1. คว้า ข้อ มูล จากแหล่ง ต่า งๆ เพื่อ ทำา รายงานทางวิช าก
การศึก ษาค้น คว้า คือการแสวงหา
ความรู้โดยการศึกษาหาความรู้เป็นสิ่ง
จำาเป็นสำาหรับทุกคน ทุกวัย ความรู้มอยู่
ี
รอบตัวเรา มิได้มเพียงในตำารา หรือจาก
ี
คำาบรรยายของครูในห้องเรียนเท่านั้น
การแสวงหาความรู้หรือการเรียนรู้เป็นพืน
้
ฐานของการดำาเนินชีวิตเพราะคนเรา
จำาเป็นต้องเรียนรู้ตั้งแต่เกิดจนตาย การ
เรียนรู้ช่วยให้เกิดความคิดในหลายด้าน
เป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
ด้านความรู้ ทักษะ และเจตคติอัน

2. กระบวนการศึก ษาค้น คว้า
การเรียนรู้หรือกระบวนการศึกษา
ค้นคว้า เริ่มจากการศึกษาค้นคว้าในเรื่องที่
ตนสนใจ
เพือให้ได้รับข้อมูล
่
สารสนเทศและความรู้ เพื่อเพิมพูนความรู้
่
ความสามารถ การรู้วิธีค้นหาสารสนเทศ
และความรู้จึงมีความสำาคัญทีช่วยให้เรามี
่
ความรู้กว้างขวางขึ้น ดังนั้นความรู้จึงมี 2
ลักษณะ คือความรู้ในเนือหาวิชานันๆกับ
้
้
ความรู้ว่าจะค้นหาความรู้ได้จากทีใด
่
กระบวนการศึกษาค้นคว้า

3. รายงานทางวิช าการ
คือรายงานผลของการศึกษาค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับ
เรื่องใดเรื่องหนึ่งมุงเสนอผลที่ได้ตามความเป็นจริง
่
ซึงต้องทำาตามขั้นตอนมีระบบมีระเบียบแบบแผนที่
่
เป็นสากล โดยมีหลักฐานและการอ้างอิงประกอบ
แล้วเขียนหรือพิมพ์ให้้ถูกต้องตามรูปแบบที่
สถาบันนั้นๆ กำาหนดและถือว่ารายงานเป็นส่วน
หนึงของการประเมินผลการเรียนการสอนของวิชา
่
นันๆ
้

4. ยงานทางวิช าการหมาย
รายงานการค้นคว้าซึ่งเป็นส่วนหนึงของการ
่
ค้นคว้าวิจัยในเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะเพื่อประกอบการ
เรียนการสอนรายวิชาใดวิชาหนึ่งความแตกต่างของ
รายงานกับภาคนิพนธ์ “รายงานเป็นงานเรื่องเล็กๆใช้เวลา
ค้นคว้าเรียบเรียงเพียงระยะสั้นๆส่วนภาคนิพนธ์นั้น เป็น
งานทีมเนือหาละเอียดกว้างและลึกกว่ารายงานการค้นคว้า
่ ี ้
เรียบเรียง ใช้เวลาตลอดภาคเรียนนัน ๆ ...”
้

5. 1. อธิบายความหมายของการค้นคว้าและ
รทำาการรายงานได้ ช าการ
รายงานทางวิ
2. บอกวัตถุประสงค์และความสำาคัญของการ
ค้นคว้าและการรายงานทางวิชาการได้
3. จำาแนกประเภทของรายงานทางวิชาการ
ได้
4. บอกลักษณะสำาคัญของรายงานทาง
วิชาการได้
5. บอกลักษณะของรายงานทางวิชาการที่ดี
ได้
6. บอกข้อบกพร่องทีพบบ่อยในการเขียน
่
รายงานได้
7. สามารถทำารายงานทางวิชาการจาก
กระบวนการศึกษาค้นคว้าได้ถูกต้องตามขั้น
ตอน

6. วัตรายงานมีความสำาคัความสำา คัญ งต่อไปนี้
ถุป ระสงค์ห รือ ญต่อผู้ศึกษา ดั
ของรายงานทางวิชผู้เรียนรู้จักวิธีการศึกษาค้นคว้า
ส่งเสริมสนับสนุนให้ าการ
หาความรู้ด้วยตนเองในเรื่องทีสนใจได้อย่างกว้างขวาง
่
ลึกซึ้ง
ช่วยให้ผู้เรียนรู้จักแหล่งข้อมูลต่างๆและเกิดทักษะรู้วิธี
การค้นคว้ารวบรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมูลนัน ๆ ได้
้
อย่างถูกวิธี
ช่วยฝึกทักษะทางด้านการอ่าน โดยอ่านได้เร็ว อ่าน
แล้วสามารถจับใจความ ของเรื่องที่อ่านได้ สามารถ
สรุปได้ วิเคราะห์ได้ และจดบันทึกได้
ช่วยฝึกทักษะทางด้านการเขียน สามารถสื่อความ
หมายโดยการเขียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้ขั้นตอนรู้
รูปแบบของการเขียนรายงานแล้วนำาเอาหลักการและ
แบบแผนในการเขียนรายงาน
ไปปรับใช้ในการเขียนรายงานทางวิชาการอื่น ๆ ได้

7. ช่วยฝึกทักษะทางด้านการคิด คือสามารถคิด
วิเคราะห์เรื่องราวต่างๆ โดยใช้วิจารณญาณของ
ตนเอง
แสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผลโดยมี
หลักฐานอ้างอิง แล้วรวบรวม เรียบเรียงข้อมูล
ความคิดทีได้ให้เป็นเรื่องราวได้อย่างมีขั้นตอน มี
่
ระบบ เป็นระเบียบ
สามารถเขียนรายงานประกอบการเรียนได้อย่าง
ถูกต้องตามแบบแผน และเป็นพืนฐานในการศึกษา
้
ชั้นสูงต่อไป
ใช้เป็นส่วนหนึงในการประเมินผลของแต่ละวิชา
่

8. ประเภทของรายงานทางวิช าการ
ในการศึกษาค้นคว้ารวบรวมข้อมูลนั้นอาจ
เป็นการค้นคว้าจาก หนังสือ เอกสาร การสำารวจ
การทดลอง การสังเกต การสัมภาษณ์ วิธีใดวิธีหนึง
่
หรืออาจใช้หลายวิธีประกอบกันก็ได้
ในสถาบัน
การศึกษานั้นการเขียนรายงานถือเป็นส่วนหนึ่งของ
กิจกรรมการเรียนการสอน
โดยผู้สอนอาจเป็นผู้
กำาหนดหัวข้อเรื่องที่จะทำารายงานให้
หรือให้ผู้
เรียนเป็นผู้เลือกหัวข้อเรื่องเอง การทำารายงานอาจทำา
เป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่มก็ได้ ขึ้นอยู่กับขอบเขตของ
เรื่อง และระยะเวลา
ในการทำา รายงานทาง
วิชาการอาจแบ่งเป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้ดังนี้

9. 1.รายงาน คือรายงานที่ได้จากการศึกษาค้นคว้า
รวบรวมข้อมูลซึงส่วนใหญ่แล้ว จะเป็นการรวบรวม
่
ข้อมูลจากหนังสือและเอกสารต่างๆ เป็นกิจกรรม
ประกอบการเรียนการสอน
ทีผู้สอนมอบหมาย
่
ให้ผู้เรียนได้ศกษาค้นคว้า
ึ
เพื่อให้มความรู้เพิม
ี
่
เติมจากเนือหาที่เรียนในห้องเรียน
้
และใช้
เป็นส่วนหนึ่งในการประเมินผลของแต่ละรายวิชา
ในหนึงรายวิชาอาจมีผู้รายงานได้หลายเรื่อง
่
การนำาเสนออาจเป็นลายลักษณ์อักษรหรือรายงาน
ปากเปล่าก็ได้ แล้วแต่ผู้สอนกำาหนด
2. ภาคนิพนธ์ หรือรายงานประจำาภาค (Term
Paper) มีลักษณะเช่นเดียวกับรายงาน
เพียง
แต่เรื่องที่ใช้ทำาภาคนิพนธ์จะมีขอบเขตกว้างและลึก
ซึ้งกว่า
ใช้เวลาค้นคว้ามากกว่า ความยาว
ของเนื้อหามากกว่า ดังนันผู้เรียนจึงมักจะได้รับ
้
มอบหมายให้ทำาเพียงเรื่องเดียว ในแต่ละรายวิชา

10. 3 ปริญญานิพนธ์ เป็นรายงานผลการวิจัยอัน
เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรปริญญา
มหาบัณฑิต เรียกว่า “วิทยานิพนธ์” (Thesis)
และตามหลักสูตรปริญญาดุษฎีบัณฑิต
เรียกว่า
“ดุษฎีนพนธ์” (Dissertation) หัวข้อทีจะทำา
ิ
่
ปริญญานิพนธ์จะต้องมีคุณลักษณะเข้มงวด
ทังในด้านคุณภาพและปริมาณจะต้องเป็นหัวข้อที่
้
แสดงถึงความคิดริเริ่มและมีขอบเขตกว้างขวางลึก
ซึ้ง ศึกษาตามลำาดับขั้นตอนของการทำาวิจัยอย่าง
มีระเบียบแบบแผน ประกอบด้วยข้อเท็จจริง
และข้อเสนอแนะ