of Nations)
ในช่วงต้ นศตวรรษที่ 20 มีกลุมอานาจใหญ่สองกลุมในยุโรปที่
่
่
ขัดแย้ งกัน และเป็ นสาเหตุของสงครามโลกครังที่หนึง สงครามนี ้ได้
้
่
ส่งผลกระทบในทุกด้ านของชีวต และทาให้ เกิดกระแสต่อต้ าน
ิ
สงครามทัวโลก จนเกิดวลีเรียกสงครามโลกครังที่หนึงว่า "สงคราม
่
้
่
เพื่อที่จะหยุดสงครามทังหมด" และมีการสืบสวนพบว่าสาเหตุเกิด
้
จาก การแข่งขันทางอาวุธ พันธมิตร การทูตลับ และเสรี ภาพในการ
เข้ าร่วมสงครามของรัฐต่าง ๆ เพื่อประโยชน์สวนตน จึงมีการเสนอให้
่
มีองค์การระหว่างประเทศที่จะทาหน้ าที่หยุดสงครามในอนาคตด้ วย
การลดอาวุธ การทูตอย่างเปิ ดเผย การตัดสินข้ อพิพาท ความร่วมมือ
ระหว่างชาติ การควบคุมสิทธิในการเข้ าร่วมสงคราม และการลงโทษ
ประเทศที่ทาผิดกฎ
- 13. องค์ การสันนิบาตชาติ (League of Nations)
บุคคลสาคัญทีมีสวนทาให้ สนนิบาตชาติเป็ นความจริ งขึ ้นมาคือ
่ ่
ั
ประธานาธิบดี วูดโรว์ วิลสัน แห่งสหรัฐอเมริ กา การตังสันนิบาตชาติ
้
เป็ นหนึงในหลักการสีสบข้ อของวิลสัน ซึงข้ อ 14 ระบุวา การรวมตัว
่
่ ิ
่
่
กันของประชาชาติควรจะถูกก่ อตังขึนภายใต้ พนธะที่แน่ นอน
้ ้
ั
เพื่อจุดประสงค์ ท่ สามารถให้ ความช่ วยเหลือกันได้ กับทุกฝ่ าย
ี
และให้ การรับรองแก่ รัฐที่มีขนาดเล็กกว่ าเทียบเท่ ากับตนเอง
โดยการจัดตังองค์ การสันนิบาตชาติขึนมา โดยในระหว่างการ
้
้
ประชุมสันติภาพที่ปารี ส ซึงมีสามประเทศใหญ่ผ้ ชนะสงครามเข้ าร่วม
่
ู
คือ อเมริ กา ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร แนวความคิดการก่อตัง้
สันนิบาตชาติของวิลสันได้ รับการยอมรับ และกลายเป็ นส่วนหนึงของ
่
สนธิสญญาแวร์ ซายส์
ั
- 14. องค์ การสันนิบาตชาติ (League of Nations)
กติกาสันนิบาตชาติถกร่างขึ ้นโดยคณะกรรมการพิเศษ โดยมี
ู
44 ประเทศที่เซ็นยอมรับกติกานี ้ซึงรวมถึงประเทศไทยด้ วย อย่างไร
่
ก็ดีแม้ วิลสันจะประสบผลสาเร็ จในการผลักดันให้ สนนิบาตชาติเป็ น
ั
จริ งขึ ้นมา ซึงทาให้ เขาได้ รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปี
่
เดียวกัน แต่รัฐสภาอเมริ กากลับมีมติไม่ยอมให้ ประเทศอเมริ กาเข้ า
ร่วมสันนิบาต เนื่องจากเกรงว่าจะมีข้อผูกมัดตามมา ซึงจะเป็ น
่
สาเหตุที่ทาให้ สนนิบาตล่มในเวลาต่อมา
ั
สันนิบาตชาติเปิ ดประชุมคณะมนตรี หกวันหลังจากสนธิสญญา
ั
แวร์ ซายส์มีผลบังคับใช้ ต่อมาสานักงานใหญ่ถกย้ ายไปกรุงเจนีวา
ู
และมีการประชุมสมัชชาใหญ่ครังแรกในปี ค.ศ. 1920
้
- 16. องค์ การสันนิบาตชาติ (League of Nations)
มีตราสัญลักษณ์กึ่งทางการเกิดขึ ้น
ครังแรกในปี ค.ศ. 1939 ซึงเป็ นดาวห้ า
้
่
เหลี่ยมสองดวงในรูปห้ าเหลี่ยมสีน ้าเงิน
สื่อความหมายถึงทวีปในโลก 5 ทวีป
และเผ่าพันธุ์ 5 เผ่า (ขาว เหลือง น ้าตาล
ดา แดง) ตามที่เชื่อกันในสมัยนัน
้
ด้ านบนเป็ นชื่อภาษาอังกฤษ (League
of Nations) ส่วนด้ านล่างเป็ นภาษา
ฝรั่งเศส
ตราสัญลักษณ์
- 17. องค์ การสันนิบาตชาติ (League of Nations)
สมาชิกภาพ
ประเทศทีเ่ ป็ นฝ่ ายชนะในสงครามโลกครังที่ 1 ทุกประเทศได้ ร่วมลงนาม
้
ในสนธิสญญาสันติภาพและเป็ นสมาชิกขององค์การสันนิบาตชาติโดย
ั
อัตโนมัติประเทศที่แพ้ สงครามมีสทธิเข้ าเป็ นสมาชิกขององค์การนี ้ได้ แต่
ิ
ต้ องปฏิบตตามสนธิสญญาสันติภาพให้ เรี ยบร้ อยเสียก่อน ส่วนประเทศ
ัิ
ั
อื่น จะเข้ าเป็ นสมาชิกได้ เมื่อได้ รับความเห็นชอบจากการออกเสียงสอง
ในสามของประเทศสมาชิกส่วนสหรัฐอเมริ กาแม้ จะเป็ นผู้ริเริ่มแนวคิด
การจัดตังองค์การนี ้ไม่ได้ เป็ นสมาชิก เนื่องจากสภาคองเกรสของ
้
สหรัฐอเมริ กาไม่ยอมให้ สตยาบัน
ั
- 18. องค์ การสันนิบาตชาติ (League of Nations)
รัฐสมาชิก
แผนที่รัฐสมาชิกของสันนิบาตในปี ค.ศ. 1920
รัฐสมาชิก
อาณานิคมของรัฐสมาชิก
ดินแดนภายใต้ อาณัติสนนิบาตชาติ
ั
รัฐที่ไม่เป็ นสมาชิก
อาณานิคมของรัฐที่ไม่เป็ นสมาชิก
- 19. องค์ การสันนิบาตชาติ (League of Nations)
รัฐสมาชิก
เมื่อเริ่ มต้ นมีรัฐสมาชิกร่วมก่อตังสันนิบาต 42 ประเทศ แต่มีเพียง
้
23 ประเทศเท่านันที่เป็ นสมาชิกจนกระทังยุบสันนิบาตในปี ค.ศ. 1946
้
่
ซึงประเทศไทยรวมอยูในประเทศเหล่านี ้ด้ วย
่
่
สันนิบาตมีจานวนรัฐสมาชิกมากที่สดคือ 58 ประเทศในช่วงปี
ุ
ค.ศ. 1934-1935
- 20. องค์ การสันนิบาตชาติ (League of Nations)
ดินแดนใต้ อาณัติ
เมื่อสงครามโลกครังที่หนึงจบลง ประเทศผู้แพ้ เช่น เยอรมนี และ
้
่
จักรวรรดิออตโตมัน จาต้ องสละอาณานิคมซึงเป็ นบทลงโทษจาก
่
ประเทศผู้ชนะสงคราม การประชุมสันติภาพที่ปารี สจึงได้ ตกลงให้
รัฐบาลต่าง ๆ บริ หารอาณาบริ เวณเหล่านี ้ในนามของสันนิบาต
เรี ยกว่า ดินแดนใต้ อาณัติ (mandate) ซึงอานาจของสันนิบาตใน
่
การจัดการได้ รับการรับรองจากมาตรา 22 ของกติกาสันนิบาต
ชาติ โดยมีคณะกรรมการจัดการดินแดนใต้ อาณัติเป็ นผู้ดแล
ู
- 21. องค์ การสันนิบาตชาติ (League of Nations)
ดินแดนใต้ อาณัติ
ดินแดนใต้ อาณัติถกแบ่งออกเป็ นสามประเภท A B C ตามมาตรา 22
ู
• A คือดินแดนที่เคยอยูในจักรวรรดิออตโตมันมาก่อน ที่ "ต้ องได้ รับ
่
ความช่วยเหลือจากผู้ได้ รับมอบอาณัตเิ ป็ นระยะเวลาหนึงจนกว่าจะ
่
สามารถปกครองตนเองได้ "
• B คือดินแดนที่เคยเป็ นอาณานิคมของเยอรมนีมาก่อน ที่ "ต้ องได้ รับ
การเข้ ามาดูแลเพื่อรักษาเสรี ภาพทางมโนธรรมและศาสนา...และเพื่อ
ยับยังการค้ าทาส การค้ าอาวุธ"
้
• C คือเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ ที่ "สมควรที่สดที่จะอยูใต้ อาณัติ...
ุ
่
เพื่อที่ชนพื ้นเมืองจะได้ รับการปกปองดังที่กล่าวมาแล้ ว
้
- 22. องค์ การสันนิบาตชาติ (League of Nations)
ดินแดนใต้ อาณัติ
ส่วนประเทศมหาอานาจขณะนัน 7 ประเทศได้ รับมอบอาณัติ
้
(mandatory) คือมีอานาจปกครองดินแดนใต้ อาณัติของสันนิบาต
ได้ แก่ สหราชอาณาจักร, สหพันธ์ แอฟริ กาใต้ , ฝรั่งเศส, เบลเยียม,
นิวซีแลนด์, ออสเตรเลีย และญี่ปน
ุ่
ดินแดนใต้ อาณัติทงหมดไม่ได้ รับเอกราชจวบจนสงครามโลกครังที่
ั้
้
สองสิ ้นสุด ยกเว้ นประเทศอิรักประเทศเดียวที่ได้ รับเอกราชและเข้ าร่วม
สันนิบาตในปี ค.ศ. 1932 หลังจากสันนิบาตถูกยุบดินแดนใต้ อาณัติ
เหล่านี ้ถูกโอนไปให้ สหประชาชาติดแล เรี ยกว่า ดินแดนมอบหมายของ
ู
สหประชาชาติ (United Nations Trust Territories) และเป็ นเอกราช
ทังหมดในปี ค.ศ. 1990
้
- 23. องค์ การสันนิบาตชาติ (League of Nations)
ดินแดนใต้ อาณัติ
นอกจากดินแดนใต้ อาณัติแล้ ว สันนิบาตยังปกครองดินแดน
ลุมแม่น ้าซาร์ เป็ นเวลา 15 ปี ก่อนจะจัดให้ มีประชามติ ซึง
่
่
ประชากรส่วนใหญ่เลือกที่จะกลับเข้ าเป็ นส่วนหนึงของเยอรมนี
่
และยังปกครองเมืองอิสระแห่งดันซิก (ปั จจุบนเป็ นส่วนหนึงของ
ั
่
ประเทศโปแลนด์) ตังแต่ค.ศ. 1920 - 1939
้
- 24. องค์ การสันนิบาตชาติ (League of Nations)
วัตถุประสงค์
จุดประสงค์สาคัญที่สดของ
ุ
องค์การสันนิบาตชาติ คือ การดารง
สันติภาพและปองกันสงครามใน
้
อนาคต ประเทศสมาชิกต่างให้
สัตยาบันที่จะเคารพเอกราช และบูรณ
ภาพแห่ง อาณาเขตของประเทศต่าง ๆ
และในกรณีที่ประเทศสมาชิกใดถูก
รุกรานทังทางด้ านเศรษฐกิจหรื อกาลัง
้
ทหารต้ องเป็ นหน้ าที่ของประเทศ
สมาชิกอื่นในการร่วมมือกันต่อต้ านผู้
รุกราน
- 25. องค์ การสันนิบาตชาติ (League of Nations)
วัตถุประสงค์
องค์การสันนิบาตชาติมีหลักการในความร่วมมือกัน ดังนี ้
1. ร่วมมือกันรักษาความปลอดภัยและความมันคงระหว่างประเทศ
่
2. เป็ นองค์กรกลางในการตัดสินชี ้ขาดกรณีพิพาทระหว่างประเทศ
3. ร่วมมือกันดาเนินการลดกาลังอาวุธยุทโธปกรณ์
4. ส่งเสริ มความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อเปิ ดความสัมพันธ์
ทางการทูต
- 26. องค์ การสันนิบาตชาติ (League of Nations)
การดาเนินงาน
การดาเนินงาน องค์การสันนิบาตชาติ (League of Nations) มี
องค์กรต่างๆทาหน้ าที่และรับผิดชอบ ดังนี ้
1. สมัชชา คือ ที่ประชุมใหญ่ขององค์การ
ประกอบด้ วยผู้แทนของประเทศสมาชิก ทังหมด ประเทศละไม่
้
เกิน 3 คน ออกเสียงลงคะแนนได้ ประเทศละ 1 เสียง มีวาระการ
ประชุมปี ละครัง เพื่อพิจารณาปั ญหาต่างๆที่อาจส่งผลกระทบต่อ
้
สันติภาพของโลก
- 27. องค์ การสันนิบาตชาติ (League of Nations)
การดาเนินงาน
2. คณะมนตรี ทาหน้ าทีเ่ ป็ นผู้บริ หารองค์การ เมื่อตัง้
ครังแรกประกอบด้ วยสมาชิก ประเภทถาวร 4 ประเทศ คือ ฝรั่งเศส
้
อังกฤษ อิตาลี และญี่ปน และสมาชิกประเภทไม่ถาวรทีมาจากการ
ุ่
่
เลือกตัง้ อีก 4 ประเทศ คณะมนตรีนี ้มีการประชุมปี ละครัง เพื่อ
้
พิจารณาปั ญหาเรื่ องต่างๆที่เป็ นภัยคุกคามต่อสันติภาพของโลก
และปฎิบติตามข้ อเสนอแนะของสมัชชา
ั
3. สานักงานเลขาธิการ เป็ นสานักงานจัดทารายงาน
รักษาเอกสารหลักฐาน อานวยการวิจยและประสานงานกับฝ่ าย
ั
ต่างๆ
- 28. องค์ การสันนิบาตชาติ (League of Nations)
การดาเนินงาน
4. คณะกรรมาธิการ ทาหน้ าที่เกี่ยวกับกิจการด้ าน
เศรษฐกิจและสังคม ได้ แก่ องค์การอนามัยระหว่างประเทศ สานัก
แรงงานสากล คณะกรรมาธิการฝ่ ายดินแดนในอาณัติ
5. ศาลยุติธรรมระหว่ างประเทศ ทาหน้ าทีเ่ กี่ยวกับ
กฎหมายระหว่างประเทศในการพิจารณาคดีตางๆและกรณีพิพาท
่
เกี่ยวกับพรมแดน ศาลยุติธรรมระหว่ างประเทศ ประกอบด้ วยผู้
พิพากษา 15 คน
- 30. องค์ การสันนิบาตชาติ (League of Nations)
ผลงานขององค์ การสันนิบาตชาติ
ผลงานที่ประสบความสาเร็จ กรณีหมู่เกาะอาลันด์ ที่สวีเดน
และฟิ นแลนด์ตางแย่งชิงกันจะเข้ าครอบครององค์การสันนิบาตชาติ
่
ตัดสินให้ มอบหมูเ่ กาะอาลันด์อยูภายใต้ อานาจอธิปไตยของฟิ นแลนด์
่
แต่ต้องเป็ นดินแดนปลอดทหารและมีสถานภาพกึ่งอิสระ
หมู่เกาะอาลันด์
ในทะเลบอลติก
- 31. องค์ การสันนิบาตชาติ (League of Nations)
ผลงานที่ไม่ ประสบความสาเร็จ
1.เหตุการณ์ ญ่ ีปุ่นรุ กรานแคว้ นแมนจูเรียของ
จีน องค์การสันนิบาตชาติไม่สามารถใช้ มาตรการใดๆลงโทษ
ญี่ปนได้
ุ่
2.เหตุการณ์ รุนแรงที่เกาะคอร์ ฟู อิตาลีใช้ กาลังเข้ ายึด
ครองเกาะคอร์ ฟของกรี ซ ซึงองค์การสันนิบาตชาติไม่สามารถ
ู
่
ยับยัง้
หรื อลงโทษอิตาลีได้ ทังๆที่กรี ซและอิตาลีตางก็เป็ นสมาชิก
้
่
ขององค์การ
- 32. องค์ การสันนิบาตชาติ (League of Nations)
ผลงานที่ไม่ ประสบความสาเร็จ
3.เยอรมนีละเมิดสนธิสัญญาแวร์ ซาย โดยการส่งทหารเข้ าสูเ่ ขต
ปลอดทหารไรน์แลนด์ของเยอรมนี
4.สงครามอะบิสซิเนีย ที่อิตาลีสงกองทัพบุกอะบิสซิเนีย
่
(เอธิโอเปี ย) โดยไม่ประกาศสงคราม และสามารถยึดกรุงแอดดิสอาบาบา
ได้ ซึงสมัชชาขององค์การสันนิบาตชาติได้ ลงมติประณามอิตาลีวาเป็ น
่
่
ฝ่ ายรุกราน และลงโทษอิตาลีโดยการงดติดต่อค้ าขายกับอิตาลี แต่ไม่ได้
ผลเพราะอิตาลีได้ รับการสนับสนุนจากเยอรมนี อีกทังอิตาลียงตอบโต้
้
ั
ด้ วยการลาออกจากการเป็ นสมาชิกขององค์การสันนิบาตชาติอีก
ด้ วย
- 33. องค์ การสันนิบาตชาติ (League of Nations)
การที่องค์ การสันนิบาตชาติเกิดความอ่ อนแอ
เนื่องมาจากการมีความคิดที่ไม่สอดคล้ องกับความเป็ นจริง
โดยมองว่าทุกประเทศมีผลประโยชน์ร่วมกัน
แต่ความจริ งแล้ วในช่วงเวลาหลังสงครามโลกครังที่ 1 แต่ละ
้
ประเทศคิดถึงแต่ผลประโยชน์เป็ นหลักสาคัญที่สด เหนือบทบาท
ุ
ขององค์การสันนิบาตชาติ ทาให้ องค์การสันนิบาตชาติไม่สามารถ
แก้ ไขปั ญหาได้ และประสบความล้ มเหลวตลอดมา จนกระทัง
่
องค์การสันนิบาตชาติสิ ้นสภาพในช่วงสงครามโลกครังที่ 2
้
- 34. องค์ การสันนิบาตชาติ (League of Nations)
จุดอ่ อนขององค์ การสันนิบาตชาติ
แม้ องค์การสันนิบาตชาติจะได้ ปฏิบติภารกิจสาเร็ จในช่วงต้ นๆ
ั
หลายกรณี แต่ตอมาก็ต้องประสบความล้ มเหลว ซึงน่าจะมีสาเหตุ
่
่
มาจากองค์ประกอบต่างๆดังนี ้
1.ประเทศมหาอานาจที่ย่ งใหญ่ ไม่ ได้ เป็ นสมาชิก กฎ
ิ
ข้ อบังคับขององค์การสันนิบาตชาติจะบังคับใช้ ได้ ผลก็เฉพาะ
ประเทศสมาชิกขององค์การนี ้หรือเป็ นแล้ วลาออกไป เช่น
สหรัฐอเมริ กา สหภาพโซเวียต เยอรมณี ญี่ปน อิตาลี
ุ่
- 35. องค์ การสันนิบาตชาติ (League of Nations)
จุดอ่ อนขององค์ การสันนิบาตชาติ
สหรัฐอเมริกา สภาคองเกรสไม่ยอมให้ สตยาบันที่จะให้
ั
สหรัฐอเมริ กาเป็ นสมาชิกขององค์การ
สหภาพโซเวียต หลังสงครามโลกครังที1 สหภาพโซเวียตเกิด
้ ่
ความวุนวายภายในประเทศเพิ่งเข้ าเป็ นสมาชิกขององค์การ
่
สันนิบาตชาติเมื่อ ค.ศ.1934
- 36. องค์ การสันนิบาตชาติ (League of Nations)
จุดอ่ อนขององค์ การสันนิบาตชาติ
เยอรมนี ได้ เข้ าเป็ นสมาชิกในค.ศ.1926 หลังจากการก่อตัง้
องค์การสันนิบาตชาติถึง6ปี เนื่องจากเยอรมนีเป็ นประเทศผู้แพ้
สงคราม ต้ องปฏิบติตามข้ อกาหนดเกี่ยวกับการเข้ าเป็ นสมาชิก
ั
และได้ ถอนตัวออกไปใน ค.ศ.1933 ก่อนที่สหภาพโซเวียตจะเข้ า
เป็ นสมาชิก1ปี
ญี่ปุ่น ถอนตัวออกไปใน ค.ศ.1933
อิตาลี ได้ ถอนตัวออกไปใน ค.ศ.1937
ตังแต่ ค.ศ.1937 ประเทศมหาอานาจที่ยงคงเป็ นสมาชิกตังแต่
้
ั
้
เริ่ มก่อตังจึงมีเพียงอังกฤษและฝรั่งเศสเท่านัน
้
้
- 37. องค์ การสันนิบาตชาติ (League of Nations)
จุดอ่ อนขององค์ การสันนิบาตชาติ
2.ประเทศมหาอานาจโจมตีประเทศอื่น มหาอานาจหลาย
ประเทศได้ ก่อความก้ าวร้ าว รุกรานประเทศอื่นเสียเอง ได้ แก่
ฝรั่งเศสและเบลเยี่ยม ได้ เข้ ายึดครองเหมืองแร่ถานหินใน
่
แคว้ นรูห์ ซึงเปรี ยบเสมือนเส้ นโลหิตใหญ่ของเยอรมณี แม้
่
อังกฤษประท้ วงก็ไม่สาเร็ จ ทังนี ้เนื่องจากเยอรมนีผ้ แพ้ สงคราม
้
ู
ไม่สามารถจ่ายค่าปฏิกรรมสงครามตามกาหนดได้ เยอรมนีจง
ึ
ตอบโต้ ด้วยการนัดหยุดงานทัวประเทศ และก่อวินาศกรรม
่
- 38. องค์ การสันนิบาตชาติ (League of Nations)
จุดอ่ อนขององค์ การสันนิบาตชาติ
ฝรั่งเศสให้ การสนับสนุนโปแลนด์ในการโจมตีลทวเนียเพื่อ
ิ ั
ยึดเมืองวิลนา เนื่องจากฝรั่งเศสและโปแลนด์ได้ เซ็นสัญญา
ใน ค.ศ.1921 ที่จะร่วมมือกันทุกเรื่ องเกี่ยวกับกิจการ
ต่างประเทศของคูสญญา
่ ั
อิตาลี ได้ โจมตีเกาะคอร์ ฟของกรีซโดยไม่ยอมรับบทบาทและ
ู
หน้ าที่ขององค์การสันนิบาตชาติ
- 39. องค์ การสันนิบาตชาติ (League of Nations)
จุดอ่ อนขององค์ การสันนิบาตชาติ
ดังนันแม้ วาจะมีองค์การสันนิบาตชาติ แต่เมื่อประเทศมหาอานาจ
้ ่
ต้ องการผลประโยชน์หรื อจะเสียประโยชน์ด้วยประการใดๆก็ตาม
มหาอานาจเหล่านี ้จะเพิกเฉยต่อบทบาทและหน้ าที่ขององค์การ
สันนิบาตชาติ หรื อลาออกจากการเป็ นสมาชิก ซึงองค์การสันนิบาต
่
ชาติก็ไม่สามารถปฏิบติการใดๆ อันเป็ นการโต้ ตอบต่อประเทศ
ั
เหล่านันได้ จึงนับว่าความล้ มเหลวขององค์การสันนิบาตชาติอีก
้
ประการหนึง
่
- 40. องค์ การสันนิบาตชาติ (League of Nations)
จุดอ่ อนขององค์ การสันนิบาตชาติ
การที่ประเทศต่างๆไม่ได้
ให้ ความร่วมมือในการดาเนินงาน
ขององค์การสันนิบาตชาติ ซึงมี
่
จุดมุงหมายที่จะนาสันติภาพมาสู่
่
มนุษยชาติ ทาให้ การดาเนินงาน
ขององค์การนี ้ไม่ประสบความสาเร็ จ
หลังจากการก่อตังองค์การสันนิบาต
้
ชาติมาได้ 20ปี สงครามโลกครังที2ก็
้ ่
อุบติขึ ้น
ั
- 42. องค์ การสหประชาชาติ
(United Nations)
เมื่อสงครามโลกครังที2สิ ้นสุดลง ฝ่ าย
้ ่
พันธมิตรได้ พยายามหาวิธีปองกันมิให้
้
สงครามเกิดขึ ้นอีก โดยดาเนินการดังนี ้
นายกรัฐมนตรีเซอร์ วินสตัน เชอร์ ชิลล์ แห่ง
อังกฤษ และประธานาธิบดีแฟรงกลิน ดี.
รูสเวลต์ แห่งสหรัฐอเมริกา ได้ ร่วมกัน
ประกาศกฎบัตรแอตแลนติก (Atlantic
Charter) บนเรื อรบออกัสตา (Augusta)
ของสหรัฐอเมริ กา ซึงจอดอยูนอกฝั่ งนิวฟั นด์
่
่
แลนด์เพื่อแสวงหาหลักปฏิบติในการรักษา
ั
สันติภาพของโลกในวันที่ 14 สิงหาคม
ค.ศ.1941
ประธานาธิบดีแฟรงกลิน
ดี.รู สเวลต์
แห่ งสหรัฐอเมริกา
- 45. องค์ การสหประชาชาติ
(United Nations)
ต่อมาประเทศต่างๆ รวม 26
ประเทศได้ ให้ คารับรองต่อกฎบัตร
แอตแลนติก และในการประชุมที่
กรุงมอสโก (Moscow
Conferrence) ซึงมีในสหรัฐอเมริกา
่
อังกฤษ สหภาพโซเวียต และจีนเป็ น
ผู้นา ก็ได้ ประกาศจัดตังองค์การ
้
รักษาสันติภาพขึ ้นในปี เดียวกัน
ต่อมาคารับรองเหล่านี ้ได้ กลายมา
เป็ นองค์การหลักแห่งความร่วมมือ
ระหว่างประเทศที่จะรักษา
สันติภาพของโลก โดยได้ ก่อตัง้
เป็ นองค์กรระหว่างประเทศ
เรี ยกว่า องค์การสหประชาชาติ
ขึ ้นเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ค.ศ.1945
- 48. องค์ การสหประชาชาติ
(United Nations)
ตราสั ญลักษณ์
ธงชาติสหประชาชาติ
สัญลักษณ์ที่ได้ รับการเสนอให้
เป็ นสัญลักษณ์ของสมัชชา
รัฐสภาแห่งสหประชาชาติ ซึง
่
เกี่ยวพันโดยตรงถึงการเลือกตัง้
ผู้แทนของประเทศโดยพลเมือง
ของประเทศนัน ๆ
้
- 49. องค์ การสหประชาชาติ
(United Nations)
สมาชิกภาพ
ปั จจุบน (ค.ศ.2007) องค์การ
ั
สหประชาชาตินี ้มีสมาชิกอยูทวโลก
่ ั่
รวม193ประเทศ ประเภทของสมาชิก
ภาพและเงื่อนไขการสมัครเข้ าเป็ น
สมาชิกขององค์การสหประชาชาติ มี
ดังนี ้
1.ประเภทของสมาชิก สมาชิก
ขององค์การสหประชาชาติม2ประเภท
ี
คือ
1) สมาชิกดังเดิม ได้ แก่ รัฐซึงเข้ าร่วม
้
่
ประชุมองค์การสหประชาชาติวา
่
ด้ วยองค์การระหว่างประเทศที่นคร
แซนแฟรนซิสโก สหรัฐอเมริ กา และ
ร่วมกันลงนามในกฎบัตร
สหประชาชาติเมื่อวันที่ 26มิถนายน
ุ
ค.ศ.1945 โดยมีรัฐเข้ าร่วมประชุม
เพื่อจัดตังองค์การสหประชาชาติ50
้
ประเทศ (กฎบัตรมีผลบังคับใช้ ใน
วันที่24ตุลาคม ค.ศ.1945 จึงถือว่า
วันที่ 24 ตุลาคมของทุกปี เป็ นวัน
สหประชาชาติ)
- 50. องค์ การสหประชาชาติ
(United Nations)
สมาชิกภาพ
2) สมาชิกที่สมัครเข้ าภายหลัง ได้ แก่
ประเทศทีมคณสมบัตตามที่ไกด้ กาหนด
่ ี ุ
ิ
ไว้ ในกฎบัตรสหประชาชาติ และสมัคร
เข้ าเป็ นสมาชิกภาพหลัง ซึงจะต้ องมี
่
คุณสมบัตตามเงื่อนไข
ิ
2.เงื่ อนไขการเข้ าเป็ นสมาชิก
องค์ การสหประชาชาติจะรับประเทศ
ต่างๆเข้ าเป็ นสมาชิกโดยพิจารณาจาก
เงื่อนไขต่อไปนี ้
1) เป็ นประเทศที่รักสันติภาพ และ
ยอมปฏิบติตามข้ อตกลงที่
ั
สหประชาชาติตงไว้
ั้
2) เป็ นประเทศที่ยอมรับฟั งความ
คิดเห็น และคาตัดสินต่างๆของ
สหประชาชาติในกรณีที่เกิดข้ อ
พิพาทหรื อขัดแย้ งกัน
3) ต้ องได้ รับคะแนนเสียงจานวน
2ใน3ของสมัชชาใหญ่ โดยมีคณะ
มนตรีความมันคงประกาศรับเป็ น
่
สมาชิกใหม่
- 55. ภายในที่ประชุมคณะมนตรี
ความมั่นคงแห่ งสหประชาชาติ
2.คณะมนตรี ความมันคง (Security
่
Council) เป็ นองค์กรหลักที่มีหน้ าที่
จัดการในเรื่ องความมันคงและตัดสิน
่
วินิจฉัยข้ อพิพาทขัดแย้ งของประเทศ
สมาชิก หรื อถ้ าประเทศใดก็ตามที่
ไม่ได้ เป็ นสมาชิกขององค์การ
สหประชาชาติจะเสนอเกี่ยวกับกรณี
พิพาทที่คกคามต่อสันติภาพของโลก
ุ
ต่อคณะมนตรี ความมันคงเพื่อ
่
พิจารณาก็ยอมทาได้
่
- 56. องค์ การสหประชาชาติ
(United Nations)
การดาเนินงาน
3.คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม
(Economic and Social Council)
เป็ นองค์กรหลักทางด้ านการแก้ ปัญหา
และรับผิดชอบทางด้ านเศรษฐกิจ
สังคม วัฒนธรรม และสิทธิมนุษยชน
ตลอดจนด้ านการพัฒนาต่างๆที่
สมัชชาใหญ่มอบหมาย ประกอบด้ วย
ประเทศสมาชิกทังหมด 54 ประเทศ
้
ซึงได้ รับเลือกจากสมัชชาใหญ่แห่ง
่
สหประชาชาติวาระละสามปี ส่วน
ประธานมีวาระหนึงปี และได้ รับเลือก
่
จากประเทศขนาดเล็กหรื อขนาด
กลางเพื่อเป็ นผู้แทนของคณะมนตรี
เศรษฐกิจและสังคมแห่ง
สหประชาชาติ คณะมนตรี เศรษฐกิจ
และสังคมแห่งสหประชาชาติจดการ
ั
ประชุมขึ ้นทุกปี เมื่อถึงเดือน
กรกฎาคม เป็ นเวลาสีสปดาห์ แต่
่ ั
หลังจากปี ค.ศ.1998 เป็ นต้ นมา
และมีผลงานมากที่สดในองค์การ
ุ
สหประชาชาติ
- 57. องค์ การสหประชาชาติ
(United Nations)
การดาเนินงาน
4.คณะมนตรี ภาวะทรัสตี
(Trusteeship Council) เป็ น
องค์กรทีมความรับผิดชอบ
่ ี
ทางด้ านการปกครองดูแล
ประเทศทีอยูใสภาวะทรัสตี คือ
่ ่
ประเทศทียงไม่ได้ รับเอกราชที่
่ ั
สมบูรณ์
ซึงองค์การสหประชาชาติต้องให้
่
ความคุ้มครองดูแล นับตังแต่
้
ค.ศ.1957 ถึง ค.ศ.1968 ดินแดนที่
อยูในภาวะทรัสตีมี 11 แห่ง ใน
่
ค.ศ.1997 มีเพียงหมูเ่ กาะใน
มหาสมุทรแปซิฟิกภายใต้ การ
ปกครองดูแลของสหรัฐอเมริ กา
เท่านัน และหมูเ่ กาะเหล่านี ้ได้ รับ
้
เอกราชปกครองตนเองหมดแล้ ว
ตังแต่ ค.ศ.1999
้
- 58. องค์ การสหประชาชาติ
(United Nations)
การดาเนินงาน
5.ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ
(International Court of Justice)
หรื อเรี ยกว่าศาลโลก เป็ น
องค์กรณ์ทางด้ านตุลาการของ
องค์การสหประชาชาติ
ประกอบด้ วยผู้พิพากษาจานวน
15 คน
ศาลยุตธรรมระหว่างประเทศถูกก่อตัง้
ิ
ขึ ้นเมื่อปี ค.ศ. 1945 เริ่ มทาหน้ าที่ใน
ปี ค.ศ.1946 แทนศาลยุตธรรมถาวร
ิ
ระหว่างประเทศ อนุสาวรีย์ของศาล
ยุติธรรมระหว่างประเทศ ซึงคล้ ายกับ
่
ศาลยุตธรรมถาวรระหว่างประเทศ
ิ
ก่อนหน้ า คือ ข้ อความรัฐธรรมนูญที่
วางระเบียบของศาลยุตธรรมระหว่าง
ิ
ประเทศ ศาลนี ้มีสานักงานตังอยูที่กรุง
้ ่
เฮก ประเทศเนเธอร์ แลนด์
- 60. องค์ การสหประชาชาติ
(United Nations)
การดาเนินงาน
6.สานักเลขาธิการ (Secretariat)
เป็ นองค์กรที่มเี จ้ าหน้ าที่ประจา มี
เลขาธิการเป็ นหัวหน้ า เลขาธิการคน
ปั จจุบนคือ บัน คีมน (Ban Kiั
ู
moon) ซึงเป็ นชาวเกาหลีใต้ ได้ รับ
่
เลือกให้ ดารงตาแหน่ง มีวาระ5ปี
ตังแต่ ค.ศ.2007
้
นับเป็ นเลขาธิการสหประชาชาติคน
ที8 และเป็ นชาวเอเชียคนที2 ที่ได้ รับ
่
่
ตาแหน่งนี ้ ส่วนผู้ดารงตาแหน่งรอง
เลขาธิการสหประชาชาติคนปั จจุบน
ั
คือ มาร์ ค มัลลอร์ ช บราวน์ ซึงโดย
่
ปกติจะลาออกพร้ อมกับการหมด
วาระของเลขาธิการสหประชาชาติ
เพื่อเปิ ดทางให้ เลขาธิการคนใหม่
แต่งตังรองเลขาธิการคนต่อไปด้ วย
้
ตนเอง
- 63. องค์ การสหประชาชาติ
(United Nations)
การดาเนินงาน
7.หน่วยงานพิเศษ
นอกจาก 5 ส่วนหลักของสหประชาชาติแล้ ว
ยังมีหน่วยงานพิเศษของสหประชาชาติที่ทา
หน้ าที่แตกต่างออกไป อย่างเช่น องค์การ
อนามัยโลก
ซึงเป็ นไปตามกาหนดของกฎบัตร
่
สหประชาชาติวา หน่วยงานหลักของ
่
สหประชาชาติสามารถก่อตังหน่วยงานพิเศษ
้
ขึ ้นมาเพื่อเติมเต็มการทาหน้ าที่ของตัวเองได้
สัญลักษณ์ องค์ การอนามัยโลก
สานักงานใหญ่ องค์ การอนามัยโลก
ณ กรุงเจนีวา ประเทศ
สวิตเซอร์ แลนด์
- 64. องค์ การสหประชาชาติ
(United Nations)
ผลการปฏิบัตงาน
ิ
องค์การสหประชาชาติได้ แสดงบทบาท
และปฏิบติงานด้ านต่างๆได้ สาเร็จลุลวง
ั
่
หลายประการดังนี ้
1.ด้ านความขัดแย้ ง องค์การ
สหประชาชาติได้ จดการเจรจาแก้ ไข
ั
ปั ญหา หรื อบางครังก็ใช้ กองกาลังเข้ าไป
้
สนับสนุนในการแก้ ไขปั ญหาในกรณี
พิพาท หรื อความขัดแย้ งเกี่ยวกับเรื่ อง
เชื ้อชาติ
ลัทธิทางการเมือง หรื อดินแดน
ภายในประเทศหรื อระหว่างประเทศ
ได้ สาเร็ จลุลวงหลายกรณีเช่น ปั ญหา
่
สงครามในคาบสมุทรเกาหลี ปั ญหา
สงครามระหว่างอาหรับและ
อิสราเอลซึงเกิดขึ ้นหลายครัง ปั ญหา
่
้
สงครามกลางเมืองในไซปรัส ปั ญหา
สงครามแคว้ นคาตังกาในคองโก
ปั ญหาอิรักยึดครองคูเวต และยังมี
ปั ญหาที่องค์การสหประชาชาติกาลัง
ดาเนินการแก้ ไขอยูในปั จจุบน เช่น
่
ั
ปั ญหาความขัดแย้ งในโซมาเลีย
ปั ญหาแคว้ นแคชเมียร์ ระหว่าง
อินเดียและปากีสถาน
- 65. องค์ การสหประชาชาติ
(United Nations)
ผลการปฏิบัตงาน
ิ
2.ด้ านการลดอาวุธ การที่สมาชิก
องค์การสหประชาชาติซงส่วนใหญ่เป็ น
ึ่
ประเทศขนาดเล็กและขนาดกลางได้ ยก
ปั ญหาที่เกิดขึ ้นเนื่องจากประเทศใหญ่
หรื อประเทศมหาอานาจได้ สะสมกอง
กาลังอาวุธไว้ เป็ นจานวนมาก ย่อมทาให้
เกิดความตึงเครี ยดซึงอาจก่อให้ เกิด
่
สงครามและขาดความมันคงปลอดภัยขึ ้น
่
องค์การสหประชาชาติก็ได้ ตระหนัก
ในปั ญหานี ้จึงได้ จดให้ มีการเจรจา
ั
เพื่อลดและควบคุมการใช้ อาวุธขึ ้น
โดยเฉพาะอาวุธนิวเคลียร์ ของสอง
ประเทศมหาอานาจและได้ มการ
ี
จัดทาสนธิสญญาเกี่ยวกับการลด
ั
และควบคุมอาวุธขึ ้นหลายฉบับ เช่น
สนธิสญญาจากัดอาวุธนอกพิภพ
ั
สนธิสญญาห้ ามทดลองอาวุธ
ั
นิวเคลียร์ สนธิสญญาห้ าม
ั
ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ ในลาติน
อเมริ กา สนธิสญญาว่าด้ วยอาวุธ
ั
แบคทีเรียและสารพิษ
- 66. องค์ การสหประชาชาติ
(United Nations)
ผลการปฏิบัตงาน
ิ
3.ด้ านเศรษฐกิจและสังคม องค์การ
สหประชาชาติได้ สงเสริ มและสนับสนุน
่
เพื่อพัฒนาความก้ าวหน้ าทาง
เศรษฐกิจและสังคมทังด้ านเงินทุนและ
้
บุคลากร โดยให้ ความช่วยเหลือแก่
ประเทศกาลังพัฒนาเกี่ยวกับเรื่องการ
พัฒนาคุณภาพประชากร การอนุรักษ์
ทรัพยากรและสิงแวดล้ อม การพัฒนา
่
อุตสาหกรรมและเทศโนโลยี
การให้ สทธิพเิ ศษทางการค้ าโดยผ่าน
ิ
ทบวงการชานาญพิเศษ หรื อองค์กรณ์
ต่างๆ เช่น ธนาคารโลก(World Bank)
การประชุมสหประชาชาติวาด้ วยการค้ า
่
และการพัฒนา(UNCTAD) องค์การ
การค้ าโลก(WTO) องค์การพัฒนา
อุตสาหกรรมของสหประชาชาติ
(UNIDO) องค์การอาหารและเกษตร
แห่งสหประชาชาติ(FAO) กองทุนเพื่อ
กิจกรรมประชากรแห่งสประชาชาติ
(UNFPA) กองทุนสงเคราะห์เด็กแห่ง
สหประชาชาติ(UNICEF) สานักงาน
ข้ าหลวงใหญ่
ผู้ลี ้ภัยแห่งสหประชาชาติ(UNHCR)
- 69. องค์ การสหประชาชาติ
(United Nations)
ผลการปฏิบัตงาน
ิ
4.ด้ านสิทธิมนุษยชน องค์การ
สหประชาชาติเป็ นองค์กรกลางทีจะต่อสู้
่
และรักษาไว้ ซงสิทธิและอิสรภาพขัน
ึ่
้
พื ้นฐานของมนุษย์ที่ไม่เลือกเชื ้อชาติ ภาษา
ศาสนา และเพศ โดยผ่านทาง
คณะกรรมการว่าด้ วยสิทธิมนุษยชน
(Commission on Human Rights) และ
กาหนดให้ วนที่ 10 ธันวาคมของทุกปี เป็ น
ั
วันสิทธิมนุษยชนโลก
เพื่อส่งเสริ มสิทธิของมนุษย์ทวโลกให้ มี
ั่
ความเท่าเทียมกันทางด้ านเสรี ภาพ ความ
ปลอดภัย ความเสมอภาค และสิทธิในการ
ร่วมสมาคม การทางาน การพักผ่อน การใช้
เวลาว่าง และการศึกษา
เอเลนอร์ โรสเวลต์ กับปฏิญญา
สากลว่ าด้ วยสิทธิมนุษยชน ใน
ปี ค.ศ. 1949
- 70. องค์ การสหประชาชาติ
(United Nations)
ผลการปฏิบัตงาน
ิ
5.ด้ านกฎหมาย องค์การ
สหประชาชาติได้ จดร่างกฎหมาย
ั
ระหว่างประเทศขึ ้นหลายฉบับทังนี ้
้
เพื่อรักษาความยุตธรรม ความเข้ าใจ
ิ
อันดี และการรักษาผลประโยชน์ของ
ประชาชาติ ซึงจัดดาเนินการโดย
่
คณะกรรมการเฉพาะกิจที่กาหนดขึ ้น
จากการประชุมสมัชชาใหญ่และศาล
โลก
เช่น กฎหมายทางทะเล กฎหมายว่า
ด้ วยความสัมพันธ์ทางการทูต
กฎหมายว่าด้ วยการค้ าระหว่าง
ประเทศ กฎหมายว่าด้ วยแรงงาน
ระหว่างประเทศ นอกจากนี ้ศาลโลก
แห่งสหประชาชาติยงได้ พจารณา
ั ิ
พิพากษาคดีปัญหาระหว่างประเทศ
หลายปั ญหาเช่น กรณีเขาพระวิหาร
ระหว่างไทยกับกัมพูชา กรณีนา
มิเบียที่ถกสาธารณรัฐแอฟริ กาใต้
ู
ยึดครอง
- 72. องค์ การสหประชาชาติ
(United Nations)
ผลการปฏิบัตงาน
ิ
6.ด้ านความเป็ นเอกราชของ
ประเทศ ดินแดนทีอยูในความดูแล
่ ่
ของคณะมนตรี ภาวะทรัสตีแห่ง
สหประชาชาติได้ รับการปลดปล่อย
เป็ นเอกราชเพื่อการปกครองตนเอง
หลายประเทศเช่น โตโก แคเมอรูน
นาอูรู ปาปั วนิวกีนี
องค์การสหประชาชาตินบเป็ น
ั
องค์กรระหว่างประเทศที่ประสบ
ความสาเร็จมากกว่าองค์การระหว่าง
ประเทศใดๆทังนี ้เนื่องจากประเทศ
้
ส่วนใหญ่ในโลกต่างยอมรับหลักการ
และร่วมมือปฏิบติตามด้ วยดี หาก
ั
องค์กรนี ้ต้ องยุติหรื อล่มสลายลง
สงครามโลกก็คงจะเกิดขึ ้นอีก และจะ
ก่อให้ เกิดความเสียหายทังชีวตและ
้ ิ
ทรัพย์สนมากกว่าสงคราใดๆในอดีต
ิ