More Related Content
Similar to โครงงาน Hi5 ม.5.2
Similar to โครงงาน Hi5 ม.5.2 (20)
โครงงาน Hi5 ม.5.2
- 1. แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รายวิชา เทคโนโลยี2(ง 32102)
กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี (คอมพิวเตอร์)
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554
…………………………………………………………………………………
……………………
1.ชื ่ อ โครงงาน การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย
Blogger เรื่อง hi5
2.ประเภทของโครงงาน
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
โครงงานพัฒนาเครื่องมือ
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
โครงงานประเภทการพัฒนาเกณฑ์
3. ชื ่ อ -สกุ ล ผู ้ เ สนอโครงงาน
นางสาวจุฑาพร ศรีประสงค์ ชั้น ม.5/2 เลขที่ 9
4. ชื ่ อ ครู ท ี ่ ป รึ ก ษาโครงงาน
นางสาวเบญญาสิริ แก้วเบี่ยง ตำาแหน่ง ครู ค.ศ.1
5. ชื ่ อ ครู ท ี ่ ป รึ ก ษาโครงงาน
-
6. แนวคิ ด ที ่ ม าและความสำ า คั ญ
ลามู ยาละมันชัย นักศึกษาปริญญาตรีชาวอเมริกัน ได้
ร่วมกับเพื่อนๆ ในมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ที่เรียนปริญญาตรีทาง
ด้าน Computer Science อยู่ ก่อตั้ง SponsorNet New Media
ธุรกิจตัวแทนโฆษณาบนอินเทอร์เน็ต ในปี 2004 โดยยาละมันชัย
ได้เห็นว่าระบบการโฆษณาผ่านแบนเนอร์แบบเก่าๆ ที่อาจไม่ตรง
กลุ่มเป้าหมาย และพฤติกรรมการสร้างอัลบั้มรูปแล้วพูดคุยกัน การ
- 2. เกิดกลุ่มเพื่อนที่คอยอัพเดตข่าวแต่ละคนทางอินเทอร์เน็ต จึงได้
เกิดเป็นเว็บไซต์ไฮไฟฟ์
ไฮไฟฟ์ มีภาษาต่างๆ ถึง 9 ภาษา เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับความ
นิยมสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย ตามมาด้วย กูเกิล และ
วินโดวส์ไลฟ์ (ข้อมูลเดือน กุมภาพันธ์ 2550) และติดอันดับ 1 ใน
10 ในอีกกว่า 30 ประเทศ ไฮไฟฟ์กลุ่มของผู้ที่ใช้ภาษาสเปน เป็น
หลักโดยเฉพาะในทวีปอเมริกาใต้ กลุ่มประเทศที่นิยมการใช้ไฮไฟ
ฟ์ คือ สาธารณรัฐโดมินิกัน คอสตาริกา เอลซัลวาดอร์ เอกวาดอร์
ฮอนดูรัส รองลงมาคือ กัวเตมาลา เปรู ขณะเดียวกันรวมถึงประเทศ
อื่นที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ เช่น โปรตุเกส โรมาเนีย และประเทศไทย
ที่ปัจจุบันมีตัวเลขผู้เล่นไฮไฟฟ์ประมาณ 1 ล้านราย และมีผู้ลง
ทะเบียนใหม่เพิ่มมากกว่าวันละ 8 พันราย โดยผู้ที่ใช้ไฮไฟฟ์จาก
ประเทศไทยอยู่ที่อันดับ 12
ไฮไฟฟ์ เป็นเว็บไซต์ประเภท Social Network หรืออาจเรียกใน
ภาษาไทยว่า “เครือข่ายสังคม” หรือ “เครือข่ายมิตรภาพ” หรือ “
กลุ่มสังคมออนไลน์” คือบริการผ่านเว็บไซต์ที่เป็นจุดโยงระหว่าง
บุคคลแต่ละคนที่มีเครือข่ายสังคมของตัวเองผ่านเน็ตเวิร์ค
อินเทอร์เน็ต รวมทั้งเชื่อมโยงบริการต่างๆ อย่าง เมล์ เมสเซ็นเจอร์
เว็บบอร์ด บล็อก ฯลฯ เข้าด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีก็กลุ่มย่อยตาม
ความสนใจร่วมกัน เช่น กลุ่มคนขี่จักรยานเสือภูเขา กลุ่มแฟนคลับ
เดธโน้ต เป็นต้น โดยคนที่ลงทะเบียนสมัครจะกรอกข้อมูลส่วนตัว
รูปภาพ อัลบั้มรูป โดยเชื่อมเครือข่ายสังคมและเครือข่ายมิตรภาพ
เข้าด้วยกัน ด้วยการแชร์รูป แชร์ไฟล์ดูกัน[3]
นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันเสริมอื่นๆ เช่น การฝังวิดีโอคลิป
ฝังจอเล่นเพลง ฝังจอพิเศษที่นำารูปทั้งหมดของเรามาเล่นเรียงแบบ
ฉายสไลด์ ซึ่งอุปกรณ์เสริมเหล่านี้เรียกว่า วิดเจ็ต (Widget) และ
ยังเป็นฐานเปิดกว้างให้บริการอื่นๆ ร่วมด้วยอย่าง เว็บรับฝากคลิป
วิดีโอ ยูทูบ หรือ หรือเว็บรับฝากเพลง iMeem นอกจากนี้ยังมีจอ
- 3. พิเศษที่จะฉายอัลบั้มรูปเราแบบสไลด์ของ slide.com และมีเกม
สั้นๆ ง่ายๆ สไตล์ Flash Game อีกชิ้นส่วนสำาคัญคือหน้าจอ หรือที่
เรียกว่า สกิน เป็นพื้นหลังแบ็กกราวนด์ ที่สามารถเลือกลวดลาย
และรูป ที่สามารถดาวน์โหลดได้ตามเว็บ และอีกลูกเล่นคือ กลิต
เตอร์ (Glitter) การ์ตูนขยับหรือภาพ “ดุกดิ๊ก” ที่ผู้ใช้สามารถคัด
๊
ลอกโค้ดไปแปะในหน้าของตัวเองและส่งให้เพื่อนๆ กันอย่างแพร่
หลาย
ดังนั้น ผู้จัดทำาจึงได้มีความคิดที่จะนำาเสนอเอารูปแบบ
ของเว็บไซต์ Blogger มาใช้ในการเผยแพร่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ
เรื่อง Mpeg4 เพื่อศึกษา เผยแพร่ความรู้ดังกล่าวสู่ผู้สนใจต่อไป
7. วั ต ถุ ป ระสงค์
7.1 เพื่อศึกษาและพัฒนาเว็บบล็อก ด้วย Blogger
เรื่อง hi5
7.2 เพื่อศึกษาค้นคว้าเรื่องที่สนใจเกี่ยวกับ เรื่อง
hi5
7.3 เพื่อให้ผู้เรียนสามารถพัฒนารูปแบบของเว็บบล็อก
ด้วย Blogger เพื่อนำามาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับการเรียนรู้ของ
ตนเองมากกว่ายิ่งขึ้น
7.4 เพื่อให้สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ระหว่างครู
เพื่อนและผู้สนใจทั่ว ๆไป
8. หลั ก การและทฤษฎี
8.1 ความหมายของเว็ บ บล็ อ ก
เว็บบล็อก (Weblog) เป็นคำาที่มาจากคำาว่า เว็บ (Web) กับคำาว่า
บล็อก (Blog) รวมกันเรียกว่าเว็บบล็อก ความหมายของเว็บบล็อก
คือ เครื่องมือสื่อสารที่ใช้งานบนเว็บไซต์มีลักษณะเหมือนกับ เว็บ
บอร์ด แต่เน้นการใช้งานไปที่การบันทึกเรื่องราวหรือข้อมูลส่วน
- 4. ตัวเหมือนกับไดอารี่ จะแสดงข้อมูลในลักษณะที่เป็นหัวข้อประกอบ
บทคัดย่อ แต่จะดีกว่าไดอารีที่เขียนด้วยมือ ก็คือเป็นเว็บที่สามารถ
เชื่อมโยงไปหาบทความที่เว็บไซด์อื่น และเปิดรับความเห็นจากผู้
อื่นได้ด้วยโดยทั่วๆไปแล้ว คุณสมบัตของบล็อก ก็คือ 1 มีการจัด
ิ
หัวข้อของเนื้อหา บทความ โดยให้เรื่องใหม่สุดอยู่ด้านบนสุด มัก
จะจัดกลุ่มเรื่องแบบเดียวกันไว้ด้วยกัน 2 มีการเก็บสะสมบทความ
อย่างเป็นระบบต่อเนื่องกัน 3 ผูอ่านบทความนั้นๆ สามารถแสดง
้
ความเห็นได้ 4 มีลิสต์ของ link ไปเว็บหรือบล็อกที่มีเนื้อหาเกี่ยว
เนื่องกัน หรือที่เราเรียกว่า blogroll เนื้อหาของบล็อก เนื้อหาของ
บล็อกก็เป็นไปตามประเภทของบล็อก แต่ไม่ว่าจะเป็นบล็อกแบบ
ไหนก็ตาม ควรจะมีการอัพเดทบ่อยๆ มีอะไรใหม่ๆ ให้คนอยากมา
เยี่ยมชม
8.2 ประเภทของเว็ บ บล็ อ ก
บล็อกมีด้วยกันหลายชนิด แต่ละชนิดมีข้อมูลที่แตกต่างกันไปทั้งผู้
เขียนและ
ผู้เข้าชม โดยบล็อกจะเน้นไปที่เรื่องต่างๆ เช่น learner blogs,
political blogs, travel blogs, fashion blogs, project
blogs,legal blogs และอื่นๆบล็อกที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบันนี้ ใช่มี
เพียงแค่บล็อกที่เป็นตัวหนังสือและรูปภาพเท่านั้น หรือ มีแค่
ออนไลน์ไดอารี่ เราแบ่งบล็อกออกได้ ดังต่อไปนี้
1. แบ่ ง ตามลั ก ษณะของมี เ ดี ย ที ่ ม ี ใ น
บล็ อ กได้แก่
1.1. Linklog บล็อกแบบเป็นบล็อกรุ่นแรก ๆ ที่รวมลิ๊งก์ที่
เจ้าของบล็อกสนใจ
เอาไว้ แม้ว่าจะบล็อกแบบนี้จะเป็นการรวมลิ๊งก์เท่านั้น แต่ก็ไม่เรียง
เหมือนว็บไดเร็กทอรี่
เพราะเจ้าของบล็อกจะโพสต์ลิ๊งก์ของเขา 1 – 2 ลิ๊งก์ต่อโพสต์
เท่านั้น
1.2 Photoblog บล็อกประเภทนี้เน้นโพสต์ภาพถ่ายที่
เจ้าของบล็อกอยากนำาเสนอ และมักจะไม่เน้นเขียนข้อความมาก
นัก
1.3. Vlog ย่อมาจาก Videoblog เป็นบล็อกที่รวมวิดีโอ
คลิปไว้ในบล็อก Vlog เป็นบล็อกที่เรียกได้ว่าเป็นบล็อกที่นิยมทำา
- 5. กันมากในอนาคต เพราะการเจริญเติบโตของไฮสปีด อินเตอร์เน็ต
หรือ อินเตอร์เน็ตบอร์ดแบนด์ ที่ทำาให้การถ่ายทอดเสียง ภาพ
เคลื่อนไหว movie
2. แบ่ ง ตามประเภทเนื ้ อ หา ได้แก่
2.1 บล็ อ กส่ ว นตั ว (Personal Blog) นำาแสนอความคิด
เห็น กิจวัตรประจำาวันของเจ้าของบล็อกเป็นหลัก
2.2 บล็ อ กข่ า ว (News Blog) บล็อกที่นำาเสนอข่าวเป็น
หลัก
2.3 บล็ อ กกลุ ่ ม (Collaborative Blog) เป็นบล็อกที่เขียน
กันเป็นกลุ่ม เช่น blognone.com
2.4 บล็ อ กการเมื อ ง (Politic Blog) ว่าด้วยเรื่องการเมือง
ล้วน ๆ
2.5 บล็ อ กเพื ่ อ สิ ่ ง แวดล้ อ ม (Environment Blog) พูด
ถึงเรื่องราวของธรรมชาติและการรักษาสิ่งแวดล้อม
2.6 มี เ ดี ย บล็ อ ก (Media Blog) เป็นบล็อกที่วิเคราะห์สื่อ
ต่างๆ สารคดีและสิ่งที่เกี่ยวกับสื่อ เช่น oknation.net/blog/black
ของสุทธิชัย หยุ่น
2.7 บล็ อ กบั น เทิ ง (Entertainment Blog) บล็อกที่นำา
เสนอเรื่องราวบันเทิงทั้งทางจอแก้ว และจอเงิน เรื่องซุบซุดารา
กองถ่าย ฯลฯ
2.8 บล็ อ กเพื ่ อ การศึ ก ษา (Educational Blog) ใน
โรงเรียน หรือมหาวิทยาลัยในต่างประเทศมักจะใช้บล็อกเป็นสื่อ
ในการสอนหรือ แลกเปลี่ยนความคิดกัน
2.9 ติ ว เตอร์ บ ล็ อ ก (Tutorial Blog) เป็นบล็อกที่นำา
เสนอวิธีการต่าง
3. แบ่ ง ตามรู ป แบบของเนื ้ อ หาเฉพาะที ่
เห็ น เด่ น ชั ด
3.1 Filter Blog เป็นบล็อกที่ผู้จัดทำา จะใช้สำาหรับ
นำาเสนอแหล่งข้อมูลที่ตนสนใจ (เว็บเพจหรือเว็บไซต์) โดยปกติ
มักจะเป็นข่าว บทความ หรือความคิดเห็นของบุคคลในวงการที่
เผยแพร่ในเว็บไซต์ต่าง ๆ อาจเรียกได้ว่า เป็น บล็อก “Bookmark”
หรือ มีชื่อเฉพาะ ว่า Social Bookmark บล็อกลักษณะนี้ จะนำาเสนอ
แค่หัวข้อเรื่อง และ URL ของเว็บเพจหรือเว็บไซต์ บางทีอาจเพิ่มคำา
- 6. อธิบายเว็บเพจหรือเว็บไซต์นั้น ๆ ได้ด้วย และบางที่อาจจะสามารถ
เพิ่มความคิดเห็นของผู้จัดทำาบล็อกได้อีกด้วย เป็นเหมือนการกลั่น
กรองข้อมูลให้ทราบว่าเว็บเพจหรือเว็บไซต์ใดกำาลังได้รับความ
นิยม ซึ่งจะเป็นการช่วยจัดลำาดับความน่าเชื่อถือของเว็บเพจหรือ
เว็บไซต์นั้น ๆ ได้เช่นกัน ตัวอย่างบล็อกลักษณะนี้ได้แก่
http://del.icio.us/ เป็นต้น
3.2 Personal Journal Blog เป็นบล็อกที่ผู้จัดทำา
จะใช้สำาหรับนำาเสนอความคิดเห็นหรือประสบการณ์ของตนเอง
ผ่านข้อเขียน โดยอาจจะมีภาพประกอบ หรือมีการเชื่อมโยงออก
ไปยังเว็บไซต์อื่น ๆ เพื่อให้ข้อมูลดูน่าเชื่อถือหรือมีความน่าสนใจ
มากยิ่งขึ้น ซึ่งบล็อกลักษณะนี้ เป็นบล็อกตามความเข้าใจของ
บุคคลทั่วไป ตัวอย่างบล็อกลักษณะนี้ได้แก่
http://www.exteen.com หรือ http://www.blogger.com
เป็นต้น
3.3 Photo Blog เป็นบล็อกที่ใช้สำาหรับเก็บภาพ
(ภาพถ่าย, ภาพวาด ฯลฯ) และสามารถใส่รายละเอียดของภาพ ใส่
คำาค้น (tag) ได้ ทำาให้การเก็บภาพเป็นระบบและง่ายต่อการค้นหา
มากขึ้น ตัวอย่างบล็อกลักษณะนี้ได้แก่ http://www.flickr.com
เป็นต้น
3.4 Video Blog หรือ เรียกว่า Vlog เป็นบล็อกที่
ใช้สำาหรับเก็บวีดิทัศน์ส่วนตัว สามารถใส่รายละเอียดของวีดิทัศน์
ใส่คำาค้น (tag) ได้ ทำาให้การเก็บวีดิทัศน์เป็นระบบและง่ายต่อการ
ค้นหามากขึ้น ตัวอย่างบล็อกลักษณะนี้ได้แก่
http://www.aolvideoblog.com เป็นต้น
3.5 บล็ อ กผสม มีลักษณะเป็นบล็อกที่สามารถเก็บ
ข้อมูลต่าง ๆ ได้หลายประเภท ทั้งเก็บรูปภาพ เก็บเพลง เก็บวีดิโอ
เก็บลิงค์ (link) ต่าง ๆ หรือบันทึกประจำาวัน และใส่ปฏิทินรายการ
งานที่ต้องทำา ฯลฯ ได้ด้วย ปัจจุบันเป็นบริการที่ได้รับความนิยมสูง
มาก โดยมีชื่อเฉพาะด้วย เรียกว่า Social Network Service ซึ่ง
นอกจากจะมีจุดประสงค์เพื่อให้สมาชิกแลกเปลี่ยนข้อมูลต่าง ๆ กัน
แล้ว ก็ยังมีจุดประสงค์หลักเพื่อการค้นหาและสะสมเพื่อนจากทั่ว
โลก ตัวอย่าง Social NetworkingWebsites ซึ่งให้บริการลักษณะ
นี้ ได้แก่ http://hi5.com หรือ http://multiply.com หรือ http://
- 7. spaces.live.com เป็นต้น (ซึ่งปัจจุบัน คำาว่า blog ใน Social
Networking Websites นั้นจะกลายเป็นแค่ส่วนที่ใช้เขียน
ข้อความเช่นบันทึกประจำาวันแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น และยังอาจ
ใช้คำาว่า journal แทนคำาว่า blog ด้วย แต่เนื่องจากบริการนี้
เป็นการรวมเอาบล็อกลักษณะต่าง ๆที่เคยมี มาอยู่ในที่เดียว ทำาให้
ผู้ใช้งานได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เพราะเพียงแค่เปิดใช้
บริการที่เดียว ก็ได้ใช้บริการครบถ้วน ไม่ตองเสียเวลาไปสมัครใช้
้
งานจาก เว็บไซต์หลายที่ให้จดจำายากอีกด้วย)
8.3 ประโยชน์ ข อง Web blog
Blog มีไว้เพื่อตอบสนองตัณหาของเจ้าของ blog ถึงแม้ว่า b
log จะมีลักษณะหน้าตาคล้ายกัน แต่ blog แต่ละแห่งจะมีบุคลิก
เฉพาะตัว แตกต่างกันไปเหมือนบุคลิก บาง blog แค่เล่าเรื่องชีวิต
ประจำาวัน บาง blog เกาะติดข่าว บาง blog คุยเรื่องการเมืองหรือ
ปรัชญา จงนั้นอาจแบ่งประโยชน์ได้หลายแบบด้วยกัน ซึ่งอาจจะ
แจกแจงได้ดัง นี้
1. เปิ ด ตั ว เองให้ โ ลกรู ้ เรื่องของ blog มักเป็นเรื่อง
ราวของเจ้าของ blog เป็นการเล่า ประสบการณ์หรือความคิดของ
เจ้าของ เป็นการถ่ายทอดความคิดความรู้สึกของเจ้าของ blog
เป็นการระบายความเคลียดอีกทางหนึ่ง
2. ทั น ข่ า วทั น เหตุ ก ารณ์ ประสบการณ์บางคนก็เป็นข่าว
เห็นอีกหลายคนได้ ข่าวจาก blog หลายแห่งเป็นข่าววงใน บางคน
เล่าเหตุการณ์หรืออุบัติเหตุที่เจอมา หลาย blog พูดถึงแนวโน้ม
หรือความเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ
3. กลั ่ น กรองข้ อ มู ล blog บาง blog จะมีการกลั่นกรอง
ข้อมูลก่อนนำาลง blog ทำาให้ผู้อ่าน blog ไม่ต้องเสียเวลาในการก
ลั่นกรองข้อมูล เพราะมีการนำาเสนอข้อมูลหรือมีไกด์ในการท่อง
เว็บ
4. รายงานการท่ อ งเว็ บ เป็นวัตถุประสงค์หลักที่เป็นต้น
กำาเนิดของการทำา blog หลาย blog มีการลิงก์ไปยังเว็บที่
เกี่ยวข้องกับเนื้อหาใน blog ซึ่งเป็นการแนะนำาว่าเว็บไหนดีก็ไปที่
เว็บนั้น
- 8. 5. การแสดงความคิ ด เห็ น ไม่ว่าจะเป็นความในใจของ
เรื่องต่างๆ ความคิดเชิงสร้างสรรค์ หรือการบ่นที่ทุกคนมีอยู่ในใจ
การทำา blog เป็นช่องทางถ่ายทอดความคิดเห็นให้คนอื่นรับรู้
6. ถ่ า ยทอดประสบการณ์ หรื อ ไดอะรี ่ อ อนไลน์
เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวในชีวิตประจำาวัน หรือเป็นการเล่าเรื่อง
การเดินทางท่องเที่ยว เช่น www.terrystrek.com
7. โน้ ม น้ า วใจผู ้ อ ่ า น ลักษณะนี้เป็นการ
โฆษณาชวนเชื่อ แต่กรณีแบบนี้เป็นการขายความคิด อย่าง bl
og สำาหรับคอการเมืองอาจจะมีฝ่ายซ้าย - ฝ่ายขวา,สายเหยี่ยว -
สายพิราบ จะพบว่าเนื้อหาจะเป็นการโพสต์โจมตีฝ่ายตรงข้าม แล้ว
ก็สนับสนุนแนวความคิดของตนเอง
8.4 เว็ บ ไซต์ ท ี ่ ใ ห้ บ ริ ก ารเว็ บ ล็ อ ก
ขอนำา รายชื่ อผู้ ให้ บ ริ ก าร
เขี ย น blog ฟรี เพื่ อผู้ ที่ สนใจ
อยากจะทำา blog เองแต่ ยั ง ไม่
อยากจะลงทุ น ค่ ะ
- 9. www.blogger.com www.exteen.com
www.mapandy.com
www.buddythai.com www.imigg.com
www.5iam.com
www.blogprathai.com www.ndesignsblog.com
www.idatablog.com www.inewblog.com
www.onblogme.com www.freeseoblogs.com
www.sumhua.com www.diaryi.net
www.istoreblog.com
www.skypream.com www.thailandspace.com
www.sungson.com www.gujaba.com
www.sabuyblog.com www.ugetblog.com
www.jaideespace.com www.maxsiteth.com
www.my2blog.com
9. ขอบเขตของโครงงาน
1. จั ด ทำ า โครงงานคอมพิ ว เตอร์ การพัฒนาเว็บ
บล็อก (WebBlog) ด้วย Blogger
เรื่อง Mpeg4
2. วั ส ดุ อุ ป กรณ์ เครื ่ อ งมื อ หรื อ โปรแกรมหรื อ ที ่ ใ ช้
ในการพั ฒ นา ได้แก่
2.1 เครื่องคอมพิเตอร์ พร้อมเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
2.2 เว็บไซต์ที่ให้บริการเว็บบล็อก คือ
www.Blogger.com
2.3 เว็บไซต์ที่ใช้ในการติดต่อ
สื่อสาร เช่น www.fagebook.com
www.gmail.com www.google.com
- 10. 2.4 โปรแกรมตัดต่อและตกแต่งรูปภาพ เช่น Adobe Photoshop
CS3 และ PhotoScape 2.0
10. ขั ้ น ตอนและแผนการดำ า เนิ น งาน
ระยะเวลาดำาเนินงาน
เดือน
เดือนธันวาคม
ที่ ขั้นตอนการดำาเนินงาน พฤศจิกายน
สัปดาห์ที่ สัปดาห์ที่
1 2 3 4 1 2
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3 จัดทำาโครงร่างเพื่อนำาเสนอ
4 ปฎิบัติการจัดทำาโครงงาน
นำาเสนอรายงานความ
5 ก้าวหน้าของโครงงานครั้ง
ที่ 1
นำาเสนอรายงานความ
6 ก้าวหน้าของโครงงานครั้ง
ที่ 2
7 ปรับปรุง ทดสอบ
จัดทำาเอกสารรายงานโครง
8
งาน
9 ประเมินผล
นำาเสนอโครงงานผ่านเว็บ
9
บล็อก (WebBlog)
11. สถานที ่ ด ำ า เนิ น งาน
ห้องเรียนคอมพิวเตอร์ ICT โรงเรียนดงขุยวิทยาคม
อำาเภอชนแดน
- 11. จังหวัดเพชรบูรณ์
12.ผลที ่ ค าดว่ า จะได้ ร ั บ
12.1.ได้รับความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาเว็บบล็อก
(webBlog) ) ด้วย Blogger เรื่อง hi5
12.2.ได้รับความรู้เกี่ยวกับเรื่องที่นำามาเป็นบท
เรียนในการสร้างเว็บบล็อกคือ เรื่อง hi5
12.3.ผู้เรียนสามารถพัฒนารูปแบบของเว็บบล็อก
จาก Blogger ได้ด้วยตนเองและนำามา ประยุกต์ใช้ให้เข้ากับการ
เรียนรู้ของตนเองมากยิ่งขึ้น
12.4.สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ระหว่างครู
เพื่อนและผู้สนใจทั่วไปเพื่อสร้างเป็นเครือข่ายการเรียนรู้ผ่าเว็บ
บล็อกได้
12.5.ได้นำาเอาเทคโนโลยีสารสนเทศยุคใหม่มา
ใช้อย่างมีคุณค่า และสร้างสรรค์
13. เอกสารอ้ า งอิ ง
http://guru.google.co.th/guru/thread?
tid=1f85ef68caaeaeba
ลงชื่อ………………………….
(นางสาวจุฑาพร ศรีประสงค์)
ผู้เสนอโครงงาน
ลงชื่อ…………………………..