SlideShare a Scribd company logo
๑
“ ครอบครัวที่มีความสุขเมื่อถึงเวลา
เทพเจ้าย่อมส่งปัญหามาเพื่อวัดเรา ”
เด็กคนหนึ่งตั้งหน้าตั้งตารอนับวันนับเดือนรอคอยการกลับมา
ของพ่อ “ ส้ม ” เสียงใครบางคนกาลังเรียกเด็กน้อยคนนี้ พอเด็กน้อย
ได้ยินก็กลับหลังหันไปอย่างรวดเร็ว เพราะเขาไม่เคยลืมน้าเสียงของ
ชายคนนี้ที่ขึ้นชื่อว่า พ่อ ในทุกๆ 1 ปี พ่อจะกลับมาหาส้มเพียงแค่ 2-3
ครั้งต่อปี ส้มอาศัยอยู่กับแม่และพี่สาว แม่ทาอาชีพทานา เป็นอสม และ
อีกมากมายเพื่อเลี้ยงครอบครัว ส่วนพี่สาวเรียนอยู่มัธยมศึกษาตอน
ปลาย ในวันที่พ่อส้มกลับมานั้นพ่อได้ซื้อของฝากมาเยอะแยะให้ลูกคน
นี้ มีทั้งขนม เสื้อผ้า ตุ๊กตา ของเล่น เด็กก็ย่อมเป็นเด็กเสมอไป ย่อมวิ่ง
ไปหาขนมและตุ๊กตาเป็นอย่างแรก เมื่อพ่อเปิดกระเป๋ าออกมา สิ่งแรกที่
ส้มถามพ่อคือ “ พ่อซื้อตุ๊กตามาให้ส้มไหม ” พ่อไม่พูดอะไรพร้อม
หยิบขอสิ่งหนึ่งออกมาจากกระเป๋ า ไม่ใช่ตุ๊กตาที่ส้มอยากได้
แต่เป็นขนมเล็กๆน้อยๆที่พ่อซื้อมาให้และขนมที่ได้จากรถทัวร์ที่แจก
๒
พ่อไม่กินแต่เก็บมาให้ส้ม พ่อกลับมาคราวนี้จะได้อยู่สักกี่วันก็คงเป็น
วันที่มีความสุขมากเพราะได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา
“ เอ้กอี่เลกเอ้กกกกกกกก ”
เสียงไก่ขันตอนรับเช้าวันใหม่ที่สดใส ส้มเป็นเด็กที่ตื่นเช้ามากแต่ก็ช้า
กว่าแม่เพราะแม่ต้องตื่นมาหุงข้าว ในช่วงปิดเทอมเวลาว่างเยอะมาก
ซึ่งเวลาส่วนใหญ่ส้มจะใช้ไปกับการเก็บดอกงิ้ว ไปตกปลากับแม่ ไป
ทุ่งนา ส้มจะติดแม่มากไม่ว่าแม่จะไปไหนส้มก็จะตามไปทุกที่ แต่
บางครั้งเวลาแม่ไปทานาส้มก็จะตามไปบ้างแต่ส่วนมากจะอยู่บ้านกับพี่
และเวลาว่างนี้ส้มจะใช้ไปกับการเก็บดอกงิ้วที่บ้านตรงข้าม วิธีชีวิตที่
ส้มชอบมากของบ้านเราคือทุกคนที่อยู่ในหมู่บ้านนี้เหมือนเป็นพี่เป็น
น้องกัน เราจะไปมาหาสู่กันตลอด โดยเฉาะช่วงปีใหม่ไทย คนที่
ออกไปทางานต่างจังหวัดจะกลับบ้านมารดน้าหัวผู้หลักผู้ใหญ่ใน
หมู่บ้านมีการพูดคุยทักทายกันเหมือนเดิมถึงแม้ว่าจะออกไปทางานที่
๑๔
ทุกวันนี้โลกสมัยก้าวหน้า เราก็ต้องก้าวตามแต่ต้องก้าวไปข้างหน้า
อย่างระมัดระวังอย่าหลงผิด ก้าวไปอย่างภูมิใจในรากเง้าของตัวเอง
อย่าลดคุณค่าในตัวเรา อย่าดูถูกตัวเรา ให้กาลังใจตัวเองเสมอ เราทุกคน
ท้อได้แต่อย่าถ้อย ทุกก้าวที่ก้าวไปข้างหน้าเราต้องมั่นใจว่ามันแข็งแรง
พอที่จะพบเจอกับสิ่งที่ฟ้าส่งมาทดสอบเรา
๓
ไกลบ้าน ทุกคนในหมู่บ้านยังจากันได้เมื่อเจอกันก็จะทักทายกัน
และอีกอย่างที่ส้มชอบมากคือคนในหมู่บ้านจะเข้าวัดเข้าวา ทุกๆวัน
สาคัญทางศาสนา เช่นวันนี้วันที่ 13 เมษายน ซึ่งเป็นวันปีใหม่เมืองของ
ชาวเหนือและเป็นวันปีใหม่ไทยของชาวไทยทุกคนวันนี้ชาวป่าตาล
บ้านเราเรียกว่าวัน “ สังขารล่อง ” เช้าตรู่ของวันสังขารล่อง ทุกบ้านจะ
จัดเตรียมน้าส้มป่อย ใบหนาด ใบหนาม ทราย แล้วไปวัด เพื่อไป
สงเคราะห์บ้าน สายวันนั้นซักประมาณสัก 10โมง ทุกคนจะกลับมาที่
บ้านของตัวเอง แม่เรียกส้ม “ ส้มมาหาแม่หน่อย ” แม่เรียกส้มมา
เพื่อให้เอานาส้มป่อยตบหัวเป็นความเชื่อว่าจะสุขภาพดี แข็งแรง หมด
โรคหมดภัย ไม่ว่าเราจะไปบ้านหลังไหนก็ตามทุกบ้านจะมีน้าส้มป่อย
ที่นามาจากวัดอยู่หน้าบ้าน ทุกคนที่มาเยี่ยมเยือนบ้านเราเขาก็จะเอาน้า
ส้มป่อยตบหัวให้ลูกให้หลาน เหมือนกับที่ยายทากับส้มตอนที่ไปหา
ยาย ยายจะเรียกหลานทุกคนมาแล้วนาน้าส้มป่อยมาตบหัวให้หลาน
๔
เป็นเหมือนการอวยพรให้หลานๆทุกคนแข็งแรง แต่สิ่งหนึ่งที่ขาด
ไม่ได้เลยคือตอนเช้ามาแม่จะบอกส้มให้ซักผ้า สระผมเพราะมีความ
เชื่อว่าสิ่งไม่ดีต่างๆนานาจะไหลไปกับน้า วันต่อมาคือวันที่ 14
เมษายน หรือที่เรียกว่า “ วันเนา ” ซึ่งวันนี้ถือเป็นวันดีวันหนึ่งเลยที่เรา
จะได้ออกกาลังกายที่เรามีไปขนทรายเข้าวัดกัน คนโบราณมีความเชื่อ
ว่าตอนที่เราเข้าวัดไป เราได้เหยียบเม็ดดินเม็ดทรายของวัดออกมา
ดังนั้นจึงมีการขนทรายเข้าวัดเพื่อนาทรายไปคืน เช้าวันเนา “ พี่
ส้มมมมมม ” เสียงหลานของส้มเรียกชวนไปตักทรายเข้าวัด เราไปกัน
5 คน ไปด้วยความตั้งใจที่จะทาบุญ เรานั่งรถอีแต้นไปใช้เวลา
พอสมควรในการไปกลับ พอกลับถึงบ้านพวกเราก็หิวกันมาก ทั้งหิว
ทั้งเหนื่อยแต่มันสุขใจ ผ่านพ้นไปอีกหนึ่งวันที่มีความสุข วันที่ 15
เมษายน “ วันพญาวัน ” วันนี้ถือเป็นวันที่สาคัญที่สุดเพราะหมู่บ้านเรา
มีคนเฒ่าเยอะมากและทุกคนต่างรู้จักกัน เป็นญาติกัน เช้าที่แสนสดใส
แม่ปลุกส้มมาแต่งตัวสวยๆ เตรียมขันใส่น้าส้มป่อย ดอกไม้ไปเต็มขัน
๑๓
ชาติปลูกข้าวให้คนทั้งประเทศกิน หากเราเอะใจซักนิดคิดถึงแหล่งที่มา
และคิดซักนิดว่า 1 เม็ดที่เรากินทิ้งกินคว้าง คือน้าแรงของคนที่ทานา
กว่า 6 เดือน สิ่งที่ส้มคิดในตอนนี้คือถ้าอีก 5 ปีข้างหน้าพื้นที่ทองอร่าม
แห่งนี้จะกลายเป็นโรงงานอุตสาหกรรมหรือป่าว เพราะตอนนี้ก็มี
นายหน้ามาไล่ซื้อที่ ตอนนี้สิ่งเดียวที่ทาได้คือขอให้ทุกคนรักในสิ่งที่ทา
ไม่เห็นของที่มีค่าแค่ชั่ววูบ การที่เรามาเรียนนอกบ้านก็ทาให้รู้อะไร
มากมายเลยว่าการที่เราไม่มีที่ดินและเป็นลูกจ้างตลอดไปนั้นไม่ดีเลย
เพราะนายจ้างจะเลิกจ้างเราเมื่อไหร่ก็ได้แต่ถ้าเรามีที่ดินเราสามารถ
ปลูกพืช ข้าว ผลไม้เราสามารถทาได้หลายอย่างโดยไม่ต้องเป็นแค่
ลูกจ้างอย่างเดียว เด็กที่อยู่บ้านนอกถึงเข้าจะไม่เก่งเหมือนคนที่อยู่ใน
เมืองแต่ทักษะการใช้ชีวิตของเด็กบ้านนอกดีมาก เขาสามารถทาทุก
อย่างได้โดยการพึ่งพาตัวเอง เรียนรู้จากการสังเกต ฝึกลองทา จนเขา
สามารถทาทุกอย่างได้พอๆกับผู้ใหญ่บางทีเขาอาจจะทางานแทนหรือ
ผ่อนภาระแรงของพ่อแม่ได้
๑๒
ที่ส้มจะเรียนในคณะที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม เพื่อเอามารักษาป่าไม้ของ
ประเทศไทยให้อยู่ตราบนานเท่านาน เทคโนโลยีสมัยนี้ล้าหน้าไปมาก
แล้ว ส้มทาการสืบหาข้อมูลที่จะทาตัวเองทาตามฝันได้หน้าหนาวของ
ที่นี้ถือว่าดีมาก อากาศที่สูดเข้าไปเป็นอากาศที่บริสุทธิ์มาก รู้สึกถึง
ความโล่ง ยังมีอีกที่หนึ่งที่เป็นไฮไลต์ของเราคือทุกๆบ้านจะมีอาชีพ
หลัก คือ ชาวนา เมื่อถึงฤดูที่ต้องปลูกข้าว เราจะใช้เวลายาวนานมาก
พอผ่านไปสักระยะต้นข้าวเล็กๆกลายเป็นต้นข้าวที่สูงมีสีเขียวชอุ่ม
ตอนเช้าๆถ้าส้มตื่นทันส้มจะมากับลุงและน้อง มาที่ทุ่งนา ความรู้สึกนี้
มันอธิบายยากมากเพราะว่าวันหนึ่งถ้าเราไม่รักษามันไว้เราคงก็จะ
ไม่ได้มีแหล่งออกซิเจนที่มากขนาดนี้ เมื่อข้าวตั้งท้องชาวบ้านก็จะรอ
จนกว่าข้าวจะออกรวงและข้าวแก่ช่วงนี้ทุ่งนาสุดลูกหูลูกตาจะเป็นสี
ทองอร่ามเต็มไปหมด และนี่คือสันหลังของชาติที่ปลูกข้าวให้เราทาน
1 % ที่ทุกคนเห็นมันน้อยมากๆถ้าเทียบกับน้าพักน้าแรงที่สันหลังของ
๕
เลย ที่ๆแรกที่เราจะไปคือบ้านยายบ้านส้มกับบ้านยายไม่ห่างกันมาก
เราจะเดินไปมาหาสู่กันบ่อยมาก เวลาว่างๆส้มก็จะเดินไปหายาย
ไปอยู่กับยายกับตา ยายกับตามีลูกด้วยกัน 8 คน หนึ่งในนั้นคือแม่ส้ม
ยายกับตารักกันมาก ส้มชอบสมัยก่อนที่ไม่ว่าเราจะทะเลาะกันมาก
ขนาดไหนสุดท้ายเราก็ต้องปรับตัวเพื่ออยู่ด้วยกัน ยายรักกับตามาหลาย
30 ปี รักไม่เคยจางหาย ยายกับตามีลูก หลาน เหลน โหลน เยอะมาก
เพราะตอนนี้ยายกับตาก็แก่มากแล้ว วันนี้ก็ยังถือว่าเป็นวันครอบครัว
เพราะทุกคนจะมารดน้าดาหัวตากับยายของเรา ทุกๆคนจะมาหาพ่อแม่
ของตัวเองเพื่อขอขมาลาโทษที่ลวงล้าทั้งวาจา ใจ และกาย น้าส้มป่อย
ดอกไม้ที่ทุกคนเตรียมมาจะนามารวมกันในขันที่เตรียมไว้พอทุกคน
ใส่ครบคาปั๋นปอนของตากับยายจึงได้เริ่มขึ้นถึงจะไม่ดังพอที่จะให้ทุก
คนที่มาได้ยินทุกคนแต่ทุกคนก็เงียบเพื่อที่จะทาความเคารพยายกับตา
อันเป็นที่รักของเรา จบการปั๋นปอนทุกคนจะเอาน้าส้มป่อยที่ใส่เมื่อกี้
มารดน้าดาหัวตากับยาย โดยการรดน้านี้จะเรียงให้คนที่แก่ที่สุดรดน้า
๖
ดาหัวก่อนจนไปถึงหลาน ของตากับยาย ในการรดน้าดาหัวนั้นตากับ
ยายก็จะอวยพรให้เราและเราก็จะอวยพรให้ตากับยาย พ่อกับแม่พาส้ม
ไปหลายบ้านมากและทุกๆบ้านที่เราไปคือญาติพี่น้องกัน หมู่บ้านเรา
ถือว่าเป็นสวรรค์บนดินเลยก็ว่าได้เพราะทุกคนต่างรักกัน มีอะไรก็
ช่วยกัน ส้มขอบคุณฟ้า ขอบคุณสวรรค์ที่ส่งส้มมาเกิดกับที่ๆดีแบบนี้
ในโลกนี้ทุกคนเลือกที่จะมีความสุขที่แตกต่างกัน แต่รู้หรือไม่ความรัก
ที่ส้มได้ความสุขที่ส้มเคยได้พบ เคยได้เจอ มันคือความสุขที่แท้จริงที่
ทุกๆคนตามหา เทศกาลใกล้จบลงแล้วแสดงว่าก็ใกล้หมดเวลาที่พ่อจะ
อยู่ต่อ เหลือเวลาอีกไม่กี่วันก็จะถึงเวลาที่พ่อจะต้องกลับไปทางาน แต่
หลังจากนี้จะไม่มีอีกแล้วหมู่บ้านสวรรค์ของส้ม เพราะการมาครั้งนี้
ของพ่อเปลี่ยนชีวิตเด็กน้อยคนนี้อย่างมากเพราะส้มเป็นเด็กบ้านนอก
คนหนึ่ง พ่อได้ทาการย้ายส้มไปยังจังหวัดที่พ่อทางาน ใจหนึ่งของส้มก็
คิดถึงบ้าน ใจหนึ่งก็อยากที่จะลองไปพอเจออะไรที่ใหม่ ผ่านไป 5 วัน
ก็ถึงเวลาที่ครอบครัวของส้มต้องย้ายไปตามพ่อเหลือไว้แค่พี่คนเดียวที่
๑๑
ที่แม่จะทาข้าวหลามให้กิน ไม่ว่าจะไปบ้านหลังไหนเขาก็จะทาข้าว
หลามกันแต่ทุกคนไม่รู้หรอกว่าพวกเราต้องทุกข์ทรมานยังไงกับฤดู
หนาวที่ใกล้เข้ามา เมื่อเราอยู่ใกล้ดอย มักจะมีหมอกควันจากการเผา
ไหม้จากบนดอยมาปกคลุมพื้นที่ข้างล่าง พวกคุณไม่รู้หรอกว่าพวกเรา
ต้องสูดดมอากาศที่เป็นพิษไปเยอะเท่าไหร่ พวกคุณไม่รู้หรอกว่าเรา
ต้องแสบตาแค่ไหนกับควันที่มากซะจนเราแทบจะลืมตาไม่ได้พวก
คุณจะรู้ไหมว่าเราหายใจลาบากขนาดไหน นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ส้ม
คิดมาตลอดการปิดเทอมที่อยู่บ้านเกิด ส้มคิดตลอดว่าจะทาอย่างไรจึง
จะกาจัดหรือทาให้ปัญหาเหล่านี้คลายลง สิ่งหนึ่งที่เด็กอย่างส้มคิดได้
คือเราต้องมีสานึกในตัวเองเสมอว่าเราอยู่กับป่า เราก็ต้องรักษาป่าให้
อยู่กับเราไปนานๆ นานพอที่จะอยู่กับลูกหลานเราไปจนแก่เฒ่า อีกสิ่ง
หนึ่งที่ส้มคิดได้คือในเมื่อเราเปลี่ยนความคิดคนไม่ได้เราก็ต้องทาเอง
ทาให้ป่าไม้ที่เรารัก ป่าไม้ที่มอบอะไรดีๆให้เรามากมายกลับมาคือการ
๑๐
การที่เรามีโอกาสที่จะได้ย้ายไปไหนหลายๆที่จะทาให้เราได้เรียนรู้การ
ใช้ชีวิตของคนในพื้นที่ วิธีชีวิตต่างๆที่ที่ไหนก็สอนเราได้ไม่ดีเท่าเรา
ได้ไปสัมผัส เรียนรู้ด้วยตัวเอง ได้ไปเห็น ได้ไปลองทา แค่นี้ก็ถือว่า
เป็นประสบการณ์ของส้ม การที่เราอยู่แค่ที่ๆเดียว อาจจะไม่ดีเท่าเราได้
ไปหลายๆที่ ได้ไปรู้จักคน ได้ไปทุกข์ได้แก้ปัญหา ได้ก้าวข้ามปัญหา
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เข้ามานชีวิตส้มนั้นถือเป็นประสบการณ์ที่หาที่ไหน
ไม่ได้ถ้าเราไม่ได้เจอกับตัวเอง
“ ติ๊ด…ติ๊ด…ติ๊ด… ”
เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นมาถึงเวลาที่ต้องตื่นมาพบกับฤดูหนาวที่บ้าน
เกิดส้ม ใครๆก็รักบ้านเกิดของตัวเอง บ้านส้มอยู่ใกล้ภูเขามาหน้าหนาว
ที่ไร ใครๆก็ชอบเพราะเป็นฤดูที่ส้มชอบมาก เป็นฤดูที่นอนหลับสบาย
โดยไม่ต้องใช้พัดลม เป็นฤดูที่อยากตื่นเช้าขึ้นมาเล่นกันหลานโดยการ
เล่นควันออกจากปาก เป็นฤดูที่มีการก่อไฟเพื่อเพิ่มความอบอุ่น เป็นฤดู
๗
อยู่ การปรับตัวไปกับสิ่งแวดล้อมรอบตัวถือว่าดี แต่เด็กบ้านนอกอย่าง
ส้มจะปรับตัวได้เร็วหรือไม่ขึ้นอยู่กับการที่ว่าส้มเลือกที่ตะเปิดหรือปิด
เวลาผ่านไปเร็วมากในที่สุดส้มก็เลือกที่จะเปิดรับสิ่งต่างที่จะเข้ามา
เลือกที่จะรับและปรับตัว ส้มมีเพื่อนใหม่ ส้มได้เห็นอะไรที่ต่างจาก
หมู่บ้านที่เคยอยู่ ส้มได้เรียนรู้การใช้ชีวิตแบบเร่งรีบ ส้มต้องทาทุก
อย่างแข่งกับเวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว พ่อมาทางานรับจ้างกับป้า ซึ่งก็
ทาให้ส้มได้เจอกับเพื่อนๆชาวเมืองกรุง ในทุกๆวันส้มจะออกมาเล่น
กับเพื่อนๆน้องๆ เราจะเล่นด้วยกันทุกๆเย็น ชีวิตที่เป็นแบบนี้ทุกวัน
จนวันหนึ่งส้มตัดสินใจบอกแม่ว่าตอนกลับจากโรงเรียนขอกลับเองได้
ไหมเพราะปกติแล้วส้มจะนั่งรถตู้ของโรงเรียนที่ไปรับไปส่งถึงบ้าน
ซึ่งมันก็แพงพอสมควรและมันนานมากเพราะบ้านส้มอยู่ไกลที่สุด จึง
ขอแม่ที่จะนั่งรถกลับเอง ทาให้ได้รู้ถึงการลาบากมากเพราะบางครั้งที่
นั่งรถเต็มเราก็ต้องยืน รู้จักการเสียสละโดยการลุกให้น้อง ให้ยายนั่ง
แทนเรา รู้จักการช่วยโดยการถือของให้คนที่ยืน นี่ก็เป็นอีกหนึ่ง
๘
วิธีชีวิตเมืองกรุง ก็ทาให้ส้มได้เติบโตกลายเป็นนักเรียนมัธยมต้น 5 ปี
สาหรับการอยู่เมืองกรุง ทุกครั้งที่ถึงเวลากลับบ้านเกิดส้มจะดีใจมาก
แต่กลับกันเมื่อถึงเวลาต้องกลับมาเมืองกรุงส้มต้องเสียน้าตากับการ
คิดถึงบ้านที่เราอยู่มาตั้งแต่เกิดทุกครั้งที่ถึงเวลากลับไปทาฝัน และแล้ว
การย้ายถิ่นฐานครั้งสาคัญก็มาถึงเป็นการย้ายครั้งที่สอง เราย้ายมาอยู่ที่
ภาคเหนือแต่ใกล้กับบ้านเกิดถึงจะใกล้กันมากแต่ก็อดคิดถึงไม่ได้อยู่ดี
คิดถึงทุกๆอย่างที่ผ่านมาและกลายเป็นความทรงจาทีเริ่มจางหายไป
“บรึนๆๆๆ”
เช้าวันใหม่ของการย้ายถิ่นใหม่ของส้ม เช้าที่เห็นภูเขาที่สูงที่สุด
ในประเทศไทยเราอยู่ภาคเหนือสิ่งที่ทุกคนอยากมาคืออากาศดีมากๆ
ในตอนเช้าตรู่ แต่ตอนสายควันจากท่อไอเสียเริ่มมากขึ้น มากขึ้น สิ่งที่
ส้มถือว่าเป็นที่สะดุดตาสะดุดใจของนักท่องเที่ยวคือการที่เมืองๆนี้เป็น
แหล่งประวัติศาสตร์ เป็นเมืองที่มีวัดมาก ดินไปทางไหนก็เจอแต่วันมี
กาแพงเมืองเก่าแก่ตามแจ่งต่างๆของเมือง เมืองๆนี้ก็ยังถือว่ามี
๙
ขนบธรรมเนียมของคุณย่าคุณยายอยู่บ้าง ถึงเราจะอยู่ภาคเหนือ
เหมือนกันแต่หารู้ไม่ว่าแต่ละจังหวัดจะมีสาเนียงการพูดที่แตกต่างกัน
ออกไป เช่นเดียวกับวัฒนธรรมและประเพณี เราจะทาต่างกันมากมี
ส่วนคล้ายคลึงกันอยู่ นครพิงค์แห่งนี้มีเพื่อนบ้านมาทามาหากินเยอะ
มาก สังเกตได้ว่าเมื่อถึงวันสาคัญทางศาสนา เช่น วันวิสาขบูชา เพื่อน
บ้านของเราจะไปวัดเยอะมากแทบจะไม่มีที่นั่ง ที่ยืนเลยต่างกับคนไทย
ที่จะมีแต่คนเฒ่าคนแก่ไปวัดกัน วัดไทยนั้นเงียบมากต่างมากๆกับวัด
เพื่อนบ้านที่ครึกครื้น มีการแต่งกายด้วยชุดประจาชาติที่ดูหลายหลาย
สีสัน มีการพาลูกพาหลานมาตักบาตรทาบุญ การที่ได้ย้ายมาเมือง
นครพิงค์แห่งนี้ทาให้รู้ว่าการที่เราไม่เลือกงาน ขยัน อดทน รู้จักเก็บ
ออม ก็จะทาให้เรามีเงินทองพอใช้ตลอดปี ถึงเมืองแห่งนี้ค่าครองชีพ
จะไม่สู้เท่าเมืองกรุงแต่มันก็อะไรที่แตกต่างจากเมืองกรุงไปมาก

More Related Content

Viewers also liked

Event photo shooting
Event photo shootingEvent photo shooting
Event photo shooting
fuwhat
 
ZO-16 17 18-bereikbaar haaglanden
ZO-16 17 18-bereikbaar haaglandenZO-16 17 18-bereikbaar haaglanden
ZO-16 17 18-bereikbaar haaglandenMichel Oldenburg
 
Módulo 3 - Visão Atual do Direito
Módulo 3 - Visão Atual do DireitoMódulo 3 - Visão Atual do Direito
Módulo 3 - Visão Atual do Direito
Sonia R Ribeiro
 
James Bond (007) - prezentacja nr. 1
James Bond (007) - prezentacja nr. 1James Bond (007) - prezentacja nr. 1
James Bond (007) - prezentacja nr. 1
misiek2002326
 
Cérémonie de remise du rapport final des consultations nationales: Allocution...
Cérémonie de remise du rapport final des consultations nationales: Allocution...Cérémonie de remise du rapport final des consultations nationales: Allocution...
Cérémonie de remise du rapport final des consultations nationales: Allocution...
Fatoumata Chérif
 
A három lépcsőfok
A három lépcsőfokA három lépcsőfok
A három lépcsőfok
Száraz Attila
 
T26 hoa tri va so oxh
T26 hoa tri va so oxhT26 hoa tri va so oxh
T26 hoa tri va so oxh
Thùy Dung Vũ
 
How Your Network Affects Your PR Ratings!
How Your Network Affects Your PR Ratings!How Your Network Affects Your PR Ratings!
How Your Network Affects Your PR Ratings!
ffats1
 
Zahirgaa
ZahirgaaZahirgaa
Zahirgaa
Librarian
 
Kom på forkant med jobbet!
Kom på forkant med jobbet!Kom på forkant med jobbet!
Kom på forkant med jobbet!
Mediehuset Ingeniøren Live
 
Training kunjungan/visitasi
Training kunjungan/visitasiTraining kunjungan/visitasi
Training kunjungan/visitasi
Naomi Fortuna
 

Viewers also liked (11)

Event photo shooting
Event photo shootingEvent photo shooting
Event photo shooting
 
ZO-16 17 18-bereikbaar haaglanden
ZO-16 17 18-bereikbaar haaglandenZO-16 17 18-bereikbaar haaglanden
ZO-16 17 18-bereikbaar haaglanden
 
Módulo 3 - Visão Atual do Direito
Módulo 3 - Visão Atual do DireitoMódulo 3 - Visão Atual do Direito
Módulo 3 - Visão Atual do Direito
 
James Bond (007) - prezentacja nr. 1
James Bond (007) - prezentacja nr. 1James Bond (007) - prezentacja nr. 1
James Bond (007) - prezentacja nr. 1
 
Cérémonie de remise du rapport final des consultations nationales: Allocution...
Cérémonie de remise du rapport final des consultations nationales: Allocution...Cérémonie de remise du rapport final des consultations nationales: Allocution...
Cérémonie de remise du rapport final des consultations nationales: Allocution...
 
A három lépcsőfok
A három lépcsőfokA három lépcsőfok
A három lépcsőfok
 
T26 hoa tri va so oxh
T26 hoa tri va so oxhT26 hoa tri va so oxh
T26 hoa tri va so oxh
 
How Your Network Affects Your PR Ratings!
How Your Network Affects Your PR Ratings!How Your Network Affects Your PR Ratings!
How Your Network Affects Your PR Ratings!
 
Zahirgaa
ZahirgaaZahirgaa
Zahirgaa
 
Kom på forkant med jobbet!
Kom på forkant med jobbet!Kom på forkant med jobbet!
Kom på forkant med jobbet!
 
Training kunjungan/visitasi
Training kunjungan/visitasiTraining kunjungan/visitasi
Training kunjungan/visitasi
 

Recently uploaded

ส่วนหน้า สมฐ. วิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1.docx
ส่วนหน้า สมฐ. วิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1.docxส่วนหน้า สมฐ. วิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1.docx
ส่วนหน้า สมฐ. วิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1.docx
ArnonTonsaipet
 
ภาษาอังกฤษ สำหรับนักวิปัสสนา เพื่อฝึกปฎิบัติ
ภาษาอังกฤษ สำหรับนักวิปัสสนา เพื่อฝึกปฎิบัติภาษาอังกฤษ สำหรับนักวิปัสสนา เพื่อฝึกปฎิบัติ
ภาษาอังกฤษ สำหรับนักวิปัสสนา เพื่อฝึกปฎิบัติ
Faculty of BuddhismMahachulalongkornrajavidyalaya Roi Et Buddhist College
 
เรียนภาษาจีนด้วยตนเอง ฟรี ๒๔ ชั่วโมง.pdf
เรียนภาษาจีนด้วยตนเอง ฟรี ๒๔ ชั่วโมง.pdfเรียนภาษาจีนด้วยตนเอง ฟรี ๒๔ ชั่วโมง.pdf
เรียนภาษาจีนด้วยตนเอง ฟรี ๒๔ ชั่วโมง.pdf
ssuser0ffe4b
 
Artificial Intelligence in Education2.pdf
Artificial Intelligence in Education2.pdfArtificial Intelligence in Education2.pdf
Artificial Intelligence in Education2.pdf
Prachyanun Nilsook
 
bio62สอวน.ชีววิทยา-ชีววิทยาปี62-ข้อสอบแข่งกัน
bio62สอวน.ชีววิทยา-ชีววิทยาปี62-ข้อสอบแข่งกันbio62สอวน.ชีววิทยา-ชีววิทยาปี62-ข้อสอบแข่งกัน
bio62สอวน.ชีววิทยา-ชีววิทยาปี62-ข้อสอบแข่งกัน
CholapruekSangkamane1
 
ความสุจริตทางวิชาการ “เชื่อมไทยเชื่อมโลก”.pdf
ความสุจริตทางวิชาการ “เชื่อมไทยเชื่อมโลก”.pdfความสุจริตทางวิชาการ “เชื่อมไทยเชื่อมโลก”.pdf
ความสุจริตทางวิชาการ “เชื่อมไทยเชื่อมโลก”.pdf
Pattie Pattie
 

Recently uploaded (6)

ส่วนหน้า สมฐ. วิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1.docx
ส่วนหน้า สมฐ. วิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1.docxส่วนหน้า สมฐ. วิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1.docx
ส่วนหน้า สมฐ. วิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1.docx
 
ภาษาอังกฤษ สำหรับนักวิปัสสนา เพื่อฝึกปฎิบัติ
ภาษาอังกฤษ สำหรับนักวิปัสสนา เพื่อฝึกปฎิบัติภาษาอังกฤษ สำหรับนักวิปัสสนา เพื่อฝึกปฎิบัติ
ภาษาอังกฤษ สำหรับนักวิปัสสนา เพื่อฝึกปฎิบัติ
 
เรียนภาษาจีนด้วยตนเอง ฟรี ๒๔ ชั่วโมง.pdf
เรียนภาษาจีนด้วยตนเอง ฟรี ๒๔ ชั่วโมง.pdfเรียนภาษาจีนด้วยตนเอง ฟรี ๒๔ ชั่วโมง.pdf
เรียนภาษาจีนด้วยตนเอง ฟรี ๒๔ ชั่วโมง.pdf
 
Artificial Intelligence in Education2.pdf
Artificial Intelligence in Education2.pdfArtificial Intelligence in Education2.pdf
Artificial Intelligence in Education2.pdf
 
bio62สอวน.ชีววิทยา-ชีววิทยาปี62-ข้อสอบแข่งกัน
bio62สอวน.ชีววิทยา-ชีววิทยาปี62-ข้อสอบแข่งกันbio62สอวน.ชีววิทยา-ชีววิทยาปี62-ข้อสอบแข่งกัน
bio62สอวน.ชีววิทยา-ชีววิทยาปี62-ข้อสอบแข่งกัน
 
ความสุจริตทางวิชาการ “เชื่อมไทยเชื่อมโลก”.pdf
ความสุจริตทางวิชาการ “เชื่อมไทยเชื่อมโลก”.pdfความสุจริตทางวิชาการ “เชื่อมไทยเชื่อมโลก”.pdf
ความสุจริตทางวิชาการ “เชื่อมไทยเชื่อมโลก”.pdf
 

เรื่องสั้นน

  • 1. ๑ “ ครอบครัวที่มีความสุขเมื่อถึงเวลา เทพเจ้าย่อมส่งปัญหามาเพื่อวัดเรา ” เด็กคนหนึ่งตั้งหน้าตั้งตารอนับวันนับเดือนรอคอยการกลับมา ของพ่อ “ ส้ม ” เสียงใครบางคนกาลังเรียกเด็กน้อยคนนี้ พอเด็กน้อย ได้ยินก็กลับหลังหันไปอย่างรวดเร็ว เพราะเขาไม่เคยลืมน้าเสียงของ ชายคนนี้ที่ขึ้นชื่อว่า พ่อ ในทุกๆ 1 ปี พ่อจะกลับมาหาส้มเพียงแค่ 2-3 ครั้งต่อปี ส้มอาศัยอยู่กับแม่และพี่สาว แม่ทาอาชีพทานา เป็นอสม และ อีกมากมายเพื่อเลี้ยงครอบครัว ส่วนพี่สาวเรียนอยู่มัธยมศึกษาตอน ปลาย ในวันที่พ่อส้มกลับมานั้นพ่อได้ซื้อของฝากมาเยอะแยะให้ลูกคน นี้ มีทั้งขนม เสื้อผ้า ตุ๊กตา ของเล่น เด็กก็ย่อมเป็นเด็กเสมอไป ย่อมวิ่ง ไปหาขนมและตุ๊กตาเป็นอย่างแรก เมื่อพ่อเปิดกระเป๋ าออกมา สิ่งแรกที่ ส้มถามพ่อคือ “ พ่อซื้อตุ๊กตามาให้ส้มไหม ” พ่อไม่พูดอะไรพร้อม หยิบขอสิ่งหนึ่งออกมาจากกระเป๋ า ไม่ใช่ตุ๊กตาที่ส้มอยากได้ แต่เป็นขนมเล็กๆน้อยๆที่พ่อซื้อมาให้และขนมที่ได้จากรถทัวร์ที่แจก
  • 2. ๒ พ่อไม่กินแต่เก็บมาให้ส้ม พ่อกลับมาคราวนี้จะได้อยู่สักกี่วันก็คงเป็น วันที่มีความสุขมากเพราะได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา “ เอ้กอี่เลกเอ้กกกกกกกก ” เสียงไก่ขันตอนรับเช้าวันใหม่ที่สดใส ส้มเป็นเด็กที่ตื่นเช้ามากแต่ก็ช้า กว่าแม่เพราะแม่ต้องตื่นมาหุงข้าว ในช่วงปิดเทอมเวลาว่างเยอะมาก ซึ่งเวลาส่วนใหญ่ส้มจะใช้ไปกับการเก็บดอกงิ้ว ไปตกปลากับแม่ ไป ทุ่งนา ส้มจะติดแม่มากไม่ว่าแม่จะไปไหนส้มก็จะตามไปทุกที่ แต่ บางครั้งเวลาแม่ไปทานาส้มก็จะตามไปบ้างแต่ส่วนมากจะอยู่บ้านกับพี่ และเวลาว่างนี้ส้มจะใช้ไปกับการเก็บดอกงิ้วที่บ้านตรงข้าม วิธีชีวิตที่ ส้มชอบมากของบ้านเราคือทุกคนที่อยู่ในหมู่บ้านนี้เหมือนเป็นพี่เป็น น้องกัน เราจะไปมาหาสู่กันตลอด โดยเฉาะช่วงปีใหม่ไทย คนที่ ออกไปทางานต่างจังหวัดจะกลับบ้านมารดน้าหัวผู้หลักผู้ใหญ่ใน หมู่บ้านมีการพูดคุยทักทายกันเหมือนเดิมถึงแม้ว่าจะออกไปทางานที่
  • 3. ๑๔ ทุกวันนี้โลกสมัยก้าวหน้า เราก็ต้องก้าวตามแต่ต้องก้าวไปข้างหน้า อย่างระมัดระวังอย่าหลงผิด ก้าวไปอย่างภูมิใจในรากเง้าของตัวเอง อย่าลดคุณค่าในตัวเรา อย่าดูถูกตัวเรา ให้กาลังใจตัวเองเสมอ เราทุกคน ท้อได้แต่อย่าถ้อย ทุกก้าวที่ก้าวไปข้างหน้าเราต้องมั่นใจว่ามันแข็งแรง พอที่จะพบเจอกับสิ่งที่ฟ้าส่งมาทดสอบเรา ๓ ไกลบ้าน ทุกคนในหมู่บ้านยังจากันได้เมื่อเจอกันก็จะทักทายกัน และอีกอย่างที่ส้มชอบมากคือคนในหมู่บ้านจะเข้าวัดเข้าวา ทุกๆวัน สาคัญทางศาสนา เช่นวันนี้วันที่ 13 เมษายน ซึ่งเป็นวันปีใหม่เมืองของ ชาวเหนือและเป็นวันปีใหม่ไทยของชาวไทยทุกคนวันนี้ชาวป่าตาล บ้านเราเรียกว่าวัน “ สังขารล่อง ” เช้าตรู่ของวันสังขารล่อง ทุกบ้านจะ จัดเตรียมน้าส้มป่อย ใบหนาด ใบหนาม ทราย แล้วไปวัด เพื่อไป สงเคราะห์บ้าน สายวันนั้นซักประมาณสัก 10โมง ทุกคนจะกลับมาที่ บ้านของตัวเอง แม่เรียกส้ม “ ส้มมาหาแม่หน่อย ” แม่เรียกส้มมา เพื่อให้เอานาส้มป่อยตบหัวเป็นความเชื่อว่าจะสุขภาพดี แข็งแรง หมด โรคหมดภัย ไม่ว่าเราจะไปบ้านหลังไหนก็ตามทุกบ้านจะมีน้าส้มป่อย ที่นามาจากวัดอยู่หน้าบ้าน ทุกคนที่มาเยี่ยมเยือนบ้านเราเขาก็จะเอาน้า ส้มป่อยตบหัวให้ลูกให้หลาน เหมือนกับที่ยายทากับส้มตอนที่ไปหา ยาย ยายจะเรียกหลานทุกคนมาแล้วนาน้าส้มป่อยมาตบหัวให้หลาน
  • 4. ๔ เป็นเหมือนการอวยพรให้หลานๆทุกคนแข็งแรง แต่สิ่งหนึ่งที่ขาด ไม่ได้เลยคือตอนเช้ามาแม่จะบอกส้มให้ซักผ้า สระผมเพราะมีความ เชื่อว่าสิ่งไม่ดีต่างๆนานาจะไหลไปกับน้า วันต่อมาคือวันที่ 14 เมษายน หรือที่เรียกว่า “ วันเนา ” ซึ่งวันนี้ถือเป็นวันดีวันหนึ่งเลยที่เรา จะได้ออกกาลังกายที่เรามีไปขนทรายเข้าวัดกัน คนโบราณมีความเชื่อ ว่าตอนที่เราเข้าวัดไป เราได้เหยียบเม็ดดินเม็ดทรายของวัดออกมา ดังนั้นจึงมีการขนทรายเข้าวัดเพื่อนาทรายไปคืน เช้าวันเนา “ พี่ ส้มมมมมม ” เสียงหลานของส้มเรียกชวนไปตักทรายเข้าวัด เราไปกัน 5 คน ไปด้วยความตั้งใจที่จะทาบุญ เรานั่งรถอีแต้นไปใช้เวลา พอสมควรในการไปกลับ พอกลับถึงบ้านพวกเราก็หิวกันมาก ทั้งหิว ทั้งเหนื่อยแต่มันสุขใจ ผ่านพ้นไปอีกหนึ่งวันที่มีความสุข วันที่ 15 เมษายน “ วันพญาวัน ” วันนี้ถือเป็นวันที่สาคัญที่สุดเพราะหมู่บ้านเรา มีคนเฒ่าเยอะมากและทุกคนต่างรู้จักกัน เป็นญาติกัน เช้าที่แสนสดใส แม่ปลุกส้มมาแต่งตัวสวยๆ เตรียมขันใส่น้าส้มป่อย ดอกไม้ไปเต็มขัน ๑๓ ชาติปลูกข้าวให้คนทั้งประเทศกิน หากเราเอะใจซักนิดคิดถึงแหล่งที่มา และคิดซักนิดว่า 1 เม็ดที่เรากินทิ้งกินคว้าง คือน้าแรงของคนที่ทานา กว่า 6 เดือน สิ่งที่ส้มคิดในตอนนี้คือถ้าอีก 5 ปีข้างหน้าพื้นที่ทองอร่าม แห่งนี้จะกลายเป็นโรงงานอุตสาหกรรมหรือป่าว เพราะตอนนี้ก็มี นายหน้ามาไล่ซื้อที่ ตอนนี้สิ่งเดียวที่ทาได้คือขอให้ทุกคนรักในสิ่งที่ทา ไม่เห็นของที่มีค่าแค่ชั่ววูบ การที่เรามาเรียนนอกบ้านก็ทาให้รู้อะไร มากมายเลยว่าการที่เราไม่มีที่ดินและเป็นลูกจ้างตลอดไปนั้นไม่ดีเลย เพราะนายจ้างจะเลิกจ้างเราเมื่อไหร่ก็ได้แต่ถ้าเรามีที่ดินเราสามารถ ปลูกพืช ข้าว ผลไม้เราสามารถทาได้หลายอย่างโดยไม่ต้องเป็นแค่ ลูกจ้างอย่างเดียว เด็กที่อยู่บ้านนอกถึงเข้าจะไม่เก่งเหมือนคนที่อยู่ใน เมืองแต่ทักษะการใช้ชีวิตของเด็กบ้านนอกดีมาก เขาสามารถทาทุก อย่างได้โดยการพึ่งพาตัวเอง เรียนรู้จากการสังเกต ฝึกลองทา จนเขา สามารถทาทุกอย่างได้พอๆกับผู้ใหญ่บางทีเขาอาจจะทางานแทนหรือ ผ่อนภาระแรงของพ่อแม่ได้
  • 5. ๑๒ ที่ส้มจะเรียนในคณะที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม เพื่อเอามารักษาป่าไม้ของ ประเทศไทยให้อยู่ตราบนานเท่านาน เทคโนโลยีสมัยนี้ล้าหน้าไปมาก แล้ว ส้มทาการสืบหาข้อมูลที่จะทาตัวเองทาตามฝันได้หน้าหนาวของ ที่นี้ถือว่าดีมาก อากาศที่สูดเข้าไปเป็นอากาศที่บริสุทธิ์มาก รู้สึกถึง ความโล่ง ยังมีอีกที่หนึ่งที่เป็นไฮไลต์ของเราคือทุกๆบ้านจะมีอาชีพ หลัก คือ ชาวนา เมื่อถึงฤดูที่ต้องปลูกข้าว เราจะใช้เวลายาวนานมาก พอผ่านไปสักระยะต้นข้าวเล็กๆกลายเป็นต้นข้าวที่สูงมีสีเขียวชอุ่ม ตอนเช้าๆถ้าส้มตื่นทันส้มจะมากับลุงและน้อง มาที่ทุ่งนา ความรู้สึกนี้ มันอธิบายยากมากเพราะว่าวันหนึ่งถ้าเราไม่รักษามันไว้เราคงก็จะ ไม่ได้มีแหล่งออกซิเจนที่มากขนาดนี้ เมื่อข้าวตั้งท้องชาวบ้านก็จะรอ จนกว่าข้าวจะออกรวงและข้าวแก่ช่วงนี้ทุ่งนาสุดลูกหูลูกตาจะเป็นสี ทองอร่ามเต็มไปหมด และนี่คือสันหลังของชาติที่ปลูกข้าวให้เราทาน 1 % ที่ทุกคนเห็นมันน้อยมากๆถ้าเทียบกับน้าพักน้าแรงที่สันหลังของ ๕ เลย ที่ๆแรกที่เราจะไปคือบ้านยายบ้านส้มกับบ้านยายไม่ห่างกันมาก เราจะเดินไปมาหาสู่กันบ่อยมาก เวลาว่างๆส้มก็จะเดินไปหายาย ไปอยู่กับยายกับตา ยายกับตามีลูกด้วยกัน 8 คน หนึ่งในนั้นคือแม่ส้ม ยายกับตารักกันมาก ส้มชอบสมัยก่อนที่ไม่ว่าเราจะทะเลาะกันมาก ขนาดไหนสุดท้ายเราก็ต้องปรับตัวเพื่ออยู่ด้วยกัน ยายรักกับตามาหลาย 30 ปี รักไม่เคยจางหาย ยายกับตามีลูก หลาน เหลน โหลน เยอะมาก เพราะตอนนี้ยายกับตาก็แก่มากแล้ว วันนี้ก็ยังถือว่าเป็นวันครอบครัว เพราะทุกคนจะมารดน้าดาหัวตากับยายของเรา ทุกๆคนจะมาหาพ่อแม่ ของตัวเองเพื่อขอขมาลาโทษที่ลวงล้าทั้งวาจา ใจ และกาย น้าส้มป่อย ดอกไม้ที่ทุกคนเตรียมมาจะนามารวมกันในขันที่เตรียมไว้พอทุกคน ใส่ครบคาปั๋นปอนของตากับยายจึงได้เริ่มขึ้นถึงจะไม่ดังพอที่จะให้ทุก คนที่มาได้ยินทุกคนแต่ทุกคนก็เงียบเพื่อที่จะทาความเคารพยายกับตา อันเป็นที่รักของเรา จบการปั๋นปอนทุกคนจะเอาน้าส้มป่อยที่ใส่เมื่อกี้ มารดน้าดาหัวตากับยาย โดยการรดน้านี้จะเรียงให้คนที่แก่ที่สุดรดน้า
  • 6. ๖ ดาหัวก่อนจนไปถึงหลาน ของตากับยาย ในการรดน้าดาหัวนั้นตากับ ยายก็จะอวยพรให้เราและเราก็จะอวยพรให้ตากับยาย พ่อกับแม่พาส้ม ไปหลายบ้านมากและทุกๆบ้านที่เราไปคือญาติพี่น้องกัน หมู่บ้านเรา ถือว่าเป็นสวรรค์บนดินเลยก็ว่าได้เพราะทุกคนต่างรักกัน มีอะไรก็ ช่วยกัน ส้มขอบคุณฟ้า ขอบคุณสวรรค์ที่ส่งส้มมาเกิดกับที่ๆดีแบบนี้ ในโลกนี้ทุกคนเลือกที่จะมีความสุขที่แตกต่างกัน แต่รู้หรือไม่ความรัก ที่ส้มได้ความสุขที่ส้มเคยได้พบ เคยได้เจอ มันคือความสุขที่แท้จริงที่ ทุกๆคนตามหา เทศกาลใกล้จบลงแล้วแสดงว่าก็ใกล้หมดเวลาที่พ่อจะ อยู่ต่อ เหลือเวลาอีกไม่กี่วันก็จะถึงเวลาที่พ่อจะต้องกลับไปทางาน แต่ หลังจากนี้จะไม่มีอีกแล้วหมู่บ้านสวรรค์ของส้ม เพราะการมาครั้งนี้ ของพ่อเปลี่ยนชีวิตเด็กน้อยคนนี้อย่างมากเพราะส้มเป็นเด็กบ้านนอก คนหนึ่ง พ่อได้ทาการย้ายส้มไปยังจังหวัดที่พ่อทางาน ใจหนึ่งของส้มก็ คิดถึงบ้าน ใจหนึ่งก็อยากที่จะลองไปพอเจออะไรที่ใหม่ ผ่านไป 5 วัน ก็ถึงเวลาที่ครอบครัวของส้มต้องย้ายไปตามพ่อเหลือไว้แค่พี่คนเดียวที่ ๑๑ ที่แม่จะทาข้าวหลามให้กิน ไม่ว่าจะไปบ้านหลังไหนเขาก็จะทาข้าว หลามกันแต่ทุกคนไม่รู้หรอกว่าพวกเราต้องทุกข์ทรมานยังไงกับฤดู หนาวที่ใกล้เข้ามา เมื่อเราอยู่ใกล้ดอย มักจะมีหมอกควันจากการเผา ไหม้จากบนดอยมาปกคลุมพื้นที่ข้างล่าง พวกคุณไม่รู้หรอกว่าพวกเรา ต้องสูดดมอากาศที่เป็นพิษไปเยอะเท่าไหร่ พวกคุณไม่รู้หรอกว่าเรา ต้องแสบตาแค่ไหนกับควันที่มากซะจนเราแทบจะลืมตาไม่ได้พวก คุณจะรู้ไหมว่าเราหายใจลาบากขนาดไหน นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ส้ม คิดมาตลอดการปิดเทอมที่อยู่บ้านเกิด ส้มคิดตลอดว่าจะทาอย่างไรจึง จะกาจัดหรือทาให้ปัญหาเหล่านี้คลายลง สิ่งหนึ่งที่เด็กอย่างส้มคิดได้ คือเราต้องมีสานึกในตัวเองเสมอว่าเราอยู่กับป่า เราก็ต้องรักษาป่าให้ อยู่กับเราไปนานๆ นานพอที่จะอยู่กับลูกหลานเราไปจนแก่เฒ่า อีกสิ่ง หนึ่งที่ส้มคิดได้คือในเมื่อเราเปลี่ยนความคิดคนไม่ได้เราก็ต้องทาเอง ทาให้ป่าไม้ที่เรารัก ป่าไม้ที่มอบอะไรดีๆให้เรามากมายกลับมาคือการ
  • 7. ๑๐ การที่เรามีโอกาสที่จะได้ย้ายไปไหนหลายๆที่จะทาให้เราได้เรียนรู้การ ใช้ชีวิตของคนในพื้นที่ วิธีชีวิตต่างๆที่ที่ไหนก็สอนเราได้ไม่ดีเท่าเรา ได้ไปสัมผัส เรียนรู้ด้วยตัวเอง ได้ไปเห็น ได้ไปลองทา แค่นี้ก็ถือว่า เป็นประสบการณ์ของส้ม การที่เราอยู่แค่ที่ๆเดียว อาจจะไม่ดีเท่าเราได้ ไปหลายๆที่ ได้ไปรู้จักคน ได้ไปทุกข์ได้แก้ปัญหา ได้ก้าวข้ามปัญหา ทุกสิ่งทุกอย่างที่เข้ามานชีวิตส้มนั้นถือเป็นประสบการณ์ที่หาที่ไหน ไม่ได้ถ้าเราไม่ได้เจอกับตัวเอง “ ติ๊ด…ติ๊ด…ติ๊ด… ” เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นมาถึงเวลาที่ต้องตื่นมาพบกับฤดูหนาวที่บ้าน เกิดส้ม ใครๆก็รักบ้านเกิดของตัวเอง บ้านส้มอยู่ใกล้ภูเขามาหน้าหนาว ที่ไร ใครๆก็ชอบเพราะเป็นฤดูที่ส้มชอบมาก เป็นฤดูที่นอนหลับสบาย โดยไม่ต้องใช้พัดลม เป็นฤดูที่อยากตื่นเช้าขึ้นมาเล่นกันหลานโดยการ เล่นควันออกจากปาก เป็นฤดูที่มีการก่อไฟเพื่อเพิ่มความอบอุ่น เป็นฤดู ๗ อยู่ การปรับตัวไปกับสิ่งแวดล้อมรอบตัวถือว่าดี แต่เด็กบ้านนอกอย่าง ส้มจะปรับตัวได้เร็วหรือไม่ขึ้นอยู่กับการที่ว่าส้มเลือกที่ตะเปิดหรือปิด เวลาผ่านไปเร็วมากในที่สุดส้มก็เลือกที่จะเปิดรับสิ่งต่างที่จะเข้ามา เลือกที่จะรับและปรับตัว ส้มมีเพื่อนใหม่ ส้มได้เห็นอะไรที่ต่างจาก หมู่บ้านที่เคยอยู่ ส้มได้เรียนรู้การใช้ชีวิตแบบเร่งรีบ ส้มต้องทาทุก อย่างแข่งกับเวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว พ่อมาทางานรับจ้างกับป้า ซึ่งก็ ทาให้ส้มได้เจอกับเพื่อนๆชาวเมืองกรุง ในทุกๆวันส้มจะออกมาเล่น กับเพื่อนๆน้องๆ เราจะเล่นด้วยกันทุกๆเย็น ชีวิตที่เป็นแบบนี้ทุกวัน จนวันหนึ่งส้มตัดสินใจบอกแม่ว่าตอนกลับจากโรงเรียนขอกลับเองได้ ไหมเพราะปกติแล้วส้มจะนั่งรถตู้ของโรงเรียนที่ไปรับไปส่งถึงบ้าน ซึ่งมันก็แพงพอสมควรและมันนานมากเพราะบ้านส้มอยู่ไกลที่สุด จึง ขอแม่ที่จะนั่งรถกลับเอง ทาให้ได้รู้ถึงการลาบากมากเพราะบางครั้งที่ นั่งรถเต็มเราก็ต้องยืน รู้จักการเสียสละโดยการลุกให้น้อง ให้ยายนั่ง แทนเรา รู้จักการช่วยโดยการถือของให้คนที่ยืน นี่ก็เป็นอีกหนึ่ง
  • 8. ๘ วิธีชีวิตเมืองกรุง ก็ทาให้ส้มได้เติบโตกลายเป็นนักเรียนมัธยมต้น 5 ปี สาหรับการอยู่เมืองกรุง ทุกครั้งที่ถึงเวลากลับบ้านเกิดส้มจะดีใจมาก แต่กลับกันเมื่อถึงเวลาต้องกลับมาเมืองกรุงส้มต้องเสียน้าตากับการ คิดถึงบ้านที่เราอยู่มาตั้งแต่เกิดทุกครั้งที่ถึงเวลากลับไปทาฝัน และแล้ว การย้ายถิ่นฐานครั้งสาคัญก็มาถึงเป็นการย้ายครั้งที่สอง เราย้ายมาอยู่ที่ ภาคเหนือแต่ใกล้กับบ้านเกิดถึงจะใกล้กันมากแต่ก็อดคิดถึงไม่ได้อยู่ดี คิดถึงทุกๆอย่างที่ผ่านมาและกลายเป็นความทรงจาทีเริ่มจางหายไป “บรึนๆๆๆ” เช้าวันใหม่ของการย้ายถิ่นใหม่ของส้ม เช้าที่เห็นภูเขาที่สูงที่สุด ในประเทศไทยเราอยู่ภาคเหนือสิ่งที่ทุกคนอยากมาคืออากาศดีมากๆ ในตอนเช้าตรู่ แต่ตอนสายควันจากท่อไอเสียเริ่มมากขึ้น มากขึ้น สิ่งที่ ส้มถือว่าเป็นที่สะดุดตาสะดุดใจของนักท่องเที่ยวคือการที่เมืองๆนี้เป็น แหล่งประวัติศาสตร์ เป็นเมืองที่มีวัดมาก ดินไปทางไหนก็เจอแต่วันมี กาแพงเมืองเก่าแก่ตามแจ่งต่างๆของเมือง เมืองๆนี้ก็ยังถือว่ามี ๙ ขนบธรรมเนียมของคุณย่าคุณยายอยู่บ้าง ถึงเราจะอยู่ภาคเหนือ เหมือนกันแต่หารู้ไม่ว่าแต่ละจังหวัดจะมีสาเนียงการพูดที่แตกต่างกัน ออกไป เช่นเดียวกับวัฒนธรรมและประเพณี เราจะทาต่างกันมากมี ส่วนคล้ายคลึงกันอยู่ นครพิงค์แห่งนี้มีเพื่อนบ้านมาทามาหากินเยอะ มาก สังเกตได้ว่าเมื่อถึงวันสาคัญทางศาสนา เช่น วันวิสาขบูชา เพื่อน บ้านของเราจะไปวัดเยอะมากแทบจะไม่มีที่นั่ง ที่ยืนเลยต่างกับคนไทย ที่จะมีแต่คนเฒ่าคนแก่ไปวัดกัน วัดไทยนั้นเงียบมากต่างมากๆกับวัด เพื่อนบ้านที่ครึกครื้น มีการแต่งกายด้วยชุดประจาชาติที่ดูหลายหลาย สีสัน มีการพาลูกพาหลานมาตักบาตรทาบุญ การที่ได้ย้ายมาเมือง นครพิงค์แห่งนี้ทาให้รู้ว่าการที่เราไม่เลือกงาน ขยัน อดทน รู้จักเก็บ ออม ก็จะทาให้เรามีเงินทองพอใช้ตลอดปี ถึงเมืองแห่งนี้ค่าครองชีพ จะไม่สู้เท่าเมืองกรุงแต่มันก็อะไรที่แตกต่างจากเมืองกรุงไปมาก