2. DataSourcesสามารถรวบรวมได้จากภายในและภายนอกองค์กร
เช่น ข้อมูลจากรายงาน, ข้อมูลที่เก็บไว้แต่ไม่ได้น�ามาใช้วิเคราะห์, ข้อมูล
บางอย่างที่ยังไม่ได้เก็บแต่สามารถน�ามาใช้ประโยชน์ได้ และข้อมูลจาก
พาร์ทเนอร์ ข้อมูลจากสื่อโซเชียล เป็นต้น โดยในช่วงแรกของการเลือก
ข้อมูลอาจจะเริ่มจากข้อมูลภายในองค์กรในกรณีที่มีจ�านวนมากพอกับ
การท�าการวิเคราะห์
ขณะที่ในมุมของเทคโนโลยีที่ควรค�านึงถึงได้แก่ เครื่องมือเพื่อ
การน�าเข้าหรือเก็บข้อมูล (Data Ingestion) สตอเรจ (เป็นส่วนที่ต้องใช้
งบประมาณสูง) ระบบที่เป็นเครื่องมือในการประมวลผลและวิเคราะห์
(Processing Tools/Analyze) และเครื่องมือเพื่อการแสดงผล (Data
Visualization) ดังภาพประกอบที่ 2
ภาพประกอบที่ 1
ภาพประกอบที่ 2
ในโอกาสนี้นิตยสาร IT Trends ขอน�าเสนอเนื้อหาบางส่วนในงาน
สัมมนาเพื่อให้ท่านผู้อ่านได้รู้ถึงความน่าสนใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีและเรื่อง
ราวที่ถูกกล่าวถึงในงาน โดยจัดท�าเป็นบทความประกอบในคอลัมน์ Hot
Issue และ Smart Thailand ส่วนเนื้อหาเกี่ยวกับภาพรวมของ IT Trends
2018Asia'sRisingPowerได้น�าเสนอในคอลัมน์นี้ประกอบกับเรื่องหลัก
Future of Big Data on Cloud Computing
FUTURE OF BIG DATA ON CLOUD COMPUTING
ในโอกาสนี้รศ.ดร.ธนชาติ นุ่มนนท์ ผู้อ�านวยการ สถาบันไอเอ็มซีได้
บรรยายในหัวข้อFutureofBigDataonCloudComputingในงานสัมมนา
ดังกล่าว ซึ่งเป็นแนวทางที่หลายองค์กรประสบความส�าเร็จ และชี้ให้เห็น
ว่าการท�าBigDataบนCloudเป็นแนวโน้มโลกที่เสมือนทางเลือกที่ดีกว่า
แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะเดินหน้าโครงการ Big Data นั้น องค์กร
จ�าเป็นต้องท�าคววามเข้าใจให้ถูกต้องว่าBigDataคืออะไรมีองค์ประกอบ
ใดบ้าง มีกระบวนการเตรียมความพร้อมอย่างไร และกรณีศึกษาตอบ
TCO-ROI
3 องค์ประกอบของ BIG DATA
ปัจจุบันยังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับการท�า Big Data ซึ่ง
กระบวนการที่แท้จริงแล้วคือ การน�าข้อมูลจ�านวนมากจัดเก็บลงใน Data
Lake เป็นข้อมูล Transaction เพื่อใช้ในการประมวลผลและวิเคราะห์ ซึ่ง
สามารถใช้ท�านายสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้
ส�าหรับองค์กรใดที่จะท�าBigDataให้คิดถึงการบริหารจัดการหรือ
Business Transformation ก่อนที่จะคิดถึงเทคโนโลยี ควรจะก�าหนดเป้า
หมาย นโยบาย และผลลัพธ์ที่ต้องการ ซึ่งท้ายที่สุดคือ การคาดการณ์สิ่ง
ที่จะเกิดขึ้น (What Will Happen) โดยแนวทางในการด�าเนินการให้มุ่งไป
ในทิศทางของ Data Lake และ Data Science ไม่ใช้การท�า Data Ware-
house และ Business Intelligence
องค์ประกอบของ Big Data มีดังนี้Data Sources, Technology
และ Analytics (ดังภาพประกอบที่ 1)
IT TRENDS | SPECIAL REPORT8
3. BIG DATA บน CLOUD ทางเลือกที่ดีกว่า
ในหลายองค์กรกล่าวถึงBigDataมาราวสามปีแต่จนปัจจุบันก็ยัง
ไม่ได้เริ่มต้นท�าด้วยเพราะติดอุปสรรคด้านการลงทุนที่ต้องใช้งบประมาณ
มหาศาล และอาจจะยังหาค�าตอบให้เกิดความคุ้มค่าได้ไม่ครอบคลุม อีก
ทั้งยังติดปัญหาว่าหากลงทุนไปแล้วเมื่อข้อมูลเติบโตขึ้นองค์กรจะต้องซื้อ
สตอเรจและเซิร์ฟเวอร์เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งการลงทุนเทคโนโลยีเอง หรือ
On Premise อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก
ส�าหรับทางเลือกที่ดีกว่าคือ การท�า Big Data บน Cloud เพราะมี
ข้อดีหลายประการ ได้แก่
1.ไม่ต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล การใช้งานแบบ Cloud จะมีค่าใช้
จ่ายตามการใช้งานที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งอาจจะจ่ายเพียงหลักร้อย
หรือหลักพันบาทเท่านั้น เมื่อใช้งานเสร็จแล้วก็คืนทรัพยากร
ทั้งหมดให้แก่ผู้ให้บริการ
2 ไม่ต้องเสียค่าบ�ารุงรักษาฮาร์ดแวร์ และระบบต่างๆ
3.ไม่ต้องจ้างพนักงานเพิ่มเพื่อท�าหน้าที่ดูแลระบบประหยัดการใช้
พื้นที่ส�านักงานในกรณีที่ต้องเช่าพื้นที่เพิ่มให้กับคนและเครื่อง
4.สามารถเริ่มท�า Big Data ได้ทันทีในเวลาไม่กี่นาที แต่หากจะลง
เครื่องเองต้องเสียเวลาท�าแผน ตั้งงบประมาณ ศึกษาเทคโนโลยี
สั่งซื้อเครื่อง อิมพลีเม้นต์ระบบ กระทั่งใช้งานได้อาจต้องใช้เวลา
หลายเดือน
5.สามารถเพิ่มพื้นที่การใช้งานและประมวลผลได้ตามต้องการใน
ทันที
BigDataบนCloudมีผู้ให้บริการหลายรายโดยมีบริการสามส่วน
คือ Big Data Infrastructure, Big Data Platform และ SaaS ส�าหรับ
องค์กรที่มีข้อกังวลด้านความปลอดภัยของข้อมูลนั้นควรจะมองในมุมของ
การน�าข้อมูลออกสู่ภายนอกองค์กรที่ไม่เกิดความเสียหาย เช่น ข้อมูล
การใช้จ่ายของลูกค้าโดยตัดข้อมูลส่วนบุคคลออกก่อนที่จะน�าเข้าระบบ
Big Data บน Cloud ซึ่งจะน�าเข้าเพียงแค่ข้อมูล Transaction ของลูกค้า
เท่านั้น
ดังนั้นBigDataบนCloudจึงเป็นทางเลือกที่ดีองค์กรธุรกิจขนาด
ใหญ่ต่างประเทศทั่วโลกต่างเลือกแนวทางนี้ โดยไม่ได้มองเพียงเรื่องของ
การลงทุนที่ต้องใช้เงินมหาศาล แต่มองว่า Big Data บน Cloud เป็น
นวัตกรรมแห่งยุคของการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี
IT TRENDS 2018
ASIA'S RISING
POWER
IT Trends 2018 Asia's Rising Power ได้
เผย 10 เทคโนโลยีที่มาแรง และมีผลต่อการ
ดําเนินธุรกิจนับจากปีนี้ไป หากองค์กรใดไม่
เรียนรู้ศึกษาเพื่อนําไปประยุกต์ใช้กับองค์กร
ในอนาคตอันใกล้ อาจจะต้องพลาดจากเวที
การแข่งขันทางธุรกิจก็เป็นได้
1 พบกับ AI (ARTIFICIAL INTELLIGENCE) ได้รอบตัว
หนึ่งในสิ่งที่เริ่มเกิดขึ้นแล้ว โดยที่ผู้บริโภคไม่รูตัวเลยคือ การเข้ามา
ของปัญญาประดิษฐ์ หรือAIจะมีบทบาทในการตัดสินใจมากขึ้นและช่วย
ให้ชีวิตของผู้ใช้งานสะดวกขึ้น ดังจะเห็นได้จากการที่สมาร์ทโฟนหลาย
แบรนด์เริ่มน�าเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยประมวลผล เริ่มจากสิ่งที่เห็นได้
ง่ายๆ คือ โหมดกล้องในสมาร์ทโฟนที่ AI จะเข้ามาช่วยเลือกโหมดถ่าย
ภาพที่เหมาะสมที่สุดให้
อีกส่วนที่เริ่มเห็นมากขึ้นคือ การที่องค์กรเริ่มมีการพัฒนาและน�า
แชตบอทมาใช้งานเพื่อตอบสนองลูกค้าในการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น และ
จะได้เห็นการพัฒนาแอพพลิเคชั่นบนพื้นฐานของการน�าAIมาใช้งานเพิ่ม
มากขึ้นในอนาคต
2. MACHINE LEARNING เร็ว-แม่นยําขึ้น
อีกสิ่งที่มาคู่กับ AI ก็คือ เทคโนโลยีอย่าง Machine Learning ที่
เข้ามาช่วยในการประมวลผลซึ่งแน่นอนว่ายิ่งมีข้อมูลการใช้งานเพิ่มมากขึ้น
เท่าไร การประมวลผล และความแม่นย�าในการค�านวณก็จะยิ่งเพิ่มขึ้น
ตามไป
ประกอบกับการที่องค์กรธุรกิจจะเริ่มให้ความส�าคัญกับเทคโนโลยี
ดังกล่าว และน�ามาช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลของผู้บริโภค เพื่อให้องค์กร
สามารถปรับเปลี่ยนหรือคิดค้นบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า
ได้หลากหลายขึ้น
้
photo : www.freepik.com
SPECIAL REPORT | IT TRENDS 9
4. 3. ได้เวลาใช้งาน IOT
การมาของ IoT หรือ Internet of Things จะกลายเป็นเครื่องมือ
ส�าคัญที่ช่วยให้ทั้ง AI และ Machine Learning ท�างานได้ดียิ่งขึ้น จาก
ข้อมูลของผู้ใช้งานปริมาณมหาศาลที่เกิดขึ้นประกอบกับการที่โครงสร้าง
พื้นฐานในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในประเทศที่สมบูรณ์มากขึ้น จะช่วย
เร่งการมาของอุปกรณ์ IoT ให้เร็วขึ้น
โดยจะเห็นได้จากการที่ผู้ให้บริการโทรคมนาคมเริ่มส่งสัญญาณถึง
ความพร้อมต่อการให้บริการเครือข่าย IoT หรือแม้แต่แบรนด์ผู้ผลิต
คอมพิวเตอร์ ก็พร้อมจะน�าเสนอแพลตฟอร์มในการเชื่อมต่อ IoT ที่หลาก
หลายมากยิ่งขึ้นไม่นับกับปริมาณอุปกรณ์ IoTในฝั่งของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่
จะเริ่มทยอยเข้ามาท�าตลาดในประเทศไทย
4.
BLOCKCHAIN AN INVENTION THAT COULD
CHANGE OUR WORLD
Blockchainหรือกลไกการกระจายอ�านาจจากศูนย์กลางจะเข้ามา
สร้างความท้าทาย และการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของการให้บริการ โดย
จะมีผู้ให้บริการใหม่ๆเกิดขึ้นมากมายโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการเงิน
โรงงานผลิต รีเทล และเฮลท์แคร์
เพียงแต่ว่าด้วยการที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นอาจจะยังต้อง
รอการพิสูจน์ และการควบคุมที่เหมาะสมเพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือใน
การใช้บริการ
5. เข้าสู่ยุค CLOUD 2.0
ที่ผ่านมาเมื่อพูดถึงการลงทุน Cloud หรือการใช้งานส่วนใหญ่จะ
เกิดขึ้นกับองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ ทั้งในแง่ของการหันมาใช้งาน Public
Cloud หรือลงทุนท�า Private Cloud มาใช้งาน
แต่ปัจจุบันCloudกลายเป็นปัจจัยที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถทราน
ฟอร์มสู่ดิจิทัลได้ เพียงแต่ว่าในการใช้งานCloudต้องค�านึงถึงผลประโยชน์
ต่อเนื่องที่ได้มา ไม่ใช่แค่การลงทุนเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการใช้งานดาต้า
เซ็นเตอร์ แต่ต้องมองถึงการน�าระบบ Cloud มาช่วยในการประมวลผล
เพื่อท�าให้ธุรกิจเดินหน้าไปได้
ขณะเดียวกันเมื่อการใช้งานCloudเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต
การใช้งาน Cloud ก็จะขยายสู่ธุรกิจขนาดกลางและย่อย รวมถึงผู้บริโภค
ทั่วไปที่สามารถเข้าถึงบริการ Cloud ได้ง่ายขึ้น
6. BIG DATA บน CLOUD
ต่อเนื่องจากยุคของ Cloud 2.0 ที่องค์กรธุรกิจจ�าเป็นต้องมีการ
วางแผนเพื่อบริหารจัดการข้อมูลปริมาณมหาศาลที่เกิดขึ้นเพื่อน�ามาใช้
ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด ดังนั้นจุดนี้ทั้ง AI และ Machine Learning จะ
เข้ามามีส่วนร่วมเป็นอย่างมากในแง่ของการจัดการข้อมูลโดยจะเน้นไปที่
การจัดการ Structured Data หรือข้อมูลที่ถูกจัดเก็บแบบมีโครงสร้าง
ชัดเจน และ Unstructured Data หรือข้อมูลประเภทอื่นๆ ที่ถูกจัดเก็บบน
Cloud ซึ่งปัจจุบันผู้ให้บริการทั้งหลาย ต่างก็มีผลิตภัณฑ์ที่มารองรับการ
ประมวลผลข้อมูลแล้ว
ปัจจุบัน CLOUD กลายเป็น
ปัจจัยที่จะช่วยให้ธุรกิจ
สามารถทรานฟอร์มสู่ดิจิทัล
ได้ เพียงแต่ว่าในการใช้งาน
CLOUD ต้องมองถึงการนํา
ระบบ CLOUD มาช่วยใน
การประมวลผล เพื่อทําให้
ธุรกิจเดินหน้าไปได้
IT TRENDS | SPECIAL REPORT10