More Related Content Similar to การเขียนคำสั่งควบคุมขั้นพื้นฐาน
Similar to การเขียนคำสั่งควบคุมขั้นพื้นฐาน (20) การเขียนคำสั่งควบคุมขั้นพื้นฐาน3. 1.1.ความเป็นมาของภาษาซี
ภาษาซีได้รับการพัฒนาเมื่อปี ค.ศ.1972 โดยนายเดนนิส ริตซี่ ตั้งชื่อ
ว่าซีเพราะพัฒนามาจากภาษา BCLP และภาษา B ในช่วงแรกใช้ทดลองเขียน
คาสั่งควบคุมในห้องปฏิบัติการเบลเท่านั้น เมื่อปี ค.ศ.1978 นายไบร
อัน เคอร์นิกฮัน และ นายเดนนิส ริตซี่ ร่วมกันกาหนดนิยามรายละเอียดของ
ภาษาซี เผยแพร่ความรู้โดยจัดทาหนังสือ มีหลายบริษัท ให้ความสนใจนาไป
พัฒนาต่อ จนมีภาษาซีหลายรูปแบบและแพร่หลายไปทั่วโลก แต่ยังไม่มี
มาตรฐานคาสั่งเพื่อให้สามารถใช้งานร่วมกันได้ดังนั้นเมื่อปี ค.ศ.1988 นาย
ริตซี่ ได้ร่วมกับสถาบันกาหนดมาตรฐาน ANSI สร้างมาตรฐานภาษาซีขึ้นมา
มีผลให้โปรแกรมคาสั่งที่สร้างด้วยภาษาซีสังกัด
5. 2.ส่วนประกอบโครงสร้างภาษาซี
โปรแกรมที่เขียนด้วยภาษา C จะมีโครงสร้างอย่างง่าย 3 ส่วน ดังนี้
1. ส่วนนี้เรียกว่า ก่อนการประมวลผลเป็นส่วนที่คอมไพเลอร์จะ
จัดการก่อนที่จะเข้ากระบวนการคอมไพล์โปรแกรม มักจะขึ้นต้นด้วย..
(#) #include,#define ฯลฯ
2. int x = 2; ส่วนของการประกาศตัวแปร แบบ Global เป็นการ
ประกาศตัวแปรในตอนต้น ก่อนการเรียกใช้ฟังก์ชั่น main ซึ่งสามารถ
เรียกใช้ได้ทั้งโปรแกรม (ฟังก์ชั่นอื่นๆก็สามารถมองเห็นตัวแปรนี้ได้)
ทั้งนี้อาจจะยังไม่ประกาศก็ได้หากยังไม่มีการใช้งานmain() {
3. เป็นฟังก์ชั่นเริ่มต้นในการเขียนโปรแกรมภาษาซี ที่ซึ่งจะ
เริ่มต้นทางาน และปีกกาเปิด-ปิด หมายถึงการเริ่มต้นและจบ
ฟังก์ชั่น นั่นคือ { เริ่ม ฟังก์ชั่น และ } จบฟังก์ชั่น} ภายใน
ฟังก์ชั่นเมนนี้ก็จะมีฟังก์ชั่นหรือคาสั่ง ต่าง ๆ อยู่
8. 3. คาสั่งจัดเก็บข้อมูลลงหน่วยความจา
การจัดเก็บข้อมูลลงหน่วยความจาคอมพิวเตอร์ ภาษากาหนดให้ดาเนินการผ่านซื้อ
(identifier) ที่ผู้สร้างงานโปรแกรมเป็นผู้กาหนดเอง ระบบคอมพิวเตอร์จะจัดเก็บชื่อและตาแหน่งที่
อยู่ (address) ในหน่วยความจา เพื่ออ้างอิงนาข้อมูลที่จัดเก็บนั้นมาใช้งาน การกาหนดชื่อที่ใช้เก็บ
ข้อมูลต้องทาภายใต้กฎเกณฑ์ และต้องศึกษาวิธีกาหนดลักษณะการจัดเก็บข้อมูลที่ภาษากาหนดไว้
ลักษณะการจัดเก็บข้อมูลมี 2 แบบคือ แบบค่าคงที่และแบบตัวแปร ทั้งนี้ก่อนที่จะเขียนคาสั่ง
กาหนดการจัดเก็บข้อมูล ควรมีความรู้ในเรื่องชนิดข้อมูลก่อน
3.1 ชนิดข้อมูลแบบพื้นฐาน
การจัดเก็บข้อมูลลงหน่วยความจาทั้งแบบค่าคงที่หรือแบบตัวแปร ต้องกาหนดชนิดข้อมูลให้
ระบบรับทราบ ในที่นี้กล่าวถึงชนิดข้อมูลแบบพื้นฐาน 3 กลุ่มหลักเท่านั้น
Char -128 ถึง 127 เก็บข้อมูลแบบอักขระ
Int -32768 ถึง 32767 เก็บข้อมูลแบบตัวเลขจานวนเต็ม
Float 3.4 x 10 ถึง 3.4 x 10 เก็บข้อมูลแบบตัวเลขทศนิยม
10. 4.คาสั่งควบคุมการทางานขั้นพื้นฐาน
คาสั่งที่ใช้ควบคุมการทางานขั้นพื้นฐานมี 3 กลุ่มใหญ่คือ
4.1 คาสั่งแสดงผล printf ( )
ประสิทธิภาพคาสั่ง : ใช้แสดงผลสิ่งต่อไปนี้เช่น ข้อความ ข้อมูลจากค่าคงที่ หรือตัวแปลที่จอภาพ
4.2 คาสั่งรับข้อมูล
คาสั่งรับข้อมูล : รับข้อมูลจากแป้นพิมพ์แล้วจัดเก็บลงหน่วยความจา ของตัวแปล
4.3 คาสั่งประมวลผล expreeion
ประสิทธิภาพคาสั่ง : เขียนคาสั่งแบบนิพจน์เพื่อประมวลผล แล้วนาข้อมูลทีได้ไปจัดเก็บใน
หน่วยความจาของตัวแปล ที่ต้องกาหนดชื่อและชนิดข้อมูลไว้แล้ว
13. PRINTF(“ FORMAT ” , VARIABLE);
format : ข้อมูลที่ต้องการแสดงออกทางหน้าจอโดยข้อมูลนี้ต้องเขียนไว้ในเครื่องหมาย “ ” ข้อมูลที่
สามารถแสดงผลได้มีอยู่ 2 ประเภท คือ ข้อความธรรมดา และค่าที่เก็บไว้ในตัวแปร ซึ่งถ้าเป็นค่าที่เก็บ
ไว้ในตัวแปรต้องใส่รหัสควบคุมรูปแบบให้ตรงกับชนิดของข้อมูลที่เก็บไว้ ในตัวแปรนั้น
ด้วย variable: ตัวแปรหรือนิพจน์ที่ต้องการนาค่าไปแสดงผลให้ตรงกับรหัสควบคุมรูปแบบที่กาหนด
ไว้
14. รหัสควบคุมรูปแบบการแสดงผลค่าของตัวแปรออกทางหน้าจอ แสดงได้ดังนี้
รหัสควบคุมรูปแบบ การนาไปใช้งาน
%d สาหรับแสดงผลค่าของตัวแปรชนิดจานวนเต็ม( int, short,
unsigned short, long, unsigned long)
%u สาหรับแสดงผลตัวเลขจานวนเต็มบวก ( unsigned short,
unsigned long )
%o สาหรับแสดงผลออกมาในรูปแบบของเลขฐานแปด
%x สาหรับแสดงผลออกมาในรูปแบบของเลขฐานสิบหก
%f สาหรับแสดงผลค่าของตัวแปรชนิดจานวนทศนิยม( float,
double, long double )
%e สาหรับแสดงผลตัวเลขทศนิยมออกมาในรูปแบบของ ( E หรือ
e ) ยกกาลัง ( float, double, long double )
%c สาหรับแสดงผลอักขระ 1 ตัว ( char )
%s สาหรับแสดงผลข้อความ( string หรืออักขระมากกว่า 1 ตัว)
%p สาหรับแสดงผลตัวชี้ตาแหน่ง ( pointer )
19. คาสั่ง PUTCHAR()
ในการแสดงผลตัวอักษรหรืออักขระ ( char ) ออกทางหน้าจอ นอกจากใช้คาสั่ง printf พร้อมกับ
กาหนดรหัสควบคุมรูปแบบ %c แล้ว เราสามารถเรียกใช้คาสั่งสาหรับแสดงตัวอักษรหรืออักขระ
โดยเฉพาะได้อีกด้วย โดยคาสั่งนั้นคือ คาสั่ง putchar() ซึ่งมีรูปแบบการเรียกใช้คาสั่ง ดังแสดงต่อไปนี้
putchar(ch);
ch : ตัวอักษรหรืออักขระเขียนอยู่ภำยในเครื่องหมำย ‘c' หรือตัวแปรชนิด char
21. การรับข้อมูลจากคีย์บอร์ด
การ ทางานของโปรแกรมส่วนใหญ่มักจะเป็นการเชื่อมโยงกับผู้ใช้แบบ 2 ทิศทาง นั่นก็คือ ทั้ง
ภาคของแสดงผลการทางานออกทางหน้าจอ และภาคของการรับข้อมูลจากผู้ใช้เข้ามาทางคีย์บอร์ด เพื่อ
ร่วมในการประมวลผลของโปรแกรม ซึ่งในภาคของการรับข้อมูลจากผู้ใช้ภาษาซีกาหนดคาสั่งและ
ฟังก์ชันมาตรฐานเอาไว้ให้เรียกใช้แล้ว เช่นเดียวกับภาคของการแสดงผล รายละเอียดของคาสั่งเหล่านี้
ได้แก่ คาสั่ง scanf() คาสั่ง getchar() และ getch() คาสั่ง gets()
22. 6. ตัวแปรชนิดข้อความในภาษาซี
ในภาษาซีจะไม่มีข้อมูลชนิดข้อความโดยเฉพาะ ซึ่งในการเขียน โปรแกรมส่วนใหญ่
จาเป็นต้องมีการรับข้อมูลที่เป็นข้อความ เราสามารถใช้ตัวแปรข้อมูลชนิดอักขระหลายๆ ตัวมาใช้งาน
ได้ในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่สะดวกเมื่อข้อความมีความยาวมาก
ตัวอย่าง เช่น ต้องการใช้ข้อความว่า Hello สามารถใช้ตัวแปรชนิดอักขระ 5 ตัวแทน
char ch1='H',ch2='e',ch3='l',ch4='l',ch5='o';
ตัวแปรชนิดข้อความในภาษาซี คือ การนาอักษรมาเรียนต่อกันดังนั้นสามารถสร้างตัวแปรชนิด
อักขระเรียงต่อกันหลาย ๆ ตัวให้เป็นตัวแปรชนิดแถวลาดับ ทาให้สามารถใช้เก็บข้อมูลชนิดข้อความ
ได้
โดยตัวแปรชนิดข้อความในภาษาซีจะอยู่ในเครื่องหมาย Double quote " "
25. แนวคิดในการเขียนคาสั่งควบคุมงาน
1. ประกาศพรีโปรเซสเซอร์ไดเร็กทีฟ #include<stdio.h>ระบุไลบารีควบคุมคาสั่ง
2. เขียนหมายเหตุ(remark) เช่น /* calulate//cal1.c */ชื่อแฟ้มงานที่จัดเก็บโปรแกรมนี้
3. กาหนดชื่อหน่วยความจาประเภทตัวแปรและชนิดข้อมูลที่จัดเก็บในที่นี้คือ int n1,n2,result,
4. พิมพ์หัวข้อรายงานของโปรแกรมระบบงานนี้ เช่น printf(“*Calculaye Add*nn);” n คือ
เลือนเคอร์เซอร์ขึ้นบรรทัดใหม่
5. ส่วนป้อนข้อมูลเข้าระบบ เขียนคาสั่งควบคุม
printf(“Key number1 = ”); scanf(“%d,&n1”);printf(“Key number2 = ”); scanf(“%d,&n2”);
ผลลัพท์คือ Key number1= (ป้อนข้อมูลตัวเลขจานวนเต็ม)
Key number2= (ป้อนข้อมูลตัวเลขจานวนเต็ม)
31. สมาชิกในกลุ่มที่ 2
นายปกรณ์ บุญญะฐี เลขที่ 1
นางสาวบวรรัตน์ จิตรบวรวงศ์ เลขที่ 13
นางสาวรุ่งนภา คาตา เลขที่ 26
นางสาวศิริมาส ปั้นหลวง เลขที่ 27
นางสาวพรนารี เหมหงษา เลขที่ 32
นางสาวภิรุฬกาญจน์ ใสยะลา เลขที่ 35
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/2