SlideShare a Scribd company logo
1 of 40
Download to read offline
จัดทำโดย
น.ส. กำนตสิรี นิลคำ เลขที่ 15
น.ส. ขวัญกมล วงศ์ตำ เลขที่ 31
ม. 6/6
ความหมายของโครงงาน
โครงงาน (Project Approach) คือ กิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ ผู้เรียนได้
ทาการศึกษาค้นคว้าและฝึกปฏิบัติด้วยตนเองตามความสามารถ ความถนัด และความ
สนใจ โดยอาศัยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ หรือกระบวนการอื่นๆ ไปใช้ในการศึกษาหา
คาตอบ โดยมีครูผู้สอนคอยกระตุ้นแนะนาและให้คาปรึกษาแก่ผู้เรียนอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่
การเลือกหัวข้อที่จะศึกษา ค้นคว้า ดาเนินงานตามแผน กาหนดขั้นตอนการดาเนินงาน
และการนาเสนอผลงาน ซึ่งอาจทาเป็นบุคคลหรือเป็นกลุ่ม
โครงงาน คือ การศึกษาค้นคว้า
เกี่ยวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือหลายๆสิ่งที่
อยากรู้คาตอบให้ลึกซึ้งหรือเรียนรู้ใน
เรื่องนั้นๆให้มากขึ้น โดยใช้กระบวนการ
วิธีการที่ศึกษาอย่างมีระบบ เป็น
ขั้นตอนมีการวางแผนในการศึกษาอย่าง
ละเอียด ปฏิบัติงานตามแผนที่วางไว้
จนได้ข้อสรุปหรือผลสรุปที่เป็นคาตอบ
ในเรื่องนั้นๆ
ความสาคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์ คือ ผลงานที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าตามความสนใจ
ความถนัดและความสามารถของผู้เรียน โดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ โครงงานจึงเป็น
กิจกรรมการเรียนรู้ที่มีการเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ โดยผู้เรียนจะหาหัวข้อโครงงานที่ตนเอง
สนใจ รวมทั้งเชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ และความรู้ด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี
สารสนเทศ เพื่อสร้างผลงานตามความต้องการได้อย่างเหมาะสม โดยมีครูเป็นที่ปรึกษา
และให้คาแนะนา
ความสามารถที่เกิดจากการทาโครงงานคอมพิวเตอร์
1.ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถที่เกิดจากการที่นักเรียนเป็นผู้ทา
โครงงานต้องนาเสนอผลงานให้ ครูและเพื่อนนักเรียนให้เข้าใจโครงงานคอมพิวเตอร์ได้อย่าง
ชัดเจน ดังนั้น ผู้ทาโครงงานต้องสื่อสารความคิดในการสร้างสรรค์โครงงานด้วยการเขียน
หรือด้วยปากเปล่า รวมทั้งเลือกใช้รูปแบบของสื่ออย่างมีประสิทธิภาพเพื่อนาเสนอแนวคิด
ในการจัด โครงงานให้ผู้อื่นได้เข้าใจ
2.ความสามารถในการคิด ซึ่งผู้เรียนจะมี
การคิดในลักษณะต่าง ๆ ดังนี้
2.1) การคิดวิเคราะห์ เกิด
จากการที่ผู้เรียนต้องวิเคราะห์ปัญหาและ
แยกแยะสาเหตุว่าเกิดเนื่องจากอะไร
2.2) การคิดสังเคราะห์ เกิด
จากการที่ผู้เรียนต้องนาความรู้ต่าง ๆ ที่
เรียนมา รวมทั้งความรู้จากการค้นหา
ข้อมูล เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาหรือการ
สร้างสรรค์โครงงาน
2.3) การคิดอย่างสร้างสรรค์ เกิดจากการที่ผู้เรียนนาความรู้มาสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ
2.5)การคิดอย่างเป็นระบบ เกิดจากการที่ผู้เรียนคิดแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน โดยใช้
ขั้นตอนในการพัฒนาโครงงาน คือ ผู้เรียนเป็นผู้วางแผนในการศึกษา ค้นคว้า เก็บ
รวบรวมข้อมูล พัฒนา หรือประดิษฐ์คิดค้นผลงาน รวมทั้งการสรุปผลและการนาเสนอผล
การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง โดยมีผู้สอนและผู้ทรงคุณวุฒิเป็นผู้ให้คาปรึกษา
2.4) การคิดอย่างมีวิจารณญาณ เกิดจากการที่ผู้เรียนได้มีการคิดไตร่ตรองว่าควรทา
โครงงานใดและไม่ควรทาโครง งานใด เนื่องจากโครงงานที่สร้างขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อสังคม
โดยรวม เช่น โครงงานระบบคานวณเลขหวย สาหรับหาเลขที่คาดว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลจะ
ออกในแต่ละงวด อาจส่งผลกระทบต่อสังคม ทาให้คนในสังคมเกิดความหมกมุ่นในกับการใช้
เงินเล่นหวยมากขึ้น
3.ความสามารถในการแก้ปัญหา เกิดจากการที่ผู้เรียนวิเคราะห์ปัญหา เข้าใจ และอธิบาย
ปัญหาทางด้านคอมพิวเตอร์ รวมทั้งประยุกต์ความรู้ ทักษะ และการใช้เครื่องมือที่
เหมาะสมกับการแก้ไขปัญหา
4.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เกิดจากการที่ผู้เรียนได้นาความรู้และกระบวนการต่าง
ๆ ไปใช้ในการพัฒนาโครงงาน และนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันได้อย่างเหมาะสม
รวมถึงการพัฒนาโครงงาน ก่อให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง อันนาไปสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต
5.ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เกิดจากการที่ผู้เรียนสามารถเลือกใช้เทคโนโลยี
สารสนเทศในการแก้ปัญหาได้ อย่างถูกต้องเหมาะสม และมีคุณธรรม
credit : http://conandoii.blogspot.com/2012/07/2.html
ขอบข่ายโครงงาน
1. เป็นกิจกรรมการเรียนให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติดัวยตนเองโดยอาศัยหลัก
วิชาการทางทฤษฎีตามเนื้อหาโครงงานนั้นๆ หรือจากประสบการณ์และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้พบ
เห็นมากแล้ว
2. นักเรียนทุกคนพิจารณาจัดทาโครงงานด้วยตนเอง หรือเป็นกลุ่มโดยใช้ระยะเวลา
สั้นๆ เป็นภาคเรียน หรือมากว่าก็ได้ แล้วแต่โครงงานเล็กหรือใหญ่
3. นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเริ่มสร้างสรรค์ คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้นคว้าปฏิบัติ
ด้วยตนเองตามความถนัด สนใจ และความพร้อม
4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบัติงานและการ
แปลผล รายงานผลต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อดาเนินงานร่วมกันให้บรรลุตามจุดหมายที่กาหนดไว้
5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียนตามวัยและ
สติปัญญา รวมทั้งการใช้จ่ายเงินดาเนินงานด้วย
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัยในทุก ๆ สาขาวิชา ดังนั้น
โครงงานคอมพิวเตอร์จึงมีความหลากหลายเป็นอย่างมาก ทั้งใน
ลักษณะของเนื้อหา กิจกรรมและลักษณะของประโยชน์หรือผลงาที่ได้
ซึ่งอาจแบ่งเป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้ 5 ประเภท คือ
1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media)
2.โครงงานพัฒนาเครื่องมือ (Tools Development)
3. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี (Theory
Experiment)
4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน (Application)
5. โครงงานพัฒนาเกม (Game Development)
1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media)
เป็นโครงงานทีใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดย
การสร้างโปรแกรมบทเรียน หรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้อง
มีภาคแบบฝึกหัด บททบทวนและคาถามคาตอบไว้พร้อม
ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่ม การสอนโดย
ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยนี้ ถือว่าเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การ
สอน ไม่ใช่เป็นครูผู้สอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียน
แบบ Online ให้นักเรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้
โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้
ประกอบการสอนในวิชาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสาขาคอมพิวเตอร์
วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ วิชาสังคม วิชาชีพอื่น ๆ
ฯลฯ โดยนักเรียนอาจคัดเลือกหัวข้อที่นักเรียนทั่วไปที่ทาความ
เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาโปรแกรมบทเรียน
ตัวอย่าง เช่น โปรแกรมสอนวิธีการใช้งาน ระบบสุริยะจักรวาล
โปรแกรมแบบทดสอบวิชาต่าง ๆ
รูปบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนวิชาเคมี
อ้างอิงรูปจาก
: http://namkwanmay.wordpress.com/2011/02/08/
2. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ (Tools Development)
เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเรื่องมือมาใช้ช่วย
สร้างงานประยุกต์ต่าง ๆ ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นใน
รูปซอฟต์แวร์ ตัวอย่างของเครื่องมือช่วยงาน เช่น
ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน ซอฟต์แวร์
ช่วยการมองวัตถุในมุมต่าง ๆ เป็นต้น สาหรับ
ซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็น
โปรแกรมประมวลผลภาษา ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้
เราใช้งานในงานพิมพ์ต่าง ๆ บนเครื่องคอมพิวเตอร์
เป็นไปได้โดยง่าย ซึ่งรูปที่ได้สามารถนาไปใช้งาน
ต่าง ๆ ได้มากมาย สาหรับซอฟต์แวร์ช่วยในการ
มองวัตถุในมุมต่าง ๆ ใช้สาหรับช่วยในการ
ออกแบบสิ่งของต่าง ๆ เช่น โปรแกรม
ประเภท 3D
รูปโปรแกรมออกแบบสถาปัตยกรรม
อ้างอิงรูปจาก : http://tc.mengrai.ac.th/kruyuy/e-
learning/project/unit1/01_2.html
3. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฏี (Theory Experiment)
เป็นโครงงานใช้คอมพิวเตอร์ในการจาองการทดลองของสาขาต่าง ๆ เป็นโครงงานที่
ผู้ทาต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริงและแนวความคิดต่าง ๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่อง
ที่ต้องการศึกษา แล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสมการ สูตร
หรือคาอธิบายก็ได้ พร้อมทั้งนาเสนอวิธีการจาลองทฤษฎีด้วยคอมพิวเตอร์ การทาโครงงาน
ประเภทนี้มีจุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมีความรู้เรื่องนั้น ๆ เป็นอย่างดี ตัวอย่าง เช่น การทดลอง
เรื่องการไหลของเหลว การทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลาอโรวาน่า ทฤษฎีการแบ่งแยกดีเอ็นเอ
เป็นต้น
รูป โปรแกรมจาลองการเกิดคลื่นซึนามิ
อ้างอิงรูปจาก : http://tc.mengrai.ac.th/kruyuy/e-
learning/project/unit1/01_2.html
4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน (Application)
เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างผลงาน
เพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจาวัน เช่น ซอฟต์แวร์สาหรับ
การออกแบบและตกแต่งอาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี
ซอฟต์แวร์สาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานงาน
ประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์
ใช้สอยต่าง ๆ ซึ่งอาจจะสร้างใหม่หรือปรับปรุงดัดแปลงของเดิม
ที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นก็ได้ โครงงานลักษณะนี้
จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อนแล้วนา
ข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้น ๆ
ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทางานหรือทดสอบคุณภาพ
ของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงาน
ประเภทนี้นักเรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์
ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งอาจใช้
วิธีทางวิศวกรรมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในการพัฒนาด้วย
รูป โปรแกรมจัดตารางสอน
อ้างอิงรูปจาก : http://tc.mengrai.ac.th/kruyuy/e-
learning/project/unit1/01_2.html
5. โครงงานพัฒนาเกม (Game Development)
เป็นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อ
ความรู้ และ/หรือ ความเพลิดเพลิน เช่น เกม
หมากรุก เกมหมากฮอส เกมการคานวณเลข ซึ่ง
เกมที่พัฒนาขึ้นนี้น่าจะเน้นให้เป็นเกมที่ไม่รุนแรง
เน้นการใช้สมองเพื่อฝึกคิดอย่างมีหลักการโครงงาน
ประเภทนี้จะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์
การเล่น เพื่อให้น่าสนใจเก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ความรู้
สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะได้ทาการสารวจ
และรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่าง ๆ ที่มีอยู่ทั่วไป
และนามาปรับปรุงหรือพัฒนาขึ้นใหม่เพื่อให้เป็นเกม
ที่แปลกใหม่และน่าสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่าง ๆ
รูปโครงงานพัฒนาเกม
อ้างอิงรูปจาก : http://tc.mengrai.ac.th/kruyuy/e-
learning/project/unit1/01_2.html
เป็นโครงงานทีใช้คอมพิวเตอร์ในการ
ผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรม
บทเรียน หรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมี
ภาคแบบฝึกหัด บททบทวนและคาถามคาตอบ
ไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคล
หรือรายกลุ่ม การสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยนี้
ถือว่าเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน
ไม่ใช่เป็นครูผู้สอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนา
บทเรียนแบบ Online ให้นักเรียนเข้ามาศึกษา
ด้วยตนเองก็ได้
โครงงานประเภทนี้สามารถ
พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชา
ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสาขาคอมพิวเตอร์
วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ วิชา
สังคม วิชาชีพอื่น ๆ ฯลฯ โดยนักเรียน
อาจคัดเลือกหัวข้อที่นักเรียนทั่วไปที่ทา
ความเข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการ
พัฒนาโปรแกรมบทเรียน เช่น โปรแกรม
สอนวิธีการใช้งาน ระบบสุริยะจักรวาล
โปรแกรมแบบทดสอบวิชาต่าง ๆ
ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ คือ เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิต
สื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาค
แบบฝึกหัด บททบทวน และคาถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคล
หรือรายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การ
สอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้
โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจ
คัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ตัวอย่างโครงงาน
เช่น การเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ ระบบสุริยจักรวาล ตัวแปรต่างๆ ที่มีผลต่อการชากิ่ง
กุหลาบ หลักภาษาไทย และสถานที่สาคัญของประเทศไทย เป็นต้น
เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษาโดยการสร้างโปรแกรม
บทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และคาถามคาตอบ
ไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วย
สอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์
ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการ
สอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อ
การศึกษา เช่น การเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ ระบบสุริยจักรวาล หลักภาษาไทย และ
สถานที่สาคัญของประเทศไทย โครงงานเกี่ยวกับการพัฒนาเว็บไซต์ วิถีชีวิตของคนไทยพวน
โปรแกรม ดนตรีไทยแสนสนุก โปรแกรม ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต โปรแกรมสานวน
ไทยพาสนุก โปรแกรมฝึกอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ โปรแกรมเรียนรู้คณิตศาสตร์
ตัวอย่างโครงงาน
1. โปรแกรม ดนตรีไทยแสนสนุก 2. โปรแกรม ความหลากหลายสิ่งมีชีวิต
3. โปรแกรมสนุกไปกับตารางธาตุ
5.โปรแกรมสานวนไทยพาสนุก
4. โปรแกรมฝึกอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ
credit : http://conandoii.blogspot.com/2012/09/4.html
ความหมาย
• เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษาดดยการสร้างโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยการ
เรียน ซึ่งอาจจะมีแบบฝึกหัด คาถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือกลุ่มการ
สอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน ซึ่งอาจพัฒนาในรูปบทเรียนออนไลน์ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตัวเอง
โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่
เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ตัวอย่างโครงงาน เช่น การเคลื่อนที่แบบโปรเจ็ก
ไตล์ ระบบสุริยจักรวาล ตัวแปรต่างๆ ที่มีผลต่อการชากิ่งกุหลาบ หลักภาษาไทย และสถานที่สาคัญของ
ประเทศไทย เป็นต้น
• credit : http://kruoong.blogspot.com/2011/07/blog-post_25.html
ตัวอย่าง
1. โครงงานพัฒนาเกม ชื่อโครงงานเกมพัฒนาการดานEQ สืบค้นตอได
2. โครงงานโปรแกรมการคนหาคาภาษาไทย
3. โครงงานโปรแกรมอานอักษรไทย
4. โครงงานโปรแกรมวาดภาพสามมิติ
5. โครงงานโปรแกรมเขาและถอดรหัสขอมูล
6. โครงงานโปรแกรมบีบอัดขอมูล
7. โครงงานโปรแกรมประมวลผลคาไทยบนระบบปฏิบัติการลีนุกซ
8. โครงงานโปรแกรมการออกแบบผังงาน
9. โครงงานพอรตแบบขนานของไทย
10. โครงงานการสงสัญญาณควบคุมอุปกรณอิเล็กทรอนิกส์
credit : http://www.rayongwit.ac.th/chanarat/EQPROJECT/main.html
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี
เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการจาลองการทดลองของสาขาต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่
ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริงได้ เช่น การจุดระเบิด เป็นต้น และเป็นโครงงานที่
ผู้ทาต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่
ต้องการศึกษาแล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสูตร
สมการ หรือคาอธิบาย พร้อมทั้งารจาลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็นภาพ
ภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตามสูตรหรือสมการนั้น ซึ่งจะทาให้ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น
การทาโครงงานประเภทนี้มีจุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่างดี
ตัวอย่างโครงงานจาลองทฤษฎี เช่น การทดลองเรื่องการไหลของของเหลว การทดลองเรื่อง
พฤติกรรมของปลาปิรันย่า และการทดลองเรื่องการมองเห็นวัตถุแบบสามมิติ เป็นต้น
ตัวอย่างโครงงาน
เนื่องจากโครงงานประเภทนี้ ผู้ทาโครงงานจะต้องมีพื้นฐานความรู้ทางวิทยาศาสตร์เป็นอย่างดี และ
ต้องทาการศึกษาค้นคว้าเรื่องราวที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างมาก จนมีความรู้อย่างกว้างขวาง และลึกซึ้งในเรื่องที่
เกี่ยวข้องดังนั้นจึงยังไม่เคยมีผู้ทาโครงงานวิทยาศาสตร์ประเภทนี้ส่งเข้าประกวดกับสมาคมวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยีศึกษาไทยเลย
ตัวอย่างโครงงานต่อไปนี้จึงมิได้เป็นโครงงานที่นักเรียนระดับมัธยมศึกษาเป็นผู้ทาไว้
- ทฤษฎีสัมพันธภาพ (E = mc2)
- การอธิบายอวกาศแนวใหม่
- กาเนิดของทวีปและมหาสมุทร
- การกาเนิดของแผ่นดินไหวในประเทศไทย
- การอธิบายเรื่องราวการดารงชีวิตในอวกาศของมนุษย์
credit : http://pioneer.netserv.chula.ac.th/~cpornth1/Web_SciProject/a01.htm
โครงงานประยุกต์ใช้งานเป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ สร้าง
ผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจาวัน อาทิเช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการ
ออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี และซอฟต์แวร์
สาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์
ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็นการคิดสร้างสิ่งของขึ้นใหม่ หรือ
ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โครงงาน
ลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่
ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการ
ทางานหรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับ ปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์
โครงงานประเภทนี้ผู้เรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษา
โปรแกรม และเครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้องรวมทั้งอาจใช้วิธีทางวิศวกรรมฮาร์ดแวร์
และซอฟต์แวร์ในการพัฒนาด้วย
ตัวอย่าง
1. โปรแกรม สารบรรณสาเร็จรูป : Readymade Archivist
2. โปรแกรมระบบฐานข้อมูลทางการแพทย์เบื้องต้น
3. โปรแกรมระบบแฟ้มฐานข้อมูลผู้เรียน 2001
4. เครื่องรดน้าต้นไม้และให้อาหารปลาผ่านโทรศัพท์มือถือ
5. เครื่องให้อาหารไก่ไข่อัตโนมัติ
6. ระบบบริหารจัดการข้อมูลผู้เรียนของโรงเรียน
7. ระบบจัดการข้อมูลการเงินส่วนบุคคล
8. ระบบจองตั๋วรถไฟบนอินเทอร์เน็ต
9. ระบบแนะนาเส้นทางเดินรถประจาทาง
10. โปรแกรมสังเคราะห์เสียงสาหรับคนตาบอดบนรถประจาทาง
11. โปรแกรมออกและตรวจข้อสอบ
12. โฮมเพจส่วนบุคคล
13. โปรแกรมช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น
14. โปรแกรมพจนานุกรมไทย-อังกฤษ
• credit :
http://kruoong.blogspot.com/2011/07/blog-
post_25.html
การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ โครงงานพัฒนา
เกม (Game Development) เป็น
โครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้หรือ
ความเพลิดเพลิน เช่น เกมหมากรุก เกมหมาก
ฮอส เกมการคานวณเลข ซึ่งเกมที่พัฒนาขึ้นนี้
น่าจะเน้นให้เป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้
สมองเพื่อฝึกคิดอย่างมีหลักการ โครงงาน
ประเภทนี้จะมีการออกแบบลักษณะและ
กฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้น่าสนใจเก่ผู้เล่นพร้อม
ทั้งให้ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะ
ได้ทาการสารวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกม
ต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วไปและนามาปรับปรุงหรือ
พัฒนาขึ้นใหม่เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่และ
น่าสนใจแก่ผู้เล่นเกมต่างๆ
โครงงานพัฒนาเกม เพื่อความรู้ ความ
เพลิดเพลิน เช่น เกมหมารุก โปรแกรม ต่อให้
เพิ่ม เติมให้เต็ม (Magic
Puzzle) โปรแกรม เกมผู้รอดชีวิต โปรแกรม
เกมทศกัณฑ์ เกมทายคาศัพท์ และเกมการ
คานวณเลข เป็นต้น ซึ่งเกมที่พัฒนาขึ้นนี้น่าจะ
เน้นให้เป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้สมองเพื่อฝึก
ความคิดอย่างมีหลักการ โครงงานประเภทนี้จะมี
การออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น
เพื่อให้น่าสนใจแก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ความรู้
สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะได้ทาการ
สารวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่างๆ ที่มี
อยู่ทั่วไป และนามาปรับปรุงหรือพัฒนาขึ้นใหม่
เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่ และน่าสนใจแก่ผู้เล่น
กลุ่มต่างๆ
ตัวอย่างโครงงาน
• โครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้หรือ
ความเพลิดเพลิน
• โปรแกรมประยุกต์ธนาคารความดี
• โปรแกรมสร้างโมเดลสามมิติจากการวาดอย่างง่าย
(CPS’ketchuu)
• เกมหมากรุก เกมหมากฮอส
• เกมการคานวณเลข
credit :
• http://kruoong.blogspot.com/2011/07/blog-post_25.html
• http://conandoii.blogspot.com/2012/09/8.html

More Related Content

What's hot

งานคอม
งานคอมงานคอม
งานคอมporpia
 
ใบงานที่ 2
ใบงานที่ 2ใบงานที่ 2
ใบงานที่ 2mewlamun
 
โครงงานคอมพิวเตอร์606
โครงงานคอมพิวเตอร์606โครงงานคอมพิวเตอร์606
โครงงานคอมพิวเตอร์606Ploy Purr
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์Peeravit Tipneht
 
ใบงานที่2-8
ใบงานที่2-8ใบงานที่2-8
ใบงานที่2-8chanakanp
 
ปานชีวา ธนัขขา เสร็จละเว้ยอิดอกกของจริง
ปานชีวา ธนัขขา เสร็จละเว้ยอิดอกกของจริงปานชีวา ธนัขขา เสร็จละเว้ยอิดอกกของจริง
ปานชีวา ธนัขขา เสร็จละเว้ยอิดอกกของจริงธัญญลักษณ์ นาคคำ
 
โครงงานคอมพิวเตอร์2-8
โครงงานคอมพิวเตอร์2-8โครงงานคอมพิวเตอร์2-8
โครงงานคอมพิวเตอร์2-8bowing3925
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงาน 2-3
โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงาน 2-3โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงาน 2-3
โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงาน 2-3parephone2539
 
ใบงานที่ 2 8
ใบงานที่ 2 8ใบงานที่ 2 8
ใบงานที่ 2 8Hnim fetter'Zied
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์heartherher
 
ใบงานที่ 2-8 : โครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 2-8 : โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 2-8 : โครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 2-8 : โครงงานคอมพิวเตอร์Sirikanya Pota
 
กิจกรรมที่2และ3
กิจกรรมที่2และ3กิจกรรมที่2และ3
กิจกรรมที่2และ3spchy
 
ความหมายของโครงงาน
ความหมายของโครงงานความหมายของโครงงาน
ความหมายของโครงงานhuntertoy
 
ใบงานที่4
ใบงานที่4ใบงานที่4
ใบงานที่4juice1414
 

What's hot (17)

งานคอม
งานคอมงานคอม
งานคอม
 
ใบงานที่ 2
ใบงานที่ 2ใบงานที่ 2
ใบงานที่ 2
 
โครงงานคอมพิวเตอร์606
โครงงานคอมพิวเตอร์606โครงงานคอมพิวเตอร์606
โครงงานคอมพิวเตอร์606
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
กิจกรรม2
กิจกรรม2กิจกรรม2
กิจกรรม2
 
ใบงานที่2-8
ใบงานที่2-8ใบงานที่2-8
ใบงานที่2-8
 
ปานชีวา ธนัขขา เสร็จละเว้ยอิดอกกของจริง
ปานชีวา ธนัขขา เสร็จละเว้ยอิดอกกของจริงปานชีวา ธนัขขา เสร็จละเว้ยอิดอกกของจริง
ปานชีวา ธนัขขา เสร็จละเว้ยอิดอกกของจริง
 
โครงงานคอมพิวเตอร์2-8
โครงงานคอมพิวเตอร์2-8โครงงานคอมพิวเตอร์2-8
โครงงานคอมพิวเตอร์2-8
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงาน 2-3
โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงาน 2-3โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงาน 2-3
โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงาน 2-3
 
ใบงานที่ 2 8
ใบงานที่ 2 8ใบงานที่ 2 8
ใบงานที่ 2 8
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
ใบงานที่ 2-8 : โครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 2-8 : โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 2-8 : โครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 2-8 : โครงงานคอมพิวเตอร์
 
กิจกรรมที่2และ3
กิจกรรมที่2และ3กิจกรรมที่2และ3
กิจกรรมที่2และ3
 
Com
ComCom
Com
 
ความหมายของโครงงาน
ความหมายของโครงงานความหมายของโครงงาน
ความหมายของโครงงาน
 
ใบงานที่4
ใบงานที่4ใบงานที่4
ใบงานที่4
 
ใบงานที่ 2 16
ใบงานที่ 2 16ใบงานที่ 2 16
ใบงานที่ 2 16
 

Viewers also liked

ข้อสอบ51
ข้อสอบ51ข้อสอบ51
ข้อสอบ51Szo'k JaJar
 
ข้อสอบ51
ข้อสอบ51ข้อสอบ51
ข้อสอบ51Szo'k JaJar
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 2 8
โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 2 8โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 2 8
โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 2 8Szo'k JaJar
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอมSzo'k JaJar
 
สำรวจเทคน คการจ ดอ_นด_บกสพท
สำรวจเทคน คการจ ดอ_นด_บกสพทสำรวจเทคน คการจ ดอ_นด_บกสพท
สำรวจเทคน คการจ ดอ_นด_บกสพทSzo'k JaJar
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอมSzo'k JaJar
 
สำรวจเทคน คการจ ดอ_นด_บกสพท
สำรวจเทคน คการจ ดอ_นด_บกสพทสำรวจเทคน คการจ ดอ_นด_บกสพท
สำรวจเทคน คการจ ดอ_นด_บกสพทSzo'k JaJar
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอมSzo'k JaJar
 
IS STENTING TO MAINTAIN VASCULAR PATENCY GOING TO BE THE FUTURE
IS STENTING TO MAINTAIN VASCULAR PATENCY GOING TO BE THE FUTUREIS STENTING TO MAINTAIN VASCULAR PATENCY GOING TO BE THE FUTURE
IS STENTING TO MAINTAIN VASCULAR PATENCY GOING TO BE THE FUTUREAVATAR
 
โครงงานคอมพ วเตอร ใบงานท__ 9 - 16
โครงงานคอมพ วเตอร  ใบงานท__ 9 - 16โครงงานคอมพ วเตอร  ใบงานท__ 9 - 16
โครงงานคอมพ วเตอร ใบงานท__ 9 - 16Szo'k JaJar
 
7 สามัญ อังกฤษ
7 สามัญ อังกฤษ7 สามัญ อังกฤษ
7 สามัญ อังกฤษSzo'k JaJar
 
7 สามัญ ภาษาไทย
7 สามัญ ภาษาไทย7 สามัญ ภาษาไทย
7 สามัญ ภาษาไทยSzo'k JaJar
 
Monitoring & surveillance of vascular access
Monitoring & surveillance of vascular accessMonitoring & surveillance of vascular access
Monitoring & surveillance of vascular accessAVATAR
 
โครงงานสำรวจการใช สมาร ทโฟน
โครงงานสำรวจการใช สมาร ทโฟนโครงงานสำรวจการใช สมาร ทโฟน
โครงงานสำรวจการใช สมาร ทโฟนSzo'k JaJar
 
Management of steal syndrome || Dr Ravi Bansal
Management of steal syndrome || Dr Ravi BansalManagement of steal syndrome || Dr Ravi Bansal
Management of steal syndrome || Dr Ravi BansalAVATAR
 

Viewers also liked (17)

ข้อสอบ51
ข้อสอบ51ข้อสอบ51
ข้อสอบ51
 
ข้อสอบ51
ข้อสอบ51ข้อสอบ51
ข้อสอบ51
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 2 8
โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 2 8โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 2 8
โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 2 8
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอม
 
สำรวจเทคน คการจ ดอ_นด_บกสพท
สำรวจเทคน คการจ ดอ_นด_บกสพทสำรวจเทคน คการจ ดอ_นด_บกสพท
สำรวจเทคน คการจ ดอ_นด_บกสพท
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอม
 
53
5353
53
 
สำรวจเทคน คการจ ดอ_นด_บกสพท
สำรวจเทคน คการจ ดอ_นด_บกสพทสำรวจเทคน คการจ ดอ_นด_บกสพท
สำรวจเทคน คการจ ดอ_นด_บกสพท
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอม
 
IS STENTING TO MAINTAIN VASCULAR PATENCY GOING TO BE THE FUTURE
IS STENTING TO MAINTAIN VASCULAR PATENCY GOING TO BE THE FUTUREIS STENTING TO MAINTAIN VASCULAR PATENCY GOING TO BE THE FUTURE
IS STENTING TO MAINTAIN VASCULAR PATENCY GOING TO BE THE FUTURE
 
โครงงานคอมพ วเตอร ใบงานท__ 9 - 16
โครงงานคอมพ วเตอร  ใบงานท__ 9 - 16โครงงานคอมพ วเตอร  ใบงานท__ 9 - 16
โครงงานคอมพ วเตอร ใบงานท__ 9 - 16
 
Blog
BlogBlog
Blog
 
7 สามัญ อังกฤษ
7 สามัญ อังกฤษ7 สามัญ อังกฤษ
7 สามัญ อังกฤษ
 
7 สามัญ ภาษาไทย
7 สามัญ ภาษาไทย7 สามัญ ภาษาไทย
7 สามัญ ภาษาไทย
 
Monitoring & surveillance of vascular access
Monitoring & surveillance of vascular accessMonitoring & surveillance of vascular access
Monitoring & surveillance of vascular access
 
โครงงานสำรวจการใช สมาร ทโฟน
โครงงานสำรวจการใช สมาร ทโฟนโครงงานสำรวจการใช สมาร ทโฟน
โครงงานสำรวจการใช สมาร ทโฟน
 
Management of steal syndrome || Dr Ravi Bansal
Management of steal syndrome || Dr Ravi BansalManagement of steal syndrome || Dr Ravi Bansal
Management of steal syndrome || Dr Ravi Bansal
 

Similar to โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 2 8

โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์Peeravit Tipneht
 
ใบงานที่2-8
ใบงานที่2-8ใบงานที่2-8
ใบงานที่2-8chanakanp
 
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงานความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงานFreshsica Chunyanuch
 
ใบงานโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานโครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานโครงงานคอมพิวเตอร์Atthaphon45614
 
ใบงานที่ 2 8 โครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 2 8 โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 2 8 โครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 2 8 โครงงานคอมพิวเตอร์Siwakorn Areephan
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ (งานคู่)
โครงงานคอมพิวเตอร์ (งานคู่)โครงงานคอมพิวเตอร์ (งานคู่)
โครงงานคอมพิวเตอร์ (งานคู่)Nothern Eez
 
โครงงานคอมพิวเตอร์2-8
โครงงานคอมพิวเตอร์2-8โครงงานคอมพิวเตอร์2-8
โครงงานคอมพิวเตอร์2-8Nutthinun Srsw
 
ใบงานที่ 2 8
ใบงานที่ 2 8ใบงานที่ 2 8
ใบงานที่ 2 8Nattichat Thonton
 
ใบงานที่ 2 8
ใบงานที่ 2 8ใบงานที่ 2 8
ใบงานที่ 2 8Nattichat Thonton
 
โครงงานคอมพิวเตอร์1
โครงงานคอมพิวเตอร์1โครงงานคอมพิวเตอร์1
โครงงานคอมพิวเตอร์1Chatchaphun Sent Work
 
ใบงานที่ 2 - 8 โครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 2 - 8 โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 2 - 8 โครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 2 - 8 โครงงานคอมพิวเตอร์Thanatchaporn Yawichai
 
ใบงานที่ 2 8 โครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 2   8 โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 2   8 โครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 2 8 โครงงานคอมพิวเตอร์Kitti Thepsuwan
 
งานคอมโครงงานสมบูรณ์
งานคอมโครงงานสมบูรณ์งานคอมโครงงานสมบูรณ์
งานคอมโครงงานสมบูรณ์peetchinnathan
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอมJutarat Akanitkul
 
โครงงานคอมใบงาน
โครงงานคอมใบงานโครงงานคอมใบงาน
โครงงานคอมใบงานJutarat Akanitkul
 

Similar to โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 2 8 (20)

โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
ใบงานที่2-8
ใบงานที่2-8ใบงานที่2-8
ใบงานที่2-8
 
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงานความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
 
ใบงานโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานโครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานโครงงานคอมพิวเตอร์
 
ใบงานที่ 2 8 โครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 2 8 โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 2 8 โครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 2 8 โครงงานคอมพิวเตอร์
 
อะไรก็ได้
อะไรก็ได้อะไรก็ได้
อะไรก็ได้
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ (งานคู่)
โครงงานคอมพิวเตอร์ (งานคู่)โครงงานคอมพิวเตอร์ (งานคู่)
โครงงานคอมพิวเตอร์ (งานคู่)
 
Com 1
Com 1Com 1
Com 1
 
โครงงานคอมพิวเตอร์2-8
โครงงานคอมพิวเตอร์2-8โครงงานคอมพิวเตอร์2-8
โครงงานคอมพิวเตอร์2-8
 
ใบงานที่ 2 8
ใบงานที่ 2 8ใบงานที่ 2 8
ใบงานที่ 2 8
 
ใบงานที่ 2 8
ใบงานที่ 2 8ใบงานที่ 2 8
ใบงานที่ 2 8
 
คอม
คอมคอม
คอม
 
โครงงานคอมพิวเตอร์1
โครงงานคอมพิวเตอร์1โครงงานคอมพิวเตอร์1
โครงงานคอมพิวเตอร์1
 
ใบงานที่ 2 - 8 โครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 2 - 8 โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 2 - 8 โครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 2 - 8 โครงงานคอมพิวเตอร์
 
ใบงานที่ 2 8 โครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 2   8 โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 2   8 โครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 2 8 โครงงานคอมพิวเตอร์
 
ใบงานที่2-8
ใบงานที่2-8ใบงานที่2-8
ใบงานที่2-8
 
คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์
 
งานคอมโครงงานสมบูรณ์
งานคอมโครงงานสมบูรณ์งานคอมโครงงานสมบูรณ์
งานคอมโครงงานสมบูรณ์
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอม
 
โครงงานคอมใบงาน
โครงงานคอมใบงานโครงงานคอมใบงาน
โครงงานคอมใบงาน
 

More from Szo'k JaJar

โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอมSzo'k JaJar
 
งานคอม เตย ส บ-ว แก_ใหม_.pdf-----
งานคอม เตย ส บ-ว แก_ใหม_.pdf-----งานคอม เตย ส บ-ว แก_ใหม_.pdf-----
งานคอม เตย ส บ-ว แก_ใหม_.pdf-----Szo'k JaJar
 
เฉลย Onet 52
เฉลย Onet 52เฉลย Onet 52
เฉลย Onet 52Szo'k JaJar
 
เฉลย Onet 52
เฉลย Onet 52เฉลย Onet 52
เฉลย Onet 52Szo'k JaJar
 
โครงงานคอมพ วเตอร ใบงานท__ 9 - 16
โครงงานคอมพ วเตอร  ใบงานท__ 9 - 16โครงงานคอมพ วเตอร  ใบงานท__ 9 - 16
โครงงานคอมพ วเตอร ใบงานท__ 9 - 16Szo'k JaJar
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 2 8
โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 2 8โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 2 8
โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 2 8Szo'k JaJar
 
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษาโครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษาSzo'k JaJar
 
สงครามโลกครั้งที่ 2 pdf
สงครามโลกครั้งที่ 2 pdfสงครามโลกครั้งที่ 2 pdf
สงครามโลกครั้งที่ 2 pdfSzo'k JaJar
 
7 สามัญ สังคม
7 สามัญ สังคม7 สามัญ สังคม
7 สามัญ สังคมSzo'k JaJar
 

More from Szo'k JaJar (17)

โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอม
 
งานคอม เตย ส บ-ว แก_ใหม_.pdf-----
งานคอม เตย ส บ-ว แก_ใหม_.pdf-----งานคอม เตย ส บ-ว แก_ใหม_.pdf-----
งานคอม เตย ส บ-ว แก_ใหม_.pdf-----
 
51
5151
51
 
เฉลย51
เฉลย51เฉลย51
เฉลย51
 
เฉลย Onet 52
เฉลย Onet 52เฉลย Onet 52
เฉลย Onet 52
 
52
5252
52
 
เฉลย Onet 52
เฉลย Onet 52เฉลย Onet 52
เฉลย Onet 52
 
เฉลย53
เฉลย53เฉลย53
เฉลย53
 
เฉลย54
เฉลย54เฉลย54
เฉลย54
 
54
5454
54
 
โครงงานคอมพ วเตอร ใบงานท__ 9 - 16
โครงงานคอมพ วเตอร  ใบงานท__ 9 - 16โครงงานคอมพ วเตอร  ใบงานท__ 9 - 16
โครงงานคอมพ วเตอร ใบงานท__ 9 - 16
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 2 8
โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 2 8โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 2 8
โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 2 8
 
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษาโครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
 
สงครามโลกครั้งที่ 2 pdf
สงครามโลกครั้งที่ 2 pdfสงครามโลกครั้งที่ 2 pdf
สงครามโลกครั้งที่ 2 pdf
 
Biology
BiologyBiology
Biology
 
7 สามัญ สังคม
7 สามัญ สังคม7 สามัญ สังคม
7 สามัญ สังคม
 
1830
18301830
1830
 

โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 2 8

  • 1. จัดทำโดย น.ส. กำนตสิรี นิลคำ เลขที่ 15 น.ส. ขวัญกมล วงศ์ตำ เลขที่ 31 ม. 6/6
  • 2.
  • 3. ความหมายของโครงงาน โครงงาน (Project Approach) คือ กิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ ผู้เรียนได้ ทาการศึกษาค้นคว้าและฝึกปฏิบัติด้วยตนเองตามความสามารถ ความถนัด และความ สนใจ โดยอาศัยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ หรือกระบวนการอื่นๆ ไปใช้ในการศึกษาหา คาตอบ โดยมีครูผู้สอนคอยกระตุ้นแนะนาและให้คาปรึกษาแก่ผู้เรียนอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่ การเลือกหัวข้อที่จะศึกษา ค้นคว้า ดาเนินงานตามแผน กาหนดขั้นตอนการดาเนินงาน และการนาเสนอผลงาน ซึ่งอาจทาเป็นบุคคลหรือเป็นกลุ่ม
  • 4. โครงงาน คือ การศึกษาค้นคว้า เกี่ยวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือหลายๆสิ่งที่ อยากรู้คาตอบให้ลึกซึ้งหรือเรียนรู้ใน เรื่องนั้นๆให้มากขึ้น โดยใช้กระบวนการ วิธีการที่ศึกษาอย่างมีระบบ เป็น ขั้นตอนมีการวางแผนในการศึกษาอย่าง ละเอียด ปฏิบัติงานตามแผนที่วางไว้ จนได้ข้อสรุปหรือผลสรุปที่เป็นคาตอบ ในเรื่องนั้นๆ
  • 5. ความสาคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์ โครงงานคอมพิวเตอร์ คือ ผลงานที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าตามความสนใจ ความถนัดและความสามารถของผู้เรียน โดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ โครงงานจึงเป็น กิจกรรมการเรียนรู้ที่มีการเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ โดยผู้เรียนจะหาหัวข้อโครงงานที่ตนเอง สนใจ รวมทั้งเชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ และความรู้ด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี สารสนเทศ เพื่อสร้างผลงานตามความต้องการได้อย่างเหมาะสม โดยมีครูเป็นที่ปรึกษา และให้คาแนะนา
  • 6. ความสามารถที่เกิดจากการทาโครงงานคอมพิวเตอร์ 1.ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถที่เกิดจากการที่นักเรียนเป็นผู้ทา โครงงานต้องนาเสนอผลงานให้ ครูและเพื่อนนักเรียนให้เข้าใจโครงงานคอมพิวเตอร์ได้อย่าง ชัดเจน ดังนั้น ผู้ทาโครงงานต้องสื่อสารความคิดในการสร้างสรรค์โครงงานด้วยการเขียน หรือด้วยปากเปล่า รวมทั้งเลือกใช้รูปแบบของสื่ออย่างมีประสิทธิภาพเพื่อนาเสนอแนวคิด ในการจัด โครงงานให้ผู้อื่นได้เข้าใจ
  • 7. 2.ความสามารถในการคิด ซึ่งผู้เรียนจะมี การคิดในลักษณะต่าง ๆ ดังนี้ 2.1) การคิดวิเคราะห์ เกิด จากการที่ผู้เรียนต้องวิเคราะห์ปัญหาและ แยกแยะสาเหตุว่าเกิดเนื่องจากอะไร 2.2) การคิดสังเคราะห์ เกิด จากการที่ผู้เรียนต้องนาความรู้ต่าง ๆ ที่ เรียนมา รวมทั้งความรู้จากการค้นหา ข้อมูล เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาหรือการ สร้างสรรค์โครงงาน
  • 8. 2.3) การคิดอย่างสร้างสรรค์ เกิดจากการที่ผู้เรียนนาความรู้มาสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ 2.5)การคิดอย่างเป็นระบบ เกิดจากการที่ผู้เรียนคิดแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน โดยใช้ ขั้นตอนในการพัฒนาโครงงาน คือ ผู้เรียนเป็นผู้วางแผนในการศึกษา ค้นคว้า เก็บ รวบรวมข้อมูล พัฒนา หรือประดิษฐ์คิดค้นผลงาน รวมทั้งการสรุปผลและการนาเสนอผล การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง โดยมีผู้สอนและผู้ทรงคุณวุฒิเป็นผู้ให้คาปรึกษา 2.4) การคิดอย่างมีวิจารณญาณ เกิดจากการที่ผู้เรียนได้มีการคิดไตร่ตรองว่าควรทา โครงงานใดและไม่ควรทาโครง งานใด เนื่องจากโครงงานที่สร้างขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อสังคม โดยรวม เช่น โครงงานระบบคานวณเลขหวย สาหรับหาเลขที่คาดว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลจะ ออกในแต่ละงวด อาจส่งผลกระทบต่อสังคม ทาให้คนในสังคมเกิดความหมกมุ่นในกับการใช้ เงินเล่นหวยมากขึ้น
  • 9. 3.ความสามารถในการแก้ปัญหา เกิดจากการที่ผู้เรียนวิเคราะห์ปัญหา เข้าใจ และอธิบาย ปัญหาทางด้านคอมพิวเตอร์ รวมทั้งประยุกต์ความรู้ ทักษะ และการใช้เครื่องมือที่ เหมาะสมกับการแก้ไขปัญหา 4.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เกิดจากการที่ผู้เรียนได้นาความรู้และกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการพัฒนาโครงงาน และนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันได้อย่างเหมาะสม รวมถึงการพัฒนาโครงงาน ก่อให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง อันนาไปสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต 5.ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เกิดจากการที่ผู้เรียนสามารถเลือกใช้เทคโนโลยี สารสนเทศในการแก้ปัญหาได้ อย่างถูกต้องเหมาะสม และมีคุณธรรม credit : http://conandoii.blogspot.com/2012/07/2.html
  • 10.
  • 11. ขอบข่ายโครงงาน 1. เป็นกิจกรรมการเรียนให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติดัวยตนเองโดยอาศัยหลัก วิชาการทางทฤษฎีตามเนื้อหาโครงงานนั้นๆ หรือจากประสบการณ์และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้พบ เห็นมากแล้ว 2. นักเรียนทุกคนพิจารณาจัดทาโครงงานด้วยตนเอง หรือเป็นกลุ่มโดยใช้ระยะเวลา สั้นๆ เป็นภาคเรียน หรือมากว่าก็ได้ แล้วแต่โครงงานเล็กหรือใหญ่ 3. นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเริ่มสร้างสรรค์ คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้นคว้าปฏิบัติ ด้วยตนเองตามความถนัด สนใจ และความพร้อม 4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบัติงานและการ แปลผล รายงานผลต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อดาเนินงานร่วมกันให้บรรลุตามจุดหมายที่กาหนดไว้ 5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียนตามวัยและ สติปัญญา รวมทั้งการใช้จ่ายเงินดาเนินงานด้วย
  • 12. ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัยในทุก ๆ สาขาวิชา ดังนั้น โครงงานคอมพิวเตอร์จึงมีความหลากหลายเป็นอย่างมาก ทั้งใน ลักษณะของเนื้อหา กิจกรรมและลักษณะของประโยชน์หรือผลงาที่ได้ ซึ่งอาจแบ่งเป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้ 5 ประเภท คือ 1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media) 2.โครงงานพัฒนาเครื่องมือ (Tools Development) 3. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี (Theory Experiment) 4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน (Application) 5. โครงงานพัฒนาเกม (Game Development)
  • 13. 1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media) เป็นโครงงานทีใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดย การสร้างโปรแกรมบทเรียน หรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้อง มีภาคแบบฝึกหัด บททบทวนและคาถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่ม การสอนโดย ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยนี้ ถือว่าเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การ สอน ไม่ใช่เป็นครูผู้สอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียน แบบ Online ให้นักเรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ ประกอบการสอนในวิชาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสาขาคอมพิวเตอร์ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ วิชาสังคม วิชาชีพอื่น ๆ ฯลฯ โดยนักเรียนอาจคัดเลือกหัวข้อที่นักเรียนทั่วไปที่ทาความ เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาโปรแกรมบทเรียน ตัวอย่าง เช่น โปรแกรมสอนวิธีการใช้งาน ระบบสุริยะจักรวาล โปรแกรมแบบทดสอบวิชาต่าง ๆ รูปบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนวิชาเคมี อ้างอิงรูปจาก : http://namkwanmay.wordpress.com/2011/02/08/
  • 14. 2. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ (Tools Development) เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเรื่องมือมาใช้ช่วย สร้างงานประยุกต์ต่าง ๆ ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นใน รูปซอฟต์แวร์ ตัวอย่างของเครื่องมือช่วยงาน เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน ซอฟต์แวร์ ช่วยการมองวัตถุในมุมต่าง ๆ เป็นต้น สาหรับ ซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็น โปรแกรมประมวลผลภาษา ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้ เราใช้งานในงานพิมพ์ต่าง ๆ บนเครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นไปได้โดยง่าย ซึ่งรูปที่ได้สามารถนาไปใช้งาน ต่าง ๆ ได้มากมาย สาหรับซอฟต์แวร์ช่วยในการ มองวัตถุในมุมต่าง ๆ ใช้สาหรับช่วยในการ ออกแบบสิ่งของต่าง ๆ เช่น โปรแกรม ประเภท 3D รูปโปรแกรมออกแบบสถาปัตยกรรม อ้างอิงรูปจาก : http://tc.mengrai.ac.th/kruyuy/e- learning/project/unit1/01_2.html
  • 15. 3. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฏี (Theory Experiment) เป็นโครงงานใช้คอมพิวเตอร์ในการจาองการทดลองของสาขาต่าง ๆ เป็นโครงงานที่ ผู้ทาต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริงและแนวความคิดต่าง ๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่อง ที่ต้องการศึกษา แล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสมการ สูตร หรือคาอธิบายก็ได้ พร้อมทั้งนาเสนอวิธีการจาลองทฤษฎีด้วยคอมพิวเตอร์ การทาโครงงาน ประเภทนี้มีจุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมีความรู้เรื่องนั้น ๆ เป็นอย่างดี ตัวอย่าง เช่น การทดลอง เรื่องการไหลของเหลว การทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลาอโรวาน่า ทฤษฎีการแบ่งแยกดีเอ็นเอ เป็นต้น รูป โปรแกรมจาลองการเกิดคลื่นซึนามิ อ้างอิงรูปจาก : http://tc.mengrai.ac.th/kruyuy/e- learning/project/unit1/01_2.html
  • 16. 4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน (Application) เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างผลงาน เพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจาวัน เช่น ซอฟต์แวร์สาหรับ การออกแบบและตกแต่งอาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี ซอฟต์แวร์สาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานงาน ประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ ใช้สอยต่าง ๆ ซึ่งอาจจะสร้างใหม่หรือปรับปรุงดัดแปลงของเดิม ที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นก็ได้ โครงงานลักษณะนี้ จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อนแล้วนา ข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้น ๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทางานหรือทดสอบคุณภาพ ของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงาน ประเภทนี้นักเรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งอาจใช้ วิธีทางวิศวกรรมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในการพัฒนาด้วย รูป โปรแกรมจัดตารางสอน อ้างอิงรูปจาก : http://tc.mengrai.ac.th/kruyuy/e- learning/project/unit1/01_2.html
  • 17. 5. โครงงานพัฒนาเกม (Game Development) เป็นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อ ความรู้ และ/หรือ ความเพลิดเพลิน เช่น เกม หมากรุก เกมหมากฮอส เกมการคานวณเลข ซึ่ง เกมที่พัฒนาขึ้นนี้น่าจะเน้นให้เป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้สมองเพื่อฝึกคิดอย่างมีหลักการโครงงาน ประเภทนี้จะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์ การเล่น เพื่อให้น่าสนใจเก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ความรู้ สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะได้ทาการสารวจ และรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่าง ๆ ที่มีอยู่ทั่วไป และนามาปรับปรุงหรือพัฒนาขึ้นใหม่เพื่อให้เป็นเกม ที่แปลกใหม่และน่าสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่าง ๆ รูปโครงงานพัฒนาเกม อ้างอิงรูปจาก : http://tc.mengrai.ac.th/kruyuy/e- learning/project/unit1/01_2.html
  • 18.
  • 19.
  • 20. เป็นโครงงานทีใช้คอมพิวเตอร์ในการ ผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรม บทเรียน หรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมี ภาคแบบฝึกหัด บททบทวนและคาถามคาตอบ ไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคล หรือรายกลุ่ม การสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยนี้ ถือว่าเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ไม่ใช่เป็นครูผู้สอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนา บทเรียนแบบ Online ให้นักเรียนเข้ามาศึกษา ด้วยตนเองก็ได้
  • 21. โครงงานประเภทนี้สามารถ พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชา ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสาขาคอมพิวเตอร์ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ วิชา สังคม วิชาชีพอื่น ๆ ฯลฯ โดยนักเรียน อาจคัดเลือกหัวข้อที่นักเรียนทั่วไปที่ทา ความเข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการ พัฒนาโปรแกรมบทเรียน เช่น โปรแกรม สอนวิธีการใช้งาน ระบบสุริยะจักรวาล โปรแกรมแบบทดสอบวิชาต่าง ๆ
  • 22. ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ คือ เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิต สื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาค แบบฝึกหัด บททบทวน และคาถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคล หรือรายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การ สอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจ คัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ตัวอย่างโครงงาน เช่น การเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ ระบบสุริยจักรวาล ตัวแปรต่างๆ ที่มีผลต่อการชากิ่ง กุหลาบ หลักภาษาไทย และสถานที่สาคัญของประเทศไทย เป็นต้น
  • 23. เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษาโดยการสร้างโปรแกรม บทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และคาถามคาตอบ ไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วย สอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการ สอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อ การศึกษา เช่น การเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ ระบบสุริยจักรวาล หลักภาษาไทย และ สถานที่สาคัญของประเทศไทย โครงงานเกี่ยวกับการพัฒนาเว็บไซต์ วิถีชีวิตของคนไทยพวน โปรแกรม ดนตรีไทยแสนสนุก โปรแกรม ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต โปรแกรมสานวน ไทยพาสนุก โปรแกรมฝึกอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ โปรแกรมเรียนรู้คณิตศาสตร์
  • 24. ตัวอย่างโครงงาน 1. โปรแกรม ดนตรีไทยแสนสนุก 2. โปรแกรม ความหลากหลายสิ่งมีชีวิต
  • 26.
  • 27. ความหมาย • เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษาดดยการสร้างโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยการ เรียน ซึ่งอาจจะมีแบบฝึกหัด คาถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือกลุ่มการ สอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน ซึ่งอาจพัฒนาในรูปบทเรียนออนไลน์ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตัวเอง โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่ เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ตัวอย่างโครงงาน เช่น การเคลื่อนที่แบบโปรเจ็ก ไตล์ ระบบสุริยจักรวาล ตัวแปรต่างๆ ที่มีผลต่อการชากิ่งกุหลาบ หลักภาษาไทย และสถานที่สาคัญของ ประเทศไทย เป็นต้น • credit : http://kruoong.blogspot.com/2011/07/blog-post_25.html
  • 28. ตัวอย่าง 1. โครงงานพัฒนาเกม ชื่อโครงงานเกมพัฒนาการดานEQ สืบค้นตอได 2. โครงงานโปรแกรมการคนหาคาภาษาไทย 3. โครงงานโปรแกรมอานอักษรไทย 4. โครงงานโปรแกรมวาดภาพสามมิติ 5. โครงงานโปรแกรมเขาและถอดรหัสขอมูล 6. โครงงานโปรแกรมบีบอัดขอมูล 7. โครงงานโปรแกรมประมวลผลคาไทยบนระบบปฏิบัติการลีนุกซ 8. โครงงานโปรแกรมการออกแบบผังงาน 9. โครงงานพอรตแบบขนานของไทย 10. โครงงานการสงสัญญาณควบคุมอุปกรณอิเล็กทรอนิกส์ credit : http://www.rayongwit.ac.th/chanarat/EQPROJECT/main.html
  • 29.
  • 30. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการจาลองการทดลองของสาขาต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่ ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริงได้ เช่น การจุดระเบิด เป็นต้น และเป็นโครงงานที่ ผู้ทาต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ ต้องการศึกษาแล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสูตร สมการ หรือคาอธิบาย พร้อมทั้งารจาลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็นภาพ ภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตามสูตรหรือสมการนั้น ซึ่งจะทาให้ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น การทาโครงงานประเภทนี้มีจุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่างดี ตัวอย่างโครงงานจาลองทฤษฎี เช่น การทดลองเรื่องการไหลของของเหลว การทดลองเรื่อง พฤติกรรมของปลาปิรันย่า และการทดลองเรื่องการมองเห็นวัตถุแบบสามมิติ เป็นต้น
  • 31. ตัวอย่างโครงงาน เนื่องจากโครงงานประเภทนี้ ผู้ทาโครงงานจะต้องมีพื้นฐานความรู้ทางวิทยาศาสตร์เป็นอย่างดี และ ต้องทาการศึกษาค้นคว้าเรื่องราวที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างมาก จนมีความรู้อย่างกว้างขวาง และลึกซึ้งในเรื่องที่ เกี่ยวข้องดังนั้นจึงยังไม่เคยมีผู้ทาโครงงานวิทยาศาสตร์ประเภทนี้ส่งเข้าประกวดกับสมาคมวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีศึกษาไทยเลย ตัวอย่างโครงงานต่อไปนี้จึงมิได้เป็นโครงงานที่นักเรียนระดับมัธยมศึกษาเป็นผู้ทาไว้ - ทฤษฎีสัมพันธภาพ (E = mc2) - การอธิบายอวกาศแนวใหม่ - กาเนิดของทวีปและมหาสมุทร - การกาเนิดของแผ่นดินไหวในประเทศไทย - การอธิบายเรื่องราวการดารงชีวิตในอวกาศของมนุษย์ credit : http://pioneer.netserv.chula.ac.th/~cpornth1/Web_SciProject/a01.htm
  • 32.
  • 33. โครงงานประยุกต์ใช้งานเป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ สร้าง ผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจาวัน อาทิเช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการ ออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี และซอฟต์แวร์ สาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็นการคิดสร้างสิ่งของขึ้นใหม่ หรือ ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โครงงาน ลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่ ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการ ทางานหรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับ ปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้ผู้เรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษา โปรแกรม และเครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้องรวมทั้งอาจใช้วิธีทางวิศวกรรมฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ในการพัฒนาด้วย
  • 34. ตัวอย่าง 1. โปรแกรม สารบรรณสาเร็จรูป : Readymade Archivist 2. โปรแกรมระบบฐานข้อมูลทางการแพทย์เบื้องต้น 3. โปรแกรมระบบแฟ้มฐานข้อมูลผู้เรียน 2001 4. เครื่องรดน้าต้นไม้และให้อาหารปลาผ่านโทรศัพท์มือถือ 5. เครื่องให้อาหารไก่ไข่อัตโนมัติ 6. ระบบบริหารจัดการข้อมูลผู้เรียนของโรงเรียน 7. ระบบจัดการข้อมูลการเงินส่วนบุคคล
  • 35. 8. ระบบจองตั๋วรถไฟบนอินเทอร์เน็ต 9. ระบบแนะนาเส้นทางเดินรถประจาทาง 10. โปรแกรมสังเคราะห์เสียงสาหรับคนตาบอดบนรถประจาทาง 11. โปรแกรมออกและตรวจข้อสอบ 12. โฮมเพจส่วนบุคคล 13. โปรแกรมช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น 14. โปรแกรมพจนานุกรมไทย-อังกฤษ • credit : http://kruoong.blogspot.com/2011/07/blog- post_25.html
  • 36.
  • 37. การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ โครงงานพัฒนา เกม (Game Development) เป็น โครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้หรือ ความเพลิดเพลิน เช่น เกมหมากรุก เกมหมาก ฮอส เกมการคานวณเลข ซึ่งเกมที่พัฒนาขึ้นนี้ น่าจะเน้นให้เป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้ สมองเพื่อฝึกคิดอย่างมีหลักการ โครงงาน ประเภทนี้จะมีการออกแบบลักษณะและ กฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้น่าสนใจเก่ผู้เล่นพร้อม ทั้งให้ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะ ได้ทาการสารวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกม ต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วไปและนามาปรับปรุงหรือ พัฒนาขึ้นใหม่เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่และ น่าสนใจแก่ผู้เล่นเกมต่างๆ
  • 38. โครงงานพัฒนาเกม เพื่อความรู้ ความ เพลิดเพลิน เช่น เกมหมารุก โปรแกรม ต่อให้ เพิ่ม เติมให้เต็ม (Magic Puzzle) โปรแกรม เกมผู้รอดชีวิต โปรแกรม เกมทศกัณฑ์ เกมทายคาศัพท์ และเกมการ คานวณเลข เป็นต้น ซึ่งเกมที่พัฒนาขึ้นนี้น่าจะ เน้นให้เป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้สมองเพื่อฝึก ความคิดอย่างมีหลักการ โครงงานประเภทนี้จะมี การออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้น่าสนใจแก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ความรู้ สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะได้ทาการ สารวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่างๆ ที่มี อยู่ทั่วไป และนามาปรับปรุงหรือพัฒนาขึ้นใหม่ เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่ และน่าสนใจแก่ผู้เล่น กลุ่มต่างๆ
  • 39. ตัวอย่างโครงงาน • โครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้หรือ ความเพลิดเพลิน • โปรแกรมประยุกต์ธนาคารความดี • โปรแกรมสร้างโมเดลสามมิติจากการวาดอย่างง่าย (CPS’ketchuu) • เกมหมากรุก เกมหมากฮอส • เกมการคานวณเลข
  • 40. credit : • http://kruoong.blogspot.com/2011/07/blog-post_25.html • http://conandoii.blogspot.com/2012/09/8.html