SlideShare a Scribd company logo
1 of 40
Download to read offline
ปิโตรเลียม
Asst.Prof.Woravith Chansuvarn, Ph.D
http://web.rmutp.ac.th/woravith woravithworavith.c@rmutp.ac.th
ปิโตรเลียม
มีรากศัพท์มาจากภาษาละตินว่า
"เพทรา" (Petra) แปลว่า หิน
และ
"โอลิอุม" (Oleum) แปลว่า น้ามัน
น้ำมันที่ได้มำจำกหิน
(น้ำมันที่แทรกอยู่ตำมรูพรุนของหินจะอยู่
ลึกลงไปใต้พื้นผิวดิน)
โดยไหลซึมออกมำเองในรูปของ
ของเหลวหรือก๊ำซ
แหล่งปิโตรเลียมที่มี
สารไฮโดรคาร์บอนเป็น
ของเหลว
เรียกว่า
แหล่งน้ำมันดิบ
(crude oil)
แหล่งปิโตรเลียมที่มี
สารไฮโดรคาร์บอนเป็นก๊าซ
เรียกว่า
แหล่งก๊ำซธรรมชำติ
(natural gas)
http://www.youtube.com/watch?v=U9vBfpX0E5o
▪ 10% เป็นไฮโดรคำร์บอนเดิมที่มีอยู่ใน
เซลล์พืชและสัตว์ เช่น แพลงตอน
สำหร่ำย และปลำ เป็นต้น
▪ 90% เป็นไฮโดรคำร์บอนที่เกิดจำกกำร
เปลี่ยนแปลงของสำรอินทรีย์ชนิดอื่นที่
อยู่ในซำกพืชและสัตว์ ด้วย
กระบวนกำรทำงเคมี ทำงชีวเคมีและ
ทำงฟิสิกส์
ปิโตรเลียมกาเนิดมาจากซากพืช ซาก
สัตว์ ที่ทับถมเป็นเวลาหลายสิบล้านปี
หินทรำย
หินปูน
หินดินดำน
น้ำมันดิบและแก๊สธรรมชำติ มีควำม
เบำจะเคลื่อนย้ำยไปกักเก็บอยู่ในชั้น
หินเนื้อพรุน เฉพำะบริเวณที่สูงของ
โครงสร้ำงแต่ละแห่ง และจะถูกกัก
ไว้ด้วยชั้นหินเนื้อแน่น ที่ปิดทับอยู่
โครงสร้ำงของชั้นหินที่พบปิโตรเลียม
มีลักษณะโค้งคล้ำยรูปกระทะคว่ำ
ชั้นบนเป็นหินทรำย
ชั้นต่อไปเป็นหินปูนและหินดินดำน
จึงพบแก๊สธรรมชำติ น้ำมันดิบ และน้ำ
ปิโตรเลียมจำกแหล่งกำเนิด
ต่ำงกันจะมีปริมำณสำรประกอบ
ไฮโดรคำร์บอน กำมันถัน
ไนโตรเจน และออกซิเจน
แตกต่ำงกันขึ้นอยู่กับชนิดของ
ซำกพืช ซำกสัตว์ ที่เป็นตัวกำเนิด
ของปิโตรเลียม
❑ กำรสำรวจทำงธรณีวิทยำ
โดยภำพถ่ำยดำวเทียม เพื่อคำดคะเนหำบริเวณที่มี
โอกำสเป็นแหล่งกักเก็บปิโตรเลียม
การสารวจ
แหล่ง
ปิโตรเลียม
❑ กำรสำรวจทำงธรณีฟิสิกส์
▪ วัดควำมเข้มของสนำมแม่เหล็กโลก : ทำให้ทรำบควำมหนำ
ขอบเขตของแอ่งและควำมลึกของชั้นดิน
▪ วัดค่ำแรงดึงดูดของโลก : ทำให้ทรำบ ชนิดของชั้นหิน
▪ วัดคลื่นควำมสั่นสะเทือน : ทำให้ทรำบ รูปร่ำงและลักษณะ
โครงสร้ำงชั้นหิน
วิธีวัดคลื่นควำมสั่นสะเทือน แผนที่แสดงถึงตำแหน่งและรูปร่ำงลักษณะโครงสร้ำงของชั้นหิน
❑ กำรเจำะสำรวจ
กำรเจำะสุ่ม เพื่อทรำบควำมยำกง่ำย
ของกำรขุดเจำะ
กำรเจำะสำรวจหำขอบเขต เพื่อหำว่ำ
มีปริมำณปิโตรเลียมครอบคลุม
เนื้อที่กว้ำงเพียงใด
กำรเจำะหลุมทดลองผลิต อย่ำง
น้อย 3 หลุม ตรวจสอบคุณภำพ
ปิโตรเลียมและคำนวณหำ
ปริมำณสำรองและปริมำณที่จะ
ผลิตได้
การสารวจ
แหล่ง
ปิโตรเลียม
น้ำมันดิบ
น้ำมันดิบ (crude oil)
เกิดจำกกำรทับถมของสำรอินทรีย์ในระดับใต้ผิวโลก และเกิด
กำรแปรสภำพซึมผ่ำนช่องว่ำงระหว่ำงชั้นหินขึ้นสู่ผิวโลก
จนถึงชั้นหินเนื้อแน่นที่ไม่สำมำรถซึมผ่ำนขึ้นมำได้ จะถูกกัก
เก็บไว้ในชั้นหินแข็งจะพบในชั้นของหินดินดำน ซึ่งจัดเป็นหิน
ตะกอนประเภทหนึ่ง
*ประเทศไทยสำรวจพบน้ำมันดิบครั้งแรกที่อำเภอฝำง จังหวัดเชียงใหม่
ในปี พ.ศ.2464 แหล่งน้ำมันดิบในประเทศไทยที่สำคัญในปัจจุบัน ได้แก่
แหล่งน้ำมันดิบเพชร จำกแหล่งสิริกิตตตต ที่จังหวัดกำแพงเพชร
ประเภทของน้ำมันดิบ
น้ำมันดิบโดยทั่วไปจะมีสีดำหรือสีน้ำตำล มี
ลักษณะข้น มีกลิ่นเหม็น บำงชนิดมีกลิ่นของ
กำมะถันและกลิ่น H2S
ประกอบด้วย C 85-90%
H 10-15%
S 0.001-7%
O 0.001-5%
น้ำมันดิบที่ได้จำกกำรเจำะขึ้นมำจำกหลุมผลิต จะ
มีกำรจำแนกในเบื้องต้น เพื่อบอกว่ำน้ำมันดิบ
ประเภทไหนเหมำะสำหรับกำรผลิตเป็นผลิตภัณฑ์
อะไร โดยมีกำรแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ
1. น้ำมันดิบพื้นฐำนพำรำฟิน
2. น้ำมันดิบพื้นฐำนแนฟทีน
3. น้ำมันดิบพื้นฐำนผสม
การกลั่นลาดับส่วน
(fraction distillation)
กระบวนกำรที่ทำให้น้ำมันดิบได้รับควำม
ร้อนสูงประมำณ 500C ทำให้สำรทุก
ชนิดเปลี่ยนสถำนะเป็นแก๊สพร้อมกัน
ผ่ำนขึ้นไปบนหอกลั่นแล้วควบแน่นแยก
ออกเป็นส่วนๆ
▪ โดยสำรที่มีจุดเดือดสูง จึงควบแน่น
เป็นของเหลวก่อน และอยู่ที่ด้ำนล่ำงของ
หอกลั่น
▪ ส่วนสำรที่มีจุดเดือดต่ำ แรงยึด
เหนี่ยวระหว่ำงโมเลกุลน้อย จึงเคลื่อนที่
ขึ้นไปควบแน่นที่ชั้นบนสุดของหอกลั่น
1
2
3
4
5
6
7
ภำพขยำยหอกลั่น
ชนิด จุดเดือด (C)
จำนวนอะตอม
C
สถำนะ
กำรนำไปใช้
ประโยชน์
ก๊ำซปิโตรเลียม
เหลว
<30 1-4 G ก๊ำซหุงต้ม
น้ำมันเบนซีน 30-110 5-9 L
ตัวทำละลำยใน
อุตสำหกรรมเคมี
65-170 6-12 L น้ำมันเบนซิน
น้ำมันก๊ำด 170-250 10-14 L
น้ำมันก๊ำด
เชื้อเพลิงใน
เครื่องบินไอพ่น
น้ำมันดีเซล 250-340 14-20 L น้ำมันดีเซล
น้ำมันหล่อลื่น >350 19-35 L น้ำมันหล่อลื่น
น้ำมันเตำ >400 35-40 L น้ำมันเตำ
>400 40-50 L เทียนไข จำระบี
ยำงมะตอย >400 มำกกว่ำ 50 L ยำงมะตอย
▪ เป็นไฮโดรคำร์บอนอิ่มตัวที่มีมวลโมเลกุลต่ำ มี
คำร์บอนตั้งแต่ 1-4 อะตอม เช่น มีเทน (CH4)
อีเทน (C2H6) โพรเพน (C3H8) บิวเทน (C4H10)
▪ ก๊ำซธรรมชำติจะมี CH4 เป็นองค์ประกอบหลัก
ประมำณ 70-95%
▪ มีสถำนะเป็นไอที่อุณหภูมิห้อง
▪ มีสำรอื่น ๆ เจือปน ได้แก่ CO2 H2S N2 ไอ
ปรอท และไอน้ำ
▪ แหล่งก๊ำซธรรมชำติที่อยู่ภำยใต้ควำมดันสูง
เมื่อขุดขึ้นมำใช้จะมีส่วนที่เป็นของเหลว เรียกว่ำ
ก๊ำซเหลว และส่วนที่เป็นก๊ำซเรียกว่ำก๊ำซ
ธรรมชำติ
ก๊าซธรรมชาติ
(Natural gas)
สมบัติก๊ำซธรรมชำติ
จะไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และไม่มีพิษ
ในสถำนะปกติมีสภำพเป็นก๊ำซหรือไอ
ที่อุณหภูมิและควำมดันบรรยำกำศ
โดยมีค่ำควำมถ่วงจำเพำะต่ำกว่ำ
อำกำศจึงเบำกว่ำอำกำศ
เมื่อเกิดกำรรั่วไหลจะฟุ้งกระจำยไป
ตำมบรรยำกำศอย่ำงรวดเร็ว
จึงไม่มีกำรสะสมลุกไหม้ บนพื้นรำบ
▪ แก๊สธรรมชำติเกิดอยู่ใต้พื้นดิน อำจเป็น
บนบกหรือในทะเล และอำจพบอยู่ตำม
ลำพัง ในสถำนะแก๊สหรืออยู่รวมกับ
น้ำมันดิบ
▪ แหล่งแก๊สธรรมชำติในอ่ำวไทย
ประกอบด้วยแก๊สมีเทนเป็นส่วนใหญ่
▪ แก๊สธรรมชำติบำงส่วนเกิดจำกควำม
ร้อนสูงภำยในโลก ทำให้น้ำมันดิบที่ถูกเก็บ
กักไว้เป็นเวลำนำนเกิดกำรสลำยตัวเป็น
แก๊สธรรมชำติอยู่เหนือชั้นน้ำมันดิบ
กระบวนการผลิตก๊าซธรรมชาติ
กำรทำให้ก๊ำซธรรมชำติที่ได้จำกหลุม
ผลิตบริสุทธิ์ขึ้น เพื่อให้มีคุณสมบัติ
เหมำะสม
เป็นกำรแยกเอำก๊ำซอื่นออกจำกก๊ำซ
ธรรมชำติ ที่เหลือเป็น dry gas
▪ กำรดูดซึม (Absorption)
▪ กำรทำให้เย็น (Refrigeration)
▪ กำรดูดซับ (Adsorbtion)
▪ กำรทำให้เย็นจัดและกำรดูดซึม
(Refrigeration Absorption)
1. Sweet gas (ก๊ำซธรรมชำติที่ไม่มีฤทธิ์เป็น
กรด มีปริมำณ H2S (ก๊ำซไข่เน่ำ) และ CO2
ต่ำ)
2. Sour gas (ก๊ำซธรรมชำติที่มี H2S เจือปน
มำก มีฤทธิ์เป็นกรดและกัดกร่อน ถ้ำมี
H2S สูง อำจทำให้ก๊ำซเป็นพิษได้)
3. Dry gas (ก๊ำซธรรมชำติที่มีสถำนะเป็น
ก๊ำซที่อุณหภูมิและควำมดันบรรยำกำศ มี
แต่ก๊ำซมีเทนเกือบ 100%)
4. Wet gas (ก๊ำซธรรมชำติที่มีปริมำณ
ไฮโดรคำร์บอนควบแน่นเป็นของเหลวที่
อุณหภูมิและควำมดันบรรยำกำศ มีก๊ำซ
มีเทนประมำณ 60-70%)
สมบัติของก๊าซธรรมชาติ
สารประกอบ สูตรโมเลกุล ร้อยละโดยปริมาตร
มีเทน
อีเทน
โพรเทน
บิวเทน
เพนเทน
คาร์บอนไดออกไซด์
ไนโตรเจน
อื่น ๆ
CH4
C2H6
C3H8
C4H10
C5H12
CO2
N2
-
60 – 80
4 – 10
3 – 5
1 – 3
1
15 – 25
ไม่เกิน 3
น้อยมาก
องค์ประกอบของก๊าซธรรมชาติ
CH4
C2H6
C3H8
C4H10
C5H12
CO2
N2
อื่นๆ
2. อีเทนและโพรเพน (C2H6 และ C3H8) เป็น
อุตสำหกรรมผลิตเม็ดพลำสติก และเส้นใยสังเครำะห์
3. โพรเพนและบิวเทน (C3H8 และ C4H10) เป็นก๊ำซหุง
ต้มในครัวเรือน
4. เพนเทน (C5H12) เป็นตัวทำละลำยในอุตสำหกรรม
5. ก๊ำซคำร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ใช้ในอุตสำหกรรม
ถนอมอำหำร น้ำอัดลมและน้ำแข็งแห้ง
ประโยชน์ของผลิตภัณฑ์จากก๊าซธรรมชาติ
1. มีเทน (CH4) เป็นเชื้อเพลิงที่ใช้ในโรงไฟฟ้ำ ใน
อุตสำหกรรมซีเมนต์ เซรำมิก รถแท็กซี่ รถเมล์ และ
เป็นวัตถุดิบในอุตสำหกรรมปุ๋ยเคมี
น้ำมันดิบสำมำรถนำมำกลั่นแยก
เพื่อให้ได้น้ำมันเชื้อเพลิงชนิดต่ำง ๆ
โดยจะสำมำรถแยกได้ตำมอุณหภูมิ
ของกำรแยกโดยกระบวนกำรกลั่น
ก๊ำซหุงต้ม อุณหภูมิที่ระเหย 30 – 70๐C
น้ำมันเบนซิน อุณหภูมิที่ระเหย 40 – 200๐
น้ำมันก๊ำด อุณหภูมิที่ระเหย 150 – 300๐C
น้ำมันดีเซล อุณหภูมิที่ระเหย 300 – 350๐C
น้ำมันเตำ อุณหภูมิที่ระเหย > 350๐C
น้ามันเชื้อเพลิง
น้ามันเบนซิน (Gassoline)
▪ เป็นเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องยนต์เบนซิน
▪ มีอุณหภูมิระเหยและแยกตัวที่ 40-200๐C
▪ มีจุดวำบไฟที่ 21๐C (Flash Point)
▪ มีกำรกำหนดค่ำออกเทนเป็นดัชนีแบ่ง
มำตรฐำน
น้ำมันเบนซิน ออกเทน 91 สีแดง
น้ำมันเบนซิน ออกเทน 95 สีเหลือง
น้ำมันที่ได้จำกกำรปรุงแต่งคุณภำพของ
ผลิตภัณฑ์ที่ได้จำกกำรกลั่นน้ำมันหรือก๊ำซ
ธรรมชำติ
น้ำมันเบนซินจะผสมสำรเพิ่มคุณภำพเพื่อให้
เหมำะกับกำรใช้งำน เช่น เพิ่มค่ำออกเทน
สำรเคมีสำหรับป้องกันสนิม และกำรกัดกร่อน
ในถังน้ำมัน และท่อน้ำมัน
ตัวเลขแสดงควำมต้ำนทำนกำรน็อคของ
เชื้อเพลิงสำหรับเครื่องยนต์
(ค่ำออกเทนนี้เป็นค่ำแสดงกำรต้ำนทำน
กำรชิงจุดระเบิดในเครื่องยนต์)
ถ้ำค่ำออกเทนสูง จะมีควำมต้ำนทำน
กำรน็อคของเครื่องยนต์สูง
ไม่เกี่ยวกับควำมแรงของเครื่องยนต์
ค่าออกเทน (Octane number)
ค่ำตัวเลขที่แสดงเป็นร้อยละโดยมวลของไอโซออก
เทน (isooctane) ในของผสมระหว่ำงไอโซออกเทน
และเฮปเทน (heptane) ซึ่งเกิดจำกกำรเผำไหม้
• น้ำมันเบนซิน ที่มีสมบัติกำรเผำไหม้เช่นเดียวกับ
ไอโซออกเทนหมด เรียก น้ำมันเบนซินนั้นว่ำมีเลข
ออกเทนเป็น 100
• น้ำมันเบนซิน ที่มีสมบัติกำรเผำไหม้เช่นเดียวกับ
เฮปเทนหมด เรียก น้ำมันเบนซินนั้นว่ำมีเลขออก
เทนเป็น 0
• น้ำมันเบนซินที่มีเลขออกเทน 70 คือ น้ำมัน
เบนซินที่มีสมบัติกำรเผำไหม้เช่นเดียวกับ
เชื้อเพลิงที่มีไอโซออกเทนร้อยละ 70 และเฮปเทน
ร้อยละ 30 โดยมวล
น้ำมันเบนซินธรรมดำ
(Regular gasoline)
มีค่ำออกเทนไม่ต่ำกว่ำ 83
ปริมำณสำรตะกั่วไม่เกิน 0.15 g/L
ควรใช้กับเครื่องยนต์ที่มีอัตรำส่วน
กำรอัดต่ำกว่ำ 8:1
เช่น รถยนต์รุ่นเก่ำ เครื่องยนต์
ขนำดเล็ก รถจักรยำนยนต์ เครื่อง
ตัดหญ้ำ เป็นต้น
น้ำมันเบนซินพิเศษ
(Premium gasoline)
มีค่ำออกเทนไม่ต่ำกว่ำ 95
ปริมำณสำรตะกั่วไม่เกิน 0.15 g/L
ควรใช้กับเครื่องยนต์ที่มีอัตรำส่วน
กำรอัดประมำณ 8:1 ขึ้นไป
เช่น รถยนต์นั่ง รถบรรทุกเล็ก
รถจักรยำนยนต์ เป็นต้น
น้ำมันเบนซินไร้สำรตะกั่ว
(Unleaded gasoline)
มีค่ำออกเทนไม่ต่ำกว่ำ 95
ปริมำณสำรตะกั่วไม่เกิน 0.013 g/L
เป็นน้ำมันที่เพิ่มค่ำออกเทนโดยกำร
นำน้ำมันที่มีค่ำออกเทนต่ำมำ
เปลี่ยนแปลงโครงสร้ำงทำงโมเลกุล
เพื่อให้มีค่ำออกเทนสูงขึ้น โดย
พยำยำมหลีกเลี่ยงกำรใช้
สำรประกอบของตะกั่วให้น้อยที่สุด
หรือไม่ต้องใช้เลย
ควรใช้กับเครื่องยนต์ที่มีอัตรำส่วน
กำรอัดประมำณ 8:1 ขึ้นไป
เบนซิน (ไร้สาร) 91
เบนซิน (ไร้สาร) 95
เบนซินพื้นฐาน 87
เบนซินพื้นฐาน 91
(สาหรับผลิตแก๊สโซฮอล์)
91
95
87
91
91
98
81
86
78
118
ค่ำออกเทน
น้ำมัน
องค์ประกอบ
Online Analyzer
On-line Gasoline Blending
FCC Gasoline
Reformate
HC Gasoline
Isomerate
Coker Naphtha
MTBE
น้ามันเครื่องบิน (Aviation Fuels)
1) น้ำมันเครื่องบินใบพัด (Aviation Gasoline)
• ใช้กับเครื่องยนต์ใบพัด
• มีลักษณะทั่วไปคล้ำยน้ำมันเบนซิน แต่มีควำมบริสุทธิ์
สูงกว่ำ มีค่ำออกเทนสูงกว่ำน้ำมันเบนซินปกติ
2) น้ำมันเครื่องบินไอพ่น (Jet Fuels)
• ใช้กับเครื่องยนต์ไอพ่น
• มีลักษณะทั่วไปคล้ำยน้ำมันก๊ำด
• น้ำมันจะถูกฉีดเป็นฝอยให้สันดำป แล้วไป
ผลักเพื่อให้กังหันเทอร์ไบน์หมุน
น้ามันก๊าด (Kerosene)
• ใช้เป็นน้ำมันเชื้อเพลิง
• เป็นเชื้อเพลิงสะอำด มีกำมะถันต่ำ
• นิยมใช้ในอุตสำหกรรมโรงงำน
กระเบื้อง โรงงำนอำหำร
• เป็นส่วนผสมสำหรับยำฆ่ำแมลง สีทำ
น้ำมันชักเงำ
• ถ้ำผสมกับอำกำศในอัตรำ 1.5-6% ใน
ลักษณะเป็นละอองฝอย จะสำมำรถ
ติดไฟได้เองที่อุณหภูมิห้อง
• ปกติจะไม่มีสี ผู้ผลิตเติมสีน้ำเงินลงไป
เพื่อป้องกันกำรปลอมปน
น้ามันดีเซล (Diesel Fuels)
• เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้กับเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งต้องอยู่ภำยใต้
- ควำมดันและอุณหภูมิที่เหมำะสม
• ค่ำซีเทน คือ ค่ำบ่งบอกถึงคุณภำพในกำรจุดระเบิดของน้ำมันดีเซล โดย
- ถ้ำค่ำซีเทนยิ่งสูงจะทำให้สำมำรถจุดระเบิดได้ง่ำย
- เครื่องยนต์หมุนด้วยควำมเร็วรอบได้สูง ไม่สะดุด
- ไม่เกิดควันขำว แต่ถ้ำมีค่ำซีเทนสูงเกินไปจะทำให้เกิดกำรเผำไหม้ที่ไม่สมบูรณ์
และเกิดควันขำวได้
• น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว มีค่ำซีเทนอย่ำงต่ำ 47 ใช้ในเครื่องยนต์ที่มีควำมเร็ว
รอบสูงกว่ำ 1,000 รอบ/นำที
• น้ำมันดีเซลหมุนช้ำ มีค่ำซีเทนอย่ำงต่ำ 45 ใช้ในเครื่องยนต์ที่มีควำมเร็วรอบ
ต่ำกว่ำ 1,000 รอบ/นำที
ค่ำตัวเลขที่แสดงเป็นร้อยละโดยมวลของซีเทน
(C16H34) ในของผสมระหว่ำงซีเทน (C16H34)
และแอลฟำเมทิลแนฟทำลีน (C11H10) ซึ่งเกิด
กำรเผำไหม้หมด
เลขซีเทน (Cetane number)
เลขซีเทนเป็นตัวเลขที่ใช้บอกคุณภำพของน้ำมันดีเซล
• น้ำมันดีเซลที่มีเลขซีเทน 100 คือ น้ำมันดีเซลที่มีสมบัติกำรเผำ
ไหม้เช่นเดียวกับซีเทน 100% โดยมวล
• น้ำมันดีเซลที่มีเลขซีเทน 0 คือ น้ำมันดีเซลที่มีสมบัติกำรเผำ
ไหม้เช่นเดียวกับแอลฟำเมทิลแนฟทำลีน 100% โดยมวล
• น้ำมันดีเซลที่มีเลขซีเทน 80 คือ น้ำมันดีเซลที่มีสมบัติกำรเผำ
ไหม้เช่นเดียวกับซีเทนร้อยละ 80 โดยมวล
ซีเทน (C16H34) แอลฟำเมทิลแนฟทำลีน
CH3-CH2-CH3
14
▪ น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดำ (B7) มีสัดส่วนไบโอดีเซล 6.6 – 7%
▪ น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B10 มีสัดส่วนไบโอดีเซล 9 – 10%
▪ น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 มีสัดส่วนไบโอดีเซล 19 – 20%
น้ามันดีเซลหมุนเร็ว + ไบโอดีเซล
ไบโอดีเซล (Biodiesel)
เป็นเชื้อเพลิงที่ได้จำกกำรนำน้ำมันพืช
เช่น ปำล์ม ไขมันสัตว์ หรือน้ำมันพืชใช้แล้ว
มำทำปฏิกิริยำทำงได้เป็นสำรเอสเทอร์ ซึ่งมีคุณสมบัติ
ใกล้เคียงกับน้ำมันดีเซล
เมื่อนำมำผสมกับน้ำมันดีเซลในสัดส่วนร้อยละ 5-10 (B5-B10)
สำมำรถนำมำใช้งำนในเครื่องยนต์ดีเซลได้เป็นอย่ำงดี
โดยไม่ต้องดัดแปลงเครื่องยนต์
// สูตรน้ามันไบโอดีเซล
B2 ไบโอดีเซล 2 %: ดีเซล 98 %
มีจำหน่ำยทั่วไปในมลรัฐมินนิโซตำ สหรัฐอเมริกำ
B5 ไบโอดีเซล 5%: ดีเซล 95 %
มีจำหน่ำยทั่วไปในประเทศฝรั่งเศส
B10 ไบโอดีเซล 10%: ดีเซล 90 %
B20 ไบโอดีเซล 20%: ดีเซล 80 %
B40
ไบโอดีเซล 40%: ดีเซล 60 %
เป็นสูตรที่ใช้ในรถยนต์ขนส่งมวลชนใน
ประเทศฝรั่งเศส
B100
ไบโอดีเซล 100%
เป็นน้ำมันไบโอดีเซล 100 เปอร์เซ็นต์ ที่ใช้ใน
ประเทศเยอรมนีและออสเตรีย
มาตรฐานคุณภาพของน้ามันไบโอดีเซล
จุดวำบไฟ (flash point) มำตรฐำนจะอยู่ที่ 130C
ถ้ำหำกสูงกว่ำนี้เป็น 150C หรือ 170 C จะทำให้รถ
สตำร์ทติดยำก
#จุดวำบไฟ คือกำรหำค่ำจุดที่อุณหภูมิต่ำสุดของน้ำมันที่ทำให้
เกิดไอน้ำมันเป็นปริมำณมำกพอ และเมื่อสัมผัสเปลวไฟก็จะลุก
ไหม้ทันที
น้ามันเตา (Fuel Oil)
เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่ถือว่ำเป็นกำกน้ำมัน
(Residual Fuels) เพรำะมีสิ่งเจือปนอยู่
เป็นจำนวนมำก
น้ำมันเตำเป็นเชื้อเพลิงสำหรับเตำต้มหม้อน้ำ และ
เตำเผำหรือเตำหลอมที่ใช้ในโรงงำนอุตสำหกรรม
เครื่องกำเนิดไฟฟ้ำขนำดใหญ่ เครื่องยนต์เรือเดิน
สมุทรและอื่น ๆ
• มีลักษณะเป็นของเหลว
• มีสมบัติหล่อลื่นชิ้นส่วนของเครื่องยนต์
และเครื่องจักรกลที่มีลักษณะปิด
น้ามันหล่อลื่น (Lubricating Oil)
สารเพิ่มคุณภาพ
• เป็นผลิตภัณฑ์ส่วนที่หนักที่สุดที่เหลือจำก
กำรกลั่นปิโตรเลียม
• ยำงมะตอยที่ผ่ำนกรรมวิธีปรับปรุง
คุณภำพจะได้ยำงมะตอยที่มีคุณสมบัติดีขึ้น
คือ มีควำมเฉื่อยต่อสำรเคมีและไอควันแทบ
ทุกชนิด มีควำมต้ำนทำนสภำพอำกำศและ
แรงกระแทก มีควำมเหนียวและมีควำม
ยืดหยุ่นตัวต่ออุณหภูมิต่ำง ๆ ดี
ยางมะตอย (Asphalt)
เชื้อเพลิงเหลวที่มนุษย์ผลิตขึ้น
เอทิลแอลกอฮอล์ (Ethyl Alcohol)
ได้จำกกำรหมักพืชที่เป็นแป้งหรือน้ำตำล
ส่วนใหญ่จะใช้ทำสุรำ เพรำะสำมำรถ
รับประทำนได้ และสำมำรถใช้เป็น
เชื้อเพลิงได้
▪ ปัจจุบันนำมำผสมกับน้ำมันเบนซิน
ในอัตรำไม่เกินร้อยละ 35 เรียกว่ำ
น้ำมันแก๊สโซฮอลล์
เมทิลแอลกอฮอล์ (Methyl Alcohol)
ได้จำกกำรกลั่นไม้ ไม่สำมำรถรับประทำนได้
หำกรับประทำนอำจทำให้ตำบอดหรือ
เสียชีวิตได้ ปกติจะใช้เป็นเชื้อเพลิง หรือสำร
ทำละลำย
▪ ปัจจุบันนิยมนำไปใช้อุ่นอำหำรบนโต๊ะ
ตำมร้ำนอำหำร
น้ามันแก๊สโซฮอล์
น้ำมันเชื้อเพลิงที่เป็นส่วนผสมระหว่ำงน้ำมันเบนซิน
พื้นฐำนกับเอทำนอล (99.5%) ในอัตรำส่วนที่กำหนด
ออกเทน 87
ออกเทน 91
น้ำมันเบนซินพื้นฐำน
เอทำนอล (99.5%)
(ออกเทน 125)
10%
10%
85%
ออกเทน 91
ออกเทน 120
ออกเทน 95
แก๊สโซฮอล์ 91 (E10)
แก๊สโซฮอล์ 95 (E10)
แก๊สโซฮอล์ (E85)
10% ออกเทน 95 แก๊สโซฮอล์ 95 (E20)
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ที่ผสมเอทำนอลในอัตรำส่วน 85% กับน้ำมันเบนซิน
(ชนิดพื้นฐำน ออกเทน 87) 15% เป็นเชื้อเพลิงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
แก๊สโซฮอล์ 91
(E10)
น้ำมันเบนซินไร้สำรตะกั่วผสมกับเอทำนอลในอัตรำส่วน 10% ได้เป็น
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ ออกเทน 91 โดยยังคงคุณสมบัติในกำรใช้งำนกับ
เครื่องยนต์เช่นเดียวกับน้ำมันเบนซินออกเทน 91
แก๊สโซฮอล์ 95
(E10)
น้ำมันเบนซินไร้สำรตะกั่วผสมกับเอทำนอลในอัตรำส่วน 10% เพื่อทดแทน
สำร MTBE ได้เป็นน้ำมันแก๊สโซฮอล์ ออกเทน 95 โดยยังคงคุณสมบัติใน
กำรใช้งำนกับเครื่องยนต์เช่นเดียวกับน้ำมันเบนซินออกเทน 95
แก๊สโซฮอล์
E20
น้ำมันเบนซินที่มีส่วนผสมเอทำนอลในอัตรำส่วน 20% กับน้ำมันเบนซิน
ชนิดพิเศษ (Base Gasohol) ออกเทน 91
แก๊สโซฮอล์
E85
สีน้ำมันเชื้อเพลิง บังคับตั้งแต่ 1 ก.พ.2553
ที่มำ : รำชกิจจำนุเบกษำ ประกำศกรมธุรกิจพลังงำน เรื่อง กำหนดลักษณะและคุณภำพของน้ำมันดีเซล
พ.ศ. 2562 และ ประกำศกรมธุรกิจพลังงำน เรื่อง กำหนดลักษณะและคุณภำพของน้ำมันแก๊สโซฮอล์
พ.ศ. 2562
ชนิดน้ำมัน สี
น้ำมันเบนซิน 95 สีเหลือง
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 สีส้ม
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 สีเขียว
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 สีน้ำตำล
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 สีม่วง
น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดำ สีเหลือง
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B10 สีม่วง
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B 20 สีแดง

More Related Content

What's hot

ธาตุและสารประกอบ
ธาตุและสารประกอบธาตุและสารประกอบ
ธาตุและสารประกอบwebsite22556
 
แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ไขมันและน้ำมัน 3ชม.
แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ไขมันและน้ำมัน 3ชม.แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ไขมันและน้ำมัน 3ชม.
แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ไขมันและน้ำมัน 3ชม.Katewaree Yosyingyong
 
แบบทดสอบ เรืื่องพอลิเมอร์
แบบทดสอบ เรืื่องพอลิเมอร์แบบทดสอบ เรืื่องพอลิเมอร์
แบบทดสอบ เรืื่องพอลิเมอร์Jariya Jaiyot
 
สารชีวโมเลกุล2
สารชีวโมเลกุล2สารชีวโมเลกุล2
สารชีวโมเลกุล2Thanyamon Chat.
 
เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์และผลิตภัณฑ์ 8
เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์และผลิตภัณฑ์ 8เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์และผลิตภัณฑ์ 8
เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์และผลิตภัณฑ์ 8Varin D' Reno
 
Microsoft power point ปฏิกิริยาเคมี
Microsoft power point   ปฏิกิริยาเคมีMicrosoft power point   ปฏิกิริยาเคมี
Microsoft power point ปฏิกิริยาเคมีThanyamon Chat.
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่องความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิต
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่องความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่องความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิต
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่องความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตMam Chongruk
 
กัมมันตรังสี
กัมมันตรังสีกัมมันตรังสี
กัมมันตรังสีพัน พัน
 
บทที่ 11 เคมีอินทรีย์
บทที่ 11 เคมีอินทรีย์บทที่ 11 เคมีอินทรีย์
บทที่ 11 เคมีอินทรีย์oraneehussem
 
ปิโตรเลียม (Petroleum)
ปิโตรเลียม (Petroleum)ปิโตรเลียม (Petroleum)
ปิโตรเลียม (Petroleum)พัน พัน
 
บทที่9 ไฟฟ้าเคมี (สำรอง)
บทที่9 ไฟฟ้าเคมี (สำรอง)บทที่9 ไฟฟ้าเคมี (สำรอง)
บทที่9 ไฟฟ้าเคมี (สำรอง)oraneehussem
 
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์สมศรี หอมเนียม
 
การถ่ายโอนความร้อน ม.1
การถ่ายโอนความร้อน ม.1การถ่ายโอนความร้อน ม.1
การถ่ายโอนความร้อน ม.1Wuttipong Tubkrathok
 
บรรยากาศ
บรรยากาศบรรยากาศ
บรรยากาศSupaluk Juntap
 
เล่ม 5 ปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน
เล่ม 5 ปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวันเล่ม 5 ปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน
เล่ม 5 ปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวันPreeyapat Lengrabam
 
ใบงานที่ 14สารพันธุกรรม
ใบงานที่ 14สารพันธุกรรมใบงานที่ 14สารพันธุกรรม
ใบงานที่ 14สารพันธุกรรมAomiko Wipaporn
 
การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช
การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืชการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช
การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืชsukanya petin
 

What's hot (20)

ธาตุและสารประกอบ
ธาตุและสารประกอบธาตุและสารประกอบ
ธาตุและสารประกอบ
 
สารละลาย (Solution)
สารละลาย (Solution)สารละลาย (Solution)
สารละลาย (Solution)
 
แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ไขมันและน้ำมัน 3ชม.
แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ไขมันและน้ำมัน 3ชม.แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ไขมันและน้ำมัน 3ชม.
แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ไขมันและน้ำมัน 3ชม.
 
แบบทดสอบ เรืื่องพอลิเมอร์
แบบทดสอบ เรืื่องพอลิเมอร์แบบทดสอบ เรืื่องพอลิเมอร์
แบบทดสอบ เรืื่องพอลิเมอร์
 
สารชีวโมเลกุล2
สารชีวโมเลกุล2สารชีวโมเลกุล2
สารชีวโมเลกุล2
 
เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์และผลิตภัณฑ์ 8
เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์และผลิตภัณฑ์ 8เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์และผลิตภัณฑ์ 8
เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์และผลิตภัณฑ์ 8
 
ดิน
ดินดิน
ดิน
 
Microsoft power point ปฏิกิริยาเคมี
Microsoft power point   ปฏิกิริยาเคมีMicrosoft power point   ปฏิกิริยาเคมี
Microsoft power point ปฏิกิริยาเคมี
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่องความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิต
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่องความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่องความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิต
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่องความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิต
 
กัมมันตรังสี
กัมมันตรังสีกัมมันตรังสี
กัมมันตรังสี
 
บทที่ 11 เคมีอินทรีย์
บทที่ 11 เคมีอินทรีย์บทที่ 11 เคมีอินทรีย์
บทที่ 11 เคมีอินทรีย์
 
ปิโตรเลียม (Petroleum)
ปิโตรเลียม (Petroleum)ปิโตรเลียม (Petroleum)
ปิโตรเลียม (Petroleum)
 
บทที่9 ไฟฟ้าเคมี (สำรอง)
บทที่9 ไฟฟ้าเคมี (สำรอง)บทที่9 ไฟฟ้าเคมี (สำรอง)
บทที่9 ไฟฟ้าเคมี (สำรอง)
 
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์
 
การถ่ายโอนความร้อน ม.1
การถ่ายโอนความร้อน ม.1การถ่ายโอนความร้อน ม.1
การถ่ายโอนความร้อน ม.1
 
บรรยากาศ
บรรยากาศบรรยากาศ
บรรยากาศ
 
เล่ม 5 ปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน
เล่ม 5 ปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวันเล่ม 5 ปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน
เล่ม 5 ปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน
 
โลกของเรา (The Earth)
โลกของเรา (The Earth)โลกของเรา (The Earth)
โลกของเรา (The Earth)
 
ใบงานที่ 14สารพันธุกรรม
ใบงานที่ 14สารพันธุกรรมใบงานที่ 14สารพันธุกรรม
ใบงานที่ 14สารพันธุกรรม
 
การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช
การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืชการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช
การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช
 

More from Dr.Woravith Chansuvarn

กรดคาร์บอกซิลิกและอนุพันธ์ (Carboxylic acid & Derivatives)
กรดคาร์บอกซิลิกและอนุพันธ์ (Carboxylic acid & Derivatives)กรดคาร์บอกซิลิกและอนุพันธ์ (Carboxylic acid & Derivatives)
กรดคาร์บอกซิลิกและอนุพันธ์ (Carboxylic acid & Derivatives)Dr.Woravith Chansuvarn
 
แอลดีไฮด์และตีโตน (Aldehydes & Ketones)
แอลดีไฮด์และตีโตน (Aldehydes & Ketones)แอลดีไฮด์และตีโตน (Aldehydes & Ketones)
แอลดีไฮด์และตีโตน (Aldehydes & Ketones)Dr.Woravith Chansuvarn
 
แอลกอฮอล์และฟีนอล (Alcohols and Phenols)
แอลกอฮอล์และฟีนอล (Alcohols and Phenols)แอลกอฮอล์และฟีนอล (Alcohols and Phenols)
แอลกอฮอล์และฟีนอล (Alcohols and Phenols)Dr.Woravith Chansuvarn
 
สารละลายและความเข้มข้น (Solution & Concentration)
สารละลายและความเข้มข้น (Solution & Concentration)สารละลายและความเข้มข้น (Solution & Concentration)
สารละลายและความเข้มข้น (Solution & Concentration)Dr.Woravith Chansuvarn
 
ปฏิกิริยาเคมีอินทรีย์ (Organic Reactions)
ปฏิกิริยาเคมีอินทรีย์ (Organic Reactions)ปฏิกิริยาเคมีอินทรีย์ (Organic Reactions)
ปฏิกิริยาเคมีอินทรีย์ (Organic Reactions)Dr.Woravith Chansuvarn
 
สารอินทรีย์ และหมู่ฟังก์ชัน : Organic Compounds and Functional Groups
สารอินทรีย์ และหมู่ฟังก์ชัน : Organic Compounds and Functional Groupsสารอินทรีย์ และหมู่ฟังก์ชัน : Organic Compounds and Functional Groups
สารอินทรีย์ และหมู่ฟังก์ชัน : Organic Compounds and Functional GroupsDr.Woravith Chansuvarn
 
เคมีสิ่งแวดล้อม (Environmental Chemistry)
เคมีสิ่งแวดล้อม (Environmental Chemistry)เคมีสิ่งแวดล้อม (Environmental Chemistry)
เคมีสิ่งแวดล้อม (Environmental Chemistry)Dr.Woravith Chansuvarn
 
ตารางธาตุ Periodic Table (ฉบับภาษาไทย)
ตารางธาตุ Periodic Table (ฉบับภาษาไทย)ตารางธาตุ Periodic Table (ฉบับภาษาไทย)
ตารางธาตุ Periodic Table (ฉบับภาษาไทย)Dr.Woravith Chansuvarn
 
เคมีนิวเคลียร์ (Nuclear Chemistry)
เคมีนิวเคลียร์ (Nuclear Chemistry)เคมีนิวเคลียร์ (Nuclear Chemistry)
เคมีนิวเคลียร์ (Nuclear Chemistry)Dr.Woravith Chansuvarn
 
เคมีไฟฟ้า (Electrochemistry)
เคมีไฟฟ้า (Electrochemistry)เคมีไฟฟ้า (Electrochemistry)
เคมีไฟฟ้า (Electrochemistry)Dr.Woravith Chansuvarn
 
กฎทางอุณหพลศาสตร์ (Thermodynamic Laws)
กฎทางอุณหพลศาสตร์ (Thermodynamic Laws)กฎทางอุณหพลศาสตร์ (Thermodynamic Laws)
กฎทางอุณหพลศาสตร์ (Thermodynamic Laws)Dr.Woravith Chansuvarn
 
เทอร์โมเคมี (ThermoChemistry)
เทอร์โมเคมี  (ThermoChemistry)เทอร์โมเคมี  (ThermoChemistry)
เทอร์โมเคมี (ThermoChemistry)Dr.Woravith Chansuvarn
 
จลนศาสตร์เคมี (Kinetics Chemistry)
จลนศาสตร์เคมี (Kinetics Chemistry)จลนศาสตร์เคมี (Kinetics Chemistry)
จลนศาสตร์เคมี (Kinetics Chemistry)Dr.Woravith Chansuvarn
 

More from Dr.Woravith Chansuvarn (20)

กรดคาร์บอกซิลิกและอนุพันธ์ (Carboxylic acid & Derivatives)
กรดคาร์บอกซิลิกและอนุพันธ์ (Carboxylic acid & Derivatives)กรดคาร์บอกซิลิกและอนุพันธ์ (Carboxylic acid & Derivatives)
กรดคาร์บอกซิลิกและอนุพันธ์ (Carboxylic acid & Derivatives)
 
แอลดีไฮด์และตีโตน (Aldehydes & Ketones)
แอลดีไฮด์และตีโตน (Aldehydes & Ketones)แอลดีไฮด์และตีโตน (Aldehydes & Ketones)
แอลดีไฮด์และตีโตน (Aldehydes & Ketones)
 
แอลกอฮอล์และฟีนอล (Alcohols and Phenols)
แอลกอฮอล์และฟีนอล (Alcohols and Phenols)แอลกอฮอล์และฟีนอล (Alcohols and Phenols)
แอลกอฮอล์และฟีนอล (Alcohols and Phenols)
 
สารละลายและความเข้มข้น (Solution & Concentration)
สารละลายและความเข้มข้น (Solution & Concentration)สารละลายและความเข้มข้น (Solution & Concentration)
สารละลายและความเข้มข้น (Solution & Concentration)
 
ปฏิกิริยาเคมีอินทรีย์ (Organic Reactions)
ปฏิกิริยาเคมีอินทรีย์ (Organic Reactions)ปฏิกิริยาเคมีอินทรีย์ (Organic Reactions)
ปฏิกิริยาเคมีอินทรีย์ (Organic Reactions)
 
สารอินทรีย์ และหมู่ฟังก์ชัน : Organic Compounds and Functional Groups
สารอินทรีย์ และหมู่ฟังก์ชัน : Organic Compounds and Functional Groupsสารอินทรีย์ และหมู่ฟังก์ชัน : Organic Compounds and Functional Groups
สารอินทรีย์ และหมู่ฟังก์ชัน : Organic Compounds and Functional Groups
 
เคมีสิ่งแวดล้อม (Environmental Chemistry)
เคมีสิ่งแวดล้อม (Environmental Chemistry)เคมีสิ่งแวดล้อม (Environmental Chemistry)
เคมีสิ่งแวดล้อม (Environmental Chemistry)
 
ตารางธาตุ Periodic Table (ฉบับภาษาไทย)
ตารางธาตุ Periodic Table (ฉบับภาษาไทย)ตารางธาตุ Periodic Table (ฉบับภาษาไทย)
ตารางธาตุ Periodic Table (ฉบับภาษาไทย)
 
Periodic Table
Periodic TablePeriodic Table
Periodic Table
 
เคมีนิวเคลียร์ (Nuclear Chemistry)
เคมีนิวเคลียร์ (Nuclear Chemistry)เคมีนิวเคลียร์ (Nuclear Chemistry)
เคมีนิวเคลียร์ (Nuclear Chemistry)
 
เคมีไฟฟ้า (Electrochemistry)
เคมีไฟฟ้า (Electrochemistry)เคมีไฟฟ้า (Electrochemistry)
เคมีไฟฟ้า (Electrochemistry)
 
กฎทางอุณหพลศาสตร์ (Thermodynamic Laws)
กฎทางอุณหพลศาสตร์ (Thermodynamic Laws)กฎทางอุณหพลศาสตร์ (Thermodynamic Laws)
กฎทางอุณหพลศาสตร์ (Thermodynamic Laws)
 
เทอร์โมเคมี (ThermoChemistry)
เทอร์โมเคมี  (ThermoChemistry)เทอร์โมเคมี  (ThermoChemistry)
เทอร์โมเคมี (ThermoChemistry)
 
จลนศาสตร์เคมี (Kinetics Chemistry)
จลนศาสตร์เคมี (Kinetics Chemistry)จลนศาสตร์เคมี (Kinetics Chemistry)
จลนศาสตร์เคมี (Kinetics Chemistry)
 
สารละลาย (Solution)
สารละลาย (Solution)สารละลาย (Solution)
สารละลาย (Solution)
 
ของเหลว (Liquid)
ของเหลว (Liquid)ของเหลว (Liquid)
ของเหลว (Liquid)
 
ของแข็ง (Solid)
ของแข็ง (Solid)ของแข็ง (Solid)
ของแข็ง (Solid)
 
แก๊ส (Gases)
แก๊ส (Gases)แก๊ส (Gases)
แก๊ส (Gases)
 
AnalChem: UV-Vis
AnalChem: UV-VisAnalChem: UV-Vis
AnalChem: UV-Vis
 
AnalChem: Complexometric titration
AnalChem: Complexometric titrationAnalChem: Complexometric titration
AnalChem: Complexometric titration
 

Petroleum : ปิโตรเลียม