More Related Content
Similar to 9789740330219 (20)
9789740330219
- 1. บทที่ 1 ลูกใครหวา
บทบาทของครูนอกเหนือจากการสอนแลว ครูยังมีหนาที่ปรับพฤติกรรม
ที่ ไม พึ ง ประสงค ข องนั ก เรี ย นให เป น ไปในแนวทางที่ เหมาะสม ป จ จุ บั น พบว า
มีนักเรียนที่มีปญหาดานพฤติกรรมมากขึ้น เชน โรคสมาธิสั้น พบได 10% ปญหา
ทางดานอารมณ สังคม เปนตน การชวยเหลือนักเรียนจึงตองทราบถึงสาเหตุเพื่อ
ใหนักเรียนไดรับการชวยเหลืออยางเต็มที่ ปญหาตาง ๆ ที่เกิดขึ้นจะไดลดลง
อย า งรวดเร็ ว จากประสบการณ ก ารสอนของผมได พ บนั ก เรี ย นที่ มี ป ญ หา
พฤติกรรมหลากหลาย ซึ่งบางกรณีเปนพฤติกรรมที่กอใหเกิดความยุงยากตอ
ตัวเอง เพื่อน ๆ และสังคม จึงจำเปนตองปรับพฤติกรรมของนักเรียนเพื่อให
บรรยากาศการเรียนการสอนและการอยูรวมกันดำเนินอยางมีความสุข
เอ บี และซี เปนชื่อของนักเรียนที่ผมไดรูจักและไดเรียนรู ผมเปนครูสอน
อยูที่โรงเรียนประถมศึกษาที่มีชื่อเสียงแหงหนึ่งในแตละปที่นักเรียนขึ้นชั้นเรียน
ใหมจะมีการจัดชั้นเรียนใหนักเรียนคละกันไป ทำใหนักเรียนมีโอกาสปรับตัวเขา
กับเพื่อนใหม รูจักเพื่อนมากขึ้น และเมื่อเรียนถึงระดับชั้นประถมศึกษาปที่ 6
นักเรียนทั้งระดับเกือบจะรูจักกันหมดทุกคน
AW_child story#file.indd 1 9/13/12 11:54:05 PM
- 2. ขณะที่ผมสอนโรงเรียนนี้ได 3 ป ผมไดสอนวิชาสังคมศึกษา ระดับประถม
ศึ ก ษาป ที่ 6 ห อ งที่ เด็ ก หญิ ง เอเรี ย นอยู ผมสั ง เกตพบว า เพื่ อ น ๆ ส ว นใหญ
ในหองไมยอมรับเอ และนอกจากเพื่อนในหองแลว เพื่อนในระดับ ป.6 สวนใหญ
โดยเฉพาะอยางยิ่งนักเรียนชายที่เรียนอยูในระดับออน ไมชอบเอ มักจะลอหรือ
ยัวยุเอ หรือแสดงความรังเกียจเออยางชัดเจน เชน เอานิวแตะเอ แลวเอาไปแตะเพือน
่ ้ ่
เพื่อนก็จะวิ่งหนีกลัวติดเชื้อจากเอ ซึ่งเอเองก็รูตัววาเพื่อนไมชอบ เอเปนเด็กหญิง
ที่มีลักษณะทวมนิด ๆ ผิวมีตุมเล็ก ๆ คลายเปนผื่น เรียนไมดีนัก เวลาอาจารย
เรียกตอบมักตอบไมคอยได และไมคอยพูด ทำใหเธอขาดความเชื่อมั่นในตนเอง
และขาดเพือน สุดทายเอลาออกจากโรงเรียนเมืออยูมธยมศึกษาปที่ 3 เพราะปรับตัว
่ ่ ั
เขากับเพื่อนไมคอยได
หลังจากนั้นอีก 6 ป ผมไดพบนักเรียนหญิงชื่อ บี บีไมไดรับการยอมรับ
จากเพื่อนและมักถูกลอจากเพื่อน ๆ ทำใหผมหวนนึกถึงเออยางยิ่ง บีมีรูปรางที่
ผอมจนเพื่อน ๆ เรียกวากางใสแวนตาหนาใหญ ผลการเรียนไมคอยดี ขาดความ
เชื่ อ มั่ น ทั้ ง จากการเรี ย น และจากการถู ก เพื่ อ นล อ บี ไ ม ค อ ยพู ด กั บ ใคร
บีเรียนจนจบชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 การถูกเพื่อนลอเรียนในวัยเด็ก สงผลเสียหาย
และเปนปมซอนเรนในจิตใตสำนึกของเด็ก ๆ หลายคนตองหาทางยุติความ
ทรมานจากการถูกลอเลียนหรือคำสบประมาทของเพื่อน ๆ บางคนทนไมไหว
อาจเกิดปฏิกิริยาและหาทางตอบโตในลักษณะตาง ๆ
4 ปตอมาผมสอนวิชาสรางเสริมประสบการณชีวิตชั้น ป.1 ทุกเชาวัน
พฤหัสบดี นักเรียน ป.1 จะเรียนวิชาจริยศึกษารวมกันในหองประชุมวันพฤหัสบดี
แรกของการเรี ย นผมสั ง เกตว า มี นั ก เรี ย นชายตั ว ไม โ ตนั ก แต ค รู ป ระจำชั้ น
2
AW_child story#file.indd 2 9/13/12 11:54:06 PM
- 3. ใหนักเรียนคนนี้นั่งทายแถว จากนั้นเด็กชายคนนี้แสดงอาการแปลก ๆ คือนั่งเลน
คนเดียว สงเสียงพึมพำเหมือนบน มือสายไปมาไมหยุด ทำใหผมทราบแลววา
ทำไมเด็กคนนี้ตองมานั่งอยูทายแถวของหอง เด็กคนนี้ชื่อ ซี ซีถูกอาจารยอาวุโส
ที่เครงครัดในระเบียบวินัยทานหนึ่งสั่งใหซีนั่งนิ่ง ๆ แตซีเหมือนไมรูคำสั่งนั้น ครู
ทานนั้นจึงทำโทษ แตซีก็ยังคงไมนิ่ง ครูทานนั้นจึงตี ซีก็ไมแกไขตนเองเอาแต
รองไหไมหยุด ในที่สุดซีตองออกจากหองประชุมทุกวันพฤหัสบดีที่ผมพบซี ซีจะมี
อาการเหมือนเดิมและครูทานนั้นก็พยายามแกไขพฤติกรรมซีในรูปแบบตาง ๆ
แตผมคิดวาทานคงไมสามารถเปลี่ยนซีได ขณะเดียวกันผมก็อดคิดไมไดวา ถา
อีก 5 ป ขางหนาผมไดเปนครูประจำชั้นซีผมจะทำอยางไรในการแกไขปญหานี้
เหมื อ นเป น โชคชะตา 5 ป ต อ มาผมได เป นครู ป ระจำชั้ น ในห อ งที่ ซี อ ยู
ความหนักใจเริ่มเกิดขึ้นกอนเปดเทอมเสียอีก ในระยะแรก ๆ ผมสังเกตเห็นวา
เพื่ อ น ๆ ในห อ งส ว นใหญ ไม ย อมรั บ ซี และก็ ร วมถึ ง เพื่ อ นในระดั บ ชั้ น ด ว ย
ผมหวนนึกถึงเอ และบี แตซีมีทั้งพฤติกรรมสวนตัวและการปรับตัวเขากับเพื่อน
ดวย ซึ่งคราวนี้ซีเปนเด็กในหองที่ผมประจำชั้นอยูในความรับผิดชอบของผมอยาง
เต็มที่ ผมจะตองดูแลปญหานี้ใหผานไปดวยดี
กอนอื่นเรามาทำความรูจักลักษณะนิสัยและพฤติกรรมของซี เพื่อเปน
ขอมูลดังนี้
1. ดานการเรียน ซีเปนนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนอยูในระดับออน
การทำงานไมคอยเปนระเบียบนัก แตจะสงงานและการบานครบถวนดี ทั้งนี้
เพราะพอและแมของซีเอาใจใสในการบานของซีดีมาก ขณะนั่งเรียนวิชาตาง ๆ ซี
3
AW_child story#file.indd 3 9/13/12 11:54:06 PM
- 4. จะมีสมาธิสั้น มักจะนั่งเหมอมองไปนอกหอง การเรียนจึงไมตอเนื่อง ขณะเรียน
บางครังนังเลนมือและบนเงียบ ๆ อยูคนเดียว ไมมการซักถาม แตมกจะอยากตอบ
้ ่ ี ั
อยากพูดในเรื่องที่ตนสนใจซึ่งเปนเรื่องของสัตวตาง ๆ โดยเฉพาะปลา ซีมีความรู
เรื่องสัตวลึกซึ้งและละเอียดกวาเพื่อนในระดับชั้นเดียวกัน ลักษณะการพูดของซี
จะพูดเร็ว ๆ สั้น ๆ หวน ๆ ติดอางบาง ตองตั้งใจฟงจึงจับใจความได
2. ด า นพฤติ ก รรมส ว นตั ว และสั ง คม ซี มี โ ลกส ว นตั ว อย า งมาก ซี
ไมสามารถยืนหรือนั่งนิ่งไดนานนัก มักจะสรางโลกสวนตัวขึ้นมาโดยการสมมุติ
มือซายและขวาเปนเหมือนปลา หรือสัตวอื่น ๆ จากนั้นซีจะจินตนาการเรื่องราว
โดยปากพูดถึงเรื่องราวที่สมมุติอยูเบา ๆ เหมือนบน และมือทั้งสองก็เคลื่อนไหว
สอดคลองกับจินตนาการ การใชจินตนาการการคิดแบบเลื่อนลอยถาใชบอย ๆ
และมากเกินไปจะเกิดโทษเพราะทำใหปรับตัวเขากับสภาพแวดลอมที่เปนจริง
ไดยากลำบาก การที่ซีมีโลกสวนตัวนั้นเพราะซีไมมีเพื่อน และไมสนใจเพื่อนเลย
คิ ด ว า อยู ค นเดี ย วก็ ได และการอยู ค นเดี ย วก็ ไม มี ค นแกล ง ด ว ย นอกจากการ
มีโลกสวนตัวของซีแลวอุปสรรคอีกประการในการปรับตัวใหเขากับเพื่อนคือการ
สื่อภาษา เพราะการติดตอสื่อสารที่สามารถสื่อความหมายไดดีคือการพูด หาก
นักเรียนคนใดมีความบกพรองทางการพูด การติดตอสื่อสารยอมเกิดปญหาและ
อุปสรรคในการอยูรวมกับผูอนซึงจะทำใหนกเรียนคนนันขาดความสุข นอกจากนัน
ื่ ่ ั ้ ้
ภาษาพูดยังชวยระบายอารมณของคน ๆ นั้นดวย ทำใหคลายความทุกข การมี
ปญหาเรื่องการพูดจึงกอใหเกิดปญหาปรับตัวเขากับเพื่อน หรือคนอื่น ๆ ที่ตน
เขาไปเกี่ยวของดวย ซีไมสามารถใชคำพูดสื่อสารไดตามตองการ คือจะพูดหรือ
จะอธิบายอะไรก็ยากลำบาก ขณะเดียวกันการสรางโลกสวนตัวของซี ทำใหซี
ติดตอกับเพื่อนนอย ซึ่งทำใหการใชภาษาสื่อสารของซีไมพัฒนาดวยเปนลูกโซ
4
AW_child story#file.indd 4 9/13/12 11:54:07 PM
- 5. เชนนี้ ตัวอยางของปญหาในการสื่อสารคือ ในวันพฤหัสบดีจะเรียนวิชาลูกเสือ
ผาพันคอของซีไมเรียบรอย ซียื่นผาพันคอใหเพื่อนชวยพันให เพื่อนคนนี้นิสัยดี
ไม รั ง เกี ย จซี จึ ง พั น ให ข ณะที่ เพื่ อ นกำลั ง ม ว นผ า อยู นั้ น ซี เ อามื อ ไปทุ บ เพื่ อ น
โดยไมพูดไมถามอะไรใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะคิดวาเพื่อนกำลังแกลงทำใหผายับ
ผมซักถามซีวาทำไมทำเชนนั้น จนทราบเหตุแลวผมตองอธิบายใหซีทราบวา
เพื่อนไมไดแกลงและใหซีขอโทษเพื่อนคนนั้น
3. ดานครอบครัว ซีมีพี่นองรวม 3 คน ซีเปนคนกลาง พี่และนองของซี
ปรับตัวเขากับเพื่อนไดดี และเรียนดี พอและแมของซีใหนองสาวซีเปนผูคอยดูแล
ชวยเหลือซีในบางครั้ง จากการสอบถามซีวาเวลาซีดื้อคุณพอทำอยางไรเพื่อผม
จะไดนำวิธีมาใชบาง ซีบอกวาคุณพอตีดวยเข็มขัด ผมคิดวาถาผมใชวิธีนี้ผมคง
ติดคุกกอนชวยเหลือซีได ขณะเดียวกันก็ทำใหเขาใจวาทำไมตอน ป.1 ซีจงไมกลัว ึ
การทำโทษของอาจารยอาวุโสทานนั้น ในบางโอกาสที่ผมไดพูดคุยกับผูปกครอง
พบว า ผู ป กครองไม ให ค วามร ว มมื อ ในการให ข อ มู ล ของซี เท า ที่ ค วร เหมื อ น
ไมยอมรับวาซีมีปญหา บางครั้งผูปกครองแอบมาคอยดูพฤติกรรมของซีและ
เพื่อน ๆ ที่มาแกลงซี เพื่อจัดการเพื่อนนักเรียนเหลานั้นดวยตนเอง ดังนั้น การ
ชวยเหลือซีจึงยากยิ่งขึ้นเพราะขาดความรวมมือจากผูปกครอง
4. ดานสุขภาพกาย ซีเปนเด็กที่มีรางกายสมสวน แข็งแรง ทานอาหาร
ไดดีเวนของหวาน จะไมทานเลย เพราะไดรับการปลูกฝงมาวาจะทำใหฟนผุ และ
ซีก็เครงครัดมากไมยอมกินของหวานใด ๆ
5
AW_child story#file.indd 5 9/13/12 11:54:08 PM
- 6. กลาวโดยสรุปคือ ซีมีปญหาเรื่องสมาธิสั้น มีโลกสวนตัว ภาษาที่ใชสื่อสาร
ไมดี ถูกเพือนแกลง มีปญหาการปรับตัวทางสังคม ชอบแยกตัวจากสังคม ไมคบใคร
่
การแกปญหาของซีมี 2 สวน คือ สวนที่เปนลักษณะพฤติกรรมของตัวซี
เอง และสวนที่เกิดจากการกระทำของเพื่อน ๆ รอบขาง ในสวนที่ 2 นี้ ผมขอ
แนะนำนักเรียนรวมชั้นของซีอีก 3 คนที่มีบทบาทอยางมากตอซี และการทำงาน
ของผม นักเรียนทั้ง 3 คนเปนนักเรียนชาย และเปนเพื่อนที่สนิทกัน คือ เค เอ็ม
และโอ ทั้งสามมีผลการเรียนในระดับปานกลาง
เคจะเรียนออนกวาเพือน มีความรับผิดชอบตองานนอยกวา สมาธิในการเรียน
่
ไมดนก ชอบคุยขณะเรียน ทำใหโดนครูวชาตาง ๆ ตักเตือนเปนประจำ เคจะไมพอใจ
ี ั ิ
ทุ ก ครั้ ง ที่ โดนตำหนิ แ ละมั ก จะเปรี ย บเที ย บกั บ ซี เ สมอว า ครู ล ำเอี ย ง เคชอบ
แสดงออกในความเปนผูนำทางความคิด เพื่อใหเพื่อน ๆ ยอมรับ โดยเฉพาะ
ความคิดจับผิดซีอยูเสมอ ซึ่งก็จะไดผลอยูบอย ๆ เพราะนักเรียนสวนใหญไมคอย
ชอบซีอยูแลว
เอ็ม เปนเด็กที่ฉลาดวางตัวไดดี แตไมชอบพฤติกรรมของซี เอ็มมักอยู
เบื้องหลังของเคเพื่อยุใหเคมีเรื่องกับซี
สวนโอ เปนโรคสมาธิสั้น (Attention deficit hyperactivity disorder)
สมาธิไมดีอยูนิ่งไมได โดยเฉพาะวันไหนที่ลืมกินยา จะคุมตนเองยากจะพูดคุย
และเลนตลอดเวลา สำหรับโอตางจากทั้งสองคน เพราะพื้นฐานเปนคนจิตใจ
ออนโยนแตไมแนนอน บางวันโอก็จะรูสึกเห็นใจซี ชวยเหลือซี แตบางวันก็ไมชอบ
6
AW_child story#file.indd 6 9/13/12 11:54:08 PM
- 7. ซีมาก ๆ ก็จะไปรวมมือกับเค และเอ็มในการแกลงหรือใสความซี
ทั้งสามคนตางมีอคติตอซี จองจับผิดซีอยูเสมอ คอยเปรียบเทียบความ
ยุติธรรมของครูตอพวกเขาและซี โดยไมยอมเขาใจวาซีมีปญหาดานพฤติกรรม
แมครูจะพยายามอธิบายอยางไรทั้ง 3 คนก็จะหาโอกาสแกลง หรือแหยใหซีโกรธ
หรือเสียใจ ซึ่งเมื่อซีโกรธหรือเสียใจทั้งสามจะรูสึกสะใจ การแหยใหซีโกรธนั้น
งายมากซึ่งเด็กทั้งระดับชั้น ป.6 ในปการศึกษานั้นรูกันทุกคน คือ เพียงพูดวา
บี้มดใหซีไดยิน ซีก็จะกรี๊ดออกมาอยางดัง บางครั้งหนาหงิกงอเหมือนรองไหหรือ
อาจรองไห และรวมถึงไลทุบคนที่พูด ซึ่งคนที่พูดเมื่อถูกซีทุบก็จะทุบซีกลับคืน
แตการทุบกลับนั้นทำดวยความรุนแรงกวามาก และมักอางวาซีมาทำกอนเพื่อ
เปนเหตุใหครูทำโทษไดลำบากเพราะซีลงมือทำกอนจริง หลายทานคงสงสัย
เหมือนผมวาทำไมเมื่อซีไดยินคำวาบี้มดจึงโกรธมาก ผมไดถามซี และไดรับ
คำตอบวาสงสารมด ทั้งที่จริงไมมีใครบี้มดจริง เปนคำพูดลอเลน ปจจุบันซีอยู
ม.3 แลว แตคำวาบี้มดก็ยังใชไดผลกับซี สิ่งเหลานี้เปนปญหาที่ทาทายใหผม
ตองหาทางแกไขและปรับพฤติกรรมของซีใหดีขึ้น
การแกปญหาชันเรียนทีผมใชไดผลเสมอมาคือการเปนผูนำกลุม (leadership)
้ ่
ครูประจำชั้นมีความผูกพันกับเด็กมาก เปนผูอบรมสั่งสอนดูแลความเรียบรอย
ความสงบสุขของนักเรียนอยางใกลชิดก็จริง แตไมไดหมายความวาครูประจำชั้น
ผูน้ันเปนผูนำ (Leader) เพราะผูนำกลุมของผมหมายถึง ผูนำที่ไดรับการยอมรับ
จากนักเรียนในชั้นเรียนโดยความเชื่อมั่น เชื่อถือ (trust) และความศรัทธา (faith)
มากกวาการยอมรับเพราะคำสั่ง และความอาวุโสกวา เปนคนที่มีบทบาทเฉพาะ
อยางที่มีอิทธิพลตอพฤติกรรมของผูอื่นที่อยูในกลุมเดียวกัน เชน เมื่อผมบอกให
7
AW_child story#file.indd 7 9/13/12 11:54:09 PM
- 8. สมาชิกในกลุมทำสิ่งใด สมาชิกก็ทำหรือเชื่อตาม การเปนผูนำกลุมทำใหเด็ก ๆ
ยอมรับเรางายขึน ฟงเหตุผลของเราในทางบวกไดงายขึน ทำใหเราแกปญหาตาง ๆ
้ ้
ไดงายขึ้น ดังนั้น การสรางผูนำกลุมของผมก็เริ่มขึ้นทันที ซึ่งการสรางความ
เปนผูนำกลุมนี้ไดรวมกระบวนการแกปญหารวมอยูในกระบวนการนี้ดวย โดย
1. สรางความใกลชิดและเปนกันเองกับนักเรียนทุกคนใหเร็วที่สุด การ
สรางความใกลชิดและเปนกันเองนี้ครูตองเขาหาเด็กนักเรียนกอน ตองสังเกต
พฤติกรรมเฉพาะตนของเด็กแตละคน เชน ชอบอะไรไมชอบอะไร ราเริงหรือ
สุภาพ วองไวหรือเฉื่อยชา ครูตองทำดวยความสุข และความจริงใจจึงจะไดผล
เพราะอยาลืมวาขณะที่ครูศึกษา และสังเกตเด็ก เด็กก็ศึกษาพฤติกรรมครูของเขา
ไปดวย เมื่อเขารูวาเรารักเขาอยางจริงใจพวกเขาก็จะยอมรับและรักเราอยาง
รวดเร็ว เชนกัน
กอนเขาเรียนทุกเชาผมจะเดินดูและทักเด็กทุกคนที่มาโรงเรียน เพื่อ
สั ง เกตความผิ ด ปกติ ห รื อ ความกั ง วลของเด็ ก ทุ ก คน เมื่ อ เห็ น สิ่ ง ผิ ด ปกติ ก็ จ ะ
ซักถาม และชวยเหลือในทันที การทักทายถาเปนนักเรียนชายก็อาจลูบหัวดวย
ความเอ็นดูใชสื่อภาษาทางกาย (Body language) ไปดวย รวมทั้งการพูดจา
หยอกล อ เล นกั บ เด็ ก แต ล ะคนเป นที่ ส นุ ก สนานไปด ว ยกั น เด็ ก คนไหนลื ม ทำ
การบานมาก็จะชวยสอน คนไหนลืมเอาอุปกรณใดมาก็จะหาให วันไหนสอบวิชา
อะไร ก็จะชวยทบทวนใหในบรรยากาศที่ผอนคลายและเปนกันเอง
โฮมรูม ชวงนี้เปนอีกชวงที่จะสรางความใกลชิดระหวางครูและนักเรียน
เปนชวงเวลาในการสรางขอตกลง กฎระเบียบวินัยตาง ๆ การรับฟงความคิดเห็น
8
AW_child story#file.indd 8 9/13/12 11:54:09 PM
- 9. ซึ่งกันและกัน รวมทั้งการหาทางชวยกันแกปญหา โดยผมจะใหเด็ก ๆ ชวยกัน
คิดในเรื่องตาง ๆ เชน ขอตกลงหอง การแกปญหาของเพื่อน การทำกิจกรรม
ตาง ๆ ทั้งในหองเรียนและในระดับชั้น และผมจะแทรกขอคิดที่เด็กอาจลืมหรือ
คิดไมถึงลงไป ซึ่งเด็กก็จะยอมรับวาครูคิดดวยจะรอบคอบกวาการยอมรับ การ
รับฟงและความเปนผูนำกลุมก็กำลังเริ่มขึ้นทีละเล็กละนอยเชนกัน
การเฝาดูแลขณะเรียนวิชาตาง ๆ อยางใกลชิด ไมวาจะไปเรียนพละ
หรือการงานอาชีพและเทคโนโลยี เพื่อสังเกตพฤติกรรมในชวงเวลาตาง ๆ จนเรา
เหมือนเปนสวนหนึ่งของพวกเขาไปดวย ถาวันไหนเราแอบดูพวกเขาอยู โดยเขา
ไมเห็นเราเขาก็จะมองหา และเมื่อเห็นเราพวกเขาก็จะยิ้มดวยความดีใจที่เราอยู
ใกล ๆ การเฝาดูอยางใกลชิดนี้ทำใหเค เอ็ม และโอ หาโอกาสแหยซีไดยาก
ไปดวยในการไปเฝาดูแลพวกเขาอยาทำใหพวกเขารูสึกวาเราไปจับผิด แตใหเขารู
วาเราไปดูเขาดวยความรัก ความหวงใยพวกเขา ซึ่งพวกเขาจะรับรูไดจากทาทาง
และสายตาของเรา
อยูบนความยุติธรรม ขอนี้สำคัญมาก เด็ก ๆ ตองการไดความรัก
จากครูเทาเทียมกัน ดังนั้น ไมวาการกระทำใด ๆ ของครูตอนักเรียนทุกคน
ในชั้ น เรี ย นต อ งอยู บ นความเสมอภาคเท า เที ย มกั น ใช ก ฎ ระเบี ย บ หรื อ การ
ทำโทษเหมือน ๆ กัน จะทำใหเด็กพอใจและรูถึงความยุติธรรมและความถูกตอง
ของครู เปนการสรางความศรัทธาในตัวครูอยางยิ่ง
9
AW_child story#file.indd 9 9/13/12 11:54:10 PM
- 10. อยูบนเหตุผล และขอตกลง ครูตองใหโอกาสนักเรียนแสดงถึงเหตุผล
ที่นักเรียนคิดหรือทำสิ่งตาง ๆ และสั่งสอน หรือตักเตือนนักเรียนดวยเหตุผล
และเมตตาธรรมเสมอ
2. ชักจูงกลุมใหรูสึกเห็นใจและเขาใจซี เมื่อเราเปนผูนำกลุมแลว เราก็เริ่ม
ชักจูงใหเด็ก ๆ เขาใจพฤติกรรมของซี และเห็นอกเห็นใจซีมากกวารังเกียจ ซึ่ง
เด็กสวนใหญเมือยอมรับในความเปนผูนำของเราแลวเราจะสลายความคิดทีผด ๆ
่ ่ ิ
หรือถายทอดกันมาจากเพือนๆ ไดงาย และยอมรับในซีมากขึน แตไมถงกับชวนซี
่ ้ ึ
เลนดวย แตเลิกที่จะจองจับผิด หรือแหยซี อีกทั้งเปนการแยกนักเรียนสวนใหญ
ออกมาจากเดิมที่เคยเปนแนวรวมของเค เอ็ม และโอ โดยเค เอ็ม และโอไมรูตัว
และทั้งสามก็ยอมรับเราดวย
สำหรับการแกปญหาซีนั้นผมจะใชเวลาพูดคุยกับซีในชวงเวลาพักตาง ๆ
ทำใหผมไดรูจักซีมากขึ้น และทำใหซีไดฝกพูดสนทนา รูจักใชภาษาเพื่อการ
สื่อสาร มีความเชื่อมั่นในการสื่อสาร กลาแสดงความคิดเห็นมากขึ้นเพราะรูวา
มี ค นตั้ ง ใจฟ ง และรู ว า มี ผ มเป น เพื่ อ นไม ได อ ยู ในโลกส ว นตั ว เช น เคย และรู สึ ก
ปลอดภัยจากการถูกแกลงดวย ซึ่งสอดคลองกับเรฟฟนี (1993) ไดเสนอแนะ
แนวทางในการพัฒนาการเห็นคุณคาในตนเองโดยครูจะตองเรียนรูลักษณะพิเศษ
ของนักเรียนแตละคนและใหความเอาใจใสในลักษณะพิเศษนั้น ๆ ของนักเรียน
แตละคน และใหความเอาใจใสในลักษณะพิเศษนั้น ๆ ของนักเรียน ดังนั้น ผม
ไมตองดุซี หรือใชความรุนแรงกับซีเพื่อใหซีเชื่อฟงผม แตผมใชการพูดกับซีได
โดยงาย แตในบางครั้งซีอารมณไมดี ซึ่งอาจเกิดจากสาเหตุทางบานหรือถูกเพื่อน
แกลงซีจะไมฟงผม ผมก็จะไมฝนเอาชนะซี แตจะปลอยซีสกพักจนอารมณทรอนแรง
ั ี่
10
AW_child story#file.indd 10 9/13/12 11:54:10 PM