1.  แนวคิดพื้นฐานเกี่ยวกับการสื่อสารข้อมูล 1.1  ความหมายของการสื่อสารข้อมูล 1.2   พัฒนาการของระบบการสื่อสารข้อมูล 1.3  ระบบการสื่อสารข้อมูล 1.4  ประโยชน์ของการสื่อสารข้อมูล 1.5  ความรู้พื้นฐานการสื่อสารข้อมูลในไมโครคอมพิวเตอร์
1.1  ความหมายของการสื่อสารข้อมูล การสื่อสารข้อมูล  (Data Communication)  หมายถึง การรับส่งข้อมูลหรือสารสนเทศ จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง โดยอาศัยระบบการส่งข้อมูลทางคลื่นไฟฟ้า หรือแสง Computer NIC NOS Network Protocols Cable NIC NOS Computer
การสื่อสารข้อมูล เป็นความจำเป็นขององค์กร ช่วยก่อให้เกิดความถูกต้องของการใช้ข้อมูลหรือสารสนเทศ  ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาองค์กร  โดยเฉพาะในปัจจุบัน องค์กรต้องการการสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้อง  +  รวดเร็ว
1.2   พัฒนาการของระบบการสื่อสารข้อมูล ค . ศ .1950 (2493)  การใช้คอมพิวเตอร์ประมวลผลในยุคแรกเป็น  แบบกลุ่ม  (batch)  ยุคของ  MiniComputer ( ยังไม่มี  Microcomputer)  ศูนย์กลางการประมวลผลคือ  MiniComputer เมื่อต้องการใช้คอมพิวเตอร์ประมวลผล  ผู้ใช้จะใช้  Terminal Computer ( มีแต่  monitor  และ   keyboard)  ป้อนข้อมูล ติดต่อเข้าสู่  MiniComputer  เพื่อประมวลผล  ประสิทธิภาพในการประมวลผลไม่ดี ไม่สามารถประมวลผลระยะไกลได้  เนื่องจากยังไม่มีการพัฒนาสายสัญญาณที่ใช้สื่อสารข้อมูล
1.2   พัฒนาการของระบบการสื่อสารข้อมูล ค . ศ .1960 (2503)  การประมวลผล  แบบออนไลน์แบตซ์  (on-line batch) ยุค  Minicomputer  เช่นเดิม  ใช้สายสัญญาณเป็น  ระบบโทรศัพท์  ส่งข้อมูลจากจอ  Terminal  ไปยัง  Minicomputer  ทำให้สามารถติดตั้งจอ  Terminal  ในระยะไกลได้  ทำให้เกิด ระบบการทำงานระยะไกล  (RJE: Remote Job Entry)
1.2   พัฒนาการของระบบการสื่อสารข้อมูล ค . ศ .1970 (2513)  ยุคแรกของ   ฐานข้อมูลแบบรวม  (Centralized Database) ฐานข้อมูลจะรวมอยู่ที่ศูนย์คอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ  Minicomputer   ผู้ใช้จะเข้าถึง  (access)  ฐานข้อมูลที่รวมอยู่ที่ศูนย์คอมพิวเตอร์ ข้อดีของการทำงานแบบนี้  :  การควบคุม และบำรุงรักษาระบบงานคอมพิวเตอร์ ลดปัญหาการขัดแย้งกันของข้อมูล บุคลากรด้านคอมพิวเตอร์ จะรวมอยู่ที่ศูนย์กลาง  ทำให้มีจำนวนเท่าที่จำเป็น ข้อเสีย  :  จะต้องมีที่เก็บข้อมูลขนาดใหญ่  ( ในยุคแรกอุปกรณ์เก็บข้อมูลขนาด  1  Gb.  ยังไม่มี ) จะต้องมีคอมพิวเตอร์ที่ให้บริการผู้ใช้ได้อย่างรวดเร็ว  ( ราคาแพง )
1.2   พัฒนาการของระบบการสื่อสารข้อมูล ค . ศ .1975 (2518)  ยุค   ฐานข้อมูลแบบกระจาย  (Distributed Database) เริ่มมี  Mainframe  ( ถูกกว่า  Minicomputer  ทำให้หน่วยงานที่เป็นแหล่งกำเนิดข้อมูล มีเครื่อง  Mainframe  ใช้งาน )  เครือข่าย  Internet  ยังเป็นโครงการทดลอง  ARPANET   ยังไม่เปิดสู่สาธารณะ มีการเก็บข้อมูล ณ แหล่งกำเนิดข้อมูล โดยใช้  Mainframe  ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็วกว่าการเรียกใช้  ฐานข้อมูลแบบรวม มีการส่งข้อมูลระหว่างหน่วยงาน
1.2   พัฒนาการของระบบการสื่อสารข้อมูล ค . ศ .1975 (2523)  ยุคของ   การประมวลผลแบบกระจาย  (Distributed Processing) Microcomputer  แต่ละโต๊ะทำงาน Internet  เริ่มเปิดสู่สาธารณะ เป็นที่แพร่หลาย แหล่งกำเนิดข้อมูลแต่ละแห่งจะมี  Microcomputer  ที่ประมวลผลได้ดีกว่าจอ  Terminal  พร้อมกับหน่วยเก็บข้อมูลที่เป็น  Computer   Server  เรียกระบบการทำงานแบบนี้ว่า  เครือข่ายคอมพิวเตอร์  (Computer Network)   และ  ระบบประมวลผลแบบกระจาย  (Distributed System) การทำงานแบบนี้ คอมพิวเตอร์และหน่วยเก็บข้อมูล ณ แหล่งต่างๆ จะไม่ใหญ่มาก และเมื่อมีงานมากขึ้น  สามารถเพิ่มจำนวนคอมพิวเตอร์ได้โดยไม่ยาก
1.3  ระบบการสื่อสารข้อมูล ปัจจุบันเป็นยุคของ  Internet ,  ICT (Information Communication Technology) ปัจจุบันการสื่อสารข้อมูล มีบทบาทและความสำคัญมากพอๆ กับความสำคัญของคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่ายถูกติดตั้งในเครื่อง  PC  เป็นมาตรฐาน Network Card, Modem, Wireless  ติดตั้งในเครื่อง  PC  การใช้งานคอมพิวเตอร์  Standalone  เป็นอดีต
1.3  ระบบการสื่อสารข้อมูล ระบบการสื่อสารทั่วไป  ตัวอย่าง :  การสนทนาระหว่างบุคคล ,  การสนทนาระหว่างโทรศัพท์ ,  การฟังดนตรี ,  การโฆษณา ,  การรับส่งจดหมาย จุดประสงค์ของการสื่อสาร คือ  การส่งข่าวสาร  (Information)   จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ไม่ว่ารูปแบบของการสื่อสารจะมีลักษณะต่างๆ กันไป แต่ก็มีจุดประสงค์เดียวกัน ข่าวสารที่ส่ง อาจเป็นการพูดคุย ,  ข้อมูลในจดหมาย ,  เสียงดนตรี ,  ข้อมูลที่เป็นรหัสเลขฐานสอง ,  อิเล็กทรอนิกส์ไฟล์
1.3  ระบบการสื่อสารข้อมูล องค์ประกอบของระบบการสื่อสาร  การสื่อสารทั่วไป มีองค์ประกอบอย่างน้อย  3  ประการ ผู้ส่ง  (Source)  :  สร้างข้อมูล และส่งข้อมูล ผู้รับ  (Receiver)  :  ปลายทางของการส่งข่าวสาร ตัวกลางในการส่ง  (Transmission Medium)  :  นำข้อมูลจากผู้ส่งไปยังผู้รับ ตัวอย่าง  :  การสนทนา การอ่านหนังสือ ผู้รับ ตัวกลาง ผู้ส่ง
1.3  ระบบการสื่อสารข้อมูล สิ่งที่มีผลต่อประสิทธิภาพของระบบการสื่อสาร  ข่าวสารหรือข้อมูลที่ผู้รับและผู้ส่งเข้าใจตรงกัน   :  ภาษาที่ส่ง ,  รหัสข้อมูลที่ส่ง คุณลักษณะเฉพาะตัว  (Individual Characteristics)   ของผู้ส่ง ผู้รับ และตัวกลาง  :  ถ้าโทรศัพท์ จะไม่สามารถเห็นหน้าตาท่าทาง  ถ้าติดต่อ  Internet  อัตราความเร็วในการติดต่อจะขึ้นอยู่อุปกรณ์ที่ใช้ของผู้ส่ง ผู้รับ และตัวกลางในการส่ง  ( Modem  ธรรมดา รับส่งด้วยความเร็วสูงสุดที่  56  Kbps.  ในขณะที่  Modem ADSL  สามารถรับ / ส่งด้วยได้สูงสุดที่  2  Mbps.)  สัญญาณรบกวน   :  เกิดขึ้นได้เสมอในระบบการสื่อสารใดๆ  หากมีมากจะส่งผลต่อความผิดพลาดของข้อมูลที่ส่ง
1.3  ระบบการสื่อสารข้อมูล ทิศทางของการส่งข้อมูล การสื่อสารแบบทางเดียว   (Simplex)   :  ตัวกลางในการส่งข้อมูลเป็นช่องสัญญาณ  (channel)  ที่อนุญาตให้ส่งข้อมูลได้เพียงช่องทางเดียว ในลักษณะ  One-way communication   เช่น การกระจายเสียงของสถานีวิทยุ การแพร่ภาพของโทรทัศน์  การส่งน้ำตามท่อ  การส่งกระแสไฟฟ้า การสื่อสารแบบทางใดทางหนึ่ง   (Half  Duplex)  :  ช่องทางในการส่งข้อมูล ยังคงเป็นแบบช่องทางเดียว   แต่ใช้วิธีสลับหน้าที่การรับและส่งข้อมูลกลับไปกลับมาได้  แต่ไม่สามารถส่งข้อมูลได้พร้อมกัน  เช่น  ระบบวิทยุสื่อสาร  การสื่อสารแบบสองทาง   (Full  Duplex)   :  ช่องทางในการส่งข้อมูล มีสองช่องทาง ทำให้สามารถรับและส่งข้อมูลได้พร้อมๆ กัน  เช่น ระบบโทรศัพท์  คอมพิวเตอร์ส่งข้อมูลเข้าสู่ระบบเครือข่ายแบบใด  ?
1.3  ระบบการสื่อสารข้อมูล ทิศทางของการส่งข้อมูลดังต่อไปนี้ เป็นแบบใด การติดต่อระหว่างคอมพิวเตอร์ในระบบเครือข่าย  ?  การแสดงข้อมูลจาก  CPU  ไปแสดงที่จอคอมพิวเตอร์  ?  การส่งข้อมูลจาก  CPU  ไปยัง  Printer ?
1.4  ปร ะ โยชน์ของการสื่อสารข้อมูล การสื่อสารข้อมูลเพื่อการบริหารและจัดการ การสื่อสารข้อมูลเพื่อการบริการ การสื่อสารข้อมูลในด้านธุรกิจการเงิน การสื่อสารข้อมูลเพื่อแลกเปลี่ยนข่าวสาร
1.4  ประโยชน์ของการสื่อสารข้อมูล การสื่อสารข้อมูลเพื่อการบริหารและจัดการ องค์กรใช้คอมพิวเตอร์ในโรงงาน คลังสินค้า สำนักงานใหญ่ สำนักงานสาขาที่อยู่ห่างไกล เชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ด้วยเข้ากันเพื่อส่งข้อมูลที่จำเป็น  ( ลูกค้าสั่งสินค้า ตัดสต็อกสินค้าที่อยู่ในคลัง  รายงานจำนวนสินค้าที่ต่ำกว่าที่กำหนดสู่สำนักงานใหญ่ เพื่อสั่งซื้อเพิ่มเติม  รวบรวมข้อมูลสู่ผู้บริหารโดยตรง
1.4  ประโยชน์ของการสื่อสารข้อมูล การสื่อสารข้อมูลเพื่อการบริการ  World Wide Web   สามารถเรียกดูข้อมูลได้แทบทุกเนื้อหา  ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกับแหล่งข้อมูล  (site)  ได้  ระบบ  E-Commerce  ทำให้สามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านระบบเครือข่ายได้  ระบบ  E-library  ทำให้สามารถสืบค้นทรัพยากรห้องสมุดได้ สามารถเป็นสมาชิกฐานข้อมูล  E-Journal, E-Encyclopedia  เพื่อสืบค้นได้
1.4  ประโยชน์ของการสื่อสารข้อมูล การสื่อสารข้อมูลในด้านธุรกิจการเงิน ธนาคาร สามารถฝาก / ถอนเงินได้ทั่วประเทศ
1.4  ประโยชน์ของการสื่อสารข้อมูล การสื่อสารข้อมูลเพื่อแลกเปลี่ยนข่าวสาร  ระบบจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ทำได้รวดเร็วและสะดวกกว่าการส่งจดหมายธรรมดา การประชุมทางไกล  การเรียนการสอนทางไกล
1.5  ความรู้พื้นฐานการสื่อสารข้อมูลในไมโครคอมพิวเตอร์ สัญญาณที่ส่งผ่านทางช่องทางการสื่อสาร   สัญญาณที่ใช้ในระบบสื่อสารแบ่งออกได้เป็น  2  ประเภทคือ สัญญาณอะนาลอก   :  เป็นสัญญาณที่มีขนาดเป็นค่าต่อเนื่อง มีระดับของแรงดันกระแสที่ไม่เท่ากัน  สัญญาณดิจิตอล   :  เป็นสัญญาณที่มีการเปลี่ยนแปลงเป็นค่าของกระแสเป็นระดับแรงดันไฟฟ้า โดยมีการกำหนดค่าสถานะของแรงดันกระแสไว้  ถ้าสูงเกินค่าที่ตั้งไว้สถานะเป็น  "1"  ถ้าต่ำกว่าค่าที่ตั้งไว้ สถานะเป็น  "0"  ซึ่งทำให้สามารถตรวจสอบความผิดพลาดได้
1.5  ความรู้พื้นฐานการสื่อสารข้อมูลในไมโครคอมพิวเตอร์ โมเด็ม  (Modem)   มาจาก  " Mo dulator /  Dem odulator"  ทำหน้าที่ มอดูเลตและดีมอดูเลต กล่าวคือแปลงสัญญาณกลับไปกลับมาระหว่างสัญญาณอานะลอกกับสัญญาณดิจิตอล  โมเด็มใช้ติดต่อระหว่างคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในระยะไกล  โมเด็มจะทำการแปลงสัญญาณดิจิตอลจากคอมพิวเตอร์ให้เป็นสัญญาณอานะลอก  (Modulator)  เพื่อส่งข้อมูลผ่านทางสายโทรศัพท์ได้ และเมื่อถึงด้านรับก็จะแปลงสัญญาณอานะลอกที่ได้รับให้กลับมาเป็นสัญญาณดิจิตอลเหมือนเดิม  (Demodulator) MODEM1.avi
1.5  ความรู้พื้นฐานการสื่อสารข้อมูลในไมโครคอมพิวเตอร์ รูปแบบของข้อมูลที่นำเข้าในคอมพิวเตอร์  มีหลายรูปแบบ เช่น  ข้อมูลจากการพิมพ์ที่คีย์บอร์ด เป็นตัวอักขระ  (Character)  เช่น ตัวเลข ตัวอักษร สัญลักษณ์พิเศษอื่นๆ  ( $ # ! @) ข้อมูลที่เป็นสัญญาณอะนาลอก เช่น ข้อมูลเสียงจากการอัดเสียงผ่านไมโครโฟน ข้อมูลที่เป็นสัญญาณดิจิตอล เช่น ข้อมูลจากการสแกนภาพ จากการอ่านบาร์โค้ด
1.5  ความรู้พื้นฐานการสื่อสารข้อมูลในไมโครคอมพิวเตอร์ การเก็บค่าของข้อมูลในคอมพิวเตอร์  คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ จึงมีการรับรู้ได้เพียง  2  สภาวะ คือ  สภาวะกระแสไฟฟ้าเปิด และกระแสไฟฟ้าปิด  (On/Off)  ระบบสองสภาวะนี้ สามารถนำมาคำนวณได้ใน  ระบบเลขฐานสอง   (Binary Number System) แทนสภาวะการมีกระแสไฟฟ้าด้วย  1  แทนสภาวะการไม่มีกระแสไฟฟ้าด้วย  0  ตัวเลข  0  และ  1  แต่ละตัว จะเรียกว่า  บิต  (Bit)  ย่อมาจาก   Binary Digit
1.5  ความรู้พื้นฐานการสื่อสารข้อมูลในไมโครคอมพิวเตอร์ การเกิดสภาวะ  0  และ  1  ในคอมพิวเตอร์  การรับข้อมูลจากคีย์บอร์ด / เมาส์ อยู่ในรูปสภาวะ มี / ไม่มีประจุไฟฟ้า  ข้อมูลที่จัดเก็บในหน่วยความจำหลัก  (RAM)  อยู่ในรูปสภาวะ มี / ไม่มีประจุไฟฟ้า ในหน่วยเก็บข้อมูลสำรอง  ( Hard disk, Floppy disk)  อยู่ในรูปของการเหนี่ยวนำให้เกิด / ไม่เกิดสนามแม่เหล็ก ใน  CD-ROM  สภาวะทั้งสองอยู่ในรูปของการเกิด / ไม่เกิดหลุมบนพื้นผิว  CR-ROM สรุป ข้อมูลต่างๆ ที่มนุษย์เข้าใจ  :  ตัวเลข  /  เสียง  /  รูปภาพ  เมื่อนำเข้าคอมพิวเตอร์ จะถูกจัดให้อยู่ในสองสภาวะหรือ รูปแบบของเลขฐานสอง Keybrd1,2 MOUSE2.avi SIMM1,2 HARDRIV1,2,3 CDDRIVE1,2 FLOPPY1,2,3
1.5  ความรู้พื้นฐานการสื่อสารข้อมูลในไมโครคอมพิวเตอร์ หน่วยวัดที่ใช้ในการสื่อสารข้อมูล  : bit :  บิต  โดยนับจำนวนบิตที่ระบบสามารถส่งได้ใน  1  วินาที  (bps [ bit per second], Kbps, Mbps, Gbps  CPU :  48 Gbps RAM : 8 – 15 Gbps  PCI : 5 Gbps SATA : 150 Mbps ATA : 133 Mbps USB port : 480 MBps HD : 700 Mbps CD (56x) : 7 Gbps FD : 200Kbps Network : 10/100/1000 Mbps หน่วยวัดที่ใช้ในการบันทึกข้อมูล  : Byte, KB, MB, GB

การสื่อสารข้อมูล

  • 1.
    1. แนวคิดพื้นฐานเกี่ยวกับการสื่อสารข้อมูล1.1 ความหมายของการสื่อสารข้อมูล 1.2 พัฒนาการของระบบการสื่อสารข้อมูล 1.3 ระบบการสื่อสารข้อมูล 1.4 ประโยชน์ของการสื่อสารข้อมูล 1.5 ความรู้พื้นฐานการสื่อสารข้อมูลในไมโครคอมพิวเตอร์
  • 2.
    1.1 ความหมายของการสื่อสารข้อมูลการสื่อสารข้อมูล (Data Communication) หมายถึง การรับส่งข้อมูลหรือสารสนเทศ จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง โดยอาศัยระบบการส่งข้อมูลทางคลื่นไฟฟ้า หรือแสง Computer NIC NOS Network Protocols Cable NIC NOS Computer
  • 3.
    การสื่อสารข้อมูล เป็นความจำเป็นขององค์กร ช่วยก่อให้เกิดความถูกต้องของการใช้ข้อมูลหรือสารสนเทศ ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาองค์กร โดยเฉพาะในปัจจุบัน องค์กรต้องการการสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้อง + รวดเร็ว
  • 4.
    1.2 พัฒนาการของระบบการสื่อสารข้อมูล ค . ศ .1950 (2493) การใช้คอมพิวเตอร์ประมวลผลในยุคแรกเป็น แบบกลุ่ม (batch) ยุคของ MiniComputer ( ยังไม่มี Microcomputer) ศูนย์กลางการประมวลผลคือ MiniComputer เมื่อต้องการใช้คอมพิวเตอร์ประมวลผล ผู้ใช้จะใช้ Terminal Computer ( มีแต่ monitor และ keyboard) ป้อนข้อมูล ติดต่อเข้าสู่ MiniComputer เพื่อประมวลผล ประสิทธิภาพในการประมวลผลไม่ดี ไม่สามารถประมวลผลระยะไกลได้ เนื่องจากยังไม่มีการพัฒนาสายสัญญาณที่ใช้สื่อสารข้อมูล
  • 5.
    1.2 พัฒนาการของระบบการสื่อสารข้อมูล ค . ศ .1960 (2503) การประมวลผล แบบออนไลน์แบตซ์ (on-line batch) ยุค Minicomputer เช่นเดิม ใช้สายสัญญาณเป็น ระบบโทรศัพท์ ส่งข้อมูลจากจอ Terminal ไปยัง Minicomputer ทำให้สามารถติดตั้งจอ Terminal ในระยะไกลได้ ทำให้เกิด ระบบการทำงานระยะไกล (RJE: Remote Job Entry)
  • 6.
    1.2 พัฒนาการของระบบการสื่อสารข้อมูล ค . ศ .1970 (2513) ยุคแรกของ ฐานข้อมูลแบบรวม (Centralized Database) ฐานข้อมูลจะรวมอยู่ที่ศูนย์คอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Minicomputer ผู้ใช้จะเข้าถึง (access) ฐานข้อมูลที่รวมอยู่ที่ศูนย์คอมพิวเตอร์ ข้อดีของการทำงานแบบนี้ : การควบคุม และบำรุงรักษาระบบงานคอมพิวเตอร์ ลดปัญหาการขัดแย้งกันของข้อมูล บุคลากรด้านคอมพิวเตอร์ จะรวมอยู่ที่ศูนย์กลาง ทำให้มีจำนวนเท่าที่จำเป็น ข้อเสีย : จะต้องมีที่เก็บข้อมูลขนาดใหญ่ ( ในยุคแรกอุปกรณ์เก็บข้อมูลขนาด 1 Gb. ยังไม่มี ) จะต้องมีคอมพิวเตอร์ที่ให้บริการผู้ใช้ได้อย่างรวดเร็ว ( ราคาแพง )
  • 7.
    1.2 พัฒนาการของระบบการสื่อสารข้อมูล ค . ศ .1975 (2518) ยุค ฐานข้อมูลแบบกระจาย (Distributed Database) เริ่มมี Mainframe ( ถูกกว่า Minicomputer ทำให้หน่วยงานที่เป็นแหล่งกำเนิดข้อมูล มีเครื่อง Mainframe ใช้งาน ) เครือข่าย Internet ยังเป็นโครงการทดลอง ARPANET ยังไม่เปิดสู่สาธารณะ มีการเก็บข้อมูล ณ แหล่งกำเนิดข้อมูล โดยใช้ Mainframe ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็วกว่าการเรียกใช้ ฐานข้อมูลแบบรวม มีการส่งข้อมูลระหว่างหน่วยงาน
  • 8.
    1.2 พัฒนาการของระบบการสื่อสารข้อมูล ค . ศ .1975 (2523) ยุคของ การประมวลผลแบบกระจาย (Distributed Processing) Microcomputer แต่ละโต๊ะทำงาน Internet เริ่มเปิดสู่สาธารณะ เป็นที่แพร่หลาย แหล่งกำเนิดข้อมูลแต่ละแห่งจะมี Microcomputer ที่ประมวลผลได้ดีกว่าจอ Terminal พร้อมกับหน่วยเก็บข้อมูลที่เป็น Computer Server เรียกระบบการทำงานแบบนี้ว่า เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Computer Network) และ ระบบประมวลผลแบบกระจาย (Distributed System) การทำงานแบบนี้ คอมพิวเตอร์และหน่วยเก็บข้อมูล ณ แหล่งต่างๆ จะไม่ใหญ่มาก และเมื่อมีงานมากขึ้น สามารถเพิ่มจำนวนคอมพิวเตอร์ได้โดยไม่ยาก
  • 9.
    1.3 ระบบการสื่อสารข้อมูลปัจจุบันเป็นยุคของ Internet , ICT (Information Communication Technology) ปัจจุบันการสื่อสารข้อมูล มีบทบาทและความสำคัญมากพอๆ กับความสำคัญของคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่ายถูกติดตั้งในเครื่อง PC เป็นมาตรฐาน Network Card, Modem, Wireless ติดตั้งในเครื่อง PC การใช้งานคอมพิวเตอร์ Standalone เป็นอดีต
  • 10.
    1.3 ระบบการสื่อสารข้อมูลระบบการสื่อสารทั่วไป ตัวอย่าง : การสนทนาระหว่างบุคคล , การสนทนาระหว่างโทรศัพท์ , การฟังดนตรี , การโฆษณา , การรับส่งจดหมาย จุดประสงค์ของการสื่อสาร คือ การส่งข่าวสาร (Information) จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ไม่ว่ารูปแบบของการสื่อสารจะมีลักษณะต่างๆ กันไป แต่ก็มีจุดประสงค์เดียวกัน ข่าวสารที่ส่ง อาจเป็นการพูดคุย , ข้อมูลในจดหมาย , เสียงดนตรี , ข้อมูลที่เป็นรหัสเลขฐานสอง , อิเล็กทรอนิกส์ไฟล์
  • 11.
    1.3 ระบบการสื่อสารข้อมูลองค์ประกอบของระบบการสื่อสาร การสื่อสารทั่วไป มีองค์ประกอบอย่างน้อย 3 ประการ ผู้ส่ง (Source) : สร้างข้อมูล และส่งข้อมูล ผู้รับ (Receiver) : ปลายทางของการส่งข่าวสาร ตัวกลางในการส่ง (Transmission Medium) : นำข้อมูลจากผู้ส่งไปยังผู้รับ ตัวอย่าง : การสนทนา การอ่านหนังสือ ผู้รับ ตัวกลาง ผู้ส่ง
  • 12.
    1.3 ระบบการสื่อสารข้อมูลสิ่งที่มีผลต่อประสิทธิภาพของระบบการสื่อสาร ข่าวสารหรือข้อมูลที่ผู้รับและผู้ส่งเข้าใจตรงกัน : ภาษาที่ส่ง , รหัสข้อมูลที่ส่ง คุณลักษณะเฉพาะตัว (Individual Characteristics) ของผู้ส่ง ผู้รับ และตัวกลาง : ถ้าโทรศัพท์ จะไม่สามารถเห็นหน้าตาท่าทาง ถ้าติดต่อ Internet อัตราความเร็วในการติดต่อจะขึ้นอยู่อุปกรณ์ที่ใช้ของผู้ส่ง ผู้รับ และตัวกลางในการส่ง ( Modem ธรรมดา รับส่งด้วยความเร็วสูงสุดที่ 56 Kbps. ในขณะที่ Modem ADSL สามารถรับ / ส่งด้วยได้สูงสุดที่ 2 Mbps.) สัญญาณรบกวน : เกิดขึ้นได้เสมอในระบบการสื่อสารใดๆ หากมีมากจะส่งผลต่อความผิดพลาดของข้อมูลที่ส่ง
  • 13.
    1.3 ระบบการสื่อสารข้อมูลทิศทางของการส่งข้อมูล การสื่อสารแบบทางเดียว (Simplex) : ตัวกลางในการส่งข้อมูลเป็นช่องสัญญาณ (channel) ที่อนุญาตให้ส่งข้อมูลได้เพียงช่องทางเดียว ในลักษณะ One-way communication เช่น การกระจายเสียงของสถานีวิทยุ การแพร่ภาพของโทรทัศน์ การส่งน้ำตามท่อ การส่งกระแสไฟฟ้า การสื่อสารแบบทางใดทางหนึ่ง (Half Duplex) : ช่องทางในการส่งข้อมูล ยังคงเป็นแบบช่องทางเดียว แต่ใช้วิธีสลับหน้าที่การรับและส่งข้อมูลกลับไปกลับมาได้ แต่ไม่สามารถส่งข้อมูลได้พร้อมกัน เช่น ระบบวิทยุสื่อสาร การสื่อสารแบบสองทาง (Full Duplex) : ช่องทางในการส่งข้อมูล มีสองช่องทาง ทำให้สามารถรับและส่งข้อมูลได้พร้อมๆ กัน เช่น ระบบโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ส่งข้อมูลเข้าสู่ระบบเครือข่ายแบบใด ?
  • 14.
    1.3 ระบบการสื่อสารข้อมูลทิศทางของการส่งข้อมูลดังต่อไปนี้ เป็นแบบใด การติดต่อระหว่างคอมพิวเตอร์ในระบบเครือข่าย ? การแสดงข้อมูลจาก CPU ไปแสดงที่จอคอมพิวเตอร์ ? การส่งข้อมูลจาก CPU ไปยัง Printer ?
  • 15.
    1.4 ประ โยชน์ของการสื่อสารข้อมูล การสื่อสารข้อมูลเพื่อการบริหารและจัดการ การสื่อสารข้อมูลเพื่อการบริการ การสื่อสารข้อมูลในด้านธุรกิจการเงิน การสื่อสารข้อมูลเพื่อแลกเปลี่ยนข่าวสาร
  • 16.
    1.4 ประโยชน์ของการสื่อสารข้อมูลการสื่อสารข้อมูลเพื่อการบริหารและจัดการ องค์กรใช้คอมพิวเตอร์ในโรงงาน คลังสินค้า สำนักงานใหญ่ สำนักงานสาขาที่อยู่ห่างไกล เชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ด้วยเข้ากันเพื่อส่งข้อมูลที่จำเป็น ( ลูกค้าสั่งสินค้า ตัดสต็อกสินค้าที่อยู่ในคลัง รายงานจำนวนสินค้าที่ต่ำกว่าที่กำหนดสู่สำนักงานใหญ่ เพื่อสั่งซื้อเพิ่มเติม รวบรวมข้อมูลสู่ผู้บริหารโดยตรง
  • 17.
    1.4 ประโยชน์ของการสื่อสารข้อมูลการสื่อสารข้อมูลเพื่อการบริการ World Wide Web สามารถเรียกดูข้อมูลได้แทบทุกเนื้อหา ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกับแหล่งข้อมูล (site) ได้ ระบบ E-Commerce ทำให้สามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านระบบเครือข่ายได้ ระบบ E-library ทำให้สามารถสืบค้นทรัพยากรห้องสมุดได้ สามารถเป็นสมาชิกฐานข้อมูล E-Journal, E-Encyclopedia เพื่อสืบค้นได้
  • 18.
    1.4 ประโยชน์ของการสื่อสารข้อมูลการสื่อสารข้อมูลในด้านธุรกิจการเงิน ธนาคาร สามารถฝาก / ถอนเงินได้ทั่วประเทศ
  • 19.
    1.4 ประโยชน์ของการสื่อสารข้อมูลการสื่อสารข้อมูลเพื่อแลกเปลี่ยนข่าวสาร ระบบจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ทำได้รวดเร็วและสะดวกกว่าการส่งจดหมายธรรมดา การประชุมทางไกล การเรียนการสอนทางไกล
  • 20.
    1.5 ความรู้พื้นฐานการสื่อสารข้อมูลในไมโครคอมพิวเตอร์สัญญาณที่ส่งผ่านทางช่องทางการสื่อสาร สัญญาณที่ใช้ในระบบสื่อสารแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทคือ สัญญาณอะนาลอก : เป็นสัญญาณที่มีขนาดเป็นค่าต่อเนื่อง มีระดับของแรงดันกระแสที่ไม่เท่ากัน สัญญาณดิจิตอล : เป็นสัญญาณที่มีการเปลี่ยนแปลงเป็นค่าของกระแสเป็นระดับแรงดันไฟฟ้า โดยมีการกำหนดค่าสถานะของแรงดันกระแสไว้ ถ้าสูงเกินค่าที่ตั้งไว้สถานะเป็น "1" ถ้าต่ำกว่าค่าที่ตั้งไว้ สถานะเป็น "0" ซึ่งทำให้สามารถตรวจสอบความผิดพลาดได้
  • 21.
    1.5 ความรู้พื้นฐานการสื่อสารข้อมูลในไมโครคอมพิวเตอร์โมเด็ม (Modem) มาจาก " Mo dulator / Dem odulator" ทำหน้าที่ มอดูเลตและดีมอดูเลต กล่าวคือแปลงสัญญาณกลับไปกลับมาระหว่างสัญญาณอานะลอกกับสัญญาณดิจิตอล โมเด็มใช้ติดต่อระหว่างคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในระยะไกล โมเด็มจะทำการแปลงสัญญาณดิจิตอลจากคอมพิวเตอร์ให้เป็นสัญญาณอานะลอก (Modulator) เพื่อส่งข้อมูลผ่านทางสายโทรศัพท์ได้ และเมื่อถึงด้านรับก็จะแปลงสัญญาณอานะลอกที่ได้รับให้กลับมาเป็นสัญญาณดิจิตอลเหมือนเดิม (Demodulator) MODEM1.avi
  • 22.
    1.5 ความรู้พื้นฐานการสื่อสารข้อมูลในไมโครคอมพิวเตอร์รูปแบบของข้อมูลที่นำเข้าในคอมพิวเตอร์ มีหลายรูปแบบ เช่น ข้อมูลจากการพิมพ์ที่คีย์บอร์ด เป็นตัวอักขระ (Character) เช่น ตัวเลข ตัวอักษร สัญลักษณ์พิเศษอื่นๆ ( $ # ! @) ข้อมูลที่เป็นสัญญาณอะนาลอก เช่น ข้อมูลเสียงจากการอัดเสียงผ่านไมโครโฟน ข้อมูลที่เป็นสัญญาณดิจิตอล เช่น ข้อมูลจากการสแกนภาพ จากการอ่านบาร์โค้ด
  • 23.
    1.5 ความรู้พื้นฐานการสื่อสารข้อมูลในไมโครคอมพิวเตอร์การเก็บค่าของข้อมูลในคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ จึงมีการรับรู้ได้เพียง 2 สภาวะ คือ สภาวะกระแสไฟฟ้าเปิด และกระแสไฟฟ้าปิด (On/Off) ระบบสองสภาวะนี้ สามารถนำมาคำนวณได้ใน ระบบเลขฐานสอง (Binary Number System) แทนสภาวะการมีกระแสไฟฟ้าด้วย 1 แทนสภาวะการไม่มีกระแสไฟฟ้าด้วย 0 ตัวเลข 0 และ 1 แต่ละตัว จะเรียกว่า บิต (Bit) ย่อมาจาก Binary Digit
  • 24.
    1.5 ความรู้พื้นฐานการสื่อสารข้อมูลในไมโครคอมพิวเตอร์การเกิดสภาวะ 0 และ 1 ในคอมพิวเตอร์ การรับข้อมูลจากคีย์บอร์ด / เมาส์ อยู่ในรูปสภาวะ มี / ไม่มีประจุไฟฟ้า ข้อมูลที่จัดเก็บในหน่วยความจำหลัก (RAM) อยู่ในรูปสภาวะ มี / ไม่มีประจุไฟฟ้า ในหน่วยเก็บข้อมูลสำรอง ( Hard disk, Floppy disk) อยู่ในรูปของการเหนี่ยวนำให้เกิด / ไม่เกิดสนามแม่เหล็ก ใน CD-ROM สภาวะทั้งสองอยู่ในรูปของการเกิด / ไม่เกิดหลุมบนพื้นผิว CR-ROM สรุป ข้อมูลต่างๆ ที่มนุษย์เข้าใจ : ตัวเลข / เสียง / รูปภาพ เมื่อนำเข้าคอมพิวเตอร์ จะถูกจัดให้อยู่ในสองสภาวะหรือ รูปแบบของเลขฐานสอง Keybrd1,2 MOUSE2.avi SIMM1,2 HARDRIV1,2,3 CDDRIVE1,2 FLOPPY1,2,3
  • 25.
    1.5 ความรู้พื้นฐานการสื่อสารข้อมูลในไมโครคอมพิวเตอร์หน่วยวัดที่ใช้ในการสื่อสารข้อมูล : bit : บิต โดยนับจำนวนบิตที่ระบบสามารถส่งได้ใน 1 วินาที (bps [ bit per second], Kbps, Mbps, Gbps CPU : 48 Gbps RAM : 8 – 15 Gbps PCI : 5 Gbps SATA : 150 Mbps ATA : 133 Mbps USB port : 480 MBps HD : 700 Mbps CD (56x) : 7 Gbps FD : 200Kbps Network : 10/100/1000 Mbps หน่วยวัดที่ใช้ในการบันทึกข้อมูล : Byte, KB, MB, GB