SlideShare a Scribd company logo
1 of 164
Download to read offline
1
ตามรอยพระมหาชนก
มหัศจรรย์แห่งพระมหาชนก
Magic Mahajanaka
เรียบเรียงโดย สมยศ ศุภกิจไพบูลย์
2
รวบรวมแนวคิด ที่ได้จากพระราชนิพนธ์เรื่อง พระมหาชนก
มาช่วยกันถอดรหัสกันว่าในหลวงท่าน มีพระราชประสงค์ที่จะสื่อสาร
พระราชทานแนวคิดให้พสกนิกรของพระองค์อย่างไรบ้าง
พวกเราจะได้นาไปเป็นแบบอย่าง อย่างที่พระองค์มีพระราชประสงค์
ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้ข้าพระพุทธเจ้าและคณะ เอามาลองตีความหมายดู
จากปัญญาอันน้อยนิดของข้าพระพุทธเจ้าและคณะ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อปวงชนชาวไทยต่อไป
ตามพระราชประสงค์ ผิดพลาดประการใดขอพระราชทานอภัยไว้ณ ที่นี้ด้วยด้วยเกล้าด้วยกะ
หม่อมขอเดชะ
3
คานา
หนังสือตามรอยพระมหาชนกนี้เกิดขึ้นจากโดยเนื้อหาหลักบางส่วนเป็นการรวบรวมมาจากกระทู้
ตามรอยพระมหาชนกในเว็บพลังจิต ต้องขอขอบคุณเว็บพลังจิตที่มีจุดมุ่งหมายในการเผยแผ่ คาสอนและ
หลักธรรมขององค์สมเด็จสัมมาพุทธเจ้าไปให้ไกลและสู่ประชาชนอย่างไร้ขอบเขตเพื่อสู่ความหลุดพ้น
ในเว็บพลังจิตยังเกิดชุมชนย่อยหลากหลายวัตถุประสงค์ต่างกรรมและวาระ แต่มีเป้ าหมายเดี่ยวกันคือการ
เข้าถึงแก่นแท้ดั่งเดิมของจิตวิญญาณ
หนังสือตามรอยพระมหาชนก เกิดขึ้นจากรวบรวมข้อมูลของสมาชิกในกลุ่มกระทู้ตามรอยพระมหา
ชนกในเว็บไซด์พลังจิต ที่ช่วยกันในการถอดรหัสหนังสือตามรอยพระราชนิพนธ์พระมหาชนกขององค์
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่าพระองค์ท่านมีพระราชประสงค์ที่จะสื่อสาร พระราชทานแนวคิดให้พสกนิกรของ
พระองค์อย่างไร สมาชิกในกระทู้เกิดจากการรวมตัวกันจากพลังศรัทธาที่มีต่อองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
หลังจากการได้อ่านได้ศึกษาค้นคว้าและตีความต่างๆนาๆ เป็นการรวมตัวกันเพื่อมีเป้ าหมายร่วมกันในการ
ช่วยกันถอดรหัสเรื่องราวในหนังสือพระราชนิพนธ์พระมหาชนก ด้วยพระราชศรัทธาที่บริสุทธิ์ต่อองค์สม
เด็กพระเจ้าอยู่หัว อาจเนื่องด้วยจากภูมิหลังและภูมิปัญญาที่แตกต่างของสมาชิกในการถอดรหัส แต่มี
วัตถุประสงค์เดียวกันในการเดินตามรอยพระมหาชนก
หลังจากได้ปรึกษาว่าจะรวบรวมเป็นเล่มก็มีความคิดบางเรื่องที่แตกต่าง ได้พยายามมองภาพเรื่องราว
เป็นแบบองค์รวมให้มากที่สุด แต่ยังถอดรหัสต้นเหตุของปัญหาความแตกแยกทางความคิดของสังคมโดย
ชุมชนตามรอยพระมหาชนก การถอดรหัสในหนังสือเล่มนี้อาจจะไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ในหนังสือพระ
ราชนิพนธ์พระมหาชนก หากมีสิ่งใดผิดพลาดประการใดข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานอภัยไว้ณ ที่นี้ด้วย
เกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
สมยศ ศุภกิจไพบูลย์
เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ อาจจะมีบางส่วนเกี่ยวกับปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง หรือความเชื่อด้าน
ลัทธิศาสนา ทั้งนี้ก็เพื่อให้เป็นไปในภาพรวมของสังคม อันจะทาให้เห็นรากเหตุของปัญหาและนาไปสู่การ
ใช้ปัญญาแก้ไขในที่สุด ขอท่านได้โปรดใช้วิจารณญาณ
4
สารบัญ
 ทาไมจึงเป็นหนังสือที่ทรงรัก 8
 ดร.สมิทธ ธรรมสโรช กล่าวถึงในหลวง 19
 ตามรอยพระมหาชนกชาดก 22
 ตามรอยพระราชนิพนธ์มหาชนก 24
 ตามรอยพระมหาชนกพระอัจฉริยะภาพ แห่งองค์พระโพธิสัตว์ 25
 พายุเอนเจลล่า 28
 พายุนาร์กีส 30
 น้าคือชีวิต 36
 ในหลวงกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 44
 ทางสายเอกชีวิตพอเพียง 49
 ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 51
 มหาวิทยาลัยปูทะเลย์ 55
 ถอดรหัสสัญลักษณ์ธรรมใน "พระมหาชนก" 59
 ตามรอยพระราชดารัสรู้รักสามัคคี 65
 อนาคดังสญาณ 69
 เมืองอวิชชา 77
 มรณสติจุดสุดท้ายของชีวิต 91
 คุณธรรมค้าจุลโลก 97
 ธรรมะ คือหน้าที 104
 ปริศนาธรรมจากต้นมะม่วง ถอดรหัส ๙ วิธีฟื้นฟูชาติ 115
 ฟ้ าทางโหราศาสตร์ 120
 ส.ค.ส. พระราชทาน 122
 พระราชดารัสสาคัญ 126
 ด้วยสติรู้ตัว ด้วยปัญญารู้คิด ด้วยความสุจริตจริงใจ 137
 ถอดรหัสตถตา สู่โครงการชั่งหัวมัน 140
 ถอดรหัส ส.ค.ส.พระราชทาน ๒๕๔๗ 145
 หลักการดาเนินชีวิตชาวพุทธ 152
5
ต้องมี สติ และ ปัญญา
แสงสีส้มจัดจับขอบฟ้ า ท้องธาราเรียบสงบ แต่ฝูงปลาสัตว์สมุทรกลับพากันแตกตื่น เป็นสัญญาณ
ถึงภัยแห่งพายุร้ายที่กาลังจะมา บรรดากลาสีคนเรือต่างตระหนก พากันวิงวอนต่อเทพแห่งท้องนที มีแต่
พระมหาชนกที่ครองสติ พิจารณาหาหนทางจะพ้นภัย
พระมหาชนกเห็นว่านี่ไม่ถูกต้อง สวดอยู่นั่นไม่มีทาง ไม่เห็นมีเทวดาที่ไหนมาช่วยเพราะฉะนั้นพระ
มหาชนกก็บอกว่าป่วยการที่จะไปสวดอ้อนวอน ทางเดียวคือมาดูว่าในสถานการณ์คับขันเช่นนี้ เราควรทา
อะไร เราจะช่วยตัวเองได้อย่างไรจึงจะรอดได้ ก็มองปัญญาแสดงบทบาทออกมาทันที
เพราะเรือกาลังจะล่ม รีบกินเลย กินข้าวให้เต็มท้อง ทาไมต้องกินก็เพราะว่ารู้แน่ๆว่าต้องลอยอยู่ใน
มหาสมุทร ก็กินเท่าที่จะกินได้อย่างน้อยก็มีกาลังพอที่จะแหวกว่ายต่อไป เสร็จแล้วก็เอาน้ามันทาตัว
ทาไมต้องทาตัว เหตุผลก็คือว่าทาตัวแล้วนี่จะทาให้ตัวเบาเวลาว่ายในน้า เสร็จแล้วพอเรือกาลังจะล่มก็ปีน
ขึ้นบนเสากระโดง ทาไมต้องปีน ก็เพราะว่าต้องการกระโดดไปให้ไกลที่สุด ทาไมต้องกระโดดไปให้ไกล
ที่สุด ก็เพราะว่าถ้าตกลงตรงที่กาบเรือนี่ ไอ้คนที่กาลังจะจมนี่อาจจะฉุดแขนฉุดขา ผลที่สุดอาจจะไปไหน
ไม่ได้ ตายด้วยกันทั้งสองคน เพราะฉะนั้นต้องกระโดดไปให้ไกลที่สุด เรือกาลังจะล่มเสากระโดงมันเอน ก็
ทรงโดดลงไป ผลที่สุดเจ็ดวันเจ็ดคืนอยู่ได้ เพราะกินข้าวมาเต็มที่แล้ว
อันว่าความเพียรต้องประกอบด้วยสติและปัญญา จึงจะถึงซึ่งวิถีแห่งความสาเร็จดุจดั่งพระมหาชนก
แม้ยามแหวกว่ายในห้วงนทีอันแลมิเห็นที่สุด แต่ยังคงดารงสติในท่ามกลางความเพียรนั้น แลแม้ในยาม
ชีวิตคับขันก็มิได้ทรงละทิ้งธรรมปฏิบัติ
ดังปรากฏความพระปัญญาแห่งพระราชนิพนธ์พระมหาชนก ซึ่งแสดงการดารงสติไว้ได้ตลอดเวลา
ตามรอยพระราชนิพนธ์พระมหาชนก สติชอบ
6
ต้องมีความเพียร
ใครนี่ แม้เมื่อมองไม่เห็นฝั่ง ก็ยังกระทาความเพียรว่ายอยู่ในท่ามกลางมหาสมุทร ท่านเห็นประโยชน์
อะไร จึงพยายามว่ายอยู่อย่างนี้นัก.
ครั้งนั้น พระมหาสัตว์ทรงดาริว่า เราว่ายข้ามมหาสมุทรมาได้เจ็ดวันเข้าวันนี้ไม่เคยเห็นเพื่อนของเรา
เลย นี่ใครหนอมาพูดกะเรา เมื่อแลไปในอากาศก็ทอดพระเนตรเห็นนางมณีเมขลา จึงตรัสตอบว่า
ดูกรเทวดา เราพิจารณาเห็นวัตรของโลกและอานิสงส์แห่งความพยายาม ชื่อว่าความเพียร
ของบุรุษย่อมไม่เสียหาย ย่อมให้ตั้งอยู่ในความสุข ฉะนั้น เพราะฉะนั้น ถึงจะไม่เห็นฝั่ง เราก็ต้อง
พยายามว่ายอยู่ในท่ามกลางมหาสมุทร.
นางมณีเมขลาปรารถนาจะฟังธรรมกถาของพระมหาสัตว์ จึงกล่าวอีกว่า
ฝั่งมหาสมุทรอันลึกประมาณไม่ได้ ย่อมไม่ปรากฏ ความพยายามอย่างลูกผู้ชายของท่าน
ย่อมเปล่าประโยชน์ ท่านยังไม่ทันจะถึงฝั่งก็จักต้องตายเป็นแน่.
ครั้งนั้น พระมหาสัตว์ตรัสกะนางมณีเมขลาว่า ท่านพูดอะไรอย่างนั้น เราทาความพยายาม แม้ตายก็จัก
พ้นครหา ตรัสฉะนี้แล้ว จึงกล่าวต่อไปว่า
บุคคลผู้กระทาความเพียรอยู่ แม้จะตาย ก็ชื่อว่าไม่เป็นหนี้ คือ ไม่ถูกติเตียนในระหว่างหมู่
ญาติ เทวดาและพรหมทั้งหลาย อนึ่ง บุคคลเมื่อกระทากิจของบุรุษอยู่ ย่อมไม่เดือดร้อนใน
ภายหลัง.
7
ลาดับนั้น เทวดากล่าวกะพระมหาสัตว์ว่า
การงานอันใดยังไม่ถึงที่สุดด้วยความพยายาม การงานอันนั้นก็ไร้ผล มีความลาบากเกิดขึ้น
การทาความพยายามในฐานะอันไม่สมควรใด จนมัจจุคือความตายนั่นแลปรากฏขึ้น ความ
พยายามในฐานะอันไม่สมควรนั้นจะมีประโยชน์อะไร
เมื่อนางมณีเมขลากล่าวอย่างนี้แล้ว พระมหาสัตว์เมื่อจะทานางมณีเมขลาให้จานนต่อถ้อยคา จึงได้
ตรัสต่อไปว่า
ดูกรเทวดา ผู้ใดรู้แจ้งว่า การงานนี้ยังไม่ถึงที่สุดด้วยความพยายาม แล้วไม่ป้ องกันอันตราย
ชื่อว่าไม่พึงรักษาชีวิตของตน ถ้าผู้นั้นพึงละความเพียรในฐานะเช่นนั้นเสีย ก็จะพึงรู้ผลแห่งความ
เกียจคร้านนั้น
ดูกรเทวดา คนบางพวกในโลกนี้เห็นอยู่ซึ่งผลแห่งความประสงค์ จึงประกอบการงานทั้งหลาย การงาน
เหล่านั้นจะสาเร็จก็ตาม ไม่สาเร็จก็ตาม
ดูกรเทวดา ท่านย่อมเห็นผลแห่งการงานอันประจักษ์แก่ตนแล้วมิใช่หรือ คนอื่นๆ พากันจมลงใน
มหาสมุทร เราคนเดียวเท่านั้นพยายามว่ายข้ามอยู่และได้เห็นท่านมาสถิตอยู่ใกล้เรา เรานั้นจักพยายาม
ตามสติกาลังจักทาความเพียรที่บุรุษพึงกระทา ไปให้ถึงฝั่งแห่งมหาสมุทร.
เทวดาได้สดับพระวาจาอันมั่นคงของพระมหาสัตว์นั้น เมื่อจะสรรเสริญพระมหาสัตว์ จึงกล่าวว่า
ท่านใดถึงพร้อมด้วยความพยายามโดยธรรม ไม่จมลงในห้วงมหรรณพทั้งลึก ทั้งกว้างเห็น
ปานนี้ ด้วยการกระทาความเพียรของบุรุษ ท่านนั้นจงไปในสถานที่ซึ่งท่านปรารถนาเถิด
ดังปรากฏความพระปัญญาแห่งพระราชนิพนธ์พระมหาชนก ซึ่งแสดงการเห็น คุณค่าแห่งความ
เพียร ทุกความสาเร็จจะต้องเต็มไปด้วยอุปสรรค บางครั้งต้องยอมเอาชีวิตเข้าแลก
ตามรอยพระราชนิพนธ์พระมหาชนก ความเพียรชอบ
8
ทาไมจึงเป็นหนังสือที่ทรงรัก
“ที่ต้องขอบใจ เพราะว่า หนังสือเรื่องนี้เป็นที่รักของข้าพเจ้าเอง เป็น สิ่งที่เห็นว่ามีความสาคัญ
และโดยที่เป็นผู้ที่ทาขึ้นมา ถ้าไม่มีตัวเราเอง มีแต่ชาดก แล้วก็มีแต่ชาดกภาษาไทย ที่แปลมาจาก
ภาษาบาลี มีแต่ชาดกอาจจะเป็นภาษาอังกฤษที่เขาแปลมาจากภาษาบาลี ใครไปอ่านก็ไม่รู้เรื่อง
และไม่มีความหมายอะไรมากนัก”
พระราชดารัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เรื่อง พระราชนิพนธ์ "พระมหาชนก”
เป็นส่วนหนึ่งในพระราชดารัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ ๒๘ มีนาคม
๒๕๓๙ ระหว่างที่พระองค์ท่านเสด็จพระราชดาเนินออก ณ พระที่นั่งดุสิดาลัย สวนจิตรลดา
รโหฐาน พระราชวังดุสิต ซึ่งได้โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สื่อมวลชนเข้าเฝ้ าใต้ฝ่าละอองธุลี
พระบาท โดยได้แจ้งให้ทราบว่า หนังสือพระราชนิพนธ์เล่มล่าสุดของพระองค์ท่านเรื่อง "พระ
มหาชนก" เสร็จสิ้นแล้ว
9
ซึ่งทรงเชื่อมั่นว่าได้ทรงบรรลุพระราชภารกิจสาคัญที่สุดในรัชสมัยแห่งมงคลชัยในชีวิต
ประชาชนชาวไทยอันหาที่เปรียบไม่ได้ โดยที่ก่อนหน้านี้ในหลวงทรงพระราชนิพนธ์ ๒ เรื่อง คือ
นายอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระเมื่อปี ๒๕๓๖ และเรื่องติโต้ เมื่อปี ๒๕๓๗
เวลานี้พระราชนิพนธ์ "พระมหาชนก" ได้พิมพ์เผยแพร่ออกสู่สายตาผู้อ่านจานวนมาก
จัดพิมพ์โดยบริษัท อัมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์ พับลิซซิ่ง จากัด (มหาชน) ทั้งที่เป็นฉบับปกแข็ง
บรรจุกล่องสวยงาม นอกจากเนื้อหาที่ทรงคุณค่าแล้วยังมีภาพวาดประกอบของจิตรกรชื่อดัง ๘
คน คือ จินตนา เปี่ยมศิริ, ประหยัด พงษ์ดา, พิชัย นิรันต์, ปรีชา เถาทอง, เฉลิมชัย
โฆษิตพิพัฒน์, ปัญญา วิจินธนสาร, ธีระวัฒน์ คะนะมะ, เนติกร ชินโย พิมพ์ลายสีสวยสดใส
ทาให้หนังสือน่าอ่านและน่าเก็บรักษาไว้
10
รวมทั้งได้ทรงโปรดฯ ให้จัดพิมพ์ฉบับปกอ่อนเพื่อให้พสกนิกรได้มีโอกาสอ่านกันอย่างทั่วถึง
นอกจากนี้ยังมีบรรจุในแผ่นซีดี และมีเหรียญพระมหาชนกทั้ง เนื้อเงิน และเนื้อนาก เพื่อให้
ประชาชนนาไปสักการะบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล
สาหรับเหรียญนั้น ด้านหนึ่งเป็นพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวใน
พระอิริยาบถที่มีหยาดพระเสโทที่พระนาสิก เขียนข้อความ "วิริยะ PERSERVERANCE" และ
อักษาเทวนาครี อีกด้านหนึ่ง เป็นภาพพระมหาชนกในมหาสมุทรขณะทรงสนทนาธรรมกับนาง
มณีเมขลา ซึ่งปั้นจากต้นแบบภาพฝีพระหัตถ์สมเด็จฯเจ้าฟ้ ากรมพระยานริศรานุวัตติวงศ์
เหรียญเหล่านี้ได้ผ่านพิธีชัยมังคลาภิเษกที่วัดบวรนิเวศวิหาร โดยมีสมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเป็นประธานนั่งปรก พร้อมด้วยพระ
คณาจารย์อีกหลายรูป อาทิ หลวงตามหาบัว ญาณสังปันโน, หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ แห่งวัด
บ้านไร่ หลวงพ่อเปิ่นวัดบางพระ, หลวงพ่อแย้ม วัดตะเคียน
11
ในพิธีดังกล่าว สมเด็จพระสังฆราชตรัสว่า "ไทยเราในขณะนี้แม้เปรียบกับพระมหาชนก
ย่อมมีอันตรายเบากว่ามากมายนัก วิกฤตก็แตกต่างกัน แต่สามารถบาเพ็ญวิริยะบารมีให้เกิด
ผลสาเร็จอย่างวิเศษยิ่งได้เช่นเดียวกัน ขอให้ตั้งใจแผ่ความปรารถนาดีไปให้ทั่วถึงเพื่อนร่วม
ทุกข์ทั่วหน้าให้สามารถคิดถึงอนุภาพความเพียร คือวิริยะบารมี แล้วทุ่มกาลังกายกาลังใจ
ให้สามารถประคับประคองประเทศชาติให้พ้นวิกฤตการณ์ขณะนี้ให้ได้และโดยเร็ววิริยะบารมี
สาคัญ และพลังจิตสาคัญและสาคัญสาหรับนามาประคองวิริยะบารมีให้เกิดผลเต็มที่ด้วย
นั่นคือให้มีกาลังใจเข้มแข็งเต็มที่ ที่จะพยายามทาแต่ความดี วิริยะในการทาดีเท่านั้นที่จะถูกที่
จะให้พ้นทุกข์ทั้งหลายได้ สมเด็จพระบรมศาสดาทรงกล่าวไว้ว่า โลกถูกจิตนาไป ถูกจิตชักไป
สัตว์ทั้งปวงไปสู่อานาจแห่งจิตอย่างเดียว
เพราะฉะนั้นพึงตั้งเพียรทาใจให้ดี ให้มั่นคงในการดีทั้งปวง ให้พ้นการไม่ดีทั้งปวงงาน
มงคลนี้จะสาเร็จด้วยดี เกิดคุณประโยชน์แก่ผู้คนที่กาลังทุกข์ร้อนทั้งปวง"
ก่อนที่จะอ่านเนื้อหาในพระราชนิพนธ์ "พระมหาชนก" มีพระราชปรารภให้เห็นถึงที่มาว่า
เมื่อ พ.ศ.2520 พระองศ์ทรงสดับพระธรรมเทศนาของสมเด็จพระมหาวีรวงศ์
(วิน ธัมมสาโร มหาเถร) วัดราชผาติการาม เรื่องพระมหาชนก เสด็จทอดพระเนตรพระราช
อุทยานในกรุงมิถิลา เรื่องมีใจความว่า ที่ทางเข้าสวนหลวงมีต้นมะม่วงสองต้น ต้นหนึ่งมีผล
อีกต้นหนึ่งไม่มีผล ทรงลิ้มรสมะม่วงอันโอชาแล้วเสด็จเยี่ยมอุทยาน เมื่อเสด็จกลับออกจาก
สวนหลวงทอดพระเนตรเห็นมะม่วงที่มีผลรสดี ถูกข้าราชบริพารดึงทึ้งจนโค่นลง ส่วนต้นที่ไม่มี
12
ลูกก็ยังคงตั้งอยู่ตระหง่าน แสดงว่าสิ่งใดดี มีคุณภาพ จะเป็นเป้ าหมายของการยื้อแย่งและจะ
เป็นอันตรายในท่ามกลางผู้ที่ขาดปัญญา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสนพระทัย จึงทรงค้นเรื่องพระมหาชนกใน
พระไตรปิฎก (พระสุตตันตปิฏกขุททกนิกายชาดก เล่มที่ ๔ ภาคที่ ๒) และทรงแปลเป็น
ภาษาอังกฤษตรงจากมหาชนกชาดก ตั้งแต่ต้นเรื่องโดยทรงดัดแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อให้
เข้าใจง่ายขึ้น
พระมหาชนกบาเพ็ญวิริยะบารมีไม่หวังผลตอบแทนใด ๆ จนกระทั่งได้ทรงครองราชย์
สมบัติ และนาความเจริญมั่งคั่งแก่กรุงมิถิลาด้วยพระปรีชาสามารถ
มาถึงตอนเรื่องต้นมะม่วงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดาริว่า การที่พระ
มหาชนก จะเสด็จออกทรงแสวงโมกขธรรมยังไม่ถึงเวลาอันสมควร เพราะว่าได้ทรงสร้าง
ความเจริญแก่มิถิลายังไม่ครบถ้วน กล่าวคือข้าราชบริพาร"นับแต่อุปราชจนถึงคนรักษาช้าง
รักษาม้าและนับแต่คนรักษาม้าจนถึงอุปราช และโดยเฉพาะเหล่าอมาตย์ ล้วนจารึกในโมหภูมิ
13
ทั้งนั้น ไม่มีความรู้ทั้งวิทยาการ ทั้งทางปัญญายังไม่เห็นความสาคัญของผลประโยชน์แท้แม้
ของตนเอง จึงต้องตั้งสถานอบรมสั่งสอนให้เบ็ดเสร็จ"
อนึ่ง พระมหาชนกยังต้องทรงปรารภเรื่องการอนุบาลต้นมะม่วงตามวิธีสมัยใหม่ เก้าวิธีอีก
ด้วย
ด้วยประการเช่นนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงทรงดัดแปลงเนื้อเรื่องในมหาชนกชาดก
ให้เหมาะสมกับสังคมปัจจุบัน โดยมีพระราชดาริว่าพระมหาชนกจะบรรลุโมกขธรรมได้ง่าย
กว่า หากได้ประกอบพระราชกรณียกิจในโลกให้ครบถ้วนก่อน
รูปที่ประกอบเรื่องเป็นฝีมือของศิลปินไทย ซึ่งได้ทุ่มเททั้งกาลังกายและกาลังความคิด
อย่างเต็มที่ เพื่อถ่ายทอดความงามของเรื่องนี้ให้ครบถ้วนสมบูรณ์
"พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงแปลมหาชนกชาดกเสร็จสมบูรณ์เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๑
และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พิมพ์ในโอกาสเฉลิมฉลองกาญจนภิเษกแห่ง
รัชกาล ให้เป็นเครื่องพิจารณาเพื่อประโยชน์ในการดาเนินชีวิตของสาธุชนทั้งหลาย"
ขอจงทรงมีความเพียรที่บริสุทธิ์ ปัญญาที่เฉียบแหลม กาลังกายที่สมบูรณ์
พระตาหนักจิตรลดารโหฐาน ๙ มิถุนายน ๒๕๓๙
นายขวัญแก้ว วัชโรทัย รองเลขาธิการพระราชวังฝ่ายกิจกรรมพิเศษประธานคณะทางาน
สร้างเหรียญและพระราชนิพนธ์ "พระมหาชนก" ได้สรุปที่มาของพระราชนิพนธ์เรื่องนี้ว่า
"ระหว่าง ๕๐ ปีที่ทรงครองราชย์ทรงผ่านพ้นอุปสรรคนานาชนิด อุปสรรคนั้นคือวิกฤตการณ์
ต่าง ๆ เกิดเหตุเภทภัย ลุกลามถึงประชาชน โดยที่พระองค์ทรงเปรียบเสมือนพระพรหมของ
ประชาชนทุกคน เมื่อมีเหตุการณ์ก็พึ่งพระองค์ ขณะที่บ้านเมืองกาลังลุกเป็นไฟ พระองค์รับสั่ง
14
กับผู้ที่ทาให้เกิดเรื่องก็จะสงบทันที ซึ่งไม่มีที่ไหนในโลกนับว่าทรงเป็นมิ่งขวัญของประชาชน
ชาวไทยยากหาผู้เปรียบปาน
ในหลวงทรงลาบากมากกกว่าชาวไทยเป็นไหน ๆ ปัจจุบันไม่เคยมีพระเจ้าอยู่หัวพระองค์
ไหน ทรงเหนื่อยมาก ๆ เหมือนพระองค์ ทรงงานจนพระเสโทไหล ยากที่สามัญจะทาได้ ทรง
เป็นยอดมนุษย์ ยิ่งภาวะปัจจุบันคนไทยต้องมีความเพียรอดทน ไม่ย่อท้อโดยยึดเอาแบบอย่าง
จากพระองค์ก็จะประสบความสาเร็จในชีวิต
สมเด็จพระญานสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงอ่านแล้วถึงกับ
ตรัสว่า ถ้าใครได้อ่านแล้วมีปรัชญาชีวิต สิ่งที่ดีงามสอนให้ผู้คนอดทนไม่ท้อแท้เหมาะสมกับยุค
นี้ ทันสมัยทันต่อเหตุการณ์ถ้าอ่านให้ลึกซึ้งจริง ๆ ประชาชนชาวไทยคงไม่มีใครฆ่าตัวตาย
ทรงแปลเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษควบคู่กันไป เป็นประโยชน์ทิ้งชาวไทยและชาว
ต่างประเทศ ทรงถอดประวัติของพระองค์ตลอดระยะเวลา ๕๐ ปีที่ครองราชย์ ทรงประสบ
อุปสรรค ความยากลาบากเหมือนพระมหาชนกเมื่อเรือแตกก็ทรงว่ายน้าถึง ๗ วัน จนเทวดามา
ช่วย ในหลวงก็ทรงประสบวิกฤต แต่ทรงมีความเพียรไม่ท้อแท้ ซึ่งบางคนก็มีความเพียรอยู่แต่
ท้อแท้ ทาให้ไม่ประสบความสาเร็จในชีวิต และเหรียญที่จัดสร้างขึ้นนี้ไม่ใช่เครื่องรางของขลัง
แต่เป็นสิ่งเพิ่มกาลังใจในการต่อสู้กับชีวิต เป็นประทีปส่องทาง"
15
ใครที่ได้อ่านเรื่องพระมหาชนกต่างพูดตรงกันว่า พระองค์ทรงพระปรีชาสามารถ
ทางด้านวรรณกรรมยิ่งนักทรงใช้ภาษาที่กระชับ สละสลวยอ่านง่าย แสดงให้เห็นชัดแจนว่า
พระองค์ท่านทรงได้ศึกษาเรื่องที่จะเขียนและทรงมีความรู้อย่างลึกซึ้ง
พระมหาชนกฉบับพระราชนิพนธ์นี้ เป็นวรรณคดีพระพุทธศาสนาเรื่องหนึ่งในทศชาติ
ชาดก ซึ่งเป็นชาดก ๑๐ ชาติสุดท้าย ก่อนที่พระโพธิสัตว์จะมาประสูติเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ และ
ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ชาดกเรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงการบาเพ็ญบารมีของพระมหาชนก
วิริยะบารมี" ซึ่งเต็มไปด้วยความเพียรพยายามอย่างยิ่งยวด
บทแรกขึ้นต้นว่า ในอดีตกาลอันพ้นคณนาวิสัย ครั้งหนึ่งพระราชาพระนามว่า มหา
ชนก ครองราชสมบัติอยู่ในกรุงมิถิลา แคว้นวิเทหะ พระเจ้ามหาชนกนั้น มีพระราชโอรสสอง
พระองค์ พระนามว่าอริฏฐชนก และโปลชนก พระราชาพระราชทานตาแหน่งอุปราชแก่องค์พี่
และตาแหน่งเสนาบดีแก่องค์น้อง กาลต่อมาพระมหาชนกเสด็จสวรรคต พระอริฏฐชนกได้
ครองราชสมบัติและทรงรั้งพระโปลชนกเป็นอุปราช
วันหนึ่งอมาตย์ผู้ใกล้ชิดกราบทูลใส่ร้ายว่า พระอุปราชโปลชนกคิดไม่ซื่อพระอริฏฐชนก
หลงเชื่อ สั่งจองจาพระโปลชนกแต่พระโปลชนกตั้งจิตอธิษฐานและหลบหนีไปได้ ภายหลังได้
รวบรวมพลท้ารบและเอาชนะได้ในที่สุด พระอริฏฐชนกสิ้นพระชนม์ในที่รบ พระเทวีที่กาลัง
16
ทรงครรภ์จึงปลอมตัวหนีออกนอกเมือง ด้วยความช่วยเหลือของท้าวสักกเทวราช จึงเสด็จหนี
ไปจนถึงเมืองกาลจัมปากะ ได้พราหมณ์ ผู้หนึ่งอุปการะไว้ในฐานะน้องสาว
ต่อมาทรงมีประสูติกาล ตั้งพระนามพระโอรสตามพระอัยยิกาว่า "พระมหาชนก"
จบจนกระทั่งพระมหาชนกเติบใหญ่ และได้ทราบความจริงก็คิดจะไปค้าขายแล้วจะไปเอาราช
สมบัติคืน จึงนาสมบัติกึ่งหนึ่งของพระมารดาไปขาย แลกเป็นสินค้าออกเรือไปยังสุวรรณภูมิ
ระหว่างทางในมหาสมุทรเรือต้องพายุล่มลง ลูกเรือตายหมดเหลือแต่พระมหาชนก
รอดผู้เดียว ทรงอดทนว่ายน้าในมหาสมุทรด้วยความเพียร ๗ วัน ๗ คืน จนได้พบนางมณีเมขลา
และสนทนาธรรมในเรื่องของความเพียรในที่สุดนางมณีเมขลาได้อุ้มพระมหาชนกไปส่งยังมิถิ
ลานคร
เนื้อเรื่องหลังจากนี้น่าติดตามมาก ดังที่พระองค์รับสั่งว่า "ตัวหนังสือบางอย่างหรือ
คาบางอย่างได้ดัดแปลงให้ตรงกับความคิดสมัยใหม่นี้บ้าง ที่อาจไม่เป็นประโยชน์แก่คนปัจจุบัน
ก็ได้ละเว้น และได้ตกแต่งส่วนใหม่ที่เป็นประโยชน์แก่สังคมปัจจุบัน
17
พระราชนิพนธ์"พระมหาชนก"
มีความลึกซึ้ง ขึ้นอยู่กับการตีความตามแต่ภูมิหลังของแต่ละช่วงอายุ วัย และประสบการณ์
พระมหาชนกทรงมีกาลังจากอาหารที่เสวย มีผ้าชุบน้ามัน ช่วยไล่สัตว์น้า และช่วยให้ลอยตัวอยู่ในน้าได้
ดี จึงทรงแหวกว่าย อยู่ในทะเลได้นานถึง ๗ วัน ฝ่ายนางมณีเมขลา เทพธิดาผู้รักษามหาสมุทร เห็นพระมหา
ชนก ว่ายน้าอยู่เช่นนั้น จึงลองพระทัย พระมหาชนก "ใครหนอ ว่ายน้าอยู่ได้ถึง ๗ วัน ทั้งๆ ที่มองไม่เห็นฝั่ง
จะทนว่ายไปทาไมกัน" พระมหาชนกทรงตอบว่า "ความเพียรย่อมมีประโยชน์ แม้จะมองไม่เห็นฝั่ง เราก็จะ
ว่ายไปจนกว่าจะถึง ฝั่งเข้าสักวันหนึ่ง" นางมณีเมขลากล่าวว่า "มหาสมุทรนี้กว้างใหญ่นัก ท่านจะพยายาม
ว่ายสักเท่าไรก็คงไม่ถึงฝั่ง ท่านคงจะ ตายเสียก่อนเป็นแน่" พระมหาชนกตรัสตอบว่า "คนที่ทาความเพียรนั้น
แม้จะต้องตายไปในขณะกาลังทา ความเพียรพยายามอยู่ ก็จะไม่มีผู้ใดมาตาหนิติเตียนได้เพราะได้ทาหน้าที่
เต็มกาลังแล้ว " นางมณีเมขลาถามต่อว่า "การทาความพยายามโดยมองไม่เห็น ทางบรรลุเป้ าหมายนั้น มีแต่
ความยากลาบาก อาจถึงตายได้จะต้องเพียรพยายามไปทาไมกัน" พระมหาชนกตรัสตอบว่า "แม้จะรู้ว่าสิ่งที่
เรา กาลังกระทานั้นอาจไม่สาเร็จก็ตาม ถ้าไม่เพียรพยายามแต่กลับหมดมานะเสียแต่ต้นมือ ย่อมได้รับ ผลร้าย
ของความเกียจคร้านอย่างแน่นอน ย่อมไม่มีวัน บรรลุถึงเป้ าหมายที่ต้องการ บุคคลควรตั้งความเพียรพยายาม
แม้การนั้นอาจไม่สาเร็จก็ตาม เพราะเรามีความพยายาม ไม่ละความตั้งใจ เราจึงยังมีชีวิตอยู่ได้ในทะเลนี้ เมื่อ
คนอื่นได้ตายกันไปหมดแล้ว เราจะพยายามสุดกาลัง เพื่อไปให้ถึงฝั่งให้จงได้" นางมณีเมขลาได้ยินดังนั้น ก็
เอ่ยสรรเสริญความเพียร ของมหาชนกกุมาร และช่วยอุ้มพามหาชนกกุมาร ไปจนถึงฝั่งเมืองมิถิลา วาง
พระองค์ไว้ที่ศาลาในสวนแห่งหนึ่ง ในเมืองมิถิลา
18
ส.ค.ส. พระราชทาน ประจาปี ๒๕๔๒
ทรงให้คนไทยมีความเพียร เช่นเดียวกับพระมหาชนก
และทรงเน้นเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงว่าเป็นทางแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ
19
ดร.สมิทธ กล่าวถึงนายหลวง
จากการสัมภาสโดยทีมงานชุมชนตามรอยพระมหาชนกเว็บพลังจิต
ดร.สมิทธธรรมสโรช : ผมเป็นคนให้ข้อมูลเอง… พระองค์ท่านเป็นคนริเริ่มที่จะทาเรื่องนี้ ที่จะเอา
ธรรมชาติขึ้นมาสอนมนุษย์ธรรมชาติที่เคยเกิดขึ้น วันเดือนที่พระองค์ท่านคานวณ ย้อนหลังเป็นร้อยๆปี ตรง
กับวันที่เกิดภัยพิบัติจริงเกิดขึ้น พระมหาชนกที่ว่ายอยู่ในทะเลอินเดียเป็นวันที่เกิดพายุไซโครนจริงๆ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงศึกษา อุตุนิยมวิทยา ทรงรอบรู้ ศึกษาด้วยพระองค์เอง
ท่านใช้หลักวิทยาศาสตร์ หลักเทคโนโลยี ทาง IT ท่านทาฝนเทียมท่านศึกษาเยอะ ผมเคยพาผู้เชี่ยวชาญ
ของสหประชาชาติ เป็นเลขาธิการองค์การอุตุนิยมวิทยา เก่งมาก เข้าไปเฝ้าคุยกัยอยู่นานเป็นชั่วโมงเลย
ศาสดาจารย์โอบาชิ โลก ( Dr.Prof. Godwin O.P. Obasi ) ท่านจบจากมหาลัย MIT เป็นมหาลัยที่มีชื่อเสียง
ของอเมริกา พอเขาออกมาเขาชื่นชมมากเลย บอกคุยประเจ้าแผ่นดินของยู พระองค์ท่านรับสั่งเหมือน
อาจารย์ผมที่สอนอยู่มหาลัย MIT เลย ผมภูมิใจมาก พระองค์ท่านทรงรอบรู้หมด อธิบายเป็นขั้นตอน การทา
ฝนเทียม เลี้ยงให้อ้วน ทาให้ฝนตกอย่างไร เป็นขั้นตอนตามหลักวิทยาศาสตร์ ซึ้งพระองค์ท่านไม่ได้เรียน
ทางอุตุนิยมวิทยามา แต่ทรงรอบรู้มาก ดร. โอบาชิ นี้เวลาไปบรรยายที่ไหนจะเอยถึง King of Thailand แล้ว
ก็มาถวายประกาศนียบัตรเชิดชูว่าเป็นพระเจ้าแผ่นดินพระองค์แรกของโลก ที่เป็นนักอุตุนิยมวิทยา เข้าไป
ถวายเลย เคยไปถวายเครื่องอุตุนิยมวิทยาติดตั้งไว้ที่สวนจิตร และขอเข้าเฝ้าอีกสักครั้ง
ท่านก็บอก..เครื่องมืออุตุหายไปเยอะเลย ผมก็....ใครจะเข้ามาขโมยเครื่องมือของผมที่ไปติดตั้งไว้ให้
ปรากฏว่ากบ , อีกาที่รัฐสภามากินกบท่าน ,กบเป็นเครื่องมือของท่าน เพราะกบมันร้อง ทรงมีพระอารมณ์
ขัน นั้นคือเครื่องมือกรมอุตุ ผมก็เลยไปต้องบอกปลัดกระทรวงเกษตรให้เอากบไปปล่อย เวลาพระองค์ท่าน
จะทรงนิพนธ์เรื่องพงศาวดาร พระองค์ท่านทรงต้องมีหลักฐานว่าสิ่งที่นิพนธ์ขึ้นมา สิ่งที่จะเขียนลงไปต้อง
ใกล้ความจริง พระองค์ท่านทรงคานวณวันเวลา วันที่พระมหาชนกที่ต้องลงไปว่ายในน้ามีเคลื่อนลมแรงตรง
กับทางวิทยาศาสตร์ทางอุตุวิทยาว่ามันเกิดอย่างนั้นขึ้นมาจริงๆในมหาสมุทรอินเดีย ไม่ต้องไปถอดรหัสมัน
เป็นเรื่องจริงทั้งนั้น แผ่นที่ที่พระองค์ท่านเขียนอะไรต่างๆถูกต้องหมดตามหลักวิชาหมดเลย
20
ทีมตามรอยพระมหาชนก : อันนี้ที่พระองค์ท่านเขียนไว้9 May วันอุโบสก ก็คือไปเทียบกับปฏิทิน 100
ปี ปีที่จะต้อง 9 May ก็คือ พ.ศ. 2556, 2556 จะมีพายุมากตรงนี้และพระมหาชนกจะจมน้า ก็เลยบอกว่า 9
May และจะเป็นปีที่ตรงกับ 2012 ซึ่งเป็น Solar Maximum ทาไมปีตรงเดือนตรงกันเลย พระองค์ท่านจะบอก
อะไรหรือเปล่า กาลังถอดรหัสกันอยู่
ดร.สมิทธธรรมสโรช : พระองค์ท่านทรงทราบ แต่ทรงไม่กล้าบอกตรงๆ
ทีมตามรอยพระมหาชนก : ก็เลยถอดรหัสมันใช้เลย ก็เลยจาไว้ว่าวันนี้วันอุโบสก วันนั้นวันพระแน่นอน
และก็เกิดอย่างนั้น
ดร.สมิทธธรรมสโรช : ท่านนั่งทางใน....ในหลวงนี้.. เวลาเข้าเฝ้าสังเกตดูสิ พระองค์ท่านหยุดรับสั่งเฉยๆ
นั่งเฉยๆ นั่งสักพักแล้วก็มีรับสั่งมา ท่านนั่งทางใน ผมเคยไปเถียงกับพระองค์ท่าน เรื่องพายุเอนเจลล่า ผมยัง
จาได้พระองค์ท่าน.. มันมีพายุเอนเจลล่า.เป็นซีเรียส ทรอปิคคัลสตอร์ม (Serious Tropical Storm) เข้ามา ผม
ก็ทายว่าจะต้องเข้ามาผ่านเวียดนาม ผ่านเขมรลงมาที่ประเทศไทย ไม่ใช้ผมคานวณอย่างเดียว มีหน่วย
อุตุนิยมวิทยาข้างเคียง ทั้ง CNN BBC ทั้งญี่ปุ่น ทั้งจีน บอกว่าเข้าแน่นอนกรุงเทพมหานคร กรุงเทพมหานคร
ตอนนั้นท่วมอยู่แล้ว สมัยท่านผู้ว่ากฤษฎา อรุณวงษ์ ณ อยุธยา พระองค์ท่านก็มีรับสั่งว่าไม่เข้า ผมถวายตอน
เป็นอธิบดี ถวายรายงานทุกเย็นเลย สามโมงเย็นเขียนแผ่นที่ถวายรายงานสภาวะอากาศ ถวายพระองค์ท่าน
ทุกเย็น คือพระองค์ท่านส่งกลับมาอีกว่าไม่เข้า ผมก็ถวายอีกว่าต้องเข้าอย่างนี้ พระองค์ท่านก็ส่งกลับมาอีก
ผมก็เลยบอกว่า กราบถวายเพื่อได้โปรดทรงพระราชวินิจฉัย พระองค์ท่านทรงหัวเราะเลยแล้วก็บอกว่าไม่เข้า
แล้วก็ไม่เข้าจริงๆ ทั้งๆที่หน่วยอุตุนิยมวิทยาประเทศอื่นก็บอกว่าเข้า พอมาถึงฝั่งเวียดนามมัน Recurve (
ย้อนกลับ) ขึ้นไป ไปเกาะไหหลาเข้าประเทศจีน คนของประเทศจีนตายเป็นร้อยคน แต่ประเทศไทยไม่มี
อะไรเลย ก็นี้ผมก็เลยไปเข้าเฝ้าอีกครั้งหนึ่งหลังจากนั้นไปกับ ดร สุเมธ , ดร สุเมธถามว่าทาไมไม่เข้า
พระองค์ท่านก็ชี้มาที่ผมถามคนนี้ ผมก็กราบบังคุมถามอีกครั้ง ท่านให้นางมณีเมขลา พาพายุลูกนี้ไปเขาพระ
สุเมรุแล้ว พูดแค่นี้เราก็ไม่กล้าถามอีก ,ไม่กล้าถามก็เคยคุยกับมหาเล็กหลายคนบางครั้งพระองค์ท่านมีรับสั่ง..
ไปรอรับพระที่อยู่ที่หน้าประตุเข้ามาด้วย มีเกจิอาจารย์ที่ในตระวันออกเฉียงเหนือหลายองค์ ที่เข้าเฝ้าโดยไม่
มีหมายไม่มีอะไรเลย แต่ท่านสื่อกันทางจิตมาเข้าเฝ้ามาพบ แล้วมหาเล็กก็เดินดุ่มๆแล้วก็เจอจริงๆพระมายืน
รอจะเข้าเฝ้า
21
คุณดูเวลาท่านพระราชทาน ส.ค.ส. ประจาปีใหม่ในนั้นถ้าคุณ แกะอะไรให้ดี มีอะไรเยอะที่พระองค์ท่าน
จะบอก แต่พระองค์ท่านจะไม่พูดมาตรงๆ บางครั้งท่านรู้ท่านก็ไม่ยากพูดอย่างผมตอนไปกราบบังคมทูล
บอกให้ผมทานู้นี้ เกี่ยวกับเรื่องน้า เรื่องเขื่อน เรื่องอะไร พระองค์ท่านบอกว่านี้อยากมาพูดเลย ฉันไม่อยาก
ให้ใครมาเดินขบวนหน้าบ้านฉัน ฉันก็กลัวพวก NGO มาว่าเหมือนกัน อีกหน่อยท่านก็จะพูดอะไรท่านก็
ระวังเพราะมีคนสองฝ่าย คนที่เห็นด้วยก็จะชอบ คนที่ไม่เห็นด้วยก็อาจจะเคือง เพราะฉะนั้นท่านเป็นอยู่จุด
นั้นแล้วนะ....บางคนบอกว่าเสื้อแดง เสื้อเหลืองออกมารบกันทาไมไม่ทรงออกมาห้ามพระองค์ท่านทรงพูด
ไม่ได้หลอก เพราะคนมีการสนับสนุนทั้งสองข้างบางครั้งพระองค์ท่านก็อึดอัดเหมือนกัน
อยากไปใช้พระองค์ท่านมากนัก ผมว่าเราใช้พระองค์ท่านมากเหลือเกิน...เอะอะ..ก็ให้นายหลวงออกมา
ตัดสิน ตัดสินอยู่เรื่อย มันไม่ได้หลอกครับ พระองค์ท่านอยู่ในจุดนั้นท่านออกมาพูดอย่างนั้นไม่ได้ท่านจะ
มาเข้าข้างคนใดคนหนึ่งไม่ได้ออกมาพูด บางที่ผมยังนึกว่า.. เคยได้ยินท่านรับสั่ง.. คนอ้างชื่อพระองค์ท่าน
เรื่อย
ทาเพื่อนายหลวง ทาเพื่อสถาบัน
พระองค์ท่านอาจรับสั่งว่า ทาเพื่อสถาบัน มันต้องทาเพื่อประเทศชาติด้วย
ถ้าว่าทาเพื่อสถาบัน สถาบันอยู่แต่ประเทศชาติไม่อยู่แล้วฉันจะไปเป็นพระเจ้าแผ่นดินประเทศไหน
อันนี้บางที่เราใช้ท่านมากไป เราใช้ท่านมากไป.. อันนี้บางคนแล้วแต่คนพระองค์ท่านทรงมีพระบารมี ผม
ไม่เชื่อว่าพระองค์ท่านเป็นมนุษย์นะ ผมเชื่อว่าพระองค์ท่านเป็นเทพนะ เป็นเทพนะจริงๆ เป็นเทพ สาหรับ
ผมเองท่านเป็นเทพไม่ใช้มนุษย์ธรรมดา
22
ตามรอยพระมหาชนกชาดก
ภาพ มหาชนกวัดมัชฌิมาวาส
พระมหาชนก เป็นเรื่องหนึ่งในทศชาติชาดกอันเป็นทศชาติชาดก ๑๐ ชาติสุดท้าย ก่อนที่พระโพธิสัตว์จะ
มาประสูติเป็นเจ้าชายสิทธัตถะและตรัสรู้เป็นพระสัมมาพุทธเจ้า มหาชนกชาดกเรื่องนี้เป็นการบาเพ็ญความ
เพียรเป็นบารมี
ผู้บาเพ็ญวิริยะบารมีสูงสุด ยอดคนผู้มีความพากเพียรมั่น
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสนพระราชหฤทัย จึงทรงค้นเรื่องพระมหาชนกในพระไตรปิฎกและ
ทรงแปลเป็นภาษาอังกฤษตรงจากมหาชนกชาดก ตั้งแต่ต้นเรื่อง โดยทรงดัดแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อให้เข้าใจ
ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ยังทรงแปลเป็นภาษาสันสกฤต ประกอบอีกภาษา รวมทั้งแผนที่ฝีพระหัตถ์ แสดงสถาน
ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของเมืองโบราณบางแห่งและข้อมูลอุตุนิยมวิทยาเกี่ยวกับทิศทางลม กับกาหนดวันเดิน
ทะเลตลอดจนจุดอัปปางของเรืออับโชค ทรงคาดคะเนโดยอาศัยข้อมูลทางโหราศาสตร์ แสดงถึงพระปรีชา
ในด้านอักษรศาสตร์ ภูมิศาสตร์และโหราศาสตร์ไทย ในโอกาสเฉลิมฉลองกาญจนาภิเษกแห่งรัชกาล เมื่อ
พ.ศ. ๒๕๓๙
พระราชนิพนธ์เรื่องพระมหาชนก ก็ออกจาหน่าย และเป็นที่ชื่นชมโดยทั่วไป แต่หนังสือพระราชนิพนธ์
นี้ก็ยังอ่านค่อนข้างยาก ด้วยความซับซ้อนของข้อความและของภาพ ทาให้มีการวิจารณ์และตีความกัน
ในทางต่างๆ นานา
23
อิทธิบาท ๔
อิทธิบาท ๔
บาทฐานแห่งความสาเร็จ หมายถึง ฐานหรือหนทางสู่ความสาเร็จ
๑. ฉันทะ ความพอใจรักใคร่ในสิ่งนั้น
๒. วิริยะ ความพากเพียรในสิ่งนั้น
๓. จิตตะ ความเอาใจใส่ฝักใฝ่ในสิ่งนั้น
๔. วิมังสา ความหมั่นสอดส่องในเหตุผลของสิ่งนั้น
24
ตามรอยพระราชนิพนธ์มหาชนก
ความสัมพันธ์ของสรรพสิ่ง เกี่ยวเนื่องสอดคล้องกันและกัน ดังกฎอิปปัจตา ที่พระพุทธองค์ ทรงกล่าวไป
เมื่อ ๒๕๐๐ ปีในอดีตว่า เมื่อมีสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงมี เพราะสิ่งนี้เกิดขึ้น สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น
เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้จึงไม่มี เมื่อสิ่งนี้ดับไป สิ่งนี้ก็ดับ
จากชาดกพระมหาชนกนี้ หนังสือพระราชนิพนธ์พระมหาชนก ขององค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เกิดขึ้น
เมื่อหนังสือพระราชนิพนธ์พระมหาชนกมี หนังสือตามรอยพระมหาชนกเล่มนี้จึงเกิดขึ้น
หนังสือพระราชนิพนธ์พระมหาชนก เป็นราชนิพนธ์ที่ต้นเรื่องมาจากพระมหาชนก ซึ่งเป็นชาดกใน ๑๐
ภพชาติสุดท้ายขององค์พระสัมมาสัมมาพุทธเจ้า ก่อนมาเกิดเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ ในชาดกมหาชนก เป็น
ชาดกที่สอนเรื่อง วิริยะบาท เป็นบาทสอนเรื่องความเพียร
หนังสือตามรอยพระมหาชนก เป็นหนังสือตามรอยอธิบาท ๔ ในบทวิริยะมรรค ในบทความเพียง
ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา อธิบาท ๔ ซึ่งเป็นหนทางสู่ความสาเร็จ ซึ่งเป็นการเดินต่อเนื่องเป็นสายดังสายน้า
ต่อเนื่องสู่ความสาเร็จ และตามร่องรอยงานขององค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในกิจเรื่องการแก้ไข วางแผน
โครงการพระราชดาริเกี่ยวกับน้า ให้แก่ประเทศไทยแบบองค์รวม ไม่ว่าจะเป็นโครงการฝนเทียม ศูนย์มณี
เมขลา เพื่อวิกฤตกาลเรื่องน้า อนาคตของประเทศไทยไว้ล่วงหน้า เราจะเห็นพ่อของแผ่นดินนี้ทางานให้แก่
ลูก 60 ล้าน เปรียบเหมือนสายฝนที่ชุมช่าทั่วผืนแผ่นดินไทย
จากภาพฝีพระหัตถ์ในพระราชนิพนธ์พระมหาชนก ทรงแสดงถึงความลุ่มลึกแห่งพระปัญญาที่พระองค์
ท่านทรงซ้อนไว้ในภาพจักราศีที่ปรากฏแสดงถึง พระอัจฉริยภาพทางด้านพุทธศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และ
โหราศาสตร์
พระราชนิพนธ์พระมหาชนก เป็นต้นแบบความเพียรที่องค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวใช้เวลาในการพระราช
นิพนธ์ถึง 11 ปี จากทศชาติชาดก 10 ชาติสุดท้ายของพระโพธิสัตว์ก่อนจะเสวยพระชาติมาเกิดเป็น
พระพุทธเจ้า
มหาชนกชาดก เป็นชาดกในภาค บาเพ็ญเพียร วิริยะบารมี ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็น
ต้นแบบเปรียบดั่งพระโพธิสัตว์ผ่านผลงานมากมายตลอดเวลาตอนถึงทุกวันนี้
อยากจะกล่าวว่า ช่างโชคดีนักที่ได้เกิดในรัฐสมัยองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พระราชนิพนธ์พระมหาชนก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงใช้ความเพียรที่บริสุทธิ์พระราชนิพนธ์
ถึง ๑๑ ปี ในการเรียบเรียงแล้วเสร็จทรงเริ่มต้นตั้งแต่ปี ๒๕๒๐ – ๒๕๓๑ ซึ่งเห็นถึงความตั้งมั่นในความ
เพียรเป็นเวลายาวนาน ซึ่งแสดงเป็นต้นแบบในการทางานด้วยความเพียร
25
ตามรอยพระมหาชนกพระอัจฉริยะภาพ แห่งองค์พระโพธิสัตว์
คาสั่งสอนที่ประเสริฐที่สุดในภพจักรวาล เกิดขึ้นในวันจาตุรงคสันติ
บาต วันที่พระพุทธองค์ทรงประธานหลักโอวาทปาฏิโมกข์ อันเป็นหัวใจ
ของพุทธศาสนา แด่พระอรหันต์สาวกผู้เป็นอหิภิกขุที่ได้รับการอุปสมบท
จากพระพุทธเจ้าโดยตรง ทั้ง ๑,๒๕๐ องค์ ในวันมาฆะบูชา ที่เกิดขึ้นเมื่อ
๒๕๐๐ กว่าปีก่อน คาสอนโอวาทปาฏิโมกข์หลังพระพุทธองค์ทรงตรัสรู้
เป็นหลักคาสอนสาคัญหลักของพระพุทธศาสนา และพรประเสริฐสุดแห่ง
ภพจักรวาล พระพุทธพจน์คาถาแรกได้แก่ ขันติ ความอดทนอดกลั้น
(ตีความจากภาพฝีพระหัตถ์ ภาพ Mani Makkala 9 May วันนี้วันอุโบสถ)
คาสั่งสอนที่ประเสริฐที่สุดของคนไทยจากพระราชนิพนธ์พระมหาชนกของพระบาทสมเด็จพระ
เจ้าอยู่หัว เมื่อ ปี ๒๕๓๗ และพระองค์ท่านทรงตามรอยองค์สมเด็จสัมมาพระพุทธเจ้าในทศบารมี พระองค์
ท่านทรงประทานพรเรื่องความเพียร และเป็นแบบอย่างแด่พสกนิกร เพื่อให้งานบรรลุจุดมุ่งหมายอันสูงยิ่ง
ด้วย วิริยะบารมี ทรงบาเพ็ญวิริยาบารมีขั้นสูงสุดเป็นแบบอย่าง ดั่งพระมหาชนก ที่ทรงพากเพียรว่ายน้าข้าม
มหาสมุทร คราวเดินเรือไปค้าขาย แล้วเกิดเรืออับปาง ทั้งที่ไม่รู้จะถึงฝั่งเมื่อไร
(จากพระราชนิพนธ์พระมหาชนก)
๒ พฤษภาคม ๒๕๕๑ เวลา ๐๔.๐๐น. เหตุการณ์พายุนาร์กีส ได้คร่าชีวิตประชาชนบริเวณปากแม่น้าอิ
รวะดีไปไม่น้อยกว่าแสนชีวิต
แด่.....ดวงวิญญาณจากเหตุการณ์พายุนาร์กีสทุกดวงขอจงสู่สรวงสรรค์ บริเวณที่ประสพภัยติดพื้น
แผ่นดินไทยและฝนได้ช่วยสกัดพายุเข้าพื้นแผ่นดินไทย
(ตีความจากภาพฝีพระหัตถ์ Mini Mekkala 2 May Top Cyclone)
26
พระราชดารัสในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
พระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ ที่เข้าเฝ้าฯถวายชัยมงคลในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา
ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชงดุสิตฯ วันจันทร์ ที่ ๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๘
พายุเอนเจลล่า
.....แต่เมืองไทยนี้วิเศษจริงๆ เพราะว่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่มีขึ้นให้น้าท่วมนี่รู้สึกเกิดขึ้นไม่ใช่เฉพาะ
กรุงเทพฯ และปริมณฑล เดือดร้อนตั้งแต่ภาคเหนือลงมาถึงภาคใต้และทางอีสานก็มี ภาคใต้ก็มี แต่ว่าที่
เดือดร้อนที่สุดก็อยู่ใกล้ที่นั่งของเราที่นั่งอยู่เดี๋ยวนี้ ก็คือกรุงเทพฯ เดือดร้อน แต่ก็เรื่องมันไม่มากนัก เพราะมี
สิ่งที่ช่วยเมื่อน้าท่วมอยู่จวนจะแห้ง ทางกรมอุตุนิยมโดยนายสมิทธ ธรรมสโรช ได้ส่ง
พยากรณ์อากาศมาให้ แล้วเขียนไว้เป็นโน้ตบอกว่ากรมอุตุนิยมถวาย เกี่ยวข้องกับ
พยากรณ์อากาศ และเกี่ยวข้องกับพยากรณ์การเคลื่อนไหวของพายุ เขาบอกว่า ถวาย
แล้วต่อด้วยเพื่อทรงพิจารณา หมายความว่า กรมอุตุนิยมมาใช้เรา ใช้เราเป็นผู้
พยากรณ์ก็เป็นเกียรติ เขาเขียนว่าเพื่อทรงพิจารณา ดูแล้ว ก็หนักใจอยู่ เพราะว่าดูใน
แผนที่อากาศ พายุเอนเจลล่า อ้วนจ้าม่า อ้วนเหมือนในการ์ตูน
27
เอนแจลล่า ไม่ทราบว่าท่านทั้งหลายเห็นหรือเปล่า เอนเจลล่าที่เป็นอริของป๊ อบอาย ไม่ทราบว่าเห็นหรือ
เปล่า เห็นไหมว่าในการ์ตูนป๊ อบอายมีเอนเจลล่า ตัวเบ้อเร่ออ้วนเลย นี่แหละกาลังมาเป็นอริกับเรา แล้วก็คุณ
สมิทธก็บอกว่า เอนแจลล่าเป็นซุปเปอร์ไต้ฝุ่ นน่ากลัว คร่าชีวิตในฟิลิปปินส์พันกว่า ผ่านมาแล้ว มาในทะเล
จีนใต้ตามธรรมดาเมื่อเวลาพายุผ่านฟิลิปปินส์ มันต้องผอมลง
แต่นี่คุณเอนเจลล่ามันอ้วนขึ้นเป็นซุปเปอร์ไต้ฝุ่น เราก็ไม่รู้จะทาอย่างไร ได้รับพยากรณ์อากาศนั้นตอน
บ่าย ตอนบ่ายแก่ๆ มาดูเอ เราจะทาอย่างไร ก็ดูถึงประมาณตี ๑ แล้วก็รู้สึกว่าต้องดูต้องใช้ ไอทีหน่อย ใช้อิน
ฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี (Information Technology)
เราก็ใช้อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยีแล้ว รู้สึกว่า เอนเจลล่านี่จะแพ้แรง คือ แพ้แรงจะต้องบอก ต้องเผย ให้
ทราบ แพ้แรงมณีเมขลา เพราะว่า เดี๋ยวนี้ท่านทั้งหลายก็คงเข้าใจคงรู้จักนางมณีเมขลาพอสมควรแล้ว ก็เลย
บอกไปตอนตี ๑ ว่า ให้บอกกรมอุตุนิยมว่า พรุ่งนี้ จะหมายถึงพรุ่งนี้แบบไทยหรือพรุ่งนี้แบบฝรั่งก็ไม่ทราบ
แต่ว่าพรุ่งนี้จะกลายเป็นดีเปรสชั่น จากซุปเปอร์ไต้ฝุ่นนี้จะกลายเป็นดีเปรสชั่น และต่อไปอีก ๒ วัน จะเป็น
หย่อมความกดอากาศต่าที่จะอยู่แถวๆ ไหหลา ฤาเข้าไปเมืองจีนก็คงต่า
ข้อพิจารณาอย่างนี้ เสร็จแล้ววันรุ่งขึ้นก็ดูไอทีต่อไป เอ!ดีแล้ว ที่เราพูดนับว่าถูกพอสมควร ควรจะถูก
พอสมควร
แต่ว่าทางวิทยุพวก CNN BBC เขาก็ยังบอกว่าเป็นไต้ฝุ่น ไต้ฝุ่นอีก วันรุ่งขึ้นก็เป็นไต้ฝุ่น วันต่อไปก็เป็น
ซีเรียส ทรอปิคคัลสตอร์ม (Serious Tropical Storm) หมายความว่า เป็นพายุโซนร้อนที่รุนแรง แต่ดูไม่
รุนแรง เราก็ยืนยันว่าเมืองไทยไม่เป็น แล้วในที่สุด ท่านทั้งหลายเจอเอนเจลล่าที่ไหนก็คงไม่ได้เจอ บินไปที่
โน่นที่นี่ก็ไม่ได้เจอคุณเอนเจลล่าเลย คุณเอนเจลล่าก็ไม่เข้าคุณสมิทธบอกเข้า
28
ขอโทษคุณสมิทธ ก็หมายความว่า คุณสมิทธวันก่อนนี้มาพบ แล้วก็ถามว่ายังไง ก็ได้บอกว่าให้นางมณี
เมขลาไปเจรจา ก็ได้ผลดี ถ้ามาแบบที่ว่าเพราะว่าเคยมีไต้ฝุ่นใหญ่ และเข้าทะลุเมืองเวียดนาม และเข้ามาใน
เมืองไทย ผ่านแถวมุกดาหาร หรือแถวอุบล เข้ามาจะเห็นว่าพังจริงๆ แต่ไม่เป็นอะไร
ฉะนั้นก็ตอนนี้จะได้โฆษณา โฆษณามณีเมขลา
มณีเมขลาและหนังสือเล่มใหม่
สานักงานมณีเมขลานี้ ท่านก็ได้ทราบว่าสานักงานมณีเมขลานี้ ได้แถลงอาการพระประชวร ก็คงนึก
สานักงานนี้เป็นอะไรแน่ เป็นสานักงานอุตุนิยมมีฐานที่ตั้งอยู่ที่เขาพระสุเมรุ ก็ถามว่าเขาพระสุเมรุอยู่ที่ไหน
ก็มีแผนที่ให้ในเล่มนี้ มีสานักงานมณีเมขลา เขาพระสุเมรุอยู่ที่นี่ เป็นที่ตั้งของสานักงานมณีเมขลา
แต่ที่จริง สานักงานมณีเมขลานี้เป็นสาขาหนึ่ง เป็นส่วนหนึ่งของสานักงาน ฝล. ท่านคงยังไม่เคยทราบ
ว่าสานักงาน ฝล. นี้คืออะไร สานักงาน ฝล. คือ นี่เป็นเครื่องหมายของสานักงาน ฝล. ท่านที่ไม่มีกล้องส่องก็
คงไม่เห็น แตอีกหน่อยก็คงมีชื่อเสียงดีมาก สานักงาน ฝล. นี้ สานักงานมณีเมขลา เป็นส่วนหนึ่งของ
สานักงาน ฝล. แต่ที่สาคัญที่สุดคือว่า นางมณเมขลานี้เป็นตัวละครสาคัญ ในหนังสือเล่มใหม่ที่จะออกใน
โอกาส ๕๐ ปีกาญจนาภิเษก เป็นหนังสือที่กาลังทา หวังว่าจะทาเสร็จทันสาหรับฉลอง
คือว่าหนังสือเล่มนี้ ไม่เหมือนหนังสือติโตหรือนายอินทร์ หนังสือนายอินทร์ ค่อนข้างจะดุเดือดในทาง
ราชการลับ หนังสือติโต เป็นหนังสือทเกี่ยวข้องกับ สงครามเหมือนกัน เกี่ยวข้องการต่อสู้ แต่หนังสือใหม่นี้
ยังไม่บอกชื่อ มีบางคนเขาบอกว่าควรจะโฆษณาแต่รู้สึกไม่จาเป็น
เพราะว่าเป็นหนังสือที่น่าดูมาก เอาไว้ดูเอง ในหนังสือนี้นางมณีเมขลา จะว่าเป็นนางเอกก็ไม่ใช่ ก็ไม่
เชิง แต่ว่าเป็นตัวสาคัญ ในรูปนี้ ก็จะเห็นว่า มีเรือที่แล่นในมหาสมุทรอินเดีย แล้วก็มีที่เป็นเส้น ที่เกี่ยวข้องกับ
ลม คือ เป็นเรื่องของอุตุนิยม และตรงนี้ก็มีดวงของวัน อันนี้ก็เกี่ยวข้องกับวันที่ ๑๕ เมษา ๒๕๓๗ ที่ตอนนั้น
แห้งแล้ง แล้วก็เกิดที่ตอนน้าแห้ง แห้งแล้งแล้วก็เกิดเขาบอกว่า จะเล่นสงกรานต์ไม่ได้ ก็ไม่มีน้า แต่ว่าไป
ติดต่อนางมณีเมขลา นางมณีเมขลาก็บันดาลใหมีฝนแล้ว ก็นี่เป็นแผนที่ของคุณสมิทธ์เอง มันเป็นอย่างนี้
จริงๆ คุณสมิทธก็ต้องรับรองว่า แผนที่นี้ไม่ผิด ถูกต้องสาหรับวันที่ ๑๕ แล้วก็ดวงนี้ เป็นดวงวันที่ ๑๕
เมษายน อันนี้เป็น ๒๕๓๗
แต่ว่าในเรื่องนั้น ไม่เสร็จ ๒๕๓๗ ไม่ทราบว่าปีอะไร แต่ก็เป็นในระยะเดียวกัน แล้วก็นางมณีเมขลา เป็น
ผู้ที่เป็นตัวสาคัญในเรื่องของทะเล มหาสมุทรอินเดีย ทะเลอันดามัน และประเทศไทย ซึ่งเขาเรียกว่าสุวรรณ
ภูมิ อันนี้ก็พูดถึงว่า เมืองไทยถูกน้าท่วม แต่ถ้าหากว่าไม่มีสิ่งที่ดีๆ ที่ช่วยป้ องกัน ป่านนี้คงยังจมน้าอยู่
เพราะว่าพายุอย่างคุณเอนเจลล่า ก็จะต้องเข้ามา ตอนนี้ที่จริงอยากจะพูสักเล็กน้อย แต่พูดมามากแล้ว พูดทุก
29
วัน เกือบทุกวัน ที่สภากาแฟ สภากาแฟนี้ท่านทั้งหลายอาจจะไม่เข้าใจว่าอะไร คือว่า ในเขต
พระบรมมหาราชวังมีที่ที่ชื่อ พระราชกรัณยสภา
30
แด่ดวงวิญญาณจากเหตุการณ์พายุนาร์กีสทุกดวงขอจงสู่สรวงสวรรค์
31
32
33
ขออนุญาตนากระแสพระราชดารัส ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มาเล่าสู่กันฟัง
เมื่อวันศุกร์ผมได้มีโอกาสได้เข้าค่ายที่ศูนย์ฝึกทหาร ของค่ายนเรศวร วันแรกที่เข้าไปกะบรรยากาศครึ้มๆ
ผมก็ว่า เอ... แปลกๆนะ ทาไมอากาศอบอ้าวเหมือนจะมีฝน แต่ก็คิดว่าคงเป็นไปตามสภาพอากาศ พอไปถึงก็
ทากิจกรรมจนได้เข้าหอประชุมตอนดึกใกล้เวลานอนมากแล้ว
อาจารย์เอกราช ท่านได้มาพูดถึงเรื่องของฝนที่ตกนี้ว่า
"ก่อนหน้านี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ท่านทรงให้คณะทางานเกี่ยวกับฝนเทียม รีบทาฝนเทียม เพื่อ
เป็นแนวกันลมพายุดีเปรสชั่น ซึ่งตอนนั้นยังไม่เกิดขึ้น แต่พระองค์ทรงเหมือนกับเทวดาองค์นึงที่ทราบเรื่อง
นี้ก่อน
ถามว่าตอนนั้นกรมอุตุรู้เรื่องนี้ไม ... ไม่มีใครทราบว่าจะเกิดพายุที่ประเทศพม่าด้วยซ้า
พอคณะทางานด้านฝนเทียมทางานเสร็จ ด้วยความสาเร็จ... ผลงานที่พระองค์ได้ทา ก็ก่อให้เกิดผล
เมื่อเกิดพายุอย่างที่พระองค์ตรัสไว้ที่พม่า และพายุนี้ก็ได้สร้างความเสียหาย และสร้างความเดือดร้อน
ให้กับประเทศพม่า จนทาให้เกิดความสูญเสียอันมหาศาลกับประเทศ ...
แต่สาหรับประเทศไทย แนวกาแพงฝนเทียมที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้ทรงสร้างไว้ก็ทาให้เกิด
ฝนตกเพียงเล็กน้อย ถ้าเทียบกับพายุที่จริงๆแล้วสามารถสร้างความเดือดร้อนกับประเทศได้มาก "
พอผมได้ทราบผมถึงกับอึ้งขนลูกซู่ กับ สิ่งที่พระองค์ได้ทาไว้ให้กับประเทศของเรา
ถึงแม้นจะเป็นเรื่องที่ดีที่ทราบเรื่องนี้ แต่ก็มีเรื่องที่ทาให้ผมสะเทือนใจกับสิ่งที่บ้านเมืองเป็นแบบนี้
วันที่2ที่เข้าค่าย ครูฝึกได้เปิดวีซีดีเกี่ยวกับพระองค์ให้ดู ผมก็ดูไปเรื่อยๆจนถึงตอนนึงที่เค้าตัดเอาตอนที่
พระองทรงเสด็จพระราชดาเนิน เพื่อไปส่งเหล่ากษัตริย์จากต่างประเทศ คณะทูตที่มาเข้าเฝ้าในงานฉลองศิริ
ราชสมบัติครบ60พรรษา
ภาพที่ทาให้ผมปวดจี๊ดขึ้นมาในหัวใจก็คือตอนที่พระองค์ ทรงเสด็จพระราชดาเนินลงบันได(ขอโทษครับ
พอดีไม่ทราบว่าเขียนยังไง) พระองค์เกือบหกล้ม ดีที่ทหารรักษาพระองค์ที่เดินนาหน้าคอยประคองพระองค์
ไว้พอพระองค์ทรงยืนได้ ก็ปัดมืออก
34
ผมไม่ทราบว่าพระองค์ตรัสตรงนั้นทันทีไหม หรือตรัสกับคนสนิทในภายหลัง ว่า
" ไม่ต้องมาพยุงเรา เราจะเดินให้คนทั่วโลกได้เห็นว่า เราเดินได้ให้คนทั่วโลกได้เห็นว่าเราสามารถ
ปกครองคน64ล้านคนด้วยตัวของเราเองได้ "
ถึงตอนนี้แล้ว ...น้าตาผมคลอเบ้า คนที่ดูกันก็สะอึ้นกันไปหลายคน ทุกๆคนในที่นั้นเงียบหมดกับคาพูดที่
พระองค์ได้ตรัสไว้ผมได้ยินเสียงกระซิบจากเพื่อนข้างๆว่า สงสารพระองค์ที่ต้องมาทรงงานอย่างหนัก ถึง
แม้นจะอายุเยอะแล้ว แต่พระองค์ก็ยังทรงรักและเป็นห่วงลูกๆหลานของพระองค์ ลูกๆหลานๆที่อยู่ใน
ประเทศนี้ ท่านทรงงานทุกอย่างเพื่อให้คนในประเทศได้สบาย เพื่อคนในประเทศได้อยู่ดีกินดี
อาจารย์ได้บอกกับพวกเราเมื่อวีซีดจบว่า พระองค์เหมือนฝนที่ทาให้ประเทศร่มเย็น เหมือนเทวดาที่ไม่ว่า
จะเสด็จพระราชดาเนินไปที่ไหนที่นั่นจะชุ่มฉ่า ที่ๆพระองค์เสด็จพระราชดาเนินไปจะพบแต่ความสงบสุข มี
แต่เรื่องดีๆเกิดขึ้นไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไร
ท้ายสุดนี้ผมอยากจะบอกพระองค์หากแม้นมีใครผ่านมาอ่าน ถึงจะเป็นคาพูดที่อาจจะได้ยินมาบ่อยๆ แต่
ผมก็ไม่สามารถจะคัดกรองคาพูดใดๆมาพูดได้อีกนอกจาก
"ขอพระองค์ทรงเป็นมิ่งขวัญของปวงประชา เป็นร่มโพธิทองของเหล่าปวงชนชาวไทย ขอพระองค์ทรง
พระเจริญตราบนานเท่านาน "
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..
ตามรอยพระมหาชนก..

More Related Content

What's hot

ตัวละครในกัณฑ์ชูชก
ตัวละครในกัณฑ์ชูชกตัวละครในกัณฑ์ชูชก
ตัวละครในกัณฑ์ชูชกnnbtt
 
สามัคคีเภทคำฉันท์ (อินทรวิเชียร)
สามัคคีเภทคำฉันท์ (อินทรวิเชียร)สามัคคีเภทคำฉันท์ (อินทรวิเชียร)
สามัคคีเภทคำฉันท์ (อินทรวิเชียร)B'Ben Rattanarat
 
สถานการณ์ครอบครัวและแนวโน้มการเปลี่ยนแปลง
สถานการณ์ครอบครัวและแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ครอบครัวและแนวโน้มการเปลี่ยนแปลง
สถานการณ์ครอบครัวและแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงBe SK
 
ข้อสอบปลายภาค50ข้อวิชาการใช้อินเทอร์เนต
ข้อสอบปลายภาค50ข้อวิชาการใช้อินเทอร์เนตข้อสอบปลายภาค50ข้อวิชาการใช้อินเทอร์เนต
ข้อสอบปลายภาค50ข้อวิชาการใช้อินเทอร์เนตpeter dontoom
 
ยุคภูมิธรรมและแนวคิดประชาธิปไตย
ยุคภูมิธรรมและแนวคิดประชาธิปไตยยุคภูมิธรรมและแนวคิดประชาธิปไตย
ยุคภูมิธรรมและแนวคิดประชาธิปไตยMild Jirachaya
 
อินเทอร์เน็ต (Internet)
อินเทอร์เน็ต (Internet)อินเทอร์เน็ต (Internet)
อินเทอร์เน็ต (Internet)Krusine soyo
 
ยุคโรแมนติคหรือจินตนิยม (Romanticism)
ยุคโรแมนติคหรือจินตนิยม (Romanticism)ยุคโรแมนติคหรือจินตนิยม (Romanticism)
ยุคโรแมนติคหรือจินตนิยม (Romanticism)Kanpitcha Sandra
 
ตัวอย่างโครงงาน
ตัวอย่างโครงงานตัวอย่างโครงงาน
ตัวอย่างโครงงานBenjarin Puanloon
 
การปฏิรูปศาสนา
การปฏิรูปศาสนาการปฏิรูปศาสนา
การปฏิรูปศาสนาJeeji Supadda Phokaew
 
เเนวคิดเชิงนามธรรม
เเนวคิดเชิงนามธรรมเเนวคิดเชิงนามธรรม
เเนวคิดเชิงนามธรรมJanchai Pokmoonphon
 
การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ ม.6.7(4,10)
การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ ม.6.7(4,10)การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ ม.6.7(4,10)
การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ ม.6.7(4,10)mintmint2540
 
สถาบันทางการเมือง
สถาบันทางการเมืองสถาบันทางการเมือง
สถาบันทางการเมืองkroobannakakok
 
คำแปลนิราศภูเขาทอง
คำแปลนิราศภูเขาทองคำแปลนิราศภูเขาทอง
คำแปลนิราศภูเขาทองโอ๋ อโนทัย
 
ไทม์ไลน์ประวัติทวีปอเมริกาเเละประเทศไทย
ไทม์ไลน์ประวัติทวีปอเมริกาเเละประเทศไทยไทม์ไลน์ประวัติทวีปอเมริกาเเละประเทศไทย
ไทม์ไลน์ประวัติทวีปอเมริกาเเละประเทศไทยmnfaim aaaa
 
มัมมี่โบราณ
มัมมี่โบราณมัมมี่โบราณ
มัมมี่โบราณAssadhang Changpra
 
เหตุการณ์สำคัญในยุโปสมัยกลาง
เหตุการณ์สำคัญในยุโปสมัยกลางเหตุการณ์สำคัญในยุโปสมัยกลาง
เหตุการณ์สำคัญในยุโปสมัยกลางPannaray Kaewmarueang
 
การเปลี่ยนแปลงการปกครองพ.ศ. 2475
การเปลี่ยนแปลงการปกครองพ.ศ. 2475การเปลี่ยนแปลงการปกครองพ.ศ. 2475
การเปลี่ยนแปลงการปกครองพ.ศ. 2475kulrisa777_999
 
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์Dr.Kridsanapong Lertbumroongchai
 

What's hot (20)

ตัวละครในกัณฑ์ชูชก
ตัวละครในกัณฑ์ชูชกตัวละครในกัณฑ์ชูชก
ตัวละครในกัณฑ์ชูชก
 
มัทนะพาธา
มัทนะพาธามัทนะพาธา
มัทนะพาธา
 
สามัคคีเภทคำฉันท์ (อินทรวิเชียร)
สามัคคีเภทคำฉันท์ (อินทรวิเชียร)สามัคคีเภทคำฉันท์ (อินทรวิเชียร)
สามัคคีเภทคำฉันท์ (อินทรวิเชียร)
 
สถานการณ์ครอบครัวและแนวโน้มการเปลี่ยนแปลง
สถานการณ์ครอบครัวและแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ครอบครัวและแนวโน้มการเปลี่ยนแปลง
สถานการณ์ครอบครัวและแนวโน้มการเปลี่ยนแปลง
 
ข้อสอบปลายภาค50ข้อวิชาการใช้อินเทอร์เนต
ข้อสอบปลายภาค50ข้อวิชาการใช้อินเทอร์เนตข้อสอบปลายภาค50ข้อวิชาการใช้อินเทอร์เนต
ข้อสอบปลายภาค50ข้อวิชาการใช้อินเทอร์เนต
 
ยุคภูมิธรรมและแนวคิดประชาธิปไตย
ยุคภูมิธรรมและแนวคิดประชาธิปไตยยุคภูมิธรรมและแนวคิดประชาธิปไตย
ยุคภูมิธรรมและแนวคิดประชาธิปไตย
 
อินเทอร์เน็ต (Internet)
อินเทอร์เน็ต (Internet)อินเทอร์เน็ต (Internet)
อินเทอร์เน็ต (Internet)
 
ยุคโรแมนติคหรือจินตนิยม (Romanticism)
ยุคโรแมนติคหรือจินตนิยม (Romanticism)ยุคโรแมนติคหรือจินตนิยม (Romanticism)
ยุคโรแมนติคหรือจินตนิยม (Romanticism)
 
ตัวอย่างโครงงาน
ตัวอย่างโครงงานตัวอย่างโครงงาน
ตัวอย่างโครงงาน
 
การปฏิรูปศาสนา
การปฏิรูปศาสนาการปฏิรูปศาสนา
การปฏิรูปศาสนา
 
เเนวคิดเชิงนามธรรม
เเนวคิดเชิงนามธรรมเเนวคิดเชิงนามธรรม
เเนวคิดเชิงนามธรรม
 
A revolução americana
A revolução americanaA revolução americana
A revolução americana
 
การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ ม.6.7(4,10)
การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ ม.6.7(4,10)การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ ม.6.7(4,10)
การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ ม.6.7(4,10)
 
สถาบันทางการเมือง
สถาบันทางการเมืองสถาบันทางการเมือง
สถาบันทางการเมือง
 
คำแปลนิราศภูเขาทอง
คำแปลนิราศภูเขาทองคำแปลนิราศภูเขาทอง
คำแปลนิราศภูเขาทอง
 
ไทม์ไลน์ประวัติทวีปอเมริกาเเละประเทศไทย
ไทม์ไลน์ประวัติทวีปอเมริกาเเละประเทศไทยไทม์ไลน์ประวัติทวีปอเมริกาเเละประเทศไทย
ไทม์ไลน์ประวัติทวีปอเมริกาเเละประเทศไทย
 
มัมมี่โบราณ
มัมมี่โบราณมัมมี่โบราณ
มัมมี่โบราณ
 
เหตุการณ์สำคัญในยุโปสมัยกลาง
เหตุการณ์สำคัญในยุโปสมัยกลางเหตุการณ์สำคัญในยุโปสมัยกลาง
เหตุการณ์สำคัญในยุโปสมัยกลาง
 
การเปลี่ยนแปลงการปกครองพ.ศ. 2475
การเปลี่ยนแปลงการปกครองพ.ศ. 2475การเปลี่ยนแปลงการปกครองพ.ศ. 2475
การเปลี่ยนแปลงการปกครองพ.ศ. 2475
 
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
 

Similar to ตามรอยพระมหาชนก..

14 จัมเปยยจริยา มจร.pdf
14 จัมเปยยจริยา มจร.pdf14 จัมเปยยจริยา มจร.pdf
14 จัมเปยยจริยา มจร.pdfmaruay songtanin
 
หยั่งลงก้นมหาสมุทร
หยั่งลงก้นมหาสมุทรหยั่งลงก้นมหาสมุทร
หยั่งลงก้นมหาสมุทรPanda Jing
 
บทความเรื่องการบริหารงานตามหลักฆราวาสธรรม ๓
บทความเรื่องการบริหารงานตามหลักฆราวาสธรรม ๓บทความเรื่องการบริหารงานตามหลักฆราวาสธรรม ๓
บทความเรื่องการบริหารงานตามหลักฆราวาสธรรม ๓วัดดอนทอง กาฬสินธุ์
 
03 สังขพราหมณจริยา มจร.pdf
03 สังขพราหมณจริยา มจร.pdf03 สังขพราหมณจริยา มจร.pdf
03 สังขพราหมณจริยา มจร.pdfmaruay songtanin
 
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔Kamonchapat Boonkua
 
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔อิ่' เฉิ่ม
 
๑๕ โมฆราชปัญหา.pdf
๑๕ โมฆราชปัญหา.pdf๑๕ โมฆราชปัญหา.pdf
๑๕ โมฆราชปัญหา.pdfmaruay songtanin
 
๐๒ เตวิชชสูตร มจร.pdf
๐๒ เตวิชชสูตร มจร.pdf๐๒ เตวิชชสูตร มจร.pdf
๐๒ เตวิชชสูตร มจร.pdfmaruay songtanin
 
สำนักปฏิบัติธรรมสุธัมมสถาน มงคลสามสิบแปด
สำนักปฏิบัติธรรมสุธัมมสถาน   มงคลสามสิบแปดสำนักปฏิบัติธรรมสุธัมมสถาน   มงคลสามสิบแปด
สำนักปฏิบัติธรรมสุธัมมสถาน มงคลสามสิบแปดTongsamut vorasan
 
(๔) มหาโมคคัลลานเถราปทาน มจร.pdf
(๔) มหาโมคคัลลานเถราปทาน มจร.pdf(๔) มหาโมคคัลลานเถราปทาน มจร.pdf
(๔) มหาโมคคัลลานเถราปทาน มจร.pdfmaruay songtanin
 
บาลี 31 80
บาลี 31 80บาลี 31 80
บาลี 31 80Rose Banioki
 
3 31+พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๕
3 31+พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๕3 31+พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๕
3 31+พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๕Wataustin Austin
 

Similar to ตามรอยพระมหาชนก.. (13)

14 จัมเปยยจริยา มจร.pdf
14 จัมเปยยจริยา มจร.pdf14 จัมเปยยจริยา มจร.pdf
14 จัมเปยยจริยา มจร.pdf
 
หยั่งลงก้นมหาสมุทร
หยั่งลงก้นมหาสมุทรหยั่งลงก้นมหาสมุทร
หยั่งลงก้นมหาสมุทร
 
บทความเรื่องการบริหารงานตามหลักฆราวาสธรรม ๓
บทความเรื่องการบริหารงานตามหลักฆราวาสธรรม ๓บทความเรื่องการบริหารงานตามหลักฆราวาสธรรม ๓
บทความเรื่องการบริหารงานตามหลักฆราวาสธรรม ๓
 
03 สังขพราหมณจริยา มจร.pdf
03 สังขพราหมณจริยา มจร.pdf03 สังขพราหมณจริยา มจร.pdf
03 สังขพราหมณจริยา มจร.pdf
 
ทสชาติชาดก(ย่อ)
ทสชาติชาดก(ย่อ)ทสชาติชาดก(ย่อ)
ทสชาติชาดก(ย่อ)
 
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
 
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
 
๑๕ โมฆราชปัญหา.pdf
๑๕ โมฆราชปัญหา.pdf๑๕ โมฆราชปัญหา.pdf
๑๕ โมฆราชปัญหา.pdf
 
๐๒ เตวิชชสูตร มจร.pdf
๐๒ เตวิชชสูตร มจร.pdf๐๒ เตวิชชสูตร มจร.pdf
๐๒ เตวิชชสูตร มจร.pdf
 
สำนักปฏิบัติธรรมสุธัมมสถาน มงคลสามสิบแปด
สำนักปฏิบัติธรรมสุธัมมสถาน   มงคลสามสิบแปดสำนักปฏิบัติธรรมสุธัมมสถาน   มงคลสามสิบแปด
สำนักปฏิบัติธรรมสุธัมมสถาน มงคลสามสิบแปด
 
(๔) มหาโมคคัลลานเถราปทาน มจร.pdf
(๔) มหาโมคคัลลานเถราปทาน มจร.pdf(๔) มหาโมคคัลลานเถราปทาน มจร.pdf
(๔) มหาโมคคัลลานเถราปทาน มจร.pdf
 
บาลี 31 80
บาลี 31 80บาลี 31 80
บาลี 31 80
 
3 31+พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๕
3 31+พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๕3 31+พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๕
3 31+พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๕
 

ตามรอยพระมหาชนก..

  • 2. 2 รวบรวมแนวคิด ที่ได้จากพระราชนิพนธ์เรื่อง พระมหาชนก มาช่วยกันถอดรหัสกันว่าในหลวงท่าน มีพระราชประสงค์ที่จะสื่อสาร พระราชทานแนวคิดให้พสกนิกรของพระองค์อย่างไรบ้าง พวกเราจะได้นาไปเป็นแบบอย่าง อย่างที่พระองค์มีพระราชประสงค์ ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้ข้าพระพุทธเจ้าและคณะ เอามาลองตีความหมายดู จากปัญญาอันน้อยนิดของข้าพระพุทธเจ้าและคณะ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อปวงชนชาวไทยต่อไป ตามพระราชประสงค์ ผิดพลาดประการใดขอพระราชทานอภัยไว้ณ ที่นี้ด้วยด้วยเกล้าด้วยกะ หม่อมขอเดชะ
  • 3. 3 คานา หนังสือตามรอยพระมหาชนกนี้เกิดขึ้นจากโดยเนื้อหาหลักบางส่วนเป็นการรวบรวมมาจากกระทู้ ตามรอยพระมหาชนกในเว็บพลังจิต ต้องขอขอบคุณเว็บพลังจิตที่มีจุดมุ่งหมายในการเผยแผ่ คาสอนและ หลักธรรมขององค์สมเด็จสัมมาพุทธเจ้าไปให้ไกลและสู่ประชาชนอย่างไร้ขอบเขตเพื่อสู่ความหลุดพ้น ในเว็บพลังจิตยังเกิดชุมชนย่อยหลากหลายวัตถุประสงค์ต่างกรรมและวาระ แต่มีเป้ าหมายเดี่ยวกันคือการ เข้าถึงแก่นแท้ดั่งเดิมของจิตวิญญาณ หนังสือตามรอยพระมหาชนก เกิดขึ้นจากรวบรวมข้อมูลของสมาชิกในกลุ่มกระทู้ตามรอยพระมหา ชนกในเว็บไซด์พลังจิต ที่ช่วยกันในการถอดรหัสหนังสือตามรอยพระราชนิพนธ์พระมหาชนกขององค์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่าพระองค์ท่านมีพระราชประสงค์ที่จะสื่อสาร พระราชทานแนวคิดให้พสกนิกรของ พระองค์อย่างไร สมาชิกในกระทู้เกิดจากการรวมตัวกันจากพลังศรัทธาที่มีต่อองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หลังจากการได้อ่านได้ศึกษาค้นคว้าและตีความต่างๆนาๆ เป็นการรวมตัวกันเพื่อมีเป้ าหมายร่วมกันในการ ช่วยกันถอดรหัสเรื่องราวในหนังสือพระราชนิพนธ์พระมหาชนก ด้วยพระราชศรัทธาที่บริสุทธิ์ต่อองค์สม เด็กพระเจ้าอยู่หัว อาจเนื่องด้วยจากภูมิหลังและภูมิปัญญาที่แตกต่างของสมาชิกในการถอดรหัส แต่มี วัตถุประสงค์เดียวกันในการเดินตามรอยพระมหาชนก หลังจากได้ปรึกษาว่าจะรวบรวมเป็นเล่มก็มีความคิดบางเรื่องที่แตกต่าง ได้พยายามมองภาพเรื่องราว เป็นแบบองค์รวมให้มากที่สุด แต่ยังถอดรหัสต้นเหตุของปัญหาความแตกแยกทางความคิดของสังคมโดย ชุมชนตามรอยพระมหาชนก การถอดรหัสในหนังสือเล่มนี้อาจจะไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ในหนังสือพระ ราชนิพนธ์พระมหาชนก หากมีสิ่งใดผิดพลาดประการใดข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานอภัยไว้ณ ที่นี้ด้วย เกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ สมยศ ศุภกิจไพบูลย์ เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ อาจจะมีบางส่วนเกี่ยวกับปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง หรือความเชื่อด้าน ลัทธิศาสนา ทั้งนี้ก็เพื่อให้เป็นไปในภาพรวมของสังคม อันจะทาให้เห็นรากเหตุของปัญหาและนาไปสู่การ ใช้ปัญญาแก้ไขในที่สุด ขอท่านได้โปรดใช้วิจารณญาณ
  • 4. 4 สารบัญ  ทาไมจึงเป็นหนังสือที่ทรงรัก 8  ดร.สมิทธ ธรรมสโรช กล่าวถึงในหลวง 19  ตามรอยพระมหาชนกชาดก 22  ตามรอยพระราชนิพนธ์มหาชนก 24  ตามรอยพระมหาชนกพระอัจฉริยะภาพ แห่งองค์พระโพธิสัตว์ 25  พายุเอนเจลล่า 28  พายุนาร์กีส 30  น้าคือชีวิต 36  ในหลวงกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 44  ทางสายเอกชีวิตพอเพียง 49  ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 51  มหาวิทยาลัยปูทะเลย์ 55  ถอดรหัสสัญลักษณ์ธรรมใน "พระมหาชนก" 59  ตามรอยพระราชดารัสรู้รักสามัคคี 65  อนาคดังสญาณ 69  เมืองอวิชชา 77  มรณสติจุดสุดท้ายของชีวิต 91  คุณธรรมค้าจุลโลก 97  ธรรมะ คือหน้าที 104  ปริศนาธรรมจากต้นมะม่วง ถอดรหัส ๙ วิธีฟื้นฟูชาติ 115  ฟ้ าทางโหราศาสตร์ 120  ส.ค.ส. พระราชทาน 122  พระราชดารัสสาคัญ 126  ด้วยสติรู้ตัว ด้วยปัญญารู้คิด ด้วยความสุจริตจริงใจ 137  ถอดรหัสตถตา สู่โครงการชั่งหัวมัน 140  ถอดรหัส ส.ค.ส.พระราชทาน ๒๕๔๗ 145  หลักการดาเนินชีวิตชาวพุทธ 152
  • 5. 5 ต้องมี สติ และ ปัญญา แสงสีส้มจัดจับขอบฟ้ า ท้องธาราเรียบสงบ แต่ฝูงปลาสัตว์สมุทรกลับพากันแตกตื่น เป็นสัญญาณ ถึงภัยแห่งพายุร้ายที่กาลังจะมา บรรดากลาสีคนเรือต่างตระหนก พากันวิงวอนต่อเทพแห่งท้องนที มีแต่ พระมหาชนกที่ครองสติ พิจารณาหาหนทางจะพ้นภัย พระมหาชนกเห็นว่านี่ไม่ถูกต้อง สวดอยู่นั่นไม่มีทาง ไม่เห็นมีเทวดาที่ไหนมาช่วยเพราะฉะนั้นพระ มหาชนกก็บอกว่าป่วยการที่จะไปสวดอ้อนวอน ทางเดียวคือมาดูว่าในสถานการณ์คับขันเช่นนี้ เราควรทา อะไร เราจะช่วยตัวเองได้อย่างไรจึงจะรอดได้ ก็มองปัญญาแสดงบทบาทออกมาทันที เพราะเรือกาลังจะล่ม รีบกินเลย กินข้าวให้เต็มท้อง ทาไมต้องกินก็เพราะว่ารู้แน่ๆว่าต้องลอยอยู่ใน มหาสมุทร ก็กินเท่าที่จะกินได้อย่างน้อยก็มีกาลังพอที่จะแหวกว่ายต่อไป เสร็จแล้วก็เอาน้ามันทาตัว ทาไมต้องทาตัว เหตุผลก็คือว่าทาตัวแล้วนี่จะทาให้ตัวเบาเวลาว่ายในน้า เสร็จแล้วพอเรือกาลังจะล่มก็ปีน ขึ้นบนเสากระโดง ทาไมต้องปีน ก็เพราะว่าต้องการกระโดดไปให้ไกลที่สุด ทาไมต้องกระโดดไปให้ไกล ที่สุด ก็เพราะว่าถ้าตกลงตรงที่กาบเรือนี่ ไอ้คนที่กาลังจะจมนี่อาจจะฉุดแขนฉุดขา ผลที่สุดอาจจะไปไหน ไม่ได้ ตายด้วยกันทั้งสองคน เพราะฉะนั้นต้องกระโดดไปให้ไกลที่สุด เรือกาลังจะล่มเสากระโดงมันเอน ก็ ทรงโดดลงไป ผลที่สุดเจ็ดวันเจ็ดคืนอยู่ได้ เพราะกินข้าวมาเต็มที่แล้ว อันว่าความเพียรต้องประกอบด้วยสติและปัญญา จึงจะถึงซึ่งวิถีแห่งความสาเร็จดุจดั่งพระมหาชนก แม้ยามแหวกว่ายในห้วงนทีอันแลมิเห็นที่สุด แต่ยังคงดารงสติในท่ามกลางความเพียรนั้น แลแม้ในยาม ชีวิตคับขันก็มิได้ทรงละทิ้งธรรมปฏิบัติ ดังปรากฏความพระปัญญาแห่งพระราชนิพนธ์พระมหาชนก ซึ่งแสดงการดารงสติไว้ได้ตลอดเวลา ตามรอยพระราชนิพนธ์พระมหาชนก สติชอบ
  • 6. 6 ต้องมีความเพียร ใครนี่ แม้เมื่อมองไม่เห็นฝั่ง ก็ยังกระทาความเพียรว่ายอยู่ในท่ามกลางมหาสมุทร ท่านเห็นประโยชน์ อะไร จึงพยายามว่ายอยู่อย่างนี้นัก. ครั้งนั้น พระมหาสัตว์ทรงดาริว่า เราว่ายข้ามมหาสมุทรมาได้เจ็ดวันเข้าวันนี้ไม่เคยเห็นเพื่อนของเรา เลย นี่ใครหนอมาพูดกะเรา เมื่อแลไปในอากาศก็ทอดพระเนตรเห็นนางมณีเมขลา จึงตรัสตอบว่า ดูกรเทวดา เราพิจารณาเห็นวัตรของโลกและอานิสงส์แห่งความพยายาม ชื่อว่าความเพียร ของบุรุษย่อมไม่เสียหาย ย่อมให้ตั้งอยู่ในความสุข ฉะนั้น เพราะฉะนั้น ถึงจะไม่เห็นฝั่ง เราก็ต้อง พยายามว่ายอยู่ในท่ามกลางมหาสมุทร. นางมณีเมขลาปรารถนาจะฟังธรรมกถาของพระมหาสัตว์ จึงกล่าวอีกว่า ฝั่งมหาสมุทรอันลึกประมาณไม่ได้ ย่อมไม่ปรากฏ ความพยายามอย่างลูกผู้ชายของท่าน ย่อมเปล่าประโยชน์ ท่านยังไม่ทันจะถึงฝั่งก็จักต้องตายเป็นแน่. ครั้งนั้น พระมหาสัตว์ตรัสกะนางมณีเมขลาว่า ท่านพูดอะไรอย่างนั้น เราทาความพยายาม แม้ตายก็จัก พ้นครหา ตรัสฉะนี้แล้ว จึงกล่าวต่อไปว่า บุคคลผู้กระทาความเพียรอยู่ แม้จะตาย ก็ชื่อว่าไม่เป็นหนี้ คือ ไม่ถูกติเตียนในระหว่างหมู่ ญาติ เทวดาและพรหมทั้งหลาย อนึ่ง บุคคลเมื่อกระทากิจของบุรุษอยู่ ย่อมไม่เดือดร้อนใน ภายหลัง.
  • 7. 7 ลาดับนั้น เทวดากล่าวกะพระมหาสัตว์ว่า การงานอันใดยังไม่ถึงที่สุดด้วยความพยายาม การงานอันนั้นก็ไร้ผล มีความลาบากเกิดขึ้น การทาความพยายามในฐานะอันไม่สมควรใด จนมัจจุคือความตายนั่นแลปรากฏขึ้น ความ พยายามในฐานะอันไม่สมควรนั้นจะมีประโยชน์อะไร เมื่อนางมณีเมขลากล่าวอย่างนี้แล้ว พระมหาสัตว์เมื่อจะทานางมณีเมขลาให้จานนต่อถ้อยคา จึงได้ ตรัสต่อไปว่า ดูกรเทวดา ผู้ใดรู้แจ้งว่า การงานนี้ยังไม่ถึงที่สุดด้วยความพยายาม แล้วไม่ป้ องกันอันตราย ชื่อว่าไม่พึงรักษาชีวิตของตน ถ้าผู้นั้นพึงละความเพียรในฐานะเช่นนั้นเสีย ก็จะพึงรู้ผลแห่งความ เกียจคร้านนั้น ดูกรเทวดา คนบางพวกในโลกนี้เห็นอยู่ซึ่งผลแห่งความประสงค์ จึงประกอบการงานทั้งหลาย การงาน เหล่านั้นจะสาเร็จก็ตาม ไม่สาเร็จก็ตาม ดูกรเทวดา ท่านย่อมเห็นผลแห่งการงานอันประจักษ์แก่ตนแล้วมิใช่หรือ คนอื่นๆ พากันจมลงใน มหาสมุทร เราคนเดียวเท่านั้นพยายามว่ายข้ามอยู่และได้เห็นท่านมาสถิตอยู่ใกล้เรา เรานั้นจักพยายาม ตามสติกาลังจักทาความเพียรที่บุรุษพึงกระทา ไปให้ถึงฝั่งแห่งมหาสมุทร. เทวดาได้สดับพระวาจาอันมั่นคงของพระมหาสัตว์นั้น เมื่อจะสรรเสริญพระมหาสัตว์ จึงกล่าวว่า ท่านใดถึงพร้อมด้วยความพยายามโดยธรรม ไม่จมลงในห้วงมหรรณพทั้งลึก ทั้งกว้างเห็น ปานนี้ ด้วยการกระทาความเพียรของบุรุษ ท่านนั้นจงไปในสถานที่ซึ่งท่านปรารถนาเถิด ดังปรากฏความพระปัญญาแห่งพระราชนิพนธ์พระมหาชนก ซึ่งแสดงการเห็น คุณค่าแห่งความ เพียร ทุกความสาเร็จจะต้องเต็มไปด้วยอุปสรรค บางครั้งต้องยอมเอาชีวิตเข้าแลก ตามรอยพระราชนิพนธ์พระมหาชนก ความเพียรชอบ
  • 8. 8 ทาไมจึงเป็นหนังสือที่ทรงรัก “ที่ต้องขอบใจ เพราะว่า หนังสือเรื่องนี้เป็นที่รักของข้าพเจ้าเอง เป็น สิ่งที่เห็นว่ามีความสาคัญ และโดยที่เป็นผู้ที่ทาขึ้นมา ถ้าไม่มีตัวเราเอง มีแต่ชาดก แล้วก็มีแต่ชาดกภาษาไทย ที่แปลมาจาก ภาษาบาลี มีแต่ชาดกอาจจะเป็นภาษาอังกฤษที่เขาแปลมาจากภาษาบาลี ใครไปอ่านก็ไม่รู้เรื่อง และไม่มีความหมายอะไรมากนัก” พระราชดารัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่อง พระราชนิพนธ์ "พระมหาชนก” เป็นส่วนหนึ่งในพระราชดารัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๓๙ ระหว่างที่พระองค์ท่านเสด็จพระราชดาเนินออก ณ พระที่นั่งดุสิดาลัย สวนจิตรลดา รโหฐาน พระราชวังดุสิต ซึ่งได้โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สื่อมวลชนเข้าเฝ้ าใต้ฝ่าละอองธุลี พระบาท โดยได้แจ้งให้ทราบว่า หนังสือพระราชนิพนธ์เล่มล่าสุดของพระองค์ท่านเรื่อง "พระ มหาชนก" เสร็จสิ้นแล้ว
  • 9. 9 ซึ่งทรงเชื่อมั่นว่าได้ทรงบรรลุพระราชภารกิจสาคัญที่สุดในรัชสมัยแห่งมงคลชัยในชีวิต ประชาชนชาวไทยอันหาที่เปรียบไม่ได้ โดยที่ก่อนหน้านี้ในหลวงทรงพระราชนิพนธ์ ๒ เรื่อง คือ นายอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระเมื่อปี ๒๕๓๖ และเรื่องติโต้ เมื่อปี ๒๕๓๗ เวลานี้พระราชนิพนธ์ "พระมหาชนก" ได้พิมพ์เผยแพร่ออกสู่สายตาผู้อ่านจานวนมาก จัดพิมพ์โดยบริษัท อัมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์ พับลิซซิ่ง จากัด (มหาชน) ทั้งที่เป็นฉบับปกแข็ง บรรจุกล่องสวยงาม นอกจากเนื้อหาที่ทรงคุณค่าแล้วยังมีภาพวาดประกอบของจิตรกรชื่อดัง ๘ คน คือ จินตนา เปี่ยมศิริ, ประหยัด พงษ์ดา, พิชัย นิรันต์, ปรีชา เถาทอง, เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์, ปัญญา วิจินธนสาร, ธีระวัฒน์ คะนะมะ, เนติกร ชินโย พิมพ์ลายสีสวยสดใส ทาให้หนังสือน่าอ่านและน่าเก็บรักษาไว้
  • 10. 10 รวมทั้งได้ทรงโปรดฯ ให้จัดพิมพ์ฉบับปกอ่อนเพื่อให้พสกนิกรได้มีโอกาสอ่านกันอย่างทั่วถึง นอกจากนี้ยังมีบรรจุในแผ่นซีดี และมีเหรียญพระมหาชนกทั้ง เนื้อเงิน และเนื้อนาก เพื่อให้ ประชาชนนาไปสักการะบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล สาหรับเหรียญนั้น ด้านหนึ่งเป็นพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวใน พระอิริยาบถที่มีหยาดพระเสโทที่พระนาสิก เขียนข้อความ "วิริยะ PERSERVERANCE" และ อักษาเทวนาครี อีกด้านหนึ่ง เป็นภาพพระมหาชนกในมหาสมุทรขณะทรงสนทนาธรรมกับนาง มณีเมขลา ซึ่งปั้นจากต้นแบบภาพฝีพระหัตถ์สมเด็จฯเจ้าฟ้ ากรมพระยานริศรานุวัตติวงศ์ เหรียญเหล่านี้ได้ผ่านพิธีชัยมังคลาภิเษกที่วัดบวรนิเวศวิหาร โดยมีสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเป็นประธานนั่งปรก พร้อมด้วยพระ คณาจารย์อีกหลายรูป อาทิ หลวงตามหาบัว ญาณสังปันโน, หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ แห่งวัด บ้านไร่ หลวงพ่อเปิ่นวัดบางพระ, หลวงพ่อแย้ม วัดตะเคียน
  • 11. 11 ในพิธีดังกล่าว สมเด็จพระสังฆราชตรัสว่า "ไทยเราในขณะนี้แม้เปรียบกับพระมหาชนก ย่อมมีอันตรายเบากว่ามากมายนัก วิกฤตก็แตกต่างกัน แต่สามารถบาเพ็ญวิริยะบารมีให้เกิด ผลสาเร็จอย่างวิเศษยิ่งได้เช่นเดียวกัน ขอให้ตั้งใจแผ่ความปรารถนาดีไปให้ทั่วถึงเพื่อนร่วม ทุกข์ทั่วหน้าให้สามารถคิดถึงอนุภาพความเพียร คือวิริยะบารมี แล้วทุ่มกาลังกายกาลังใจ ให้สามารถประคับประคองประเทศชาติให้พ้นวิกฤตการณ์ขณะนี้ให้ได้และโดยเร็ววิริยะบารมี สาคัญ และพลังจิตสาคัญและสาคัญสาหรับนามาประคองวิริยะบารมีให้เกิดผลเต็มที่ด้วย นั่นคือให้มีกาลังใจเข้มแข็งเต็มที่ ที่จะพยายามทาแต่ความดี วิริยะในการทาดีเท่านั้นที่จะถูกที่ จะให้พ้นทุกข์ทั้งหลายได้ สมเด็จพระบรมศาสดาทรงกล่าวไว้ว่า โลกถูกจิตนาไป ถูกจิตชักไป สัตว์ทั้งปวงไปสู่อานาจแห่งจิตอย่างเดียว เพราะฉะนั้นพึงตั้งเพียรทาใจให้ดี ให้มั่นคงในการดีทั้งปวง ให้พ้นการไม่ดีทั้งปวงงาน มงคลนี้จะสาเร็จด้วยดี เกิดคุณประโยชน์แก่ผู้คนที่กาลังทุกข์ร้อนทั้งปวง" ก่อนที่จะอ่านเนื้อหาในพระราชนิพนธ์ "พระมหาชนก" มีพระราชปรารภให้เห็นถึงที่มาว่า เมื่อ พ.ศ.2520 พระองศ์ทรงสดับพระธรรมเทศนาของสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (วิน ธัมมสาโร มหาเถร) วัดราชผาติการาม เรื่องพระมหาชนก เสด็จทอดพระเนตรพระราช อุทยานในกรุงมิถิลา เรื่องมีใจความว่า ที่ทางเข้าสวนหลวงมีต้นมะม่วงสองต้น ต้นหนึ่งมีผล อีกต้นหนึ่งไม่มีผล ทรงลิ้มรสมะม่วงอันโอชาแล้วเสด็จเยี่ยมอุทยาน เมื่อเสด็จกลับออกจาก สวนหลวงทอดพระเนตรเห็นมะม่วงที่มีผลรสดี ถูกข้าราชบริพารดึงทึ้งจนโค่นลง ส่วนต้นที่ไม่มี
  • 12. 12 ลูกก็ยังคงตั้งอยู่ตระหง่าน แสดงว่าสิ่งใดดี มีคุณภาพ จะเป็นเป้ าหมายของการยื้อแย่งและจะ เป็นอันตรายในท่ามกลางผู้ที่ขาดปัญญา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสนพระทัย จึงทรงค้นเรื่องพระมหาชนกใน พระไตรปิฎก (พระสุตตันตปิฏกขุททกนิกายชาดก เล่มที่ ๔ ภาคที่ ๒) และทรงแปลเป็น ภาษาอังกฤษตรงจากมหาชนกชาดก ตั้งแต่ต้นเรื่องโดยทรงดัดแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อให้ เข้าใจง่ายขึ้น พระมหาชนกบาเพ็ญวิริยะบารมีไม่หวังผลตอบแทนใด ๆ จนกระทั่งได้ทรงครองราชย์ สมบัติ และนาความเจริญมั่งคั่งแก่กรุงมิถิลาด้วยพระปรีชาสามารถ มาถึงตอนเรื่องต้นมะม่วงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดาริว่า การที่พระ มหาชนก จะเสด็จออกทรงแสวงโมกขธรรมยังไม่ถึงเวลาอันสมควร เพราะว่าได้ทรงสร้าง ความเจริญแก่มิถิลายังไม่ครบถ้วน กล่าวคือข้าราชบริพาร"นับแต่อุปราชจนถึงคนรักษาช้าง รักษาม้าและนับแต่คนรักษาม้าจนถึงอุปราช และโดยเฉพาะเหล่าอมาตย์ ล้วนจารึกในโมหภูมิ
  • 13. 13 ทั้งนั้น ไม่มีความรู้ทั้งวิทยาการ ทั้งทางปัญญายังไม่เห็นความสาคัญของผลประโยชน์แท้แม้ ของตนเอง จึงต้องตั้งสถานอบรมสั่งสอนให้เบ็ดเสร็จ" อนึ่ง พระมหาชนกยังต้องทรงปรารภเรื่องการอนุบาลต้นมะม่วงตามวิธีสมัยใหม่ เก้าวิธีอีก ด้วย ด้วยประการเช่นนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงทรงดัดแปลงเนื้อเรื่องในมหาชนกชาดก ให้เหมาะสมกับสังคมปัจจุบัน โดยมีพระราชดาริว่าพระมหาชนกจะบรรลุโมกขธรรมได้ง่าย กว่า หากได้ประกอบพระราชกรณียกิจในโลกให้ครบถ้วนก่อน รูปที่ประกอบเรื่องเป็นฝีมือของศิลปินไทย ซึ่งได้ทุ่มเททั้งกาลังกายและกาลังความคิด อย่างเต็มที่ เพื่อถ่ายทอดความงามของเรื่องนี้ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงแปลมหาชนกชาดกเสร็จสมบูรณ์เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๑ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พิมพ์ในโอกาสเฉลิมฉลองกาญจนภิเษกแห่ง รัชกาล ให้เป็นเครื่องพิจารณาเพื่อประโยชน์ในการดาเนินชีวิตของสาธุชนทั้งหลาย" ขอจงทรงมีความเพียรที่บริสุทธิ์ ปัญญาที่เฉียบแหลม กาลังกายที่สมบูรณ์ พระตาหนักจิตรลดารโหฐาน ๙ มิถุนายน ๒๕๓๙ นายขวัญแก้ว วัชโรทัย รองเลขาธิการพระราชวังฝ่ายกิจกรรมพิเศษประธานคณะทางาน สร้างเหรียญและพระราชนิพนธ์ "พระมหาชนก" ได้สรุปที่มาของพระราชนิพนธ์เรื่องนี้ว่า "ระหว่าง ๕๐ ปีที่ทรงครองราชย์ทรงผ่านพ้นอุปสรรคนานาชนิด อุปสรรคนั้นคือวิกฤตการณ์ ต่าง ๆ เกิดเหตุเภทภัย ลุกลามถึงประชาชน โดยที่พระองค์ทรงเปรียบเสมือนพระพรหมของ ประชาชนทุกคน เมื่อมีเหตุการณ์ก็พึ่งพระองค์ ขณะที่บ้านเมืองกาลังลุกเป็นไฟ พระองค์รับสั่ง
  • 14. 14 กับผู้ที่ทาให้เกิดเรื่องก็จะสงบทันที ซึ่งไม่มีที่ไหนในโลกนับว่าทรงเป็นมิ่งขวัญของประชาชน ชาวไทยยากหาผู้เปรียบปาน ในหลวงทรงลาบากมากกกว่าชาวไทยเป็นไหน ๆ ปัจจุบันไม่เคยมีพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ ไหน ทรงเหนื่อยมาก ๆ เหมือนพระองค์ ทรงงานจนพระเสโทไหล ยากที่สามัญจะทาได้ ทรง เป็นยอดมนุษย์ ยิ่งภาวะปัจจุบันคนไทยต้องมีความเพียรอดทน ไม่ย่อท้อโดยยึดเอาแบบอย่าง จากพระองค์ก็จะประสบความสาเร็จในชีวิต สมเด็จพระญานสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงอ่านแล้วถึงกับ ตรัสว่า ถ้าใครได้อ่านแล้วมีปรัชญาชีวิต สิ่งที่ดีงามสอนให้ผู้คนอดทนไม่ท้อแท้เหมาะสมกับยุค นี้ ทันสมัยทันต่อเหตุการณ์ถ้าอ่านให้ลึกซึ้งจริง ๆ ประชาชนชาวไทยคงไม่มีใครฆ่าตัวตาย ทรงแปลเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษควบคู่กันไป เป็นประโยชน์ทิ้งชาวไทยและชาว ต่างประเทศ ทรงถอดประวัติของพระองค์ตลอดระยะเวลา ๕๐ ปีที่ครองราชย์ ทรงประสบ อุปสรรค ความยากลาบากเหมือนพระมหาชนกเมื่อเรือแตกก็ทรงว่ายน้าถึง ๗ วัน จนเทวดามา ช่วย ในหลวงก็ทรงประสบวิกฤต แต่ทรงมีความเพียรไม่ท้อแท้ ซึ่งบางคนก็มีความเพียรอยู่แต่ ท้อแท้ ทาให้ไม่ประสบความสาเร็จในชีวิต และเหรียญที่จัดสร้างขึ้นนี้ไม่ใช่เครื่องรางของขลัง แต่เป็นสิ่งเพิ่มกาลังใจในการต่อสู้กับชีวิต เป็นประทีปส่องทาง"
  • 15. 15 ใครที่ได้อ่านเรื่องพระมหาชนกต่างพูดตรงกันว่า พระองค์ทรงพระปรีชาสามารถ ทางด้านวรรณกรรมยิ่งนักทรงใช้ภาษาที่กระชับ สละสลวยอ่านง่าย แสดงให้เห็นชัดแจนว่า พระองค์ท่านทรงได้ศึกษาเรื่องที่จะเขียนและทรงมีความรู้อย่างลึกซึ้ง พระมหาชนกฉบับพระราชนิพนธ์นี้ เป็นวรรณคดีพระพุทธศาสนาเรื่องหนึ่งในทศชาติ ชาดก ซึ่งเป็นชาดก ๑๐ ชาติสุดท้าย ก่อนที่พระโพธิสัตว์จะมาประสูติเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ และ ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ชาดกเรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงการบาเพ็ญบารมีของพระมหาชนก วิริยะบารมี" ซึ่งเต็มไปด้วยความเพียรพยายามอย่างยิ่งยวด บทแรกขึ้นต้นว่า ในอดีตกาลอันพ้นคณนาวิสัย ครั้งหนึ่งพระราชาพระนามว่า มหา ชนก ครองราชสมบัติอยู่ในกรุงมิถิลา แคว้นวิเทหะ พระเจ้ามหาชนกนั้น มีพระราชโอรสสอง พระองค์ พระนามว่าอริฏฐชนก และโปลชนก พระราชาพระราชทานตาแหน่งอุปราชแก่องค์พี่ และตาแหน่งเสนาบดีแก่องค์น้อง กาลต่อมาพระมหาชนกเสด็จสวรรคต พระอริฏฐชนกได้ ครองราชสมบัติและทรงรั้งพระโปลชนกเป็นอุปราช วันหนึ่งอมาตย์ผู้ใกล้ชิดกราบทูลใส่ร้ายว่า พระอุปราชโปลชนกคิดไม่ซื่อพระอริฏฐชนก หลงเชื่อ สั่งจองจาพระโปลชนกแต่พระโปลชนกตั้งจิตอธิษฐานและหลบหนีไปได้ ภายหลังได้ รวบรวมพลท้ารบและเอาชนะได้ในที่สุด พระอริฏฐชนกสิ้นพระชนม์ในที่รบ พระเทวีที่กาลัง
  • 16. 16 ทรงครรภ์จึงปลอมตัวหนีออกนอกเมือง ด้วยความช่วยเหลือของท้าวสักกเทวราช จึงเสด็จหนี ไปจนถึงเมืองกาลจัมปากะ ได้พราหมณ์ ผู้หนึ่งอุปการะไว้ในฐานะน้องสาว ต่อมาทรงมีประสูติกาล ตั้งพระนามพระโอรสตามพระอัยยิกาว่า "พระมหาชนก" จบจนกระทั่งพระมหาชนกเติบใหญ่ และได้ทราบความจริงก็คิดจะไปค้าขายแล้วจะไปเอาราช สมบัติคืน จึงนาสมบัติกึ่งหนึ่งของพระมารดาไปขาย แลกเป็นสินค้าออกเรือไปยังสุวรรณภูมิ ระหว่างทางในมหาสมุทรเรือต้องพายุล่มลง ลูกเรือตายหมดเหลือแต่พระมหาชนก รอดผู้เดียว ทรงอดทนว่ายน้าในมหาสมุทรด้วยความเพียร ๗ วัน ๗ คืน จนได้พบนางมณีเมขลา และสนทนาธรรมในเรื่องของความเพียรในที่สุดนางมณีเมขลาได้อุ้มพระมหาชนกไปส่งยังมิถิ ลานคร เนื้อเรื่องหลังจากนี้น่าติดตามมาก ดังที่พระองค์รับสั่งว่า "ตัวหนังสือบางอย่างหรือ คาบางอย่างได้ดัดแปลงให้ตรงกับความคิดสมัยใหม่นี้บ้าง ที่อาจไม่เป็นประโยชน์แก่คนปัจจุบัน ก็ได้ละเว้น และได้ตกแต่งส่วนใหม่ที่เป็นประโยชน์แก่สังคมปัจจุบัน
  • 17. 17 พระราชนิพนธ์"พระมหาชนก" มีความลึกซึ้ง ขึ้นอยู่กับการตีความตามแต่ภูมิหลังของแต่ละช่วงอายุ วัย และประสบการณ์ พระมหาชนกทรงมีกาลังจากอาหารที่เสวย มีผ้าชุบน้ามัน ช่วยไล่สัตว์น้า และช่วยให้ลอยตัวอยู่ในน้าได้ ดี จึงทรงแหวกว่าย อยู่ในทะเลได้นานถึง ๗ วัน ฝ่ายนางมณีเมขลา เทพธิดาผู้รักษามหาสมุทร เห็นพระมหา ชนก ว่ายน้าอยู่เช่นนั้น จึงลองพระทัย พระมหาชนก "ใครหนอ ว่ายน้าอยู่ได้ถึง ๗ วัน ทั้งๆ ที่มองไม่เห็นฝั่ง จะทนว่ายไปทาไมกัน" พระมหาชนกทรงตอบว่า "ความเพียรย่อมมีประโยชน์ แม้จะมองไม่เห็นฝั่ง เราก็จะ ว่ายไปจนกว่าจะถึง ฝั่งเข้าสักวันหนึ่ง" นางมณีเมขลากล่าวว่า "มหาสมุทรนี้กว้างใหญ่นัก ท่านจะพยายาม ว่ายสักเท่าไรก็คงไม่ถึงฝั่ง ท่านคงจะ ตายเสียก่อนเป็นแน่" พระมหาชนกตรัสตอบว่า "คนที่ทาความเพียรนั้น แม้จะต้องตายไปในขณะกาลังทา ความเพียรพยายามอยู่ ก็จะไม่มีผู้ใดมาตาหนิติเตียนได้เพราะได้ทาหน้าที่ เต็มกาลังแล้ว " นางมณีเมขลาถามต่อว่า "การทาความพยายามโดยมองไม่เห็น ทางบรรลุเป้ าหมายนั้น มีแต่ ความยากลาบาก อาจถึงตายได้จะต้องเพียรพยายามไปทาไมกัน" พระมหาชนกตรัสตอบว่า "แม้จะรู้ว่าสิ่งที่ เรา กาลังกระทานั้นอาจไม่สาเร็จก็ตาม ถ้าไม่เพียรพยายามแต่กลับหมดมานะเสียแต่ต้นมือ ย่อมได้รับ ผลร้าย ของความเกียจคร้านอย่างแน่นอน ย่อมไม่มีวัน บรรลุถึงเป้ าหมายที่ต้องการ บุคคลควรตั้งความเพียรพยายาม แม้การนั้นอาจไม่สาเร็จก็ตาม เพราะเรามีความพยายาม ไม่ละความตั้งใจ เราจึงยังมีชีวิตอยู่ได้ในทะเลนี้ เมื่อ คนอื่นได้ตายกันไปหมดแล้ว เราจะพยายามสุดกาลัง เพื่อไปให้ถึงฝั่งให้จงได้" นางมณีเมขลาได้ยินดังนั้น ก็ เอ่ยสรรเสริญความเพียร ของมหาชนกกุมาร และช่วยอุ้มพามหาชนกกุมาร ไปจนถึงฝั่งเมืองมิถิลา วาง พระองค์ไว้ที่ศาลาในสวนแห่งหนึ่ง ในเมืองมิถิลา
  • 18. 18 ส.ค.ส. พระราชทาน ประจาปี ๒๕๔๒ ทรงให้คนไทยมีความเพียร เช่นเดียวกับพระมหาชนก และทรงเน้นเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงว่าเป็นทางแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ
  • 19. 19 ดร.สมิทธ กล่าวถึงนายหลวง จากการสัมภาสโดยทีมงานชุมชนตามรอยพระมหาชนกเว็บพลังจิต ดร.สมิทธธรรมสโรช : ผมเป็นคนให้ข้อมูลเอง… พระองค์ท่านเป็นคนริเริ่มที่จะทาเรื่องนี้ ที่จะเอา ธรรมชาติขึ้นมาสอนมนุษย์ธรรมชาติที่เคยเกิดขึ้น วันเดือนที่พระองค์ท่านคานวณ ย้อนหลังเป็นร้อยๆปี ตรง กับวันที่เกิดภัยพิบัติจริงเกิดขึ้น พระมหาชนกที่ว่ายอยู่ในทะเลอินเดียเป็นวันที่เกิดพายุไซโครนจริงๆ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงศึกษา อุตุนิยมวิทยา ทรงรอบรู้ ศึกษาด้วยพระองค์เอง ท่านใช้หลักวิทยาศาสตร์ หลักเทคโนโลยี ทาง IT ท่านทาฝนเทียมท่านศึกษาเยอะ ผมเคยพาผู้เชี่ยวชาญ ของสหประชาชาติ เป็นเลขาธิการองค์การอุตุนิยมวิทยา เก่งมาก เข้าไปเฝ้าคุยกัยอยู่นานเป็นชั่วโมงเลย ศาสดาจารย์โอบาชิ โลก ( Dr.Prof. Godwin O.P. Obasi ) ท่านจบจากมหาลัย MIT เป็นมหาลัยที่มีชื่อเสียง ของอเมริกา พอเขาออกมาเขาชื่นชมมากเลย บอกคุยประเจ้าแผ่นดินของยู พระองค์ท่านรับสั่งเหมือน อาจารย์ผมที่สอนอยู่มหาลัย MIT เลย ผมภูมิใจมาก พระองค์ท่านทรงรอบรู้หมด อธิบายเป็นขั้นตอน การทา ฝนเทียม เลี้ยงให้อ้วน ทาให้ฝนตกอย่างไร เป็นขั้นตอนตามหลักวิทยาศาสตร์ ซึ้งพระองค์ท่านไม่ได้เรียน ทางอุตุนิยมวิทยามา แต่ทรงรอบรู้มาก ดร. โอบาชิ นี้เวลาไปบรรยายที่ไหนจะเอยถึง King of Thailand แล้ว ก็มาถวายประกาศนียบัตรเชิดชูว่าเป็นพระเจ้าแผ่นดินพระองค์แรกของโลก ที่เป็นนักอุตุนิยมวิทยา เข้าไป ถวายเลย เคยไปถวายเครื่องอุตุนิยมวิทยาติดตั้งไว้ที่สวนจิตร และขอเข้าเฝ้าอีกสักครั้ง ท่านก็บอก..เครื่องมืออุตุหายไปเยอะเลย ผมก็....ใครจะเข้ามาขโมยเครื่องมือของผมที่ไปติดตั้งไว้ให้ ปรากฏว่ากบ , อีกาที่รัฐสภามากินกบท่าน ,กบเป็นเครื่องมือของท่าน เพราะกบมันร้อง ทรงมีพระอารมณ์ ขัน นั้นคือเครื่องมือกรมอุตุ ผมก็เลยไปต้องบอกปลัดกระทรวงเกษตรให้เอากบไปปล่อย เวลาพระองค์ท่าน จะทรงนิพนธ์เรื่องพงศาวดาร พระองค์ท่านทรงต้องมีหลักฐานว่าสิ่งที่นิพนธ์ขึ้นมา สิ่งที่จะเขียนลงไปต้อง ใกล้ความจริง พระองค์ท่านทรงคานวณวันเวลา วันที่พระมหาชนกที่ต้องลงไปว่ายในน้ามีเคลื่อนลมแรงตรง กับทางวิทยาศาสตร์ทางอุตุวิทยาว่ามันเกิดอย่างนั้นขึ้นมาจริงๆในมหาสมุทรอินเดีย ไม่ต้องไปถอดรหัสมัน เป็นเรื่องจริงทั้งนั้น แผ่นที่ที่พระองค์ท่านเขียนอะไรต่างๆถูกต้องหมดตามหลักวิชาหมดเลย
  • 20. 20 ทีมตามรอยพระมหาชนก : อันนี้ที่พระองค์ท่านเขียนไว้9 May วันอุโบสก ก็คือไปเทียบกับปฏิทิน 100 ปี ปีที่จะต้อง 9 May ก็คือ พ.ศ. 2556, 2556 จะมีพายุมากตรงนี้และพระมหาชนกจะจมน้า ก็เลยบอกว่า 9 May และจะเป็นปีที่ตรงกับ 2012 ซึ่งเป็น Solar Maximum ทาไมปีตรงเดือนตรงกันเลย พระองค์ท่านจะบอก อะไรหรือเปล่า กาลังถอดรหัสกันอยู่ ดร.สมิทธธรรมสโรช : พระองค์ท่านทรงทราบ แต่ทรงไม่กล้าบอกตรงๆ ทีมตามรอยพระมหาชนก : ก็เลยถอดรหัสมันใช้เลย ก็เลยจาไว้ว่าวันนี้วันอุโบสก วันนั้นวันพระแน่นอน และก็เกิดอย่างนั้น ดร.สมิทธธรรมสโรช : ท่านนั่งทางใน....ในหลวงนี้.. เวลาเข้าเฝ้าสังเกตดูสิ พระองค์ท่านหยุดรับสั่งเฉยๆ นั่งเฉยๆ นั่งสักพักแล้วก็มีรับสั่งมา ท่านนั่งทางใน ผมเคยไปเถียงกับพระองค์ท่าน เรื่องพายุเอนเจลล่า ผมยัง จาได้พระองค์ท่าน.. มันมีพายุเอนเจลล่า.เป็นซีเรียส ทรอปิคคัลสตอร์ม (Serious Tropical Storm) เข้ามา ผม ก็ทายว่าจะต้องเข้ามาผ่านเวียดนาม ผ่านเขมรลงมาที่ประเทศไทย ไม่ใช้ผมคานวณอย่างเดียว มีหน่วย อุตุนิยมวิทยาข้างเคียง ทั้ง CNN BBC ทั้งญี่ปุ่น ทั้งจีน บอกว่าเข้าแน่นอนกรุงเทพมหานคร กรุงเทพมหานคร ตอนนั้นท่วมอยู่แล้ว สมัยท่านผู้ว่ากฤษฎา อรุณวงษ์ ณ อยุธยา พระองค์ท่านก็มีรับสั่งว่าไม่เข้า ผมถวายตอน เป็นอธิบดี ถวายรายงานทุกเย็นเลย สามโมงเย็นเขียนแผ่นที่ถวายรายงานสภาวะอากาศ ถวายพระองค์ท่าน ทุกเย็น คือพระองค์ท่านส่งกลับมาอีกว่าไม่เข้า ผมก็ถวายอีกว่าต้องเข้าอย่างนี้ พระองค์ท่านก็ส่งกลับมาอีก ผมก็เลยบอกว่า กราบถวายเพื่อได้โปรดทรงพระราชวินิจฉัย พระองค์ท่านทรงหัวเราะเลยแล้วก็บอกว่าไม่เข้า แล้วก็ไม่เข้าจริงๆ ทั้งๆที่หน่วยอุตุนิยมวิทยาประเทศอื่นก็บอกว่าเข้า พอมาถึงฝั่งเวียดนามมัน Recurve ( ย้อนกลับ) ขึ้นไป ไปเกาะไหหลาเข้าประเทศจีน คนของประเทศจีนตายเป็นร้อยคน แต่ประเทศไทยไม่มี อะไรเลย ก็นี้ผมก็เลยไปเข้าเฝ้าอีกครั้งหนึ่งหลังจากนั้นไปกับ ดร สุเมธ , ดร สุเมธถามว่าทาไมไม่เข้า พระองค์ท่านก็ชี้มาที่ผมถามคนนี้ ผมก็กราบบังคุมถามอีกครั้ง ท่านให้นางมณีเมขลา พาพายุลูกนี้ไปเขาพระ สุเมรุแล้ว พูดแค่นี้เราก็ไม่กล้าถามอีก ,ไม่กล้าถามก็เคยคุยกับมหาเล็กหลายคนบางครั้งพระองค์ท่านมีรับสั่ง.. ไปรอรับพระที่อยู่ที่หน้าประตุเข้ามาด้วย มีเกจิอาจารย์ที่ในตระวันออกเฉียงเหนือหลายองค์ ที่เข้าเฝ้าโดยไม่ มีหมายไม่มีอะไรเลย แต่ท่านสื่อกันทางจิตมาเข้าเฝ้ามาพบ แล้วมหาเล็กก็เดินดุ่มๆแล้วก็เจอจริงๆพระมายืน รอจะเข้าเฝ้า
  • 21. 21 คุณดูเวลาท่านพระราชทาน ส.ค.ส. ประจาปีใหม่ในนั้นถ้าคุณ แกะอะไรให้ดี มีอะไรเยอะที่พระองค์ท่าน จะบอก แต่พระองค์ท่านจะไม่พูดมาตรงๆ บางครั้งท่านรู้ท่านก็ไม่ยากพูดอย่างผมตอนไปกราบบังคมทูล บอกให้ผมทานู้นี้ เกี่ยวกับเรื่องน้า เรื่องเขื่อน เรื่องอะไร พระองค์ท่านบอกว่านี้อยากมาพูดเลย ฉันไม่อยาก ให้ใครมาเดินขบวนหน้าบ้านฉัน ฉันก็กลัวพวก NGO มาว่าเหมือนกัน อีกหน่อยท่านก็จะพูดอะไรท่านก็ ระวังเพราะมีคนสองฝ่าย คนที่เห็นด้วยก็จะชอบ คนที่ไม่เห็นด้วยก็อาจจะเคือง เพราะฉะนั้นท่านเป็นอยู่จุด นั้นแล้วนะ....บางคนบอกว่าเสื้อแดง เสื้อเหลืองออกมารบกันทาไมไม่ทรงออกมาห้ามพระองค์ท่านทรงพูด ไม่ได้หลอก เพราะคนมีการสนับสนุนทั้งสองข้างบางครั้งพระองค์ท่านก็อึดอัดเหมือนกัน อยากไปใช้พระองค์ท่านมากนัก ผมว่าเราใช้พระองค์ท่านมากเหลือเกิน...เอะอะ..ก็ให้นายหลวงออกมา ตัดสิน ตัดสินอยู่เรื่อย มันไม่ได้หลอกครับ พระองค์ท่านอยู่ในจุดนั้นท่านออกมาพูดอย่างนั้นไม่ได้ท่านจะ มาเข้าข้างคนใดคนหนึ่งไม่ได้ออกมาพูด บางที่ผมยังนึกว่า.. เคยได้ยินท่านรับสั่ง.. คนอ้างชื่อพระองค์ท่าน เรื่อย ทาเพื่อนายหลวง ทาเพื่อสถาบัน พระองค์ท่านอาจรับสั่งว่า ทาเพื่อสถาบัน มันต้องทาเพื่อประเทศชาติด้วย ถ้าว่าทาเพื่อสถาบัน สถาบันอยู่แต่ประเทศชาติไม่อยู่แล้วฉันจะไปเป็นพระเจ้าแผ่นดินประเทศไหน อันนี้บางที่เราใช้ท่านมากไป เราใช้ท่านมากไป.. อันนี้บางคนแล้วแต่คนพระองค์ท่านทรงมีพระบารมี ผม ไม่เชื่อว่าพระองค์ท่านเป็นมนุษย์นะ ผมเชื่อว่าพระองค์ท่านเป็นเทพนะ เป็นเทพนะจริงๆ เป็นเทพ สาหรับ ผมเองท่านเป็นเทพไม่ใช้มนุษย์ธรรมดา
  • 22. 22 ตามรอยพระมหาชนกชาดก ภาพ มหาชนกวัดมัชฌิมาวาส พระมหาชนก เป็นเรื่องหนึ่งในทศชาติชาดกอันเป็นทศชาติชาดก ๑๐ ชาติสุดท้าย ก่อนที่พระโพธิสัตว์จะ มาประสูติเป็นเจ้าชายสิทธัตถะและตรัสรู้เป็นพระสัมมาพุทธเจ้า มหาชนกชาดกเรื่องนี้เป็นการบาเพ็ญความ เพียรเป็นบารมี ผู้บาเพ็ญวิริยะบารมีสูงสุด ยอดคนผู้มีความพากเพียรมั่น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสนพระราชหฤทัย จึงทรงค้นเรื่องพระมหาชนกในพระไตรปิฎกและ ทรงแปลเป็นภาษาอังกฤษตรงจากมหาชนกชาดก ตั้งแต่ต้นเรื่อง โดยทรงดัดแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อให้เข้าใจ ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ยังทรงแปลเป็นภาษาสันสกฤต ประกอบอีกภาษา รวมทั้งแผนที่ฝีพระหัตถ์ แสดงสถาน ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของเมืองโบราณบางแห่งและข้อมูลอุตุนิยมวิทยาเกี่ยวกับทิศทางลม กับกาหนดวันเดิน ทะเลตลอดจนจุดอัปปางของเรืออับโชค ทรงคาดคะเนโดยอาศัยข้อมูลทางโหราศาสตร์ แสดงถึงพระปรีชา ในด้านอักษรศาสตร์ ภูมิศาสตร์และโหราศาสตร์ไทย ในโอกาสเฉลิมฉลองกาญจนาภิเษกแห่งรัชกาล เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๙ พระราชนิพนธ์เรื่องพระมหาชนก ก็ออกจาหน่าย และเป็นที่ชื่นชมโดยทั่วไป แต่หนังสือพระราชนิพนธ์ นี้ก็ยังอ่านค่อนข้างยาก ด้วยความซับซ้อนของข้อความและของภาพ ทาให้มีการวิจารณ์และตีความกัน ในทางต่างๆ นานา
  • 23. 23 อิทธิบาท ๔ อิทธิบาท ๔ บาทฐานแห่งความสาเร็จ หมายถึง ฐานหรือหนทางสู่ความสาเร็จ ๑. ฉันทะ ความพอใจรักใคร่ในสิ่งนั้น ๒. วิริยะ ความพากเพียรในสิ่งนั้น ๓. จิตตะ ความเอาใจใส่ฝักใฝ่ในสิ่งนั้น ๔. วิมังสา ความหมั่นสอดส่องในเหตุผลของสิ่งนั้น
  • 24. 24 ตามรอยพระราชนิพนธ์มหาชนก ความสัมพันธ์ของสรรพสิ่ง เกี่ยวเนื่องสอดคล้องกันและกัน ดังกฎอิปปัจตา ที่พระพุทธองค์ ทรงกล่าวไป เมื่อ ๒๕๐๐ ปีในอดีตว่า เมื่อมีสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงมี เพราะสิ่งนี้เกิดขึ้น สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้จึงไม่มี เมื่อสิ่งนี้ดับไป สิ่งนี้ก็ดับ จากชาดกพระมหาชนกนี้ หนังสือพระราชนิพนธ์พระมหาชนก ขององค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เกิดขึ้น เมื่อหนังสือพระราชนิพนธ์พระมหาชนกมี หนังสือตามรอยพระมหาชนกเล่มนี้จึงเกิดขึ้น หนังสือพระราชนิพนธ์พระมหาชนก เป็นราชนิพนธ์ที่ต้นเรื่องมาจากพระมหาชนก ซึ่งเป็นชาดกใน ๑๐ ภพชาติสุดท้ายขององค์พระสัมมาสัมมาพุทธเจ้า ก่อนมาเกิดเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ ในชาดกมหาชนก เป็น ชาดกที่สอนเรื่อง วิริยะบาท เป็นบาทสอนเรื่องความเพียร หนังสือตามรอยพระมหาชนก เป็นหนังสือตามรอยอธิบาท ๔ ในบทวิริยะมรรค ในบทความเพียง ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา อธิบาท ๔ ซึ่งเป็นหนทางสู่ความสาเร็จ ซึ่งเป็นการเดินต่อเนื่องเป็นสายดังสายน้า ต่อเนื่องสู่ความสาเร็จ และตามร่องรอยงานขององค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในกิจเรื่องการแก้ไข วางแผน โครงการพระราชดาริเกี่ยวกับน้า ให้แก่ประเทศไทยแบบองค์รวม ไม่ว่าจะเป็นโครงการฝนเทียม ศูนย์มณี เมขลา เพื่อวิกฤตกาลเรื่องน้า อนาคตของประเทศไทยไว้ล่วงหน้า เราจะเห็นพ่อของแผ่นดินนี้ทางานให้แก่ ลูก 60 ล้าน เปรียบเหมือนสายฝนที่ชุมช่าทั่วผืนแผ่นดินไทย จากภาพฝีพระหัตถ์ในพระราชนิพนธ์พระมหาชนก ทรงแสดงถึงความลุ่มลึกแห่งพระปัญญาที่พระองค์ ท่านทรงซ้อนไว้ในภาพจักราศีที่ปรากฏแสดงถึง พระอัจฉริยภาพทางด้านพุทธศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และ โหราศาสตร์ พระราชนิพนธ์พระมหาชนก เป็นต้นแบบความเพียรที่องค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวใช้เวลาในการพระราช นิพนธ์ถึง 11 ปี จากทศชาติชาดก 10 ชาติสุดท้ายของพระโพธิสัตว์ก่อนจะเสวยพระชาติมาเกิดเป็น พระพุทธเจ้า มหาชนกชาดก เป็นชาดกในภาค บาเพ็ญเพียร วิริยะบารมี ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็น ต้นแบบเปรียบดั่งพระโพธิสัตว์ผ่านผลงานมากมายตลอดเวลาตอนถึงทุกวันนี้ อยากจะกล่าวว่า ช่างโชคดีนักที่ได้เกิดในรัฐสมัยองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชนิพนธ์พระมหาชนก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงใช้ความเพียรที่บริสุทธิ์พระราชนิพนธ์ ถึง ๑๑ ปี ในการเรียบเรียงแล้วเสร็จทรงเริ่มต้นตั้งแต่ปี ๒๕๒๐ – ๒๕๓๑ ซึ่งเห็นถึงความตั้งมั่นในความ เพียรเป็นเวลายาวนาน ซึ่งแสดงเป็นต้นแบบในการทางานด้วยความเพียร
  • 25. 25 ตามรอยพระมหาชนกพระอัจฉริยะภาพ แห่งองค์พระโพธิสัตว์ คาสั่งสอนที่ประเสริฐที่สุดในภพจักรวาล เกิดขึ้นในวันจาตุรงคสันติ บาต วันที่พระพุทธองค์ทรงประธานหลักโอวาทปาฏิโมกข์ อันเป็นหัวใจ ของพุทธศาสนา แด่พระอรหันต์สาวกผู้เป็นอหิภิกขุที่ได้รับการอุปสมบท จากพระพุทธเจ้าโดยตรง ทั้ง ๑,๒๕๐ องค์ ในวันมาฆะบูชา ที่เกิดขึ้นเมื่อ ๒๕๐๐ กว่าปีก่อน คาสอนโอวาทปาฏิโมกข์หลังพระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ เป็นหลักคาสอนสาคัญหลักของพระพุทธศาสนา และพรประเสริฐสุดแห่ง ภพจักรวาล พระพุทธพจน์คาถาแรกได้แก่ ขันติ ความอดทนอดกลั้น (ตีความจากภาพฝีพระหัตถ์ ภาพ Mani Makkala 9 May วันนี้วันอุโบสถ) คาสั่งสอนที่ประเสริฐที่สุดของคนไทยจากพระราชนิพนธ์พระมหาชนกของพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัว เมื่อ ปี ๒๕๓๗ และพระองค์ท่านทรงตามรอยองค์สมเด็จสัมมาพระพุทธเจ้าในทศบารมี พระองค์ ท่านทรงประทานพรเรื่องความเพียร และเป็นแบบอย่างแด่พสกนิกร เพื่อให้งานบรรลุจุดมุ่งหมายอันสูงยิ่ง ด้วย วิริยะบารมี ทรงบาเพ็ญวิริยาบารมีขั้นสูงสุดเป็นแบบอย่าง ดั่งพระมหาชนก ที่ทรงพากเพียรว่ายน้าข้าม มหาสมุทร คราวเดินเรือไปค้าขาย แล้วเกิดเรืออับปาง ทั้งที่ไม่รู้จะถึงฝั่งเมื่อไร (จากพระราชนิพนธ์พระมหาชนก) ๒ พฤษภาคม ๒๕๕๑ เวลา ๐๔.๐๐น. เหตุการณ์พายุนาร์กีส ได้คร่าชีวิตประชาชนบริเวณปากแม่น้าอิ รวะดีไปไม่น้อยกว่าแสนชีวิต แด่.....ดวงวิญญาณจากเหตุการณ์พายุนาร์กีสทุกดวงขอจงสู่สรวงสรรค์ บริเวณที่ประสพภัยติดพื้น แผ่นดินไทยและฝนได้ช่วยสกัดพายุเข้าพื้นแผ่นดินไทย (ตีความจากภาพฝีพระหัตถ์ Mini Mekkala 2 May Top Cyclone)
  • 26. 26 พระราชดารัสในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช พระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ ที่เข้าเฝ้าฯถวายชัยมงคลในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชงดุสิตฯ วันจันทร์ ที่ ๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๘ พายุเอนเจลล่า .....แต่เมืองไทยนี้วิเศษจริงๆ เพราะว่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่มีขึ้นให้น้าท่วมนี่รู้สึกเกิดขึ้นไม่ใช่เฉพาะ กรุงเทพฯ และปริมณฑล เดือดร้อนตั้งแต่ภาคเหนือลงมาถึงภาคใต้และทางอีสานก็มี ภาคใต้ก็มี แต่ว่าที่ เดือดร้อนที่สุดก็อยู่ใกล้ที่นั่งของเราที่นั่งอยู่เดี๋ยวนี้ ก็คือกรุงเทพฯ เดือดร้อน แต่ก็เรื่องมันไม่มากนัก เพราะมี สิ่งที่ช่วยเมื่อน้าท่วมอยู่จวนจะแห้ง ทางกรมอุตุนิยมโดยนายสมิทธ ธรรมสโรช ได้ส่ง พยากรณ์อากาศมาให้ แล้วเขียนไว้เป็นโน้ตบอกว่ากรมอุตุนิยมถวาย เกี่ยวข้องกับ พยากรณ์อากาศ และเกี่ยวข้องกับพยากรณ์การเคลื่อนไหวของพายุ เขาบอกว่า ถวาย แล้วต่อด้วยเพื่อทรงพิจารณา หมายความว่า กรมอุตุนิยมมาใช้เรา ใช้เราเป็นผู้ พยากรณ์ก็เป็นเกียรติ เขาเขียนว่าเพื่อทรงพิจารณา ดูแล้ว ก็หนักใจอยู่ เพราะว่าดูใน แผนที่อากาศ พายุเอนเจลล่า อ้วนจ้าม่า อ้วนเหมือนในการ์ตูน
  • 27. 27 เอนแจลล่า ไม่ทราบว่าท่านทั้งหลายเห็นหรือเปล่า เอนเจลล่าที่เป็นอริของป๊ อบอาย ไม่ทราบว่าเห็นหรือ เปล่า เห็นไหมว่าในการ์ตูนป๊ อบอายมีเอนเจลล่า ตัวเบ้อเร่ออ้วนเลย นี่แหละกาลังมาเป็นอริกับเรา แล้วก็คุณ สมิทธก็บอกว่า เอนแจลล่าเป็นซุปเปอร์ไต้ฝุ่ นน่ากลัว คร่าชีวิตในฟิลิปปินส์พันกว่า ผ่านมาแล้ว มาในทะเล จีนใต้ตามธรรมดาเมื่อเวลาพายุผ่านฟิลิปปินส์ มันต้องผอมลง แต่นี่คุณเอนเจลล่ามันอ้วนขึ้นเป็นซุปเปอร์ไต้ฝุ่น เราก็ไม่รู้จะทาอย่างไร ได้รับพยากรณ์อากาศนั้นตอน บ่าย ตอนบ่ายแก่ๆ มาดูเอ เราจะทาอย่างไร ก็ดูถึงประมาณตี ๑ แล้วก็รู้สึกว่าต้องดูต้องใช้ ไอทีหน่อย ใช้อิน ฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี (Information Technology) เราก็ใช้อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยีแล้ว รู้สึกว่า เอนเจลล่านี่จะแพ้แรง คือ แพ้แรงจะต้องบอก ต้องเผย ให้ ทราบ แพ้แรงมณีเมขลา เพราะว่า เดี๋ยวนี้ท่านทั้งหลายก็คงเข้าใจคงรู้จักนางมณีเมขลาพอสมควรแล้ว ก็เลย บอกไปตอนตี ๑ ว่า ให้บอกกรมอุตุนิยมว่า พรุ่งนี้ จะหมายถึงพรุ่งนี้แบบไทยหรือพรุ่งนี้แบบฝรั่งก็ไม่ทราบ แต่ว่าพรุ่งนี้จะกลายเป็นดีเปรสชั่น จากซุปเปอร์ไต้ฝุ่นนี้จะกลายเป็นดีเปรสชั่น และต่อไปอีก ๒ วัน จะเป็น หย่อมความกดอากาศต่าที่จะอยู่แถวๆ ไหหลา ฤาเข้าไปเมืองจีนก็คงต่า ข้อพิจารณาอย่างนี้ เสร็จแล้ววันรุ่งขึ้นก็ดูไอทีต่อไป เอ!ดีแล้ว ที่เราพูดนับว่าถูกพอสมควร ควรจะถูก พอสมควร แต่ว่าทางวิทยุพวก CNN BBC เขาก็ยังบอกว่าเป็นไต้ฝุ่น ไต้ฝุ่นอีก วันรุ่งขึ้นก็เป็นไต้ฝุ่น วันต่อไปก็เป็น ซีเรียส ทรอปิคคัลสตอร์ม (Serious Tropical Storm) หมายความว่า เป็นพายุโซนร้อนที่รุนแรง แต่ดูไม่ รุนแรง เราก็ยืนยันว่าเมืองไทยไม่เป็น แล้วในที่สุด ท่านทั้งหลายเจอเอนเจลล่าที่ไหนก็คงไม่ได้เจอ บินไปที่ โน่นที่นี่ก็ไม่ได้เจอคุณเอนเจลล่าเลย คุณเอนเจลล่าก็ไม่เข้าคุณสมิทธบอกเข้า
  • 28. 28 ขอโทษคุณสมิทธ ก็หมายความว่า คุณสมิทธวันก่อนนี้มาพบ แล้วก็ถามว่ายังไง ก็ได้บอกว่าให้นางมณี เมขลาไปเจรจา ก็ได้ผลดี ถ้ามาแบบที่ว่าเพราะว่าเคยมีไต้ฝุ่นใหญ่ และเข้าทะลุเมืองเวียดนาม และเข้ามาใน เมืองไทย ผ่านแถวมุกดาหาร หรือแถวอุบล เข้ามาจะเห็นว่าพังจริงๆ แต่ไม่เป็นอะไร ฉะนั้นก็ตอนนี้จะได้โฆษณา โฆษณามณีเมขลา มณีเมขลาและหนังสือเล่มใหม่ สานักงานมณีเมขลานี้ ท่านก็ได้ทราบว่าสานักงานมณีเมขลานี้ ได้แถลงอาการพระประชวร ก็คงนึก สานักงานนี้เป็นอะไรแน่ เป็นสานักงานอุตุนิยมมีฐานที่ตั้งอยู่ที่เขาพระสุเมรุ ก็ถามว่าเขาพระสุเมรุอยู่ที่ไหน ก็มีแผนที่ให้ในเล่มนี้ มีสานักงานมณีเมขลา เขาพระสุเมรุอยู่ที่นี่ เป็นที่ตั้งของสานักงานมณีเมขลา แต่ที่จริง สานักงานมณีเมขลานี้เป็นสาขาหนึ่ง เป็นส่วนหนึ่งของสานักงาน ฝล. ท่านคงยังไม่เคยทราบ ว่าสานักงาน ฝล. นี้คืออะไร สานักงาน ฝล. คือ นี่เป็นเครื่องหมายของสานักงาน ฝล. ท่านที่ไม่มีกล้องส่องก็ คงไม่เห็น แตอีกหน่อยก็คงมีชื่อเสียงดีมาก สานักงาน ฝล. นี้ สานักงานมณีเมขลา เป็นส่วนหนึ่งของ สานักงาน ฝล. แต่ที่สาคัญที่สุดคือว่า นางมณเมขลานี้เป็นตัวละครสาคัญ ในหนังสือเล่มใหม่ที่จะออกใน โอกาส ๕๐ ปีกาญจนาภิเษก เป็นหนังสือที่กาลังทา หวังว่าจะทาเสร็จทันสาหรับฉลอง คือว่าหนังสือเล่มนี้ ไม่เหมือนหนังสือติโตหรือนายอินทร์ หนังสือนายอินทร์ ค่อนข้างจะดุเดือดในทาง ราชการลับ หนังสือติโต เป็นหนังสือทเกี่ยวข้องกับ สงครามเหมือนกัน เกี่ยวข้องการต่อสู้ แต่หนังสือใหม่นี้ ยังไม่บอกชื่อ มีบางคนเขาบอกว่าควรจะโฆษณาแต่รู้สึกไม่จาเป็น เพราะว่าเป็นหนังสือที่น่าดูมาก เอาไว้ดูเอง ในหนังสือนี้นางมณีเมขลา จะว่าเป็นนางเอกก็ไม่ใช่ ก็ไม่ เชิง แต่ว่าเป็นตัวสาคัญ ในรูปนี้ ก็จะเห็นว่า มีเรือที่แล่นในมหาสมุทรอินเดีย แล้วก็มีที่เป็นเส้น ที่เกี่ยวข้องกับ ลม คือ เป็นเรื่องของอุตุนิยม และตรงนี้ก็มีดวงของวัน อันนี้ก็เกี่ยวข้องกับวันที่ ๑๕ เมษา ๒๕๓๗ ที่ตอนนั้น แห้งแล้ง แล้วก็เกิดที่ตอนน้าแห้ง แห้งแล้งแล้วก็เกิดเขาบอกว่า จะเล่นสงกรานต์ไม่ได้ ก็ไม่มีน้า แต่ว่าไป ติดต่อนางมณีเมขลา นางมณีเมขลาก็บันดาลใหมีฝนแล้ว ก็นี่เป็นแผนที่ของคุณสมิทธ์เอง มันเป็นอย่างนี้ จริงๆ คุณสมิทธก็ต้องรับรองว่า แผนที่นี้ไม่ผิด ถูกต้องสาหรับวันที่ ๑๕ แล้วก็ดวงนี้ เป็นดวงวันที่ ๑๕ เมษายน อันนี้เป็น ๒๕๓๗ แต่ว่าในเรื่องนั้น ไม่เสร็จ ๒๕๓๗ ไม่ทราบว่าปีอะไร แต่ก็เป็นในระยะเดียวกัน แล้วก็นางมณีเมขลา เป็น ผู้ที่เป็นตัวสาคัญในเรื่องของทะเล มหาสมุทรอินเดีย ทะเลอันดามัน และประเทศไทย ซึ่งเขาเรียกว่าสุวรรณ ภูมิ อันนี้ก็พูดถึงว่า เมืองไทยถูกน้าท่วม แต่ถ้าหากว่าไม่มีสิ่งที่ดีๆ ที่ช่วยป้ องกัน ป่านนี้คงยังจมน้าอยู่ เพราะว่าพายุอย่างคุณเอนเจลล่า ก็จะต้องเข้ามา ตอนนี้ที่จริงอยากจะพูสักเล็กน้อย แต่พูดมามากแล้ว พูดทุก
  • 29. 29 วัน เกือบทุกวัน ที่สภากาแฟ สภากาแฟนี้ท่านทั้งหลายอาจจะไม่เข้าใจว่าอะไร คือว่า ในเขต พระบรมมหาราชวังมีที่ที่ชื่อ พระราชกรัณยสภา
  • 31. 31
  • 32. 32
  • 33. 33 ขออนุญาตนากระแสพระราชดารัส ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มาเล่าสู่กันฟัง เมื่อวันศุกร์ผมได้มีโอกาสได้เข้าค่ายที่ศูนย์ฝึกทหาร ของค่ายนเรศวร วันแรกที่เข้าไปกะบรรยากาศครึ้มๆ ผมก็ว่า เอ... แปลกๆนะ ทาไมอากาศอบอ้าวเหมือนจะมีฝน แต่ก็คิดว่าคงเป็นไปตามสภาพอากาศ พอไปถึงก็ ทากิจกรรมจนได้เข้าหอประชุมตอนดึกใกล้เวลานอนมากแล้ว อาจารย์เอกราช ท่านได้มาพูดถึงเรื่องของฝนที่ตกนี้ว่า "ก่อนหน้านี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ท่านทรงให้คณะทางานเกี่ยวกับฝนเทียม รีบทาฝนเทียม เพื่อ เป็นแนวกันลมพายุดีเปรสชั่น ซึ่งตอนนั้นยังไม่เกิดขึ้น แต่พระองค์ทรงเหมือนกับเทวดาองค์นึงที่ทราบเรื่อง นี้ก่อน ถามว่าตอนนั้นกรมอุตุรู้เรื่องนี้ไม ... ไม่มีใครทราบว่าจะเกิดพายุที่ประเทศพม่าด้วยซ้า พอคณะทางานด้านฝนเทียมทางานเสร็จ ด้วยความสาเร็จ... ผลงานที่พระองค์ได้ทา ก็ก่อให้เกิดผล เมื่อเกิดพายุอย่างที่พระองค์ตรัสไว้ที่พม่า และพายุนี้ก็ได้สร้างความเสียหาย และสร้างความเดือดร้อน ให้กับประเทศพม่า จนทาให้เกิดความสูญเสียอันมหาศาลกับประเทศ ... แต่สาหรับประเทศไทย แนวกาแพงฝนเทียมที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้ทรงสร้างไว้ก็ทาให้เกิด ฝนตกเพียงเล็กน้อย ถ้าเทียบกับพายุที่จริงๆแล้วสามารถสร้างความเดือดร้อนกับประเทศได้มาก " พอผมได้ทราบผมถึงกับอึ้งขนลูกซู่ กับ สิ่งที่พระองค์ได้ทาไว้ให้กับประเทศของเรา ถึงแม้นจะเป็นเรื่องที่ดีที่ทราบเรื่องนี้ แต่ก็มีเรื่องที่ทาให้ผมสะเทือนใจกับสิ่งที่บ้านเมืองเป็นแบบนี้ วันที่2ที่เข้าค่าย ครูฝึกได้เปิดวีซีดีเกี่ยวกับพระองค์ให้ดู ผมก็ดูไปเรื่อยๆจนถึงตอนนึงที่เค้าตัดเอาตอนที่ พระองทรงเสด็จพระราชดาเนิน เพื่อไปส่งเหล่ากษัตริย์จากต่างประเทศ คณะทูตที่มาเข้าเฝ้าในงานฉลองศิริ ราชสมบัติครบ60พรรษา ภาพที่ทาให้ผมปวดจี๊ดขึ้นมาในหัวใจก็คือตอนที่พระองค์ ทรงเสด็จพระราชดาเนินลงบันได(ขอโทษครับ พอดีไม่ทราบว่าเขียนยังไง) พระองค์เกือบหกล้ม ดีที่ทหารรักษาพระองค์ที่เดินนาหน้าคอยประคองพระองค์ ไว้พอพระองค์ทรงยืนได้ ก็ปัดมืออก
  • 34. 34 ผมไม่ทราบว่าพระองค์ตรัสตรงนั้นทันทีไหม หรือตรัสกับคนสนิทในภายหลัง ว่า " ไม่ต้องมาพยุงเรา เราจะเดินให้คนทั่วโลกได้เห็นว่า เราเดินได้ให้คนทั่วโลกได้เห็นว่าเราสามารถ ปกครองคน64ล้านคนด้วยตัวของเราเองได้ " ถึงตอนนี้แล้ว ...น้าตาผมคลอเบ้า คนที่ดูกันก็สะอึ้นกันไปหลายคน ทุกๆคนในที่นั้นเงียบหมดกับคาพูดที่ พระองค์ได้ตรัสไว้ผมได้ยินเสียงกระซิบจากเพื่อนข้างๆว่า สงสารพระองค์ที่ต้องมาทรงงานอย่างหนัก ถึง แม้นจะอายุเยอะแล้ว แต่พระองค์ก็ยังทรงรักและเป็นห่วงลูกๆหลานของพระองค์ ลูกๆหลานๆที่อยู่ใน ประเทศนี้ ท่านทรงงานทุกอย่างเพื่อให้คนในประเทศได้สบาย เพื่อคนในประเทศได้อยู่ดีกินดี อาจารย์ได้บอกกับพวกเราเมื่อวีซีดจบว่า พระองค์เหมือนฝนที่ทาให้ประเทศร่มเย็น เหมือนเทวดาที่ไม่ว่า จะเสด็จพระราชดาเนินไปที่ไหนที่นั่นจะชุ่มฉ่า ที่ๆพระองค์เสด็จพระราชดาเนินไปจะพบแต่ความสงบสุข มี แต่เรื่องดีๆเกิดขึ้นไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไร ท้ายสุดนี้ผมอยากจะบอกพระองค์หากแม้นมีใครผ่านมาอ่าน ถึงจะเป็นคาพูดที่อาจจะได้ยินมาบ่อยๆ แต่ ผมก็ไม่สามารถจะคัดกรองคาพูดใดๆมาพูดได้อีกนอกจาก "ขอพระองค์ทรงเป็นมิ่งขวัญของปวงประชา เป็นร่มโพธิทองของเหล่าปวงชนชาวไทย ขอพระองค์ทรง พระเจริญตราบนานเท่านาน " ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ