More Related Content
Similar to การสร้างเสริมสมรรถภาพทางกาย
Similar to การสร้างเสริมสมรรถภาพทางกาย (15)
การสร้างเสริมสมรรถภาพทางกาย
- 2. ความหมายของสมรรถภาพทางกาย
คำว่ำ สมรรถภำพทำงกำย (Physical fitness) หมำยถึงภำพ
ควำมสำมำรถของร่ำงกำยในกำรประกอบกำรงำนหรือกิจกรรมทำงกำย
อย่ำงใดอย่ำงหนึ่งเป็นอย่ำงดีโดยไม่เหนื่อยเร็วสมรรถภำพทำงกำยเป็น
ส่วนสำคัญในกำรพัฒนำกำรทำงด้ำนร่ำงกำยของมนุษย์ สมรรถภำพทำง
กำยของบุคคลทั่วไปจะเกิดขึ้นได้จำกกำรเคลื่อนไหว ร่ำงกำยหรือออก
กำลังกำยอย่ำงสม่ำเสมอ แต่ถ้ำหยุดออกกำลังกำยหรือเคลื่อนไหวร่ำงกำย
น้อยลงเมื่อใดสมรรถภำพทำงกำยจะลดลงทันที
- 5. ผลต่อสุขภำพทำงร่ำงกำย
1.ระบบหัวใจเเละกำรไหลเวียนโลหิต - หัวใจมีขนำดใหญ่ขึ้น
ปริมำณกำรสูบฉีดโลหิตมีมำกขึ้น - กล้ำมเนื้อหัวใจมีควำมเเข็งเเรงมี
ประสิทธิภำพในกำรทำงำนมำกขึ้น - อัตรำกำรเต้นของหัวใจหรืออัตรำ
ชีพจรต่ำลง-หลอดเลือดมีควำมยืดหยุ่นตัวดี - ปริมำณของเม็ดเลือดและ
สำรฮีโมโกลบินเพิ่มมำกขึ้น
2.ระบบกำรหำยใจ - ทรวงอกขยำยใหญ่ขึ้น กล้ำมเนื้อที่ช่วยในกำร
หำยใจทำงำนดีขึ้น - ควำมจุปอดเพิ่มขึ้นเนื่องจำกปอดขยำยใหญ่ขึ้น กำร
ฟอกเลือดทำได้ดีขึ้น - อัตรำกำรหำยใจต่ำลงเนื่องจำกปอดมี
ประสิทธิภำพในกำรทำงำนมำกขึ้น
3. ระบบกล้ำมเนื้อ - กล้ำมเนื้อมีขนำดใหญ่ขึ้น เพรำะมีโปรตีนใน
กล้ำมเนื้อมำกขึ้นเส้นใยกล้ำมเนื้อโตขึ้น - กำรกระจำยของหลอดเลือด
ฝอยในกล้ำมเนื้อมำกขึ้นทำให้กล้ำมเนื้อสำมำรถทำงำนได้นำนหรือมี
ควำมทนทำนมำกขึ้น
4.ระบบประสำทกำรทำงำนเกิดดุลยภำพทำให้กำรปรับตัวของ
อวัยวะต่ำงๆ ทำได้เร็วกว่ำกำรรับรู้สิ่งเร้ำ กำรตอบสนองทำได้รวดเร็วและ
แม่นยำ
- 6. 5.ระบบต่อมไร้ท่อกำรทำงำนของต่อมที่ผลิตฮอร์โมน ซึ่งทำ
หน้ำที่ในกำรเคลื่อนไหวร่ำงกำยได้เป็นปกติ และมีประสิทธิภำพ เช่น
ต่อมไทรอยด์ ต่อมหมวกไต และต่อมในตับอ่อนเป็นต้น
6.ระบบต่อมอำหำรและกำรขับถ่ำยสำมำรถทำงำนได้อย่ำงมี
ประสิทธิภำพมำกขึ้นกำรผลิตพลังงำนและกำรขับถ่ำยของเสียเป็นไป
ได้ด้วยดี
7.รูปร่ำงทรวดทรงดีมีกำรทรงตัวดีบุคลิกภำพและอริยำบทใน
กำรเคลื่อนไหวสง่ำงำมเป็นที่ประทับใจเเก่ผู้พบเห็น
8.มีภูมิต้ำนทำนโรคสูงไม่มีกำรเจ็บป่วยง่ำยช่วยให้อำยุยืนยำว
9.มีสุขภำพจิตดีสำมำรถเผชิญกับสถำนกำรณ์ที่สร้ำงควำม
กดดันทำงอำรมณ์ได้ดีปรับตัวให้เข้ำกับผู้อื่นได้ดีมีควำมสดชื่นร่ำเริง
อยู่เสมอ
- 9. 1. ควำมแข็งแรงของกล้ำมเนื้อ (Muscular Strenght )
2. ควำมอดทน (Endurance) แบ่งออกเป็น 2 ด้ำน คือ
2.1 ควำมอดทนของกล้ำมเนื้อเฉพำะที่
2.2 ควำมอดทนของระบบไหลเวียนหำยใจ
3. ควำมเร็วของกล้ำมเนื้อและปฏิกิริยำตอบสนอง ( Speed and
Reaction time )
4. กล้ำมเนื้อมีพลังและอำนำจกำรบังคับตัวดี ( Muscular power )
5. ควำมยืดหยุ่นตัว ( Flexibility ) ของข้อต่อดี
6. มีควำมคล่องแคล่วว่องไว ( Argillite )
7. มีควำมสำมำรถในกำรทรงตัวดี ( Balance )ได้แก่
7.1 กำรทรงตัวขณะที่ร่ำงกำยอยู่กับที่
7.2 กำรทรงตัวขณะที่ร่ำงกำยเคลื่อนที่
8. กำรทำงำนประสำนกันดีระหว่ำงประสำทกับกล้ำมเนื้อ
( Neuromuscular Coordination )
- 12. ประเภทของสมรรถภาพทางกาย
กำรออกกำลังกำยแบบไอโซเมตริก ( Isometric exercise )
เป็นกำรออกกำลังกำยแบบเกร็งกล้ำมเนื้อ โดยไม่มีกำรเคลื่อนไหว
ส่วนใดๆของร่ำงกำย จะใช้วิธีกำรเกร็งกล้ำมเนื้อมัดที่ต้องกำรฝึก และผ่อน
แล้วเกร็งใหม่สลับกันไป หรือกำรออกแรงดึงวัตถุที่ไม่เคลื่อนไหว เช่น ดัน
กำแพง ดันวงกบประตู หรือดึงเก้ำอี้ที่เรำกำลังนั่งอยู่เป็นต้นซึ่งกำรทำแบบ
นี้จะช่วยให้กล้ำมเนื้อแข็งแรงได้ทำงหนึ่ง
- 13. กำรออกกำลังกำรแบบไอโซโทนิก ( Isotonic exercise )
เป็นกำรออกแรงโดยต่อสู้กับแรงต้ำนทำน โดยกล้ำมเนื้อมีกำรหด
คลำยตัวด้วย ซึ่งหมำยถึงมีกำรเคลื่อนไหวข้อต่อด้วย เช่น กำรยกของขึ้น
ลง กำรยกน้ำหนัก เป็นต้น
กำรออกกำลังกำยแบบไม่ใช้ออกซิเจน ( Anaerobic
exercise )
เป็นกำรออกกำลังกำยโดยใช้พลังงำนที่สะสมไว้ในกล้ำมเนื้อ ได้แก่
กำรทำงำนเบำๆ กำรวิ่งระยะสั้น กำรยกน้ำหนัก เป็นต้น
กำรออกกำลังกำยแบบไอโซคีเนติก ( Isokinetic exercise )
เป็นกำรออกกำลังกำยโดยให้ร่ำงกำยต่อสู้กับแรงต้ำนทำนด้วย
ควำมเร็วคงที่ นับว่ำเป็นกำรออกกำลังกำยแบบใหม่ ด้วยกำรประดิษฐ์
เครื่องมืออกกำลังกำยที่ทันสมัย หรืออำจจะมีกำรผนวกเข้ำกับเครื่อง
คอมพิวเตอร์ เช่นลู่กลที่ฝึกวิ่งสำมำรถกำหนดควำมเร็วในกำรเคลื่อนที่ได้
ฯลฯ
- 14. กำรออกกำลังกำยแบบใช้ออกซิเจน (Aerobic exercise)
มักจะเรียกทับศัพท์ว่ำ “ กำรออกกำลังกำยแบบแอโรบิก “ เป็น
กำรออกกำลังกำยที่ทำให้ร่ำงกำยเพิ่มพูนควำมสำมำรถสูงสุดในกำรรับ
ออกซิเยนทำให้ได้บริหำรหัวใจ และปอดเป็นเวลำนำนพอที่จะก่อให้เกิด
กำรเปลี่ยนแปลงที่เป็นประโยชน์เกิดขึ้นภำยในร่ำงกำยเป็นกำรออก
กำลังกำยที่มีกำรเคลื่อนไหวส่วนต่ำงๆของร่ำงกำยด้วยควำมเร็วระดับ
ปำนกลำงในระยะเวลำอย่ำงน้อย 10 นำทีขึ้นไป ร่ำงกำยจะหำยใจเอำ
ออกซิเจนเข้ำไปใช้ในกำรสร้ำงพลังงำนเพิ่มขึ้นกว่ำระดับปกติมำก ทำ
ให้ระบบหำยใจและระบบไหลเวียนของเลือดทำงำนมำกชั่วระยะหนึ่ง
ก่อให้เกิดควำมอดทนของระบบดังกล่ำวกำรออกกำลังกำยแบบแอโรบิก
ได้แก่ ว่ำยน้ำ วิ่ง ขี่จักรยำน เดินเร็ว เต้นแอโรบิก พำยเรือ กระโดดเชือก
วิ่งอยู่กับที่ และกำรเล่นกีฬำประเภทต่ำงๆ ฯลฯ
- 16. อัตรำกำรเต้นสูงสุดของหัวใจ = 220 – อำยุ
ในกำรฝึกแบบแอโรบิกนั้น จะต้องให้อัตรำกำรเต้นของหัวใจอยู่ระหว่ำง
70-85 เปอร์เซ็นต์ ของอัตราเต้นสูงสุด ระยะเวลาระหว่าง 15-60
นาที
ตัวอย่ำงเช่น นักศึกษำชำยอำยุ 20 ปี
อัตรำเต้นสูงสุดของหัวใจ = 200 ครั้ง/นำที
ชีพจรเป้ำหมำย คิดสูงสุด (90%) = 180 ครั้ง/นำที
ชีพจรในกำรฝึกแบบแอโรบิก = 153 ครั้ง/นำที
- 17. 3. ระยะเวลำของกำรฝึก กำรออกกำลังกำย ที่มีควำมเข้มสูงควร
ใช้เวลำระหว่ำง 15-60 นำที จะเป็นกำรเสริมสร้ำงสมรรถภำพได้ดี
ส่วนกำรออกกำลังกำยที่มีควำมเข้มต่ำแม้จะใช้เวลำในกำรฝึกนำนๆก็
ตำม อำจจะเหมำะสำหรับกำรออกกำลังกำยเพื่อสุขภำพมำกกว่ำ
4. แบบของกำรออกกำลังกำย โดยทั่วไปแบบของกำรออกกำลัง
กำยจะเป็นกำรใช้กล้ำมเนื้อใหญ่ ควำมต่อเนื่องของกิจกรรม ควำมเป็น
จังหวะและใช้ออกซิเจนแบบธรรมชำติกิจกรรมที่ส่งเสริมในลักษณะ
ดังกล่ำว ได้แก่ - วิ่งเร็วสลับวิ่งเหยำะ - พำยเรือ - วิ่งธรรมดำสลับเดิน
เร็ว - วิ่งทำงไกล - ว่ำยน้ำ - กระโดดเชือก - จักรยำน - ก้ำวขึ้นลงบน
ม้ำนั่ง
นอกจำกนั้น อำจจะใช้กิจกรรมกีฬำอื่นๆก็ได้เช่น เทนนิส
แบดมินตัน แฮนด์บอล ฟุตบอล บำสเกตบอล วอลเลย์บอล ยิมนำสติก
เป็นต้น