More Related Content
Similar to ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน (20)
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
- 1. ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ประเภทของโครงงาน
1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษาโดยการสร้าง
โปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และคาถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียน
สามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุ ปกรณ์การ
สอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงานประเภทนี้สามารถ
พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนา
สื่อเพื่อการศึกษา อีกทั้งยังสามารถนาไปประยุ กต์ใช้ได้กับทุกกลุ่มสาระ เช่น วิชาวิทยาศาสตร์ เรื่องวิวัฒนาการ เรา
อาจทาการออกแบบสื่อนี้ให้มีความน่าสนใจมีลูกเล่นแปลกใหม่ ทาให้ผู้อ่านได้รับความรู้และง่ายต่อการจดจามากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างโครงงาน เช่น ระบบสุริยะจักรวาล ตัวแปรต่างๆ ที่มีผลต่อการชากิ่งกุหลาบ หลักภาษาไทย และสถานที่
สาคัญของประเทศไทย เป็นต้น
2. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ เป็นโครงงานที่สร้างเครื่องมือ ใช้สร้างงาน ส่วนใหญ่จะอยู่ ในรูปของซอฟต์แวร์
เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน และซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ เป็นต้น การผลิตโครงงาน
ประเภทนี้สามารถเพิ่มความสะดวกสบายในการสร้างผลงานที่จาเป็นต้องอาศัยความละเอียด สะดวก และรวดเร็ว
แม่นยา เช่น โปรแกรมสร้างรูปทรงหลายมิติที่สามารถนาไปประยุกต์ใช้ได้กับวิชาคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ ซึ่งโปรแกรม
นี้จะช่วยให้เกิดความสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ผู้ใช้งานต้องกาหนดสเกลและรูปทรงที่ต้องการจากนั้นโปรแกรมก็
จะประมวลผลและสร้างรูปทรงออกมา เป็นต้น
- 2. 3. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการจาลองการทดลองของสาขาต่างๆ
ซึ่งเป็นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริงได้ เช่น การจุดระเบิด เป็นต้น และเป็นโครงงานที่ผู้ทาต้องศึกษา
รวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องการศึกษาแล้วเสนอเป็นแนวคิด
แบบจาลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสูตร สมการ หรือคาอธิบาย พร้อมทั้ง การจาลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ให้
ออกมาเป็นภาพ ภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตามสูตรหรือสมการนั้น ซึ่งจะทาให้ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น การทา
โครงงานประเภทนี้มีจุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมีความรู้ในเรื่องนั้ นๆ เป็นอย่างดี ตัวอย่างโครงงานจาลองทฤษฎี เช่น การ
ทดลองเรื่องการไหลของของเหลว การทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลาปิรันย่า และการทดลองเรื่องการมองเห็นวัตถุ
แบบสามมิติ เป็นต้น
4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานในชีวิตประจาวันอาทิเช่ น ซอฟต์แวร์
สาหรับการออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี และซอฟต์แวร์สาหรับการระบุคนร้าย
เป็นต้น โครงงานประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็นการคิดสร้าง
สิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษา
และวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้นๆ ซึ่งล้วน
แล้วแต่มีประโยชน์ต่อการจัดการงานต่าง ๆ ในชีวิตประจาวันตามลักษณะของซอฟแวร์และการนาไปใช้ งาน
- 3. 5. โครงงานพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ เพื่อความรู้ ความเพลิดเพลิน เช่นการสร้างเกมต่าง ๆ ที่จะทาให้ผู้เล่น
ได้รับทั้งความรู้และความสนุกสนานจากเกม ไม่ว่าจะเป็นเกมทายศัพท์ เกมจับคู่ เกมฝึกสมองพัฒนาอีคิว ซึ่งเกม
เหล่านี้ล้วนมาจากการประยุกต์ใช้ความรู้จากโครงงานหลายประเภท จนสามารถนามาพัฒนาเป็นเกมซึ่งสร้างสรรค์
ออกมาเพื่อให้ผู้เล่นได้รับทั้งความรู้และความสนุกสนานไปพร้อม ๆ กัน
ที่มาของข้อมูล : http://findingfind.blogspot.com/2012/07/3_23.html (สืบค้นวันที่ 14/08/2555)