งานคอม
- 2. เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มีผลกระทบต่อความเจริญก้าวหน้าของสังคม ปัจ
จุบัน
เทคโนโลยีด้านนี้มีการ เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงเป็นเรื่องยากที่ประชาชนจะคอย
ติดตามความก้าวหน้าอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการศึกษาเทคโนโลยี ของคอมพิวเตอร์ จึง
ต้องศึกษาหลักการและเนื้อหาพื้นฐานเป็นสา คัญ การศึกษาด้านวิทยาการ
คอมพิวเตอร์เป็นสงิ่จา เป็นเสมือนกับการศึกษาวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ คอมพิวเตอร์
ได้เปลี่ยนแปลง โลกของเราในด้านต่างๆ มากมาย ได้แก่
1. สังคมโดยส่วนใหญ่เปลี่ยนจากสังคมอุตสาหกรรมเป็นสังคมสารสนเทศ
2. การตัดสินใจในเรื่องต่างๆ มักขึ้นอยู่กับข้อมูลซึ่งได้จากระบบคอมพิวเตอร์
3. คอมพิวเตอร์กลายเป็นเครื่องมือที่สา คัญแทนเครื่องมืออื่นๆ ในอดีต เช่น เครื่อง
พิมพ์ดีด เครื่องคิดเลข เป็นต้น
4. คอมพิวเตอร์ถูกใช้ในการออกแบบสถานการณ์หรือปัญ
หาที่ซับซ้อนต่างๆ
5. คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์หลักที่ใช้ในงานติดต่อสื่อสารของโลกปัจ
จุบนั
- 3. การศึกษาด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มีขึ้น เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนมีความรู้ ความ
เข้าใจในวิทยาการคอมพิวเตอร์ และมีความสามารถในการพัฒนาโปรแกรมได้ การ
จัดทา โครงงานคอมพิวเตอร์จะเป็นสิ่งที่ทา ให้ผู้เรียน สามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้อย่าง
สมบูรณ์ จุดมุ่งหมายที่สา คัญประการหนึ่งของการเรียน
การสอน คอมพิวเตอร์ ในโรงเรียน คือ การที่ผู้เรียนได้มีโอกาสนาความรู้
เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ไปใช้ในการแก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้น หรือค้นคว้าหาความรู้
ต่างๆ ด้วยตนเอง ซึ่งวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากวิธีหนึ่งคือการทา โครงงาน
คอมพิวเตอร์
- 4. โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นการใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆ ในการศึกษา
ทดลอง แก้ปัญ
หาต่างๆ เพื่อนาผลงานที่ได้มาประยุกต์ใช้งานจริง หรือเพื่อใช้ช่วยสร้าง
สื่อเสริมการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพยงิ่ขึ้น โครงงานคอมพิวเตอร์จึงเป็น
กิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่ช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และฝึกทักษะการใช้เครื่อง
คอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ พร้อมทั้งเครื่องมือต่างๆในการแก้ปัญ
หา รวมทัง้การ
พัฒนาเจตคติในการสร้างผลงาน
โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ผู้เรียนสามารถศึกษาปัญ
หาที่ตน
สนใจ ซึ่งอาจเป็นปัญหาที่ต้องใช้ความรู้ที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มาผสมผสานกัน ซึ่งบาง
โครงงานอาจต้องใช้ความรู้อื่นๆ มาร่วมด้วย โดยผู้เรียนจะต้องวางแผนการดา เนินงาน
ศึกษา พัฒนาโปรแกรมหรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนทักษะพื้นฐานในการพัฒนา
โครงงาน โครงงานบางเรื่องอาจต้องการวัสดุอุปกรณ์นอกเหนือจากที่มีอยู่ ซึ่งผู้เรียน
จะต้องพัฒนาขึ้น หรือดัดแปลงเพื่อให้ใช้งานได้ตรงกับความต้องการ โดยในการพัฒนา
โครงงานคอมพิวเตอร์จะอยู่ภายใต้การดูแลและให้คา ปรึกษาของผู้สอน และ
ผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ
- 5. การทา โครงงานและการจัดงานแสดงโครงงานคอมพิวเตอร์จะมีคุณค่าต่อการฝึกฝนให้
ผู้เรียนมีความรู้ ความชานาญ และมีทักษะในการนาระบบคอมพิวเตอร์ไปใช้ในการแก้ปัญหา
ประดิษฐ์คิดค้น หรือค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ ด้วยตนเองดังที่ได้กล่าวมาแล้ว และยังมีคุณค่า
อื่นๆ อีกดังต่อไปนี้
- เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้พัฒนาและแสดงความสามารถตามศักยภาพของตนเอง
- เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า และเรียนรู้ในเรื่องที่ผู้เรียนสนใจได้ลึกซึ้งกว่าการเรียนใน
ห้องตามปกติ
- ส่งเสริมและพัฒนากระบวนการคิด การแก้ปัญหา การตัดสินใจ รวมทัง้การสื่อสารระหว่างกัน
- กระตุ้นให้ผู้เรียนมีความสนใจในการศึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และมีความสนใจที่จะ
ประกอบอาชีพทางด้านนี้
- ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ในทางสร้างสรรค์
- สร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับผู้สอนและชุมชน รวมทัง้ส่งเสริมให้ชุมชนสนใจ
คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องมากขึ้น
- สร้างสา นึกและความรับผิดชอบในการศึกษาและพัฒนาระบบด้วยตนเอง
- 7. ขอบข่ายของโครงงาน
1. เป็นกิจกรรมการเรียนให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติดัวยตนเองโดยอาศัยหลักวิชาการทางทฤษฎี
ตามเนื้อหาโครงงานนั้นๆ หรือจากประสบการณ์และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้พบเห็นมากแล้ว
2. นักเรียนทุกคนพิจารณาจัดทา โครงงานด้วยตนเอง หรือเป็นกลุ่มโดยใช้ระยะเวลาสัน้ๆ เป็นภาคเรียน
หรือมากว่าก็ได้ แล้วแต่โครงงานเล็กหรือใหญ่
3. นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเรมิ่สร้างสรรค์ คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้นคว้าปฏิบัติด้วยตนเองตามความ
ถนัด สนใจ และความพร้อม
4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบัติงานและการแปลผล รายงานผลต่อ
อาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อดา เนินงานร่วมกันให้บรรลุตามจุดหมายที่กา หนดไว้
5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียนตามวัยและสติปัญ
ญา รวมทัง้การใช้
จ่ายเงินดาเนินงานด้วย
- 8. ประเภทของโครงงาน
1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อ
การศึกษา เช่น โครงงานเกี่ยวกับการพัฒนาเว็บไซต์
2. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ เป็นโครงงานที่สร้างเครื่องมือ ใช้สร้างงาน ส่วนใหญ่จะอยู่ใน
รูปของซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป
3. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการจา ลองการ
ทดลองของสาขาต่างๆ
4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานในชีวิตประจา วัน
5. โครงงานพัฒนาเกม เพื่อความรู้ ความเพลิดเพลิน เช่น เกมหมารุก
- 10. ความหมาย
เป็นโครงงานทีใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้าง
โปรแกรมบทเรียน หรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวนและ
คาถามคาตอบไว้พร้อมผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่ม การสอนโดย
ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยนี้ ถือว่าเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ไม่ใช่เป็นครูผู้สอน
ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบ Online ให้นักเรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้
โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่าง ๆ ไม่
ว่าจะเป็นสาขาคอมพิวเตอร์ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ วิชาสังคม วิชาชีพอื่น
ๆ ฯลฯ โดยนักเรียนอาจคัดเลือกหัวข้อที่นักเรียนทัว่ไปที่ทา ความเข้าใจยาก มาเป็น
หัวข้อในการพัฒนาโปรแกรมบทเรียน ตัวอย่าง เช่น โปรแกรมสอนวิธีการใช้งาน ระบบ
สุริยะจักรวาล โปรแกรมแบบทดสอบวิชาต่าง ๆ
- 13. ความหมาย
เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษาโดยการสร้าง
โปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะมีแบบฝึกหัด คา ถามคา ตอบไว้พร้อม
ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือกล่มุการสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน ซึ่ง
อาจพัฒนาในรูปบทเรียนออนไลน์ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตัวเอง โครงงานประเภทนี้
สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหา
ที่เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ตัวอย่างโครงงาน เช่น การ
เคลื่อนที่แบบโปรเจกไตล์ระบบสุริยจักรวาล ตัวแปรต่างๆ ที่มีผลต่อการชา กงิ่กุหลาบ
หลักภาษาไทย และสถานที่สา คัญของประเทศไทย เป็นต้น
- 14. ตัวอย่างโครงงาน
1.โครงงานพัฒนาเกม ชื่อโครงงานเกมพัฒนาการด้านงานEQ
2. โครงงานโปรแกรมการค้นหาคาภาษาไทย
3. โครงงานโปรแกรมอ่านอักษรไทย
4. โครงงานโปรแกรมวาดภาพสามมิติ
5. โครงงานโปรแกรมเข้าและถอดรหัสข้อมูล
6. โครงงานโปรแกรมบีบอัดข้อมูล
7. โครงงานโปรแกรมประมวลผลคาไทยบนระบบปฏิบัติการลีนุกซ์
8. โครงงานโปรแกรมการออกแบบผังงาน
9. โครงงานพอร์ตแบบขนานของไทย
10. โครงงานการส่งสัญญาณควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
- 16. ความหมาย
โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการ จา ลองการทดลอง
ของสาขาต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริงได้ เช่น การจุด
ระเบิด เป็นต้น และเป็นโครงงานที่ผู้ทา ต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง
และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องการศึกษาแล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจา ลอง
หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสูตร สมการ หรือคา อธิบาย พร้อมทัง้ารจา ลองทฤษฏีด้วย
คอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็นภาพ ภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตามสูตรหรือสมการนั้น ซึ่งจะ
ทา ให้ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดียงิ่ขึ้น การทา โครงงานประเภทนี้มีจุดสา คัญอยู่ที่ผู้ทา ต้อง
มีความรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่างดี ตัวอย่างโครงงานจา ลองทฤษฎี เช่น การทดลองเรื่อง
การไหลของของเหลว การทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลาปิรันย่า และการทดลองเรื่อง
การมองเห็นวัตถุแบบสามมิติ เป็นต้น
- 17. ตัวอย่างโครงงาน
1. การทดลองปัจ
จัยต่างๆ ในการเลี้ยงปลานิลด้วยคอมพิวเตอร์
2. การทดลองปัจ
จัยต่างๆ ในการเพาะปลูกแก้วมังกรด้วยคอมพิวเตอร์
3. การทดลองผสมสารเคมีต่างๆ ด้วยคอมพิวเตอร์
4. ปัจ
จัยต่างๆ กับการเคลื่อนที่ของเครื่องบิน
5. ผลการปลูกข้าวในสภาวะแวดล้อมที่ต่างกัน
6. โปรแกรมสังเคราะห์เสียงพูดเบื้องต้น
7. โปรแกรมจา ลองการทา งานของเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
- 19. ความหมาย
โครงงานประยุกต์ใช้งานเป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ สร้างผลงาน
เพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจา วัน อาทิเช่น ซอฟต์แวร์สา หรับการออกแบบและ
ตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์สา หรับการผสมสี และซอฟต์แวร์สา หรับการระบุ
คนร้าย เป็นต้น โครงงานประเภทน้จีะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์
ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็นการคิดสร้างสงิ่ของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิม
ที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความ
ต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสงิ่ของนั้นๆ
ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทา งานหรือทดสอบคุณภาพของสงิ่ประดิษฐ์แล้วปรับ
ปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้ผู้เรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่อง
คอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้องรวมทัง้อาจใช้วิธีทาง
วิศวกรรมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในการพัฒนาด้วย
- 20. ตัวอย่างโครงงาน
1. โปรแกรม สารบรรณสาเร็จรูป : Readymade Archivist
2. โปรแกรมระบบฐานข้อมูลทางการแพทย์เบื้องต้น
3. โปรแกรมระบบแฟ้มฐานข้อมูลผู้เรียน 2001
4. เครื่องรดน้าต้นไม้และให้อาหารปลาผ่านโทรศัพท์มือถือ
5. เครื่องให้อาหารไก่ไข่อัตโนมัติ
6. ระบบบริหารจัดการข้อมูลผู้เรียนของโรงเรียน
7. ระบบจัดการข้อมูลการเงินส่วนบุคคล
8. ระบบจองตัว๋รถไฟบนอินเทอร์เน็ต
9. ระบบแนะนาเส้นทางเดินรถประจาทาง
10. โปรแกรมสังเคราะห์เสียงสา หรับคนตาบอดบนรถประจา ทาง
11. โปรแกรมออกและตรวจข้อสอบ
12. โฮมเพจส่วนบุคคล
13. โปรแกรมช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น
14. โปรแกรมพจนานุกรมไทย-อังกฤษ
- 22. ความหมาย
การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ โครงงานพัฒนาเกม (Game Development) เป็นโครงงาน
พัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้หรือความเพลิดเพลิน เช่น เกมหมากรกุ เกมหมากฮอส เกมการคานวณเลข ซึ่ง
เกมที่พัฒนาขึ้นน้นี่าจะเน้นให้เป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้สมองเพื่อฝึกคิดอย่างมีหลักการ โครงงานประเภทนี้
จะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้น่าสนใจเก่ผู้เล่นพร้อมทัง้ให้ความรู้สอดแทรกไปด้วย
ผู้พัฒนาควรจะได้ทาการสารวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่างๆ ที่มีอยทูั่ว่ไปและนามาปรับปรุงหรือ
พัฒนาขึ้นใหม่เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่และน่าสนใจแก่ผู้เล่นเกมต่างๆ โปรแกรมประยุกต์ หรือ ซอฟท์แวร์
ประยกุต์ การที่เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ได้พัฒนาก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการที่มีคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก
ทาให้มีการใช้ งานคล่องตัวขึ้น จนในปัจจุบันสามารถนาคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ติดตัวไปใช้งานในที่ต่าง ๆ ได้
สะดวก การใช้งานคอมพิวเตอร์ต้องมีซอฟต์แวร์ประยกุต์ ซึ่งอาจเป็นซอฟต์แวร์สาเร็จที่มีผู้พัฒนาเพื่อใช้งานทัว่ไป
ทาให้ ทางาน ได้สะดวกขึ้น หรืออาจเป็นซอฟต์แวร์ใช้งานเฉพาะ ซึ่งผู้ใช้เป็นผู้พัฒนาขึ้นเองเพื่อให้เหมาะสมกับ
สภาพการทางานของตน
โครงงานพัฒนาเกม เพื่อความรู้ ความเพลิดเพลิน เช่น เกมหมารกุโปรแกรม ต่อให้เพมิ่ เติมให้เต็ม
(Magic Puzzle) โปรแกรม เกมผู้รอดชีวิต โปรแกรมเกมทศกัณฑ์ เกมทายคา ศัพท์ และเกมการคา นวณ
เลข เป็นต้น ซึ่งเกมที่พัฒนาขึ้นน้นี่าจะเน้นให้เป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้สมองเพื่อฝึกความคิดอย่างมีหลักการ
โครงงานประเภทนี้จะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้น่าสนใจแก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ความรู้
สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะได้ทา การสา รวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่างๆ ที่มีอยทูั่ว่ไป และนามา
ปรับปรุงหรือพัฒนาขึ้นใหม่เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่ และน่าสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่างๆ
- 24. อ้างอิง
http://kroosuveera.blogspot.com/2011/09/blog-post_
13.html
http://thanapongkiatsujja.blogspot.com/2012/07/3.html
http://conandoii.blogspot.com/2012/09/4.html
http://conandoii.blogspot.com/2012/09/5.html
http://conandoii.blogspot.com/2012/09/6.html
http://conandoii.blogspot.com/2012/09/7.html
http://conandoii.blogspot.com/2012/09/8.html