กฎหมายแพ่ง และพาณิชย์
- 7. นิติกรรม(ต่อ)
ความไม่สมบูรณ์ของนิติกรรม
1. ความสามารถในการทานิติกรรม ถ้ำกระทำลงโดยผู้หย่อนควำมสำมำรถ เป็นโมฆียะ
2. วัตถุประสงค์แห่งนิติกรรม เป็นกำรต้องห้ำมชัดแจ้งโดยกฎหมำย ,เป็นกำรพ้นวิสัย ,ขัดควำมสงบ
เรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดี เป็นโมฆียะ
3. แบบแห่งนิติกรรม
-การทาเป็นหนังสือเช่น กำรโอนหนี้/สัญญำเช่ำซื้อ ถ้ำตกลงเพียงวำจำสัญญำนั้นเป็นโมฆะ
-การทาเป็นหนังสือต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เช่น กำรทำพินัยกรรมแบบเอกสำรฝ่ำยเมือง ถ้ำไม่ได้ทำ
เป็นหนังสือต่อพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ ย่อมใช้บังคับไม่ได้ เป็นต้น
-การทาเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เช่น สัญญำขำยฝำก/ สัญญำจำนอง เป็น
ต้น ถ้ำไม่ทำ ตำมแบบ เป็นโมฆะ
- 8. 4. การแสดงเจตนา
4.1 เจตนาอย่างหนึ่งแต่แสดงออกอีกอย่างหนึ่งมีผลใช้บังคับได้ เว้นแต่อีกฝ่ำยหนึ่ง
จะได้รู้ถึงเจตนำที่แท้จริง เป็นโมฆะ
4.2 การแสดงเจตนาโดยสาคัญผิด
(1) สำคัญผิดในสำระสำคัญ =ประเภทของนิติกรรม,ตัวบุคคลซึ่งเป็นคู่สัญญำ,ใน
วัตถุแห่งนิติกรรมเป็นโมฆะ
(2) สำคัญผิดในคุณสมบัติของบุคคลหรือทรัพย์ กล่ำวคือ ถ้ำรู้ว่ำบุคคลหรือ
ทรัพย์ไม่ได้คุณสมบัติที่ต้องกำรก็คงไม่ทำนิติกรรมด้วย นิติกรรมนั้นเป็น
โมฆียะ
(3) สำคัญผิดเพรำะกลฉ้อฉล ได้แก่ กำรที่คู่กรณีฝ่ำยหนึ่งใช้อุบำยหลอกลวง ให้
เขำหลงเชื่อ แล้วเขำทำนิติกรรม ซึ่งถ้ำมิได้ใช้อุบำยหลอกเช่นว่ำนั้น เขำคงไม่
ทำนิติกรรมด้วย นิติกรรมนั้นเป็นโมฆียะ
(4) กำรแสดงเจตนำเพรำะถูกข่มขู่ นิติกรรมนั้นเป็นโมฆียะ
นิติกรรม(ต่อ)
ถ้าการข่มขู่นั้นถึงขนาดที่ทาให้ผู้ถูกขู่กลัวจริงๆ แต่การขู่ว่าจะใช้สิทธิตามปกตินิยมก็
ดี หรือความกลัวเพราะนับถือยาเกรงก็ดี ไม่ถือว่าเป็นการขู่
- 9. สัญญา
มีบุคคลตั้งแต่ 2 ฝ่ายขึ้นไป ,มีการแสดงเจตนาต้องตรงกัน (คาเสนอ+คา
สนองตรงกัน) ,ต้องมีวัตถุประสงค์ในการทาสัญญา
1. สัญญำต่ำงตอบแทนกับสัญญำไม่ต่ำงตอบแทน
2. สัญญำมีค่ำตอบแทนกับสัญญำไม่มีค่ำตอบแทน
3.สัญญำประธำนกับสัญญำอุปกรณ์
4. สัญญำเพื่อประโยชน์บุคคลภำยนอก
5. เอกเทศสัญญำตำม ป.พ.พ.บรรพ 3 กับสัญญำไม่มีชื่อ
ประเภทของสัญญา 1. สิทธิบอกเลิกสัญญำโดยบทบัญญัติแห่งกฎหมำย
2. สิทธิบอกเลิกสัญญำโดยข้อ
สิทธิในการบอกเลิกสัญญา
ผลของการเลิกสัญญา
1. คู่สัญญำแต่ละฝ่ำยต้องให้อีกฝ่ำยหนึ่งกลับคืนสู่ฐำนะเดิม
2. กำรเลิกสัญญำไม่กระทบกระเทือนถึงสิทธิของเจ้ำหนี้ที่
จะเรียกค่ำเสียหำย
“คาเสนอ” เป็นคาแสดงเจตนาขอทาสัญญาคาเสนอต้องมีความชัดเจนแน่นอน
“คาสนอง” การแสดงเจตนาของผู้สนองต่อผู้เสนอต้องมีความชัดเจนแน่นอนปราศจากข้อแก้ไขข้อจากัดหรือข้อเพิ่มเติมใดๆ
- 10. หนี้
1. การมีนิติสัมพันธ์ (ความผูกพันกันในทางกฎหมาย)
2. การมีเจ้าหนี้และลูกหนี้ (สิทธิเหนือบุคคล)
3.ต้องมีวัตถุแห่งหนี้ (การกระทา / งดเว้นกระทาการ / ส่งมอบทรัพย์สิน)
1. นิติกรรม-สัญญำ
2. นิติเหตุ หมำยถึง เหตุที่มิได้เกิดขึ้นจำกกำรแสดง
เจตนำเข้ำผูกพันตนเพื่อก่อได้แก่ ละเมิด ,จัดกำรงำน
นอกสั่ง ,ลำภมิควรได้ ,ตำมบทบัญญัติแห่งกฎหมำย
(บุตรจำต้องอุปกำระเลี้ยงดูบิดำมำรดำ)
บ่อเกิดแห่งหนี้
การบังคับชาระหนี้
ถ้ำกำรชำระหนี้นั้นยังมิได้กระทำลงเพรำะ
พฤติกำรณ์อันใดอันหนึ่งซึ่งลูกหนี้ไม่ต้อง
รับผิดชอบ ลูกหนี้ก็ยังหำได้ชื่อว่ำเป็นผู้ผิดนัด
ข้อแก้ตัวของลูกหนี้
เมื่อถึงเวลำชำระหนี้และภำยหลังจำกนั้นเจ้ำหนี้
ได้เตือนลูกหนี้แล้วแล้วลูกหนี้ยังไม่ชำระหนี้
ลูกหนี้ถือว่ำผิดนัดหรือถึงเวลำชำระหนี้ตำมปฏิทิน
แล้ว ลูกหนี้ไม่ได้ชำระถือว่ำผิดนัดเลยโดยไม่ต้อง
เตือนก่อน ถ้ำเป็นหนี้อันเกิดแต่มูลละเมิดลูกหนี้
ได้ชื่อว่ำผิดนัดมำแต่เวลำที่ทำละเมิด
1. เจ้ำหนี้มีสิทธิเรียกค่ำสินไหมทดแทนเพื่อควำมเสียหำยได้
2. ถ้ำกำรผิดนัดนั้นเจ้ำหนี้ได้ผลประโยชน์ เจ้ำหนี้มีสิทธิบอก
ปัดกำรชำระหนี้นั้นได้
3. ลูกหนี้จะต้องรับผิดชอบในควำมเสียหำยที่ชำระหนี้ไม่
ตรงตำมกำหนดทุกกรณี
4. ในระหว่ำงผิดนัด ถ้ำไม่มีกำรกำหนด ในกรณีของหนี้
เงินให้คิดดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี
ผลของการที่ลูกหนี้ผิดนัด
- 11. หนี้(ต่อ) การผิดนัดของเจ้าหนี้
1. ถ้ำลูกหนี้นำเงินมำชำระกับเจ้ำหนี้และเจ้ำหนี้ไม่รับโดย
ปรำศจำกมูลเหตุที่จะอ้ำงศำลเจ้ำหนี้ตกเป็นผู้ผิดนัด
2. ในกรณีของสัญญำต่ำงตอบแทนถ้ำลูกหนี้ต้องชำระหนี้
ส่วนของตนเมือเจ้ำหนี้ชำระหนี้ตอบแทนนั้น ถึงแม้ว่ำ
เจ้ำหนี้พร้อมที่จะชำระให้ลูกหนีแล้วแต่ไม่เป็นไปตำม
ข้อตกลง เจ้ำหนี้ก็เป็นอันได้ชื่อว่ำผิดนัด
ปลดเปลื้องควำมรับผิดในอันที่จะต้องใช้ค่ำสินไหม
ทดแทน เพรำะเหตุชำระหนี้ล่ำช้ำ ,ในกรณีที่กำร
ชำระหนี้นั้นกลำยเป็นอันไร้ประโยชน์แก่เจ้ำหนี้ ,ใน
ควำมเสียหำยอย่ำงใดๆ ที่เกิดแก่ตัวทรัพย์อันเป็น
วัตถุแห่งหนี้นั้น ,ในดิกเบี้ยสำหรับกรณีที่เป็นหนี้เงิน
ผลของการที่เจ้าหนี้ผิดนัด
1. . ในเวลำที่ลูกหนี้ขอปฏิบัติกำรชำระหนี้นั้น หำก
ลูกหนี้ไม่ได้อยู่ในฐำนะที่จะชำระหนี้ได้จริงๆ
เจ้ำหนี้ก็หำตกเป็นผู้ผิดนัดไม่
2. ในกรณีที่ลูกหนี้มีสิทธิที่จะชำระหนี้ได้ก่อนเวลำ
กำหนด กำรที่เจ้ำหนี้ไม่อำจรับชำระหนี้ได้นั้น หำทำ
ให้เจ้ำหนี้ตกเป็นผู้ผิดนัดไม่
ข้อแก้ตัวของเจ้าหนี้
ลูกหนี้สำมำรถตั้งผู้ใดผู้หนึ่งเป็นตัวแทนในกำรชำระหนี้ก็
ได้ เว้นแต้สภำพหนี้จะไม่เปิดช่องให้กระทำได้หรือขัดต่อ
เจตนำที่คู่กรณีตกลงกันไว้ เมื่อลูกหนี้ได้มอบหมำยให้
ตัวแทนจัดกำรชำระหนี้ ลูกหนี้ต้องรับผิดชอบในควำมผิด
ของบุคคลที่ลูกหนี้มอบหมำยนั้นเสมือนกับว่ำเป็นควำมผิด
ของตนเอง
ความรับผิดของลูกหนี้(ต่อคนที่ตนใช้ในการชาระหนี้)
- 12. ละเมิด
เป็นการกระทาต่อบุคคลอื่นโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ,เป็นการกระทาโดย
จงใจหรือประมาทเลินเล่อ ,ทาให้บุคคลอื่นได้รับความเสียหาย
1. ควำมรับผิดในกำรทำละเมิดของลูกจ้ำง
2. ควำมรับผิดในกำรทำละเมิดของผู้เยำว์หรือบุคคลวิกลจริต
3. ควำมรับผิดในควำมเสียหำยที่เกิดขึ้นจำกพำหนะหรือทรัพย์อันตรำย
4. ควำมรับผิดในควำมเสียหำยที่เกิดขึ้นเพรำะสัตว์
5. ควำมรับผิดในควำมเสียหำยที่เกิดขึ้นเพรำะโรงเรือน,สิ่งปลูกสร้ำงอื่น
ความรับผิดในการทาละเมิดของบุคคลอื่น
ศำลจะเป็นผู้วินิจฉัยตำมควรแก่พฤติกำรณ์และควำมร้ำยแรงแห่งละเมิด คือ
1. กรณีทำทรัพย์สินเสียหำย ค่ำสินไหมทดแทน(กำรคืนทรัพย์สินที่เสียไป)
2. กรณีเกี่ยวกับชีวิตร่ำงกำย ถ้ำตำยได้ค่ำปลงศพถ้ำไม่ตำยได้ค่ำ
รักษำพยำบำลกับค่ำเสียหำย
ค่าสินไหมทดแทน
ถ้ำกำรทำละเมิดดังกล่ำวผู้กระทำได้ทำ
ไปเพื่อป้องกันก็ดีเพรำะมีเหตุจำเป็นก็ดี
หรือเพื่อบำบัดปัดป้องภยันตรำย
สำธำรณะซึ่งมีมำโดยฉุกเฉินก็ดี
ผู้กระทำละเมิดโดยเหตุดังกล่ำวนั้นไม่
จำต้องชดใช้ค่ำสินไหมทดแทน
นิรโทษกรรม
- 13. ครอบครัว
1.ชายและหญิงคู่หมั้นต้องมีอายุ 17 ปีบริบูรณ์ ถ้ำกำร
หมั้นกระทำโดยฝ่ำฝืน ผลคือ กำรหมั้นตกเป็นโมฆะ
2. ผู้เยาว์ทาการหมั้นจะต้องได้รับความยินยอมของบิดา
มารดาหรือผู้ปกครองด้วย ถ้ำกำรหมั้นที่ผู้เยำว์ทำโดย
ปรำศจำกควำมยินยอมดังกล่ำว กำรหมั้นนั้นตกเป็นโมฆียะ
การหมั้น
กำรหมั้นจะสมบูรณ์เมื่อฝ่ำยชำยได้ส่งหมอบหรือโอน
ทรัพย์สินอันเป็นของหมั้นให้แก่หญิง เพื่อเป็นหลักฐำนว่ำ
จะสมรสกับหญิงนั้น สัญญำหมั้นเป็นสัญญำพิเศษผิดกับ
สัญญำธรรมดำ หำกมีกำรหมั้นแต่ฝ่ำยชำยไม่มีของหมั้นให้
หญิงแล้ว แม้มีกำรผิดสัญญำหมั้นก็จะฟ้องเรียกค่ำทดแทน
ไม่ได้
แบบของการหมั้น
ต้องเข้าหลักเกณฑ์4 ประการ คือ
1.ต้องเป็นทรัพย์สิน
2.ต้องเป็นของที่ฝ่ำยชำยให้ไว้แก่หญิง
3.ต้องให้ไว้ในเวลำทำสัญญำและหญิงต้องได้รับไว้แล้ว
4.ต้องให้ไว้ก่อนสมรสเพรำะถ้ำให้หลังสมรสถือไม่
เป็นของหมั้น
ของหมั้น
เป็นทรัพย์สินที่ฝ่ำยชำยให้แก่บิดำมำรดำ ผู้รับ
บุตรบุญธรรม หรือผู้ปกครองฝ่ำยหญิง แล้วแต่
กรณี เพื่อตอบแทนกำรที่หญิงยอมสมรส
สินสอด
1. กรณีที่คู่หมั้นฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่งตำยก่อนสมรส
2. กรณีมีกำรบอกล้ำงสัญญำหมั้น
3. กรณีที่มีกำรสมรส
4. กำรสิ้นสุดโดยกำรบอกเลิกสัญญำ
5. กำรสิ้นสุดโดยควำมยินยอมของทั้งชำยและ
หญิง
การสิ้นสุดของการหมั้น
- 14. ครอบครัว(ต่อ)
เงื่อนไขการสมรส
1.กำรสมรสจะทำได้ในระหว่ำงชำยกับหญิงเท่ำนั้น และจะกระทำได้ก็ต่อเมื่อชำยและหญิงมีอำยุ17
ปีบริบูรณ์ แต่ในกรณีที่มีเหตุอันสมควร ศำลอนุญำตให้ทำกำรสมรสก่อนนั้นได้ (ม.1448)
2. หำกผู้เยำว์จะทำกำรสมรส ต้องได้รับควำมยินยอมเสียก่อน
3. ชำยหรือหญิงต้องไม่เป็นคนวิกลจริต
4. ชำยและหญิงต้องไม่เป็นพี่น้องพ่อแม่เดียวกัน
5.ผู้รับบุตรบุญธรรมและบุตรบุญธรรมจะสมรสกันไม่ได้ แต่ไม่ได้ถือว่ำเป็นโมฆะหรือโมฆียะ
จึงทำให้กำรสมรสที่ฝ่ำฝืนบทบัญญัติดังกล่ำวมีผลสมบูรณ์ทุกประกำร
6. ชำยหรือหญิงมิได้เป็นคู่สมรสของบุคคลอื่นอยู่ ฝ่ำฝืนเป็นโมฆะ
7.หญิงหม้ำยจะสมรสใหม่ได้ต่อเมื่อขำดจำกกำรสมรสเดิมแล้วไม่น้อยกว่ำ 310 วัน แต่มีข้อยกเว้น
8. ชำยและหญิงยินยอมสมรสกัน (ม. 1458) โดยเปิดเผยต่อหน้ำนำยทะเบียน และให้นำยทะเบียน
บันทึกควำมยินยอมนั้นไว้ด้วย
แบบแห่งการสมรส กำรสมรสจะมีได้เฉพำะเมื่อได้จดทะเบียนสมรสแล้วเท่ำนั้นตำมมำตรำ 1457
การสมรส
- 15. ครอบครัว(ต่อ)
1. สินส่วนตัว
1.1 ทรัพย์สินที่คู่สมรสฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่งมีอยู่ก่อนสมรส
1.2 ทรัพย์สินที่เป็นเครื่องใช้สอยส่วนตัว เครื่องแต่งกำยหรือเครื่องประดับกำย
1.3ทรัพย์สินที่ฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่งได้มำระหว่ำงสมรสโดยกำรรับมรดกหรือกำรให้โดยเสน่หำ
1.4ในกรณีที่สำมีหรือภริยำได้รับรำงวัลจำกกำรกระทำสิ่งใดหรือจำกกำรประกวดชิงรำงวัล
1.5 ทรัพย์ที่เป็นของหมั้น เป็นสินส่วนตัวของภริยำ
1.6 ของแทนสินส่วนตัว
1.7กำรจัดกำรสินส่วนตัวของคู่สมรสฝ่ำยใดให้ฝ่ำยนั้นเป็นผู้จัดกำร
2. สินสมรส ตำมมำตรำ 1474 มีอยู่ 3 ชนิดคือ
2.1 ทรัพย์สินที่คู่สมรสได้มำระหว่ำงสมรส
2.2 ถ้ำมีกำรระบุในกำรให้มรดกมีชื่อคู่สมรส
2.3 ทรัพย์สินที่เป็นดอกผลของสินส่วนตัว
ทรัพย์สินระหว่างสามีภริยา
- 16. 1. กำรสมรสสิ้นสุดลงด้วยควำมตำย ควำมตำยในที่นี้ หมำยควำม
ถึง ควำมตำยตำมธรรมชำติ ไม่ได้หมำยควำมถึงควำมตำยโดยผล
ของกฎหมำย หรือกำรสำบสูญซึ่งเป็นเพียงเหตุหย่ำตำม
2.กำรสมรสที่เป็นโมฆียะสิ้นสุดลงเมื่อศำลพิพำกษำให้เพิกถอน
การสิ้นสุดแห่งการสมรส
ครอบครัว(ต่อ)
1.กำรหย่ำโดยควำมยินยอมของทั้งสองฝ่ำย มีหลักดังนี้
1.1 ต้องทำเป็นหนังสือและมีพยำนลงลำยมือชื่ออย่ำงน้อย2 คน
1.2 กำรหย่ำโดยควำมยินยอมจะสมบูรณ์ต่อเมื่อได้จดทะเบียนกำรหย่ำ
2.กำรหย่ำโดยคำพิพำกษำของศำลโดยอำศัยเหตุฟ้องหย่ำ
การหย่า