1. การคนหาขอมูลและการวเคราะหอลกอรทม
การคนหาขอมลและการวิเคราะหอัลกอริทึม

2. การคนหาขอมูล
การคนหาขอมล
การคนหาขอมูล คือ การตรวจสอบขอมูลทีละตัววาใช
  ื  ี ั ใ
ขอมููลที่ตองการคนหาหรือไม ถาไมใชก็ตรวจสอบไป
เรื่อยๆ

3. การคนหาแบงออกเปน วธ คือ
การคนหาแบงออกเปน 2 วิธี คอ
1. การคนหาแบบลําดับ (Sequential Search)
2. การคนหาแบบทวิภาค (Binary Search)

4. 1. การคนหาแบบลาดบ
1 การคนหาแบบลําดับ
การคนหาแบบตามลําดับ เปนการเปรียบเทียบขอมูลทีี
 ํ ั  ี ี 
ละตัว จนกวาจะพบขอมููลที่ตองการคนหาหรือจนหมด
ขอมูล แบงเปน 2 ประเภท
1. คนหาขอมูลทีี่เรีียงลํําดับ
 ั
2. คนหาขอมููลที่ยังไมเรียงลําดับ

5. การวเคราะหประสทธภาพของการคนหาแบบลาดบ
การวิเคราะหประสิทธิภาพของการคนหาแบบลําดับ
การคนหาแบบเรียงลําดัับ จะมีจานวนการเปรียบเทียบคีย
 ี ํ ีํ ี ี ี
(key) กับคาตางๆ ดังนี้
ถาเรากําหนดใหมีขอมูลอยูในแถวลําดับ จํานวน n ตัว
กรณทดทสุ คอ ตองเปรยบเทยบคยเพยง ครง
กรณีที่ดีที่สด คือ ตองเปรียบเทียบคียเพียง 1 ครั้ง
กรณีที่รายที่สุด คือ ตองเปรียบเทียบคียถึง n ครั้ง
กรณีเฉลี่ยทั่วไป คือ ตองเปรียบเทียบ n/2

6. ตวอยาง
ตัวอยาง
จํานวนการเปรียบเทียบ 3 กรณี ของการคนหาขอมูลที่เก็บอยูในแถว
ลาดับเปนจํานวน 500 ตัว แบบเรียงลําดับ
ํ
จํานวนการเปรียบเทียบกรณีที่ดีที่สุด 1 ครั้ง
จานวนการเปรียบเทียบกรณีรายท่สด 500 ครั้ง
ํ นวนก ร รยบ ทยบกรณร ยที ุ 00 คร
จํานวนการเปรียบเทียบกรณีเฉลี่ย 500/2 = 250 ครั้ง

7. การคนหาแบบทวภาค
การคนหาแบบทวิภาค (Binary Search)
การคนหาแบบทวิภาค จะทําการเปรียบเทียบขอมูลที่
ตองการคนหากัับคาคีียที่อยูตรงกลางของตาราง ถา
 
เทากันก็คนหาจบ แตถาไมเทากันก็จะทําการคนหาใน

ครึ่งหนึ่งของตารางตอ

8. การวเคราะหและหาประสทธภาพการคนหาแบบทวภาค
การวิเคราะหและหาประสิทธิภาพการคนหาแบบทิวภาค
การวิิเคราะหอัลกอริทึมเพือหาประสิทธิภาพของการคนหา
 ิ ่ื ิ ิ 
แบบทวิภาค กรณีที่ดีท่สุดคือ กรณีที่พบคาที่ตองการคนหา
ี
อยูตรงกลาง list

เปรีียบเทีียบครัั้งเดีียวก็พบ
ป ็

9. 10
4
15
1 7
12 18
2 5 8 11 14 16 20

10. ตวอยาง
ตัวอยาง
ระดับ 0 จํํานวนครังการเปรีียบเทียบโหนด คือ 10 = 0+1 =1
ั ้ั ี โ ื
ระดับ 1 จํานวนครั้งการเปรียบเทียบโหนด คือ 4 และ 15 = 1+1=2
ระดับ 2 จํานวนครั้งการเปรียบเทียบโหนด คือ 1 7 12 และ 18= 2+1
=3
ระดับ 3 จํานวนครั้งการเปรียบเทียบโหนด คือ 2 5 8 11 14 16 และ
20 = 3+1=4
จํานวนครั้งเปรียบเทียบการคนหาแบบทิวภาคสัมพันธกับระดับของตนไม
ระดบยงลกกยงเสยเวลาและซบซอนในการคนหามากยงขน
ระดับยิงลีกก็ยงเสียเวลาและซับซอนในการคนหามากยิ่งขึ้น
่ ิ่