More Related Content
Similar to พุทธศาสนาหลังพุทธกาล
Similar to พุทธศาสนาหลังพุทธกาล (20)
พุทธศาสนาหลังพุทธกาล
- 2. การสัง คายนาครั้ง ที่ 1
เวลาในการกระทำา
: หลัง จาก
พระพุท ธเจ้า ปริน พ พาน 3 เดือ น
ิ
วิธ ท ำา การสัง คายนา
ี
: พระมหากัส สป
เถระ เป็น ประธานสงฆ์แ ละเป็น ผูถ าม มี
้
พระอุบ าลีเ ป็น ผูต อบพระวิน ย พระอานนท์
้
ั
เป็น ผูต อบพระสูต ร
้
ผูเ ข้า ร่ว มประชุม : พระอรหัน ต์จ ำา นวน
้
500 รูป
สาเหตุข องการกระทำา : พระสุภ ัท ทะ
กล่า วจ้ว งจาบพระธรรมวิน ย
ั
สถานที่
: ถำ้า สัต ตบรรณคูห า ข้า งภู
เขาเวภารบรรพต เมือ งราชคฤห์
- 3. การสัง คายนาครั้ง ที่ 2
เวลาในการกระทำา
: ประมาณ พ .ศ .
100
วิธ ท ำา การสัง คายนา
ี
: พระยสกากัณ ฑ
กบุต รเถระเป็น ประธาน พระเรวตะเป็น ผู้
ถาม พระสัพ พกามีผ ต อบ
ู้
ผูเ ข้า ร่ว มประชุม : พระอรหัน ต์จ ำา นวน
้
700 รูป
สาเหตุข องการกระทำา : วัต ถุ 10
ประการ
สถานที่
: วัด วาลิก าราม เมือ งเวสาลี
แคว้น วัช ชี
- 4. ผลของการสัง คายนา
1) ในที่ป ระชุม สัง คายนา ได้
พิจ ารณาข้อ บัญ ญัต ิ 10 ประการ
เหล่า นั้น ว่า ข้อ วัต รของภิก ษุช าววัช
ชี ไม่ถ ูก ต้อ งตามพระวิน ัย ให้ก ำา จัด
ข้อ บัญ ญัต ิ 10 ประการ เหล่า นั้น ออก
ไป
2) พระภิก ษุว ัช ชีบ ุต ร ชาวเมือ งเว
สาลี ไม่เ ห็น ด้ว ย ไม่พ อใจ จึง ได้จ ัด
ทำา สัง คายนาขึ้น เองต่า งหาก เรีย กว่า
“มหาสัง คีต ิ” และพระภิก ษุฝ ่า ยนี้
- 5. 4) ฝ่า ยเถรวาท /เถรวาทิน แตกแยก
ออกเป็น นิก ายย่อ ย 11 นิก าย คือ เถรวา
ทะ (หรือ อรยสถวีร วาทะ ) วัช ชีป ต ตกะ มหิ
ุ
สาสกะ ธรรมมุต ตริก ะ (ธรรมคุป ตะ ) สัพ
พัต ถิก วาทะ (สรวาสติว าทะ ) กัส สปิก ะ
(กาศยปิย ะ ) สัง กัน ติก ะ (เสาตรานติก ะ ) สุต
วาทะ สัม มติย ะ (วาสสีป ต ริย ะ ) ภัท ทยานิ
ุ
กะ และจัน ทคาริก ะ
5) ฝ่า ยมหาสัง ฆิก ะ (ที่ไ ม่ย ึด มัน ต่อ พระ
่
ธรรมวิน ย ) ได้แ ยกออกเป็น นิก ายย่อ ย 7
ั
นิก าย คือ นิก ายมหาสัง ฆิก ะ โคกุร ิก ะ (กุก
กุร ิก ะ ) ปัญ ญัต ติว าทะ (ปรัช ญาปติว าทะ )
- 6. การสัง คายนาครั้ง ที่ 3
เวลาในการกระทำา
: ประมาณ พ .ศ .
236
วิธ ีท ำา การสัง คายนา : พระโมคคัล ลี
บุต รติส สเถระ
ผู้เ ข้า ร่ว มประชุม
: พระอรหัน ต์
จำา นวน 700 รูป
สาเหตุข องการกระทำา
: เดีย รถีย ์
ปลอมเข้า มาบวชในพระพุท ธศาสนา
สถานที่
: วัด อโศการาม เมือ ง
ปาฏลีบ ต ร
ุ
- 7. สมณทูต 9 สาย
สายที่ 1 พระมัช ฌัน ติก เถระ ไปแคว้น กัศ มีร ์แ ละ
คัน ธาระ อยู่ท างทิศ ตะวัน ตกเฉีย งเหนือ ของ
อิน เดีย
สายที่ 2 พระมหาเทวเถระ ไปแคว้น มหิส สก
มณฑล ทางทิศ ใต้ข องนำ้า โคธาวารี ได้แ ก่ไ มซอร์
ในปัจ จุบ ัน (อยูท างได้ข องอิน เดีย ติด กับ เมือ งมัท
่
ราส )
สายที่ 3 พระรัก ขิต เถระ ไปวนวาสีป ระเทศ อยู่
ในเขตกนราเหนือ ภาคตะวัน ออกเฉีย งใต้
สายที่ 4 พระโยนกธรรมรัก ขิต เถระ (ซึ่ง เข้า ใจ
กัน ว่า เป็น ฝรั่ง คนแรกในชาติก รีก ทีไ ด้เ ข้า บวช
่
ในพระพุท ธศาสนา ) ไปปรัน ตชนบท ริม ฝั่ง ทะเล
- 8. สมณทูต 9 สาย
สายที่ 6 พระมหารัก ขิต เถระ ไปโยนกประเทศ
ได้แ ก่ เขตแบคเทีย ในเปอร์เ ซีย ปัจ จุบ ัน
สายที่ 7 พระมัช ฌิม เถระ พร้อ มด้ว ยคณะ คือ
พระกัส สปโคตรเถระ พระมูล กเทวเถระ พระทุ
นทภิส สระเถระ และพระเทวเถระ ไปแถบภูเ ขา
หิม าลัย ได้แ ก่ เนปาล
สายที่ 8 พระโสณเถระ และพระอุต ตรเถระ
พร้อ มด้ว ยคณะ ไปแดนสุว รรณภูม ิ
สายที่ 9 พระมหิน ทเถระ (โอรสพระเจ้า อโศก
มหาราช ) พร้อ มด้ว ยคณะ คือ พระอริฏ ฐเถระ
- 9. การสัง คายนาครั้ง ที่ 4
เวลาในการกระทำา
: ประมาณ พ .ศ .
643
สาเหตุข องการกระทำา : พระปรารศวเถระ
ได้แ นะนำา พระเจ้า กนิษ กะ เพือ หวัง ทีจ ะปรับ หลัก
่
่
ธรรมในพระพุท ธศาสนาให้เ ป็น เอกภาพ และ
ประสงค์จ ะบัน ทึก คัม ภีร ์ข องนิก ายฝ่า ยสัพ พัต ถิ
กวาท เป็น ภาษาสัน สกฤต และเพื่อ ทำา ให้พ ท ธ
ุ
ศาสนาแบบมหายานมัน คง
่
สถานที่
: เมือ งชาลัน ธร แต่บ างหลัก ฐาน
กล่า วว่า ทำา ทีก ัศ มีร ์ห รือ แคชเมีย ร์ ตอนเหนือ
่
ของประเทศอิน เดีย
ผูอ ุป ถัม ภ์
้
: พระเจ้า กนิษ กะ
- 10. ผลของการสัง คายนา
มีก ารเขีย นคำา อธิบ ายพระไตรปิฎ ก
หรือ อรรถกถาเป็น ภาษาสัน สกฤตปิฎ กละ
100,000 โศลก (คาถา ) รวม 300,000
โศลก กล่า วคือ พระสูต ร 100,000 โศลก
เรีย กว่า อุป เทศศาสตร์ พระวิน ย 100,000
ั
โศลก เรีย กว่า วิน ยวิภ าษาศาสตร์ พระ
อภิธ รรม 100,000 โศลก เรีย กว่า อภิธ รรมวิ
ภาษาศาสตร์
1.
2. มีก ารประสานความคิด
ระหว่า งนิก ายต่า งๆ ทั้ง 18 นิก ายแล้ว จารึก
อัก ษรคัม ภีร ์ท างศาสนาเป็น สัน สกฤตเป็น
- 11. ผลของการสัง คายนา
(ต่อ )
ในการสัง คายนาครั้ง นี้
มหายานแยกตัว ออกไปอย่า งชัด เจน
และเจริญ รุ่ง เรือ งแพร่ห ลาย มีพ ระ
สงฆ์แ ละชาวพุท ธสำา คัญ เป็น ปราชญ์
เป็น ที่ป รึก ษา เป็น กวีใ นราชสำา นัก
4) พระเจ้า กนิษ กะทรงส่ง สมณทูต
ไปประกาศพระศาสนาในอาเซีย ก
ลาง ซึ่ง ทำา ให้พ ระพุท ธศาสนาแพร่
หลายไปยัง จีน เกาหลี มองโกเลีย
และญี่ป น ในสมัย ต่อ มาทรงสร้า ง
ุ่
สถูป และวัด วาอารามเป็น อัน มาก
และเป็น สมัย ที่ศ ิล ปะแบบคัน ธาระ
3)