SlideShare a Scribd company logo
1 of 16
1. จากการทดลองสรุปได้ว่าการควบคุมสิ่งเร้าที่วางเงื่อนไขกับสิ่งเร้าตาม
ธรรมชาตินั้น สามารถที่จะควบคุมให้เกิดสิ่งใดขึ้น ?
ก. การตอบสนองต่อสิ่งเร้า
ข. พฤติกรรม
ค. ความกลัว
ง. การเรียนรู้ที่จะตอบสนองสิ่งเร้า
2. พฤติกรรมของมนุษย์เกิดจากการตอบสนองต่อสิ่งใด
ก. สิ่งเร้า
ข. สิ่งที่สนใจ
ค. สิ่งที่ทาให้เกิดอารมณ์
ง. สิ่งแวดล้อม
3. สิ่งเร้าที่ไม่วางเงื่อนไขใหม่ (UCS)ที่ตรงข้ามกับสิ่งเร้าเก่า (UCS) เพื่อให้เกิด
การตอบสนองที่ตรงข้ามกับการตอบสนองเดิม เป็นการวางเงื่อนไขแบบใด
ก. การวางเงื่อนไขให้กลัว
ข. การวางเงื่อนไขกลับ
ค. การวางเงื่อนไขแบบคลาสสิค
ง. การวางเงื่อนไขแบบการตอบสนอง
4. ข้อใดคือแผนผังแสดงการวางเงื่อนไขกลับ
ก. ข.
ค. ง. ข้อ ก. และ ข้อ ข ถูกต้อง
5. ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่หลักการนาทฤษฎีของวัตสันมาประยุกต์ใช้
ก. การนาหลักการเพิ่มพฤติกรรมมาใช้
ข. การนาหลักการลดพฤติกรรมมาใช้
ค. การนากฏความคล้ายคลึงกันไปใช้
ง. การนากฎการจาแนกมาใช้
6. ข้อใดต่อไปนี้กล่าวถูกต้อง เกี่ยวกับทฤษฎีการเรียนรู้ของวัตสันที่ว่า พฤติกรรมเป็น
สิ่งที่สามารถควบคุมให้เกิดขึ้นได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
ก. เกิดขึ้นได้ เพราะโดยการควบคุมสิ่งเร้าที่วางเงื่อนไขให้สัมพันธ์กับสิ่งเร้า
ตามธรรมชาติ
ข. เกิดขึ้นได้ เพราะการเรียนรู้จะคงทนถาวร หากมีการให้สิ่งเร้าที่สัมพันธ์กัน
นั้นควบคู่กันไปอย่างสม่าเสมอ
ค. เกิดขึ้นไม่ได้ เพราะพฤติกรรมเป็นสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้ เนื่องจาก
เด็กจะเอาอารมณ์ของตนเป็นที่ตั้ง
ง. ก และ ข ถูกต้อง –
7. วันหนึ่งขณะที่หนูน้อยนั่งเล่นอยู่ มีหนูขาววิ่งเขามาหนูน้อยก็นั่งเล่นโดยที่ไม่กลัวหนู
ขาวเลย วันต่อมาหนูน้อยนั่งเล่นอยู่ที่เดิมแล้วหนูขาวก็วิ่งเข้ามา ในขณะที่หนูขาววิ่งเข้า
มานั้นพ่อของหนูน้อยก็ได้นาค้อนไปเคาะที่กระเบื้องข้างบ้านเกิดเสียงดัง ทาให้หนูน้อย
ตกใจแล้วเกิดความกลัว ความกลัวที่กล่าวมาข้างต้น เรียกอีกอย่างว่าอะไร
ก. UCS ข. CR ค. UCR ง. CS
8. วัตสัน ใช้สิ่งเร้าสองสิ่งมาคู่กันแล้วทาให้เกิด การตอบสนองอย่างเดียว สิ่งเร้าสองสิ่งคือ
อะไร
ก.สิ่งเร้าที่วางเงื่อนไข (CS) กับ สิ่งเร้าที่ไม่วางเงื่อนไข (UCR)
ข.สิ่งเร้าที่วางเงื่อนไข (CS) กับ ความกลัว (CR)
ค.ความกลัว (CR) กับ การตอบสนองที่ไม่ต้องวางเงื่อนไข (UCR)
ง.สิ่งเร้าที่ไม่วางเงื่อนไข (UCR) กับ การตอบสนองที่ไม่ต้องวางเงื่อนไข (UCR)
9. ข้อใดคล้ายคลึงกับการทดลองของวัตสันมากที่สุด
ก. จอยอยากให้สนุขเดินได้จึงให้อาหารสุนัขโดยการแขวน
ข. อายสั่นกระดิ่งก่อนให้อาหารปลาทุกครั้งเพื่อเป็นสัญญาน
ค. ปิงเป่านกหวีดทุกครั้งเมื่อมีคนเดินเข้าใกล้กรงเสือ
ง. แอลฟาชอบเล่นกระต่าย แม่ไม่อยากให้แอลฟาเล่นกระต่ายจึงเปิดวีดีโอผี
กระต่ายให้แอลฟาดูบ่อยๆ แอลฟากลัวมากและไม่อยากเล่นกระต่ายอีกเลย
10. แนวคิดของบุคลใดตรงกับแนวคิดของวัตสันมากที่สุด
ก. เจนเชื่อว่าสิ่งแวดล้อมคือตัวกาหนดพฤติกรรมของเด็ก
ข. นานาเชื่อว่าเขาสามารถสร้างให้เด็กเป็นอะไรก็ได้โดยการวางเงื่อนไข
ค. อิงเชื่อว่าการวางเงื่อนไขต้องดูจากภูมิฐานของเด็ก
ง. ซาร่าเชื่อว่าเด็กคือผ้าขาวที่ผู้ใหญ่จะแต่งเติมอย่างไรก็ได้
ทฤษฎีการเรียนรู้ของวัตสัน
ทฤษฎีการเรียนรู้ของวัตสัน
ทฤษฎีการเรียนรู้ของวัตสัน
ทฤษฎีการเรียนรู้ของวัตสัน
ทฤษฎีการเรียนรู้ของวัตสัน
ทฤษฎีการเรียนรู้ของวัตสัน
ทฤษฎีการเรียนรู้ของวัตสัน
ทฤษฎีการเรียนรู้ของวัตสัน

More Related Content

Similar to ทฤษฎีการเรียนรู้ของวัตสัน

Problem base
Problem baseProblem base
Problem basenilobon66
 
พาฟลอฟ
พาฟลอฟพาฟลอฟ
พาฟลอฟya035
 
พาฟลอฟ
พาฟลอฟพาฟลอฟ
พาฟลอฟya035
 
จิตวิทยาการเรียนร้2
จิตวิทยาการเรียนร้2จิตวิทยาการเรียนร้2
จิตวิทยาการเรียนร้2kungcomedu
 
สถานการณ์ปัญหาเพื่อการเรียนรู้
สถานการณ์ปัญหาเพื่อการเรียนรู้สถานการณ์ปัญหาเพื่อการเรียนรู้
สถานการณ์ปัญหาเพื่อการเรียนรู้pimporn454
 
ตอบสถานการณ์ปัญาหา แนวคิดพฤติกรรมนิยม.Pdมf
ตอบสถานการณ์ปัญาหา แนวคิดพฤติกรรมนิยม.Pdมfตอบสถานการณ์ปัญาหา แนวคิดพฤติกรรมนิยม.Pdมf
ตอบสถานการณ์ปัญาหา แนวคิดพฤติกรรมนิยม.Pdมfนิพ พิทา
 
ตอบสถานการณ์ปัญาหา แนวคิดพฤติกรรมนิยม.Pdมf
ตอบสถานการณ์ปัญาหา แนวคิดพฤติกรรมนิยม.Pdมfตอบสถานการณ์ปัญาหา แนวคิดพฤติกรรมนิยม.Pdมf
ตอบสถานการณ์ปัญาหา แนวคิดพฤติกรรมนิยม.Pdมfนิพ พิทา
 

Similar to ทฤษฎีการเรียนรู้ของวัตสัน (8)

Problem base
Problem baseProblem base
Problem base
 
พาฟลอฟ
พาฟลอฟพาฟลอฟ
พาฟลอฟ
 
พาฟลอฟ
พาฟลอฟพาฟลอฟ
พาฟลอฟ
 
Perception,learning,memory (Ch.6), Consumer Behavior Class
Perception,learning,memory (Ch.6), Consumer Behavior ClassPerception,learning,memory (Ch.6), Consumer Behavior Class
Perception,learning,memory (Ch.6), Consumer Behavior Class
 
จิตวิทยาการเรียนร้2
จิตวิทยาการเรียนร้2จิตวิทยาการเรียนร้2
จิตวิทยาการเรียนร้2
 
สถานการณ์ปัญหาเพื่อการเรียนรู้
สถานการณ์ปัญหาเพื่อการเรียนรู้สถานการณ์ปัญหาเพื่อการเรียนรู้
สถานการณ์ปัญหาเพื่อการเรียนรู้
 
ตอบสถานการณ์ปัญาหา แนวคิดพฤติกรรมนิยม.Pdมf
ตอบสถานการณ์ปัญาหา แนวคิดพฤติกรรมนิยม.Pdมfตอบสถานการณ์ปัญาหา แนวคิดพฤติกรรมนิยม.Pdมf
ตอบสถานการณ์ปัญาหา แนวคิดพฤติกรรมนิยม.Pdมf
 
ตอบสถานการณ์ปัญาหา แนวคิดพฤติกรรมนิยม.Pdมf
ตอบสถานการณ์ปัญาหา แนวคิดพฤติกรรมนิยม.Pdมfตอบสถานการณ์ปัญาหา แนวคิดพฤติกรรมนิยม.Pdมf
ตอบสถานการณ์ปัญาหา แนวคิดพฤติกรรมนิยม.Pdมf
 

More from suraidabungasayu

ทฤษฎีพัฒนาการของบรูเนอร์
ทฤษฎีพัฒนาการของบรูเนอร์ทฤษฎีพัฒนาการของบรูเนอร์
ทฤษฎีพัฒนาการของบรูเนอร์suraidabungasayu
 
ทฤษฎีพัฒนาการของเพียเจต์
ทฤษฎีพัฒนาการของเพียเจต์ทฤษฎีพัฒนาการของเพียเจต์
ทฤษฎีพัฒนาการของเพียเจต์suraidabungasayu
 
ทฤษฎีการเรียนรู้ของบันดูรา
ทฤษฎีการเรียนรู้ของบันดูราทฤษฎีการเรียนรู้ของบันดูรา
ทฤษฎีการเรียนรู้ของบันดูราsuraidabungasayu
 
ทฤษฎีพัฒนาการของโคลเบิร์ก
ทฤษฎีพัฒนาการของโคลเบิร์กทฤษฎีพัฒนาการของโคลเบิร์ก
ทฤษฎีพัฒนาการของโคลเบิร์กsuraidabungasayu
 
ทฤษฎีการเรียนรู้ของธอร์นไดค์
ทฤษฎีการเรียนรู้ของธอร์นไดค์ทฤษฎีการเรียนรู้ของธอร์นไดค์
ทฤษฎีการเรียนรู้ของธอร์นไดค์suraidabungasayu
 
ทฤษฎีพัฒนาการของ โรเบิร์ต เจ. ฮาวิกเฮิร์ส
ทฤษฎีพัฒนาการของ โรเบิร์ต เจ. ฮาวิกเฮิร์สทฤษฎีพัฒนาการของ โรเบิร์ต เจ. ฮาวิกเฮิร์ส
ทฤษฎีพัฒนาการของ โรเบิร์ต เจ. ฮาวิกเฮิร์สsuraidabungasayu
 
ทฤษฎีการเรียนรู้ของเกสตัลท์
ทฤษฎีการเรียนรู้ของเกสตัลท์ทฤษฎีการเรียนรู้ของเกสตัลท์
ทฤษฎีการเรียนรู้ของเกสตัลท์suraidabungasayu
 
ทฤษฎีพัฒนาการของอิริคสัน
ทฤษฎีพัฒนาการของอิริคสันทฤษฎีพัฒนาการของอิริคสัน
ทฤษฎีพัฒนาการของอิริคสันsuraidabungasayu
 
ทฤษฎีการเรียนรู้ของสกินเนอร์
ทฤษฎีการเรียนรู้ของสกินเนอร์ทฤษฎีการเรียนรู้ของสกินเนอร์
ทฤษฎีการเรียนรู้ของสกินเนอร์suraidabungasayu
 
ทฤษฏีพัฒนาการของซิกมันด์ ฟรอยด์
ทฤษฏีพัฒนาการของซิกมันด์ ฟรอยด์ทฤษฏีพัฒนาการของซิกมันด์ ฟรอยด์
ทฤษฏีพัฒนาการของซิกมันด์ ฟรอยด์suraidabungasayu
 
ทฤษฏีพัฒนาการของซิกมันด์ ฟรอยด์
ทฤษฏีพัฒนาการของซิกมันด์ ฟรอยด์ทฤษฏีพัฒนาการของซิกมันด์ ฟรอยด์
ทฤษฏีพัฒนาการของซิกมันด์ ฟรอยด์suraidabungasayu
 

More from suraidabungasayu (11)

ทฤษฎีพัฒนาการของบรูเนอร์
ทฤษฎีพัฒนาการของบรูเนอร์ทฤษฎีพัฒนาการของบรูเนอร์
ทฤษฎีพัฒนาการของบรูเนอร์
 
ทฤษฎีพัฒนาการของเพียเจต์
ทฤษฎีพัฒนาการของเพียเจต์ทฤษฎีพัฒนาการของเพียเจต์
ทฤษฎีพัฒนาการของเพียเจต์
 
ทฤษฎีการเรียนรู้ของบันดูรา
ทฤษฎีการเรียนรู้ของบันดูราทฤษฎีการเรียนรู้ของบันดูรา
ทฤษฎีการเรียนรู้ของบันดูรา
 
ทฤษฎีพัฒนาการของโคลเบิร์ก
ทฤษฎีพัฒนาการของโคลเบิร์กทฤษฎีพัฒนาการของโคลเบิร์ก
ทฤษฎีพัฒนาการของโคลเบิร์ก
 
ทฤษฎีการเรียนรู้ของธอร์นไดค์
ทฤษฎีการเรียนรู้ของธอร์นไดค์ทฤษฎีการเรียนรู้ของธอร์นไดค์
ทฤษฎีการเรียนรู้ของธอร์นไดค์
 
ทฤษฎีพัฒนาการของ โรเบิร์ต เจ. ฮาวิกเฮิร์ส
ทฤษฎีพัฒนาการของ โรเบิร์ต เจ. ฮาวิกเฮิร์สทฤษฎีพัฒนาการของ โรเบิร์ต เจ. ฮาวิกเฮิร์ส
ทฤษฎีพัฒนาการของ โรเบิร์ต เจ. ฮาวิกเฮิร์ส
 
ทฤษฎีการเรียนรู้ของเกสตัลท์
ทฤษฎีการเรียนรู้ของเกสตัลท์ทฤษฎีการเรียนรู้ของเกสตัลท์
ทฤษฎีการเรียนรู้ของเกสตัลท์
 
ทฤษฎีพัฒนาการของอิริคสัน
ทฤษฎีพัฒนาการของอิริคสันทฤษฎีพัฒนาการของอิริคสัน
ทฤษฎีพัฒนาการของอิริคสัน
 
ทฤษฎีการเรียนรู้ของสกินเนอร์
ทฤษฎีการเรียนรู้ของสกินเนอร์ทฤษฎีการเรียนรู้ของสกินเนอร์
ทฤษฎีการเรียนรู้ของสกินเนอร์
 
ทฤษฏีพัฒนาการของซิกมันด์ ฟรอยด์
ทฤษฏีพัฒนาการของซิกมันด์ ฟรอยด์ทฤษฏีพัฒนาการของซิกมันด์ ฟรอยด์
ทฤษฏีพัฒนาการของซิกมันด์ ฟรอยด์
 
ทฤษฏีพัฒนาการของซิกมันด์ ฟรอยด์
ทฤษฏีพัฒนาการของซิกมันด์ ฟรอยด์ทฤษฏีพัฒนาการของซิกมันด์ ฟรอยด์
ทฤษฏีพัฒนาการของซิกมันด์ ฟรอยด์
 

ทฤษฎีการเรียนรู้ของวัตสัน

  • 1.
  • 2.
  • 3.
  • 4. 1. จากการทดลองสรุปได้ว่าการควบคุมสิ่งเร้าที่วางเงื่อนไขกับสิ่งเร้าตาม ธรรมชาตินั้น สามารถที่จะควบคุมให้เกิดสิ่งใดขึ้น ? ก. การตอบสนองต่อสิ่งเร้า ข. พฤติกรรม ค. ความกลัว ง. การเรียนรู้ที่จะตอบสนองสิ่งเร้า 2. พฤติกรรมของมนุษย์เกิดจากการตอบสนองต่อสิ่งใด ก. สิ่งเร้า ข. สิ่งที่สนใจ ค. สิ่งที่ทาให้เกิดอารมณ์ ง. สิ่งแวดล้อม
  • 5. 3. สิ่งเร้าที่ไม่วางเงื่อนไขใหม่ (UCS)ที่ตรงข้ามกับสิ่งเร้าเก่า (UCS) เพื่อให้เกิด การตอบสนองที่ตรงข้ามกับการตอบสนองเดิม เป็นการวางเงื่อนไขแบบใด ก. การวางเงื่อนไขให้กลัว ข. การวางเงื่อนไขกลับ ค. การวางเงื่อนไขแบบคลาสสิค ง. การวางเงื่อนไขแบบการตอบสนอง 4. ข้อใดคือแผนผังแสดงการวางเงื่อนไขกลับ ก. ข. ค. ง. ข้อ ก. และ ข้อ ข ถูกต้อง
  • 6. 5. ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่หลักการนาทฤษฎีของวัตสันมาประยุกต์ใช้ ก. การนาหลักการเพิ่มพฤติกรรมมาใช้ ข. การนาหลักการลดพฤติกรรมมาใช้ ค. การนากฏความคล้ายคลึงกันไปใช้ ง. การนากฎการจาแนกมาใช้ 6. ข้อใดต่อไปนี้กล่าวถูกต้อง เกี่ยวกับทฤษฎีการเรียนรู้ของวัตสันที่ว่า พฤติกรรมเป็น สิ่งที่สามารถควบคุมให้เกิดขึ้นได้หรือไม่ เพราะเหตุใด ก. เกิดขึ้นได้ เพราะโดยการควบคุมสิ่งเร้าที่วางเงื่อนไขให้สัมพันธ์กับสิ่งเร้า ตามธรรมชาติ ข. เกิดขึ้นได้ เพราะการเรียนรู้จะคงทนถาวร หากมีการให้สิ่งเร้าที่สัมพันธ์กัน นั้นควบคู่กันไปอย่างสม่าเสมอ ค. เกิดขึ้นไม่ได้ เพราะพฤติกรรมเป็นสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้ เนื่องจาก เด็กจะเอาอารมณ์ของตนเป็นที่ตั้ง ง. ก และ ข ถูกต้อง –
  • 7. 7. วันหนึ่งขณะที่หนูน้อยนั่งเล่นอยู่ มีหนูขาววิ่งเขามาหนูน้อยก็นั่งเล่นโดยที่ไม่กลัวหนู ขาวเลย วันต่อมาหนูน้อยนั่งเล่นอยู่ที่เดิมแล้วหนูขาวก็วิ่งเข้ามา ในขณะที่หนูขาววิ่งเข้า มานั้นพ่อของหนูน้อยก็ได้นาค้อนไปเคาะที่กระเบื้องข้างบ้านเกิดเสียงดัง ทาให้หนูน้อย ตกใจแล้วเกิดความกลัว ความกลัวที่กล่าวมาข้างต้น เรียกอีกอย่างว่าอะไร ก. UCS ข. CR ค. UCR ง. CS 8. วัตสัน ใช้สิ่งเร้าสองสิ่งมาคู่กันแล้วทาให้เกิด การตอบสนองอย่างเดียว สิ่งเร้าสองสิ่งคือ อะไร ก.สิ่งเร้าที่วางเงื่อนไข (CS) กับ สิ่งเร้าที่ไม่วางเงื่อนไข (UCR) ข.สิ่งเร้าที่วางเงื่อนไข (CS) กับ ความกลัว (CR) ค.ความกลัว (CR) กับ การตอบสนองที่ไม่ต้องวางเงื่อนไข (UCR) ง.สิ่งเร้าที่ไม่วางเงื่อนไข (UCR) กับ การตอบสนองที่ไม่ต้องวางเงื่อนไข (UCR)
  • 8. 9. ข้อใดคล้ายคลึงกับการทดลองของวัตสันมากที่สุด ก. จอยอยากให้สนุขเดินได้จึงให้อาหารสุนัขโดยการแขวน ข. อายสั่นกระดิ่งก่อนให้อาหารปลาทุกครั้งเพื่อเป็นสัญญาน ค. ปิงเป่านกหวีดทุกครั้งเมื่อมีคนเดินเข้าใกล้กรงเสือ ง. แอลฟาชอบเล่นกระต่าย แม่ไม่อยากให้แอลฟาเล่นกระต่ายจึงเปิดวีดีโอผี กระต่ายให้แอลฟาดูบ่อยๆ แอลฟากลัวมากและไม่อยากเล่นกระต่ายอีกเลย 10. แนวคิดของบุคลใดตรงกับแนวคิดของวัตสันมากที่สุด ก. เจนเชื่อว่าสิ่งแวดล้อมคือตัวกาหนดพฤติกรรมของเด็ก ข. นานาเชื่อว่าเขาสามารถสร้างให้เด็กเป็นอะไรก็ได้โดยการวางเงื่อนไข ค. อิงเชื่อว่าการวางเงื่อนไขต้องดูจากภูมิฐานของเด็ก ง. ซาร่าเชื่อว่าเด็กคือผ้าขาวที่ผู้ใหญ่จะแต่งเติมอย่างไรก็ได้