ปิ ด ทองหลั ง พระ คื อ การเพี ย รทำความดี โดยไม่ มุ่ ง เน้ น ประโยชน์ ส่ ว นตน
                         5

ปลูกป่าตามแนวพระราชดำรัส
รัฐบาลขอ“ปิดทองฯ-กปร.”ร่วมชี้เป้าป่าต้นน้ำ
       จากแนวทางการปลู ก ป่ า เพื่ อ แก้ ปั ญ หาน้ ำ ท่ ว ม ที่ พ ระบาท
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสแก่นายกรัฐมนตรี รวมทั้ง
คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ

(กยอ.) และคณะกรรมการยุ ท ธศาสตร์ เ พื่ อ วางระบบการบริ ห าร
จัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) ซึ่งเข้าเฝ้ากราบบังคมทูลถวายรายงาน
การวางระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและการวางแผนเพื่อฟื้นฟู
และสร้างอนาคตประเทศ ซึ่งมีสาระสำคัญสรุปว่า การแก้ไขปัญหา
น้ำท่วมนั้น ต้องหาวิธีระบายให้น้ำไหลได้อย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้
ยังมีเรื่องดินและป่าไม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องแก้ไขปัญหาการตัดไม้
ทำลายป่าให้ได้ ด้วยการเพิ่มบทลงโทษ ขณะเดียวกัน ต้องเร่งปลูก
ต้นไม้ทดแทนป่าไม้ทถกทำลาย โดยปลูกทังไม้เนือแข็งและไม้เนืออ่อน
                      ี่ ู                  ้      ้                ้
ผสมกัน เพราะไม้เนื้ออ่อนโตเร็ว แต่รากไม่ยึดดินเท่ากับไม้เนื้อแข็ง

ที่โตช้ากว่า แต่หยั่งรากลึก ช่วยป้องกันดินถล่มได้
       “...หลักการที่จะต้องทำ ก็คือปลูกต้นไม้ขึ้นเร็วผสมกับต้นไม้

เนื้อแข็ง ไม้รากลึกที่ขึ้นช้า การปลูกต้นไม้ทำให้ป้องกันดินถล่ม และ
ช่วยในการป้องกันน้ำท่วม…”
       ในการประชุ ม คณะรั ฐ มนตรี เมื่ อ วั น ที่ 28 กุ ม ภาพั น ธ์ 2555

คณะรัฐมนตรีจึงได้น้อมนำพระราชดำรัสดังกล่าวมาดำเนินการ โดย
จะประกาศเป็ น นโยบายสำคั ญ เร่ ง ด่ ว นให้ มี ก ารปลู ก ป่ า อย่ า ง
 กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงพลังงาน โดยให้กรมวิชาการเกษตร
บูรณาการ ร่วมกัน 5 กระทรวง คือ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ
 ศึ ก ษาการปลู ก ป่ า การแยกประเภทของต้ น ไม้ 2 ประเภท ได้ แ ก่

สิ่ ง แวดล้ อ ม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงกลาโหม ไม้โตเร็ว หรือไม้เนื้ออ่อน และไม้โตช้า 
                   อ่านต่อหน้า 16


                                                องคมนตรีแนะทางแก้ชนบท
                                                     ศ.นพ.เกษม วั ฒ นชั ย องคมนตรี ประธานมู ล นิ ธิ ปิ ด ทองหลั ง พระ สื บ สาน

                                                แนวพระราชดำริ ให้แนวคิดการทำงานกับชมรมสื่อบ้านนอก ซึ่งเป็นสื่อมวลชน

                                                จากหลากหลายแขนงที่รวมตัวกันเพื่อเรียนรู้ชนบท และการพัฒนาชนบท ที่จะเป็น
                                                ทางออกในการแก้ปัญหาของประเทศในอนาคต
                                                     ศ.นพ.เกษม กล่าวว่า อาชีพสือมวลชนต้องมีสามอย่าง คือ ต้องรูจริง ต้องไขว่คว้า
                                                                               ่                              ้
                                                หาความรู้ตลอด เพราะคนในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ล้วนเชื่อสื่อ ดังนั้น
                                                สื่อมวลชนจึงต้องพิจารณาถึงความสำคัญของอาชีพตนเองว่า มีบทบาทที่จะทำให้
                                                สังคมดีขึ้นก็ได้ เลวลงก็ได้
                                     อ่านต่อหน้า 16
สาระ...เพื่อการพัฒนาชนบทตามแนวพระราชดำริ
                                                                  รายงานพิเศษ


                                                                             สองปีหลังการทำนาขั้นบันไดตามแนวทางของปิดทองหลังพระฯ
                                                                       ชาวบ้ า นในพื้ น ที่ ต้ น แบบ 3 อำเภอ คื อ ท่ า วั ง ผา สองแคว และ
                                                                       เฉลิมพระเกียรติ ก้าวข้ามขั้นแรก “อยู่รอด” หรือ มีข้าวเพียงพอต่อการ


พืชหลังนา
                                                             บริโภคแล้ว วันนี้ พื้นที่ต้นแบบปิดทองฯ จังหวัดน่าน กำลังก้าวเข้าสู่

                                                                       ขั้นตอนที่สอง “พอเพียง” ด้วยการปลูกพืชหลังนา จากการสนับสนุนของ
                                                                       ปิดทองหลังพระฯ
ย่างก้าวสำคัญ
                                                               ไม่เพียงลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนและเพิ่มรายได้เท่านั้น ปิดทอง

                                                                       หลังพระฯ ยังมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ ลดละเลิกการทำไร่ข้าวโพด
จาก
       “อยู่รอด”
                                                      โดยทดแทนด้วยการปลูกพืชเศรษฐกิจ ลดการใช้สารพิษ สารเคมี ส่งเสริม
                                                                       เกษตรอินทรีย เสริมสร้างความรู้ ทักษะ เทคนิค เพิมประสิทธิภาพการทำ
                                                                                                                            ่


 สู่...
 พอเพียง”
       “
                                                                       เกษตร สร้างระบบและมาตรฐานการผลิต ที่เรียกว่า “เกษตรประณีต”
                                                                       แทน “เกษตรอเนกประสงค์” ที่ปลูกพืชเชิงเดี่ยว และเป้าหมายในที่สุด
                                                                       คือ การทำให้จงหวัดน่าน เป็นศูนย์กลางการส่งออกทีสำคัญของประเทศ
                                                                                      ั                                       ่
                                                                             พืชหลังนา ทีปดทองหลังพระฯ ให้การส่งเสริมทัง 8 ชนิด ได้แก่ หน่อไม้
                                                                                         ่ ิ                            ้
                                                                       ฝรัง พริกซุปเปอร์ฮอต บรอกโคลี ถั่วลันเตา-ถั่วลันเตาหวาน ว่านหาง
                                                                           ่
                                                                       จระเข้ ตะไคร้ เผือก ฟักเขียว-แฟง โดยใช้หลักการ “ตลาดนำ” ผลผลิต
                                                                       คุณภาพดี เป็นไปตามความต้องการของตลาด ลดละการใช้สารเคมีดวย           ้
                                                                       การทำเกษตรอินทรีย์ โดยไม่เอา “ราคา” มาเป็นตัวตัง
  ้




                                               เจ้าของ		 :	 มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ 
                                               			 สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล เลขที่ 1 ถนนนครปฐม เขตดุสต กรุงเทพมหานคร 10300 
                                                                                                                                   ิ
 www.pidthong.org
                             		 :	 สถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ 
 
                                             			 อาคารสยามทาวเวอร์ ชั้น 26 เลขที่ 989 ถนนพระราม 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 
 www.twitter.com/pidthong                      			 โทรศัพท์ 0-2611-5000 โทรสาร 0-2658-1413 
                                               ที่ปรึกษา		 :	 หม่อมราชวงศ์ดิศนัดดา ดิศกุล นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ นายพิพัฒน์ เลิศกิตติสุข 
 www.facebook.com/pidthong                     บรรณาธิการ	 :	 นายธนัยนันท์ ธนันท์ปพัฒน์ ผู้ช่วยบรรณาธิการ : นายสุชาติ ถนอม
                                               ผู้จัดทำ		 :	 บริษัท แอร์บอร์น พรินต์ จำกัด 1519/21 ซอยลาดพร้าว 41/1 ถนนลาดพร้าว แขวงสามเสนนอก
2 www.youtube.com/pidthongchannel              			 เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310 
                                               			 โทรศัพท์ 0-2939-9700 โทรสาร 0-2512-2208 E-mail : roso215@yahoo.com
สาระ...เพื่อการพัฒนาชนบทตามแนวพระราชดำริ
                                                                           รายงานพิเศษ
     ดังนั้น พืชหลังนาทั้งหมดนี้ จึงมีตลาดรองรับไว้แล้ว โดยเฉพาะ                      ทีบานสะเกิน ตำบลยอด อำเภอสองแคว แม้จะมีตลาดรองรับ ส่วนหนึง
                                                                                         ่ ้                                                                               ่
หน่อไม้ฝรั่ง ซึ่งมีบริษัทจากไต้หวันเข้ามารับซื้อไม่จำกัด เพื่อส่งออก                  ส่งออกไปไต้หวันและมาเลเซีย ส่วนหนึ่งขายในประเทศ และอีกส่วน
ไปยั ง ไต้ ห วั น ส่ ว นหนึ่ ง อี ก ส่ ว นหนึ่ ง ส่ ง ออกผ่ า นทางมาเลเซี ย ไป        หนึ่งทำเป็นบรอกโคลีอบแห้ง ยังมีปัญหาเรื่องสายพันธุ์อยู่ ปิดทองฯ

ตะวันออกกลาง 
                                                                        จึงจะนำเข้าสายพันธุ์จากไต้หวัน ซึ่งมีคุณภาพสูง ดอกละเอียด ป้อม
     หน่อไม้ฝรั่ง จัดเป็นพืชเศรษฐกิจที่ให้ผลผลิตระยะยาว เพราะ                         เนือแน่น มาทดลองปลูกจนแน่ใจ ก่อนจะให้เกษตรกรนำไปปลูกต่อไป
                                                                                          ้
ปลูกแล้วจะอยู่ได้ 5-10 ปี ใช้เงินลงทุนเพียงไร่ละ 10,000-12,000                        ในปีหน้า
บาท ปลู ก เพี ย ง 3 เดื อ น จะเริ่ ม เก็ บ เกี่ ย วผลผลิ ต ได้ ถึ ง วั น ละ 40               ถั่วลันเตา และ ถั่วลันเตาหวาน เป็นพืชที่ชอบอากาศเย็น จึงมี

กิโลกรัม/ไร่ ในหนึ่งปีสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ถึง 8 เดือน โดยให้                     การปลู กที่ บ้านเปีย งซ้อ บ้านน้ำรี และบ้านน้ำช้า ง ตำบลขุนน่าน
พักต้น 4 เดือน ทีสำคัญ มีการประกันราคาขันต่ำอยูทกโลกรัมละ 20 บาท
                     ่                               ้      ่ ี่ ิ                    อำเภอเฉลิมพระเกียรติ มีตลาดค่อนข้างดี และขายได้ราคาดี เพราะ
     ปิดทองหลังพระฯ ทำการเพาะกล้าหน่อไม้ฝรังแล้ว 300,000 กล้า่                        มีคุณภาพสูง 
จากกล้ า ที่ ต้ อ งเพาะทั้ ง หมด 1 ล้ า นกล้ า และหน่ อ ไม้ ฝ รั่ ง ที่ ป ลู ก
              ขณะที่ น่ า น เป็ น พื้ น ที่ ป ลู ก พริ ก ระดั บ ประเทศ แต่ มี ปั ญ หา

ชุดแรกจะเริ่มให้ผลผลิตในเดือนมีนาคมนี้
                                               เนื่องจากไม่ใช่พริกซุปเปอร์ฮอตแท้ เพราะมีการผสมข้ามสายพันธุ์

                                                                                      จนกลาย มี พ่ อ ค้ า มารั บ ซื้ อ เพี ย งครั้ ง สองครั้ ง ก็ ไ ม่ ซื้ อ อี ก แต่ พ ริ ก

                                                                                      ซุ ป เปอร์ ฮอตที่ ปิ ด ทองฯ ส่ ง เสริ ม ซึ่ ง ส่ ว นใหญ่ ป ลู ก ที่ บ้ า นน้ ำ ป้ า ก
                                                                                      ตำบลตาลชุม อำเภอท่าวังผา จะเป็นซุปเปอร์ฮอตแท้ และมีการ
                                                                                      ประกันราคารับซื้อขั้นต่ำสำหรับพริกแดงด้วย 




                                                                                            ว่านหางจระเข้ เป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่สำหรับจังหวัดน่าน

                                                                                      ซึ่งมีตลาดรับซื้อแล้ว สำหรับส่งออกไปอินโดนีเซีย พันธุ์ที่ปิดทอง

                                                                                      หลังพระฯ ส่งเสริม เป็นพันธุ์ที่ใช้น้ำน้อย กาบใหญ่ น้ำหนักแต่ละกาบ
       นายธนกร รัชตานนท์ ผู้จัดการสำนักงานโครงการปิดทอง                               ถึงกิโลกรัม แม้ราคารับซื้อจะไม่สูงมาก แต่ก็เป็นพืชที่ไม่ต้องการ

หลังพระฯ จังหวัดน่าน กล่าวว่า การปลูกหน่อไม้ฝรั่งนั้น มีการ                           การดู แ ลเอาใจใส่ ม าก มี พื้ น ที่ ว่ า งตรงไหน หั ว ไร่ ป ลายนา ก็ ป ลู ก

จำกั ด พื้ น ที่ ใ ห้ ป ลู ก ครอบครั ว ละไม่ เ กิ น 1 ไร่ แต่ อ ยากให้ ป ลู ก ทุ ก
   ทิ้ง ๆ ไว้ เป็นออมสิน 
ครัวเรือน เพราะไม่ว่าอย่างไร ก็ยังต้องเน้นข้าวเป็นหลัก ที่สำคัญ                             ขณะที่ ฟัก-แฟง และ เผือก เป็นพืชพื้นบ้านที่ชาวบ้านปลูก

ต้องการให้ทำกันเองได้ภายในครอบครัว ไม่ต้องจ้างคนอื่น 
                                เป็นอยู่แล้ว ราคาอาจไม่สูงมากนัก แต่พอมีตลาดรับซื้อได้ ตะไคร้

       “ตอนนี้ชาวบ้านยังไม่เคยชินกับการปลูกพืชเศรษฐกิจชนิดอื่น                        ก็เช่นกัน เพียงแต่ขอให้เป็นพันธุ์เกษตรเท่านั้น 
ทดแทนข้าวโพด ซึ่งก็ไม่เป็นไร ปิดทองฯ ไม่ได้เร่ง ใครพร้อมก็ปลูก
                             นายธนกร สรุปในที่สุดว่า นอกจากช่วยในเรื่องการลงทุนด้วย
แต่เราจะทำให้ชาวบ้านเห็นผลเปรียบเทียบกันหลังจากหน่อไม้ฝรั่ง
                          การหาเมล็ดพันธุ์และปัจจัยการผลิตอื่น ๆ ให้ เพื่อตัดขั้นตอนขูดรีด
ชุดแรกได้ ผ ลผลิ ต ในปี ห น้ า การปลู ก พื ช หลั ง นาและพื ช เศรษฐกิ จ
               จากพ่อค้า และเมื่อได้ผลผลิตจึงค่อยคืน พร้อมกับหาตลาดรับซื้อให้

ทั้งระยะยาวและระยะสั้นจะดีขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าทำได้ภายในปีนี้ น่านจะ
                     ปิ ด ทองฯ ยั ง มี ห ลั ก สำคั ญ ในการส่ ง เสริ ม การปลู ก พื ช หลั ง นาและ

เป็นศูนย์กลางการส่งออกหน่อไม้ฝรั่ง เพราะบริษัทรับซื้อมาตั้งโรงงาน                     พืชเศรษฐกิจหลาย ๆ ชนิด ที่สามารถปลูกได้ในพื้นที่เดียวกัน เช่น

รับซือ คัดแยก และบรรจุที่นี่ แล้วส่งผ่านเชียงใหม่ไปไต้หวันเลย” 
     ้                                                                                บรอกโคลี ถั่วลันเตาและพริก เพื่อไม่ให้มีปัญหาเรื่องราคา 
       ส่วนพืชเศรษฐกิจระยะสั้น ใช้เวลาประมาณ 60-90 วัน ก็จะ
                                ที่สำคัญ คือ การส่งเสริมให้ชาวบ้านมีการรวมตัวกันเป็นกลุ่ม

เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ เช่น บรอกโคลี เพาะกล้า 25 วัน ลงต้นอีก
                           จะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนให้เกษตรกรมีความเข้มแข็ง เพื่อเดินหน้าสู่
45-60 วัน ก็เก็บผลผลิตได้ แต่บรอกโคลีที่ปิดทองฯ สนับสนุนให้ปลูก                       ความยั่งยืนได้อย่างมั่นคงในที่สุด
                                                                                                                                                                          3
สาระ...เพื่อการพัฒนาชนบทตามแนวพระราชดำริ
                                                                      สัมภาษณ์พิเศษ



ก้าวตามรอยพระบาท แก้ปัญหาชาติ

                                                                             ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล
                                                                             เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา
                                                                             และกรรมการมูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ




จะแก้ปัญหาน้ำแบบบูรณาการและยั่งยืน ได้อย่างไร 
                                  ความชื้น จากนั้น เมล็ดพืชต่าง ๆ ที่อยู่ใต้ดิน ก็แตกออกมา เป็นป่า
       เรื่ อ งน้ ำ ผมไม่ ใ ช่ ผู้ เ ชี่ ย วชาญ ผมเรี ย นรู้ จ ากพระบาทสมเด็ จ   สมบูรณ์ไม่ใช่ป่าเรียงแถว ตัวอย่างก็มีให้ดู ที่ดอยตุง ที่ห้วยฮ่องไคร้ 
พระเจ้าอยู่หัว จากการตามเสด็จ 30 กว่าปี โดยเห็น โดยสัมผัส แล้วก็                       การปลู ก ป่ า แต่ ล ะอย่ า งก็ ไ ม่ เ หมื อ นกั น เช่ น ป่ า อนุ รั ก ษ์ ห รื อ

สรุปได้ว่า น้ำโดยธรรมชาติ ต้องไหลจากเหนือลงใต้ จากสูงไปหาต่ำ                     ป่าต้นน้ำนี่ แตะต้องไม่ได้ จะเอาต้นไม้บ้า ๆ บอ ๆ ไปก็ไม่ได้ ต้อง

ต้องมองเส้นทางน้ำว่ามาจากไหน แน่นอนที่สุด ต้นตอของปัญหาก็                        เป็นไม้ดั้งเดิม ไม้ธรรมชาติ ต้องพิถีพิถัน จะปลูกแต่ละอย่างต้องรู้
อยูจดทีสงทีสด คือ ภูเขาทางภาคเหนือ สภาพเป็นอย่างไร ถูกทำลายแล้ว
     ุ่ ู่ ุ่                                                                    วัตถุประสงค์ ต้องรักษาให้เหมือนสภาพเดิมทุกประการ แล้วก็ป่า

ก็ยังถูกทำลายอยู่ เวลาฝนตก น้ำก็เลยไหลพรวดพราดลงมาด้านล่าง                       ที่พระเจ้าอยู่หัวรับสั่งว่า ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง ป่าเศรษฐกิจ
และไม่ได้ลงมาแต่น้ำเท่านั้น ยังหอบเอาต้นไม้ต้นซุง เอาหน้าดินลง                   ที่ต้องบริหารจัดการไปตามสภาวะให้คงสภาพป่าไว้ 
มาหมด แต่พอหน้าแล้งเดินข้ามแม่นำได้ เป็นวัฏจักรซ้ำซากอยู่อย่างนี้
                                               ้                                       เมื่ อ ซ่ อ มป่ า เสร็ จ แล้ ว ก็ จ ะแก้ ไ ขปั ญ หาน้ ำ ได้ ส่ ว นหนึ่ ง น้ ำ
       จะแก้ปัญหา ก็ต้องแก้กันตั้งแต่ต้นน้ำ แก้ตั้งแต่บนเขา เพราะ                ประมาณ 15-20% จะถูกเก็บไว้ อีกส่วนหนึ่งที่ลงมาตามแม่น้ำ ก็ให้
ตราบใดที่ยังเตียนโล่งอยู่ เราเผาเราตัด น้ำก็จะไหลพรวดลงมา ต้อง                   ไปเก็บไว้ตามหนอง คลอง บึง อ่าง เขื่อน ก็ต้องดูแลกันว่า หนอง
เริ่มปลูกป่ากัน ที่ผมพูดนี่ ตั้งแต่ยอดเขาจนถึงทะเล พระเจ้าอยู่หัว                คลองบึงธรรมชาติ เวลานี้สภาพเป็นอย่างไร ตื้นเขิน หรือถูกบุกรุก จน
พระราชทานบทเรียนไว้หมดแล้ว วิธีปลูกป่า ปลูกอย่างไร บริหารน้ำ                     ไปออกโฉนดกลางบึงกันแล้ว ก็ต้องไปบูรณะฟื้นฟู น้ำที่ไม่เคยเก็บได้
ทำอย่างไร ระหว่างทางจะให้น้ำทะลักเข้าแก้มลิงตรงไหน ฟลัดเวย์                      จะได้เก็บไว้ในห้วยหนองคลองบึงที่มีอยู่ตามธรรมชาติได้ 
อย่างไร พระองค์ท่านทำไว้หมด แต่ท่านไม่ใช่ราชการ ไม่ใช่กระทรวง                          เมื่อทำหนอง คลอง บึง แล้ว ก็เหลือที่เราต้องสร้างตามที่พระเจ้า
ทบวง กรม ไม่ใช่รัฐบาล ท่านไม่มีหน้าที่ แต่ในฐานะพระเจ้าแผ่นดิน                   อยู่ หั ว ทรงแนะ ทรงพระราชทานบทเรี ย นไว้ ใ ห้ แ ล้ ว มากมาย เช่ น

ท่านทำให้ดู ท่านแนะ ท่านเป็นที่ปรึกษา เพราะฉะนั้นบทเรียนจะเอา                    แก้มลิง ตรงไหนมีที่ว่าง ก็เจาะช่องหน่อย น้ำมาจะได้ไหลทะลักไป
ที่ไหน เอาอย่างไร บอกมาเลย ท่านทำไว้ให้หมดแล้ว อย่างป่านี่ ท่าน                  เก็บไว้ตรงนั้น พอเต็มก็ทำประตูปิดไว้ หน้าแล้งจะได้เอามาใช้ แล้วก็
ทำ 7 ปี ป่าคืนมาหมด ปลูกป่าโดยไม่ต้องปลูก ทำฝายชะลอน้ำ สร้าง                     มาถึงเขื่อนที่มีอยู่แล้ว ก็ต้องบริหารจัดการ ยามไหนจะเปิด-ปิดประตู
4
สาระ...เพื่อการพัฒนาชนบทตามแนวพระราชดำริ
                                                                           สัมภาษณ์พิเศษ

ระบายน้ำตามจังหวะที่สมเหตุสมผล คือ ต้องบริหารเขื่อนทั้งหลาย
                            ที่ ส อนเรา ตื่ น ขึ้ น มาเสี ย รู้ สึ ก ตั ว เสี ย เริ่ ม จั ด การเสี ย ที ผมเองเป็น

ให้ มี ป ระสิ ท ธิ ภ าพ คำนวณดี ๆ ตามหลั ก วิ ช าการ ให้ น้ ำ ถู ก ใช้                  ที่ ป รึ ก ษา ก็ ไ ด้ แ ต่ แ นะได้ แ ต่ เ ตื อ นได้ แ ต่ ใ ห้ ข้ อ คิ ด บางประการ แต่

ประโยชน์อย่างเต็มที่
                                                                   ทั้ ง หลายทั้ ง ปวงขึ้ น อยู่ กั บ รั ฐ บาล ฝ่ า ยบริ ห ารจะต้ อ งลงมาจัดการ
       ถ้ายังมีน้ำลงมามาก ก็มีหลักการหรือปรัชญาง่าย ๆ ว่า คนยัง                         แม้ว่าบ้านเมืองเรา อะไร ๆ คงไม่รวดเร็วฉับพลัน แต่อย่างน้อย ถ้า
ต้องการถนนคนเดิน รถต้องการถนนรถวิ่ง น้ำเขาก็อยากได้ทางเดิน                              เริ่มดี ๆ ค่อย ๆ ทำ ก็ยังได้ประโยชน์ 
ของเขาเหมือนกัน แต่ไม่มีใครสนใจสร้างให้ จึงเป็นที่มาของคำว่า
                                    
“ฟลัดเวย์” ที่พระเจ้าอยู่หัวรับสั่ง ฟลัดเวย์ คือ เมื่อน้ำไหลทะลักมา                     ครั้ ง นี้ จ ะถื อ ว่ า เป็ น โอกาสดี ที่ จ ะผลั ก ดั น ให้ มี ก ารนำ

ต้องหาทางให้เขาไป จะไปทางไหน แม่กลอง บางปะกง หรือเจ้าพระยา                              แนวพระราชดำริมาเป็นหลักในการแก้ปัญหาได้หรือไม่
สุดท้ายก็ต้องลงทะเล ก็วางแผนบริหารจัดการไป 
                                                  จะผลักดันต้องมีพละกำลัง งานของพระเจ้าอยู่หัวนั้น ท่านไม่มี
       ต่ า งจั ง หวั ด ยั ง มี ท างเลี่ ย ง มี บ ายพาส ไม่ ต้ อ งให้ ร ถเข้ า ไปติ ด   อำนาจในเชิงบริหาร พระเจ้าอยู่หัวไม่เคยสั่งการ และท่านสั่งไม่ได้
เหมือนกัน น้ำมาก็เชิญเขาไปทางนั้นทางนี้ จะเป็นไร่เป็นสวนเป็นนา                          ด้วยอำนาจใด ๆ ที่หน่วยงานต่าง ๆ มี ท่านไม่มี เพราะฉะนั้น ท่าน

ก็ ต าม เวลาน้ ำ มา ขอผ่ า นหน่ อ ยได้ ไ หม แล้ ว รั ฐ หรื อ หน่ ว ยงานที่              ก็ทำให้ดู บทเรียนที่พระเจ้าอยู่หัวทรงสอน มีให้ครบหมด ดิน น้ำ ลม
เกี่ยวข้องก็จัดการให้เรียบร้อย ตอนไหนให้น้ำผ่านก็ชดเชยเสีย เพราะ                        ไฟ ทุกสถานที่ อยู่ที่ใครจะเอามาใช้ จะประสานกันหรือไม่ ท่านไม่มี
ถึงอย่างไร ถ้าน้ำท่วมก็ต้องชดเชยอยู่ดี เขาอาจดีใจก็ได้ว่า น้ำท่วม
                      อำนาจอะไรจะบังคับ วิธีก็คือ สร้างศรัทธาให้เกิดขึ้น ซึ่งต้องยอมรับ
ไม่ต้องเหนื่อย ไม่ต้องเพาะปลูกแต่ได้เงิน 
                                              ว่าช้า แต่จะทำอย่างไร ก็ต้องคอยอธิบาย แล้วหวังว่าทุกคนจะเห็น
       ลงมาถึงชุมชน มีพระราชดำริสอนแก้ปัญหาน้ำท่วมในชุมชน
                              พ้องต้องกัน แล้วรับแนวนี้ไปทำ
ไว้แล้วตั้งหลายแห่ง เช่น หาดใหญ่ สัตหีบ คลองตะเภา ที่กรุงเทพฯ
                                
มี ค นก่ อ สร้ า งขวางคลอง มี ต อม่ อ ใหญ่ โ ตที่ ไ ม่ เ ปิ ด ทางให้ น้ ำ ไหล
          แต่ถ้านำแนวพระราชดำริมาใช้อย่างจริงจัง 
โดยสะดวก ก็ต้องจัดระเบียบ และรีบทำเสียตอนที่กำลังเดือดร้อน                              ก็จะแก้ปัญหาของประเทศได้
ผลัดไปเดียวลืม ถ้าบริหารจัดการให้ดี ทำอย่างนี้ ปัญหาก็จะทุเลาลงได้
             ๋                                                                                 เป็นความหวัง ถึงยังไม่สำเร็จก็ต้องถ่ายทอดความหวังต่อไป


                                                                                       ให้ ถึ ง ฝั่ ง แล้ ว วั น นั้ น เราจะพู ด ได้ เ ต็ ม ปากว่ า เราเดิ น ตามรอย

การแก้ปัญหา ควรเริ่มต้นและเดินไปในทิศทางนี้ 
                                           พระองค์ท่าน ชีวิตเราก็รอด
      ผมคิดว่าเราต้องปรับตัว เพราะว่าธรรมชาติเขาปรับตัว เปลียนแปลง       ่                     
แต่มนุษย์ไม่ได้เปลี่ยนแปลง ทำอะไรไปตามความเคยชิน อยู่ง่าย ๆ
ทำง่าย ๆ หวังประโยชน์เฉพาะหน้า จะตั้งถิ่นฐานทำกิน ไม่เคยคำนึง
ว่าเหมาะหรือไม่เหมาะ ไปตั้งขวางทางน้ำชุลมุนไปหมด ระเบียบวินัย
บ้านเราไม่ค่อยมี กฎ กติกาวางไว้ก็ไม่ค่อยมีใครปฏิบัติ ถูกละเมิด
ตลอดเวลา พื้นที่ที่ถูกกำหนดไว้โดยผังเมืองโดยอะไรก็แล้วแต่ ไม่ได้
เป็ น ไปตามนั้ น ป่ า ถู ก เผา กรุ ง ถู ก บุ ก รุ ก มั น ก็ ห มดทั้ ง ป่ า ทั้ ง กรุ ง

เราขาดการควบคุม ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเลวร้ายลง 
      คิ ด ว่ า ต้ อ งเอาจริ ง เอาจังกันแล้ว เมื่อธรรมชาติเปลี่ ย น เราก็

ต้องปรับเปลี่ยนตาม พระเจ้าอยู่หัวรับสั่งเตือนเสมอว่า เราต้องให้
ความเคารพภูมิสังคม ภูมิประเทศ ภูมิอากาศ สิ่งที่อยู่แวดล้อมเรา
เราต้องปรับต้องเปลี่ยนตามด้วย 

ถ้าเอาจริงเอาจังตามที่ท่านเสนอ ก็จะเป็นครั้งแรก
ที่การแก้ปัญหาน้ำมีการบูรณาการอย่างแท้จริง
     ก็ ใ ช่ เราโดนลงโทษอย่ า งแรง ไม่ เ ช่ น นั้ น ก็ ค งไม่ เ ป็ น อย่ า งนี้

ก็ต้องเริ่มคิดแล้ว ไม่ทำเราตาย เลยเกิดบูรณาการขึ้น น้ำนั่นแหละ

                                                                                                                                                                           5
สาระ...เพื่อการพัฒนาชนบทตามแนวพระราชดำริ
                                                                        บทความ




    ปิดทองหลังพระฯ
หลักการพัฒนาชุมชนสู่ความยั่งยืน
      ตามแนวพระราชดำริ
         เรียบเรียงจากปาฐกถาพิเศษ ของ ดร.จิรายุ
    อิศรางกูร ณ อยุธยา ประธานคณะอนุกรรมการ
    ธุรกิจเพื่อสังคม และกรรมการมูลนิธิปิดทอง
    หลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ เมื่อวันที่ 4
    กุ ม ภาพั น ธ์ 2555 ณ บริ ษั ท ปู น ซิ เ มนต์ ไ ทย
    (ลำปาง) จำกัด

     ประเทศไทย มีความเจริญก้าวหน้าจากการพัฒนาตลอด

60 ปีทผานมา จากข้อมูลสถิตพบว่า ในช่วงเวลาดังกล่าว ประชากรไทย
          ี่ ่                    ิ
เพิ่มขึ้นเกือบ 4 เท่าตัว รายได้ประชาชาติเพิ่มขึ้น 30 เท่าตัว รายได้
ต่อหัวของประชากรเพิ่มขึ้น 10 เท่าตัว (จาก 6,594 บาท ในปี 2492
เป็ น 64,500 บาทในปั จ จุ บั น ) เส้ น ระดั บ ความยากจนลดลงมาก

แต่จากสถิตนนกวิชาการส่วนใหญ่เห็นว่า ไม่ควรยินดีกบความสำเร็จนี้
                 ิ ี้ ั                                      ั
มากนั ก เพราะประเทศไทยยั ง คงประสบปั ญ หาหลั ก 4 ประการ

คือ (1) ประชากรใต้เส้นความยากจน ยังมีจำนวนมากนับล้านคน

ซึ่ ง แสดงให้ เ ห็ น ถึ ง ความเหลื่ อ มล้ ำ ในการกระจายรายได้ และ

ความเหลื่อมล้ำทางสังคม โดยเฉพาะระหว่างมหานครกับภูมิภาค

(2) ความสำเร็ จ นี้ แ ลกมาด้ ว ยทรั พ ยากรธรรมชาติ จ ำนวนมาก

ที่ ถู ก ใช้ ไ ปจนลดน้ อ ยลงเรื่ อ ย ๆ และสิ่ ง แวดล้ อ มที่ เ สื่ อ มโทรมจน

น่าเป็นห่วง (3) ความไม่สมดุลระหว่างเมืองและชนบท ขณะที่ใน
สังคมชนบท ผูคนอยูกบธรรมชาติ สดชืน ไม่ตองเร่งรีบ มีคณภาพชีวต
                      ้   ่ั                 ่    ้                 ุ      ิ
ที่ดีกว่า สังคมเมืองต้องพบกับสภาพความแออัด จราจรติดขัด เป็น

6
สาระ...เพื่อการพัฒนาชนบทตามแนวพระราชดำริ
                                                              บทความ

                                                                     ที่ สุ ด เท่ า ที่ จ ะเป็ น ไปได้ นั้ น สถาบั น ส่ ง เสริ ม และพั ฒ นากิ จ กรรม

                                                                     ปิ ด ทองหลั ง พระฯ ซึ่ ง จั ด ตั้ ง ขึ้ น โดยมี เ ป้ า หมายในการขยายผล

                                                                     การพัฒนาตามแนวพระราชดำริไปทั่วประเทศ จึงทำหน้าที่รณรงค์

                                                                     ให้ภาคเอกชนที่เข้มแข็งมากขึ้นเรื่อย ๆ จากการพัฒนา 50-60 ปี

                                                                     ที่ผ่านมาหลายร้อยบริษัทให้เข้ามาช่วยเป็นพี่เลี้ยง เป็นผู้สนับสนุน

                                                                     ให้เกิดกระบวนการพัฒ นาทั่วประเทศ พร้อมกับระดมผู้สนับสนุน

                                                                     ที่เห็นแก่ประโยชน์ของสังคมจำนวนมาก เช่น อาจารย์มหาวิทยาลัย
                                                                     ข้าราชการ รวมทั้งเอ็นจีโอ เพื่อช่วยในการพัฒนา ลดความเหลื่อมล้ำ
                                                                     ความไม่สมดุลระหว่างสังคมเมืองและชนบท แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม
ความไม่สมดุลที่เกิดขึ้น และ (4) ระดับคุณธรรมและศีลธรรมในใจ           และทำให้คุณธรรม ศีลธรรมของคนสูงขึ้น 
คน ถดถอยสวนทางกับรายได้ต่อหัวสูงขึ้น ทำให้เกิดปัญหามากมาย
                   3 ปี ใ นการดำเนิ น งาน สถาบั น ส่ ง เสริ ม และพั ฒ นากิ จ กรรม

เช่น อาชญากรรม ยาเสพติด หนี้สิน คอร์รัปชัน กระแสวัตถุนิยม
           ปิดทองหลังพระฯ เริ่มจากจังหวัดน่าน พัฒนาไปที่จังหวัดอุดรธานี
การบริโภคเกินความจำเป็น การใช้เทคโนโลยีไม่เหมาะสม และขาด             และต่อยอดพื้นที่ขยายผลในอีก 10 จังหวัด 18 หมู่บ้าน ทั่วประเทศ
สำนึกในการรับผิดชอบต่อสังคม
                                         โดยหวังจะดำเนินงานด้วยความเพียรไปเรื่อย ๆ เพื่อให้การพัฒนา
     เราจึงไม่ควรยินดีกับรายได้ต่อหัวที่สูงขึ้น แต่ควรให้ความสนใจ    ครอบคลุมทั่วประเทศ เพราะเชื่อว่าหากทุกฝ่ายมีส่วนร่วมและผนึก
และร่วมกันคิดหาทางออกให้แก่ปัญหา 4 ประการนี้ โดยเริ่มจาก             กำลังกันทำงาน ก็จะถึงจุดหมายปลายทางได้ดวยดี ดังพระราชนิพนธ์ ้
พิจารณาความสอดคล้องของกระบวนการทำงานของชุมชนกับการ                   เรื่ อ งพระมหาชนกของพระบาทสมเด็ จ พระเจ้ า อยู่ หั ว ตอนหนึ่ ง ว่ า
แก้ปัญหาที่กล่าวมา “ปิดทองหลังพระฯ ตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์
        “...เมื่อเรืออับปางในทะเล มองไม่เห็นฝั่ง เราก็ต้องว่ายน้ำต่อไป...”
เพื่อพัฒนาและแก้ปัญหา 4 ประการนี้ ภายใต้แกนหลักในการพัฒนา            เหมือนสิงทีเ่ รากำลังทำทุกวันนี้ ทีหวังบรรลุเป้าหมายการพัฒนาประเทศ
                                                                                  ่                           ่
คือ กรอบองค์ความรู้ 6 มิติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่องน้ำ    อย่างยังยืน ทังทียงมองไม่เห็นความสำเร็จ แต่กตองเพียรทำไปเรือย ๆ
                                                                               ่          ้ ่ั                                  ็ ้            ่
ดิน เกษตร พลังงานทดแทน ป่า สิ่งแวดล้อม เพื่อนำไปสู่การพัฒนา                  จุดดีของสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระฯ
3 ระดับ คือ อยู่รอด พอเพียง และยั่งยืน” 
                            คือ มีองค์ความรูและปัญญาตามแนวพระราชดำริ ทีจะนำไปให้หมูบาน
                                                                                            ้                                       ่            ่ ้
     วิธีหรือกระบวนการในการพัฒนาที่สำคัญ ของสถาบันส่งเสริม           ที่ต้องการพัฒนาอย่างยั่งยืน และมีกระบวนการทำงานที่ถูกต้อง ถึง
และพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระฯ คือ ชุมชนต้องเป็นเจ้าของ               แม้จะเริ่มงานช้ากว่าคนอื่น แต่ก็มีความมั่นคง และมีการนำความคิด
เป็นผู้ต้องการการพัฒนา สถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทอง           ดี ๆ ไปปฏิบัติจนเกิดผลสำเร็จ ทำให้ความคิดไม่เป็นเพียงความคิด
หลังพระฯ จะสนับสนุนเป็นพี่เลี้ยง และเป็นกัลยาณมิตร 
                 แต่เกิดความสำเร็จที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้ 
     “สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การนำความรู้ และปัญญาจากพระราช                  “วิธีการทำงานของสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทอง
ดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรม           หลั ง พระฯ ที่ จ ะทำให้ เ กิ ด ผลสำเร็ จ คื อ การสร้ า งคนที่ มี ค วามคิ ด

ราชินีนาถ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และพระบรมวงศา
              ที่ถูกต้อง มีการทำงานที่ถูกต้อง อาศัยชุมชนให้เป็นเจ้าของร่วมกัน
นุวงศ์ มาถ่ายทอดให้ชุมชน โดยผนวกกับความรู้ที่เป็นสากล และ
           พัฒนา หากสามารถสร้างจิตสำนึก สร้างแรงบันดาลใจให้เกิดขึ้น

ความรูดงเดิมของชุมชนและปราชญ์ชาวบ้าน เพือก่อให้เกิดการพัฒนา
        ้ ั้                                    ่                    ทั่วประเทศ รวบรวมสรรพกำลังของคนที่มีประสบการณ์มากมาย

เช่นที่เกิดขึ้นในพื้นที่ต้นแบบปิดทองหลังพระฯ” 
                      มาร่วมกัน ก็จะสามารถขยายผลไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนตามแนว

     เงินไม่ได้เป็นตัวช่วยให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน แต่จิตสำนึกของ   พระราชดำริของเจ้านายทุกพระองค์ได้ ทำทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นไปได้
คนในชุมชนต่างหากที่จะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน จากคำถามของ           ให้ความหวังเหล่านี้เป็นจริง ทำให้พี่น้องโดยเฉพาะในชนบท ได้มีชีวิต
ผู้นำชุมชนที่ว่า ทำอย่างไร จึงจะขยายผลการพัฒนาออกไปให้กว้าง          ที่ดีขึ้น และมีการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป”

                                                                                                                                                  7
สาระ...เพื่อการพัฒนาชนบทตามแนวพระราชดำริ
                                                                                  บทความ




                                      เดินหน้าแข็งขันสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
      บ้านท่าลอบ ตำบลโพทะเล อำเภอค่ายบางระจัน จังหวัด
สิ ง ห์ บุ รี ในอดี ต เคยเป็ น พื้ น ที่ ซึ่ ง อุ ด มสมบู ร ณ์ ทั้ ง ผั ก ทั้ ง ปลา แต่

ชาวบ้านท่าลอบในปัจจุบัน ส่วนใหญ่ต้องหันไปประกอบอาชีพรับจ้าง
ทั้งรับจ้างทำนา รับจ้างหว่านข้าว หว่านปุ๋ย ฉีดยา ตัดอ้อย ตัดวัชพืช
และเกือบครึ่งหนึ่งต้องออกไปรับจ้างนอกพื้นที่ รองลงมา ประกอบ
อาชีพเกษตรกรรม 
        จากการสำรวจของทีมงานปฏิบัติการระดับพื้นที่ สถาบันส่งเสริม
และพั ฒ นากิ จ กรรมปิ ด ทองหลั ง พระ สื บ สานแนวพระราชดำริ

เมื่ อ เดื อ นสิ ง หาคม 2554 พบว่ า รายได้ ข องคนท่ า ลอบ เฉลี่ ย ต่ อ

ครั ว เรื อ นอยู่ ที่ 273,400 บาทต่ อ ปี ขณะที่ ร ายจ่ า ยเฉลี่ ย อยู่ ที่

90,013 บาท และมีหนี้สินเฉลี่ย 86,360 บาท จากประชากรทั้งหมด
135 หลังคาเรือน 157 ครอบครัว 502 คน มีงานทำเพียง 318 คน
เกิ น ครึ่ ง คื อ 193 คน ประกอบอาชี พ รั บ จ้ า ง มี เ พี ย ง 101 คน

ที่เป็นเกษตรกร
        ปัญหาใหญ่ของบ้านท่าลอบ ที่ทำให้ประกอบอาชีพเกษตรกรรม                                ในระดั บ ต่ ำ กว่ า เกณฑ์ ม าตรฐานความอุ ด มสมบู ร ณ์ ม าก พื ช จึ ง

ไม่ได้ผลเท่าที่ควร นอกจากการขาดแคลนน้ำ เพราะพื้นที่เกษตรกรรม                               แคระแกร็ น ออกดอกช้ า กว่ า ปกติ เปอร์ เ ซ็ น ต์ ด อกติ ด ผลต่ ำ ราก

อยู่ สู ง กว่ า ระดั บ คลองชลประทาน ทำให้ ช าวบ้ า นต้ อ งสู บ น้ ำ จาก
                   ผอมบาง ลำต้ น ไม่ แ ข็ ง แรง ทั้ ง ยั ง มี ปั ญ หาโรคและแมลงศั ต รู พื ช

คลองชลประทานเข้าแปลงนาแล้ว ยังมีปัญหาผลผลิตการเกษตร                                        อีกมาก เช่น เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล โรคใบขาว หนอนกอ เชื้อรา

ตกต่ ำ ขณะที่ ต้ น ทุ น การผลิ ต ทุ ก อย่ า งสู ง ทั้ ง ปุ๋ ย สารเคมี น้ ำ มั น            ข้าวดีด หญ้าหางหมาและหญ้าดอกขาว
ค่าแรง หนำซ้ำการทำนาแต่เพียงอย่างเดียวถึง 5 ครั้ง ในเวลา 2 ปี                                   นางละมัย แสงหิรญ ผูใหญ่บานบ้านท่าลอบ เล่าว่า ปัญหาที่
                                                                                                                   ั ้             ้
โดยไม่มีการพักดิน การต้องใช้ปุ๋ยและสารเคมีในการทำนามากขึ้น                                 เกิดขึ้น ทำให้ชาวบ้านมีรายได้ไม่พอกับรายจ่าย จึงต้องกู้หนี้ยืมสิน

เรื่อย ๆ ดินจึงเสื่อมคุณภาพ แน่นทึบ จับตัวเป็นก้อน มีอินทรีย์วัตถุ
                        ทังจากธนาคาร สหกรณ์ออมทรัพย์ กองทุนเงินล้าน รวมทังหนีนอกระบบ
                                                                                             ้                                                     ้ ้
8
สาระ...เพื่อการพัฒนาชนบทตามแนวพระราชดำริ
                                                                                     บทความ

                                                                                            (Quick Win) ระยะ 3 เดือน เพื่อแก้ปัญหาศัตรูพืชทางการเกษตร

                                                                                            และการบริหารจัดการน้ำ เริ่มจากการให้คำแนะนำในการแก้ปัญหา
                                                                                            เพลี้ ย กระโดดสี น้ ำ ตาล ด้ ว ยการพั ก ดิ น เพื่ อ ตั ด วงจรอาหารของ

                                                                                            เพลี้ ย กระโดด แทนการปราบปรามด้ ว ยสารเคมี แนะนำให้ เ พิ่ ม

                                                                                            การใช้ ปุ๋ ย อิ น ทรี ย์ ลดการใช้ ปุ๋ ย เคมี รณรงค์ ใ ห้ เ กษตรกรพั ก ดิ น

                                                                                            ด้ ว ยการทำแปลงนาตั ว อย่ า ง ที่ ป ลู ก ข้ า วสลั บ กั บ การพั ก ดิ น และ

                                                                                            ไถหว่านพืชตระกูลถั่ว ปอเทืองหรือโสนแอฟริกัน แล้วเปรียบเทียบ

   ละมัย แสงหิรญ
               ั               ประจวบ เพชรทอง
                   สุนทร สัมฤทธิ์ 
                                                                                            ให้ เ ห็ น ว่ า ผลผลิ ต จะเพิ่ ม ขึ้ น เท่ า ไร และจะลดต้ น ทุ น ลงได้ เ ท่ า ไร

             “ได้ ไ ปดู ง านปิ ด ทองหลั ง พระฯ ที่ น่ า นแล้ ว เกิ ด ศรั ท ธา เชื่ อ ว่ า   รวมทั้งมีการสนับสนุนกองทุนต่าง ๆ ตามความต้องการของชาวบ้าน
      แนวทางปิดทองฯ จะแก้ปัญหาให้ชาวบ้านได้จริง เมื่อกลับมา จึง                             เช่น กองทุนผลิตผักปลอดภัย กองทุนเมล็ดพันธุ์ข้าว กองทุนประมง
      ลงมือสำรวจข้อมูลเอง โดยเอาตัวอย่างจากน่านมาปรับใช้ ทำให้
                             น้ำจืด 
      รู้ว่าเรายังขาดความรู้ ทำนาแบบตามมีตามเกิด แบบเดิม ๆ จึงอยาก
                                นายประจวบ เพชรทอง อดี ต ครู แ ละแกนนำชาวบ้ า น

      ให้ ปิ ด ทองฯ เข้ า มาส่ ง เสริ ม ความรู้ ปรั บ สภาพดิ น ให้ ดี ขึ้ น อบรม
           บอกว่ า เมื่ อ ชาวบ้ า นรู้ ว่ า ปิ ด ทองหลั ง พระฯ จะเข้ า มาช่ ว ยเหลื อ

      การเลี้ยงสัตว์ และสอนให้ชาวบ้านอยู่ได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องพึ่งพา
                       ก็พร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่ โดยเรื่องที่ชาวบ้านต้องการให้ปิดทองฯ
      คนอื่น เชื่อว่าจะทำให้บ้านท่าลอบสามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว                            ส่ ง เสริ ม คื อ ความรู้ ด้ า นการเกษตร การสั ง เกตโรคที่ เ กิ ด กั บ ข้ า ว

      เพราะชาวบ้ า นมี ค วามเข้ ม แข็ ง และพร้ อ มที่ จ ะให้ ค วามร่ ว มมื อ
               และพืชผลต่าง ๆ 
      อยู่แล้ว”
                                                                                   “ผมเคยทดลองปลูกมะนาว ผักบุ้ง ผักชี มะเขือ เลี้ยงปลา ทำ

             เมื่ อ ปิ ด ทองหลั ง พระฯ เลื อ กบ้ า นท่ า ลอบเป็ น พื้ น ที่ ข ยายผล
        น้ำหมักชีวภาพ ลองผิดลองถูก เสียเวลา เสียเงินลงทุนไปมาก หากได้
      และที ม ปฏิ บั ติ ก ารระดั บ พื้ น ที่ ไ ด้ ท ำการสำรวจข้ อ มู ล ปั ญ หาและ           ความรู้ จะทำให้ไม่ต้องเสียเงินลงทุนมาก และคงได้ผลผลิตดีขึ้น”
      ความต้ อ งการของชาวบ้ า นแล้ ว มี ก ารจั ด ทำแผนระยะเร่ ง ด่ ว น                             ส่วน นายสุนทร สัมฤทธิ์ ชาวนาวัย 68 ปี ก็บอกว่า ที่ผ่านมา
                                                                                            ทำนาโดยใช้สารเคมีมาตลอด และไม่เคยพักดิน เพราะไม่เคยรู้เลยว่า
                                                                                            ควรทำนาอย่ า งไร ทำปุ๋ ย ธรรมชาติ อ ย่ า งไร ถ้ า ปิ ด ทองหลั ง พระฯ

                                                                                            เข้ามาให้ความรู้ ก็เชื่อว่าจะช่วยให้ได้ผลผลิตเพิ่มมากขึ้น 
                                                                                                   นางป้อม แก้วแจ่ม เกษตรกรที่เริ่มเลี้ยงหมูปิดทองฯ แสดง
                                                                                            ความเชือมันในปิดทองหลังพระฯ ว่าจะทำให้ชาวบ้านลืมตาอ้าปากได้
                                                                                                        ่ ่
                                                                                            ไม่ทอดทิ้งชาวบ้านไว้ครึ่ง ๆ กลาง ๆ “ได้รับหมูมา 2 ตัว เพิ่งเริ่มเลี้ยง
                                                                                            มาได้ 4 เดื อ น อยากให้ ปิ ด ทองฯ ให้ ค วามรู้ แ ละคอยดู แ ล

                                                                                            อย่างใกล้ชิด เพราะหมู่บ้านนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ประจำ” 
ป้อม แก้วแจ่ม
                                                                                     ขณะที่ นางประมวน เหมื อ นแตง ซึ่ ง ได้ รั บ พั น ธุ์ ป ลาจาก

                                                                                            ปิ ด ทองฯ มาเลี้ ย ง 2,000 ตั ว พร้ อ มกั บ พั น ธุ์ ข้ า วโพดเที ย น มา

                                                                                            ปลู ก เสริ ม การทำนา ปั จ จุ บั น เริ่ ม ได้ ผ ลผลิ ต ข้ า วโพดแล้ ว พร้ อ ม

                                                                                            กับความหวังว่า อีกไม่นานจะสามารถจับปลาที่เลี้ยงไว้ไปขายได้

                                                                                            ต่อไปจึงอยากให้ปิดทองฯ ช่วยหาตลาดให้ เพราะชาวบ้านไม่รู้แหล่ง
                                                                                            ที่จะนำผลผลิตไปขายได้
                                                                                                   เมื่ อ ชาวบ้ า นแข็ ง ขั น ที่ จ ะร่ ว มมื อ พั ฒ นาหมู่ บ้ า น ปัจจุบันบ้าน

                                                                                            ท่าลอบ จังหวัดสิงห์บุรี จึงก้าวเข้าสู่ขั้นการยกร่างจัดทำแผนพัฒนา
                                                                                            ชนบทเชิ ง พื้ น ที่ เ ชิ ง ประยุ ก ต์ ต ามแนวพระราชดำริ ไ ด้ อ ย่ า งรวดเร็ ว

                                                                                            และกำลังเดินหน้าต่อ พร้อมกับความเชื่อมั่นในแนวทางพระราชดำริ
ประมวน เหมือนแตง
                                                                           ว่าจะทำให้พวกเขาดำรงชีพได้อย่างยั่งยืนมั่นคงต่อไป
                                                                                                                                                                             9
สาระ...เพื่อการพัฒนาชนบทตามแนวพระราชดำริ
                                                                         บทความ


  ภาคี
     รวมใจ
                                  มูลนิธิสืบนาคะเสถียร-ปิดทองฯ
                                  สองพันธมิตรรักษาป่าต้นน้ำ
      มู ล นิ ธิ ปิ ด ทองหลั ง พระ สื บ สานแนวพระราชดำริ และมู ล นิ ธิ

สืบนาคะเสถียร จะร่วมกันสร้างมิตใหม่ในการอนุรกษ์และฟืนฟูผนป่า
                                         ิ                 ั          ้ ื
ทรัพยากรสำคัญของชาติ ที่มีเหลืออยู่น้อยมาก จนน่าใจหาย 
      จากทีเ่ คยไปศึกษาดูงานปิดทองฯ ทีจงหวัดน่าน ทำให้ นางรตยา
                                             ่ั
จันทรเทียร ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร กล่าวอย่างมั่นใจว่า

ทั้งมูลนิธิสืบฯ และปิดทองฯ มีแนวทางเดียวกัน คือ ให้ชุมชนอยู่ได้
โดยใช้ชีวิตอย่างเป็นมิตรกับผืนป่า
      “ทั้งสองมูลนิธิมีธงเดียวกัน แม้ว่าปิดทองฯ จะเน้นในเรื่องของ

คนรักษาคน แต่ก็เน้นในเรื่องการรักษาป่าด้วย ไม่ให้คนขยายเข้าไป
ป่าที่เทวดาสร้าง จะทำอย่างไรกับป่าที่ถูกใช้ไปแล้ว ให้มีการใช้อย่าง
ได้คุณภาพ ได้มูลค่าสูงสุด ได้ประโยชน์สูงสุด ส่วนมูลนิธิสืบฯนั้น

มีหลักการเดียวกัน คือ ดูแลคนที่อยู่ในป่า มีการกันเขตเพื่อไม่ให้

มีการบุกรุกป่าเพิ่มมากขึ้น ด้วยการส่งคนเข้าไปอยู่กับชาวบ้าน ไป
ปรับทุกข์ผูกมิตร ให้เข้าใจว่าเราทำเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ
บ้านเมือง”
      เพื่ อ ประโยชน์ ข องชาติ บ้ า นเมื อ ง รวมทั้ ง เพื่ อ ลู ก หลาน ก็ เ ป็ น
เหตุ ผ ลสำคั ญ ที่ ท ำให้ ป ระธานมู ล นิ ธิ สื บ ฯ ตั ด สิ น ใจเข้ า มาทำงาน

ร่วมกับ ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล เลขาธิการมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ
และประธานคณะอนุกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาป่าต้นน้ำ
      ในการทำงานรักษาป่า อาจารย์รตยา เสนอแนวทางว่า “การ
                                                                                 ความชื้นและความหลากหลายทางชีวภาพได้ต้องใช้เวลา เราปลูกป่า
ดูแลป่า มี 2 เรื่อง คือ อนุรักษ์และฟื้นฟู ก่อนจะฟื้นฟู ตรงไหนที่

                                                                                 กัน 20 ปี ก็ยังไม่ได้เหมือนที่ธรรมชาติสร้าง”
เป็นป่าดั้งเดิม ต้องอนุรักษ์ไว้ให้ได้ทั้งหมด เพราะมีเหลืออยู่แค่นี้ และ

                                                                                       กระนั้น อาจารย์รตยา ก็กล่าวว่า ยังดีใจที่เราเห็นด้วยกัน และ
การฟื้นฟูก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะกว่าที่ป่าจะทำหน้าที่เก็บน้ำ เก็บ
                                                                                 เริ่มกันตั้งแต่ พ.ศ.นี้ อีก 30 ปีข้างหน้า ลูกหลานจะได้มีความมั่นคง
                                                                                 ทางทรัพยากร เพราะทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการอุตสาหกรรม
                                                                                 เป็นชาวนา เป็นคนทำงานออฟฟิศ ก็ต้องใช้น้ำจากป่าด้วยกันทั้งสิ้น 
                                                                                       “แนวทางของปิดทองหลังพระฯ ที่จะคืนพื้นที่ป่ากลับมาให้ได้

                                                                                 60 เปอร์เซ็นต์ และเป็นป่าเศรษฐกิจ 40 เปอร์เซ็นต์ อย่างน้อยก็เป็น
                                                                                 ความหวัง เป็นกำลังใจได้ว่า การฟื้นฟูป่าจะได้ผล” 	                       
                                                                                       หัวใจของความสำเร็จ ประธานมูลนิธิสืบฯ บอกว่า อยู่ที่คน และ
                                                                                 การทำงานกับคนนั้น เป็นเรื่องที่ทำกันไม่เสร็จ จึงต้องมีคนที่ทำงาน
                                                                                 จริงจังต่อเนือง ต้องคำนึงถึงภูมประเทศ และเมือมีหลักการ วิธการแล้ว
                                                                                              ่                  ิ                  ่                  ี
                                                                                 ก็ยังต้องหาเพื่อน หาคนข้างนอกมาเป็นมิตร ช่วยกันทำงานอีกด้วย
                                                                                       ปิ ด ทองหลั ง พระฯ และมู ล นิ ธิ สื บ ฯ จึ ง จั บ มื อ เดิ น บนเส้ น ทาง
                                                                                 เดียวกันในวันนี้
10
สาระ...เพื่อการพัฒนาชนบทตามแนวพระราชดำริ
                                                              บทความ

    บ้านสะเกิน ในพืนทีตำบลยอด อำเภอสองแคว จังหวัดน่าน
                   ้ ่                                                   การลงพื้นที่สำรวจข้อมูลร่วมกัน ทำให้พบสาเหตุว่า ทั้งฝายห้วย
มีปัญหาขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรมาหลายสิบปี ทั้งที่มีอ่างเก็บน้ำ      ต้นผึ้ง ฝายประชาอาสา รวมทั้งคลองส่งน้ำไม่เพียงชำรุดเสียหาย

น้ำงิม รวมทั้งคลองส่งน้ำ และลำเหมืองอีกหลายสายอยู่ในพื้นที่
        แต่ ยั ง มี ดิ น หิ น ตะกอนทราย และเปลื อ กข้ า วโพด ทั บ ถมอยู่ ใ น

     จนเมื่อชาวบ้านสะเกิน ได้เห็นกระบวนการทำงานของปิดทอง
           ลำเหมืองหนาถึง 2 เมตร 
หลังพระฯ ในการนำองค์ความรู้การพัฒนาแนวพระราชดำริมาใช้
                   ชาวบ้านสะเกิน 155 หลังคาเรือน ทั้งหญิงและชายกว่า 500 คน
จนสำเร็จเป็นรูปธรรม ทังเรืองแหล่งน้ำ การฟืนฟูปรับปรุงคุณภาพดิน
                       ้ ่                ้                         ได้ตกลงร่วมแรงร่วมใจเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ซ่อมฝาย ลำเหมือง




                                                 แห่งการระเบิดจากข้างใน
        ชุมชน
           ตัวอยาง
                                                             และคลองส่งน้ำของหมูบานด้วยตนเอง ตามรูปแบบปิดทองหลังพระฯ
                                                                                        ่ ้
                                                             โดยจัดกำลังวันละ 70-80 คน หมุนเวียนกันช่วยขุดอยู่นานนับเดือน
                                                             บางจุ ด ที่ มี ต ะกอนหนาถึ ง 2 เมตร ชาวบ้ า นก็ ร วมเงิ นกันเอง การ

                                                             ขุดลอกลำเหมืองทั้ง 3 สาย จึงแล้วเสร็จ และมีการทำท่อส่งน้ำมา

                                                             เก็บไว้ในถังเก็บน้ำของหมู่บ้าน สำรองไว้ใช้ตลอดปี 
                                                                   ทุกวันนี้ ลำเหมืองทุกลำเหมือง คลองส่งน้ำทุกสายในบ้านสะเกิน
                                                             มีน้ำไหลตลอดทั้งปี สามารถแจกจ่ายน้ำให้พื้นที่การเกษตรได้มากถึง
                                                             1 แสนไร่ ทั้งที่บ้านสะเกินมีพื้นที่เกษตรเพียง 2,377 ไร่ ชาวบ้าน

                                                             ทุกคนมีผลผลิตข้าวเพิ่มขึ้นเป็น 60-70 ถัง/ไร่ จากเดิมเฉลี่ยไม่เกิน

                                                             40 ถัง/ไร่ และสามารถปลูกพืชหลังนาอย่าง บรอกโคลี กะหล่ำ พริก
                                                             ซุ ป เปอร์ ฮ อต อี ก ด้ ว ย และทำให้ บ้ า นสะเกิ น เป็ น ตั ว อย่างของการ
                                                             บริหารจัดการน้ำ “กลางน้ำ” อีกด้วย 
                                                                   บ้านสะเกิน จึงเป็นการพัฒนาโดย “ระเบิดมาจากข้างใน” อย่าง
                                                             แท้จริง นั่นคือ เป็นการพัฒนาตามความต้องการของชุมชนเอง ลงมือ
การส่งเสริมอาชีพเกษตร ปศุสตว์ และป่าเศรษฐกิจ ในพืนทีตนแบบที่ ต่อสู้กับปัญหาของตัวเอง และร่วมกันพัฒนาชุมชนโดยไม่ต้องรอ
                           ั                      ้ ่ ้
บ้านยอด ซึงมีอาณาเขตติดต่อกัน ชาวบ้านสะเกินจึงตัดสินใจประสาน ความช่วยเหลือจากภาครัฐ จนเกิดความสำเร็จเป็นรูปธรรม พึ่งพา
           ่
กับเจ้าหน้าทีปดทองฯ ขอให้มาช่วยศึกษาและหาทางแก้ปญหาให้ 
             ่ ิ                                   ั         ตนเองได้ ซึ่งจะเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง
                                                                                                                                            11
สาระ...เพื่อการพัฒนาชนบทตามแนวพระราชดำริ
                                                                        บทความ

      จากความเชื่อที่ชนเผ่าลัวะยึดมั่นมาแต่บรรพชนว่า การขุดดิน                       “แรก ๆ ก็คิดว่า การขุดดินทำนาขั้นบันไดคงยาก เพราะไม่เคย
การเอาดินกลับบ้านจะเป็นการผิดผี เมื่อปิดทองหลังพระฯ เข้ามาใน                    ทำมาก่อน แต่พอมีคนมาช่วยเป็นร้อย ก็รู้สึกดี มีความหวังว่าจะทำได้
พื้นที่บ้านเปียงซ้อ ตำบลขุนน่าน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ พร้อมกับ                   สำเร็จ”
องค์ความรู้ในการทำนาขั้นบันได ซึ่งจะเพิ่มผลผลิตข้าวให้ได้พอกิน                       ลุงเสริม อุ่นถิ่น ขุดนาขั้นบันไดครั้งแรก 5 แปลง และต่อมาขุด
แทนการปลูกข้าวไร่แบบดั้งเดิม จึงไม่สามารถชักจูงใจชาวบ้านให้
                    เพิ่มอีก 4 แปลง รวม 4 ไร่ ใช้เวลาขุดติดต่อกัน 5 วัน จึงแล้วเสร็จ
เข้าร่วมขุดนาขั้นบันไดได้
                                                      จากนั้นก็ใช้น้ำจากบ่อพวงสันเขา ที่ปิดทองฯ สนับสนุนให้ชาวบ้านขุด
      แม้ว่าจะมีการเซ่นไหว้เจ้าที่ เลี้ยงผี เชิญหมอผีมาทำพิธีขอขมา              หลังจากมีนามีน้ำใช้ในการเกษตร ลุงเสริมก็ปลูกข้าว หมดหน้านาก็
แล้วก็ตาม ราษฎรก็ยังกลัว ไม่กล้าขุดดินอยู่ดี กุศโลบาย “พญาผี”                   ปลูกพืชหลังนาหลากหลาย ทั้ง เรพซีด ถั่วเหลือง ผักกาด กะหล่ำ




ก้าวทีกล้าของ...
      ่

สูความยังยืนในวันนี้
  ่     ่



ของนายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ผู้มาทำงานต่างพระเนตรพระกรรณ                         ไว้บริโภคในครัวเรือน และยังมีเหลือไว้ขาย
ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กบราษฎร แม้จะมีผลทางจิตวิทยาอยูบาง
                                        ั                              ่ ้             ความขยัน มานะ อดทน ทำให้ภายในเวลาเพียง 2 ปี หลังเข้า
แต่หัวใจของความสำเร็จอยู่ที่การมีคนนำทำเป็นตัวอย่าง พิสูจน์ให้                  ร่วมปิดทองฯ ลุงเสริม ปลดหนี้ที่มีอยู่กับธนาคารเพื่อการเกษตรและ
คนอื่ น ๆ เห็ น ว่ า การทำนาขั้ น บั น ไดจะช่ ว ยให้ ชี วิ ต ความเป็ น อยู่
    สหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. กว่า 20,000 บาท ได้จนหมด 
ดีขึ้นได้จริง ๆ 
                                                                      “ปิดทองฯ เข้ามานี่เปลี่ยนชีวิตไปหลายอย่าง ปลดหนี้ได้ มีผัก

      ผู้นำในการเปลี่ยนแปลงความเชื่อของชาวบ้าน คือ ลุงเสริม                     ไว้ กิ น มี เ งิ น เหลื อ เก็ บ ทำตามที่ ปิ ด ทองฯ แนะนำ ได้ ป ระโยชน์

อุ่นถิ่น ที่เห็นว่าการทำนาขั้นบันไดจะช่วยพลิกฟื้นผืนดินแร้นแค้น                 หลายอย่าง ตอนแรกหนักใจกลัวทำไม่ได้ แต่พอทำไปเรื่อย ๆ ได้เห็น
แตกระแหงให้เขียวชอุ่มได้ และอาจเป็นโอกาสสุดท้ายที่แกจะลืมตา                     ผลผลิตงอกงาม ก็สบายใจ ได้คิดด้วยว่า เมื่อปิดทองฯ ตั้งใจทำให้เรา
อ้าปากได้ บวกกับเห็นความตั้งใจจริงของปิดทองฯ ที่จะเข้ามาพัฒนา                   ขนาดนี้แล้ว เราก็ต้องทำให้สำเร็จให้ได้ น้ำก็มี เมล็ดพันธุ์ก็มี เรา
พื้นที่ ลุงเสริมจึงยอมละความเชื่อแต่ดั้งเดิม และตัดสินใจเข้าร่วมขุด             มีหน้าที่แค่ออกแรงอย่างเดียว ทำไมจะทำไม่ได้”
นาขั้ น บั น ได ตั้ ง แต่ เ ริ่ ม ต้ น ในวั น ฤกษ์ ดี วั น พระราชสมภพสมเด็ จ
        ความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงในวันนั้น ทำให้ลุงเสริม
พระศรีนครินทราบรมราชชนนี 21 ตุลาคม 2552
                                        อุ่นถิ่น อยู่ได้อย่างยั่งยืนในทุกวันนี้
12
สาระ...เพื่อการพัฒนาชนบทตามแนวพระราชดำริ
                                                              บทความ




เรียนรู คูพัฒนา




      เมื่อปิดทองหลังพระฯ เข้ามาดำเนินโครงการบริหารจัดการน้ำ         น้ำในท่อ จะทำให้เกิดแรงยกปิดลิ้นทิ้งน้ำ และเกิดแรงดันไปเปิด

อย่างยั่งยืนอ่างเก็บน้ำห้วยคล้ายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอ       ลิ้นจ่ายน้ำ น้ำส่วนหนึ่งจะไหลเข้าไปในหม้ออัดอากาศ ส่งผ่านวาล์ว
หนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี รวมทั้งพื้นที่ขยายผลอีก 10 จังหวัด ก็ได้   กันน้ำกลับ แล้วไหลเข้าสู่ท่อจ่ายน้ำขึ้นไปยังถังพักน้ำในที่สูง กว่า

พบว่ า มี พื้ น ที่ เ กษตรจำนวนไม่ น้ อ ยประสบปั ญ หาขาดแคลนน้ ำ     10-15 เท่า ของระดับความสูงของน้ำป้อนเข้าเครื่อง ขณะเดียวกัน
เนืองจากพืนทีเ่ หล่านันอยู่สูงกว่าแหล่งน้ำมาก 
   ่         ้           ้                                           ความดันของน้ำในห้องลิ้นทิ้งน้ำที่ลดลง จะทำให้ลิ้นจ่ายน้ำถูกปิด
      ปิ ด ทองหลั ง พระฯ จึ ง น้ อ มนำแนวทางพระราชดำริ การใช้
       ลิ้ น ทิ้ ง น้ ำ เปิ ด ครบจั ง หวะการทำงานและเริ่ ม ต้ น การทำงานใหม่

ปั๊มน้ำพลังน้ำ (Hydraulic Ram) หรือ ตะบันน้ำ มาใช้แก้ปัญหา           ต่อเนื่องไป โดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้าหรือน้ำมันเชื้อเพลิง 
ด้วยเริ่มจากนำตะบันน้ำมาทดลองใช้ในพื้นที่ปิดทองฯ ที่แปลงเกษตร               ตะบันน้ำ หรือ เครืองสูบน้ำพลังน้ำ นี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้า
                                                                                                        ่
สาธิต บ้านแสงอร่าม ของนายบุญมาก                                      อยู่หัว พระราชทานพระราชดำริเมื่อปี 2522 ให้กรมชลประทานรื้อฟื้น
สิงห์คำป้อง 
                                                        ดัดแปลงจากเครื่องของต่างประเทศ พร้อมกับทรงให้พัฒนาประดิษฐ์
      เครืองสูบน้ำพลังน้ำ เป็นเครืองสูบน้ำ
           ่                       ่                                 อุปกรณ์ตาง ๆ ขึนมาใหม่ ให้มประสิทธิภาพในการทำงานมากขึนและ
                                                                                     ่       ้                ี                                     ้
ที่ทำงานในตัวเองได้โดยอัตโนมัติ โดย                                  มิได้ทรงจดลิขสิทธิ์ เพือให้เกษตรกรทุกคนนำไปเป็นแบบสร้างขึนใช้เองได้
                                                                                               ่                                              ้
ใช้ พ ลั ง งานจากน้ ำ เป็ น ตั ว ผลั ก ดั น ให้                             นายสมรส พรหมมิ น ทร์ ผู้ จั ด การส่ ว นภาคสนาม มู ล นิ ธิ

อุ ป กรณ์ ข องเครื่ อ งทำงาน มี ห ลั ก การ                           แม่ ฟ้ า หลวงในพระบรมราชู ป ถั ม ภ์ กล่ า วว่ า ตะบั น น้ ำ ที่ ปิ ด ทองฯ

ทำงานง่าย ๆ คือ เมื่อน้ำจากฝายหรือ                                   นำมาใช้ มีต้นทุนเพียง 2,500 บาท มีประสิทธิภาพในการสูบน้ำขึ้น

อ่างเก็บน้ำไหลเข้าท่อรับน้ำลงสู่ห้องลิ้น                             ที่สูงได้ประมาณ 12 เมตร ในอัตรา 1,000 ลิตร/ชั่วโมง เพียงพอ
ปริมาตรและความเร็วในการไหลของ                                        สำหรับใช้ในพื้นที่เพาะปลูกกว่า 20 ไร่ของนายบุญมากได้ 
                                                                            “หลังจากทดลองให้เกษตรกรได้เห็นความสำเร็จแล้ว ก็จะนำ
                                                                     องค์ความรู้นี้ไปใช้ในพื้นที่อื่น ๆ ที่มีปัญหาเช่นเดียวกันนี้ต่อไป เช่น

                                                                     ที่จังหวัดเพชรบุรี”
                                                                            นายบุญมาก กล่าวทังน้ำตาอย่างดีใจ เมือปิดทองฯ ดึงน้ำขึ้นมา
                                                                                                          ้                   ่
                                                                     ใช้ได้สำเร็จว่า เป็นเรื่องดีมาก เพราะที่ผ่านมา ต้องขุดบ่อเก็บน้ำฝน
                                                                     ไว้ แต่ ถึ ง หน้ า แล้ ง ก็ ไ ม่ มี น้ ำ ปลู ก อะไรไม่ ไ ด้ ตอนนี้ มี น้ ำ แล้ ว ก็ จ ะ

                                                                     เพาะปลู ก ได้ ต ลอดทั้ ง ปี “ผมได้ รั บ การถ่ า ยทอดเทคนิ ค ดึ ง น้ ำ ขึ้ น

                                                                     ทีสงแล้ว ก็จะนำความรูทได้ไปถ่ายทอดให้กบเพือนบ้านต่อไป เพราะเป็น
                                                                         ู่                        ้ ี่                  ั ่
                                                                     การลงทุนเพียงครั้งเดียวที่คุ้มค่ามาก เพราะทำให้มีน้ำใช้ได้ตลอดปี”
                                                                                                                                                        13
สาระ...เพื่อการพัฒนาชนบทตามแนวพระราชดำริ
                                                                         ข่าว


     กล้า...ดี ช่วย 9.9 แสนผูประสบภัยลุกยืนได้
                             ้


           ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล เลขาธิการมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ แถลงผลการดำเนินงานโครงการกล้า...ดี ว่า เพียง 4
     เดือนในการดำเนินโครงการ สามารถช่วยฟื้นฟูคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของผู้ประสบอุทกภัยในภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง
     ได้ 988,460 คน ใน 13 จังหวัด 78 อำเภอ 498 ตำบล 3,347 หมู่บ้าน โดยใช้งบประมาณเพียง 42.7 ล้านบาท ในการจัดเตรียมชุด 3
     พร้อม (พร้อมกิน พร้อมปลูก พร้อมเพาะ) จากเงินบริจาคที่ได้รับ 82.8 ล้านบาท ทั้งนี้ เงินที่เหลือจะถูกนำไปใช้ส่งเสริมและต่อยอด
     ศักยภาพของชุมชนเข้มแข็ง เพื่อสร้างชุมชนกล้า...ดี ให้เป็นแบบอย่างการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป
           “โครงการกล้า...ดี จะเป็นต้นแบบการฟื้นฟูคุณภาพชีวิตผู้ประสบภัยอย่างยั่งยืน นั่นคือ ช่วยเขาให้ช่วยตัวเองได้ ตามแนวทางของ
     พระบาทสมเด็ จ พระเจ้ า อยู่ หั ว และสมเด็ จ พระศรี น คริ น ทราบรมราชชนนี และเป็ น ที่ น่ า ยิ น ดี ว่ า ขณะนี้ ผู้ น ำท้ อ งถิ่ น ในจั ง หวั ด
     พระนครศรีอยุธยา อุทัยธานี ลพบุรี ชัยนาท พิษณุโลก นครสวรรค์ พิจิตร สิงห์บุรีและอ่างทอง มีแนวความคิดที่จะนำแนวทางของ
     กล้า...ดี ไปใช้รับมือกับอุทกภัยในอนาคต โดยยึดถือหลักการช่วยเหลือตนเอง ซึ่งเท่ากับโครงการประสบความสำเร็จลุล่วงได้ตาม

     เป้าหมาย”
           ผู้นำชุมชนจากจังหวัดต่าง ๆ ที่เข้าร่วมโครงการ กล่าวในทำนองเดียวกันว่า แนวทางของกล้า...ดี เป็นการฟื้นฟูอย่างยั่งยืน เพราะ
     เป็นปรัชญาที่สอนให้ช่วยเหลือตนเอง ไม่รอรับการบริจาคเพียงอย่างเดียว ขณะนี้หลายจังหวัดได้นำแนวทางกล้า...ดีมาปรับใช้

     เพื่อรับมือและฟื้นฟูอุทกภัยแล้ว เช่น พระนครศรีอยุธยา มีการต่อยอด จัดตั้งศูนย์เพาะกล้า 16 แห่ง ครอบคลุมทั้งจังหวัดแล้ว 

 ปิดทองฯ คว้ารางวัลสุริยศศิธร




        พลอากาศเอก กำธน สินธวานนท์ องคมนตรี มอบรางวัล
                                                                        ขยายผลห้วยคล้าย “สู่อุดรฯ โมเดล” 
รองชนะเลิศ การประกวดปฏิทินดีเด่นแก่นางปัทมา เพชรเรียง
ผู้ จั ด การมู ล นิ ธิ ปิ ด ทองหลั ง พระฯ ในโอกาสที่ ส มุ ด บั น ทึ ก
                                                                        แม่แบบพัฒนาแหล่งน้ำทั่วประเทศ
“ธรรมชาติ แ ละชี วิ ต ตามแนวพระราชดำริ ” ของมูลนิธิ
                             น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ติดตาม
ปิ ด ทองหลั ง พระ สื บ สานแนวพระราชดำริ ได้ รั บ รางวั ล
               โครงการบริ ห ารจั ด การน้ ำ อย่ า งยั่ ง ยื น อ่ า งเก็ บ น้ ำ ห้ ว ยคล้ า ยอั น เนื่ อ ง

รองชนะเลิศ การประกวดปฏิทินดีเด่น รางวัลสุริยศศิธร ครั้งที่              มาจากพระราชดำริ จ.อุดรธานี ภายใต้มูลนิธิปิดทองหลังพระฯ จากนั้น
32 ของสมาคมนักประชาสัมพันธ์แห่งประเทศไทย ประเภท                         นายกรัฐมนตรีและ ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล เลขาธิการมูลนิธิปิดทอง

เทิดพระเกียรติสถาบันพระมหากษัตริย์
                                     หลังพระฯ ได้จับมือให้คำมั่นว่า จะให้การสนับสนุนการดำเนินโครงการ
        ทั้งนี้ รางวัลสุริยศศิธร จัดขึ้นโดยวัตถุประสงค์เพือส่งเสริม
                                                          ่             ทั้ ง ยั ง ตอบรั บ จะนำโมเดลอ่ า งห้ ว ยคล้ า ยฯ ขยายผลไปยั ง พื้ น ที่ อื่ น ๆ

สนับสนุนให้เกิดความคิดริเริม สร้างสรรค์ ในรูปแบบของปฏิทิน
                                  ่                                     ทั่วประเทศ โดยขอให้ปิดทองฯ เป็นพี่เลี้ยงด้วย
ที่มีคุณค่าต่อประชาชนและสังคมส่วนรวม 
14
สาระ...เพื่อการพัฒนาชนบทตามแนวพระราชดำริ
                                                                        บทความ




                                    จากพื้ น ที่ ที่ เ คยถู ก ขนานนามว่ า      ไดโนเสาร์ แ ละสั ต ว์ โ ลกยุ ค ดึ ก ดำบรรพ์ อื่ น ๆ อย่ า งจระเข้ และเต่า

                             “สนามเป้ า ” ในยุคสงครามเวียดนาม                  หุ่นจำลองแสดงวิวัฒนาการของมนุษย์ นาฬิกาแดด 
เพราะเป็นที่ซึ่งเครื่องบินรบของกองทัพอากาศสหรัฐนำลูกระเบิด
                          ภูฝอยลม ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับคนไม่กลัวหนาว
ที่ เ หลื อ จากการถล่ ม เวี ย ดกงมาปลดทิ้ ง ก่ อ นกลั บ สู่ ฐ านทั พ สหรั ฐ
   ด้วยอุณหภูมทเี่ คยลดต่ำถึง 3-4 องศาเซลเซียสมาแล้ว ทำให้ภฝอยลม
                                                                                              ิ                                                   ู
ในจังหวัดอุดรธานี ที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่กิโลเมตร		                         
   เป็นแหล่งรวบรวมพันธุไม้เมืองหนาวนานาชนิด ทีสร้างความประทับใจ
                                                                                                        ์                           ่
       ภู ฝ อยลมบนเทื อ กเขาภู พ านน้ อ ยในวั น นี้ ไม่ ไ ด้ มี เ พี ย งซาก    มากที่ สุ ด คื อ เทศกาลดอกทิ ว ลิ ป บานบนภู ฝ อยลม ในช่ ว งเดื อ น
ประวัติศาสตร์จากสงครามเวียดนามที่ยืดเยื้อยาวนาน เป็นลูกระเบิด                  ธันวาคม-มกราคมของทุกปี
ของกองทัพสหรัฐ อายุกว่า 40 ปีไว้ให้ดูเท่านั้น แต่ ภู ฝ อยลม                          จุดเริ่มต้นแห่งความอุดมสมบูรณ์ ที่ทำให้ภูฝอยลมทรงคุณค่า

กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่มีความงดงามน่าตื่นตาตื่นใจ             ในวันนี้ ในการเป็นป่าต้นน้ำสำคัญ เป็นที่เกิดของลำห้วยหลายสาย
ของจังหวัดอุดรธานี
                                                            เช่น ห้วยหลวง ห้วยสามพาด ห้วยกองสี ห้วยขี้เหล็ก ห้วยวังกุ่ม คือ
       ไม่เพียงคงความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ
                “โครงการเยาวชนอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้” ซึ่งได้
ป่าพันดอน–ปะโค ตำบลทับกุง อำเภอหนองแสง เท่านัน ภูฝอยลม      ้                  สร้ า งกระแสการอนุ รั ก ษ์ ใ นหมู่ เ ด็ ก และเยาวชนได้อย่างมากมาย

ยั ง เป็ น ส่ ว นหนึ่ ง ของสวนรวมพรรณไม้ ป่ า 60 พรรษามหาราชิ น
ี              จนพัฒนารูปแบบมาเป็น “โครงการเยาวชนพิ ทั ก ษ์ ไ พร”
ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์ไม้ป่าแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือมาไว้
                  ครอบคลุมพื้นที่ถึง 7 จังหวัด คือ อุดรธานี หนองคาย เลย สกลนคร
เป็นประโยชน์ในการศึกษาหาความรู้ เก็บเมล็ดพันธุ์ไม้ ทั้งไม้ดอก
                 นครพนม มุกดาหาร และหนองบัวลำภู 
ไม้ประดับ พืชโภชนาการ พืชมีพิษ พืชสมุนไพร ฯลฯ 
                                   พลังนี้ คือพลังที่เปลี่ยนแปลงสภาพป่า จากที่
       บนภูฝอยลม ยังสามารถกางเต็นท์พักแรมได้ มีกิจกรรมเดินป่า                  เคยถูกบุกรุกทำลายให้กลับมาเป็นผืนป่าสมบูรณ์
ของค่ า ยเยาวชนพิ ทั ก ษ์ ไ พร อุ ท ยานล้ า นปี ภู ฝ อยลม หุ่ น จำลอง          อีกครั้ง 
                                                                                                                                                          15
สาระ...เพื่อการพัฒนาชนบทตามแนวพระราชดำริ
                                                                                  ข่าว

ปลูกป่าตามแนวพระราชดำรัส                                          ต่อจากหน้า 1
       ในพื้ น ที่ ต้ น น้ ำ ทั่ ว ประเทศในเดื อ นพฤษภาคม ทั้ ง กล้ า ไม้ เ นื้ อ อ่ อ น

                                                                                      และกล้ า ไม้ เ นื้ อ แข็ ง โดยพั น ธุ์ ไ ม้ เ นื้ อ อ่ อ นที่ เ ป็ น ไม้ โ ตเร็ ว จะเป็ น

หรือไม้เนื้อแข็ง ซึ่งจะให้ปลูกคละกันในแต่ละพื้นที่ และมอบให้ทุก                       ไม้ ป ระดู่ ส้ ม นางพญาเสื อ โคร่ ง สนสามใบ และเสี้ ย วดอกขาว

กระทรวงที่มีพลังมวลชนในสังกัด เช่น อาสาสมัครเป็นผู้ขับเคลื่อน                         ส่ ว นไม้ เ นื้ อ แข็ ง หรื อ ไม้ โ ตช้ า จะเพาะกล้ า ไม้ จ ำพวกไม้ ต ระกู ล ก่ อ

การปลูกป่า พร้อมกับเน้นสร้างมาตรการป้องกันการบุกรุกทำลายป่า                           ไม้ เ หมื อ ด ไม้ ท ะโล้ ซึ่ ง เป็ น ไม้ ดั้ ง เดิ ม ขึ้ น ตามสั น เขา โดยจะเน้ น

และส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตามหน้าที่
                                        กล้าไม้ที่เป็นพันธุ์พื้นเมืองของแต่ละพื้นที่ และใช้วิธีปลูกไม้เนื้ออ่อน
      ในวันเดียวกันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังได้
                    โตเร็วก่อน เพื่อเป็นการปรับสภาพดินให้มีความเหมาะสม คาดว่า

ลงนาม คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ
                            จะใช้ เ วลา 2-3 ปี จากนั้ น จึ ง จะปลู ก ไม้ เ นื้ อ แข็ ง โตช้ า ซึ่ ง จะ

(กนอช.) ให้ นายสุเมธ ตันติเวชกุล กรรมการมูลนิธิปิดทองหลังพระ                          เป็ น การปลู ก เลี ย นแบบป่ า ธรรมชาติ ทำให้ ป่ า ฟื้ น ตั ว ได้ อ ย่ า งมี
สืบสานแนวพระราชดำริ และ ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล เลขาธิการมูลนิธิ                        ประสิทธิภาพ 
ปิดทองหลังพระฯ เป็นทีปรึกษา กนอช. ซึงมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
                         ่              ่                                                      อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้กรมอุทยานฯ จะ
      ทางด้านกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรม                             สร้างฝายชะลอความชุ่มชื้น จำนวน 8 หมื่นฝาย ทั้งฝายชั่วคราว ฝาย
ป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ปาและพันธุพช ได้จดทำแผนงาน
                                      ่        ์ ื     ั                              กึ่งถาวรและฝายถาวร ให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน คือ ตั้งแต่เดือน
รายละเอียดแผนการฟื้นฟูป่าต้นน้ำ 3.5 แสนไร่เสร็จแล้ว โดยเน้นการ                        มีนาคม-พฤษภาคม เพื่อเก็บกักชะลอน้ำไม่ให้น้ำไหลหลากลงมา
ฟื้นฟูป่าในพื้นที่เสื่อมโทรมที่มีปัญหาการบุกรุก การทำฝายชะลอน้ำ                       อย่างรวดเร็ว และจะเป็นแหล่งน้ำต้นทุนสำหรับฟื้นตัวของผืนป่าด้วย
การปลู ก หญ้ า แฝกเพื่ อ ลดการพั ง ทลายของหน้ า ดิ น ใน 8 ลุ่ ม น้ ำ                  ทั้งนี้ ป่าอนุรักษ์ลุ่มน้ำภาคเหนือกว่าสองแสนไร่ จะเป็นพื้นที่นำร่องใน
สำคัญ คือ ปิง วัง ยม น่าน สะแกกรัง ป่าสัก เจ้าพระยาและท่าจีน                          ปี นี้ โดยภายใน 5 ปี จ ะขยายปลู ก ให้ ค รบ 4 ล้ า นไร่ และจะเพิ่ ม
เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืน
                                                     มาตรการแก้ปัญหาการบุกรุก รวมทั้งพัฒนาให้เป็นป่าสมบูรณ์อีกครั้ง
      นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากร
                          ทั้ ง นี้ จ ะนำแนวทางการพั ฒ นาพื้ น ที่ จ ากศู น ย์ ศึ ก ษาการพั ฒ นา

ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า แผนฟื้นฟูป่าต้นน้ำของกระทรวง                          ห้วยฮ่องไคร้ จังหวัดเชียงใหม่ มาเป็นต้นแบบฟื้นฟูป่า 
จะใช้รูปแบบการมีส่วนร่วมเป็นหลัก และดำเนินตามแนวโครงการ                                        อนึ่ง ก่อนหน้านี้ หลังการลงพื้นที่เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหา
พระราชดำริ จึงได้เชิญ ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล เลขาธิการมูลนิธ
ิ                         อุทกภัย และการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ

แม่ฟ้าหลวง และเลขาธิการมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ มาเป็นหัวหน้า                            ของคณะรั ฐ มนตรี แ ละคณะกรรมการ กยน. ระหว่ า งวั น ที่ 13-17
คณะทำงานเรื่องการฟื้นฟูป่า เพื่อนำต้นแบบโครงการที่ประสบความ                           กุมภาพันธ์ 2555 นายกรัฐมนตรีแถลงว่า ในแผนงานดูแลป่าต้นน้ำ
สำเร็จมาแล้ว เช่น โครงการพัฒนาดอยตุง และโครงการห้วยฮ่องไคร้                           รัฐบาลได้มอบหมายให้มูลนิธิปิดทองหลังพระฯ เป็นผู้กำหนดพื้นที่
อันเนื่องมาจากพระราชดำริ มาปรับใช้ในการดำเนินการครั้งนี้ รวมทั้ง                      ปลูกป่าในพื้นที่ชุมชนตามโครงการแม่ฟ้าหลวงและมูลนิธิปิดทอง
จะเน้นทำทั้งระบบ เช่น พัฒนาอาชีพ ให้คนปลูกป่า และช่วยดูแล                             หลั ง พระฯ สำนั ก งาน กปร. กำหนดพื้ น ที่ ป ลู ก ป่ า ในพื้ น ที่ ชุ ม ชน
พื้นที่อนุรักษ์อย่างมีส่วนร่วม และการทำฝายชะลอน้ำ เป็นต้น
                            โครงการหลวง กองทัพไทยกำหนดพื้นที่ปลูกป่าตามแนวชายแดน 
      นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ปาและพันธุพช
                                                     ่          ์ ื                   และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิงแวดล้อม ประสานกระทรวง่
กล่าวว่า กรมอุทยานฯ จะเร่งเพาะกล้าไม้ 80 ล้านกล้า เพือให้ทนปลูก
                                                         ่ ั                          มหาดไทยกำหนดพืนทีปลูกป่าในพืนทีสง และมีชุมชนอาศัยอยู่
                                                                                                                  ้ ่            ้ ู่

  องคมนตรีแนะทางแก้ชนบท                                           ต่อจากหน้า 1
               ประธานมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ ตั้งความหวังว่า ชมรมสื่อ
            “ถ้ า สื่ อ มวลชน จะทำให้ บ้ า นเมื อ งเจริ ญ ขึ้ น อย่ า งแรก คื อ
      บ้านนอก จะทำ 2 อย่างให้ คือ ทำให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าที่อยู่ใน
  ผมขอเรื่ อ งความเป็ น ผู้ รู้ จ ริ ง สอง ต้ อ งเป็ น กลาง เป็ น ผู้ ที่ มั่ น คง
   ชนบท ได้เข้าใจว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นในสังคม ในประเทศและใน
  ใครจะทำให้ไปซ้ายไปขวาไม่ได้ ซึ่งมีกลไกอยู่สามประการด้วยกัน                          โลก และทางใดบ้าง ที่จะเอาการศึกษา การฝึกอบรม ไปทำให้เขา
  คือ หนึ่ง สื่อต้องรู้จักแยกถูกแยกผิด สอง สื่อต้องยึดมั่นในความ
                     เก่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ เพื่อให้ชุมชนเข้มแข็งมากขึ้น

  ถูกต้อง และปฏิเสธในสิ่งที่ผิด และสาม ต้องมีความกล้าที่จะแสดง                        ก็จะเป็นประโยชน์มาก
  สิ่ ง ที่ ถู ก และผิ ด ให้ สั ง คมได้ รั บ รู้ แ ละตั ด สิ น ความเป็ น กลางทาง              “พระเจ้าอยู่หัวเคยมีรับสั่งว่า ต้องทำให้คนไทยหายจน เพราะ
  วิชาชีพ จะทำให้สื่อสามารถจะทำหน้าที่ตัวเองได้เต็มที่ ซึ่งตรงนี้
                    เมื่ อ เขาหายจน เขาก็ จ ะเป็ น อิ ส ระ และเมื่ อ เขาเป็ น อิ ส ระแล้ ว
  ผมว่าสำคัญมาก สุดท้าย คือ จรรยาบรรณวิชาชีพ ความเป็นผู้มี
                           ประเทศไทยจึงจะมีประชาธิปไตยที่แท้จริง ก็เลยเป็นความจำเป็น
  คุณธรรม เพราะสื่อเป็นพระ เป็นครู เป็นผู้พิพากษาสังคม เป็นอะไร                       ที่พวกเราจะต้องทำให้ชนบทเข้มแข็ง ให้เขาสามารถยืนอยู่ได้ด้วย
  ต่ออะไรหมด จึงต้องแบกความรับผิดชอบต่อสังคมไว้ด้วย”
                                 ตนเอง คิดเองได้ เป็นอิสระ นี่จึงเป็นความหวังของประเทศ” 

16

Newsletter pidthong vol.5

  • 1.
    ปิ ด ทองหลัง พระ คื อ การเพี ย รทำความดี โดยไม่ มุ่ ง เน้ น ประโยชน์ ส่ ว นตน 5 ปลูกป่าตามแนวพระราชดำรัส รัฐบาลขอ“ปิดทองฯ-กปร.”ร่วมชี้เป้าป่าต้นน้ำ จากแนวทางการปลู ก ป่ า เพื่ อ แก้ ปั ญ หาน้ ำ ท่ ว ม ที่ พ ระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสแก่นายกรัฐมนตรี รวมทั้ง คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) และคณะกรรมการยุ ท ธศาสตร์ เ พื่ อ วางระบบการบริ ห าร จัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) ซึ่งเข้าเฝ้ากราบบังคมทูลถวายรายงาน การวางระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและการวางแผนเพื่อฟื้นฟู และสร้างอนาคตประเทศ ซึ่งมีสาระสำคัญสรุปว่า การแก้ไขปัญหา น้ำท่วมนั้น ต้องหาวิธีระบายให้น้ำไหลได้อย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องดินและป่าไม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องแก้ไขปัญหาการตัดไม้ ทำลายป่าให้ได้ ด้วยการเพิ่มบทลงโทษ ขณะเดียวกัน ต้องเร่งปลูก ต้นไม้ทดแทนป่าไม้ทถกทำลาย โดยปลูกทังไม้เนือแข็งและไม้เนืออ่อน ี่ ู ้ ้ ้ ผสมกัน เพราะไม้เนื้ออ่อนโตเร็ว แต่รากไม่ยึดดินเท่ากับไม้เนื้อแข็ง ที่โตช้ากว่า แต่หยั่งรากลึก ช่วยป้องกันดินถล่มได้ “...หลักการที่จะต้องทำ ก็คือปลูกต้นไม้ขึ้นเร็วผสมกับต้นไม้ เนื้อแข็ง ไม้รากลึกที่ขึ้นช้า การปลูกต้นไม้ทำให้ป้องกันดินถล่ม และ ช่วยในการป้องกันน้ำท่วม…” ในการประชุ ม คณะรั ฐ มนตรี เมื่ อ วั น ที่ 28 กุ ม ภาพั น ธ์ 2555 คณะรัฐมนตรีจึงได้น้อมนำพระราชดำรัสดังกล่าวมาดำเนินการ โดย จะประกาศเป็ น นโยบายสำคั ญ เร่ ง ด่ ว นให้ มี ก ารปลู ก ป่ า อย่ า ง กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงพลังงาน โดยให้กรมวิชาการเกษตร บูรณาการ ร่วมกัน 5 กระทรวง คือ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ ศึ ก ษาการปลู ก ป่ า การแยกประเภทของต้ น ไม้ 2 ประเภท ได้ แ ก่ สิ่ ง แวดล้ อ ม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงกลาโหม ไม้โตเร็ว หรือไม้เนื้ออ่อน และไม้โตช้า อ่านต่อหน้า 16 องคมนตรีแนะทางแก้ชนบท ศ.นพ.เกษม วั ฒ นชั ย องคมนตรี ประธานมู ล นิ ธิ ปิ ด ทองหลั ง พระ สื บ สาน แนวพระราชดำริ ให้แนวคิดการทำงานกับชมรมสื่อบ้านนอก ซึ่งเป็นสื่อมวลชน จากหลากหลายแขนงที่รวมตัวกันเพื่อเรียนรู้ชนบท และการพัฒนาชนบท ที่จะเป็น ทางออกในการแก้ปัญหาของประเทศในอนาคต ศ.นพ.เกษม กล่าวว่า อาชีพสือมวลชนต้องมีสามอย่าง คือ ต้องรูจริง ต้องไขว่คว้า ่ ้ หาความรู้ตลอด เพราะคนในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ล้วนเชื่อสื่อ ดังนั้น สื่อมวลชนจึงต้องพิจารณาถึงความสำคัญของอาชีพตนเองว่า มีบทบาทที่จะทำให้ สังคมดีขึ้นก็ได้ เลวลงก็ได้ อ่านต่อหน้า 16
  • 2.
    สาระ...เพื่อการพัฒนาชนบทตามแนวพระราชดำริ รายงานพิเศษ สองปีหลังการทำนาขั้นบันไดตามแนวทางของปิดทองหลังพระฯ ชาวบ้ า นในพื้ น ที่ ต้ น แบบ 3 อำเภอ คื อ ท่ า วั ง ผา สองแคว และ เฉลิมพระเกียรติ ก้าวข้ามขั้นแรก “อยู่รอด” หรือ มีข้าวเพียงพอต่อการ พืชหลังนา บริโภคแล้ว วันนี้ พื้นที่ต้นแบบปิดทองฯ จังหวัดน่าน กำลังก้าวเข้าสู่ ขั้นตอนที่สอง “พอเพียง” ด้วยการปลูกพืชหลังนา จากการสนับสนุนของ ปิดทองหลังพระฯ ย่างก้าวสำคัญ ไม่เพียงลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนและเพิ่มรายได้เท่านั้น ปิดทอง หลังพระฯ ยังมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ ลดละเลิกการทำไร่ข้าวโพด จาก “อยู่รอด” โดยทดแทนด้วยการปลูกพืชเศรษฐกิจ ลดการใช้สารพิษ สารเคมี ส่งเสริม เกษตรอินทรีย เสริมสร้างความรู้ ทักษะ เทคนิค เพิมประสิทธิภาพการทำ ่ สู่... พอเพียง” “ เกษตร สร้างระบบและมาตรฐานการผลิต ที่เรียกว่า “เกษตรประณีต” แทน “เกษตรอเนกประสงค์” ที่ปลูกพืชเชิงเดี่ยว และเป้าหมายในที่สุด คือ การทำให้จงหวัดน่าน เป็นศูนย์กลางการส่งออกทีสำคัญของประเทศ ั ่ พืชหลังนา ทีปดทองหลังพระฯ ให้การส่งเสริมทัง 8 ชนิด ได้แก่ หน่อไม้ ่ ิ ้ ฝรัง พริกซุปเปอร์ฮอต บรอกโคลี ถั่วลันเตา-ถั่วลันเตาหวาน ว่านหาง ่ จระเข้ ตะไคร้ เผือก ฟักเขียว-แฟง โดยใช้หลักการ “ตลาดนำ” ผลผลิต คุณภาพดี เป็นไปตามความต้องการของตลาด ลดละการใช้สารเคมีดวย ้ การทำเกษตรอินทรีย์ โดยไม่เอา “ราคา” มาเป็นตัวตัง ้ เจ้าของ : มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล เลขที่ 1 ถนนนครปฐม เขตดุสต กรุงเทพมหานคร 10300 ิ www.pidthong.org : สถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ อาคารสยามทาวเวอร์ ชั้น 26 เลขที่ 989 ถนนพระราม 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 www.twitter.com/pidthong โทรศัพท์ 0-2611-5000 โทรสาร 0-2658-1413 ที่ปรึกษา : หม่อมราชวงศ์ดิศนัดดา ดิศกุล นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ นายพิพัฒน์ เลิศกิตติสุข www.facebook.com/pidthong บรรณาธิการ : นายธนัยนันท์ ธนันท์ปพัฒน์ ผู้ช่วยบรรณาธิการ : นายสุชาติ ถนอม ผู้จัดทำ : บริษัท แอร์บอร์น พรินต์ จำกัด 1519/21 ซอยลาดพร้าว 41/1 ถนนลาดพร้าว แขวงสามเสนนอก 2 www.youtube.com/pidthongchannel เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310 โทรศัพท์ 0-2939-9700 โทรสาร 0-2512-2208 E-mail : roso215@yahoo.com
  • 3.
    สาระ...เพื่อการพัฒนาชนบทตามแนวพระราชดำริ รายงานพิเศษ ดังนั้น พืชหลังนาทั้งหมดนี้ จึงมีตลาดรองรับไว้แล้ว โดยเฉพาะ ทีบานสะเกิน ตำบลยอด อำเภอสองแคว แม้จะมีตลาดรองรับ ส่วนหนึง ่ ้ ่ หน่อไม้ฝรั่ง ซึ่งมีบริษัทจากไต้หวันเข้ามารับซื้อไม่จำกัด เพื่อส่งออก ส่งออกไปไต้หวันและมาเลเซีย ส่วนหนึ่งขายในประเทศ และอีกส่วน ไปยั ง ไต้ ห วั น ส่ ว นหนึ่ ง อี ก ส่ ว นหนึ่ ง ส่ ง ออกผ่ า นทางมาเลเซี ย ไป หนึ่งทำเป็นบรอกโคลีอบแห้ง ยังมีปัญหาเรื่องสายพันธุ์อยู่ ปิดทองฯ ตะวันออกกลาง จึงจะนำเข้าสายพันธุ์จากไต้หวัน ซึ่งมีคุณภาพสูง ดอกละเอียด ป้อม หน่อไม้ฝรั่ง จัดเป็นพืชเศรษฐกิจที่ให้ผลผลิตระยะยาว เพราะ เนือแน่น มาทดลองปลูกจนแน่ใจ ก่อนจะให้เกษตรกรนำไปปลูกต่อไป ้ ปลูกแล้วจะอยู่ได้ 5-10 ปี ใช้เงินลงทุนเพียงไร่ละ 10,000-12,000 ในปีหน้า บาท ปลู ก เพี ย ง 3 เดื อ น จะเริ่ ม เก็ บ เกี่ ย วผลผลิ ต ได้ ถึ ง วั น ละ 40 ถั่วลันเตา และ ถั่วลันเตาหวาน เป็นพืชที่ชอบอากาศเย็น จึงมี กิโลกรัม/ไร่ ในหนึ่งปีสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ถึง 8 เดือน โดยให้ การปลู กที่ บ้านเปีย งซ้อ บ้านน้ำรี และบ้านน้ำช้า ง ตำบลขุนน่าน พักต้น 4 เดือน ทีสำคัญ มีการประกันราคาขันต่ำอยูทกโลกรัมละ 20 บาท ่ ้ ่ ี่ ิ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ มีตลาดค่อนข้างดี และขายได้ราคาดี เพราะ ปิดทองหลังพระฯ ทำการเพาะกล้าหน่อไม้ฝรังแล้ว 300,000 กล้า่ มีคุณภาพสูง จากกล้ า ที่ ต้ อ งเพาะทั้ ง หมด 1 ล้ า นกล้ า และหน่ อ ไม้ ฝ รั่ ง ที่ ป ลู ก ขณะที่ น่ า น เป็ น พื้ น ที่ ป ลู ก พริ ก ระดั บ ประเทศ แต่ มี ปั ญ หา ชุดแรกจะเริ่มให้ผลผลิตในเดือนมีนาคมนี้ เนื่องจากไม่ใช่พริกซุปเปอร์ฮอตแท้ เพราะมีการผสมข้ามสายพันธุ์ จนกลาย มี พ่ อ ค้ า มารั บ ซื้ อ เพี ย งครั้ ง สองครั้ ง ก็ ไ ม่ ซื้ อ อี ก แต่ พ ริ ก ซุ ป เปอร์ ฮอตที่ ปิ ด ทองฯ ส่ ง เสริ ม ซึ่ ง ส่ ว นใหญ่ ป ลู ก ที่ บ้ า นน้ ำ ป้ า ก ตำบลตาลชุม อำเภอท่าวังผา จะเป็นซุปเปอร์ฮอตแท้ และมีการ ประกันราคารับซื้อขั้นต่ำสำหรับพริกแดงด้วย ว่านหางจระเข้ เป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่สำหรับจังหวัดน่าน ซึ่งมีตลาดรับซื้อแล้ว สำหรับส่งออกไปอินโดนีเซีย พันธุ์ที่ปิดทอง หลังพระฯ ส่งเสริม เป็นพันธุ์ที่ใช้น้ำน้อย กาบใหญ่ น้ำหนักแต่ละกาบ นายธนกร รัชตานนท์ ผู้จัดการสำนักงานโครงการปิดทอง ถึงกิโลกรัม แม้ราคารับซื้อจะไม่สูงมาก แต่ก็เป็นพืชที่ไม่ต้องการ หลังพระฯ จังหวัดน่าน กล่าวว่า การปลูกหน่อไม้ฝรั่งนั้น มีการ การดู แ ลเอาใจใส่ ม าก มี พื้ น ที่ ว่ า งตรงไหน หั ว ไร่ ป ลายนา ก็ ป ลู ก จำกั ด พื้ น ที่ ใ ห้ ป ลู ก ครอบครั ว ละไม่ เ กิ น 1 ไร่ แต่ อ ยากให้ ป ลู ก ทุ ก ทิ้ง ๆ ไว้ เป็นออมสิน ครัวเรือน เพราะไม่ว่าอย่างไร ก็ยังต้องเน้นข้าวเป็นหลัก ที่สำคัญ ขณะที่ ฟัก-แฟง และ เผือก เป็นพืชพื้นบ้านที่ชาวบ้านปลูก ต้องการให้ทำกันเองได้ภายในครอบครัว ไม่ต้องจ้างคนอื่น เป็นอยู่แล้ว ราคาอาจไม่สูงมากนัก แต่พอมีตลาดรับซื้อได้ ตะไคร้ “ตอนนี้ชาวบ้านยังไม่เคยชินกับการปลูกพืชเศรษฐกิจชนิดอื่น ก็เช่นกัน เพียงแต่ขอให้เป็นพันธุ์เกษตรเท่านั้น ทดแทนข้าวโพด ซึ่งก็ไม่เป็นไร ปิดทองฯ ไม่ได้เร่ง ใครพร้อมก็ปลูก นายธนกร สรุปในที่สุดว่า นอกจากช่วยในเรื่องการลงทุนด้วย แต่เราจะทำให้ชาวบ้านเห็นผลเปรียบเทียบกันหลังจากหน่อไม้ฝรั่ง การหาเมล็ดพันธุ์และปัจจัยการผลิตอื่น ๆ ให้ เพื่อตัดขั้นตอนขูดรีด ชุดแรกได้ ผ ลผลิ ต ในปี ห น้ า การปลู ก พื ช หลั ง นาและพื ช เศรษฐกิ จ จากพ่อค้า และเมื่อได้ผลผลิตจึงค่อยคืน พร้อมกับหาตลาดรับซื้อให้ ทั้งระยะยาวและระยะสั้นจะดีขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าทำได้ภายในปีนี้ น่านจะ ปิ ด ทองฯ ยั ง มี ห ลั ก สำคั ญ ในการส่ ง เสริ ม การปลู ก พื ช หลั ง นาและ เป็นศูนย์กลางการส่งออกหน่อไม้ฝรั่ง เพราะบริษัทรับซื้อมาตั้งโรงงาน พืชเศรษฐกิจหลาย ๆ ชนิด ที่สามารถปลูกได้ในพื้นที่เดียวกัน เช่น รับซือ คัดแยก และบรรจุที่นี่ แล้วส่งผ่านเชียงใหม่ไปไต้หวันเลย” ้ บรอกโคลี ถั่วลันเตาและพริก เพื่อไม่ให้มีปัญหาเรื่องราคา ส่วนพืชเศรษฐกิจระยะสั้น ใช้เวลาประมาณ 60-90 วัน ก็จะ ที่สำคัญ คือ การส่งเสริมให้ชาวบ้านมีการรวมตัวกันเป็นกลุ่ม เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ เช่น บรอกโคลี เพาะกล้า 25 วัน ลงต้นอีก จะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนให้เกษตรกรมีความเข้มแข็ง เพื่อเดินหน้าสู่ 45-60 วัน ก็เก็บผลผลิตได้ แต่บรอกโคลีที่ปิดทองฯ สนับสนุนให้ปลูก ความยั่งยืนได้อย่างมั่นคงในที่สุด 3
  • 4.
    สาระ...เพื่อการพัฒนาชนบทตามแนวพระราชดำริ สัมภาษณ์พิเศษ ก้าวตามรอยพระบาท แก้ปัญหาชาติ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา และกรรมการมูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ จะแก้ปัญหาน้ำแบบบูรณาการและยั่งยืน ได้อย่างไร ความชื้น จากนั้น เมล็ดพืชต่าง ๆ ที่อยู่ใต้ดิน ก็แตกออกมา เป็นป่า เรื่ อ งน้ ำ ผมไม่ ใ ช่ ผู้ เ ชี่ ย วชาญ ผมเรี ย นรู้ จ ากพระบาทสมเด็ จ สมบูรณ์ไม่ใช่ป่าเรียงแถว ตัวอย่างก็มีให้ดู ที่ดอยตุง ที่ห้วยฮ่องไคร้ พระเจ้าอยู่หัว จากการตามเสด็จ 30 กว่าปี โดยเห็น โดยสัมผัส แล้วก็ การปลู ก ป่ า แต่ ล ะอย่ า งก็ ไ ม่ เ หมื อ นกั น เช่ น ป่ า อนุ รั ก ษ์ ห รื อ สรุปได้ว่า น้ำโดยธรรมชาติ ต้องไหลจากเหนือลงใต้ จากสูงไปหาต่ำ ป่าต้นน้ำนี่ แตะต้องไม่ได้ จะเอาต้นไม้บ้า ๆ บอ ๆ ไปก็ไม่ได้ ต้อง ต้องมองเส้นทางน้ำว่ามาจากไหน แน่นอนที่สุด ต้นตอของปัญหาก็ เป็นไม้ดั้งเดิม ไม้ธรรมชาติ ต้องพิถีพิถัน จะปลูกแต่ละอย่างต้องรู้ อยูจดทีสงทีสด คือ ภูเขาทางภาคเหนือ สภาพเป็นอย่างไร ถูกทำลายแล้ว ุ่ ู่ ุ่ วัตถุประสงค์ ต้องรักษาให้เหมือนสภาพเดิมทุกประการ แล้วก็ป่า ก็ยังถูกทำลายอยู่ เวลาฝนตก น้ำก็เลยไหลพรวดพราดลงมาด้านล่าง ที่พระเจ้าอยู่หัวรับสั่งว่า ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง ป่าเศรษฐกิจ และไม่ได้ลงมาแต่น้ำเท่านั้น ยังหอบเอาต้นไม้ต้นซุง เอาหน้าดินลง ที่ต้องบริหารจัดการไปตามสภาวะให้คงสภาพป่าไว้ มาหมด แต่พอหน้าแล้งเดินข้ามแม่นำได้ เป็นวัฏจักรซ้ำซากอยู่อย่างนี้ ้ เมื่ อ ซ่ อ มป่ า เสร็ จ แล้ ว ก็ จ ะแก้ ไ ขปั ญ หาน้ ำ ได้ ส่ ว นหนึ่ ง น้ ำ จะแก้ปัญหา ก็ต้องแก้กันตั้งแต่ต้นน้ำ แก้ตั้งแต่บนเขา เพราะ ประมาณ 15-20% จะถูกเก็บไว้ อีกส่วนหนึ่งที่ลงมาตามแม่น้ำ ก็ให้ ตราบใดที่ยังเตียนโล่งอยู่ เราเผาเราตัด น้ำก็จะไหลพรวดลงมา ต้อง ไปเก็บไว้ตามหนอง คลอง บึง อ่าง เขื่อน ก็ต้องดูแลกันว่า หนอง เริ่มปลูกป่ากัน ที่ผมพูดนี่ ตั้งแต่ยอดเขาจนถึงทะเล พระเจ้าอยู่หัว คลองบึงธรรมชาติ เวลานี้สภาพเป็นอย่างไร ตื้นเขิน หรือถูกบุกรุก จน พระราชทานบทเรียนไว้หมดแล้ว วิธีปลูกป่า ปลูกอย่างไร บริหารน้ำ ไปออกโฉนดกลางบึงกันแล้ว ก็ต้องไปบูรณะฟื้นฟู น้ำที่ไม่เคยเก็บได้ ทำอย่างไร ระหว่างทางจะให้น้ำทะลักเข้าแก้มลิงตรงไหน ฟลัดเวย์ จะได้เก็บไว้ในห้วยหนองคลองบึงที่มีอยู่ตามธรรมชาติได้ อย่างไร พระองค์ท่านทำไว้หมด แต่ท่านไม่ใช่ราชการ ไม่ใช่กระทรวง เมื่อทำหนอง คลอง บึง แล้ว ก็เหลือที่เราต้องสร้างตามที่พระเจ้า ทบวง กรม ไม่ใช่รัฐบาล ท่านไม่มีหน้าที่ แต่ในฐานะพระเจ้าแผ่นดิน อยู่ หั ว ทรงแนะ ทรงพระราชทานบทเรี ย นไว้ ใ ห้ แ ล้ ว มากมาย เช่ น ท่านทำให้ดู ท่านแนะ ท่านเป็นที่ปรึกษา เพราะฉะนั้นบทเรียนจะเอา แก้มลิง ตรงไหนมีที่ว่าง ก็เจาะช่องหน่อย น้ำมาจะได้ไหลทะลักไป ที่ไหน เอาอย่างไร บอกมาเลย ท่านทำไว้ให้หมดแล้ว อย่างป่านี่ ท่าน เก็บไว้ตรงนั้น พอเต็มก็ทำประตูปิดไว้ หน้าแล้งจะได้เอามาใช้ แล้วก็ ทำ 7 ปี ป่าคืนมาหมด ปลูกป่าโดยไม่ต้องปลูก ทำฝายชะลอน้ำ สร้าง มาถึงเขื่อนที่มีอยู่แล้ว ก็ต้องบริหารจัดการ ยามไหนจะเปิด-ปิดประตู 4
  • 5.
    สาระ...เพื่อการพัฒนาชนบทตามแนวพระราชดำริ สัมภาษณ์พิเศษ ระบายน้ำตามจังหวะที่สมเหตุสมผล คือ ต้องบริหารเขื่อนทั้งหลาย ที่ ส อนเรา ตื่ น ขึ้ น มาเสี ย รู้ สึ ก ตั ว เสี ย เริ่ ม จั ด การเสี ย ที ผมเองเป็น ให้ มี ป ระสิ ท ธิ ภ าพ คำนวณดี ๆ ตามหลั ก วิ ช าการ ให้ น้ ำ ถู ก ใช้ ที่ ป รึ ก ษา ก็ ไ ด้ แ ต่ แ นะได้ แ ต่ เ ตื อ นได้ แ ต่ ใ ห้ ข้ อ คิ ด บางประการ แต่ ประโยชน์อย่างเต็มที่ ทั้ ง หลายทั้ ง ปวงขึ้ น อยู่ กั บ รั ฐ บาล ฝ่ า ยบริ ห ารจะต้ อ งลงมาจัดการ ถ้ายังมีน้ำลงมามาก ก็มีหลักการหรือปรัชญาง่าย ๆ ว่า คนยัง แม้ว่าบ้านเมืองเรา อะไร ๆ คงไม่รวดเร็วฉับพลัน แต่อย่างน้อย ถ้า ต้องการถนนคนเดิน รถต้องการถนนรถวิ่ง น้ำเขาก็อยากได้ทางเดิน เริ่มดี ๆ ค่อย ๆ ทำ ก็ยังได้ประโยชน์ ของเขาเหมือนกัน แต่ไม่มีใครสนใจสร้างให้ จึงเป็นที่มาของคำว่า “ฟลัดเวย์” ที่พระเจ้าอยู่หัวรับสั่ง ฟลัดเวย์ คือ เมื่อน้ำไหลทะลักมา ครั้ ง นี้ จ ะถื อ ว่ า เป็ น โอกาสดี ที่ จ ะผลั ก ดั น ให้ มี ก ารนำ ต้องหาทางให้เขาไป จะไปทางไหน แม่กลอง บางปะกง หรือเจ้าพระยา แนวพระราชดำริมาเป็นหลักในการแก้ปัญหาได้หรือไม่ สุดท้ายก็ต้องลงทะเล ก็วางแผนบริหารจัดการไป จะผลักดันต้องมีพละกำลัง งานของพระเจ้าอยู่หัวนั้น ท่านไม่มี ต่ า งจั ง หวั ด ยั ง มี ท างเลี่ ย ง มี บ ายพาส ไม่ ต้ อ งให้ ร ถเข้ า ไปติ ด อำนาจในเชิงบริหาร พระเจ้าอยู่หัวไม่เคยสั่งการ และท่านสั่งไม่ได้ เหมือนกัน น้ำมาก็เชิญเขาไปทางนั้นทางนี้ จะเป็นไร่เป็นสวนเป็นนา ด้วยอำนาจใด ๆ ที่หน่วยงานต่าง ๆ มี ท่านไม่มี เพราะฉะนั้น ท่าน ก็ ต าม เวลาน้ ำ มา ขอผ่ า นหน่ อ ยได้ ไ หม แล้ ว รั ฐ หรื อ หน่ ว ยงานที่ ก็ทำให้ดู บทเรียนที่พระเจ้าอยู่หัวทรงสอน มีให้ครบหมด ดิน น้ำ ลม เกี่ยวข้องก็จัดการให้เรียบร้อย ตอนไหนให้น้ำผ่านก็ชดเชยเสีย เพราะ ไฟ ทุกสถานที่ อยู่ที่ใครจะเอามาใช้ จะประสานกันหรือไม่ ท่านไม่มี ถึงอย่างไร ถ้าน้ำท่วมก็ต้องชดเชยอยู่ดี เขาอาจดีใจก็ได้ว่า น้ำท่วม อำนาจอะไรจะบังคับ วิธีก็คือ สร้างศรัทธาให้เกิดขึ้น ซึ่งต้องยอมรับ ไม่ต้องเหนื่อย ไม่ต้องเพาะปลูกแต่ได้เงิน ว่าช้า แต่จะทำอย่างไร ก็ต้องคอยอธิบาย แล้วหวังว่าทุกคนจะเห็น ลงมาถึงชุมชน มีพระราชดำริสอนแก้ปัญหาน้ำท่วมในชุมชน พ้องต้องกัน แล้วรับแนวนี้ไปทำ ไว้แล้วตั้งหลายแห่ง เช่น หาดใหญ่ สัตหีบ คลองตะเภา ที่กรุงเทพฯ มี ค นก่ อ สร้ า งขวางคลอง มี ต อม่ อ ใหญ่ โ ตที่ ไ ม่ เ ปิ ด ทางให้ น้ ำ ไหล แต่ถ้านำแนวพระราชดำริมาใช้อย่างจริงจัง โดยสะดวก ก็ต้องจัดระเบียบ และรีบทำเสียตอนที่กำลังเดือดร้อน ก็จะแก้ปัญหาของประเทศได้ ผลัดไปเดียวลืม ถ้าบริหารจัดการให้ดี ทำอย่างนี้ ปัญหาก็จะทุเลาลงได้ ๋ เป็นความหวัง ถึงยังไม่สำเร็จก็ต้องถ่ายทอดความหวังต่อไป ให้ ถึ ง ฝั่ ง แล้ ว วั น นั้ น เราจะพู ด ได้ เ ต็ ม ปากว่ า เราเดิ น ตามรอย การแก้ปัญหา ควรเริ่มต้นและเดินไปในทิศทางนี้ พระองค์ท่าน ชีวิตเราก็รอด ผมคิดว่าเราต้องปรับตัว เพราะว่าธรรมชาติเขาปรับตัว เปลียนแปลง ่ แต่มนุษย์ไม่ได้เปลี่ยนแปลง ทำอะไรไปตามความเคยชิน อยู่ง่าย ๆ ทำง่าย ๆ หวังประโยชน์เฉพาะหน้า จะตั้งถิ่นฐานทำกิน ไม่เคยคำนึง ว่าเหมาะหรือไม่เหมาะ ไปตั้งขวางทางน้ำชุลมุนไปหมด ระเบียบวินัย บ้านเราไม่ค่อยมี กฎ กติกาวางไว้ก็ไม่ค่อยมีใครปฏิบัติ ถูกละเมิด ตลอดเวลา พื้นที่ที่ถูกกำหนดไว้โดยผังเมืองโดยอะไรก็แล้วแต่ ไม่ได้ เป็ น ไปตามนั้ น ป่ า ถู ก เผา กรุ ง ถู ก บุ ก รุ ก มั น ก็ ห มดทั้ ง ป่ า ทั้ ง กรุ ง เราขาดการควบคุม ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเลวร้ายลง คิ ด ว่ า ต้ อ งเอาจริ ง เอาจังกันแล้ว เมื่อธรรมชาติเปลี่ ย น เราก็ ต้องปรับเปลี่ยนตาม พระเจ้าอยู่หัวรับสั่งเตือนเสมอว่า เราต้องให้ ความเคารพภูมิสังคม ภูมิประเทศ ภูมิอากาศ สิ่งที่อยู่แวดล้อมเรา เราต้องปรับต้องเปลี่ยนตามด้วย ถ้าเอาจริงเอาจังตามที่ท่านเสนอ ก็จะเป็นครั้งแรก ที่การแก้ปัญหาน้ำมีการบูรณาการอย่างแท้จริง ก็ ใ ช่ เราโดนลงโทษอย่ า งแรง ไม่ เ ช่ น นั้ น ก็ ค งไม่ เ ป็ น อย่ า งนี้ ก็ต้องเริ่มคิดแล้ว ไม่ทำเราตาย เลยเกิดบูรณาการขึ้น น้ำนั่นแหละ 5
  • 6.
    สาระ...เพื่อการพัฒนาชนบทตามแนวพระราชดำริ บทความ ปิดทองหลังพระฯ หลักการพัฒนาชุมชนสู่ความยั่งยืน ตามแนวพระราชดำริ เรียบเรียงจากปาฐกถาพิเศษ ของ ดร.จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา ประธานคณะอนุกรรมการ ธุรกิจเพื่อสังคม และกรรมการมูลนิธิปิดทอง หลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ เมื่อวันที่ 4 กุ ม ภาพั น ธ์ 2555 ณ บริ ษั ท ปู น ซิ เ มนต์ ไ ทย (ลำปาง) จำกัด ประเทศไทย มีความเจริญก้าวหน้าจากการพัฒนาตลอด 60 ปีทผานมา จากข้อมูลสถิตพบว่า ในช่วงเวลาดังกล่าว ประชากรไทย ี่ ่ ิ เพิ่มขึ้นเกือบ 4 เท่าตัว รายได้ประชาชาติเพิ่มขึ้น 30 เท่าตัว รายได้ ต่อหัวของประชากรเพิ่มขึ้น 10 เท่าตัว (จาก 6,594 บาท ในปี 2492 เป็ น 64,500 บาทในปั จ จุ บั น ) เส้ น ระดั บ ความยากจนลดลงมาก แต่จากสถิตนนกวิชาการส่วนใหญ่เห็นว่า ไม่ควรยินดีกบความสำเร็จนี้ ิ ี้ ั ั มากนั ก เพราะประเทศไทยยั ง คงประสบปั ญ หาหลั ก 4 ประการ คือ (1) ประชากรใต้เส้นความยากจน ยังมีจำนวนมากนับล้านคน ซึ่ ง แสดงให้ เ ห็ น ถึ ง ความเหลื่ อ มล้ ำ ในการกระจายรายได้ และ ความเหลื่อมล้ำทางสังคม โดยเฉพาะระหว่างมหานครกับภูมิภาค (2) ความสำเร็ จ นี้ แ ลกมาด้ ว ยทรั พ ยากรธรรมชาติ จ ำนวนมาก ที่ ถู ก ใช้ ไ ปจนลดน้ อ ยลงเรื่ อ ย ๆ และสิ่ ง แวดล้ อ มที่ เ สื่ อ มโทรมจน น่าเป็นห่วง (3) ความไม่สมดุลระหว่างเมืองและชนบท ขณะที่ใน สังคมชนบท ผูคนอยูกบธรรมชาติ สดชืน ไม่ตองเร่งรีบ มีคณภาพชีวต ้ ่ั ่ ้ ุ ิ ที่ดีกว่า สังคมเมืองต้องพบกับสภาพความแออัด จราจรติดขัด เป็น 6
  • 7.
    สาระ...เพื่อการพัฒนาชนบทตามแนวพระราชดำริ บทความ ที่ สุ ด เท่ า ที่ จ ะเป็ น ไปได้ นั้ น สถาบั น ส่ ง เสริ ม และพั ฒ นากิ จ กรรม ปิ ด ทองหลั ง พระฯ ซึ่ ง จั ด ตั้ ง ขึ้ น โดยมี เ ป้ า หมายในการขยายผล การพัฒนาตามแนวพระราชดำริไปทั่วประเทศ จึงทำหน้าที่รณรงค์ ให้ภาคเอกชนที่เข้มแข็งมากขึ้นเรื่อย ๆ จากการพัฒนา 50-60 ปี ที่ผ่านมาหลายร้อยบริษัทให้เข้ามาช่วยเป็นพี่เลี้ยง เป็นผู้สนับสนุน ให้เกิดกระบวนการพัฒ นาทั่วประเทศ พร้อมกับระดมผู้สนับสนุน ที่เห็นแก่ประโยชน์ของสังคมจำนวนมาก เช่น อาจารย์มหาวิทยาลัย ข้าราชการ รวมทั้งเอ็นจีโอ เพื่อช่วยในการพัฒนา ลดความเหลื่อมล้ำ ความไม่สมดุลระหว่างสังคมเมืองและชนบท แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ความไม่สมดุลที่เกิดขึ้น และ (4) ระดับคุณธรรมและศีลธรรมในใจ และทำให้คุณธรรม ศีลธรรมของคนสูงขึ้น คน ถดถอยสวนทางกับรายได้ต่อหัวสูงขึ้น ทำให้เกิดปัญหามากมาย 3 ปี ใ นการดำเนิ น งาน สถาบั น ส่ ง เสริ ม และพั ฒ นากิ จ กรรม เช่น อาชญากรรม ยาเสพติด หนี้สิน คอร์รัปชัน กระแสวัตถุนิยม ปิดทองหลังพระฯ เริ่มจากจังหวัดน่าน พัฒนาไปที่จังหวัดอุดรธานี การบริโภคเกินความจำเป็น การใช้เทคโนโลยีไม่เหมาะสม และขาด และต่อยอดพื้นที่ขยายผลในอีก 10 จังหวัด 18 หมู่บ้าน ทั่วประเทศ สำนึกในการรับผิดชอบต่อสังคม โดยหวังจะดำเนินงานด้วยความเพียรไปเรื่อย ๆ เพื่อให้การพัฒนา เราจึงไม่ควรยินดีกับรายได้ต่อหัวที่สูงขึ้น แต่ควรให้ความสนใจ ครอบคลุมทั่วประเทศ เพราะเชื่อว่าหากทุกฝ่ายมีส่วนร่วมและผนึก และร่วมกันคิดหาทางออกให้แก่ปัญหา 4 ประการนี้ โดยเริ่มจาก กำลังกันทำงาน ก็จะถึงจุดหมายปลายทางได้ดวยดี ดังพระราชนิพนธ์ ้ พิจารณาความสอดคล้องของกระบวนการทำงานของชุมชนกับการ เรื่ อ งพระมหาชนกของพระบาทสมเด็ จ พระเจ้ า อยู่ หั ว ตอนหนึ่ ง ว่ า แก้ปัญหาที่กล่าวมา “ปิดทองหลังพระฯ ตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ “...เมื่อเรืออับปางในทะเล มองไม่เห็นฝั่ง เราก็ต้องว่ายน้ำต่อไป...” เพื่อพัฒนาและแก้ปัญหา 4 ประการนี้ ภายใต้แกนหลักในการพัฒนา เหมือนสิงทีเ่ รากำลังทำทุกวันนี้ ทีหวังบรรลุเป้าหมายการพัฒนาประเทศ ่ ่ คือ กรอบองค์ความรู้ 6 มิติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่องน้ำ อย่างยังยืน ทังทียงมองไม่เห็นความสำเร็จ แต่กตองเพียรทำไปเรือย ๆ ่ ้ ่ั ็ ้ ่ ดิน เกษตร พลังงานทดแทน ป่า สิ่งแวดล้อม เพื่อนำไปสู่การพัฒนา จุดดีของสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระฯ 3 ระดับ คือ อยู่รอด พอเพียง และยั่งยืน” คือ มีองค์ความรูและปัญญาตามแนวพระราชดำริ ทีจะนำไปให้หมูบาน ้ ่ ่ ้ วิธีหรือกระบวนการในการพัฒนาที่สำคัญ ของสถาบันส่งเสริม ที่ต้องการพัฒนาอย่างยั่งยืน และมีกระบวนการทำงานที่ถูกต้อง ถึง และพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระฯ คือ ชุมชนต้องเป็นเจ้าของ แม้จะเริ่มงานช้ากว่าคนอื่น แต่ก็มีความมั่นคง และมีการนำความคิด เป็นผู้ต้องการการพัฒนา สถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทอง ดี ๆ ไปปฏิบัติจนเกิดผลสำเร็จ ทำให้ความคิดไม่เป็นเพียงความคิด หลังพระฯ จะสนับสนุนเป็นพี่เลี้ยง และเป็นกัลยาณมิตร แต่เกิดความสำเร็จที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้ “สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การนำความรู้ และปัญญาจากพระราช “วิธีการทำงานของสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทอง ดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรม หลั ง พระฯ ที่ จ ะทำให้ เ กิ ด ผลสำเร็ จ คื อ การสร้ า งคนที่ มี ค วามคิ ด ราชินีนาถ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และพระบรมวงศา ที่ถูกต้อง มีการทำงานที่ถูกต้อง อาศัยชุมชนให้เป็นเจ้าของร่วมกัน นุวงศ์ มาถ่ายทอดให้ชุมชน โดยผนวกกับความรู้ที่เป็นสากล และ พัฒนา หากสามารถสร้างจิตสำนึก สร้างแรงบันดาลใจให้เกิดขึ้น ความรูดงเดิมของชุมชนและปราชญ์ชาวบ้าน เพือก่อให้เกิดการพัฒนา ้ ั้ ่ ทั่วประเทศ รวบรวมสรรพกำลังของคนที่มีประสบการณ์มากมาย เช่นที่เกิดขึ้นในพื้นที่ต้นแบบปิดทองหลังพระฯ” มาร่วมกัน ก็จะสามารถขยายผลไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนตามแนว เงินไม่ได้เป็นตัวช่วยให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน แต่จิตสำนึกของ พระราชดำริของเจ้านายทุกพระองค์ได้ ทำทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นไปได้ คนในชุมชนต่างหากที่จะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน จากคำถามของ ให้ความหวังเหล่านี้เป็นจริง ทำให้พี่น้องโดยเฉพาะในชนบท ได้มีชีวิต ผู้นำชุมชนที่ว่า ทำอย่างไร จึงจะขยายผลการพัฒนาออกไปให้กว้าง ที่ดีขึ้น และมีการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป” 7
  • 8.
    สาระ...เพื่อการพัฒนาชนบทตามแนวพระราชดำริ บทความ เดินหน้าแข็งขันสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน บ้านท่าลอบ ตำบลโพทะเล อำเภอค่ายบางระจัน จังหวัด สิ ง ห์ บุ รี ในอดี ต เคยเป็ น พื้ น ที่ ซึ่ ง อุ ด มสมบู ร ณ์ ทั้ ง ผั ก ทั้ ง ปลา แต่ ชาวบ้านท่าลอบในปัจจุบัน ส่วนใหญ่ต้องหันไปประกอบอาชีพรับจ้าง ทั้งรับจ้างทำนา รับจ้างหว่านข้าว หว่านปุ๋ย ฉีดยา ตัดอ้อย ตัดวัชพืช และเกือบครึ่งหนึ่งต้องออกไปรับจ้างนอกพื้นที่ รองลงมา ประกอบ อาชีพเกษตรกรรม จากการสำรวจของทีมงานปฏิบัติการระดับพื้นที่ สถาบันส่งเสริม และพั ฒ นากิ จ กรรมปิ ด ทองหลั ง พระ สื บ สานแนวพระราชดำริ เมื่ อ เดื อ นสิ ง หาคม 2554 พบว่ า รายได้ ข องคนท่ า ลอบ เฉลี่ ย ต่ อ ครั ว เรื อ นอยู่ ที่ 273,400 บาทต่ อ ปี ขณะที่ ร ายจ่ า ยเฉลี่ ย อยู่ ที่ 90,013 บาท และมีหนี้สินเฉลี่ย 86,360 บาท จากประชากรทั้งหมด 135 หลังคาเรือน 157 ครอบครัว 502 คน มีงานทำเพียง 318 คน เกิ น ครึ่ ง คื อ 193 คน ประกอบอาชี พ รั บ จ้ า ง มี เ พี ย ง 101 คน ที่เป็นเกษตรกร ปัญหาใหญ่ของบ้านท่าลอบ ที่ทำให้ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ในระดั บ ต่ ำ กว่ า เกณฑ์ ม าตรฐานความอุ ด มสมบู ร ณ์ ม าก พื ช จึ ง ไม่ได้ผลเท่าที่ควร นอกจากการขาดแคลนน้ำ เพราะพื้นที่เกษตรกรรม แคระแกร็ น ออกดอกช้ า กว่ า ปกติ เปอร์ เ ซ็ น ต์ ด อกติ ด ผลต่ ำ ราก อยู่ สู ง กว่ า ระดั บ คลองชลประทาน ทำให้ ช าวบ้ า นต้ อ งสู บ น้ ำ จาก ผอมบาง ลำต้ น ไม่ แ ข็ ง แรง ทั้ ง ยั ง มี ปั ญ หาโรคและแมลงศั ต รู พื ช คลองชลประทานเข้าแปลงนาแล้ว ยังมีปัญหาผลผลิตการเกษตร อีกมาก เช่น เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล โรคใบขาว หนอนกอ เชื้อรา ตกต่ ำ ขณะที่ ต้ น ทุ น การผลิ ต ทุ ก อย่ า งสู ง ทั้ ง ปุ๋ ย สารเคมี น้ ำ มั น ข้าวดีด หญ้าหางหมาและหญ้าดอกขาว ค่าแรง หนำซ้ำการทำนาแต่เพียงอย่างเดียวถึง 5 ครั้ง ในเวลา 2 ปี นางละมัย แสงหิรญ ผูใหญ่บานบ้านท่าลอบ เล่าว่า ปัญหาที่ ั ้ ้ โดยไม่มีการพักดิน การต้องใช้ปุ๋ยและสารเคมีในการทำนามากขึ้น เกิดขึ้น ทำให้ชาวบ้านมีรายได้ไม่พอกับรายจ่าย จึงต้องกู้หนี้ยืมสิน เรื่อย ๆ ดินจึงเสื่อมคุณภาพ แน่นทึบ จับตัวเป็นก้อน มีอินทรีย์วัตถุ ทังจากธนาคาร สหกรณ์ออมทรัพย์ กองทุนเงินล้าน รวมทังหนีนอกระบบ ้ ้ ้ 8
  • 9.
    สาระ...เพื่อการพัฒนาชนบทตามแนวพระราชดำริ บทความ (Quick Win) ระยะ 3 เดือน เพื่อแก้ปัญหาศัตรูพืชทางการเกษตร และการบริหารจัดการน้ำ เริ่มจากการให้คำแนะนำในการแก้ปัญหา เพลี้ ย กระโดดสี น้ ำ ตาล ด้ ว ยการพั ก ดิ น เพื่ อ ตั ด วงจรอาหารของ เพลี้ ย กระโดด แทนการปราบปรามด้ ว ยสารเคมี แนะนำให้ เ พิ่ ม การใช้ ปุ๋ ย อิ น ทรี ย์ ลดการใช้ ปุ๋ ย เคมี รณรงค์ ใ ห้ เ กษตรกรพั ก ดิ น ด้ ว ยการทำแปลงนาตั ว อย่ า ง ที่ ป ลู ก ข้ า วสลั บ กั บ การพั ก ดิ น และ ไถหว่านพืชตระกูลถั่ว ปอเทืองหรือโสนแอฟริกัน แล้วเปรียบเทียบ ละมัย แสงหิรญ ั ประจวบ เพชรทอง สุนทร สัมฤทธิ์ ให้ เ ห็ น ว่ า ผลผลิ ต จะเพิ่ ม ขึ้ น เท่ า ไร และจะลดต้ น ทุ น ลงได้ เ ท่ า ไร “ได้ ไ ปดู ง านปิ ด ทองหลั ง พระฯ ที่ น่ า นแล้ ว เกิ ด ศรั ท ธา เชื่ อ ว่ า รวมทั้งมีการสนับสนุนกองทุนต่าง ๆ ตามความต้องการของชาวบ้าน แนวทางปิดทองฯ จะแก้ปัญหาให้ชาวบ้านได้จริง เมื่อกลับมา จึง เช่น กองทุนผลิตผักปลอดภัย กองทุนเมล็ดพันธุ์ข้าว กองทุนประมง ลงมือสำรวจข้อมูลเอง โดยเอาตัวอย่างจากน่านมาปรับใช้ ทำให้ น้ำจืด รู้ว่าเรายังขาดความรู้ ทำนาแบบตามมีตามเกิด แบบเดิม ๆ จึงอยาก นายประจวบ เพชรทอง อดี ต ครู แ ละแกนนำชาวบ้ า น ให้ ปิ ด ทองฯ เข้ า มาส่ ง เสริ ม ความรู้ ปรั บ สภาพดิ น ให้ ดี ขึ้ น อบรม บอกว่ า เมื่ อ ชาวบ้ า นรู้ ว่ า ปิ ด ทองหลั ง พระฯ จะเข้ า มาช่ ว ยเหลื อ การเลี้ยงสัตว์ และสอนให้ชาวบ้านอยู่ได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องพึ่งพา ก็พร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่ โดยเรื่องที่ชาวบ้านต้องการให้ปิดทองฯ คนอื่น เชื่อว่าจะทำให้บ้านท่าลอบสามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว ส่ ง เสริ ม คื อ ความรู้ ด้ า นการเกษตร การสั ง เกตโรคที่ เ กิ ด กั บ ข้ า ว เพราะชาวบ้ า นมี ค วามเข้ ม แข็ ง และพร้ อ มที่ จ ะให้ ค วามร่ ว มมื อ และพืชผลต่าง ๆ อยู่แล้ว” “ผมเคยทดลองปลูกมะนาว ผักบุ้ง ผักชี มะเขือ เลี้ยงปลา ทำ เมื่ อ ปิ ด ทองหลั ง พระฯ เลื อ กบ้ า นท่ า ลอบเป็ น พื้ น ที่ ข ยายผล น้ำหมักชีวภาพ ลองผิดลองถูก เสียเวลา เสียเงินลงทุนไปมาก หากได้ และที ม ปฏิ บั ติ ก ารระดั บ พื้ น ที่ ไ ด้ ท ำการสำรวจข้ อ มู ล ปั ญ หาและ ความรู้ จะทำให้ไม่ต้องเสียเงินลงทุนมาก และคงได้ผลผลิตดีขึ้น” ความต้ อ งการของชาวบ้ า นแล้ ว มี ก ารจั ด ทำแผนระยะเร่ ง ด่ ว น ส่วน นายสุนทร สัมฤทธิ์ ชาวนาวัย 68 ปี ก็บอกว่า ที่ผ่านมา ทำนาโดยใช้สารเคมีมาตลอด และไม่เคยพักดิน เพราะไม่เคยรู้เลยว่า ควรทำนาอย่ า งไร ทำปุ๋ ย ธรรมชาติ อ ย่ า งไร ถ้ า ปิ ด ทองหลั ง พระฯ เข้ามาให้ความรู้ ก็เชื่อว่าจะช่วยให้ได้ผลผลิตเพิ่มมากขึ้น นางป้อม แก้วแจ่ม เกษตรกรที่เริ่มเลี้ยงหมูปิดทองฯ แสดง ความเชือมันในปิดทองหลังพระฯ ว่าจะทำให้ชาวบ้านลืมตาอ้าปากได้ ่ ่ ไม่ทอดทิ้งชาวบ้านไว้ครึ่ง ๆ กลาง ๆ “ได้รับหมูมา 2 ตัว เพิ่งเริ่มเลี้ยง มาได้ 4 เดื อ น อยากให้ ปิ ด ทองฯ ให้ ค วามรู้ แ ละคอยดู แ ล อย่างใกล้ชิด เพราะหมู่บ้านนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ประจำ” ป้อม แก้วแจ่ม ขณะที่ นางประมวน เหมื อ นแตง ซึ่ ง ได้ รั บ พั น ธุ์ ป ลาจาก ปิ ด ทองฯ มาเลี้ ย ง 2,000 ตั ว พร้ อ มกั บ พั น ธุ์ ข้ า วโพดเที ย น มา ปลู ก เสริ ม การทำนา ปั จ จุ บั น เริ่ ม ได้ ผ ลผลิ ต ข้ า วโพดแล้ ว พร้ อ ม กับความหวังว่า อีกไม่นานจะสามารถจับปลาที่เลี้ยงไว้ไปขายได้ ต่อไปจึงอยากให้ปิดทองฯ ช่วยหาตลาดให้ เพราะชาวบ้านไม่รู้แหล่ง ที่จะนำผลผลิตไปขายได้ เมื่ อ ชาวบ้ า นแข็ ง ขั น ที่ จ ะร่ ว มมื อ พั ฒ นาหมู่ บ้ า น ปัจจุบันบ้าน ท่าลอบ จังหวัดสิงห์บุรี จึงก้าวเข้าสู่ขั้นการยกร่างจัดทำแผนพัฒนา ชนบทเชิ ง พื้ น ที่ เ ชิ ง ประยุ ก ต์ ต ามแนวพระราชดำริ ไ ด้ อ ย่ า งรวดเร็ ว และกำลังเดินหน้าต่อ พร้อมกับความเชื่อมั่นในแนวทางพระราชดำริ ประมวน เหมือนแตง ว่าจะทำให้พวกเขาดำรงชีพได้อย่างยั่งยืนมั่นคงต่อไป 9
  • 10.
    สาระ...เพื่อการพัฒนาชนบทตามแนวพระราชดำริ บทความ ภาคี รวมใจ มูลนิธิสืบนาคะเสถียร-ปิดทองฯ สองพันธมิตรรักษาป่าต้นน้ำ มู ล นิ ธิ ปิ ด ทองหลั ง พระ สื บ สานแนวพระราชดำริ และมู ล นิ ธิ สืบนาคะเสถียร จะร่วมกันสร้างมิตใหม่ในการอนุรกษ์และฟืนฟูผนป่า ิ ั ้ ื ทรัพยากรสำคัญของชาติ ที่มีเหลืออยู่น้อยมาก จนน่าใจหาย จากทีเ่ คยไปศึกษาดูงานปิดทองฯ ทีจงหวัดน่าน ทำให้ นางรตยา ่ั จันทรเทียร ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร กล่าวอย่างมั่นใจว่า ทั้งมูลนิธิสืบฯ และปิดทองฯ มีแนวทางเดียวกัน คือ ให้ชุมชนอยู่ได้ โดยใช้ชีวิตอย่างเป็นมิตรกับผืนป่า “ทั้งสองมูลนิธิมีธงเดียวกัน แม้ว่าปิดทองฯ จะเน้นในเรื่องของ คนรักษาคน แต่ก็เน้นในเรื่องการรักษาป่าด้วย ไม่ให้คนขยายเข้าไป ป่าที่เทวดาสร้าง จะทำอย่างไรกับป่าที่ถูกใช้ไปแล้ว ให้มีการใช้อย่าง ได้คุณภาพ ได้มูลค่าสูงสุด ได้ประโยชน์สูงสุด ส่วนมูลนิธิสืบฯนั้น มีหลักการเดียวกัน คือ ดูแลคนที่อยู่ในป่า มีการกันเขตเพื่อไม่ให้ มีการบุกรุกป่าเพิ่มมากขึ้น ด้วยการส่งคนเข้าไปอยู่กับชาวบ้าน ไป ปรับทุกข์ผูกมิตร ให้เข้าใจว่าเราทำเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ บ้านเมือง” เพื่ อ ประโยชน์ ข องชาติ บ้ า นเมื อ ง รวมทั้ ง เพื่ อ ลู ก หลาน ก็ เ ป็ น เหตุ ผ ลสำคั ญ ที่ ท ำให้ ป ระธานมู ล นิ ธิ สื บ ฯ ตั ด สิ น ใจเข้ า มาทำงาน ร่วมกับ ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล เลขาธิการมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ และประธานคณะอนุกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาป่าต้นน้ำ ในการทำงานรักษาป่า อาจารย์รตยา เสนอแนวทางว่า “การ ความชื้นและความหลากหลายทางชีวภาพได้ต้องใช้เวลา เราปลูกป่า ดูแลป่า มี 2 เรื่อง คือ อนุรักษ์และฟื้นฟู ก่อนจะฟื้นฟู ตรงไหนที่ กัน 20 ปี ก็ยังไม่ได้เหมือนที่ธรรมชาติสร้าง” เป็นป่าดั้งเดิม ต้องอนุรักษ์ไว้ให้ได้ทั้งหมด เพราะมีเหลืออยู่แค่นี้ และ กระนั้น อาจารย์รตยา ก็กล่าวว่า ยังดีใจที่เราเห็นด้วยกัน และ การฟื้นฟูก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะกว่าที่ป่าจะทำหน้าที่เก็บน้ำ เก็บ เริ่มกันตั้งแต่ พ.ศ.นี้ อีก 30 ปีข้างหน้า ลูกหลานจะได้มีความมั่นคง ทางทรัพยากร เพราะทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการอุตสาหกรรม เป็นชาวนา เป็นคนทำงานออฟฟิศ ก็ต้องใช้น้ำจากป่าด้วยกันทั้งสิ้น “แนวทางของปิดทองหลังพระฯ ที่จะคืนพื้นที่ป่ากลับมาให้ได้ 60 เปอร์เซ็นต์ และเป็นป่าเศรษฐกิจ 40 เปอร์เซ็นต์ อย่างน้อยก็เป็น ความหวัง เป็นกำลังใจได้ว่า การฟื้นฟูป่าจะได้ผล” หัวใจของความสำเร็จ ประธานมูลนิธิสืบฯ บอกว่า อยู่ที่คน และ การทำงานกับคนนั้น เป็นเรื่องที่ทำกันไม่เสร็จ จึงต้องมีคนที่ทำงาน จริงจังต่อเนือง ต้องคำนึงถึงภูมประเทศ และเมือมีหลักการ วิธการแล้ว ่ ิ ่ ี ก็ยังต้องหาเพื่อน หาคนข้างนอกมาเป็นมิตร ช่วยกันทำงานอีกด้วย ปิ ด ทองหลั ง พระฯ และมู ล นิ ธิ สื บ ฯ จึ ง จั บ มื อ เดิ น บนเส้ น ทาง เดียวกันในวันนี้ 10
  • 11.
    สาระ...เพื่อการพัฒนาชนบทตามแนวพระราชดำริ บทความ บ้านสะเกิน ในพืนทีตำบลยอด อำเภอสองแคว จังหวัดน่าน ้ ่ การลงพื้นที่สำรวจข้อมูลร่วมกัน ทำให้พบสาเหตุว่า ทั้งฝายห้วย มีปัญหาขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรมาหลายสิบปี ทั้งที่มีอ่างเก็บน้ำ ต้นผึ้ง ฝายประชาอาสา รวมทั้งคลองส่งน้ำไม่เพียงชำรุดเสียหาย น้ำงิม รวมทั้งคลองส่งน้ำ และลำเหมืองอีกหลายสายอยู่ในพื้นที่ แต่ ยั ง มี ดิ น หิ น ตะกอนทราย และเปลื อ กข้ า วโพด ทั บ ถมอยู่ ใ น จนเมื่อชาวบ้านสะเกิน ได้เห็นกระบวนการทำงานของปิดทอง ลำเหมืองหนาถึง 2 เมตร หลังพระฯ ในการนำองค์ความรู้การพัฒนาแนวพระราชดำริมาใช้ ชาวบ้านสะเกิน 155 หลังคาเรือน ทั้งหญิงและชายกว่า 500 คน จนสำเร็จเป็นรูปธรรม ทังเรืองแหล่งน้ำ การฟืนฟูปรับปรุงคุณภาพดิน ้ ่ ้ ได้ตกลงร่วมแรงร่วมใจเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ซ่อมฝาย ลำเหมือง แห่งการระเบิดจากข้างใน ชุมชน ตัวอยาง และคลองส่งน้ำของหมูบานด้วยตนเอง ตามรูปแบบปิดทองหลังพระฯ ่ ้ โดยจัดกำลังวันละ 70-80 คน หมุนเวียนกันช่วยขุดอยู่นานนับเดือน บางจุ ด ที่ มี ต ะกอนหนาถึ ง 2 เมตร ชาวบ้ า นก็ ร วมเงิ นกันเอง การ ขุดลอกลำเหมืองทั้ง 3 สาย จึงแล้วเสร็จ และมีการทำท่อส่งน้ำมา เก็บไว้ในถังเก็บน้ำของหมู่บ้าน สำรองไว้ใช้ตลอดปี ทุกวันนี้ ลำเหมืองทุกลำเหมือง คลองส่งน้ำทุกสายในบ้านสะเกิน มีน้ำไหลตลอดทั้งปี สามารถแจกจ่ายน้ำให้พื้นที่การเกษตรได้มากถึง 1 แสนไร่ ทั้งที่บ้านสะเกินมีพื้นที่เกษตรเพียง 2,377 ไร่ ชาวบ้าน ทุกคนมีผลผลิตข้าวเพิ่มขึ้นเป็น 60-70 ถัง/ไร่ จากเดิมเฉลี่ยไม่เกิน 40 ถัง/ไร่ และสามารถปลูกพืชหลังนาอย่าง บรอกโคลี กะหล่ำ พริก ซุ ป เปอร์ ฮ อต อี ก ด้ ว ย และทำให้ บ้ า นสะเกิ น เป็ น ตั ว อย่างของการ บริหารจัดการน้ำ “กลางน้ำ” อีกด้วย บ้านสะเกิน จึงเป็นการพัฒนาโดย “ระเบิดมาจากข้างใน” อย่าง แท้จริง นั่นคือ เป็นการพัฒนาตามความต้องการของชุมชนเอง ลงมือ การส่งเสริมอาชีพเกษตร ปศุสตว์ และป่าเศรษฐกิจ ในพืนทีตนแบบที่ ต่อสู้กับปัญหาของตัวเอง และร่วมกันพัฒนาชุมชนโดยไม่ต้องรอ ั ้ ่ ้ บ้านยอด ซึงมีอาณาเขตติดต่อกัน ชาวบ้านสะเกินจึงตัดสินใจประสาน ความช่วยเหลือจากภาครัฐ จนเกิดความสำเร็จเป็นรูปธรรม พึ่งพา ่ กับเจ้าหน้าทีปดทองฯ ขอให้มาช่วยศึกษาและหาทางแก้ปญหาให้ ่ ิ ั ตนเองได้ ซึ่งจะเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง 11
  • 12.
    สาระ...เพื่อการพัฒนาชนบทตามแนวพระราชดำริ บทความ จากความเชื่อที่ชนเผ่าลัวะยึดมั่นมาแต่บรรพชนว่า การขุดดิน “แรก ๆ ก็คิดว่า การขุดดินทำนาขั้นบันไดคงยาก เพราะไม่เคย การเอาดินกลับบ้านจะเป็นการผิดผี เมื่อปิดทองหลังพระฯ เข้ามาใน ทำมาก่อน แต่พอมีคนมาช่วยเป็นร้อย ก็รู้สึกดี มีความหวังว่าจะทำได้ พื้นที่บ้านเปียงซ้อ ตำบลขุนน่าน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ พร้อมกับ สำเร็จ” องค์ความรู้ในการทำนาขั้นบันได ซึ่งจะเพิ่มผลผลิตข้าวให้ได้พอกิน ลุงเสริม อุ่นถิ่น ขุดนาขั้นบันไดครั้งแรก 5 แปลง และต่อมาขุด แทนการปลูกข้าวไร่แบบดั้งเดิม จึงไม่สามารถชักจูงใจชาวบ้านให้ เพิ่มอีก 4 แปลง รวม 4 ไร่ ใช้เวลาขุดติดต่อกัน 5 วัน จึงแล้วเสร็จ เข้าร่วมขุดนาขั้นบันไดได้ จากนั้นก็ใช้น้ำจากบ่อพวงสันเขา ที่ปิดทองฯ สนับสนุนให้ชาวบ้านขุด แม้ว่าจะมีการเซ่นไหว้เจ้าที่ เลี้ยงผี เชิญหมอผีมาทำพิธีขอขมา หลังจากมีนามีน้ำใช้ในการเกษตร ลุงเสริมก็ปลูกข้าว หมดหน้านาก็ แล้วก็ตาม ราษฎรก็ยังกลัว ไม่กล้าขุดดินอยู่ดี กุศโลบาย “พญาผี” ปลูกพืชหลังนาหลากหลาย ทั้ง เรพซีด ถั่วเหลือง ผักกาด กะหล่ำ ก้าวทีกล้าของ... ่ สูความยังยืนในวันนี้ ่ ่ ของนายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ผู้มาทำงานต่างพระเนตรพระกรรณ ไว้บริโภคในครัวเรือน และยังมีเหลือไว้ขาย ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กบราษฎร แม้จะมีผลทางจิตวิทยาอยูบาง ั ่ ้ ความขยัน มานะ อดทน ทำให้ภายในเวลาเพียง 2 ปี หลังเข้า แต่หัวใจของความสำเร็จอยู่ที่การมีคนนำทำเป็นตัวอย่าง พิสูจน์ให้ ร่วมปิดทองฯ ลุงเสริม ปลดหนี้ที่มีอยู่กับธนาคารเพื่อการเกษตรและ คนอื่ น ๆ เห็ น ว่ า การทำนาขั้ น บั น ไดจะช่ ว ยให้ ชี วิ ต ความเป็ น อยู่ สหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. กว่า 20,000 บาท ได้จนหมด ดีขึ้นได้จริง ๆ “ปิดทองฯ เข้ามานี่เปลี่ยนชีวิตไปหลายอย่าง ปลดหนี้ได้ มีผัก ผู้นำในการเปลี่ยนแปลงความเชื่อของชาวบ้าน คือ ลุงเสริม ไว้ กิ น มี เ งิ น เหลื อ เก็ บ ทำตามที่ ปิ ด ทองฯ แนะนำ ได้ ป ระโยชน์ อุ่นถิ่น ที่เห็นว่าการทำนาขั้นบันไดจะช่วยพลิกฟื้นผืนดินแร้นแค้น หลายอย่าง ตอนแรกหนักใจกลัวทำไม่ได้ แต่พอทำไปเรื่อย ๆ ได้เห็น แตกระแหงให้เขียวชอุ่มได้ และอาจเป็นโอกาสสุดท้ายที่แกจะลืมตา ผลผลิตงอกงาม ก็สบายใจ ได้คิดด้วยว่า เมื่อปิดทองฯ ตั้งใจทำให้เรา อ้าปากได้ บวกกับเห็นความตั้งใจจริงของปิดทองฯ ที่จะเข้ามาพัฒนา ขนาดนี้แล้ว เราก็ต้องทำให้สำเร็จให้ได้ น้ำก็มี เมล็ดพันธุ์ก็มี เรา พื้นที่ ลุงเสริมจึงยอมละความเชื่อแต่ดั้งเดิม และตัดสินใจเข้าร่วมขุด มีหน้าที่แค่ออกแรงอย่างเดียว ทำไมจะทำไม่ได้” นาขั้ น บั น ได ตั้ ง แต่ เ ริ่ ม ต้ น ในวั น ฤกษ์ ดี วั น พระราชสมภพสมเด็ จ ความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงในวันนั้น ทำให้ลุงเสริม พระศรีนครินทราบรมราชชนนี 21 ตุลาคม 2552 อุ่นถิ่น อยู่ได้อย่างยั่งยืนในทุกวันนี้ 12
  • 13.
    สาระ...เพื่อการพัฒนาชนบทตามแนวพระราชดำริ บทความ เรียนรู คูพัฒนา เมื่อปิดทองหลังพระฯ เข้ามาดำเนินโครงการบริหารจัดการน้ำ น้ำในท่อ จะทำให้เกิดแรงยกปิดลิ้นทิ้งน้ำ และเกิดแรงดันไปเปิด อย่างยั่งยืนอ่างเก็บน้ำห้วยคล้ายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอ ลิ้นจ่ายน้ำ น้ำส่วนหนึ่งจะไหลเข้าไปในหม้ออัดอากาศ ส่งผ่านวาล์ว หนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี รวมทั้งพื้นที่ขยายผลอีก 10 จังหวัด ก็ได้ กันน้ำกลับ แล้วไหลเข้าสู่ท่อจ่ายน้ำขึ้นไปยังถังพักน้ำในที่สูง กว่า พบว่ า มี พื้ น ที่ เ กษตรจำนวนไม่ น้ อ ยประสบปั ญ หาขาดแคลนน้ ำ 10-15 เท่า ของระดับความสูงของน้ำป้อนเข้าเครื่อง ขณะเดียวกัน เนืองจากพืนทีเ่ หล่านันอยู่สูงกว่าแหล่งน้ำมาก ่ ้ ้ ความดันของน้ำในห้องลิ้นทิ้งน้ำที่ลดลง จะทำให้ลิ้นจ่ายน้ำถูกปิด ปิ ด ทองหลั ง พระฯ จึ ง น้ อ มนำแนวทางพระราชดำริ การใช้ ลิ้ น ทิ้ ง น้ ำ เปิ ด ครบจั ง หวะการทำงานและเริ่ ม ต้ น การทำงานใหม่ ปั๊มน้ำพลังน้ำ (Hydraulic Ram) หรือ ตะบันน้ำ มาใช้แก้ปัญหา ต่อเนื่องไป โดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้าหรือน้ำมันเชื้อเพลิง ด้วยเริ่มจากนำตะบันน้ำมาทดลองใช้ในพื้นที่ปิดทองฯ ที่แปลงเกษตร ตะบันน้ำ หรือ เครืองสูบน้ำพลังน้ำ นี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้า ่ สาธิต บ้านแสงอร่าม ของนายบุญมาก อยู่หัว พระราชทานพระราชดำริเมื่อปี 2522 ให้กรมชลประทานรื้อฟื้น สิงห์คำป้อง ดัดแปลงจากเครื่องของต่างประเทศ พร้อมกับทรงให้พัฒนาประดิษฐ์ เครืองสูบน้ำพลังน้ำ เป็นเครืองสูบน้ำ ่ ่ อุปกรณ์ตาง ๆ ขึนมาใหม่ ให้มประสิทธิภาพในการทำงานมากขึนและ ่ ้ ี ้ ที่ทำงานในตัวเองได้โดยอัตโนมัติ โดย มิได้ทรงจดลิขสิทธิ์ เพือให้เกษตรกรทุกคนนำไปเป็นแบบสร้างขึนใช้เองได้ ่ ้ ใช้ พ ลั ง งานจากน้ ำ เป็ น ตั ว ผลั ก ดั น ให้ นายสมรส พรหมมิ น ทร์ ผู้ จั ด การส่ ว นภาคสนาม มู ล นิ ธิ อุ ป กรณ์ ข องเครื่ อ งทำงาน มี ห ลั ก การ แม่ ฟ้ า หลวงในพระบรมราชู ป ถั ม ภ์ กล่ า วว่ า ตะบั น น้ ำ ที่ ปิ ด ทองฯ ทำงานง่าย ๆ คือ เมื่อน้ำจากฝายหรือ นำมาใช้ มีต้นทุนเพียง 2,500 บาท มีประสิทธิภาพในการสูบน้ำขึ้น อ่างเก็บน้ำไหลเข้าท่อรับน้ำลงสู่ห้องลิ้น ที่สูงได้ประมาณ 12 เมตร ในอัตรา 1,000 ลิตร/ชั่วโมง เพียงพอ ปริมาตรและความเร็วในการไหลของ สำหรับใช้ในพื้นที่เพาะปลูกกว่า 20 ไร่ของนายบุญมากได้ “หลังจากทดลองให้เกษตรกรได้เห็นความสำเร็จแล้ว ก็จะนำ องค์ความรู้นี้ไปใช้ในพื้นที่อื่น ๆ ที่มีปัญหาเช่นเดียวกันนี้ต่อไป เช่น ที่จังหวัดเพชรบุรี” นายบุญมาก กล่าวทังน้ำตาอย่างดีใจ เมือปิดทองฯ ดึงน้ำขึ้นมา ้ ่ ใช้ได้สำเร็จว่า เป็นเรื่องดีมาก เพราะที่ผ่านมา ต้องขุดบ่อเก็บน้ำฝน ไว้ แต่ ถึ ง หน้ า แล้ ง ก็ ไ ม่ มี น้ ำ ปลู ก อะไรไม่ ไ ด้ ตอนนี้ มี น้ ำ แล้ ว ก็ จ ะ เพาะปลู ก ได้ ต ลอดทั้ ง ปี “ผมได้ รั บ การถ่ า ยทอดเทคนิ ค ดึ ง น้ ำ ขึ้ น ทีสงแล้ว ก็จะนำความรูทได้ไปถ่ายทอดให้กบเพือนบ้านต่อไป เพราะเป็น ู่ ้ ี่ ั ่ การลงทุนเพียงครั้งเดียวที่คุ้มค่ามาก เพราะทำให้มีน้ำใช้ได้ตลอดปี” 13
  • 14.
    สาระ...เพื่อการพัฒนาชนบทตามแนวพระราชดำริ ข่าว กล้า...ดี ช่วย 9.9 แสนผูประสบภัยลุกยืนได้ ้ ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล เลขาธิการมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ แถลงผลการดำเนินงานโครงการกล้า...ดี ว่า เพียง 4 เดือนในการดำเนินโครงการ สามารถช่วยฟื้นฟูคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของผู้ประสบอุทกภัยในภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง ได้ 988,460 คน ใน 13 จังหวัด 78 อำเภอ 498 ตำบล 3,347 หมู่บ้าน โดยใช้งบประมาณเพียง 42.7 ล้านบาท ในการจัดเตรียมชุด 3 พร้อม (พร้อมกิน พร้อมปลูก พร้อมเพาะ) จากเงินบริจาคที่ได้รับ 82.8 ล้านบาท ทั้งนี้ เงินที่เหลือจะถูกนำไปใช้ส่งเสริมและต่อยอด ศักยภาพของชุมชนเข้มแข็ง เพื่อสร้างชุมชนกล้า...ดี ให้เป็นแบบอย่างการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป “โครงการกล้า...ดี จะเป็นต้นแบบการฟื้นฟูคุณภาพชีวิตผู้ประสบภัยอย่างยั่งยืน นั่นคือ ช่วยเขาให้ช่วยตัวเองได้ ตามแนวทางของ พระบาทสมเด็ จ พระเจ้ า อยู่ หั ว และสมเด็ จ พระศรี น คริ น ทราบรมราชชนนี และเป็ น ที่ น่ า ยิ น ดี ว่ า ขณะนี้ ผู้ น ำท้ อ งถิ่ น ในจั ง หวั ด พระนครศรีอยุธยา อุทัยธานี ลพบุรี ชัยนาท พิษณุโลก นครสวรรค์ พิจิตร สิงห์บุรีและอ่างทอง มีแนวความคิดที่จะนำแนวทางของ กล้า...ดี ไปใช้รับมือกับอุทกภัยในอนาคต โดยยึดถือหลักการช่วยเหลือตนเอง ซึ่งเท่ากับโครงการประสบความสำเร็จลุล่วงได้ตาม เป้าหมาย” ผู้นำชุมชนจากจังหวัดต่าง ๆ ที่เข้าร่วมโครงการ กล่าวในทำนองเดียวกันว่า แนวทางของกล้า...ดี เป็นการฟื้นฟูอย่างยั่งยืน เพราะ เป็นปรัชญาที่สอนให้ช่วยเหลือตนเอง ไม่รอรับการบริจาคเพียงอย่างเดียว ขณะนี้หลายจังหวัดได้นำแนวทางกล้า...ดีมาปรับใช้ เพื่อรับมือและฟื้นฟูอุทกภัยแล้ว เช่น พระนครศรีอยุธยา มีการต่อยอด จัดตั้งศูนย์เพาะกล้า 16 แห่ง ครอบคลุมทั้งจังหวัดแล้ว ปิดทองฯ คว้ารางวัลสุริยศศิธร พลอากาศเอก กำธน สินธวานนท์ องคมนตรี มอบรางวัล ขยายผลห้วยคล้าย “สู่อุดรฯ โมเดล” รองชนะเลิศ การประกวดปฏิทินดีเด่นแก่นางปัทมา เพชรเรียง ผู้ จั ด การมู ล นิ ธิ ปิ ด ทองหลั ง พระฯ ในโอกาสที่ ส มุ ด บั น ทึ ก แม่แบบพัฒนาแหล่งน้ำทั่วประเทศ “ธรรมชาติ แ ละชี วิ ต ตามแนวพระราชดำริ ” ของมูลนิธิ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ติดตาม ปิ ด ทองหลั ง พระ สื บ สานแนวพระราชดำริ ได้ รั บ รางวั ล โครงการบริ ห ารจั ด การน้ ำ อย่ า งยั่ ง ยื น อ่ า งเก็ บ น้ ำ ห้ ว ยคล้ า ยอั น เนื่ อ ง รองชนะเลิศ การประกวดปฏิทินดีเด่น รางวัลสุริยศศิธร ครั้งที่ มาจากพระราชดำริ จ.อุดรธานี ภายใต้มูลนิธิปิดทองหลังพระฯ จากนั้น 32 ของสมาคมนักประชาสัมพันธ์แห่งประเทศไทย ประเภท นายกรัฐมนตรีและ ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล เลขาธิการมูลนิธิปิดทอง เทิดพระเกียรติสถาบันพระมหากษัตริย์ หลังพระฯ ได้จับมือให้คำมั่นว่า จะให้การสนับสนุนการดำเนินโครงการ ทั้งนี้ รางวัลสุริยศศิธร จัดขึ้นโดยวัตถุประสงค์เพือส่งเสริม ่ ทั้ ง ยั ง ตอบรั บ จะนำโมเดลอ่ า งห้ ว ยคล้ า ยฯ ขยายผลไปยั ง พื้ น ที่ อื่ น ๆ สนับสนุนให้เกิดความคิดริเริม สร้างสรรค์ ในรูปแบบของปฏิทิน ่ ทั่วประเทศ โดยขอให้ปิดทองฯ เป็นพี่เลี้ยงด้วย ที่มีคุณค่าต่อประชาชนและสังคมส่วนรวม 14
  • 15.
    สาระ...เพื่อการพัฒนาชนบทตามแนวพระราชดำริ บทความ จากพื้ น ที่ ที่ เ คยถู ก ขนานนามว่ า ไดโนเสาร์ แ ละสั ต ว์ โ ลกยุ ค ดึ ก ดำบรรพ์ อื่ น ๆ อย่ า งจระเข้ และเต่า “สนามเป้ า ” ในยุคสงครามเวียดนาม หุ่นจำลองแสดงวิวัฒนาการของมนุษย์ นาฬิกาแดด เพราะเป็นที่ซึ่งเครื่องบินรบของกองทัพอากาศสหรัฐนำลูกระเบิด ภูฝอยลม ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับคนไม่กลัวหนาว ที่ เ หลื อ จากการถล่ ม เวี ย ดกงมาปลดทิ้ ง ก่ อ นกลั บ สู่ ฐ านทั พ สหรั ฐ ด้วยอุณหภูมทเี่ คยลดต่ำถึง 3-4 องศาเซลเซียสมาแล้ว ทำให้ภฝอยลม ิ ู ในจังหวัดอุดรธานี ที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่กิโลเมตร เป็นแหล่งรวบรวมพันธุไม้เมืองหนาวนานาชนิด ทีสร้างความประทับใจ ์ ่ ภู ฝ อยลมบนเทื อ กเขาภู พ านน้ อ ยในวั น นี้ ไม่ ไ ด้ มี เ พี ย งซาก มากที่ สุ ด คื อ เทศกาลดอกทิ ว ลิ ป บานบนภู ฝ อยลม ในช่ ว งเดื อ น ประวัติศาสตร์จากสงครามเวียดนามที่ยืดเยื้อยาวนาน เป็นลูกระเบิด ธันวาคม-มกราคมของทุกปี ของกองทัพสหรัฐ อายุกว่า 40 ปีไว้ให้ดูเท่านั้น แต่ ภู ฝ อยลม จุดเริ่มต้นแห่งความอุดมสมบูรณ์ ที่ทำให้ภูฝอยลมทรงคุณค่า กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่มีความงดงามน่าตื่นตาตื่นใจ ในวันนี้ ในการเป็นป่าต้นน้ำสำคัญ เป็นที่เกิดของลำห้วยหลายสาย ของจังหวัดอุดรธานี เช่น ห้วยหลวง ห้วยสามพาด ห้วยกองสี ห้วยขี้เหล็ก ห้วยวังกุ่ม คือ ไม่เพียงคงความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ “โครงการเยาวชนอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้” ซึ่งได้ ป่าพันดอน–ปะโค ตำบลทับกุง อำเภอหนองแสง เท่านัน ภูฝอยลม ้ สร้ า งกระแสการอนุ รั ก ษ์ ใ นหมู่ เ ด็ ก และเยาวชนได้อย่างมากมาย ยั ง เป็ น ส่ ว นหนึ่ ง ของสวนรวมพรรณไม้ ป่ า 60 พรรษามหาราชิ น ี จนพัฒนารูปแบบมาเป็น “โครงการเยาวชนพิ ทั ก ษ์ ไ พร” ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์ไม้ป่าแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือมาไว้ ครอบคลุมพื้นที่ถึง 7 จังหวัด คือ อุดรธานี หนองคาย เลย สกลนคร เป็นประโยชน์ในการศึกษาหาความรู้ เก็บเมล็ดพันธุ์ไม้ ทั้งไม้ดอก นครพนม มุกดาหาร และหนองบัวลำภู ไม้ประดับ พืชโภชนาการ พืชมีพิษ พืชสมุนไพร ฯลฯ พลังนี้ คือพลังที่เปลี่ยนแปลงสภาพป่า จากที่ บนภูฝอยลม ยังสามารถกางเต็นท์พักแรมได้ มีกิจกรรมเดินป่า เคยถูกบุกรุกทำลายให้กลับมาเป็นผืนป่าสมบูรณ์ ของค่ า ยเยาวชนพิ ทั ก ษ์ ไ พร อุ ท ยานล้ า นปี ภู ฝ อยลม หุ่ น จำลอง อีกครั้ง 15
  • 16.
    สาระ...เพื่อการพัฒนาชนบทตามแนวพระราชดำริ ข่าว ปลูกป่าตามแนวพระราชดำรัส ต่อจากหน้า 1 ในพื้ น ที่ ต้ น น้ ำ ทั่ ว ประเทศในเดื อ นพฤษภาคม ทั้ ง กล้ า ไม้ เ นื้ อ อ่ อ น และกล้ า ไม้ เ นื้ อ แข็ ง โดยพั น ธุ์ ไ ม้ เ นื้ อ อ่ อ นที่ เ ป็ น ไม้ โ ตเร็ ว จะเป็ น หรือไม้เนื้อแข็ง ซึ่งจะให้ปลูกคละกันในแต่ละพื้นที่ และมอบให้ทุก ไม้ ป ระดู่ ส้ ม นางพญาเสื อ โคร่ ง สนสามใบ และเสี้ ย วดอกขาว กระทรวงที่มีพลังมวลชนในสังกัด เช่น อาสาสมัครเป็นผู้ขับเคลื่อน ส่ ว นไม้ เ นื้ อ แข็ ง หรื อ ไม้ โ ตช้ า จะเพาะกล้ า ไม้ จ ำพวกไม้ ต ระกู ล ก่ อ การปลูกป่า พร้อมกับเน้นสร้างมาตรการป้องกันการบุกรุกทำลายป่า ไม้ เ หมื อ ด ไม้ ท ะโล้ ซึ่ ง เป็ น ไม้ ดั้ ง เดิ ม ขึ้ น ตามสั น เขา โดยจะเน้ น และส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตามหน้าที่ กล้าไม้ที่เป็นพันธุ์พื้นเมืองของแต่ละพื้นที่ และใช้วิธีปลูกไม้เนื้ออ่อน ในวันเดียวกันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังได้ โตเร็วก่อน เพื่อเป็นการปรับสภาพดินให้มีความเหมาะสม คาดว่า ลงนาม คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ จะใช้ เ วลา 2-3 ปี จากนั้ น จึ ง จะปลู ก ไม้ เ นื้ อ แข็ ง โตช้ า ซึ่ ง จะ (กนอช.) ให้ นายสุเมธ ตันติเวชกุล กรรมการมูลนิธิปิดทองหลังพระ เป็ น การปลู ก เลี ย นแบบป่ า ธรรมชาติ ทำให้ ป่ า ฟื้ น ตั ว ได้ อ ย่ า งมี สืบสานแนวพระราชดำริ และ ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล เลขาธิการมูลนิธิ ประสิทธิภาพ ปิดทองหลังพระฯ เป็นทีปรึกษา กนอช. ซึงมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ่ ่ อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้กรมอุทยานฯ จะ ทางด้านกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรม สร้างฝายชะลอความชุ่มชื้น จำนวน 8 หมื่นฝาย ทั้งฝายชั่วคราว ฝาย ป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ปาและพันธุพช ได้จดทำแผนงาน ่ ์ ื ั กึ่งถาวรและฝายถาวร ให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน คือ ตั้งแต่เดือน รายละเอียดแผนการฟื้นฟูป่าต้นน้ำ 3.5 แสนไร่เสร็จแล้ว โดยเน้นการ มีนาคม-พฤษภาคม เพื่อเก็บกักชะลอน้ำไม่ให้น้ำไหลหลากลงมา ฟื้นฟูป่าในพื้นที่เสื่อมโทรมที่มีปัญหาการบุกรุก การทำฝายชะลอน้ำ อย่างรวดเร็ว และจะเป็นแหล่งน้ำต้นทุนสำหรับฟื้นตัวของผืนป่าด้วย การปลู ก หญ้ า แฝกเพื่ อ ลดการพั ง ทลายของหน้ า ดิ น ใน 8 ลุ่ ม น้ ำ ทั้งนี้ ป่าอนุรักษ์ลุ่มน้ำภาคเหนือกว่าสองแสนไร่ จะเป็นพื้นที่นำร่องใน สำคัญ คือ ปิง วัง ยม น่าน สะแกกรัง ป่าสัก เจ้าพระยาและท่าจีน ปี นี้ โดยภายใน 5 ปี จ ะขยายปลู ก ให้ ค รบ 4 ล้ า นไร่ และจะเพิ่ ม เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืน มาตรการแก้ปัญหาการบุกรุก รวมทั้งพัฒนาให้เป็นป่าสมบูรณ์อีกครั้ง นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากร ทั้ ง นี้ จ ะนำแนวทางการพั ฒ นาพื้ น ที่ จ ากศู น ย์ ศึ ก ษาการพั ฒ นา ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า แผนฟื้นฟูป่าต้นน้ำของกระทรวง ห้วยฮ่องไคร้ จังหวัดเชียงใหม่ มาเป็นต้นแบบฟื้นฟูป่า จะใช้รูปแบบการมีส่วนร่วมเป็นหลัก และดำเนินตามแนวโครงการ อนึ่ง ก่อนหน้านี้ หลังการลงพื้นที่เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหา พระราชดำริ จึงได้เชิญ ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล เลขาธิการมูลนิธ ิ อุทกภัย และการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ แม่ฟ้าหลวง และเลขาธิการมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ มาเป็นหัวหน้า ของคณะรั ฐ มนตรี แ ละคณะกรรมการ กยน. ระหว่ า งวั น ที่ 13-17 คณะทำงานเรื่องการฟื้นฟูป่า เพื่อนำต้นแบบโครงการที่ประสบความ กุมภาพันธ์ 2555 นายกรัฐมนตรีแถลงว่า ในแผนงานดูแลป่าต้นน้ำ สำเร็จมาแล้ว เช่น โครงการพัฒนาดอยตุง และโครงการห้วยฮ่องไคร้ รัฐบาลได้มอบหมายให้มูลนิธิปิดทองหลังพระฯ เป็นผู้กำหนดพื้นที่ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ มาปรับใช้ในการดำเนินการครั้งนี้ รวมทั้ง ปลูกป่าในพื้นที่ชุมชนตามโครงการแม่ฟ้าหลวงและมูลนิธิปิดทอง จะเน้นทำทั้งระบบ เช่น พัฒนาอาชีพ ให้คนปลูกป่า และช่วยดูแล หลั ง พระฯ สำนั ก งาน กปร. กำหนดพื้ น ที่ ป ลู ก ป่ า ในพื้ น ที่ ชุ ม ชน พื้นที่อนุรักษ์อย่างมีส่วนร่วม และการทำฝายชะลอน้ำ เป็นต้น โครงการหลวง กองทัพไทยกำหนดพื้นที่ปลูกป่าตามแนวชายแดน  นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ปาและพันธุพช ่ ์ ื และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิงแวดล้อม ประสานกระทรวง่ กล่าวว่า กรมอุทยานฯ จะเร่งเพาะกล้าไม้ 80 ล้านกล้า เพือให้ทนปลูก ่ ั มหาดไทยกำหนดพืนทีปลูกป่าในพืนทีสง และมีชุมชนอาศัยอยู่ ้ ่ ้ ู่ องคมนตรีแนะทางแก้ชนบท ต่อจากหน้า 1 ประธานมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ ตั้งความหวังว่า ชมรมสื่อ “ถ้ า สื่ อ มวลชน จะทำให้ บ้ า นเมื อ งเจริ ญ ขึ้ น อย่ า งแรก คื อ บ้านนอก จะทำ 2 อย่างให้ คือ ทำให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าที่อยู่ใน ผมขอเรื่ อ งความเป็ น ผู้ รู้ จ ริ ง สอง ต้ อ งเป็ น กลาง เป็ น ผู้ ที่ มั่ น คง ชนบท ได้เข้าใจว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นในสังคม ในประเทศและใน ใครจะทำให้ไปซ้ายไปขวาไม่ได้ ซึ่งมีกลไกอยู่สามประการด้วยกัน โลก และทางใดบ้าง ที่จะเอาการศึกษา การฝึกอบรม ไปทำให้เขา คือ หนึ่ง สื่อต้องรู้จักแยกถูกแยกผิด สอง สื่อต้องยึดมั่นในความ เก่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ เพื่อให้ชุมชนเข้มแข็งมากขึ้น ถูกต้อง และปฏิเสธในสิ่งที่ผิด และสาม ต้องมีความกล้าที่จะแสดง ก็จะเป็นประโยชน์มาก สิ่ ง ที่ ถู ก และผิ ด ให้ สั ง คมได้ รั บ รู้ แ ละตั ด สิ น ความเป็ น กลางทาง “พระเจ้าอยู่หัวเคยมีรับสั่งว่า ต้องทำให้คนไทยหายจน เพราะ วิชาชีพ จะทำให้สื่อสามารถจะทำหน้าที่ตัวเองได้เต็มที่ ซึ่งตรงนี้ เมื่ อ เขาหายจน เขาก็ จ ะเป็ น อิ ส ระ และเมื่ อ เขาเป็ น อิ ส ระแล้ ว ผมว่าสำคัญมาก สุดท้าย คือ จรรยาบรรณวิชาชีพ ความเป็นผู้มี ประเทศไทยจึงจะมีประชาธิปไตยที่แท้จริง ก็เลยเป็นความจำเป็น คุณธรรม เพราะสื่อเป็นพระ เป็นครู เป็นผู้พิพากษาสังคม เป็นอะไร ที่พวกเราจะต้องทำให้ชนบทเข้มแข็ง ให้เขาสามารถยืนอยู่ได้ด้วย ต่ออะไรหมด จึงต้องแบกความรับผิดชอบต่อสังคมไว้ด้วย” ตนเอง คิดเองได้ เป็นอิสระ นี่จึงเป็นความหวังของประเทศ” 16