SlideShare a Scribd company logo
1
โอเปร่า เรื่อง ขลุ่ยวิเศษ
ขลุ่ยวิเศษ(เยอรมัน:Die Zauberflöte,อังกฤษ:The
Magic Flute) เป็นอุปรากรสององค์ที่เขียนโดยโวล์ฟกัง
อะมาเดอุสโมซาร์ทผู้เป็นคีตกวีคนสาคัญของคริสต์ศตวรรษที่
18 ในปี ค.ศ.1791 จากเนื้อร้องที่เขียนโดยเอมานูเอล
ชิคาเนเดอร์“ขลุ่ยวิเศษ”เป็นอุปรากรแบบที่เรียกว่า
ละครผสมเพลง(Singspiel)
ซึ่งเป็นลักษณะที่นิยมกันที่มีทั้งบทร้องและบทพูด
ตัวละคร
ตัวละคร ชื่อภาษาอังกฤษ ระดับเสียง
ทามิโน Tamino เทเนอร์
พาพาเกโน Papageno บาริโทน
พามินา Pamina โซปราโน
2
ราชินีแห่งราตรี The Queenofthe Night โซปราโน
ซาราสโตร Sarastro เบส
สตรีสามคน โซปราโน 2
คน, เมซโซโซปราโน
โมโนสตาโตส Monostatos เทเนอร์
เด็กชายสามคน treble, อัลโต, เมซโซโซปราโ
น
ผู้ประกาศที่เทวสถาน Speakerofthe temple เบส-บาริโทน
นักบวชสามองค์ Three priests เทเนอร์, เบส2คน
พาพาเกนา Papagena โซปราโน
คนใส่เสื้อเกราะสองคน Twoarmoredmen เทเนอร์, เบส
ทาสสามคน เทเนอร์ 2คน, เบส
นักบวช, สตรี, ผู้คน, ทาส,
นักร้องประสานเสียง
3
เพลงที่ใช้ในการแสดง
 "Der Vogelfänger bin ich ja" (The birdcatcher am I) – Papageno in Act I, Scene I
 "O zittre nicht, mein lieber Sohn" (Oh, tremble not, my beloved son) – The Queen of the Night
in Act I, Scene I
 "Dies Bildnis ist bezaubernd schön" (This image is enchantingly beautiful) – Tamino in Act I,
Scene I
 "Wie stark ist nicht dein Zauberton" (How strong is thy magic tone) – Tamino in the Finale of
Act I
 "O Isis und Osiris" (O Isis and Osiris) – Sarastro in Act II, Scene I
 "Alles fühlt der Liebe Freuden" (All feel the joys of love) – Monostatos in Act II, Scene III
 "Der Hölle Rache kocht in meinem Herzen" (Hell's vengeance boileth in mine heart) – The
Queen of the Night in Act II, Scene III
 "In diesen heil'gen Hallen" (Within these sacred halls) – Sarastro in Act II, Scene III
 "Ach, ich fühl's, es ist verschwunden" (Ah, I feel it, it is vanished) – Pamina in Act II, Scene IV
 "Ein Mädchen oder Weibchen" (A girl or a woman) – Papageno in Act II, Scene V
4
เนื้อเรื่องย่อ
องก์ที่ 1
ฉากที่ 1
หลังจากดนตรีนาแล้ว
เนื้อเรื่องก็เริ่มขึ้นเมื่อทามิโนเจ้าชายหนุ่มผู้ถูกไล่ตามโดยพญางูจนหลงไปในดินแดนอันห่างไกล
(ควอเท็ท:"Zu Hilfe! ZuHilfe!") ล้มหมดสติลงด้วยความอ่อนล้า
สตรีสามคนที่เป็นนางสนองพระโอษฐ์ของราชินีแห่งราตรีจึงปรากฏตัวและช่วยสังหารพญางู
สตรีทั้งสามหลงรักรูปโฉมของทามิโนที่หมดสติอยู่
ต่างคนต่างก็หาทางให้อีกสองคนทิ้งไว้ให้ตนมีโอกาสอยู่ตามลาพังกับทามิโน
หลังจากที่ถกเถียงกันแล้วก็ตกลงกันว่าวิธีที่ดีที่สุดคือทิ้งทามิโนไปพร้อมกันทั้งสามคน
ทามิโนฟื้นตัวขึ้นมาพาพาเกโนก็เข้ามาในเครื่องแต่งกายที่คล้ายนก
และร้องบรรยายว่าตนเป็นคนจับนกและมีความคิดถึงภรรยาหรืออย่างน้อยก็เพื่อนสตรี (ร้องเดี่ยว:
"Der Vogelfänger bin ich ja")
พาพาเกโนบอกทามิโนว่าตนเองพาพาเกโนเป็นผู้ทาการสังหารพญางูด้วยมือเปล่า
ทันทีนั้นสตรีสามคนก็ปรากฏตัวขึ้นมาลงโทษพาพาเกโนโดยเอากุญแจล็อกปากพาพาเกโนไว้
แล้วสตรีทั้งสามก็บอกทามิโนว่าตนนั้นเป็นผู้รับผิดชอบในการช่วยชีวิตทามิโนและ
ให้ยื่นภาพของสตรีสาวพามินาให้ทามิโนดู ทามิโนก็ตกหลุมรักพามินาทันทีที่ได้เห็น(ร้องเดี่ยว:
"Dies Bildnis ist bezaubernd schön")
5
การปรากฏตัวของราชินีแห่งราตรี ฉากออกแบบโดยคาร์ลฟรีดริชชิงเคิล(ค.ศ.1781–ค.ศ.
1841) สาหรับการแสดงในปี ค.ศ. 1815
ราชินีแห่งราตรีที่มาปรากฏตัวก็บอกกับทามิโนว่าสาวสวยในภาพซึ่งมีชื่อว่า"พามินา"นั้น
คือพระธิดาของตนเองที่ถูกซาราสโตรผู้เป็นศัตรูลักตัวไป
ราชินีแห่งราตรีก็สั่งให้ทามิโนเดินทางไปยังเทวสถานเพื่อไปนาตัวพามินาคืนมา
และสัญญากับทามิโนว่าจะให้แต่งงานกับพามินาถ้าทาได้(ร้องพูดและร้องเดียว:"Ozittre nicht,
mein lieber Sohn") หลังจากที่ราชินีแห่งราตรีหายตัวไป
สตรีทั้งสามก็มอบขลุ่ยวิเศษที่สามารถทาให้คนเปลี่ยนใจได้ให้แก่ทามิโน
และไขกุญแจที่ปิดปากพาพาเกโนออกและมอบระฆังให้เพื่อให้พิทักษ์ตนเอง
พาพาเกโนก็ถูกสั่งให้ติดตามไปช่วยทามิโนเอาตัวพามินากลับมาทั้งสองคนจึงเริ่มเดินทาง
(ร้องประสานเสียงห้า: "Hm hm hm hm")
แล้วสตรีทั้งสามจึงแนะนาเด็กวิเศษสามคนให้ไปช่วยนาทางทามิโนและพาพาเกโนไปยังเทวสถาน
ฉากที่ 2:ท้องพระโรงในวังของซาราสโตร
พามินาถูกลากเข้าไปโดยโมโนสตาโตสผู้เป็นทาสชาวมัวร์ของซาราสโตร
(ร้องประสานเสียงสาม: "Du feines Täubchen, nun herein!")
พาพาเกโนผู้เดินทางไปทาการหาตัวพามินาล่วงหน้าก่อนเข้ามาในห้อง
ทั้งพาพาเกโนและโมโนสตาโตสต่างก็มีความหวาดกลัวรูปลักษณ์อันแปลกประหลาดของกันและกั
น ทั้งสองคนก็วิ่งหนีลงจากเวที
แต่ไม่นานพาพาเกโนก็กลับเข้ามาใหม่และบอกพามินาว่าราชินีแห่งราตรีได้ส่งทามิโนมาช่วยเหลือ
พามินาเต็มไปด้วยปิติยินดีเมื่อทราบว่าทามิโนหลงรักตนเอง
และแสดงความเห็นอกเห็นใจและให้ความหวังแก่พาพาเกโนผู้อยากจะมีสตรีเอาไว้รัก
6
ทั้งสองคนจึงร้องเพลงแสดงความรัก(ร้องประสานเสียงสอง:"Bei Männern welche Liebe fühlen")
จากนั้นทั้งสองคนก็แยกกัน
ฉากที่ 3:สวนและทางเข้าเทวสถาน
เด็กวิเศษสามคนก็นาทามิโนไปยังเทวสถานของซาราสโตร
และรับรองว่าถ้าทามิโนมีความตั้งมั่นแล้วก็จะสามารถนาตัวพามินาคืนมาได้
เมื่อไปถึงเทวสถานทามิโนก็ไม่ได้รับการอนุญาตให้เข้าที่ประตูแห่งธรรมชาติและเหตุผล
โดยเสียงที่ประกาศออกมาโดยไม่เห็นตัวเจ้าของเสียงร้องว่า"กลับไป!"
แต่เมื่อทามิโนพยายามเข้าทางประตูแห่งสติปัญญา
นักบวชสูงอายุก็ปรากฏตัวขึ้นและพยายามหว่านล้อมให้ทามิโนเชื่อว่าซาราสโตรเป็นผู้มีความเมตต
ากรุณาและไม่ได้เป็นคนชั่วร้ายอย่างที่เข้าใจกัน
และความเห็นของสตรีทั้งหลายนั้นไม่ควรจะเป็นสิ่งที่ทามิโนเอามาเชื่อถือ
เมื่อนักบวชออกไปแล้วทามิโนก็เป่าขลุ่ยวิเศษโดยหวังจะเรียกตัวพามินาและพาพาเกโน
แต่เสียงของขลุ่ยวิเศษกลับไปเรียกสัตว์วิเศษที่เชื่องมา
จากนั้นทามิโนก็ได้ยินเสียงดนตรีที่พาพาเกโนเป่าอยู่นอกเวทีเป็นการตอบเสียงขลุ่ยของทามิโน
พาพาเกโนรู้สึกดีใจที่จะได้พบพามินาและทามิโนจึงรีบวิ่งไป
พาพาเกโนปรากฏตัวกับพามินาตามเสียงขลุ่ยของทามิโนมาแต่ไกล
แต่ในทันทีทันใดทั้งสองคนก็ถูกจับตัวโดยโมโนสตาโตสและทาส
พาพาเกโนจึงพยายามหว่านมนต์ขลังต่อทาสโดยการสั่นกระดิ่ง
ทาสต้องมนต์ขลังของกระดิ่งต่างก็เต้นราไปตามจังหวะของกระดิ่งจนออกจากเวทีไป
7
พาพาเกโนได้ยินเสียงซาราสโตรกับผู้ติดตามเข้ามาใกล้ขึ้นทุกขณะ
พาพาเกโนมีความตกใจเป็นอันมากและถามพามินาว่าควรจะพูดอย่างไร
พามินาก็ตอบว่าจะต้องพูดความจริงซาราสโตรกับผู้ติดตามเข้ามาบนเวที
ด้วยความตกตลึงในความยิ่งใหญ่งดงามของซาราสโตร
พามินาจึงหมอบลงที่เท้าและสารภาพว่าตนเองกาลังพยายามที่จะหนี
เพราะโมโนสตาโตสพยายามบังคับให้ตนรัก ซาราสโตรก็รับรองพามินาเป็นอย่างดี
และบอกพามินาว่าตนจะไม่บังคับใจพามินา
แต่ก็ไม่อาจจะให้เสรีภาพหรือปล่อยให้กลับไปหามารดาได้ เพราะพามินาต้องมีชายเป็นผู้นา
โมโนสตาโตสเข้ามาพร้อมกับทามิโนที่เป็นนักโทษ
เมื่อพามินาและทามิโนพบหน้ากันเป็นครั้งแรก
ทั้งสองก็สวมกอดกันและกันซึ่งสร้างความขุ่นเคืองให้แก่ผู้ติดตามของซาราสโตร
โมโนสตาโตสพยายามกล่าวโทษทามิโน
แต่ซาราสโตรลงโทษโมโนสตาโตสเพราะความต้องการในตัวพามินาของซาราสโตร
และนาทามิโนและพาพาเกโนเข้าไปในเทวสถานแห่งการทดสอบ
องก์ที่ 2
ฉากที่ 4:ป่าต้นปาล์ม
สภานักบวชแห่งเทพไอสิสและโอซีริสนาโดยซาราสโตรเข้ามาในเทวสถาน
และเรียกร้องให้ทามิโนและพามินาแต่งงานกัน
และให้ทามิโนเป็นประมุขสืบต่อจากซาราสโตรถ้าผ่านการทดสอบ
ซาราสโตรอธิบายว่าราชินีแห่งราตรีพยายามที่จะหว่านล้อมผู้คนด้วยความเชื่องมงายและความกลัว
อันไม่มีเหตุผล แล้วซาราสโตรก็ร้องเพลงสวดมนต์แด่เทพไอสิสและโอซีริส
8
และขอให้เทพทั้งสองพระองค์พิทักษ์ทามิโนและพามินา
และให้นาไปยังสวรรคสถานถ้าทั้งสองคนเสียชีวิตระหว่างการทดสอบ("OIsis und Osiris")
ฉากที่ 5:ลานเทวสถานแห่งการทดสอบ
ทามิโนและพาพาเกโนถูกนาตัวไปยังเทวสถาน
นักบวชเตือนทามิโนว่าโอกาสนี้เป็นโอกาสสุดท้ายที่จะเปลี่ยนใจได้
แต่ทามิโนก็ยืนกรานสัญญาว่าจะยอมดาเนินการทดสอบต่างๆทุกอย่างเพื่อที่จะให้ได้พามินา
ตอนแรกพาพาเกโนก็ปฏิเสธไม่ยอมผ่านการทดสอบ
โดยกล่าวว่าตนเองไม่คานึงถึงคุณค่าของสติปัญญาและความรู้แจ้งเท่าใดนัก
สิ่งที่ต้องการเพียงอย่างเดียวคืออาหาร,เหล้าองุ่น และสตรี นักบวชบอกกับพาพาเกโน
ว่าซาราสโตรอาจจะมีสตรีไว้ให้ถ้ายอมทาการทดสอบและสตรีผู้นี้มีชื่อว่าพาพาเกนา
พาพาเกโนจึงยอมตกลงอย่างไม่ค่อยเต็มใจเท่าใดนัก
การทดสอบขั้นแรกระบุว่าทามิโนและพาพาเกโนต้องไม่พูดจาโต้ตอบใดๆ
ทั้งสิ้นเมื่อถูกยั่วยวนหรือขู่เข็ญโดยสตรี (ร้องประสานเสียงคู่, นักบวชสององค์)
สตรีสามคนมาปรากฏตัวและพยายามยั่วให้ทามิโนและพาพาเกโนพูด(ร้องประสานเสียงห้า:"Wie,
wie, wie") พาพาเกโนยับยั้งตนเองไม่ได้ แต่ทามิโนยังคงไม่ยอมพูด
และเมื่อพูดก็จะพูดกับพาพาเกโนเท่านั้นและถึงจะพูดก็เพียงแต่บอกให้พาพาเกโนหุบปาก
เมื่อเห็นว่าทามิโนไม่ยอมพูดกับตน สตรีสามคนก็จากไปด้วยความงงงวย
นักบวชแสดงความยินดีกับทามิโนที่ผ่านการทดสอบขั้นแรกสาเร็จ
นักบวชอีกองค์หนึ่งด่าว่าพาพาเกโนว่าอ่อนแอและกล่าวว่าจะไม่มีวันที่จะบรรลุถึงพระเจ้าได้
พาพาเกโนโต้ว่ามีคนในโลกมากมายที่เหมือนกับตนที่ไม่มีโอกาสที่จะบรรลุ แต่ก็เป็นผู้ที่มีความสุข
9
และถามว่าทาไมตนจึงต้องผ่านการทดสอบด้วยในเมื่อซาราสโตรก็มีสตรีเตรียมไว้ให้ตนอยู่แล้ว
นักบวชก็ตอบว่านี่เป็นวิธีเดียว
ฉากที่ 6:ในสวน, พามินาหลับ
โมโนสตาโตสเดินเข้ามาและจ้องมองพามินาด้วยความหลงใหล(ร้องเดี่ยว:"Alles fühlt der
Liebe Freuden")
และเกือบจะจูบใบหน้าที่กาลังหลับของพามินาเมื่อราชินีแห่งราตรีปรากฏตัวและทาให้โมโนสตาโต
สตระหนกจนหนีออกไป
ราชินีแห่งราตรีจึงปลุกพามินาและมอบกริชให้และสั่งให้พามินาใช้สังหารซาราสโตร(ร้องเดี่ยว:
"Der Hölle Rache kochtin meinem Herzen") หลังจากที่ราชินีออกไปแล้ว
โมโนสตาโตสก็กลับเข้ามาอีกและพยายามบังคับให้พามินารักตน
โดยขู่ว่าจะเปิดเผยแผนการฆาตกรรมแต่ซาราสโตรเข้ามาทันและไล่โมโนสตาโตสออกไป
ซาราสโตรยกโทษให้พามินาและทาการปลอบใจ(ร้องเดี่ยว:"In diesen heil'gen Hallen")
ฉากที่ 7:ห้องโถงในเทวสถานแห่งการทดสอบ
ทามิโนและพาพาเกโนต้องผ่านการทดสอบโดยการไม่พูดอีกครั้งหนึ่งแต่ครั้งนี้ยากกว่าเดิม
โดยพามินาเข้ามาและพยายามพูดกับทามิโนในเมื่อทามิโนไม่ยอมโต้ตอบ
พามินาก็เชื่อว่าทามิโนไม่รักตนต่อไปอีกแล้ว(ร้องเดี่ยว:"Ach, ich fühl's, es ist verschwunden")
พามินาจึงออกจากห้องด้วยความระทมทุกข์
ฉากที่ 8:พีระมิด
นักบวชแสดงความยินดีกับทามิโนที่ผ่านการทดสอบ
และทานายว่าจะประสบความสาเร็จและควรค่าต่อคาสั่งของตน(ประสานเสียง:"O Isis und
Osiris") ซาราสโตรแยกพามินาและทามิโน(ร้องประสานเสียงสาม: ซาราสโตร, พามินา, ทามิโน –
10
"Soll ich dich, Teurer, nichtmehr sehn?") ตัวละครออกจากฉากพาพาเกโนเข้ามา
พาพาเกโนเล่นระฆังวิเศษและร้องเพลงเกี่ยวกับสตรีที่ตนต้องการเล่น(ร้องเดี่ยว,พาพาเกโน:"Ein
Mädchen oder Weibchen") สตรีชราปรากฏตัวต่อหน้าพาพาเกโน
และเรียกร้องให้พาพาเกโนสัญญาว่าจะหมั้นกับตน
และเตือนว่าถ้าไม่ทาก็จะเป็นโสดไปจนตลอดชีวิต
ด้วยความไม่ค่อยเต็มใจพาพาเกโนก็ยอมสัญญาว่าจะรักภักดีสตรีชรา
สตรีชราจึงกลายเป็นสตรีสาวผู้มีความงดงาม--พาพาเกนาแต่เมื่อพาพาเกโนพยายามวิ่งเข้าไปกอด
นักบวชก็ขับไล่พาพาเกนาด้วยฟ้าร้องฟ้าผ่า
ฉากที่ 9:ลาน
ทามิโนและพามินาพยายามผ่านการทดสอบขั้นสุดท้าย,Max Slevogt (ค.ศ. 1868–ค.ศ.
1932)
เมื่อเด็กวิเศษสามคนเห็นพามินาพยายามฆ่าตัวตายเพราะเชื่อว่าทามิโนทิ้งตนเด็กก็ดึงรั้ง
และยึดกริชจากมือของพามินา
และรับรองกับพามินาว่าจะได้พบกับทามิโนภายในเวลาอันไม่นานนัก(ร้องประสานเสียงสี่: "Bald
prangt, den Morgen zu verkünden").
ฉากที่ 10:ห้องโถงหรือห้องที่มีประตูสองประตู:ประตูหนึ่งนาไปยังห้องทดสอบด้วยน้าและ
อีกห้องหนึ่งเป็นถ้าไฟ
11
ชายใส่เสื้อเกราะสองคนนาตัวทามิโนขึ้นมาบนเวที
ทามิโนประกาศว่าตนพร้อมแล้วที่เข้าสู่การทดสอบแต่พามินาร้องเรียกมาแต่ไกลให้คอยตนด้วย
ชายใส่เสื้อเกราะยืนยันกับทามิโนว่าการทดสอบโดยการเงียบนั้นเรียบร้อยไปแล้ว
และทามิโนสามารถพูดกับพามินาได้
พามินาก็เข้ามาและร้องเพลงประกาศความรักต่อกันกับทามิโน("Taminomein, o welch ein
Glück!") จากนั้นทั้งสองคนก็เข้าสู่การทดสอบด้วยกัน
และสามารถผ่านทั้งห้องทดสอบด้วยน้าและห้องทดสอบด้วยไฟได้โดยใช้ขลุ่ยวิเศษช่วย
พาพาเกโนหมดหวังในการได้พาพาเกนาพยายามแขวนคอตนเอง(ร้องเดี่ยว/ประสานเสียงสี่:
"Papagena! Papagena! Papagena!")
แต่ในนาทีสุดท้ายเด็กวิเศษก็เข้ามาปรากฏตัวและแนะว่าพาพาเกโนควรจะใช้กระดิ่งวิเศษเรียกตัวพา
พาเกนาพาพาเกนากลับเข้ามาทั้งสองคนต่างก็ปิติยินดีที่ได้เห็นกันจนพูดเหมือนคนติดอ่าง("pa…
pa … pa") ด้วยความงงงวย(ร้องประสานเสียงสอง:"Papageno! Papagena!").[7]
โมโนสตาโตสผู้ทรยศปรากฏตัวต่อหน้าราชินีแห่งราตรีและข้าราชบริพาร
วางแผนที่จะทาลายเทวสถาน("Nurstille, stille")
แต่ก็ถูกสาปแช่งให้เข้าไปในราตรีกาลอันไม่มีที่สิ้นสุด
ฉากเปลี่ยนไปเป็นทางเข้าเทวสถานเอกที่ซาราสโตรกล่าวต้อนรับทามิโนและพามินา
เพลงสุดท้ายเป็นเพลงสรรเสริญทามิโนและพามินาที่อดทนและมีความพยายามในการผ่านการทดส
อบ และแสดงความขอบคุณพระเจ้า
12
ลักษณะเด่น
เนื้อหาซ้อนในเนื้อหาผิว การต่อสู้ระหว่างแสงสว่างกับความมืด(ของราตรีกาล)
เหมือนความคาดหวังในสิ่งดีๆกับการหลอกลวง
ส่วนความรักที่ตัวละครได้สัมผัสเป็นสัญลักษณ์ของความดี ที่มีชัยในที่สุด
การเลือกใช้ขลุ่ยอย่างเฉพาะเจาะจงในเรื่องก็เพราะขลุ่ยเป็นสัญลักษณ์ของลม Pamina
ได้บอกแก่Tamino ว่า ขลุ่ยนี้พ่อเธอเป็นคนประดิษฐ์ทาขึ้นในสายฝนที่ตกกระหน่า(สัญลักษณ์น้า)
ท่ามกลางเสียงฟ้าผ่า(สัญลักษณ์ของดิน)และสายฟ้าแลบ(สัญลักษณ์ของไฟ)
มนต์ขลังของขลุ่ยอยู่ที่ขลุ่ยอันนั้นรวมอานุภาพของธาตุสี่เข้าไว้ในตัวมัน
ส่วนขลุ่ยห้าเสียงของแพนที่ Papageno แขวนไว้ติดคอเน้นความจากัดของการแสดงออก
เหมือนชีวิตในวงจากัดของพรานนกผู้ไม่สนใจสิ่งอื่นใดนอกจากการเสพกามสุข
การจัดอันดับตัวละครเด่นๆเป็นไปเพื่อเสริมและตอบรับกับตัวละครอื่นดังนี้
ดวงอาทิตย์กับดวงจันทร์ Sarastroเป็นสัญลักษณ์ถาวรของคนของความดี เป็นผู้ไม่มีกิเลสตัณหา
เขาเป็นผู้เฝ้าอาณาจักรของจิตวิญญาณผู้เก็บรักษาความลับ(ของศาสตร์และศิลป์ต่างๆ)
ที่เขาคนเดียวเป็นผู้ตัดสินว่าควรจะถ่ายทอดให้ใครคนไหน ทาหน้าที่เป็นหัวหน้านักบวช
สืบต่อจากบิดาของ Pamina ผู้ล่วงลับไปผู้เคยเป็นเจ้าผู้ใหญ่ในอาณาจักรนี้
13
ดวงอาทิตย์เป็นสัญลักษณ์ของเขา ศาสดาพยากรณ์ Zoroaster เป็นต้นแบบของตัวละครที่ชื่อ
Sarastro
ส่วนราชินีแห่งรัตติกาลเป็นภาพลักษณ์ของการดื้อรั้นแข็งขืนของมวลสตรี
ของจุดอ่อนต่างๆของคนเช่นความอิจฉาความหยิ่งผยองหรือความเคียดแค้น
ดังประโยคหนึ่งในบทร้องของนางตอนหนึ่งที่ว่า
“ความแค้นทั้งมวลในนรกเดือดปุดๆอยู่ในกระแสเลือดของข้า”เสียงร้องของเธอ(แบบ coloratura)
ก้องกังวานอย่างมีสีสันและลวดลายชวนให้คนฟังเคลิ้มตามและหลงเชื่อ โมสาร์ทเน้นให้เห็นว่า
ความอ่อนแอของคนมักมีตัวช่วยหลากหลายที่นาไปสู่การลงมือกระทาการ(ไม่ดี)อย่างรั้งไม่อยู่
ถึงกระนั้นการที่ราชินีแห่งรัตติกาลยอมมอบขลุ่ยวิเศษให้Tamino
สื่อการเป็นทวิภาคของความชั่วกับความดี อาณาจักรรัตติกาลของนางแท้จริงมิได้เป็นคู่ปรปักษ์
แต่เป็นส่วนเสริมที่ขาดไม่ได้ของอาณาจักรแห่งแสงสว่าง ชื่อของราชินีก็บอกให้เดาได้ว่า
ดวงจันทร์เป็นสัญลักษณ์ของนาง เช่นเดียวกันนางกานัลสามคนของราชินีแห่งรัตติกาล
ที่ให้ความรู้สึกว่าโหลงเหลงไร้แก่นสาร
แต่ในที่สุดทั้งสามมีปฏิกิริยาตอบโต้ต่อสถานการณ์ตามเหตุตามผลไม่น้อยเลย
ไฟกับน้า Tamino ต้องหาผู้มาเป็นคู่ที่จักเป็นคู่ที่สมบูรณ์ที่สุด
ด้วยความรักเขาจะสามารถผ่านบทพิสูจน์คุณค่าของตนเองได้ เขาเป็นสัญลักษณ์ของไฟ
และเป็นผู้เล่นขลุ่ยวิเศษที่เป็นสัญลักษณ์ของลม ส่วน Pamina เป็นผู้มาเสริม Tamino ให้ครบเต็ม
ในฐานะที่เป็นตัวกลจักรที่นาไปสู่การเข้ามีส่วนร่วมในกระบวนการพิสูจน์ตัวเอง
ก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้เข้าเป็นสมาชิกในวิหาร(ซึ่งหมายถึงสมาคมอันสูงส่งเฉกเช่น
Freemasonry) เท่ากับว่านางได้ย้ายจากโลกของความมืด(ในฐานะลูกสาวของราชินีแห่งรัตติกาล
และโลกของ“การไม่รู้หรือเบาปัญญา”)จากโลกที่มืดมนมาสู่โลกของแสงสว่างสู่โลกของ Sarastro
โดยอาศัยความรักและการมีส่วนเข้าร่วมในบทพิสูจน์เคียงข้าง Tamino นางเป็นสัญลักษณ์ของน้า
14
เสียงเท็นเนอร์(tenor) ของTamino กับเสียงโซปราโน่ของ Pamina ต้องเลือกอย่างเหมาะสม
ต้องให้ทั้งใสและสว่างสมมาตรกับความคิดและอุดมการณ์ของตัวละครทั้งคู่
ลมกับดิน Papageno เป็นรูปแบบของสามัญชนที่มีความตั้งใจดีอยู่แต่ขาดความกล้า(เสี่ยง)
และขาดสติปัญญาคือไม่มีอุดมการณ์ที่อยู่เหนือชีวิตตามแนววัตถุนิยม
ซึ่งตรงกับชีวิตส่วนใหญ่ของสามัญชนในโลกนี้และของผู้ชมโดยทั่วไป
จึงเป็นเหมือนตัวแทนของทั้งความจริงใจกับการพูดปดถึงกระนั้นก็ยังป็นผู้มีมโนสานึกที่ดี
ที่ถามตนเองว่าอะไรคือปัญหาที่แท้จริงของคนคณะนักบวชเห็นว่าเขายังไม่ดีพอ
ยังไม่คู่ควรที่จะได้เป็นสมาชิกของวิหาร เดิมทีเป็นพรานนกจับนกให้ราชินีแห่งรัตติกาล
แต่เมื่อถูกสั่งให้เดินทางไปกับTamino
เท่ากับได้รับโอกาสให้เขาก้าวข้ามจากแดนแห่งรัตติกาลสู่แดนแห่งทิวากาล
บทบาทของเขาในเรื่องมีความสาคัญไม่น้อยที่ทาให้ Tamino
ยิ่งตระหนักชัดเจนถึงการต้องเอาชนะข้อพิสูจน์ต่างๆให้ได้ Papagenoเป็นสัญลักษณ์ของลมชื่อ
Papageno และPapagenaมาจากคาเยอรมัน Papagei ที่แปลว่านกแก้ว(parrot ในภาษาอังกฤษและ
perroquet ในภาษาฝรั่งเศส) และนี่อธิบายว่าทาไมสองคนนี้จึงสวมชุดที่มีขนนกสีๆประดับ
(บางทีเพื่อความสะดวก Papageno
สวมหมวกที่มีนกแก้วประดับเพื่อสื่อความหมายของชื่อและอาชีพของเขา)
ส่วน Monostatos แขกมัวร์ผู้เป็นชายคนเดียวในอาณาจักรรัตติกาล
(หลังจากที่ทรยศและหันไปเข้าฝ่ายราชินีแห่งรัตติกาล) เขาจึงมีเส้นทางเดินที่สวนกับ Papageno
ผิวคล้าของแขกมัวร์เน้นความหมายตามขนบในสมัยนั้นว่าแขกมัวร์ทาหน้าที่เป็นยามเฝ้าพวกทาส(ซึ่
งเป็นพวกผิวสีคล้า) ความคล้าของผิวยังโยงไปถึงความดาของดิน เขาจึงเป็นสัญลักษณ์ของดิน
จินี เด็กชายสามคนเป็นดั่งเสาหลักของปัญญาผู้รู้จักสร้างสรรค์ของอานาจผู้ปฏิบัติการ
และของความงามที่ประดับโลก
15
ทั้งยังเป็นผู้ไต่สวนที่คอยสังเกตหรืออ่านจิตใจของผู้ที่อยากเข้าเป็นสมาชิกของวิหารแห่งแสงสว่าง
บทบาทของจินีหยุดอยู่แค่ธรณีประตูของวิหาร เสียงใสบริสุทธิ์ของเด็กชายทั้งสามนาทาง Tamino
พาเขาไปบนเส้นทางที่เต็มไปด้วยอุปสรรคและอันตราย และเตือนให้ Tamino
เข้มแข็งและยึดมั่นในความตั้งใจที่น่าสรรเสริญ
นักบวชสองคนในชุดนักรบที่มาปรากฏสองข้างTaminoนั้น เป็นผู้อาวุโสของวิหาร
ทาหน้าที่ดูแลและปกป้ องความลับต่างๆของวิหาร ส่วนคณะนักบวชที่ปรากฏตัวเป็นหมู่บนเวที
สื่อความเป็นหนึ่งเดียวในอุดมการณ์ของสมาคมฯ
เช่นนี้สมาคมฯจึงเป็นภาพลักษณ์ของความยุติธรรมและความสมดุลสมบูรณ์ที่ที่มีเสรีภาพ
ความเสมอภาคและภราดรภาพ
เมื่อพินิจพิเคราะห์ตามประเด็นดังกล่าวมาข้างต้นเป็นตัวอย่างจะเห็นว่า
การดาเนินเรื่องไม่ง่ายดั่งละครตลกหรือละครตานานทั่วไป
แต่มีทั้งการใช้กระบวนการเล่าตามขนบคลาซสิกและกระบวนการพิเศษอื่นๆที่เพิ่มเข้าไป เช่น
งูยักษ์ที่ปรากฏตัวตั้งแต่เริ่มต้นเรื่องสื่อความกลัวที่ซ่อนอยู่ในส่วนลึกของใจคน Tamino
เห็นงูยักษ์แล้วสลบไป ร่างที่ไร้สติสัมปปชัญญะคือภาพของการตายของคนไร้อุดมการณ์ล้าลึก
ก่อนที่ฟื้นเข้าสู่ชีวิตของจิตวิญญาณ งูที่ตายไปก็บอกเล่าการตายของสิ่งยั่วยวนสารพัดในชีวิตคน
และเพราะมี“การตาย”จึงทาให้ Tamino ได้ “เกิดใหม่”มองเห็นเส้นทางสู่วิหาร
และมุ่งหน้าไปที่นั่น
เป็นการเดินทางเพื่อค้นหาตัวตนและชาระล้างตนก่อนจะได้รับเข้าสู่วิหารสู่แสงสว่าง
กรณีที่ราชินีแห่งรัตติกาลผู้เป็นภาพลักษณ์ของอานาจ
กลับไปขอความช่วยเหลือจากคนที่ไม่มีแม้อาวุธใดๆติดตัว
และนางเองเป็นผู้ให้เครื่องมือที่นาเจ้าชายสู่ความสาเร็จ(คือการเป็นคนรู้คิดรู้ผิดชอบชั่วดี)
16
และต่อมาเป็นผู้สยบนาง เท่ากับว่าเจ้าชายได้หลุดจากสภาพของผู้รับใช้(ราชินีฯ)
มาเป็นคนอิสระที่ต่อสู้เพื่อให้ตัวตนแท้ๆของเขาเองเป็นที่ยอมรับ
ประเด็นของ Tamino กับPamina หญิงคนรักที่ผ่านพ้นอุปสรรค
เอาชนะบททดสอบของเหล่านักบวชเท่ากับได้เรียนรู้ที่จะควบคุมตนเอง(เช่น
การข่มความรู้สึกภายในเป็นต้น)เช่นนี้จึงทาให้ทั้งสองสามารถเอาชนะโลกความรักเกียรติยศฯลฯ
ในขณะที่ชายหญิงอีกคู่หนึ่ง(Papageno&Papagena)ไม่เป็นเช่นนั้น จึงสอบตกบทพิสูจน์
ประเด็นที่ปราชญ์Sarastro สอน Tamino ให้มุ่งใฝ่หาแสงสว่างและปัญญา
จนในที่สุดสามารถทาให้โลกกลับคืนสู่ดุลยภาพดังเดิมดังในยุคที่พ่อของ Pamina
(สามีของราชินีแห่งรัตติกาล)ครองโลกอยู่ก่อนที่จะถ่ายทอดอานาจไปให้แก่Sarastro
ราชินีแห่งรัตติกาลจึงแค้นใจนักที่โลกมิได้อยู่ในอานาจของนางคนเดียวดังที่นางหวังไว้
ตั้งแต่ต้นเรื่องทุกอย่างสับสนอลหม่าน การดิ้นรนต่อสู้ระหว่างราชินีแห่งรัตติกาลกับ
Sarastro และเมื่อTamino กับPamina ได้เข้าร่วมบทพิสูจน์พร้อมกันนั้น
พลังและความเป็นผู้ดีของหนุ่มสาวช่วยกัน
ทาให้สามารถเอาชนะอุปสรรคและผ่านบททดสอบได้สาเร็จ
ความงามและปัญญาจึงโดดเด่นเป็นความงามความดีที่ไม่มีวันสูญสลาย
โลกกลับเป็นอาณาจักรดุจสวรรค์เป็นปึกแผ่นและสรรพชีวิตมีสง่าราศีดั่งเทพเจ้าบนฟ้า
โมสาร์ทเป็น Freemason คนหนึ่งSchikaneder ก็เคยเป็นสมาชิกผู้หนึ่ง
ทั้งสองได้นาธรรมเนียมการรับสมาชิกใหม่เข้ากลุ่มFreemasonry มาใช้ในเรื่อง The Magic Flute
คือการทดสอบและพิสูจน์ตนของ Tamino และPamina ก่อนจะได้รับอนุญาตให้เข้าไปในวิหารของ
Sarastro คาสั่งให้เก็บวาจาก็เป็นข้อบังคับภายในสมาคมFreemasonry
ว่าเขาต้องไม่พูดไม่เอ่ยปากบอกใครสิ่งที่ได้เห็น
17
ได้ยินจากการประชุมการชุมนุมของเหล่าสมาชิกของสมาคมฯ ส่วนการปิดตาให้มองอะไรไม่เห็น
เน้นความไม่รู้ประสีประสา และเมื่อผ้าผูกตาถูกถอดออกไปแล้ว TanimoและPamina
ได้เห็นแสงสว่าง พร้อมๆกับความปลื้มปิติที่เขาเริ่มเข้าใจความจริงค้นพบสภาพแวดล้อม
ค้นพบตนเองและค้นพบความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับสภาพแวดล้อมใหม่นั้น
ทั้งสองเข้าใจและเข้าถึงความหมายของอุดมการณ์อันล้าลึกของวิหาร(นั่นคือการเข้าใจสมาคม
Freemasonry)
นักดุริยางค์ศาสตร์ชาวฝรั่งเศสอีกผู้หนึ่งชื่อJacques Chailley
ได้วิเคราะห์หาข้อเปรียบเทียบที่เขาโยงไปถึงสมาคมFreemasonry
ได้อีกมากจากตัวดนตรีแท้ๆที่โมสาร์ทประพันธ์ขึ้นเช่นจังหวะการเว้นจังหวะ
การย้อนกลับไปใช้กลุ่มโน้ตกลุ่มหนึ่งซ้าเว้นแล้วซ้าอีกสามครั้ง
หรือการเลือกคีย์ดนตรีเสียงใดเป็นหลักในดนตรีตอนหนึ่ง
ทาให้นักดุริยางค์ศาสตร์สามารถแกะความตั้งใจในการประพันธ์ของโมสาร์ทได้ว่า
ต้องการสื่อความเข้มข้นของอารม์ใดเป็นสาคัญในช่วงนั้นเป็นต้นนั่นคือเหนือสิ่งอื่นใด
เหนือเนื้อหาธรรมดาๆของเทพนิยาย คือคุณภาพของดนตรีของโมสาร์ท
เขาโยงไปถึงเทพสามองค์อันมีOsiris (เทพเจ้าอีจิปต์มีกายสีเขียวสัญลักษณ์ของการเกิดใหม่
ของชีวิตที่ไม่สิ้นสุดเป็นกษัตริย์และตุลาการของผู้ตาย),Isis (เทพสตรีในระบบศาสนาของอีจิปต์
มีเขาวัวและจานกลมของดวงอาทิตย์เป็นสัญลักษณ์ประดับบนศีรษะเป็นเทพแห่งมนต์ขลัง
แห่งสติปัญญาเป็นผู้ให้ชีวิตผู้เยียวยารักษาและผู้ชานาญในทุกสิ่ง)และ Horus (เทพเจ้าอีจิปต์
ศีรษะเป็นเหยี่ยว เป็นสุริยะเทพ)
เทพเจ้าทั้งสามเป็นผู้ผดุงค้าจุนความสมดุลและความเป็นปึกแผ่นของโลก
อ้างอิง
https://th.wikipedia.org/wiki/อุปรากร
18
https://th.wikipedia.org/wiki/ขลุยวิเศษ

More Related Content

What's hot

หน่วยย่อยที่ 2 กลุ่มดาว
หน่วยย่อยที่ 2 กลุ่มดาวหน่วยย่อยที่ 2 กลุ่มดาว
หน่วยย่อยที่ 2 กลุ่มดาวkrupornpana55
 
เอกสารประกอบการเรียน วิชานาฏศิลป์ การประดิษฐ์ท่ารำ รำคุ่ รำหมู่
เอกสารประกอบการเรียน  วิชานาฏศิลป์  การประดิษฐ์ท่ารำ  รำคุ่  รำหมู่เอกสารประกอบการเรียน  วิชานาฏศิลป์  การประดิษฐ์ท่ารำ  รำคุ่  รำหมู่
เอกสารประกอบการเรียน วิชานาฏศิลป์ การประดิษฐ์ท่ารำ รำคุ่ รำหมู่
Panomporn Chinchana
 
M1 unit 1
M1 unit 1M1 unit 1
M1 unit 1
ssuserfd8941
 
Microsoft power point presentation ใหม่
Microsoft power point presentation ใหม่Microsoft power point presentation ใหม่
Microsoft power point presentation ใหม่
อาจารย์ โจ้
 
ฟิสิกส์ 5 ไฟฟ้าสถิตย์ ตอนที่ 1
ฟิสิกส์ 5 ไฟฟ้าสถิตย์ ตอนที่ 1ฟิสิกส์ 5 ไฟฟ้าสถิตย์ ตอนที่ 1
ฟิสิกส์ 5 ไฟฟ้าสถิตย์ ตอนที่ 1
Wijitta DevilTeacher
 
หน่วยย่อยที่ 5 โมเมนต์
หน่วยย่อยที่ 5  โมเมนต์หน่วยย่อยที่ 5  โมเมนต์
หน่วยย่อยที่ 5 โมเมนต์krupornpana55
 
วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
วันสำคัญทางพระพุทธศาสนาวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
Bongkot Inprom
 
คลื่นกล
คลื่นกลคลื่นกล
คลื่นกล
benjamars nutprasat
 
การจำแนกสารเนื้อผสม
การจำแนกสารเนื้อผสมการจำแนกสารเนื้อผสม
การจำแนกสารเนื้อผสมwebsite22556
 
เฉลยข้อสอบเรื่องแผนที่ม.1
เฉลยข้อสอบเรื่องแผนที่ม.1เฉลยข้อสอบเรื่องแผนที่ม.1
เฉลยข้อสอบเรื่องแผนที่ม.1Onlyu Pandpat
 
หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมpanupong
 
Is 2 เรื่องร้านค้าสหกรณ์
Is 2 เรื่องร้านค้าสหกรณ์Is 2 เรื่องร้านค้าสหกรณ์
Is 2 เรื่องร้านค้าสหกรณ์Ocean'Funny Haha
 
โครงการสอนระยะยาว วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ม.4
โครงการสอนระยะยาว วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ม.4โครงการสอนระยะยาว วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ม.4
โครงการสอนระยะยาว วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ม.4Nattapon
 
แบบประเมินการนำเสนอผลงาน
แบบประเมินการนำเสนอผลงานแบบประเมินการนำเสนอผลงาน
แบบประเมินการนำเสนอผลงาน
Khemjira_P
 
แบบฝึกหัดการการเขียนบรรณานุกรม
แบบฝึกหัดการการเขียนบรรณานุกรมแบบฝึกหัดการการเขียนบรรณานุกรม
แบบฝึกหัดการการเขียนบรรณานุกรม
Supaporn Khiewwan
 
สมบัติของคลื่น
สมบัติของคลื่นสมบัติของคลื่น
สมบัติของคลื่น
อะลิ้ตเติ้ล นก
 
อิทธิผลของดวงอาทิตย์ที่มีผลต่อโลก
อิทธิผลของดวงอาทิตย์ที่มีผลต่อโลกอิทธิผลของดวงอาทิตย์ที่มีผลต่อโลก
อิทธิผลของดวงอาทิตย์ที่มีผลต่อโลกwattumplavittayacom
 

What's hot (20)

Pptติวonetม3
Pptติวonetม3Pptติวonetม3
Pptติวonetม3
 
หน่วยย่อยที่ 2 กลุ่มดาว
หน่วยย่อยที่ 2 กลุ่มดาวหน่วยย่อยที่ 2 กลุ่มดาว
หน่วยย่อยที่ 2 กลุ่มดาว
 
เอกสารประกอบการเรียน วิชานาฏศิลป์ การประดิษฐ์ท่ารำ รำคุ่ รำหมู่
เอกสารประกอบการเรียน  วิชานาฏศิลป์  การประดิษฐ์ท่ารำ  รำคุ่  รำหมู่เอกสารประกอบการเรียน  วิชานาฏศิลป์  การประดิษฐ์ท่ารำ  รำคุ่  รำหมู่
เอกสารประกอบการเรียน วิชานาฏศิลป์ การประดิษฐ์ท่ารำ รำคุ่ รำหมู่
 
M1 unit 1
M1 unit 1M1 unit 1
M1 unit 1
 
เครื่องดนตรีไทย ม.2ปี 56
เครื่องดนตรีไทย ม.2ปี 56เครื่องดนตรีไทย ม.2ปี 56
เครื่องดนตรีไทย ม.2ปี 56
 
การเมืองการปกครองของไทย
การเมืองการปกครองของไทยการเมืองการปกครองของไทย
การเมืองการปกครองของไทย
 
Microsoft power point presentation ใหม่
Microsoft power point presentation ใหม่Microsoft power point presentation ใหม่
Microsoft power point presentation ใหม่
 
ฟิสิกส์ 5 ไฟฟ้าสถิตย์ ตอนที่ 1
ฟิสิกส์ 5 ไฟฟ้าสถิตย์ ตอนที่ 1ฟิสิกส์ 5 ไฟฟ้าสถิตย์ ตอนที่ 1
ฟิสิกส์ 5 ไฟฟ้าสถิตย์ ตอนที่ 1
 
หน่วยย่อยที่ 5 โมเมนต์
หน่วยย่อยที่ 5  โมเมนต์หน่วยย่อยที่ 5  โมเมนต์
หน่วยย่อยที่ 5 โมเมนต์
 
วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
วันสำคัญทางพระพุทธศาสนาวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
 
คลื่นกล
คลื่นกลคลื่นกล
คลื่นกล
 
การจำแนกสารเนื้อผสม
การจำแนกสารเนื้อผสมการจำแนกสารเนื้อผสม
การจำแนกสารเนื้อผสม
 
เฉลยข้อสอบเรื่องแผนที่ม.1
เฉลยข้อสอบเรื่องแผนที่ม.1เฉลยข้อสอบเรื่องแผนที่ม.1
เฉลยข้อสอบเรื่องแผนที่ม.1
 
หลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโมหลักการของไดนาโม
หลักการของไดนาโม
 
Is 2 เรื่องร้านค้าสหกรณ์
Is 2 เรื่องร้านค้าสหกรณ์Is 2 เรื่องร้านค้าสหกรณ์
Is 2 เรื่องร้านค้าสหกรณ์
 
โครงการสอนระยะยาว วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ม.4
โครงการสอนระยะยาว วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ม.4โครงการสอนระยะยาว วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ม.4
โครงการสอนระยะยาว วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ม.4
 
แบบประเมินการนำเสนอผลงาน
แบบประเมินการนำเสนอผลงานแบบประเมินการนำเสนอผลงาน
แบบประเมินการนำเสนอผลงาน
 
แบบฝึกหัดการการเขียนบรรณานุกรม
แบบฝึกหัดการการเขียนบรรณานุกรมแบบฝึกหัดการการเขียนบรรณานุกรม
แบบฝึกหัดการการเขียนบรรณานุกรม
 
สมบัติของคลื่น
สมบัติของคลื่นสมบัติของคลื่น
สมบัติของคลื่น
 
อิทธิผลของดวงอาทิตย์ที่มีผลต่อโลก
อิทธิผลของดวงอาทิตย์ที่มีผลต่อโลกอิทธิผลของดวงอาทิตย์ที่มีผลต่อโลก
อิทธิผลของดวงอาทิตย์ที่มีผลต่อโลก
 

More from native

โปรแกรมเมอร์
โปรแกรมเมอร์โปรแกรมเมอร์
โปรแกรมเมอร์
native
 
แผ่นพับ โรคกระเพาะ
แผ่นพับ โรคกระเพาะแผ่นพับ โรคกระเพาะ
แผ่นพับ โรคกระเพาะ
native
 
แผ่นพับ โรคมือเท้าปาก
แผ่นพับ โรคมือเท้าปากแผ่นพับ โรคมือเท้าปาก
แผ่นพับ โรคมือเท้าปาก
native
 
แผ่นพับ โรคไข้หวัด
แผ่นพับ โรคไข้หวัดแผ่นพับ โรคไข้หวัด
แผ่นพับ โรคไข้หวัด
native
 
แผ่นพับ โรคตาแดง
แผ่นพับ โรคตาแดงแผ่นพับ โรคตาแดง
แผ่นพับ โรคตาแดง
native
 
โอโซน
โอโซนโอโซน
โอโซน
native
 
พุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์
พุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์พุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์
พุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์
native
 
คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่มีการใช้มากที่สุด
คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่มีการใช้มากที่สุดคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่มีการใช้มากที่สุด
คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่มีการใช้มากที่สุด
native
 
ใบความรู้ เรื่องพระพุทธศาสนาเน้นการพัฒนาศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง
ใบความรู้ เรื่องพระพุทธศาสนาเน้นการพัฒนาศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้องใบความรู้ เรื่องพระพุทธศาสนาเน้นการพัฒนาศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง
ใบความรู้ เรื่องพระพุทธศาสนาเน้นการพัฒนาศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง
native
 
บันทึกเหตุการณ์(วิชา ลิขิตภาษา)
บันทึกเหตุการณ์(วิชา ลิขิตภาษา)บันทึกเหตุการณ์(วิชา ลิขิตภาษา)
บันทึกเหตุการณ์(วิชา ลิขิตภาษา)
native
 
ภาวะโลกร้อน
ภาวะโลกร้อนภาวะโลกร้อน
ภาวะโลกร้อน
native
 
ไวรัสกับไวรอยด์แตกต่างกันอย่างไร
ไวรัสกับไวรอยด์แตกต่างกันอย่างไรไวรัสกับไวรอยด์แตกต่างกันอย่างไร
ไวรัสกับไวรอยด์แตกต่างกันอย่างไร
native
 
มงคลชีวิต
มงคลชีวิตมงคลชีวิต
มงคลชีวิต
native
 
กลุ่มดาว88กลุ่ม
กลุ่มดาว88กลุ่มกลุ่มดาว88กลุ่ม
กลุ่มดาว88กลุ่ม
native
 
โทมัส_เอดิสัน
โทมัส_เอดิสันโทมัส_เอดิสัน
โทมัส_เอดิสัน
native
 
ระบบสุริยะ
ระบบสุริยะระบบสุริยะ
ระบบสุริยะnative
 
ดวงอาทิตย์ The sun
ดวงอาทิตย์  The sunดวงอาทิตย์  The sun
ดวงอาทิตย์ The sunnative
 
ระบบสุริยะ Solar system
ระบบสุริยะ Solar systemระบบสุริยะ Solar system
ระบบสุริยะ Solar systemnative
 
รายงานวิชาพระพุทธ
รายงานวิชาพระพุทธรายงานวิชาพระพุทธ
รายงานวิชาพระพุทธ
native
 
ภาษาซี
ภาษาซีภาษาซี
ภาษาซีnative
 

More from native (20)

โปรแกรมเมอร์
โปรแกรมเมอร์โปรแกรมเมอร์
โปรแกรมเมอร์
 
แผ่นพับ โรคกระเพาะ
แผ่นพับ โรคกระเพาะแผ่นพับ โรคกระเพาะ
แผ่นพับ โรคกระเพาะ
 
แผ่นพับ โรคมือเท้าปาก
แผ่นพับ โรคมือเท้าปากแผ่นพับ โรคมือเท้าปาก
แผ่นพับ โรคมือเท้าปาก
 
แผ่นพับ โรคไข้หวัด
แผ่นพับ โรคไข้หวัดแผ่นพับ โรคไข้หวัด
แผ่นพับ โรคไข้หวัด
 
แผ่นพับ โรคตาแดง
แผ่นพับ โรคตาแดงแผ่นพับ โรคตาแดง
แผ่นพับ โรคตาแดง
 
โอโซน
โอโซนโอโซน
โอโซน
 
พุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์
พุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์พุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์
พุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์
 
คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่มีการใช้มากที่สุด
คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่มีการใช้มากที่สุดคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่มีการใช้มากที่สุด
คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่มีการใช้มากที่สุด
 
ใบความรู้ เรื่องพระพุทธศาสนาเน้นการพัฒนาศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง
ใบความรู้ เรื่องพระพุทธศาสนาเน้นการพัฒนาศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้องใบความรู้ เรื่องพระพุทธศาสนาเน้นการพัฒนาศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง
ใบความรู้ เรื่องพระพุทธศาสนาเน้นการพัฒนาศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง
 
บันทึกเหตุการณ์(วิชา ลิขิตภาษา)
บันทึกเหตุการณ์(วิชา ลิขิตภาษา)บันทึกเหตุการณ์(วิชา ลิขิตภาษา)
บันทึกเหตุการณ์(วิชา ลิขิตภาษา)
 
ภาวะโลกร้อน
ภาวะโลกร้อนภาวะโลกร้อน
ภาวะโลกร้อน
 
ไวรัสกับไวรอยด์แตกต่างกันอย่างไร
ไวรัสกับไวรอยด์แตกต่างกันอย่างไรไวรัสกับไวรอยด์แตกต่างกันอย่างไร
ไวรัสกับไวรอยด์แตกต่างกันอย่างไร
 
มงคลชีวิต
มงคลชีวิตมงคลชีวิต
มงคลชีวิต
 
กลุ่มดาว88กลุ่ม
กลุ่มดาว88กลุ่มกลุ่มดาว88กลุ่ม
กลุ่มดาว88กลุ่ม
 
โทมัส_เอดิสัน
โทมัส_เอดิสันโทมัส_เอดิสัน
โทมัส_เอดิสัน
 
ระบบสุริยะ
ระบบสุริยะระบบสุริยะ
ระบบสุริยะ
 
ดวงอาทิตย์ The sun
ดวงอาทิตย์  The sunดวงอาทิตย์  The sun
ดวงอาทิตย์ The sun
 
ระบบสุริยะ Solar system
ระบบสุริยะ Solar systemระบบสุริยะ Solar system
ระบบสุริยะ Solar system
 
รายงานวิชาพระพุทธ
รายงานวิชาพระพุทธรายงานวิชาพระพุทธ
รายงานวิชาพระพุทธ
 
ภาษาซี
ภาษาซีภาษาซี
ภาษาซี
 

Recently uploaded

atwordfamily words with Thai translationtx
atwordfamily words with Thai translationtxatwordfamily words with Thai translationtx
atwordfamily words with Thai translationtx
Bangkok, Thailand
 
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนาภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
Faculty of BuddhismMahachulalongkornrajavidyalaya Roi Et Buddhist College
 
งานนำเสนอ ภาษากับการสื่อสาร เพื่อการพัฒนา.pdf
งานนำเสนอ ภาษากับการสื่อสาร เพื่อการพัฒนา.pdfงานนำเสนอ ภาษากับการสื่อสาร เพื่อการพัฒนา.pdf
งานนำเสนอ ภาษากับการสื่อสาร เพื่อการพัฒนา.pdf
Faculty of BuddhismMahachulalongkornrajavidyalaya Roi Et Buddhist College
 
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdfแนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
Faculty of BuddhismMahachulalongkornrajavidyalaya Roi Et Buddhist College
 
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
Prachyanun Nilsook
 
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 

Recently uploaded (10)

atwordfamily words with Thai translationtx
atwordfamily words with Thai translationtxatwordfamily words with Thai translationtx
atwordfamily words with Thai translationtx
 
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
 
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนาภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
 
งานนำเสนอ ภาษากับการสื่อสาร เพื่อการพัฒนา.pdf
งานนำเสนอ ภาษากับการสื่อสาร เพื่อการพัฒนา.pdfงานนำเสนอ ภาษากับการสื่อสาร เพื่อการพัฒนา.pdf
งานนำเสนอ ภาษากับการสื่อสาร เพื่อการพัฒนา.pdf
 
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
 
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
 
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdfแนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
 
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
 
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
 
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
 

ใบความรู้ โอเปร่า เรื่อง ขลุ่ยวิเศษ

  • 1. 1 โอเปร่า เรื่อง ขลุ่ยวิเศษ ขลุ่ยวิเศษ(เยอรมัน:Die Zauberflöte,อังกฤษ:The Magic Flute) เป็นอุปรากรสององค์ที่เขียนโดยโวล์ฟกัง อะมาเดอุสโมซาร์ทผู้เป็นคีตกวีคนสาคัญของคริสต์ศตวรรษที่ 18 ในปี ค.ศ.1791 จากเนื้อร้องที่เขียนโดยเอมานูเอล ชิคาเนเดอร์“ขลุ่ยวิเศษ”เป็นอุปรากรแบบที่เรียกว่า ละครผสมเพลง(Singspiel) ซึ่งเป็นลักษณะที่นิยมกันที่มีทั้งบทร้องและบทพูด ตัวละคร ตัวละคร ชื่อภาษาอังกฤษ ระดับเสียง ทามิโน Tamino เทเนอร์ พาพาเกโน Papageno บาริโทน พามินา Pamina โซปราโน
  • 2. 2 ราชินีแห่งราตรี The Queenofthe Night โซปราโน ซาราสโตร Sarastro เบส สตรีสามคน โซปราโน 2 คน, เมซโซโซปราโน โมโนสตาโตส Monostatos เทเนอร์ เด็กชายสามคน treble, อัลโต, เมซโซโซปราโ น ผู้ประกาศที่เทวสถาน Speakerofthe temple เบส-บาริโทน นักบวชสามองค์ Three priests เทเนอร์, เบส2คน พาพาเกนา Papagena โซปราโน คนใส่เสื้อเกราะสองคน Twoarmoredmen เทเนอร์, เบส ทาสสามคน เทเนอร์ 2คน, เบส นักบวช, สตรี, ผู้คน, ทาส, นักร้องประสานเสียง
  • 3. 3 เพลงที่ใช้ในการแสดง  "Der Vogelfänger bin ich ja" (The birdcatcher am I) – Papageno in Act I, Scene I  "O zittre nicht, mein lieber Sohn" (Oh, tremble not, my beloved son) – The Queen of the Night in Act I, Scene I  "Dies Bildnis ist bezaubernd schön" (This image is enchantingly beautiful) – Tamino in Act I, Scene I  "Wie stark ist nicht dein Zauberton" (How strong is thy magic tone) – Tamino in the Finale of Act I  "O Isis und Osiris" (O Isis and Osiris) – Sarastro in Act II, Scene I  "Alles fühlt der Liebe Freuden" (All feel the joys of love) – Monostatos in Act II, Scene III  "Der Hölle Rache kocht in meinem Herzen" (Hell's vengeance boileth in mine heart) – The Queen of the Night in Act II, Scene III  "In diesen heil'gen Hallen" (Within these sacred halls) – Sarastro in Act II, Scene III  "Ach, ich fühl's, es ist verschwunden" (Ah, I feel it, it is vanished) – Pamina in Act II, Scene IV  "Ein Mädchen oder Weibchen" (A girl or a woman) – Papageno in Act II, Scene V
  • 4. 4 เนื้อเรื่องย่อ องก์ที่ 1 ฉากที่ 1 หลังจากดนตรีนาแล้ว เนื้อเรื่องก็เริ่มขึ้นเมื่อทามิโนเจ้าชายหนุ่มผู้ถูกไล่ตามโดยพญางูจนหลงไปในดินแดนอันห่างไกล (ควอเท็ท:"Zu Hilfe! ZuHilfe!") ล้มหมดสติลงด้วยความอ่อนล้า สตรีสามคนที่เป็นนางสนองพระโอษฐ์ของราชินีแห่งราตรีจึงปรากฏตัวและช่วยสังหารพญางู สตรีทั้งสามหลงรักรูปโฉมของทามิโนที่หมดสติอยู่ ต่างคนต่างก็หาทางให้อีกสองคนทิ้งไว้ให้ตนมีโอกาสอยู่ตามลาพังกับทามิโน หลังจากที่ถกเถียงกันแล้วก็ตกลงกันว่าวิธีที่ดีที่สุดคือทิ้งทามิโนไปพร้อมกันทั้งสามคน ทามิโนฟื้นตัวขึ้นมาพาพาเกโนก็เข้ามาในเครื่องแต่งกายที่คล้ายนก และร้องบรรยายว่าตนเป็นคนจับนกและมีความคิดถึงภรรยาหรืออย่างน้อยก็เพื่อนสตรี (ร้องเดี่ยว: "Der Vogelfänger bin ich ja") พาพาเกโนบอกทามิโนว่าตนเองพาพาเกโนเป็นผู้ทาการสังหารพญางูด้วยมือเปล่า ทันทีนั้นสตรีสามคนก็ปรากฏตัวขึ้นมาลงโทษพาพาเกโนโดยเอากุญแจล็อกปากพาพาเกโนไว้ แล้วสตรีทั้งสามก็บอกทามิโนว่าตนนั้นเป็นผู้รับผิดชอบในการช่วยชีวิตทามิโนและ ให้ยื่นภาพของสตรีสาวพามินาให้ทามิโนดู ทามิโนก็ตกหลุมรักพามินาทันทีที่ได้เห็น(ร้องเดี่ยว: "Dies Bildnis ist bezaubernd schön")
  • 5. 5 การปรากฏตัวของราชินีแห่งราตรี ฉากออกแบบโดยคาร์ลฟรีดริชชิงเคิล(ค.ศ.1781–ค.ศ. 1841) สาหรับการแสดงในปี ค.ศ. 1815 ราชินีแห่งราตรีที่มาปรากฏตัวก็บอกกับทามิโนว่าสาวสวยในภาพซึ่งมีชื่อว่า"พามินา"นั้น คือพระธิดาของตนเองที่ถูกซาราสโตรผู้เป็นศัตรูลักตัวไป ราชินีแห่งราตรีก็สั่งให้ทามิโนเดินทางไปยังเทวสถานเพื่อไปนาตัวพามินาคืนมา และสัญญากับทามิโนว่าจะให้แต่งงานกับพามินาถ้าทาได้(ร้องพูดและร้องเดียว:"Ozittre nicht, mein lieber Sohn") หลังจากที่ราชินีแห่งราตรีหายตัวไป สตรีทั้งสามก็มอบขลุ่ยวิเศษที่สามารถทาให้คนเปลี่ยนใจได้ให้แก่ทามิโน และไขกุญแจที่ปิดปากพาพาเกโนออกและมอบระฆังให้เพื่อให้พิทักษ์ตนเอง พาพาเกโนก็ถูกสั่งให้ติดตามไปช่วยทามิโนเอาตัวพามินากลับมาทั้งสองคนจึงเริ่มเดินทาง (ร้องประสานเสียงห้า: "Hm hm hm hm") แล้วสตรีทั้งสามจึงแนะนาเด็กวิเศษสามคนให้ไปช่วยนาทางทามิโนและพาพาเกโนไปยังเทวสถาน ฉากที่ 2:ท้องพระโรงในวังของซาราสโตร พามินาถูกลากเข้าไปโดยโมโนสตาโตสผู้เป็นทาสชาวมัวร์ของซาราสโตร (ร้องประสานเสียงสาม: "Du feines Täubchen, nun herein!") พาพาเกโนผู้เดินทางไปทาการหาตัวพามินาล่วงหน้าก่อนเข้ามาในห้อง ทั้งพาพาเกโนและโมโนสตาโตสต่างก็มีความหวาดกลัวรูปลักษณ์อันแปลกประหลาดของกันและกั น ทั้งสองคนก็วิ่งหนีลงจากเวที แต่ไม่นานพาพาเกโนก็กลับเข้ามาใหม่และบอกพามินาว่าราชินีแห่งราตรีได้ส่งทามิโนมาช่วยเหลือ พามินาเต็มไปด้วยปิติยินดีเมื่อทราบว่าทามิโนหลงรักตนเอง และแสดงความเห็นอกเห็นใจและให้ความหวังแก่พาพาเกโนผู้อยากจะมีสตรีเอาไว้รัก
  • 6. 6 ทั้งสองคนจึงร้องเพลงแสดงความรัก(ร้องประสานเสียงสอง:"Bei Männern welche Liebe fühlen") จากนั้นทั้งสองคนก็แยกกัน ฉากที่ 3:สวนและทางเข้าเทวสถาน เด็กวิเศษสามคนก็นาทามิโนไปยังเทวสถานของซาราสโตร และรับรองว่าถ้าทามิโนมีความตั้งมั่นแล้วก็จะสามารถนาตัวพามินาคืนมาได้ เมื่อไปถึงเทวสถานทามิโนก็ไม่ได้รับการอนุญาตให้เข้าที่ประตูแห่งธรรมชาติและเหตุผล โดยเสียงที่ประกาศออกมาโดยไม่เห็นตัวเจ้าของเสียงร้องว่า"กลับไป!" แต่เมื่อทามิโนพยายามเข้าทางประตูแห่งสติปัญญา นักบวชสูงอายุก็ปรากฏตัวขึ้นและพยายามหว่านล้อมให้ทามิโนเชื่อว่าซาราสโตรเป็นผู้มีความเมตต ากรุณาและไม่ได้เป็นคนชั่วร้ายอย่างที่เข้าใจกัน และความเห็นของสตรีทั้งหลายนั้นไม่ควรจะเป็นสิ่งที่ทามิโนเอามาเชื่อถือ เมื่อนักบวชออกไปแล้วทามิโนก็เป่าขลุ่ยวิเศษโดยหวังจะเรียกตัวพามินาและพาพาเกโน แต่เสียงของขลุ่ยวิเศษกลับไปเรียกสัตว์วิเศษที่เชื่องมา จากนั้นทามิโนก็ได้ยินเสียงดนตรีที่พาพาเกโนเป่าอยู่นอกเวทีเป็นการตอบเสียงขลุ่ยของทามิโน พาพาเกโนรู้สึกดีใจที่จะได้พบพามินาและทามิโนจึงรีบวิ่งไป พาพาเกโนปรากฏตัวกับพามินาตามเสียงขลุ่ยของทามิโนมาแต่ไกล แต่ในทันทีทันใดทั้งสองคนก็ถูกจับตัวโดยโมโนสตาโตสและทาส พาพาเกโนจึงพยายามหว่านมนต์ขลังต่อทาสโดยการสั่นกระดิ่ง ทาสต้องมนต์ขลังของกระดิ่งต่างก็เต้นราไปตามจังหวะของกระดิ่งจนออกจากเวทีไป
  • 7. 7 พาพาเกโนได้ยินเสียงซาราสโตรกับผู้ติดตามเข้ามาใกล้ขึ้นทุกขณะ พาพาเกโนมีความตกใจเป็นอันมากและถามพามินาว่าควรจะพูดอย่างไร พามินาก็ตอบว่าจะต้องพูดความจริงซาราสโตรกับผู้ติดตามเข้ามาบนเวที ด้วยความตกตลึงในความยิ่งใหญ่งดงามของซาราสโตร พามินาจึงหมอบลงที่เท้าและสารภาพว่าตนเองกาลังพยายามที่จะหนี เพราะโมโนสตาโตสพยายามบังคับให้ตนรัก ซาราสโตรก็รับรองพามินาเป็นอย่างดี และบอกพามินาว่าตนจะไม่บังคับใจพามินา แต่ก็ไม่อาจจะให้เสรีภาพหรือปล่อยให้กลับไปหามารดาได้ เพราะพามินาต้องมีชายเป็นผู้นา โมโนสตาโตสเข้ามาพร้อมกับทามิโนที่เป็นนักโทษ เมื่อพามินาและทามิโนพบหน้ากันเป็นครั้งแรก ทั้งสองก็สวมกอดกันและกันซึ่งสร้างความขุ่นเคืองให้แก่ผู้ติดตามของซาราสโตร โมโนสตาโตสพยายามกล่าวโทษทามิโน แต่ซาราสโตรลงโทษโมโนสตาโตสเพราะความต้องการในตัวพามินาของซาราสโตร และนาทามิโนและพาพาเกโนเข้าไปในเทวสถานแห่งการทดสอบ องก์ที่ 2 ฉากที่ 4:ป่าต้นปาล์ม สภานักบวชแห่งเทพไอสิสและโอซีริสนาโดยซาราสโตรเข้ามาในเทวสถาน และเรียกร้องให้ทามิโนและพามินาแต่งงานกัน และให้ทามิโนเป็นประมุขสืบต่อจากซาราสโตรถ้าผ่านการทดสอบ ซาราสโตรอธิบายว่าราชินีแห่งราตรีพยายามที่จะหว่านล้อมผู้คนด้วยความเชื่องมงายและความกลัว อันไม่มีเหตุผล แล้วซาราสโตรก็ร้องเพลงสวดมนต์แด่เทพไอสิสและโอซีริส
  • 8. 8 และขอให้เทพทั้งสองพระองค์พิทักษ์ทามิโนและพามินา และให้นาไปยังสวรรคสถานถ้าทั้งสองคนเสียชีวิตระหว่างการทดสอบ("OIsis und Osiris") ฉากที่ 5:ลานเทวสถานแห่งการทดสอบ ทามิโนและพาพาเกโนถูกนาตัวไปยังเทวสถาน นักบวชเตือนทามิโนว่าโอกาสนี้เป็นโอกาสสุดท้ายที่จะเปลี่ยนใจได้ แต่ทามิโนก็ยืนกรานสัญญาว่าจะยอมดาเนินการทดสอบต่างๆทุกอย่างเพื่อที่จะให้ได้พามินา ตอนแรกพาพาเกโนก็ปฏิเสธไม่ยอมผ่านการทดสอบ โดยกล่าวว่าตนเองไม่คานึงถึงคุณค่าของสติปัญญาและความรู้แจ้งเท่าใดนัก สิ่งที่ต้องการเพียงอย่างเดียวคืออาหาร,เหล้าองุ่น และสตรี นักบวชบอกกับพาพาเกโน ว่าซาราสโตรอาจจะมีสตรีไว้ให้ถ้ายอมทาการทดสอบและสตรีผู้นี้มีชื่อว่าพาพาเกนา พาพาเกโนจึงยอมตกลงอย่างไม่ค่อยเต็มใจเท่าใดนัก การทดสอบขั้นแรกระบุว่าทามิโนและพาพาเกโนต้องไม่พูดจาโต้ตอบใดๆ ทั้งสิ้นเมื่อถูกยั่วยวนหรือขู่เข็ญโดยสตรี (ร้องประสานเสียงคู่, นักบวชสององค์) สตรีสามคนมาปรากฏตัวและพยายามยั่วให้ทามิโนและพาพาเกโนพูด(ร้องประสานเสียงห้า:"Wie, wie, wie") พาพาเกโนยับยั้งตนเองไม่ได้ แต่ทามิโนยังคงไม่ยอมพูด และเมื่อพูดก็จะพูดกับพาพาเกโนเท่านั้นและถึงจะพูดก็เพียงแต่บอกให้พาพาเกโนหุบปาก เมื่อเห็นว่าทามิโนไม่ยอมพูดกับตน สตรีสามคนก็จากไปด้วยความงงงวย นักบวชแสดงความยินดีกับทามิโนที่ผ่านการทดสอบขั้นแรกสาเร็จ นักบวชอีกองค์หนึ่งด่าว่าพาพาเกโนว่าอ่อนแอและกล่าวว่าจะไม่มีวันที่จะบรรลุถึงพระเจ้าได้ พาพาเกโนโต้ว่ามีคนในโลกมากมายที่เหมือนกับตนที่ไม่มีโอกาสที่จะบรรลุ แต่ก็เป็นผู้ที่มีความสุข
  • 9. 9 และถามว่าทาไมตนจึงต้องผ่านการทดสอบด้วยในเมื่อซาราสโตรก็มีสตรีเตรียมไว้ให้ตนอยู่แล้ว นักบวชก็ตอบว่านี่เป็นวิธีเดียว ฉากที่ 6:ในสวน, พามินาหลับ โมโนสตาโตสเดินเข้ามาและจ้องมองพามินาด้วยความหลงใหล(ร้องเดี่ยว:"Alles fühlt der Liebe Freuden") และเกือบจะจูบใบหน้าที่กาลังหลับของพามินาเมื่อราชินีแห่งราตรีปรากฏตัวและทาให้โมโนสตาโต สตระหนกจนหนีออกไป ราชินีแห่งราตรีจึงปลุกพามินาและมอบกริชให้และสั่งให้พามินาใช้สังหารซาราสโตร(ร้องเดี่ยว: "Der Hölle Rache kochtin meinem Herzen") หลังจากที่ราชินีออกไปแล้ว โมโนสตาโตสก็กลับเข้ามาอีกและพยายามบังคับให้พามินารักตน โดยขู่ว่าจะเปิดเผยแผนการฆาตกรรมแต่ซาราสโตรเข้ามาทันและไล่โมโนสตาโตสออกไป ซาราสโตรยกโทษให้พามินาและทาการปลอบใจ(ร้องเดี่ยว:"In diesen heil'gen Hallen") ฉากที่ 7:ห้องโถงในเทวสถานแห่งการทดสอบ ทามิโนและพาพาเกโนต้องผ่านการทดสอบโดยการไม่พูดอีกครั้งหนึ่งแต่ครั้งนี้ยากกว่าเดิม โดยพามินาเข้ามาและพยายามพูดกับทามิโนในเมื่อทามิโนไม่ยอมโต้ตอบ พามินาก็เชื่อว่าทามิโนไม่รักตนต่อไปอีกแล้ว(ร้องเดี่ยว:"Ach, ich fühl's, es ist verschwunden") พามินาจึงออกจากห้องด้วยความระทมทุกข์ ฉากที่ 8:พีระมิด นักบวชแสดงความยินดีกับทามิโนที่ผ่านการทดสอบ และทานายว่าจะประสบความสาเร็จและควรค่าต่อคาสั่งของตน(ประสานเสียง:"O Isis und Osiris") ซาราสโตรแยกพามินาและทามิโน(ร้องประสานเสียงสาม: ซาราสโตร, พามินา, ทามิโน –
  • 10. 10 "Soll ich dich, Teurer, nichtmehr sehn?") ตัวละครออกจากฉากพาพาเกโนเข้ามา พาพาเกโนเล่นระฆังวิเศษและร้องเพลงเกี่ยวกับสตรีที่ตนต้องการเล่น(ร้องเดี่ยว,พาพาเกโน:"Ein Mädchen oder Weibchen") สตรีชราปรากฏตัวต่อหน้าพาพาเกโน และเรียกร้องให้พาพาเกโนสัญญาว่าจะหมั้นกับตน และเตือนว่าถ้าไม่ทาก็จะเป็นโสดไปจนตลอดชีวิต ด้วยความไม่ค่อยเต็มใจพาพาเกโนก็ยอมสัญญาว่าจะรักภักดีสตรีชรา สตรีชราจึงกลายเป็นสตรีสาวผู้มีความงดงาม--พาพาเกนาแต่เมื่อพาพาเกโนพยายามวิ่งเข้าไปกอด นักบวชก็ขับไล่พาพาเกนาด้วยฟ้าร้องฟ้าผ่า ฉากที่ 9:ลาน ทามิโนและพามินาพยายามผ่านการทดสอบขั้นสุดท้าย,Max Slevogt (ค.ศ. 1868–ค.ศ. 1932) เมื่อเด็กวิเศษสามคนเห็นพามินาพยายามฆ่าตัวตายเพราะเชื่อว่าทามิโนทิ้งตนเด็กก็ดึงรั้ง และยึดกริชจากมือของพามินา และรับรองกับพามินาว่าจะได้พบกับทามิโนภายในเวลาอันไม่นานนัก(ร้องประสานเสียงสี่: "Bald prangt, den Morgen zu verkünden"). ฉากที่ 10:ห้องโถงหรือห้องที่มีประตูสองประตู:ประตูหนึ่งนาไปยังห้องทดสอบด้วยน้าและ อีกห้องหนึ่งเป็นถ้าไฟ
  • 11. 11 ชายใส่เสื้อเกราะสองคนนาตัวทามิโนขึ้นมาบนเวที ทามิโนประกาศว่าตนพร้อมแล้วที่เข้าสู่การทดสอบแต่พามินาร้องเรียกมาแต่ไกลให้คอยตนด้วย ชายใส่เสื้อเกราะยืนยันกับทามิโนว่าการทดสอบโดยการเงียบนั้นเรียบร้อยไปแล้ว และทามิโนสามารถพูดกับพามินาได้ พามินาก็เข้ามาและร้องเพลงประกาศความรักต่อกันกับทามิโน("Taminomein, o welch ein Glück!") จากนั้นทั้งสองคนก็เข้าสู่การทดสอบด้วยกัน และสามารถผ่านทั้งห้องทดสอบด้วยน้าและห้องทดสอบด้วยไฟได้โดยใช้ขลุ่ยวิเศษช่วย พาพาเกโนหมดหวังในการได้พาพาเกนาพยายามแขวนคอตนเอง(ร้องเดี่ยว/ประสานเสียงสี่: "Papagena! Papagena! Papagena!") แต่ในนาทีสุดท้ายเด็กวิเศษก็เข้ามาปรากฏตัวและแนะว่าพาพาเกโนควรจะใช้กระดิ่งวิเศษเรียกตัวพา พาเกนาพาพาเกนากลับเข้ามาทั้งสองคนต่างก็ปิติยินดีที่ได้เห็นกันจนพูดเหมือนคนติดอ่าง("pa… pa … pa") ด้วยความงงงวย(ร้องประสานเสียงสอง:"Papageno! Papagena!").[7] โมโนสตาโตสผู้ทรยศปรากฏตัวต่อหน้าราชินีแห่งราตรีและข้าราชบริพาร วางแผนที่จะทาลายเทวสถาน("Nurstille, stille") แต่ก็ถูกสาปแช่งให้เข้าไปในราตรีกาลอันไม่มีที่สิ้นสุด ฉากเปลี่ยนไปเป็นทางเข้าเทวสถานเอกที่ซาราสโตรกล่าวต้อนรับทามิโนและพามินา เพลงสุดท้ายเป็นเพลงสรรเสริญทามิโนและพามินาที่อดทนและมีความพยายามในการผ่านการทดส อบ และแสดงความขอบคุณพระเจ้า
  • 12. 12 ลักษณะเด่น เนื้อหาซ้อนในเนื้อหาผิว การต่อสู้ระหว่างแสงสว่างกับความมืด(ของราตรีกาล) เหมือนความคาดหวังในสิ่งดีๆกับการหลอกลวง ส่วนความรักที่ตัวละครได้สัมผัสเป็นสัญลักษณ์ของความดี ที่มีชัยในที่สุด การเลือกใช้ขลุ่ยอย่างเฉพาะเจาะจงในเรื่องก็เพราะขลุ่ยเป็นสัญลักษณ์ของลม Pamina ได้บอกแก่Tamino ว่า ขลุ่ยนี้พ่อเธอเป็นคนประดิษฐ์ทาขึ้นในสายฝนที่ตกกระหน่า(สัญลักษณ์น้า) ท่ามกลางเสียงฟ้าผ่า(สัญลักษณ์ของดิน)และสายฟ้าแลบ(สัญลักษณ์ของไฟ) มนต์ขลังของขลุ่ยอยู่ที่ขลุ่ยอันนั้นรวมอานุภาพของธาตุสี่เข้าไว้ในตัวมัน ส่วนขลุ่ยห้าเสียงของแพนที่ Papageno แขวนไว้ติดคอเน้นความจากัดของการแสดงออก เหมือนชีวิตในวงจากัดของพรานนกผู้ไม่สนใจสิ่งอื่นใดนอกจากการเสพกามสุข การจัดอันดับตัวละครเด่นๆเป็นไปเพื่อเสริมและตอบรับกับตัวละครอื่นดังนี้ ดวงอาทิตย์กับดวงจันทร์ Sarastroเป็นสัญลักษณ์ถาวรของคนของความดี เป็นผู้ไม่มีกิเลสตัณหา เขาเป็นผู้เฝ้าอาณาจักรของจิตวิญญาณผู้เก็บรักษาความลับ(ของศาสตร์และศิลป์ต่างๆ) ที่เขาคนเดียวเป็นผู้ตัดสินว่าควรจะถ่ายทอดให้ใครคนไหน ทาหน้าที่เป็นหัวหน้านักบวช สืบต่อจากบิดาของ Pamina ผู้ล่วงลับไปผู้เคยเป็นเจ้าผู้ใหญ่ในอาณาจักรนี้
  • 13. 13 ดวงอาทิตย์เป็นสัญลักษณ์ของเขา ศาสดาพยากรณ์ Zoroaster เป็นต้นแบบของตัวละครที่ชื่อ Sarastro ส่วนราชินีแห่งรัตติกาลเป็นภาพลักษณ์ของการดื้อรั้นแข็งขืนของมวลสตรี ของจุดอ่อนต่างๆของคนเช่นความอิจฉาความหยิ่งผยองหรือความเคียดแค้น ดังประโยคหนึ่งในบทร้องของนางตอนหนึ่งที่ว่า “ความแค้นทั้งมวลในนรกเดือดปุดๆอยู่ในกระแสเลือดของข้า”เสียงร้องของเธอ(แบบ coloratura) ก้องกังวานอย่างมีสีสันและลวดลายชวนให้คนฟังเคลิ้มตามและหลงเชื่อ โมสาร์ทเน้นให้เห็นว่า ความอ่อนแอของคนมักมีตัวช่วยหลากหลายที่นาไปสู่การลงมือกระทาการ(ไม่ดี)อย่างรั้งไม่อยู่ ถึงกระนั้นการที่ราชินีแห่งรัตติกาลยอมมอบขลุ่ยวิเศษให้Tamino สื่อการเป็นทวิภาคของความชั่วกับความดี อาณาจักรรัตติกาลของนางแท้จริงมิได้เป็นคู่ปรปักษ์ แต่เป็นส่วนเสริมที่ขาดไม่ได้ของอาณาจักรแห่งแสงสว่าง ชื่อของราชินีก็บอกให้เดาได้ว่า ดวงจันทร์เป็นสัญลักษณ์ของนาง เช่นเดียวกันนางกานัลสามคนของราชินีแห่งรัตติกาล ที่ให้ความรู้สึกว่าโหลงเหลงไร้แก่นสาร แต่ในที่สุดทั้งสามมีปฏิกิริยาตอบโต้ต่อสถานการณ์ตามเหตุตามผลไม่น้อยเลย ไฟกับน้า Tamino ต้องหาผู้มาเป็นคู่ที่จักเป็นคู่ที่สมบูรณ์ที่สุด ด้วยความรักเขาจะสามารถผ่านบทพิสูจน์คุณค่าของตนเองได้ เขาเป็นสัญลักษณ์ของไฟ และเป็นผู้เล่นขลุ่ยวิเศษที่เป็นสัญลักษณ์ของลม ส่วน Pamina เป็นผู้มาเสริม Tamino ให้ครบเต็ม ในฐานะที่เป็นตัวกลจักรที่นาไปสู่การเข้ามีส่วนร่วมในกระบวนการพิสูจน์ตัวเอง ก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้เข้าเป็นสมาชิกในวิหาร(ซึ่งหมายถึงสมาคมอันสูงส่งเฉกเช่น Freemasonry) เท่ากับว่านางได้ย้ายจากโลกของความมืด(ในฐานะลูกสาวของราชินีแห่งรัตติกาล และโลกของ“การไม่รู้หรือเบาปัญญา”)จากโลกที่มืดมนมาสู่โลกของแสงสว่างสู่โลกของ Sarastro โดยอาศัยความรักและการมีส่วนเข้าร่วมในบทพิสูจน์เคียงข้าง Tamino นางเป็นสัญลักษณ์ของน้า
  • 14. 14 เสียงเท็นเนอร์(tenor) ของTamino กับเสียงโซปราโน่ของ Pamina ต้องเลือกอย่างเหมาะสม ต้องให้ทั้งใสและสว่างสมมาตรกับความคิดและอุดมการณ์ของตัวละครทั้งคู่ ลมกับดิน Papageno เป็นรูปแบบของสามัญชนที่มีความตั้งใจดีอยู่แต่ขาดความกล้า(เสี่ยง) และขาดสติปัญญาคือไม่มีอุดมการณ์ที่อยู่เหนือชีวิตตามแนววัตถุนิยม ซึ่งตรงกับชีวิตส่วนใหญ่ของสามัญชนในโลกนี้และของผู้ชมโดยทั่วไป จึงเป็นเหมือนตัวแทนของทั้งความจริงใจกับการพูดปดถึงกระนั้นก็ยังป็นผู้มีมโนสานึกที่ดี ที่ถามตนเองว่าอะไรคือปัญหาที่แท้จริงของคนคณะนักบวชเห็นว่าเขายังไม่ดีพอ ยังไม่คู่ควรที่จะได้เป็นสมาชิกของวิหาร เดิมทีเป็นพรานนกจับนกให้ราชินีแห่งรัตติกาล แต่เมื่อถูกสั่งให้เดินทางไปกับTamino เท่ากับได้รับโอกาสให้เขาก้าวข้ามจากแดนแห่งรัตติกาลสู่แดนแห่งทิวากาล บทบาทของเขาในเรื่องมีความสาคัญไม่น้อยที่ทาให้ Tamino ยิ่งตระหนักชัดเจนถึงการต้องเอาชนะข้อพิสูจน์ต่างๆให้ได้ Papagenoเป็นสัญลักษณ์ของลมชื่อ Papageno และPapagenaมาจากคาเยอรมัน Papagei ที่แปลว่านกแก้ว(parrot ในภาษาอังกฤษและ perroquet ในภาษาฝรั่งเศส) และนี่อธิบายว่าทาไมสองคนนี้จึงสวมชุดที่มีขนนกสีๆประดับ (บางทีเพื่อความสะดวก Papageno สวมหมวกที่มีนกแก้วประดับเพื่อสื่อความหมายของชื่อและอาชีพของเขา) ส่วน Monostatos แขกมัวร์ผู้เป็นชายคนเดียวในอาณาจักรรัตติกาล (หลังจากที่ทรยศและหันไปเข้าฝ่ายราชินีแห่งรัตติกาล) เขาจึงมีเส้นทางเดินที่สวนกับ Papageno ผิวคล้าของแขกมัวร์เน้นความหมายตามขนบในสมัยนั้นว่าแขกมัวร์ทาหน้าที่เป็นยามเฝ้าพวกทาส(ซึ่ งเป็นพวกผิวสีคล้า) ความคล้าของผิวยังโยงไปถึงความดาของดิน เขาจึงเป็นสัญลักษณ์ของดิน จินี เด็กชายสามคนเป็นดั่งเสาหลักของปัญญาผู้รู้จักสร้างสรรค์ของอานาจผู้ปฏิบัติการ และของความงามที่ประดับโลก
  • 15. 15 ทั้งยังเป็นผู้ไต่สวนที่คอยสังเกตหรืออ่านจิตใจของผู้ที่อยากเข้าเป็นสมาชิกของวิหารแห่งแสงสว่าง บทบาทของจินีหยุดอยู่แค่ธรณีประตูของวิหาร เสียงใสบริสุทธิ์ของเด็กชายทั้งสามนาทาง Tamino พาเขาไปบนเส้นทางที่เต็มไปด้วยอุปสรรคและอันตราย และเตือนให้ Tamino เข้มแข็งและยึดมั่นในความตั้งใจที่น่าสรรเสริญ นักบวชสองคนในชุดนักรบที่มาปรากฏสองข้างTaminoนั้น เป็นผู้อาวุโสของวิหาร ทาหน้าที่ดูแลและปกป้ องความลับต่างๆของวิหาร ส่วนคณะนักบวชที่ปรากฏตัวเป็นหมู่บนเวที สื่อความเป็นหนึ่งเดียวในอุดมการณ์ของสมาคมฯ เช่นนี้สมาคมฯจึงเป็นภาพลักษณ์ของความยุติธรรมและความสมดุลสมบูรณ์ที่ที่มีเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพ เมื่อพินิจพิเคราะห์ตามประเด็นดังกล่าวมาข้างต้นเป็นตัวอย่างจะเห็นว่า การดาเนินเรื่องไม่ง่ายดั่งละครตลกหรือละครตานานทั่วไป แต่มีทั้งการใช้กระบวนการเล่าตามขนบคลาซสิกและกระบวนการพิเศษอื่นๆที่เพิ่มเข้าไป เช่น งูยักษ์ที่ปรากฏตัวตั้งแต่เริ่มต้นเรื่องสื่อความกลัวที่ซ่อนอยู่ในส่วนลึกของใจคน Tamino เห็นงูยักษ์แล้วสลบไป ร่างที่ไร้สติสัมปปชัญญะคือภาพของการตายของคนไร้อุดมการณ์ล้าลึก ก่อนที่ฟื้นเข้าสู่ชีวิตของจิตวิญญาณ งูที่ตายไปก็บอกเล่าการตายของสิ่งยั่วยวนสารพัดในชีวิตคน และเพราะมี“การตาย”จึงทาให้ Tamino ได้ “เกิดใหม่”มองเห็นเส้นทางสู่วิหาร และมุ่งหน้าไปที่นั่น เป็นการเดินทางเพื่อค้นหาตัวตนและชาระล้างตนก่อนจะได้รับเข้าสู่วิหารสู่แสงสว่าง กรณีที่ราชินีแห่งรัตติกาลผู้เป็นภาพลักษณ์ของอานาจ กลับไปขอความช่วยเหลือจากคนที่ไม่มีแม้อาวุธใดๆติดตัว และนางเองเป็นผู้ให้เครื่องมือที่นาเจ้าชายสู่ความสาเร็จ(คือการเป็นคนรู้คิดรู้ผิดชอบชั่วดี)
  • 16. 16 และต่อมาเป็นผู้สยบนาง เท่ากับว่าเจ้าชายได้หลุดจากสภาพของผู้รับใช้(ราชินีฯ) มาเป็นคนอิสระที่ต่อสู้เพื่อให้ตัวตนแท้ๆของเขาเองเป็นที่ยอมรับ ประเด็นของ Tamino กับPamina หญิงคนรักที่ผ่านพ้นอุปสรรค เอาชนะบททดสอบของเหล่านักบวชเท่ากับได้เรียนรู้ที่จะควบคุมตนเอง(เช่น การข่มความรู้สึกภายในเป็นต้น)เช่นนี้จึงทาให้ทั้งสองสามารถเอาชนะโลกความรักเกียรติยศฯลฯ ในขณะที่ชายหญิงอีกคู่หนึ่ง(Papageno&Papagena)ไม่เป็นเช่นนั้น จึงสอบตกบทพิสูจน์ ประเด็นที่ปราชญ์Sarastro สอน Tamino ให้มุ่งใฝ่หาแสงสว่างและปัญญา จนในที่สุดสามารถทาให้โลกกลับคืนสู่ดุลยภาพดังเดิมดังในยุคที่พ่อของ Pamina (สามีของราชินีแห่งรัตติกาล)ครองโลกอยู่ก่อนที่จะถ่ายทอดอานาจไปให้แก่Sarastro ราชินีแห่งรัตติกาลจึงแค้นใจนักที่โลกมิได้อยู่ในอานาจของนางคนเดียวดังที่นางหวังไว้ ตั้งแต่ต้นเรื่องทุกอย่างสับสนอลหม่าน การดิ้นรนต่อสู้ระหว่างราชินีแห่งรัตติกาลกับ Sarastro และเมื่อTamino กับPamina ได้เข้าร่วมบทพิสูจน์พร้อมกันนั้น พลังและความเป็นผู้ดีของหนุ่มสาวช่วยกัน ทาให้สามารถเอาชนะอุปสรรคและผ่านบททดสอบได้สาเร็จ ความงามและปัญญาจึงโดดเด่นเป็นความงามความดีที่ไม่มีวันสูญสลาย โลกกลับเป็นอาณาจักรดุจสวรรค์เป็นปึกแผ่นและสรรพชีวิตมีสง่าราศีดั่งเทพเจ้าบนฟ้า โมสาร์ทเป็น Freemason คนหนึ่งSchikaneder ก็เคยเป็นสมาชิกผู้หนึ่ง ทั้งสองได้นาธรรมเนียมการรับสมาชิกใหม่เข้ากลุ่มFreemasonry มาใช้ในเรื่อง The Magic Flute คือการทดสอบและพิสูจน์ตนของ Tamino และPamina ก่อนจะได้รับอนุญาตให้เข้าไปในวิหารของ Sarastro คาสั่งให้เก็บวาจาก็เป็นข้อบังคับภายในสมาคมFreemasonry ว่าเขาต้องไม่พูดไม่เอ่ยปากบอกใครสิ่งที่ได้เห็น
  • 17. 17 ได้ยินจากการประชุมการชุมนุมของเหล่าสมาชิกของสมาคมฯ ส่วนการปิดตาให้มองอะไรไม่เห็น เน้นความไม่รู้ประสีประสา และเมื่อผ้าผูกตาถูกถอดออกไปแล้ว TanimoและPamina ได้เห็นแสงสว่าง พร้อมๆกับความปลื้มปิติที่เขาเริ่มเข้าใจความจริงค้นพบสภาพแวดล้อม ค้นพบตนเองและค้นพบความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับสภาพแวดล้อมใหม่นั้น ทั้งสองเข้าใจและเข้าถึงความหมายของอุดมการณ์อันล้าลึกของวิหาร(นั่นคือการเข้าใจสมาคม Freemasonry) นักดุริยางค์ศาสตร์ชาวฝรั่งเศสอีกผู้หนึ่งชื่อJacques Chailley ได้วิเคราะห์หาข้อเปรียบเทียบที่เขาโยงไปถึงสมาคมFreemasonry ได้อีกมากจากตัวดนตรีแท้ๆที่โมสาร์ทประพันธ์ขึ้นเช่นจังหวะการเว้นจังหวะ การย้อนกลับไปใช้กลุ่มโน้ตกลุ่มหนึ่งซ้าเว้นแล้วซ้าอีกสามครั้ง หรือการเลือกคีย์ดนตรีเสียงใดเป็นหลักในดนตรีตอนหนึ่ง ทาให้นักดุริยางค์ศาสตร์สามารถแกะความตั้งใจในการประพันธ์ของโมสาร์ทได้ว่า ต้องการสื่อความเข้มข้นของอารม์ใดเป็นสาคัญในช่วงนั้นเป็นต้นนั่นคือเหนือสิ่งอื่นใด เหนือเนื้อหาธรรมดาๆของเทพนิยาย คือคุณภาพของดนตรีของโมสาร์ท เขาโยงไปถึงเทพสามองค์อันมีOsiris (เทพเจ้าอีจิปต์มีกายสีเขียวสัญลักษณ์ของการเกิดใหม่ ของชีวิตที่ไม่สิ้นสุดเป็นกษัตริย์และตุลาการของผู้ตาย),Isis (เทพสตรีในระบบศาสนาของอีจิปต์ มีเขาวัวและจานกลมของดวงอาทิตย์เป็นสัญลักษณ์ประดับบนศีรษะเป็นเทพแห่งมนต์ขลัง แห่งสติปัญญาเป็นผู้ให้ชีวิตผู้เยียวยารักษาและผู้ชานาญในทุกสิ่ง)และ Horus (เทพเจ้าอีจิปต์ ศีรษะเป็นเหยี่ยว เป็นสุริยะเทพ) เทพเจ้าทั้งสามเป็นผู้ผดุงค้าจุนความสมดุลและความเป็นปึกแผ่นของโลก อ้างอิง https://th.wikipedia.org/wiki/อุปรากร