More Related Content
Similar to โครงงานคอมพิวเตอร์
Similar to โครงงานคอมพิวเตอร์ (20)
โครงงานคอมพิวเตอร์
- 2. ใบงานที่ 2 ความหมายและความสาคัญของ
โครงงาน
โครงงานคอมพิวเตอร์
>> หมายถึง กิจกรรมกำรเรียนที่นักเรียนมีอิสระในกำรเลือกศึกษำปัญหำที่ตนเองสนใจ โดย
จะต้องวำงแผนกำรดำเนินงำน ศึกษำ พัฒนำโปรแกรม โดยใช้ควำมรู้ทำงกระบวนกำรวิศวกรรมซอฟต์แวร์
เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนทักษะพื้นฐำนในกำรพัฒนำโครงงำน เรื่องที่นักเรียน
สนใจและคิดจะทำโครงงำน ซึ่งอำจมีผู้ศึกษำมำก่อน หรือเป็นเรื่องที่นักพัฒนำโปรแกรมได้เคยค้นคว้ำและ
พัฒนำแล้ว นักเรียนสำมำรถทำโครงงำนเรื่องดังกล่ำวได้แต่ต้องคิดดัดแปลงแนวทำงในกำรศึกษำ กำร
วิเครำะห์ข้อมูล กำรพัฒนำโปรแกรม
- 4. >> ความสาคัญของโครงงาน ในแง่ของกำรเรียนกำรสอน และจัดกิจกรรมเสริมตำมหลักสูต
มัธยมศึกษำตอนต้น พุทธศักรำช 2521 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2533) มีดังนี้
1. ด้านนักเรียน ก่อให้เกิดคุณค่าต่างๆ ดังนี้
1.1 ช่วยสร้ำงควำมหวังใหม่ในกำรริเริ่มงำน ที่จะนำไปสู่อำชีพ และกำรศึกษำต่อ ที่ตนเองมีควำมถนัดและสนใจ
1.2 สร้ำงเสริมประสบกำรณ์จำกกำรปฏิบัติจริง ด้วยชีวิตจริง ส่งผลให้เกิดควำมเข้ำใจอย่ำงซำบซึ้ง ในโครงงำนที่
สร้ำงสรรค์ขึ้นมำ
1.3 ได้มีโอกำสทดสอบควำมถนัดของตนเอง และกำรแก้ปัญหำในกำรงำนที่ตนเองสนใจและมีควำมพร้อม ส่งผล
ให้เกิดควำมมั่นใจในกำรดำเนินงำนต่อไป
1.4 ก่อให้เกิดควำมภำคภูมิใจ ที่ได้สร้ำงเกียรติประวัติในโครงงำนที่ได้ริเริ่มสร้ำงสรรค์
1.5 ก่อให้เกิดควำมรัก ควำมเข้ำใจและควำมสัมพันธ์อันดีงำมต่อกัน ระหว่ำงเพื่อนนักเรียนที่ปฏิบัติงำนเป็นกลุ่ม
1.6 ก่อให้เกิดควำมรู้ทำงวิชำกำรที่กว้ำงขวำงขึ้น โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งได้รับควำมสำเร็จในกำรศึกษำตำมหลักสูตร
และตรงกับจุดหมำยที่กำหนดไว้
- 5. 2.ด้านโรงเรียน และ ครู-อาจารย์ ก่อให้เกิดคุณค่าต่าง ๆ ดังนี้
2.1 เกิดกำรประสำนงำนทำงวิชำกำรที่ผสมผสำน หรือ บูรณกำรเกิดขึ้นในโรงเรียน ตรงกับหลักสูตรมัธยมศึกษำ
และแนวทำงพัฒนำกำรศึกษำของกระทรวงศึกษำธิกำร
2.2 เกิดควำมเข้ำใจที่ตรงกันว่ำ กำรเรียนกำรสอนในปัจจุบันขึ้นอยู่กับกำรฝึกปฏิบัติจริงในโครงงำนของนักเรียน
มำกกว่ำที่จะเรียนอยู่แต่ในห้องเรียนเท่ำนั้น
2.3 เกิดศูนย์รวมสื่อสำรกำรเรียนกำรสอนหรือศูนย์วัสดุ – อุปกรณ์กำรสอนสำหรับในหมวดวิชำต่ำง ๆ ในโรงเรียน
ได้ใช้ร่วมกันส่งผลให้นักเรียนได้มีโอกำสฝึกใช้สื่อกำรสอนอย่ำงแท้จริงและหลำกหลำย
2.4 เกิดควำมสัมพันธ์อันดีระหว่ำงนักเรียน ครู – อำจำรย์ผู้สอนและโรงเรียนอำจำรย์ที่มีโอกำสปฏิบัติงำนอย่ำง
ใกล้ชิดและเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน โดยเฉพำะช่องว่ำงที่ต่ำงกัน
- 6. 3.ด้านท้องถิ่น ก่อให้เกิดคุณค่าต่าง ๆ ดังนี้
3.1 กำรเผยแพร่และประชำสัมพันธ์ควำมรู้ ผลงำนในเชิงปฏิบัติของโครงงำนที่ ประสบผลสำเร็จไปสู่ท้องถิ่น ทำให้
ท้องถิ่นกับโรงเรียนมีควำมเข้ำใจและประสำนสัมพันธ์กันดียิ่ง
3.2 ช่วยลดปัญหำวันรุ่นในท้องถิ่นเกี่ยวกับควำมประพฤติ จรรยำมำรยำทและศีลธรรมเพรำะนักเรียนที่มีโครงงำน
มักจะเป็นนักเรียนที่มีควำมประพฤติดีมุ่งมั่นและสนใจกำรศึกษำเล่ำเรียนเท่ำนั้น
3.3 ทำให้ประชำชนในท้องถิ่นมีพื้นฐำนทำงกำรศึกษำดีโดยเฉพำะงำนอำชีพที่หลำกหลำย และกำรพัฒนำ
กำรศึกษำที่มุ่งเน้นให้เยำวชนของชำติ มีนิสัยรักกำรทำงำนไม่เป็นคนหยิบโหย่งและช่วยเหลือพ่อแม่ผู้ปกครองด้วยดี
ด้วยดี
ขอบคุณที่มำ : http://www.gotoknow.org/posts/314097
- 7. ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
>> ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือที่ใช้ในงำนวิจัยในทุก ๆ สำขำวิชำดังนั้นโครงงำนคอมพิวเตอร์จึงมีควำม
หลำกหลำยเป็นอย่ำงมำกทั้งในลักษณะของเนื้อหำกิจกรรม และลักษณะของประโยชน์หรือผลงำนที่ได้ซึ่ง
อำจแบ่งเป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้5 ประเภท คือ
1. โครงงำนพัฒนำสื่อเพื่อกำรศึกษำ (Educational Media)
2. โครงงำนพัฒนำเครื่องมือ (Tools Development)
3. โครงงำนประเภทจำลองทฤษฎี (Theory Experiment)
4. โครงงำนประเภทกำรประยุกต์ใช้งำน (Application)
5. โครงงำนพัฒนำเกม (Game Development)
- 8. >> ขอบข่ายของโครงงาน
1. เป็นกิจกรรมกำรเรียนให้นักเรียนศึกษำ ค้นคว้ำ ปฏิบัติดัวยตนเองโดยอำศัยหลักวิชำกำรทำงทฤษฎีตำม
เนื้อหำโครงงำนนั้นๆ หรือจำกประสบกำรณ์และกิจกรรมต่ำง ๆ ที่ได้พบเห็นมำกแล้ว
2. นักเรียนทุกคนพิจำรณำจัดทำโครงงำนด้วยตนเอง หรือเป็นกลุ่มโดยใช้ระยะเวลำสั้นๆ เป็นภำคเรียน หรือ
มำกว่ำก็ได้แล้วแต่โครงงำนเล็กหรือใหญ่
3. นักเรียนเป็นผู้พิจำรณำริเริ่มสร้ำงสรรค์ คัดเลือกโครงงำนที่จะศึกษำค้นคว้ำปฏิบัติด้วยตนเองตำมควำมถนัด
สนใจ และควำมพร้อม
4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงำน รำยละเอียดของโครงงำน แผนปฏิบัติงำนและกำรแปลผล รำยงำนผลต่อ
อำจำรย์ที่ปรึกษำ เพื่อดำเนินงำนร่วมกันให้บรรลุตำมจุดหมำยที่กำหนดไว้
5. เป็นโครงงำนที่เหมำะสมกับควำมรู้ ควำมสำมำรถของนักเรียนตำมวัยและสติปัญญำ รวมทั้งกำรใช้จ่ำยเงิน
ดำเนินงำน
- 10. ใบงานที่ 4 โครงงานประเภทการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
>> โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media)
เป็นโครงงำนที่ใช้คอมพิวเตอร์ในกำรผลิตสื่อเพื่อกำรศึกษำโดยกำรสร้ำงโปรแกรมบทเรียน หรือหน่วย
กำรเรียน ซึ่งอำจจะต้องมีภำคแบบฝึกหัดบททบทวน และคำถำมคำตอบไว้พร้อมผู้เรียนสำมำรถเรียนแบบ
รำยบุคคลหรือรำยกลุ่มกำรสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยนี้ ถือว่ำเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์กำรสอน
ไม่ใช่เป็นครูผู้สอน ซึ่งอำจเป็นกำรพัฒนำบทเรียนแบบ Online ให้นักเรียนเข้ำมำศึกษำด้วยตนเองก็ได้
โครงงำนประเภทนี้สำมำรถพัฒนำขึ้นเพื่อใช้ประกอบกำรสอนในวิชำต่ำง ๆไม่ว่ำจะเป็นสำขำ
คอมพิวเตอร์ วิชำคณิตศำสตร์ วิชำวิทยำศำสตร์วิชำสังคมวิชำชีพอื่น ๆ ฯลฯโดยนักเรียนอำจคัดเลือกหัวข้อ
ที่นักเรียนทั่วไปที่ทำควำมเข้ำใจยำกมำเป็นหัวข้อในกำรพัฒนำโปรแกรมบทเรียน ตัวอย่ำงเช่นโปรแกรม
สอนวิธีกำรใช้งำนระบบสุริยะจักรวำล โปรแกรมแบบทดสอบวิชำต่ำงๆ
- 12. ใบงานที่ 5 โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือ
>> โครงงานพัฒนาเครื่องมือ (Tools Development)
เป็นโครงงำนเพื่อพัฒนำเครื่องมือมำใช้ช่วยสร้ำงงำนประยุกต์ต่ำงๆซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นในรูป
ซอฟต์แวร์ ตัวอย่ำงของเครื่องมือช่วยงำน เช่นซอฟต์แวร์วำดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งำน ซอฟต์แวร์ช่วยกำร
มองวัตถุในมุมต่ำง ๆเป็นต้นสำหรับซอฟต์แวร์เพื่อกำรพิมพ์งำนนั้นสร้ำงขึ้นเป็นโปรแกรมประมวลผลภำษำ
ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เรำใช้งำนในงำนพิมพ์ต่ำง ๆบนเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นไปได้โดยง่ำย ซึ่งรูปที่ได้
สำมำรถนำไปใช้งำนต่ำง ๆได้มำกมำย สำหรับซอฟต์แวร์ช่วยในกำรมองวัตถุในมุมต่ำง ๆใช้สำหรับช่วยใน
กำรออกแบบสิ่งของต่ำงๆ เช่น โปรแกรมประเภท 3D
- 14. ใบงานที่ 6 โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี
>> โครงงานประเภทจาลองทฤษฎี (Theory Experiment)
เป็นโครงงำนใช้คอมพิวเตอร์ในกำรจำลองกำรทดลองของสำขำต่ำงๆเป็นโครงงำนที่ผู้ทำต้องศึกษำ
รวบรวมควำมรู้ หลักกำรข้อเท็จจริงและแนวควำมคิดต่ำง ๆ อย่ำงลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องกำรศึกษำแล้วเสนอ
เป็นแนวคิดแบบจำลอง หลักกำร ซึ่งอำจอยู่ในรูปของสมกำร สูตรหรือคำอธิบำยก็ได้พร้อมทั้งนำเสนอ
วิธีกำรจำลองทฤษฎีด้วยคอมพิวเตอร์กำรทำโครงงำนประเภทนี้มีจุดสำคัญอยู่ที่ผู้ทำต้องมีควำมรู้เรื่องนั้น ๆ
เป็นอย่ำงดี ตัวอย่ำง เช่น กำรทดลองเรื่องกำรไหลของเหลวกำรทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลำอโรวำน่ำ
ทฤษฎีกำรแบ่งแยกดีเอ็นเอ เป็นต้น
- 16. ใบงานที่ 7 โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
>> โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน (Application)
เป็นโครงงำนที่ใช้คอมพิวเตอร์ในกำรสร้ำงผลงำนเพื่อประยุกต์ใช้งำนจริงในชีวิตประจำวัน เช่น
ซอฟต์แวร์สำหรับกำรออกแบบและตกแต่งอำคำรซอฟต์แวร์สำหรับกำรผสมสีซอฟต์แวร์สำหรับกำรระบุ
คนร้ำย เป็นต้นโครงงำนงำนประเภทนี้จะมีกำรประดิษฐ์ฮำร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่ำงๆซึ่ง
อำจจะสร้ำงใหม่หรือปรับปรุงดัดแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภำพสูงขึ้นก็ได้โครงงำนลักษณะนี้
จะต้องศึกษำและวิเครำะห์ควำมต้องกำรของผู้ใช้ก่อนแล้วนำข้อมูลที่ได้มำใช้ในกำรออกแบบ และพัฒนำ
สิ่งของนั้น ๆต่อจำกนั้นต้องมีกำรทดสอบกำรทำงำนหรือทดสอบคุณภำพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับปรุง
แก้ไขให้มีควำมสมบูรณ์โครงงำนประเภทนี้นักเรียนต้องใช้ควำมรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ภำษำ
โปรแกรมและเครื่องมือต่ำง ๆ ที่เกี่ยวข้องรวมทั้งอำจใช้วิธีทำงวิศวกรรมฮำร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในกำร
พัฒนำด้วย
- 18. ใบงานที่ 8 โครงงานประเภทการพัฒนาโปรแกรม
ประยุกต์
>> โครงงานประเภทการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
ควำมหมำยโปรแกรมประยุกต์ หรือ ซอฟต์แวร์ประยุกต์คือ แบ่งออกเป็น
1. ซอฟต์แวร์สำเร็จ เป็นซอฟต์แวร์ที่บริษัทพัฒนำขึ้น แล้วนำออกมำจำหน่ำย เพื่อให้ผู้ใช้งำนซื้อไปใช้ได้โดยตรง
ไม่ต้องเสียเวลำในกำรพัฒนำซอฟต์แวร์อีก
2. ซอฟต์แวร์ใช้งำนเฉพำะ มักเป็นซอฟต์แวร์ที่ผู้พัฒนำต้องเข้ำไปศึกษำรูปแบบกำรทำงำนหรือควำมต้องกำร
ของธุรกิจนั้น ๆ แล้วจัดทำขึ้น โดยทั่วไปจะเป็นซอฟต์แวร์ที่มีหลำยส่วนรวมกันเพื่อร่วมกันทำงำน ตัวอย่ำง
ของซอฟต์แวร์ใช้งำนเฉพำะที่ใช้กันในทำงธุรกิจ เช่น ระบบงำนทำงด้ำนบัญชี ระบบงำนจัดจำหน่ำย
ระบบงำนในโรงงำนอุตสำหกรรม บริหำรกำรเงิน และกำรเช่ำซื้อ เป็นต้น