More Related Content More from Pannathat Champakul More from Pannathat Champakul (20) 8 21. 8.2 ชนิดของโครงสร้างแบ่งออกเป็น3ชนิดคือ
8.2.1 โครงหลังคา (Roof Truss)
8.2.2 โครงสะพาน (Bridge Truss)
8.2.3 เสา และคาน (Column and Beam)
8.2.1 โครงหลังคา (Roof Truss) มีประโยชน์คือใช้ในการรับน้าหนักอุปกรณ์มุงหลังคา เช่น กระเบื้อง สังกะสี แป
วัสดุกันความร้อน ฝ้าเพดาน และน้าหนักของโครงหลังคาสามารถแบ่ง
ออกเป็นหลายชนิด เช่น
- Cambered
- Crescent
- Cantilever
- Howe
- Bow string
- Fan Fink
- Warren
- Pratt
- Grandstand
- Fink
- Compound Fink
- Grambrel
- Three Hinged Arch
- Grandstand
- Tranverse Bent
- Truss with moniter
โครงหลังคาแบบต่างๆที่ใช้กับอาคารบ้านเรือนและโรงงานอุตสาหกรรมสามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
-โครงหลังคาแบบชัน(Pitched Truss) เหมาะสาหรับใช้กับอาคารพักอาศัย เช่นแบบ Pratt , Howe , Fink , Bow strink
-โครงหลังคาแบบแบน(Flat Truss)เป็นโครงแบบกว้างเหมาะสาหรับโครงหลังคาโรงงานอุตสาหกรรม เช่น แบบ ตัว
W (Platt)และ ตัว M (Howe) แบบฟันปลา(Warren- Howe) ดังรูป
2. รูปที่ 8.4 แสดงภาพโครงหลังคา(R00f Truss)แบบต่างๆ
รูปที่ 8.5 แสดงภาพโครงหลังคา (R00f Truss) แบบต่างๆ
โครงหลังคาแบบโครงชันแบบ Patt และแบบ Howe ในการเขียนแบบจะแบ่งส่วนช่วงย่อยในแนวดิ่งให้มีขนาดความ
กว้างเท่ากัน
แบบ Fink เหมาะสาหรับโครงหลังคาที่มีความสูงมากต้องแบ่งช่วงย่อยเท่าๆกันที่จันทันแล้วลากเส้นตั้งฉากออกไปพบ
กับขื่อ
แบบBow strink สาหรับอาคารที่ต้องการให้หลังคามีส่วนโค้งการเขียนแบบต้องแบ่งส่วนย่อยในแนวดิ่งให้มีขนาด
เท่าๆกัน
4. รูปที่ 8.8 แสดงภาพโครงหลังคา (R00f Truss)
8.2.2โครงสะพาน (Bridge Truss) เป็นโครงสร้างที่รับน้าหนักของโครงสะพานเอง คาน พื้นสะพาน และน้าหนักของ
ยานพาหนะสามารถแบ่งออกเป็นหลายชนิดคือ
- Whipple
- K-Truss
- Warren
- Howe
- Pratt
- Warren with Vertical
- Parker
- Baltimore
- Pettit
- Sub-devided warren
โครงสร้างสะพานส่วนมากจะเป็นแบบแบนมีความยาวและรับน้าหนักมากในการเขียนแบบของโครงสร้างสะพานจะต้อง
แบ่งส่วนย่อยในแนวตั้งออกเป็นส่วนๆเท่าๆกันแล้วประกอบด้วยโครงถักเพื่อให้เกิดความแข็งแรงดังรูป
5. รูปที่ 8.9 แสดงภาพโครงสะพาน (Bridge Truss)
การเขียนแบบโครงสร้างสะพานแบบ Howe , Pratt , Warren จะมีโครงสร้างด้านบนและด้านล่างในแนวนอนขนานกันส่วน
โครงถักย่อยในแนวตั้งจะต้องแบ่งออกเป็นส่วนๆเท่าๆกันซึ่งลักษณะจะเป็นตัว M และตัว W ดังรูป
6. รูปที่ 8.10 แสดงภาพโครงสะพาน (Bridge Truss)
การเขียนแบบโครงสร้างสะพานแบบ Parker , Pettit จะมีโครงสร้างคานบนและคานล่างไม่ขนานกันจะเป็นลักษณะ
โดมส่วนประกอบย่อยในแนวดิ่งจะต้องแบ่งออกเป็นส่วนๆเท่าๆกันดังรูป
7. รูปที่ 8.11 แสดงภาพโครงสะพาน (Bridge Truss)
8.2.3 เสา (Column) เป็นโครงสร้างที่รองรับนาหนักโครงสร้างอื่นๆที่ใช้งานร่มกัน โดยเสาจะรับแรงอัดในแนวแกน
ซึ่งกระทาบริเวณส่วนปลายทั้งสองข้างของเสารูป (a) แสดงฐานของเสา รูป (b) แสดงการับแรงเค้นอัดของเสา รูป (c) แสดง
ส่วนประกอบของฐานเสา
8. รูปที่ 8.12 แสดงภาพการประกอบของฐานเสามาตรฐาน American standard beam
คาน (Beam) เป็นส่วนที่ทาหน้าที่รองรับน้าหนักแล้วถ่ายไปสู่เสาและช่วยยึดตรึงเสาทั้งหมดของโครงสร้างเข้า
ด้วยกัน เพื่อป้ องกันเสาเอียงการออกแบบคานต้องทนต่อโมเมนต์ดัดและแรงเฉือนการรับน้าหนักบรรทุกในแนวดิ่งคาน
ด้านบนจะถูกอัดส่วนด้านล่างจะถูกดึงคานมีหลายชนิด เช่น คานมีช่องเปิดในตัว คานโครงถัก และคานเหล็กประกอบ
รับแรงเค้นอัด
9. รูปที่ 8.13 แสดงภาพชิ้นส่วนของคานและเสามาตรฐาน American standard beam
คานเหล็กรูปพรรณสาเร็จรูปแบบตัว I ถูกออกแบบมาให้มีปีกทั้งสองด้านบนและด้านล่างสั้นกว่าตัวตั้งจึงเหมาะสาหรับ
ใช้ทาคานเพราะสามารถรับแรงกดจากทางด้านบนได้ดีคานรูปตัว H ถูกออกแบบให้มีปีกทั้งสองด้านเท่ากับตัวตั้งสามารถรับ
แรงกดจากทางด้านบนและรับแรงลมทางด้านข้างได้ดังรูป