More Related Content
More from Theerayut Ponman
More from Theerayut Ponman (20)
บทที่ 5
- 1. บทที่ 5
ข้อมูลพื้นฐานการพัฒนาหลักสูตร
มโนทัศน์(Concept)
นักพัฒนาหลักสูตรควรตระหนักและควรนาข้อมูลพื้นฐานทางด้านสังคมและเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นมาเป็น
ข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาหลักสูตรในอนาคตว่า การจัดทาหลักสูตรข้อมูลพื้นฐานมีความสาคัญมาก
ซึ่ง ผู้ที่มีส่วน เกี่ยวข้องไม่ควรละ เลยที่จะศึกษา ไม่ว่าจะ เป็ น ข้อมูลทางด้าน สัง คม เศรษฐกิจ
และการเมืองการปกครองในอน าคตได้ น อกจากนั้น ข้อมูลจากบุคคลต่างๆ ไม่ว่านักการศึกษา
นั ก วิช าก าร ส าข าต่าง ๆ ค ว าม เห็ น จ าก ชุม ช น ค วาม ต้อ ง ก าร ก ว้าง ไก ล แ ล ะ ลึ ก ซึ้ ง
การจัดการศึกษาโดยบุคคลที่มีหน้าที่เพียงกลุ่มเดียวย่อมมีมุมมองที่แคบและไม่ชัดเจนเท่ากับหลายฝ่ายร่วมแรงร่
ว ม ใ จ กั น ดั ง นั้ น
การพัฒนาหลักสูตรโดยศึกษาข้อมูลหลากหลายอย่างครอบคลุมจึงสามารถพัฒนาหลักสูตรให้มีประสิทธิภาพยิ่ง
ขึ้น
ผลการเรียนรู้(Learning Outcome)
1. มีความรู้ ความเข้าใจ ในการเขียนประเด็นสาคัญที่ใช้พื้นฐานการพัฒนาหลักสูตรด้าน ต่างๆ
ในการพัฒนาหลักสูตร
2 .
สามารถนาความรู้ในการเขียนประเด็นสาคัญจากข้อมูลพื้นฐานการพัฒนาหลักสูตรมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนา
หลักสูตรได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
สาระเนื้อหา(Content)
ข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาหลักสูตร
ในอดีตการพัฒนาหลักสูตรในระดับต่างๆ มักใช้ข้อมูลพื้นฐานประกอบการพิจารณาค่อนข้างน้อย
แ ต่ใ ห้ ค ว าม ส าคั ญ กับ ข้ อ มู ล ที่ เ ป็ น ข้ อ เท็ จ จ ริ ง เฉ พ าะ ด้าน เนื้ อ ห า ใ น วิช า ต่า ง ๆ
- 2. นามาบรรจุไว้ใน หลักสู ตรและละเลยข้อมูลทางด้าน ศีลธรรม จริยธรรม และสภ าพ ทางสังคม
ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ท า ง สั ง ค ม แ ล ะ แ น ว โ น้ ม ส ภ า พ สั ง ค ม ใ น อ น า ค ต
ทาให้การศึกษาของชาติที่ผ่านมาไม่สามารถช่วยให้คนไทยหลุดพ้นจากความฟุ่มเฟือย การยึดถือค่านิยมผิดๆ
ใน การดารงชีวิตที่ผิดๆ ไม่ช่วยให้การว่างงานลดลง ไม่ช่วยให้แก้ปัญหาอาชญากรรมหมดไป
ป ร ะ เ ท ศ ยัง ค ง มี ก า ร ฉ้ อ ร า ษ ฎ ร์ บั ง ห ล ว ง ยัง มี ค น ไ ท ย ที่ พึ่ ง พ า ต น เอ ง ไ ม่ไ ด้
ยังมีความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพ ยากร เพราะฉะนั้ น ในการพัฒน าห ลักสู ตรระ ดับต่างๆ
ใน อน าคตจะต้องศึกษาข้อมูลพื้น ฐาน ใน เรื่องต่างๆ จากหลายๆ แหล่งและจากบุคคลหลายๆ
ฝ่ายเพื่อให้ได้ข้อมูลที่แท้จริงมาพัฒนาหลักสูตร สามารถพัฒนาผู้เรียนให้เจริญเติบโตทั้งทางด้านร่างกายจิตใจ
สติ ปั ญ ญ า และ อารมณ์ เป็ น พ ลเมือ ง ที่มีความรับ ผิด ช อ บ ต่อต น เอง แล ะ ป ระ เท ศช าติ
หรือกล่าวโดยสรุปคือสามารถใช้หลักสูตรเป็นเครื่องมือในการสร้างสังคมใหม่ในทิศทางที่ถูกต้องได้
การพัฒนาหลักสูตรจาเป็ น ต้องศึกษา วิเคราะห์ สารวจ วิจัย สภาพ พื้น ฐานด้าน ต่างๆ
เพื่อให้ได้ข้อมูลอย่างเพียงพอที่จะใช้สนับสนุน อ้างอิงในการตัดสินใจดาเนินการต่างๆเพื่อให้ได้หลักสูตรที่ดี
สามารถพัฒนาให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถ และทัศนคติที่นาไปใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคมได้
ก า ร พั ฒ น า ห ลั ก สู ต ร เ ป็ น ง า น ที่ มี ข อ บ เ ข ต ก ว้ า ง ข ว า ง ม า ก
การที่ จัด ห ลัก สู ต รใ ห้ มีคุณ ภ าพ นั้ น ผู้พัฒ น าห ลัก สู ตรต้อ ง ศึ กษ าข้อมูล ห ล าย ๆ ด้าน
ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับตัวผู้เรียน ข้อมูลเกี่ยวกับสังคมหรือข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ
เพื่อที่ให้ได้ข้อมูลที่สมจริงที่สุดเพราะข้อมูลเหล่านี้จะช่วยนักพัฒนาหลักสูตรในเรื่องต่างๆ คือ
1.ช่วยให้มองเห็นภาพรวมว่าในการจัดทาหลักสูตรนั้นจาเป็นต้องคานึงถึงสิ่งใดบ้างและสิ่งต่างๆ
เหล่านั้นมีอิทธิพลต่อหลักสูตรอย่างไร
2. ช่วยใ ห้ ส ามารถกาห น ดอง ค์ป ระ กอ บข อง ห ลักสู ตรได้อย่างเห มาะ ส ม เช่น
การกาหนดจุดมุ่งหมายของหลักสูตร และการกาหนดเนื้อหารายวิชา ฯลฯ
3. ช่วยให้สามารถกาหนดยุทธศาสตร์การเรียนการสอนได้อย่างเหมาะสม และมีประสิทธิภาพ
4 .
ช่วยเพิ่มพูนความรู้และทักษะในการออกแบบและพัฒนาหลักสูตรอันจะส่งผลให้การดาเนินการในอนาคตประส
บผลดียิ่งขึ้น
ข้อมูลต่างๆ ที่นามาเป็ นข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาหลักสูตรนั้น นักการศึกษาทั้งต่างประเทศ
และนักการศึกษาไทย ได้แสดงแนวทางไว้ดังนี้
เ ซ ย์ เ ล อ ร์ แ ล ะ อ เ ล็ ก ซ า น เ ด อ ร์ ( Saylor and Alexander ,1974:102-103)
กล่าวถึงข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาหลักสูตรว่า
- 3. 1. ข้อมูลเกี่ยวกับตัวผู้เรียน
2. ข้อมูลเกี่ยวกับสังคมซึ่งสนับสนุนโรงเรียน
3. ข้อมูลเกี่ยวกับธรรมชาติ และลักษณะของกระบวนการเรียนรู้
4. ความรู้ที่ได้สะสมไว้และความรู้ที่จาเป็นอย่างยิ่งที่ต้องให้แก่นักเรียน
ทาบา (Taba,1962: 16-87) ได้กล่าวว่า การพัฒนาหลักสูตรโดยใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์จะต้อง
คานึงถึงสิ่งต่อไปนี้
1. สังคมและวัฒนธรรม
2. ผู้เรียนและกระบวนการเรียน
3. ธรรมชาติของความรู้
ไทเลอร์ ( Tyler, 1949:1-43) กล่าวถึงสิ่งที่ควรพิจารณาในการสร้างจุดมุ่งหมายของการศึกษา คือ
1. ข้อมูลเกี่ยวกับตัวผู้เรียน ซึ่งได้แก่ความต้องการของผู้เรียน และความสนใจของผู้เรียน
2. ข้อมูลจากการศึกษาชีวิตภายนอกโรงเรียน
3. ข้อมูลที่ได้จากข้อเสนอแนะของผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ
4. ข้อมูลทางด้านปัญญา
5. ข้อมูลทางด้านจิตวิทยาการเรียนรู้
จากการรายงาน ของ คณ ะ กรรมการวาง พื้ น ฐาน การปฏิรู ปการศึกษา ( 2518:20-50)
ได้กาหนดข้อมูลต่างๆ ในการกาหนดจุดมุ่งหมายทางการศึกษา และในการจัดการศึกษาของประเภทดังนี้
1. สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ
2. สภาพแวดล้อมทางประชากร
3. สภาพแวดล้อมทางสังคม
4. สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ
5. สภาพแวดล้อมทางการเมือง
6. การปกครองและการบริหาร
7. สภาพแวดล้อมทางศาสนาและวัฒนธรรม
8. สภาพของสื่อมวลชนเพื่อการศึกษา
กาญจนา คุณารักษ์ ( 2521: 23-36) กล่าวถึงข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาหลักสูตรไว้ดังนี้
1. ตัวผู้เรียน
2. สังคมและวัฒนธรรม
3. ธรรมชาติและคุณสมบัติของการเรียนรู้
- 4. 4. การสะสมความรู้ที่เพียงพอและเป็นไปได้เพื่อการให้การศึกษา
ธารง บัวศรี (2532:4) กล่าวถึงข้อมูลต่างๆ ในการพัฒนาหลักสูตรไว้ดังนี้
1. พื้นฐานทางปรัชญา
2. พื้นฐานทางสังคม
3. พื้นฐานทางด้านจิตวิทยา
4. พื้นฐานทางความรู้และวิทยาการ
5. พื้นที่ทางเทคโนโลยี
6. พื้นฐานทางประวัติศาสตร์
สงัด อุทรานันท์ (2532: 46) กล่าวถึงพื้นฐานในการพัฒนาหลักสูตรไว้ดังนี้
1. พื้นฐานทางปรัชญา
2. ข้อมูลทางสังคมและวัฒนธรรม
3. พื้นฐานเกี่ยวกับพัฒนาการของผู้เรียน
4. พื้นฐานเกี่ยวทฤษฎีการเรียนรู้
5. ธรรมชาติของความรู้
สุมิตร คุณานุกร (2520 : 10) กล่าวถึงข้อมูลต่างๆ ในการพัฒนาหลักสูตรจาแนกตามแหล่งที่มาได้ 6
ประการ คือ
1. ข้อมูลทางปรัชญา
2. ข้อมูลที่ได้จากนักวิชาการแต่ละสาขา
3. ข้อมูลที่ได้จากจิตวิทยาการเรียนรู้
4. ข้อมูลที่ได้จากการศึกษาสังคมของผู้เรียน
5. ข้อมูลที่ได้จากการศึกษาความต้องการและความสนใจของผู้เรียน
6. ข้อมูลเกี่ยวกับพัฒนาการทางเทคโนโลยี
สาโรชบัวศรี (2514: 21-22) ได้กล่าวว่าในการจัดการศึกษาหรือจัดหลักสูตรต้องอาศัยพื้นฐานหลัก 5
ประการ คือ
1. พื้นฐานทางปรัชญา
2. พื้นฐานทางจิตวิทยา
3. พื้นฐานทางสังคม
4. พื้นฐานทางประวัติศาสตร์
5. พื้นฐานทางด้านเทคโนโลยี
- 5. จะเห็นได้ว่าข้อมูลที่นามาศึกษาเพื่อพัฒนาหลักสูตรมีมากมายหลายด้านสาหรับประเทศไทยควรจัดลา
ดับข้อมูลพื้นฐานที่สาคัญในด้านต่างๆ ดังต่อไปนี้
1. สังคมและวัฒนธรรม
2. เศรษฐกิจ
3. การเมืองการปกครอง
4. สภาพปัญหาและแนวทางการแก้ไขปัญหาในสังคม
5. พัฒนาการทางเทคโนโลยีสภาพสังคมในอนาคต
6. บุคคลภายนอกและนักวิชาการแต่ละสาขา
7. โรงเรียน ชุมชน หรือสังคมที่โรงเรียนตั้งอยู่
8. ประวัติศาสตร์การศึกษาและหลักสูตร
9. ธรรมชาติของความรู้
10. ปรัชญาการศึกษา
11. จิตวิทยา
1. ข้อมูลพื้นฐานทางด้านสังคมและวัฒนธรรม
ก า ร ศึ ก ษ า ท า ห น้ า ที่ ส า คั ญ คื อ
อนุรักษ์และถ่ายทอดวัฒนธรรมของสังคมไปสู่คนรุ่นหลังและปรับปรุงเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมของสังคมให้เข้า
กับการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต่างๆ
โดยหน้าที่ดังกล่าวการศึกษาจะช่วยควบคุมการเปลี่ยนแปลงสังคมให้ไปในทิศทางที่พึงปรารถนา
เพราะฉะนั้นหลักสูตรที่จะนาไปสอนอนุชนเหล่านั้นจึงต้องมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับสังคมอย่างแยกไม่ออก
และโดยธรรมช าติของสังคมและ วัฒ น ธรรมมักมีการเปลี่ยน แปลงไปตามกาลเวลา ดังนั้ น
การพัฒนาหลักสูตรจึงจาเป็ นต้องคานึ งถึงข้อมูลทางสังคมและวัฒนธรรมที่เป็ นปัจจุบัน อยู่เสมอ
จึ ง จ ะ ท า ใ ห้ ห ลั ก สู ต ร มี ค ว า ม ส อ ด ค ล้ อ ง กั บ ส ภ า พ สั ง ค ม ปั จ จุ บั น
ส า ม า ร ถ แ ก้ ปั ญ ห า แ ล ะ ต อ บ ส น อ ง ค ว า ม ต้ อ ง ก า ร สั ง ค ม ไ ด้
ทั้ ง นี้ ขึ้ น อ ยู่ กั บ ค ว า ม ส า ม า ร ถ ใ น ก า ร วิ เ ค ร า ะ ห์ ค ว า ม ต้ อ ง ก า ร ใ ห ม่
ผ ล ก าร วิเ ค ร า ะ ห์ อ อ ก ม าอ ย่าง ไ ร ห ลัก สู ต ร ก็ จ ะ เ ป ลี่ ย น จุ ด ห ม าย ไ ป ใ น แ น ว นั้ น
สามารถจาแนกข้อมูลให้ชัดเจนได้ดังนี้
1.1 โค ร ง ส ร้ า ง ข อ ง สั ง ค ม โ ค ร ง ส ร้ า ง ไ ท ย แ บ่ ง อ อ ก เ ป็ น 2 ลั ก ษ ณ ะ คื อ
ลักษณ ะ สัง คมช น บท ห รื อสัง คมเกษ ตรกรรม และ สั งคมเมือ งห รื อสั งค มอุตส าห กรรม
ใ น ปั จ จุ บั น ค ว า ม เ จ ริ ญ ก้ า ว ห น้ า ท า ง วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ แ ล ะ เ ท ค โ น โ ล ยี ม า ก
- 6. สังคมอุตสาหกรรมมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นแต่ถึงอย่างไรก็ตามสังคมส่วนใหญ่ของประเทศก็ยังมีสภาพเป็นสังคมเก
ษตรกรรมอยู่ ดังนั้นการพัฒนาหลักสูตรจาเป็นจะต้องศึกษาโครงสร้างของสังคมที่เป็ นอยู่ในปัจจุบัน
แ ล ะ แ น ว โ น้ ม โ ค ร ง ส ร้ า ง ใ น อ น า ค ต เ พื่ อ ที่ จ ะ ไ ด้ ข้ อ มู ล ม า จัด ห ลั ก สู ต ร ว่า
จะจัดหลักสูตรอย่างไรเพื่อยกระดับการพัฒนาสังคมเกษตรกรรมและเตรียมพื้นฐานเพื่อการเปลี่ยนแปลงทางด้า
นสังคมไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมตามความจาเป็น
1.2 ค่ า นิ ย ม ใ น สั ง ค ม ค่ า นิ ย ม ห ม า ย ถึ ง
สิ่งที่คนในสังคมเดียวกันมองเห็นว่ามีคุณค่าเป็นที่ยอมรับหรือเป็นที่ปรารถนาของคนทั่วไปในสังคมนั้นๆ
เนื่ อ ง จ า ก ก า ร ศึ ก ษ า เ ป็ น ตั ว ก า ร ที่ ท า ใ ห้ เ กิ ด ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ใ น สั ง ค ม
ค่านิยมชนิดไหนที่จะได้รับการเปลี่ยนแปลงดารงไว้หรือค่านิยมชนิดไหนควรสร้างขึ้นมาใหม่เช่น
ค่า นิ ย ม ข อ ง สั ง ค ม ไ ท ย เ กี่ ย ว กับ ค ว าม เ ฉื่ อ ย ช า ก า ร ถื อ ค ว า ม สั ม พั น ธ์ ส่ ว น ตั ว
การถือประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง
1.3ธรรมชาติของคนไทยในสังคม ธรรมชาติของคนไทยในแต่ละสังคมย่อมแตกต่างกันออกไป
ทั้ ง นี้ ขึ้ น อ ยู่ กั บ ส ภ า พ พื้ น ฐ า น ท า ง วั ฒ น ธ ร ร ม แ ล ะ ค่ า นิ ย ม นั้ น ๆ
ทาให้คนไทยส่วนใหญ่มีลักษณะบุคลิกภาพดังต่อไปนี้
1. ยึดมั่นในตัวบุคคลมากกว่าหลักการและเหตุผล
2. ยกย่องบุคคลที่มีความรู้หรือได้รับการศึกษาสูง
3. เคารพและคล้อยตามผู้ได้รับวัยวุฒิสูง
4. ยกย่องผู้มีเงินและผู้มีอานาจ
5. นิยมการเล่นพรรคเล่นพวก
6. มีลักษณะเฉื่อยชาไม่กระตือรือร้น
ใน การพัฒ น าห ลักสู ตร ควรคานึ กถึง ลักษ ณ ะธรรมช าติ บุ คลิกของคน ใน สัง คม
โดยพิจารณาว่าลักษณะใดควรไม่ควร เพราะหลักสูตรเป็นแนวทางในการสร้างลักษณะสังคมในอนาคต
1.4 ก า ร ชี้ น า สั ง ค ม ใ น อ น า ค ต
การศึกษาควรมีบทบาทในการชี้นาสังคมในอนาคตด้วยเพราะในอดีตที่ผ่านมาระบบการศึกษา เช่น
การตั้งรับตามการเปลี่ยนต่างๆ เช่น กระแสการเจริญเติบโตของประเทศทางตะวันตก กระแสวิชาการตะวันตก
ความต้องการและปัญหาสังคม จึงทาให้การศึกษาเป็นตัวตาม ฉะนั้นการจัดการเรียนรู้ต้องวางเป้าหมายให้ดี
นั กพัฒ น าห ลักสู ตรจึง ค วรศึ กษ าข้อมูล ต่าง ๆ ที่เป็ น เครื่ อง ชี้ น าสัง ค มใ น อน าคต เช่น
แผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ การศึกษาไทยจะได้มีบทบาททางสังคมอย่างแท้จริง
- 7. 1.5 ลั ก ษ ณ ะ สั ง ค ม ต า ม ค ว า ม ค า ด ห วั ง
การเตรียมพัฒนาทรัพยากรให้มีคุณภาพมีคุณลักษณะหรือคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่งนั้นเป็นเรื่องไม่คงที่
เรื่ อ ง ข อ ง ป ระ เ ท ศ จ ะ ส่ ง ผ ล ก ร ะ ท บ ก าร ศึ ก ษ ามีมา ก มาย เช่น ก าร เมือ ง เศ ร ษ ฐ กิ จ
ความก้าวห น้าทางวิชาการทั้งนี้ ใน ต่างประ เทศจึงตั้งคุณลักษณะของสังคมเปลี่ ยน แปลงไป
เพื่ อ ที่ จ ะ ค า ด ก า ร ณ์ ล่ ว ง ห น้ า ไ ด้ ใ น อ น า ค ต 5-10 ปี ข้ า ง ห น้ า จ ะ เ ป็ น เ ช่ น ไ ร
และคุณลักษณะของประชากรที่มีคุณภาพมีดังนี้
1. มีสุขภาพกาย สุขภาพจิตที่ดี
2. มีอาชีพเพื่อเลี้ยงตนเองและครอบครัว
3. เป็นสมาชิกที่ดีของสังคม เป็นพลเมืองที่ดีของชาติ
4. มีสติปัญญา
5. มีนิสัยรักการทางาน
6. มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี
หน้ าที่ของ นั กพัฒ น าหลักสู ตรก็คือ จะ ต้อ งพิ จารณ าว่าจะ จัดห ลัก สู ตรอย่าง ไร
รูปแบบใดจึงจะทาให้ประชากรมีคุณภาพดี
1.6 ศ า ส น า แ ล ะ วั ฒ น ธ ร ร ม ใ น สั ง ค ม
ศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของคนในสังคมวัฒนธรรมเป็นสัญลักษณ์อันสาคัญที่จะแสดงให้ทราบว่าเขาเห
ล่ า นั้ น เ ป็ น ค น ใ น สั ง ค ม เ ดี ย ว กั น ห รื อ เ ป็ น ค น ช า ติ เ ดี ย ว กั น ดั ง นั้ น
ศ า ส น า แ ล ะ วัฒ น ธ ร ร ม จึ ง เ ป็ น สิ่ ง ส า คั ญ ม า ก ส า ห รั บ ก า ร พั ฒ น า ห ลั ก สู ต ร
ทั้งนี้เพราะจุดประสงค์สาคัญของหลักสูตรก็คือ การทะนุบารุงรักษาและถ่ายทอดวัฒนธรรมที่ดีงามไว้
การพัฒน าหลักสู ตรจึงต้องคานึ กถึงศาสน าและ วัฒ น ธรรมความรู้หลักธรรมศาสน าต่าง ๆ
นามาบรรจุไว้ในหลักสูตรด้วยเหตุที่ว่าประเทศไทยเป็นประเทศประชาธิปไตยให้สิทธิเสรีภาพแก่ประชาชนในก
ารนับถือศาสนา เพราะฉะนั้นสิ่งที่บรรจุไว้ควรจะเป็นหลักธรรมของศาสนาต่างๆ
ข้อมูลพื้นฐานทางสังคมและวัฒนธรรมมีความสาคัญต่อการพัฒนาหลักสูตรเป็ นอย่างมาก
เ พ ร า ะ เ ป็ น ห ลั ก สู ต ร ที่ ต้ อ ง ต อ บ ส น อ ง สั ง ค ม แ ล ะ พั ฒ น า ไ ป พ ร้ อ ม กั น
การศึกษาข้อมูลพื้นฐานทางสังคมและวัฒนธรรมอย่างรอบคอบจะทาให้เราสามารถนาไปพัฒนาหลักสูตรที่ดีตา
มลักษณะดังต่อไปนี้
1. ตอบสนองความต้องการของสังคม
2. สอดคล้องกับความเป็นจริงในสังคม
3. เน้นในเรื่องรักชาติรักประชาชน
- 8. 4. แก้ปัญหาให้กับสังคมมิใช่สร้างปัญหากับสังคม
5. ปรับปรุงสังคมให้ดีขึ้น
6. สร้างความสานึกในเรื่องของความเปลี่ยนแปลงทางสังคม
7. ชี้นาในเรื่องการเปลี่ยนแปลงประเพณีและค่านิยม
8. ต้องถ่ายทอดวัฒนธรรมและจริยธรรม
9. ปลูกฝังในเรื่องความซื่อสัตย์และความยุติธรรม ในสังคม
10. ให้ความสาคัญในเรื่องผลประโยชน์ในสังคม
2. ข้อมูลพื้นฐานทางด้านเศรษฐกิจ
ก า ร ศึ ก ษ า เ ป็ น เ ค รื่ อ ง มื อ ส า คั ญ ใ น ก า ร พั ฒ น า เ ศ ร ษ ฐ กิ จ
เพราะการศึกษาเป็นเครื่องมือสาคัญในการพัฒนาคนซึ่งเป็นส่วนประกอบที่สาคัญที่สุดในระบบเศรษฐกิจ
เพ รา ะ ระ บ บ เศ ร ษ ฐ กิจ ก้าว ห น้ าเ พี ยง ใ ด ขึ้ น อ ยู่กับ คุณ ภ าพ ข อ ง ค น ใ น สั ง ค ม นั้ น
การพัฒนาหลักสูตรให้ให้เหมาะกับพื้นฐานทางเศรษฐกิจ ควรพิจารณาประเด็นต่อไปนี้
2.1การเตรียมกาลังคน การให้การศึกษาเป็นสิ่งสาคัญในการผลิตกาลังคนในด้านต่างๆ ให้เพียงพอ
พอเหมาะ และสอดคล้องกับความต้องการในแต่ละสาขาวิชาชีพ เพื่อป้องกันการสูญเปล่าทางการศึกษา
และเพื่อลดปัญหาการว่างงานอันเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ
นอกจากนี้การเตรียมกาลังคนให้สนองความต้องการของประเทศนั้นต้องพิจารณาให้เหมาะสมกับระดั
บความ สามารถที่ต้องการ ซึ่งมีทั้งระดับผู้เชี่ยวชาญทางวิชาการสาขาต่างๆ ระดับช่างฝีมือ และระดับกรรมกร
รวมทั้งต้องพิจารณาถึงแนวโน้มความต้องการทางเศรษฐกิจของประเทศชาติในอนาคตด้วย
2.2 ก ารพั ฒ น าอาชีพ ป ระ เท ศไท ยพื้ น ที่ ส่วน ใ ห ญ่เป็ น พื้ น ที่ ท าง การเก ษ ต ร
แ ล ะ ป ร ะ ช าก ร ส่ว น ใ ห ญ่ เป็ น เ ก ษ ต รที่ อ า ศัย อ ยู่ใ น ช น บ ท อ าชี พ อุ ต ส า ห ก ร ร ม
พ า ณิ ช ย ก ร ร ม แ ล ะ บ ริ ก า ร มี อ ยู่ เ พี ย ง ชุ ม ช น ใ น เ มื อ ง
ปัจจุบันมีการโยกย้ายถิ่นที่อยู่เข้ามาทางานอุตสาหกรรมในเมืองใหญ่ ซึ่งทาให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา
เช่น สิ่ ง แ วด ล้อ ม เป็ น พิ ษ เกิด ชุม ช น แ อ อัด ปั ญ ห าค ร อ บ ค รั ว เด็ ก เร่ร่อ น เป็ น ต้น
เพ ราะฉะนั้ น การพัฒน าห ลักสูตรควรเน้น การส่งเสริมอาชีพ ส่วน ให ญ่ของคน ใน ประ เทศ
จัดหลักสูตรเพื่อพัฒนาอาชีพตามศักยภาพและท้องถิ่น เพื่อพัฒนาอาชีพให้เหมาะสมเป็นการยกระดับรายได้
ค น ใ น ช น บ ท ใ ห้ สู ง ขึ้ น เพื่ อ ล ด ปั ญ ห า ช่ อ ง ว่าง ร ะ ห ว่า ง ค น ร ว ย แ ล ะ ค น จ น
ล ด ก า ร ห ลั่ ง ไ ห ล ข อ ง ป ร ะ ช า ช น เ ข้ า ไ ป ท า ง า น ต า ม เ มื อ ง ใ ห ญ่
- 9. สิ่งเหล่านั้นเป็นหน้าที่สาคัญที่นักพัฒนาหลักสูตรจะต้องร่วมมือร่วมใจกันทาหลักสูตรอาชีพเพื่อพัฒนาอาชีพให้
บรรลุผล
2.3 ก า ร ข ย า ย ตั ว ท า ง ด้ า น อุ ต ส า ห ก ร ร ม
ปั จจุบัน ป ระ เทศไทยกาลังพัฒ น าจากเกษ ตรกรรมไป สู่ ภ าคอุตส าห กรรมมากขึ้ น เรื่ อยๆ
นั กพั ฒ น าห ลักสู ต รควรศึก ษ าข้อแ น วโน้ มแล ะ ทิ ศท าง การขยายตัวใ น อุ ตส าห กรร ม
อุ ต ส า ห ก ร ร ม ด้ า น ไ ห น ที่ จ ะ ไ ด้ รั บ ก า ร พั ฒ น า
หลักสูตรที่สามารถพัฒนาเยาวชนให้มีความพร้อมสาหรับการขยายตัวทางด้านอุตสาหกรรมสามารถผลิตผู้จบกา
ร ศึ ก ษ า ที่ ส า ม า ร ถ เ ข้ า สู่ ภ า ค อุ ต ส า ห ก ร ร ม อ ย่ า ง เ ห ม า ะ ส ม
เท่าที่ผ่าน มาจะเห็ นว่าบางครั้งภาคอุตสาหกรรมไม่มีผู้มีความรู้ความสามารถด้านเฉพ าะด้าน เข้า
ไปรับรองการการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมบางครั้งมีการผลิตผู้จบการศึกษากับความต้องการของแรงงานของไท
ย ไ ม่ส ม ดุ ล กั น ท า ใ ห้ บ า ง ค รั้ ง ภ า ค อุ ส า ห ก ร ร ม เ ห ล่ า นั้ น อ ย่ า ง พ อ เ พี ย ง
ฉะนั้นการศึกษาแนวโน้มการขยายตัวทางอุตสาหกรรมจึงเป็นสิ่งสาคัญประการหนึ่งที่นักพัฒนาการหลักสูตรจะ
ละเลยเสียมิได้
2.4 ก า ร ใ ช้ ท รั พ ย า ก ร
เศรษฐกิจเป็นเรื่องของการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจากัดให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อสอบสนองความต้องการที่ไ
ม่ จ า กั ด ข อ ง ม นุ ษ ย์
เพราะฉะนั้นนักพัฒนาหลักสูตรควรให้ความสาคัญในเรื่องของทรัพยากรโดยใช้หลักสูตรเป็นเครื่องปลูกฝังเกี่ยว
กั บ ค ว า ม ส า คั ญ ข อ ง ท รั พ ย า ก ร จั ด ท า ห ลั ก สู ต ร เ นื้ อ ห า วิ ช า
กิจกรรมและประ สบการณ์ ใน หลักสูตรที่ส่ง เสริ มการใช้ทรัพ ยากรให้เกิด ประโยช น์ สู งสุ ด
และ เน้ น กิจกรรมทาง เศรษฐกิจครบ วง จรอัน ได้แก่ การผลิ ต การจาหน่าย การบริ โภ ค
การแลกเปลี่ยนการบริการโดยเน้นการปฏิบัติจริงและการใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้รู้จักและเข้าใจระบบเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดาริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่
หัว ซึ่งในจุดนี้นักพัฒนาหลักสูตรควรให้ความสาคัญแล้วคิดพัฒนาหลักสูตรเพื่อสนองพระราชดาริดังกล่าว
ในอนาคตประชาชนจะเห็นความสาคัญของทรัพยากรและสามารถนาทรัพยากรที่มีอยู่นามาใช้ประโยชน์
เกิดรายได้อย่างมีคุณค่า ไม่มีการสูญเสียทางทรัพยากร ปัญหาความยากจนและการอพยพย้ายถิ่นก็ไม่เกิดขึ้น
2.5 ก า ร พั ฒ น า คุ ณ ลั ก ษ ณ ะ ข อ ง บุ ค ค ล ใน ร ะ บ บ เ ศ ร ษ ฐ กิ จ ข อ ง ไ ท ย
คุณลักษณะของในบุคคลในระบบเศรษฐกิจของคนไทยยังขัดแย้งกับความเป็นจริงในระบบเศรษฐกิจ
เช่นคนไทยมีรายได้ต่าแต่ความต้องการจับจ่ายในระบบเศรษฐกิจในระบบเศรษฐกิจในระบบเปิดทาให้สินค้าฟุ่มเ
ฟื อ ย ห ลั่ ง ไ ห ล เ กิ ด ปั ญ ห า ห นี้ สิ น ล้ น พ้ น ตั ว
- 10. หรือเป็นเศรษฐกิจในระบบเปิดทาให้สินค้าฟุ่มเฟือยหลั่งไหลเข้ามาสร้างวัฒนธรรมใหม่ในหมู่เยาวชน
ห รื อก ารเอารัดเอ าเป รี ยบ ต่อผู้ด้อ ยการศึก ษ าจากบุ คค ลผู้มีอ าน าจท าง เศ รษฐ กิจ ฯล ฯ
สิ่งเห ล่านี้ เป็ น คุณลักษณะ ของ คน ไทยใน ระ บบเศรษฐกิจที่ต้องได้รับการแก้ไขและพัฒน า
ก าร ใ ช้ ก า ร ศึ ก ษ าเ ข้ า ไ ป แ ก้ไ ข จ ะ เป็ น วิธี ก าร ส า คั ญ แ ล ะ ใ ห้ ผ ล ใ น ร ะ ย ะ ย า ว
เพ ราะ ฉ ะ นั้ น การพัฒ น าห ลัก สู ตร ต้อ ง คานึ ง ถึง ก ารพัฒ น าคุณ ลัก ษ ณ ะ ข อง ค น ไท ย
ใ น ห ลั ก สู ต ร จ ะ ต้ อ ง บ ร ร จุ เ นื้ อ ห า ส า ร ะ
แล ะ ป ร ะ ส บ ก าร ณ์ ก ารเรี ย น รู้ที่ มีก ารป ลูก ฝั ง จิต ส านึ ก ใ น ค วามรับ ผิ ดช อ บ ร่ว มกัน
การสร้างค่านิยมในการทางานร่วมกัน การไม่เอารัดเอาเปรียบกันความขยันหมั่นเพียร การรู้จักอดออม
การมีสติรู้คิด การมีความคิดริ เริ่ มส ร้างส รรค์ การส ร้างเสริ มความส ามารถใ น การผลิ ต
ก า ร ส ร้ า ง ง า น แ ล ะ แ น ว ก า ร ป ร ะ ก อ บ อ า ชี พ ถ้ า ห ลั ก สู ต ร ใ น ร ะ ดั บ ต่ า ง ๆ
ได้บรรจุและปลูกฝังสิ่งเหล่านี้ไว้ทั้งในแนวกว้างและแนวลึกตามระดับการศึกษาแล้วผู้จบการศึกษาก็จะเป็นบุคค
ลมีความสามารถพัฒนาตนเองให้มีประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจภายใต้ความเจริญทางด้านเศรษฐกิจได้เหมาะสม
2.6 ก า ร ล ง ทุ น ก า ร ศึ ก ษ า
การจัด การศึกษาใน ระ ดับ ต้อง ใช้ง บป ระ มาณ ขอ งรัฐโดยเฉ พ าะ การศึกษ าขั้น พื้ น ฐาน
การจัดการศึกษาควรคานึงถึงงบประมาณเพื่อการศึกษาแหล่งงานที่จะช่วยเหลือรัฐในรูปงบประมาณ
ในการพัฒนาพัฒนาหลักสูตรควรจัดให้สอดคล้องกับงบประมาณของรัฐ ไม่ว่าในด้านจัดการเรียนการสอน
ด้ า น วัต ถุ อุ ป ก ร ณ์ เพื่ อ ใ ห้ มี ก า ร ใ ช้ ห ลั ก สู ต ร เ ป็ น ไ ป อ ย่า ง มี ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ
และ ต้องคานึง ถึงผลตอบแทน จากการลงทุน ใน ด้านกาลังคน ปริมาณคน และ คุณภ าพ เช่น
การพัฒนาหลักสูตรให้เยาวชนมีคาวามสามารถทางด้านคอมพิวเตอร์ การลงทุนด้านอุปกรณ์คือคอมพิวเตอร์
ใ ห้ ทุ ก โ ร ง เ รี ย น มี ค อ ม พิ ว เ ต อ ร์ ส อ น นั ก เรี ย น แ ต่บ า ง โ ร ง เ รี ย น ไ ม่มี ไ ฟ ฟ้ า
ห รื อ บ า ง โ ร ง เ รี ย น ยั ง ไ ม่ มี บุ ค ล า ก ร ที่ มี ค ว า ม รู้ ท า ง ด้ า น ค อ ม พิ ว เ ต อ ร์
ก า ร ล ง ทุ น ใ น จุ ด ดั ง ก ล่ า ว ส่ ว น ห นึ่ ง อ า จ เ ป็ น ก า ร ล ง ทุ น ที่ สู ญ เ ป ล่ า
เฉพาะฉะนั้นในการพัฒนาหลักสูตรควรคานึงถึงการลงทุนทางการศึกษาด้วยว่าเป็นการลงทุนที่สูญเปล่าหรือไม่
ในอนาคตมีตัวอย่างในการพัฒนาหลักสูตรที่ทาให้เกิดการสูตรเปล่าทางการศึกษาอยู่เสมอ
3. ข้อมูลพื้นฐานทางด้านการเมืองการปกครอง
การเมืองการปกครองเป็นที่เกี่ยวกับการจัดระเบียบการอยู่ร่วมกันในสังคมหมู่มากจาเป็นต้องมีระเบียบ
แ บ บ แ ผ น ห รื อ ก ติ ก า ต่ า ง ๆ
- 11. สาหรับสมาชิกในสังคมยึดถือเป็นแนวปฏิบัติต่อกันเพื่อความสงบเรียบร้อยและการอยู่รวมกันอย่างสันติ ดังนั้น
ก า ร เ มื อ ง ก า ร ป ก ค ร อ ง จึ ง เ ป็ น เ รื่ อ ง เ กี่ ย ว กั บ บ ท บ า ท ห น้ า ที่ สิ ท ธิ
และความรับผิดชอบที่ทุกคนพึงมีต่อสังคมและประเทศชาติ
ก า ร เ มื อ ง ก า ร ป ก ค ร อ ง มี ค ว า ม สั ม พั น ธ์ กั บ ก า ร ศึ ก ษ า
ในฐานะที่การศึกษามีหน้าที่ผลิตสมาชิกที่ดีให้แก่สังคมให้อยู่ในระบบการปกครองประเทศชาติ
ช่ว ย ใ ห้ ผู้เ รี ย น ท ร าบ ว่าต น มีสิ ท ธิ ห น้ าที่ แ ล ะ ค ว าม รับ ผิ ด ช อ บ ต่อ สั ง ค ม อ ย่าง ไ ร
แ ล ะ ค ว ร แ ส ด ง แ น ว คิ ด ป ฏิ บั ติ ต น อ ย่า ง ไ ร ห ลั ก สู ต ร ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ ต่ า ง ๆ
จึงควรบรรจุเนื้อหาวิชาและประสบการที่จะปลูกฝังให้ประชากรอยู่ร่วมกันในสังคมได้ด้วยความเป็นระเบียบเรีย
บร้อยและสันติสุข
ข้ อ มู ล ที่ เ กี่ ย ว กั บ ก า ร เ มื อ ง ก า ร ป ก ค ร อ ง
ที่ ค ว ร จ ะ น าม าเป็ น เนื้ อ ห าป ร ะ ก อ บ ก าร พิ จ าร ณ า ใ น ก าร พั ฒ น า ห ลั ก สู ต ร ก็คื อ
ระบบการเมืองและระบบการปกครอง นโยบายของรัฐและรากฐาน ของประชาธิปไตย
3.1ระบบการเมืองการปกครอง เนื่องจากการศึกษาเป็ นเครื่องมืออันหนึ่ งของสังคม ดังนั้น
การศึกษ าระ บ บการเมือ งก ารปก ครอ งจึง แยกกัน ไม่ออ ก ห ลัก สู ตรของ ป ระ เท ศต่าง ๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งระดับประถมศึกษาซึ่งเป็นการศึกษาขั้นพื้นฐานมักจะบรรจุเนื้อหาสาระของระบบการเมืองกา
รปกครองไว้ เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนอยู่ร่วมกันใจสังคมได้ด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อย
ใ น บ า ง ป ร ะ เ ท ศ ที่ ต้ อ ง ก าร ป ลู ก ฝั ง อุ ด ม ก าร ณ์ ท า ง ก า ร เมื อ ง ใ ห้ แ ก่ป ร ะ ช าช น
เพ ราะ ฉ ะ นั้ น ใ น ก ารพั ฒ น าห ลัก สู ตรค วรเลื อก เนื้ อห าวิช าป ระ ส บ ก ารณ์ ก ารเรี ยน รู้
และการจัดให้มีการเรียนการสอนเกี่ยวกับระบบการเมืองการปกครองที่ต้องการปลูกฝัง
3.2 น โ ย บ า ย ข อ ง รั ฐ
เนื่ องจากการศึกษาเป็ นส่วนหนึ่ งของระบบสังคมจึงมีความจาเป็ น ต้องสอดคล้องกับระบบอื่น ๆ
ใ น สั ง ค ม ก า ร ที่ จ ะ ท า ใ ห้ ร ะ บ บ ต่ า ง ๆ
สามารถเกื้อหนุนส่งเสริมซึ่งกันและกันจึงจาเป็ นต้องมีการประสานสัมพันธ์ระหว่างระบบเหล่านั้น
ด้วยเหตุนี้ รัฐบายจึงมีน โยบายแห่งรัฐเพื่อเป็ น แน วทางใน การดาเนิ น งาน ของระบบต่าง ๆ
ให้ มีความต่อเนื่ อง แ ละ ส อด คล้อ งซึ่ ง กัน แ ละ กัน น โยบ ายขอ ง รัฐ ที่เห็ น ได้ชัด เจน คื อ
แ ผ น พั ฒ น า เ ศ ร ษ ฐ กิ จ แ ล ะ สั ง ค ม แ ห่ ง ช า ติ แ ผ น พั ฒ น า ก า ร ศึ ก ษ า
ในการพัฒนาหลักสูตรควรจะได้พิจารณานโยบายของรัฐด้วย เพื่อที่จะได้จัดการศึกษาให้สอดคล้องกัน
3.3 ร า ก ฐ า น ข อ ง ป ร ะ ช า ธิ ป ไ ต ย
จากการที่ประเทศไทยได้เปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาสิทธิราชย์มาเป็นระบบอบประชาธิปไต
- 12. ย ใ น พ .ศ . 2475 นั้ น ค ว ร รู้ ค ว า ม เ ข้ า ใ จ ต ล อ ด จ น ค ว า ม รู้ สึ ก นึ ก คิ ด ต่ า ง ๆ
เ กี่ ย ว กั บ ป ร ะ ช า ธิ ป ไ ต ย ใ น สั ง ค ม ไ ท ย ยั ง ไ ม่ เ พี ย ง พ อ
หลักสูตรในฐานะที่เป็นเครื่องมือสาหรับพัฒนาคนควรที่จะวางรากฐานที่เกี่ยวกับประชาธิปไตยให้แก่สังคม
เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจให้ถูกต้องซึ่งจะสร้างสรรค์ให้ทุกคนอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสัน ติสุ ข
แล ะ ไม่มีการ เอารัด เอ าเป รี ยบ ซึ่ ง กัน แ ละ กัน น อ ก จาก นี้ ก ารจัดก ารเรี ยน ก ารส อ น
จึงควรมุ่งเน้นพฤติกรรมประชาธิปไตยด้วย สาหรับประเทศไทยปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยมานานแล้ว
แ ต่ ท า ง ป ฏิ บั ติ เ ร า ต้ อ ง ย อ ม รั บ ว่ า ยั ง ไ ม่ ส ม บู ร ณ์
ดั ง จ ะ เ ห็ น ไ ด้ จ า ก ก า ร ร า ษ ฎ ร ส่ ว น ใ ห ญ่ ยั ง ไ ม่รู้ ถึ ง สิ ท ธิ ห น้ า ที่ ข อ ง ต น ต่อ รั ฐ
ไ ม่ รู้ ว่ า ต น เ อ ง มี ค ว า ม ส า คั ญ มี ส่ ว น มี เ สี ย ง ใ น ก า ร ป ก ค ร อ ง
ไม่รู้ว่าการเมืองมีส่วนสัมพันธ์กับชีวิตประจาวันของตน ไม่เห็นความจาเป็ นในการเลือกตั้งเป็ นต้น
ก า ร ศึ ก ษ า ค ว ร มี บ ท บ า ท ส า คั ญ ใ น ก า ร ป รั บ ป รุ ง แ ก้ ไ ข
ก า ร จั ด ก า ร เ รี ย น ก า ร ส อ น ค ว ร เ น้ น เ รื่ อ ง ค ว า ม รั บ ผิ ด ช อ บ ต่ อ บ้ า น เ มื อ ง
ใ ห้ ป ร ะ ช า ช น รู้ ห น้ า ที่ ข อ ง ต น ใ น ร ะ บ อ บ ป ร ะ ช า ธิ ป ไ ต ย
ให้สานึกว่าการเมืองและการปกครองเป็นเรื่องของทุกคนในสังคม ทั้งที่ศึกษาอยู่ในระบบและนอกระบบและ/
หรือจบการศึกษาแล้วได้ศึกษาและนาไปปฏิบัติจริงเพื่อสอดคล้องกับน โยบายที่ว่าการศึกษาและ/
ห รื อ จ บ ก า ร ศึ ก ษ า แ ล้ ว ไ ด้ ศึ ก ษ า คื อ ก ร ะ บ ว น ก า ร ต่ อ เ นื่ อ ง ต ล อ ด ชี วิ ต
เมื่อเป็นเช่นการจัดหลักสูตรให้ประชาชนเข้าใจเกี่ยวกับการเมืองการปกครองจึงกระทาได้หลายรูปแบบเพื่อให้ผู้เ
รียนได้รับความรู้ มีจิตสานึกในความร่วมมือ เข้าใจบทบาทตนเองในด้านการเมืองการปกครองอย่างแท้จริง
เ พื่ อ เ ป็ น ก า ร ว า ง ร า ก ฐ า น ท า ง ด้ า น ป ร ะ ช า ธิ ป ไ ต ย
การจัดการศึกษาให้เหมาะสมกับระบบการเมืองการปกครองแบบประชาธิปไตย ควรจัดตามลาดับดังนี้
1. การจัดการศึกษาให้เท่าเทียมทั่วถึง
2. ให้อานาจการจัดการศึกษากระจายในท้องถิ่น
3. ให้เสรีภาพและเสถียรภาพแก่บุคคล ให้โอกาสแสดงความคิดเห็น
4. การเรียนการสอนควรส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตย ให้โอกาสผู้เรียนแสวงหาความรู้
5. ส่งเสริมการแก้ไขปัญหาตนเอง
6. จัดหลักสูตรให้ยืดหยุ่นได้ง่าย
7. เน้นวิชามนุษย์สัมพันธ์และจริยธรรมเป็นพิเศษ
น อ ก จ า ก นั้ น ก า ร ป ลู ก ฝั ง อ บ ร ม สั่ ง ส อ น นั ก เ รี ย น
ก็มีส่วนสาคัญที่จะช่วยให้ประชาธิปไตยของไทยมีความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้นด้วยวิธีการดังนี้
- 13. 1. ชี้ให้เห็นประโยชน์ประชาธิปไตยโดยการให้คาแนะนาและปฏิบัติ
2. สร้างนิสัยให้มีความกระตือรือร้น สนใจเหตุการณ์บ้านเมือง
3. ปลูกฝังการมีวินัยและการเคารพสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น
4. ฝึกการเคารพกฎเกณฑ์ต่างๆ อย่างเข้มผู้เข้มงวด
5. กระตุ้นและปลูกฝังให้มีความตั้งใจเรียน ซื่อสัตย์ รับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัวและประเทศชาติ
6. ฝึกให้ความสนใจและร่วมกันพิจารณาปัญหาต่าง ของสังคมและหาทางแก้ไข
7. หาโอกาสให้ให้ความร่วมมือประกอบกิจกรรมเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวม
8. ช่วยแก้ไขค่านิยมที่ไม่เหมาะสมในสังคมและสร้างค่านิยมที่ดีและเหมาะสม
9. ป ลู ก ฝั ง ทัศ น ค ติ ที่ ว่าก ารเมือ ง เป็ น เรื่ อง ก ารใ ห้ ค วามร่ว มมือ ก าร เสี ยส ล ะ
และการช่วยชาติเพื่อบุคคลรุ่นใหม่จะได้เป็นนักการเรียนที่ดี
10. ใ ห้ ค วามรู้ แล ะ ก ระ ตุ้น ใ ห้ ส น ใ จก ารเมื อ ง โ ด ยค านึ ง ถึ ง ห ลัก ก าร วิ ธี ก าร
สิทธิหน้าที่ในฐานะพลเมืองของประเทศ
11.ปลูกฝังให้มีความพร้อมที่จะมีส่วนร่วมในกระบวนการทางการเมืองทั้งในระดับโรงเรียน ท้องถิ่น
และประเทศชาติ
12. ป ลู ก ฝั ง ใ ห้ ผู้ เ รี ย น มี แ น ว คิ ด ว่า ทุ ก ค น ค ว ร มี บ ท บ า ท ท า ง ก า ร เ มื อ ง
และการเมืองเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทุกคนทั้งทางตรงและทางอ้อม
13. เน้นให้เห็นความสาคัญของการใช้สิทธิ์เลือกตั้ง
จ า ก ตั ว อ ย่ า ง ดั ง ก ล่ า ว พ อ จ ะ เ ป็ น แ น ว ท า ง ก า ห น ด เ นื้ อ ห า
กิจ ก ร ร ม ก า ร จัด ก าร เ รี ย น ก า ร ส อ น แ ล ะ ป ร ะ ส บ ก า ร ณ์ เรี ย น รู้ ไ ว้เ ป็ น ห ลั ก สู ต ร
เพื่อให้ผู้เรียนที่จบการศึกษาเป็นผลเมืองที่มีคุณภาพสอดคล้องกับระบบการเมืองการปกครองของประเทศ
4. ข้อมูลพื้นฐานสภาพปัญหา และแนวทางการแก้ปัญหาในสังคม
สภาพปัญหาและแนวทางในการแก้ปัญหาของสังคมเป็นข้อมูลพื้นฐานที่สาคัญที่ต้องศึกษา
สังคมไทยปัจจุบันกาลังประสบปัญหายุ่งยากหลายประการ ทั้งปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาเศรษฐกิจ
แ ล ะ ปั ญ ห า ก า ร เ มื อ ง ซึ่ ง ก า ร แ ก้ ปั ญ ห า เ ห ล่า นี้ มี ทั้ ง ร ะ ย ะ สั้ น ร ะ ย ะ ย า ว
แ ล ะ ก า ร แ ก้ ปั ญ ห า อ า จ ท า ไ ด้ ชั่ ว ค ร า ว ห รื อ อ ย่ า ง ถ า ว ร
การจัดการศึกษาเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวจึงเป็ น เรื่องสาคัญ ที่นักพัฒน าหลักสู ตรจะ ต้องศึกษา
แล้วนามาสร้างเป็นหลักสูตร ปัญหาสาคัญๆ ที่ควรศึกษาคือ
- 14. 4.1ปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ การขยายตัวของอุตสาหกรรม และการใช้เทคโนโลยี
ทาให้เกิดปัญหาสภาวะแวดล้อมทางธรรมชาติในสังคมไทยมากขึ้น เช่น ปัญหาการทาลายป่ าไม้
ปัญหาความเสื่อมโทรมของดิน ปัญหาน้าเสีย และอากาศเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น ปัญหาต่างๆ
สมควรที่จะได้ศึกษาข้อเท็จจริงถึงสภาพปัญหาและแนวทางแก้ไขเพื่อที่นาไปเป็นข้อมูลในการจัดการศึกษาและ
พัฒนาหลักสูตร เช่น การกาหนดเนื้อหาในเรื่องสภาพแวดล้อม การปลูกฝังการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี
แ ล ะ ก า ร อ นุ รั ก ษ์ สิ่ ง แ ว ด ล้ อ ม ก าร ใ ช้ ท รั พ ย า ก ร ธ ร ร ม ช า ติ ที่ ฉ ล า ด ถู ก ต้ อ ง
ซึ่งสิ่ งเห ล่านี้ เราสามารถกาหนดลงในเนื้ อหาของหลักสูตรใน ระดับต่างๆ ตามความเหมาะสม
เ พื่ อ ที่ ป ลู ก ฝั ง ค ว า ม รั บ ผิ ด ช อ บ ใ น สิ่ ง เ ห ล่ า นี้ ใ ห้ เ กิ ด ใ น ผู้ เ รี ย น
แ ล ะ ป ร ะ เ ท ศ ก็ จ ะ มี พ ล เ มื อ ง ที่ รั บ ผิ ด ช อ บ ต่ อ สิ่ ง แ ว ด ล้ อ ม ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ
ปัญหาเกี่ยวสิ่งแวดล้อมในอนาคตก็จะได้รับการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น
4.2 ปั ญ ห า ท า ง ด้ า น สั ง ค ม ปั ญ ห า ท า ง สั ง ค ม ที่ เ ป็ น อ ยู่ใ น ปั จ จุ บั น
มั ก จ ะ เ กิ ด ขึ้ น จ า ก ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ข อ ง สั ง ค ม
ซึ่งมีสาเหตุจากความเจริญทางด้านวัตถุและวัฒนธรรมตะวันตกหลั่งไหลเข้ามาอย่างรวดเร็วด้วยอิทธิพลของการ
สื่ อสาร ทาใ ห้คน ไทยรับ วัฒ น ธรรมตะ วัน ตกเข้ามาโดยเฉพ าะ ใน ห นุ่มสาวหรือเยาวช น
ก่อให้เกิดความขัดแย้งทางด้าน ความคิดระหว่างคนหนุ่มสาวกับผู้ใหญ่ที่ยึดมั่น ในวัฒนธรรมเดิม
ท า ใ ห้ เ กิ ด ปั ญ ห า กั บ ย า เ ส พ ติ ด ปั ญ ห า ท า ง เ พ ศ ปั ญ ห า ท า ง อ า ช ญ า ก ร ร ม
ซึ่งการศึกษาปัญหาเหล่านี้จะเป็นข้อมูลในการจัดหลักสูตรเพื่อเตรียมเยาวชนสามารถดารงอยู่ในสังคมที่เปลี่ยนแ
ปลงได้อย่างมีความสุขและไม่เกิดปัญหา
4.3ปัญหาด้านเศรษฐกิจ โดยพื้นฐานนั้นประเทศไทยเป็นประเทศที่มีพื้นฐานดั้งเดิมจากเกษตรกรรม
ประ ช าช น ส่วน ใหญ่ยัง มีพื้ น ฐาน อยากจน และ มีการศึกษาต่า ประช าช น เกิดการว่างงาน
ก า ร ย้ า ย ถิ่ น ท า กิ น ช น บ ท เ ข้ า สู่ เ มื อ ง ห รื อ อั ต ร า ค่ า จ้ า ง แ ร ง ง า น ต่ า
สิ่งเหล่านี้ เป็ นปัญหาทางเศรษฐกิจยาวนานของประเทศ ประกอบกับใน ปัจจุบันประเทศต่างๆ
ประสบกับภาวะปัญหาทางด้านเศรษฐกิจของโลกทั้งประเทศไทยด้วย ทาให้ปัญหาทางเศรษฐกิจในอดีต
ปัจจุบัน และแน วโน้มปั ญหาที่เกิดใน อนาคต เพื่อจะให้นาข้อมูลทางเศรษฐกิจของประเทศ
โ ด ย ก า ห น ด จุ ด ห ม า ย ข อ ง ห ลั ก สู ต ร ก า ร ส ร้ า ง ห ลั ก สู ต ร ห ล า ย วิ ช า
หรือการบรรจุเนื้อหาสาระให้ผู้เรียน มีความรู้ความสามารถและประ สิทธิภ าพทางเศรษฐกิจ
ท า ใ ห้ ผู้ ที่ จ บ ก า ร ศึ ก ษ า ใ น ร ะ ดั บ ต่ า ง ๆ ส า ม า ร ถ อ อ ก ไ ป ป ร ะ ก อ บ อ าชี พ ไ ด้
และสามารถดารงอยู่ในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ โดยไม่เป็นปัญหาหรือภาระของสังคม
หรือจัดการศึกษาเพื่อให้บุคคลสามารถสร้างงานได้
- 15. 4.4ปัญหาทางด้านการเมืองการปกครอง สภาพปัญหาทางด้านการเมืองของไทยเป็นมาอย่างยาวนาน
ส ม ค ว ร ที่ ก า ร ศึ ก ษ า จ ะ เ ข้ า ไ ป มี บ ท บ า ท ใ น ก า ร พั ฒ น า ด้ า น ก า ร เ มื อ ง
คื อ ก า ร ใ ห้ ค ว า ม รู้ แ ล ะ ป ลู ก ฝั ง ใ น เ รื่ อ ง ข อ ง ป ร ะ ช า ธิ ป ไ ต ย
เพราะประชาชนทั่วไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนในท้องถิ่นชนบทมีความรู้เข้าใจเกี่ยวกับประชาธิปไตยไม่ดีพ
อ นอกจากนั้นประชาชนส่วนใหญ่ยังขาดความสานึกและความรับผิดชอบต่อวิถีทางแบบประชาธิปไตย
ซึ่ ง จ ะ เห็ น ไ ด้ จา ก ก าร เข้ ามี บ ท บ าท ท าง ก าร เมื อ ง ยัง เป็ น เรื่ อ ง ข อ ง ค น ก ลุ่มน้ อ ย
หรือจานวนผู้ไปใช้เสียงในการเลือกตั้งแต่ละครั้งมีจานวนน้อยมากเมื่อเปรียบกับผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งทั้งหม
ด แม้ว่านักศึกษามีอายุที่จะ ใช้สิ ทธิ์ เลือกตั้งได้แล้วแต่อัตราส่วน ผู้ใช้สิ ทธิ์ ยังน้อยเห มือน เดิม
ใ น เมื่อ ผู้ไ ด้รับ การ ศึ ก ษ าที่ มีค ว ามรู้ ค วามเข้าใ จ ใ น เรื่ อ ง ป ระ ช าธิ ป ไต ย เป็ น อ ย่าง ดี
ยังขาดความสานึกความรับผิดชอบเช่นนี้ นักพัฒนาหลักสูตรจึงควรที่จะได้ตระหนักและพัฒนาหลักสูตร
เนื้ อห าวิช าห รื อกิจก รรมก ารเรี ยน ก ารส อน ใ ห้ ส ามารถ พัฒ น าผู้เรี ยน ใ ห้ มีจิตส านึ ก
และความรู้สึงรับผิดชอบต่อการปกครองของประเทศ
จากสภาพปัญหาต่างๆ ที่กล่าวมาเป็ น เพียงตัวอย่างที่นักพัฒนาห ลักสูตรจะตั้งคานึงถึง
ทั้งนี้เพื่อให้หลักสูตรที่ร่างขึ้นมามีส่วนแก้ปัญหาสังคมและประเทศชาติโดยส่วนรวมบางปัญหาอาจแก้ได้โดยตร
ง บ า ง ปั ญ ห า ก า ร ศึ ก ษ า แ ก้ ไ ข โ ด ย ท า ง อ้ อ ม
ซึ่งเป็นหน้าที่ของนักพัฒนาหลักสูตรจะต้องพิจารณาปัญหาเพื่อนาไปสู่การตัดสินใจเลือกทิศทางในการพัฒนาห
ลักสูตรเพื่อสร้างคนที่เป็นประโยชน์แก่สังคม หรือคนที่จะไปพัฒนาหรือแก้ปัญหาสังคมต่อไป
ขั้นตอนในการพิจารณาปัญหาและแนวทางแก้ไขมีดังนี้
1. พิจารณาปัญหาที่ระบบการศึกษาเอื้ออานวยในการปรับปรุงให้ดีขึ้น
2. พิจารณาสาเหตุ ข้อเท็จจริงสภาพปัญหา
3. พิจารณาวิชา เนื้อหาและประสบการณ์การเรียนรู้ที่เหมาะสม
4. พิจารณากิจกรรมการเรียนการสอนที่เหมาะสม
5. ข้อมูลพื้นฐานทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ความเจริญก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโน โลยี ทาให้สังคมเปลี่ยน แปลงไป
ผู้เรียน เกิดความจาเป็ น ต้องเพิ่ มความรู้ให ม่ ทักษะใ หม่ และต้อง เปลี่ยน แปลงเจตคติให ม่
ทาให้เกิดความจาเป็นจะต้องสร้างคุณธรรมและความคิดใหม่เพื่อให้คนในสังคมสามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ย
น แ ป ล ง ข อ ง สั ง ค ม ไ ด้
โดยใช้การศึกษาทาหน้าที่สร้างประชาชนที่มีคุณภาพและมีความสามารถปรับตัวให้กับความเจริญทางด้านวิทยา
- 16. ศ า ส ต ร์ แ ล ะ เ ท ค โ น โ ล ยี ไ ด้ อ ย่ า ง เ ห ม า ะ ส ม
หลักสูตรที่นามาใช้จาเป็นต้องมีความสอดคล้องกับความเจริญ ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ปัจจุบันประเทศไทยได้นาเอาความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์มาใช้ในสังคมอย่างกว้างขวางในทุกๆ ด้าน
ท า ใ ห้ เกิด ผ ล ก ร ะ ท บ ต่อ สั ง ค ม แ ล ะ สิ่ ง แ ว ด ล้อ ม ทั้ ง ท า ง ต ร ง แ ล ะ ท าง อ้อ ม ดัง นั้ น
ก าร จัด ก าร ศึ ก ษ า จึ ง ค ว ร จ ะ ใ ห้ ป ร ะ ช าช น ต ร ะ ห นั ก ถึ ง ส ภ าพ ข้ อ เ ท็ จ จ ริ ง ต่า ง ๆ
ที่เป็ นผลกระทบจากความเจริญทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมทั้งให้เขาได้รับข้อมูลต่างๆ
อย่าง เพี ยง พ อ เพื่ อ ใ ห้ เข าส าม ารถ เลื อก ตัด สิ น ใ จใ ช้ วิธี การป ฏิ บัติ ที่ ถู ก ต้อ ง ดัง นั้ น
นักพัฒนาหลักสูตรต้องศึกษาข้อมูลทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทั้งในปัจจุบันและแนวโน้มความเจริญใ
น อ น า ค ต
เพื่อที่จะได้พัฒนาหลักสูตรเพื่อพัฒนาคนให้สามารถดารงตนอยู่ได้อย่างเหมาะสมในสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป
นอกจากจะพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับความเจริญทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแล้ว
ความเจริญทางด้านนี้ยังก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเรื่องเนื้อหาของหลักสูตรและการเรียนการสอน เช่น
อุปกรณ์สอนใหม่ๆ เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ คอมพิวเตอร์ วิทยุ โทรทัศน์ เครื่องบันทึกเสียง วีดีทัศน์
ไมโครฟิ ล์ม โพรเจกเตอร์ วิธีการสอน แบบใหม่ๆ ซึ่งใช้เครื่องมือต่างๆ ช่วย เช่น วิทยุการศึกษา
โทรทัศน์การศึกษา การศึกษาทางไกล การสอนแบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเป็นต้น
วั ส ดุ อุ ป ก ร ณ์ เ ค รื่ อ ง อิ เ ล็ ก ท ร อ นิ ก ส์
และวิธีการสอน ใหม่ที่อาศัยความเจริญ ก้าวหน้าทางด้าน วิทยาศาสตร์และเทคโน โลยีเหล่านี้
ส า ม า ร ถ ช่ ว ย ใ ห้ จั ด ก า ร ศึ ก ษ า มี ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ สู ง ก ว่า ก า ร ส อ น ใ น อ ดี ต
ผู้พัฒนาหลักสูตรจึงมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความก้าวหน้าในเรื่องดังกล่าวนามาพัฒนาหลักสูตรและการจัด
การเรียนการสอนให้เหมาะสมด้วย
6. ข้อมูลพื้นฐานทางสภาพทางสังคมในอนาคต
จ า ก ส ภ า พ ก า ร เป ลี่ ย น แ ป ล ง ทั้ ง ท า ง ด้ า น เศ ร ษ ฐ กิ จ ก า ร เ มื อ ง สั ง ค ม
และ ความเจริ ญ ก้าวหน้ าทางวิทยาศาสต ร์แล ะ เท คโน โลยีของ ประ เทศไท ยใ น ปั จจุบัน
ชี้ ให้ เห็ น ว่าใน อน าคตประ เทศไทยมีแน วโน้มที่จะ พัฒ น าทางด้าน อุตสาห กรรมมากขึ้ น
ซึ่ ง จ ะ เ ป็ น ผ ล ใ ห้ เ กิ ด อุ ต ส า ห ก ร ร ม ใ ห ม่ ห ล า ก ห ล า ย ส า ข า
จากสภาพการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมีผลทาให้สังคมเปลี่ยนแปลงไปดังนี้
1. มีการส่งเสริมอุตสาหกรรมขนาดย่อม รวมทั้งอุตสาหกรรมท้องถิ่นเพิ่มขึ้น
- 17. 2.
งานอาชีพอิสระมีแนวโน้มจะมีความสาเร็จมากขึ้นในอนาคตทั้งนี้เนื่องจากลักษณะการผลิตอุตสาหกรรมส่วนใ
หญ่มักเป็นการผลิตใช้ทุนมากกว่าใช้แรงงาน
3.
ในอนาคตสภาพสังคมจะมีการแข่งขันและต่อสู้เพื่ออยู่รอดเฉพาะตัวเพราะที่ดินทากินไม่สามารถขยายเพิ่มให้สม
ดุ ล กั บ ป ร ะ ช า ก ร ไ ด้ ท า ใ ห้ เ กิ ด ก า ร เ ข้ า ม า ท า ง า น ใ น เ มื อ ง ม า ก ขึ้ น
และภาคอุตสาหกรรมก็ไม่สามารถรองรับแรงงานได้ทั้งหมด เพราะฉะนั้นการแข่งขันเพื่อความอยู่รอดมีมากขึ้น
4.
การประพฤติปฏิบัติของคนไทยจะเปลี่ยนไปจากวัฒนธรรมดั้งเดิมซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิ
จ สังคม การเมือง ความเจริญด้าน เทคโน โลยีและการห ลั่งไห ลเข้ามาของวัฒน ธรรมตะวันตก
ซึ่งมีผลกระทบต่อคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และสิ่งแวดล้อมของสังคมไทย
5.ในอนาคตคาดว่าการดาเนินชีวิตของคนไทยประสบกับปัญหา ทั้งใน ด้าน สุขภาพและ
การ ป ร ะ ก อ บ อ าชี พ ม ากขึ้ น ซึ่ ง เป็ น ผ ล กร ะ ท บ มาจ าก ก าร เป ลี่ ย น แ ป ล ง ท าง สั ง ค ม
เศรษฐกิจและการเพิ่มของประชากร
จากสภาพการเปลี่ยนแปลงในลักษณะต่างๆ ดังกล่าวแล้ว หลักสูตรในอนาคตต้องมีบทบาทดังต่อไปนี้
1.เตรียมกาลังคนให้เหมาะสมกับงานด้านอุตสาหกรรมขนาดย่อย และอุตสาหกรรมท้องถิ่น
โดยเตรียมกาลังคนที่มีคุณภาพทางด้านความรู้ทักษะ และลักษณะนิสัย ตลอดจนเจตคติที่ดีต่อการทางานอาชีพ
2.
ส่งเสริมอาชีพอิสระและเตรียมคนให้เห็นช่องทางในการประกอบอาชีพอิสระมากขึ้นเพื่อแก้ปัญหาการว่างงานข
องประชาชนส่วนหนึ่ง
3.การศึกษาใน อน าคตควรเน้นไปที่การสร้างค่านิยมด้าน ความสามัคคีใน การอยู่ร่วมกัน
โดยให้ทุกคนรู้จักเสียสละ มุ่งทาประโยชน์ให้แก่สังคมเป็นส่วนใหญ่ และหาจุดยืนที่เป็นที่ยอมรับ
4. เ ต รี ย ม ค น ใ ห้ เ ห็ น คุ ณ ค่ า ข อ ง ก า ร ด า ร ง รั ก ษ า วั ฒ น ธ ร ร ม ไ ท ย
รู้จัก ผส มผ สาน วัฒ น ธรรม ดั่ง เดิมกับ วัฒ น ธ รรมใ ห ม่ เพื่ อเป็ น แน วท าง การป ฏิ บัติต น
มุ่งพัฒนาตนเองและสร้างสรรค์ความเจริญทางสังคมตลอดจนมุ่งพัฒนาจิตใจให้ยึดมั่นในศาสนาและหลักธรรม
มีคุณธรรมจริยธรรมอันจะนาไปสู่การมีชีวิตที่สงบสุข
5. เต รี ยมฝึ ก ค น ใ ห้ ส ามาร ถ แ ก้ไข ปั ญ ห าเกี่ย วกับ สุ ข ภ าพ แ ล ะ ปั ญ ห าต่าง ๆ
ในการดารงชีวิตพร้อมทั้งสามารถเลือกแนวทางในการปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
- 18. 7. ข้อมูลพื้นฐานจากนักวิชาการจากสาขาต่างๆ
ข้ อ มู ล พื้ น ฐ า น จ า ก นั ก วิ ช า ก า ร ใ น วิ ช า ส า ข า ต่ า ง ๆ
เป็นข้อมูลสาคัญอีกอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้ข้อมูลในการพัฒนาหลักสูตรสามารถคลอบคลุมความต้องการจาเป็นใ
นการพัฒนาหลักสูตรได้อย่างกว้างขวาง ข้อมูลดังกล่าวได้แก่ข้อมูลจากนักวิชาการในวิชาสาขาต่างๆ
นั ก ก าร ศึ ก ษ า ห รื อ บุ ค ค ล ที่ เ กี่ ย ว ข้ อ ง กับ ก า ร ใ ช้ ผ ล ผ ลิ ต ข อ ง ก าร จัด ก า ร ศึ ก ษ า
คื อ ส ถ า น ป ร ะ ก อ บ ก า ร ที่ จ บ ก า ร ศึ ก ษ า เ ข้ า ไ ป สู่
หรืออาจจะเรียกข้อมูลจากสถานประกอบหรือตลาดแรงงานเป็นต้น
7.1 ข้ อ มู ล จ า ก นั ก วิ ช า ก า ร นั ก วิ ช า ก า ร แ ต่ ล ะ ส า ข า ที่ มี ค ว า ม รู้
ค ว ามส า มาร ถ ค ว าม ช าน า ญ เฉ พ า ะ ท าง ย่อ ม รู้ ท ฤ ษ ฎี ห ลั ก ธ ร รม ช าติ โ ค ร ง ส ร้ า ง
แ ล ะ ร ะ ดั บ ค ว า ม ย า ก ง่ า ย ข อ ง ค ว า ม รู้ แ ต่ ล ะ ศ า ส ต ร์ ข อ ง ต น เ ป็ น อ ย่า ง ดี
คณะพัฒนาหลักสูตรต้องปรึกษาและร่วมมือกับนักวิชาการเหล่านี้เกี่ยวกับการกาหนดจุดมุ่งหมายการเรียนรู้ในแ
ต่ ล ะ ส า ข า วิ ช า ใ น ก า ร ก า ห น ด เ นื้ อ ห า วิ ช า ค ว า ม ก ว้ า ง ค ว า ม ลึ ก
และความต่อเนื่องสัมพันธ์เนื้อหาในเรื่องการปฏิบัติการพัฒนาหลักสูตรของไทยยังขาดข้อมูลด้านนี้มา ก
ท า ใ ห้ เ กิ ด ก า ร สู ญ เ ป ล่ า ท า ง ก า ร ศึ ก ษ า นั ก วิ ช า ก า ร ส า ข า ต่ า ง ๆ
จึงน่าจะมีบทบาทในการพัฒนาหลักสูตรโดยร่วมเป็นคณะกรรมการพัฒนาหลักสูตรในแต่ละสาขา
เพื่อสร้างหลักสูตรที่สมเหตุสมผลและสมจริงทางวิชาการ
7.2 ข้อมูลจากสถานประกอบการ เป็นแหล่งข้อมูลที่สาคัญที่นักพัฒนาหลักสูตรไม่สมควรมองข้าม
เ พ ร า ะ ห ลั ก สู ต ร จ ะ ต้ อ ง ผ ลิ ต ค น สู่ ส ถ า น ป ร ะ ก อ บ ก า ร ต่ า ง ๆ ใ น สั ง ค ม
โ ด ย เ ฉ พ า ะ อ ย่ า ง ยิ่ ง ก า ร พั ฒ น า ห ลั ก สู ต ร ใ น ร ะ ดั บ อ า ชี ว ศึ ก ษ า
ความต้องการของสถาน ประกอบการเป็ น ข้อมูลสาคัญที่นักพัฒน าหลักสูตรควรนาไปพิจารณา
เพื่อจัดหลักสูตรและการเรียนการสอนให้ผู้จบหลักสูตรสามารถเข้าไปสู่สถานประกอบการได้อย่างมีประสิทธิภ
าพ
8. ข้อมูลพื้นฐานที่เกี่ยวกับโรงเรียน ชุมชนหรือสังคมที่โรงเรียนตั้งอยู่
ข้อมูลที่สาคัญอีกอย่างหนึ่งที่ควรศึกษาวิเคราะห์ คือข้อมูลที่เกี่ยวกับสภาพทั่วไปของโรงเรียน เช่น
ข้ อ มู ล เ กี่ ย ว กั บ จ า น ว น ค รู ใ น โ ร ง เ รี ย น
จาน วน อาคารสถาน ที่หรือห้องเรียน จาน วน อุป กรณ์และศักยภ าพ ของโรงเรี ยน มากที่สุ ด
นอกจากนี้ข้อมูลเกี่ยวกับชุมชนและสภาพสังคมที่โรงเรียนตั้งอยู่ก็เป็นข้อมูลที่ผู้จัดทาหลักสูตรหรือพัฒนาหลักสู
ต ร จ ะ ต้ อ ง ศึ ก ษ า เ ช่ น ส ภ า พ แ ว ด ล้ อ ม แ ล ะ ส ภ า พ ภู มิ ศ า ส ต ร์ ที่ ตั้ ง
- 19. ห รื อ สั ง ค ม โ ด ย ทั่ ว ไ ป ข อ ง ผู้ ใ ช้ ห ลั ก สู ต ร ห รื อ โ ร ง เ รี ย น นั้ น เ ป็ น อ ย่า ง ไ ร
ก าร ส นั บ ส นุ น ห รื อ ค ว าม ร่ว มมื อ ข อ ง ชุ ม ช น สั ง ค มที่ มีต่อ โ รง เรี ย น เป็ น อ ย่าง ไ ร
ข้อมูลดังกล่าวจะ เป็ น ประ โยช น์ ใ น การจัดท าหลักสู ตร เช่น การกาหน ดวิช าเรี ยน ต่าง ๆ
เพราะบางรายวิชาสภาพชุมชนและสังคมไม่สามารถเอื้ออานวยหรือส่งเสริมเท่าที่ควร การศึกษาก็ไม่บรรลุผล
เ พ ร า ะ ฉ ะ นั้ น ก า ร ศึ ก ษ า ข้ อ มู ล เ กี่ ย ว กั บ โ ร ง เ รี ย น ชุ ม ช น
แ ล ะ สั ง ค ม ที่ โ ร ง เรี ย น ตั้ ง อ ยู่จึ ง เ ป็ น สิ่ ง ที่ ส าคั ญ ที่ ผู้ จัด ท าห ลั ก สู ต ร ต้ อ ง ศึ ก ษ า
เ พื่ อ ใ ห้ ไ ด้ ข้ อ มู ล ม า จั ด ท า ห ลั ก สู ต ร ที่ โ ร ง เ รี ย น ต่ า ง ๆ
สามารถน าไป ใ ช้ใ น การจัดการเรี ยน การส อน ได้อย่าง มีป ระ สิ ท ธิ ภ าพ ซึ่ งข้อมูลต่าง ๆ
เหล่านี้ สามารถค้น คว้าและหาข้อมูลได้จากเอกสารในการรายงาน ต่างๆ การสารวจ สอบถาม
และการสัมภาษณ์บุคคลต่างๆ ตลอดจนข้อมูลเกี่ยวข้อง เช่น คนในชุมชน ผู้บริหาร ครู นักเรียน ผู้ปกครอง
ผู้ที่สาเร็จการศึกษาซึ่งการศึกษาข้อมูลดังกล่าวจาเป็นสาหรับการพัฒนาหลักสูตรทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติ
เพื่ อ ใ ห้ ไ ด้ ห ลั ก สู ต ร ที่ ทุ ก โ ร ง เรี ย น ส าม า ร ถ น า ไ ป ใ ช้ ไ ด้อ ย่า ง มีป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ
โ ด ย เฉ พ า ะ ห ลั ก สู ต ร ร ะ ดั บ ท้ อ ง ถิ่ น ข้ อ มู ล ดั ง ก ล่า ว มี ค ว า ม ส า คั ญ อ ย่า ง ยิ่ ง
ผู้พัฒนาหลักสูตรระดับท้องถิ่นจะต้องให้ความสาคัญเพื่อที่จะเสริมสร้างได้หลักสูตรที่เหมาะสมและตอบสนอง
ต่อท้องถิ่นนั้นๆ ได้อย่างเต็มที่
9. ข้อมูลพื้นฐานทางประวัติศาสตร์และการศึกษาหลักสูตรเดิม
ประ วัติศาสตร์ มีความสาคัญ ต่อชีวิตและ การกระ ท าใ น ปั จจุบัน ดังคาก ล่าวที่ ว่า
ปั จจุบัน ผลของ อดีตและ อน าคตเป็ น ผลปั จจุบัน เพ ราะ ฉ ะ นั้ น ข้อมูลทางป ระ วัติศาส ตร์
และการศึกษาหลักสูตรในอดีตย่อมมีประโยชน์ต่อการจัดการศึกษาและการจัดทาหลักสูตรในปัจจุบัน
ก า ร ศึ ก ษ า ไ ท ย กั บ ป ร ะ วัติ ศ า ส ต ร์ ไ ท ย มี ค ว า ม ผู ก พั น กั น อ ย่า ง แ น่ น แ ฟ้ น
เ พ ร า ะ เ ห ตุ ก า ร ณ์ ใ น ช า ติ ย่ อ ม มี ผ ล ก ร ะ ท บ ต่ อ ก า ร ศึ ก ษ า เ ส ม อ
นักการศึกษาและนักพัฒนาหลักสูตรจึงจาเป็นต้องมีความรู้หรือข้อมูลศึกษาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของชาติ
ร ว ม ทั้ ง ป ร ะ วั ติ ศ า ส ต ร์ ค ว บ คู่ กั น ไ ป
เพราะเราต้องอาศัยพื้นฐานทางประวัติศาสตร์มาช่วยในการจัดการศึกษาและพัฒนาหลักสูตรในปัจจุบัน
การศึกษาข้อมูลทางประวัติศาสตร์จะทาให้เราเห็นภาพรวมความเจริญของชาติทั้งทางด้านเศรษฐกิจ
สภ าพ แวดล้อม การเมือง และวัฒน ธรรมใน อดีตที่ผ่าน มา รวมทั้งผลกระทบที่มีต่อการศึกษา
ซึ่งข้อมูลในส่วนนี้นักพัฒนาหลักสูตรต้องวิเคราะห์ว่าการจัดการศึกษาหรือการจัดหลักสูตรอย่างนั้นในสภาพเศร
ษฐกิจ สั ง คม แล ะ การเมือง ใ น ขณ ะ นั้ น มีค วามถูกต้อ งแ ละ เห ม าะ ส มมากน้ อยเพี ยง ใ ด