Submit Search
Upload
04 กุรุธรรมจริยา มจร.pdf
•
0 likes
•
3 views
maruay songtanin
Follow
ทศบารมี พระโพธิสัตว์
Read less
Read more
Spiritual
Report
Share
Report
Share
1 of 5
Download now
Download to read offline
Recommended
08 จันทกุมารจริยา มจร.pdf
08 จันทกุมารจริยา มจร.pdf
maruay songtanin
ทศบารมี พระโพธิสัตว์
ประวัติพระแก้วมรกต
ประวัติพระแก้วมรกต
รองประธานศูนย์บริการชุมชนคลองจั่น, กรรมการชมรมผู้อาวุโส สคช.,
200789830 katin
200789830 katin
Tongsamut vorasan
09 สิวิราชจริยา มจร.pdf
09 สิวิราชจริยา มจร.pdf
maruay songtanin
ทศบารมี พระโพธิสัตว์
๐๙. วิธุรชาดก.pdf
๐๙. วิธุรชาดก.pdf
maruay songtanin
พระศาสดาเมื่อประทับ ณ พระเชตวัน ทรงปรารภการบำเพ็ญปัญญาบารมี ตรัสวิธุรชาดกนี้ ซึ่งมีคำเริ่มต้นว่า เธอมีผิวพรรณเหลือง ซูบผอม มีกำลังน้อย ดังนี้เป็นต้น
Tri91 64+พระสุตตันตปิฎก+ขุททกนิกาย+ชาดก+เล่ม+๔+ภาค+๓
Tri91 64+พระสุตตันตปิฎก+ขุททกนิกาย+ชาดก+เล่ม+๔+ภาค+๓
Tongsamut vorasan
03 สังขพราหมณจริยา มจร.pdf
03 สังขพราหมณจริยา มจร.pdf
maruay songtanin
ทศบารมี พระโพธิสัตว์
32 กัณหทีปายนจริยา มจร.pdf
32 กัณหทีปายนจริยา มจร.pdf
maruay songtanin
ทศบารมี พระโพธิสัตว์
Recommended
08 จันทกุมารจริยา มจร.pdf
08 จันทกุมารจริยา มจร.pdf
maruay songtanin
ทศบารมี พระโพธิสัตว์
ประวัติพระแก้วมรกต
ประวัติพระแก้วมรกต
รองประธานศูนย์บริการชุมชนคลองจั่น, กรรมการชมรมผู้อาวุโส สคช.,
200789830 katin
200789830 katin
Tongsamut vorasan
09 สิวิราชจริยา มจร.pdf
09 สิวิราชจริยา มจร.pdf
maruay songtanin
ทศบารมี พระโพธิสัตว์
๐๙. วิธุรชาดก.pdf
๐๙. วิธุรชาดก.pdf
maruay songtanin
พระศาสดาเมื่อประทับ ณ พระเชตวัน ทรงปรารภการบำเพ็ญปัญญาบารมี ตรัสวิธุรชาดกนี้ ซึ่งมีคำเริ่มต้นว่า เธอมีผิวพรรณเหลือง ซูบผอม มีกำลังน้อย ดังนี้เป็นต้น
Tri91 64+พระสุตตันตปิฎก+ขุททกนิกาย+ชาดก+เล่ม+๔+ภาค+๓
Tri91 64+พระสุตตันตปิฎก+ขุททกนิกาย+ชาดก+เล่ม+๔+ภาค+๓
Tongsamut vorasan
03 สังขพราหมณจริยา มจร.pdf
03 สังขพราหมณจริยา มจร.pdf
maruay songtanin
ทศบารมี พระโพธิสัตว์
32 กัณหทีปายนจริยา มจร.pdf
32 กัณหทีปายนจริยา มจร.pdf
maruay songtanin
ทศบารมี พระโพธิสัตว์
06 มหาโควินทจริยา มจร.pdf
06 มหาโควินทจริยา มจร.pdf
maruay songtanin
ทศบารมี พระโพธิสัตว์
๐๕. มโหสธชาดก.pdf
๐๕. มโหสธชาดก.pdf
maruay songtanin
พระศาสดาเมื่อประทับ ณ พระเชตวัน ทรงปรารภปัญญาบารมีของพระองค์ ตรัสมโหสธชาดกซึ่งมีคำเริ่มต้นว่า พระเจ้าพรหมทัตผู้ครองแคว้นปัญจาละเสด็จยาตราทัพมาพร้อมด้วยกองทัพทุกหมู่เหล่าเป็นต้น
13 ภูริทัตตจริยา มจร.pdf
13 ภูริทัตตจริยา มจร.pdf
maruay songtanin
ทศบารมี พระโพธิสัตว์
๐๔. เนมิราชชาดก.pdf
๐๔. เนมิราชชาดก.pdf
maruay songtanin
เนมิราชชาดก เป็นเรื่องที่พระบรมศาสดาเมื่อเสด็จเข้าไปอาศัยเมืองมิถิลา ประทับอยู่ ณ สวนมะม่วงของพระราชามฆเทพ ทรงปรารภการกระทำการแย้มสรวลให้ปรากฏ ตรัสเรื่องเนมิราชชาดกนี้ เริ่มต้นด้วยคำว่า น่าอัศจรรย์หนอ...ในโลก ดังนี้
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand
สมเด็จพระนเศวรมหาราช
สมเด็จพระนเศวรมหาราช
Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand
18 มาตังคจริยา มจร.pdf
18 มาตังคจริยา มจร.pdf
maruay songtanin
ทศบารมี พระโพธิสัตว์
มิลินทปัญหา
มิลินทปัญหา
ว่าที่ ร.ต.ณัฐส? แก้วใจ
07 เนมิราชจริยา มจร.pdf
07 เนมิราชจริยา มจร.pdf
maruay songtanin
ทศบารมี พระโพธิสัตว์
27 มูคปักขจริยา มจร.pdf
27 มูคปักขจริยา มจร.pdf
maruay songtanin
ทศบารมี พระโพธิสัตว์
Tri91 07+มหาวรรค+เล่ม+๕+ภาค+๒
Tri91 07+มหาวรรค+เล่ม+๕+ภาค+๒
Tongsamut vorasan
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๐๕ วินัยปิฎกที่ ๐๕ มหาวรรค ภาค ๒
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๐๕ วินัยปิฎกที่ ๐๕ มหาวรรค ภาค ๒
Tongsamut vorasan
Bangkok
Bangkok
supakornsira
Bangkok
Bangkok
supakornsira
Bangkok
Bangkok
supakornsira
สมเด็พระนารายณ์มหาราช
สมเด็พระนารายณ์มหาราช
Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand
05 มหาสุทัสสนจริยา มจร.pdf
05 มหาสุทัสสนจริยา มจร.pdf
maruay songtanin
ทศบารมี พระโพธิสัตว์
(๒๓) พระปฏาจาราเถรี มจร.pdf
(๒๓) พระปฏาจาราเถรี มจร.pdf
maruay songtanin
พระปฏาจาราเถรี ประวัติในอดีตชาติของพระปฏาจาราเถรี พระชินเจ้าทรงพอพระทัยในคุณสมบัตินั้น จึงทรงตั้งหม่อมฉันไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะว่า ‘ปฏาจาราภิกษุณีเพียงผู้เดียวเลิศกว่าภิกษุณีทั้งหลายผู้ทรงวินัย’
๒๐. อาจามทายิกาวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
๒๐. อาจามทายิกาวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
maruay songtanin
๓. อาจามทายิกาวิมาน ว่าด้วยวิมานที่เกิดขึ้นแก่หญิงกำพร้า ผู้ถวายข้าวตังแด่พระมหากัสสปเถระ
(๑๒) พระอานันทเถราปทาน มจร.pdf
(๑๒) พระอานันทเถราปทาน มจร.pdf
maruay songtanin
พระอานนท์ ประวัติในอดีตชาติของพระอานนทเถระ ราชกุมารนี้จักเป็นพระญาติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นธงชัยแห่งศากยะตระกูล มีนามว่าอานนท์ เป็นอุปัฏฐากของพระพุทธเจ้าผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่
๒๖. อภิชชมานเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
๒๖. อภิชชมานเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
maruay songtanin
เมื่อพระศาสดาเสด็จประทับอยู่ในพระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภเปรตพรานตนหนึ่ง ดังนี้. ได้ยินว่า ในกรุงพาราณสีได้มีพรานคนหนึ่งอยู่ในบ้านชื่อว่าจุนทัฏฐิละ เลยวาสภคาม ฝั่งแม่น้ำคงคาในด้านอีกทิศหนึ่ง. เขาล่าเนื้อในป่าย่างเนื้อล่ำๆ กิน ที่เหลือเอาห่อใบไม้หามมาเรือน. พวกเด็กเล็กๆ เห็นเขาที่ประตูบ้านจึงวิ่งเหยียดมือร้องขอว่า จงให้เนื้อฉัน จงให้เนื้อฉัน. เขาได้ให้เนื้อแก่เด็กเหล่านั้นคนละน้อยๆ. ภายหลังวันหนึ่ง พวกเด็กเห็นเขาที่ประตูบ้าน ผู้ไม่ได้เนื้อ ประดับดอกราชพฤกษ์และหอบเอาไปบ้านเป็นจำนวนมาก จึงวิ่งเหยียดมือร้องขอว่า จงให้เนื้อฉัน จงให้เนื้อฉัน เขาได้ให้ดอกนมแมวแก่เด็กเหล่านั้นคนละดอก. ครั้นสมัยต่อมา เขาทำกาละแล้วบังเกิดในหมู่เปรต เป็นผู้เปลือยกายมีรูปน่าเกลียด เห็นเข้าน่าสะพึงกลัว ไม่รู้จักข้าวและน้ำแม้แต่ในความฝัน ทัดทรงกำดอกราชพฤกษ์และดอกโกสุมบนศีรษะ คิดว่าเราจักได้อะไรๆ ในสำนักของพวกญาติในจุนทัฏฐิลคาม เมื่อน้ำในแม่น้ำคงคาไหลไม่ขาดสาย จึงเดินทวนกระแสน้ำไป.
๒๕. อุพพรีเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๒๕. อุพพรีเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
maruay songtanin
เรื่องนางอุพพรีเปรตนี้ มีดังนี้. พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภอุบาสิกาคนหนึ่ง. เล่ากันมาว่า ในกรุงสาวัตถี ได้มีสามีของอุบาสิกาคนหนึ่งตายไป. อุบาสิกานั้นก็อาดูรเพราะความทุกข์ในการพลัดพรากจากสามี เศร้าโศก เดินร้องไห้ไปยังป่าช้า. พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเห็นอุปนิสัยสมบัติแห่งโสดาปัตติผลของนาง ทรงมีพระมนัสอันพระกรุณากระตุ้นเตือน จึงเสด็จไปยังเรือนของนาง ประทับนั่งบนบัญญัตอาสน์. อุบาสิกาเข้าไปเฝ้าพระศาสดา ถวายบังคมแล้วนั่งอยู่ ณ ที่ควรข้างหนึ่ง. ลำดับนั้น พระศาสดาตรัสกะนางว่า อุบาสิกา เธอเศร้าโศกไปทำไม. เมื่อนางทูลว่า อย่างนั้น พระพุทธเจ้าข้า หม่อมฉันเศร้าโศก เพราะพลัดพรากจากสามีสุดที่รัก ทรงมีพระประสงค์จะให้นางปราศจากความเศร้าโศก จึงได้นำอดีตนิทานมาว่า
More Related Content
Similar to 04 กุรุธรรมจริยา มจร.pdf
06 มหาโควินทจริยา มจร.pdf
06 มหาโควินทจริยา มจร.pdf
maruay songtanin
ทศบารมี พระโพธิสัตว์
๐๕. มโหสธชาดก.pdf
๐๕. มโหสธชาดก.pdf
maruay songtanin
พระศาสดาเมื่อประทับ ณ พระเชตวัน ทรงปรารภปัญญาบารมีของพระองค์ ตรัสมโหสธชาดกซึ่งมีคำเริ่มต้นว่า พระเจ้าพรหมทัตผู้ครองแคว้นปัญจาละเสด็จยาตราทัพมาพร้อมด้วยกองทัพทุกหมู่เหล่าเป็นต้น
13 ภูริทัตตจริยา มจร.pdf
13 ภูริทัตตจริยา มจร.pdf
maruay songtanin
ทศบารมี พระโพธิสัตว์
๐๔. เนมิราชชาดก.pdf
๐๔. เนมิราชชาดก.pdf
maruay songtanin
เนมิราชชาดก เป็นเรื่องที่พระบรมศาสดาเมื่อเสด็จเข้าไปอาศัยเมืองมิถิลา ประทับอยู่ ณ สวนมะม่วงของพระราชามฆเทพ ทรงปรารภการกระทำการแย้มสรวลให้ปรากฏ ตรัสเรื่องเนมิราชชาดกนี้ เริ่มต้นด้วยคำว่า น่าอัศจรรย์หนอ...ในโลก ดังนี้
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand
สมเด็จพระนเศวรมหาราช
สมเด็จพระนเศวรมหาราช
Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand
18 มาตังคจริยา มจร.pdf
18 มาตังคจริยา มจร.pdf
maruay songtanin
ทศบารมี พระโพธิสัตว์
มิลินทปัญหา
มิลินทปัญหา
ว่าที่ ร.ต.ณัฐส? แก้วใจ
07 เนมิราชจริยา มจร.pdf
07 เนมิราชจริยา มจร.pdf
maruay songtanin
ทศบารมี พระโพธิสัตว์
27 มูคปักขจริยา มจร.pdf
27 มูคปักขจริยา มจร.pdf
maruay songtanin
ทศบารมี พระโพธิสัตว์
Tri91 07+มหาวรรค+เล่ม+๕+ภาค+๒
Tri91 07+มหาวรรค+เล่ม+๕+ภาค+๒
Tongsamut vorasan
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๐๕ วินัยปิฎกที่ ๐๕ มหาวรรค ภาค ๒
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๐๕ วินัยปิฎกที่ ๐๕ มหาวรรค ภาค ๒
Tongsamut vorasan
Bangkok
Bangkok
supakornsira
Bangkok
Bangkok
supakornsira
Bangkok
Bangkok
supakornsira
สมเด็พระนารายณ์มหาราช
สมเด็พระนารายณ์มหาราช
Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand
05 มหาสุทัสสนจริยา มจร.pdf
05 มหาสุทัสสนจริยา มจร.pdf
maruay songtanin
ทศบารมี พระโพธิสัตว์
(๒๓) พระปฏาจาราเถรี มจร.pdf
(๒๓) พระปฏาจาราเถรี มจร.pdf
maruay songtanin
พระปฏาจาราเถรี ประวัติในอดีตชาติของพระปฏาจาราเถรี พระชินเจ้าทรงพอพระทัยในคุณสมบัตินั้น จึงทรงตั้งหม่อมฉันไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะว่า ‘ปฏาจาราภิกษุณีเพียงผู้เดียวเลิศกว่าภิกษุณีทั้งหลายผู้ทรงวินัย’
๒๐. อาจามทายิกาวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
๒๐. อาจามทายิกาวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
maruay songtanin
๓. อาจามทายิกาวิมาน ว่าด้วยวิมานที่เกิดขึ้นแก่หญิงกำพร้า ผู้ถวายข้าวตังแด่พระมหากัสสปเถระ
(๑๒) พระอานันทเถราปทาน มจร.pdf
(๑๒) พระอานันทเถราปทาน มจร.pdf
maruay songtanin
พระอานนท์ ประวัติในอดีตชาติของพระอานนทเถระ ราชกุมารนี้จักเป็นพระญาติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นธงชัยแห่งศากยะตระกูล มีนามว่าอานนท์ เป็นอุปัฏฐากของพระพุทธเจ้าผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่
Similar to 04 กุรุธรรมจริยา มจร.pdf
(20)
06 มหาโควินทจริยา มจร.pdf
06 มหาโควินทจริยา มจร.pdf
๐๕. มโหสธชาดก.pdf
๐๕. มโหสธชาดก.pdf
13 ภูริทัตตจริยา มจร.pdf
13 ภูริทัตตจริยา มจร.pdf
๐๔. เนมิราชชาดก.pdf
๐๔. เนมิราชชาดก.pdf
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
สมเด็จพระนเศวรมหาราช
สมเด็จพระนเศวรมหาราช
18 มาตังคจริยา มจร.pdf
18 มาตังคจริยา มจร.pdf
มิลินทปัญหา
มิลินทปัญหา
07 เนมิราชจริยา มจร.pdf
07 เนมิราชจริยา มจร.pdf
27 มูคปักขจริยา มจร.pdf
27 มูคปักขจริยา มจร.pdf
Tri91 07+มหาวรรค+เล่ม+๕+ภาค+๒
Tri91 07+มหาวรรค+เล่ม+๕+ภาค+๒
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๐๕ วินัยปิฎกที่ ๐๕ มหาวรรค ภาค ๒
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๐๕ วินัยปิฎกที่ ๐๕ มหาวรรค ภาค ๒
Bangkok
Bangkok
Bangkok
Bangkok
Bangkok
Bangkok
สมเด็พระนารายณ์มหาราช
สมเด็พระนารายณ์มหาราช
05 มหาสุทัสสนจริยา มจร.pdf
05 มหาสุทัสสนจริยา มจร.pdf
(๒๓) พระปฏาจาราเถรี มจร.pdf
(๒๓) พระปฏาจาราเถรี มจร.pdf
๒๐. อาจามทายิกาวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
๒๐. อาจามทายิกาวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
(๑๒) พระอานันทเถราปทาน มจร.pdf
(๑๒) พระอานันทเถราปทาน มจร.pdf
More from maruay songtanin
๒๖. อภิชชมานเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
๒๖. อภิชชมานเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
maruay songtanin
เมื่อพระศาสดาเสด็จประทับอยู่ในพระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภเปรตพรานตนหนึ่ง ดังนี้. ได้ยินว่า ในกรุงพาราณสีได้มีพรานคนหนึ่งอยู่ในบ้านชื่อว่าจุนทัฏฐิละ เลยวาสภคาม ฝั่งแม่น้ำคงคาในด้านอีกทิศหนึ่ง. เขาล่าเนื้อในป่าย่างเนื้อล่ำๆ กิน ที่เหลือเอาห่อใบไม้หามมาเรือน. พวกเด็กเล็กๆ เห็นเขาที่ประตูบ้านจึงวิ่งเหยียดมือร้องขอว่า จงให้เนื้อฉัน จงให้เนื้อฉัน. เขาได้ให้เนื้อแก่เด็กเหล่านั้นคนละน้อยๆ. ภายหลังวันหนึ่ง พวกเด็กเห็นเขาที่ประตูบ้าน ผู้ไม่ได้เนื้อ ประดับดอกราชพฤกษ์และหอบเอาไปบ้านเป็นจำนวนมาก จึงวิ่งเหยียดมือร้องขอว่า จงให้เนื้อฉัน จงให้เนื้อฉัน เขาได้ให้ดอกนมแมวแก่เด็กเหล่านั้นคนละดอก. ครั้นสมัยต่อมา เขาทำกาละแล้วบังเกิดในหมู่เปรต เป็นผู้เปลือยกายมีรูปน่าเกลียด เห็นเข้าน่าสะพึงกลัว ไม่รู้จักข้าวและน้ำแม้แต่ในความฝัน ทัดทรงกำดอกราชพฤกษ์และดอกโกสุมบนศีรษะ คิดว่าเราจักได้อะไรๆ ในสำนักของพวกญาติในจุนทัฏฐิลคาม เมื่อน้ำในแม่น้ำคงคาไหลไม่ขาดสาย จึงเดินทวนกระแสน้ำไป.
๒๕. อุพพรีเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๒๕. อุพพรีเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
maruay songtanin
เรื่องนางอุพพรีเปรตนี้ มีดังนี้. พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภอุบาสิกาคนหนึ่ง. เล่ากันมาว่า ในกรุงสาวัตถี ได้มีสามีของอุบาสิกาคนหนึ่งตายไป. อุบาสิกานั้นก็อาดูรเพราะความทุกข์ในการพลัดพรากจากสามี เศร้าโศก เดินร้องไห้ไปยังป่าช้า. พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเห็นอุปนิสัยสมบัติแห่งโสดาปัตติผลของนาง ทรงมีพระมนัสอันพระกรุณากระตุ้นเตือน จึงเสด็จไปยังเรือนของนาง ประทับนั่งบนบัญญัตอาสน์. อุบาสิกาเข้าไปเฝ้าพระศาสดา ถวายบังคมแล้วนั่งอยู่ ณ ที่ควรข้างหนึ่ง. ลำดับนั้น พระศาสดาตรัสกะนางว่า อุบาสิกา เธอเศร้าโศกไปทำไม. เมื่อนางทูลว่า อย่างนั้น พระพุทธเจ้าข้า หม่อมฉันเศร้าโศก เพราะพลัดพรากจากสามีสุดที่รัก ทรงมีพระประสงค์จะให้นางปราศจากความเศร้าโศก จึงได้นำอดีตนิทานมาว่า
๒๔. กัณณมุณฑเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
๒๔. กัณณมุณฑเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
maruay songtanin
เมื่อพระศาสดาประทับอยู่ในกรุงสาวัตถี ทรงพระปรารภกัณณมุณฑเปรต ดังนี้. ได้ยินว่า ในอดีตกาล ในกาลแห่งพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่ากัสสปะ ในกิมิลนคร ยังมีอุบาสกคนหนึ่งเป็นพระโสดาบัน มีฉันทะร่วมกันกับอุบาสก ๕๐๐ คนเป็นผู้ขวนขวายในบุญกรรมมีการปลูกดอกไม้ สร้างสะพานและสร้างที่จงกรมเป็นต้นอยู่ สร้างวิหารถวายพระสงฆ์ ได้ไปวิหารตามกาลเวลาพร้อมกับอุบาสกเหล่านั้น. ฝ่ายภริยาของอุบาสกเหล่านั้นเป็นอุบาสิกามีความพร้อมเพรียงกันและกัน ต่างถือดอกไม้ของหอมและเครื่องลูบไล้เป็นต้น ไปยังวิหารตามกาลเวลา ไปพักผ่อนในสภาอันเป็นที่รื่นรมย์เป็นต้น ในระหว่างทาง. ภายหลังวันหนึ่ง นักเลงหญิง ๒-๓ คนนั่งประชุมกันที่สภาแห่งหนึ่ง เมื่ออุบาสิกาเหล่านั้นพากันไปพักผ่อนในที่นั้น เห็นรูปสมบัติของอุบาสิกาเหล่านั้น มีจิตปฏิพัทธ์ รู้ว่า อุบาสิกาเหล่านั้นถึงพร้อมด้วยศีล อาจารและคุณธรรม จึงสนทนากันว่า ใครสามารถจะทำลายศีลของอุบาสิกาแม้คนหนึ่ง ในบรรดาอุบาสิกาเหล่านั้นได้. ในนักเลงเหล่านั้น นักเลงคนหนึ่งกล่าวว่า เราสามารถ. นักเลงเหล่านั้นได้ทำความเสนียดจัญไรว่า พวกเราจะทำกรรมอันเป็นเสนียดจัญไร ด้วยค่าจ้าง ๑,๐๐๐. เมื่อท่านทำได้ เราจะให้ทรัพย์ ๑,๐๐๐ แก่ท่าน เมื่อท่านทำไม่ได้ ท่านพึงให้ทรัพย์แก่เรา. เขาพยายามด้วยอุบายเป็นอเนก เมื่ออุบาสิกาเหล่านั้นมายังสภา จึงดีดพิณ ๗ สายมีเสียงเปล่งออกไพเราะเพราะพริ้ง ขับเพลงขับอันประกอบด้วยกามคุณ มีเสียงไพเราะทีเดียว ให้หญิงคนหนึ่งในบรรดาอุบาสิกาเหล่านั้นถึงศีลวิบัติด้วยเสียงเพลงขับ กระทำการล่วงเกิน ให้นักเลงเหล่านั้นพ่ายแพ้ไปด้วยทรัพย์ ๑,๐๐๐.
๒๓. สุตตเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๒๓. สุตตเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
maruay songtanin
เรื่องสุตตเปรตนี้ มีดังนี้. อุปบัติเหตุของเรื่องนั้นเป็นอย่างไร. ได้ยินว่า ในหมู่บ้านตำบลหนึ่ง ไม่ไกลแต่กรุงสาวัตถี เมื่อพระศาสดายังไม่เสด็จอุบัติขึ้นนั้นแลนับขึ้นไป ๗๐๐ ปียังมีเด็กคนหนึ่งอุปัฏฐากพระปัจเจกพุทธเจ้าองค์หนึ่ง. เมื่อเธอเจริญวัยแล้ว มารดาของเธอจึงไปขอนางกุลธิดาคนหนึ่งมาจากตระกูลที่เสมอกัน เพื่อประโยชน์แก่บุตรนั้น. ก็ในวันวิวาหะนั้นเอง กุมารนั้นไปอาบน้ำกับพวกสหาย ถูกงูกัดตายไป. อาจารย์อีกพวกหนึ่งกล่าวว่า ถูกยักษ์จับก็มี. เธอกระทำกุศลกรรมไว้เป็นอันมาก ด้วยการอุปัฏฐากพระปัจเจกพุทธเจ้า บังเกิดเป็นวิมานเปรต เพราะค่าที่ตนมีจิตปฏิพัทธ์ในเด็กหญิงนั้น. แต่เป็นผู้มีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมาก. ลำดับนั้น เธอปรารถนาจะนำนางทาริกานั้นมายังวิมานของตน จึงคิดว่าด้วยอุบายอะไรหนอ นางจึงจะอภิรมย์ในที่นี้กับเรา ให้เป็นกรรมที่จะต้องอำนวยผลในปัจจุบัน จึงพิจารณาถึงเหตุที่ให้ได้เสวยโภคสมบัติอันเป็นทิพย์นั้น เห็นพระปัจเจกพุทธเจ้ากำลังทำจีวรกรรมอยู่ จึงแปลงรูปเป็นคนไปไหว้ แล้วกล่าวว่า ท่านขอรับ ท่านต้องการด้ายหรือ. พระปัจเจกพุทธเจ้าตอบว่า เราจะทำจีวรกรรมอุบาสก. เวมานิกเปรตนั้นจึงกล่าวว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ท่านจงเที่ยวขอด้ายในที่ชื่อโน้นดังนี้แล้วได้ชี้เรือนของนางทาริกานั้น. พระปัจเจกพุทธเจ้าได้ไปในที่นั้น ได้ยืนอยู่ที่ประตูเรือน. ลำดับนั้น นางเห็นพระปัจเจกพุทธเจ้ายืนอยู่ในที่นั้น มีจิตเลื่อมใส รู้ว่าพระผู้เป็นเจ้าของเรามีความต้องการด้าย จึงได้ให้ด้ายกลุ่มหนึ่ง. ลำดับนั้น อมนุษย์นั้นได้แปลงเพศเป็นมนุษย์ ไปยังเรือนของนางทาริกา อ้อนวอนมารดาของนางแล้ว อยู่กับนาง ๒-๓ วัน เพื่อจะอนุเคราะห์มารดาของนาง จึงทำภาชนะทุกอย่างในเรือนนั้น ให้เต็มด้วยเงินและทองแล้วเขียนชื่อไว้ข้างบนภาชนะทั้งหมดนั้น มีอันให้รู้ว่านี้เป็นทรัพย์ที่เทวดาให้ใครๆ ไม่ควรเอาไป ดังนี้ จึงได้พาเด็กหญิงนั้นไปยังวิมานตน.
๒๒. อุตตรมาตุเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
๒๒. อุตตรมาตุเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
maruay songtanin
เรื่องของนางเปรตผู้เป็นมารดาของนายอุตตระนี้ มีการขยายความดังต่อไปนี้ :- เมื่อพระศาสดาปรินิพพานแล้ว เมื่อปฐมมหาสังคีติเป็นไปแล้ว ท่านพระมหากัจจายนะพร้อมด้วยภิกษุ ๑๒ รูปอยู่ในราวป่าแห่งหนึ่ง ไม่ไกลแต่กรุงโกสัมพี ก็สมัยนั้น อำมาตย์คนหนึ่งของพระเจ้าอุเทน ได้ทำกาละแล้ว. ก็ในกาลก่อน อำมาตย์นั้นได้เป็นผู้จัดตั้งการงานในพระนคร. ลำดับนั้น พระราชาจึงรับสั่งให้เรียกอุตตรมาณพผู้เป็นบุตรของอำมาตย์นั้นมา แล้วทรงสถาปนาไว้ในตำแหน่งที่บิดาดำรงอยู่ว่า เจ้าจงดูแลการงานที่บิดาเจ้าจัดตั้งไว้. อุตตรมาณพนั้นรับพระดำรัสแล้ว วันหนึ่งได้พานายช่างไปป่า เพื่อต้องการไม้สำหรับซ่อมแซมพระนคร จึงเข้าไปยังที่อยู่ของท่านพระมหากัจจายนะในที่นั้น เห็นพระเถระผู้ทรงบังสุกุลจีวร นั่งเงียบอยู่ในที่นั้น. จึงเลื่อมใสในอิริยาบถ ได้กระทำปฏิสันถารแล้ว นั่ง ณ ส่วนข้างหนึ่ง พระเถระแสดงธรรมแก่เธอ. เธอสดับธรรมแล้วเกิดความเลื่อมใสในพระรัตนตรัย จึงตั้งอยู่ในสรณะแล้วนิมนต์พระเถระด้วยคำว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ขอท่านพร้อมด้วยภิกษุทั้งหลายจงรับภัตตาหารเพื่อจะฉันในวันพรุ่งนี้ โดยความอนุเคราะห์กระผมเถิด.
๒๑. อังกุรเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๒๑. อังกุรเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
maruay songtanin
พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ในกรุงสาวัตถี ทรงปรารภอังกุรเปรต จึงตรัสพระคาถานี้. ก็ในที่นี้ ไม่มีอังกุรเปรตก็จริง แต่เพราะความประพฤติของอังกุรเปรตนั้นเกี่ยวเนื่องด้วยเปรต ฉะนั้น ความประพฤติของอังกุรเปรตนั้น ท่านจึงกล่าวว่าอังกุรเปตวัตถุ. ในข้อนั้นมีสังเขปกถาดังต่อไปนี้
๒๐. จูฬเสฏฐิเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
๒๐. จูฬเสฏฐิเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
maruay songtanin
เมื่อพระศาสดาประทับอยู่ที่เวฬุวันมหาวิหาร ทรงปรารภจูฬเสษฐีเปรต ดังนี้. ได้ยินว่า ในกรุงพาราณสี มีคฤหบดีผู้หนึ่งเป็นคนไม่มีศรัทธา ไม่มีความเลื่อมใส เป็นคนตระหนี่เหนียวแน่น ไม่เอื้อเฟื้อต่อการบำเพ็ญบุญ ได้นามว่าจูฬเศรษฐี. เขาทำกาละแล้ว บังเกิดในหมู่เปรต. ร่างกายของเขาปราศจากเนื้อและเลือด มีเพียงกระดูก เส้นเอ็นและหนัง ศีรษะโล้น ปราศจากผ้า. แต่ธิดาของเขาชื่อว่าอนุลา อยู่ในเรือนของสามี ในอันธกวินทนคร มีความประสงค์จะให้พราหมณ์บริโภคอาหารอุทิศบิดา จึงจัดแจงเครื่องอุปกรณ์ทานมีข้าวสารเป็นต้น. เปรตรู้ดังนั้น ไปในที่นั้นโดยอากาศ โดยความหวัง ถึงกรุงราชคฤห์. ก็สมัยนั้น พระเจ้าอชาตศัตรูถูกพระเจ้าเทวทัตต์ส่งไป ให้ปลงพระชนมชีพพระบิดา ไม่เข้าถึงความหลับ เพราะความเดือดร้อนและความฝันร้ายนั้น จึงขึ้นไปบนปราสาท จงกรมอยู่ เห็นเปรตนั้น เหาะไปอยู่จึงถามด้วยคาถานี้ว่า :- ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ท่านเป็นบรรพชิตเปลือยกาย ซูบผอม เพราะเหตุแห่งกรรมอะไร ท่านจะไปไหนในราตรีเช่นนี้ ขอท่านจงบอกกาลที่ท่านจะไปแก่เราเถิด เราสามารถจะให้ทรัพย์เครื่องปลื้มใจแก่ท่าน ด้วยความอุตสาหะทุกอย่าง เปรตถูกพระราชาถามอย่างนี้แล้ว เมื่อจะบอกประวัติของตน จึงได้กล่าวคาถา ๓ คาถาว่า
๑๙. ธนปาลเสฏฐิเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
๑๙. ธนปาลเสฏฐิเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
maruay songtanin
พระศาสดาเมื่อเสด็จประทับอยู่ในพระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภเปรตธนบาล จึงตรัสพระคาถานี้. ได้ยินว่า เมื่อพระพุทธเจ้ายังไม่เสด็จอุบัติ ในนครเอรกัจฉะปัณณรัฐยังมีเศรษฐีคนหนึ่งชื่อว่าธนปาลกะ เป็นผู้ไม่มีศรัทธา ไม่มีความเลื่อมใส เป็นคนตระหนี่ เป็นนัตถิกทิฏฐิบุคคล กิริยาของเขาปรากฏตามพระบาลีนั่นแหละ. เขาทำกาละแล้วบังเกิดเป็นเปรตในกันตารทะเลทราย เขามีร่างกายประมาณเท่าลำต้นตาล มีผิวหนังปูดขึ้นหยาบ มีผมยุ่งเหยิง น่าสะพึงกลัว มีรูปพรรณน่าเกลียด มีรูปขี้เหร่พิลึก เห็นเข้าน่าสะพึงกลัว เขาไม่ได้เมล็ดข้าวหรือหยาดน้ำตลอด ๕๕ ปี มีคอ ริมฝีปากและลิ้นแห้งผาก ถูกความหิวกระหายครอบงำ เที่ยวงุ่นง่านไปทางโน้นทางนี้. ครั้นเมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าของเราทั้งหลายเสด็จอุบัติขึ้นในโลก ทรงประกาศพระธรรมจักรอันบวร ประทับอยู่ในกรุงสาวัตถีโดยลำดับ. พ่อค้าชาวกรุงสาวัตถีบรรทุกสินค้าเต็ม ๕๐๐ เล่มเกวียนไปยังอุตตราปถชนบท ขายสินค้า แล้วเอาเกวียนบรรทุกสินค้าที่ได้กลับมา ในเวลาเย็นถึงแม่น้ำแห้งสายหนึ่ง จึงปลดเกวียนไว้ในที่นั้น พักแรมอยู่ราตรีหนึ่ง. ลำดับนั้น เปรตนั้นถูกความกระหายครอบงำมาเพื่อต้องการน้ำดื่ม ไม่ได้น้ำดื่มแม้สักหยาดเดียวในที่นั้น หมดหวัง ขาอ่อนล้มลง เหมือนตาลรากขาดฉะนั้น.
๑๘. กัณหเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๑๘. กัณหเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
maruay songtanin
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภอุบาสกคนหนึ่งลูกตาย ดังนี้. ได้ยินว่า ในกรุงสาวัตถี ยังมีบุตรของอุบาสกคนหนึ่งทำกาละแล้ว. อุบาสกนั้นเพียบพร้อมไปด้วยลูกศรคือความเศร้าโศก เพราะการตายของลูกนั้น ไม่อาบน้ำ ไม่กินข้าว ไม่จัดแจงการงาน ไม่ไปยังที่อุปัฏฐากพระพุทธเจ้า บ่นเพ้ออย่างเดียว พลางกล่าวว่า พ่อ เป็นลูกที่รัก เจ้าละทิ้งพ่อไปไหนเสียก่อน. ในเวลาใกล้รุ่ง พระศาสดาทรงตรวจดูสัตว์โลก ทรงเห็นอุปนิสัยแห่งโสดาปัตติผลของอุบาสกนั้น รุ่งขึ้นแวดล้อมไปด้วยภิกษุสงฆ์เสด็จไปบิณฑบาตยังกรุงสาวัตถี ทรงเสวยพระกระยาหารเสร็จแล้ว จึงทรงส่งภิกษุทั้งหลายไป ส่วนพระองค์มีพระอานนทเถระเป็นปัจฉาสมณะ ได้เสด็จไปยังประตูเรือนของอุบาสกนั้น. คนทั้งหลายจึงได้แจ้งแก่อุบาสกว่า พระศาสดาเสด็จมาถึงแล้ว. ลำดับนั้น คนในเรือนของอุบาสกนั้นจึงพากันตบแต่งเสนาสนะที่ประตูเรือน แล้วนิมนต์พระศาสดาให้ประทับนั่ง ประคองอุบาสกพาเข้าไปเฝ้าพระศาสดา. พระศาสดาทรงเห็นเธอนั่งอยู่ ณ ส่วนข้างหนึ่ง จึงตรัสถามว่า อุบาสก ท่านเสียใจอะไรหรือ? เมื่ออุบาสกกราบทูลให้ทรงทราบ จึงตรัสว่า อุบาสก โบราณกบัณฑิตทั้งหลายฟังถ้อยคำของบัณฑิตทั้งหลายแล้ว ไม่เศร้าโศกถึงบุตรที่ตายไป ดังนี้แล้วอันอุบาสกนั้นทูลอาราธนา จึงทรงนำอดีตนิทานมาว่า
๑๗. มัฏฐกุณฑลีเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
๑๗. มัฏฐกุณฑลีเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
maruay songtanin
เมื่อพระศาสดาประทับอยู่ในพระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภมัฏฐกุณฑลีเทพบุตร ดังนี้. ข้อที่จะพึงกล่าวในเรื่องมัฏฐกุณฑลีนั้น ท่านได้กล่าวไว้แล้วในอรรถกถามัฏฐกุณฑลีวิมานวัตถุ ในอรรถกถาวิมานวัตถุ ชื่อปรมัตถทีปนี เพราะฉะนั้น พึงทราบโดยนัยดังกล่าวไว้ในอรรถกถาวิมานวัตถุนั้นนั่นแหละ. ก็ในที่นี้ เรื่องของมัฏฐกุณฑลีนั้น ท่านยกขึ้นรวบรวมไว้ในบาลีวิมานวัตถุ เพราะมัฏฐกุณฑลีเทพบุตรเป็นเทวดาในวิมานก็จริง ถึงกระนั้น เพราะเหตุที่เทพบุตรนั้น เพื่อจะกำจัดความเศร้าโศกของอทินนปุพพกะพราหมณ์ผู้ไปป่าช้า เดินเวียนรอบป่าช้าร้องไห้ เพราะความเศร้าโศกถึงบุตร จึงแปลงรูปเทวดาของตนเป็นคนมีร่างกายประพรมด้วยจันทน์เหลือง ประคองแขนทั้ง ๒ คร่ำครวญอยู่ แสดงตนโดยอาการที่ถูกทุกข์ครอบงำ เหมือนเปรต.
๑๖. นันทาเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๑๖. นันทาเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
maruay songtanin
เมื่อพระศาสดาประทับอยู่ในพระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภนางเปรตชื่อว่านันทา ดังนี้. ได้ยินว่า ในหมู่บ้านตำบลหนึ่ง ไม่ไกลแต่กรุงสาวัตถีนัก ยังมีอุบาสกคนหนึ่ง ชื่อว่า นันทิเสน เป็นผู้มีศรัทธา มีความเลื่อมใส. ส่วนภริยาของเขาชื่อว่านันทา ไม่มีศรัทธา ไม่มีความเลื่อมใส เป็นคนตระหนี่ ดุร้าย กล่าววาจาหยาบ ไม่เคารพยำเกรงสามี ด่าบริภาษแม่ผัว ด้วยวาจาว่าเป็นโจร. สมัยต่อมา นางนันทานั้นทำกาละแล้ว ไปบังเกิดในกำเนิดเปรต แสดงตนในที่ไม่ไกลหมู่บ้านนั้นนั่นเอง. นันทิเสนอุบาสกเห็นนางนั้น จึงได้กล่าวคาถาว่า :- ท่านมีผิวพรรณดำ มีรูปร่างน่าเกลียด ตัวขรุขระดูน่ากลัว มีตาเหลือง มีเขี้ยวงอกออกเหมือนหมู เราไม่เข้าใจว่า ท่านจะเป็นมนุษย์.
๑๕. มัตตาเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๑๕. มัตตาเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
maruay songtanin
เมื่อพระศาสดาประทับอยู่ในพระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภนางเปรตชื่อว่ามัตตา ดังนี้. ได้ยินว่า ในกรุงสาวัตถี ได้มีกฎุมพีผู้หนึ่งเป็นคนมีศรัทธา มีความเลื่อมใส. แต่ภริยาของเขาไม่มีศรัทธา ไม่มีความเลื่อมใส มักโกรธและเป็นหมัน โดยชื่อมีชื่อว่ามัตตา. ลำดับนั้น กฎุมพีนั้นเพราะกลัววงศ์สกุลจะขาดศูนย์ จึงได้นำหญิงอื่นชื่อว่าติสสา มาจากสกุลเสมอกัน. นางเป็นผู้มีศรัทธา มีความเลื่อมใส ทั้งเป็นที่รัก เป็นที่ชอบใจของสามี. ไม่นานนัก นางก็ตั้งครรภ์ โดยล่วงไป ๑๐ เดือน นางจึงคลอดบุตรคนหนึ่ง บุตรคนนั้นมีชื่อว่าภูตะ. นางเป็นแม่บ้าน อุปัฏฐากภิกษุ ๔ รูปโดยเคารพ, ส่วนหญิงหมันริษยานาง. วันหนึ่ง หญิงทั้งสองคนนั้นสระผม ได้ยืนผมเปียกอยู่แล้ว. กฎุมพีมีความเสน่หาผูกพันในนางชื่อว่าติสสา ด้วยอำนาจคุณความดี มีใจฟูขึ้น ได้ยืนเจรจามากมาย กับนางติสสานั้น. นางมัตตาอดทนต่อเหตุการณ์นั้นไม่ได้ ถูกความริษยาครอบงำ จึงเอาหยากเยื่อที่กวาดสุมไว้ในเรือนมาโปรยลงบนกระหม่อมของนางติสสา.
๑๔. สารีปุตตเถรมาตุเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉ...
๑๔. สารีปุตตเถรมาตุเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉ...
maruay songtanin
พระศาสดาเมื่อเสด็จประทับอยู่ที่พระเวฬุวันมหาวิหาร ทรงปรารภนางเปรตผู้มารดาของท่านพระสารีบุตรเถระ โดยชาติที่ ๕ แต่ปัจจุบันชาตินี้ ดังนี้. วันหนึ่ง ท่านพระสารีบุตร ท่านพระมหาโมคคัลลานะ ท่านพระอนุรุทธะและท่านพระกัปปินะ ได้อยู่ในราวป่าแห่งหนึ่ง ไม่ไกลแต่กรุงราชคฤห์. ก็สมัยนั้นแล ในกรุงพาราณสีมีพราหมณ์คนหนึ่งเป็นคนมั่งคั่ง มีทรัพย์มาก มีโภคะมาก เป็นดุจบ่อที่ดื่มกินของสมณพราหมณ์ คนกำพร้า คนเดินทาง วณิพกและยาจก ได้ให้สิ่งของมีข้าว น้ำ ผ้าและที่นอนเป็นต้น และเมื่อจะให้ ย่อมปฏิบัติตามความพอใจทุกอย่าง ตามลำดับของการให้มีน้ำล้างเท้าและผ้าเช็ดเท้าเป็นต้น ตามเวลาและตามความเหมาะสมแก่คนผู้มาถึงแล้วๆ. ในเวลาก่อนอาหารได้อังคาสภิกษุทั้งหลายด้วยข้าวและน้ำเป็นต้นโดยเคารพ. เธอเมื่อจะไปถิ่นอื่นจึงกล่าวกะภรรยาว่า นางผู้เจริญ เธออย่าได้ทำทานวิธีนี้ตามที่บัญญัติให้เสื่อมเสีย จงหมั่นดำรงไว้โดยเคารพ. ภรรยารับคำแล้ว พอสามีหลีกไปเท่านั้น ก็ตัดขาดวิธีที่บัญญัติไว้เพื่อภิกษุทั้งหลาย เป็นอันดับแรก แต่เมื่อคนเดินทางเข้าไปเพื่ออยู่อาศัย ก็แสดงศาลาที่เก่าที่ทอดทิ้งไว้หลังเรือนด้วยคำว่า พวกท่านจงอยู่ที่ศาลานี้. เมื่อคนเดินทางมาในที่นั้นเพื่อต้องการข้าวและน้ำเป็นต้น จึงกล่าวว่า จงกินคูถ ดื่มมูตร ดื่มโลหิต กินมันสมองของมารดาท่าน แล้วจึงระบุชื่อของสิ่งที่ไม่สะอาด น่าเกลียด แล้วถ่มน้ำลาย. สมัยต่อมา นางทำกาละแล้ว อันอานุภาพกรรมซัดไป บังเกิดในกำเนิดเปรต เสวยทุกข์อันเหมาะสมแก่วจีทุจริตของตน หวนระลึกถึงความสัมพันธ์กันในชาติก่อน มีความประสงค์จะมายังสำนักของท่านพระสารีบุตร จึงถึงประตูวิหาร.
๑๓. สังสารโมจกเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมห...
๑๓. สังสารโมจกเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมห...
maruay songtanin
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเวฬุวัน ทรงปรารภนางเปรตตนหนึ่ง ในบ้านชื่อว่าอิฏฐกวดี แคว้นมคธ ดังนี้. ได้ยินว่า ในแคว้นมคธได้มีหมู่บ้าน ๒ หมู่ คือหมู่บ้านอิฏฐกวดีและหมู่บ้านทีฆราชิ. ใน ๒ หมู่บ้านนั้นมีพวกคนมิจฉาทิฏฐิ พวกสังสารโมจกะเป็นอันมากอยู่ประจำ. ก็ในอดีตกาล ในที่สุด ๕๐๐ ปี มีหญิงคนหนึ่งบังเกิดในตระกูลสังสารโมจกะตระกูลหนึ่ง ในบ้านอิฏฐกวดีนั้นแหละ ด้วยอำนาจมิจฉาทิฏฐิ ฆ่าแมลงชนิดตั๊กแตนเป็นจำนวนมาก แล้วบังเกิดเป็นเปรต.
๑๒. อุรคเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๑๒. อุรคเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
maruay songtanin
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภอุบาสกคนหนึ่ง ดังนี้. ได้ยินว่า ในกรุงสาวัตถี บุตรของอุบาสกคนหนึ่งได้ถึงแก่กรรมลง. เพราะเหตุที่บุตรตายลง อุบาสกนั้นจึงถึงความเศร้าโศกร่ำไร ออกไปข้างนอก ไม่อาจจะทำการงานอะไรๆ ได้ จึงอยู่แต่ในเรือนเท่านั้น. ครั้นในเวลาใกล้รุ่ง พระศาสดาเสด็จออกจากพระมหากรุณาสมาบัติ ทรงตรวจดูสัตว์โลกด้วยพุทธจักษุ ทรงเห็นอุบาสกนั้น. ในเวลาเช้าทรงนุ่งแล้ว ทรงถือบาตรและจีวร ได้เสด็จไปยังเรือนของอุบาสกนั้นแล้ว ประทับยืนอยู่ที่ประตู. ฝ่ายอุบาสกทราบว่าพระศาสดาเสด็จมา จึงรีบลุกขึ้นไปต้อนรับแล้ว รับบาตรจากพระหัตถ์ แล้วให้เสด็จเข้าบ้าน ให้คนปูลาดอาสนะถวาย. พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับนั่งบนอาสนะที่เขาปูลาดไว้แล้ว. ฝ่ายอุบาสกไหว้พระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วนั่ง ณ ส่วนข้างหนึ่ง. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสกะอุบาสกนั้นว่า ดูก่อนอุบาสก ทำไมจึงปรากฏดูเหมือนเศร้าโศกไป. อุบาสกกราบทูลว่า พระเจ้าข้า ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า บุตรที่รักของข้าพระองค์ตายไป เพราะเหตุนั้น ข้าพระองค์จึงเศร้าโศก.
๑๑. นาคเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
๑๑. นาคเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
maruay songtanin
เมื่อพระศาสดาประทับอยู่ในพระวิหารชื่อว่าเชตวัน ทรงพระปรารภพราหมณ์เปรต ๒ ตน จึงตรัสพระธรรมเทศนานี้ ดังนี้. ได้ยินว่า ท่านสังกิจจะผู้มีอายุได้ ๗ ขวบ บรรลุพระอรหัตในขณะจรดมีดโกนที่ปลายผมนั่นแล ดำรงอยู่ในภูมิสามเณร อยู่ในราวป่าพร้อมกับภิกษุประมาณ ๓๐ รูป ห้ามความตายที่มาถึงแก่ภิกษุเหล่านั้นจากมือของพวกโจร ๕๐๐ คนและฝึกโจรเหล่านั้นแล้ว ให้บรรพชา ได้พาไปยังสำนักของพระศาสดา. พระศาสดาทรงแสดงธรรมแก่ภิกษุเหล่านั้น. ในเวลาจบพระธรรมเทศนา ภิกษุเหล่านั้นก็ได้บรรลุพระอรหัต. ลำดับนั้น ท่านสังกิจจะมีพรรษาครบ ได้อุปสมบทแล้ว พร้อมด้วยภิกษุ ๕๐๐ รูปเหล่านั้น พากันไปยังกรุงพาราณสี อยู่ในป่าอิสิปตนมฤคทายวัน. พวกมนุษย์พากันไปหาพระเถระ ได้ฟังธรรมแล้วมีจิตเลื่อมใส ได้ถวายอาคันตุกทาน เป็นพวกๆ ตามลำดับถนน. ในบรรดามนุษย์เหล่านั้น มีอุบาสกคนหนึ่งได้ชักชวนพวกมนุษย์ในนิตยภัตร. มนุษย์เหล่านั้นได้เริ่มตั้งนิตยภัตตามกำลัง. ก็สมัยนั้น ในกรุงพาราณสี มีพราหมณ์มิจฉาทิฏฐิคนหนึ่งได้มีบุตรชาย ๒ คน บุตรหญิง ๑ คน. ในบุตรเหล่านี้ บุตรคนโตได้มีอุบาสกเป็นมิตร. อุบาสกนั้นพาบุตรคนโต (ของพราหมณ์) นั้นไปหาท่านสังกิจจะ. ท่านสังกิจจะแสดงธรรมแก่เธอ. เธอได้เป็นผู้มีจิตอ่อน. ลำดับนั้น อุบาสกนั้นกล่าวกะเธอว่า เธอจงให้นิตยภัตรแก่ภิกษุรูปหนึ่ง. บุตรพราหมณ์กล่าวว่า พวกเราผู้เป็นพราหมณ์ไม่เคยประพฤตินิตยภัตรทานแก่พระสมณผู้ศากยบุตรเลย เพราะฉะนั้น เราจักไม่ยอมให้. อุบาสกกล่าวว่า ถึงเราท่านก็จักไม่ให้ภัตรบ้างหรือ. บุตรพราหมณ์กล่าวว่า ทำไม ฉันจักไม่ให้. อุบาสกพูดว่า ถ้าเมื่อเป็นเช่นนั้น สิ่งที่เธอจะให้เรา เธอจงถวายแก่ภิกษุรูปหนึ่งเถิด. เขารับคำแล้ว ในวันที่ ๒ ได้ไปยังวิหารแต่เช้าตรู่ นิมนต์ภิกษุมารูปหนึ่งให้ฉันแล้ว. เมื่อเวลาผ่านไปอย่างนี้ น้องชายและน้องสาวของเขาเห็นการปฏิบัติของภิกษุทั้งหลาย และได้ฟังธรรมแล้ว มีความเลื่อมใสยิ่งในพระศาสนา และได้มีความยินดีในบุญกรรม. ชนทั้ง ๓ คนเหล่านั้น เมื่อให้ทานตามกำลังทรัพย์อย่างนี้ ได้สักการะเคารพนับถือบูชาสมณพราหมณ์ทั้งหลาย. ส่วนมารดาและบิดาของพวกเราเป็นผู้ไม่มีศรัทธา ไม่มีความเลื่อมใส ไม่เคารพในสมณพราหมณ์ ไม่เอื้อเฟื้อ ไม่พอใจในการบำเพ็ญบุญ. พวกญาติจึงได้ขอเด็กหญิงผู้เป็นธิดาแห่งมารดาบิดาเหล่านั้น มาเพื่อประโยชน์แก่บุตรของลุง. ก็บุตรคนโตนั้นฟังธรรมในสำนักของท่านสังกิจจะแล้วเกิดความสังเวช บรรพชาแล้ว ไปยังเรือนของมารดาตนเพื่อฉันเป็นนิตย์. มารดาปลอบใจเธอด้วยเด็กรุ่นสาว ผู้เป็นมารดาของพี่ชายตน. ด้วยเหตุนั้น เธอเป็นผู้กลุ้มใจจึงเข้าไปหาพระอุปัชฌาย์ เรียนว่า ท่านครับ ผมจักสึก ขอท่านจงอนุญาตให้ผมสึกเถิด. พระอุปัชฌาย์เห็นเธอผู้ถึงพร้อมด้วยอุปนิสัย จึงกล่าวว่า พ่อสามเณรรอสักเดือนก่อนเถอะ. สามเณรรับคำท่านแล้ว ผ่านไปได้เดือนหนึ่งจึงได้แจ้งให้ทราบอย่างนั้นเหมือนกัน.พระอุปัชฌาย์ก็กล่าวซ้ำอีกว่ากึ่งเดือนเถิด. พอกึ่งเดือนผ่านไป เมื่อสามเณรกล่าวอย่างนั้น พระเถระก็กล่าวอีกว่า รอสัก ๗ วัน เถอะ. สามเณรรับคำแล้ว.
๑๐. ขัลลาฏิยเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
๑๐. ขัลลาฏิยเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
maruay songtanin
พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ในกรุงสาวัตถี ทรงปรารภนางเปรตขัลลาฏิยะตนหนึ่ง ดังนี้. ได้ยินว่า ในอดีตกาล ในกรุงพาราณสี ยังมีหญิงผู้อาศัยรูปเลี้ยงชีพคนหนึ่ง รูปร่างสวย น่าดูน่าชม ประกอบด้วยผิวพรรณอันงดงามยิ่งนัก มีกำแห่งผมน่ารื่นรมย์ใจ. จริงอยู่ ผมของนางดำยาว ละเอียด อ่อนนุ่มสนิท มีปลายตวัดขึ้น เกล้าเป็นสองแฉกสยาย ห้อยย้อยลงจนถึงสายรัดเอว. คนหนุ่มเห็นความงามแห่งเส้นผมของนางนั้น โดยมากมีจิตปฏิพัทธ์ในนาง. ลำดับนั้น หญิง ๒-๓ คนถูกความริษยาครอบงำ ทนต่อความงามของผมนางนั้นไม่ได้ จึงพากันปรึกษา เอาสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ ล่อหญิงคนใช้ของนางนั่นเอง ให้หญิงคนใช้ให้ยาอันเป็นเหตุทำเส้นผมของนางให้หลุดร่วงไป. ได้ยินว่า หญิงคนใช้นั้นประกอบยานั้นกับผงสำหรับอาบน้ำ ในเวลานางไปอาบน้ำในแม่น้ำคงคา ก็ได้ให้แก่นาง. นางเอาผงนั้นจุ่มที่รากผมแล้วดำลงไปในน้ำ. พอนางดำน้ำเท่านั้น เส้นผมพร้อมทั้งรากผมได้หลุดร่วงไป และศีรษะของนางได้เป็นเช่นกับกะโหลกน้ำเต้าขม. ลำดับนั้น นางหมดเส้นผมโดยประการทั้งปวง เหมือนนกพิราบถูกถอนขนหัวฉะนั้น น่าเกลียดพิลึก เพราะความละอาย จึงไม่อาจเข้าไปในเมือง เอาผ้าคลุมศีรษะ สำเร็จการอยู่ในที่แห่งหนึ่งนอกเมือง พอ ๒-๓ วันผ่านไป นางหมดความละอาย กลับจากที่นั้นบีบเมล็ดงา กระทำการค้าน้ำมันและทำการค้าสุรา เลี้ยงชีพ. วันหนึ่ง เมื่อคน ๒-๓ คนเมาสุราหลับสนิท นางจึงลักเอาผ้าที่คนเหล่านั้นนุ่งไว้หลวมๆ. ภายหลังวันหนึ่ง นางเห็นพระขีณาสพเถระรูปหนึ่งกำลังเที่ยวบิณฑบาต มีจิตเลื่อมใสจึงนำท่านไปยังเรือนของตน ให้นั่งบนอาสนะที่ตกแต่งไว้ ได้ถวายแป้งที่บีบในรางผสมกับน้ำมันงา. เพื่อจะอนุเคราะห์นาง พระเถระจึงรับประเคนแป้งผสมน้ำมันงานั้นฉัน. นางมีจิตเลื่อมใส ได้ยืนกั้นร่ม. และพระเถระนั้น เมื่อจะทำนางให้มีจิตร่าเริง จึงทำอนุโมทนากถาแล้วหลีกไป. ก็ในเวลาที่อนุโมทนานั่นแหละ หญิงนั้นได้ตั้งความปรารถนาว่า พระคุณเจ้า ขอให้เส้นผมของดิฉันยาวละเอียด นุ่มสนิท ตวัดปลายเถิด. กาลต่อมา นางถึงแก่กรรม เพราะผลของกรรมที่คละกัน จึงเกิดเป็นหญิงอยู่โดดเดี่ยวในวิมานทอง ท่ามกลางมหาสมุทร. เส้นผมของนางสำเร็จตามอาการที่เธอปรารถนานั้นแหละ. แต่เพราะนางลักเอาผ้าของพวกมนุษย์ นางจึงได้เป็นหญิงเปลือย. นางเกิดบ่อยๆ ในวิมานทองนั้น เป็นหญิงเปลือยอยู่ตลอดพุทธันดรหนึ่ง.
๙. มหาเปสการเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
๙. มหาเปสการเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
maruay songtanin
เมื่อพระศาสดาประทับอยู่ในกรุงสาวัตถี ทรงปรารภนางเปรตผู้เป็นช่างหูกคนหนึ่ง ดังนี้. ได้ยินว่า ภิกษุประมาณ ๑๒ รูปเรียนพระกรรมฐานในสำนักพระศาสดา พิจารณาถึงสถานที่อันเหมาะสมแก่การอยู่ เมื่อจวนจะเข้าพรรษา เห็นราวป่าอันน่ารื่นรมย์ สมบูรณ์ด้วยร่มเงาและน้ำแห่งหนึ่ง และโคจรคามไม่ไกลนัก ไม่ใกล้นักแต่ราวป่านั้น จึงอยู่ในที่นั้นราตรีหนึ่ง รุ่งขึ้นจึงเที่ยวไปบิณฑบาตยังบ้าน. ช่างหูก ๑๑ คนอาศัยอยู่ในบ้านนั้น เห็นเหล่าภิกษุนั้นๆ เกิดความโสมนัส จึงนำมายังเรือนของตนๆ เลี้ยงดูด้วยอาหารอันประณีต แล้วเรียนว่า ไปไหนกันขอรับ. ภิกษุเหล่านั้นกล่าวว่า เราจักไปในที่ที่เรามีความสบาย. พวกช่างหูกพากันกล่าวว่า ท่านขอรับ ถ้าเมื่อเป็นเช่นนั้น ขอพระคุณเจ้าจงอยู่ที่นี้แหละ ดังนี้แล้ว จึงขอร้องให้อยู่จำพรรษา. ภิกษุทั้งหลายก็รับคำ. อุบาสกอุบาสิกาทั้งหลายได้พากันสร้างกระท่อมในป่าในที่นั้นแล้วมอบถวายแก่ภิกษุเหล่านั้น. ภิกษุทั้งหลายจำพรรษาในที่นั้นแล้ว. บรรดาช่างหูกเหล่านั้น ช่างหูกผู้เป็นหัวหน้า อุปัฏฐากภิกษุ ๒ รูปด้วยปัจจัย ๔ โดยเคารพ นอกนั้นได้อุปัฏฐากภิกษุคนละรูป. ภรรยาของช่างหูกผู้เป็นหัวหน้า ไม่มีศรัทธา ไม่มีความเลื่อมใส เป็นมิจฉาทิฏฐิ มีความตระหนี่ ไม่อุปัฏฐากภิกษุทั้งหลายโดยเคารพ. ช่างหูกผู้เป็นหัวหน้าเห็นดังนั้น จึงนำน้องสาวของภรรยานั้นนั่นแลมาแล้วมอบความเป็นใหญ่ในเรือนของตน. น้องสาวนั้นเป็นผู้มีศรัทธา มีความเลื่อมใส ปรนนิบัติภิกษุทั้งหลายโดยเคารพ. ช่างหูกทั้งหมดนั้นได้ถวายผ้าสาฎกแก่ภิกษุผู้อยู่จำพรรษารูปละผืน. ในบรรดาภรรยานั้น ภรรยาของช่างหูกผู้เป็นหัวหน้า ผู้มีความตระหนี่ มีจิตคิดประทุษร้าย ด่าบริภาษสามีของตนว่า ทานคือข้าวและน้ำที่ท่านให้แก่สมณะศากยบุตรนั้น จงบังเกิดเป็นคูถ มูตรเป็นหนอง และโลหิต แก่ท่านในปรโลก และผ้าสาฎกจงเป็นแผ่นเหล็กลุกโพลง
๘. โคณเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
๘. โคณเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
maruay songtanin
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภกฎุมพีคนหนึ่งผู้ที่บิดาตายไป ดังนี้. ได้ยินว่า ในกรุงสาวัตถี บิดาของกฎุมพีคนหนึ่งได้ตายไป. เพราะบิดาตายไป เขาจึงเศร้าโศกร้อนรุ่มกลุ้มใจ เที่ยวร้องไห้เหมือนคนบ้า ถามผู้ที่ตนพบเห็นว่า ท่านเห็นบิดาของฉันบ้างไหม? ใครๆ ไม่อาจจะบรรเทาความเศร้าโศกของเขาได้. แต่อุปนิสัยแห่งโสดาปัตติผล ยังโพลงอยู่ในหทัยของเขา เหมือนประทีปที่โพลงอยู่ในหม้อ. ในเวลาเช้ามืด พระศาสดาทรงตรวจดูสัตวโลก ทรงเห็นอุปนิสัยแห่งโสดาปัตติผลของเธอ ทรงพระดำริว่า เราควรจะนำเหตุที่เป็นอดีตของกุฏุมพีนี้มาแล้ว ระงับความเศร้าโศก ให้โสดาปัตติผลแก่เธอ ดังนี้แล้ว วันรุ่งขึ้นจึงกลับจากบิณฑบาต ภายหลังภัตร ไม่ได้พาใครเป็นปัจฉาสมณะไป ไปยังประตูเรือนของกฎุมพีนั้น. เขาได้ทราบว่า พระศาสดาเสด็จมา จึงต้อนรับ นิมนต์พระศาสดาให้เสด็จเข้าไปยังเรือน เมื่อพระศาสดาประทับนั่งบนอาสนะที่เขาบรรจงจัดไว้ ตนเองก็ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้ว นั่ง ณ ที่สมควรข้างหนึ่ง จึงกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระองค์ทรงทราบสถานที่ที่บิดาของข้าพระองค์ไปแล้วหรือ? ลำดับนั้น พระศาสดาตรัสกะเขาว่า ดูก่อนอุบาสก เธอถามถึงบิดาในอัตตภาพนี้หรือ หรือว่าในอัตตภาพที่ล่วงไปแล้ว. เขาได้ฟังดังนั้นจึงคิดว่า ได้ยินว่าเรามีบิดามาก ดังนี้ จึงมีความเศร้าโศกเบาบาง ได้รับความเศร้าโศกเพียงปานกลาง. ลำดับนั้น พระศาสดาตรัสธรรมกถาอันเป็นเครื่องบรรเทาความเศร้าโศกแก่เขา ทรงทราบเขาว่าปราศจากความเศร้าโศก มีจิตสมควร จึงให้ตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล ด้วยสามุกังสิกธรรมเทศนาแล้ว ได้เสด็จไปยังพระวิหาร.
๗. สัตตปุตตขาทิกเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับ...
๗. สัตตปุตตขาทิกเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับ...
maruay songtanin
พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ในกรุงสาวัตถี ทรงปรารภนางเปรตผู้กินบุตร ๗ คน ดังนี้. ได้ยินว่า อุบาสกคนหนึ่งในหมู่บ้านตำบลหนึ่งไม่ไกลกรุงสาวัตถี ได้มีบุตร ๒ คนตั้งอยู่ในปฐมวัย สมบูรณ์ด้วยรูปโฉม ประกอบด้วยศีลและอาจาระ. มารดาของบุตรทั้ง ๒ นั้นคิดว่าเราเป็นผู้มีบุตร จึงดูหมิ่นสามีด้วยกำลังแห่งบุตร. สามีนั้นถูกภรรยาดูหมิ่น มีใจเบื่อหน่าย จึงนำหญิงอื่นมาครอง. ไม่นานนัก หญิงนั้นก็ตั้งครรภ์. ลำดับนั้น ภรรยาหลวงเป็นหญิงมีความริษยาเป็นปกติ เอาอามิสไปล่อหมอคนหนึ่ง ให้หมอนั้นทำครรภ์ของหญิงนั้นซึ่งตั้งมา ๓ เดือน ให้ตก. ลำดับนั้น หญิงนั้นอันพวกญาติและพี่น้องชายถามว่า เธอทำครรภ์ของนางนี้ให้ตกไปหรือ จึงกล่าวมุสาว่าไม่ได้ทำให้ตกไป. คนเหล่านั้นไม่เชื่อจึงกล่าวว่า เธอจงสบถ แล้วได้กระทำสบถว่า ขอให้ดิฉันคลอดบุตรทั้งเช้าทั้งเย็นครั้งละ ๗ คนแล้วเคี้ยวกินเนื้อบุตร ขอให้ดิฉันมีกลิ่นเหม็นและแมลงวันจับกลุ่มอยู่เป็นนิจ. ครั้นต่อมา นางทำกาละแล้วบังเกิดในกำเนินเปรต ด้วยวิบากของการทำครรภ์ให้ตกไป และพูดมุสานั้นนั่นแล จึงเคี้ยวกินเนื้อบุตรโดยนัยดังกล่าวแล้ว เที่ยวไปในที่ไม่ไกลบ้านนั้นนั่นเอง. ก็สมัยนั้น พระเถระหลายรูปออกพรรษาในหมู่บ้าน มายังกรุงสาวัตถีเพื่อเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า พักแรมในส่วนหนึ่งไม่ไกลบ้านนั้น. ลำดับนั้น นางเปรตนั้นแสดงตนแก่พระเถระเหล่านั้น.
More from maruay songtanin
(20)
๒๖. อภิชชมานเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
๒๖. อภิชชมานเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
๒๕. อุพพรีเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๒๕. อุพพรีเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๒๔. กัณณมุณฑเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
๒๔. กัณณมุณฑเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
๒๓. สุตตเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๒๓. สุตตเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๒๒. อุตตรมาตุเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
๒๒. อุตตรมาตุเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
๒๑. อังกุรเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๒๑. อังกุรเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๒๐. จูฬเสฏฐิเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
๒๐. จูฬเสฏฐิเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
๑๙. ธนปาลเสฏฐิเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
๑๙. ธนปาลเสฏฐิเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
๑๘. กัณหเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๑๘. กัณหเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๑๗. มัฏฐกุณฑลีเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
๑๗. มัฏฐกุณฑลีเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
๑๖. นันทาเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๑๖. นันทาเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๑๕. มัตตาเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๑๕. มัตตาเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๑๔. สารีปุตตเถรมาตุเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉ...
๑๔. สารีปุตตเถรมาตุเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉ...
๑๓. สังสารโมจกเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมห...
๑๓. สังสารโมจกเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมห...
๑๒. อุรคเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๑๒. อุรคเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๑๑. นาคเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
๑๑. นาคเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
๑๐. ขัลลาฏิยเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
๑๐. ขัลลาฏิยเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
๙. มหาเปสการเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
๙. มหาเปสการเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
๘. โคณเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
๘. โคณเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
๗. สัตตปุตตขาทิกเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับ...
๗. สัตตปุตตขาทิกเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับ...
04 กุรุธรรมจริยา มจร.pdf
1.
1 การบาเพ็ญบารมีของพระผู้มีพระภาคเจ้า ตอนที่ ๔
กุรุธรรมจริยา พลตรี มารวย ส่งทานินทร์ ๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๖ เกริ่นนา เราคิดว่าการห้ามยาจกที่มาถึงแล้ว เป็นการไม่สมควรแก่เราเลย กุศลสมาทานของเราอย่าได้ เสียหายเลย เราจักให้คชสารตัวประเสริฐ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๓ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๕ [ฉบับมหาจุฬาฯ] ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๒ -พุทธวังสะ-จริยาปิฎก ๓. กุรุธรรมจริยา ว่าด้วยพระจริยาของพระเจ้าธนัญชัยกุรุราช [๒๐] อีกเรื่องหนึ่ง ในกาลที่เราเป็นพระราชานามว่าธนัญชัย อยู่ในกรุงอินทปัตถ์ที่อุดม ประกอบด้วยกุศลกรรมบถ ๑๐ ประการ [๒๑] ครั้งนั้น พวกพราหมณ์ชาวแคว้นกาลิงคะได้มาหาเรา ขอพญาคชสาร ซึ่งประกอบด้วย ธัญญลักษณะ สมบูรณ์ด้วยมงคลกับเราว่า [๒๒] ชนบทฝนไม่ตกเลย เกิดทุพภิกขภัย อดอยากมาก ขอพระองค์โปรดพระราชทานพญาคช สาร ตัวประเสริฐมีกายสีเขียวชื่อว่าอัญชันด้วยเถิด [๒๓] เราคิดว่าการห้ามยาจกที่มาถึงแล้ว เป็นการไม่สมควรแก่เราเลย กุศลสมาทานของเรา อย่าได้เสียหายเลย เราจักให้คชสารตัวประเสริฐ [๒๔] เราได้จับงวงพญาคชสารวางลงบนมือพราหมณ์แล้ว จึงหลั่งน้าในเต้าทองลงบนมือของ พวกพราหมณ์ ได้ให้พญาคชสารไป [๒๕] เมื่อเราได้ให้พญาคชสารนั้นไป พวกอามาตย์ได้กล่าวคานี้ ว่า “เหตุไรหนอ พระองค์จึง พระราชทานพญาคชสารตัวประเสริฐของพระองค์แก่พวกยาจก [๒๖] เมื่อพระองค์พระราชทานพญาคชสาร ซึ่งประกอบด้วยธัญลักษณะ สมบูรณ์ด้วยมงคล ชนะสงครามอันสูงสุดนั้นแล้ว พระองค์เป็นพระราชาจักทาอะไรได้” [๒๗] เราได้ตอบว่า แม้ราชสมบัติทั้งหมดเราก็ควรให้ ถึงสรีระของตนเราก็ควรให้ แต่พระ สัพพัญญุตญาณเป็นที่รักของเรา เพราะฉะนั้น เราจึงได้ให้พญาคชสาร ฉะนี้ แล กุรุธรรมจริยาที่ ๓ จบ คาอธิบายเพิ่มเติมนามาจากบางส่วนของอรรถกถา
2.
2 ขุททกนิกาย จริยาปิฎก การบาเพ็ญทานบารมี ๓.
กุรุธรรมจริยา อรรถกถากุรุธรรมจริยาที่ ๓ เมืองประเสริฐแห่งแคว้นกุรุ ชื่อว่าอินทปัตถะ. ราชา คือยังบริษัทให้ยินดีด้วยสังคหวัตถุ ๔ โดย ธรรม โดยเสมอ. คือ ประกอบด้วยกุสลกรรมบถ ๑๐ ประการ หรือด้วยบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ มีทานมัยเป็นต้น. พวกพราหมณ์ ๘ คน ชาวกาลิงครัฐ. อันพระเจ้ากาลิงคะส่งมาได้มาหาเรา. เข้าไปหาแล้วได้ขอ พระยาคชสารกะเรา. ชื่อว่าอัญชนะ คือพระยาคชสารสมบูรณ์ด้วยลักษณะอันสิริโสภาคย์สมควรเป็นคชสาร ทรง. อันชนทั้งหลายเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งว่าเป็นมงคลหัตถี เป็นเหตุแห่งความเจริญยิ่งด้วยลักษณะสมบัติ นั้นนั่นแล. แคว้นกาลิงคะของข้าพระพุทธเจ้า ฝนไม่ตก. ด้วยเหตุนั้น บัดนี้ เกิดทุพภิกขภัยใหญ่ ฉาตกภัย ใหญ่ในแคว้นนั้น. เพื่อสงบภัยนั้น ขอพระองค์จงทรงพระราชทานมงคลหัตถี ชื่อว่าอัญชนะของพระองค์ คล้ายอัญชนคิรีนี้ เถิด เพราะว่าเมื่อนาพระยาคชสารนี้ ไป ณ แคว้นนั้นแล้วฝนก็จะตก. สรรพภัยนั้นจักสงบไป ด้วยพระยาคชสารนั้นเป็นแน่. ในอดีตกาล ในนครอินทปัตถะแคว้นกุรุ พระโพธิสัตว์ทรงถือปฏิสนธิในพระครรภ์ของพระอัคร มเหสีของพระเจ้ากุรุราช ถึงความเจริญวัยโดยลาดับไปยังเมืองตักกสิลา เรียนศิลปศาสตร์อันเป็นประโยชน์ ในการปกครองและวิชาหลัก ครั้นเรียนจบกลับพระนครพระชนกให้ดารงตาแหน่งอุปราช. ครั้นต่อมาเมื่อพระชนกสวรรคต ได้รับราชสมบัติยังทศพิธราชธรรมไม่ให้กาเริบ ครองราช สมบัติโดยธรรมมีพระนามว่าธนญชัย พระเจ้าธนญชัยทรงให้สร้างโรงทาน ๖ แห่ง คือที่ประตูพระนคร ๔ แห่ง กลางพระนคร ๑ แห่ง ประตูราชนิเวศน์ ๑ แห่ง ทรงสละทรัพย์วันละ ๖๐๐,๐๐๐ ทุกวัน ทรงกระทา ชมพูทวีปทั้งสิ้นเจริญรุ่งเรืองแล้วทรงบริจาคทาน เพราะพระองค์มีพระอัธยาศัยในการทรงบริจาค ความ ยินดีในทานแผ่ไปทั่วชมพูทวีป. ในกาลนั้น แคว้นกาลิงคะเกิดภัย ๓ อย่าง คือทุพภิกขภัย ฉาตกภัย โรคภัย. ชาวแคว้นทั้งสิ้นพากันไปทันตบุรี กราบทูลร้องเรียนส่งเสียงอึงคะนึงที่ประตูพระราชวังว่า ข้าแต่ เทวะ ขอพระองค์จงทรงให้ฝนตกเถิดพระเจ้าข้า. พระราชาทรงสดับดังนั้นแล้วตรัสถามพวกอามาตย์ว่า พวกประชาชนร้องเรียนเรื่องอะไรกัน. พวกอามาตย์กราบทูลความนั้นแด่พระราชา. พระราชามีพระดารัสถามว่า พระราชาแต่ก่อน เมื่อฝนไม่ตกทรงทาอย่างไร. กราบทูลว่า ทรงให้ ทาน ทรงอธิษฐานอุโบสถ ทรงสมาทานศีลเสด็จเข้าห้องสิริบรรทมตลอด ๗ วัน ณ พระที่ทรงธรรม ขอให้ฝน ตก. พระราชาสดับดังนั้นก็ได้ทรงกระทาอย่างนั้น ฝนก็ไม่ตก. พระราชาตรัสว่า เราได้กระทากิจที่ควรทาแล้ว ฝนก็ไม่ตก เราจะทาอย่างไรต่อไป. กราบทูลว่า ขอเดชะเมื่อนาพระยาคชสารมงคลหัตถีของพระเจ้าธนญชัยกุรุราชในอินทปัตถนครมา ฝนจึงจักตกพระเจ้า
3.
3 ข้า. พระราชารับสั่งว่า พระราชาพระองค์นั้นมีพลพาหนะเข้มแข็ง ปราบปรามได้ยาก
เราจักนาพระ ยาคชสารของพระองค์มาได้อย่างไรเล่า. กราบทูลว่า ขอเดชะ ข้าแต่มหาราชเจ้ามิได้มีการรบพุ่งกับพระราชา นั้นเลย พระเจ้าข้า. พระราชาพระองค์นั้นมีพระอัธยาศัยในการบริจาค ทรงยินดีในทาน เมื่อมีผู้ทูลขอแล้ว แม้พระเศียรที่ตกแต่งแล้วก็ตัดให้ได้ แม้พระเนตรที่มีประสาทบริบูรณ์ก็ทรงควักให้ได้ แม้ราชสมบัติทั้งสิ้นก็ ทรงมอบให้ได้ ไม่ต้องพูดถึงพระยาคชสารเลย เมื่อทูลขอแล้วจักพระราชทานเป็นแน่แท้ พระเจ้าข้า. ตรัสถามว่า ก็ใครจะเป็นผู้สามารถทูลขอได้เล่า. กราบทูลว่า ขอเดชะข้าแต่มหาราช พราหมณ์ พระเจ้าข้า. พระราชารับสั่งให้เรียกพราหมณ์ ๘ คนเข้าเฝ้าทาสักการะสัมมานะแล้ว ทรงให้เสบียงส่งไปเพื่อ ขอพระยาคชสาร. พราหมณ์เหล่านั้นรีบไปคืนเดียว บริโภคอาหารที่โรงทานใกล้ประตูพระนครอยู่ชั่วเวลา เล็กน้อย ครั้นอิ่มหนาสาราญแล้วก็ยืนอยู่ที่ประตูด้านตะวันออก รอเวลาพระราชาเสด็จมายังโรงทาน. แม้พระโพธิสัตว์ก็ทรงสรงสนานแต่เช้าตรู่ ทรงประดับด้วยเครื่องสรรพาลังการเสร็จขึ้นคอพระ ยาคชสารตัวประเสริฐที่ตกแต่งแล้ว เสด็จไปยังโรงทานด้วยราชานุภาพอันใหญ่หลวง เสด็จลงพระราชทาน แก่ชน ๗-๘ คน ด้วยพระหัตถ์ของพระองค์แล้วตรัสว่า พวกท่านจงให้ทานองนี้ แหละ เสด็จขึ้นสู่พระยาคช สารแล้วเสด็จไปทางประตูด้านทิศใต้. พวกพราหมณ์ไม่ได้โอกาสเพราะทางทิศตะวันออกจัดอารักขาเข้มแข็งมาก จึงไปประตูด้านทิศ ใต้ คอยดูพระราชาเสด็จมายืนอยู่ในที่เนินไม่ไกลจากประตู เมื่อพระราชาเสด็จมาถึงต่างก็ยกมือถวายชัย มงคล. พระราชาทรงบังคับช้างให้กลับด้วยพระขอเพชรเสด็จไปหาพราหมณ์เหล่านั้น ตรัสถามพวก พราหมณ์ว่า พวกท่านต้องการอะไร. พวกพราหมณ์กราบทูลว่า ขอเดชะ แคว้นกาลิงคะถูกทุพภิกขภัย ฉาตกภัยและโรคภัยรบกวน ความรบกวนนั้นจักสงบลงได้ เมื่อนาพระยามงคลหัตถีของพระองค์เชือกนี้ ไป เพราะฉะนั้น ขอพระองค์จง ทรงโปรดพระราชทานพระยาคชสารสีดอกอัญชันเชือกนี้ เถิด พระเจ้าข้า. พระศาสดาเมื่อจะทรงประกาศความนั้น จึงตรัสว่า พวกพราหมณ์ชาวกาลิงครัฐได้มาหาเรา ขอ พระยาคชสาร ทรง ฯลฯ ขอพระองค์จงทรงพระราชทานพระยาคชสารตัวประเสริฐมีสีกายเขียวชื่ออัญชนะ เถิด. ลาดับนั้น พระโพธิสัตว์ทรงตรัสว่า การที่เราจะทาลายความต้องการของยาจกทั้งหลายไม่เป็น การสมควรแก่เรา และจะพึงเป็นการทาลายกุสลสมาทานของเราอีกด้วย จึงเสด็จลงจากคอคชสารมีพระ ดารัสว่า หากที่มิได้ตกแต่งไว้มีอยู่ เราจักตกแต่งแล้วจักให้ จึงทรงตรวจดูรอบๆ มิได้ทรงเห็นที่มิได้ตกแต่ง จึงทรงจับพระยาคชสารที่งวงแล้ววางไว้บนมือของพราหมณ์ ทรงหลั่งน้าที่อบด้วยดอกไม้และของหอมด้วย พระเต้าทอง แล้วพระราชทานแก่พราหมณ์. ด้วยเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า การห้ามยาจกทั้งหลายที่มาถึงแล้ว ไม่สมควรแก่เราเลย กุสลสมาทานของเราอย่าทาลาย
4.
4 เสียเลย เราจักให้คชสารตัวประเสริฐ เราได้จับงวงคชสารวางบนมือพราหมณ์แล้ว
จึงหลั่งน้าในเต้าทองลง บนมือ ได้ให้พระยาคชสารแก่พราหมณ์. เมื่อพระราชทานพระยาคชสารแล้ว พวกอามาตย์พากันกราบทูลพระโพธิสัตว์ว่า ข้าแต่มหาราช เจ้า เพราะเหตุไร พระองค์จึงพระราชทานมงคลหัตถี ควรพระราชทานช้างเชือกอื่นมิใช่หรือ. มงคลหัตถีฝึก ไว้สาหรับเป็นช้างทรงเห็นปานนี้ อันพระราชาผู้ทรงหวังความเป็นใหญ่และชัยชนะไม่ควรพระราชทานเลย พระเจ้าข้า. พระมหาสัตว์ตรัสว่า เราจะให้สิ่งที่ยาจกทั้งหลายขอกะเรา หากขอราชสมบัติกะเรา เราก็จะให้ ราชสมบัติแก่พวกเขา. พระสัพพัญญุตญาณเท่านั้นเป็นที่รักยิ่ง แม้กว่าราชสมบัติ แม้กว่าชีวิตของเรา เพราะฉะนั้น เราจึงได้ให้คชสารนั้น. ท่านแสดงว่า เพราะพระสัพพัญญุตญาณและความเป็นพระสัพพัญญุตญาณเป็นที่รักของเราอันผู้ ไม่บาเพ็ญบารมีทั้งปวงมีทานบารมีเป็นต้นไม่สามารถจะให้ได้ ฉะนั้น เราจึงได้ให้พระยาคชสาร. แม้เมื่อนาพระยาคชสารมาในแคว้นกาลิงคะ ฝนก็ยังไม่ตกอยู่นั่นเอง. พระเจ้ากาลิงคะตรัสถามว่า แม้บัดนี้ ฝนก็ยังไม่ตก อะไรหนอเป็นเหตุ. ทรงทราบว่า พระเจ้ากุรุ ทรงรักษาครุธรรม ด้วยเหตุนั้นในแคว้นของพระองค์ ฝนจึงตกทุกกึ่งเดือน ทุก ๑๐ วันตามลาดับ นั้นเป็น คุณานุภาพของพระราชามิใช่อานุภาพของสัตว์เดียรัจฉานนี้ จึงทรงส่งอามาตย์ไปด้วยมีพระดารัสว่า เราจัก รักษาครุธรรมด้วยตนเอง พวกท่านจงไปเขียนครุธรรมเหล่านั้นในราชสานักของพระเจ้าธนญชัยโกรพยะ ลง ในสุพรรณบัฏแล้วนามา. ท่านเรียกศีล ๕ ว่า ครุธรรม. พระโพธิสัตว์ทรงรักษาศีล ๕ เหล่านั้นกระทาให้บริสุทธิ์เป็นอย่างดี. อนึ่ง พระมารดา พระอัครมเหสี พระกนิษฐา อุปราช ปุโรหิต พราหมณ์ พนักงานรังวัด อามาตย์ สารถี เศรษฐี พนักงานเก็บภาษีอากร คนเฝ้าประตู นครโสเภณีวรรณทาสีก็รักษาครุธรรมเช่นเดียวกับพระ โพธิสัตว์. ด้วยเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวว่า คน ๑๑ คน คือ พระราชา ๑ พระชนนี ๑ พระมเหสี ๑ อุปราช ๑ ปุโรหิต ๑ พนักงานรังวัด ๑ สารถี ๑ เศรษฐี ๑ พนักงานเก็บภาษีอากร ๑ คนเฝ้าประตู ๑ หญิงงามเมือง ๑ ตั้งอยู่ในครุธรรม. พวกอามาตย์เหล่านั้นเข้าไปเฝ้าพระโพธิสัตว์ ถวายบังคมแล้วกราบทูลความนั้น. พระมหาสัตว์ตรัสว่า เรายังมีความเคลือบแคลงในครุธรรมอยู่, แต่พระชนนีของเรารักษาไว้เป็น อย่างดีแล้ว พวกท่านจงรับในสานักของพระชนนีนั้นเถิด. พวกอามาตย์ทูลวิงวอนว่า ข้าแต่มหาราชเจ้า ชื่อว่าความเคลือบแคลงย่อมมีแก่ผู้ยังต้องการ อาหาร มีความประพฤติขัดเกลากิเลส ขอพระองค์ทรงโปรดพระราชทานแก่พวกข้าพระองค์เถิด พระเจ้าข้า. แล้วรับสั่งให้เขียนลงในสุพรรณบัฏว่า ไม่ควรฆ่าสัตว์ ๑ ไม่ควรลักทรัพย์ ๑ ไม่ควรประพฤติผิดในกาม ๑ ไม่ ควรพูดปด ๑ ไม่ควรดื่มน้าเมา ๑ แล้วตรัสว่า พวกท่านจงไปรับในสานักของพระชนนีเถิด. พวกทูตถวายบังคมพระราชาแล้วไปยังสานักของพระชนนีนั้น กราบทูลว่า ข้าแต่พระเทวี ได้ยิน
5.
5 ว่า พระนางเจ้าทรงรักษาครุธรรม ขอพระนางเจ้าทรงโปรดพระราชทานครุธรรมนั้นแก่พวกข้าพระพุทธเจ้า เถิด. แม้พระชนนีของพระโพธิสัตว์
ก็ทรงทราบว่าพระองค์ยังมีความเคลือบแคลงอยู่เหมือนกัน แต่ เมื่อพวกพราหมณ์วิงวอนขอก็ได้พระราชทานให้. แม้พระมเหสีเป็นต้นก็เหมือนกัน. พวกพราหมณ์ได้เขียนครุธรรมลงในสุพรรณบัฏในสานักของชนทั้งหมด แล้วกลับทันตบุรี ถวาย แด่พระเจ้ากาลิงคะ แล้วกราบทูลเรื่องราวให้ทรงทราบ. พระราชาทรงปฏิบัติในธรรมนั้นทรงบาเพ็ญศีล ๕ ให้บริบูรณ์. แต่นั้นฝนก็ตกทั่วแคว้นกาลิงคะ ภัย ๓ ประการก็สงบ แคว้นก็ได้เป็นแดนเกษม หาภิกษาได้ง่าย. พระโพธิสัตว์ทรงบาเพ็ญบุญมีทานเป็นต้น ตลอดพระชนมายุ พร้อมด้วยบริษัทก็ไปอุบัติในเมือง สวรรค์. สมดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า หญิงงามเมืองคืออุบลวรรณา คนเฝ้าประตูคือปุณณะ พนักงานรังวัดคือกัจจานะ พนักงานภาษีอากรคือโกลิตะ เศรษฐีคือสารีบุตร สารถีคืออนุรุทธะ พราหมณ์คือกัสสปเถระ อุปราชคือนันทบัณฑิต พระมเหสีคือมารดาพระราหุล พระชนนีคือพระมหามายาเทวี พระโพธิสัตว์ผู้เป็นราชาในแคว้นกุรุ คือเราตถาคต. พวกท่านจงทรงจาชาดกไว้ด้วยประการฉะนี้ . จบอรรถกถากุรุธรรมจริยาที่ ๓ -----------------------------------------------------
Download now