More Related Content More from Nawanan Theera-Ampornpunt
More from Nawanan Theera-Ampornpunt (20) Site Visit Presentation on Hospital Information Systems1. ยินดีตอนรับ
้
นักศึกษาพยาบาล
วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี กรุงเทพ
นพ.นวนรรน ธีระอัมพรพันธุ ์
งานเวชสารสนเทศ คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี 19 พ.ย. 2547
4. Information = Data ?
Interpretation Analysis Decision
Data Information Knowledge Wisdom
1234567.89 = Data
ผมมีเงิน 1,234,567.89 บาทในบัญชี = Information
เป็ นไปไม่ได้ท่ ผมจะมีเงินขนาดนัน = Knowledge
ี ้
สงสัยจะต้องแจ้งธนาคารให้ตรวจสอบข้อผิดพลาด = Wisdom
6. ทําไมต้องมีระบบสารสนเทศ
• เพื่อข้อมูล
– ครบถ้วน
– ถูกต้อง แม่นยํา เชื่อถือได้
– ละเอียด
• เพื่อองค์กร
– ประสิทธิภาพ (Efficiency)
– คุณภาพ (Quality)
– ความรวดเร็ว, ความสะดวก (Speediness & Convenience)
– ความเข้าถึงได้งาย (Accessibility)
่
– ความปลอดภัย (Security)
7. ทําไมต้องมีการจัดการสารสนเทศ
• Analysis and verification of data
• Report of data
• Prevent information overload
• Confidentiality & Security ความลับ
และความปลอดภัย
• Availability ความพร้อมใช้งานของระบบ
8. สารสนเทศกับการบริหารองค์กร
Decision &
Monitoring
Automation
Networking
Data Storage (Database)
Patient Information/Transactions
10. Hardware Infrastructure
• วัสดุอปกรณ์ต่างๆ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์,
ุ
Printer, Keyboard, ฯลฯ
• รวมถึงระบบเครือข่าย (Networking)
• ระบบฐานข้อมูล (Database)
• คอมพิวเตอร์ แบ่งเป็ น
– Server
– Client
11. Software
• ซอฟต์แวร์สาเร็จรูป
ํ
– ไม่ตองเสียเวลาพัฒนา
้
– ราคาถูกไปจนถึงแพง ขึ้นอยู่กบคุณสมบัตท่ มี
ั ิี
– อาจไม่เหมาะกับระบบในองค์กร
• ซอฟต์แวร์ท่ จา้ งเขียน
ี
– ส่วนใหญ่แพง
– ปัญหาในการแก้ไขต่อเมื่อต้องการเปลี่ยนแปลง
• ซอฟต์แวร์ท่ พฒนา (เขียน) เองจากคนในองค์กร
ี ั
– ใช้เวลาพัฒนา, เปลืองแรงงานบุคลากร
– เหมาะกับระบบในองค์กรที่สดุ
– ปรับเปลี่ยนได้ในอนาคต
13. Peopleware
• เป็ น component ที่บริหารจัดการยากที่สด
ุ
• ถ้ามี hardware + software แต่ peopleware
ไม่ใช้ ก็ไม่มีประโยชน์
• การจะให้ Peopleware ร่วมมือได้ ต้องให้เห็น
ประโยชน์ ความสําคัญ และต้องมีการอบรมที่ดีพอ
คนที่ทาหน้าที่ IT ต้องอดทน และที่สาคัญ ผูบริหาร
ํ ํ ้
ต้องเห็นด้วยและสนับสนุ น
15. ระบบสารสนเทศโรงพยาบาล
• Front Office
– ระบบสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับการบริการ
– เรียกอีกชื่อว่า Hospital Information System (HIS)
• Back Office
– ระบบสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับงานบริหาร ธุรการ
การเงิน การพัสดุ และการบริหารงานบุคคล
16. Hospital Information System
- Billing - Visit
- Accounting - Appointment
- Analysis - Drug Orders
- Reimbursement Medical - Lab, X-rays
- UC, SSO Records
Finance OPD
- Billing
- Admission
- V/S, I/O
- OPD Pharmacy HIS IPD - Records/Notes
- IPD - Drug Orders
- Billing - Lab, X-rays
- Inventory LIS RIS - Diagnoses
-Clin Pharm. - Operations
OR
- Request
- Specimen Handling - Request
- Automatic Machine - PACS
- Report - Report
- Billing - Billing
17. ระบบสารสนเทศโรงพยาบาล
• Medical Records
– ระบบลงทะเบียนผูป่วย (Patient Registration)
้
– ระบบจัดการเวชระเบียน (MR Movement)
– ระบบบันทึกเวชระเบียน (EMR – Electronic
Medical Records)
18. ระบบสารสนเทศโรงพยาบาล
• OPD
– ระบบจัดการการตรวจ (Visit Management)
– ระบบนัดหมาย (Appointment)
– ระบบบันทึกข้อมูลในเวชระเบียน (EMR)
– ระบบสังยา (Drug Order)
่
– ระบบสัง Lab (Lab Order) และรายงานผล (Lab Report)
่
– ระบบสังการตรวจทางรังสี (Radiologic Request) และรายงานผล
่
(Radiologic Report)
– ระบบเรียกเก็บเงินผูป่วย (Billing)
้
19. ระบบสารสนเทศโรงพยาบาล
• IPD
– ระบบรับผูป่วย (Admission)
้
– ระบบบริหารจัดการเตียง (Patient Administration)
– ระบบบันทึกข้อมูล (EMR)
– ระบบสังยา, ระบบสัง Lab และรายงานผล
่ ่
– ระบบสังการตรวจทางรังสี (Radiologic Request) และรายงานผล
่
(Radiologic Report)
– ระบบเรียกเก็บเงินผูป่วย (Billing)
้
– ระบบสรุปโรคและหัตถการ, ลงสาเหตุการตาย (Summary Discharge)
– ระบบลงข้อมูลห้องผ่าตัด
20. ระบบสารสนเทศโรงพยาบาล
• Pharmacy
– ระบบสังยา (Drug Order) [OPD, IPD]
่
– ระบบจ่ายยา (Drug Dispensary)
– ระบบคลังยา (Drug Inventory)
– ระบบข้อมูลยา (Drug Information)
– เชื่อมต่อระบบการเงิน (Billing)
21. ระบบสารสนเทศโรงพยาบาล
• Laboratory Information System (LIS)
– ระบบสัง Lab (Lab Request) [OPD, IPD]
่
– ระบบรับสิ่งส่งตรวจ (Specimen Handling)
– ระบบเชื่อมต่อเครื่องอัตโนมัติ (Automatic Machine Interfac
– ระบบรายงานผล Lab (Lab Report)
– ระบบคลังเลือด (Blood Bank)
– เชื่อมต่อระบบการเงิน (Billing)
22. ระบบสารสนเทศโรงพยาบาล
• Radiologic Information System (RIS)
– ระบบสังการตรวจทางรังสี (Radiologic Request) [OPD, IPD]
่
– ระบบบันทึกภาพ Digital X-ray (PACS – Picture Archiving
and Communication System) = Filmless
– ระบบรายงานผล (Radiologic Report)
– เชื่อมต่อระบบการเงิน (Billing)
23. ระบบสารสนเทศโรงพยาบาล
• Finance
– ระบบการเงิน (Billing) [OPD, IPD]
– ระบบบัญชี (Accounting)
– ระบบเรียกเก็บเงิน (Reimbursement)
– ระบบอื่นๆ เช่น โครงการของประกันสังคม, 30 บาท
24. ระบบสารสนเทศโรงพยาบาล
• ระบบอื่นๆ
– ระบบโภชนาการ (Diet Management) [OPD, IPD]
– ระบบตรวจสอบสิทธิการเข้าใช้งาน (User Authentication
System)
– ระบบคลินิกพิเศษ
– ระบบห้องส่องกล้อง
25. Back Office
• ระบบการเงินการคลัง
– การเงิน (Billing)
– การบัญชี (Accounting, General Ledger)
– งบประมาณ (Budgeting)
– การวิเคราะห์ตนทุน (Cost Analysis)
้
– ฯลฯ
26. Back Office
• ระบบการพัสดุ, การจัดซื้อจัดจ้าง
– การจัดซื้อจัดจ้าง (Purchasing)
– คลังพัสดุ (Stock/Inventory)
– การบริหารวัสดุครุภณฑ์ (Material Management)
ั
– ฯลฯ
27. Back Office
• ระบบการบริหารงานบุคคล
– การบรรจุ (Recruitment)
– การเลื่อนขัน, ความดีความชอบ (Promotion)
้
– การแต่งตัง โยกย้าย ลาออก เกษี ยณอายุ
้
– การพัฒนาบุคลากร, การฝึ กอบรม
– สิทธิประโยชน์และสวัสดิการ
– การดําเนิ นการทางวินย
ั
– ฯลฯ
29. Back Office
• ระบบการศึกษา วิจย
ั
– ระบบสารสนเทศห้องสมุด
– ฐานข้อมูลผลงานวิจยของบุคลากร
ั
– ระบบข้อมูลนักศึกษา
– คลังข้อสอบ
– โปรแกรมช่วยการเรียนรู ้ (CAI – Computer Assisted Instructions)
– การศึกษาต่อเนื่ อง – CME, CNE
– ฯลฯ
30. Data Warehouse
Front Office (HIS) Back Office
Data Warehouse
Management-Level Information Employee-Level Information
31. Special Concerns in Healthcare Informatics
• ความพร้อมในการใช้งาน (Availability)
– เนื่ องจากการบริการของรพ. เป็ นสิ่งที่ critical ไม่ควรถูกกระทบกระเทือน
การพัฒนาของระบบจึงควรค่อยเป็ นค่อยไป และระบบเครือข่ายและระบบ
ฐานข้อมูลควรมีเสถียรภาพ
– การสํารองข้อมูล (Back up): Online/Offline (Tape/CD/DVD/Hard Disk)
• การยืนยันตัวบุคคล (Authenticity)
– เพื่อให้แน่ ใจว่าผูท่ สงการรักษา หรือบันทึกข้อมูลสําคัญ เป็ นบุคคลคนนันจริง
้ ี ่ั ้
• การกําหนดสิทธิการเข้าถึงระบบ (Authorization)
– เพื่อให้แน่ ใจว่า ผูท่ เี ข้าถึงระบบบางอย่าง ได้รบการกําหนดสิทธิอนุ ญาตให้เข้าถึงจริงๆ ไม่ใช่
้ ั
บุคคลภายนอกสามารถเข้าถึงได้โดยง่าย
• ความลับของผูป่วย (Confidentiality)
้
– สิทธิของผูป่วย, กฎหมายอาญา
้
33. คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี
• 919 เตียง
• 52 หอผูป่วย
้
• ผูป่วยใน 80-90 ราย/วัน
้
• ผูป่วยนอก 3,000 ราย/วัน
้
• 14 ภาควิชา 1 โรงพยาบาล 2 สํานักงาน
• บุคลากร 5,000 คน
34. งานเวชสารสนเทศ คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี
• อยู่ภายใต้สานักงานคณบดี
ํ
• ผูบงคับบัญชา คือ รองคณบดีฝ่ายสารสนเทศ
้ั
• มีผูช่วยคณบดีฝ่ายสารสนเทศช่วยกํากับดูแล 4 ท่าน
้
• มีการกํากับดูแลเชิงนโยบายจากคณะกรรมการสารสนเทศ
• มีบคลากร 63 คน เป็ นโปรแกรมเมอร์ 22 คน นักวิเคราะห์ระบบงาน
ุ
คอมพิวเตอร์ (System Analyst) 2 คน และแพทย์ท่ ทาหน้าที่เจ้าหน้าที่วเคราะห์
ีํ ิ
ระบบงานคอมพิวเตอร์ 1 คน
35. งานเวชสารสนเทศ
เดิม ใหม่ (ต.ค. 2547)
งานเวชสารสนเทศ งานเวชสารสนเทศ
หน่วยธุรการ หน่วยธุรการ
หน่วยบํารุ งรักษาระบบ
หน่วยบํารุ งรักษาระบบ
ศูนย์บริ การสารสนเทศ
หน่วยพัฒนาบุคลากรสารสนเทศ
หน่วยพัฒนาระบบ
หน่วยบริ การข้อมูล หน่วยพัฒนาระบบบริ การ
หน่วยเวชสถิติ หน่วยพัฒนาระบบบริ หาร
หน่วยบริ การข้อมูล
38. ระบบนัดหมายผูป่วยนอก
้
วิเคราะห์ความต้องการ / ปัญหา
• จนท.เวชระเบียน และ OPD
ต้องเขียนบัญชีรบส่งเวชระเบียน&ใบยืม
ั
• เจ้าหน้าที่ OPD ใช้สมุดนัดคุมตาราง
เขียนลงสมุด
เขียนบัตรนัด
จัดตารางลําบาก
เปลี่ยนแปลงยาก
• แพทย์ไม่ทราบยอดนัดผูป่วย
้
• ผูป่วยรอคิวรับบัตรนัดนาน
้
39. ระบบนัดหมายผูป่วยนอก
้
ออกแบบระบบ / เอกสาร / เลือกเครื่องมือ
คอมพิวเตอร์
เครื่องอ่าน barcode
บัตรนัด
40. ระบบนัดหมายผูป่วยนอก
้
จัดระเบียบปฏิบติ / ฝึ กอบรม / กํากับดูแล
ั
ระบบเตรียมเวชระเบียนนัดหมาย มีบนทึกยืมเวชระเบียนจากระบบ
ั
ระบบลงตารางนัดหมาย
ลดการเขียน
บัตรนัดชัดเจน
เจ้าหน้าที่สะดวก
เปลี่ยนแปลงง่าย
แพทย์ทราบยอดผูป่วย / ควบคุมยอดได้
้
ผูป่วยสะดวก รวดเร็วขึ้น
้
41. ระบบผูป่วยบริการตนเอง
้
วิเคราะห์ความต้องการ
ผูป่วยเลือกจังหวะรับบริการเอง
้
ลดคิว / ความแออัด
ไม่จาเป็ นต้องใช้ผูปฏิบตงาน
ํ ้ ัิ
47. โปรแกรมที่พฒนาขึ้น
ั
• โปรแกรมลงทะเบียนผูป่วย, ระบบ Admit
้
• โปรแกรมข้อมูลเตียงผูป่วย
้
• โปรแกรมสังยา, สัง Lab ที่ ward (+โปรแกรมรับ order ของพยาบาล)
่ ่
• โปรแกรมรายงานผล Lab
• โปรแกรมสรุปการวินิจฉัยโรคโดยแพทย์, โปรแกรม Audit โดยอาจารย์
• โปรแกรมลงกิจกรรมพยาบาล (NI – Nurse Intervention)
• โปรแกรมลงข้อมูล OPD โดยพยาบาล
• โปรแกรมรายงานผล X-ray (บางส่วน)
• โปรแกรมห้องส่องกล้อง, โปรแกรมคลินิกเบาหวาน
• โปรแกรมเวชระเบียนสแกน
• โปรแกรมการเงิน
48. รามาธิบดี กับการเรียกเก็บเงินตาม DRG
• แพทย์สรุป Diagnosis + Procedure ที่ ward ก่อน Discharge ทุกคน
(ตาม ICD-10 และ ICD-9CM)
• อาจารย์แพทย์ตรวจ Audit ความถูกต้องที่แพทย์สรุป หลัง Discharge
• งานคลังนํ าข้อมูลจากฐานข้อมูลไป Reimburse
50. ปัญหาและอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้น
• ความ “กลัว” การเปลี่ยนแปลงของบุคลากร
• บุคลากรที่ไม่ชํานาญการใช้คอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะผูอาวุโส
้
• การพัฒนาแบบก้าวกระโดด ทําให้ขาดการคํานึ งถึงประเด็นด้านความปลอดภัย กฎระเบียบ
ในการใช้งานที่ชดเจน
ั
• ผูบริหารไม่สนับสนุ นหรือเห็นความสําคัญ
้
• งบประมาณ
• การต้องเลือกซอฟต์แวร์ ระหว่างสําเร็จรูป กับ พัฒนาเอง
• ความพร้อมของบุคลากรด้านสารสนเทศในองค์กร – ผูบริหารสารสนเทศระดับสูง (CIO),
้
นักวิเคราะห์ระบบ (System Analyst), Programmer, นักวิชาการคอมพิวเตอร์, เจ้าหน้าที่
สถิต,ิ เจ้าหน้าที่คอมพิวเตอร์
51. แนวทางการพัฒนา
• พัฒนาระบบเวชระเบียนสูอเิ ล็กทรอนิ กส์
่
• พัฒนาการลงข้อมูลการวินิจฉัยโรคและหัตถการให้ครบถ้วน
• พัฒนาระบบ Cardex พยาบาล
• พัฒนาระบบทังหมดสูรหัสมาตรฐานสากล HL7
้ ่
• ปรับฐานข้อมูลให้อยู่ในระบบฐานข้อมูลมาตรฐาน เช่น Oracle