5.
4
เริ่มต้นการใช้โปรแกรม CATIA
เปิดโปรแกรม CATIA หน้าต่างแรกที่เจอคือ Product Structure Workbench
หน้าต่างโปรแกรมเมื่อเปิดใช้งานครั้งแรก
เมื่อเปิดโปรแกรมมาแล้วเจอ Product Structure Workbench ให้ปิดหน้าต่างดังรูป
Compass
Geometry Axis
Workbench features
Specification tree
Menu bar
Tool bar Status bar
Workbench
6.
5
Specification tree ทําหน้าที่ในการเก็บขั้นตอนและประวัติข้อมูลการออกแบบ
Menu bar ส่วนคําสั่งที่ทําการออกแบบและแก้ไข
Toolbar สําหรับเก็บเครื่องมือพื้นฐาน Standard tool bar สําหรับการจัดการไฟล์เอกสาร มุมมอง
การแสดงผล
Geometry Axis แกนอ้างอิงหลักในการออกแบบ
การเลือกใช้งาน Workbench
เลือกเมนู Start จากนั้นจะปรากฏกลุ่มโปรแกรมของ CATIA เช่นต้องการเรียกใช้งาน Part
Design Workbench ซึ่งอยู่ในกลุ่มรายการโปรแกรม Mechanical Design โดยเลือก Start
Mechanical Design Part design จะปรากฏกล่องข้อความเพื่อกําหนดชื่อของแบบงานพร้อมทั้ง
เลือกรูปแบบของชิ้นส่วนออกแบบ จากนั้นเลือก OK โปรแกรมจะดึงเครื่องมือการทํางานและ
ส่วนเกี่ยวข้องกับการออกแบบชิ้นงานออกมา
Hybrid Design คือการออกแบบผสมผสานระหว่างการออกแบบทรงตัน (Solid) และการ
ออกแบบพื้นผิว (Surface)
7.
6
หน้าต่างการทํางานของ Part Design Workbench
Part Design Workbench
เมนูบาร์สามารถแยกออกได้สองแบบคือ Start Menu and Standard Menu
START MENU
Start menu จะรวมกลุ่มรายการโปรแกรมและ Workbench ทั้งหมดที่ได้ทําการติดตั้งดังรูป
ด้านล่าง จะแสดงรายการ Workbench ต่างๆที่อยู่ในกลุ่ม Mechanical Design
Default planes
Tool bar
Part design
Sketcher workbench
8.
7
STANDARD MENU
Standard Menu เป็นเมนูที่เก็บคําสั่งและเครื่องมือต่างๆของโปรแกรม ประกอบด้วยเมนู File,
Edit, View, Insert, Tools, Windows และ Help
รายการเมนูมาตรฐาน
9.
8
Menu File
NEW สร้างเอกสารใหม่ เอกสารนี้อาจป็นทั้ง Part Drawing analysis หรือ Product
NEW FROM เอกสารงานใหม่จากต้นแบบงานเดิม
OPEN เปิดเอกสาร
CLOSE ปิดเอกสารที่กําลังทําอยู่ในปัจจุบัน
SAVE บันทึกเอกสารปัจจุบันด้วยชื่อเดิม
SAVE AS บันทึกเอกสารการกําหนดชื่อใหม่
10.
9
SAVE ALL AS บันทึกเอกสารทั้งหมด
PRINT พิมพ์เอกสารปัจจุบัน
DESK ดูความสัมพันธ์ระหว่างเอกสาร
SENT TO ส่งข้อมูลไปยังอีเมลหรือไดเร็กทอรี่อื่น
MENU EDIT
รายการคําสั่งที่ใช้สําหรับการจัดการกับวัตถุ
เช่น การคัดลอก ค้นหา เคลื่อนย้าย เป็นต้น
Undo ยกเลิกคําสั่ง
Repeat ทําใหม่
Update ปรับปรุงเอกสารเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง
Cut ตัดวัตถุที่ได้เลือกจากเอกสาร
Copy คัดลอกวัตถุที่เลือกไว้
Paste วางวัตถุที่ได้เลือกก่อนหน้า
Delete ลบวัตถุที่เลือกไว้
Search ค้นหาวัตถุที่อยู่ในเอกสาร
Selection Set เพิ่มหรือลดวัตถุจากการเลือกกลุ่ม
Define Selection เลือกรูปทรงและเก็บไว้ในกลุ่มการเลือก
11.
10
Link จัดการแก้ไขเอกสารที่เชื่อมต่อกับระบบภายนอก
Properties แสดงและแก้ไขคุณสมบัติของการฟฟิก
Scan or Define in Work Object กําหนดวัตถุงานที่กระทําปัจจุบันและสามารถ SCAN ผ่าน Part
ได้
Menu View
เป็นรายการคําสั่งการปรับเปลี่ยนการแสดงผลของชิ้นส่วน
หรือผลิตภัณฑ์ เช่น การหมุน การขยาย การย้าย และสําหรับ
กําหนดเปิด/ปิดแถบเครื่องมือในรายการ Workbench
Toolbars สําหรับเปิด ปิด แถบเครื่องมือต่างๆ
Geometry สลับไปมาระหว่างการแสดงและซ่อนชิ้นส่วนออกแบบ
Specification กําหนดการแสดง/ซ่อน Specification tree
Compass กําหนดการแสดง/ซ่อน Compass
Reset Compass รีเซ็ต Compass เพื่อกลับสู่ตําแหน่งเดิม
Tree Expansion สําหรับยืด หรือ หด รายการ Specification Tree
Specification Overviews หน้าต่างสําหรับการขยายพื้นที่ของรูปทรง
Fit all in ขยายรูปทรงให้พอดีกับหน้าจอที่กําลังทําอยู่
Zoom Area ขายพื้นที่ที่กําหนดเลือก
Zoom IN Out ขยายหรือหดชิ้นส่วน
12.
11
Pan แสดงการเคลื่อนย้ายชิ้นงาน
Rotate แสดงการหมุนชิ้นงาน
Modify ใช้สําหรับปรับการแสดงมุมมองของรูปทรงในแต่ละมุมมอง
ซึ่งมีหลายรูปแบบสามารถทีจะย่อและขยาย กําหนดระนาบในการมอง และมองในแนวระนาบ
ตั้งฉาก เรียกว่า Normal View สามารถจําลองการหมุนของชิ้นส่วนด้วย Turn Head สามารถ
กําหนด Fly Through หรือ Turn Through ในการออกแบบได้ตัวเลือก Previous view Next view
จะแสดงมุมมองหน้าต่อไปตามที่กําหนดไว้และตัวเลือก Look At จะเป็นการกําหนดทิศทางของ
มุมมองที่ต้องการ
Name View เลือกมุมมองภาพ เช่น มุมด้านหน้า ด้านหลัง ด้านซ้าย เป็นต้น และสามารถเพิ่ม
มุมมองได้
Render Style แสดงการเรนดเอร์ชิ้นงานในแต่ละรูปแบบ สามารถกําหนดแบบของการเรนเดอร์
ด้วยตัวเลือก Customize View สามารถแสดงภาพในแต่ละ Perspective หรือแบบ Parallel ใน
โหมดของ Parallel จะแสดงขนาดจริงตามสเกลของชิ้นงาน ในโหมด Perspective พื้นที่ชิ้นส่วน
จะ Closer กับหน้าจอที่ใหญ่กว่าพื้นที่มองเห็น
Navigation Mode สลับไปมาระหว่างโหมด Examine Walk และ Fly
Lighting มุมมองการใช้แสงที่ตกกระทบ
Depth Effect ตัดรูปทรงแนวระนาบ
Ground แสดงระนาบระดับล่าง
Magnifier สร้างมุมมองของการขยายของชิ้นงานในหน้าต่างแสดงมุมมองขยาย
13.
12
Hide/Show ซ่อนหรือแสดงรูปทรง ซึ่งสลับระหว่างด้านของการซ่อนและการแสด
Full Screen แสดงรูปทรงแบบเต็มหน้าจอ จะไม่มีเมนูหรือทูลบาร์ ยกเลิกการใช้เมาท์ปุ่มขวา
Menu Insert
เป็นเมนูสําหรับการเพิ่มเติมชิ้นส่วน 3 มิติที่จะทําการ
ออกแบบ การกําหนดแกน การบังคับรูปทรงเรขาคณิต Constraints
และรวบรวมคําสั่งหรือเครื่องมือสําหรับการออกแบบตาม
ประเภทการใช้งาน ซึ่งประกอบด้วย
Object แทรกวัตถุ เช่น เอกสารกระดานคํานวณ
หรือเอกสารข้อความ
Body แทรกบอดี้ใหม่ในชิ้นส่วนที่ทําการออกแบบ
Geometrical set จัดเก็บและรวบรวมรายการการออกแบบ
ที่เกี่ยวกับรูปทรงเรขาคณิตทั้งหมด
Annotation แทรกคําอธิบายในชิ้นส่วน
Constraints แทรกการบังคับ Constraints
Sketcher เรียกใช้งาน Sketcher
Axis System กําหนดแกนใหม่ของระบบ
48.
47
การเชื่อมส่วนโค้งด้วย Connect
คือการสร้างเส้น Spline ที่เกิดจากการเชื่อมต่อเส้นระหว่าง 2 เส้น เส้น Spline ที่เกิดจากการเชื่อมต่อมี
รูปแบบที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับทิศทางและแนวสัมผัสระหว่างจุดเชื่อมต่อนั้นๆ เส้น Spline ที่เกิด
จากการเชื่อมต่อสามารถจําแนกออกเป็นสองกลุ่มหลักคือ
1.เชื่อมต่อเส้นสองเส้นด้วยส่วนโค้ง (connect with an arc)
2.เชื่อมต่อเส้นสองเส้นด้วย Spline (Connect with a spline) วิธีการนี้จะมีรูปแบบการกําเนิดเส้น
เชื่อมต่ออยู่สามวิธี คือ ความต่อเนื่องกับจุด (Continuity in point) ความต่อเนื่องในการสัมผัส
(Continuity in tangency) และความต่อเนื่องส่วนโค้ง (Continuity in Curvature)
Continuity in Curvature
Continuity in point
Continuity in tangency Connect with a spline
connect with an arc
49.
48
การเชื่อมต่อเส้นด้วยส่วนโค้ง (Connect with an Arc)
1.คลิกไอคอน จากแถบเครื่องมือ Spline จากนั้นคลิกตัวเลือก จากแถบเครื่องมือ Sketch
tools
2.จากรูปคลิกจุดปลายของเส้นโค้ง จุดที่1 และ 2
เลือกจุดปลายที่1 และ 2 การเชื่อมต่อเส้นด้วยส่วนโค้ง
การเชื่อมต่อด้วยส่วนโค้ง Spline connect
1.เลือกไอคอน Continuity in point จากนั้นเลือกจุดปลายเส้น ที่1 และ2 หรือเลือก in tangency
จากนั้นเลือกจุดปลายทั้งสอง ดังรูป
Continuity in point Continuity in tangency
56.
55
การสร้างมุมโค้ง Corner
การสร้างมุมโค้งจากเส้นสองเส้นมีอยู่หลายรูปแบบ เมื่อคลิกไอคอน จะปรากฎตัวเลือกรูปแบบ
ของการสร้างมุมโค้งที่แถบเครื่องมือ Sketch Tools
Trim all Elements สร้างมุมโดยการตัดอิลิเมนต์ทั้งสองแล้วเกิดมุม
Trim First Element ตัดอิลิเมนต์แรกที่เลือกแล้วสร้างมุมตามอิลิเมนต์แรก
No Trim สร้างมุมโดยไม่ตัดอิลิเมนต์ทั้งสอง
Construction Line No Trim สร้างมุมแล้วเปลี่ยนเป็นเส้นมาตรฐาน
Construction Line Trim สร้างมุมและเปลี่ยนอิลิเมนต์ทั้งสองเป็นเส้นโครงสร้าง
Standard Line Trim สร้างมุมเป็นเส้นโครงสร้างและเปลี่ยนอิลิเมนต์เป็นเส้น
โครงสร้างด้วย
Construction Line No Trim
Construction Line Trim
No Trim
Standard Line Trim
Trim First Element
Trim all Elements
57.
56
การใช้คําสั่ง Corner แบบต่างๆ
การสร้างมุมเหลี่ยม Chamfering
การสร้างมุมเหลี่ยมจากเส้นสองเส้นมีอยู่หลายรูปแบบ เมื่อคลิกไอคอน จะปรากฎตัวเลือก
รูปแบบของการสร้างมุมโค้งที่แถบเครื่องมือ Sketch tool
Trim First Element
Trim all Elements Standard Line Trim Construction Line Trim
Construction Line No TrimNo Trim
Standard Line Trim
No Trim Construction Lin No Trim
Trim first Elements Construction Line Trim
Trim all Elements
58.
57
เครื่องมือสําหรับการลบหรือตัดเส้น Relimitations
กลุ่มเครื่องมือสําหรับการลบหรือตัดเส้นประกอบด้วยเครื่องมือหลักๆ คือ เครื่องมือ Trim, Break,
Quick Trim, Close และ Complement ไอคอนและคําอธิบายของคําสั่งดังกล่าว
การใช้เครื่องมือ Trim
เป็นเครื่องมือในการลบเส้นที่ไม่ต้อวการออกในกรณีที่เส้นสองเส้นตัดกัน อย่างไรก็ตามหากเส้นทั้ง
สองไม่ตัดกัน เครื่องมือนี้สามารถยืดเส้นให้บรรจบกันได้เมื่อเรียกใช้งานเครื่องมือ Trim โดยคลิก
ไอคอน จะมีตัวเลือกย่อยสําหรับการลบเส้น คือ ลบทั้งมุมหลังจุดตัด และลบเฉพาะเส้นแรก
Trim all Elements
Standard Line Trim Construction Line Trim
No Trim Trim first Elements
Construction Line No Trim
Complement
Quick Trim
Break Close
Trim
59.
58
ขั้นตอนการใช้คําสั่ง Trim
1.คลิกไอคอน แถบเครื่องมือ Sketch tools จะแสดงไอคอนสองไอคอน Trim All Elements
และไอคอน Trim First Element
2.หากต้องการลบเส้นออกทั้งหมด คลิกเลือกไอคอน หรือหารต้องการลบเฉพาะเส้นแรกให้
เลือกคลิกไอคอน
การใช้เครื่องมือ Quick Trim
เป็นเครื่องมือลบเส้นที่ไม่ต้องการออกเช่นเดียวกับ Trim แต่ Quick Trim จะลดขั้นตอนออกโดยเลือก
เส้นที่ต้องการลบ ตัดเพียงเส้นเดียว เมื่อคลิกไอคอน จะปรากฎเครื่องมือย่อยสามแบบที่
เครื่องมือ Sketch Tools คือ Break and Rubber in เป็นการลบเส้นที่เลือกออก Break And
Rubber Out เป็นการเก็บเส้นที่เลือกไว้บนเส้นหลักจุดตัด และ Break And Keep เป็นการ
ตัดเส้นออกเป็นส่วนๆ
Trim All
Trim First
เลือกเส้นที่1
เลือกเส้นที่2
เลือกเส้นที่1
เลือกเส้นที่2
60.
59
การใช้งานเครื่องมือ Quick Trim
การใช้แถบคําสั่ง Transformation
เป็นคําสั่งช่วยเขียนแบบ เช่น ต้องการเขียนแบบงานที่ส่วนเหมือนกันเพิ่ม หรือต้องการหลายๆส่วน
หรือต้องการแบบงานที่โตกว่าแต่ลักษณะเหมือนของเดิม หรือต้องการก็อปปี้ เส้นโดยไม่ต้องมาวาด
เส้นใหม่ จะใช้คําสั่ง เช่น Mirror, Translate, Rotate, Scale, Offset
การใช้คําสั่ง Mirror
คือคําสั่งก็อปปี้ งานแบบกระจกเงา
1.เลือกเส้นหรือชิ้นงานที่ต้องการ Copy
Break and Rubber in Break and Rubber Out
Break And Keep
Offset Mirror
Symmetry
Translate
Rotate
Scale
69.
68
ตัวอย่างการใช้คําสั่ง ในการเขียนรูปทรงเรขาคณิต
ตัวอย่างที่1
1.New Part
‐sketch 2D โดยใช้ระนาบ Top Plane จากนั้นเลือกไอค่อน sketch
70.
69
2.เลือกระนาบ XY คลิกคําสั่ง Circle
‐สร้างวงกลม2วง
-ให้ขนาดด้วยคําสั่ง Constraint วงแรกเส้นผ่าศูนย์กลางเท่ากับ 16 mm.
-วงที่2เส้นผ่าศูนย์กลางเท่ากับ 32 mm.
3.คลิกคําสั่ง Line เขียนเส้นตรง2เส้นตั้งฉากกัน ความยาวเส้นละ 38 mm.
71.
70
4.เลือกคําสั่ง Offset และให้ขนาดเท่ากับ 4.5 mm. และเลือกเส้นตรงปิดส่วนหัวทั้ง2ด้าน
5.เลือกคําสั่ง Corner เพื่อลบมุมโค้งที่เส้นตรง รัศมีเท่ากับ 27 mm.
6.เลือกคําสั่ง Mirror เพื่อคัดลอกเส้นตรงและเส้นโค้งให้ตรงข้ามกัน
72.
71
ตัวอย่างงานที่2
1.Newpart
2.Sketch 2D โดยใช้ระนาบ Front Plane
3.สร้างวงกลมด้วยคําสั่ง Circle สร้างวงกลม 2 วงดังรูป
73.
72
4.คลิกคําสั่ง Circle เพื่อสร้างวงกลมขึ้นมาอีก 2 วง
-สร้างวงกลมที่ 3 ความโตเท่ากับ 44 mm. ห่างจากวงกลมที่1 เท่ากับ 178 mm.
-สร้างวงกลมที่ 4 ร่วมศูนย์กับวงกลมที่ 3 รัศมีเท่ากับ 50 mm.
5.ใช้คําสั่ง Line สร้างเส้นตรงแบบสัมผัสกับวงกลม 2 วงบนล่าง