อรุณี
- 2. อนึ่งท่ านได้ กล่ าวถาม อย่ ากล่ าวความบังอาจอา
เภอใจว่ าตนจา เพศนีไข้ อนเคยยา
้ ั
ถอดความ
• คนไข้ อาจจะพูดหรือถามอะไร ดังนั้นหมออย่ าพูดหลง
ตัวเองและไม่ รับฟังความคิดเห็นของคนอืน ว่ ามีอาการ
่
แบบนีได้ เพราะดือยา
้ ้
- 3. ใช่ โรคสิ่ งเดียวดาย จะพลันหายในโรคา
ต่ างเนือก็ต่างยา
้ จะชอบโรคอันแปรปรวน
• ถอดความ
ไม่ ใช่ โรคจะมีชนิดเดียวทีจะทาให้ หายจากโรคนั้นได้ ทนที
่ ั
ซึ่งลักษณะประจาตัวของแต่ ละคนนั้นต่ างกัน การให้ ยาก็
ต่ างกันจึงจะถูกกับโรคนั้นเอง
- 4. บางทีกยาชอบ
็ แต่ เคราะห์ ครอบจึงหันหวน
หายคลายแล้ วทบทวน จะโทษยาก็ผดทีิ
• ถอดความ
• บางทีกให้ ยาถูกกับโรคนั้นแต่ เคราะห์ ซ้ากรรมซัด โรคนั้น
็
ทีทุเลาลงแล้ วแต่ กกลับเป็ นขึนอีก จะโทษยาว่ าไม่ ดกไม่ ได้
่ ็ ้ ี็
อาจจะเป็ นเพราะเวรกรรมก็เป็ นได้
- 6. คุณค่ าด้ านเนือหา
้
รู ปแบบ
• ใช้ คาประพันธ์ ประเภทกาพย์ ยานี ๑๑ ซึ่งแต่ งได้ ตามฉันทลักษณ์
• 00000 000000
• 00000 000000
• 00000 000000
• 00000 000000
- 8. คุณค่ าด้ านวรรณศิลป์
๑.การสรรคาคือ การใช้ ถ้อยคาทีเ่ หมาะสมกับเนือเรื่องและบุคคลใน
้
เรื่องใช้ คาทีตรงไปตรงมาง่ ายๆไม่ เยอะและสื่ อความหมายได้ ชัดเจน
่
ใช่ โรคสิ่ งเดียวดาย จะพลันหายในโรคา
ต่ างเนือก็ต่างยา
้ จะชอบโรคอันแปรปรวน
- 10. คุณค่ าทางด้ านสั งคม
๑.สะท้ อนให้ เห็นคุณค่ าเรื่องแพทย์ แผนไทย
แพทย์ ทอยู่ในชนบท จะคิดว่ าเป็ นเรื่องทีล่าสมัยไม่ ได้ เพราะ
ี่ ่
เวชกรรมตามเภสั ชกรรมแผนโบราณนั้นจะต้ องทันสมัยกว่ า
โรคเสมอ ไม่ ว่าจะเป็ นโรคไหนก็ตามทีเ่ ป็ นแพทย์ ก็ต้อง
วินิจฉัยโรคและรักษาโรคนั้นจนหาย
- 11. ๒.สะท้ อนข้ อคิดเพือนาไปใช้ ในการดาเนินชีวต
่ ิ
ซึ่งสามารถนาไปปรับใช้ ได้ กบทุกคน เพราะไม่ ว่าจะเป็ น
ั
บุคคลในอาชีพใด ถ้ ามีความอวดดี ความหลงตัวเอง การ
หายในโรคนั้นๆก็จะหายช้ าลง และในการเยียวยารักษาโรค
นั้นบางทีอาจจะไม่ ได้ โรคเดียว อาจจะมีโรคแทรกซ้ อน
เกิดขึนมาอีกก็ได้ ดังนั้นในการวินิจฉัยโรคอย่ างละเอียด
้
และจ่ ายยาให้ ตรงกับโรคนั้นๆด้ วย เพือไม่ ให้ เกิด
่
ผลข้ างเคียงกับร่ างกายของคนไข้