Explain the 5 stages of Design Thinking

1. Design Thinking #1
Concepts and Process
Asst. Prof. Nattiya Bunwirat, Ph.D.

3. 1:EMPATHIZE (Understand)
เข้าอก เข้าใจ (ทาความเข้าใจปัญหา/ความต้องการ)
What is it?: Conduct research to develop an understanding of your users.
How?: Interview, Questionnaire, Observation
การนาปัญหาของเจ ้าของโจทย์งานมาเป็นจุดเริ่มต ้นในการคิด
งานออกแบบ การหาคาตอบจากศูนย์ โดยไม่ใช ้สมมติฐาน
หรืออคติส่วนตัว
คาถามหลักที่เราต ้องหาคาตอบ คือ
“เจ้าของโจทย์ต้องการอะไร (needs/ requirements)”

4. 2: DEFINE (Understand)
นิยาม (สรุปข้อมูล)
What is it?: Combine all your research and observe where your target’s
problems exist.
คือการสรุปข ้อมูลจากขั้นตอนที่แล ้วเพื่ออธิบาย ‘ปัญหาของ
เจ ้าของโจทย์’ ออกมาให ้ชัดเจนที่สุด
การสรุปปัญหาของที่ดีต ้องตอบโจทย์ให ้ได ้ว่า ‘เขาเป
็ นใคร
who’ ‘เขาทาอะไร เขาต้องการอะไร what’ ‘ทาไมเขา
ต้องการสิ่งนั้น why’
เช่น ‘เขาเป
็ น sale ออกต่างจังหวัดบ่อย อยากหาวิธีให้
อาหารแมวเวลาที่ตัวเองไม่อยู่บ้าน เพราะกลัวแมวตาย’

5. Conducting an Interview
Preparation for Interview
1.Choose a setting with little distraction.
2.Explain the purpose of the interview.
3.Address terms of confidentiality.
4.Explain the format of the interview.
5.Indicate how long the interview usually takes.
6.Tell them how to get in touch with you later if they want to.
7.Ask them if they have any questions
8.Don't count on your memory to recall their answers.

6. Conducting an Interview (Cont.)
Types of Interviews
1.Informal, conversational interview
2.General interview guide approach
3.Standardized, open-ended interview
4.Closed, fixed-response interview
Structured interview: สัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง
Semi-structured interview: สัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง

7. Conducting an Interview (Cont.)
Wording of Questions
1.Wording should be open-ended.
2.Questions should be as neutral as possible.
3.Questions should be asked one at a time.
4.Questions should be worded clearly.
5.Be careful asking "why" questions.

8. Let’s practice ‘Interview’
ลุงเฮียงขายกาแฟโบราณ
ในเพิงข้างทางใกล้ตลาดสด อ.แม่ออน

9. 3: IDEATE (Explore)
สร้างสรรค์ (รวบรวม คัดกรองไอเดียที่น่าทดลอง)
What is it?: generate a set of ideas to address those unmet needs
‘ระดมสมอง Brainstorm’ ออกไอเดียหาความคิดใหม่ ๆ
มาแก ้โจทย์ที่เราตั้งไว ้ในข ้อที่แล ้ว ยิ่งเราสามารถออกไอเดีย
ได ้เยอะ สามารถ ‘คิดนอกกรอบ’ ได ้ดี
- คิดให ้หลากหลาย ให ้เยอะที่สุด โดยที่ยังไม่ต ้องตัดสินว่าไอเดียนั้นดีหรือไม่ดี
- หลังจากนั้นเราก็ต ้องเลือกว่าไอเดียไหน ‘น่าทดลอง’ โดยอาจจะเลือกจากไอเดียที่น่าจะ
ได ้ผลที่สุด หรือ ทาได ้จริงมากที่สุดก็ได ้เราสามารถนาสองถึงสามไอเดียมารวมกันเป็น
คาตอบเดียวกันก็ได ้

10. 4: PROTOTYPE (Materialize)
จาลอง (สร้างแบบจาลอง เพื่อนาไปทดลองใช้)
What is it?: Build representations (model/ prototype) for a subset of your ideas.
สร ้างแบบจาลองตามไอเดียที่ดีที่สุด แล ้วถามตัวเองว่า
‘สามารถช่วยตอบโจทย์ของเจ้าของโจทย์ได้ดีแค่
ไหน Does it work?’ (ก่อนที่จะนาไปทดลองในข ้อ
ต่อไป)
- ในช่วงแรกเราไม่ควรลงทุนหรือลงเวลามากในการสร ้างแบบจาลอง เพราะสิ่งที่เราต ้องให ้
ความสาคัญมากกว่าคือการเรียนรู้เพื่อมาปรับปรุงเพิ่มเติมในอนาคต
- แบบจาลองที่ดีต ้อง ‘สามารถแทนไอเดียที่คุณอยากจะนาเสนอได้’ และ ‘ทาให้คุณรู้ได้ว่า
ส่วนไหนของไอเดียที่เจ้าของโจทย์ ชอบ หรือ ไม่ชอบ’

11. 5: TEST (Materialize)
ทดสอบ (เก็บข้อมูล “อะไรที่เขาชอบและไม่ชอบ”)
What is it?: Evaluate the prototype by asking real users to use it
การเก็บข ้อมูลอย่างรวดเร็ว เราต ้องมีการ ‘ปรับเปลี่ยน adjust,
ปรับปรุง improve, แก้ไข revise’ ซ้าหลายรอบเพื่อให ้ได ้
คาตอบที่ดีที่สุด คาตอบที่คุณควรได ้ก็คือ ‘อะไรที่เจ้าของโจทย์
ชอบ’ และ ‘อะไรที่เราต้องปรับปรุง’
- หากในขั้นตอนนี่เราคิดว่า ‘ไอเดียไม่สามารถไปต่อได้’ เราก็ต้องกลับไปดูไอเดียในขั้นตอน
สาม (Ideate) ใหม่อีกรอบ