More Related Content
Similar to ใบงานที่2 8 (20)
More from Pornthip Nabnain
More from Pornthip Nabnain (20)
ใบงานที่2 8
- 4. คอมพิวเตอร์ได้เปลี่ยนแปลง โลกของเราในด้านต่างๆ มากมาย ได้แก่
1. สังคมโดยส่วนใหญ่เปลี่ยนจากสังคม อุตสาหกรรมเป็นสังคมสารสนเทศ
2. การตัดสินใจในเรื่องต่างๆมักขึ้นอยู่กับ ข้อมูลซึ่งได้จากระบบคอมพิวเตอร์
3. คอมพิวเตอร์กลายเป็นเครื่องมือที่สาคัญ แทนเครื่องมืออื่นๆในอดีต เช่น เครื่อง
พิมพ์ดีด เครื่องคิดเลข เป็นต้น
4. คอมพิวเตอร์ถูกใช้ในการออกแบบ สถานการณ์หรือปัญหาที่ซับซ้อนต่างๆ
5. คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์หลักที่ใช้ในงาน
- 5. ความสาคัญของการทาโครงงานคอมพิวเตอร์ คือ ผลงานที่ได้จากการศึกษาค้นคว้า
ตามความสนใจ ความถนัดและ ความสามารถของผู้เรียน โดยวิธีการทาง
วิทยาศาสตร์ โครงงานจึงเป็นกิจกรรม การเรียนรู้ที่มีการเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ โดย
ผู้เรียนจะหาหัวข้อโครงงานที่ตนเอง สนใจ รวมทั้งเชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ และ
ความรู้ด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี สารสนเทศ เพื่อสร้างผลงานตามความ
ต้องการได้อย่างเหมาะสม โดยมีครูเป็นที่ ปรึกษาและให้คาแนะนา
- 7. ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์ มี 5 ประเภท ให้นักเรียนค้นหา ขอบข่าย ของ
โครงงานแต่ละประเภท เป็นข้อๆ (ค้นจากห้องสมุด / อินเทอร์เน็ต) แล้ว บันทึกลง
กระดาษขนาด A4 ที่เตรียมมา พร้อมเขียน แหล่งที่มา หรือ Address ของ
website ที่นักเรียนค้นหาข้อมูล เหล่านั้นด้วยโครงงาน คอมพิวเตอร์ แบ่งตาม
วัตถุประสงค์ของการใช้งานดังนี้
- การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
- การพัฒนาเครื่องมือ
- การทดลองทฤษฎี
- การประยุกต์ใช้งาน
- การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
- 8. ขอบข่ายของโครงงาน การดาเนินงานโดยมีนักเรียนเป็นผู้ริเริ่ม สร้างสรรค์ และครูอาจารย์เป็น
ผู้ให้ คาแนะนาปรึกษา สรุปได้ดังนี้คือ
1. เป็นกิจกรรมการศึกษาที่ให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติด้วย ตนเอง โดย อาศัยหลักวิชาการ
ทางทฤษฎีตามเนื้อหาโครงงานนั้นๆ หรือจาก ประสบการณ์ และกิจกรรมต่างๆ ที่ได้พบเห็น
มาแล้ว
2. นักเรียนทุกคนเป็นผู้พิจารณาจัดทาโครงงานด้วยตนเอง หรือกลุ่ม จานวน 2-8 คนต่อกลุ่ม
โดยใช้ระยะเวลาสั้นๆ เป็นภาคเรียน หรือ มากกว่าก็ได้
3. นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเริ่มสร้างสรรค์ คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติด้วยตนเอง
ตามความถนัด สนใจและความพร้อม
4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงานแผนปฏิบัติ งาน และ แปรผลรายงาน
ต่อครูอาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อดาเนินงานร่วมกันให้ บรรลุตาจุดหมาย ที่กาหนด
5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียนตาม วัยและ สติปัญญารวมทั้ง
การใช้จ่ายเงินดาเนินงานด้วยโครงงานประเภทต่างๆ
- 9. การแบ่งประเภทของโครงงานมีหลายวิธี เช่น แบ่งตามหมวดวิชาการงานและ อาชีพ ใน
โรงเรียน เช่น โครงงานเกษตรกรรม โครงงานคหกรรม โครงงาน อุตสาหกรรม โครงงาน
วิทยาศาสตร์ เป็นต้น และจากขอบข่ายโครงงานดังกล่าว จะ เห็นได้ว่า นักเรียนเป็นผู้ดาเนิน
งานโดยได้รับคาแนะนาจากอาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน และ นักเรียนลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง
ทั้งด้านการเสนอโครงงาน ขั้นตอนการ ปฏิบัติงาน ตลอดจนทาแผนปฏิบัติการ และรายงาน
ผลตามจุดมุ่งหมายที่กาหนดไว้ ทาให้ สามารถแยกประเภทของโครงงานได้ 4 ประเภท
ดังนี้คือ
1. ประเภทพัฒนาผลงาน
2. ประเภทศึกษา ค้นคว้า ทดลอง
3. ประเภทสิ่งประดิษฐ์
4. ประเภทสารวจข้อมูล
- 11. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ลักษณะเด่น ของโครงงาน
ประเภทนี้ คือ เป็นโครงงานที่ใช้ คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อ การศึกษา โดยการสร้าง
โปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้อง มีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และคา
ถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียน แบบ รายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอน โดยใช้
คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือว่า คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การ สอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนา
บทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงาน ประเภทนี้สามารถ
พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจ ยาก มา
เป็น หัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ตัวอย่างโครงงาน เช่น การเคลื่อนที่แบบโปรเจ็ก
สไตล์ ระบบสุรยจักรวาล ตัวแปรต่างๆ ที่มีผลต่อการชากิ่งกุหลาบ หลัก ภาษาไทย และ
ิ
สถานที่ สาคัญของประเทศไทย เป็นต้น
- 13. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่องมือ
ช่วย สร้างงานประยุกต์ต่างๆ โดยส่วน ใหญ่จะอยู่ในรูปซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์
วาด รูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน และซอฟต์แวร์ช่วยการมอง วัตถุในมุมต่างๆ เป็นต้น
สาหรับซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็นโปรแกรมประมวลค้า ซึ่งจะ
เป็น เครื่องมือให้เราใช้ในการพิมพ์งานต่างๆบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วนซอฟต์แวร์
การ วาดรูป พัฒนาขึ้น เพื่ออ้านวยความสะดวกให้การวาดรูปบนเครื่อง
คอมพิวเตอร์ให้ เป็นไปได้ โดยง่าย สาหรับซอฟต์แวร์ช่วย การมองวัตถุในมุมต่างๆ
ใช้สาหรับช่วย การออกแบบสิ่งของ อาทิเช่น ผู้ใช้ วาดแจกันด้านหน้า และ
ต้องการจะดูว่าด้านบน และด้านข้างเป็นอย่างไร ก็ให้ซอฟต์แวร์คานวณค่า และ
ภาพที่ควรจะเป็นมาให้ เพื่อ พิจารณาและแก้ไขภาพแจกันที่ออกแบบไว้ได้อย่าง
สะดวก
- 15. ใบงานที่6 โครงงานประเภทการทดลองทฤษฏี
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎีเป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการจาลองการ
ทดลองของ สาขาต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริงได้ เช่น
การจุดระเบิด เป็นต้น และเป็น โครงงานที่ผู้ทาต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ
ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ ต้องการศึกษาแล้วเสนอเป็น
แนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสูตร สมการหรือคา อธิบาย พร้อม
ทั้งการจาลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็นภาพ ภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไป ตาม
สูตรหรือสมการนั้น ซึ่งจะทาให้ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น การทาโครงงาน
ประเภทนี้มีจุดสาคัญอยู่ที่ ผู้ทาต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นๆเป็นอย่างดี ตัวอย่างโครงงาน
จาลองทฤษฎี เช่น การทดลองเรื่องการไหล ของของเหลว การทดลองเรื่อง
พฤติกรรมของปลาปิรันย่า และการทดลองเรื่องการมองเห็นวัตถุแบบสามมิติ เป็นต้น
- 17. ใบงานที่7 โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน สร้าง ผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานใน ชีวิตประจาวัน อาทิ
เช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและ ตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการ ผสมสี
และซอฟต์แวร์สาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ ฮาร์ดแวร์
ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอย ต่างๆ ซึ่งอาจเป็นการคิดสร้างสิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุง
เปลี่ยนแปลงของเดิมที่ มีอยู่แล้ว ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โครงงานลักษณะนี้ จะต้องศึกษาและ
วิเคราะห์ ความต้องการของ ผู้ใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการ ออกแบบ และพัฒนา
สิ่งของนั้นๆ ต่อจากนั้น ต้องมีการทดสอบการทางานหรือทดสอบ
- 19. ใบงานที่8 โครงงานประเภทการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
โครงงานประยุกต์ใช้งาน เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ สร้างผลงานเพื่อ ประยุกต์ใช้งาน
จริงในชีวิตประจาวัน อาทิเช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและ ตกแต่ง ภายในอาคาร
ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี และซอฟต์แวร์สาหรับการระบุ คนร้าย เป็นต้น โครงงาน ประเภท
นี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือ อุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็นการคิดสร้าง
สิ่งของ ขึ้นใหม่ หรือปรับปรุง เปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โครงงาน
ลักษณะนี้จะต้อง ศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการ
ออกแบบ และพัฒนาสิ่งของ นั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทางานหรือ ทดสอบ
คุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับ ปรุงแก้ไขให้มี ความสมบูรณ์ โครงงาน ประเภทนี้ผู้เรียนต้อง
ใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และ เครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง