More Related Content
Similar to Chapter 5 (20)
More from Success SC Slac
More from Success SC Slac (20)
Chapter 5
- 1. บทที่ 5
สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ
การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ เป็นการพัฒนาทักษะการเขียนภาษาอังกฤษโดยใช้การส่งข้อความใน
การเรียนผ่านเครือข่ายไร้สายของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สรุปผลตามลาดับ ดังนี้
1. ความมุ่งหมายของการวิจัย
2. สรุปผลการวิจัย
3. อภิปรายผลวิจัย
4. ข้อเสนอแนะ
ความมุ่งหมายของการวิจัย
1. เพื่อเปรียบเทียบทักษะเขียนก่อนเรียนและหลังเรียนในการเรียนผ่านเครือข่ายไร้สาย
เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
2. เพื่อศึกษาพฤติกรรมการเขียนภาษาอังกฤษขณะเรียนผ่านเครือข่ายไร้สาย
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
สรุปผลการวิจัย
ผลการศึกษาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้การพัฒนาทักษะการเขียนภาษาอังกฤษโดยใช้การส่ง
ข้อความในการเรียนผ่านเครือข่ายไร้สายของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ปรากฏผล ดังนี้
1. ผลการเปรียบเทียบทักษะการเขียนก่อนเรียนและหลังเรียนในการจัดกิจกรรมการ
เรียนรู้การพัฒนาทักษะการเขียนภาษาอังกฤษโดยใช้การส่งข้อความในการเรียนผ่านเครือข่ายไร้สายของ
นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ซึ่งนักเรียนมีคะแนนสอบหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมี
นัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
2. ผลการสังเกตพฤติกรรมการเรียนผ่านเครือข่ายไร้สายของนักเรียนระดับชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ 5 นักเรียนมีพฤติกรรมการเรียนผ่านเครือข่ายไร้สายอยู่ในเกณฑ์ ดี
อภิปรายผลวิจัย
จากผลการศึกษาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้การพัฒนาทักษะการเขียนภาษาอังกฤษโดยใช้การ
ส่งข้อความในการเรียนผ่านเครือข่ายไร้สายของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีประเด็นที่นามา
อภิปรายผลได้ ดังนี้
- 2. 66
1. ผลการเปรียบเทียบทักษะการเขียนก่อนเรียนและหลังเรียนในการจัดกิจกรรมการ
เรียนรู้การพัฒนาทักษะการเขียนภาษาอังกฤษโดยใช้การส่งข้อความในการเรียนผ่านเครือข่ายไร้สายของ
นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ซึ่งนักเรียนมีคะแนนสอบหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมี
นัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 เนื่องจากเป็นการจัดกิจกรรมพัฒนาการเขียนโดยใช้การส่งข้อความใน
การเรียนผ่านเครือข่ายไร้สายดึงดูดความสนใจของผู้เรียน ทาให้ผู้เรียนสนใจในการทากิจกรรม จึงทา
ให้ผู้เรียนมีการพัฒนาทักษะการเขียนสะกดคา และการเขียนตามรูปแบบการเขียนจดหมาย
อิเล็กทรอนิกส์ตามหัวข้อที่กาหนดได้อย่างถูกต้องตามหลักไวยากรณ์และตามโครงสร้างของการเขียน
สอดคล้องกับตาบาตาบัย และกูจานี (Tabatabaei and Goojani. 2012 : 47) ที่กล่าวไว้ว่า
ผู้เรียนได้ฝึกใช้ภาษาเพื่อส่งข้อความ และส่งงานที่ได้รับมอบหมายผ่านทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์
ซึงช่วยให้ผู้เรียนเกิดการพัฒนาทักษะการสะกดคาและโครงสร้างทางไวยากรณ์ในการเขียน โดย
่
ครูผู้สอนได้กาหนดสถานการณ์ในการเรียนที่มีความยืดหยุ่นในการสอนคาศัพท์ใหม่ๆ อีกทั้งยังนาหัวข้อ
ของการเขียนมาจากสถานการณ์ต่างๆในชีวิตประจาวัน หรือบริบทจริงที่นักเรียนจะต้องได้พบเจอ
เป็นการพัฒนาปฏิสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนในชั้นเรียนระหว่างการทากิจกรรมอีกด้วย และโดนัลสัน
(Donalson. 2011 : 16) ได้กล่าวไว้ว่า ลักษณะเฉพาะของการเรียนผ่านเครือข่ายไร้สาย เป็น
กิจกรรมการเรียนในสถานการณ์ต่างๆในชีวิตประจาวัน หรือบริบทจริง และการเรียนผ่านเครือข่ายไร้
สายยังสามารถส่งเสริมกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ ซึ่งพัฒนาการโต้ตอบสื่อสารภายในสังคม
นอกจากนั้นยังสอดคล้องกับงานวิจัยของ เกรทเชิน (Gretchen. 2012 : Abstract) ได้ศึกษา
ความสัมพันธ์ระหว่างเครือข่ายไร้สายที่มีผลต่อการเขียนและการอ่านของผู้เรียนในระดับอุดมศึกษา
โดยการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการพัฒนาทักษะการเขียนข้อความสั้นของผู้เรียนใน
ระดับอุดมศึกษาผ่านโทรศัพท์มือถือและสิ่งแวดล้อมต่างๆที่เกี่ยวข้อง โดยใช้กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้เรียน
จานวน 53 คน จากมหาวิทยาลัยในประเทศออสเตรเลีย ผลการวิจัยปรากฏว่าการส่งข้อความมี
ความสัมพันธ์ทางบวกต่อผู้เรียนที่เรียนด้วยตนเองในทักษะการอ่านและการเขียน และผลการวิจัยยัง
เผยให้เห็นอีกว่า ไม่มีความแตกต่างระหว่างผู้เรียนในแต่ละชั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้เรียนระดับแรกที่ใช้การส่ง
ข้อความผ่านเครือข่ายมือถือหรือจะเป็นผู้เรียนในระดับสูงหรือในระดับปริญญา
2. ผลการสังเกตพฤติกรรมการเรียนผ่านเครือข่ายไร้สายของนักเรียนระดับชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ 5 พบว่าพฤติกรรมการเรียนผ่านเครือข่ายไร้ในแผนการเรียนรู้ที่ 1 คิดเป็นร้อยละ
70 แผนการเรียนรู้ที่ 2 คิดเป็นร้อยละ 70.40 แผนการเรียนรู้ที่ 3 คิดเป็นร้อยละ 77.89
แผนการเรียนรู้ที่ 4 คิดเป็นร้อยละ 80.26 เมื่อพิจารณาของผลการสังเกตนักเรียนแต่ละแผนการรู้
พบว่า แผนการเรียนรู้ที่ 1 มีค่าร้อยละต่ากว่าทุกแผน อันเนื่องมาจากกิจกรรมเป็นกิจกรรมที่นักเรียน
ไม่คุ้นเคย และคาศัพท์ที่เรียนเป็นศัพท์ที่ค่อนข้างยากสาหรับนักเรียน และแผนการเรียนรู้ที่ 4 เป็น
แผนการเรียนรู้ที่มีค่าร้อยละสูงสุดเนื่องจากนักเรียนคุ้นเคยกับการทากิจกรรมผ่านการเรียนผ่าน
เครือข่ายไร้สาย จึงทาให้มีพฤติกรรมในการเรียนผ่านเครือข่ายไร้สายดีขึ้น เพราะว่าผู้สอนมีเวลาในการ
ทาภาระงานมากขึ้น และมีโอกาสในการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม นักเรียนจึงสนใจการทาภาระงาน ทาให้
เกิดการโต้ตอบ ปฏิสัมพันธ์ในขั้นกิจกรรมขณะเขียนโดยการได้แบ่งกลุ่มช่วยกันตอบคาถามจากเรื่องที่
เรียน จึงทาให้เกิดปฏิสัมพันธ์ทั้งระหว่างนักเรียนกับนักเรียน และนักเรียนกับครูผู้สอน ทั้งนี้เป็นเพราะ
- 3. 67
การเรียนผ่านเครือข่ายไร้สายสามารถส่งเสริมการเรียนรู้ภาษา เพิ่มความตั้งใจในการทาภาระงาน
และการเข้าถึงการเรียนรู้ของผู้เรียน และการเรียนในรูปแบบนี้จะส่งเสริมการโต้ตอบและการสื่อสาร
ระหว่างผู้เรียนกับผู้สอน และผู้เรียนกับผู้เรียนสอดคล้องกับการวิจัยของโดนัลสัน (Donalson. 2011
: Abstract) ซึ่งได้ศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมอันพึงประสงค์ในการใช้การเรียนผ่านเครือข่ายไร้สาย
เพื่อค้นหาว่าความแตกต่างด้านเพศและวัยมีผลต่อการเรียนผ่านเครือข่ายไร้สายหรือไม่ โดยใช้กลุ่ม
ตัวอย่างคือผู้เรียนจานวน 330 คน ผลการวิจัยพบว่าผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง การมีแนวทางในด้าน
สังคม การได้รับความสนุกสนานในการเรียนรู้ การเกิดความสมัครใจจากการใช้การเรียนรู้ดังกล่าวได้
ปรากฏเป็นพฤติกรรมที่เด่นชัด และความแตกต่างในด้านเพศและวัยไม่ส่งผลในการเรียนผ่านเครือข่าย
ไร้สาย งานวิจัยนี้ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อการเข้าใจและพัฒนาการยอมรับในการเรียนผ่าน
เครือข่ายไร้สายสาหรับผู้เรียนที่มีแนวโน้มที่จะเลือกการใช้การเรียนผ่านเครือข่ายไร้สายอย่างถูกต้องและ
เป็นประโยชน์
ข้อเสนอแนะ
1. ข้อเสนอแนะ
1.1 การจัดกลุ่มนักเรียนควรเป็นกลุ่มคละความสามารถ มีทั้งเก่ง ปานกลาง อ่อน
เพื่อให้นักเรียนได้ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และเพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้และพัฒนาความสามารของ
ตนเองอย่างเต็มที่
1.2 การส่งข้อความในการเรียนผ่านเครือข่ายนั้น นอกจากใช้การบริการการส่งข้อความ
สั้น และจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แล้วยังมีสื่อกลางหรือโปรแกรมอื่นๆอีก เพื่อเป็นการเลือกใช้ตามความ
เหมาะสมของการเรียนการสอน ดังนั้น ครูผู้สอนจึงควรเลือกสื่อกลางหรือโปรแกรมต่างๆที่เหมาะสม
กับการจัดกิจกรรมการเรียน เช่น Facebook Line เป็นต้น
1.3 เนื่องจากเครื่องมือที่ใช้ในการเรียนผ่านเครือข่ายไร้สายมีหลายรูปแบบ ครูผู้สอน
สามารถเลือกใช้ตามความเหมาะสม นอกจากโทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์แล้ว ยังมีเครื่องเล่น
เพลง กล้องดิจิตอล กล้องวีดิโอ หรือ เครื่องบันทึกเสียง ที่สามารถนามาใช้ในการจัดกิจกรรมและ
เพื่อช่วยในการดึงดูดความสนใจของนักเรียนเพิ่มขึ้น
2. ข้อเสนอแนะในการทาวิจัยครั้งต่อไป
2.1 ควรที่จะศึกษาการพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษที่ใช้โปรแกรมที่มีความรวดเร็ว
เช่น การพัฒนาการอ่านโดยใช้การเรียนผ่านเครือข่ายไร้สายผ่านโปรแกรม Line หรือ Facebook
2.2 ควรมีการศึกษาหรือวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาทักษะการเขียนภาษาอังกฤษโดยใช้การ
เรียนผ่านเครือข่ายไร้สาย ที่ส่งผลต่อตัวแปรอื่นๆ เช่น ความคิดสร้างสรรค์ในการเขียน (creative
thinking)
2.2 ควรมีการเปรียบเทียบระหว่างรูปแบบการเรียนผ่านเครือข่ายไร้สายและรูปแบบการ
เขียน โดยยึดกิจกิจกรรมการเขียนอื่นๆ เช่น การเขียนแบบร่วมมือว่ามีผลแตกต่างกันหรือไม่อย่างไร