More Related Content
More from Theerayut Ponman
More from Theerayut Ponman (20)
บทที่ 1
- 4. 2. การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตโต, 2539 : 2 - 4 ) กล่าวไว้ว่า ทรัพยากรมนุษย์เป็น
คาที่เกิดมาไม่นานนัก (เกิดในช่วง ค.ศ. 1965 – 1970 คือ พ.ศ. 2508 – 2513) เป็นแนวคิดที่
เกิดขึ้นในช่วงที่เน้นเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจ และต่อมาก็ขยายไปถึงการพัฒนาสังคม
พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตโต 2540 : 1) กล่าวว่า ชีวิตจะดีงามมีความสุข
ประเทศชาติจะรุ่งเรืองมั่นคง และสังคมจะร่มเย็นเกษมศานต์ด้วยปัจจัยสาคัญที่สุดคือ การ
พัฒนาคน ซึ่งจะทาให้คนเป็นคนดีมีความสุขและเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ
กล่าวโดยสรุปการศึกษาในฐานะเครื่องมือการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์มุ่งการ
จัดระบบประสบการณ์การเรียนรู้ การดาเนินการภายในเวลาที่จากัด เพื่อเพิ่มความสามารถ
ในการปรับปรุงการปฏิบัติงานให้ประสบความสาเร็จ และการเจริญเติบโตของงาน การ
พัฒนามนุษย์
- 5. 3. หลักสูตร
3.1 ความหมายของ หลักสูตร แนวความคิดเกี่ยวกับความหมายของหลักสูตร
เพื่อความเข้าใจที่ชัดเจนยิ่งขึ้นได้ดังนี้
3.1.1. หลักสูตรในฐานะที่เป็นวิชาและเนื้อหาสาระที่จัดให้แก่
ผู้เรียน นี้ แนวคิดที่สาคัญของความหมายของหลักสูตรก็ยังคงเป็นวิชาและเนื้อหาวิชาที่
ครูสอนให้ และนักเรียนใช้เรียนในสถาบันการศึกษาในระดับต่างๆ
3.1.2. หลักสูตรในฐานะที่เป็นเอกสารหลักสูตร เอกสารที่อธิบาย
เพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ ของหลักสูตรเพื่อให้การนาหลักสูตรไปใช้ได้ผลตาม
ความมุ่งหมาย ตัวอย่างเอกสารประกอบหลักสูตรได้แก่ คู่มือหลักสูตร คู่มือครูเกี่ยวกับ
หลักสูตร แผนการสอนกลุ่มวิชาต่างๆ หรือคู่มือการประเมินผลการเรียน
3.1.3. หลักสูตรในฐานะที่เป็นกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะให้แก่ผู้เรียน
เป็นกิจกรรมต่างๆ ที่จัดให้แก่ผู้เรียนนี้เป็นการมองหลักสูตรในลักษณะของกิจกรรม
ต่างๆ เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ประสบการณ์ และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตามที่กาหนด
- 8. 3.2.2. การพัฒนาหลักสูตรเป็นการพัฒนาต่อเนื่อง คุณสมบัติข้อนี้มีลักษณะ
ใกล้เคียงและเสริมข้อแรกคือ หลักสูตรมีการเปลี่ยนต่อเนื่องกันไปตามความต้องการของ
สังคมที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา เพราะฉะนั้นกระบวนการพัฒนาหลักสูตรเป็น
กระบวนการที่ต่อเนื่องเป็นวัฏจักรในกระบวนการเปลี่ยนแปลงที่มีการเปลี่ยนแปลง
รวมอยู่ด้วย หลักสูตรเป็นสิ่งที่ควรได้รับการปรับปรุงแก้ไขอยู่เสมอ
3.2.3. หลักสูตรไม่สามารถแสดงกิจกรรมหรือกระทากิจกรรมต่างๆ ตัวของมัน
เองได้จึงจาเป็นต้องใช้กิจกรรมหรือการกระทาอย่างอื่นมาช่วย เช่น การพัฒนาหลักสูตร
การจัดทาหลักสูตร การปรับปรุงหลักสูตร การสร้างหลักสูตร เพราะฉะนั้นหลักสูตรจึงทา
หน้าที่เป็นผู้กระทาอยู่ตลอดเวลา
- 9. 3.3 ความสาคัญของหลักสูตร สาคัญของหลักสูตร พอสรุปได้เป็นข้อๆ ดังนี้
1. หลักสูตรเป็นเสมือนเบ้าหลอมพลเมืองให้มีคุณภาพ
2. หลักสูตรเป็นมาตรฐานของการจัดการศึกษา
3. หลักสูตรเป็นโครงการและแนวทางในการให้การจัดการศึกษา
4. ในระดับโรงเรียนหลักสูตรจะให้แนวการปฏิบัติแก่ครู
5. หลักสูตรแนวทางในการส่งเสริมความเจริญงอกงามและพัฒนาการของ
เด็กตามจุดมุ่งหมายของการศึกษา
6. หลักสูตรเป็นเครื่องกาหนดแนวทางในการจัดประสบการณ์ว่า ผู้เรียนและ
สังคมควรจะได้รับสิ่งใดบ้างที่จะเป็นประโยชน์แก่เด็กโดยตรง
7. หลักสูตรเป็นเครื่องกาหนดว่า เนื้อหาวิชาอะไรบ้างที่จะช่วยให้เด็กมีชีวิต
อยู่ในสังคมอย่างราบรื่น เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ และบาเพ็ญตนให้เป็น
ประโยชน์แก่สังคม
- 10. 8. หลักสูตรเป็นเครื่องกาหนดว่า วิธีการดาเนินชีวิตของเด็กให้เป็นไปด้วย
ความราบรื่นและผาสุกเป็นอย่างไร
9. หลักสูตรย่อมทานายลักษณะของสังคมในอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร
10. หลักสูตรกาหนดแนวทางความรู้ ความสามารถ ความประพฤติ ทักษะ
และเจตคติของผู้เรียนที่จะอยู่ร่วมกันในสังคมและบาเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อชุมชน
และชาติบ้านเมือง
3.4 องค์ประกอบของหลักสูตร (Curriculum Component) องค์ประกอบที่
สาคัญคือ
3.4.1. จุดมุ่งหมายของหลักสูตร (Curriculum Aims)
จุดมุ่งหมายของหลักสูตร หมายถึง ความตั้งใจหรือความคาดหวังที่ต้องการ
ให้เกิดขึ้นในตัวผู้ที่จะผ่านหลักสูตรจุดมุ่งหมายของหลักสูตรมีความสาคัญเพราะเป็น
ตัวกาหนดทิศทางและขอบเขตในการศึกษาแก่เด็กช่วยในการเลือกเนื้อหาและกิจกรรม
ตลอดจนใช้เป็นมาตรการอย่างหนึ่งในการประเมินผล
- 11. 3.4.2. เนื้อหา (Content)
เมื่อกาหนดจุดมุ่งหมายของหลักสูตรแล้ว กิจกรรมขึ้นต่อไปนี้
การเลือกเนื้อหาประสบการณ์การเรียนรู้ต่างๆ ที่คาดว่าจะช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาไปสู่
จุดมุ่งหมายที่กาหนดไว้ โดยดาเนินการตั้งแต่การเลือกเนื้อหาสาระและประสบการณ์
การเรียงลาดับเนื้อหาสาระ พร้อมทั้งการกาหนดเวลาเรียนที่เหมาะสม
3.4.3. การนาหลักสูตรไปใช้ (Curriculum implementation)
เป็นการนาหลักสูตรไปสู่การปฏิบัติ ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆ เช่นการ
จัดทาวัสดุหลักสูตร ได้แก่ คู่มือครู เอกสารหลักสูตร แผนการสอน แนวการสอน
และแบบเรียน เป็นต้น
3.4.4. การประเมินผลหลักสูตร (Evaluation)
การประเมินผลหลักสูตร คือ การหาคาตอบว่า หลักสูตรสัมฤทธิ์ผลตามที่
กาหนดในจุดมุ่งหมายหรือไม่ มากน้อยเพียงใด และอะไรเป็นสาเหตุ
- 12. 3.5 ลักษณะของหลักสูตรที่ดี
1) ตรงตามความมุ่งหมายของการศึกษา
2) ตรงตามลักษณะของพัฒนาการของเด็กในวัยต่างๆ
3) ตรงตามลักษณะวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีเอกลักษณ์ของ
ชาติ
4.)มีเนื้อหาสาระเรื่องที่สอนเพียงพอที่จะช่วยให้นักเรียนคิดเป็นและมี
พัฒนาในการทุกด้าน
5) สอดคล้องกับชีวิตประจาวันของผู้เรียนคือ จัดวิชาทักษะ และวิชา
เนื้อหาให้เหมาะสมกันในที่จะส่งเสริมให้ผู้เรียนเจริญงอกงามทุกด้าน
6) หลักสูตรที่ดีควรสาเร็จขึ้นด้วยความร่วมมือของทุกฝ่าย เพื่อจะให้
ผลดีควรจัดให้เป็นคณะกรรมการ
7) หลักสูตรที่ดีจะต้องให้นักเรียนได้เรียนรู้ต่อไป และจะต้อง
เรียงลาดับความยากง่ายไม่ให้ขาดตอนจากกัน
- 13. 8) หลักสูตรที่ดีจะต้องเป็นประสบการณ์ที่เกี่ยวกับชีวิตประจาวันของเด็ก
เพื่อให้เด็กได้มีโอกาสแก้ปัญหาต่างๆ ในชีวิต เพื่อให้เป็นอยู่อย่างผาสุก
9) หลักสูตรที่ดีจะต้องเพิ่มพูนและส่งเสริมทักษะเบื้องต้นที่จาเป็นของเด็ก
10) หลักสูตรที่ดีย่อมส่งเสริมให้เด็กเกิดความรู้ ทักษะ เจตคติ ความคิด
ริเริ่ม มีความคิดสร้างสรรค์ในการดาเนินชีวิต
11) หลักสูตรที่ดีจะต้องส่งเสริมให้เด็กทางานเป็นอิสระ และทางาน
ร่วมกันเป็นหมู่คณะเพื่อพัฒนาให้รู้จักการอยู่ร่วมกันในสังคมประชาธิปไตย
12) หลักสูตรที่ดีย่อมบอกแนวทาง วิธีสอน และสื่ออุปกรณ์ประกอบ
เนื้อหาสาระที่สอนไว้อย่างเหมาะสม
13) หลักสูตรที่ดีย่อมมีการประเมินผลอยู่ตลอดเวลา เพื่อทราบ
ข้อบกพร่องในการที่จะนาไปปรับปรุงให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป
- 14. 14) หลักสูตรที่ดีจะต้องจัดประสบการณ์ให้เด็กเกิดความรู้ ความเข้าใจ
และมีโอกาสแก้ปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะปัญหาครอบครัว ชุมชน ประเทศชาติ
15) หลักสูตรที่ดีต้องส่งเสริมให้เด็กรู้จักแก้ปัญหา
16) หลักสูตรที่ดีต้องจัดประสบการณ์ที่มีความหมายต่อชีวิตของเด็ก
17) หลักสูตรที่ดีต้องจัดประสบการณ์และกิจกรรมหลายๆ อย่าง เพื่อเปิด
โอกาสให้เด็กได้เลือกอย่างเหมาะสมตามความสนใจ ความต้องการ และ
ความสามารถของแต่ละบุคคล
18) หลักสูตรที่ดีจะต้องวางกฎเกณฑ์ไว้อย่างเหมาะสมแก่การนาไป
ปฏิบัติและสะดวกแก่การวัดและประเมินผล