SlideShare a Scribd company logo
1 of 77
ที่มาและความสาคัญ
เนื่องจากปัจจุบันได้มีวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมแบบต่างๆเข้ามาในประเทศเรามากมายทาให้
คนรุ่นหลังๆหรือรุ่นปัจจุบันเองอาจไม่ค่อยได้ทาตามแบบวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมไทย ซึ่งใน
อนาคตนี้อาจทาให้วัฒนธรรมไทยของเรานี้หายไปจากสังคมได้ เราจึงควรที่จะมีการอนุรักษ์
วัฒนธรรมขนบธรรมเนียมอันดีงามให้อยู่คู่สังคมไทยต่อไป
ต่อไป
จุดประสงค์
1.เพื่อรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีไทย
2.เพื่อการแสดงกิริยาต่างๆตามการกระทาได้เหมาะสม
3.เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยในการกระทาต่างๆ
ต่อไป
มารยาทไทย คือ กิริยา วาจาต่างๆ เช่น การยืน การเดิน การนั่ง การนอน การรับของส่งของ
การทาความเคารพ การแสดงกิริยาอาการ การรับประทานอาหาร การให้และรับบริการ การ
ทักทาย การสนทนา การใช้คาพูด การฟัง การใช้เครื่องมือสื่อสาร รวมทั้งการประพฤติปฏิบัติ
ในพิธีการต่างๆที่สุภาพเรียบร้อยที่บุคคลพึงปฏิบัติในสังคมโดยมีระเบียบแบบแผนอัน
เหมาะสมตามกาลเทศะ และถือเป็นเอกลักษณ์สาคัญของคนไทย
ต่อไป
การแสดงความเคารพ การยืน
การเดิน การนั่ง
การนอน การรับของและการส่งของ
การทักทายการรับประทานอาหาร
สารบัญ
การแสดงความเคารพ อันเป็นมารยาทของคนไทย
การประนมมือ
การไหว้
การกราบ
สารบัญ
การประนมมือ (อัญชลีกรรม) คือ การกระพุ่มมือทั้งสองประนมให้ฝ่ ามือทั้งสอง
ประกบกันนิ้วทุกนิ้วแนบชิดติดกันไม่เหลื่อมล้ากันหรือกางออกห่างกระพุ่มมือที่ประนมนี้ไว้
ระหว่างอกให้ตั้งตรงขึ้นข้างบนมีลักษณะคล้ายดอกบัวตูมแนบศอกทั้งสองข้างไว้ชิดกับชายโครง
ไม่ปล่อยให้กางออกไปรักษาระดับกระพุ่มมือไว้ระหว่างอกเป็นการแสดงความเคารพเวลาสวด
มนต์ หรือฟังสวดมนต์และฟังเทศน์
กลับหน้าหลัก
กลับหน้าหลัก
การไหว้ (นมัสการ) คือ การยกมือที่ประนมขึ้นจรดหน้าผาก นิ้วหัวแม่มือทั้งสองอยู่ระหว่างคิ้ว
พร้อมกับก้มศีรษะลงเล็กน้อย ใช้แสดงความเคารพพระภิกษุสามเณร หรือปูชนียวัตถุปูชนียสถาน
ในขณะที่ผู้ไหว้นั่งบนเก้าอี้หรือยืนอยู่ การไหว้บุคคลผู้อาวุโสกว่าให้ปล่อยมือจรดจมูกหรือคิ้ว การไหว้ผู้
เสมอกันให้ประนมมือไหว้ระดับอก
ต่อไป
การกราบ (อภิวาท) คือ การแสดงอาการกราบราบลงกับพื้นด้วยเบญจางคประดิษฐ์ คือด้วย
องค์ประกอบห้าอย่าง ได้แก่ เข่าทั้งสอง ฝ่ ามือทั้งสอง และศีรษะอันได้แก่ หน้าผากให้จรดกับพื้น
เป็นอาการแสดงความเคารพอย่างสูงต่อ พระรัตนตรัย มีขั้นตอนการปฏิบัติ ดังนี้
ต่อไป
ท่าเตรียมตัว นั่งคุกเข่า (ชายตามแบบชายหญิงตามแบบหญิง) มือทั้งสองทอดวางเหนือเข่าทั้งสองให้นิ้วมือ
ทั้งห้าแนบชิดกัน
– จังหวะที่หนึ่ง ยกมือขึ้นประนมไว้ระหว่างอก ตามแบบการประนม
– จังหวะที่สอง ยกมือที่ประนมขึ้นจรดหน้าผาก โดยให้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองอยู่ระหว่างคิ้วตาม
แบบการไหว้ พระรัตนตรัย
– จังหวัะที่สาม ก้มตัวลง ปล่อยมือทั้งสองให้ทอดลงกับพื้นโดยแบมือทั้งสองให้ข้อศอกต่อกับ
เข่าทั้งสอง ข้าง (สาหรับชาย) และให้ศอกทั้งสองข้างขนาบเข่าทั้งสองไว้(สาหรับหญิง)ให้ระยะมือทั้งสอง
ห่างกันประมาณ ห้านิ้ว ก้มศีรษะให้หน้าผากจรดพื้นในระหว่างมือทั้งสองแล้วยกมือประนมขึ้นผ่านจังหวะ
ที่หนึ่สอง และสามไปตามลาดับให้ต่อเนื่องกันทาติดต่อกันไปจนครบสามครั้ง
เมื่อครบสามครั้งแล้วพึงยกมือขึ้นไหว้ตามแบบพระรัตนตรัย แล้วเปลี่ยนอริยาบทเป็นนั่งพับเพียบ
หรือลุกขึ้นตามกาลเทศะ
กลับหน้าเดิม
กลับหน้าแรก
การกราบบุคคล และกราบศพ เป็นการกราบด้วยวิธีกระพุ่มมือ และกราบเพียงครั้งเดียวไม่แบมือ ดังนี้
1) หากบุคคลหรือศพอาวุโสกว่าให้ประนมมือไหว้ ให้ปลายนิ้วจรดจมูก หรือจรดหว่างคิ้วก็
ได้ถ้าคนเสมอกันประนมมือเพียงระหว่างอก
2) นั่งพับเพียบเก็บเท้า ตามแบบนั่งพับเพียบ
3) หมอบลงตามแบบหมอบ
4) มือทั้งสองกระพุ่มทอดลงกับพื้นไม่แบมือ
5) ก้มศีรษะลงจรดสันมือ กราบเพียงครั้งเดียว
6) เสร็จแล้วลุกขึ้นนั่งพับเพียบตามปกติ
ศพพระสงฆ์จะกราบด้วยเบญจางคประดิษฐ์สามครั้งก็ได้ สาหรับนาคกราบลาบวช หรือจะกราบบิดา
มารดาตอนรับผ้าไตรใช้แบบเบญจางคประดิษฐ์ 3 ครั้ง
การยืน
การยืนตามลาพัง
การยืนต่อหน้าผู้ใหญ่
การยืนถวายความเคารพพระมหากษัตริย์
การแสดงความเคารพเพลงชาติ
การยืนต่อหน้าพระที่นั่ง
สารบัญ
การยืนตามลาพัง ควรอยู่ในลักษณะสุภาพ สบาย ขาชิด ตั้งตัวตรง ไม่หันหน้าหรือแกว่ง
แขนไปมา
กลับหน้าหลัก
การยืนต่อหน้าผู้ใหญ่ ควรยืนตรง ขาชิด ปลายเท้าห่างกันเล็กน้อยมือทั้งสองแนบข้างลาตัว ถ้าอยู่
ต่อหน้าผู้ใหญ่ที่มีอาวุโสสูงหรือพระสงฆ์ หรือเป็นการยืนหน้าที่ประทับควรค้อมส่วนบนตั้งแต่เอวขึ้นไป
เล็กน้อยมืออยู่ ในลักษณะคว่าซ้อนกัน จะเป็นมือข้างไหนทับมือข้างไหนก็ได้ หรือจะประสานมือทั้งสอง
อย่างหลวมๆ หงายมือทั้งสองสอดนิ้วเข้าระหว่างช่องนิ้วของแต่ละมือก็ได้
กลับหน้าหลัก
การยืนถวายความเคารพพระมหากษัตริย์หรือพระมเหสี ถ้าแต่งเครื่องแบบให้ยืนตรง แล้ว
กระทาวันทยาหัตถ์ ถ้าไม่ได้สวมหมวก ให้ยืนตรงแล้วถวายคานับ การถวายคานับให้ก้มศีรษะ และส่วนไหล่ลงช้า ๆ
ให้ต่าพอสมควรแล้วกลับมายืนตรง อย่าผงกศีรษะ ถ้าสวมหมวกอื่นที่มิใช่ประกอบเครื่องแบบต้องถอดหมวกก่อน
แล้วจึงถวายคานับ
สาหรับหญิง ให้ยืนตรงเท้าชิด หันหน้าไปทางพระองค์ท่าน ชักเท้าข้างใดข้างหนึ่งไปทางหลังโดยวาดปลายเท้าไป
ทางอีกด้านหนึ่งของเท้าที่ ยืน ทาพร้อมกับย่อเข่าอีกข้างหนึ่งลงช้าๆเมื่อจวนจะต่าสุดให้ยกมือทั้งสองวาง
ประสานกันบนหน้าขาที่ย่อให้ต่าลงโดยให้หน้ามือประสานกันและให้ค่อนไปทางเข่าก้มศีรษะลงเล็กน้อย จากนั้น
เงยศีรษะขึ้นพร้อมกับชักเท้าที่ไขว้กลับที่เดิมและตั้งเข่าตรง
กลับหน้าหลัก
การยืนแสดงความเคารพเมื่อมีการบรรเลงเพลงเคารพ เพลงเคารพได้แก่เพลง
ชาติ เพลงสรรเสริญพระบารมี เพลงมหาฤกษ์ และเพลงมหาชัย
เมื่อได้ยินเพลงสรรเสริญพระบารมีเพลงมหาฤกษ์ และเพลงมหาชัยให้ยืนขึ้นแล้วระวังตรง หันหน้าไป
ทางพระองค์ท่านหรือพระบรมฉายาลักษณ์หรือประธานที่ชวนเชิญถวายพระพร ในขณะนั้นให้ยืนตรงอยู่จน
จบเพลง ถ้าเป็นการบรรเลงที่ปรากฏพระองค์ต้องถวายความเคารพเมื่อเห็นพระองค์ครั้งหนึ่ง
กลับหน้าหลัก
การยืนต่อหน้าพระที่นั่ง ในเวลาที่อยู่ต่อหน้าพระที่นั่งเวลาจะลุกขึ้นยืนหรือเคลื่อนที่ไปไหน
ต้องถวายความเคารพก่อนทุกครั้ง การยืนรับเสด็จเวลาเสด็จพระราชดาเนินผ่านสาหรับชายยืนตรง
ถวายคานับ หญิงถอนสายบัว ถ้าแต่งเครื่องแบบและสวมหมวกให้ทาวันทยาหัตถ์
กลับหน้าหลัก
การเดิน
การเดินตามลาพัง
การเดินกับผู้ใหญ่
การเดินนา-ตามเสด็จ
สารบัญ
การเดินเข้าสู่ที่ชุมชน
การเดินในที่ที่กษัตริย์ประทับอยู่
การเดินขึ้น-ลงเมรุ
การเดินไปทาธุระใดๆ
การเดินตามลาพัง ให้เดินอย่างสุภาพ หลังตรง ก้าวเท้าไม่ยาวไม่สั้นเกิน ควรแกว่งแขนแต่พองาม
กลับหน้าหลัก
การเดินกับผู้ใหญ่ ให้เดินทางซ้ายเยื้องมาทางหลังของผู้ใหญ่ อยู่ในลักษณะนอบน้อมไม่ส่ายตัวโยกศีรษะ
ถ้าเป็นการเดินระยะใกล้ๆ มือทั้งสองควรประสานกัน
กลับหน้าหลัก
การเดินนาเสด็จและตามเสด็จ
– การเดินนาเสด็จ ให้เดินหน้าระยะห่างพอสมควรทางด้านซ้ายของพระองค์ท่าน ในกรณีที่
เสด็จพระราชดาเนินบนลาดพระบาท ผู้เดินนาเสด็จต้องไม่เดินบนลาดพระบาทให้เดินในลักษณะ
เอียงตัวน้อย ๆ มาทางพระองค์ท่าน เพื่อได้สังเกตทราบหากจะประทับยืนค้อมร่างกายส่วนบน
เล็กน้อย มือทั้งสองประสานกัน และยกขึ้นเหนือแนวเข็มขัดเล็กน้อยเมื่อถึงที่จะอัญเชิญประทับ ซึ่ง
เท่ากับกราบบังคมทูล ฯ ว่าถึงที่ประทับแล้วเมื่อจะถอยออกไป ให้ถวายคานับครั้งหนึ่ง ก่อนที่ผู้นาจะ
นั่งที่ ต้องถวายคานับอีกครั้งหนึ่ง
ต่อไป
-การเดินตามเสด็จ ให้เดินเบื้องหลังพระองค์ท่านในอิริยาบถเดินกับผู้ใหญ่ คือเดินอย่างสุภาพหน้า
มองตรง อยู่ในอาการสารวมไม่ยิ้มหัวทักทายหรือทาความเคารพพูดคุยกับผู้อื่น
กลับหน้าหลักกลับหน้าเดิม
การเดินเข้าสู่ที่ชุมชน ควรเดินเข้าไปอย่างสุภาพ เมื่อผ่านผู้ที่นั่งอยู่ก่อน ควรก้มตัวลงเล็กน้อยถ้า
ผู้นั่งเป็นผู้อาวุโสมากก็ก้มตัวให้มากและระวังอย่าให้เสื้อผ้าหรือร่างกายไปกรายผู้อื่นถ้าไม่มีการกาหนด
ที่นั่งก็ให้นั่งเก้าอี้ที่สมควรโดยสุภาพ อย่าลากเก้าอี้ให้ดังอย่าโยกย้ายเก้าอี้ไปจากระดับที่ตั้งไว้
การเข้าสู่ที่ชุมนุมที่นั่งกับพื้นควรเดินอย่างสุภาพ เวลาผ่านผู้ที่นั่งอยู่ก่อนควรค้อมตัวลงให้มาก
หรือน้อยสุดแท้แต่ระยะใกล้ หรือระยะไกล ระวังอย่าให้เสื้อผ้าหรือส่วนของร่างกายไปกรายผู้อื่นถ้าผ่าน
ระยะใกล้มากใช้การเดินเข่า
วิธีการเดินเข่าให้นั่งคุกเข่าตัวตรง มืออยู่ข้างลาตัวแกว่งได้เล็กน้อยยกเข่าขวาซ้ายไปข้างหน้าสลับ
ข้างกันปลายเท้าตั้งช่วงเท้าพองามไม่กระชั้นเกินไป การเดินเข่าไม่นิยมใช้ในกรณีเข้าเฝ้ าหรือเข้าพบ
ผู้ใหญ่
กลับหน้าหลัก
การเดินในที่ที่พระมหากษัตริย์หรือพระมเหสีประทับอยู่ เวลาเดินผ่านหน้าหรือหลังที่
ประทับ ให้ลุกขึ้นจากที่แล้วถวายความเคารพ แล้วเดินอย่างสุภาพเมื่อจะผ่านที่ประทับให้หันไปถวายความเคารพ
เมื่อผ่านไปแล้วให้หันไปเคารพ และก่อนจะนั่งที่ใหม่ให้ถวายความเคารพก่อนนั่ง
กลับหน้าหลัก
การเดินไปทาธุระใดๆ เมื่อลุกจากที่และถวายความเคารพแล้วเดินไปยังที่จะทา
กิจธุระเมื่อถึงที่ให้ ถวายความเคารพแล้วจึงทากิจธุระนั้น ขณะทากิจธุระจะนั่งย่อเข่า
หรือคุกเข่าหรือหมอบแล้วแต่กรณี ทากิจธุระเสร็จแล้วลุกขึ้น ถอยหลังหนึ่งก้าว ถวาย
ความเคารพแล้วเดินถอยหลังสามก้าว ถวายความเคารพ แล้วเดินกลับที่นั่ง ก่อนจะนั่ง
ถวายความเคารพอีกครั้ง
กลับหน้าหลัก
การเดินขึ้นลงเมรุ ในงานศพที่เสด็จพระราชดาเนิน ควรปฏิบัติโดยลาดับ ดังนี้
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระบรมวงศานุวงศ์ประธานองคมนตรี นายกรัฐมนตรี
คณะรัฐมนตรี คณะทูตานุทูต ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ประชาชนทั่วไป พระภิกษุสามเณรเป็นอันดับ
สุดท้าย
การปฏิบัติในการเดินขึ้นสู่เมรุให้ลุกจากที่นั่งถวายความเคารพ เมื่อผ่านที่ประทับถวายความ
เคารพลงจากเมรุถึงพื้นถวายความเคารพ เมื่อผ่านที่ประทับถวายความเคารพ ก่อนจะนั่งถวายความ
เคารพ
กลับหน้าหลัก
การนั่ง
การนั่งเก้าอี้
การนั่งพับเพียบ
การนั่งขัดสมาธิการหมอบ
การนั่งหน้ารถพระที่นั่งหรือรถที่นั่ง
การนั่งคุกเข่า
สารบัญ
การนั่งเก้าอี้ ให้นั่งตัวตรง หลังพิงพนักเก้าอี้เท้าวางชิดกัน เข่าแนบชิดกัน มือทั้งสองวางบนหน้าขา
ถ้าเป็นเก้าอี้ท้าวแขน เมื่อนั่งตามลาพัง จะเอาแขนพาดบนท้าวแขนก็ได้ ไม่ควรนั่งเอาปลายเท้าหรือขาไขว้
กันอย่างนั่งไขว่ห้างควรนั่งเต็มเก้าอี้อย่านั่งโดยโยกเก้าอี้ให้ยกหน้าหรือเอนหลังการนั่งลงศอกในกรณีนั่ง
เก้าอี้ให้น้อมตัวลงเงยหน้าเล็กน้อยวางแขนทั้งสองลงบนหน้าขามือประสานกัน
กลับหน้าหลัก
การนั่งพับเพียบ ให้นั่งในลักษณะสุภาพยืดตัว ไม่ต้องเก็บปลายเท้าแต่อย่าเหยียดเท้าถ้านั่งต่อหน้า
ผู้ใหญ่ให้เก็บปลายเท้ามือประสานกันไม่ท้าวแขน
กลับหน้าหลัก
การหมอบ ให้นั่งพับเพียบเก็บปลายเท้าก่อน แล้วหมอบลงไปให้เข่าข้างหนึ่งอยู่ระหว่างแขนทั้ง
สองข้างแขนวางราบกับพื้น ตลอดครึ่งแขน ส่วนมือถึงศอกประสาน หรือประณมแล้วแต่กรณี
กลับหน้าหลัก
การนั่งคุกเข่า ให้นั่งตัวตรง วางก้นบนส้นเท้าปลายเท้าตั้งมือทั้งสองประสานกัน หรือจะวางคว่าบน
หน้าขาก็ได้
กลับหน้าหลัก
การนั่งหน้ารถพระที่นั่งหรือรถที่นั่ง ก่อนที่จะขึ้นนั่งให้ถวายความเคารพก่อน แล้วขึ้น
นั่งโดยหันหลังขึ้นนั่งพร้อมกับยกขาขึ้นตามไปด้วยนั่งตัวตรงขาชิด เข่าชิด หลังแตะพนักแต่ไม่พิง
มือประสานบนตัก สารวมอิริยาบถแต่ให้ผึ่งผาย ไม่เหลียวหน้าไปทางใด
กลับหน้าหลัก
การนั่งขัดสมาธิ (สะหมาด) คือการนั่งตามสบายอย่างหนึ่งและการนั่งแบบทาสมาธิ
การนั่งขัดสมาธิธรรมดาคือ การนั่งบนพื้น คู้เข่าทังสองข้างหาตัว แนบขาลงกับพื้น โดยให้ขาข้างหนึ่งช้อนทับอยู่บนอีกข้าง
หนึ่ง ส้นเท้าทั้งสองข้างจะสัมผัสกับขา เป็นอิริยาบถที่ใช้นั่งตามลาพังสบายๆ หรือ สาหรับชายนั่งกับพื้นรับประทานอาหาร
การนั่งขัดสมาธิที่ใช้ในทางศาสนามี 2 แบบ คือ การนั่งขัดสมาธิราบ และการนั่งขัดสมาธิเพชร
-การนั่งขัดสมาธิราบ คือ การนั่งขัดสมาธิสองชั้น โดยเอาขาซ้อนทับกันเอาขาขวาทับขาซ้าย มือขวาทับมือซ้าย ให้นิ้วหัวแม่มือ
จรดกัน ตั้งกายส่วนบนให้ตรง การนั่งขัดสมาธิราบนี้ใช้นั่งในการเจริญภาวนาทาจิตใจให้สงบซึ่งเป็นการปฏิบัติกรรมฐานเมื่อ
นั่งแบบนี้จะมีผลให้เนื้อหนังและเอ็นไม่ขด แม้นั่งนานทุกขเวทนาก็จะไม่บังเกิดขึ้น การบาเพ็ญภาวนาทางจิตใจจะได้ผล
-การนั่งขัดสมาธิเพชร คือ การนั่งขัดสมาธิโดยคู้เข่าทั้งสองข้างเอาฝ่ าเท้าทั้งสองขัดหรือไขว้ขึ้นวางบนหน้าขาท่านั่งขัดสมาธิ
แบบนี้ต้องใช้การฝึกหัดให้เกิดความชานาญโดยการหัดนั่งขัดสมาธิราบ หรือขัดสมาธิสองชั้นได้ชานาญแล้ว
กลับหน้าหลัก
การนอน
การนอนในที่เฉพาะตัว การไปนอนพักบ้านผู้อื่น
การนอนในยานพาหนะ การนอนพักแรมเป็นหมูคณะ
สารบัญ
การนอนในที่เฉพาะส่วนตัว เมื่อนอนในที่เฉพาะส่วนตัว คนเราจะนอนอย่างไรก็ได้ตามความพอใจ
แต่ก็ควรคานึงถึงมารยาทและเรื่องต่างๆบ้าง เช่น
1.ใช้เสื้อผ้าหรือชุดนอนที่สวมสบายไม่ประเจิดประเจ้อ
2. ก่อนนอนควรไหว้พระสวดมนต์หรือแผ่เมตตา เพื่อให้นอนหลับอย่างมีสติและมีความสวัสดี ไม่ควรนอน
เหยียดเท้าไปทางพระพุทธรูป หรือสิ่งที่พึงเคารพบูชา
3. นอนในท่าที่ถูกสุขลักษณะเช่น นอนตะแคงขวา ซ้อนเท้าให้เหลื่อมกันเล็กน้อยเหยียดแขนและขาให้สบาย
ตามธรรมชาติการนอนท่านี้ช่วยไม่ให้นอนทับหัวใจ การนอนหงายก็ถือเป็นท่าที่ถูกสุขลักษณะเช่นกัน
ต่อไป
4. นอนให้เรียบร้อยตามสมควร ซึ่งรวมไปถึงการนอนอย่างสงบสารวม ระวังการนอนกัดฟัน และละเมอ เป็นต้น
5. ไม่ควรทาความเดือดร้อนราคาญแก่ผู้อยู่ห้องใกล้เคียง หรือบ้านใกล้เคียง เช่น ทาเสียงดังเกินควรในยามวิกาล
6. เมื่อตื่นนอนแล้ว ควรจัดเก็บเครื่องนอนให้เรียบร้อย และควรทาจิตใจให้ผ่องใส ไม่หงุดหงิด
กลับหน้าหลักกลับหน้าเดิม
การนอนเมื่อไปพักบ้านผู้อื่น ในกรณีที่ไปพักบ้านผู้อื่น หรือเพื่อนที่คุ้นเคยกัน แม้จะสนิท
สนมกันก็ควรคานึงถึงมารยาทที่พึงปฏิบัติอยู่บ้าง ผู้ไปพักบ้านผู้อื่นควรปฏิบัติเช่นเดียวกับการนอนใน
ที่เฉพาะส่วนตัว แต่ควรเน้นเป็นพิเศษในเรื่องต่างๆ ดังนี้
1. ไม่ควรไปค้างบ้านผู้อื่นในยามดึกหรือกลับดึกโดยไม่มีเหตุอันจาเป็น เพราะเจ้าของบ้านจะเดือดร้อน
ในการเปิดประตูต้นรับ หรือให้ความสะดวกต่างๆ
ต่อไป
2. ควรมีความเกรงใจ คานึงถึงความต้องการของเจ้าของบ้าน ไม่ถือแต่ประโยชน์สุขส่วนตัว และไม่
เรียกร้องขอความสะดวกสบายจากเจ้าของบ้านจนเกินควร เช่น ใช้ห้องน้า ห้องส้วมนานเกินไป ขอใช้
บริการเครื่องอานวยความสะดวกต่างๆ ซึ่งในบ้านมีจานวนจากัด
3. ไม่ทาสิ่งใดอันจะเป็นการรบกวน หรือก่อความราคาญให้แก่กันและกัน เช่น ทาเสียงดังเป็นเหตุให้
เจ้าของบ้านตกใจตื่น ชวนคุยโดยไม่คานึงว่าอีกฝ่ ายหนึ่งต้องการจะพักผ่อน
4. ควรขออนุญาตเจ้าของบ้านก่อนที่จะทาสิ่งใดอันเกี่ยวข้องกับเจ้าของบ้านเช่น ขอพูดโทรศัพท์ ขอใช้รถ
ฯลฯ
5. ควรช่วยรักษาความสะอาดตามสมควร ซึ่งถือเป็นมารยาทอันดี
**ผู้ที่เป็นเจ้าของบ้านก็ควรอานวยความสะดวกแก่ผู้มาพักและมีความเกรงใจไม่ทา สิ่งใดอันอาจก่อความ
ราคาญและรบกวนผู้มาพักเช่นกัน
กลับหน้าหลักกลับหน้าเดิม
การนอนในยานพาหนะ ขณะเดินทางผู้เดินทางระยะไกลและต้องค้างคืนในยานพาหนะไม่ว่าจะ
เป็นรถโดยสารปรับอากาศ รถไฟ ฯลฯ จาเป็นต้องคานึกถึงมารยาทที่พึงปฏิบัติบางประการ เช่น
1. แต่งกายสุภาพ ไม่ปล่อยตัวตามสบายอย่างที่เคยปฏิบัติเมื่ออยู่ในบ้านของตน
2. ไม่ส่งเสียงคุยเอะอะ อันจะทาให้เกิดความราคาญแก่ผู้ที่ต้องการพักผ่อน
3. ไม่สูบบุหรี่ ไม่ก่อความราคาญ หรือชวนพูดคุยโดยไม่คานึงว่าเป็นเวลาอันเหมาะสมหรือไม่
4. ไม่ใช้ที่นั่งหรือที่นอนเกินสิทธิที่ตนพึงมีได้
5. หากประสงค์จะให้พนักงานบริการสิ่งใดเป็นพิเศษ ควรขอร้องอย่างสุภาพ
ต่อไป
6. ในกรณีที่เดินทางโดยรถโดยสารปรับอากาศซึ่งสามารถปรับที่นั่งให้เอนนอนได้ควรหรับที่
นั่งในเวลาอันควร โดยคานึงถึงความต้องการของผู้นั่งข้างเคียงด้วย เพราะอาจทาให้เขามิได้
รับความสะดวก
7. ในกรณีที่ค้างคืนในรถไฟ ซึ่งจัดให้มีที่นอนในรถ ควรปฏิบัติเป็นพิเศษในเรื่องต่อไปนี้
ควรรอให้พนักงานปูที่นอนทางานของเขาตามลาดับก่อนหลังไม่เรียกร้องให้บริการตนเป็น
พิเศษ
ผู้ที่ขึ้นไปนอนชั้นบน ควรกล่าวคาขออภัยด้วยมารยาทอันดีต่อผู้นอนชั้นล่างและถ้าไม่มีกิจ
จาเป็นก็ไม่ควรปีนขึ้นปีนลงบ่อยครั้ง
แม้จะมีม่านบังที่นอนไว้ ก็ควรนอนอย่างสงบเรียบร้อย
กลับหน้าหลักกลับหน้าเดิม
การนอนเมื่อไปพักแรมเป็นหมู่คณะ ในกรณีที่ไปพักแรมเป็นหมู่คณะ ที่พักอาจเป็นห้อง
โถงที่จัดไว้สาหรับคนจานวนมาก ผู้พักอาศัยควรคานึงถึงมารยาทที่พึงปฏิบัติระหว่างกันให้มากขึ้น
เช่น
1. ไม่แสวงหาความสะดวกสบายส่วนตัวจนลืมนึกถึงผู้อื่น
2. ช่วยเหลืออานวยความสะดวกแก่ผู้อื่นที่มาทีหลังในการจัดหาเครื่องใช้ในการนอนเป็นการแสดง
น้าใจต่อกันในยามจาเป็น
ต่อไป
3.ไม่ส่งเสียงคุยเอะอะหรือเดินเสียงดังเป็นการก่อความราคาญแก่ผู้ที่ต้องการพักผ่อน
4. เมื่อมีผู้เจ็บป่ วยต้องการความช่วยเหลือ ควรรีบช่วยด้วยความเต็มใจ เช่น แจ้งผู้ดูแลที่พักเพื่อให้
การปฐมพยาบาลทันท่วงที
5. ไม่เรียกร้องความสะดวกสบายเกินสิทธิที่แต่ละคนพึงมีพึงได้
6. แสดงความขอบคุณผู้ให้ที่พักก่อนอาลาจากกันด้วยอัธยาศัยไมตรีอันดี
7. ปฏิบัติตามระเบียบของเจ้าของสถานที่
กลับหน้าหลักกลับหน้าเดิม
การรับของและการส่งของ
การรับและส่งของอย่างเป็นพิธีการ
การทูลเกล้าฯถวายของและการรับพระราชทานของการรับของและส่งของอย่างไม่เป็นพิธีการ
การส่งของอย่างมีกาหนดการ
การประเคนของแด่พระสงฆ์และการรับของจากพระสงฆ์
สารบัญ
-การรับของขณะผู้ใหญ่ยืน ผู้ชายเดินเข้าไปห่างจากผู้ใหญ่พอสมควร(ประมาณ 2 ก้าว) ยืนตรง
คานับแล้วก้าวเท้าขวาไปข้างหน้าพร้อมกับค้อมตัวเล็กน้อย รับของ เสร็จแล้วซักเท้าขวากลับ คานับอีกครั้ง
หนึ่ง ถอยพอประมาณแล้วหันกลับ อีกแบบหนึ่งยืนไหว้ครั้งเดียว แทนการคานับก่อน รับของแล้วไม่ต้องไหว้
อีก ผู้หญิงเดินเข้าไปห่างจากผู้ใหญ่พอสมควร (ประมาณ 3 ก้าว) ย่อตัวไหว้ตามอาวุโสของผู้ส่งของให้ แล้ว
ก้าวเท้าขวาไปข้างหน้าพร้อมกับย่อตัวรับของเสร็จแล้วซักเท้าขวากลับถอยพอประมาณ หันกลับ
การรับของและส่งของอย่างเป็นพิธีการ คาว่าพิธีการในที่นี้คือ การกระทาที่เป็นพิธี มีการ
กาหนดนัดหมาย และมีระเบียบปฏิบัติซึ่งอาจไม่เหมือนกับวิธีปฏิบัติที่เป็นส่วนตัว
ต่อไป
-การรับของขณะผู้ใหญ่นั่งเก้าอี้ ผู้ชายเดินเข้าไปห่างจากผู้ใหญ่พอสมควร ยืนตรง คานับก้าวเท้า
ขวาไปข้างหน้า แล้วคุกเข่าซ้าย รับของ เสร็จแล้วถอยเท้าขวา พร้อมกับลุกขึ้นยืนตรงคานับอีกครั้งหนึ่งถอย
พอประมาณ หันกลับอีกแบบหนึ่ง ถอยพอประมาณหันกลับอีกแบบหนึ่ง ค้อมตัวไหว้ครั้งเดียวแทนการคานับ
ก่อนรับของ ผู้หญิงเดินเข้าไปห่างจากผู้ใหญ่พอสมควร ยืนตรง ก้าวเท้าขวาไปข้างหน้าแล้ว คุกเข่าซ้าย และไหว้
ตามอาวุโสของผู้ส่งของให้รับของแล้วถอยเท้าขวาพร้อมกับลุกขึ้นยืนถอยพอประมาณ หันกลับ
ต่อไปกลับหน้าเดิม
-การรับของขณะผู้ใหญ่นั่งกับพื้น ชายและหญิงปฏิบัติเหมือนกัน ถ้าเป็นผู้ใหญ่ที่มี
พระคุณหรืออาวุโสมาก ให้เข้าไปใกล้ผู้ใหญ่พอประมาณแล้วจึงเดินเข่าเข้าไปห่างจากผู้ใหญ่ประมาณ 3
ก้าว นั่งพับเพียบกราบผู้ใหญ่ 1 ครั้ง แล้วรับของ วางของทางขวามือเหนือเข่าเล็กน้อยถ้าผู้ใหญ่ปราศรัย
ด้วยก็ให้นั่งในลักษณะสารวมเสร็จแล้วกราบอีก 1 ครั้ง ถือของเดินเข่าถอยพอประมาณลุกขึ้นหันหลับ
กลับหน้าหลักกลับหน้าเดิม
การส่งของ มีการกาหนดนัดหมาย และมีระเบียบปฏิบัติซึ่งอาจไม่เหมือนกับวิธีปฏิบัติที่
เป็นส่วนตัว
-การส่งของขณะผู้ใหญ่ยืน ผู้ชาย ถือของเดินเข้าไปห่างจากผู้ใหญ่พอสมควร ยืนตรงคานับ
แล้วก้าวเท้าขวาไปข้างหน้า พร้อมกับค้อมตัวเล็กน้อย ส่งของเสร็จแล้ว ชักเท้าขวากลับ คานับอีกครั้ง
หนึ่ง ถอยพอประมาณ หันกลับ อีกแบบหนึ่ง ใช้การยืนไหว้ ครั้งเดียวแทนการคานับเมื่อส่งของให้
ผู้ใหญ่แล้ว ผู้หญิง ถือของเดินเข้าไปห่างจากผู้ใหญ่พอสมควรยืนตรง แล้วก้าวเท้าขวาไปข้างหน้า
พร้อมกับย่อตัวเล็กน้อยส่งของเสร็จแล้วไหว้ในขณะที่ย่อตัวอยู่ แล้วซักเท้าขวากลับถอยพอประมาณ
หันกลับ
ต่อไป
-การส่งของขณะผู้ใหญ่นั่งเก้าอี้ผู้ชาย ถือของเดินเข้าไปห่างจากผู้ใหญ่พอสมควร ยืนตรงคานับ
ก้าวเท้าขวาไป ข้างหน้าแล้วคุกเข่าซ้ายส่งของเสร็จแล้วถอยเท้าขวากลับพร้อมกับลุกขึ้นยืนตรง คานับอีกครั้ง
หนึ่ง ถอยพอประมาณ หันกลับ อีกแบบหนึ่ง ใช้การค้อมตัวไหว้ครั้งเดียวแทนการคานับเมื่อส่งของให้ผู้ใหญ่แล้ว
ผู้หญิง ถือของเดินเข้าไปห่างจากผู้ใหญ่พอสมควร ยืนตรง ก้าวเท้าขวาไปข้างหน้า แล้วคุกเข่าซ้ายส่งของ เสร็จ
แล้วไหว้ตามอาวุโสของผู้รับ แล้วถอยเท้าขวาพร้อมกับลุกขึ้นยืนถอยพอประมาณหันกลับ
ต่อไปกลับหน้าเดิม
-การส่งของขณะผู้ใหญ่นั่งกับพื้น ชายและหญิงปฏิบัติเหมือนกัน ถ้าเป็นผู้ใหญ่ผู้มีพระคุณ
หรือผู้มีอาวุโสมากให้ผู้ที่เข้าไปส่งของเดินเข่าถือของเข้าไป ห่างจากผู้ใหญ่พอประมาณนั่งพับเพียบวางของ
ทางขวามือเหนือเข่าเล็กน้อย แล้วกราบผู้ใหญ่ 1 ครั้ง ส่งของให้ผู้ใหญ่ ถ้าผู้ใหญ่ปราศรัยด้วยก็ให้นั่งลักษณะ
สารวม เมื่อจะลากลับกราบอีก 1 ครั้ง ถอยโดยวิธีเดินเข่าห่างจากผู้ใหญ่พอประมาณลุกขึ้นยืนหันกลับ
กลับหน้าหลักกลับหน้าเดิม
การรับของและส่งของอย่างไม่เป็นพิธีการ การรับของและส่งของอย่างไม่เป็นพิธีการนั้น หมายถึง
การรับของ และส่งของเป็นการส่วนตัวขณะที่ผู้ใหญ่ยืนอยู่หรือนั่งบนเก้าอี้รับแขกหรือนั่งบนพื้นในบ้าน ทั้งชาย
และหญิงควรปฏิบัติด้วยอาการนอบน้อมด้วยการทาความเคารพคือ เมื่อจะรับของก็ไหว้ท่านแล้วจึงรับ เมื่อจะส่ง
ของให้ท่านก็ส่งของก่อนแล้วจึงไหว้ ทั้งนี้พึงปฏิบัติให้เหมาะสมตามกรณีเมื่อจะลาท่านก็ให้ไหว้อีกครั้งหนึ่ง
หมายเหตุ : การรับของหรือการส่งของเมื่อผู้ใหญ่นั่งกับพื้นถ้าเป็นผู้ใหญ่ที่อาวุโสไม่มาก เช่น พี่น้า อา เป็นต้น ให้
ใช้วิธีการนั่งพับเพียบไหว้ การเข้าและออกให้ใช้วิธีเดินเข่า
กลับหน้าหลัก
-การทูลเกล้าฯ ถวายของ พัสดุหรือสิ่งของที่ยกถือเชิญอันเป็นของเบาเรียกว่า ทูลเกล้าถวาย ผู้เข้าเฝ้ า
ฯ ชายหรือหญิงเมื่อจะทูลเกล้าฯถวายในขณะประทับพระราชอาสน์ พระเก้าอี้หรือประทับยืนจะต้องมีภาชนะ
เช่น พานรองรับสิ่งของนั้น ผู้ถวายควรถือคอพานประคอง 2 มือ ก่อนจะเข้าไปเฝ้ าฯ ถวาย ต้องทาความเคารพ
ตามเพศ (คานับ – ถอนสายบัว) เมื่อจะถึงที่ประทับห่างพอประมาณ ถวายความเคารพตามเพศ (คานับ – ถอน
สายบัว)
การทูลเกล้าฯ ถวายของและการรับพระราชทานของ
ต่อไป
แล้วย่อตัวลง โดยก้าวเท้าขวาไปข้างหน้า เข่าซ้ายลงจรดพื้นแล้วยกพานภาชนะที่รองรับสิ่งของนั้น ๆ ทูลเกล้า
ฯ ถวายเมื่อทรงหยิบของในพานแล้ว ให้ลุกขึ้นถือภาชนะหรือพานลดต่าพร้อมกับถอยเท้าขวากลับถวายความ
เคารพแล้วเดินถอยหลังไป 3-4 ก้าว ถวายความเคารพแล้วลับไปยืนหรือนั่งเฝ้ าฯ ที่เดิม ส่วนพัสดุ สิ่งของ หรือ
สิ่งใดก็ตามที่ยกถือเชิญไม่ได้เพราะเป็นของหนักหรือสิ่งมีชีวิตเรียกว่าน้อมเกล้าฯถวาย การน้อมเกล้าฯถวาย
สิ่งของที่จะยกเชิญไม่ได้ เพราะเป็นของหนักหรือสิ่งมีชีวิต ส่วนมากจะทาเป็นเอกสาร
ต่อไปกลับหน้าเดิม
-การรับพระราชทานสิ่งของ ผู้รับจะต้องใช้มือขวาโดยวิธีการ“เอางาน” คือ ยกมือไม่กางข้อศอกมือตั้ง ยก
ข้อมือขึ้น 1 ครั้ง แล้วหงายมือรับพระราชทานของ ถ้ารับพระราชทานของที่เป็นของเบาให้รับมือเดียว แต่ถ้าเป็นของหนัก
ให้ยกมือขวาเอางานก่อนแล้วจึงรีบยกมือซ้ายขึ้นมาช่วยรับ ผู้ชาย เดินเข้าไปห่างพอประมาณ ถวายความเคารพ (ถวาย
คานับ) ย่อตัวลงโดยก้าวเท้าขวาไปข้างหน้าคุกเข่าซ้าย ยกมือขวาเอางานแล้วรับพระราชทานของ เสร็จแล้วถอนเท้าขวา
พร้อมกับลุกขึ้นยืนตรงถวายความเคารพ ถอยหลังออกผู้หญิง เดินเข้าไปห่างพอประมาณ ถวายความเคารพ (ถอนสายบัว
แบบพระราชนิยม) แล้วยืนตรง ก้าวเท้าขวาไปข้างหน้า คุกเข่าซ้าย ยกมือขวาเอางาน แล้วรับพระราชทานของ เสร็จแล้ว
ถอยเท้าขวาพร้อมกับลุกขึ้นยืนถวายความเคารพ ถอยหลังออก
กลับหน้าหลักกลับหน้าเดิม
การประเคนของแด่พระสงฆ์และการรับของจากพระสงฆ์
-การประเคนของแด่พระสงฆ์ หมายถึง การถวายของโดยส่งให้ตามวิธีการทางพระวินัย การ
ประเคนของแด่พระสงฆ์ ถ้าเป็นของที่พอยกได้ใช้ 2 มือยกแล้วประเคนในระยะหัตถบาส ถ้าเป็นของใหญ่เกิน
กว่าที่จะยกได้ เช่น เรือ รถ หรือกุฎีก็ไม่ต้องยกเพียบกล่าวคาถวายหรือถวายเอกสารประกอบสิ่งของนั้นก็พอ
แล้ว วิธีการประเคนของ ชายและหญิงปฏิบัติดังนี้คือ ถ้าพระสงฆ์นั่งกับพื้นถือของเดินเข่าเข้าไปได้ระยะหัตถ
บาส แล้วยกของขึ้นประเคน ผู้ชายจะประเคนของแด่พระสงฆ์ในลักษณะมือต่อมือได้เลย ผู้หญิงจะต้องวางบน
ผ้าที่พระสงฆ์ทอดออกมา จะไหว้หรือกราบแล้วแต่กาลเทศะ ถอยโดยวิธีเดินเข่า
ต่อไป
เมื่อห่างพอประมาณค่อยลุขึ้นหันตัวกลับ ในกรณีพระสงฆ์นั่งบนเก้าอี้หรืออาสน์สงฆ์ไม่ต้องเดินเข่า แต่เข้าไปให้ได้
ระยะหัตถบาส และประเคนตามวิธีดังกล่าวข้างต้น ถ้ามีของถวายหลายอย่าง ควรประเคนทีละอย่าง แต่ถ้ามีถาด
หรือภาชนะใส่ไว้แล้วก็ประเคนทั้งถาดหรือภาชนะได้ แต่ไม่ควรยกโต๊ะอาหารประเคนทั้งโต๊ะ เพราะเป็นของใหญ่
หรือหนักเกินประมาณ ซึ่งผิดพระวินัย (คาว่า หัตถบาส แปลว่า “บ่วงมือ” หมายถึง ระยะระหว่างผู้รับประเคนและ
ผู้ถวายไม่เกิน 1 ศอก)
ต่อไปกลับหน้าเดิม
-การรับของจากพระสงฆ์ ชายและหญิงปฏิบัติดังนี้คือ ก่อนรับของให้เข้าไปใกล้ในระยะ
พอสมควร แล้วแสดงความเคารพจะกราบหรือไหว้สุดแต่กาละ ของเบา ชายยื่นมือขวารับ ของหนัก ยื่น
สองมือรับแล้วถอยกลับ ส่วนหญิง พระจะวางของไว้ตรงหน้า ของเบาให้เอื้อมมือขวาไปหยิบด้วยอาการ
นอบน้อม สารวม ของหนักให้ยกทั้งสองมือแล้วถอยกลับ
การแสดงกิริยาอาการคือ ส่วนต่างๆของร่างกายที่แสดงกิริยาอาการให้มีผลต่อการสื่อความหมายที่
สาคัญๆ มีศรีษะ ดวงตา หน้า ไหล่ แขน มือ นิ้ว ลาตัว ขา มีหลักกว้าๆ พอจะบอกได้ว่ากิริยาอาการเป็น
ปัจจัยช่วยสื่อความหมายให้สัมฤทธิผลหรือเป็นอุปสรรคต่อการสื่อความหมาย
ต่อไปกลับหน้าเดิม
-การทรงตัว การทรงตัวที่ดีต้องอยู่ในอาการสุมดุลไม่ฝืนธรรมชาติขณะที่ยืนควรปล่อยน้าหนักให้
ตกลงบนขาทั้ง 2 ข้างเท่าๆกัน ในท่านั่งพูดไม่ควรปล่อยให้น้าหนักตัวตกอยู่ที่กลางหลังเพราท่านี้จะไม่
ช่วยให้ทรวงอกขยายตัวได้สะดวกในขณะที่เปล่งเสียงพูดแขนช่วงบนต้องไม่กดชิดลาตัวตลอดเวลา
เพราะท่านี้จะทาให้ทรวงอกอึดอัดโดยไม่รู้ตัว ท่านั่งตามปกติที่ช่วยให้ทรงตัวดีที่สุดคือ นั่งลาตัวตรง ถ้า
มีโต๊ะอยู่ด้านหน้าควรวางข้อศอกไว้บนโต๊ะ อาจโน้มตัวไปข้างหน้าได้เล็กน้อย
ต่อไปกลับหน้าเดิม
จังหวะในการแสดงกิริยาอาการ การแสดงกิริยาอาการไม่ว่าจะโดยอาการใช้มือแขน ศรีษะ การแสดงออกทาง
สีหน้าและแววตา และการเคลื่อนไหวลาตัว จะช่วยเน้นคาพูดหรือเสริมคาพูดให้เป็นที่เข้าใจแจ่มชัดขึ้น ควร
จะแสดงออกในทันทีทันใดก่อนเปล่งคาพูด แต่อย่าเกินงามควรแสดงออกแต่พอดีไม่ควรเล่นหูเล่นตา หรือ
หยอกล้อผู้ใหญ่จนเกินงามมีความสุภาพอ่อนโยนงดงาม
กลับหน้าหลักกลับหน้าเดิม
การรับประทานอาหาร
แบบตั้งโต๊ะ แบบตักเอง
สารบัญ
การรับประทานอาหารแบบตั้งโต๊ะควรปฎิบัติดังนี้
1. ถ้าไปในงานไม่ได้ ก็ควรแจ้งให้เจ้าภาพทราบล่วงหน้า เพื่อเจ้าภาพจะได้รู้จานวนแขกที่มาในงาน แต่โดยทั่วไป
ควรจะบอกก่อนวันงานไม่ว่าจะไปได้หรือไม่ก็ตาม
2. ตระเตรียมเครื่องแต่งตัวไปในงานให้พร้อม
3. ควรจะไปก่อนงานเริ่มสัก ๑๐ นาที ไม่ควรไปเร็วหรือช้ากว่านั้น เพราะจะทาให้เจ้าภาพลาบากใจ
4. ควรทักทายพบปะกับเจ้าภาพเมื่อไปถึงในงาน แม้เจ้าภาพจะยุ่งอยู่กับการต้อนรับคนอื่น เราก็ควรหาโอกาสไป
ทักทายในภายหลัง
ต่อไป
5. ควรพยามยามพูดคุยทักทายกับแขกคนอื่น ๆ ที่มาในงาน แม้ไม่ใช่เพื่อนของเรา ถ้าถูกแนะนาให้รู้จักกับใคร ก็
ควรจะพูดคุยกับคนนั้นหากไม่มีใครแนะนาก็ควรพูดคุยกับคนใกล้เราที่สุด
6. เวลาที่นั่งโต๊ะ ควรให้แขกผู้ใหญ่นั่งก่อน แล้วเราค่อยนั่งตาม สามี ภรรยา ไม่ควรนั่งโต๊ะติดกัน
7. เวลาเดินเข้าประจาโต๊ะ สุภาพบุรุษควรช่วยเหลือสุภาพสตรีที่นั่งข้าง ๆ ให้นั่งก่อนโดยการยกเก้าอี้เลื่อนให้
เล็กน้อย สุภาพสตรีนั่งแล้วสุภาพบุรุษจึงค่อยนั่งตาม โดยสุภาพสตรีต้องนั่งทางขวาของสุภาพบุรุษ
8. ก่อนนั่งโต๊ะควรงดสูบบุหรี่ แม้นั่งโต๊ะเรียบร้อยแล้วก็ไม่ควรสูบ เพราะมีสุภาพสตรีนั่งอยู่ข้างๆ
9. นั่งโต๊ะต้องนั่งตัวตรง อย่านั่งพิงเก้าอี้เอนหลัง หรือค่อมหลังจนตัวงอ อย่านั่งชิด หรือห่างจากเก้าอี้หรือเอา
เท้าวางบนเก้าอี้เอาศอกวางบนโต๊ะ
10. อย่าอ่านหนังสือใดๆ บนโต๊ะอาหารนอกจากรายการอาหาร
กลับหน้าเดิม ต่อไป
11. ผ้าเช็ดมือคลี่วางบนตัก
12. อย่าเล่นช้อน ส้อมหรือผ้าเช็ดมือ
13. อย่ากางข้อศอกในเวลารับประทานอาหารศอกต้องแนบตัว
14. ถ้ามีสิ่งใดตก ไม่ต้องเก็บ ควรแจ้งให้คนเสริฟทราบ
15. เวลานั่งโต๊ะ คอยสังเกตให้ดีว่าอันไหนเป็นของเราหรือเป็นของคนอื่น อย่าหยิบผิด
16. เวลารับประทานอาหารอย่าจับหรือแต่งผม แต่งหน้า ทาปาก
17. ช่วยเหลือเพื่อนร่วมโต๊ะตามสมควร
กลับหน้าเดิม ต่อไป
18. อย่าเอื้อมหยิบของผ่านหน้าผู้อื่นแต่ถ้าเพื่อนร่วมโต๊ะส่งให้ ก็ควรขอบคุณในไมตรีจิตของเขา
19. อย่าทาอะไรตกจากโต๊ะอาหารแต่ถ้าตกแล้วก็ขอใหม่ อย่าเก็บของเก่า
20. หากทาอะไรผิดก็ปล่อยเลยตามเลยไม่ต้องแก้ตัว
21. ดื่มน้าด้วยมือขวา
22. อย่าจิ้มฟันในขณะรับประทานอาหาร ถ้าจาเป็นควรใช้มือป้ อง
23. รับประทานอาหารเสร็จควรรวบช้อนส้อมไว้คู่กัน เขาจะได้รู้ว่าอิ่มแล้ว
24. ลุกจากโต๊ะเมื่อคนอื่นๆ อิ่มแล้ว
กลับหน้าหลักกลับหน้าเดิม
การรับประทานอาหารแบบตักเอง หรือที่เรียกว่าบุฟเฟ่ ห์ ควรปฏิบัติดังนี้
1. ไม่ควรตักก่อนที่เจ้าภาพจะเชิญ
2. ไม่ควรตักอาหารจนล้นชามแล้วรับประทานไม่หมด
3. ไม่ควรตักของหวานหรือผลไม้เกินกว่าที่ตนจะรับประทานได้
4. เมื่อต้องการอาหารเพิ่มเติม ต้องใช้ช้อนกลางไม่ควรใช้ช้อนของตนตักอาหาร
5. เมื่อตนตักอาหารชนิดใดแล้วต้องให้โอกาสคนอื่นเข้าได้ตักบ้างไม่ควรยืนปักหลักอยู่ที่โต๊ะ
6. ไม่ควรลุกไปตักอาหารพร่าเพรื่อจนเกินควร
7. รับประทานอาหารที่ตักมาให้หมด ไม่ควรเหลือทิ้งไว้บนจานมาก
8. เมื่อรับประทานอาหารเสร็จควรรวบช้อนส้อมเข้าคู่ด้วยกัน
9. เมื่อจะกลับควรลาเจ้าภาพและกล่าวคาขอบคุณ
กลับหน้าหลัก
การทักทาย
เมื่อคุณเป็นแขก เมื่อคุณเป็นผู้ที่แขกต้องการพบ
การแนะนาตัว การสนทนา
สารบัญ
เมื่อคุณเป็นแขก ต้องตรงต่อเวลาทุกครั้ง (ในกรณีฉุกเฉินต้องโทรศัพท์ แจ้งผู้ที่เรานัดให้ทราบล่วงหน้า)
ตามปกติ คนทางานมักมีนัดหมายอื่นๆอีก ดังนั้น ย่อมต้องการเวลาที่กาหนดอย่างเคร่งครัด เมื่อไปถึงสถานที่
ให้แสดงนามบัตร พร้อมแนะนาตัว ชื่อ และบริษัทที่ทางานแก่พนักงานต้อนรับด้านหน้าพร้อมกับแจ้งความ
ประสงค์ ถ้าหากผู้ที่ต้องการพบยังไม่ว่าง และพนักงานต้อนรับเชื้อเชิญคุณนั่งคุณอาจวางกระเป๋ าเอกสารไว้บน
พื้นหรือบน ตัก แล้วอ่านหนังสือหรือจดโน๊ตรอก็ได้
ต่อไป
ข้อสาคัญ จงอย่าไปยุ่มย่ามกับงานของพนักงานต้อนรับหรือหยิบเอกสารผู้อื่นมาดู เมื่อได้เข้าไป
พบกับบุคคลเป้ าหมายแล้ว อย่าลืมทักทายด้วยการกล่าว“สวัสดี” ก่อน พร้อมทั้งแนะนาตัวด้วย
ถ้าหากว่าพนักงานต้อนรับสักครู่ไม่ได้แนะนาไว้ ในกรณีกลับกัน หากคุณมีแขกมาเยือนถึงที่
ทางาน และมีโทรศัพท์ถึงคุณ คุณน่าจะต่อโทรศัพท์กลับทีหลังดีกว่า ทว่าถ้าเป็นเรื่องสาคัญ ก็ขอ
โทษและรีบสรุปการเจรจาโดยเร็ว เช่นเดียวกับเวลาที่คุณไปพบคนอื่นแล้วมีโทรศัพท์เข้าคุณควร
เสนอตัวออกไปรอข้างนอกชั่วขณะ การเข้าพบใดๆ ไม่ควรอยู่นาน และขากลับอย่าลืมขอบคุณ
พนักงานต้อนรับด้วย
ต่อไปกลับหน้าเดิม
เมื่อคุณเป็นผู้ที่แขกต้องการพบ ไม่ควรปล่อยให้เขารอนานเกินความจาเป็น แนะนาตนเองในกรณีที่
เขายังไม่รู้จัก หรือหากคุณยังไม่พร้อมที่จะให้เข้าพบก็ควรเชิญไปที่ห้องรับแขก ซึ่งเพียบพร้อมด้วยหนังสือพิมพ์
วารสาร และที่เขี่ยบุหรี่ตามห้องรับแขกใหญ่ๆ ในต่างประเทศ จะไม่มีการเสิร์ฟเครื่องดื่ม ยกเว้นแต่จะมีเครื่องชง
กาแฟ ทว่าในเมืองไทยผู้ที่มาเยือนมักได้รับการเสนอว่าต้องการเครื่องดื่มอะไรชา กาแฟ หรือน้าเย็น ผู้ทาหน้าที่
เป็นเลขาฯหรือมีหน้าที่ในการคัดเลือกบุคคลภายนอกที่ต้องการพบ พนักงานระดับสูงในบริษัทนั้นบางทีอาจ
พบว่าแขกที่มาไม่ได้เปิดเผยตนเอง ก็จงถามชื่อและประเภทธุรกิจของเขา
ต่อไป
หรือในกรณีที่เจ้านายยังวุ่นอยู่กับงานก็ควรนัดหมายเสียใหม่จะเหมาะสมกว่าหากเจ้านายไม่อยากพบหน้าคุณต้องหาวิธี
หลีกเลี่ยงอย่างมิให้เสียน้าใจต่อผู้มาเยือนและภาพพจน์ของเจ้านาย เช่น คุณอาจแจ้งต่อเขาว่า ช่วงนี้เจ้านายคุณคิวเต็ม
เหยียด ทั้งเรื่องงานและกาหนดนัดหมายอื่นๆ ในกรณีที่แขกมาเยือนเยิ่นเย้อจะมีผลกระทบต่อนัดหมายอื่นหรืองาน
ประจา เลขานุการ หรือพนักงานต้อนรับควรเคาะประตูเข้าไปบอก ว่าถึงเวลาอีกนัดหนึ่งแล้ว เท่ากับแจ้งเป็นนัยๆต่อแขก
ว่าถึงเวลาต้องกลับเสียที ปัญหาอันเนื่องมาจากแขกผู้มาเยือนจริงๆแล้วโอกาสที่เกิดขึ้นคงไม่บ่อยนักแต่ก็เป็นได้เมื่อแขก
ไม่ได้ดังความประสงค์อาจเกิดอารมณ์โกรธและเอะอะขึ้น ถ้าบริษัทจ้างยามหรือหน่วยรักษาความปลอดภัย ก็จงแจ้งขอ
ความช่วยเหลือจากเขา หรือหากไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย คุณต้องร้องขอให้บุคคลที่ 3 มาร่วมในเหตุการณ์ เพื่อ
เป็นประจักษ์พยานป้ องกันแขก มิให้นาเรื่องราวไปบิดเบือน จนกลายเป็นความเสื่อมเสียต่อทั้งคุณและบริษัท
กลับหน้าหลักกลับหน้าเดิม
การแนะนาตัว การแนะนาตัวนั้น จะว่าง่ายก็ไม่เชิง จะว่ายากก็ไม่ใช่ กฏระเบียบทางสังคมเป็นสิ่งที่
ควรเรียนรู้ เพื่อจะได้ปฏิบัติตามอย่างถูกต้อง หน้าไม่แตก สิ่งสาคัญขิงการแนะนาตัว คือ ชื่อ ตาแหน่ง ยศ
หรือข้อมูลใดๆที่สาคัญ อันเป็นการอธิบายบุคคลผู้ถูกแนะนาให้เป็นที่รู้จักกันได้ง่ายขึ้น
ตัวอย่างง่ายๆสาหรับการแนะนาตัว มีดังนี้
1. ควรแนะนาตนเองทันที เมื่อเห็นว่าผู้อื่นจาชื่อคุณไม่ได้
2. ใช้การแนะนาตัวว่า “สวัสดี” ในตอนพบปะและอาลา
3. เมื่อคุณต้องแนะนาผู้อื่นต่ออีกบุคคลหนึ่ง อย่าลืมว่าต้องเอ่ยถึงผู้ที่มียศศักดิ์ก่อนเช่น “ท่าน ผอ.ฉัตรชัย
นี่คุณนวลเนียนพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ของบริษัทครับ”
กลับหน้าหลัก
การสนทนา การพูดกับผู้อื่นหรือการสนทนากันในสังคมมีความสาคัญมาก การสนทนาเป็นการพูดกับผู้อื่น
แตกต่างไปจากการพูดคนเดียว คือ การสนทนาย่อมมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน มีการพูดจาระหว่างบุคคล
ซึ่งอาจมากกว่าสองคน ดังนั้น มารยาทในการสนทนาพึงปฏิบัติดังนี้
1. ควรใช้คาพูดที่สุภาพอ่อนน้อม
2. ในการพูดถึงบุคคลอื่นๆ ไม่ควรหยิบยกเอาความบกพร่องเสียหายของบุคคลนั้นๆขึ้นมาวิพากษ์วิจารณ์
โดยการดูถูกดูแคลน หรือเยาะเย้ยเสียดสีผู้นั้น
3. ไม่พูดไร้สาระ หรือพูดพล่อยจับใจความไม่ได้
4. ไม่พูดสอดแทรกขณะที่มีการสนทนาเป็นกลุ่มนั้น
5. ไม่พูดเสียงดังในสถานที่ต้องการความเงียบสงบ
ต่อไป
6. ไม่กล่าวถึงสิ่งโสโครกพึงรังเกียจในท่ามกลางประชุมชน
7. ไม่พูดเปรียบเปรยเคาะแคะสตรีกลางประชุม
8. ไม่กล่าวถึงสิ่งควรปิดบังท่ามกลางประชุมชน
9. ไม่ขอแยกผู้หนึ่งมาจากผู้ใด เพื่อจะพาไปพูดจาความลับกัน
10. ไม่กล่าวถึงความชั่วร้าย อันเป็นความลับเฉพาะบุคคลในที่แจ้ง
11. ไม่เก็บเอาความลับของผู้หนึ่งมาเที่ยวพูดแก่ผู้อื่น
12. ไม่พูดสับปลับกลับกลอกตลบตะแลง
13. ไม่รับวาจาคล่องๆ โดยไม่ได้เห็นว่าการจะเป็นไปได้หรือไม่ ดังนั้นต้องใคร่ครวญให้แน่แก่ใจก่อนจึงรับคาหรือ
จึงปฏิญญา ไม่ใช่ทาแต่สักว่าพูดโพล่งโดยไม่ได้คานึงให้แน่ชัดว่าจะทาได้หรือไม่
ต่อไปกลับหน้าเดิม
14. เมื่อตนทาพลาดพลั้งสิ่งใด แก่บุคคลผู้ใด ควรออกวาจาขอโทษเสมอ
15. เมื่อผู้ใดได้แสดงคุณต่อตนอย่างไรควรออกวาจาขอบคุณเขาเสมอ
16. ไม่กล่าวสรรเสริญรูปกายบุคคลแก่ตัวเขาเอง
17. ไม่ทักถึงการร้ายโดยพลุ่งโพล่งให้เขาตกใจ
18. ไม่ทักถึงสิ่งอันน่าอายน่ากระดากโดยเปิดเผย
19. ไม่เอาสิ่งที่น่าจะอายจะกระดากมาเล่าให้แขกฟัง
20. ไม่กล่าวถึงการอัปมงคลในเวลามงคล
21. ไม่ใช้วาจาอันข่มขี่
22. ไม่สนทนาแต่เรื่องตนถ่ายเดียว จนคนอื่นไม่มีช่องจะสนทนาเรื่องอื่นได้
ต่อไป
23. ไม่นาธุระตนเข้ากล่าวแทรกในเวลาธุระอื่นของเขาชุลมุน
24. ไม่กล่าววาจาติเตียนของที่เขาหยิบยกให้ว่าไม่ดีหรือไม่พอ
25. ไม่ใช้วาจาอันโอ้อวดตนและลบหลู่ผู้อื่น
26. ไม่เอาการในบ้านของผู้ใดมาแสดงในที่แจ้ง
27. ไม่ใช้คาสบถติดปาก
28. ไม่ใช้ถ้อยคามุสา
29. ไม่นินทาว่าร้ายกันและกัน
30. ไม่พูดส่อเสียดยุยงให้เขาแตกร้าวกัน
31. ไม่เป็นผู้สอพลอประจบประแจง
32. ไม่แช่งชักให้ร้ายผู้ใด
ต่อไปกลับหน้าเดิม
ที่มา
http://ratthikan.wordpress.com/2013/05/29/มารยาทไทย
ผู้จัดทา
จัดทาโดย
1.นายศุภกฤต ไชยวงค์ เลขที่ 16
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่6/3
ต่อไป
2.นายเอกรัฐ สัมภวมาน เลขที่ 34
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่6/3
สารบัญ

More Related Content

What's hot

แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 6 การแพร่
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 6 การแพร่แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 6 การแพร่
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 6 การแพร่Wann Rattiya
 
ปฏิบัติการอินดิเคเตอร์จากธรรมชาติ
ปฏิบัติการอินดิเคเตอร์จากธรรมชาติปฏิบัติการอินดิเคเตอร์จากธรรมชาติ
ปฏิบัติการอินดิเคเตอร์จากธรรมชาติPhakawat Owat
 
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาประวัติศาสตร์ ม.1 หน่วยที่ 1
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาประวัติศาสตร์ ม.1 หน่วยที่ 1แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาประวัติศาสตร์ ม.1 หน่วยที่ 1
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาประวัติศาสตร์ ม.1 หน่วยที่ 1Sokoy_jj
 
6แบบทดสอบการลำเลียงสารผ่านเซลล์
6แบบทดสอบการลำเลียงสารผ่านเซลล์6แบบทดสอบการลำเลียงสารผ่านเซลล์
6แบบทดสอบการลำเลียงสารผ่านเซลล์สำเร็จ นางสีคุณ
 
พิธีเปิด ปิด กิจกรรมยุวกาชาด-เอกสาร56
พิธีเปิด ปิด กิจกรรมยุวกาชาด-เอกสาร56พิธีเปิด ปิด กิจกรรมยุวกาชาด-เอกสาร56
พิธีเปิด ปิด กิจกรรมยุวกาชาด-เอกสาร56Jariya Jaiyot
 
การศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอด
การศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอดการศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอด
การศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอดpitsanu duangkartok
 
โครงงานไอเอส1
โครงงานไอเอส1โครงงานไอเอส1
โครงงานไอเอส1Ocean'Funny Haha
 
1 รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์2557 สำรวจแมงมุม ศพว
1 รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์2557 สำรวจแมงมุม ศพว1 รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์2557 สำรวจแมงมุม ศพว
1 รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์2557 สำรวจแมงมุม ศพวSircom Smarnbua
 
ใบงานหน่วยที่ 4 สหกรณ์
ใบงานหน่วยที่ 4 สหกรณ์ใบงานหน่วยที่ 4 สหกรณ์
ใบงานหน่วยที่ 4 สหกรณ์Pazalulla Ing Chelsea
 
ชุดการสอนวิชาสุขศึกษา เรื่องการปฐมพยาบาล ชั้น ป.5
ชุดการสอนวิชาสุขศึกษา เรื่องการปฐมพยาบาล  ชั้น ป.5ชุดการสอนวิชาสุขศึกษา เรื่องการปฐมพยาบาล  ชั้น ป.5
ชุดการสอนวิชาสุขศึกษา เรื่องการปฐมพยาบาล ชั้น ป.5sripayom
 
การฝึกวิ่ง
การฝึกวิ่งการฝึกวิ่ง
การฝึกวิ่งCh Khankluay
 
แผนการจัดกิจกรรมผู้บำเพ็ญประโยชน์
แผนการจัดกิจกรรมผู้บำเพ็ญประโยชน์แผนการจัดกิจกรรมผู้บำเพ็ญประโยชน์
แผนการจัดกิจกรรมผู้บำเพ็ญประโยชน์Wichai Likitponrak
 
เงื่อนลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่
เงื่อนลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่เงื่อนลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่
เงื่อนลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่Sopa
 
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 7 การออสโมซิส
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 7 การออสโมซิสแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 7 การออสโมซิส
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 7 การออสโมซิสWann Rattiya
 
วิจัยในชั้นเรียนวิจัยในชั้นเรียนชั้นม.2
วิจัยในชั้นเรียนวิจัยในชั้นเรียนชั้นม.2วิจัยในชั้นเรียนวิจัยในชั้นเรียนชั้นม.2
วิจัยในชั้นเรียนวิจัยในชั้นเรียนชั้นม.2sarawut chaicharoen
 
โครงร่างโครงงานพฤติกรรมสุนัข
โครงร่างโครงงานพฤติกรรมสุนัขโครงร่างโครงงานพฤติกรรมสุนัข
โครงร่างโครงงานพฤติกรรมสุนัขApinya2701
 
ตัวอย่างโครงงานชนะเลิศ
ตัวอย่างโครงงานชนะเลิศตัวอย่างโครงงานชนะเลิศ
ตัวอย่างโครงงานชนะเลิศsariya25
 

What's hot (20)

แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 6 การแพร่
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 6 การแพร่แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 6 การแพร่
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 6 การแพร่
 
ของเล่นทำให้เกิดเสียง
ของเล่นทำให้เกิดเสียงของเล่นทำให้เกิดเสียง
ของเล่นทำให้เกิดเสียง
 
โครงงาน1 - 5
โครงงาน1 - 5          โครงงาน1 - 5
โครงงาน1 - 5
 
ปฏิบัติการอินดิเคเตอร์จากธรรมชาติ
ปฏิบัติการอินดิเคเตอร์จากธรรมชาติปฏิบัติการอินดิเคเตอร์จากธรรมชาติ
ปฏิบัติการอินดิเคเตอร์จากธรรมชาติ
 
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาประวัติศาสตร์ ม.1 หน่วยที่ 1
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาประวัติศาสตร์ ม.1 หน่วยที่ 1แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาประวัติศาสตร์ ม.1 หน่วยที่ 1
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาประวัติศาสตร์ ม.1 หน่วยที่ 1
 
6แบบทดสอบการลำเลียงสารผ่านเซลล์
6แบบทดสอบการลำเลียงสารผ่านเซลล์6แบบทดสอบการลำเลียงสารผ่านเซลล์
6แบบทดสอบการลำเลียงสารผ่านเซลล์
 
พิธีเปิด ปิด กิจกรรมยุวกาชาด-เอกสาร56
พิธีเปิด ปิด กิจกรรมยุวกาชาด-เอกสาร56พิธีเปิด ปิด กิจกรรมยุวกาชาด-เอกสาร56
พิธีเปิด ปิด กิจกรรมยุวกาชาด-เอกสาร56
 
การศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอด
การศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอดการศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอด
การศึกษาโครงสร้างของหัวใจหมู โครงสร้างอวัยวะแลกเปลี่ยนแก๊ส และการวัดปริมาตรปอด
 
โครงงานไอเอส1
โครงงานไอเอส1โครงงานไอเอส1
โครงงานไอเอส1
 
1 รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์2557 สำรวจแมงมุม ศพว
1 รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์2557 สำรวจแมงมุม ศพว1 รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์2557 สำรวจแมงมุม ศพว
1 รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์2557 สำรวจแมงมุม ศพว
 
ใบงานหน่วยที่ 4 สหกรณ์
ใบงานหน่วยที่ 4 สหกรณ์ใบงานหน่วยที่ 4 สหกรณ์
ใบงานหน่วยที่ 4 สหกรณ์
 
ชุดการสอนวิชาสุขศึกษา เรื่องการปฐมพยาบาล ชั้น ป.5
ชุดการสอนวิชาสุขศึกษา เรื่องการปฐมพยาบาล  ชั้น ป.5ชุดการสอนวิชาสุขศึกษา เรื่องการปฐมพยาบาล  ชั้น ป.5
ชุดการสอนวิชาสุขศึกษา เรื่องการปฐมพยาบาล ชั้น ป.5
 
การฝึกวิ่ง
การฝึกวิ่งการฝึกวิ่ง
การฝึกวิ่ง
 
แผนการจัดกิจกรรมผู้บำเพ็ญประโยชน์
แผนการจัดกิจกรรมผู้บำเพ็ญประโยชน์แผนการจัดกิจกรรมผู้บำเพ็ญประโยชน์
แผนการจัดกิจกรรมผู้บำเพ็ญประโยชน์
 
เงื่อนลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่
เงื่อนลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่เงื่อนลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่
เงื่อนลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่
 
วัฒนธรรมไทย
วัฒนธรรมไทยวัฒนธรรมไทย
วัฒนธรรมไทย
 
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 7 การออสโมซิส
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 7 การออสโมซิสแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 7 การออสโมซิส
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 7 การออสโมซิส
 
วิจัยในชั้นเรียนวิจัยในชั้นเรียนชั้นม.2
วิจัยในชั้นเรียนวิจัยในชั้นเรียนชั้นม.2วิจัยในชั้นเรียนวิจัยในชั้นเรียนชั้นม.2
วิจัยในชั้นเรียนวิจัยในชั้นเรียนชั้นม.2
 
โครงร่างโครงงานพฤติกรรมสุนัข
โครงร่างโครงงานพฤติกรรมสุนัขโครงร่างโครงงานพฤติกรรมสุนัข
โครงร่างโครงงานพฤติกรรมสุนัข
 
ตัวอย่างโครงงานชนะเลิศ
ตัวอย่างโครงงานชนะเลิศตัวอย่างโครงงานชนะเลิศ
ตัวอย่างโครงงานชนะเลิศ
 

Similar to มารยาทไทย

ประเด็นปัญหา
ประเด็นปัญหาประเด็นปัญหา
ประเด็นปัญหาsuperglag
 
ประเด็นปัญหา
ประเด็นปัญหาประเด็นปัญหา
ประเด็นปัญหาsuperglag
 
ประเด็นปัญหา
ประเด็นปัญหาประเด็นปัญหา
ประเด็นปัญหาsuperglag
 
โครงการ จิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา
โครงการ จิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเราโครงการ จิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา
โครงการ จิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเราIam Champooh
 
PPT โครงการ จิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา
PPT โครงการ จิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเราPPT โครงการ จิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา
PPT โครงการ จิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเราIam Champooh
 
Dental public meeting Holiday Inn
Dental public meeting Holiday Inn Dental public meeting Holiday Inn
Dental public meeting Holiday Inn Jitty Chanprasit
 
Identity & wisdom for otop product design
Identity & wisdom for otop product designIdentity & wisdom for otop product design
Identity & wisdom for otop product designNalinee Thongthae
 
วัฒนธรรม
วัฒนธรรมวัฒนธรรม
วัฒนธรรมthnaporn999
 
ลอยกระทง
ลอยกระทงลอยกระทง
ลอยกระทงWanida Surit
 
โครงการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วมรวม
โครงการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วมรวมโครงการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วมรวม
โครงการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วมรวมJustarn Pd
 
การพัฒนาอย่างยั่งยืน2
การพัฒนาอย่างยั่งยืน2การพัฒนาอย่างยั่งยืน2
การพัฒนาอย่างยั่งยืน20866589628
 
การพัฒนาอย่างยั่งยืน2
การพัฒนาอย่างยั่งยืน2การพัฒนาอย่างยั่งยืน2
การพัฒนาอย่างยั่งยืน20866589628
 
การพัฒนาอย่างยั่งยืน
การพัฒนาอย่างยั่งยืนการพัฒนาอย่างยั่งยืน
การพัฒนาอย่างยั่งยืน0866589628
 
การพัฒนาอย่างยั่งยืน
การพัฒนาอย่างยั่งยืนการพัฒนาอย่างยั่งยืน
การพัฒนาอย่างยั่งยืนSoraya Khamfu
 

Similar to มารยาทไทย (20)

Culture and Consumer Behavior (Ch.3)
Culture and Consumer Behavior (Ch.3)Culture and Consumer Behavior (Ch.3)
Culture and Consumer Behavior (Ch.3)
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่๗
แผนการจัดการเรียนรู้ที่๗แผนการจัดการเรียนรู้ที่๗
แผนการจัดการเรียนรู้ที่๗
 
ประเด็นปัญหา
ประเด็นปัญหาประเด็นปัญหา
ประเด็นปัญหา
 
ประเด็นปัญหา
ประเด็นปัญหาประเด็นปัญหา
ประเด็นปัญหา
 
ประเด็นปัญหา
ประเด็นปัญหาประเด็นปัญหา
ประเด็นปัญหา
 
โครงการ จิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา
โครงการ จิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเราโครงการ จิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา
โครงการ จิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา
 
PPT โครงการ จิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา
PPT โครงการ จิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเราPPT โครงการ จิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา
PPT โครงการ จิตอาสาพัฒนาวัดบ้านเรา
 
Dental public meeting Holiday Inn
Dental public meeting Holiday Inn Dental public meeting Holiday Inn
Dental public meeting Holiday Inn
 
Identity & wisdom for otop product design
Identity & wisdom for otop product designIdentity & wisdom for otop product design
Identity & wisdom for otop product design
 
วัฒนธรรม
วัฒนธรรมวัฒนธรรม
วัฒนธรรม
 
วัฒนธรรม
วัฒนธรรมวัฒนธรรม
วัฒนธรรม
 
กิจการนักเรียน
กิจการนักเรียนกิจการนักเรียน
กิจการนักเรียน
 
ลอยกระทง
ลอยกระทงลอยกระทง
ลอยกระทง
 
จุ๊3
จุ๊3จุ๊3
จุ๊3
 
หน้าที่พลเมือง
หน้าที่พลเมืองหน้าที่พลเมือง
หน้าที่พลเมือง
 
โครงการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วมรวม
โครงการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วมรวมโครงการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วมรวม
โครงการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วมรวม
 
การพัฒนาอย่างยั่งยืน2
การพัฒนาอย่างยั่งยืน2การพัฒนาอย่างยั่งยืน2
การพัฒนาอย่างยั่งยืน2
 
การพัฒนาอย่างยั่งยืน2
การพัฒนาอย่างยั่งยืน2การพัฒนาอย่างยั่งยืน2
การพัฒนาอย่างยั่งยืน2
 
การพัฒนาอย่างยั่งยืน
การพัฒนาอย่างยั่งยืนการพัฒนาอย่างยั่งยืน
การพัฒนาอย่างยั่งยืน
 
การพัฒนาอย่างยั่งยืน
การพัฒนาอย่างยั่งยืนการพัฒนาอย่างยั่งยืน
การพัฒนาอย่างยั่งยืน
 

มารยาทไทย