More Related Content More from นู๋หนึ่ง nooneung
More from นู๋หนึ่ง nooneung (20) Km หนังลาว1. การจัดการองค์ความรู้สาขาวิชาสื่อสารการแสดง
ร่วมสมัย
Knowledge Management ประจำาปี 2555
ประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ลาว
ผู้จัดการความรู้ อาจาร
ย์ณัฐพงค์ แย้มเจริญ
การวิจัยเรื่อง “แนวทางพัฒนาภาพยนตร์ลาวสู่ระบบ
อุตสาหกรรม” มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา ประวัติและความเป็นมา
ของภาพยนตร์ลาว สถานภาพอุตสาหกรรมภาพยนตร์ลาวในยุค
ปัจจุบัน และเพื่อนำาเสนอแนวทางพัฒนาภาพยนตร์ลาวสู่ระบบ
อุตสาหกรรม การวิจัยนี้เป็นการศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพ
(Qualitative Research) แบบใช้หลายวิธีการ (Multiple
Methodology) ประกอบด้วย การศึกษาจากเอกสาร
(Documentary Research) การสังเกตการณ์แบบมีส่วนร่วม
(Participant Observation) และการสัมภาษณ์แบบเจาะลึก (In-
Depth Interview) และใช้การวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative
Research) โดยการสำารวจ (Survey) กลุ่มตัวอย่างจำานวน 400
ชุด จากผลการวิจัยสามารถนำาเสนอ สรุปผลการศึกษา อภิปราย
ผลตามวัตถุประสงค์ และข้อเสนอแนะได้ดังต่อไปนี้
สรุปผลการศึกษา
1 ประวัติและความเป็นมาของภาพยนตร์ลาว
ผลการศึกษาด้านประวัติและความเป็นมาของภาพยนตร์ลาว
พบว่าสามารถจำาแนกเป็น 6 ยุคสำาคัญ ๆ ได้ดังนี้
ยุคที่ 1 ยุคภาพยนตร์เพื่ออุดมการณ์ทางการเมือง
ในยุคที่หนึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากาการล่าอาณานิคม โดย
เฉพาะภายหลังสงครามโลกครั้งที่สองภาพยนตร์มีหน้าที่ในการต่อ
ต้านประเทศอาณานิคม และเป็นเครื่องมือเพื่อถ่ายทอดอุดมการณ์
ทางการเมือง ซึ่งในระหว่างปี ค.ศ.1950 – 1974 สปป.ลาวแบ่ง
ออกเป็น 2 ฝ่ายคือลาวทางเหนือ ได้แก่ แขวงพงสาลี และซำา
เหนืออยู่ภายใต้การปกครองของฝ่ายลาว และลาวทางใต้อยู่ภาย
2. ใต้การปกครองของฝ่ายพระราชอาณาจักรลาว ยุคสมัยดังกล่าว
นอกจากภาพยนตร์ที่ผลิตจากฝ่ายการเมืองทั้งสองฝ่ายแล้ว ยังมี
การนำาเข้าภาพยนตร์เพื่อความบันเทิงจากจีน ไทย อินเดีย โดย
สายภาพยนตร์ถือเป็น 3 ใน 4 ของภาพยนตร์ที่จัดฉายใน
สปป.ลาว โรงภาพยนตร์
ยุคที่ 2 : ยุคปลดปล่อย (ค.ศ.1975 – ค.ศ.1999)
ภายหลังจากสงครามเสร็จสิ้นลง ในระหว่างปี ค.ศ. 1975 –
1985 เป็นช่วงที่ประเทศลาวกำาลังสถาปนาเป็น ประเทศ
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทุกอย่างในสังคมลาวมี
การเปลี่ยนแปลงไปไม่ว่าระบบการเมือง เศรษฐกิจ การศึกษา รวม
ทั้งระบบสื่อมวลชนจากที่เคยมี 2 ระบบ ปัจจุบันเป็นระบบเดียวกัน
คือระบบสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทุกอย่างใน
ระบบที่เคยเป็นของเอกชนก็จำาต้องโอนมาเป็นของรัฐหรือกำากับ
ดูแลโดยรัฐ สื่อภาพยนตร์ก็เช่นกัน โรงภาพยนตร์บางโรงยังคง
ดำาเนินการฉายต่อไปแต่ได้ปรับแนวทางการดำาเนินกิจการให้เข้า
กับสภาพสังคม การเมืองที่เปลี่ยนแปลง ความเข้มงวดกวดขันนี้เอง
ทำาให้ในที่สุด โรงภาพยนตร์ค่อย ๆ ปิดกิจการลงจนหมดสิ้นจาก
ประเทศลาวในยุคนี้
ตั้งแต่ปี ค.ศ.1986 พรรคปฎิวัติลาวได้มีความคิดริเริ่มเพิ่อ
แสวงหาแนวทางการดำาเนินงานใหม่ หรือเรียกกันว่า จินตนาการ
ใหม่โดยมีเป้าหมายคือการดัดแปลงกลไกคุ้มครองเก่าที่ขาด
ประสิทธิภาพไปสู่กลไกความคุ้มครองใหม่โดยเริ่มจากการ
เปลี่ยนแปลงความรับรู้ เปลี่ยนแปลงจินตนาการ เพื่อจำาแนกให้ได้
ว่าอันใดคือกลไกเก่า และอันใดคือกลไกใหม่ เพื่อทำาให้แต่ละคน
แต่ละหัวหน่วยเศรษฐกิจมีการเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านความรับรู้
และทั้งในด้านการกระทำา
ในเวลาดังกล่าวนี้ ประเทศลาวเริ่มมีระบบสื่อสารมวลชนเพิ่ม
มากขึ้น วิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ขยายตัวออกไป ขณะ
ที่ภาพยนตร์อยู่ในช่วงที่ซบเซา แม้ว่ารัฐบาลลาวก็ได้ตระหนักว่า
ภาพยนตร์เป็นเครื่องมือที่สำาคัญอย่างหนึ่งของการโฆษณา
ประชาสัมพันธ์โดยสามารถใช้ภาพยนตร์เป็นเครื่องมือในการ
อบรมฝึกสอนและให้เห็นชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนและบ้านเมือง
โดยนำาสิ่งดีๆมาเผยแพร่ ดังที่เคยกระทำามาเมื่อสมัยการต่อสู้ปลด
ปล่อยชาติจนสามารถระดมประชาชนเป็นจำานวนมากมายเพื่อ เข้า
ร่วมกระบวนการและยังใช้ภาพยนตร์โฆษณาเผยแพร่อิทธิพลของ
ประเทศไปสู่ต่างประเทศด้วย เพราะตระหนักรู้ดีถึงอิทธิพลของ
2
3. ภาพยนตร์ที่สามารถชักจูงโน้มน้าวใจผู้ดูให้คล้อยตามไปได้โดย
ไม่รู้ตัว
ยุคที่ 3 ยุคกำาเนิดนักสร้างและภาพยนตร์อิสระ
(ค.ศ.2000 – ค.ศ.2006)
กระแสการพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยถือเป็นบริบทที่
สำาคัญที่ส่งผลต่อความตื่นตัวทางด้านภาพยนตร์ใน สปป.ลาวมีคน
รุ่นใหม่จำานวนหนึ่งสนใจและเห็นความสำาคัญในการเรียนทางด้าน
ภาพยนตร์และสื่อสารมวลชนซึ่งส่งผลต่อการเปลี่ยนโฉมหน้าของ
ภาพยนตร์ลาวในยุคต่อจากนี้อย่างก้าวกระโดด
ยุคที่ 4 : ยุคคืนชีพภาพยนตร์ลาว (ค.ศ 2007 –
ค.ศ.2010)
ตั้งแต่ก้าวข้ามสู่ปี ค.ศ.2000 เป็นต้น ประชาคมโลกมีการ
ติดต่อสื่อสารกันมากขึ้น กระแสโลภิวัตน์นับเป็นปรากฎการณ์หนึ่ง
ที่สำาคัญที่ทำาให้สื่อมีอิทธิพลและมีบทบาทระหว่างกัน ข้อมูล
ข่าวสารสามารถเข้าถึงและแลกเปลี่ยนกันไปมาระหว่างที่หนึ่งไป
ยังที่หนึ่งจึงทำาได้โดยสะดวก
ในทศวรรษปัจจุบันภาพยนตร์จัดได้ว่ามีอิทธิพลอย่างสูงทั้ง
ในเชิงเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ด้วยเหตุนี้ในปี ค.ศ.2007
รัฐบาลลาวจึงได้ทบทวนการจัดการหน่วยงานภาครัฐอีกครั้งโดย
ได้พิจารณา ศูนย์ภาพยนตร์และวิดีโอ ให้ยกระดับขึ้นเป็น กรม
ภาพยนตร์ ภายใต้การควบคุมดูแลของกระทรวงแถลงข่าวและ
วัฒนธรรมเช่นเดิม โดยมีนายบุญเจ้า พิจิตร ดำารงตำาแหน่งเป็น
อธิบดีกรมภาพยนตร์ซึ่งบทบาทของกรมภาพยนตร์ในยุคนี้มีหน้าที่
ชัดเจนขึ้นคือการเผยแพร่และอนุรักษ์ภาพยนตร์เก่าของประเทศ
รวมถึงผลิตภาพยนตร์เพื่อถ่ายทอดข้อมูลข่าวสารของรัฐ
ยุคที่ 5 : ยุคปัญญาชนภาพยนตร์ลาว (ค.ศ.2011 –
ปัจจุบัน)
ผลพวงจากกระแสโลกาภิวัตน์ที่ยังพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อ
เนื่อง ทำาให้การได้รับข่าวสารเครือข่ายสังคมออนไลน์เป็นไปได้
ง่ายขึ้น ภาพยนตร์เป็นสิ่งหนึ่งที่คนทุกมุมโลกมีโอกาสแลกเปลี่ยน
และรับชมได้โดยง่ายผ่านเครือข่ายทางอินเตอร์เน็ต สังคมโลก
แคบคลงด้วยการติดต่อสื่อสาร การทำาความรู้จักกันของคนใน
วงการภาพยนตร์เป็นไปอย่างง่ายดายโดยอาจไม่ต้องออกเดินทาง
ไปไหน เกิดการรวมกลุ่มของคนทำาภาพยนตร์ลาวขึ้นอย่างไม่เป็น
ทางการเพื่อจะผลิตภาพยนตร์ร่วมกันในยุคนี้คนลาวรุ่นใหม่ที่ได้
รับการส่งไปเรียนยังต่างประเทศในสถาบันการศึกษาที่ต่าง ๆ เริ่ม
ทยอยกลับมายัง สปป.ลาวมากยิ่งขึ้น หลายคนสำาเร็จการศึกษา
3