More Related Content
Similar to แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ (20)
More from teeraratWI (20)
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
- 1. แบบเสนอโครงร่ า งโครงงานคอมพิ ว เตอร์
รายวิ ช า เทคโนโลยี 2 (ง 32102)
กลุ ่ ม สาระการเรี ย นรู ้ การงานอาชี พ และเทคโนโลยี
(คอมพิ ว เตอร์ )
ภาคเรี ย นที ่ 2 ปี ก ารศึ ก ษา 2554
…………………………………………………………………………………
……………………
1. ชื ่ อ โครงงาน การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย
Blogger เรื่องการสื่อสารผ่านใยแก้วนำาแสง
2. ประเภทของโครงงาน
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
โครงงานพัฒนาเครื่องมือ
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
โครงงานประเภทการพัฒนาเกณฑ์
3. ชื ่ อ -สกุ ล ผู ้ เ สนอโครงงาน
1.นางสาวจรินยา อ้วนสะอาด ชั้น ٥/٢ เลขที٢٩
่
٢.นางสาวนิสาชล กลางสอน ชั้น ٥/٢ เลขที٢٧่
٣.นายเมธาวี เอี่ยมอินเจริญ ชั้น ٥/٢ เลขที٢
่
4. ชื ่ อ ครู ท ี ่ ป รึ ก ษาโครงงาน
นางสาวเบญญาสิริ แก้วเบี่ยง ตำาแหน่ง ครู ค.ศ.1
5. ชื ่ อ ครู ท ี ่ ป รึ ก ษาโครงงาน
-
- 2. 6. แนวคิ ด ที ่ ม าและความสำ า คั ญ
ปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศและอินเทอร์เน็ตได้เข้า
มามีบทบาทต่อการดำาเนิน
ชีวิตของเรามากขึ้น ซึ่งเราอาจไม่รู้สึกตัวว่าอินเทอร์เน็ตกลายเป็น
ปัจจัยที่สำาคัญต่อการดำารงชีวิตในยุคติดต่อข่าวสารมีความสำาคัญ
คนหันมาติดต่อทางโทรศัพท์กันมากขึ้น นอกจากเทคโนโลยีการ
สื่อสารเปรียบเสมือนกับกิริยาที่ประจบประแจงเอาอกเอาใจกัน ใน
หมู่ของลิงกอริลลา และมันช่วยให้คนเราได้ซุบซิบนินทากันอย่าง
สนุกสนาน นักวิชาการของศูนย์วิจัยปัญหาสังคม ทีออกซ์ฟอร์ด่
ประเทศอังกฤษ กล่าวแสดงความเห็นว่า การพูดคุยกันทาง
โทรศัพท์มือถือของคนเรา ก็เป็นเหมือน กับการปรนนิบัติต่อกัน ใน
หมู่ฝูงลิงกอริลลาและชิมแปนซี เป็นการช่วยกระชับความสัมพันธ์
ให้ แนบแน่น แก้ไขความขัดแย้ง และสอนให้รู้จักการเข้าสังคม
และคบหากันเป็นเพื่อน
ในยุคที่มีการติดต่อสื่อสารผ่านทางเทคโนโลยี
กำาลังเป็นที่นิยมและมีผลกระทบในทุก ๆ ด้าน ในปัจจุบัน ทำาให้ทุก
คน ทุกสังคมต้องมีการปรับตัว และพัฒนาให้ทันต่อการ
เปลี่ยนแปลงในโลกของการสื่อสาร ด้วยการแปลงข้อมูลข่าวสารที่
มีอยู่รอบตัวเราให้อยู่ในรูปของดิจิตอล (Digital) เช่น หนังสือพิมพ์
นิตยสาร หรือการโฆษณาตามหน้าเว็บไซต์ โดยผู้ใช่สามารถอ่าน
ได้ แต่ไม่สามารถเข้าร่วมในการสร้างข้อมูลได้
ปัจจุบันเทคโนโลยีการสื่อสารผ่านใยแก้วนำาแสง การ
สื่อสารผ่านใยแก้วนำาแสงเ
ป็นระบบการสื่อสารที่ใช้แบบผสมกับข้อมูลที่ต้องการส่งในรูปแบบ
ดิจิตอล แล้วจึงส่งผ่านตัวกลางคือใยแก้วเส้นผ่านศูนย์กลาง٢٥٠
ไมครอนส่งผ่านไปยังตัวรับคือโฟโตดีเทคเตอร์เพื่อแปลผลค่า
สัญญาณจากแสงเป็นสัญญาณไฟฟ้าและใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์
แปลผลเป็นข้อมูลอีกครั้งหนึ่ง
ดังนั้น ผู้จดทำาจึงได้มีความคิดที่จะนำาเสนอเอารูปแบบ
ั
ของเว็บไซต์ Blogger มาใช้ในการเผยแพร่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ
เรื่องการสื่อสารผ่านใยแก้วนำาแสง เพื่อศึกษา เผยแพร่ความรู้ดัง
กล่าวสู่ผู้สนใจต่อไป
7. วั ต ถุ ป ระสงค์
٧.1 เพื่อศึกษาและพัฒนาเว็บบล็อก ด้วย Blogger เรื่องการ
สื่อสารผ่านใยแก้วนำาแสง
- 3. 7.2 เพื่อศึกษาค้นคว้าเรื่องที่สนใจเกี่ยวกับ เรื่องการสื่อสาร
ผ่านใยแก้วนำาแสง
7.3 เพื่อให้ผู้เรียนสามารถพัฒนารูปแบบของเว็บบล็อก
ด้วย Blogger เพื่อนำามาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับการเรียนรู้ของ
ตนเองมากกว่ายิ่งขึ้น
7.4 เพื่อให้สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ระหว่างครู เพื่อนและ
ผู้สนใจทั่ว ๆไป
8. หลั ก การและทฤษฎี
8.1 ความหมายของเว็ บ บล็ อ ก
เว็บบล็อก (Weblog) เป็นคำาที่มาจากคำาว่า
เว็บ (Web) กับคำาว่า
บล็อก (Blog) รวมกันเรียกว่าเว็บบล็อก ความหมายของเว็บ
บล็อกคือ เครื่องมือสื่อสารที่ใช้งานบนเว็บไซต์มีลักษณะเหมือน
กับ เว็บบอร์ด แต่เน้นการใช้งานไปที่การบันทึกเรื่องราวหรือ
ข้อมูลส่วนตัวเหมือนกับไดอารี่ จะแสดงข้อมูลในลักษณะที่เป็น
หัวข้อประกอบบทคัดย่อ แต่จะดีกว่าไดอารีที่เขียนด้วยมือ ก็คือเป็น
เว็บที่สามารถเชื่อมโยงไปหาบทความที่เว็บไซด์อื่น และเปิดรับ
ความเห็นจากผู้อื่นได้ด้วยโดยทั่วๆไปแล้ว คุณสมบัติของบล็อก ก็
คือ 1 มีการจัดหัวข้อของเนื้อหา บทความ โดยให้เรื่องใหม่สุดอยู่
ด้านบนสุด มักจะจัดกลุ่มเรื่องแบบเดียวกันไว้ด้วยกัน 2 มีการเก็บ
สะสมบทความอย่างเป็นระบบต่อเนื่องกัน 3 ผูอ่านบทความนั้นๆ
้
สามารถแสดงความเห็นได้ 4 มีลิสต์ของ link ไปเว็บหรือบล็อกที่มี
เนื้อหาเกี่ยวเนื่องกัน หรือที่เราเรียกว่า blogroll เนื้อหาของบล็อก
เนื้อหาของบล็อกก็เป็นไปตามประเภทของบล็อก แต่ไม่ว่าจะเป็น
บล็อกแบบไหนก็ตาม ควรจะมีการอัพเดทบ่อยๆ มีอะไรใหม่ๆ ให้
คนอยากมาเยี่ยมชม
8.2 ประเภทของเว็ บ บล็ อ ก
บล็อกมีด้วยกันหลายชนิด แต่ละชนิดมีข้อมูลที่แตกต่าง
กันไปทั้งผู้เขียนและ
ผู้เข้าชม โดยบล็อกจะเน้นไปที่เรื่องต่างๆ เช่น learner blogs,
political blogs, travel blogs, fashion blogs, project
blogs,legal blogs และอื่นๆบล็อกที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบันนี้ ใช่มี
- 4. เพียงแค่บล็อกที่เป็นตัวหนังสือและรูปภาพเท่านั้น หรือ มีแค่
ออนไลน์ไดอารี่ เราแบ่งบล็อกออกได้ ดังต่อไปนี้
1. แบ่ ง ตามลั ก ษณะของมี เ ดี ย ที ่ ม ี ใ น
บล็ อ กได้แก่
1.1 Linklog บล็อกแบบเป็นบล็อกรุ่นแรกๆ ที่รวมลิ๊
งก์ที่เจ้าของบล็อกสนใจ
เอาไว้ แม้ว่าจะบล็อกแบบนี้จะเป็นการรวมลิ๊งก์เท่านั้น แต่ก็ไม่เรียง
เหมือนว็บไดเร็กทอรี่
เพราะเจ้าของบล็อกจะโพสต์ลิ๊งก์ของเขา 1 – 2 ลิ๊งก์ต่อโพสต์
เท่านั้น
1.2 Photoblog บล็อกประเภทนี้เน้นโพสต์
ภาพถ่ายที่เจ้าของบล็อกนำาเสนอ
และมักจะไม่เน้นเขียนข้อความมากนัก
1.3 Vlog ย่อมาจาก Videoblog เป็นบล็อกที่รวม
วิดีโอคลิปไว้ในบล็อก Vlog
เป็นบล็อกที่เรียกได้ว่าเป็นบล็อกที่นิยมทำากันมากในอนาคต เพราะ
การเจริญเติบโตของไฮสปีด อินเตอร์เน็ต หรือ อินเตอร์เน็ตบอร์ด
แบนด์ ที่ทำาให้การถ่ายทอดเสียง ภาพเคลื่อนไหว movie
2. แบ่ ง ตามประเภทเนื ้ อ หา ได้แก่
2.1 บล็ อ กส่ ว นตั ว (Personal Blog) นำาแสนอ
ความคิดเห็น กิจวัตรประจำาวันของ
เจ้าของบล็อกเป็นหลัก
2.2 บล็ อ กข่ า ว (News Blog) บล็อกที่นำาเสนอข่าว
เป็นหลัก
2.3 บล็ อ กกลุ ่ ม (Collaborative Blog) เป็นบล็อกที่
เขียนกันเป็นกลุ่ม เช่น
blognone.com
2.4 บล็ อ กการเมื อ ง (Politic Blog) ว่าด้วยเรื่อง
การเมืองล้วน ๆ
2.5 บล็ อ กเพื ่ อ สิ ่ ง แวดล้ อ ม (Environment Blog)
พูดถึงเรื่องราวของธรรมชาติและ
การรักษาสิ่งแวดล้อม
- 5. 2.6 มี เ ดี ย บล็ อ ก (Media Blog) เป็นบล็อกที่
วิเคราะห์สื่อต่างๆ สารคดีและสิ่งที่
เกี่ยวกับสื่อ เช่น oknation.net/blog/black ของสุทธิชัย หยุ่น
2.7 บล็ อ กบั น เทิ ง (Entertainment Blog) บล็อกที่
นำาเสนอเรื่องราวบันเทิงทั้งทาง
จอแก้ว และจอเงิน เรื่องซุบซุดารา กองถ่าย ฯลฯ
2.8 บล็ อ กเพื ่ อ การศึ ก ษา (Educational Blog)
ในโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัยใน
ต่างประเทศมักจะใช้บล็อกเป็นสื่อในการสอนหรือ แลกเปลี่ยน
ความคิดกัน
2.9 ติ ว เตอร์ บ ล็ อ ก (Tutorial Blog) เป็นบล็อกที่
นำาเสนอวิธีการต่าง
3. แบ่ ง ตามรู ป แบบของเนื ้ อ หาเฉพาะที ่ เ ห็ น
เด่ น ชั ด
3.1 Filter Blog เป็นบล็อกที่ผู้จัดทำา จะใช้สำาหรับ
นำาเสนอแหล่งข้อมูลที่ตน
สนใจ (เว็บเพจหรือเว็บไซต์) โดยปกติมักจะเป็นข่าว บทความ
หรือความคิดเห็นของบุคคลในวงการที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ต่าง ๆ
อาจเรียกได้ว่า เป็น บล็อก “Bookmark” หรือ มีชื่อเฉพาะ ว่า
Social Bookmark บล็อกลักษณะนี้ จะนำาเสนอแค่หัวข้อเรื่อง และ
URL ของเว็บเพจหรือเว็บไซต์ บางทีอาจเพิ่มคำาอธิบายเว็บเพจ
หรือเว็บไซต์นั้น ๆ ได้ด้วย และบางที่อาจจะสามารถเพิ่มความคิด
เห็นของผู้จัดทำาบล็อกได้อีกด้วย เป็นเหมือนการกลั่นกรองข้อมูล
ให้ทราบว่าเว็บเพจหรือเว็บไซต์ใดกำาลังได้รับความนิยม ซึ่งจะ
เป็นการช่วยจัดลำาดับความน่าเชื่อถือของเว็บเพจหรือเว็บไซต์นั้น
ๆ ได้เช่นกัน ตัวอย่างบล็อกลักษณะนี้ได้แก่ http://del.icio.us/
เป็นต้น
3.2 Personal Journal Blog เป็นบล็อกที่ผู้จัดทำา
จะใช้สำาหรับนำาเสนอความ
คิดเห็นหรือประสบการณ์ของตนเองผ่านข้อเขียน โดยอาจจะมี
ภาพประกอบ หรือมีการเชื่อมโยงออกไปยังเว็บไซต์อื่น ๆ เพื่อให้
ข้อมูลดูน่าเชื่อถือหรือมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งบล็อกลักษณะ
นี้ เป็นบล็อกตามความเข้าใจของบุคคลทั่วไป ตัวอย่างบล็อก
ลักษณะนี้ได้แก่ http://www.exteen.com หรือ
http://www.blogger.com เป็นต้น
- 6. 3.3 Photo Blog เป็นบล็อกที่ใช้สำาหรับเก็บภาพ
(ภาพถ่าย, ภาพวาด ฯลฯ) และ
สามารถใส่รายละเอียดของภาพ ใส่คำาค้น (tag) ได้ ทำาให้การเก็บ
ภาพเป็นระบบและง่ายต่อการค้นหามากขึ้น ตัวอย่างบล็อกลักษณะ
นี้ได้แก่ http://www.flickr.com เป็นต้น
3.4 Video Blog หรือ เรียกว่า Vlog เป็นบล็อกที่
ใช้สำาหรับเก็บวีดิทัศน์ส่วนตัว
สามารถใส่รายละเอียดของวีดิทศน์ ใส่คำาค้น (tag) ได้ ทำาให้การ
ั
เก็บวีดิทัศน์เป็นระบบและง่ายต่อการค้นหามากขึ้น ตัวอย่างบล็อก
ลักษณะนี้ได้แก่ http://www.aolvideoblog.com เป็นต้น
3.5 บล็ อ กผสม มีลักษณะเป็นบล็อกที่สามารถเก็บ
ข้อมูลต่าง ๆ ได้หลายประเภท
ทั้งเก็บรูปภาพ เก็บเพลง เก็บวีดิโอ เก็บลิงค์ (link) ต่าง ๆ หรือ
บันทึกประจำาวัน และใส่ปฏิทินรายการงานที่ต้องทำา ฯลฯ ได้ด้วย
ปัจจุบันเป็นบริการที่ได้รับความนิยมสูงมาก โดยมีชื่อเฉพาะด้วย
เรียกว่า Social Network Service ซึ่งนอกจากจะมีจุดประสงค์เพื่อ
ให้สมาชิกแลกเปลี่ยนข้อมูลต่าง ๆ กันแล้ว ก็ยังมีจุดประสงค์หลัก
เพื่อการค้นหาและสะสมเพื่อนจากทั่วโลก ตัวอย่าง Social
NetworkingWebsites ซึ่งให้บริการลักษณะนี้ ได้แก่
http://hi5.com หรือ http://multiply.com
หรือ http://spaces.live.com เป็นต้น (ซึ่งปัจจุบัน คำาว่า blog ใน
Social Networking Websites นั้นจะกลายเป็นแค่ส่วนที่ใช้เขียน
ข้อความเช่นบันทึกประจำาวันแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น และยัง
อาจใช้คำาว่า journal แทนคำาว่า blog ด้วย แต่เนื่องจากบริการนี้
เป็นการรวมเอาบล็อกลักษณะต่าง ๆที่เคยมี มาอยู่ในที่เดียว ทำาให้
ผู้ใช้งานได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เพราะเพียงแค่เปิดใช้
บริการที่เดียว ก็ได้ใช้บริการครบถ้วน ไม่ต้องเสียเวลาไปสมัครใช้
งานจาก เว็บไซต์หลายที่ให้จดจำายากอีกด้วย)
8.3 ประโยชน์ ข อง Web blog
Blog มีไว้เพื่อตอบสนองตัณหาของเจ้าของ blog ถึง
แม้ว่า blog จะมีลักษณะ
หน้าตาคล้ายกัน แต่ blog แต่ละแห่งจะมีบุคลิกเฉพาะตัว แตกต่าง
กันไปเหมือนบุคลิก บาง blog แค่เล่าเรื่องชีวิตประจำาวัน บาง bl
- 7. og เกาะติดข่าว บาง blog คุยเรื่องการเมืองหรือปรัชญา จงนั้นอาจ
แบ่งประโยชน์ได้หลายแบบด้วยกัน ซึ่งอาจจะแจกแจงได้ดัง นี้
1. เปิ ด ตั ว เองให้ โ ลกรู ้ เรื่องของ blog มักเป็นเรื่อง
ราวของเจ้าของ blog เป็นการเล่า ประสบการณ์หรือความคิดของ
เจ้าของ เป็นการถ่ายทอดความคิดความรู้สึกของเจ้าของ blog
เป็นการระบายความเคลียดอีกทางหนึ่ง
2. ทั น ข่ า วทั น เหตุ ก ารณ์ ประสบการณ์บางคนก็
เป็นข่าวเห็นอีกหลายคนได้ ข่าว
จาก blog หลายแห่งเป็นข่าววงใน บางคนเล่าเหตุการณ์หรือ
อุบัติเหตุที่เจอมา หลาย blog พูดถึงแนวโน้มหรือความ
เปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ
3. กลั ่ น กรองข้ อ มู ล blog บาง blog จะมีการก
ลั่นกรองข้อมูลก่อนนำาลง blog ทำา
ให้ผู้อ่าน blog ไม่ต้องเสียเวลาในการกลั่นกรองข้อมูล เพราะมี
การนำาเสนอข้อมูลหรือมีไกด์ในการท่องเว็บ
4. รายงานการท่ อ งเว็ บ เป็นวัตถุประสงค์หลักที่
เป็นต้นกำาเนิดของการทำา blog
หลาย blog มีการลิงก์ไปยังเว็บที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาใน blog ซึ่ง
เป็นการแนะนำาว่าเว็บไหนดีก็ไปที่เว็บนั้น
5. การแสดงความคิ ด เห็ น ไม่ว่าจะเป็นความในใจ
ของเรื่องต่างๆ ความคิดเชิง
สร้างสรรค์ หรือการบ่นที่ทุกคนมีอยู่ในใจ การทำา blog เป็นช่อง
ทางถ่ายทอดความคิดเห็นให้คนอื่นรับรู้
6. ถ่ า ยทอดประสบการณ์ หรื อ ไดอะรี ่ อ อนไลน์
เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวในชีวิตประจำาวัน หรือเป็นการเล่าเรื่อง
การเดินทางท่องเที่ยว เช่น www.terrystrek.com
7. โน้ ม น้ า วใจผู ้ อ ่ า น ลักษณะนี้เป็นการ
โฆษณาชวนเชื่อ แต่กรณีแบบนี้เป็นการ
ขายความคิด อย่าง blog สำาหรับคอการเมืองอาจจะมีฝ่ายซ้าย -
ฝ่ายขวา,สายเหยี่ยว - สายพิราบ จะพบว่าเนื้อหาจะเป็นการโพสต์
โจมตีฝ่ายตรงข้าม แล้วก็สนับสนุนแนวความคิดของตนเอง
8.4 เว็ บ ไซต์ ท ี ่ ใ ห้ บ ริ ก ารเว็ บ ล็ อ ก
- 8. ขอนำา รายชื่ อผู้ ให้ บ ริ ก าร
เขี ย น blog ฟรี เพื่ อผู้ ที่ สนใจ
อยากจะทำา blog เองแต่ ยั ง ไม่
อยากจะลงทุ น ค่ ะ
www.blogger.com www.exteen.com
www.mapandy.com www.buddythai.com
www.imigg.com www.5iam.com
www.blogprathai.com
www.ndesignsblog.com www.idatablog.com
www.inewblog.com
www.onblogme.com
www.freeseoblogs.com www.sumhua.com
www.diaryi.net
www.istoreblog.com www.skypream.com
www.thailandspace.com www.sungson.com
www.gujaba.com www.sabuyblog.com
www.ugetblog.com www.jaideespace.com
www.maxsiteth.com www.my2blog.com
9. ขอบเขตของโครงงาน
1. จั ด ทำ า โครงงานคอมพิ ว เตอร์ การพัฒนาเว็บ
บล็อก (WebBlog) ด้วย Blogger
เรื่อง การสื่อสารผ่านใยแก้วนำาแสง
- 9. 2. วั ส ดุ อุ ป กรณ์ เครื ่ อ งมื อ หรื อ โปรแกรมหรื อ
ที ่ ใ ช้ ใ นการพั ฒ นา ได้แก่
2.1 เครื่องคอมพิเตอร์ พร้อมเชื่อมต่อ
อินเทอร์เน็ต
2.2 เว็บไซต์ที่ให้บริการเว็บบล็อก คือ
www.Blogger.com
2.3 เว็บไซต์ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร เช่น
www.fagebook.com
www.gmail.com www.google.com
2.4 โปรแกรมตัดต่อและตกแต่งรูปภาพ เช่น
Adobe Photoshop CS3 และ
PhotoScape 2.0
10. ขั ้ น ตอนและแผนการดำ า เนิ น งาน
- 10. ระยะเวลาดำาเนินงาน
เดือน
เดือนธันวาคม
ที่ ขั้นตอนการดำาเนินงาน พฤศจิกายน
สัปดาห์ที่ สัปดาห์ที่
1 2 3 4 1 2
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3 จัดทำาโครงร่างเพื่อนำาเสนอ
4 ปฎิบัติการจัดทำาโครงงาน
นำาเสนอรายงานความ
5 ก้าวหน้าของโครงงานครั้ง
ที่ 1
นำาเสนอรายงานความ
6 ก้าวหน้าของโครงงานครั้ง
ที่ 2
7 ปรับปรุง ทดสอบ
จัดทำาเอกสารรายงานโครง
8
งาน
9 ประเมินผล
นำาเสนอโครงงานผ่านเว็บ
9
บล็อก (WebBlog)
11. สถานที ่ ด ำ า เนิ น งาน
ห้องเรียนคอมพิวเตอร์ ICT โรงเรียนดงขุยวิทยาคม
อำาเภอชนแดน
จังหวัดเพชรบูรณ์
12. ผลที ่ ค าดว่ า จะได้ ร ั บ
١٢.١ ได้รับความรู้เกี่ยวกับพัฒนาเว็บบล็อก
(webblog) ด้วย Blogger เรื่อง การสื่อสารผ่านใยแก้วนำาแสง
12.2 ได้รับความรู้เกี่ยวกับเรื่องที่นำามาเป็นบทเรียน
ในการสร้างเว็บบล็อก
- 11. คือ เรื่อง การสื่อสารผ่านใยแก้วนำาแสง
12.3 ผู้เรียนสามารถพัฒนารูปแบบของ
เว็บบล็อกจาก Blogger ได้ด้วยตนเอง และนำามาประยุกต์ใช้ให้
เข้ากับการเรียนรู้ของตนเองมากยิ่งขึ้น
١٢.٤ สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ระหว่าง
ครู เพื่อนและผู้สนใจทั่วไป เพื่อสร้างเป็นเครือข่ายการเรียนรู้ผ่าน
เว็บบล็อกได้
١٢.٥ ได้นำาเอาเทคโนโลยีสารสนเทศยุค
ใหม่มาใช้อย่างมีคุณค่า และสร้างสรรค์
13. เอกสารอ้ า งอิ ง
krutangict.blogspot.com
ลงชื่อ………………………….
(นางสาวจรินยา อ้วนสะอาด)
ผู้เสนอโครงงาน
ลงชื่อ…………………………..
(นางสาวเบญญาสิริ แก้วเบี่ยง)
ครูที่ปรึกษาโครงงาน