More Related Content
More from Surasek Tikomrom (6)
กลุ่ม 4
- 2. การสืบพันธุ์ของปลา
สิ่งที่มีชีวตทังหลายเมื่อมีการเจริญเติบโตเต็มวัยแล้ ว ก็จะมีการสืบพันธุ์ ทังนี เพื่อให้
ิ ้ ้ ้
สิ่งซึ่งมีชีวตเหล่ านัน สามารถคงอยู่ และรั กษาพืชพันธุ์ของมันสืบต่ อไป ภายใต้ สภาวะ
ิ ้
ที่เหมาะสมแก่ การ ดารงชีวตของสิ่งที่มีชีวตนันๆ แต่ ในขณะเดียวกัน หากมีสาเหตุ
ิ ิ ้
ที่ก่อให้ เกิดการเปลี่ยนแปลงใน เจอร์ มปลาซึม (germ plasm) ของสิ่งที่มีชีวตนันๆ ิ ้
และการเปลี่ยนไปนันยังคงทนในการถ่ ายทอด ก็อาจจะทาให้ เกิดสิ่งที่มีชีวตแบบใหม่
้ ิ
ขึนมา ซึ่งผิดแผกไปจากเดิมได้
้
- 3. สาหรับปลาก็มีระบบการเช่ นเดียวกัน ในระยะแรกๆ ของการเจริญเติบโต อาหารที่ปลากินเข้ า
ไป จะช่ วยในการเจริญเติบโตของปลาเป็ นส่ วนใหญ่ ต่ อเมื่อปลาโตเต็มวัยแล้ ว ส่ วนใหญ่ ของอาหาร
ที่กนเข้ าไป จะไปช่ วยในการเจริญเติบโตของอวัยวะเพศ (gonads) ซึ่งเราเรียกว่ า ถุงนาเชือ
ิ ้ ้
(testes) ในปลาตัวผู้ และรังไข่ (ovary) ในปลาตัวเมีย
โดยปกติปลาแต่ละตัวมีอวัยวะเพศแยกจากกัน แต่ก็ยงมีปลาบางจาพวก เช่น ปลาในวงศ์
ั
ปลากะรัง (Serranidae) บางชนิดมีอวัยวะเพศผู้และเพศเมียในตัวเดียวกัน
(protandic hermaphrodite) ได้ พบว่าในปลาจาพวกนี ้ ปลาตัวเดียวกัน
ในระยะแรกอาจเป็ นเพศผู้ก่อน แต่ในระยะต่อมาจะ เปลี่ยนเพศ (sex reversal)
เป็ นเพศเมีย ปลาบางชนิดอาจออกลูกได้ โดยไม่มีการผสมระหว่างน ้าเชื ้อและไข่ โดยลักษณะ
การเช่นนี ้เราเรี ยกว่า ปาร์ เธโนเจนิซส (parthenogenesis) เราพบลักษณะดังกล่าว
ิ
ในปลาจาพวกกินยุง (Poecilidae) บางชนิด อย่างไรก็ดี ในการสืบพันธุ์ของปลาดังกล่าว
จาต้ องมีตวผู้เข้ าร่วมด้ วย แต่อสุจิ (sperm) ของตัวผู้ไม่ได้ มีสวนร่วมในการผสมกับไข่
ั ่
หากแต่เพียงไปกระตุ้นไข่ ให้ เจริญเติบโตเท่านัน ปลาเหล่านี ้จึงออกลูกเป็ นตัวเมียทังหมด
้ ้
และไม่แสดงลักษณะอย่างหนึงอย่างใดของปลาตัวพ่อเลย
่
- 4. เราไม่สามารถมองเห็นความแตกต่าง ระหว่างอวัยวะเพศผู้และเพศเมีย ขณะเมื่อปลายังอยู่
ในวัยอ่อน แต่เมื่อปลาเจริญเติบโตขึ ้นมาระยะหนึงแล้ ว เราจึงจะสามารถสังเกตเพศจาก
่
อวัยวะดังกล่าวได้ ถุงน ้าเชื ้อมีลกษณะเป็ น แถบสีขาวขุ่น ๑ คู่ อยูทางส่วนบนของท้ องใต้ ไต
ั ่
ของปลา แถบนี ้จะมีความหนาขึ ้นเป็ นลาดับ เมื่อปลาเกือบจะสืบพันธุ์ได้ และในฤดูสืบพันธุ์
อาจมีน ้าหนักมากกว่า ๑๒ เปอร์ เซ็นต์ ของน ้าหนักตัวปลา ปลาที่มีอวัยวะเพศสมบูรณ์ เต็มที่
ในขันสุกไหล (running ripe) ถ้ าเราเอามือบีบเบาๆ ที่บริเวณท้ องปลา แล้ วค่อยๆ รูด
้
ไปทางด้ านหลังของตัวปลา น ้าอสุจิจะเคลื่อนออกมาทันที น ้าอสุจิในปลาทัวไปมีสีขาวขุ่น
่
คล้ ายน ้านม เมื่อนาเอาตัวอย่างอสุจิ มาตรวจดูด้วยกล้ องจุลทรรศน์ จะเห็นว่า ตัวอสุจิมี
ลักษณะคล้ ายตัวอสุจิของสัตว์ชนสูง และจะไม่คอยเคลื่อนไหว แต่ถ้าหากหยดน ้าลงไปใน
ั้ ่
ตัวอย่างอสุจิ จะปรากฏว่า ตัวอสุจิเริ่มมีชีวิตชีวาทันที และเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว แต่อย่างไร
ก็ตามตัวอสุจิจะกระปรี กระเปร่าอยูในระยะเวลาอันสัน คือ ประมาณ ๑๐ วินาทีถง ๖๐ วินาที
้ ่ ้ ึ
แล้ วแต่ชนิดของปลา และจะหยุดนิ่งไม่เคลื่อนไหวอีก
- 5. สาหรับรังไข่ ก็มีตาแหน่งที่ตงอยูในบริเวณเดียวกับถุงน ้าเชื ้อและมักเป็ นอวัยวะคู่ เราจะเห็น
ั้ ่
รังไข่ในระยะแรกของการเจริญเติบโต เป็ นเพียงแถบสีขาวขุ่น แต่ถ้าดูด้วยแว่นขยายจะเห็น
ว่าผิว ของรังไข่ไม่เรี ยบเหมือนถุงน ้าเชื ้อ แต่เป็ นเม็ดเล็กๆ เมื่อรังไข่เจริญเติบโตเต็มที่แล้ ว
จะมีขนาดใหญ่มาก และอาจมีน ้าหนักถึง ๗๐ เปอร์ เซ็นต์ของน ้าหนักตัวปลาในปลาบางชนิด
ส่วนสีของรังไข่ แทนที่จะเป็ นสีขาวขุ่นก็อาจจะเปลี่ยนเป็ นสีเหลือง หรื อสีส้มขณะที่รังไข่มี
ไข่สกเต็มที่
ุ
- 6. ปริมาณไข่ที่ปลาวางในฤดูหนึงๆ มีจานวนไม่เท่ากันขึ ้นอยูกบชนิดของปลา ปลาพระ อาทิตย์
่ ่ ั
(Mola mola) ซึงเป็ นปลาที่อาศัยอยูในมหาสมุทร มีไข่ขนาดเล็กมาก ในฤดูหนึงๆ ปลา
่ ่ ่
ชนิดนี ้ อาจวางไข่มากกว่า ๓๐ ล้ านฟอง ตรงข้ ามกับปลาฉลาม ซึงเป็ นปลาที่มีไข่ขนาดใหญ่
่
ใน ฤดูวางไข่ฤดูหนึงอาจวางไข่เพียง ๓-๔ ฟองเท่านัน หน่วยงานอนุรักษ์ ปลาผิวน ้า
่ ้
สถานวิจยประมงทะเล ของกรมประมง ได้ เคยทาการศึกษาความดกของไข่ปลาทูในอ่าวไทย
ั
ในระยะหลายปี ที่แล้ วมา และได้ ประเมินความดกของไข่ปลาทูไว้ วา อยูในระหว่าง ๕๐,๐๐๐
่ ่
ถึง ๒๐๐,๐๐๐ ฟอง ทังนี ้ขึ ้นอยูกบขนาดของแม่ปลาที่วางไข่ ปลาน ้าจืดในบ้ านเราหลายชนิด
้ ่ ั
ซึงปลาตัวพ่อหรื อตัวแม่ระวังและดูแลรักษาไข่ในระยะฟั กตัว ออกไข่น้อยกว่าปลาทะเล
่
ดังกล่าวข้ างต้ นมาก ปลากัดอาจวางไข่เพียง ๒๐๐-๓๐๐ ฟองในหนึงปี จึงอาจสรุปได้ วา
่ ่
ปลาที่ออกไข่มากที่สดส่วนใหญ่ ได้ แก่ ปลาทะเล ซึงพ่อแม่ปลามักไม่ดแลรักษาไข่ แต่จะ
ุ ่ ู
ปล่อยให้ ลองลอยไปตามกระแสน ้า พวกต่อมาเป็ นปลาที่วางไข่ให้ เกาะติดตามสาหร่าย
่
หรื อพืชน ้า ส่วนปลาที่ระวังรักษาหรื อซ่อนไข่มีความดกของไข่น้อยที่สดุ
- 8. ในฤดูสืบพันธุ์ของปลาแต่ละชนิด สาเหตุที่กระตุ้นให้ ปลาเริ่มทาการสืบพันธุ์ ได้ แก่
สภาพแวดล้ อมที่เหมาะสมกับการดารงชีวิตของลูกปลาที่จะฟั กเป็ นตัวออกมา ใน
การศึกษาเกี่ยวกับประ ชากรของปลาทูในอ่าวไทย พบว่า ลูกปลาวัยอ่อน อาจมี
ความสัมพันธ์กบปริมาณของแพลงก์ตอน ที่มีมากที่สดในรอบปี เช่น ในบริเวณ
ั ุ
อ่าวไทยตอนใน ในระหว่างเดือนมีนาคม-กันยายน ทุกปี สาหรับปลาบางชนิด
การวางไข่จะอยูในระยะเวลาที่การเจริญเติบโตของศัตรู ซึงเป็ นตัวทาลายไข่
่ ่
หรื อลูกปลา อยูในระดับต่า ปลาทะเลส่วนใหญ่จะวางไข่ในเวลากลางคืนหรื อเช้ ามืด
่
สาหรับปลาทูในอ่าวไทย เราพบว่า ไข่สกไหลในฤดูสืบพันธุ์ มีปริมาณสูงในเวลาพลบค่า
ุ
หรื อกลางคืน ซึงอาจจะเป็ นสาเหตุอนหนึงที่ช่วยให้ ไข่ที่สามารถฟั กตัวได้ ในระยะเวลาอันสัน
่ ั ่ ้
รอดพ้ นอันตรายจากการกระทาของศัตรู เพราะในเวลากลางคืน โอกาสที่ศตรู ั
จะมองเห็นไข่ ซึงโปร่งใส และมีขนาดเล็ก เช่น ไข่ปลาทูมีน้อยมาก
่
- 9. ปลาในเขตร้ อนแถบบ้ านเรา เช่น ปลาทู จะออกไข่
เป็ นระยะเวลายาวนานถึง ๖ เดือน โดยค่อยๆ วางไข่เป็ น
รุ่นๆ (fractional spawning) ทังนี ้ นักวิทยาศาสตร์
้
ได้ ลงความเห็นว่า การทาเช่นนี ้ ก็เนื่องจากว่า ธรรมชาติต้องการ
ให้ ลกปลา ที่ออกมา มีอาหารพอเพียง เพราะในเขตร้ อนการ
ู
เปลี่ยนแปลงสภาวะแวดล้ อมมีไม่มากนัก การงอกงามของอาหาร
ปลาในธรรมชาติจงเป็ นไปตาม ปกติ ส่วนในเขตอบอุนหรื อเขตหนาว
ึ ่
ซึงการเจริญงอกงามของอาหารปลาในธรรมชาติมีได้ เพียง ระยะเดียวในรอบปี
่
คือ ในระยะระหว่างฤดูใบไม้ ผลิ-ฤดูร้อน ปลาในเขตดังกล่าวส่วนใหญ่จงมีฤดู
ึ
วางไข่สนเพียง ๑-๒ เดือนเท่านัน และส่วนใหญ่วางไข่ทีเดียวหมดในฤดูวางไข่ มิได้ วางเป็ น
ั้ ้
รุ่นๆ เหมือนปลาทะเลในเขตร้ อน
- 11. เราอาจจะแบ่งปลาซึงมีพฤติกรรมในการวางไข่ตางๆ กันออกเป็ นประเภทใหญ่ๆ ดังนี ้
่ ่
ก) พวกที่ปลาตัวแม่วางไข่ในน ้า แล้ วปลาตัวพ่อฉีดน ้าเชื ้อออกมา และไข่ได้ รับการผสม
จากน ้าเชื ้อทันที หลังจากนันแล้ ว ปลาพ่อแม่ไม่ดแลรักษาไข่เลย ปลาจาพวกนี ้ ได้ แก่
้ ู
ปลาทะเล ส่วนใหญ่ เช่น ปลาทู ปลาโอ ปลาอินทรี ฯลฯ เป็ นต้ น ไข่ที่แม่ปลาเหล่านี ้วาง
มักมีขนาดเล็ก มีเป็ นจานวนมากและเป็ นไขประเภทลอยน ้าโดยมีลกษณะโปร่งใส
ั
- 12. ข) ปลาที่วางไข่ติดบนสาหร่ายหรื อพืชน ้า ได้ แก่ ปลาน ้าจืดเป็ นส่วนใหญ่ เช่น ปลาไน ปลาจีน ฯลฯ
ค) ปลาจาพวกที่พอหรื อแม่ปลาทารังเพื่อวางไข่ แต่ไม่อาจดูแลระวังและรักษาไข่ตอไปได้ เช่น
่ ่
ปลาแซลมอน หรื ออาจจะดูแลรักษาจนกระทังไข่ฟักออกมาเป็ นตัว เช่น ปลากัด ปลา สลิด
่
ปลากระดี่ โดยตัวผู้ก่อหวอดแล้ วอมไข่ไปพ่นเก็บไว้ ที่หวอด และดูแลรักษาจนไข่ฟักออก มาเป็ นตัว
ง) พวกที่เก็บรักษาไข่ไว้ ในปากหรื อตามร่างกาย เช่น ปลาอมไข่ (Apogonidae)
ปลากดทะเล (Tachysuridae) ตัวผู้ รวมทังปลาหมอเทศ หรื อปลานิล (Tilapia spp.
้
) ตัวเมีย ปลาม้ าน ้าตัวผู้ มีถงเก็บไข่ไว้ ที่หน้ าท้ อง
ุ
จ) ปลาที่ออกลูกเป็ นตัว เช่น ปลากินยุง และปลาเข็ม เป็ นต้ น
- 13. การเจริญเติบโตของไข่ขึ ้นอยูกบสภาวะแวดล้ อม เช่น ก๊ าซละลายในน ้า ศัตรูหรื ออุณหภูมิ
่ ั
แต่สาเหตุที่สาคัญ ได้ แก่ อุณหภูมิ จากผลของการศึกษาของหน่วยงานอนุรักษ์ ปลาผิวน ้า
สถานวิจย ประมงทะเล กรมประมง ปรากฏว่า ในการทดลองผสมเทียมของปลาทู
ั
ไข่ปลาทูที่ได้ รับการ ผสมกับน ้าเชื ้อของปลาตัวผู้แล้ ว จะฟั กออกมาเป็ นตัวเร็วขึ ้นโดยใช้ เวลา
๒๓ ชัวโมง ที่อณหภูมิ ของน ้าประมาณ ๒๗.๒ องศาเซลเซียส และจะต้ องใช้ เวลานาน
่ ุ
ประมาณ ๒๗ ชัวโมง หากอุณหภูมิ ลดลงมาเป็ น ๒๔.๔ องศาเซลเซียส
่
- 14. หลังจากที่ไข่ได้ ฟักออกมาเป็ นตัวแล้ ว ตัวอ่อนของปลายังไม่หาอาหารทันที แต่จะใช้ อาหารเ
ดิมซึงสะสมไว้ ในไข่แดงที่ติดกับตัวมันจนหมดก่อน แล้ วจึงเริ่มหาอาหารตามธรรมชาติ ต่อไป
่
ในระยะที่ลกปลาเปลี่ยนวิธีการหาและกินอาหาร อัตราการตายของลูกปลาในระยะนี ้จะสูง
ู
มาก หากมิได้ รับอาหารที่เหมาะสม เช่น ในบางปี ลูกปลาถูกกระแสน ้าพัดออกไปนอกฝั่ ง
สูบริเวณ ที่มีอาหารน้ อย ดังนัน ลูกปลาในปี นันจะเหลือน้ อยมากและอาจทาให้ ประชากร
่ ้ ้
ของปลาในปี ต่อไป ที่อยูในข่ายของการประมงลดลง
่
- 16. ก. ภาพถ่ายของไข่ปลาทูที่เริ่มมีการแบ่งเซลล์ภายหลังที่ได้ รับการ ผสมของน ้าเชื ้อจากตัวผู้
ข. ข. ภายหลังจากการผสมกับน ้าเชื ้อ ๒ ชัวโมง ไข่มี ๖๔ เซลล์
่
ค. ภายหลังจากการผสมกับน ้าเชื ้อ ๑๓ ชัวโมง ปรากฏว่าตัวอ่อน เริ่มมีการเจริญเติบโตของเบ้ าน
่
ง. ภายหลังจากการผสมกับน ้าเชื ้อ ๒๑ ชัวโมง ส่วนหางตัวอ่อนหลุดเป็ นอิสระ จากไข่แดง
่
จ. ตัวอ่อนที่เพิ่งฟั กออกมาจากไข่ใหม่ๆ ๒๕ ชัวโมง หลังจากที่ไข่ ได้ รับการผสมจากน ้าเชื ้อ
่
ได้ มีนกวิทยาศาสตร์ ชาวอเมริกนทาการศึกษาอัตราการตายของปลาในสกุลใกล้ เคียงกับ
ั ั
ก. ปลา- ทู (Scomber spp.) ในมหาสมุทรแอตแลนติก ปรากฏว่าในระยะเป็ นไข่และ
ข. ลูกปลาวัยอ่อน อัตรา การตายตามธรรมชาติจะสูงถึง ๙๙.๙๙ เปอร์ เซ็นต์ ซึงหมายความ่
ค. ว่าหลังจากระยะนี ้ผ่านพ้ นไปแล้ ว จะเหลือลูกปลาเจริญเติบโตต่อไปเพียง ๒-๓ ตัวเท่านัน ้
ง. จากไข่ประมาณ ๒๐,๐๐๐-๕๐,๐๐๐ ฟอง ที่แม่ปลาชนิดนี ้วางไข่ในฤดูหนึง ่
จ. ไข่ปลาทะเล ส่วนใหญ่มีขนาดเล็ก โปร่งใสและลอยน ้า (pelagic eggs)
ฉ. การที่ไข่ลอยน ้าได้ อาจเนื่องจากมีจดน ้ามัน หรื อไข่มีเปลือกบาง และมีช่อง ระหว่าง
ุ
ช. ตัวอ่อนและเปลือกไข่ (perivitelline space) กว้ างหรื อมีเมือก ซึงทาให้ ความ
่
ซ. ถ่วงจาเพาะใกล้ เคียงกับน ้าที่ไข่ลอยอยู่ ในภาพเป็ นภาพถ่าย ขยายของไข่ปลาทู
ฌ. ซึงมีขนาดเส้ นผ่านศูนย์กลางประมาณ ๘๖๐ ไมครอน (๐.๘๖ มิลลิเมตรนี ้ทดลอง
่