More Related Content
Similar to โครงร่างงานคอมฝนอัง (20)
More from Sompor Sukaew (8)
โครงร่างงานคอมฝนอัง
- 1. แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง 33202
ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการ สื่อสาร 6
ปีการศึกษา 2557
ชื่อโครงงาน มะเร็งปากมดลูก
ชื่อผ้ทูา โครงงาน
1. นางสาวอังครารักษ์ ไชยเจริญ เลขที่ 24 ชั้น ม.6 ห้อง 9
2. นางสาวสิรินภา ไชยธง เลขที่ 16 ชั้นม.6 ห้อง 9
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน
ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2557
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สา นักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
- 2. ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
1. นางสาวอังครารักษ์ ไชยเจริญ เลขที่ 24 ชัน้ ม.6 ห้อง 9
2. นางสาวสิรินภา ไชยธง เลขที่ 16 ชัน้ม.6 ห้อง 9
คาชีแ้จง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตาม หัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน
มะเร็งปากมดลูก
ประเภทโครงงาน
โครงงานประเภทความรู้
ชื่อผู้ทา
1. นางสาวอังครารักษ์ ไชยเจริญ เลขที่ 24 ชัน้ม.6 ห้อง 9
2. นางสาวสิรินภา ไชยธง เลขที่ 16 ชัน้ม.6 ห้อง 9
ชื่อที่ปรึกษา
ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน
3 พฤศจิกายน 2557 - 28 กุมภาพันธ์ 2558
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน(อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผลของการทาโครงงาน)
เนื่องจากในปัจจุบันจานวนผู้เป็นโรคมะเร็งปากมดลูกมีจานวนเพิ่มขนึ้
ทางผู้จัดทาจึงต้องการรู้สาเหตุที่ทาให้เกิดโรคนีข้นึ้เพื่อหาวิธีป้องกัน
และตรวจสอบความเสี่ยงของโรคมะเร็งปากมดลูก เพื่อลดอัตราเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูกขนึ้
- 3. วัตถุประสงค์
1. เพื่อหาสาเหตุการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูก
2. เพื่อหาวิธีป้องกัน และลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งปากมดลูก
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการ ทาาโครงงาน)
มะเร็งคืออะไร
ร่างกายประกอบด้วยเซลล์เป็นจานวนมาก ปกติเซลล์จะแบ่งตัวตามความต้องการของร่างกาย เช่น
มีการผลิตเม็ดเลือดแดงเพิ่มเมื่อมีการเสียเลือด มีการผลิตเม็ดเลือดข้าวเพิ่มเมื่อมีการติดเชอื้ เป็นต้น
แต่มีเซลล์ที่แบ่งตัวโดยที่ร่างกายไม่สามารถควบคุมได้ทาให้เกิดเป็นเนือ้งอก ซึ่งแบ่งเป็น Benign และ Malignant
Benign tumor คือเนอื้งอกที่ไม่ใช่มะเร็งสามารถตัดออกและไม่กลับเป็นใหม่
และที่สาคัญไม่สามารถแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น เช่น polyps,cyst,wart
Malignant tumor เซลล์จะแบ่งตัวทาลายเนอื้เยื่อและอวัยวะใกล้เคียง
ที่สาคัญสามารถแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นที่อยู่ไกลโดยไปตามกระแสเลือด และนา้เหลืองเรียกว่า Metastasis
โครงสร้างของปากมดลูก
โครงสร้างระบบอวัยวะสืบพันธ์ของคุณสุภาพสตรีประกอบไปด้วยรังไข่
[ovary] ซึ่งต่อกับมดลูกโดยท่อรังไข่ [fallopian
tube] มดลูก[uterus]อยู่ระหว่างทวารหนัก [rectum]
และกระเพาะปัสสาวะ [bladder] มดลูกติดต่อกับช่องคลอด
[vagina] โดยมีปากมดลูก [cervix]
เป็นทางติดต่อระหว่างมดลูกและช่องคลอด
- 4. มะเร็งในระยะเริ่มแรก
เซลล์ที่ประกอบเป็นปากมดลูกจะประกอบไปด้วยเซลล์ squamous cells and glandular
มะเร็งปากมดลูกส่วนใหญ่จะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ทัง้สองชนิด
การเปลี่ยนแปลงของเซล์จะค่อยเปลี่ยนจนเกิดเป็นลักษณะที่เรียกว่า Precancerous ซึ่งมีด้วยกัน คือ cervical intraepithelial
neoplasia (CIN), squamous intraepithelial lesion (SIL), and dysplasia.
Low-grade SIL หมายถึงการเปลี่ยนแปลงเริ่มแรกของ รูปร่าง ขนาด และจานวน
บางครัง้อาจหายไปเองแต่ก็มีจานวนหนึ่งเปลี่ยนไปเป็น High-grade SIL บางครัง้เรียก mild dysplasia
High-grade SILหมายถึงการเปลี่ยนแปลงของเซลล์เยื่อบุมดลูกที่เปลี่ยนไปจากเดิมชัดเจน ถ้าเซลล์อยู่เฉพาะปาดมดลูกเรียก
moderate or severe dysplasia
มะเร็งปากมดลูกส่วนใหญ่เป็นชนิด Squamous cell ประมาณร้อยละ 80%ถึง 90% ส่วนที่เหลือประมาณร้อยละ 20 จะเป็นชนิด
Adenocarcinomas
การเปลี่ยนแปลงจาก Precancerous เป็นมะเร็งใช้เวลาเป็นปี การรักษาตัง้แต่ยังไม่เป็นมะเร็งจะป้องกันมิให้เกิดมะเร็ง
การตรวจมะเร็งแรกเริ่ม
เป้าหมายของการค้นหามะเร็งเริ่มแรกคือการค้นหาการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ ก่อนที่จะเกิดอาการของโรค
การวินิจฉัยมะเร็งปากมดลูกแรกเริ่มโดยมากมาจากการตรวจปากมดลูกประจาปี ในการตรวจภายในแพทย์ จะตรวจ มดลูก
ช่องคลอด ท่อรังไข่ รังไข่ หลังจากนัน้แพทย์จะใช้อุปกรณืถ่างช่องคลอดเพื่อทา pap
smear ช่วงที่เหมาะสมในการตรวจภายในคือ10-20 วันหลังประจาเดือนวันแรก และก่อนการตรวจ 2 วันไม่ควรสวนล้าง ยาฆ่า
sperm หรือยาสอด ปัจจุบันการรายผลจะใช้ Low หรื High grade SIL มากกว่า class1-5
แต่อย่างไรก็ตามควรให้แพทย์อธิบายผลให้ฟังอย่างละเอียด ผู้หญิงวัยเจริญพันธ์ตัง้แต่อายุ 18 ปีขึน้ไปควรตรวจภายในประจาปี
อาการของมะเร็งปากมดลูก
มะเร็งปากมดลูกในระยะเริ่มแรกจะไม่มีอาการอะไร แต่เมื่อเป็นมะเร็งแล้วจะมีอาการเลือดออกหลังจากการตรวจภายใน
หรือหลังร่วมเพศ หรือมีตกขาว
มีเลือดออกผิดปกติ เช่นเลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธุ์ มีเลือดออกหลังจากหมดประจาเดือนแล้ว เลือดออกเป็นระยระยะ
ประจาเดือนมานานผิดปกติ เลือดออกหลังจากตรวจภายใน
- 5. มีอาการตกขาวซึ่งอาจจะมีเลือดปน
มีอาการเจ็บขณะร่วมเพศ
ปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูก
ปัจจัยเสี่ยงหมายถึงการเปลี่ยนแปลงใดใดที่เกิดขึน้แล้วทาให้มีโอกาสเป็นมะเร็งเพิ่มขึน้ มะเร็งแต่ละชนิดจะมีปัจจัยเสี่ยงต่างกัน
ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดมะเร็งปากมดลุกได้แก่
การติดเชอื้ HPV หรือการเป็นหูดที่อวัยวะเพศ เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สาคัญที่สุดของการเกิดมะเร็งปากมดลุก
การสูบบุหรี่ ของการเกิดมะเร็งปากมดลูกเพิ่มขึนสองเท่า
การรับประทานยาคุมกาเนิด
ระบบภูมิคุ้มกันของคุณสุภาพสตรี ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันไม่ดีจะทาให้เกิดโอกาสติดเชอื้ HPV
ได้ง่ายจึงมีโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลุกเพิ่มขึน้
การติดเชอื้ Chlamydia พบว่าผู้ที่ติดเชอื้ Chlamydia ซึ่งเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์จะมีโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลูกสูงขึน้
อาหาร ผู้หญิงที่รับประทานผักและผลไม้น้อยจะมีโอกาสเป็นมะเร็งสูงกว่าคนที่รับประทานผักและผลไม้
ผู้ที่รับประทานยาคุมกาเนิดมาเป็นระยะเวลานานจะมีโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลูก
การมีบุตรหลายคนเชื่อว่าจะทาให้เกิดมะเร็งปากมดลูกเพิ่มขึน้ เชื่อว่าเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางฮอรฺโมนทาให้ติดเชอื้ HPV
ง่าย และขาดการป้องกันการติดเชอื้
ผู้ที่มีเศรษฐานะต่าเนื่องจากเข้าถึงบริการไม่ทั่วถึง
ผู้ที่ได้ยา Diethylstilbestrol (DES) เพื่อป้องกันแท้ง
การวินิจฉัยมะเร็งปากมดลูก
จากการทาการตรวจปากมดลูก pap test ทาให้ทราบว่ามีเซลล์ผิดปกติที่ปากมดลูกแพทย์จะทาการตรวจ Colposcopy
โดยการส่องกล้องแล้วเอา iodine ป้ายบริเวณปากมดลูก เซลล์ปกติจะเป็นสีนา้ตาล
ส่วนเซลล์ผิดปกติจะเป็นสีขาวหลังจากนัน้แพทย์จะเอาชนิ้เนอื้ปากมดลูกไปตรวจซึ่งมีวิธีตรวจต่างๆตามแต่แพทย์จะเห็นสมควร
- 6. วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
1. กาหนดหัวข้อการทาโครงงาน
2. กาหนดขอบเขตการทาโครงงาน
3. ศึกษาและค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับมะเร็งปากมดลูก
4. จัดทาโครงงาน
5. จัดทาเอกสารรายงาน
6. นาเสนอโครงงาน ผ่านโปรแกรม Power Point
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
1. โปรแกรม Microsoft Word 2010
2. โปรแกรม Power Point 2010
3. โปรแกรม Photo Scape
งบประมาณ
-
ขั้นตอนและแผนการดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิด
ชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
1
1
1
2
1
3
1
4
1
5
1
6
17
1 คิดหัวข้อโครงงาน / อังครารักษ์,สิรินภา
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล / / / / อังครารักษ์,สิรินภา
3 จัดทาโครงร่างงาน / / อังครารักษ์,สิรินภา
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน / / / / อังครารักษ์,สิรินภา
5 ปรับปรุงทดสอบ / อังครารักษ์,สิรินภา
6 การทาเอกสารรายงาน / / / อังครารักษ์,สิรินภา
7 ประเมินผลงาน / / อังครารักษ์,สิรินภา
8 นาเสนอโครงงาน / อังครารักษ์,สิรินภา
- 7. ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึน้เมื่อสิ้นสุดการ ทาาโครงงาน)
1. ได้รู้ถึงสาเหตุที่ทาให้เกิดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งปากมดลูก
2. รู้วิธีการป้องกัน และการลดความเสี่ยงของการเกิดโรงมะเร็งปากมดลูก
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
1. กลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาการงานอาชีพ และเทคโนโลยี (คอมพิวเตอร์)
2. กลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ท่นีามาใช้การทา โครงงาน)
1. บทความโรคมะเร็งปากมดลูก จาก
http://www.siamhealth.net/public_html/Disease/cancer/cervixcancer.htm#.VG3PzPmUcxM