More Related Content
More from Muhammadrusdee Almaarify (20)
ฟิกฮฺ(กลาง).Pdf
- 2. ฟกฮฺอิบาดาต 2
2
เฏาะฮาเราะฮฺเฏาะฮาเราะฮฺเฏาะฮาเราะฮฺเฏาะฮาเราะฮฺ ((((ความสะอาดความสะอาดความสะอาดความสะอาด))))
เฏาะฮาเราะฮฺ ความหมายตามคําอธิบายศัพทภาษาอาหรับแปลวา ความสะอาด
และปราศจากสิ่งสกปรกทั้งที่มองเห็นไดและมองเห็นไมได ซึ่งอาจแบงออกเปน 2
ประเภท
1. ความสะอาดภายนอก ซึ่งจะตองทําความสะอาดโดยการทําวุฎอ (อาบน้ํา
ละหมาด) และทําฆุสลุ(อาบน้ําชําระรางกาย) นอกจากนี้เครื่องนุงหม
รางกายและสถานที่ก็ตองมีความสะอาดปราศจากสิ่งสกปรกโสมมดวย
2. ความสะอาดภายใน ซึ่งจะตองทําความสะอาดใจใหปลอดจากคุณลักษณะที่
ไมพึงประสงคตางๆเชน การชิริก(ตั้งภาคีตออัลลอฮฺ) การกุฟุร(การปฏิเสธ
ศรัทธา) การหยิ่งถือตัว การหลงตัวเอง การอิจฉาริษยา การตลบแตลง
การโออวดฯลฯ และเติมเต็มหัวใจดวยคุณลักษณะ ที่พึงประสงคตางๆเชน
การยึดมั่นกับอัลลอฮฺองคเดียว การศรัทธา การมีสัจจะ การบริสุทธิ์ใจ
มั่นใจและการมอบตนตออัลลอฮฺ ฯลฯซึ่งจะกระทําสิ่งตางๆเหลานี้ไดดวย
การเตาบะฮฺ(ขออภัยโทษ กลับตัวกลับใจ) อิสติฆฺฟารฺ(ขอลุแกโทษ)และการ
รําลึกอัลลอฮฺอยูเสมอ
การเตรียมพรอมของบาวคนหนึ่งในขณะที่จะแสดงการเคารพสักการะพระผูเปนการเตรียมพรอมของบาวคนหนึ่งในขณะที่จะแสดงการเคารพสักการะพระผูเปนการเตรียมพรอมของบาวคนหนึ่งในขณะที่จะแสดงการเคารพสักการะพระผูเปนการเตรียมพรอมของบาวคนหนึ่งในขณะที่จะแสดงการเคารพสักการะพระผูเปน
เจาของเขาเจาของเขาเจาของเขาเจาของเขา
เมื่อมนุษยผูหนึ่งมีความสะอาดภายนอกหลังจากการชําระลางสิ่งสกปรกตางๆ
ดวยน้ําและมีความสะอาดภายในดวยการยึดมั่นในอัลลอฮฺองคเดียวและมีศรัทธาแลว
จิตวิญญานของเขาก็จะมีความบริสุทธผุดผอง จิตใจของเขาจะสงบ หัวใจของเขาจะ
ตื่นตัวมีพลัง มีความพรอมที่จะแสดงการเคารพสักการะพระผูเปนเจาของเขาในสภาพที่
ดีที่สุด ทั้งนี้ดวยใจที่สะอาด รางกายที่สะอาด เครื่องนุงหมที่สะอาดและสถานที่ที่
สะอาด นี่คือมรรยาทที่สูงสง คือการแสดงถึงการเทิดทูน การนอมรับถึงความยิ่งใหญ
ของพระผูเปนเจา ซึ่งยอมดีกวาการที่เขาจะไปทําอิบาดะฮฺในสภาพที่ตรงกันขามกันกับ
สิ่งที่กลาวมา ดังนั้นจึงไมแปลกที่ความสะอาดจะถือเปนครึ่งหนึ่งของความศรัทธา
1-อัลลอฮฺไดตรัสวา
- 3. ฟกฮฺอิบาดาต 3
3
4¨βÎ)©!$#=Ïtä†tÎ/≡§θ−G9$#=Ïtä†uρšÌÎdγsÜtFßϑø9$#∩⊄⊄⊄∪
ความวา “แทจริงอัลลอฮฺจะโปรดผูที่สํานึกตัวและชอบผูที่รักษาความ
สะอาด” [อัลบะเกาะเราะฮฺ :222]
2- มีรายงานจากทานมาลิก อัลอัชอะรียฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุกลาววาทานเราะสู
ลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กลาววา
ﺭﻭﻬﱡﻁﺍﻝﺭﹾﻁﹶﺸِﻥﺎﻤِﻴﺈﹾﻝﺍﺩﻤﺤﹾﻝﺍﻭِﻪﱠﻠِﻝُﺄﹶﻠﻤﹶﺘﻥﺍﺯِﻴﻤﹾﻝﺍ
ความวา “แทจริงความสะอาดนั้นเปนครึ่งหนึ่งของการศรัทธาและการ
กลาว อัลหัมดุลิลลาฮฺนั้นเปนสิ่งที่จะเติมเต็มตาชั่ง” [รายงานโดย
มุสลิม : 223]
มีสุขภาพดีทั้งรางกายและจิตใจมีสุขภาพดีทั้งรางกายและจิตใจมีสุขภาพดีทั้งรางกายและจิตใจมีสุขภาพดีทั้งรางกายและจิตใจ
อัลลอฮฺไดสรางมนุษยขึ้นมาดวยองคประกอบสองสวนคือรางกายและจิต
วิญญาณ ซึ่งในสวนของรางกายนั้นอาจเปนที่สะสมของความสกปรกไดจากสองทางคือ
มาจากภายในรางกายเอง เชน เหงื่อ หรือมาจากภายนอก เชนฝุนละอองตางๆ ดังนั้น
เพื่อรักษาสุขภาพของรางกายใหดี จําเปนอยางยิ่งที่จะตองลางชําระรางกายจากสิ่ง
สกปรกตางๆใหเปนประจํา สวนจิตวิญญานนั้นอาจไดรับผลกระทบมาจากสองทาง
เชนกันคือมาจากโรคที่มีภายในจิตวิญญานเอง เชน การอิจฉาริษยา การหยิ่งยโส และ
มาจากการแสวงหาของมนุษยในสิ่งที่เปนบาปตางๆจากภายนอก เชนการกอกรรมทํา
เข็ญ การผิดประเวณี ดังนั้นเพื่อรักษาสุขภาพของจิตวิญญานใหดีนั้น จําเปนอยางยิ่งที่
จะตองขออภัยโทษ ขอลุแกโทษ จากบาปตางๆใหมากที่สุด
ความสะอาด คือสิ่งที่บงบอกถึงความประเสริฐของอิสลามอยางหนึ่ง ซึ่งกระทํา
ไดดวยการใชน้ําสะอาดชําระลางอวัยวะที่ไดกําหนดไว ดวยวิธีการที่เฉพาะ เพื่อปลด
เปลื้องจาก“หะดัษ”และเพื่อชําระสิ่งโสโครก ซึ่งความหมายนี้ คือความหมายของเฏาะ
ฮาเราะฮฺ ที่ไดกลาวถึงในบทนี้
- 4. ฟกฮฺอิบาดาต 4
4
ประเภทของน้ําประเภทของน้ําประเภทของน้ําประเภทของน้ํา
น้ําแบงออกเปนสองประเภทคือ
1- น้ําฏอฮิรฺ คือน้ําที่สะอาด คือน้ําทั่ว ๆ ไปที่ยังคงสภาพเดิมตามธรรมชาติ
ปราศจากสิ่งสกปรกเจือปน กลาวคือไมเปลี่ยนสี ไมเปลี่ยนกลิ่น และไมเปลี่ยนรสเชน
น้ําฝน น้ําทะเล น้ําแมน้ําลําธาร น้ําคลอง น้ําพุ น้ําบอ น้ําบาดาล ไมวาจะเปนน้ําที่
ออกมาตามธรรมชาติที่อัลลอฮฺสรางหรือน้ําที่นําออกมาใชดวยเครื่องมือของมนุษย
น้ําจืดหรือน้ําเค็ม น้ํารอนหรือน้ําเย็น น้ําเหลานี้ลวนใชชําระสิ่งโสโครกไดทั้งสิ้น
2- น้ํานะญิสคือน้ําที่ไมสะอาด คือน้ําที่มีการเปลี่ยนแปลงของสี กลิ่น หรือรส
เพราะมีสิ่งสกปรกเจือปน ไมวาปริมาณน้ําจะนอยหรือมาก น้ําในกรณีเชนนี้จะใชชําระ
ลางทําความสะอาดไมได
• น้ําที่ไมสะอาด สามารถกลายเปนน้ําสะอาดไดโดยการเปลี่ยนแปลงไปเปน
สภาพเดิมดวยตัวของมันเอง และไมมีรองรอยของสิ่งเจือปน หรือกลายเปนน้ํา
สะอาดดวยการตักหรือวิดน้ําที่ไมสะอาดออก หรือดวยการเพิ่มน้ําที่สะอาดลงไป
จนกวาคุณสมบัติของน้ําที่เปลี่ยนนั้นหายไป
• หากมุสลิมคนหนึ่งมีความลังเลวาน้ําที่เขาจะใชนั้นเปนน้ําที่สะอาดหรือไม ใหถือ
เปนสภาพเดิม กลาวคือ เดิมทีแลวสิ่งที่ใชทําความสะอาดนั้นคือสิ่งที่สะอาด
• ในกรณีที่แยกแยะไมออกระหวางน้ําที่ไมสะอาดกับน้ําที่สะอาด และไมสามารถ
หาน้ําอื่นนอกเหนือจากสองแหลงนี้ได ก็ใหตัดสินใจเลือกทําความสะอาดดวยน้ํา
ที่คิดวามีความเปนไปไดมากกวาวาจะเปนน้ําสะอาด
• หากมีความสงสัยวาผาผืนใดไมสะอาดหรือหะรอม และผืนใดเปนเสื้อผาที่
สะอาด โดยไมสามารถหาเสื้อผาอื่นนอกเหนือจากสองผืนนี้ได ก็ใหตัดสินใจ
เลือกใสเสื้อผาที่คิดวานาจะมีความสะอาดมากกวาใชทําละหมาด การละหมาด
ถือวาใชไดอินชาอัลลอฮฺ
• การทําความสะอาดเพื่อปลดเปลื้องหะดัษเล็กและหะดัษใหญโดยทั่วไปจะใชน้ํา
ทําความสะอาด แตในกรณีที่หาน้ําไมได หรือกลัวอันตรายเมื่อใชน้ํา ก็อนุญาต
ใหทําความสะอาดดวยการตะยัมมุมไดเปนกรณีพิเศษ
• การทําความสะอาดเพื่อขจัดสิ่งโสโครกตางๆ ที่อยูบนรางกาย เครื่องแตงกาย
และสถานที่ของบุคคล จะใชน้ําทําความสะอาด หรืออาจใชวัตถุเหลวหรือแข็งที่
สะอาดและสามารถขจัดสิ่งโสโครกออกได ใชทําความสะอาดแทนน้ํา
- 5. ฟกฮฺอิบาดาต 5
5
• อนุญาตใหใชภาชนะที่สะอาดทุกชนิดในขณะทําวุฎอ (อาบน้ําละหมาด)หรือทํา
ความสะอาดอื่นๆ หากวาภาชนะนั้นๆมิใชภาชนะที่ไดมาโดยการลักขโมยหรือ
มิใชภาชนะที่ทํามาจากโลหะทองหรือโลหะเงิน เพราะภาชนะเหลานี้เปนสิ่งที่หะ
รอม ไมอนุญาตใหใช แตถาใชทําวุฎอแลว วุฎอนั้นถูกตองและใชได แตถือวา
เปนบาป
• อนุญาตใหใชภาชนะของคนกาฟรฺและเสื้อผาของพวกไดหากไมรูวาสะอาด
หรือไม เพราะเดิมทีนั้นเปนสิ่งที่สะอาด แตถารูวาไมสะอาดก็ใหลางดวยน้ํา
กอนที่จะใช
หุกมการใชภาชนะจากเงินหรือทองหุกมการใชภาชนะจากเงินหรือทองหุกมการใชภาชนะจากเงินหรือทองหุกมการใชภาชนะจากเงินหรือทอง
ไมอนุญาตใหหญิงหรือชายกินและดื่มในภาชนะที่ทํามาจากโลหะทองหรือโลหะ
เงิน รวมทั้งไมอนุญาตใหใชในทุกกรณียกเวนใชสวมเปนเครื่องประดับสําหรับผูหญิง
และสวมแหวนเงินสําหรับผูชาย สวนทองนั้นผูชายจะใชไดในบางกรณีเนื่องจากความ
จําเปนเทานั้นเชนใชกับฟน หรือจมูกเปนตน
1- มีหะดีษรายงานจากทานหุซัยฟะฮฺ อิบนฺ อัลยะมานเราะฎิยัลลอฮุอันฮุ กลาว
วา ฉันไดยินทานเราะสูลุลลฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กลาววา
ﹶﺎﻝﻭﺍﺴﺒﹾﻠﹶﺘﺭِﻴﺭﺤﹾﻝﺍﹶﺎﻝﻭﺝﺎﺒﻴﺩﺍﻝﹶﺎﻝﻭﻭﺍﺒﺭﹾﺸﹶﺘِﻲﻓِﺔﻴِﻨﺁِﺏﻫﱠﺫﺍﻝِﺔﻀِﻔﹾﻝﺍﻭﹶﺎﻝﻭ
ﹸﻭﺍﻠﹸﻜْﺄﹶﺘِﻲﻓﺎﻬِﻓﺎﺤِﺼﺎﻬﱠﻨِﺈﹶﻓﻡﻬﹶﻝِﻲﻓﺎﻴﹾﻨﺩﺍﻝﹶﺎﻨﹶﻝﻭِﻲﻓِﺓﺭِﺨﹾﺂﻝﺍ
ความวา “ทานทั้งหลายอยาไดสวมใสผาไหมหะรีรฺและดีบาจ และ
อยาไดดื่มดวยภาชนะที่ทําจากโลหะทองหรือเงิน และอยาไดกินดวย
ภาชนะเหลานั้นเพราะมันเปนเครื่องใชของพวกเขา (กาฟรฺ) บนโลกนี้แต
สําหรับเราเปนเครื่องใชในโลกหนา” [มุตตะฟะกุน อะลัยฮฺ โดยมี
บันทึกในอัลบุคอรียฺ เลขที่ :5426 สํานวนนี้เปนของอัลบุคอรียฺและ
มุสลิม เลขที่: 2067]
2- มีรายงานจากทานหญิงอุมมุสะละมะฮฺ (เราะฎิยัลลอฮุอันฮา) ภรรยาของ
ทานนบีกลาววา ทานเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมเคยกลาววา
- 6. ฟกฮฺอิบาดาต 6
6
ِﻱﺫﱠﻝﺍﺏﺭﹾﺸﻴِﻲﻓِﺀﹶﺎﻨِﺇِﺔﻀِﻔﹾﻝﺍﺎﻤﱠﻨِﺇﺭِﺠﺭﺠﻴِﻲﻓِﻪِﻨﹾﻁﺒﺭﹶﺎﻨﻬﺠﻡﱠﻨ
ความวา “ผูที่ดื่มดวยภาชนะที่ทําจากโหละเงินนั้น ในโลกหนาไฟ
นรกญะฮันนัมจะเดือดในทองของเขา” (มุตตะฟะกุน อะลัยฮฺ โดยมี
บันทึกในอัลบุคอรียฺ เลขที่ : 5634สํานวนนี้เปนของอัลบุคอรียฺและ
มุสลิม เลขที่: 2065)
บทบัญญัติวาดวยสิ่งสกปรก โสโครกบทบัญญัติวาดวยสิ่งสกปรก โสโครกบทบัญญัติวาดวยสิ่งสกปรก โสโครกบทบัญญัติวาดวยสิ่งสกปรก โสโครก ““““นะญาสาตนะญาสาตนะญาสาตนะญาสาต
สิ่งสกปรก โสโครกหรือสิ่งอื่นๆ ที่นารังเกียจ ซึ่งศาสนาไดบัญญัติไววาตองชําระ
สิ่งโสโครกตางๆเหลานี้ใหสะอาดหมดจดเสียกอน ซึ่งอาจจะลางครั้งเดียวหรือหลายครั้ง
ก็ไดจนกวาจะสะอาด สิ่งโสโครกเหลานี้ไดแก
• ปสสาวะหรืออุจจาระมนุษย
• เลือดที่ไหลออกมามาก ๆ
• เลือดระดูและน้ําคาวปลาหลังจากคลอดบุตร
• วะดีย (คือน้ําขุน ขน ที่ออกจากอวัยวะเพศชายและหญิงหลังปสสาวะ)
• มะซีย (คือน้ําใส ๆ เหนียวๆ ที่ออกจากอวัยวะเพศชาย และหญิงขณะมี
ความกําหนัด)
• สัตวที่ตายโดยมิไดถูกเชือดตามศาสนบัญญัติ ยกเวนปลา และตั๊กแตน
• เนื้อสุกร
• ปสสาวะและมูลสัตวที่กินเนื้อไมได เชน ลอ ลา เปนตน
• น้ําลายสุนัข ซึ่งตองลางถึงเจ็ดครั้งโดยครั้งแรกตองลางดวยน้ําปนดิน
1. รายงานจากทานอิบนุอับบาสเราะฎิยัลลอฮุอันฮุกลาวมีรายงานจากทานนบี
ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม วา
ﻪﱠﻨَﺃﺭﻤِﻥﻴﺭﺒﹶﻘِﺒِﻥﺎﺒﱠﺫﻌﻴَلﹶﺎﻘﹶﻓﺎﻤﻬﱠﻨِﺇِﻥﺎﺒﱠﺫﻌﻴﹶﻝﺎﻤﻭِﻥﺎﺒﱠﺫﻌﻴِﻲﻓٍﺭِﻴﺒﹶﻜﺎﻤَﺃ
ﺎﻤﻫﺩﺤَﺃﻥﹶﺎﻜﹶﻓﹶﺎﻝﺭِﺘﹶﺘﺴﻴﻥِﻤِلﻭﺒﹾﻝﺍﺎﻤَﺃﻭﺭﹶﺨﹾﺂﻝﺍﻥﹶﺎﻜﹶﻓِﻲﺸﻤﻴِﺔﻤِﻴﻤﱠﻨِﺎﻝﺒﻡﹸﺜ
- 9. ฟกฮฺอิบาดาต 9
9
การอิสตินญาอการอิสตินญาอการอิสตินญาอการอิสตินญาอ (((( ﺍﻻﺳﺘﻨﺠﺎﺀ )))) และการอิสติจมารฺและการอิสติจมารฺและการอิสติจมารฺและการอิสติจมารฺ (((()ﺍﻻﺳﺘﺠﻤﺎﺭ)))
อิสตินญาออิสตินญาออิสตินญาออิสตินญาอ คือ การชําระสิ่งที่ออกมาจากสองรูทวาร(อุจจาระหรือ ปสสาวะ)ให
สะอาดโดยการลางดวยน้ํา
อิสติจมารฺอิสติจมารฺอิสติจมารฺอิสติจมารฺ คือ การชําระสิ่งที่ออกมาจากสองรูทวาร(อุจจาระหรือ ปสสาวะ)ให
สะอาดโดยการเช็ด ดวยกอนหิน กอนดิน หรือใบไม เปนตน
สิ่สิ่สิ่สิ่งที่ควรกลาวและปฏิบัติในขณะเขาหรือออกจากหองน้ํางที่ควรกลาวและปฏิบัติในขณะเขาหรือออกจากหองน้ํางที่ควรกลาวและปฏิบัติในขณะเขาหรือออกจากหองน้ํางที่ควรกลาวและปฏิบัติในขณะเขาหรือออกจากหองน้ํา
1- ควรเริ่มเขาหองน้ําดวยการกาวเทาซายนําเขาไปกอน พรอมดวยกลาววา
ُ اِإُذ ُ َأَ ِﺏَ ِِ ُُ ْاِ ِ ََ َْاو
ความวา “โออัลลอฮฺ แทจริงฉันขอความคุมครองจากพระองคใหพน
จากชัยฏอนตัวผูและตัวเมีย” (มุตตะฟะกุน อะลัยฮฺ โดยมีบันทึกในอัลบุ
คอรีย เลขที่ : 172และมุสลิม เลขที่ : 279)
2- ในขณะที่ออกจากหองน้ําควรเริ่มดวยการกาวเทาขวานําออกไปกอน
พรอมดวยกลาววา
َ ََا ُْ
ความวา “ฉันขออภัยโทษตอพระองค” (เปนหะดีษที่เศาะหีหฺ รายงาน
โดยอะบูดาวุด เลขที่: 30 และนี่เปนสํานวนของเขา โปรดดูในเศาะฮีหฺ
สุนันอะบีดาวูด เลขที่ : 23 และรายงานโดยอัต-ติรมิซีย เลขที่ : 7 โปรดดูใน
เศาะฮีหฺสุนันอัน-นะสาอีย เลขที่ : 7)
• การเขามัสยิดและการสวมใสเสื้อผา รองเทา ควรเริ่มดวยดานขวากอน สวนการ
ออกจากมัสยิดและการถอดเสื้อผา หรือรองเทาควรเริ่มดวยดานซายกอน
- 10. ฟกฮฺอิบาดาต 10
10
• สําหรับผูที่ตองการถายอุจจาระในที่โลงหรือในทะเลทรายควรเปนที่ที่หางไกล
จากผูคนและควรเลือกสถานที่ที่พื้นไมแข็งในการปสสาวะ ทั้งนี้เพื่อมิให
ละอองปสสวะกระเด็นถูกตัว
• ควรถายปสสาวะในทานั่งและอนุญาตใหปสสาวะในทายืนได ในกรณีที่ไมทําให
เปอนรอยปสสาวะและปลอดจากสายตาคนอื่น
• หะรอม(หาม) มิใหนํามุศหัฟ (อัลกุรอาน) เขาไปในสุขา และมักรูฮฺ(เปนที่นา
รังเกียจ)พูดคุยในหองน้ํานอกจากในกรณีจําเปนเชน การชี้แนะใหกับคนที่หลง
ทาง หรือ เรียกหาน้ําจากผูอื่น เปนตน
• มักรูฮฺ(นารังเกียจ)ใหนําทุกสิ่งที่มีชื่อของอัลลอฮฺเขาไปในหองน้ํา นอกจากในกรณี
จําเปนและมักรูฮฺใหปสสาวะในรูหรือรอยแตก และมักรูฮฺ ใหจับอวัยวะดวยมือ
ขวา รวมทั้งมิชอบใหมีการชําระลางดวยมือขวาเชนกัน และมักรูฮฺใหมีการถลกผา
ขึ้นจนกวาจะนั่งอุจจาระเรียบรอยแลวในกรณีที่อุจจาระในที่แจง และมักรูฮฺใหผูที่
กําลังปสสาวะหรืออุจจาระตอบรับสลาม แตถาหากในกรณีเสร็จสิ้นแลว ใหทํา
การชําระแลวจึงตอบรับสลาม
• หุกมการหันหนาและหันหลังใหกับกิบละฮฺในขณะอุจจาระและปสสาวะ .. หะรอม
(หาม)มิใหหันหนาและหันหลังใหกับกิบละฮฺในขณะอุจจาระและปสสาวะแมจะอยู
ในที่แจงหรือในสิ่งกอสรางก็ตาม ทั้งนี้ มีหะดีษรายงานจากทานอะบูอัยยูบ อัล
อันศอรียฺเราะฎิยัลลอฮุอันฮุ กลาววาทานเราะสูลุลลอฮฺ ไดกลาววา
ﹶﺔﹶﻠﺒِﻘﹾﻝﺍ ﹸﻭﺍﻠِﺒﹾﻘﹶﺘﺴﹶﺘ ﹶﺎﻠﹶﻓ ﹶﻁِﺌﹶﺎﻐﹾﻝﺍ ﻡﹸﺘﻴﹶﺘَﺃ ﹶﺍﺫِﺇ
ﻭﺍﺒﺭﹶﻏ ﻭَﺃ ﹸﻭﺍﻗﺭﹶﺸ ﻥِﻜﹶﻝﻭﺎﻫﻭﺭِﺒﺩﹶﺘﺴﹶﺘ ﹶﺎﻝﻭ
ความวา “หากพวกทานอยูในกรณีที่ตองปลดทุกข พวกทานอยาไดหัน
หนาหรือหันหลังใหกับกิบละฮฺ แตวาพวกทานจงหันไปทางตะวันออก
และตะวันตก (สําหรับชาวมะดีนะฮฺกิบละฮฺจะอยูทางทิศใต-
บรรณาธิการ)” ทานอะบูอัยยูบไดกลาววา เมื่อครั้งที่พวกเราไปยังเมือง
ชาม พวกเราไดพบวา สุขาที่นั่น ถูกหันไปทางกิบละฮฺ พวกเราจึงทําให
เฉียงไปและหลังจากนั้นพวกเขาจึงขออภัยโทษตออัลลอฮฺ (มุตตะฟะกุน
อะลัยฮฺ)
- 11. ฟกฮฺอิบาดาต 11
11
• หะรอม(หาม)มิใหถายปสสาวะหรืออุจจาระในมัสยิด และตามถนน และในที่
รมที่ผูคนหยุดพัก และใตตนไมที่มีผลไมอยูบนตน และตามสายน้ําลําธาร และ
สถานที่อื่นๆ ซึ่งเปนสถานที่ที่ผูคนใชประโยชนกัน
• การอิสติจมารฺ(การชําระอุจจาระ ปสสาวะดวยหินหรือดินแทนน้ํา)นั้นตองใชกอน
หินเช็ดอยางนอยจํานวน 3 กอน แตถายังไมสะอาดก็ใหเพิ่มจํานวนไปอีก และ
สุนัต(สงเสริม)ใหสิ้นสุดดวยจํานวนคี่ เชน สาม หรือ หา เปนตน
• หะรอม(หาม)มิใหเช็ดดวยกระดูก ดวยมูลสัตวแหง ดวยสิ่งที่ใชเปนอาหาร และ
ดวยสิ่งที่พึงใหเกียรติทั้งหลาย
• อุจจาระ และปสสาวะนั้นสามารถชําระลางไดโดยการลางดวยน้ํา หรือเช็ดดวย
กอนหิน กระดาษชําระ ใบไม เปนตน แตการลางดวยน้ํา ถือวาดีที่สุด เพราะวา
น้ําสามารถทําใหสะอาดไดอยางหมดจดที่สุด
• วาญิบ(จําเปนตอง)ลางหรือซักสวนที่เปนนะญิส บนเสื้อผา ดวยน้ํา ซึ่งหากไม
สามารถรูตําแหนงที่ถูกนะญิส อยางแนนอนได ใหลางหรือซักเสื้อผาทั้งผืน
• ใหทําความสะอาดดวยการพรมน้ําสําหรับรอยปสสาวะของทารกชาย และใหทํา
ความสะอาดดวยลางดวยน้ําสําหรับรอยปสสาวะของทารกหญิง ทั้งนี้หากวาทั้งคู
ยังไมไดกินอาหารนอกเหนือจากนม แตถาทั้งคูกินอาหารไดแลว ใหทําความ
สะอาดรอยปสสาวะทั้งคูดวยการลางดวยน้ําเหมือนกัน
- 13. ฟกฮฺอิบาดาต 13
13
การทําฆุสลฺการทําฆุสลฺการทําฆุสลฺการทําฆุสลฺ((((อาบน้ําอาบน้ําอาบน้ําอาบน้ํา))))
ความหมายความหมายความหมายความหมาย
การทําฆุสลฺ (อาบน้ํา) คือการชําระลางทําความสะอาดโดยใชน้ําที่สะอาดลางให
ทั่วทั้งรางกาย ดวยวิธีการที่เฉพาะ ซึ่งเปนสิ่งที่บงบอกถึงความประเสริฐของอิสลามอีก
อยางหนึ่ง วาเปนศาสนาที่สะอาด บริสุทธิ์
สาเหตุที่จําเปนตองทําฆุสลฺสาเหตุที่จําเปนตองทําฆุสลฺสาเหตุที่จําเปนตองทําฆุสลฺสาเหตุที่จําเปนตองทําฆุสลฺ((((อาบน้ําอาบน้ําอาบน้ําอาบน้ํา))))
1- เมื่อมีการหลั่งน้ํากาม จากอวัยวะเพศชายหรือหญิง ทั้งจากการกระทํา
ความสําเร็จความใครดวยตัวเอง การรวมประเวณี หรือการฝนเปยก
2- เมื่อมีการสอดใสสวนหัวของอวัยวะเพศชายจมเขาไปในอวัยวะเพศหญิง
ถึงแมวาจะไมมีการหลั่งน้ํากามก็ตาม
3- เมื่อมีการตายของมุสลิม นอกจากวาจะตายชะฮีดในหนทางของอัลลอฮฺ
4- เมื่อมีการเขารับอิสลามของกาฟรฺ
5- เมื่อมีประจําเดือน
6- เมื่อมีนิฟาส(เลือดจากการคลอดบุตร)
มีรายงานจากทานอะบูฮุร็อยเราะฮฺเราะฎิยัลลอฮุอันฮุกลาวความวา ทานเราะสู
ลุลอฮฺไดกลาววา
َاذِإََََ َْﺏَ َِ ُِ َﺏْرَْاَُهََ َْ َََ َ َوُ ْ َ ْا
ความวา “เมื่อผูใดนั่งครอมระหวางอวัยวะทั้งสี่ของสตรี หลังจากนั้นมี
การใชความพยายามเพื่อใหสําเร็จตอนาง ก็ถือวาวาญิบตองอาบน้ํา
แลว” (มุตตะฟะกุน อะลัยฮฺ โดยมีบันทึกในอัลบุคอรียฺ เลขที่ : 291
สํานวนนี้เปนของอัลบุคอรียฺและมุสลิม เลขที่: 348)
วิธีการทําฆุสลฺวิธีการทําฆุสลฺวิธีการทําฆุสลฺวิธีการทําฆุสลฺ((((อาบน้ําอาบน้ําอาบน้ําอาบน้ํา))))ที่ถือวาใชไดที่ถือวาใชไดที่ถือวาใชไดที่ถือวาใชได
ใหตั้งเจตนาเพื่อทําฆุสลฺ(อาบน้ํา)หลังจากนั้นชําระลางทําความสะอาดใหทั่วทั้ง
รางกายเพียงครั้งเดียว
- 14. ฟกฮฺอิบาดาต 14
14
วิธีการทําฆุสลฺวิธีการทําฆุสลฺวิธีการทําฆุสลฺวิธีการทําฆุสลฺ((((อาบน้ําอาบน้ําอาบน้ําอาบน้ํา))))ที่ถือวาสมบูรณแบบที่ถือวาสมบูรณแบบที่ถือวาสมบูรณแบบที่ถือวาสมบูรณแบบ
ใหตั้งเจตนาเพื่อทําฆุสลฺ แลวลางมือสามครั้ง แลวลางอวัยวะเพศและชําระสิ่ง
สกปรกจนเกลี้ยง หลังจากนั้นใหอาบน้ําละหมาดจนเสร็จ แลวเอาน้ํารดบนศรีษะสาม
ครั้งพรอมๆกับใชมือสางเสนผม จากนั้นใหชําระลางทําความสะอาดทั้งรางกายที่เหลือ
ใหทั่วเพียงครั้งเดียว โดยเริ่มลางดานขวากอน ใหถูในขณะที่ลางดวยและไมควรใชน้ํา
อยางฟุมเฟอย
วิธีการทําฆุสลฺของทานนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมวิธีการทําฆุสลฺของทานนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมวิธีการทําฆุสลฺของทานนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมวิธีการทําฆุสลฺของทานนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม
มีรายงานจากทานอิบนุ อับบาสเราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา กลาววา
ِﻪﻴﹶﻠﻋ ﱠﻬﻡﻠﺍﻝ ﱠﻰﻠﺼ ِﻪﱠﻠﺍﻝ ِلﻭﺴﺭِﻝ ﹸﺕﻴﹶﻨﺩَﺃ ﹾﺕﹶﻝﹶﺎﻗ ﹸﺔﹶﻨﻭﻤﻴﻤ ِﻲﺘﹶﻝﹶﺎﺨ ِﻲﻨﹾﺘﹶﺜﺩﺤ
ﺴﻭﻩﺩﻴ َلﹶﺨﺩَﺃ ﻡﹸﺜ ،ﹰﺎﺜﹶﺎﻠﹶﺜ ﻭَﺃ ِﻥﻴﹶﺘﺭﻤ ِﻪﻴﱠﻔﹶﻜ َلﺴﹶﻐﹶﻓ ِﺔﺒﹶﺎﻨﺠﹾﻝﺍ ﻥِﻤ ﻪﹶﻠﺴﹸﻏ ﻡﱠﻠ
ﺏﺭﻀ ﻡﹸﺜ ،ِﻪِﻝﺎﻤِﺸِﺒ ﻪﹶﻠﺴﹶﻏﻭ ِﻪِﺠﺭﹶﻓ ﹶﻰﻠﻋ ِﻪِﺒ ﹶﻍﺭﹾﻓَﺃ ﻡﹸﺜ ،ِﺀﹶﺎﻨِﺈﹾﻝﺍ ِﻲﻓ
َﺄﻀﻭﹶﺘ ﻡﹸﺜ ،ﺍﺩِﻴﺩﹶﺸ ﹰﺎﻜﹾﻝﺩ ﺎﻬﹶﻜﹶﻝﺩﹶﻓ ﺽﺭَﺄﹾﻝﺍ ِﻪِﻝﺎﻤِﺸِﺒﻡﹸﺜ ،ِﺓﹶﺎﻠﺼِﻠﻝ ﻩﺀﻭﻀﻭ
ﻡﹸﺜ ،ِﻩِﺩﺴﺠ ﺭِﺌﺎﺴ َلﺴﹶﻏ ﻡﹸﺜ ،ِﻪﱢﻔﹶﻜ ﺀْلِﻤ ٍﺕﹶﺎﻨﹶﻔﺤ ﹶﺙﹶﺎﻠﹶﺜ ِﻪِﺴْﺃﺭ ﹶﻰﻠﻋ ﹶﻍﺭﹾﻓَﺃ
ﻩﺩﺭﹶﻓ ِلِﻴﺩﹾﻨِﻤﹾﻝِﺎﺒ ﻪﹸﺘﻴﹶﺘَﺃ ﻡﹸﺜ ،ِﻪﻴﹶﻠﺠِﺭ َلﺴﹶﻐﹶﻓ ﻙِﻝﹶﺫ ِﻪِﻤﹶﺎﻘﻤ ﻥﻋ ﻰﺤﹶﻨﹶﺘ
ความวา “ นาของฉันทานหญิงมัยมูนะฮฺ(เราะฎิยัลลอฮุอันฮา)ไดกลาว
กับฉันวา ฉันเขาไปใกลทานเราะสูลุลอฮฺในขณะที่ทานอาบน้ําญะ
นาบะฮฺอยู ฉันเห็นทานลางมือทั้ง 2 ขางของทาน สองหรือสามครั้ง
ตอจากนั้นทานจะเอามือวักน้ําในภาชนะแลวราดน้ําบนอวัยวะเพศของ
ทาน แลวชําระทําความสะอาดอวัยวะเพศโดยใชมือซาย จากนั้นทาน
เอามือซายตบดิน แลวถูมันอยางแรง แลวจึงอาบน้ําละหมาดเหมือนกับ
การอาบน้ําละหมาดของทานเพื่อทําละหมาด เสร็จแลวจึงมาเอามือวัก
น้ํามาราดศีรษะ 3 ครั้ง แลวราดน้ําใหทั่วรางกาย แลวเลื่อนจากที่เดิม
เล็กนอย แลวจึงลางเทาทั้งสองของทาน หลังจากนั้นฉันไดเอาผาเช็ด
ยื่นใหทาน แตทานไดปฏิเสธมัน” (มุตตะฟะกุน อะลัยฮฺ โดยมีบันทึก
ในอัลบุคอรียฺ เลขที่ : 276 และมุสลิม เลขที่: 317 ซึ่งสํานวนนี้เปนของ
มุสลิม)
- 15. ฟกฮฺอิบาดาต 15
15
• ตามสุนนะฮฺ(แบบอยางของทานนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม)ใหอาบน้ํา
ละหมาดเหมือนกับการอาบน้ําละหมาดเพื่อทําละหมาดกอนอาบน้ํา แตหาก
อาบน้ําโดยมิไดทําวุฎอกอน หรือทําวุฎอกอนอาบน้ําแลวในหลักการอิสลามถือ
วาไมจําเปนตองทําวุฎออีกหลังอาบน้ํา
กฎขอหามสําหรับผูมีญะนาบะฮฺกฎขอหามสําหรับผูมีญะนาบะฮฺกฎขอหามสําหรับผูมีญะนาบะฮฺกฎขอหามสําหรับผูมีญะนาบะฮฺ
หามทําละหมาด(ทุกชนิดและทุกประเภท) หามทําเฏาะวาฟ(เดินเวียนรอบ) บัย
ตุลลอฮฺ หามจับตองมุศหัฟฺ หามหยุดนั่งในมัสยิดแตหากทําวุฎอกอนก็จะอนุโลมใหนั่ง
ในมัสยิดได
• วาญิบ(จําเปนตอง) อาบน้ําในวันศุกรสําหรับบุคคลที่มีกลิ่นตัว และสุนัต(สงเสริม)
สําหรับบุคคลทั่วไป
• สุนัต(สงเสริม) ใหผูมีญะนาบะฮฺ(ที่เสร็จจากการรวมประเวณี)อาบน้ําทันที และใน
ขณะเดียวกันก็อนุโลมใหเขานอนในสภาพที่มีญะนาบะฮฺได แตที่ดีที่สุดเขาไมควร
นอน เวนแตหลังจากที่ไดชําระลางอวัยวะเพศและไดทําวุฎอกอน ทั้งนี้เพราะมี
รายงานจากทานหญิงอาอิชะฮฺ(เราะฎิยัลลอฮุอันฮา)กลาววา
َن َآِ اَاِ َََْ َﺱَوَاذِإَدَارَأْنَأََیَمَ ُهَوٌ َُُ َ َُ َ ْ َ
َ َ َﺕَوة َ ِ
ความวา “ เคยปรากฏวาทานนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เมื่อ
ทานปรารถนาจะนอนในสภาพที่มีญะนาบะฮฺทานจะชําระลางอวัยวะ
เพศและไดทําวุฎอ(อาบน้ําละหมาด)เหมือนกับการอาบน้ําละหมาดของ
ทานเวลาที่ทานจะละหมาดเสียกอน” (มุตตะฟะกุน อะลัยฮฺ โดยมี
บันทึกในอัลบุคอรียฺ เลขที่ : 288 สํานวนนี้เปนของอัลบุคอรียฺและ
มุสลิม เลขที่: 305)
• อนุญาตใหชายผูเปนสามีทําฆุสลฺ(อาบน้ํา)เพื่อพนจากสภาพญะนาบะฮฺพรอมๆ
ภรรยาของเขาโดยใชน้ําในภาชนะ(อาง)เดียวกันได ถึงแมวาตางคนตางจะ
- 16. ฟกฮฺอิบาดาต 16
16
มองเห็น(เอาเราะฮฺ)เรือนรางของอีกฝายไดก็ตาม ทั้งนี้เพราะมีรายงานจาก
ทานหญิงอาอิชะฮฺ(เราะฎิยัลลอฮุอันฮา)กลาววา
ٍﺩِﺤﺍﻭ ٍﺀﹶﺎﻨِﺇ ﻥِﻤ ﻡﱠﻠﺴﻭ ِﻪﻴﹶﻠﻋ ﱠﻬﻡﻠﺍﻝ ﱠﻰﻠﺼ ﻲِﺒﱠﻨﺍﻝﻭ ﹶﺎﻨَﺃ ُلِﺴﹶﺘﹾﻏَﺃ ﹸﺕﹾﻨﹸﻜ
ความวา “เคยปรากฏวาฉันไดอาบน้ําพรอมๆกับทานนบีเพื่อใหพนจาก
สภาพญะนาบะฮฺจากน้ําในภาชนะเดียวกัน” (มุตตะฟะกุน อะลัยฮฺ โดย
มีบันทึกในอัลบุคอรียฺ เลขที่ : 263 สํานวนนี้เปนของอัลบุคอรียฺและ
มุสลิม เลขที่: 321)
• สุนัต(สงเสริม)สําหรับผูที่เสร็จจากการรวมประเวณีกับภรรยาคนหนึ่ง แลว
ปรารถนาจะรวมกับภรรยาคนเดียวกันซ้ําอีกครั้งหรือปรารถนาจะรวมกับภรรยา
คนอื่นๆ(ในกรณีมีภรรยามากกวาหนึ่ง)ใหทําฆุสลฺ(อาบน้ํา)กอนการรวมประเวณี
แตละครั้ง แตหากโอกาสไมอํานวยที่จะทําฆุสลฺ(อาบน้ํา) ก็ใหเขาทําวุฎอ(อาบน้ํา
ละหมาด) เพราะการทําเชนนี้จะทําใหเกิดความกระฉับกระเฉงขึ้น
บางกรณีซึ่งใหทําฆุบางกรณีซึ่งใหทําฆุบางกรณีซึ่งใหทําฆุบางกรณีซึ่งใหทําฆุสลฺสลฺสลฺสลฺ((((อาบน้ําอาบน้ําอาบน้ําอาบน้ํา))))ที่ถือวาเปนสุนัตที่ถือวาเปนสุนัตที่ถือวาเปนสุนัตที่ถือวาเปนสุนัต((((สงเสริมใหกระทําสงเสริมใหกระทําสงเสริมใหกระทําสงเสริมใหกระทํา))))
การทําฆุสลฺ(อาบน้ํา)กอนอิหฺรอมในพิธีหัจญหรืออุมเราะฮฺ การทําฆุสลฺ(อาบน้ํา)
ของผูอาบน้ําใหกับมัยยิต(คนมุสลิมที่ตาย) การทําฆุสลฺ(อาบน้ํา)ของผูที่หายจากการเปน
บา หรือเปนลมหมดสติ การทําฆุสลฺ(อาบน้ํา)ของผูที่เริ่มเขาเขตมักกะฮฺ การทําฆุสลฺ
(อาบน้ํา)ในระหวางญะนาบะฮฺของผูมีญะนาบะฮฺซ้ําติดตอกัน การทําฆุสลฺ(อาบน้ํา)ของผู
ที่รวมฝงศพของคนมุชริก(คนไมใชมุสลิม)
• วาญิบ(จําตอง)ตองปกปดจากสายตาผูคนในขณะทําการฆุสลฺ(อาบน้ํา) แตถาหาก
อาบน้ําอยูคนเดียวในหองน้ําก็อนุโลมใหเปลือยไดแตปกปดนั้นดีกวาแมวาจะอยู
คนเดียว เพราะอัลลอฮฺนั้นเปนผูที่สมควรละอายมากกวาการละอายตอมนุษย
• อนุโลมใหทําการฆุสลฺ(อาบน้ํา)เพียงครั้งเดียวสําหรับผูที่รวมประเวณีซ้ํากันสอง
ครั้งหรือหลายครั้งกับภรรยาคนเดียวหรือหลายคน เพราะมีรายงานจาก
ทานอะนัสเราะฎิยัลลอฮุอันฮุกลาววา
- 17. ฟกฮฺอิบาดาต 17
17
ٍﺩِﺤﺍﻭ ٍلﺴﹸﻐِﺒ ِﻪِﺌﺎﺴِﻨ ﹶﻰﻠﻋ ﹸﻑﹸﻭﻁﻴ ﻥﹶﺎﻜ ﻡﱠﻠﺴﻭ ِﻪﻴﹶﻠﻋ ﱠﻬﻡﻠﺍﻝ ﱠﻰﻠﺼ ﻲِﺒﱠﻨﺍﻝ ﻥَﺃ
ความวา “แทจริงทานนบีเคยเวียนรวมประเวณีกับของทานภรรยา
หลายคนดวยทําการฆุสลฺ(อาบน้ํา)เพียงครั้งเดียว” (มุตตะฟะกุน อะ
ลัยฮฺ โดยมีบันทึกในอัลบุคอรียฺ เลขที่ : 309 และมุสลิม เลขที่: 162ซึ่ง
สํานวนนี้เปนของมุสลิม)
• อนุโลมใหทําการฆุสลฺ(อาบน้ํา)รวมกันเพียงครั้งเดียวไดสําหรับผูที่มีทั้งุนุบและ
ระดูในวาระเดียวกัน หรือมีุนุบในวันศุกรเปนตน
• วิธีการทําฆุสลฺ(อาบน้ํา)ของผูหญิงนั้น เหมือนกับวิธีการของผูชายทุกอยาง และ
ผูหญิงที่ไวผมยาว เกลาผมมวย เวลาจะอาบน้ําญะนาบะฮฺ นางไมจําเปนตองแก
มวยผมก็ได แตสุนัต(สงเสริม)ใหแกมวยผมเวลาจะอาบน้ําหลังสิ้นสุดเลือด
ประจําเดือนหรือเลือดหลังคลอดบุตร
สิ่งที่สุนัตสิ่งที่สุนัตสิ่งที่สุนัตสิ่งที่สุนัต((((สงเสริมใหปฏิบัติสงเสริมใหปฏิบัติสงเสริมใหปฏิบัติสงเสริมใหปฏิบัติ))))ในการทําฆุสลฺในการทําฆุสลฺในการทําฆุสลฺในการทําฆุสลฺ((((อาบน้ําอาบน้ําอาบน้ําอาบน้ํา))))
ทําวุฎอ(อาบน้ําละหมาด)กอน ขจัดคราบสิ่งปฏิกูล ตักน้ําราดบนศีรษะสามครั้ง
จากนั้นราดน้ําบนสวนที่เหลือทั่วทั้งรางสามครั้งเชนกัน และใหเริ่มขางขวากอนในทุก
ขั้นตอน
• ตามสุนนะฮฺ(แบบอยางของทานนบี)ในการทําฆุสลฺ(อาบน้ํา)ญะนาบะฮฺนั้น ควรใช
น้ําเพียงสี่ลิตรถึงหาลิตร หากไมถึงหรือมีความจําเปนตองเพิ่มจากที่กลาวมา เชน
สิบสองลิตร เปนตน ถือวาใชได และไมอนุญาตใหใชน้ําแบบฟุมเฟอยทั้งในการ
ทําวุฎอ(อาบน้ําละหมาด)และในการทําฆุสลฺ(อาบน้ํา) เพราะมีรายงานจาก
ทานอะนัสเราะฎิยัลลอฮุอันฮุกลาววา
ﱠﻠﺴﻭ ِﻪﻴﹶﻠﻋ ﱠﻬﻡﻠﺍﻝ ﱠﻰﻠﺼ ﻲِﺒﱠﻨﺍﻝ ﻥﹶﺎﻜِﻉﺎﺼِﺎﻝﺒ ُلِﺴﹶﺘﹾﻐﻴ ﻥﹶﺎﻜ ﻭَﺃ ُلِﺴﹾﻐﻴ ﻡ
ﺩﻤﹾﻝِﺎﺒ ُﺄﻀﻭﹶﺘﻴﻭ ٍﺩﺍﺩﻤَﺃ ِﺔﺴﻤﹶﺨ ﹶﻰﻝِﺇ
ความวา “ปรากฏวาทานนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เคยทําการ
ชําระลางหรือการทําฆุสลฺ(อาบน้ํา)โดยใชน้ําเพียงสี่ลิตรถึงหาลิตร และ
ทําวุฎอ(อาบน้ําละหมาด)โดยใชน้ําเพียงหนึ่งลิตร” (มุตตะฟะกุน อะ
- 18. ฟกฮฺอิบาดาต 18
18
ลัยฮฺ โดยมีบันทึกในอัลบุคอรียฺ เลขที่ : 201 สํานวนนี้เปนของอัลบุคอรียฺและ
มุสลิม เลขที่: 325)
• มักรูฮฺ(ไมสงเสริม)ใหการทําฆุสลฺ(อาบน้ํา)ในหองสวม เพราะหองสวมนั้นเปน
สถานที่ที่สกปรก ฉะนั้นการอาบน้ําในนั้นจึงนํามาซึ่งความลังเล สงสัย และ
อยาไดปสสาวะในที่หนึ่งๆ แลวลางในที่เดียวกัน เพื่อปองกันการกระเด็นของเศษ
นะญิส
- 20. ฟกฮฺอิบาดาต 20
20
เลือดอัลหัยฎเลือดอัลหัยฎเลือดอัลหัยฎเลือดอัลหัยฎ ((((ประจําเดือนประจําเดือนประจําเดือนประจําเดือน)))) และอันนิฟาสและอันนิฟาสและอันนิฟาสและอันนิฟาส ((((หลังคลอดบุตรหลังคลอดบุตรหลังคลอดบุตรหลังคลอดบุตร))))
ความหมายของ อัลหัยฎความหมายของ อัลหัยฎความหมายของ อัลหัยฎความหมายของ อัลหัยฎ
อัลหัยฎ คือ เลือดธรรมชาติหรือเลือดประจําเดือนที่ทําความสะอาดมดลูด ซึ่ง
หลั่งออกมาจากอวัยวะเพศของสตรีในเวลาที่แนนอน โดยปรกติแลวระยะเวลาของการ
มีเลือดประจําเดือนนั้น มีหกหรือเจ็ดวัน
สภาพเดิมของเลือดอัลสภาพเดิมของเลือดอัลสภาพเดิมของเลือดอัลสภาพเดิมของเลือดอัลหัยฎหัยฎหัยฎหัยฎ
อัลลอฮฺไดสรางเลือดอัลหัยฎขึ้นมาเพื่อเปนอาหารหรือประโยชนทางโภชนาการ
ของทารกในทองมารดา ดวยเหตุนี้จึงไมคอยพบวาคนทองมีประจําเดือน เมื่อคนทอง
คลอดออกมาเลือดดังกลาวก็จะกลายเปนน้ํานมที่สะสมอยูในเตานมทั้งสองของมารดา
ดวยเหตุนี้อีกเชนกัน ที่ไมคอยพบวาคนที่อยูในระยะใหนมบุตรมีประจําเดือน ดังนั้นหาก
ผูหญิงคนใดปลอดจากระยะการทองหรือระยะการใหนมบุตรแลว จะตองมีเลือดประ
เดือนคงอยูในมดลูกอยางหลีกเลี่ยงมิได หลังจากนั้นก็จะหลั่งออกมาในทุกๆ เดือนเปน
เวลาหกหรือเจ็ดวัน
ไมสามารถกําหนดระยะเวลาที่แนนอนสําหรับการหลั่งเลือดอัลหัยฎ ไมสามารถ
กําหนดระยะเวลาอยางนอยที่สุดหรือกําหนดระยะเวลาอยางมากได และไมสามารถ
กําหนดเวลาเริ่มตนและเวลาหมดประจําเดือนไดและไมสามารถการกําหนดระยะเวลาที่
ปลอดหรือสะอาดจากหัยฏสองครั้งเปนระยะเวลาอยางนอยที่สุดหรือระยะเวลาอยาง
มากได
ความหมายของอันนิฟาสความหมายของอันนิฟาสความหมายของอันนิฟาสความหมายของอันนิฟาส
อันนิฟาสคือ เลือดที่หลั่งออกมาจากอวัยวะเพศของสตรีหลังคลอดบุตรหรือหลั่ง
ออกมาพรอมๆ กับบุตร หรือกอนคลอด
โดยปรกติแลวเลือดอันนิฟาสจะมีระยะเวลา 40 วัน เมื่อสตรีคนใดหมดเลือดนิ
ฟาสกอนถึง 40 วันก็จําเปนจะตองละหมาดและถือศีลอดหลังจากอาบน้ําเรียบรอยแลว
และสําหรับสามีของเธอก็จะมีเพศสัมพันธกับเธอได และหากมีเลือดตอไปจนถึง 60 วัน
ก็ยังคงเปนเลือดอันนิฟาสอยู แตถาเกิน 60 วันจะถือวาเปนเลือดเสีย
- 21. ฟกฮฺอิบาดาต 21
21
หุกุมเลือดที่ออกมาจากมดลูกผูหญิงที่ทองอยูหุกุมเลือดที่ออกมาจากมดลูกผูหญิงที่ทองอยูหุกุมเลือดที่ออกมาจากมดลูกผูหญิงที่ทองอยูหุกุมเลือดที่ออกมาจากมดลูกผูหญิงที่ทองอยู
ผูหญิงที่ทองอยูเมื่อมีเลือดออกมาจากมดลูกมากๆ และไมไดแทงลูกแสดงวา
เลือดนั้นเปนเลือดเสีย เธอจะละทิ้งละหมาดเนื่องจากเลือดนั้นไมได แตเธอตองอาบน้ํา
ละหมาดในทุกครั้งที่จะละหมาด แตหากเธอเห็นวาเลือดที่ออกมานั้นเปนประจําเดือน
ที่มาตามปรกติสําหรับเธอก็แสดงวาเปนเลือดประจําเดือน เธอจะละทิ้งละหมาดหรือศีล
อดหรืออื่นๆเนื่องจากเลือดนั้นได
• หะรอม(หาม)สําหรับผูที่มีเลือดอัลหัยฎและเลือดอันนิฟาสทําการเฏาะวาฟรอบๆ
บัยตุลลอฮฺจนกวาเลือดนั้นจะหยุดและอาบน้ํากอน
• ไมอนุญาตใหผูที่มีเลือดอัลหัยฎและเลือดอันนิฟาสจับตองมุศหัฟฺ นอกจากวามี
หนาปกหรือสิ่งอื่นกันไวไมสัมผัสโดยตรง
• สตรีที่อยูในระยะที่มีเลือดอัลหัยฎนั้น เธอจะละหมาดไมได ไมวาเลือดนั้นจะมา
ตามปรกติ หรือเกินจากปรกติแลว หรือนอยกวาเวลาปรกติก็ตาม ซึ่งเมื่อเลือด
ดังกลาวหยุดแลว ใหเธออาบน้ําและละหมาด สวนการชดสิ่งที่ขาดไปนั้นใหเธอ
ชดเฉพาะการถือศีลอดแตไมตองชดการละหมาด
• อนุญาตใหสตรีใชยาระงับประจําเดือนได หากมีความจําเปนแตตองมั่นใจวาจะ
ไมเกิดผลขางเคียงที่เปนอันตรายจากการใชยาดังกลาว และเธอก็จะอยูในสภาพ
ที่สะอาดจากเลือดประจําเดือน และตองถือศีลอดและละหมาด
เครื่องหมายที่บงบอกวาหมดชวงอัลเครื่องหมายที่บงบอกวาหมดชวงอัลเครื่องหมายที่บงบอกวาหมดชวงอัลเครื่องหมายที่บงบอกวาหมดชวงอัลหัยฎหัยฎหัยฎหัยฎแลวแลวแลวแลว
เมื่อเธอพบวามีน้ําเหลวสีขาวไหลออกมาหลังเลือดอัลหัยฎหยุด แตหากใครไมมี
น้ําดังกลาวบงบอก เธอจะรูไดดวยการใสสําลีสีขาวไวที่ปากมดลูก ถาสําลีนั้นไมเปลียน
สีก็แสดงวาเปนสิ่งที่บงบอกวาเธอสะอาดจากเลือดอัลหัยฎแลว
หากมีเลือดสีเหลืองและสีขุนออกมาในเวลาที่มีประจําเดือนตามปรกติก็ถือวา
เปนเลือดประจําเดือน แตหากออกมากอนหรือหลังเวลาที่มีประจําเดือนตามปรกติ จะ
ถือวาไมใชเลือดประจําเดือน เธอจะตองละหมาดและถือศีลอด และสําหรับสามีเธอนั้น
จะรวมหลับนอนกับเธอไดตามปรกติ และหากเลือดสีเหลืองหรือสีขุนดังกลาวออกมา
เลยเวลาปรกติแลว เธอตองอาบน้ําและละหมาดเหมือนคนปรกติทั่วไป
- 22. ฟกฮฺอิบาดาต 22
22
สตรีเมื่อมีประจําเดือนหลังจากเขาเวลาละหมาดแลวหรือสะอาดจาก
ประจําเดือนกอนหมดเวลาละหมาดเวลาใดเวลาหนึ่งแลว เธอตองละหมาดเวลานั้นๆ
และสําหรับผูที่มีเลือดอันนิฟาส ก็ตองปฏิบัติเชนเดียวกัน
อนุญาตใหสามีหาความสุขจากภรรยาของเขาโดยการสัมผัสอวัยวะตางๆ ของ
รางกาย ยกเวนอวัยวะระหวางสะดือถึงหัวเขาได ในขณะที่ภรรยามีประจําเดือนอยู ทั้งนี้
มีรายงานจากทานหญิงมัยมูนะฮฺเราะฎิยัลลอฮุอันฮา กลาววา
ِﻪﱠﻠﺍﻝ ُلﻭﺴﺭ ﻥﹶﺎﻜﺽﻴﺤ ﻥﻫﻭ ِﺭﺍﺯِﺈﹾﻝﺍ ﹶﻕﻭﹶﻓ ﻩﺀﺎﺴِﻨ ﺭِﺸﺎﺒﻴ
ความวา “ทานเราะสูลุลลอฮฺ ไดคลุกคลีเลาโลมกับบรรดาภรรยา
ของทานโดยการสัมผัสอวัยวะนอกเหนือจากอวัยวะระหวางสะดือถึงหัว
เขาในขณะที่บรรดาภรรยามีประจําเดือน (มุตตะฟะกุน อะลัยฮฺ โดยมี
บันทึกในอัลบุคอรียฺ เลขที่ : 303 ยฺและมุสลิม เลขที่: 294 สํานวนนี้เปน
ของมุสลิม)
หุกุมการมีเพศสัมพันธกับหญิงมีประจําเดือนหุกุมการมีเพศสัมพันธกับหญิงมีประจําเดือนหุกุมการมีเพศสัมพันธกับหญิงมีประจําเดือนหุกุมการมีเพศสัมพันธกับหญิงมีประจําเดือน
หะรอม(หาม)มีสัมพันธทางอวัยวะเพศกับผูมีประจําเดือน ดังที่อัลลอฮฺกลาววา
štΡθè=t↔ó¡o„uρÇtãÇÙŠÅsyϑø9$#(ö≅è%uθèδ“]Œr&(#θä9Í”tIôã$$sùu!$|¡ÏiΨ9$#’ÎûÇÙŠÅsyϑø9$#(Ÿωuρ
£èδθç/tø)s?4®LymtβößγôÜtƒ(#sŒÎ*sùtβö£γsÜs?€∅èδθè?ù'sùôÏΒß]ø‹ymãΝä.ttΒr&ª!$#4¨βÎ)©!$#
=Ïtä†tÎ/≡§θ−G9$#=Ïtä†uρšÌÎdγsÜtFßϑø9$#∩⊄⊄⊄∪
ความวา “และพวกเขาจะถามเกี่ยวกับประจําเดือน จงกลาวเถิดมุหัม
หมัดวาประจําเดือนเปนสิ่งที่มีโทษ ดังนั้นพวกเจาจงปลีกตัวจากหญิงใน
ขณะที่มีประจําเดือนและอยาเขาใกลพวกนาง จนกวาพวกนางจะ
สะอาด ครั้นเมื่อนางไดชําระรางกายสะอาดแลว ก็จงเขาหานางตามที่
อัลลอฮฺไดใชพวกทาน แทจริงอัลลอฮฺไดชอบบรรดาผูสํานึกผิด กลับ
เนื้อกลับตัว และชอบบรรดาผูที่ทําตนใหสะอาด”(อัลบะเกาะเราะฮฺ:
222)
- 23. ฟกฮฺอิบาดาต 23
23
• ไมอนุญาตใหมีเพศสัมพันธกับผูมีประจําเดือนจนกวาเธอจะสะอาดจากเลือด
ประจําเดือนและอาบน้ําชําระรางกายกอน หากผูใดมีเพศสัมพันธกับผูมี
ประจําเดือนกอนการอาบน้ําถือวาเขามีบาป
• หากชายจงใจมีเพศสัมพันธกับภรรยาของเขาโดยไมไดถูกบังคับทั้งที่รูวาภรรยา
ของเขามีประจําเดือนถือวาเขามีบาป เขาตองเตาบะฮฺและจายกัฟฟาเราะฮฺ สวน
ฝายหญิงก็ตองเตาบะฮฺและจายเชนกัน ซึ่งคากัฟฟาเราะฮฺนั้นคือหนึ่งดีนารฺหากมี
เพศสัมพันธกันในชวงที่มีประจําเดือน และครึ่งดีนารฺหากมีเพศสัมพันธกันในชวง
ที่เลือดประจําเดือนหยุดแลวแตกอนที่จะอาบน้ํายกหะดัษใหญ (หนึ่งดีนารฺเทากับ
ทองคําหนัก 4.25 กรัม)
ทั้งนี้มีรายงานจากทานอิบนุอับบาส เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา จากทานน
บีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมไดกลาวเกี่ยวกับเรื่องชายคนหนึ่ง ซึ่งมีเพศสัมพันธกับ
ภรรยาของเขาในขณะที่เธอมีประจําเดือนวา
ٍﺭﹶﺎﻨِﻴﺩ ِﻑﺼِﻨ ﻭَﺃ ٍﺭﹶﺎﻨِﻴﺩِﺒ ﹸﻕﺩﺼﹶﺘﻴ
ความวา “เขาตองจายเศาะดะเกาะฮฺหนึ่งดีนารฺหรือครึ่งดีนารฺ ” (เปน
หะดีษที่เศาะฮีหฺ รายงานโดยอะบูดาวุด เลขที่:264 โปรดดูในเศาะฮี
หฺอะบูดาวุด เลขที่:238 และรายงานโดยนะสาอียฺ เลขที่:289โปรดดูใน
เศาฮีหฺนะสาอียฺ เลขที่:278)
• สิ่งที่หะรอม(หาม)เนื่องจากการมีประจําเดือนคือ การมีเพศสัมพันธทางชอง
คลอด การเฏาะลาก การละหมาด การถือศีลอด การสัมผัสมุศหัฟฺ(อัลกุรอาน)
การเฏาะวาฟฺ การหยุดนิ่งในมัสยิด
อัลมุสตะหาเฎาะฮฺอัลมุสตะหาเฎาะฮฺอัลมุสตะหาเฎาะฮฺอัลมุสตะหาเฎาะฮฺ คือ ผูที่ออกเลือดเนื่องจากความผิดปรกติของรางกาย
ความแตกตางระหวางอัลหัยฎและอัลอิสติหาเฎาะฮฺความแตกตางระหวางอัลหัยฎและอัลอิสติหาเฎาะฮฺความแตกตางระหวางอัลหัยฎและอัลอิสติหาเฎาะฮฺความแตกตางระหวางอัลหัยฎและอัลอิสติหาเฎาะฮฺ
1- อัลหัยฎ คือเลือดที่ไหลออกมาจากสวนลึกของชองคลอดเรียกวา “อาซิรฺ”
มีสีดํา ละเอียดมีกลิ่นเหม็นและไมเกาะตัวเปนกอนหลังจากออกมา
- 24. ฟกฮฺอิบาดาต 24
24
2- อัลอิสติหาเฎาะฮฺ คือเลือดที่ไหลออกมาจากสวนในของปากชองคลอด
เรียกวา “อาซิลฺ” มีสีแดง หยาบ ไมมีกลิ่นเหม็นและจะเกาะตัวเปนกอน
หลังจากออกมา
วิธีการชําระลางของวิธีการชําระลางของวิธีการชําระลางของวิธีการชําระลางของอัลมุสตะหาเฎาะฮฺอัลมุสตะหาเฎาะฮฺอัลมุสตะหาเฎาะฮฺอัลมุสตะหาเฎาะฮฺ
สําหรับอัลมุสตะหาเฎาะฮฺตองอาบน้ําใหสะอาดหนึ่งครั้งหลังจากเลือดหยุดและ
ใหอาบน้ําวุฎอทุกครั้งที่จะละหมาด แลวใหเอาผาหรือสิ่งอื่นๆปดชองคลอดไว
สําหรับอัลมุสตะหาเฎาะฮฺสําหรับอัลมุสตะหาเฎาะฮฺสําหรับอัลมุสตะหาเฎาะฮฺสําหรับอัลมุสตะหาเฎาะฮฺนั้นมีนั้นมีนั้นมีนั้นมี 4444 กรณี ดวยกันคือกรณี ดวยกันคือกรณี ดวยกันคือกรณี ดวยกันคือ
1- เปนผูที่รูกําหนดการมาประจําเดือนที่แนนอน ซึ่งจะตองคอยใหผานชวงที่
แนนอนนั้นๆ หลังจากนั้นใหอาบน้ําและละหมาด
2- เปนผูที่ไมรูกําหนดการมาประจําเดือนที่แนนอน ซึ่งจะตองคอยใหผานไป
หกหรือเจ็ดวัน เพราะวาเปนระยะเวลาการมาประจําเดือนโดยปรกติ
หลังจากนั้นใหอาบน้ําและละหมาด
3- เปนผูที่มาประจําเดือนไมแนนอน แตเธอสามารถแยกแยะเลือดอัลหัยฎ
ซึ่งมีสีดําจากเลือดอื่นๆได ดังนั้นเมื่อเลือดอัลหัยฎหยุดเธอจึงอาบน้ําและ
ละหมาด
4- เปนผูที่มาประจําเดือนไมแนนอนและเธอไมสามารถแยกแยะเลือดอัล
หัยฎซึ่งมีสีดําจากเลือดอื่นๆได ดังนั้นเธอจะตองคอยใหผานไปหกหรือเจ็ด
วันหลังจากนั้นใหอาบน้ําและละหมาด
• หากหญิงใดตกเลือดหรือแทงออกมาเปนหยดเลือด ถือวาไมใชเลือดอัลหัยฎและ
อันนิฟาส แตถาแทงออกมาเปนทารกที่มีอายุ 4 เดือนแลว ถือวาเปนเลือดอันนิ
ฟาส ถาแทงออกมาเปนกอนเลือด หรือกอนเนื้อที่มียังไมเปนรูปเปนรางขึ้นมา
ไมถือวาเปนเลือดอันนิฟาส ถึงแมวาจะเห็นเลือด ถาแทงออกมาเปนทารกที่เปน
รูปเปนรางแลว และมีอายุครบ ถือวาเปนเลือดอันนิฟาส
• อนุญาตใหอัลมุสตะหาเฎาะฮฺ(ผูที่มีเลือกอิสติหาเฎาะฮฺ)ทําการละหมาด ถือศีล
อด อิอฺติกาฟฺ และทําอิบาดะฮฺอื่นๆ