1. Respiratory system | 1
กระในเด็กต่างจากผู้ใหญ่
- ในเด็กเป็นแล้วเมื่อโตจะหายไปได้ (Reversible)
- ในผู้ใหญ่จะ Irreversible เรียกว่า Lentigo เป็นกระ ถาวร
- ในรูปมีผื่นสีนำ้าตาลรูปใบไม้ เรียกว่า café-
aue-lait spot สามารถบ่งชี้ได้ว่าอาจมีความ
ผิดปกติของ NF Gene จะเป็น
Fibroneuromatosis หรือ tuberous
sclerosis
- อันนี้จะเป็นตุ่มขนาดเล็กๆ papule plaque
- อันนี้มีผื่นขอบยก เป็น plaque ขอบจะมีลักษณะขุยๆ
เป็นลักษณะของกลาก
อันนี้เป็นตุ่มหนองหลายอันรวมกัน มี Blister และ pustule อยู่รวมกัน
- อันนี้เรียกกว่า nodule/tumor เกิดตรงหลัง
- อันนี้คือ rash กน้อย ซึงเป็นการเรียกลักษณะอะไร
ของเด็ ผื่นแดง เกิดเมื่อเป็นลมพิษ ซึ่ง อ.
่
ฝากดูเรื่องของี่เป็นก้อน อาจไม่เป็นมะเร็งเสมอไปก็
ก็ได้ท urticaria กับ angioedema ซึ่ง
urticariaเรียกได้ป็นอันตราย ถ้า angioedema อันนี้
จะไม่เ
ความรุนแรงกว่า อาจมีการอุดของทางเดินหายใจได้
พวกนี้เป็นเรื่องของ Immunoglobulin ที่ ผิดปกติ ที่
ทำาปฏิกิริยากัน

2. Respiratory system | 2
อ. บอก…….ข้อสอบตรงนี้จะออกไม่ลึกมาก เช่น ตัวอย่าง
* ถ้าคนไข้มีลักษณะของผื่นขอบยกขนาด < 0.5 cm เรียกลักษณะดัง
กล่าวว่าอะไร............................
Secondary skin lesion
คนเมื่อมีรอยโรค มักจะชอบแกะเกา
 Scale : จะเป็นลักษณะขุยๆ
 Crust : เมื่อมีการแกะเกา แล้วมีหนองออก พอหนองแห้งเป็นสะเก็ด จะ
เรียกกว่า Crust
 Atrophy :การบางลงของผิวหนัง อาจมากจาการใช้ยา steroids ทา หรือ
ฉีดที่ผิวหนัง
 Lichenification : ผิวหนังหนาขึ้นเช่น บริเวณ ข้อศอก
 Erosion : การถลอก
 Excoriation : การถลอกแต่ลึกกว่า Erosion แต่ไม่ถงกับ Ulcer
ึ
 Fissure : เป็นร่องลึกลงไป ตำ่ากกว่าชั้น basement mem.
 Scar : เป็นแผลยึดรัง แบ่งเป็น Hypertropic scar กับ keloid
้
Keloid จะ เป็น secondary lesion ที่มีขนาดใหญ่กว่า รอยโรคที่เป็น
แผลจากการผ่าตัดจริง เช่น
บางคนที่เจอะหูแล้วจะพบตุ่มๆ ก้อน ๆ ทีใบหู คนแต่ละคนมีความเสี่ยงโรคไม่เท่า
่
กัน สังเกตได้จาก รอยที่ฉีด BCG (การฉีดวัคซีนที่ป้องกันวัณโรคตั้งแต่แรกเกิด)
ทีต้นแขน ถ้ามีความกว้างมากโอกาสก็สูง แล้วปกติคนกลุ่มผิวดำามีโอกาสเกิด
่
Keloid ได้งาย่
 Eschar : แผลที่เกิดตามหลังจาก ไฟ้ไหม้ เป็น thirth degree burn จะมี
ผื่นแข็งขาว
 Petichiae : Petichiae กับ .....................٢١.٢١ จะมีลักษณะ มีจุด
สีแดงๆ เล็กๆ ทีบริเวณผิวหนัง จะคล้ายๆ กัน ................... จะเป็นการ
่
ขยายตัวของหลอดเลือด ส่วน Petichiae เป็นจุดเลือดออก วิธีดูความต่าง
ให้ใช้ สไลด์แก้วทาบกด ถ้า Petichiae กดแล้วสีจะไม่จางเห็นเป็นจุดเลือด
ออกอยู่ ไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง แต่ ................... กดแล้วสีจะจางหาย
ไปเพราะเป็นการขยายตัวของหลอดเลือด
 Purpura, Ecchymosis : จะเป็นเลือกออกขนาดใหญ่
อันนี้เป็น Scale หรือเป็น Lichenification ก็ได้

3. Respiratory system | 3
อันนี้เรียกกว่า Crust เป็นพวกนำ้าเหลืองทีมันแห้งกรัง(เขียยถูกป่าวอะ)
่
อันนี้เป็น Atrophy ทีได้รับยา steroid ฉีดที่ก้น จะเห็นว่า
่
ผิวหนังมีการปุ๋มลงไป แล้วพบ site effect จาก steroid
ทีskin เป็น striae
่
อันนี้เป็น Secondary lesion ทีเกิดจาการเกาอันนี้เป็น Erosion หรือ
่

4. Respiratory system | 4
อันนี้เป็น fissure มีแผลลึกลงไป อันนี้เป็น
Petichiae
อันนี้คนไข้น่าจะเป็น Gangrene แล้วมีการลอกของผิวหนัง
อันนี้เป็นแผลถูกแทง น่าจะมาจากของแข็งมีคม เป็น Laceration หรือ incision
ถ้าลึกลงไปจะเป็น penetration ถ้าตื้นกว่าจะเป็น incision ถ้าเกิดจาก
ของแข็งไม่คม พวกนี้เรียกว่า Laceration
Definition of microscopic terms
Hyperkeratosis : มีชั้นของ stratum cornium หนาตัวมากขึ้น
•

5. Respiratory system | 5
Parakeratosis : ของ stratum cornium หนาตัวมากขึ้นแล้วยังมี nucleus
•
เหลืออยู่ (ปกติมันจะไม่เหลืออยู่แล้ว)
Hypergranulosis : ชั้น stratum granulosum หนาตัวขึ้น
•
ปล. บางรูปที่อ.พูด แล้วไม่รู้จะลงรูปไหน ยังไม่ได้ใส่มา มีไม่กี่รปที่ไม่ใส่มา แต่ที่
ู
ลงมาคิดว่าน่าจะถูกต้อง
และก็มีจุดที่ฟังไม่ออก 1 จุด