SlideShare a Scribd company logo
1 of 12
บทที ่ 2

                    เอกสารที ่ เ กี ่ ย วข้ อ ง

        ในการจัดทำาโครงงานคอมพิวเตอร์ การพัฒนาเว็บบล็อก
(WebBlog) ด้วย Blogger
  เรื่อง blackberry นี้ ผู้จัดทำาโครงงานได้ศึกษาเอกสารและจาก
เว็บไซต์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้

     2.1 ความสำาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและอินเทอร์เน็ต
     2.2 ข้อมูลเกี่ยวกับสื่อสังคม Social Media
     2.3 เว็บบล็อก (WebBlog)


2.1 ความสำ า คั ญ ของเทคโนโลยี ส ารสนเทศและ
อิ น เทอร์ เ น็ ต
        ปัจจุบันเป็นที่ยอมรับแล้วว่า เทคโนโลยีสารสนเทศ
(Information Technology หรือ IT) ได้เจริญก้าวหน้าไปอย่าง
รวดเร็ว และมีบทบาทสำาคัญในด้านต่างๆ อย่างกว้างขวาง ทั้งทาง
ด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม การบริการสังคม สาธารณสุข สิ่ง
แวดล้อม รวมทั้งด้านการศึกษา ซึ่งการมีบทบาทสำาคัญนี้อาจกล่าว
ได้ว่า เทคโนโลยีสารสนเทศ หรือไอทีนั้นเปรียบเหมือนเครื่องจักร
ที่สามารถรองรับข้อมูลข่าวสารมาทำาการประมวลผล และการ
แสดงผลตามที่ต้องการได้รวดเร็ว โดยอาศัยองค์ประกอบอื่นๆ ช่วย
ในการจัดการ ได้แก่ โปรแกรมปฏิบัติการ โปรแกรมชุดคำาสั่งต่างๆ
และที่สำาคัญคือ ผู้ที่จะตัดสินใจหรือสั่งการให้ทำางานได้ถูกต้องตาม
เป้าหมาย ซึ่งได้แก่ บุคคลที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้ใช้ ผูบริหาร และผู้
                                                     ้
ชำานาญการ หรือนักเทคโนโลยีสารสนเทศโดยตรง
2.2 ข้ อ มู ล เกี ่ ย วกั บ สื ่ อ สั ง คม Social Media
      2.2.1 ความหมายของ Social Media
            เป็นสื่อสังคมออนไลน์ที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตสามารถแลก
เปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน โดยใช้สื่อต่างๆ เป็นตัวแทนใน
การสนทนา โดยได้มีการจัดแบ่งประเภทของ Social Media ออก
เป็นหลายประเภท เช่น ประเภทสื่อสิ่งพิมพ์ (Publish) ที่มี
Wikipedia, Blogger เป็นต้น, ประเภทสื่อแลกเปลี่ยน (Share) ที่มี
YouTube, Flickr, SlideShare เป็นต้น, ประเภทสื่อสนทนา
(Discuss) ที่มี MSN, Skype, Google Talk เป็นต้น และยังมีอีก
หลายประเภท โดยอีกประเภทของ Social Media ที่สร้างความ
สับสนให้บ้าง ก็คือ ประเภทเครือข่ายสังคมออนไลน์ หรือที่เรียกกัน
ว่า Social Network ที่มี Facebook, LinkedIn, Google+ เป็นต้น




    2.2.2 ประวั ต ิ ค วามเป็ น มาและพั ฒ นาการของ
Social Media

            ที่มาของชื่อบล็อกนี้ smeducation เป็นคำาย่อมาจาก
social media for education มีที่มาจากโครงการพัฒนาศักยภาพ
บุคลากรและส่งเสริมการใช้ social media ในการจัดการเรียนรู้
ซึ่งสำานักเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน สำานักงานคณะ
กรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้เล็งเห็นความสำาคัญในการส่ง
เสริมและผลักดันให้ครูสามารถนำาเครื่องมือออนไลน์ที่มีอยู่บน
ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมาใช้ในการจัดการเรียนรู้ ให้เกิดเป็น
เครือข่ายและเกิดความร่วมมือกันระหว่างครูกับครู นักเรียนกับครู
และนักเรียนกับนักเรียนด้วยกัน โดยไม่มีข้อจำากัดเรื่องเวลา และ
สถานที่ อันก่อให้เกิดการเรียนรู้แบบไม่มีที่สิ้นสุด นับเป็นยุค 2.0 ที่
นักการศึกษาจำาเป็นต้องตระหนัก เข้าใจ และเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ที่
สำาคัญแห่งนี้ เพื่อตอบรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบัน
และอนาคตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้



      2.2.3 ประเภทเว็ บ ไซต์ ท ี ่ ใ ห้ บ ริ ก าร Social Media
     Social Media ที่ใช้งานกันในปัจจุบันแบ่งออกเป็นหลาย
ประเภท ซึ่งจะขอสรุปเป็นประเภทใหญ่ๆ ดังนี้ คือ

      2.2.3.1. Blog มาจากค าเต็มว่า WeBlog บางครั้งอ่าน
ว่า We Blog บางคนอ่านว่า Web Log ซึ่ง Blog ถือเป็นเครื่องมือ
สื่อสารที่ใช้งานบนเว็บไซต์มีลักษณะเหมือนกับเว็บบอร์ด ผู้ใช้
Blog สามารถเขียนบทความของตนเองและเผยแพร่ลงบน
อินเทอร์เน็ตได้โดยง่าย Blog เปิดโอกาสให้บุคคลที่มีความ
สามารถในด้านต่างๆ เผยแพร่ความรู้ด้วยการเขียนได้อย่างเสรี
ตัวอย่างเว็บไซต์ที่เป็น Blog เช่น wordpress และ blogger.com
เป็นต้น

        2.2.3.2. Social Networking หรือเครือข่ายสังคม
เป็นรูปแบบของเว็บไซต์ในการสร้างเครือข่ายสังคมใน
อินเทอร์เน็ต เพื่อให้ผู้ใช้เขียนและอธิบายความสนใจหรือกิจกรรม
ที่ทำา เพื่อเชื่อมโยงความสนใจและกิจกรรมกับผู้อื่ นในเครือข่ าย
สังคมด้วยการสนทนาออนไลน์ การส่งข้อความ การส่งอีเมล์ การ
อัปโหลดวิดีโอ เพลง รูปถ่ายเพื่อแบ่งปันกับสมาชิกในสังคม
ออนไลน์ เป็นต้น เครือข่ายสังคมที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน เช่น
Facebook, Hi5, Bebo, LinkedIn, MySpace และ Orkut เป็นต้น

     2.2.3.3. Micro Blog เป็นรูปแบบหนึ่งของ Blog ที่จ า
กัดขนาดของข้อความที่เขียน ผู้ใช้สามารถเขียนข้อความได้สั้นๆ
ตัวอย่างของ Micro Blog เช่น Twitter, Pownce, Jaiku และ
tumblr เป็นต้น โดย Twitter เป็น Micro Blog ที่มีผู้นิยมใช้มาก
ที่สุด กล่าวคือสามารถเขียนข้อความแต่ละครั้งได้เพียง 140 ตัว
อักษร ปัจจุบัน twitter ถูกน าไปใช้ในทางธุรกิจเพื่อเพิ่มยอดขาย
สร้างแบรนด์ และบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า

     2.2.3.4. Media Sharing เป็นเว็บไซต์ที่ให้ผู้ใช้
สามารถอัปโหลดรูปภาพ แฟ้มข้อมูล หรือวิดีโอเพื่อแบ่งปันให้กับ
สมาชิก หรือเผยแพร่ต่อสาธารณชน ตัวอย่างเว็บไซต์ที่เป็น Media
Sharing เช่น Youtube, Flickr และ Multiply เป็นต้น

       2.2.3.5. Social News and Bookmarking เป็น
เว็บไซต์ที่เชื่อมโยงไปยังบทความหรือเนื้อหาในอินเทอร์เน็ต โดย
ผู้ใช้เป็นผู้ส่งและสามารถให้คะแนนและเลือกบทความหรือเนื้อหา
ใดที่น่าสนใจที่สุดได้ ผูใช้สามารถ Bookmark เนื้อหาหรือ
                        ้
เว็บไซต์ที่ชื่นชอบได้ รวมทั้งยังแบ่งปันให้กับผู้อื่นได้ด้วย นักการ
ตลาดจะใช้ Social Media ชนิดนี้เป็นเครื่องมือในการบอกต่อและ
สร้างจ านวนคนเข้ามายังที่เว็บไซต์ ตัวอย่างเว็บไซต์ประเภทนี้
เช่น Del.icio.us, Digg เป็นต้น

      2.2.3.6. Online Forums เป็นเว็บไซต์ที่ให้ผู้คนเข้ามา
พูดคุยในหัวข้อที่สนใจ เช่น เพลง หนัง การเมือง กีฬา สุขภาพ
หนังสือ การลงทุน เป็นต้น โดยมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
แสดงข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนถึงการแนะน าสินค้าหรือบริการ
ต่างๆ ตัวอย่างเว็บไซต์ประเภทนี้ เช่นforums.sem.or.th เป็นต้น




2.3 เว็ บ บล็ อ ก (WebBlog)
    2.3.1 ความหมายของเว็ บ บล็ อ ก (WebBlog)
           2.3.1 ความหมายของเว็ บ บล็ อ ก (WebBlog)
           เว็บบล็อก (Weblog) เป็นคำาที่มาจากคำาว่า เว็บ
(Web) กับคำาว่า บล็อก (Blog) รวมกันเรียกว่าเว็บบล็อก ความ
หมายของเว็บบล็อกคือ เครื่องมือสือสารที่ใช้งานบนเว็บไซต์มี
                                   ่
ลักษณะเหมือนกับ เว็บบอร์ด แต่เน้นการใช้งานไปที่การบันทึก
เรื่องราวหรือข้อมูลส่วนตัวเหมือนกับไดอารี่ จะแสดงข้อมูลใน
ลักษณะที่เป็นหัวข้อประกอบบทคัดย่อ แต่จะดีกว่าไดอารีที่เขียน
ด้วยมือ ก็คือเป็นเว็บที่สามารถเชื่อมโยงไปหาบทความที่เว็บไซด์
อื่น และเปิดรับความเห็นจากผู้อื่นได้ด้วยโดยทั่วๆไปแล้ว
คุณสมบัติของบล็อก ก็คือ 1 มีการจัดหัวข้อของเนื้อหา บทความ
โดยให้เรื่องใหม่สุดอยู่ด้านบนสุด มักจะจัดกลุ่มเรื่องแบบเดียวกัน
ไว้ด้วยกัน 2 มีการเก็บสะสมบทความอย่างเป็นระบบต่อเนื่องกัน 3
ผู้อ่านบทความนั้นๆ สามารถแสดงความเห็นได้ 4 มีลิสต์ของ link
ไปเว็บหรือบล็อกที่มีเนื้อหาเกี่ยวเนื่องกัน หรือที่เราเรียกว่า blogro
ll เนื้อหาของบล็อก เนื้อหาของบล็อกก็เป็นไปตามประเภทของ
บล็อก แต่ไม่ว่าจะเป็นบล็อกแบบไหนก็ตาม ควรจะมีการอัพเดท
บ่อยๆ มีอะไรใหม่ๆ ให้คนอยากมาเยี่ยมชม




     2.3.2 ประเภทของเว็ บ บล็ อ ก
2.3.2 ประเภทของเว็ บ บล็ อ ก

บล็อกมีด้วยกันหลายชนิด แต่ละชนิดมีข้อมูลที่แตกต่างกันไปทั้งผู้
เขียนและผู้เข้าชม โดยบล็อกจะเน้นไปที่เรื่องต่างๆ เช่น learner
blogs, political blogs, travel blogs, fashion blogs, project
blogs,legal blogs และอื่นๆบล็อกที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบันนี้ ใช่มี
เพียงแค่บล็อกที่เป็นตัวหนังสือและรูปภาพเท่านั้น หรือ มีแค่
ออนไลน์ไดอารี่ เราแบ่งบล็อกออกได้ ดังต่อไปนี้

     1. แบ่ ง ตามลั ก ษณะของมี เ ดี ย ที ่ ม ี ใ นบล็ อ กได้ แ ก่

       1.1 Linklog บล็อกแบบเป็นบล็อกรุ่นแรก ๆ ที่รวมลิ๊งก์ที่
เจ้าของบล็อกสนใจเอาไว้ แม้ว่าจะบล็อกแบบนี้จะเป็นการรวมลิ๊งก์
เท่านั้น แต่ก็ไม่เรียงเหมือนว็บไดเร็กทอรี่ เพราะเจ้าของบล็อกจะ
โพสต์ลิ๊งก์ของเขา 1 – 2 ลิ๊งก์ต่อโพสต์เท่านั้น

     1.2 Photoblog บล็อกประเภทนี้เน้นโพสต์ภาพถ่ายที่
เจ้าของบล็อกอยากนำาเสนอ และมักจะไม่เน้นเขียนข้อความมาก
นัก

      1.3 Vlog ย่อมาจาก Videoblog เป็นบล็อกที่รวมวิดีโอ
คลิปไว้ในบล็อก Vlog เป็นบล็อกที่เรียกได้ว่าเป็นบล็อกที่นิยมทำา
กันมากในอนาคต เพราะการเจริญเติบโตของไฮสปีด อินเตอร์เน็ต
หรือ อินเตอร์เน็ตบอร์ดแบนด์ ที่ทำาให้การถ่ายทอดเสียง ภาพ
เคลื่อนไหว movie

     2.แบ่ ง ตามประเภทเนื ้ อ หา ได้ แ ก่

      2.1 บล็ อ กส่ ว นตั ว (Personal Blog) นำาแสนอความคิด
เห็น กิจวัตรประจำาวันของเจ้าของบล็อกเป็นหลัก
      2.2 บล็ อ กข่ า ว(News Blog) บล็อกที่นำาเสนอข่าวเป็น
หลัก
2.3 บล็ อ กกลุ ่ ม (Collaborative Blog) เป็นบล็อกที่
เขียนกันเป็นกลุ่ม เช่น blognone.com

     2.4 บล็ อ กการเมื อ ง(Politic Blog) ว่าด้วยเรื่อง
การเมืองล้วน ๆ

      2.5 บล็ อ กเพื ่ อ สิ ่ ง แวดล้ อ ม(Environment Blog)
พูดถึงเรื่องราวของธรรมชาติและการรักษาสิ่งแวดล้อม

      2.6 มี เ ดี ย บล็ อ ก(Media Blog) เป็นบล็อกที่วิเคราะห์สื่อ
ต่างๆ สารคดีและสิ่งที่เกี่ยวกับสื่อ เช่น oknation.net/blog/black
ของสุทธิชัย หยุ่น

     2.7 บล็ อ กบั น เทิ ง (Entertainment Blog) บล็อกที่นำา
เสนอเรื่องราวบันเทิงทั้งทางจอแก้ว และจอเงิน เรื่องซุบซุดารา
กองถ่าย ฯลฯ

      2.8 บล็ อ กเพื ่ อ การศึ ก ษา(Educational Blog) ใน
โรงเรียน หรือมหาวิทยาลัยในต่างประเทศมักจะใช้บล็อกเป็นสื่อ
ในการสอนหรือ แลกเปลี่ยนความคิดกัน

    2.9 ติ ว เตอร์ บ ล็ อ ก(Tutorial Blog) เป็นบล็อกที่นำา
เสนอวิธีการต่าง

     3. แบ่ ง ตามรู ป แบบของเนื ้ อ หาเฉพาะที ่ เ ห็ น เด่ น ชั ด

       3.1 Filter Blog เป็นบล็อกที่ผู้จัดทำา จะใช้สำาหรับนำาเสนอ
แหล่งข้อมูลที่ตนสนใจ (เว็บเพจหรือเว็บไซต์) โดยปกติมักจะเป็น
ข่าว บทความ หรือความคิดเห็นของบุคคลในวงการที่เผยแพร่ใน
เว็บไซต์ต่าง ๆ อาจเรียกได้ว่า เป็น บล็อก “Bookmark” หรือ มีชื่อ
เฉพาะ ว่า Social Bookmark บล็อกลักษณะนี้ จะนำาเสนอแค่หัวข้อ
เรื่อง และ URL ของเว็บเพจหรือเว็บไซต์ บางทีอาจเพิ่มคำาอธิบาย
เว็บเพจหรือเว็บไซต์นั้น ๆ ได้ด้วย และบางที่อาจจะสามารถเพิ่ม
ความคิดเห็นของผู้จัดทำาบล็อกได้อีกด้วย เป็นเหมือนการกลั่น
กรองข้อมูลให้ทราบว่าเว็บเพจหรือเว็บไซต์ใดกำาลังได้รับความ
นิยม ซึ่งจะเป็นการช่วยจัดลำาดับความน่าเชื่อถือของเว็บเพจหรือ
เว็บไซต์นั้น ๆ ได้เช่นกัน ตัวอย่างบล็อกลักษณะนี้ได้แก่
http://del.icio.us/ เป็นต้น

        3.2 Personal Journal Blog เป็นบล็อกที่ผู้จัดทำา จะใช้
สำาหรับนำาเสนอความคิดเห็นหรือประสบการณ์ของตนเองผ่านข้อ
เขียน โดยอาจจะมีภาพประกอบ หรือมีการเชื่อมโยงออกไปยัง
เว็บไซต์อื่น ๆ เพื่อให้ข้อมูลดูน่าเชื่อถือหรือมีความน่าสนใจมากยิ่ง
ขึ้น ซึ่งบล็อกลักษณะนี้ เป็นบล็อกตามความเข้าใจของบุคคลทั่วไป
ตัวอย่างบล็อกลักษณะนี้ได้แก่ http://www.exteen.com หรือ
http://www.blogger.com เป็นต้น

      3.3 Photo Blog เป็นบล็อกที่ใช้สำาหรับเก็บภาพ
(ภาพถ่าย, ภาพวาด ฯลฯ) และสามารถใส่รายละเอียดของภาพ ใส่
คำาค้น (tag) ได้ ทำาให้การเก็บภาพเป็นระบบและง่ายต่อการค้นหา
มากขึ้น ตัวอย่างบล็อกลักษณะนี้ได้แก่ http://www.flickr.com
เป็นต้น

      3.4 Video Blog หรือ เรียกว่า Vlog เป็นบล็อกที่ใช้
สำาหรับเก็บวีดิทัศน์ส่วนตัว สามารถใส่รายละเอียดของวีดิทัศน์ ใส่
คำาค้น (tag) ได้ ทำาให้การเก็บวีดิทัศน์เป็นระบบและง่ายต่อการ
ค้นหามากขึ้น ตัวอย่างบล็อกลักษณะนี้ได้แก่
http://www.aolvideoblog.com เป็นต้น

       3.5 บล็ อ กผสม มีลักษณะเป็นบล็อกที่สามารถเก็บข้อมูล
ต่าง ๆ ได้หลายประเภท ทั้งเก็บรูปภาพ เก็บเพลง เก็บวีดิโอ เก็บลิงค์
(link) ต่าง ๆ หรือบันทึกประจำาวัน และใส่ปฏิทินรายการงานที่ต้อง
ทำา ฯลฯ ได้ด้วย ปัจจุบันเป็นบริการที่ได้รับความนิยมสูงมาก โดย
มีชื่อเฉพาะด้วย เรียกว่า Social Network Service ซึ่งนอกจากจะ
มีจุดประสงค์เพื่อให้สมาชิกแลกเปลี่ยนข้อมูลต่าง ๆ กันแล้ว ก็ยังมี
จุดประสงค์หลักเพื่อการค้นหาและสะสมเพื่อนจากทั่วโลก ตัวอย่าง
Social NetworkingWebsites ซึ่งให้บริการลักษณะนี้ ได้แก่
http://hi5.com หรือ http://multiply.com
หรือ http://spaces.live.com เป็นต้น (ซึ่งปัจจุบัน คำาว่า blog ใน
Social Networking Websites นั้นจะกลายเป็นแค่ส่วนที่ใช้เขียน
ข้อความเช่นบันทึกประจำาวันแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น และยังอาจ
ใช้คำาว่า journal แทนคำาว่า blog ด้วย แต่เนื่องจากบริการนี้
เป็นการรวมเอาบล็อกลักษณะต่าง ๆที่เคยมี มาอยู่ในที่เดียว ทำาให้
ผู้ใช้งานได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เพราะเพียงแค่เปิดใช้
บริการที่เดียว ก็ได้ใช้บริการครบถ้วน ไม่ตองเสียเวลาไปสมัครใช้
                                          ้
งานจาก เว็บไซต์หลายที่ให้จดจำายากอีกด้วย)




2.3.3 เว็ บ ไซต์ ท ี ่ ใ ห้ บ ริ ก ารเว็ บ บล็ อ ก

      www.blogger.com www.exteen.com
      www.mapandy.com
      www.buddythai.com   www.imigg.com
      www.5iam.com
      www.blogprathai.com www.ndesignsblog.com
      www.idatablog.com       www.inewblog.com
www.onblogme.com    www.freeseoblogs.com
        www.sumhua.com www.diaryi.net
     www.istoreblog.com
     www.skypream.comwww.thailandspace.com
     www.sungson.com          www.gujaba.com
     www.sabuyblog.com   www.ugetblog.com
     www.jaideespace.com www.maxsiteth.com
     www.my2blog.com




      2.3.4 ประวั ต ิ ข องเว็ บ ไซต์ Blogger
            ประวัติของบล็อกบล็อก (Blog) คือ คำาว่า “Weblog”
ถูกใช้งานเป็นครั้งแรกโดย Jorn Barger ในเดือนธันวาคม ปี
1997 ต่อมามีฝรั่งที่ชอบเรียกสั้นๆ ชื่อนาย Peter Merholz จับมา
เรียกย่อเหลือแต่ “Blog” แทนในเดือนเมษายน ปีค.ศ.1999 และ
จนมาถึงวันที่ 13 มีนาคม ค.ศ.2003 ทาง Oxford English
Dictionary จึงได้บรรจุคำาว่า blog ในพจนานุกรม แสดงว่าได้รับ
การยอมรับอย่างเป็นทางการ บล็อก (Blog) ขึนแท่นศัพท์ยอดฮิต
                                             ้
อันดับหนึ่ง ซึ่งถูกเสาะแสวงหา ความหมาย ทางพจนานุกรม
ออนไลน์ มากที่สุด ประจำาปี 2004 สำานักข่าวเอพีรายงานว่า
เว็บไซต์ ดิกชั่นนารีหรือ พจนานุกรมออนไลน์ “เมอร์เรียม-เว็บส
เตอร์” ได้ประกาศรายชื่อ คำาศัพท์ซึ่งถูกคลิก เข้าไปค้นหา ความ
หมายผ่าน ระบบออนไลน์มากที่สุด 10 อันดับแรกประจำาปีนี้ ซึ่ง
อันดับหนึ่งตกเป็นของคำาว่า “บล็อก” (blog) ซึ่งเป็นคำาย่อของ “เว็
บ บล็อก” (web log)โดยนายอาเธอร์ บิคเนล โฆษกสำานักพิมพ์
พจนานุกรมฉบับ เมอร์เรียม-เว็บสเตอร์ กล่าวว่า สำานักพิมพ์ได้
เตรียมที่จะนำาคำาว่า “บล็อก” บรรจุลงในพจนานุกรมฉบับล่าสุดทั้ง
ที่เป็นเล่มและ ฉบับออนไลน์แล้วแต่จากความต้องการของผู้ใช้ที่
หลั่งไหลเข้ามา ทำาให้เมอร์เรียม-เว็บสเตอร์ตัดสินใจบรรจุคำาว่า “บ
ล็อก” ลงในเว็บไซต์ในสังกัดบางแห่งไปก่อน โดยให้คำาจำากัด
ความไว้ว่า “เว็บไซต์ที่บรรจุ เรื่องราวเกี่ยวกับบันทึกส่วนตัวประจำา
วัน ซึ่งสะท้อนถึงมุมมอง ความคิดเห็นของบุคคล โดยอาจรวมลิงค์
เชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์อื่นๆ ตามความประสงค์ของเจ้าของเว็บ
บล็อกเองด้วย” โดยทั่วไป คำาศัพท์ที่ถูกบรรจุลงในพจนานุกรมนั้น
จะต้องผ่านการใช้งาน อย่างแพร่หลาย มาไม่น้อยกว่า 20 ปี ซึ่ง
หมายความว่าคำาคำานั้นจะต้องถูกนำามาใช้โดยทั่วไปในระยะเวลา
หนึ่ง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันคำาศัพท์ ทางเทคโนโลยีรวมไปถึงโรค
ภัยไข้เจ็บใหม่ๆ อย่างเช่น โรคเอดส์ โรคไข้หวัดซาร์ส ถูกบรรจุลง
ในพจนานุกรมภายในระยะเวลาอันสั้นคำาว่า “บล็อก” เริ่มใช้เป็น
ครั้งแรกๆผ่านทางหน้าหนังสือพิมพ์และนิตยสารเมื่อปี 2542 แต่ผู้
รวบรวมพจนานุกรมตั้งข้อสังเกตว่าการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และการประชุมใหญ่ของ พรรคเดโมแครต
และพรรครีพับลิกันเพื่อรับรองชื่อ ผู้สมัครเข้าชิงตำาแหน่ง
ประธานาธิบดีที่ผ่านมา ทำาให้ประชาชนชาวสหรัฐฯ ผูติดตาม  ้
ข่าวสารส่วนใหญ่สนใจ และต้องการทราบความหมายที่แท้จริง
ของคำาดังกล่าว โดยเฉพาะเมื่อคำาศัพท์เหล่านั้นปรากฏเป็นข่าว
พาดหัวตามหน้าหนังสือพิมพ์ทั่วไปนอกเหนือจากคำาว่า “บล็อก”
แล้ว คำาศัพท์ที่ติดอันดับถูกเข้าไปค้นหาความหมายสูงสุด 10
อันดับแรกประจำาปีนี้ได้แก่ “อินคัมเบนท์” (incumbent) ซึ่งหมาย
ถึงผู้อยู่ในตำาแหน่ง, “อิเล็กทอรัล” (electoral) หรือคณะผู้เลือกตั้ง
ขณะที่บางคำาเป็นคำาศัพท์ที่เกี่ยวเนื่องกับสงครามในอิรัก เช่น “ส
ตอร์มส” (stroms) ซึ่งมีความหมายว่ าการโจมตีอย่างรุนแรง, “อิน
-เซอร์เจ้นท์” (insurgent) หรือกองกำาลังฝ่ายต่อต้านการปกครอง
อิรัก, “เฮอร์ริเคน” (hurri- cane) ซึ่งหมาย ถึงผลกระทบอย่าง
รุนแรง, “เพโลตัน” (peloton) ที่แปลว่ากองทหารขนาดเล็ก และซิ
คาด้า (cicada) ซึ่งความหมายตามรูปศัพท์ แปลว่าจักจั่น

More Related Content

What's hot

แบบเสนอโครงร่าง
แบบเสนอโครงร่างแบบเสนอโครงร่าง
แบบเสนอโครงร่างKanistha Chudchum
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง1
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง102 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง1
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง1Thanggwa Taemin
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมร
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมรแบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมร
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมรPongtep Bungkilo
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องPoonyapat Wongpong
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องChi Cha Pui Fai
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องChi Cha Pui Fai
 
โครงงาน คอมพิวเตอร์
โครงงาน คอมพิวเตอร์โครงงาน คอมพิวเตอร์
โครงงาน คอมพิวเตอร์Pitthaya Onsuk
 
โครงงาน NoteBook
โครงงาน NoteBookโครงงาน NoteBook
โครงงาน NoteBooksirikandaTom
 

What's hot (10)

แบบเสนอโครงร่าง
แบบเสนอโครงร่างแบบเสนอโครงร่าง
แบบเสนอโครงร่าง
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง1
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง102 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง1
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง1
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมร
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมรแบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมร
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมร
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
โครงงาน คอมพิวเตอร์
โครงงาน คอมพิวเตอร์โครงงาน คอมพิวเตอร์
โครงงาน คอมพิวเตอร์
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
โครงงาน NoteBook
โครงงาน NoteBookโครงงาน NoteBook
โครงงาน NoteBook
 

Viewers also liked

Excel อ.สังคม
Excel อ.สังคมExcel อ.สังคม
Excel อ.สังคมnarueporn
 
บทที่2 (1)
บทที่2 (1)บทที่2 (1)
บทที่2 (1)nanew
 
แบบสำรวจฯสถานศึกษา
แบบสำรวจฯสถานศึกษาแบบสำรวจฯสถานศึกษา
แบบสำรวจฯสถานศึกษาwasan
 
บทที่ 4
บทที่ 4บทที่ 4
บทที่ 4pitthaya203
 
ภาคผนวก 1
ภาคผนวก    1ภาคผนวก    1
ภาคผนวก 1pitthaya203
 
Presentacionmedicioniii2009 091113122153-phpapp02
Presentacionmedicioniii2009 091113122153-phpapp02Presentacionmedicioniii2009 091113122153-phpapp02
Presentacionmedicioniii2009 091113122153-phpapp02Adalberto
 

Viewers also liked (11)

Ppt pa imam
Ppt pa imamPpt pa imam
Ppt pa imam
 
Excel อ.สังคม
Excel อ.สังคมExcel อ.สังคม
Excel อ.สังคม
 
Smart program m 4
Smart program m 4Smart program m 4
Smart program m 4
 
บทที่2 (1)
บทที่2 (1)บทที่2 (1)
บทที่2 (1)
 
01
0101
01
 
แบบสำรวจฯสถานศึกษา
แบบสำรวจฯสถานศึกษาแบบสำรวจฯสถานศึกษา
แบบสำรวจฯสถานศึกษา
 
บทที่ 4
บทที่ 4บทที่ 4
บทที่ 4
 
Universo auditable, minimo para IMF
Universo auditable, minimo para IMFUniverso auditable, minimo para IMF
Universo auditable, minimo para IMF
 
ภาคผนวก 1
ภาคผนวก    1ภาคผนวก    1
ภาคผนวก 1
 
Ensayo
Ensayo Ensayo
Ensayo
 
Presentacionmedicioniii2009 091113122153-phpapp02
Presentacionmedicioniii2009 091113122153-phpapp02Presentacionmedicioniii2009 091113122153-phpapp02
Presentacionmedicioniii2009 091113122153-phpapp02
 

Similar to บทที่ 2

02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องKittitud SaLad
 
แบบนำเสนอโครงงานเรื่องไมโครโพรเซสเซอร์5.4
แบบนำเสนอโครงงานเรื่องไมโครโพรเซสเซอร์5.4แบบนำเสนอโครงงานเรื่องไมโครโพรเซสเซอร์5.4
แบบนำเสนอโครงงานเรื่องไมโครโพรเซสเซอร์5.4shopper38
 
แบบนำเสนอโครงงานเรื่องไมโครโพรเซสเซอร์5.4
แบบนำเสนอโครงงานเรื่องไมโครโพรเซสเซอร์5.4แบบนำเสนอโครงงานเรื่องไมโครโพรเซสเซอร์5.4
แบบนำเสนอโครงงานเรื่องไมโครโพรเซสเซอร์5.4shopper38
 
แบบนำเสนอโครงงานเรื่องไมโครโพรเซสเซอร์5.4
แบบนำเสนอโครงงานเรื่องไมโครโพรเซสเซอร์5.4แบบนำเสนอโครงงานเรื่องไมโครโพรเซสเซอร์5.4
แบบนำเสนอโครงงานเรื่องไมโครโพรเซสเซอร์5.4shopper38
 
โครงงานNoteBook
โครงงานNoteBookโครงงานNoteBook
โครงงานNoteBooksirikandaTom
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องChi Cha Pui Fai
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องChi Cha Pui Fai
 
โครงงาน คอมพิวเตอร์
โครงงาน คอมพิวเตอร์โครงงาน คอมพิวเตอร์
โครงงาน คอมพิวเตอร์Pitthaya Onsuk
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์teeraratWI
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องChi Cha Pui Fai
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องChi Cha Pui Fai
 
โครงงาน Hi5 ม.5.2
โครงงาน Hi5 ม.5.2โครงงาน Hi5 ม.5.2
โครงงาน Hi5 ม.5.2nongnamka
 
บทที่2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่2 เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่2 เอกสารที่เกี่ยวข้องChamp Wachwittayakhang
 
แบบเสนอโครงร่าง
แบบเสนอโครงร่างแบบเสนอโครงร่าง
แบบเสนอโครงร่างKanistha Chudchum
 
โครงงาน Mpeg4 ม.5.2
โครงงาน Mpeg4 ม.5.2โครงงาน Mpeg4 ม.5.2
โครงงาน Mpeg4 ม.5.2juthaporn222
 

Similar to บทที่ 2 (20)

02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
แบบนำเสนอโครงงานเรื่องไมโครโพรเซสเซอร์5.4
แบบนำเสนอโครงงานเรื่องไมโครโพรเซสเซอร์5.4แบบนำเสนอโครงงานเรื่องไมโครโพรเซสเซอร์5.4
แบบนำเสนอโครงงานเรื่องไมโครโพรเซสเซอร์5.4
 
แบบนำเสนอโครงงานเรื่องไมโครโพรเซสเซอร์5.4
แบบนำเสนอโครงงานเรื่องไมโครโพรเซสเซอร์5.4แบบนำเสนอโครงงานเรื่องไมโครโพรเซสเซอร์5.4
แบบนำเสนอโครงงานเรื่องไมโครโพรเซสเซอร์5.4
 
แบบนำเสนอโครงงานเรื่องไมโครโพรเซสเซอร์5.4
แบบนำเสนอโครงงานเรื่องไมโครโพรเซสเซอร์5.4แบบนำเสนอโครงงานเรื่องไมโครโพรเซสเซอร์5.4
แบบนำเสนอโครงงานเรื่องไมโครโพรเซสเซอร์5.4
 
โครงงานNoteBook
โครงงานNoteBookโครงงานNoteBook
โครงงานNoteBook
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
โครงงาน คอมพิวเตอร์
โครงงาน คอมพิวเตอร์โครงงาน คอมพิวเตอร์
โครงงาน คอมพิวเตอร์
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
โครงงาน Hi5 ม.5.2
โครงงาน Hi5 ม.5.2โครงงาน Hi5 ม.5.2
โครงงาน Hi5 ม.5.2
 
บทที่2
บทที่2บทที่2
บทที่2
 
นิ่ม
นิ่มนิ่ม
นิ่ม
 
นิ่ม
นิ่มนิ่ม
นิ่ม
 
บทที่2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่2 เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
แบบเสนอโครงร่าง
แบบเสนอโครงร่างแบบเสนอโครงร่าง
แบบเสนอโครงร่าง
 
โครงงาน Mpeg4 ม.5.2
โครงงาน Mpeg4 ม.5.2โครงงาน Mpeg4 ม.5.2
โครงงาน Mpeg4 ม.5.2
 

More from pitthaya203

บทที่ 5
บทที่ 5บทที่ 5
บทที่ 5pitthaya203
 
บทที่ 3
บทที่ 3บทที่ 3
บทที่ 3pitthaya203
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1pitthaya203
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2pitthaya203
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1pitthaya203
 
บทที่ 3
บทที่ 3บทที่ 3
บทที่ 3pitthaya203
 
บทที่ 5
บทที่ 5บทที่ 5
บทที่ 5pitthaya203
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2pitthaya203
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1pitthaya203
 
โครงงาน Acer ม.5.2 (1)
โครงงาน Acer   ม.5.2 (1)โครงงาน Acer   ม.5.2 (1)
โครงงาน Acer ม.5.2 (1)pitthaya203
 
บทที่ 3
บทที่ 3บทที่ 3
บทที่ 3pitthaya203
 
บรรณานุกรม (2)
บรรณานุกรม (2)บรรณานุกรม (2)
บรรณานุกรม (2)pitthaya203
 
บทที่ 5
บทที่ 5บทที่ 5
บทที่ 5pitthaya203
 
บรรณานุกรม
บรรณานุกรมบรรณานุกรม
บรรณานุกรมpitthaya203
 
ภาคผนวก 1
ภาคผนวก    1ภาคผนวก    1
ภาคผนวก 1pitthaya203
 
บทที่ 4
บทที่ 4บทที่ 4
บทที่ 4pitthaya203
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์pitthaya203
 

More from pitthaya203 (20)

บทที่ 5
บทที่ 5บทที่ 5
บทที่ 5
 
บทที่ 3
บทที่ 3บทที่ 3
บทที่ 3
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1
 
ปก
ปกปก
ปก
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1
 
บทที่ 3
บทที่ 3บทที่ 3
บทที่ 3
 
ปก
ปกปก
ปก
 
ปก
ปกปก
ปก
 
บทที่ 5
บทที่ 5บทที่ 5
บทที่ 5
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1
 
โครงงาน Acer ม.5.2 (1)
โครงงาน Acer   ม.5.2 (1)โครงงาน Acer   ม.5.2 (1)
โครงงาน Acer ม.5.2 (1)
 
บทที่ 3
บทที่ 3บทที่ 3
บทที่ 3
 
บรรณานุกรม (2)
บรรณานุกรม (2)บรรณานุกรม (2)
บรรณานุกรม (2)
 
บทที่ 5
บทที่ 5บทที่ 5
บทที่ 5
 
บรรณานุกรม
บรรณานุกรมบรรณานุกรม
บรรณานุกรม
 
ภาคผนวก 1
ภาคผนวก    1ภาคผนวก    1
ภาคผนวก 1
 
บทที่ 4
บทที่ 4บทที่ 4
บทที่ 4
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 

บทที่ 2

  • 1. บทที ่ 2 เอกสารที ่ เ กี ่ ย วข้ อ ง ในการจัดทำาโครงงานคอมพิวเตอร์ การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Blogger เรื่อง blackberry นี้ ผู้จัดทำาโครงงานได้ศึกษาเอกสารและจาก เว็บไซต์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้ 2.1 ความสำาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและอินเทอร์เน็ต 2.2 ข้อมูลเกี่ยวกับสื่อสังคม Social Media 2.3 เว็บบล็อก (WebBlog) 2.1 ความสำ า คั ญ ของเทคโนโลยี ส ารสนเทศและ อิ น เทอร์ เ น็ ต ปัจจุบันเป็นที่ยอมรับแล้วว่า เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology หรือ IT) ได้เจริญก้าวหน้าไปอย่าง รวดเร็ว และมีบทบาทสำาคัญในด้านต่างๆ อย่างกว้างขวาง ทั้งทาง ด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม การบริการสังคม สาธารณสุข สิ่ง แวดล้อม รวมทั้งด้านการศึกษา ซึ่งการมีบทบาทสำาคัญนี้อาจกล่าว ได้ว่า เทคโนโลยีสารสนเทศ หรือไอทีนั้นเปรียบเหมือนเครื่องจักร ที่สามารถรองรับข้อมูลข่าวสารมาทำาการประมวลผล และการ แสดงผลตามที่ต้องการได้รวดเร็ว โดยอาศัยองค์ประกอบอื่นๆ ช่วย ในการจัดการ ได้แก่ โปรแกรมปฏิบัติการ โปรแกรมชุดคำาสั่งต่างๆ และที่สำาคัญคือ ผู้ที่จะตัดสินใจหรือสั่งการให้ทำางานได้ถูกต้องตาม เป้าหมาย ซึ่งได้แก่ บุคคลที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้ใช้ ผูบริหาร และผู้ ้ ชำานาญการ หรือนักเทคโนโลยีสารสนเทศโดยตรง
  • 2. 2.2 ข้ อ มู ล เกี ่ ย วกั บ สื ่ อ สั ง คม Social Media 2.2.1 ความหมายของ Social Media เป็นสื่อสังคมออนไลน์ที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตสามารถแลก เปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน โดยใช้สื่อต่างๆ เป็นตัวแทนใน การสนทนา โดยได้มีการจัดแบ่งประเภทของ Social Media ออก เป็นหลายประเภท เช่น ประเภทสื่อสิ่งพิมพ์ (Publish) ที่มี Wikipedia, Blogger เป็นต้น, ประเภทสื่อแลกเปลี่ยน (Share) ที่มี YouTube, Flickr, SlideShare เป็นต้น, ประเภทสื่อสนทนา (Discuss) ที่มี MSN, Skype, Google Talk เป็นต้น และยังมีอีก หลายประเภท โดยอีกประเภทของ Social Media ที่สร้างความ สับสนให้บ้าง ก็คือ ประเภทเครือข่ายสังคมออนไลน์ หรือที่เรียกกัน ว่า Social Network ที่มี Facebook, LinkedIn, Google+ เป็นต้น 2.2.2 ประวั ต ิ ค วามเป็ น มาและพั ฒ นาการของ Social Media ที่มาของชื่อบล็อกนี้ smeducation เป็นคำาย่อมาจาก social media for education มีที่มาจากโครงการพัฒนาศักยภาพ บุคลากรและส่งเสริมการใช้ social media ในการจัดการเรียนรู้ ซึ่งสำานักเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน สำานักงานคณะ กรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้เล็งเห็นความสำาคัญในการส่ง เสริมและผลักดันให้ครูสามารถนำาเครื่องมือออนไลน์ที่มีอยู่บน ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมาใช้ในการจัดการเรียนรู้ ให้เกิดเป็น เครือข่ายและเกิดความร่วมมือกันระหว่างครูกับครู นักเรียนกับครู และนักเรียนกับนักเรียนด้วยกัน โดยไม่มีข้อจำากัดเรื่องเวลา และ สถานที่ อันก่อให้เกิดการเรียนรู้แบบไม่มีที่สิ้นสุด นับเป็นยุค 2.0 ที่ นักการศึกษาจำาเป็นต้องตระหนัก เข้าใจ และเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ที่
  • 3. สำาคัญแห่งนี้ เพื่อตอบรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบัน และอนาคตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 2.2.3 ประเภทเว็ บ ไซต์ ท ี ่ ใ ห้ บ ริ ก าร Social Media Social Media ที่ใช้งานกันในปัจจุบันแบ่งออกเป็นหลาย ประเภท ซึ่งจะขอสรุปเป็นประเภทใหญ่ๆ ดังนี้ คือ 2.2.3.1. Blog มาจากค าเต็มว่า WeBlog บางครั้งอ่าน ว่า We Blog บางคนอ่านว่า Web Log ซึ่ง Blog ถือเป็นเครื่องมือ สื่อสารที่ใช้งานบนเว็บไซต์มีลักษณะเหมือนกับเว็บบอร์ด ผู้ใช้ Blog สามารถเขียนบทความของตนเองและเผยแพร่ลงบน อินเทอร์เน็ตได้โดยง่าย Blog เปิดโอกาสให้บุคคลที่มีความ สามารถในด้านต่างๆ เผยแพร่ความรู้ด้วยการเขียนได้อย่างเสรี ตัวอย่างเว็บไซต์ที่เป็น Blog เช่น wordpress และ blogger.com เป็นต้น 2.2.3.2. Social Networking หรือเครือข่ายสังคม เป็นรูปแบบของเว็บไซต์ในการสร้างเครือข่ายสังคมใน อินเทอร์เน็ต เพื่อให้ผู้ใช้เขียนและอธิบายความสนใจหรือกิจกรรม ที่ทำา เพื่อเชื่อมโยงความสนใจและกิจกรรมกับผู้อื่ นในเครือข่ าย สังคมด้วยการสนทนาออนไลน์ การส่งข้อความ การส่งอีเมล์ การ อัปโหลดวิดีโอ เพลง รูปถ่ายเพื่อแบ่งปันกับสมาชิกในสังคม ออนไลน์ เป็นต้น เครือข่ายสังคมที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน เช่น Facebook, Hi5, Bebo, LinkedIn, MySpace และ Orkut เป็นต้น 2.2.3.3. Micro Blog เป็นรูปแบบหนึ่งของ Blog ที่จ า กัดขนาดของข้อความที่เขียน ผู้ใช้สามารถเขียนข้อความได้สั้นๆ ตัวอย่างของ Micro Blog เช่น Twitter, Pownce, Jaiku และ tumblr เป็นต้น โดย Twitter เป็น Micro Blog ที่มีผู้นิยมใช้มาก
  • 4. ที่สุด กล่าวคือสามารถเขียนข้อความแต่ละครั้งได้เพียง 140 ตัว อักษร ปัจจุบัน twitter ถูกน าไปใช้ในทางธุรกิจเพื่อเพิ่มยอดขาย สร้างแบรนด์ และบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า 2.2.3.4. Media Sharing เป็นเว็บไซต์ที่ให้ผู้ใช้ สามารถอัปโหลดรูปภาพ แฟ้มข้อมูล หรือวิดีโอเพื่อแบ่งปันให้กับ สมาชิก หรือเผยแพร่ต่อสาธารณชน ตัวอย่างเว็บไซต์ที่เป็น Media Sharing เช่น Youtube, Flickr และ Multiply เป็นต้น 2.2.3.5. Social News and Bookmarking เป็น เว็บไซต์ที่เชื่อมโยงไปยังบทความหรือเนื้อหาในอินเทอร์เน็ต โดย ผู้ใช้เป็นผู้ส่งและสามารถให้คะแนนและเลือกบทความหรือเนื้อหา ใดที่น่าสนใจที่สุดได้ ผูใช้สามารถ Bookmark เนื้อหาหรือ ้ เว็บไซต์ที่ชื่นชอบได้ รวมทั้งยังแบ่งปันให้กับผู้อื่นได้ด้วย นักการ ตลาดจะใช้ Social Media ชนิดนี้เป็นเครื่องมือในการบอกต่อและ สร้างจ านวนคนเข้ามายังที่เว็บไซต์ ตัวอย่างเว็บไซต์ประเภทนี้ เช่น Del.icio.us, Digg เป็นต้น 2.2.3.6. Online Forums เป็นเว็บไซต์ที่ให้ผู้คนเข้ามา พูดคุยในหัวข้อที่สนใจ เช่น เพลง หนัง การเมือง กีฬา สุขภาพ หนังสือ การลงทุน เป็นต้น โดยมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แสดงข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนถึงการแนะน าสินค้าหรือบริการ ต่างๆ ตัวอย่างเว็บไซต์ประเภทนี้ เช่นforums.sem.or.th เป็นต้น 2.3 เว็ บ บล็ อ ก (WebBlog) 2.3.1 ความหมายของเว็ บ บล็ อ ก (WebBlog) 2.3.1 ความหมายของเว็ บ บล็ อ ก (WebBlog) เว็บบล็อก (Weblog) เป็นคำาที่มาจากคำาว่า เว็บ
  • 5. (Web) กับคำาว่า บล็อก (Blog) รวมกันเรียกว่าเว็บบล็อก ความ หมายของเว็บบล็อกคือ เครื่องมือสือสารที่ใช้งานบนเว็บไซต์มี ่ ลักษณะเหมือนกับ เว็บบอร์ด แต่เน้นการใช้งานไปที่การบันทึก เรื่องราวหรือข้อมูลส่วนตัวเหมือนกับไดอารี่ จะแสดงข้อมูลใน ลักษณะที่เป็นหัวข้อประกอบบทคัดย่อ แต่จะดีกว่าไดอารีที่เขียน ด้วยมือ ก็คือเป็นเว็บที่สามารถเชื่อมโยงไปหาบทความที่เว็บไซด์ อื่น และเปิดรับความเห็นจากผู้อื่นได้ด้วยโดยทั่วๆไปแล้ว คุณสมบัติของบล็อก ก็คือ 1 มีการจัดหัวข้อของเนื้อหา บทความ โดยให้เรื่องใหม่สุดอยู่ด้านบนสุด มักจะจัดกลุ่มเรื่องแบบเดียวกัน ไว้ด้วยกัน 2 มีการเก็บสะสมบทความอย่างเป็นระบบต่อเนื่องกัน 3 ผู้อ่านบทความนั้นๆ สามารถแสดงความเห็นได้ 4 มีลิสต์ของ link ไปเว็บหรือบล็อกที่มีเนื้อหาเกี่ยวเนื่องกัน หรือที่เราเรียกว่า blogro ll เนื้อหาของบล็อก เนื้อหาของบล็อกก็เป็นไปตามประเภทของ บล็อก แต่ไม่ว่าจะเป็นบล็อกแบบไหนก็ตาม ควรจะมีการอัพเดท บ่อยๆ มีอะไรใหม่ๆ ให้คนอยากมาเยี่ยมชม 2.3.2 ประเภทของเว็ บ บล็ อ ก
  • 6. 2.3.2 ประเภทของเว็ บ บล็ อ ก บล็อกมีด้วยกันหลายชนิด แต่ละชนิดมีข้อมูลที่แตกต่างกันไปทั้งผู้ เขียนและผู้เข้าชม โดยบล็อกจะเน้นไปที่เรื่องต่างๆ เช่น learner blogs, political blogs, travel blogs, fashion blogs, project blogs,legal blogs และอื่นๆบล็อกที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบันนี้ ใช่มี เพียงแค่บล็อกที่เป็นตัวหนังสือและรูปภาพเท่านั้น หรือ มีแค่ ออนไลน์ไดอารี่ เราแบ่งบล็อกออกได้ ดังต่อไปนี้ 1. แบ่ ง ตามลั ก ษณะของมี เ ดี ย ที ่ ม ี ใ นบล็ อ กได้ แ ก่ 1.1 Linklog บล็อกแบบเป็นบล็อกรุ่นแรก ๆ ที่รวมลิ๊งก์ที่ เจ้าของบล็อกสนใจเอาไว้ แม้ว่าจะบล็อกแบบนี้จะเป็นการรวมลิ๊งก์ เท่านั้น แต่ก็ไม่เรียงเหมือนว็บไดเร็กทอรี่ เพราะเจ้าของบล็อกจะ โพสต์ลิ๊งก์ของเขา 1 – 2 ลิ๊งก์ต่อโพสต์เท่านั้น 1.2 Photoblog บล็อกประเภทนี้เน้นโพสต์ภาพถ่ายที่ เจ้าของบล็อกอยากนำาเสนอ และมักจะไม่เน้นเขียนข้อความมาก นัก 1.3 Vlog ย่อมาจาก Videoblog เป็นบล็อกที่รวมวิดีโอ คลิปไว้ในบล็อก Vlog เป็นบล็อกที่เรียกได้ว่าเป็นบล็อกที่นิยมทำา กันมากในอนาคต เพราะการเจริญเติบโตของไฮสปีด อินเตอร์เน็ต หรือ อินเตอร์เน็ตบอร์ดแบนด์ ที่ทำาให้การถ่ายทอดเสียง ภาพ เคลื่อนไหว movie 2.แบ่ ง ตามประเภทเนื ้ อ หา ได้ แ ก่ 2.1 บล็ อ กส่ ว นตั ว (Personal Blog) นำาแสนอความคิด เห็น กิจวัตรประจำาวันของเจ้าของบล็อกเป็นหลัก 2.2 บล็ อ กข่ า ว(News Blog) บล็อกที่นำาเสนอข่าวเป็น หลัก
  • 7. 2.3 บล็ อ กกลุ ่ ม (Collaborative Blog) เป็นบล็อกที่ เขียนกันเป็นกลุ่ม เช่น blognone.com 2.4 บล็ อ กการเมื อ ง(Politic Blog) ว่าด้วยเรื่อง การเมืองล้วน ๆ 2.5 บล็ อ กเพื ่ อ สิ ่ ง แวดล้ อ ม(Environment Blog) พูดถึงเรื่องราวของธรรมชาติและการรักษาสิ่งแวดล้อม 2.6 มี เ ดี ย บล็ อ ก(Media Blog) เป็นบล็อกที่วิเคราะห์สื่อ ต่างๆ สารคดีและสิ่งที่เกี่ยวกับสื่อ เช่น oknation.net/blog/black ของสุทธิชัย หยุ่น 2.7 บล็ อ กบั น เทิ ง (Entertainment Blog) บล็อกที่นำา เสนอเรื่องราวบันเทิงทั้งทางจอแก้ว และจอเงิน เรื่องซุบซุดารา กองถ่าย ฯลฯ 2.8 บล็ อ กเพื ่ อ การศึ ก ษา(Educational Blog) ใน โรงเรียน หรือมหาวิทยาลัยในต่างประเทศมักจะใช้บล็อกเป็นสื่อ ในการสอนหรือ แลกเปลี่ยนความคิดกัน 2.9 ติ ว เตอร์ บ ล็ อ ก(Tutorial Blog) เป็นบล็อกที่นำา เสนอวิธีการต่าง 3. แบ่ ง ตามรู ป แบบของเนื ้ อ หาเฉพาะที ่ เ ห็ น เด่ น ชั ด 3.1 Filter Blog เป็นบล็อกที่ผู้จัดทำา จะใช้สำาหรับนำาเสนอ แหล่งข้อมูลที่ตนสนใจ (เว็บเพจหรือเว็บไซต์) โดยปกติมักจะเป็น ข่าว บทความ หรือความคิดเห็นของบุคคลในวงการที่เผยแพร่ใน เว็บไซต์ต่าง ๆ อาจเรียกได้ว่า เป็น บล็อก “Bookmark” หรือ มีชื่อ เฉพาะ ว่า Social Bookmark บล็อกลักษณะนี้ จะนำาเสนอแค่หัวข้อ เรื่อง และ URL ของเว็บเพจหรือเว็บไซต์ บางทีอาจเพิ่มคำาอธิบาย เว็บเพจหรือเว็บไซต์นั้น ๆ ได้ด้วย และบางที่อาจจะสามารถเพิ่ม
  • 8. ความคิดเห็นของผู้จัดทำาบล็อกได้อีกด้วย เป็นเหมือนการกลั่น กรองข้อมูลให้ทราบว่าเว็บเพจหรือเว็บไซต์ใดกำาลังได้รับความ นิยม ซึ่งจะเป็นการช่วยจัดลำาดับความน่าเชื่อถือของเว็บเพจหรือ เว็บไซต์นั้น ๆ ได้เช่นกัน ตัวอย่างบล็อกลักษณะนี้ได้แก่ http://del.icio.us/ เป็นต้น 3.2 Personal Journal Blog เป็นบล็อกที่ผู้จัดทำา จะใช้ สำาหรับนำาเสนอความคิดเห็นหรือประสบการณ์ของตนเองผ่านข้อ เขียน โดยอาจจะมีภาพประกอบ หรือมีการเชื่อมโยงออกไปยัง เว็บไซต์อื่น ๆ เพื่อให้ข้อมูลดูน่าเชื่อถือหรือมีความน่าสนใจมากยิ่ง ขึ้น ซึ่งบล็อกลักษณะนี้ เป็นบล็อกตามความเข้าใจของบุคคลทั่วไป ตัวอย่างบล็อกลักษณะนี้ได้แก่ http://www.exteen.com หรือ http://www.blogger.com เป็นต้น 3.3 Photo Blog เป็นบล็อกที่ใช้สำาหรับเก็บภาพ (ภาพถ่าย, ภาพวาด ฯลฯ) และสามารถใส่รายละเอียดของภาพ ใส่ คำาค้น (tag) ได้ ทำาให้การเก็บภาพเป็นระบบและง่ายต่อการค้นหา มากขึ้น ตัวอย่างบล็อกลักษณะนี้ได้แก่ http://www.flickr.com เป็นต้น 3.4 Video Blog หรือ เรียกว่า Vlog เป็นบล็อกที่ใช้ สำาหรับเก็บวีดิทัศน์ส่วนตัว สามารถใส่รายละเอียดของวีดิทัศน์ ใส่ คำาค้น (tag) ได้ ทำาให้การเก็บวีดิทัศน์เป็นระบบและง่ายต่อการ ค้นหามากขึ้น ตัวอย่างบล็อกลักษณะนี้ได้แก่ http://www.aolvideoblog.com เป็นต้น 3.5 บล็ อ กผสม มีลักษณะเป็นบล็อกที่สามารถเก็บข้อมูล ต่าง ๆ ได้หลายประเภท ทั้งเก็บรูปภาพ เก็บเพลง เก็บวีดิโอ เก็บลิงค์ (link) ต่าง ๆ หรือบันทึกประจำาวัน และใส่ปฏิทินรายการงานที่ต้อง ทำา ฯลฯ ได้ด้วย ปัจจุบันเป็นบริการที่ได้รับความนิยมสูงมาก โดย มีชื่อเฉพาะด้วย เรียกว่า Social Network Service ซึ่งนอกจากจะ
  • 9. มีจุดประสงค์เพื่อให้สมาชิกแลกเปลี่ยนข้อมูลต่าง ๆ กันแล้ว ก็ยังมี จุดประสงค์หลักเพื่อการค้นหาและสะสมเพื่อนจากทั่วโลก ตัวอย่าง Social NetworkingWebsites ซึ่งให้บริการลักษณะนี้ ได้แก่ http://hi5.com หรือ http://multiply.com หรือ http://spaces.live.com เป็นต้น (ซึ่งปัจจุบัน คำาว่า blog ใน Social Networking Websites นั้นจะกลายเป็นแค่ส่วนที่ใช้เขียน ข้อความเช่นบันทึกประจำาวันแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น และยังอาจ ใช้คำาว่า journal แทนคำาว่า blog ด้วย แต่เนื่องจากบริการนี้ เป็นการรวมเอาบล็อกลักษณะต่าง ๆที่เคยมี มาอยู่ในที่เดียว ทำาให้ ผู้ใช้งานได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เพราะเพียงแค่เปิดใช้ บริการที่เดียว ก็ได้ใช้บริการครบถ้วน ไม่ตองเสียเวลาไปสมัครใช้ ้ งานจาก เว็บไซต์หลายที่ให้จดจำายากอีกด้วย) 2.3.3 เว็ บ ไซต์ ท ี ่ ใ ห้ บ ริ ก ารเว็ บ บล็ อ ก www.blogger.com www.exteen.com www.mapandy.com www.buddythai.com www.imigg.com www.5iam.com www.blogprathai.com www.ndesignsblog.com www.idatablog.com www.inewblog.com
  • 10. www.onblogme.com www.freeseoblogs.com www.sumhua.com www.diaryi.net www.istoreblog.com www.skypream.comwww.thailandspace.com www.sungson.com www.gujaba.com www.sabuyblog.com www.ugetblog.com www.jaideespace.com www.maxsiteth.com www.my2blog.com 2.3.4 ประวั ต ิ ข องเว็ บ ไซต์ Blogger ประวัติของบล็อกบล็อก (Blog) คือ คำาว่า “Weblog” ถูกใช้งานเป็นครั้งแรกโดย Jorn Barger ในเดือนธันวาคม ปี 1997 ต่อมามีฝรั่งที่ชอบเรียกสั้นๆ ชื่อนาย Peter Merholz จับมา เรียกย่อเหลือแต่ “Blog” แทนในเดือนเมษายน ปีค.ศ.1999 และ จนมาถึงวันที่ 13 มีนาคม ค.ศ.2003 ทาง Oxford English Dictionary จึงได้บรรจุคำาว่า blog ในพจนานุกรม แสดงว่าได้รับ การยอมรับอย่างเป็นทางการ บล็อก (Blog) ขึนแท่นศัพท์ยอดฮิต ้ อันดับหนึ่ง ซึ่งถูกเสาะแสวงหา ความหมาย ทางพจนานุกรม ออนไลน์ มากที่สุด ประจำาปี 2004 สำานักข่าวเอพีรายงานว่า เว็บไซต์ ดิกชั่นนารีหรือ พจนานุกรมออนไลน์ “เมอร์เรียม-เว็บส เตอร์” ได้ประกาศรายชื่อ คำาศัพท์ซึ่งถูกคลิก เข้าไปค้นหา ความ หมายผ่าน ระบบออนไลน์มากที่สุด 10 อันดับแรกประจำาปีนี้ ซึ่ง อันดับหนึ่งตกเป็นของคำาว่า “บล็อก” (blog) ซึ่งเป็นคำาย่อของ “เว็ บ บล็อก” (web log)โดยนายอาเธอร์ บิคเนล โฆษกสำานักพิมพ์
  • 11. พจนานุกรมฉบับ เมอร์เรียม-เว็บสเตอร์ กล่าวว่า สำานักพิมพ์ได้ เตรียมที่จะนำาคำาว่า “บล็อก” บรรจุลงในพจนานุกรมฉบับล่าสุดทั้ง ที่เป็นเล่มและ ฉบับออนไลน์แล้วแต่จากความต้องการของผู้ใช้ที่ หลั่งไหลเข้ามา ทำาให้เมอร์เรียม-เว็บสเตอร์ตัดสินใจบรรจุคำาว่า “บ ล็อก” ลงในเว็บไซต์ในสังกัดบางแห่งไปก่อน โดยให้คำาจำากัด ความไว้ว่า “เว็บไซต์ที่บรรจุ เรื่องราวเกี่ยวกับบันทึกส่วนตัวประจำา วัน ซึ่งสะท้อนถึงมุมมอง ความคิดเห็นของบุคคล โดยอาจรวมลิงค์ เชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์อื่นๆ ตามความประสงค์ของเจ้าของเว็บ บล็อกเองด้วย” โดยทั่วไป คำาศัพท์ที่ถูกบรรจุลงในพจนานุกรมนั้น จะต้องผ่านการใช้งาน อย่างแพร่หลาย มาไม่น้อยกว่า 20 ปี ซึ่ง หมายความว่าคำาคำานั้นจะต้องถูกนำามาใช้โดยทั่วไปในระยะเวลา หนึ่ง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันคำาศัพท์ ทางเทคโนโลยีรวมไปถึงโรค ภัยไข้เจ็บใหม่ๆ อย่างเช่น โรคเอดส์ โรคไข้หวัดซาร์ส ถูกบรรจุลง ในพจนานุกรมภายในระยะเวลาอันสั้นคำาว่า “บล็อก” เริ่มใช้เป็น ครั้งแรกๆผ่านทางหน้าหนังสือพิมพ์และนิตยสารเมื่อปี 2542 แต่ผู้ รวบรวมพจนานุกรมตั้งข้อสังเกตว่าการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และการประชุมใหญ่ของ พรรคเดโมแครต และพรรครีพับลิกันเพื่อรับรองชื่อ ผู้สมัครเข้าชิงตำาแหน่ง ประธานาธิบดีที่ผ่านมา ทำาให้ประชาชนชาวสหรัฐฯ ผูติดตาม ้ ข่าวสารส่วนใหญ่สนใจ และต้องการทราบความหมายที่แท้จริง ของคำาดังกล่าว โดยเฉพาะเมื่อคำาศัพท์เหล่านั้นปรากฏเป็นข่าว พาดหัวตามหน้าหนังสือพิมพ์ทั่วไปนอกเหนือจากคำาว่า “บล็อก” แล้ว คำาศัพท์ที่ติดอันดับถูกเข้าไปค้นหาความหมายสูงสุด 10 อันดับแรกประจำาปีนี้ได้แก่ “อินคัมเบนท์” (incumbent) ซึ่งหมาย ถึงผู้อยู่ในตำาแหน่ง, “อิเล็กทอรัล” (electoral) หรือคณะผู้เลือกตั้ง ขณะที่บางคำาเป็นคำาศัพท์ที่เกี่ยวเนื่องกับสงครามในอิรัก เช่น “ส ตอร์มส” (stroms) ซึ่งมีความหมายว่ าการโจมตีอย่างรุนแรง, “อิน -เซอร์เจ้นท์” (insurgent) หรือกองกำาลังฝ่ายต่อต้านการปกครอง อิรัก, “เฮอร์ริเคน” (hurri- cane) ซึ่งหมาย ถึงผลกระทบอย่าง
  • 12. รุนแรง, “เพโลตัน” (peloton) ที่แปลว่ากองทหารขนาดเล็ก และซิ คาด้า (cicada) ซึ่งความหมายตามรูปศัพท์ แปลว่าจักจั่น