More Related Content
Similar to แนวข้อสอบวิชา ระบบราชการไทย
Similar to แนวข้อสอบวิชา ระบบราชการไทย (20)
แนวข้อสอบวิชา ระบบราชการไทย
- 3. 1. การปรับเปลี่ยนกระบวนการและวิธีการทางาน
• ประกอบด้วย 9 มาตรการคือ
• 1) วางเงื่อนไขให้ส่วนราชการต่าง ๆ นาระบบการบริหารแบบมุ่ง
ผลสัมฤทธิ์มาประยุกต์ใช้อย่างจริงจัง
• 2) ให้แต่ละส่วนราชการกาหนดเป้าหมายในการเพิ่มประสิทธิภาพ
และยกระดับคุณภาพมาตรฐานในการให้บริการและการพัฒนา
องค์กร
• 3) ปรับเปลี่ยนระบบการควบคุมภายในของส่วนราชการให้มีความ
ทันสมัยมากขึ้น โดยมาเฉพาะการควบคุมก่อนดาเนินงาน
- 4. 1. การปรับเปลี่ยนกระบวนการและวิธีการทางาน (ต่อ)
• 4) ปรับปรุงระบบการประเมินผลการดาเนินงาน โดยจัดให้มีการเจรจาและ
ทาข้อตกลงว่าด้วยผลงานประจาปี ให้สอดรับกับแผนยุทธศาสตร์และแผน
ดาเนินงานรายปีกับหัวหน้าส่วนราชการไว้เป็นการล่วงหน้า รวมทั้งให้มี
การติดตามและประเมินผลการดาเนินงานตามข้อตกลงดังกล่าวทุกสิ้นปี
และถือเป็นเงื่อนไขส่วนหนึ่งของการให้เงินรางวัลประจาปีส่วนราชการ
• 5) ให้มีการทบทวนแผนยุทธศาสตร์และแผนดาเนินงาน/โครงการต่างๆ
อย่างเป็นระบบและสม่าเสมอ
• 6) การกาหนดวัตถุประสงค์เป้าหมาย และตัวชี้วัด ของแผนยุทธศาสตร์
และแผนดาเนินงานการจัดทาข้อตกลงว่าด้วยผลงาน รวมถึงการทบทวน
ติดตามและประเมินผลนั้น ให้มีกระบวนการปรึกษาหารือการสารวจและ
รับฟังความคิดเห็นของประชาชน และ/หรือการเปิดให้ประชาชนเข้ามามี
ส่วนร่วมโดยตรง
- 5. 1. การปรับเปลี่ยนกระบวนการและวิธีการทางาน (ต่อ)
• 7) การปรับปรุงขั้นตอนและแนวทางการให้บริการประชาชนนั้น ให้แต่ละ
ส่วนราชการเสนอแผนในการปรับปรุงแก้ไข กฎหมายและระเบียบปฏิบัติ
ของทางราชการที่ล้าสมัย ไม่มีความจาเป็น หรืออาจเป็นอุปสรรคต่อการ
ให้บริการประชาชน
• 8) วางกติกาเพื่อให้มีการแข่งขันขึ้น โดยพยายามลดการผูกขาดของ
หน่วยงานราชการในการเป็นผู้ให้บริการสาธารณะเองลง และเปิดโอกาส
ให้ภาคเอกชน หรือองค์กรพัฒนาไม่แสวงหากาไรและองค์กรประชาสังคม
สามารถคัดค้านและเข้ามาดาเนินการแข่งขันได้(Contestability)
• 9)ให้มีการจัดทาแนวทางและคู่มือการบริหารราชการที่ดี เพื่อใช้ประกอบ
ในการชี้แจงทาความเข้าใจเผยแพร่และฝึกอบรม และให้คาปรึกษาแนะนา
แก่ส่วนราชการต่าง ๆ รวมถึงการใช้ประโยชน์ในฐานะเป็นเครื่องมือใน
การประเมินตนเอง (Self –assessment) ของผู้บริหารและเจ้าหน้าที่
ผู้ปฏิบัติงาน
- 6. 2. การปรับปรุงโครงสร้างการบริหารราชการแผ่นดิน
• ยุทธศาสตร์ 2 : การปรับปรุงโครงสร้างการบริหารราชการแผ่นดิน
ประกอบด้วย 4 มาตรการ คือ
• 1) มุ่งเน้นการจัดระเบียบโครงสร้างการบริหารราชการแผ่นดินใน
เชิงบูรณาการ โดยให้มีลักษณะแบบเมตริกซ์ ครอบคลุมทั้งในส่วน
ของการวางยุทธศาสตร์และการนายุทธศาสตร์ไปปฏิบัติ
• 2) ให้มีการทบทวนการจัดโครงสร้างองค์การของกระทรวง ทบวง
กรม ต่าง ๆ ให้มีความเหมาะสมมากขึ้น เพื่อรองรับกับ
สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป และยุทธศาสตร์การปฏิบัติงาน
รวมถึงพยายามปรับรูปแบบการทางานให้มีความยืดหยุ่นคล่องตัว
- 7. 2. การปรับปรุงโครงสร้างการบริหารราชการแผ่นดิน(ต่อ)
• 3) ทบทวนปรับปรุงโครงสร้าง และพัฒนาระบบและรูปแบบการบริหาร
ราชการส่วนภูมิภาคเพื่อให้จังหวัดเป็นองค์การที่มีสมรรถนะสูง สามารถนา
วาระแห่งชาติและนโยบายของรัฐบาลไปปฏิบัติให้เกิดสัมฤทธิ์ผล แก้ไข
ปัญหาและพัฒนาในระดับพื้นที่อย่างมีบูรณาการควบคู่ไปพร้อมกับการ
พัฒนาระบบการบริหารจัดการอาเภอ เพื่อให้เป็นจุดรวม (Outlet) ให้บริการ
แก่ประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ
• 4) ทบทวนระบบบริหารบุคคลในราชการบริหารส่วนภูมิภาค เพื่อให้
สอดคล้องกับความหลากหลายในการจัดรูปแบบใหม่ของภูมิภาค และ
หลักการบริหารจัดการระดับจังหวัดแนวใหม่ รวมตลอดถึงสร้างความสานึก
ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐในระดับพื้นที่มีมโนธรรม สุจริต มีจิตใจพร้อมบริการ
ประชาชน (Citizen focused) และสามารถทางานในสิ่งแวดล้อมและ
วัฒนธรรมองค์การใหม่
- 8. 3. การปรับรื้อระบบการเงินและการงบประมาณ
• ประกอบด้วย 8 มาตรการ คือ
• 1) ปรับปรุงกระบวนการจัดสรรงบประมาณแผ่นดินใหม่
• 2) ปรับเปลี่ยนระบบการงบประมาณให้สอดรับกับการบริหารราชการ
แผ่นดินแนวใหม่
• 3) ให้มีการวางยุทธศาสตร์/แผนงานการพัฒนาเขตพื้นที่หรืออนุภูมิภาคใน
เชิงบูรณาการ และดาเนินการจัดสรรทรัพยากรในลักษณะแบบอิงพื้นที่ โดย
ให้มีการวางหลักเกณฑ์การจัดสรรที่ชัดเจน
• 4) เปิดโอกาสให้แต่ละส่วนราชการทาความตกลงเป็นการล่วงหน้าเพื่อ
สามารถเก็บเงินเหลือจ่ายไว้ใช้ประโยชน์ในการพัฒนาองค์การหรือฝึกอบรม
ข้าราชการได้โดยเริ่มต้นในบางแผนงาน/โครงการ หรือกิจกรรม ที่มีความ
ชัดเจนและสามารถวัดผลงานได้อย่างเป็นรูปธรรมก่อน
- 9. 3. การปรับรื้อระบบการเงินและการงบประมาณ(ต่อ)
• 5) พิจารณาความเป็นไปได้ในการตรวจสอบและแปลงสินทรัพย์ของส่วนราชการ
ที่มีอยู่ให้เป็นทุนโดยอาจให้มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่าย (Capital Charge) ในรูปธรรม
ก่อน
• 6) ให้แต่ละส่วนราชการจัดทาแผนการใช้จ่ายเงินรายเดือนหรือรายไตรมาสของ
แผนงาน/โครงการต่าง ๆ รวมถึงการจัดทางบดุลและรายงานทางการเงินให้เป็นไป
อย่างถูกต้องและทันการณ์ เพื่อประโยชน์ในการโอนเงินผ่านทางระบบอิเล็กโทร
นิกส์เพื่อลดระยะเวลาและขั้นตอนการจัดทารายละเอียดของการทาฏีกาเบิก – จ่าย
และการควบคุมทางการเงิน
• 7) เร่งปรับปรุงระบบบัญชีของส่วนราชการให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานสากล
โดยให้สามารถคานวณต้นทุนในการจัดบริการสาธารณะได้
• 8) วางระเบียบเพื่อเปิดโอกาสให้แต่ละส่วนราชการสามารถดาเนินกิจกรรม
บางอย่าง เพื่อหารายได้ของตนเองไว้ใช้ประโยชน์ในการพัฒนาองค์การและเสริม
แรงจูงใจให้แก่บุคลากรในรูปของสวัสดิการ
- 10. 4. การสร้างระบบบริหารงานบุคคลและค่าตอบแทนใหม่
• ประกอบด้วย 7 มาตรการ คือ
• 1) เร่งสรรหาบุคลากรผู้มีความสามารถสูงหรือระดับหัวกะทิ เข้าสู่
ระบบราชการ
• 2) พิจารณาความเป็นไปได้ ของการนาระบบการเลือกสรรระบบ
เปิด ที่เน้นหลักสมรรถนะการบริหารจัดการ มาใช้กับผู้บริหาร
ระดับสูงทุกตาแหน่ง
• 3) ทบทวนและปรับเปลี่ยนระบบการจาแนกตาแหน่งและ
ค่าตอบแทน ให้มีความเหมาะสมกับสภาพการณ์การแข่งขัน ความ
ขาดแคลน และการบริหารราชการแนวใหม่
- 11. 4. การสร้างระบบบริหารงานบุคคลและค่าตอบแทนใหม่(ต่อ)
4) เพิ่มผลิตภาพของข้าราชการ โดยให้มีการจัดทาเป้ าหมายการทางาน ขีด
ความสามารถ และการประเมินผลสัมฤทธิ์ของแต่ละบุคคลอย่างเป็นระบบ
มากขึ้น รวมถึงการเชื่อมโยงให้เข้ากับการสร้างแรงจูงใจ
5) ให้แต่ละส่วนราชการจัดทาแผนพัฒนาบุคลากรเชิงยุทธศาสตร์ โดยยึด
วิสัยทัศน์ ภารกิจ และวัตถุประสงค์ขององค์การ และขีดความสามารถที่
จาเป็น (Competency – based Approach)
6) ปรับปรุงขีดสมรรถนะของศูนย์พัฒนาและโอนถ่ายบุคลากรภาครัฐ รวมทั้งจัด
ให้มีตาแหน่งทดแทนหรือสารองราชการขึ้นในระบบข้าราชการพลเรือนเพื่อ
ประโยชน์ในการหมุนเวียน โอนย้ายและพัฒนาข้าราชการ
7) พัฒนากลไกและกระบวนการในการรักษาและปกป้ องระบบคุณธรรมในวง
ราชการ รวมถึงปรับปรุงระบบวินัย อุทธรณ์และร้องทุกข์ให้มีความเหมาะสม
- 12. 5. การปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ วัฒนธรรม และค่านิยม
ประกอบด้วย 4 มาตรการ คือ
1) สร้างรูปแบบการเรียนรู้ด้วยตนเองของกลุ่มเป้าหมาย (Empowerment) ที่เป็น
ผู้บริหารระดับสูงในลักษณะของการเรียนรู้จากประสบการณ์ปฏิบัติจริง ๆ
(Action Learning) ด้วยวิธีการสร้างวิสัยทัศน์ร่วมกัน การสร้างความรู้สึก
ผูกพันต่อพันธกิจที่จะนาไปสู่ระบบอนาคตที่พึงปรารถนาร่วมกัน การเรียนรู้
การทางานเป็นทีม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเรียนรู้วิธีคิดอย่างเป็นระบบ
2) เสนอแนะการจัดสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการสร้างกระบวนการเรียนรู้ของ
กลุ่มเป้ าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการสนับสนุนทางด้าน
ทรัพยากรของรัฐ การผลักดันในเชิงกฎระเบียบต่าง ๆ รวมทั้งการเชื่อมโยง
กับเครือข่ายการเรียนรู้ต่าง ๆ
- 13. 5. การปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ วัฒนธรรม และค่านิยม(ต่อ)
3) ให้แต่ละส่วนราชการจัดทาคาแถลงค่านิยมสร้างสรรค์ (Value
Statement) ประกาศมาตรฐานทางคุณธรรมและจริยธรรม เพื่อลด
ปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบ รวมถึงการรณรงค์และวัดผลระดับ
ของการยอมรับและปฏิบัติตามค่านิยม มาตรฐานทางคุณธรรมและ
จริยธรรม อย่างจริงจัง
4) สร้างการมีส่วนร่วมในการแสวงหากระบวนทัศน์ วัฒนธรรม และ
ค่านิยมใหม่ ที่เอื้อต่อการพัฒนาระบบราชการ รวมทั้งระดมการมี
ส่วนร่วมของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการจัดทา และดาเนินยุทธศาสตร์
ในการส่งเสริม และเผยแพร่กระบวนทัศน์ใหม่ ให้เป็นวาระแห่งชาติ
- 14. 6. การเสริมสร้างระบบราชการให้ทันสมัย
ประกอบด้วย 4 มาตรการ คือ
1) สนับสนุนให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจพัฒนาตนเองให้เป็นองค์การ
สมัยใหม่ ที่สามารถประยุกต์ใช้ประโยชน์เทคโนโลยีสารสนเทศและการ
สื่อสารสมัยใหม่ในการบริหารงาน การบริการ การเตือนภัยสาธารณะ และ
แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน
2) ประสาน ส่งเสริม และสนับสนุนให้การบริการรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ที่ง่าย
สะดวก รวดเร็ว โปร่งใสและซื่อสัตย์ ต่อผู้ใช้บริการ และเป็นศูนย์บริการ
ออนไลน์อิเล็กทรอนิกส์แบบครบวงจร ซึ่งมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่าง
หน่วยงานภาครัฐเพื่อให้ประชะชาชนได้ขอใช้บริการของรัฐได้ทุกเวลา
- 15. 6. การเสริมสร้างระบบราชการให้ทันสมัย(ต่อ)
3) ควบคู่ไปกับการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ จาเป็นต้องส่งเสริมและ
กาหนดมาตรฐานการให้บริการของรัฐในระดับสานักงาน ที่มี
ประสิทธิภาพ ถูกต้อง และรวดเร็ว ในรูปแบบของศูนย์บริการ
อิเล็กทรอนิกส์แบบครบวงจรที่มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่าง
หน่วยงานภาครัฐ เช่นเดียวกับการใช้บริหารรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์
ทางอินเทอร์เน็ต
4) ให้มีการศึกษาวิจัยและเสนอแนะให้มีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย
และอนุบัญญัติที่เป็นอุปสรรคต่อการบริหารงานโดยใช้เทคโนโลยี
สารสนเทศ และการให้บริการรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์
- 16. 7. การเปิดระบบราชการให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม
ประกอบด้วย 6 มาตรการคือ
1) กาหนดเงื่อนไขและแนวทางเพื่อส่งเสริมให้หน่วยงานราชการได้
ตระหนักถึงภาระหน้าที่ในการปฏิบัติราชการตามเจตนารมณ์ของ
รัฐธรรมนูญและหลักนิติธรรม
2) วางหลักเกณฑ์ให้แต่ละส่วนราชการจัดให้มีระบบการปรึกษาหารือ
กับประชาชน การสารวจความต้องการของประชาชน และ/ หรือการ
จัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างสม่าเสมอ
3) ให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาภาคประชาชน (Citizen
Advisory Board) โดยเฉพาะในระดับปฏิบัติการ (กรม/จังหวัด/
อาเภอ)
- 17. 7. การเปิดระบบราชการให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม(ต่อ)
• 4) ให้แต่ละส่วนราชการจัดให้มีอาสาสมัครภาคประชาชนเข้าร่วม
ทางานกับข้าราชการ
• 5) ให้ทุกส่วนราชการนาเสนอข้อมูลสารสนเทศที่มีความจาเป็นต่อ
การแสดงภาระรับผิดชอบความโปร่งใส และเปิดเผยเกี่ยวกับการ
ปฏิบัติงาน ลงในเว็ปไซต์เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูล
สารสนเทศดังกล่าวได้โดยง่าย
• 6) กาหนดให้ความสาเร็จในการดาเนินกิจกรรมในการเปิดโอกาสให้
ประชาชนมีส่วนร่วมในระบบราชการเป็นตัวชี้วัดหนึ่งในการบริหาร
ที่ดีของส่วนราชการ