More Related Content
Similar to การสลายสารอาหารระดับเซลล์
Similar to การสลายสารอาหารระดับเซลล์ (20)
การสลายสารอาหารระดับเซลล์
- 6. .
สารอาหารระดับเซลล์ Cellular res
. สิ่งมีชีวิตต้องเปลี่ยนแปลงสาร
อาหารเพื่อให้ได้พลังงานสำาหรับ
กระบวนการต่างๆ ของชีวิต. กระบวนการดังกล่าวถ้าเกิดขึ้นโดย
มีการใช้ออกซิเจนในเซลล์ เรียกว่า
การหายใจระดับเซลล์ (cellular
respiration) ซึ่งเป็นกระบวนการที่
ให้พลังงานมากกว่า
. แบบที่ไม่ใช้ออกซิเจน หรือที่เรียก
ว่า การหมัก (fermentation)
- 7. .
. การหายใจระดับเซลล์ เป็นกระ
บวนการที่เกี่ยวข้องกับ 3 ขั้น
ตอนที่ต่อเนื่องกัน
ได้
แก่
ลโคลิซีส (glycolytic pathway)
ฏจักรเครบส์ (Krebs cycle)
. ระบบถ่ายทอดอิเล็กตรอน
(electron transport system). ขั้นตอนแรกเกิดใน cyt
2 ขั้นตอนหลังเกิดขึ้นใน mitocho
โคเอนไซม์ เอ (acetyl coenzyme
- 8. .
ง่ของ metabolism 2 กระบวนการ
คือ
olytic pathway และ Krebs cycle
เป็นการสลาย glucose และสาร
อาหารอื่นๆ ให้ได้สารพลังงาน
สูง
.คือATP, NADH และ FADH2 ซึ่ง
สะสมพลังงานเคมีไว้ในตัว
ส่วน electron transport system
- 9. .
การที่ NADH และ FADH2 ส่ง
อิเล็กตรอนให้ระบบถ่ายทอด
อิเล็กตรอนซึ่งจะมีการถ่ายทอด
อิเล็กตรอนให้ตัวรับเป็นช่วงๆ
ต่อๆ กันไปที่ปลายสุดของระบบ
อิเล็กตรอนจะรวมกับ H+
และ O2
เกิดเป็น H2O
. พลังงานที่ปล่อยจากแต่ละขั้น
ตอนสามารถนำาไปสร้าง ATP
โดยวิธีการที่เรียกว่า oxidative
phosphorylation คือ การที่มี
- 18. .
ไกลโคลิซิส
สลาย C=6
อะตอม ได้กรดไพรูวิก (pyruvic ac
มี C = 3 อะตอม ( 2 โมเ
เกิดที่ไซโทซอล
(ในไซโทพลาสซึม)
ใช้ ATP 2 โมเลกุล
ปลดปล่อย ATP 4 โมเลก
กลูโคส C 6อะตอม
GALฟอสโฟกลีเซอรัลดีไฮด์
2ATP
2ADP
C 3 อะตอม
กรดไดฟอสโฟกลี
เซอริก(2PGA)
รดไพรูวิก 2 โมเลกุล
2ADP+2Pi
2ATP
2ADP+2Pi
2ATP
ลดปล่อย 4 ATP นำาไปใปใช้ 2 เหลือ 2ATP
NAD+
+4H+4e-
(NADH+H +
)
- 24. .
. ขั้นนี้กรดไพรูวิก 1 โมเลกุล
กลายเป็นกรดอะซิติกซึ่งเป็น
สารที่มี C = 2กรดแอซิติกจะรวมตัวกับ โคกรดแอซิติกจะรวมตัวกับ โค
เอนไซม์เอเอนไซม์เอ ซึ่งมีอยู่แล้วภายในซึ่งมีอยู่แล้วภายใน
เซลล์เซลล์ กลายเป็นกลายเป็นโคเอนไซม์เอโคเอนไซม์เอ เรียกย่อเรียกย่อ ๆๆ ว่าว่า แอซแอซ
ที่เยื่อชั้นในของไมโทคอนเดรีย
- 26. .
ได้ CO2 2 โมเลกุล
ได้ไฮโดรเจน 4 อะตอม จึงได้ 2 N
สมการ AcetylCoA คือ
vate → 2Acetyl Co A+2CO2+
.สรุป
กลูโคส 1 โมเลกุล ได้ กรดไพรูวิก
.กรดไพรูวิก 2 โมเลกุล ได้แอซิ
ติลโคเอนไซม์ เอ 2 โมเลกุล
2 NAD+2 NADH2
2Co A
- 28. .
“ ”วัฏจักรเครบส์ บางทีบางที
“เรียกว่า วัฏจักรของกรดซิ“เรียกว่า วัฏจักรของกรดซิ
”ตริก”ตริก
ที่มีการสลายแอซิตีลโคเอนไซม์ที่มีการสลายแอซิตีลโคเอนไซม์
เอเอ ให้ได้เป็น CO2 และเก็บ
พลังงานในรูปของ NADH
FADH2 และ ATP
มีการให้ไฮโดรเจนอิสระออกมีการให้ไฮโดรเจนอิสระออก
มาซึ่งจะถ่ายทอดไปยังตัวรับมาซึ่งจะถ่ายทอดไปยังตัวรับ
คือคือ FADFAD++
และและ NADNAD++
เกิดเกิด
เป็น FADH และ NADH + H++
เกิดขึ้นที่บริเวณเมทริกซ์ซึ่งเป็นขอ
ในไมโทคอนเดรีย
- 29. .
รเครบส์ เริ่มด้วยแอซีตีลโคเอนไซ
าร์บอน 2 อะตอม
รวมกับสารประกอบกรดออก
ซาโลแอซิติกซึ่งมีคาร์บอน 4
อะตอม ได้เป็นสารที่มีคาร์บอน 6
อะตอม คือ กรดซิตริก[ citric
acid ] และปล่อย
Co A(โคเอนไซม์ เอ เป็นอิสระ)
กรดซิตริกนี้จะถูก
เปลี่ยนแปลงต่อไปอีกหลาย
- 30. .
ี่มี C = 4 อะตอม คือ กรด ออกซาโ
มีการเปลี่ยนแปลงจะมีการปลดปล
O2 และพลังงานในรูป ATP, NADH
. เรียกปฏิกิริยาช่วงนี้
จึงถูกเรียกว่า
“ ”วัฏจักรเครบส์
- 31. .
แอซิทิลโค
เอนไซม์ เอมี C 2
อะตอม
Co
A
CCCCCCกรดซิตริก (C=
CO2H2
O NAD+
NADHCCCCCกรดคีโทกลูทาริก
CO
2
NAD+
NADH
ATP
ADP+Pi
CCCCกรดซักซินิก
FADH2
FADH2
O
NAD+
NADHCCCC
กรดออกซาโลแอซิติก
+CCCC
กรดออกซาโลแอซิติก
adenine dinucleotide) รับโปรตรอนและอิเ
D+2H+
+ 2e-
→FADH
- 37. .
.
. ในการสังเคราะห์ ATP อิเล็คตรอนที่
หลุดออกจากโมเลกุล
ของสารอาหารไม่ได้เคลื่อนที่ไปยัง
ATP แล้วคายพลังงาน
เพื่อให้ ADP เอาไปสร้าง ATP โดยตรง
แต่มันจะมีสารมารับ
“อิเล็คตรอนอื่นๆ ซึ่งเรียกว่า ตัวรับ
”อิเล็คตรอน [electron carrier] แล้ว
ถ่ายทดไปยังตัวนำาอิเล็คตรอนอื่นๆ
ขณะที่มีการ
ถ่ายทอดอิเล็คตรอนจะมีพลังงานปล่อย
- 40. 3.3. ทุกๆทุกๆ 22 อะตอมของไฮโดรเจนที่อะตอมของไฮโดรเจนที่
ผ่านกระบวนการจะทำาผ่านกระบวนการจะทำา
ให้เกิดนำ้าให้เกิดนำ้า 11 โมเลกุลโมเลกุล4.4. พลังงานส่วนใหญ่ที่ได้จากการพลังงานส่วนใหญ่ที่ได้จากการ
หายใจเกิดขึ้นใกระบวนการถ่ายหายใจเกิดขึ้นใกระบวนการถ่าย
ทอดอิเล็คตรอน สามารถเก็บเอาทอดอิเล็คตรอน สามารถเก็บเอา
ไว้ได้ถึงไว้ได้ถึง 3434 ATPATP
5.5. ในการกลูโคสในการกลูโคส 11 โมเลกุล ถ้าโมเลกุล ถ้า
หากว่าตัวรับอิเล็คตรอนที่เข้ามารับหากว่าตัวรับอิเล็คตรอนที่เข้ามารับ
เป็นเป็น FADFAD++
จะทำาให้ได้พลังงานจะทำาให้ได้พลังงาน
ATPATP ทั้งหมดทั้งหมด 3434 ATPATP แต่ถ้าแต่ถ้า NADNAD++
.
- 41. .
. แก๊สออกซิเจน เป็นสิ่งจำาเป็นต่อการ
ดำารงชีวิต ของสิ่งมีชีวิต แต่ยังมี
สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กบางชนิดหรือ
เนื้อเยื่อบางอย่างถึงแม้จะไม่มีแก๊ส
ออกซิเจนก็ยังสามารถดำารงอยู่ได้
โดยได้พลังงานจากการสลายสาร
อาหารแบบ ไม่ใช้ออกซิเจน สิ่งมี
ชีวิตเหล่านี้ได้แก่ ยีสต์ แบคทีเรีย
- 44. …สรุป การเกิด
กระบวนการหมัก
แอลกอฮอล์
.
. ดังนั้น ในการสลายกลูโคส 1
โมเลกุล จึงได้ ATP เพียง 2
โมเลกุลเท่านั้น เอทิลแอลกอฮอล์ที่
ได้จากการสลายกูลโคส ถ้ามีปริมาณ
มากจะเป็นอันตรายแก่เซลล์
ผลผลิตของกระบวนการหมัก
แบบนี้ที่สำาคัญ คือ เบียร์ สุรา ไวน์
ต่างๆ ในปัจจุบันมีผู้นำาความรู้นี้ไป
- 45. ( Lacti( Lactic acidc acid
fermentationfermentation ))
. ในเนื้อเยื่อของสัตว์ซึ่งสามารถสลาย
สารอาหารแบบใช้ออกซิเจน ในบาง
กรณีเนื้อเยื่อต้องการ ATP เป็นจำานวน
มากในระยะเวลาอันสั้น เช่น
เนื้อเยื่อกล้ามเนื้อในขณะ ออกกำาลัง
กาย แต่เนื่องจากเลือดลำาเลียง
ออกซิเจนให้ไม่ทัน ทำาให้ปริมาณ
ATP ในเซลล์ลดลงอย่างรวดเร็วเซลล์
- 47. . การสลายสารอาหารแบบไม่ใช้
ออกซิเจนทั้ง 2 แบบดังกล่าวเป็นการ
สลายสารอาหารที่ไม่สมบูรณ์เพราะ
เอทิลแอลกอฮอล์และกรดแลกติกที่เป็น
ผลิตภัณฑ์นั้นยังมีพลังงานแฝงอยู่
จำานวนมากและATP ที่เกิดจากการ
หมักเหล่านี้ ไม่ได้สังเคราะห์จากการ
ถ่ายทอดอิเล็กตรอน แบคทีเรียบาง