More Related Content More from Tongsamut vorasan
More from Tongsamut vorasan (20) พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์1. พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพทพระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) (ชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑/ยุติ) 2. พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท© พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต)ISBN 974-575-029-8พิมพครั้งที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๒๒ ๑,๕๐๐ เลม– งานพระราชทานเพลิงศพ พระครูปลัดสมัย กิตติทตฺโต เจาอาวาสวัดพระพิเรนทร ฺพิมพครั้งที่ ๒ (เพิ่มศัพทและปรับปรุง) พ.ศ. ๒๕๒๗ ๙,๔๐๐ เลมพิมพครั้งที่ ๓ (เพิ่มภาคผนวก) พ.ศ. ๒๕๒๘ ๕,๐๐๐ เลม– พิมพถวายมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย โดย “ทุนพิมพพจนานุกรมพุทธศาสน”พิมพครั้งที่ ๔–๙ พ.ศ. ๒๕๓๑–๒๕๔๓ ๓๑,๕๐๐ เลมพิมพครั้งที่ ๑๐ พ.ศ. ๒๕๔๖ (จัดเรียงพิมพใหมดวยระบบคอมพิวเตอร) ขนาดตัวอักษรธรรมดา ๕,๐๐๐ เลม ขนาดตัวอักษรใหญ ๕,๐๐๐ เลมพิมพครั้งที่ ๑๑, ๑๒ - กรกฎาคม - พฤศจิกายน ๒๕๕๑ (ชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑) ๓๐,๖๐๐ เลมพิมพครั้งที่ ๑๓, ๑๔ - กันยายน – ธันวาคม ๒๕๕๒ (ชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑/เสริม) ๘,๐๐๐ เลมพิมพครั้งที่ ๑๕ - ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๓ (ชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑/ยุติ)พิมพครั้งที่ ๑๘ - เดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ (ชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑/ยุติ)– มูลนิธิธรรมทานกุศลจิต พิมพแจกมอบเปนธรรมทาน ๑,๐๐๐ เลมพิมพท่ี 3. อนุโมทนา ดร.ชัยยุทธ ปลนธนโอวาท ประธานมูลนิธธรรมทานกุศลจิต ในนามของ ั ิมูลนิธธรรมทานกุศลจิต ไดแจงบุญเจตนาทีจะจัดพิมพหนังสือ พจนานุกรม ิ ่พุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท และ พจนานุกรมพุทธศาสตร ฉบับประมวลธรรม เปนธรรมทาน เพื่อเกื้อกูลแกผูที่กาลังศึกษาคนควาพุทธธรรม ซึ่งมัก ํตองการมีหนังสือจําพวกพจนานุกรมธรรมะเปนทีปรึกษา โดยจะไดมอบถวาย ่แกโรงเรียนพระปริยัติธรรม ตามพระอารามหลวง และวัดตางๆ ทั่วประเทศตลอดจนองคกร หนวยงาน และผูสนใจทัวไป ่ ขออนุโมทนาธรรมทานบุญกิริยาอันเกิดจากน้ําใจใฝธรรม และความมีไมตรีจิตตอญาติมิตรและประชาชน โดยมุงหวังใหเกิดประโยชนสุขที่เปนแกนสารแกชีวิตและสังคม ขอกุศลจริยาเพื่อประโยชนทางการศึกษาในแนวแหงไตรสิกขานี้ จงเปนปจจัยแหงความเจริญแพรหลายของพระสัทธรรม เพื่อความเกษมศานตแหงมหาชน ตลอดกาลยาวนานสืบไป พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๕ 4. บันทึกนํา - พิมพครั้งที่ ๑๑ (ฉบับ “ชําระเพิ่มเติม ชวงที่ ๑”) หนังสือนี้เกิดขึ้น ๒๙ ปมาแลว เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๒ เดิมทีนั้นมุงใหเปนงานสําหรับใชไปพลาง โดยพักงานพจนานุกรมเดิมที่เริ่มมาแต พ.ศ. ๒๕๐๖ ไวกอน (มีความเปนมาดังไดเลาไวตางหาก) และเปนงานเรงดวนเฉพาะหนา เพื่อเปนอนุสรณในงานพระราชทานเพลิงศพทานอาจารยพระครูปลัดสมัย กิตฺติทตฺโต อดีตเจาอาวาสวัดพระพิเรนทร ทําไวเพียงเปนขอมูลพื้นฐาน สําหรับผูเรียนนักธรรม และผูแรกศึกษา จึงตั้งชื่อวาพจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับครู นักเรียน นักธรรม พรอมกับหวังวาจะหาโอกาสปรับปรุงและเพิ่มเติมตอไป บัดนี้ งานพจนานุกรมเดิมที่เริ่มแตป ๒๕๐๖ ซึ่งพักไว ไดกลายเปนพับไปแลว สวน พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท นี้ (เปลี่ยนเปนชื่อปจจุบันเมื่อพิมพครั้งที่ ๒ ใน พ.ศ.๒๕๒๗ เพื่อเขาชุดกับพจนานุกรมพุทธศาสตร ฉบับประมวลธรรม ที่ไดเกิดขึ้นกอนตั้งแต พ.ศ.๒๕๑๘) ยังเปนเพียงขอมูลพื้นฐานอยูอยางเดิม จนกระทังตนปทแลว เดือนมกราคม พ.ศ.๒๕๕๐ ผานเวลามา ๒๘ ป บังเอิญผูเ รียบเรียงเกิดมีโรค ่ ี่แทรกที่คอนขางยืดเยื้อ ก็เลยไดมีเวลาและโอกาสหันไปรื้อฟนงานเพิ่มเติมพจนานุกรมนี้ แตกระนั้น ก็กลายเปนงานยืดเยื้อ มีงานอื่นมาแยงเวลาไปเสียมาก ถึงขณะนี้ ๑ ปครึ่ง จึงยุติที่จะพิมพเผยแพรไปคราวหนึ่งกอน งานปรับปรุงและเพิ่มเติมนี้ ในที่นี้ เรียกวา การชําระ-เพิ่มเติม เปนงานใหญ ยากจะทําใหเต็มตามตองการ จึงไดแบงงานนั้นเปน ๓ ชวง ดังนี้ การชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑: แกไขปรับปรุงขอขาดตกบกพรองที่พบเฉพาะหนา โดยเฉพาะสวนหลงตาทีบงเอิญพบ และเพิมเติมคําศัพทและคําอธิบายทีรบดวน หรือบังเอิญนึกได รวมทังศัพททบนทึกไวระหวางเวลาที่ ่ั ่ ่ี ้ ี่ ัผานมา (เลือกทําเฉพาะคําทีไมซบซอนนัก) และบางคําทีทานผูใชไดมนาใจแจงมาวาเจอคําผิดหรือคนหาไมพบ ่ ั ่ ี ้ํ การชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๒: อาน-ตรวจตลอดเลม เพื่อจะไดมองเห็นคําพิมพผิด คําตก จุดและแงที่จะแกไข-ปรับปรุง-เพิ่มเติมทั่วทั้งหมด พรอมทั้งจัดปรับคําอธิบายศัพททั้งของเดิมและสวนที่เพิ่มเติม ใหเขามาตรฐานเดียวกัน ทั้งในแงการแสดงความหมาย วิธีอธิบาย และอัตราสวนความยาวที่สัมพันธกับความสําคัญของศัพทนั้นๆ การชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๓: มุงที่การจัดระบบ เพื่อใหสม่ําเสมอ กลมกลืน เปนแบบแผนอันเดียวกันและทั่วกัน เชน มีคาอาน บอกที่มาในคัมภีร แสดงคําเดิมในภาษาบาลีและสันสกฤต และถาเปนไปได ใหคํา ํแปลภาษาอังกฤษของศัพทตั้งหรือหัวศัพท พรอมทั้งแผนที่และภาพประกอบ บัดนี้ ถือวาเสร็จงาน ชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑ เนื้อหนังสือขยายจากเดิมเพิ่มขึ้น ๒๐๔ หนา (จาก ๓๗๖หนา เปน ๕๘๐ หนา) มีศัพทที่ปรับแกเพิ่มเติมประมาณ ๑,๑๐๐ คํา แตพรอมกับที่มีศัพทและคําอธิบายเพิ่มขึ้นเปนอันมาก ก็เกิดความไมสมดุลขึ้น เพราะวา ในขณะที่ศัพทเพิ่มใหม และศัพทที่ปรับปรุง (เชน ปริตร, ภาณยักษ, มานะ) มีคําอธิบายยืดยาว ดังจะเปนสารานุกรม แตคําเกาที่มีอยูเดิมสวนใหญมีคําอธิบายสั้นนิดเดียว ทั้งนี้ ขอใหถือวาคงใชตอไปพลางกอน และใหความเรียบรอยราบรื่นเปนเรื่องของการชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๒ และ ชวงที่ ๓ ที่อาจจะมีขางหนา พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๑ 5. ข บันทึกเสริม พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ที่ ชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑ ไดพิมพเสร็จออกมาเผยแพรเมื่อเดือน มิ.ย. - ก.ค. ๒๕๕๑ เวลาผานไปรวดเร็ว ถึงบัดนี้ปเศษแลว ระหวางนี้ บางทานผูใฝศึกษา มีฉันทะแรงกลา พรอมดวยความมีน้ําใจเกื้อหนุน ไดตั้งใจอานตลอดเลมโดยละเอียด และเก็บรวมคําผิดคลาดเคลื่อน ตก และเกิน เปนตน แลวสงมาให ฝายทานที่ขออนุญาตพิมพรายลาสุด เมื่อทราบเรื่องนี้ ก็อยากจะพิมพฉบับที่ไดแกไขขอผิดเหลานั้นแลว จึงขอรองและเรงมา แตทางดานผูเรียบเรียงหนังสือนี้เองนอกจากงานอื่นบีบรัดแลว ก็อยูในระยะอาพาธขั้นรุนแรงตอเนื่อง เรื่องจึงยืดเยื้อเรื่อยมา แตในที่สุด เมื่อวานนี้เอง ไดโอกาสทํางานนี้ จึงยกตนฉบับพจนานุกรมขึ้นมาแกไขจนเสร็จสิ้นไปในวันเดียว และวันนี้จง ึเตรียมฝากสงตนฉบับนั้นใหแกทานที่ขอพิมพ แลวแตจะไปดําเนินการกันเองใหเกิดประโยชนตอไป ทานทีสงบัญชีคาควรแกมาให ทีไดใชงานเมือวานนี้ มี ๓ ทาน เรียงตามลําดับเวลาที่บัญชีมาถึง คือ ่ ํ ่ ่พระมหานิยม สีลสํวโร แหงมหาจุฬาอาศรม คุณพันธุรพี นพรัมภา และคุณจิรประภา เดชะอําไพ (สงผานทางพระครูปลัดสุวฒนพรหมคุณ พระการุณย กุสลนนฺโท และคุณพนิตา อังจันทรเพ็ญ ตามลําดับ) ั ตามบัญชีของพระมหานิยม สีลสํวโร ซึ่งมีทั้งแกคําผิด ตัดคําเกิน ปรับคําเดียวกันในตางที่ใหตรงกัน เปนตน นับได ๕๕ แหง เห็นไดวาทานทํางานดวยความใสใจและละเอียดลออมาก นอกจากนั้น ในฐานะที่เปนพระเปรียญผูมีทั้งฐานและประสบการณดานปริยัติ ยังมีขอเสนอหลายอยางที่เปนประโยชนเชน เสนอเพิ่มคํา (เพื่อเปนศัพทตั้ง) มา ๑๗ คํา และขอใหใสคําแปลไทยสําหรับขอความบาลีบางแหง(เพื่อใหผูคนควาที่ไมรูบาลีสามารถเขาใจไดดวย) แตเรื่องนี้ ดังที่บอกกลาวไวแลว จะตองรอไวทําในการ“ชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๒” (คราวนี้ตองใหจํานวนหนาคงอยูเทาเดิม) บัญชีของคุณพันธุรพี นพรัมภา มีคําที่ไดแก ซึ่งไมซ้ํากับของพระมหานิยม สีลสํวโร นับได ๓๕ แหงกับการเวนวรรคหลังตัวเลข และหลัง พ.ศ. หลัง ค.ศ. อีก ๓๐ แหง พอมาถึงบัญชีของคุณจิรประภา เดชะอําไพ ปรากฏวา คําผิดที่พบแทบทั้งหมดซ้ํากับ ๒ บัญชีแรกสวนที่ไมซ้ํา ก็ไดแกไป แตไดประโยชนมากที่ทําใหมั่นใจวานาจะแทบไมมีคําผิดเหลืออยูในพจนานุกรมนี้ ขออนุโมทนาเจาของบัญชีขอพึงแก ทั้ง ๓ ทานไว ณ ที่นี้ เปนอยางยิ่ง (ขอพึงแกที่ผูเรียบเรียงเองบังเอิญพบ และที่ไดรับคําบอกแจงแหลงอื่นบางแหง ก็ไดถือโอกาสปรับแกเติมไปดวยอีกเกิน ๒๐ แหง) ดังไดเลาไวในบันทึกนําครั้งที่แลววา ผูเรียบเรียงเองยังไมไดอาน-ตรวจตลอดเลมพจนานุกรมนี้เลย และไดจดเอางานสวนนีรวมไวในการ “ชําระ-เพิมเติม ชวงที่ ๒” ทีจะมีภายหนา แตครันไดบญชีคาพึงแกจาก ั ้ ่ ่ ้ ั ํสามทานนีแลว ก็คดวาตนคงไมจาเปนตองทํางานนีอก สามารถตัดงานอาน-ตรวจตลอดเลมนันออกไปได ้ ิ ํ ้ี ้เลย และมีความเปนไปไดมากวา งาน พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท อาจจะตองตัดตอนจบลงเพียงในระดับนี้ เพราะมีความเปนไปไดนอยอยางยิงทีผเู รียบเรียงจะมีโอกาสเหลือพอทีจะทํางานนั้น ่ ่ ่ หวังวา งานเสริมการ “ชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑” นี้ คงจะชวยใหผูศึกษาคนควาไดรับประโยชนจากพจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ใกลเต็มคุณคายิ่งขึ้น พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๙ กันยายน ๒๕๕๒ 6. ความเปนมา ในการ “ชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑”: ม.ค. ๒๕๕๐ - มิ.ย. ๒๕๕๑ก) งานในโครงการ ชะงัก-หายไป ยอนหลังไปถึง พ.ศ.๒๕๐๖ เมื่อหนังสือ Student’s Thai–Pali–English Dictionary ofBuddhist Terms เลมเล็กๆ เสร็จแลว ผูจัดทําหนังสือนี้ ก็ไดเริ่มงานพจนานุกรมพระพุทธศาสนางานคางที่ ๑: เริ่มแรก คิดจะทําพจนานุกรมพระพุทธศาสนาเชิงสารานุกรม ฉบับที่คอนขางสมบูรณเลยทีเดียว มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยเขียนแยกเปน ๒ คอลัมน ซาย-พากยไทยและ ขวา-พากยอังกฤษ เริ่ม ๒๙ ก.ย. ๒๕๐๖ ถึง ๑๒ พ.ย. ๒๕๐๗ จบอักษร “บ” (ยังคางชําระบางคํา) ตองเขารับงานที่มหาจุฬาฯ แลวยุงกับงานที่นั่น จนงานพจนานุกรมชะงักแลวหยุดไปเลยงานคางที่ ๒: เมื่อเห็นวายากจะมีโอกาสทํางานคางนั้นตอ จึงคิดใหมวาจะทําฉบับที่มีเพียงพากยไทย อยางยนยอ โดยมีภาษาอังกฤษเฉพาะคําแปลศัพทใสวงเล็บหอยทายไว แลวเริ่มงานใน พ.ศ.---- แตงานที่มหาจุฬาฯ มาก พอทําจบ “ต” ก็ตองหยุด (ตนฉบับงานชุดนี้ทั้งหมดหายไปแลว) (ระหวางนั้น ในป ๒๕๑๕ โดยคํานิมนตของทานเจาคุณเทพกิตติโสภณ ครั้งยังเปนพระมหาสมบูรณ สมฺปุณฺโณ ตกลงทําประมวลหมวดธรรมออกมาใชกันไปพลางกอน ทําใหเกิดพจนานุกรมพุทธศาสตร [ตอมาเติมคําวา ประมวลธรรม] เสร็จเปนเลม ใน พ.ศ. ๒๕๑๘)งานคางที่ ๓: ใน พ.ศ.๒๕๑๙ ไปเปนวิทยากรที่ Swarthmore College เมื่อกลับมาในป ๒๕๒๑ตังใจหยุดงานอืนทังหมดเพือจัดทําสารานุกรมพุทธศาสนา โดยเริมตนใหม ทําเฉพาะพากยภาษาไทย มี ้ ่ ้ ่ ่ภาษาอังกฤษเพียงคําแปลศัพทในวงเล็บหอยทาย พอใกลสนป ๒๕๒๑ ก็จบ “ก” รวมได ๑๐๕ หนา ิ้กระดาษพิมพดีด และขึ้น “ข” ไปไดเล็กนอย แลวหันไปทําคําเกี่ยวกับประวัติเสร็จไปอีก ๘๐ หนา ตนป ๒๕๒๒ นั้นเอง ศาสตราจารย ดร. ระวี ภาวิไล จะพิมพ พุทธธรรม ไดขอเวลาทานเพื่อเขียนเพิ่มเติม แลวการไปบรรยายที่ Harvard University มาแทรก กวาจะเติมและพิมพเสร็จ สิ้นเวลา ๓ ป งานทําพจนานุกรม-สารานุกรมเปนอันหยุดระงับไป จากนั้น งานดานอื่นเพิ่มขึ้นตลอดมาข) งานใหมนอกสาย แตเสร็จ: พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท๑. ยุคพิมพระบบเกา ตนป ๒๕๒๒ นั้นแหละ เมื่อเห็นวาคงไมมีโอกาสฟนงานที่คาง ก็นึกถึงหนังสือ ศัพทหลักสูตรภาษาไทย (สําหรับวิชาใหมในหลักสูตรนักธรรม) ที่มหาจุฬาฯ พิมพออกมาใน พ.ศ.๒๕๐๓ ซึ่งแทบจะยังไมทันไดเผยแพร วิชาใหมนั้นก็ถูกยกเลิกเสีย จึงพบหนังสือชุดนั้นเหลือคางถูกทอดทิ้งอยูมากมาย เห็นวา มีขอมูลพอจะทําเปนพจนานุกรมเบื้องตนได อยางนอยหัวศัพทที่มีอยูก็จะทุนแรงทุนเวลาในการเก็บศัพทไปไดมาก จึงตกลงทํางานใหมชิ้นที่งายและรวบรัด โดยนําหนังสือชุดนัน ้ทัง ๓ เลม รวม ๙ ภาค (ศัพท น.ธ.ตรี–โท–เอก ชันละ ๓ วิชา จึงมีชนละ ๓ ภาค) มาจัดเรียงเปน ้ ้ ั้ 7. งพจนานุกรมเบืองตนเลมเดียว พิมพออกมากอน ในงานพระราชทานเพลิงศพทานอาจารยพระครูปลัด ้สมัย กิตตทตฺโต (๑๙ พ.ค. ๒๕๒๒) เรียกชือวา พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับครู นักเรียน นักธรรม ฺิ ่(เปลียนเปนชือปจจุบนวา พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท เมือพิมพครังที่ ๒ พ.ศ.๒๕๒๗) ่ ่ ั ่ ้ หนังสือใหมเลมนีไมเกียวของกับงานทีทามาแลวแตอยางใด งานเกาทีทาคางไวทงหมดถูกพัก ้ ่ ่ํ ่ํ ั้เก็บเฉยไว เพราะในกรณีนี้ มุงสําหรับผูเ รียนขันตน โดยเฉพาะนักเรียนนักธรรม ตองการเพียงศัพท ้พื้นๆ และความหมายสั้นๆ งายๆ จึงคงขอมูลสวนใหญไวตามหนังสือศัพทหลักสูตรภาษาไทยนั้นโดยแกไขปรับปรุงอธิบายเพิ่มหรือเขียนขยายบางเพียงบางคํา และเติมศัพทนักธรรมที่ตกหลนและศัพททั่วไปอันควรรูที่ยังไมมี เขามาบาง รวมแลว เปนขอมูลของเกากับของใหมราวครึ่งตอครึ่ง หลังจากพิมพออกมาแลว พจนานุกรมเลมนี้ก็มีชะตากรรมที่ข้ึนตอระบบการพิมพยุคนั้นโดยเฉพาะตนแบบซึ่งอยูในแผนกระดาษที่ตายตัว แทบปรับเปลี่ยนอะไรไมไดเลย การพิมพครั้งตอๆ มา ตองพิมพซ้ําตามตนแบบเดิม ถาจําเปนตองแกไข ก็แกไดเพียง ๔–๕ บรรทัด ยิ่งตอมาแผนกระดาษตนแบบก็ผุเปอย โดยเฉพาะพจนานุกรมนี้ ตนแบบที่ทําขึ้นใหมในการพิมพครั้งที่ ๒ไดสญหายไปตั้งแตพิมพเสร็จ การพิมพตอนั้นมาตองใชวิธีถายภาพจากหนังสือที่พิมพครั้งกอนๆ ู แตกระนั้น พจนานุกรมนี้ยังมีศัพทและคําอธิบายที่จะตองเพิ่มอีกมาก เมื่อแกไขของเดิมไมได พอถึงป ๒๕๒๘ จะพิมพครั้งที่ ๓ จึงใสสวนเพิ่มเขามาตางหากตอทายเลมเปน “ภาคผนวก” (มีศัพทต้งหรือหัวศัพทเพิ่ม ๑๒๔ ศัพท รวม ๒๔ หนา) จากนั้นมา ก็ไดแคพิมพซ้ําเดิมอยางเดียว ั๒. เขาสูยุคขอมูลคอมพิวเตอร เมือเวลาผานมาถึงยุคคอมพิวเตอร ก็มองเห็นทางวาจะแกไข–ปรับปรุง–เพิมเติมพจนานุกรม ่ ่นีได แตกตองรอจุดตังตนใหม คือพิมพขอมูลพจนานุกรมในเลมหนังสือ ลงในคอมพิวเตอร ้ ็ ้ แมจะตองใชเวลาและแรงงานมาก ก็มีทานที่สมัครใจเสียสละ ไดพิมพขอมูลหนังสือพจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ลงในคอมพิวเตอร โดยมิไดนดหมายกัน เทาทีทราบ ๔ ชุด ั ่เริมดวยพระมหาเจิม สุวโจ แหงมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ทีทางานอยูหลายปจนเตรียมขอมูล ่ ่ํ เสร็จแลวมอบมาใหเมื่อวันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๔๑ แลวก็มีชุดของผูอื่นตามมาอีก ทังทีมขอมูลในคอมพิวเตอรแลว ผูจดทําเองก็ไมมเี วลาตรวจ เวลาผานมาจนกระทัง รศ. ดร. ้ ่ี ั ่สมศีล ฌานวังศะ ราชบัณฑิต (มีบตรหญิง–ชาย คือ น.ส.ภาวนา ตังแตยงเปน ด.ญ.ภาวนา ฌานวังศะ ุ ้ ัและนองชาย คือ นายปญญา ตังแตยงเปน ด.ช.ปญญา ฌานวังศะ เปนผูชวยพิมพขอมูล) นอกจาก ้ ั พิมพขอมูลหนังสือลงในคอมพิวเตอรแลว ยังชวยรับภาระในการพิสูจนอักษร (ตรวจปรูฟ) ตลอดเลม นอกจากตรวจเองแลว ก็ยังหาพระชวยตรวจทานอีก ใหแนใจวาขอมูลใหมในระบบคอมพิวเตอรนี้ตรงกับขอมูลเดิมในเลมหนังสือ แลวในที่สุด พจนานุกรมนี้ก็พิมพเสร็จออกมาใน พ.ศ. ๒๕๔๖ เนื่องจากผูจัดทําเองยังไมมเี วลาแมแตจะตรวจปรูฟ พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท พิมพครั้งที่ ๑๐ ที่เสร็จออกมาใน พ.ศ. ๒๕๔๖ ซึ่งเปนครั้งแรกที่ใชขอมูลในระบบคอมพิวเตอรจึงมีหลักการทั่วไปวา ใหคงเนือหาไวอยางเดิมตามฉบับเรียงพิมพเกา ยังไมปรับปรุงหรือเพิมเติม ้ ่ 8. จค) งานเริ่มเขาทาง: ชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑๑. ผานไป ๒๘ ป จึงถึงทีชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑ บัดนี้ เวลาผานไป ๒๙ ปแลว นับแตพมพ พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ออก ิมาครั้งแรก ใน พ.ศ. ๒๕๒๒ ขอมูลสวนใหญในพจนานุกรมนั้น ยังเปนขอมูลพื้นฐานที่ตั้งใจวาจะชําระ-เพิ่มเติม แตก็ขัดของตลอดมา ในชวง ๒๔ ปแรก ติดขัดดวยระบบการพิมพไมเอือแลวความบีบคันดานเวลาก็ซาเขาไป สวน ้ ้ ้ํในชวง ๔ ปทชดใกลนี้ ทังทีมขอมูลสะดวกใชอยูในคอมพิวเตอร ก็ตดขัดดวยขาดเวลาและโอกาส ี่ ิ ้ ่ี ิ จนมาถึงขึนปใหม ๒๕๕๐ นี้ เมือหาโอกาสปลีกตัวจากวัด พอดีโรคทางเดินหายใจกําเริบขึนอีก ้ ่ ้คออักเสบลงไปถึงสายเสียง พูดยากลําบาก ตอดวยกลามเนือยึดสายเสียงอักเสบ โรคยืดเยือเกิน ๒ เดือน ้ ้ไดไปพักรักษาตัวในชนบทนานหนอย เปนโอกาสใหไดเริมงานชําระ-เพิมเติมพจนานุกรม แตในขันนี้ ่ ่ ้เรงทําเฉพาะสวนรีบดวนและสวนทีพบเฉพาะหนาใหเสร็จไปชันหนึงกอน เรียกวา “งานชําระ-เพิม ่ ้ ่ ่เติม ชวงที่ ๑” คิดวาลุลวงไปไดทหนึง คงจะปดงานจัดใหพรอมเพือเขาโรงพิมพไดทนกอนโรคจะหาย ี ่ ่ ัแตแลวก็ไมเปนไปอยางนัน จึงมีเรืองตองเลาตออีก ้ ่๒. อะไรมากับ และจะมาตาม การชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑ งานชําระ-เพิ่มเติมนี้ คือการทําให พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท มีคุณสมบัติเต็มตามความมุงหมาย เพราะหนังสือที่พิมพเรื่อยมานั้น จัดทําขึ้นอยางรวบรัดเพื่อพอใชไปพลางกอน เพียงเปนขอมูลพื้นฐานอยางที่กลาวแลว (มีบางบางคําที่มีโอกาสขยายความไปกอนแลว) เนื่องจากตระหนักวา จะไมมีโอกาสทํางานชําระ-เพิ่มเติมอยางตอเนื่องใหเสร็จสิ้นไปในคราวเดียว จึงกะวาจะแบงงานนี้เปน ๓ ชวง สําหรับชวงที่ ๑ คิดวาเพียงจะแกไขปรับปรุงขอขาดตกบกพรองที่พบเฉพาะหนา โดยเฉพาะสวนหลงตาที่บังเอิญพบ และเพิ่มเติมคําศัพทและคําอธิบายที่รีบดวน หรือบังเอิญนึกได เสร็จแลวก็พิมพออกไปทีหนึ่งกอน งานปรับปรุงนอกจากนั้น เอาไวทําในชวงที่ ๒ และ ชวงที่ ๓ อยางไรก็ดี เมือตกลงยุตงานชวงที่ ๑ วาพอเทานีกอน (๑๖ มี.ค. ๒๕๕๐) พอดีไดอานจดหมาย ่ ิ ้ ของพระมหานิยม สีลสํวโร (เสนารินทร) ที่สงมาตั้งแต ๑๘ พ.ย. ๒๕๔๗ ก็มองเห็นวา ทานแจงคําผิด-ตก ที่สําคัญ แมจะมากแหง ก็ใชเวลาแกไขไมมาก จึงทําใหเสร็จไปดวยในคราวนี้ รวมเพิ่มที่แกไขอีกราว ๕๐ แหง อีกทั้งไดเห็นชัดวา ดวยฉันทะของทานเอง พระมหานิยมตรวจพจนานุกรม โดยเทียบกับเลมเดิมที่เปนตนฉบับไปดวยนี้ ทานใชเวลาอานจริงจังละเอียด จนทําใหคิดวา ในการชําระ-เพิ่มเติมชวงที่ ๒ ที่จะอานอยางตรวจปรูฟตลอดดวยนั้น งานสวนนี้คงเบาลงมาก จะไดมุงไปที่งานเพิ่มเติม-ปรับปรุงทัวไป จึงขออนุโมทนาพระมหานิยม สีลสํวโร ไว ณ ทีนี้ ่ ่ พอจะปดงาน หันมาดูรายการศัพททพระธรรมรักษาแจงมาตังแต ๑๔ ธ.ค.๒๕๒๘ จนถึง ก.ค. ี่ ้๒๕๒๙ วาไมพบในพจนานุกรมฯ รวมได ๒๘ คํา เปนศัพทในอรรถกถาชาดกแทบทังนัน เห็นวานาจะทํา ้ ้ใหเสร็จไปดวยเลย จึงตัดคํานอกขอบเขตออกไป ๖ ศัพท (๑๙ หัวศัพทททาเพิมตามเสนอของพระ ี่ ํ ่ 9. ฉธรรมรักษา คือ จุลกฐิน ฉาตกภัย ธุวภัต นิพทธทาน บุพจริยา ประชุมชาดก ปาฏิหาริยปกษ พาหิรทาน ัพาหิรภัณฑ วิตถารนัย สัตตสดกมหาทาน สัมมานะ สาธุกฬา สุคโตวาท อธิคมธรรม อภิสมพุทธคาถา ี ัอสทิสทาน อุปทวะ อุยยานบาล, อุทยานบาล) แลวแถมเองอีกประมาณ ๒๐ คํา ใชเวลาคน-เขียนจน เสร็จอีก ๔ วัน (ของพระมหานิยมราว ๕๐ ศัพท ทานตรวจใชเวลามากมาย แตเปนการแกคาทีพมพ ํ ่ ิผิด-ตก จึงใชเวลาเพียง ๖.๔๐ ชม. ก็เสร็จ สวนของพระธรรมรักษา แจงคําทีไมเจอ แมจะนอย ทําแค ่๑๙ หัวศัพท แตตองเขียนเพิมใหม จึงใชเวลามาก) ขออนุโมทนาพระธรรมรักษาดวย ่ มีจดหนึงซึงการแกปญหาคอนขางซับซอน คือ คํา “อสิตดาบส” ทีไดรบความเอือเฟอจาก รอง ุ ่ ่ ่ ั ้ ศาสตราจารย ดร.ภัทรพร สิรกาญจน แจงใหทราบวา ทานทีทางานวิชาการ ทังฝายผูเ สนองาน และ ิ ่ํ ้ฝายผูพจารณางาน ประสบความติดของ เพราะหลักฐานชันตนกับเอกสารอางอิง มีขอมูลขัดแยงกัน ิ ้ ใบแจงของ ดร.ภัทรพร สิรกาญจน ชวยทําใหเอะใจและไดตรวจสอบขอมูล ซึงไดแกปญหาดวยวิธี ิ ่ บอกขอมูลไปตามทีเ่ ปนของแหลงนันๆ โดยไมวนจฉัย ขออนุโมทนาทานผูแจง เปนอยางยิง ้ ิิ ่ เมืองานปรับแกเพิมเติมดําเนินมาถึงวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๕๐ มีศัพทตั้งที่เพิ่มขึ้นและที่มีความ ่ ่เปลี่ยนแปลงราว ๓๑๗ หัวศัพท (ไมนับการแกคําผิด-ตก ที่พระมหานิพนธชวยแจงมา ราว ๕๐ แหง)หนังสือหนาเพิมขึน ๔๘ หนา (จากเดิม ๓๗๖ หนา เปน ๔๒๔ หนา) คิดวาจะยุตเิ ทานีและสงโรงพิมพ ่ ้ ้ อยางไรก็ดี เมือเหลือบไปดูในหนังสือทีพมพรนเกา พ.ศ.๒๕๒๗ ซึงใชเปนทีทยอยบันทึกศัพท ่ ่ ิ ุ ่ ่ทีนกขึนมาวาควรเพิมหรือควรปรับปรุง ก็ไดเห็นวาบางศัพทนาจะเติมลงไปในคราวนีดวย ก็เลยรอเพิม ่ึ ้ ่ ้ ่อีกหนอย พอทําคํานีเ้ สร็จ เห็นวาคํานันก็นาทํา ก็เติมอีกหนอย แลวมีงานอืนทีเ่ รงแทรกเขามาเปน ้ ่ระยะๆ รวมแลวงานอืนแทรกราว ๘ เดือน และมีเวลาทํายืดมาราว ๖ เดือน ทําไปทํามาก็ยตลงในบัดนี้ ่ ุิ การแกไขและเพิมเติมทังหมดนี้ เปนการทําเปนจุดๆ มุงจําเพาะไปทีจดนันๆ จึงยังไมไดตรวจดู ่ ้ ุ่ ้ทัวตลอดทังเลม การแกคาทีพมพผดและการเพิมศัพทใหมจานวนมาก เปนเรืองทีมาจากความบังเอิญ ่ ้ ํ ่ ิ ิ ่ ํ ่ ่พบบังเอิญเห็น เชน จะดูคา “สรณคมน” วาควรอธิบายเพิมเติมหรือไม พอดีเหลือบไปเห็นคํา ํ ่“สรภัญญะ” ซึงอยูใกลๆ ทังทีไมไดนกไววาจะทําอะไรกับคํานีเ้ ลย แตพอเห็นวาไดใหความหมายไวสน ่ ้ ่ ึ ั้นัก ก็เลยเขียนอธิบายใหมอยางคอนขางยาว, จะอธิบายคําวา “ภาณวาร” ใหชดขึน ก็พลอยนึกถึงคําวา ั ้“ภาณยักษ” ดวย ทังทีเ่ ดิมไมมคานี้ และไมไดตงใจมาแตเดิม ก็เลยบรรจุ “ภาณยักษ” เขามาดวย และ ้ ีํ ั้อธิบายเสียยาว, คําวา “ถวายพรพระ” “คาถาพาหุง” “ชัยมงคลคาถา” ฯลฯ ก็เขามาโดยบังเอิญทํานองนี้ แมคาทีพมพผด ซึงยังไมไดตงใจจะตรวจปรูฟ ก็พบโดยบังเอิญและแกไปมากมาย แมกระทัง ํ ่ ิ ิ ่ ั้ ่เมือหนังสือใกลจะเสร็จ เชน จะเติมขอความ ๑ บรรทัดวา “ศาสนวงศ ดู สาสนวงส” ตอนนันจะตอง ่ ้รักษาใหขอความบรรทัดแรกและบรรทัดสุดทายของหนานันคงอยูทเี่ ดิม จึงตองลดบรรทัดในหนานัน ้ ้ลง ๑ บรรทัด ทําใหตองอานหาคําศัพทในหนานันซึงมีคาอธิบายทีพอจะบีบใหบรรทัดนอยลง ก็เลย ้ ่ ํ ่เจอโดยบังเอิญวา ทีคา “ศีล ๘” มีขอความวา “จะรักษาประจําใจก็ได” เกิดความสงสัยวา ไมนาจะมี ่ํ “ใจ” จึงเปดหนังสือเกาสมัยปกสีสมดู พบวามีแต “ประจํา” จึงไดแกโดยตัด “ใจ” ออกไป หรืออยาง เมือตรวจดูความเรียบรอยของหัวศัพททขนไปปรากฏบนหัวกระดาษ ก็ทาใหบงเอิญพบหัวศัพททพมพ ่ ี่ ึ้ ํ ั ี่ ิผิด “สปทาจาริกงคะ” (สปทานจาริกงคะ) และ “อปโลกนธรรม” (อปโลกนกรรม) จึงไดแกใหถกตอง ั ั ู 10. ช๓. การชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑ ทําใหมีความเปลี่ยนแปลงอะไร การชําระ-เพิ่มเติมชวงที่ ๑ นี้ ถือวายุตลงในวันที่ ๑๙ มิถนายน ๒๕๕๑ ไดทําให ิ ุพจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท มีศัพทที่เพิ่มขึ้นและที่มีความเปลี่ยนแปลงรวมประมาณ ๑,๑๐๐ หัวศัพท กลายเปนเพิมอีก ๒๐๔ หนา (จากเดิม ๓๗๖ หนา เปน ๕๘๐ หนา) ่ หัวศัพท ที่มีก ารปรับ แก และที่เ พิ่ม ใหมใ นระยะ ๒ เดือ นแรก มี ตัวอยาง ดังนี้กัป, กัลป กิริยา กิเลสพันหา คงคา คณาจารย เครื่องรางชุมนุมเทวดา ตัณหา ๑๐๘ ทักขิณาบถ ทีฆนขสูตร ธรรมราชา ธัญชาตินัมมทา บริขาร บุพการ บุพนิมตแหงมรรค ปกตัตตะ ิ ปปญจะปริตร, ปริตต ปญญา ๓ พรหมจรรย มหานที ๕ มหายาน มาตรามานะ ยถากรรม ยมุนา โยนก โวการ (เชน จตุโวการ) สมานฉันทสรภู สังคายนา สัจกิริยา สัจจาธิฏฐาน สีหนาท สุตะหีนยาน อจิรวดี อธิษฐาน อธิษฐานธรรม อภิสมพุทธคาถา ั อโศกมหาราชอาภัพ อายุ อายุสังขาร อาสภิวาจา อุตราบถ อุทยาน หัวศัพท ที่มีก ารปรับ แก และที่เ พิ่ม ใหมใ นระยะ ๑๔ เดือ นหลัง มี ตัวอยาง ดังนี้กรรมวาท กลาป คันธกุฎี คามวาสี คิหิวินัย จุณณิยบทจูฬมัชฌิมมหาศีล ฉันมื้อเดียว ชยมังคลัฏฐกคาถา ชวนะ ญาณ ๑๖ เดนตุลา ถวายพรพระ ธรรมทูต ธรรมสภา บังสุกุลตาย-เปน ปฏิกรรมปรมัตถธรรม ปานะ โปราณัฏฐกถา พุทธาวาส ภาณยักษ ยมกปาฏิหาริยรูปรูป, สุขมรูป วิถีจิต ุ วิปสสนูปกิเลส สมานฉันท สรณคมน สรภัญญะสังฆาวาส สารีริกธาตุ สุวรรณภูมิ สูกรมัททวะ อตัมมยตา อภิธัมมัตถสังคหะอรรถกถา อรัญวาสี อัชฏากาศ อากาศ อุปฏฐานศาลา เอตทัคคะ การชําระ-เพิ่มเติมนี้ ทําให พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท มีลักษณะคืบเคลื่อนเขาไปใกลงานคางที่ ๓ ซึ่งไดหยุดลงเมื่อใกลสิ้นป ๒๕๒๑ เชน คํา “กัป, กัลป” ในการพิมพครั้งที่ ๑๐ พ.ศ. ๒๕๔๖ มีคาอธิบาย ๑๒ บรรทัด แตในฉบับชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑ นี้ ขยายเปน ํ๑๑๓ บรรทัด เมื่อนําไปเทียบกับฉบับงานคางที่ ๓ นั้น (ในการเขียนขยายคราวนี้ ไมไดหันไปดูงานคางนั้นเลย) ปรากฏวา คําอธิบายในฉบับชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑ นี้ ยังสั้นกวาเกาเกือบครึ่งหนึ่ง ถาตองการมองใหชัดวางานชําระ-เพิ่มเติมมีลักษณะอยางไร จะดูไดงายที่คําตัวอยางขางบนนั้น เฉพาะอยางยิ่งคําวา กัป, กัลป; กิเลสพันหา; เครื่องราง; ชาดก; ทักขิณาบถ; นัมมทา; บริขาร;ปริตร, ปริตต; ภาณวาร; มานะ; ยถากรรม; สรภัญญะ; สัจกิริยา; อธิษฐาน; อายุ บัดนี้ งานชําระ-เพิมเติม ชวงที่ ๑ ไดเสร็จสิ้นแลว โดยกําหนดเอาเองวาเพียงเทานี้ แตงาน ่ชําระ-เพิมเติม ชวงที่ ๒ และ ๓ ซึ่งรอขางหนา มีมากกวา ่ ขอทําความเขาใจรวมกันวา ตามที่คิดไว งานตรวจชําระ ๓ ชวง จะเปนดังนี้ 11. ซ การชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑: แกไขปรับปรุงขอขาดตกบกพรองที่พบเฉพาะหนา โดยเฉพาะสวนหลงตาที่บังเอิญพบ และเพิ่มเติมคําศัพทและคําอธิบายที่รีบดวน หรือบังเอิญนึกได รวมทั้งศัพทท่บนทึกไวระหวางเวลาที่ผานมา (ไดเลือกทําแลวเฉพาะคําที่ไมซับซอนนัก) และบางคําที่ทานผู ีัใชหนังสือ ไดมน้ําใจแจงมาวาเจอคําผิดหรือคนหาไมพบ ี การชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๒: อาน-ตรวจตลอดเลม เพื่อจะไดมองเห็นคําพิมพผิด คําตกจุดและแงท่จะแกไข-ปรับปรุง-เพิ่มเติมทั่วทั้งหมด พรอมทั้งจัดปรับคําอธิบายศัพททั้งของเดิมและ ีสวนที่เพิ่มเติม ใหเขามาตรฐานเดียวกัน ทั้งในแงการแสดงความหมาย วิธีอธิบาย และอัตราสวนความยาวที่สัมพันธกับความสําคัญของศัพทนั้นๆ การชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๓: มุงที่การจัดระบบ เพื่อใหสม่ําเสมอ กลมกลืน เปนแบบแผนอันเดียวกันและทั่วกัน เชน มีคาอาน บอกที่มาในคัมภีร แสดงคําเดิมในภาษาบาลีและสันสกฤต ํและถาเปนไปได ใหคําแปลภาษาอังกฤษของศัพทตั้งหรือหัวศัพท พรอมทั้งแผนที่และภาพประกอบ งานชําระ-เพิมเติม ชวงที่ ๑ ไดเสร็จสิ้นลง โดยกําหนดเอาเองวาแคนี้กอน แตชวงที่ ๒ และ ่ ชวงที่ ๓ ไมอาจคาดหมายวาจะเสร็จเมื่อใด หากไมนิราศ-ไมไดโอกาสจากโรค ก็กลาวไดเพียงวาอยูในความตั้งใจที่จะทําตอไป พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๑ 12. คําปรารภ (ในการพิมพครั้งที่ ๑๐) เมื่อกลาวถึง พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท หลายทานนึกถึง พจนานุกรมพุทธศาสตรฉบับประมวลธรรม ดวย โดยเขาใจวาเปนหนังสือชุดที่มีสองเลมรวมกัน แตแทจริงเปนหนังสือที่เกิดขึ้นตางหากกัน ตางคราวตางวาระ และมีความเปนมาที่ทั้งตางหากจากกัน และตางแบบตางลักษณะกันก. ความเปนมา ชวงที่ ๑: งานสําเร็จ แตขยายไมได พจนานุกรมพุทธศาสตร ฉบับประมวลธรรม เปนหนังสือที่คอยๆ กอตัวขึ้นทีละนอย เริ่มจากหนังสือStudent’s Thai–Pali–English Dictionary of Buddhist Terms เลมเล็กๆ ที่จัดทําเสร็จใน พ.ศ. ๒๕๐๖ตอแตนั้นก็ไดปรับปรุง–เพิ่มเติม–ขยายขนาดขึ้นเรื่อยๆ และไดขยายขอบเขตออกไปจนกลายเปนงานที่มีลักษณะเปนสารานุกรม เมื่อเวลาผานไปๆ ก็มองเห็นวางานทําสารานุกรมจะกินเวลายืดเยื้อยาวนานมาก ยิ่งมีงานอื่นแทรกเขามาบอยๆ ก็ยิ่งยากที่จะมองเห็นความจบสิ้น ในที่สุดจึงตกลงวาควรทําพจนานุกรมขนาดยอมๆ ขั้นพื้นฐานออกมากอน และไดรวบรวมคัดเลือกหมวดธรรมมาจัดทําคําอธิบายขึ้น ซึ่งไดบรรจบรวมกับหนังสือเลมเล็กเดิมที่สบมาแต พ.ศ. ๒๕๐๖ กลายเปนภาคหนึ่งๆ ใน ๓ ภาคของหนังสือที่รวมเปนเลมเดียวกันอันมีชื่อวา ืพจนานุกรมพุทธศาสตร เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๕ กาลลวงมาจนถึง พ.ศ. ๒๕๒๘ พจนานุกรมพุทธศาสตร ซึ่งพิมพครั้งที่ ๔ จึงมีช่อปจจุบันวา ืพจนานุกรมพุทธศาสตร ฉบับประมวลธรรม เพื่อใหเขาคูกับพจนานุกรมอีกเลมหนึ่งที่เปลี่ยนจากชื่อเดิมมาเปน พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ถึงวาระนี้ พจนานุกรมสองเลมนี้จึงเสมือนเปนหนังสือที่รวมกันเปนชุดอันเดียว พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ที่วานั้น เปนหนังสือที่เกิดขึ้นแบบทั้งเลมฉับพลันทันทีโดยแทรกตัวเขามาใน พ.ศ. ๒๕๒๒ ระหวางที่งานทําพจนานุกรมซึ่งขยายขอบเขตออกไปจนจะเปนสารานุกรมนั้น กําลังดําเนินอยู เนื่ อ งจากผูรวบรวมเรียบเรียงเห็ นว า งานทําสารานุก รม คงจะกินเวลายืดเยื้อไปอีกนาน และพจนานุกรมพุทธศาสตร ทีทาเสร็จไปแลว ก็มเี ฉพาะดานหลักธรรมซึงจัดเรียงตามลําดับหมวดธรรม ควรจะมี ่ํ ่พจนานุกรมเลมเล็กๆ งายๆ วาดวยพระพุทธศาสนาทั่วๆ ไป แบบเรียงตามลําดับอักษร ทีพอใชประโยชนพนๆ ่ ื้สําหรับผูเ ลาเรียนในขันตน โดยเฉพาะนักเรียนนักธรรม ออกมากอน ้ พรอมนั้นก็พอดีประจวบเหตุผลอีกอยางหนึ่งมาหนุน คือ ไดเห็นหนังสือ ศัพทหลักสูตรภาษาไทยสําหรับนักธรรม ชันตรี ชันโท และชันเอก ที่มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยจัดพิมพออกมาใน พ.ศ. ๒๕๐๓ ้ ้ ้เหลืออยูจํานวนมากมาย และดูเหมือนวาไมมีใครเอาใจใส หนังสือ ศัพทหลักสูตรภาษาไทย ชุดนั้น ทาง มจร. จัดพิมพขึ้นมาเพื่อสนองความตองการของนักเรียนนักธรรมที่จะตองสอบวิชาใหมซึ่งเพิ่มเขามาในหลักสูตร คือวิชาภาษาไทย แตแทบจะยังไมทันไดเผยแพรออกไป วิชาภาษาไทยนั้นก็ไดถูกยกเลิกเสีย หนังสือชุดนั้นจึงถูกทอดทิ้ง ไดมองเห็นวา หนังสือ ศัพทหลักสูตรภาษาไทย นัน ไมควรจะถูกทิงไปเสียเปลา ถานํามาจัดเรียงใหมในรูป ้ ้พจนานุกรม ก็จะใชประโยชนได อยางนอยศัพทตงหรือหัวศัพททมอยูกจะทุนแรงทุนเวลาในการเก็บศัพทเปนอันมาก ั้ ี่ ี ็ 13. ญ โดยนัยนี้ ก็ไดนาหนังสือ ศัพทหลักสูตรภาษาไทย ชุดนันทัง ๙ ภาค (ศัพทสาหรับนักธรรมตรี–โท–เอก ํ ้ ้ ํชั้นละ ๓ วิชา จึงมีช้นละ ๓ ภาค พิมพรวมเปนชั้นละเลม) มาจัดเรียบเรียงเปนพจนานุกรมเลมเดียว ดังไดเลา ัไวแลวใน “แถลงการจัดทําหนังสือ ประกาศพระคุณ ขอบคุณ และอนุโมทนา (ในการพิมพครั้งที่ ๑)” ศัพทจํานวนมากทีเดียว ที่งายๆ พื้นๆ และตองการเพียงความหมายสั้นๆ หรือคําอธิบายเพียงเล็กนอย ไดคงไวตามเดิมบาง แกไขปรับปรุงบาง สวนศัพทที่ตองการคําอธิบายยาวๆ ก็เขียนขยาย และศัพทสําหรับการเรียนนักธรรมที่ตกหลนหรือศัพททั่วไปอันควรรูที่ยังไมมี ก็เติมเขามา รวมเปนของเกากับของใหมประมาณครึ่งตอครึ่ง จึงเกิดเปนพจนานุกรม ซึงในการพิมพครังแรก พ.ศ. ๒๕๒๒ เรียกชือวา พจนานุกรม ่ ้ ่พุทธศาสน ฉบับครู นักเรียน นักธรรม ตอมา ในการพิมพครั้งที่ ๒ พ.ศ. ๒๕๒๗ พจนานุกรมเลมนั้นไดเปลี่ยนมีชื่ออยางปจจุบันวาพจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท คือหนังสือเลมนี้ เมื่อมีการเผยแพรมากขึ้น ผูขออนุญาตพิมพบางแหงจึงไดนําพจนานุกรมทั้งสองเลมนี้มาจัดรวมกันเปนชุด และลาสุดบางทีถึงกับทํากลองใสรวมกัน แมจะมีประวัติแหงการเกิดขึ้นตางหากกัน แตพจนานุกรมสองเลมนี้ก็มีลักษณะที่เหมือนกันอยางหนึ่งคือเปนงานในชวงระหวางที่งานทําพจนานุกรมซึ่งตอเนื่องมาแตเดิมและขยายออกไปจนกลายเปนสารานุกรมแสดงอาการวาจะเปนเรื่องยืดเยื้อตองรออีกยาวนาน หลังจากการพิมพลงตัวแลว พจนานุกรมสองเลมนี้ก็มีชะตากรรมอยางเดียวกัน คือขึ้นตอระบบการทําตนแบบและการพิมพยุคกอนนั้น ซึ่งตนแบบอยูในแผนกระดาษที่ตายตัว แกไขและขยับขยายไดยาก ยิ่งเปนหนังสือขนาดหนาและมีรูปแบบซับซอน ก็แทบปรับเปลี่ยนอะไรไมไดเลย ดวยเหตุนี้ การพิมพพจนานุกรมสองเลมนั้นในครั้งตอๆ มา จึงตองพิมพซ้ําตามตนแบบเดิม ถาจําเปนจริงๆ ที่จะตองแกไข ก็แกไดเพียง ๔–๕ บรรทัด ยิ่งเมื่อเวลาผานมานานขึ้น แผนกระดาษตนแบบทั้งหมดก็ผุเปอยหรือสูญหายไป (ตนแบบของ พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ซึ่งทําขึ้นใหมในการพิมพครั้งที่ ๒ ไดสูญหายไปตั้งแตเมื่อการพิมพครั้งที่ ๒ นั้นเสร็จสิ้นลง) ทําใหการพิมพตอจากนั้นตองใชวิธีถายภาพจากหนังสือที่พิมพครั้งกอนๆ ซึ่งจะไดตัวหนังสือที่เลือนลางลงไปเรื่อยๆ ไดแตรอเวลาที่จะพิมพทําตนแบบขึ้นใหม โดยจะถือโอกาสเพิ่มเติมดวยพรอมกัน อยางไรก็ตาม เนื่องจาก พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท นี้ มีศัพทและคําอธิบายที่จะเพิ่มมากมาย เมื่อแกไขตนแบบเดิมไมได ก็จึงใสสวนเพิ่มเขามาตางหากตอทายเลมในการพิมพครั้งที่ ๓ พ.ศ.๒๕๒๘ โดยทําเปน “ภาคผนวก” (มีศัพทต้งหรือหัวศัพทเพิ่ม ๑๒๔ ศัพท รวม ๒๔ หนา ขยายขนาดเลม ัหนังสือเฉพาะตัวพจนานุกรมแทๆ ขึ้นเปน ๔๖๖ หนา) ตอแตนั้นมา ก็พิมพซ้ําอยางที่กลาวขางตนข. ความเปนมา ชวงที่ ๒: เขายุคใหม มีฐานที่จะกาวตอ ระหวางรอเวลาที่จะพิมพทําตนแบบใหม พรอมกับเขียนเพิ่มเติม ซึ่งมองไมเห็นวาจะมีโอกาสทําไดเมื่อใด กาลก็ลวงมา จนถึงยุคคอมพิวเตอร ระบบคอมพิวเตอรไดชวยใหการพิมพเจริญกาวหนาอยางมหัศจรรย ซึ่งแกปญหาสําคัญในการทําพจนานุกรมไดทงหมด โดยเฉพาะ ั้ • การพิมพขอมูลใหมทําไดอยางดีและคลองสะดวก • รักษาขอมูลใหมนั้นไวไดสมบูรณและยืนนาน โดยมีคุณภาพคงเดิม หรือจะปรับใหดียิ่งขึ้นก็ได 14. ฎ • ขอมูลใหมที่เก็บไวนั้น จะแกไข–ปรับปรุง–เพิ่มเติม ที่จุดไหนสวนใด อยางไร และเมื่อใด ก็ไดตามปรารถนา ถึงตอนนี้ ก็เห็นทางที่จะทําใหงานทําพจนานุกรมกาวตอไป แตก็ตองรอขั้นตอนสําคัญ คือจุดตั้งตนครั้งใหม ไดแกการพิมพขอมูลพจนานุกรมทั้งหมดในเลมหนังสือลงในคอมพิวเตอร ซึ่งตองใชเวลาและแรงงานมากทีเดียว ถามีขอมูลที่พิมพลงในคอมพิวเตอรไวพรอมแลว ถึงจะยังไมมีเวลาที่จะแกไข–ปรับปรุง–เพิ่มเติม ก็อุนใจได เพราะสามารถเก็บรอไว มีโอกาสเมื่อใด ก็ทําไดเมื่อนั้น แตตองเริ่มขั้นเตรียมขอมูลนั้นใหไดกอน ขณะที่ผรวบรวมเรียบเรียงเองพิมพดีดไมเปน กับทั้งมีงานอื่นพันตัวนุงนัง ไมไดดําเนินการอันใดใน ูเรื่องนี้ ก็ไดมีทานที่มีใจรักและทานที่มองเห็นประโยชน ไดพิมพขอมูล พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวล ศัพท ทั้งหมดของเลมหนังสือลงในคอมพิวเตอร ดวยความสมัครใจของตนเอง โดยมิไดนัดหมาย เทาที่ทราบ/เทาที่พบ ๔ ราย เปน ๔ ชุด คือ ๑. พระมหาเจิม สุวโจ แหงสถาบันวิจัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ไดเริ่มจัดทํางานนี้ตั้งแตระยะตนๆ ของยุคแหงการพิมพดวยระบบคอมพิวเตอร ซึ่งทั้งอุปกรณและบุคลากรดานนี้ยังไมพรั่งพรอม ใชเวลาหลายป จนในที่สด ไดมอบขอมูลที่เตรียมเสร็จแลวแกผูรวบรวมเรียบเรียง เมื่อวันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๔๑ ุ ขอมูลทีพระมหาเจิม สุวโจ เตรียมไวนี้ ไดจดวางรูปแบบเสร็จแลว รอเพียงงานขันทีจะสงเขาโรงพิมพ ่ ั ้ ่รวมทังการตรวจครังสุดทาย นับวาพรอมพอสมควร แตผรวบรวมเรียบเรียงก็ไมมเี วลาตรวจ เวลาก็ผานมาเรือยๆ ้ ้ ู ่ ๒. รศ. ดร.สมศีล ฌานวังศะ ราชบัณฑิต ไดเตรียมขอมูลพจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท(พรอมทั้งพจนานุกรมพุทธศาสตร ฉบับประมวลธรรม) โดยบุตรหญิง–ชาย คือน.ส.ภาวนา ตั้งแตยังเปนด.ญ.ภาวนา ฌานวังศะ และนองชาย คือ นายปญญา ตั้งแตยังเปนด.ช.ปญญา ฌานวังศะ ไดชวยกันแบงเบาภาระดวยการพิมพขอมูลทังหมดของเลมหนังสือลงในคอมพิวเตอร ภายใตการดูแลของ ดร.สมศีล ฌานวังศะ ้ซึ่งเปนผูตรวจความเรียบรอยและจัดรูปแบบขอมูลนั้นตามเลมหนังสืออีกทีหนึ่ง ๓. พระไตรปฎก (ในแผน CD – ระบบคอมพิวเตอร) ฉบับสมาคมศิษยเกา มหาจุฬาลงกรณราช-วิทยาลัย ซึ่งเสร็จออกเผยแพรในชวงตนของ พ.ศ. ๒๕๔๓ ไดขอบรรจุ พจนานุกรมพุทธศาสตร ฉบับประมวลธรรม และ พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ไวในโปรแกรมดวย ผูจัดทําจึงไดพิมพขอมูลทั้งหมดของหนังสือทั้งสองเลมนั้นลงในคอมพิวเตอร แตเนื่องจากเปนขอมูลสําหรับโปรแกรมคอมพิวเตอร จึงไมไดจัดรูปแบบเพื่อการตีพิมพอยางเลมหนังสือ ๔. พจนานุกรมพุทธศาสน (ในแผน CD – ระบบคอมพิวเตอร) รุน ๑.๕ (ในโปรแกรมวา พจนานุกรมพุทธศาสตร Version <1.2>) พ.ศ. ๒๕๔๔ จัดทําโดยคณะวิศวกรรมศาสตรคอมพิวเตอร มหาวิทยาลัยรังสิตซึ่งก็ไมไดจัดรูปแบบเพื่อการตีพิมพอยางเลมหนังสือ เพราะเปนขอมูลสําหรับโปรแกรมคอมพิวเตอร ขอมูลทัง ๔ ชุดนี้ ผูจดทําชุดนันๆ ไดนาศัพทตงและคําอธิบายทังหมดใน “ภาคผนวก” รวม ๒๔ หนา ้ ั ้ ํ ั้ ้๑๒๔ ศัพท ของฉบับเรียงพิมพระบบเกา มาแทรกเขาในเนือหาหลักของเลมตามลําดับอักษรเสร็จเรียบรอยดวย ้ เมื่อมีชุดขอมูลใหเลือก ก็แนนอนวาจะตองพิจารณาเฉพาะชุดที่จัดรูปแบบไวแลวเพื่อการตีพิมพอยางเลมหนังสือ คือชุดที่ ๑ และชุดที่ ๒ แตทั้งที่มีขอมูลนั้นแลว เวลาก็ผานไปๆ โดยผูรวบรวมเรียบเรียงมิไดดําเนินการใดๆ เพราะวาแมจะมีขอมูลครบทั้งหมดแลว แตก็ยังมีงานสุดทายในขั้นสงโรงพิมพ โดยเฉพาะการพิสจนอักษร (ตรวจปรูฟ) ตลอด ูเลมอีกครั้ง ซึ่งควรเปนภาระของผูรวบรวมเรียบเรียงเอง